สิ่งที่คืบคลานใกล้เข้ามานั้นคืองูเหลือมขนาดใหญ่ที่สามารถกินวัวได้ทั้งตัว มันเห็นเหยื่อทั้งสามเล่น
น้ำตั้งแต่ไกลด้วยความหิวที่ไม่มีเหยื่อผ่านมานาน มันจึงไม่ลังเลยอมพลาดโอกาสที่ได้เหยื่อชิ้นงาม
มันจึงเลื้อยใต้น้ำอย่างช้าๆตาจ้องไปที่เป้าหมายมันเลือกเหยื่อที่ใกล้ที่สุดรอจังหวะและโอกาส ใกล้
เข้ามา ใกล้เข้ามา ผลุบ ตูม มันโผล่หัวจากผิวน้ำอ้าปากอันกว้างใหญ่หมายจะกลืนกินทั้งตัวพุ่งเข้า
เป้าหมาย "พลอย"เสียงตะโกนอย่างตกใจดังมาจากมุขหงส์ "กรี๊ด....................." ก่อนหัวงูจะถึงตัว
พลอย ก็ต้องชะงักอ้าปากค้างอย่างนั้นลิ้นของมันแลบแผลบๆไปที่ร่างของพลอย ปรากฎมีพลัง
สายนึงรั้งตัวมันเอาไว้มันหันหัวไปเห็นมนุษย์ชายคนหนึ่งกอดคอมันดึงรั้งทำให้มันพลาดเหยื่ออัน
โอชะด้วยความโมโหบวกกับความหิวมันจึงมีความดุร้ายเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ มันวกกลับไปจู่โจม
มนุษย์ผู้นั้นก็คือบ่อเมี้ยนั้นเองทันทีที่ได้ยินเสียงร้องโดยไม่ต้องหันไปมองบ่อเมี้ยใช้ท่าร่างวิชาตัว
เบาสูงสุดในแผ่นดินพุ่งตัวคว้าหัวงูได้อย่างฉิวเฉียด งูยักษ์พุ่งตัวอ้าปากเขี้ยวแหลมคมหมายกัดตัว
บ่อเมี้ย บ่อเมี้ยเองปล่อยจากคออ้าแขนจับปากล่างและบนของงูยักษ์ไว้ งูยักษ์จึงใช้หางของมันพัน
รอบตัวของบ่อเมี้ยหมายให้กระดูกแหลกราญจะได้ย่อยง่าย บ่อเมี้ยเกร็งกำลังลมปราณทั่วร่าง เพื่อ
รองรับการกดกระแทกนับพันชั่ง งูยักษ์เมื่อพันรอบตัวบ่อเมี้ยได้แล้วก็หมุนตัวหมายจะกดเหยื่อให้
จมน้ำเมื่อบ่อเมี้ยจมน้ำก็ดึงหัวงูให้จมด้วยจึงกลายเป็นหมุนเป็นวงเสียงตูม ตูม จากแรงกระแทกของ
น้ำ น้ำทะเลสาบสั่นหวั่นไหวด้วยพลังแห่งงูยักษ์กับสุดยอดวิทยายุทธ์แห่งแผ่นดิน ทั้งคู่จมหายไปใน
ผืนน้ำ ระลอกน้ำกระเพื่อมอย่างรุนแรงปานคลื่นซัด กลับเงียบสงบลงดั่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สามสาวเมื่อขึ้นจากน้ำก็มองการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และอสรพิษอย่างใจจดใจจ่อ ในใจทั้ง
ตื่นกลัว ทั้งยินดี ทั้งประทับใจ หลากหลายปะปนกันไป และยิ่งวิตก ต่างร่ำร้อง พี่ใหญ่ กอ กอ กัน
ระงมและเมื่อทะเลสาบกลับคืนสู่ความเงียบสงบทั้งสามสาวก็เอาแต่ร้องไห้ พลอยยังตัวสั่นเทาอยู่ใน
อ้อมกอดของไพลิน ที่ไม่กี่วินาทีที่พญามัจจุราชจะเอื้อมมือคว้าตัวนางไว้ก็ได้รับความช่วยเหลือทำ
ให้รอดตายกลับมาแต่ผู้ที่ช่วยเหลือนาง นางกลับไม่มีวันได้พบหน้าอีก ไพลินสมเป็นแฝดความรู้สึก
ของพลอยรู้สึกอย่างไรไพลินเองก็รู้สึกอย่างนั้นทั้งสองกอดกันร้องไห้ระงม ส่วนมุกหงส์นอกจาก
น้ำตาที่หลั่งออกมาไม่ขาดสายหาได้มีเสียงใดๆเลดลอดออกมาไม่ปากเม้มสนิทริมฝีปากมีรอยเลือด
จากการถูกกัดไหลซึมออกมา ทั้งสามยืนนิ่งไม่ไหวติง เวลาที่ผ่านไปพวกนางรู้สึกมันยาวนาน
เหลือเกิน มีลมพัดกระทบร่างพวกนางจนชายผ้าปลิวพวกนางหาได้สนใจต่อความหนาวเย็นของสาย
ลมไม่ "พลอยไพลิน พวกเราเก็บของเตรียมเดินทาง" มุกหงส์บอกน้องๆด้วยน้ำเสียงเย็นชา "แต่เจ้
เจ้ กอกอ บ่อเมี้ย คะ เค้า.....) ไพลินประท้วงออกมาโดยมีพลอยมองที่มุกหงส์อย่างไม่เข้าใจ "คนที่
ตายเราจะจำเก็บไว้ในดวงใจ แต่อย่าลืมเรามีภาระที่ต้องทำมิฉะนั้นคนอีกหลายสิบชีวิตที่ต้องตาย
หรืออีกหลายร้อยครอบครัวต้องเดือดร้อนเจ้าจะยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นหรือ" มุกหงส์ยังคงตอบด้วย
น้ำเสียงเย็นชากว่าลมที่กระโชกพัดมา "แต่ว่า............" พลอยกล่าวแต่ก็ทราบสถานะของตัวเองจึง
ไม่ได้กล่าวต่ออะไร "พลอย เจ้าคิดว่าพี่ไม่รู้สึกอะไรหรือ ตลอดเส้นทางที่ผ่านมาเราสูญเสียไป
เท่าไรมากันห้าสิบเหลือเพียงสาม และพี่เองก็ไม่รู้ว่ากว่าจะไปถึงพวกเราจะเจออะไรอีก แต่เพื่อ
ครอบครัว เพื่อญาติพี่น้อง เพื่อเมืองของเราพวกเราได้แต่ก้มหน้ารับมันฟ้าสร้างอุปสรรคเพื่อ
ทดสอบถ้าเรายอมแพ้ผลตอบแทนจะยิ่งเจ็บปวดกว่านี้อีกหลายเท่านัก" มุกหงส์พูดน้ำเสียงอ่อนโยน
พร้อมลูบหัวไปที่น้องฝาแฝดอย่างแผ่วเบาสองพี่น้องฝาแฝดได้แต่เข้าหาซบอกมุกหงส์ร่ำไห้
ในขณะที่ทั้งสามกอดกันร่ำไห้อยู่นั้นทางทะเลสาบที่เงียบสงบกับปั่นป่วนหมุนเป็นวงขึ้นมาเสียง
คลื่นของทะเลสาบที่กระทบฝั่งรุนแรงจนสามสาวต้องเงยหน้าขึ้นมาดู "เจ้เจ้ดูนั้น"เสียงของพลอย
เรียกให้พี่น้องมาดูซึ่งไม่ต้องเรียกพวกนางก็ดูอยู่แล้ว เสียงตูม ตูม จากบางสิ่งบางอย่างในทะเลสาบ
สิ่งที่โผล่พรวดออกมาคืองูยักษ์ ทั้งสามนางได้แต่ร้องกรี๊ด ถอยหลัง ไพลินล้มลงถอยไม่ทัน งูยักษ์
ส่ายหัวไปมาอ้าปากกว้างพุ่งตรงมาจะงับไพลิน ก่อนจะถึงตัวไพลินไม่เกินหนึ่งเชี่ยะหัวงูกลับถอย
ไปส่ายคอร้องเสียงก๊าซดังลั่น ลำตัวของงูยักษ์บวมเหมือนมีสิ่งหนึ่งอยู่ภายในแล้วกระแทกออกมา
หนึ่งรอยสองรอย........ลำตัวงูเริ่มพองตัวเรื่อยๆ จนกระทั่ง................ตูม ตูม ตูม ร่างงูยักษ์กระจัด
กระจายเป็นชิ้นส่วน เลือดงูกระจายเต็มจนเป็นควันสีเลือด หลังจากควันสีเลือดจางไปภาพที่ปรากฏ
ชายผู้หนึ่งร่างกายแดงฉานไปทั้งตัวยืนอยู่บนผิวน้ำ จากนั้นก็ล้มหงายฟาดพื้นน้ำดูเหมือนไร้สติไป
พลอยเห็นชัดว่าชายร่างแดงที่ระเบิดมาจากท้องงูนั้นเป็นใครรีบกระโจนลงน้ำว่ายไปหาร่างที่ไร้สติ
ทันที ไพลินตั้งสติได้ก็รีบโดดไปช่วยพลอยอีกคนจึงช่วยกันหามร่างที่ไร้สติขึ้นมาจากน้ำ บ่อเมี้ย
นั้นเอง มุกหงส์ก็หาฟืนมาก่อไฟ และเช็ดหน้าตาบ่อเมี้ย "พลอย ไพลิน ทำไมหน้าตากอกอถึงแดง
อย่างนี้ล่ะ พลอยถอดเสื้อ กอกอ ออกเร็ว" พลอยไพลินก็ถอดเสื้อของบ่อเมี้ยออกปรากฏว่าผิวที่ดูอม
ชมพูตลอดทั้งร่างบัดนี้มันเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด "เจ้เจ้ทำไมกอกอเป็นแบบนี้ล่ะ" พลอยถาม "อาจเป็น
เพราะกอกอใช้พลังยุทธ์เกินกำลังตนมั้งจึงทำให้เลือดเดินไม่สะดวก" มุกหงส์ตอบคำถามน้องสาว
"แล้วนี่จะทำยังไงล่ะ"ไพลินถามอีกคน "คนที่จะตอบได้ตอนนี้นอนอยู่ตรงนี้ต้องรอให้เขาฟื้นมา
ก่อน ตอนนี้เรามาเปลี่ยนชุดก่อนเถอะชุดเปียกจะทำให้ไม่สบายอีกคน" ทั้งสามก็เปลี่ยนชุดไพลินก็
ถามขึ้นว่า เจ้เจ้ กอกอก็ต้องเปลี่ยนชุดเหมือนกันนาแต่ชุดของกอกอตกเขาไปหมดแล้วจะทำอย่างไง
ดี" "เอาผ้ามาขึงก่อกองไฟภายในใกล้กอกออีกกองคงช่วยขับไล่ความหนาวเย็นไปได้" "เจ้เจ้เรื่อง
นี้ข้าพเจ้าจัดการจะดูแลกอกอเอง" "พลอย" "เจ้มุกน้องไพลินชีวิตของข้าพเจ้าตั้งแต่บนเขาถึง
ทะเลสาบล้วนเป็นเขาคืนชีวิตให้แก่ข้าพเจ้าเพราะฉะนั้นเรื่องแค่นี้ทำไมข้าพเจ้าจะทำไม่ได้" "งั้นก็
พวกเราช่วยกันทำไม่ดีกว่าเหรอ" "ขอบใจไพลินเรารู้ท่านคิดยังไงและท่านก็รู้ว่าเราคิดยังไงแต่
หน้าที่คืนนี้เป็นเราเถอะนะ" "ตามใจพลอยเถอะ"จากนั้นสามสาวก็ช่วยกันขึงผ้ากั้นพลอยก็เข้าไป
ก่อกองไฟเพื่มอีกกองจึงนำเสื้อของบ่อเมี้ยมาตากจากนั้นก็หันมาทางบ่อเมี้ยที่ยังมีกางเกงเปียกสวม
ใส่อยู่พลอยอดหน้าที่จะแดงไม่ได้จึงดึงกางเกงจากทางปลายเท้าแต่มันติดบางอย่างจึงไปที่ขอบ
กางเกงตรงหน้าท้องค่อยๆยกกางเกงขายาวออกเผยเห็นกางเกงขาสั้นที่ใส่อยู่ภายในมีอะไรบางอย่าง
นูนค้ำออกมาพลอยคิดในใจช่วยชีวิตห้ามคิดมาก จึงกลั้นใจถอดกางเกงตัวนั้นออกเผยอะไร
บางอย่างที่ในชีวิตพลอยที่อยู่แต่ในห้องหอมีพี่เลี้ยงมากมายไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งนั้น มันนอนสงบ
ตั้งตรงส่วนหัวหยัก ทั้งลำเป็นสีขาว ปลายโคนมีแพรไหมปกปิดมีบางอย่างเป็นลูกอยู่ปลายโคน
พลอยเองก็ไม่เข้าใจว่าแค่เห็นทำไมหัวใจเต้นแรงกลืนน้ำลายลำบากเช่นนี้ รีบรวบรวมสตินำผ้าเช็ด
น้ำทำความสะอาดคราบเลือดงูที่ยังมีติดตัวอยู่เรื่มจากใบหน้าแขนลำตัว เอ่อ....ไปที่ขาก่อนเริ่มจาก
ขาซ้ายเข่าน่องเรื่อยขึ้นมาเอ่อ.... ไปที่ขาขวาเริ่มจากข้อเท้าเรื่อยมาจนถึงน่องจนเอ่อ .... เช็ดด้านหลัง
จับบ่อเมี้ยคว่ำแต่กลัวบ่อเมี้ยจะเปื้อนนางจึงคว่ำตัวบ่อเมี้ยมาที่ตัวนาง ผลปรากฏหน้าของบ่อเมี้ยอยู่
ตรงระหว่างขาของนางพอดี หน้านางแดงคิดในใจดีนะที่พวกเจ้ไม่เห็น ไม่งั้นไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้
ไหน นางก็เช็ดด้านหลังจนทั่ว พลิกร่างบ่อเมี้ยให้หงายอีกครั้ง คราวนี้พลอยค่อยใช้ผ้าเช็ดทั้งลำแบบ
ลูบ จากนั้นนางใช้มือซ้ายจับแท่งหยกตั้งขึ้นใช้ผ้าเช็ดไปรอบๆส่วนหัวนั้นมือซ้ายคอยพลิกแท่งหยก
ไปมา ความรู้สึกของนางอาจรู้สึกไปเองแต่แท่งหยกมันขยายใหญ่และแข็งขึ้น แต่นางได้ยินเสียง
บ่อเมี้ยเบาๆ ครางฮือ ออกมา นี่อาจเป็นการค้นพบที่จะทำให้บ่อเมี้ยฟื้นตัวก็เป็นได้นางใช้มือซ้ายจับ
ผ้าเช็ดไปที่ลูกกลมตรงโคนแท่งหยกการจับด้วยมือซ้ายมันลื่นทำให้รูดลงส่งผลให้หัวหยกโผล่บาน
ใหญ่ พลอยกลัวบ่อเมี้ยเจ็บจึงรูดขึ้นไป ฮือ เสียงครางของบ่อเมี้ยดังเบาพอให้พลอยได้ยินคนเดียว
ทำให้พลอยรู้วิธีที่จะทำให้บ่อเมี้ยตื่นแม้อาจเป็นการเจ็บซะหน่อยก็ตามพลอยจึงเปลี่ยนไปจับแท่ง
หยกด้วยมือขวาพอหลวมไม่แน่นมากนักแล้วค่อยรูดขึ้นรูดลงอย่างช้า มือซ้ายจับที่ลูกกลมอย่างแผ่ว
เบาเจ้าแท่งหยกก็ผงกเหมือนสู้มือนางรูดเข้ารูดออกจนรู้สึกว่ามีน้ำอะไรบางอย่างซึมออกมาใสๆแต่
บ่อเมี้ยก็ยังไม่รู้สึกตัวพลอยจึงลงมือหนักขึ้นรูดขึ้นรูดลงอย่างมีจังหวะและเร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้น
บ่อเมี้ยตัวงอแต่ตายังไม่ลืมปากร้องอะ อะ อะ ออกมาพอให้พลอยได้ยิน พลอยยิ้มคิดว่าวิธีนี้คง
สำเร็จแน่จึงเร่งความเร็วในการรูดขึ้นรูดลงมือซ้ายก็ขยำลูกใต้โคน ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก ปรี๊ด
พรวดมีบางสิ่งบางอย่างขาวข้นพุ่งเข้าปากพลอยกระเด็นไปโดนหน้า พลอยและบ่อเมี้ยร้องพร้อม
กัน ว่า อ้า....ร่างของบ่อเมี้ยกระตุกขึ้นมาและลงไปนอนต่อ ใบหน้าของบ่อเมี้ยจากแดงกล่ำเริ่มจาง
ลงพลอยเห็นแสดงว่าพิษไข้ลดลงเรามาถูกวิธีแล้วแต่พลอยยังสงสัยสิ่งที่เข้าปากมันลื่นหยุ่นคาวพิกล
และดูเหมือนมันยังไม่หมด พลอยจึงก้มไปดูดจากแท่งหยกนั้นเพื่อดูดพิษไข้เพื่อให้บ่อเมี้ยได้หาย
จากไข้ในครั้งนี้