แก้วกานดา ตอนที่ 16 – หวุดหวิด
.....................................
Assasin008 2016-12-08
กานต์ มองบานประตูห้องที่โดนปิดดังโครมด้วยความรู้สึกใจหายวูบ ก่อนนี้เธอยังมึนงงสับสนเพราะเพิ่งโดนบอลปลุกปล้ำจนเกือบสำเร็จความใคร่ จากนั้นลุงยามหน้าเหี้ยมคนนี้ก็โผล่หน้ามาช่วย เธอไม่ทันได้คิดอะไรจึงตามลุงยามมาถึงสถานที่แห่งนี้ และเธอก็เพิ่งตระหนักได้ว่าเธอกำลังอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมยิ่งกว่าตอนโดนบอลปลุกปล้ำเมื่อครู่เสียด้วยซ้ำ
นักศึกษาสาวยืนตัวสั่นอยู่ในห้องอันหนาวเย็น เสื้อผ้านักศึกษารัดติ้วบางเฉียบบนร่างกายนั้นยังหลุดลุ่ยไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเนื่องจากต้องเร่งรีบสวมใส่ ใบหน้าของเธอแดงก่ำดวงตาฉ่ำเยิ้ม เมื่อครู่นี้ลีลาความหื่นของบอลทำให้เธอเกือบถึงสรวงสวรรค์อยู่รำไร หากทว่าการโดนขัดจังหวะกระทันหันนั้นทำให้เธอรู้สึกปรับอารมณ์ไม่ทัน
(/ />
เธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าที่แท้แล้วเธออยากให้บอลทำจนเสร็จหรือเปล่า เพราะจะอย่างไรบอลก็สอดใส่เข้ามาแล้ว เหลือเพียงแค่ทำต่อให้เธอเสร็จสมก็จะจบเรื่องราว หากทว่าเหตุการณ์กลับไม่ดำเนินไปถึงขั้นนั้นตามที่เธอแอบหวัง
ความคิดของกานต์กำลังสับสน เธอรู้สึกอดสูที่ไม่ได้แสดงท่าทีต่อต้านการกระทำของบอลเท่าที่ควรจะเป็น กระนั้นเหตุการณ์ก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่นอีกหนึ่งเหตุการณ์ เธอกำลังอยู่ในห้องที่มีจอภาพมากมาย มันคือห้องศูนย์รวมแสดงภาพจากกล้องวงจรปิดในมหาวิทยาลัยแทบทั้งหมด
บนฝาผนังห้องมีชุดเครื่องแบบรักษาความปลอดภัยแขวนไว้หลายชุด บนโต๊ะมีวิทยุสื่อสารที่เสียบชาร์จเติมพลังงานไฟฟ้าไว้หลายตัว ส่วนเรื่องที่น่าหวาดหวั่นก็คือเวลานี้กานต์กำลังยืนอยู่ในห้องนี้กับลุงยามหน้าเหี้ยมแบบสองต่อสองโดยไม่มีใครอื่นอีก และไม่ใช่แค่ในห้องนี้ หากทว่าหอประชุมใหญ่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครเลยสักคนด้วยซ้ำ
ลุงยามหน้าเหี้ยมที่น่าจะเอาดีทางอาชีพโจรผู้ร้ายพูดออกมาด้วยเสียงอันดังจนกานต์สะดุ้งโหยง
"นั่งซินังหนู ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครเข้ามาห้องนี้แน่ อย่างน้อยก็จนกว่าจะตอนเย็นเลิกงานโน่นแหละ"
เธอรู้สึกกลัวลุงยามจนเกร็งทำอะไรไม่ถูก นอกจากหน้าตาลุงยามจะเข้าขั้นโจรห้าร้อยแล้ว เขายังพูดจาโผงผางกระโชกโฮกฮากเสียงดัง และที่ทำให้กานต์หวั่นเกรงที่สุดก็คือกระบอกปืนสั้นสีดำที่โดนเหวี่ยงไปมาแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง
นอกจากท่าทางดุร้ายน่ากลัวแล้ว แววตาหื่นกระหายที่ลุงยามใช้ลวนลามเนื้อตัวของเธอก็ใช่ย่อย กานต์รู้สึกราวกับโดนปลดเปลื้องเสื้อผ้าจนหมดสิ้นเมื่อโดนมองด้วยสายตาหื่นกระสันของลุงยาม ด้วยเหตุนี้เธอจึงใจเต้นระส่ำรู้สึกเหมือนตนเองอาจจะไม่รอดพ้นเงื้อมือของลุงยาม สถานการณ์เช่นนี้เธอไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลยสักอย่าง
"บอกให้นั่งก็นั่งซินังหนู เดี๋ยวปั๊ด"
ลุงยามส่งเสียงตวาดอีกครั้งเมื่อกานต์ยืนนิ่งไม่ทำตาม เธอถึงกับสะดุ้งโหยงรีบเดินขาสั่นระริกไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่ลุงยามจัดให้ เธอพยายามดึงชายกระโปรงสั้นเต่อลงไปให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ลุงยามก็ยังมองสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาหื่นกระหาย กานต์ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งหน้างุดยกกระเป๋าสะพายขึ้นบดบังเนื้อตัวให้มากที่สุด
"นึกยังไงถึงไปยืนช่วยตัวเองอยู่ตรงนั้นล่ะ ในมหาลัยกลางวันแสก ๆ ใจกล้าจริงนะเรา ไม่แปลกเลยที่จะโดนผู้ชายบุกเข้ามาปล้ำเอา ขนาดลุงเห็นผ่านกล้องก็ยังอยากปล้ำทำเมียเลย"
ลุงยามถามเสียงดังพร้อมกับหมุนควงกระบอกปืนสีดำในมือราวกับของเล่น กานต์เงยหน้ามองและสะดุ้งตกใจเมื่อปลายประบอกปืนหันมาทางเธอ ลุงยามพอเห็นท่าทางตื่นกลัวก็เริ่มส่งเสียงหัวเราะร่วนถูกอกถูกใจอยู่ยกใหญ่
กานต์รู้สึกโกรธแต่ไม่กล้าแสดงท่าทีออกมา เธอได้แต่มองลุงยามเขม็งโดยไม่ได้พูดอะไร ซึ่งความจริงเธอก็ไม่ทราบว่าจะบอกเรื่องราวอย่างไร จะให้เธอบอกว่าคิดถึงแฟนมากจนมีอารมณ์ แล้วก็ดันไปได้ยินเสียงครวญครางของพี่สาวตัวเองผ่านโทรศัพท์จนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เธอก็เลยต้องแอบมาหาที่ลับ ๆ เล่นเซ็กส์โฟนกับแฟนหนุ่มเธอก็คงไม่กล้าพูดออกมาให้ใครฟัง
ลุงยามเห็นกานต์นั่งนิ่งไม่ตอบคำก็ทำท่ายักไหล่แล้วหันไปกดอะไรบางอย่างบนแป้นควบคุมหน้าจอ ไม่นานนักภาพบนหน้าจอทั้งหมดในห้องก็เปลี่ยนไปเป็นภาพเดียวกัน มันคือภาพเคลื่อนไหวตอนกานต์เดินเข้ามาในตรอกทางประตูหลัง จากนั้นก็แสดงภาพที่กานต์กระทำเรื่องวาบหวิวออกมาด้วยความละเอียดสูงยิบ เธอเห็นใบหน้าเสียวซ่านร้อนสวาทของตัวเองชัดเจน ขาดก็แต่เพียงเสียงครวญครางเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกเก็บบันทึกเอาไว้
ถัดจากนั้นภาพบนหน้าจอก็เพิ่มตัวละครเข้ามาอีกหนึ่งคน บอลพุ่งตัวเข้ามาปลุกปล้ำเธอ เขาสอดใส่เข้ามาแล้วกระแทกกระทั้นจนเธอดิ้นพราด ๆ ด้วยความเสียว ภาพความละเอียดสูงที่มองเห็นนั้นทำให้กานต์หอบหายใจหนักหน่วงขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่เธอก็นึกจินตนาการได้ถึงเสียงร้องครางและเสียงกระทบกระแทกได้อย่างชัดเจน
ลุงยามหน้าเหี้ยมเองก็ถลึงตามองด้วยความตื่นเต้น แรกสุดนั้นเขานั่งมองเด็กสาวมหาลัยคนสวยมายืนทำเรื่องน่าอายแบบลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ตรงประตูหลังหอประชุมใหญ่ เขาจึงนั่งมองด้วยความตื่นเต้นกระสัน แต่เมื่อเห็นว่ามีตัวละครหนุ่มนักศึกษาเพิ่มเข้ามาและพุ่งเข้าไปปลุกปล้ำนักศึกษาสาว ลุงยามก็ดีดตัวลุกจากเก้าอี้พุ่งออกไปช่วยเหลือ เขาจึงยังไม่ทันได้เห็นฉากหลังจากโดนปลุกปล้ำ
ตอนนี้ลุงยามนั่งกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เพราะว่าตอนแรกนั้นนักศึกษาสาวแสดงท่าทีปัดป้องไม่ยินยอม แต่พอโดนสอดใส่และกระแทกกระทั้นเข้าหน่อย นางฟ้านักศึกษาสาวนมโตคนนี้ก็ตัวอ่อนแสดงสีหน้าสุดเสียวออกมา ลุงยามเลยเริ่มงุนงงว่าที่แท้แล้วเป็นการข่มขืน หรือว่าสมยอมกันแน่
"อ้าว ตกลงเอ็งสมยอมกับไอ้หนุ่มนั่นเรอะนังหนู ทีแรกเห็นทำท่าดิ้นไม่ยอม พอโดนเข้าไปหน่อยสะโพกร่อนเหมือนติดสปริงเฉยเลย ที่แท้ก็ร่านน่าดูนี่หว่า"
ภาพบนหน้าจอค้างไว้แค่นั้น ลุงยามกดหยุดและหันมาแสยะยิ้มส่งเสียงเข้ม กานต์หน้าแดงก่ำขณะละสายตาจากจอภาพ เธอหันมามองดุลุงยามเหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เธอกำลังสับสนทำตัวไม่ถูก เพราะว่าลุงยามพูดถูกเรื่องที่เธอร่าน ไม่ว่าจะเพราะอะไร แต่ว่าเธอยอมบอลง่ายเกินไปจริง ๆ
ลุงยามเห็นกานต์นั่งนิ่งก็มองเขม็ง ยิ่งมองใบหน้าสวยหวาน กับทรวดทรวงอวบอิ่มน่าฟัด เป้ากางเกงของลุงยามก็ยิ่งบวมเป่งพองโตจนสังเกตเห็นได้ ยิ่งมีความรู้สึกว่ากานต์เป็นสาวร่านทำให้มีอารมณ์ร่วมได้ง่าย ลุงยามก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าเสี่ยงทดลองดู เขาจึงหันไปกล่าวข่มขู่แบบอ้อมค้อมก่อนเพื่อหยั่งเชิง
"ถ้าไม่ใช่ข่มขืน งั้นหนูก็คงไม่แจ้งความไอ้หนุ่มนั่นใช่หรือเปล่า ... แต่ว่า ถ้าภาพนี้หลุดไปล่ะก็นะหนู สงสัยจะเป็นข่าวดัง"
กานต์รู้สึกเหมือนหัวใจกระตุก เธอคาดเดาไว้แล้วว่าลุงยามกำลังจะต้องข่มขู่เรียกร้องอะไรบางอย่างกับเธอ แต่เมื่อเกิดขึ้นจริงเธอก็ยังเก็ฐความตกใจไว้แทบไม่อยู่ กระนั้นเธอก็ยังต้องพยายามทำใจดีสู้เสือไปก่อน
"หนูขอร้อง ลุงช่วยลบให้หน่อยนะคะ ไม่งั้นหนูแย่แน่เลย"
"ลบไม่ได้หรอกนังหนู เพราะมันเสี่ยงนะ ถ้ามีคนเจอว่าช่วงเวลานี้มันหายไป ลุงอาจจะโดนไล่ออก อีกอย่างลุงยังอยากจะเก็บไว้ดูตอนช่วยตัวเองด้วย มันเร้าใจกว่าดูหนังสือโป๊พวกนั้นตั้งเยอะ"
ลุงยามหน้าเหี้ยมส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะหันมองไปทางกองหนังสือกองใหญ่ และเมื่อกานต์มองตามไปก็พบว่ามันคือกองหนังสือที่เต็มไปด้วยรูปภาพโป๊เปลือย ซึ่งคาดเดาไม่ยากว่านั่นคงจะเป็นกองหนังสือที่บรรดายามรักษาความปลอดภัยที่นี่ใช้เป็นวัตถุดิบประกอบจินตนาการ
"... ลุงคะ ... หนูขอร้อง ... ช่วยลบให้หนูนะคะ"
กานต์หน้าแดงก่ำกับคำพูดตรงไปตรงมาของลุงยาม แต่ก็ยังพยายามตั้งสติพูดขอร้องอ้อนวอนด้วยท่าทางน่าสงสาร ลุงยามหันมามองเธอด้วยสายตาหื่นกลัดมันวูบหนึ่ง ก่อนจะกลืนน้ำลายดังอึก เพราะนอกจากกานต์จะสวยน่ารักประหนึ่งนางฟ้าแล้ว เธอยังมีทรวดทรงองค์เอวที่หนั่นแน่นเร้าอารมณ์หื่นอย่างที่สุด
นักศึกษาสาวรู้สึกหวิว ๆ กับสายตาของลุงยาม แต่เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย ท่าทางของลุงยามนั้นแสดงความหื่นกลัดมันออกมาอย่างชัดเจน หากทว่าเธอยังรู้สึกว่าเขายังสงวนท่าทีมีความลังเล ยังไม่ได้มีความคิดที่จะใช้กำลังกับเธอเสียทีเดียว เธอจึงพยายามหาเรื่องตีสนิท
กานต์มองไปรอบ ๆ เพื่อหาตัวช่วย และเมื่อมองเห็นกรอบรูปตั้งบนโต๊ะมีรูปของลุงยามยืนกอดสาวสวยคนหนึ่ง โดยที่ด้านข้างมีเด็กสาวอายุประมาณสิบขวบหน้าตาน่ารักสองคน กานต์จึงพยายามเบี่ยงประเด็นไปเรื่องนี้ เพื่อให้ลุงยามนึกถึงลูกเมียของตนเอง
"รูปตรงนั้น รูปลุงกับแฟน แล้วก็ลูก ๆ หรือเปล่าคะ"
ลุงยามหน้าเหี้ยมชะงักไปวูบหนึ่งเมื่อเจอคำถามนี้ เขาหันมองไปทางรูปในกรอบที่เริ่มซีดเหมือนผ่านกาลเวลามาไม่น้อย สายตากลัดมันพลันเปลี่ยนไปเป็นสายตาระทมขมขื่นคล้ายมีความหลัง
"ใช่ ลูกสาวของลุงเอง รูปนั้นถ่ายเมื่อสิบปีที่แล้ว ตอนนั้นคนโตอายุสิบสอง คนเล็กอายุสิบขวบ กำลังน่ารักน่าเอ็นดูเลยล่ะ ตอนนี้ไม่รู้เป็นยังไงกันบ้าง"
สายตาหื่นกลัดมันที่หายไปทำให้กานต์ใจชื้นขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงเศร้าสร้อยของลุงยาม เธอก็เริ่มไม่แน่ใจว่าเธอกำลังจะพูดเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจลุงยามเข้าหรือเปล่า แต่จะอย่างไรเธอก็เบี่ยงประเด็นมาทางนี้ได้แล้ว เธอคงต้องพยายามหาเรื่องคุยเพื่อไม่ให้ลุงยามเอาแต่สนใจตัวเธอจนคุมตัวเองไม่อยู่
"... ทำไมล่ะคะ หรือว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน"
"เหอะ ก็เพราะนังเมียสารเลวนั่นน่ะซิ สิบปีที่แล้ว มันบอกว่าไม่อยากอยู่กับยามจน ๆ แล้วมันก็หอบลูกสาวสองคนหนีไป ได้ข่าวว่าแต่งกับผัวใหม่รวยสมใจมัน แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้นังนั่นมันอยู่ไหนแล้ว"
จากน้ำเสียงเศร้าสร้อยเมื่อพูดถึงลูกสาวทั้งสอง เปลี่ยนไปเป็นน้ำเสียงคับแค้นแทบจะทันทีเมื่อพูดถึงอดีตภรรยา กานต์จึงนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปพักใหญ่ แต่สุดท้ายก็กัดฟันพยายามพูดหาทางรอดให้ตัวเอง
"ลุงคะ ผ่านมาสิบปีแล้ว ตอนนี้ลูกสาวคนเล็กของลุงน่าจะอายุพอ ๆ กันกับหนู ... ยังไงลุงก็ช่วยหนู ถือว่าทำบุญไว้ช่วยลูกสาวก็แล้วกันนะ"
กานต์พยายามยกอ้างเรื่องบุญกรรมไปเรื่อย ทั้งที่เธอไม่ได้เชื่อถือเรื่องบุญกรรมอะไรมากมาย แต่เธอคิดว่าคนอายุรุ่นลุงยามน่าจะเชื่อถือเรื่องแบบนี้อยู่บ้าง ระหว่างนี้เธอจึงทำสีหน้าจริงจังมองไปทางรูปลูกสาวคนเล็ก และดูเหมือนว่าเธอจะทำสำเร็จอยู่บ้าง เพราะลุงยามถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันมองไปทางรูปใบนั้นเช่นกัน
นักศึกษาสาวใจเต้นระทึกไม่ทราบว่าแผนของเธอจะส่งผลอย่างไร แต่มองทางไหนเธอก็ไม่เห็นทางรอด ทางรอดเดียวของเธอก็คือการกล่อมให้ลุงยามใจอ่อน และตอนนี้ลุงยามก็กำลังนั่งมองรูปใบนั้นด้วยท่าทีเซื่องซึมเหมือนกำลังรำลึกความหลัง
'เอ๊ะ ... จะว่าไป ... หน้าลูกสาวคนเล็กของลุงยามก็ดูคุ้น ๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน'
ระหว่างที่ลุงยามนั่งเงียบ กานต์ก็พยายามครุ่นคิดในใจ เธอมีเวลาได้มองรูปนั้นให้ชัดกว่าเดิม คนแม่และลูกคนโตนั้นเธอไม่มีความรู้สึกคุ้นเคยอะไร แต่ว่าลูกสาวคนเล็กนั้น เธอรู้สึกคุ้น ๆ เหมือนคล้ายกับใครบางคน แต่ว่าเธอกลับนึกไม่ออก
"เฮ้อ ... เอ็งพูดถูกนังหนู ... จริง ๆ ลุงก็เป็นฝ่ายผิดเอง ... ลุงไม่มีความรู้อะไร เป็นได้แค่ยาม เมียกับลูกก็เลยอด ๆ อยาก ๆ ความจริงแล้วมีคนมารับเมียกับลูกไปเลี้ยงดูต่อ ลุงก็น่าจะดีใจ ... หวังแต่ว่าลูกสองคนจะมีความสุข"
ลุงยามหน้าเหี้ยมถอนหายใจออกมาเสียงดัง ก่อนจะหันใบหน้าประหนึ่งโจรห้าร้อยมากล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้ารันทด กานต์รับฟังและนั่งมองด้วยความรู้สึกแปลก ๆ หากมองเฉพาะใบหน้าและน้ำเสียงแล้ว ลุงยามคนนี้ให้ความรู้สึกน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อลองมองให้ลึกแล้ว กานต์กลับเริ่มรู้สึกว่าลุงยามคนนี้ดูจะน่าสงสารและซื่อสัตย์ตรงไปตรงมามากพอสมควร
"ชีวิตของลุงนะ ... สมัยเด็ก ..."
กานต์ไม่แน่ใจนักว่าเธอคิดถูกหรือไม่ แต่ตอนนี้ลุงยามหน้าเหี้ยมกำลังนั่งเล่าชีวิตตัวเองออกมายาวเหยียด ถึงแม้ภายนอกจะดูน่ากลัวและไม่น่าไว้วางใจ แต่เธอเริ่มจะรับรู้ได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่น่าสงสารคนหนึ่ง อย่างน้อยแค่เรื่องความหลังตอนโดนเมียทิ้งก็ถือว่าน่าเวทนามากพอควร
"ตอนโดนนังเมียมันทิ้งไป ลุงก็กินเหล้าเมายาทำตัวเกะกะระรานไปทั่ว เจอสาวสวยก็เข้าไปจีบไปปล้ำ เจอใครไม่เข้าตาก็ท้าตีท้าต่อยกันเลือดอาบ วันหนึ่งลุงไปหาเรื่องลูกเจ้าพ่อ ลุงเลยโดนตามฆ่า โดนมีดฟันกลางหลัง แถมยังโดนยิงไปสองนัด แล้วโดนโยนลงแม่น้ำเจ้าพระยา ลุงนึกว่าลุงคงไม่รอดแล้ว แต่เจ้านายลุงเขาเก็บลุงมาช่วยรักษาแล้วเลี้ยงดู ลุงเลยค่อยกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้งเพราะเจ้านายคนนี้"
ลุงยามหน้าเหี้ยมเล่าเรื่องราวตัวเองไปราวสิบห้านาทีแบบต่อเนื่องไม่มีหยุดพักหายใจ ก่อนจะปิดท้ายเรื่องโดนตามฆ่าและรอดมาได้ กานต์แอบขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจว่าเชื่อถือได้หรือไม่ แต่ลุงยามก็เหมือนจะรู้ว่าเธอไม่เชื่อ เขาจึงจัดการปรดกระดุมถลกชายเสื้อขึ้นและหันหลังอวดแผลเป็นยาวตั้งแต่ไหล่มาถึงเอว
แผลนี้สมควรจะเกิดจากมีดของมีคมและลึกพอสมควร นอกจากนี้ลุงยามยังหันร่างด้านหน้าให้กานต์เห็นรอยแผลเป็นที่เหมือนจะเกิดจากกระสุนปืนสองรอยตรงบริเวณแผงอกใกล้หัวไหล่สองข้าง
กานต์นั่งเบิกตากว้างมองดู ถึงแม้จะยังไม่เชื่อลุงยามเต็มที่ แต่ว่าการมีหลักฐานคาตาขนาดนี้ก็ทำให้เธอเริ่มเชื่อถือมากกว่าครึ่ง เรื่องราวฆ่าฟันจนปางตายแบบนี้เธอไม่เคยคิดว่าจะมีในชีวิตจริง จะอย่างไรเธอก็เป็นสาววัยรุ่นในสังคมคนรวย ไม่ได้มีประสบการณ์อยู่ในสังคมด้านมืดที่เต็มไปด้วยเรื่องเหล่านี้
อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็นหลักที่กานต์สนใจ เธอรับฟังด้วยความอยากรู้ก็จริง แต่เธอก็ไม่ลืมว่าประเด็นหลักตอนนี้คือการเอาตัวรอดจากลุงยาม และขอให้ลุงยามช่วยลบไฟล์จากกล้องวงจรปิด เธอจึงพยายามคิดยกอ้างหาเหตุผลมาสนับสนุนสิ่งที่เธอต้องการ
"เจ้านายของลุงท่าทางจะใจดีนะคะ ท่านคงจะดีใจถ้าหากลุงกลับมาทำเรื่องดี ๆ อย่างการช่วยเหลือคนอื่น"
กานต์พูดแบบอ้อมค้อม แต่ความหมายในคำพูดก็คือการชักจูงให้ลุงยามทำเรื่องดี ๆ ซึ่งก็คือการช่วยเหลือเธอนั่นเอง
"เจ้านายลุงท่านไม่อยู่แล้ว ... ลุงเองก็เริ่มแก่ ทำงานให้ทายาทเจ้านายไม่ไหว ลุงเลยเกษียณออกมาอยู่บ้านช่วงหนึ่ง เงินทองก็มีใช้ได้จนตายไม่อดอยาก แต่อยู่บ้านเฉย ๆ แล้วมันฟุ้งซ่าน ลุงเลยหาอะไรทำไปเรื่อย แต่ลุงทำอะไรเป็นเสียที่ไหน สุดท้ายลุงก็เลยไปของานหัวหน้ายามในมหาวิทยาลัยจากลูกของเจ้านาย ก็ที่ลุงทำอยู่นี่แหละหนู ... อยากฟังเรื่องเจ้านายลุงหรือเปล่าล่ะ ลุงจะเล่าให้ฟัง ... เจ้านายคนแรกของลุงนะชื่อคุณซัน คุณซันเขาเก่งและรวยมาก สร้างตัวจากยามไม่มีเงินจนกลายเป็นเศรษฐี พอรุ่นลูกคุณตะวันก็เก่งไม่แพ้พ่อ คุณตะวันเขาก่อตั้งตะวันกรุ๊ปขึ้นมาเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน แถมพอมีลูกชาย ลูกชายก็เก่งไม่แพ้พ่อไม่แพ้ปู่ เขาเสนอแผนธุรกิจให้บริษัทหลายอย่างทั้งที่เพิ่งเรียนจบ ลูกชายคนนี้ชื่ออาทิ ..."
ลุงยามหน้าเหี้ยมทำท่าจะเล่าเรื่องราวต่อโดยไม่สนใจประเด็นหลักที่กานต์อยากได้ข้อสรุป กานต์จึงอึ้งไปเพราะไม่นึกว่าลุงยามจะเป็นตาลุงขี้เหงาเอาแต่เล่าเรื่องตัวเองแบบนี้ และเธอก็คงจะไม่มีเวลาสนใจมานั่งฟังเรื่องราวของเจ้านายหรือลูกชายสืบทายาทอะไรคนนั้น กานต์จึงส่งเสียงทักท้วงขัดจังหวะจนลุงยามหยุดชะงัก
"ลุงคะ ... หนูสัญญาว่าจะมานั่งฟังเรื่องของลุง แต่ว่าวันนี้หนูมีคลาสเรียนค่ะ ลุงช่วยหนูหน่อยได้หรือเปล่า ช่วยลบไฟล์นั้นทิ้งให้หนู หนูสัญญาจริง ๆว่าจะมานั่งฟังลุงเล่าเรื่องให้จบเลยก็ได้ นะคะลุงได้โปรด ถือว่าเห็นแก่ลูกสาวกับเจ้านายของลุง"
ยามหน้าเหี้ยมหันมามองดูกานต์แวบหนึ่งแล้วครุ่นคิด เธอไม่แน่ใจว่าลุงยามกำลังคิดอะไร แต่เธอแน่ใจว่าแววตาของลุงยามนั้นกำลังแอบมองสำรวจเนื้อตัวของเธออยู่ เธอจึงเริ่มรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยขึ้นมา
"ลุงจะลบให้ก็ได้ แต่ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยน ลุงขอเอาหนูสักสองสามยกก็พอ ลุงยังไม่เคยเจอใครสวยเหมือนนางฟ้าแบบหนูมาก่อน ยังไงลุงก็คงไม่ยอมปล่อยหนูไปแน่"
ลุงยามพูดด้วยน้ำเสียงขึงขังจริงจัง พลางหันใบหน้ากร้านดำตะปุ่มตะป่ำน่ากลัวมองดูกานต์ การกระทำของลุงยามนั้นโผงผางตรงไปตรงมาจนกานต์รู้สึกเหวอ เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะขออะไรแบบนี้ออกมาแบบตรง ๆ ด้วยน้ำเสียงหื่นกระหายเช่นนี้
"อย่าค่ะคุณลุง ลุงไม่อยากทำแบบนี้หรอก"
"ทำไมลุงจะไม่อยากทำล่ะนังหนู เอ็งมันสวยเสน่ห์แรงน่าล่อจะตายชัก ได้เอาเอ็งสักครั้งลุงถือว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว"
"ถ้าลุงเข้ามาหนูจะร้องให้คนช่วยนะคะ"
"ฮ่า ฮ่า นังหนูเอ๊ย ร้องให้ตายก็ไม่มีใครได้ยินหรอก ไม่ต้องพูดอะไรมากน่ารำคาญ อยู่นิ่ง ๆ ไม่งั้นยิงไส้แตก อย่าว่าแต่เสียงร้องเลย ต่อให้เสียงปืนก็ไม่มีใครได้ยิน"
ลุงยามส่งเสียงขู่พร้อมกับยื่นปลายกระบอกปืนสีดำเมื่อมเล็งตรงมาทางกานต์ เธอสะดุ้งหน้าซีดตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก ก่อนนี้เธอยังคิดว่าน่าจะพอเจรจาตกลงกับลุงยามได้ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะคิดผิดถนัด ความหื่นกระหายในแววตาของลุงยามไม่ได้ลดน้อยลงไปจากคราวแรกเลยแม้แต่น้อยนิด เวลานี้กานต์จึงเริ่มรู้สึกว่าหากก่อนหน้านี้หากลุงยามไม่โผล่มาช่วย และปล่อยให้เธอโดนบอลปล้ำจนเสร็จไปก็คงจะดีเสียกว่า
"คุณลุงคะ หนูขอร้อง อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ"
กานต์นั่งตัวสั่นหน้าซีดพยายามส่งเสียงอ้อนวอนขอร้อง แต่ยามสูงวัยไม่แสดงท่าลังเลแม้แต่น้อย ปืนกระบอกสีดำโดนขยับเข้ามากดจ่อบนหน้าผากของกานต์ด้วยท่าทีขู่ขวัญ นักศึกษาสาวกลัวจนตัวเย็นเยียบทำอะไรไม่ถูก
"อย่าขัดขืนล่ะนังหนู ถ้าปืนลั่นขึ้นมาลุงไม่รู้ด้วยนะ"
ลุงยามพูดเสียงหื่นพร้อมกับกวาดสายตามองลงไปที่เรือนร่างขาวโพลนในชุดนักศึกษารัดติ้วบางเฉียบด้วยสายตาหื่นกระหาย กานต์อยากจะยกมือขึ้นปิดบังเนื้อตัวหากทว่าเมื่อเธอทำท่าจะขยับ ปากกระบอกปืนก็กดเข้าหาหน้าผากแรงขึ้นจนเธอสะดุ้งตัวเกร็งไม่กล้าขยับมือไม้
"อย่าดื้อเชียวนะนังหนู ลุงใช้ปืนกระบอกนี้ยิงคนตายมาเป็นร้อยแล้ว ถ้าจะยิงเพิ่มอีกสักคนก็คงไม่แปลก ... ก่อนหน้านี้เอ็งก็ยังร่อนเอวเด้งรับไอ้หนุ่มนักศึกษานั่นอยู่เลยไม่ใช่เรอะ ให้ลุงเป็นผัวอีกสักคนคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง"
ลุงยามส่งเสียงหัวเราะเสียงหื่น ก่อนจะเอื้อมมือซ้ายที่ว่างอยู่ไปแตะสัมผัสกับปรางแก้มนุ่ม กานต์สะดุ้งโหยงเมื่อมือหยาบกร้านแตะบนใบหน้าหากทว่าไม่มีความกล้าจะขัดขืน เธอได้แต่นั่งตัวสั่นปล่อยให้ลุงยามใช้ฝ่ามือหยาบกร้านดำเมื่อมลูบไล้ไปมาบนใบหน้าขาวอมชมพู
(/ />
"หน้านุ่มจริงนังหนู ทั้งสวยทั้งนุ่ม ... ปากหนูนี่มันสวยจิ้มลิ้มน่าจับของลุงยัดเข้าไปจริง ๆ"
ลุงยามส่งเสียงชมพร้อมกับหอบหายใจฟืดฟาด หลังจากลูบแก้มจนพอใจ เขาก็เริ่มปาดนิ้วไปที่ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มสีชมพูอ่อนซึ่งกำลังสั่นระริกหวาดกลัว กานต์ขยะแขยงจนอยากสะบัดหน้าหนี หากทว่ากระบอกปืนเย็นเยียบที่กดจ่อบนหน้าผากทำให้เธอได้แต่นั่งตัวเกร็งไม่กล้าขยับ
ฝ่ามือหยาบขยับลูบนิ้วไปบนริมฝีปากบาง ก่อนจะค่อย ๆ สอดนิ้วชี้เข้าไปในโพรงปากด้วยพร้อมกับจินตนาการหื่นกระหาย นิ้วนั้นลูบลงไปบนฟันขาวสะอาด และแตะลงไปบนลิ้นนุ่มนิ่ม ในหัวสมองของลุงยามตอนนี้เต็มไปด้วยภาพในจินตนาการวาบหวาม เขาคิดสงสัยว่าหากนักศึกษาสาวสวยคนนี้ยอมใช้ปากทำให้จะเสียวซ่านถึงใจขนาดไหน
กานต์นั่งตัวเกร็งไม่กล้าหุบปากลง รสเค็มปร่าที่สัมผัสกับลิ้นทำให้เธอรู้สึกอยากอ้วกออกมา แต่ก็ยังฝืนนั่งนิ่งไม่กล้าขยับ สองมือของเธอจิกเกร็งขยำลงบนชายกระโปรงนักศึกษา ดวงตาสองข้างเริ่มร้อนผ่าวเพราะน้ำตากำลังจะไหลออกมา เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เธอกำลังจะโดนข่มขืน เมื่อครู่เธอก็เพิ่งโดนบอลข่มขืน จากนั้นแค่ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเธอก็กำลังจะโดนข่มขืนอีกครั้งจากยามแก่ ๆ คนหนึ่ง
ลุงยามหอบหนักหน่วงไม่สนใจหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อออกมาของเด็กสาว เขาเริ่มถอนนิ้วออกมาจากโพรงปากนุ่มชื้น ก่อนจะเบนสายตามองลงไปที่ทรวงอกอวบอิ่มซึ่งกำลังเด้งขึ้นลงตามจังหวะหายใจของความตื่นกลัว จากนั้นปลายกระบอกปืนก็เลื่อนต่ำลงจากหน้าผากลงมาจ่อที่ริมฝีปากบาง แล้วลากผ่านลำคอขาวเนียนลงไปกดลงไปที่ทรวงอกอวบอิ่ม
กานต์ก้มลงมองกระบอกปืนที่กดลงบนทรวงอกด้วยความหวาดผวา เธอหอบหายใจหนักหน่วงในขณะที่กล้ามเนื้อเกร็งไปทั่วร่าง เธอได้แต่มองไม่กล้าขยับทั้งที่ลุงยามกำลังใช้มืออีกข้างเอื้อมมาบีบขยำก้อนเนื้อนิ่มด้วยอารมณ์หื่นกระหาย
"นมใหญ่เนื้อแน่นเหลือเกินนังหนูเอ๊ย บุญมือของลุงจริง ๆ"
ลุงยามตาลุกวาวหอบกระเส่า มือขวายังคงถือกระบอกปืนกดใส่ทรวงอกอวบ ในขณะที่มือซ้ายนั้นกำลังค่อย ๆ บีบขย้ำใส่เต้านมใหญ่น่าฟัด เป้ากางเกงยิ่งมาก็ยิ่งคับแน่นจนแทบระเบิด เกิดมาทั้งชีวิตเขายังไม่เคยได้พบเจอกับผู้หญิงคนไหนที่สวยสุดยอดทั้งหน้าตาและเรือนร่างเหมือนเด็กสาวคนนี้เลยแม้แต่คนเดียว
"ช่วงนี้ลุงมีบุญเหลือเกิน เมื่อวานเจ้านายน้อยก็พานางฟ้าแสนสวยไปเสพสุขที่บ้านให้ลุงได้ดูหนังสดทั้งคืน วันนี้ลุงก็มีบุญจะได้ลองเอานางฟ้าที่สวยไม่แพ้กันอีกคน แถมยังเด็กกว่าอีกต่างหาก บุญของกูจริง ๆ"
ลุงยามส่งเสียงบ่นพึมพำราวกับละเมอ กานต์ได้ยินทุกประโยคที่เขาพูดหากแต่ไม่เข้าใจว่ากำลังพูดเรื่องอะไร กระนั้นเธอก็ไม่คิดจะทำความเข้าใจอะไรในคำพูดเหล่านั้น เธอได้แต่เพียงนั่งตัวเกร็งปล่อยให้น้ำตาไหลนองหน้าด้วยความหวาดกลัวและอับจนปัญญา เธอไม่ทราบจริง ๆ ว่าจะสามารถทำอะไรได้ในสถานการณ์เช่นนี้
หลังจากบีบเคล้นทรวงเต้าจากด้านนอกเสื้อนักศึกษาจนพออกพอใจ ลุงยามก็เริ่มขยับนิ้วไปปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกทีละเม็ด กานต์ย่อมไม่กล้าขัดขืน เธอได้แต่หลับตาลงเพราะไม่อยากทนดูภาพความอดสูของตนเอง และเพียงแค่ครู่เดียวกระดุมเสื้อก็โดนปลดออกจนหมด สาบเสื้อนักศึกษาตัวน้อยโดนแบะอ้าออกกว้าง เปิดให้เผยให้เห็นความขาวเนียนของเรือนร่างงามประหนึ่งนางสวรรค์ที่ยกทรงตัวน้อยปิดบังเอาไว้แบบหมิ่นเหม่ว่าจะทะลักหลุดออกมาด้านนอก
"อื้อ หือ ขาวจริงอีหนู ขาวเหมือนไข่ปอกเลย นมเอ็งมันใหญ่เหมือนลูกมะพร้าวเลยรู้หรือเปล่า"
ลุงยามเบิกตากว้างหอบหายใจฟืดฟาด ก่อนจะรีบเอื้อมมือไปจับยกทรงตัวน้อยแล้วกระชากขึ้นด้านบนไปกองเอาไว้เหนือเต้า ความสวยงามสมบูรณ์แบบทำให้เขาลืมหายใจไปวูบหนึ่ง อารมณ์ทางเพศลุกโชนจนแทบไม่สามารถมากไปกว่านี้ได้อีก นักศึกษาสาวคนนี้สวยราวกับนางฟ้าในเทพนิยายก็มิปาน
ฝ่ามือหยาบกระด้างยื่นออกไปตะปบขย้ำใส่ก้อนเนื้อขาวเนียนนุ่มนิ่มทันที สัมผัสเนียนละเอียดที่ส่งผ่านฝ่ามือทำให้ลุงยามตัวสั่นสะท้านซาบซ่าน จากนั้นฝ่ามือหยาบก็เริ่มบีบขยำขยี้ทรวงเต้าอวบทั้งซ้ายและขวาสลับไปมาด้วยความเมามันสะใจ ในขณะที่กานต์นั้นได้แต่หลับตานั่งตัวเกร็งด้วยความรู้สึกอดสู แต่ก็ยังดีอยู่บ้างที่ลุงยามไม่ได้กระทำรุนแรงเกินไปจนรู้สึกเจ็บปวด
เสียงหอบกระเส่าของลุงยามดังขึ้นทีละน้อย มือซ้ายบีบเคล้นต่อไปโดยไม่รู้เบื่อ และเมื่อแน่ใจว่าเด็กสาวไม่มีท่าทีกล้าขัดขืน เขาก็วางปืนในมือขวาลงไปบนโต๊ะ และเริ่มใช้สองมือขยี้เคล้นคลึงสองเต้าอวบไปพร้อมกันด้วยความหื่นกระหาย
กระนั้นลุงยามก็ไม่ได้เป็นแค่ชายหื่นไร้ประสบการณ์ เขาผ่านผู้หญิงมาไม่น้อย จึงไม่ได้กระทำรุนแรงโดยไม่ยั้งคิด สองมือหยาบคู่นั้นขยับเคล้นคลึงเต้านมใหญ่เนื้อแน่นไปพร้อมกับกระตุ้นจุดเสียวไม่หยุด นิ้วมือเกี่ยวสะกิดบดบี้ใส่ปลายถันสีชมพูอ่อนจนเริ่มแข็งขึ้นมาเป็นเม็ด สองมือช่วยกันปลุกเร้าเติมเชื้อไฟราคะให้ลุกโชนขึ้นมาทีละน้อย จนกานต์เริ่มจะรู้สึกแปลกใจที่ร่างกายของตัวเองเริ่มเกิดปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา
"อือออ ... อืมมม ..."
ความพยายามมากกว่าห้านาทีของลุงยามเริ่มส่งผล เสียงครางเริ่มหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากบาง ใบหน้าของกานต์เริ่มแดงระเรื่อจากเลือดลมที่สูบฉีดไปทั่วร่าง ถึงแม้ว่านักศึกษาสาวแสนสวยจะพยายามระงับอารมณ์ตนเองด้วยความอดสูอับอาย หากทว่าความเสียววูบวาบจากการโดนเล้าโลมอย่างต่อเนื่องก็ทำให้เธอเริ่มส่งเสียงครางออกมาโดยไม่อาจข่มกลั้นได้ไหว
"หึ หึ มีอารมณ์อยากโดนแล้วล่ะซินังหนู ฮ่า ฮ่า"
ลุงยามส่งเสียงหื่นขณะขยับสองมือบีบเคล้นหนักหน่วงกว่าเดิม ผิวกายขาวสะอาดละหน้าอกอวบอูมคล้ายจะดูดมือเอาไว้จนไม่อยากปล่อยออกแม้สักวินาที ความเนียนนิ่มเต่งแน่นจนร่องอกเบียดแนบชิดทำให้เขาเสียววาบจนน้ำลายสอ ลำคอกลายเป็นแห้งผากเพราะอยากกระหายอยากจะลิ้มลองรสความหอมหวานด้วยปากและลิ้นตนเอง
เขาแลบลิ้นเลียรอบปากรอบหนึ่ง ก่อนจะขยับตัวเข้าประชิด แล้วก้มหน้าอ้าปากลากลิ้นเลียใส่เนื้อสาวแสนหอมหวานด้วยความเอร็ดอร่อย ลิ้นสากลากละเลงไปบนเนื้อนิ่มทั้งข้างซ้ายและขวาสลับไปมา ในขณะที่มือทั้งสองข้างนั้นยังทำหน้าที่บีบขยี้เคล้นคลึงไม่ได้หยุด
"อือออออ ... อืมมมม ..."
กานต์หลับตาปี๋พยายามเม้มปากเก็บเสียงคราง หากทว่าเมื่อโดนดูดเลียขยำขยี้ไปพร้อมกัน ร่างกายของเธอก็กระตุกสะท้านอารมณ์ปั่นป่วนยิ่งขึ้น เธอลืมตามองดูศีรษะที่เถิกล้านเล็กน้อยของลุงยามซึ่งกำลังซุกหน้าลงบนทรวงอกด้วยความรู้สึกสับสนอดสู เธอไม่อยากยอมรับ หากทว่าร่างกายของเธอมีแต่จะตอบสนองต่อลีลาของลุงยามมากขึ้นเรื่อย ๆ
"ทั้งใหญ่ ทั้งหอม เนื้อแน่นถูกใจลุงจริง ๆ นังหนูเอ๊ย สุดยอด"
ลุงยามส่งเสียงพึมพำก่อนจะก้มหน้าลงไปดูดเลียทรวงเต้าอวบต่อด้วยความหิวโหย ปากหนาอ้างับตรงปลายถันแล้วดูดดังจ๊วบจนนักศึกษาสาวกระตุกเฮือก ผิวขาวราวไข่ปอกของกานต์เริ่มเกิดริ้วรอยแดงจ้ำจากแรงบีบเคล้นมากขึ้นทีละน้อย รอยจ้ำแดงส่วนใหญ่นั้นเกิดจากพี่อาร์ตในตอนเช้า อีกส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากนายบอล และเวลานี้ลุงยามกำลังทำการเพิ่มรอยแดงจ้ำให้อีกหนึ่งคน สรุปแล้ววันนี้นักศึกษาสาวสวยหน้าใสคนนี้ผ่านมือผู้ชายมาแล้วถึงสามคนด้วยกัน
ปลายถันสีชมพูอ่อนโดนดูดทึ้งด้วยความเมามัน ลุงยามอ้าปากงับดูดเลียด้วยความกระสันราวกับไม่เคยสัมผัสเนื้อสาวมาก่อน สองมือขยับลูบไล้ขยำขยี้ไปพร้อมกันจนสาวสวยหอบครางกระเส่า เธอเริ่มส่งเสียงครางวาบหวามออกมาดังแข่งกับเสียงดูดดังจ๊วบ
"อือออออ ... อย่า ... พอแล้ว ... ออกไปนะ อย่า ... อึ๊ยยย"
กานต์พยายามรวบรวมสติดิ้นรนผลักไสศีรษะของลุงยาม หากทว่าลุงยามกลับเกาะแน่นหนึบไม่ยอมปล่อยออก ก่อนหน้านี้เขาก็หื่นกระสันมากพอแล้ว แต่ยิ่งเห็นท่าทีดิ้นรนขัดขืนของนักศึกษาสาว อารมณ์ที่เดือดพล่านอยู่แล้วก็ยิ่งลุกโชนกระสันหน้ามืดยิ่งกว่าเดิม เขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะจัดการขั้นถัดไป
"ลืมตาซินังหนู ถ้าเอ็งใช้ปากทำให้ลุงเสร็จได้ ลุงอาจจะยอมปล่อยหนูไปก็ได้นะ"
ลุงยามอ้าปากคายทรวงเต้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย ก่อนจะยืนตัวตรงส่งเสียงตวาดเป็นเชิงออกคำสั่ง กานต์ซึ่งหลับตาปี๋ยอมรับสภาพอยู่จึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาในสภาพน้ำตานองหน้า เธอไม่ทราบว่าเขาพูดจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่มีความหวังเอาเสียเลย และหากว่าเธอสามารถทำให้เขาเสร็จได้ก็ไม่แน่ว่าเขาจะหมดแรงเพราะเริ่มแก่แล้วหรือไม่
เมื่อกานต์ลืมตาขึ้นมามอง ลุงยามก็รีบจัดการปลดถอดกางเกงเครื่องแบบออกไปจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ร่างเหี่ยวย่นของลุงยามกำลังยืนเปลือยเปล่าอยู่เบื้องหน้าหญิงสาว แก่นกายสีดำเมื่อมขรุขระขนาดมาตรฐานชายไทยเด้งออกมาผงกหงึกท้าทายสายตาเธอทันที
"อ้าปาก ทำให้ลุงเสร็จซินังหนู"
ลุงยามพูดเสียงหื่นพร้อมกับเอื้อมมือขวาลงไปบีบนวดแก่นกายสีดำเมื่อมแล้วรูดถอกแผ่วเบา เขาส่งเสียงหอบหายใจฟืดฟาดดวงตาแดงฉานด้วยความหื่นกลัดมัน ก่อนจะขยับตัวประชิดเข้าหากานต์ซึ่งนั่งบนเก้าอี้ แล้วแอ่นเอวจรดจ่อแก่นกายสีดำมะเมื่อมตะปุ่มตะป่ำที่ริมฝีปากบางสวย
"อ้าปากเร็ว ๆ ซินังหนู"
เสียงขู่คำรามดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเจ็บแปลบบนหนังศีรษะ กานต์โดนลุงยามดึงกระชากผมจนเจ็บน้ำตาเล็ด เธอไม่กล้าขัดคำสั่งจึงได้แต่สูดลมหายใจแล้วอ้าปากเปิดรับ และทันทีที่ประตูสู่สวรรค์เปิดอ้าออก ลุงยามก็เดินหน้ากดแก่นกายยัดเยียดเขาไปในโพรงปากนุ่มในทันที
กานต์ส่งเสียงอู้อี้ด้วยความตกใจพร้อมกับรีบยกมือขึ้นขวางกั้นไว้ เธอไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะเปิดฉากยัดเยียดเข้ามาอย่างดุดันเช่นนี้จึงตั้งตัวไม่ติด แต่ว่าแรงแขนน้อย ๆ ของเธอย่อมต้านทานเขาไม่อยู่ ลุงยามจับศีรษะของกานต์ไว้แล้วเดินหน้ากดแก่นกายเข้าไปจนเต็มปากเพื่อรับความเสียวโดยไม่สนอะไรทั้งสิ้น
กานต์เกือบจะอ้วกสำลักออกมาเพราะไม่ทันตั้งรับ ขนาดมาตรฐานชายไทยของลุงยามนั้นไม่ใช่ปัญหา เธอเคยใช้ปากทำให้พี่อาร์ตและบอลซึ่งยาวใหญ่กว่าแบบเกือบเท่าตัวมาแล้ว เธอจึงทราบว่าต้องทำอย่างไร หากทว่าลุงยามนั้นบุกเข้าใส่แบบไม่ปราณีปราศัย เมื่อสอดใส่เข้ามาจนเต็มปากแล้ว เขาก็เริ่มซอยบั้นเอวกระแทกใส่ไม่ยั้งจนเธอน้ำตาไหลพรากปั่นป่วนรับมือไม่ทัน
ลุงยามแอ่นเอวกระเด้าใส่โพรงปากนุ่มชื้นอย่างเมามัน เขาแอ่นยัดเข้าไปจนเกือบถึงคอหอย ก่อนจะลากครูดกับริมฝีปากบางแล้วยัดกลับเข้าไปใหม่ด้วยความเสียวซาบซ่านสุดขีด แก่นกายสีดำเมื่อมวิ่งเข้าวิ่งออกรอบแล้วรอบเล่าจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของกานต์ เธอได้แต่นั่งนิ่งตั้งสติหาจังหวะหายใจไม่ให้ขาดอากาศตายจากความดิบเถื่อนของลุงยามไปเสียก่อน
"นางหนูเอ๊ย ปากเอ็งมันสุดยอด ดูดเก่งยิ่งกว่ากะหรี่อีกนะเอ็ง อู้วว เสียวจริงโว้ย ซี้ดดสสส"
เสียงหยาบคายหื่นกระหายของลุงยามดังก้องไปทั้งห้อง มันคือความฝันลึก ๆ ของชายแก่คนหนึ่งที่ฝันว่าสักวันจะได้ทำแบบนี้สักครั้ง นักศึกษาสาวสวยเหมือนนางฟ้านั่งอ้าปากอมให้จนแก้มตุ่ย และเวลาเช่นนี้ต่อให้เธอไม่ได้ออกแรงดูดเลียอะไรเลย แต่แค่ได้กระเด้าใส่ปากนุ่มด้วยความเมามันก็มากเกินพอแล้ว
ขณะที่ลุงยามกำลังเมามันกับการกระเด้าท่อนเนื้อเข้า ๆ ออก ๆ ปากสวย กานต์ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนั่งนิ่งและหาจังหวะหายใจ เธอโดนกระแทกใส่จนเริ่มมึนงงเพราะศีรษะโยกคลอนไปมา แรกสุดเธอจึงรู้สึกอึดอัดขยะแขยงต่อต้าน แต่เมื่อโดนกระทำไปอีกช่วงเวลาหนึ่งจนเริ่มปรับตัวรับจังหวะได้ อารมณ์ร้อนร่านก็ทำให้เธอเริ่มเผลอออกแรงดูดใส่ท่อนเนื้อของลุงยามโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ร่างกายของเธอคล้ายกับตอบสนองด้วยตัวเองโดยไม่ต้องควบคุม เธอพบว่าอย่างน้อยทำเช่นนี้เธอก็จะเจ็บตัวน้อยลง เมื่อฝืนต้านไม่ได้ก็เอนตามลมไปก่อน
"อู้ววว ดูดแบบนั้นแหละนังหนูเอ๊ย สุดยอด กะหรี่ของลุง"
ลุงยามรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงทันที แรงดูดจากโพรงปากนุ่มของเด็กสาวทำให้ความเสียวพุ่งทะยานมากขึ้น ร่างดำคล้ำสั่นสะท้านกระตุกเมื่อปากของเธอออกแรงดูดจนแก้มตอบ บั้นเอวหนาเริ่มขยับกระเด้าช้าลงในขณะที่ศีรษะสวยได้รูปของนักศึกษาสาวเริ่มขยับโยกตอบรับเร็วขึ้น
กานต์เหลือบตาขึ้นด้านบนมองดูใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวของลุงยามแวบหนึ่ง ก่อนจะยกมือขวาขึ้นจับกุมตรงโคนท่อนเนื้อแล้วขยับมือรูดซอยยิก ส่วนศีรษะนั้นขยับผงกอ้าปากดูดเลียด้วยลีลาชั้นเลิศที่ถูกสามีสองคนแรกสอนสั่งมา เธอใช้ริมฝีปากบางครูดไปตามขอบผิว และใช้ลิ้นเลียละเลงตรงส่วนปลายหัว เมื่อเธอออกแรงดูดแต่ละครั้ง เสียงจ๊วบก็ดังขึ้นพร้อมกับความเสียววาบที่ทำให้ลุงยามหูอื้อตาลายแทบยืนไม่อยู่ ลีลาปากและลิ้นของกานต์นั้นจัดได้ว่าสุดยอดอย่างยิ่ง
"อูยยยย นังหนูเอ๊ย เสียวชิบหาย ปากยังเสียวขนาดนี้ เดี๋ยวได้เอาจริง ๆ จะเสียวขนาดไหน"
ลุงยามสูดปากครางหยุดขยับบั้นเอวโดยสิ้นเชิง เขาปล่อยให้เด็กสาวเป็นฝ่ายเคลื่อนไหวแต่ฝ่ายเดียว เพราะว่าลีลาปากและลิ้นของกานต์ทำให้แข้งขาสั่นหมดแรง แรงดูดเหมือนจะดูดเอาพลังออกไปจากร่างจนแทบยืนไม่อยู่ จะอย่างไรลุงยามก็อายุไม่น้อยแล้ว ร่างกายจึงไม่ได้แข็งแรงเหมือนสมัยหนุ่ม แต่ด้วยอยากรักษาหน้าเอาไว้ ลุงยามจึงพยายามฝืนยืนนิ่งเอาไว้เช่นนั้น
ได้ยินลุงยามพูดแบบนี้ กานต์ก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้า ก่อนนี้ลุงยามเพิ่งบอกว่าถ้าหากใช้ปากทำให้เสร็จได้ จะยอมปล่อยเธอไป แต่ฟังจากประโยคล่าสุดเธอแปลความหมายได้ว่าลุงยามจะต้องไม่ยอมปล่อยเธอไปอย่างที่เธอคิดไว้ เธอจึงเหลือบตามองด้วยท่าทีไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากประท้วงด้วยสายตา ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว
ลุงยามโดนดูดจนถึงจุดที่ใกล้จะทานทนไม่ไหว ดวงตาแดงฉานด้วยความหื่นกระหายก้มลงมองดูเด็กสาวในชุดนักศึกษา ก่อนจะตัดสินใจจับศีรษะของเธอให้หยุดนิ่ง แล้วขยับบั้นเอวถอดนแก่นกายมันปลาบออกมาจากปากบางอย่างรวดเร็ว กานต์กระพริบตาปริบ ๆ มองดูด้วยความงุนงงไม่เข้าใจว่าลุงยามทำอะไร เพราะเธอรู้สึกได้ว่าเขาใกล้จะเสร็จแล้ว
"แตกคาปากน่าเสียดาย ขอปล่อยแตกในดีกว่านะนังหนู"
ลุงยามพูดเฉลยเสียงดังพร้อมกับจับประคองร่างบางขึ้นไปนอนบนโต๊ะ กานต์เบิกตากว้างรีบส่งเสียงร้องห้ามเพราะทราบแล้วว่ากำลังจะโดนทำอะไร แต่เสียงประท้วงของเธอไม่ได้ส่งผลอะไร และเรี่ยวแรงของเธอก็ไม่แข็งแรงเท่าลุงยาม เพียงวูบเดียวร่างงามก็โดนโยนหงายแผ่หราบนโต๊ะ กระเป๋าถือที่สะพายไว้ร่วงหล่นลงไปบนพื้นจนข้าวของที่อยู่ข้างในเทกระจัดกระจายออกมาเกลื่อนเต็มโต๊ะ
"อย่านะ ไม่เอา พอแล้ว"
กานต์ส่งเสียงหวีดร้องห้ามและพยายามใช้มือน้อย ๆ ผลักไสปัดป้องร่างกายตนเอง แต่จะอย่างไรเธอก็ไม่สามารถสู้กับแรงหื่นได้ไหว กระโปรงสีดำสั้นเต่อโดนถลกขึ้นไปกองเหนือเอว เธอพยายามดิ้นรนขยับขาหนีบเข้าหากัน แต่ว่าแรงมือของลุงยามเหนือกว่า ไม่นานนักกางเกงในตัวน้อยก็โดนดึงทึ้งจนหลุดลุ่ยลงไปกองที่ข้อเท้า
ลุงยามถลึงตากว้างมองดูเนินสาวที่ไร้สิ่งใดปิดบังแล้วหอบหายใจหนักหน่วง นั่นคือเนินสาวที่สวยงามที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็น หากเป็นไปได้ลุงยามคงจะจัดการลงลิ้นฉกเลียให้หนำใจ หากทว่าในห้วงอารมณ์ที่ใกล้แตกระเบิดแบบนี้เขาตัดสินใจว่าจะรีบสอดใส่แล้วกระเด้าแตกในให้สาแก่ใจเสียน่าจะดีกว่า
"อย่านะ ไม่เอา อย่า"
กานต์ส่งเสียงร้องห้ามลั่นห้อง เธอทั้งดิ้นทั้งสะบัด สองมือทั้งหยิกทั้งข่วนสุดเท่าที่เรี่ยวแรงจะทำได้ แต่ดิ้นรนไปก็เท่านั้นเพราะว่าร่างหยาบหนานั้นจับสองขาของเธอแยกออกได้โดยง่าย อีกทั้งยังจับเอาแก่นกายมาจรดจ่อเตรียมบุกทะลวงสู่ประตูสวรรค์อยู่รอมร่อแล้ว
"อื๊ออ ช่วยด้วย ไม่เอา พี่อาร์ตช่วยด้วย ไม่เอานะ อย่า ... อ๊อย ... อูยยสสส"
เสียงร้องห้ามและอาการดิ้นรนเริ่มแผ่วลงไปทีละน้อย ปลายหัวบานร่าสีดำเมื่อมเริ่มกดเขี่ยใส่ตรงรอยแยกจนร่างงามกระตุก กานต์น้ำตาไหลพรากหมดความหวัง เธอนึกอะไรไม่ออก ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไร แต่ที่น่าคับแค้นก็คือเมื่อลุงยามเริ่มกดแทรกส่วนปลายหัวบานร่าเข้ามาในร่องสาว ร่างกายของเธอกลับส่งผ่านความเสียวจนเธอต้องสูดปากครางออกมาเสียงดังเหมือนมีอารมณ์ร่วมไปด้วย
"คับอะไรขนาดนี้นังหนูเอ๊ย อูยย เข้าไปเร็ว ๆ ซิวะ จะแตกอยู่แล้ว"
ลุงยามพยายามเดินหน้ากดแทรกด้วยความหน้ามืด หากทว่าความคับแน่นของเด็กสาวนั้นทำให้หนทางยากลำบากไม่น้อย และแก่นกายของลุงยามเองก็ไม่ได้แข็งเป็นท่อนไม้เหมือนสมัยหนุ่ม ๆ ไม่ได้แข็งแรงเหมือนของอาร์ตหรือบอลที่เคยมีอะไรกับกานต์ เมื่อเจอกับทางสู่สวรรค์ที่คับแน่นจึงทำให้เกิดอาการดันไม่เข้าขึ้นมาจนน่าหงุดหงิด
เสียงสบถด่าด้วยความโกรธเคืองดังออกมาจากปากของลุงยาม อารมณ์ในตอนนี้ใกล้จะแตกระเบิดเต็มที แต่ว่ากลับไม่สามารถกดแทรกเข้าไปในร่องสวรรค์ได้ เขาจึงรู้สึกเหมือนเห็นสวรรค์อยู่เบื้องหน้า แต่กลับไม่สามารถเปิดเข้าไปได้
ปัญหานี้ทำให้หงุดหงิดรำคาญมากพอแล้ว แต่ตอนนี้เสียงอะไรบางอย่างก็ดังสร้างความรำคาญเพิ่มขึ้นมาอีก สายตาแดงฉานของลุงยามกราดมองไปทางต้นเสียงก่อนจะพบว่าเสียงนั้นมาจากโทรศัพท์มือถือสีชมพูของเด็กสาวซึ่งกำลังส่องแสงวาบ ๆ อยู่บนโต๊ะ หน้าจอนั้นแสดงว่ามีใครบางคนกำลังโทรหาเธอ
ความหงุดหงิดทำให้ลุงยามเอื้อมมือลงไปจับโทรศัพท์มือถือ แล้วทำท่าเหมือนจะเหวี่ยงโยนทิ้งกระแทกกับผนังห้องให้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพื่อระบายความคับข้องใจ แต่แล้วดวงตาสีแดงฉานก็พลันเบิกกว้างเหม่อมองดูภาพบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วยืนนิ่งราวกับโดนสะกด
เวลาเดียวกันนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้กานต์ได้สติคืนมาส่วนหนึ่ง เธอลืมตามองไม่ทราบว่าทำไมลุงยามจึงหยุดเคลื่อนไหวทั้งที่บุกจนเกือบถึงจุดสำคัญแล้ว เธอไม่เข้าใจว่าทำไมลุงยามถึงได้ยืนนิ่งเบิกตากว้างเหมือนมองเห็นอะไรน่ากลัวเข้า แต่นาทีนี้เธอไม่ได้คิดจะทำความเข้าใจอะไรมาก เธอแค่เพียงต้องการโอกาสที่จะสามารถรอดไปได้ และเธอคิดว่าเธอเจออะไรบางอย่างเข้าแล้ว
มือของเธอวางทับอยู่บนโลหะเย็นเยียบอยู่นานแล้ว แต่ว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้มีสติคิดสนใจ จนกระทั่งเวลานี้เธอจึงค่อยรับรู้ว่ามันคืออะไร กานต์มองลุงยามที่ยืนตาค้างอีกครั้งเพื่อหาโอกาส เมื่อแน่ใจว่าลุงยามไม่ได้สนใจมองเธออยู่ เธอก็รีบขยับมือหยิบฉวยเอาของสิ่งนั้นขึ้นมาถือแล้วชี้ไปทางลุงยามทันที
"หยุดเดี๋ยวนะคะ"
กานต์ส่งเสียงด้วยใบหน้าแดงก่ำ เธออยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเหลือแต่กระโปรงสั้นเต่อตัวเดียวเหมือนนางแมวไร้เขี้ยวเล็บ หากทว่าในมือของเธอตอนนี้มีกระบอกปืนสั้นสีดำที่ลุงยามเผลอวางทิ้งไว้บนโต๊ะ และเธอก็กำลังหันปลายกระบอกปืนตรงไปทางลุงยามในท่าพร้อมยิง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยยิงปืนหรือเรียนมาก่อน แต่เธอก็พอจะทราบว่าสิ่งที่ต้องทำคือการลั่นไกปืน
เมื่อสิ้นเสียงขู่ของกานต์ ห้องก็จมอยู่กับความเงียบ เธอเขม็งตามองดูลุงยามที่หน้าซีดเผือดตัวสั่นแสดงท่าทีหวาดกลัวสุดชีวิตออกมา กานต์ขมวดคิ้วด้วยความฉงนไม่เข้าใจ แรกสุดนั้นเธอคิดว่าลุงยามอาจจะกลัวปืนในมือของเธอ แต่ยิ่งมองดูก็ยิ่งเหมือนไม่ใช่ เพราะสายตาของลุงยามนั้นไม่ได้สนใจมองปืนในมือของเธอสักเท่าไหร่ แต่เหมือนกำลังมองอะไรบางอย่างที่วางบนโต๊ะ
กานต์สงสัยตะหงิดแต่ไม่กล้าหันมองตามเพราะเกรงว่าจะเป็นแผนเบี่ยงเบนความสนใจของลุงยาม เธอจึงจ้องเขม็งถือปืนนิ่งเงียบไม่กล้าวอกแวก เพราะนี่อาจจะเป็นโอกาสรอดทางเดียวของเธอแล้ว
ร่างกำยำดำมะเมื่อมของลุงยามถอยหลังออกห่างท่ามกลางความรู้สึกโล่งใจของกานต์ แต่เธอยังคงไม่ประมาทถือปืนเล็งไปทางลุงยามตลอดเวลาทั้งที่เธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเธอจะกล้าลั่นไกยิงใส่ใคร กระนั้นยิ่งมองดูเธอก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
ลุงยามหน้าเหี้ยมที่ทำท่าเหมือนไม่เกรงกลัวผู้ใดตอนนี้หน้าซีดตัวสั่นจนฟันบนและล่างกระทบกันดังกึก ๆ ดวงตาเกรี้ยวกราดน่าหวาดผวาก็หดเล็กจนแทบจะเห็นแต่ตาขาว ร่างกำยำดำเมื่อมสั่นเทิ้มเหมือนโดนอากาศหนาวจัด แม้แต่กานต์เองก็ยังไม่เชื่อว่าลุงยามจะกลัวปืนในมือของเธอขนาดนี้
"ถอยออกไปห่าง ๆ ค่ะ"
กานต์ขยับตัวลุกขึ้นนั่งบนโต๊ะแล้วออกคำสั่งช้า ๆ เธอตัดสินใจเลิกคิดเรื่องอาการกลัวเกินเหตุของลุงยามไปก่อน เวลานี้สิ่งสำคัญคือเธอต้องทำให้ตัวเองปลอดภัยเสียก่อน
"ครับคุณ ... เอ่อ ครับคุณหนู ..."
ลุงยามตอบกลับด้วยน้ำเสียงหวาดผวาพร้อมทั้งยกมือไหว้ราวกับลูกแมวตัวน้อย กานต์ถึงกับอ้าปากเหวอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น แต่ว่าลุงยามที่ดุเหมือนหมานั้นกลายเป็นแมวน้อยไร้เขี้ยวเล็บโดยสิ้นเชิง เธอออกคำสั่งแค่คำเดียว เขาก็ถอยกรูดไปยืนหลบก้มหน้าสงบเสงี่ยมอยู่ตรงมุมห้องไม่แสดงท่าทีดุร้ายอะไรออกมาอีก และที่เธอไม่เข้าใจก็คือทำไมลุงยามถึงเรียกเธอว่าคุณหนู
"อย่าขยับนะ"
กานต์ส่งเสียงกำชับก่อนจะค่อย ๆ วางปืนในมือลงบนโต๊ะข้างตัว จากนั้นเธอจึงค่อยเริ่มหยิบเสื้อผ้ามาสวมใส่จนเรียบร้อย เธอยืนมองลุงยามที่หน้าซีดตัวสั่นอีกครู่หนึ่ง ก่อนจะขยับตัวมาเก็บกวาดข้าวของที่หล่นออกมาจากกระเป๋าสะพายกลับเข้าไปจนเรียบร้อย ตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้ลุงยามเหมือนกลายเป็นคนละคน
"ลุงมานั่งตรงนี้แล้วก็ลบไฟล์ของหนูออกไปด้วย"
นักศึกษาสาวสูดลมหายใจ เธอแน่ใจว่าตนเองเก็บของหมดเรียบร้อยแล้ว จึงหันเล็งกระบอกปืนและออกคำสั่งให้ลุงยามทำตาม คราวนี้ลุงยามก็ทำให้เธอแปลกใจอีกครั้ง เขายกมือไหว้ผงกหัวด้วยท่าทางสุภาพเรียบร้อย แล้วเดินอย่างสงบเสงี่ยมไปที่หน้าจอ และเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่าง
กานต์เขม็งตามองอย่างละเอียด เธอไม่แน่ใจนักว่าระบบบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดนั้นทำงานอย่างไร เธอไม่ทราบว่าการลบภาพจากอุปกรณ์บันทึกข้อมูลนั้นต้องทำอย่างไร แต่เธอแน่ใจว่าเธอสามารถรู้ได้ว่าลุงยามลบไฟล์ภาพนั้นทิ้งจริงหรือไม่
ลุงยามนั่งสูดหายใจครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือสั่นเทาไปกดบนแป้นพิมพ์ ภาพบนหน้าจอเปลี่ยนไปในขณะที่กานต์จ้องเขม็งมองเก็บทุกรายละเอียด ลุงยามเปิดแฟ้มบันทึกภาพขึ้นมา และกดเรียกคำสั่งลบจนไฟล์นั้นหายไปโดยไม่มีท่าทีตุกติกอะไร ทุกอย่างดูง่ายดายราบรื่นจนกานต์รู้สึกแปลกใจ แต่เธอก็ไม่เห็นความไม่ผิดปกติอะไรตรงไหน
"มีสำรองที่ไหนอีกหรือเปล่าคะ ลบให้หมดไปด้วยเลย"
กานต์ส่งเสียงถามซึ่งเธอเองก็ไม่แน่ใจนักว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้ได้อย่างไร ต่อให้มีระบบสำรองข้อมูลอะไรที่ไหนสักแห่ง เธอก็คงไม่มีทางรู้ได้เลย ยกเว้นเสียแต่ว่าเธอจะถอดเอาระบบบันทึกข้อมูลไปทำลายทิ้งให้หมด
"... น่าจะไม่มีแล้วครับคุณหนู ... แต่ว่าถ้าอยากให้สบายใจก็ต้อง" ลุงยามนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะขยับลุกพรวดจนกานต์สะดุ้งรีบเล็งกระบอกปืนไว้ระวังป้องกัน แต่ว่าลุงยามไม่ได้หันมาทางเธอ เขาเดินไปทางเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่แล้วหยุดยืนนิ่ง ก่อนจะทำเรื่องที่กานต์ตกใจ
คอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่นั้นโดนดึงสายไฟออกไปจนแสงดับวูบ ภาพบนหน้าจอนับสิบในห้องก็ดับวูบไปพร้อมกัน ลุงยามไม่พูดจาอะไรหยิบเอาไขควงมาหมุนถอดน๊อตยึดออกจนหมด ก่อนจะถอดฝาครอบเครื่องสีดำออกมาวางบนพื้นท่ามกลางความงุนงงของกานต์
กานต์ไม่เข้าใจระบบคอมพิวเตอร์มากนัก แต่เธอพอจะทราบว่าอุปกรณ์ภายในนั้นมีอะไรบ้าง และเธอก็ทราบว่าเจ้าสิ่งที่ลุงยามเพิ่งแงะออกมานั้นคืออุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่เรียกว่าฮาร์ดดิสก์ ภาพจากกล้องวงจรปิดควรจะถูกบันทึกเอาไว้ในนี้
นักศึกษาสาวสวยถือปืนพลางกระพริบตาปริบ ๆ ตื่นตกใจ เธอไม่คิดว่าลุงยามจะทำอะไรแบบนี้ หากทว่าการกระทำนี้คล้ายเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เพราะว่าหลังจากถอดออกมาแล้ว ลุงยามก็หอบหิ้วฮาร์ดดิสก์จำนวนห้าตัวเดินไปทางห้องน้ำ ก่อนจะโยนมันลงไปในถังแล้วเปิดน้ำจากก๊อกใส่โดยไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ
กานต์เบิกตากว้างมองดูด้วยความงุนงง สิ่งที่ลุงยามกำลังทำนั้นเรียกได้ว่าเป็นวิธีการทำลายข้อมูลขั้นเด็ดขาด การลบไฟล์ภาพทิ้งนั้นในทางหลักการแล้วอาจจะสามารถกู้ไฟล์คืนมาได้ แต่หากจัดการทำลายตัวฮาร์ดดิสก์ด้วยการแช่น้ำนั้นโอกาสกู้คืนจะยิ่งยากลำบากขึ้นหลายเท่า เพียงแต่เธอไม่คิดว่าลุงยามจะกล้าทำถึงขึ้นนี้
ระหว่างที่กานต์ยืนนิ่งอึ้งอยู่นั้น ลุงยามก็เริ่มทำสิ่งที่เธอต้องอึ้งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง หลังจากนำฮาร์ดดิสก์ไปแช่น้ำจนชุ่มแล้ว เขาก็หยิบเอาพวกมันเดินตรงไปทางตู้ไมโครเวฟ เขาโยนพวกมันใส่เข้าไปแล้วเปิดเครื่องไมโครเวฟให้ทำงาน
เสียงเปรี๊ยะและประกายไฟดังแวบอย่างต่อเนื่อง ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากเตาไมโครเวฟพร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ กานต์ยืนเหม่อมองดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ ลุงยามคนนี้จัดการทำลายล้างข้อมุลได้สะอาดเอี่ยมเรียบร้อยจนเธอไม่มีทางคาดถึง
"เรียบร้อยครับคุณหนู รับรองว่าไม่มีข้อมูลเล็ดลอดเด็ดขาด"
หลังจากจัดการเรียบร้อยลุงยามก็หันมาก้มหน้าโค้งคำนับด้วยท่าทีเคารพนอบน้อมอีกครั้ง กานต์ทำตัวไม่ถูกไม่ทราบว่าควรพูดตอบหรือไม่ เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ เธอเดินอ้อมหลบไปทางประตูและกวาดตามองเป็นครั้งสุดท้ายว่าไม่ลืมสิ่งใดเอาไว้ เธอมองดูลุงยามที่ยืนสงบนิ่งด้วยความรู้สึกอยากถามอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็กลั้นใจไม่ถามและปิดประตูเดินออกมาจากห้องนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
กานต์เดินย่ำเท้าเลี้ยวไปมาในความมืดของหอประชุมใหญ่ หัวใจของเธอเต้นระรัวเร็วกลัวว่าจะจะมีเรื่องแทรกซ้อนจึงรีบเดินให้เร็วที่สุด และด้วยความเร่งร้อนทำให้เธอเผลอสะดุดขั้นบันไดจนเซถลาเกือบล้ม ยังดีที่ยื่นมือคว้าราวบันไดและทรงตัวได้ทัน แต่ว่าปืนกระบอกสีดำในมือนั้นกลับหลุดร่วงกลิ้งลงบันไดแล้วกระแทกกับพื้นจนหลุดกระจัดกระจายเป็นหลายชิ้นส่วน
นักศึกษาสาวพยายามสงบสติอารมณ์และเดินลงบันไดฝ่าความมืดไป เธอจัดการเก็บชิ้นส่วนของปืนขึ้นมา เพราะไม่อยากจะทิ้งเอาไว้ให้คนสงสัย แต่เมื่อถือชิ้นส่วนนั้นในมือเธอก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ ปืนในมือเธอก่อนหน้านี้มองอย่างไรก็เหมือนปืนจริง ไม่ว่าจะน้ำหนักหรือรูปร่าง หากทว่าเมื่อมันแตกกระจายออกกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ชิ้นส่วนโลหะในมือเธอนั้นหากประกอบเข้าหากันจะดูเหมือนปืนอย่างไม่ผิดเพี้ยน แต่ว่าเมื่อมันหลุดมาเป็นชิ้น เธอกลับพบว่ามันเป็นโลหะแท่งตันไม่มีช่องว่างด้านในเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ยิงใส่ใคร มันคือปืนปลอมเสียมากกว่า
กานต์ขมวดคิ้วหงุดหงิดเมื่อพบว่าตนเองโดนปืนปลอมข่มขู่จนเกือบเสียท่าให้ลุงยาม หากทว่าเมื่อขบคิดต่อมาเธอก็ยิ่งฉงนสงสัย เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ลุงยามจะไม่รู้ว่าปืนนี้เป็นของปลอม แต่ว่าทำไมเขาจึงแสดงท่าทีหวาดกลัวตอนที่เธอปืนขู่ใส่
ระหว่างที่ยังขบคิดไม่เข้าใจนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้นจนกานต์สะดุ้งโหยง เธอรีบมองซ้ายมองขวาและรีบวิ่งไปทางประตูที่ใกล้ที่สุดเพื่อออกไปจากหอประชุมเสียก่อนเพราะยังรู้สึกไม่ปลอดภัย รอจนเมื่อเธอเปิดประตูออกไปโลกถายนอก มองเห็นเพื่อนนิสิตนักศึกษาเดินไปมาเธอจึงค่อยรู้สึกโล่งใจ
กานต์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเมื่อรู้สึกปลอดภัยแล้ว ภาพบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอกำลังแสดงภาพเธอหอมแก้มพี่อาร์ต ซึ่งภาพนี้จะแสดงขึ้นมาหากพี่อาร์ตเป็นคนโทรหา และเธอยังเห็นรายการสายโทรเข้าที่ไม่ได้รับว่าเมื่อครู่นี้ตอนกำลังเกือบเสียท่านั้นพี่อาร์ตเป็นคนโทรมาหาจนเธอได้ยินเสียงและได้สติคืนมา
นักศึกษาสาวยิ้มน้อย ๆ ให้กับรูปในโทรศัพท์ เธอยังไม่เข้าใจว่ารอดมาได้อย่างไรก็จริง แต่อย่างน้อยเธอก็ได้ตัดสินใจยกความดีความชอบให้พี่อาร์ตไปแล้ว เพียงแค่เพราะว่าเขาเป็นคนโทรมาจนเธอได้สติในห้วงวิกฤต เธอรีบกดรับโทรศัพท์แล้วเดินกลืนไปกับกลุ่มนักศึกษาโดยไม่ได้คิดสงสัยอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ลุงยามแสดงท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
อาร์ตเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทองแน่นอน
ซิวนางเอกครบ 3 คนแล้วด้วย คราวนี้ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องจะเดินไปทางไหน
ขอติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะครับ
เนื้อเรื่องน่าติดตามครับ นอกจากอาร์ตจะทำตัวเป็นหนุ่มลึกลับที่ได้เคลมสามสาวแล้ว ตัวตนที่แท้จริงของอาร์ตจะใช่คุณอาทิตย์ไหมนะ ติดตามนะครับ ขอบคุณมากๆ
ขอบคุณครับ ผมนี่ลุ้นให้โดนดันรอดอีกแล้วววว ::YarKK:: ::YarKK::
::Shy:: อิจฉาอาร์ตอ่ะ
เก็บ 3 เลย ::JubuJubu::
หวุดหวิดจริงๆ นะเนี่ย สงสัยนายอาร์ตจะมีไรเด็ดๆ ซะแล้ว
เรื่องนี้มีเงื่ยนงำ เอ้ย เงื่อนงำ แน่ๆ อาร์ตคือใครกันน้าาาา หรือจะเป็นหัวหน้าพรรคยามจกที่ปลอมตัวมากันแน่ ::Evil::
เกือบไปนะครับ รอดหวดหวิดตามชื่อตอนจริงๆ ผมอาจเม้นไม่เยอะเท่าไหร่ในเรื่องนี้เพราะไม่ใช่สไตล์ที่ผมชอบนะครับ หวังว่าไม่ว่ากันนะครับ
ถึงอาร์ตจะเป็นเจ้านายก็กลัวเกิ้นมันต้องมีอะไรแน่ๆ555ขอบคุณครับ
บางทีนายอาร์ต อาจจะเป็นเจ้าพ่อ มาเฟีย น้ะเนี้ย แค่เห็นเบอร์กับรูปถึงกลับกลัว ขนาดนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ ครับ
ต้องร้องโอ้โหเลยกับการลุ้นระทึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกานแต่พออ่านมาจนจบตอนก้ทำให้รู้สึกว่างานคงเข้านายบอลแล้วดิแบบนี้..ขืนนายบอลมาทำลุ่มล่ามกับกานอีกคงโดนคุณลุงยามแอบสั่งสอนแน่ๆเลย...ลุ้นสนุกเลยครับรอดอย่างหวุดหวิดจิงจิงเลย..ขอบคุณครับ
ลุงยามรู้ว่าเป็นเมียเจ้านายนี่เอง ไม่งั้นน้องกานต์เสร็จแน่ๆ อ่านไป ลุ้นไป มีหักมุมตอนท้าย ชอบมากครับ
อิจฉาพระเอกของเฮียจริงๆ กินรวบตลอดเลย
โธ่นึกว่าลุงจะมีทีเด็ด นายอาร์ตนี่บารมีไม่เบาทีเดียว เดาว่ารูปลูกสาวลุงน่าจะเป็นพวกอรอนงค์ จะมีเซอร์ไพรซ์ผู้อ่านอีกรึเปล่านะครับ ขอบคุณครับ
ใครจะเป็นคนช่วยนะ
ขอบคุณมากครับ
คราวนี้รอดไปเพราะนายอาร์ตช่วยไว้..แต่นายอาร์ตจะมีวิธีไหนที่จะทำให้สองพี่น้องนี่ร่วมกันใช้ผัวคนเดียวกัน..
แต่คงไใม่ยากหรอก..พีสาวใหญ่ซิท่าทางจะอาการหนักหน่อย..เจอกับบอสใหญ่ที่แค้นมาตั้งแต่รุ่นแม่ แถมคงมีเรื่อง
ผลประโยชน์ด้วย
เฮ้อ...อย่างน้อยก็ยังมีโชคดี หลุดพ้นจากลุงยามมาได้
ถึงแม้จะต้องกลับไปใช้ผัวร่วมกับพี่และน้อง ก็ยังดีกว่านะ
สงสัย...อาร์ต คือใครกันแน่ เรื่องถึงได้หักมุมเมื่อลุงยามเห็นภาพอาร์ตในโทรศัพท์
ขอบคุณนะครับ
กานต์ เกือบไปแล้วดีนะพี่อาร์ทยังขี่ม้าขาวมาช่วยแบบอ้อมๆ
รอดหวุดหวิด...ตามชื่อตอนจริงๆด้วย
แต่ก็น่าสงสัย...ว่าทำไมเห็นรูปนายอาร์ตแล้ว
ลุงยาม...ชะงักไปเลย ไม่เดินหน้าต่อ
ทั้งๆที่กำลังหน้ามืดและเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนั้น..
เนื้อเรื่อง..น่าติดตามมาก..
ขอบคุณ ผู้แต่ง ที่นำเรื่องดีๆแบบนี้มาแบ่งปันครับ
เอ๊ะ นี่มันแฟนเจ้านายนี่นา รอดไปได้หวุดหวิดจริงๆนะน้องกานต์
อาร์ท=อาทิตย์ น่าสนใจครับ
ยอดเยี่ยมครับ นอกจากจากบทเลิฟซีนที่เป็นมาตรฐานของท่านassแล้วยังมีการเชื่อมต่อของตัวละครได้อย่างคาดไม่ถึงแต่เนียนสุดๆอีกด้วย สรุปแล้วทุกคนในเรื่องนี้เกี่ยวข้องกันหมดเลยไม่เว้นแม้แต่ลูกลุงยามซึ่งผมคิดว่าเป็นสองพี่น้องคู่อริของกานต์กับผกายแก้วนั่นเอง แต่แอบอดเสียดายแทนลุงยาม แฮ่ๆ
เจ้าพ่อปลอมตัวมาเป็นยามแถมได้ฟัน3สาวพี่น้องแบบไม่รู้กันกว่าใครเป็นใครอีก ชอบมากๆครับ
สัตว์ทุกตัวต้องมีเขี้ยวเล็บถึงจะรอดอยู่ได้ในป่าอันโหดร้าย อ่านตอนนี้คิดถึงคำพูดนี้เลยครับ เอาใจช่วยกานต์กับหนุ่มอาร์ตครับ ขอบคุณท่านแอสมากครับ
นายอาร์ต นี่ไม่ใช่ขี้ๆ แน่ครับ แต่ก็คลายให้เห็นบ้างแล้วว่าเป็นใคร
ลุงจัดไปเกือบเสร็จละ ล่มเลยเฮ้ออ ::Goaway:: ขอบคุณครับ
อ้างจาก: yamiki เมื่อ ธันวาคม 08, 2016, 07:45:28 หลังเที่ยง
ตาลุงยามเอาลูกตัวเองเลยเหรอครับเนี่ย 5555
อาจจะเป็นหนึงในนางเอกมั้งครับ เพราะเห็นกานว่าหน้าคุ้นๆ แต่ไม่ใช่กานต์ ส่วนคุณอาทิตย์นี่อาร์ตแน่ๆ
ปล.ผิดถูกไม่รู้น่ะครับเพิ่งอ่านตอนนี้ตอนแรก
เหมือนลุงยามจะกลัวนายอาร์ตมากๆ น้องกานต์เลยรอดมาได้อย่างหวุดหวิด น่าสงสัยว่าทำไมถึงกลัวนายอาร์ตขนาดนั้น
น้องกานต์เกือบโดนซะแล้ว เนื้อเรื่องยังตื่นเต้นเช่นเดิม ขอบคุณครับ
น้องกานต์เกือบไปแล้วสินะ นายอาร์ตนี่คือนายอาทิตย์เจ้านายลุงยามแน่ๆ แต่สงสัยว่าลูกสาวลุงนี่ต้องเป็นพี่น้องสองสาวคู่แข่งพี่แก้วน้องกานต์รึป่าวนาา
สามสาวตาถึงจริงๆ
คุณอา...ทิตย์ 5555555 ชื่อเค้าจะเป็นพระอาทิตย์ทั้งตระกูลเลยเหรอ
หลานชื่อแดด ::HoHo::
ถ้าลุงแกรู้ว่าเมียเจ้านายจะทำหน้าไงหว่า 55
::HoHo::
1.นายอาทิตย์ = นายอาร์ต
2.ลุงยาม ก็คือลุงที่คุยกับนายอาร์ตตอนเก่าๆ
3.ลุงยาม น่าจะช่วยและมีประโยชน์กับกานต์มาก
4.พล็อตเรื่องต่อๆไป คือการที่นายอาร์ตจะต้องเผชิญกับเกมกลยุทธ์ศึกชิงนางกับนายสิงห์ และไอ...คนที่ลวนลามแก้วอะครับ
ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้ พี่ อาร์ตกับพี่เอก นี่ ::Thankyou:: ขอคาราวะ
ขอบคุณมากครับท่านAss ขอเรื่องอื่นสักนิดก็ดีนะครับผม.อารมณ์ค้างอยู่หายเรื่องเลยคราบบ
ตอนนี้สนุกมากในแง่ของการหักมุม เพื่อ คลายและผูกปม ของเรื่องครับ
หักมุม ให้น้องกานต์ รอด
คลายปม ว่า พี่เทพยามพระเอก(?)ของ เราไม่ใช่ยามปกติ (อาจจะเป็นหัวหน้า รปภ Guild)
และผูกปมใหม่ว่า พระเอกเรานี่ มีเบื้องหลัง อย่างไรอีก
อ่านแล้วบันเทิงมากครับ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากครับ
ผมว่านายอาร์ต กับคุณอาทิตย์ต้องเป็นคนๆเดียวกันแน่ๆเลยครับ ค่อยๆเผยเรื่องให้พระเอกของเราทีละนิด แถมยังได้เคลม 3สาว ต่อไปคงลุ้นว่าเมื่อไหร่ตัวตนจริงๆของอาร์ตจะเปิดเผย
ขอบคุณครับ สงสารน้องกานต์จัง
อาร์ต อาทิตย์ ได้อยู่นะ
แต่ว่าเคารพก็ส่วนนึง แต่นี่เหมือนหวาดกลัว ไม่รู้เบื้องลึกจะเป็นอย่างไร น่าติดตามมาก
ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ขอบคุณมากครับ ที่ลงให้ติดตาม
อาร์ตคืออาทิตย์ ส่วนลูกสาวลุงยาม คือ สองสาวพี่น้องตัวอิจฉา ที่เป็นคู่กรณีของแก้วกับกานต์ .. ยืนยันคำตอบจ้า ::DookDig::
ขอบคุณครับ
อาร์ต....คืออาทิตย์นี่เอง.....ลุงยามเลยเหวอเลย
หวุดหวิดจนจิตหงุดเงี้ยวหรอป่าวลุงยาม
อาร์ทเป็นลูกเจ้าของบริษัทยาม โดนส่งมาฝึกงานชัวร์ ::Dizzy::
ขอบคุณครับ..พี่อาร์ตคงไม่ใช่แค่ รปภ.ธรรมดาตามที่เข้าใจในครั้งแรกจริงๆสินะ และความลับนี้จะค่อยๆเปิดเผยขึ้นมา แต่ผลจะเป็นอย่างไรกับสามสาวนะ
อาร์ตก็อาทิตย์ อืม ไม่ใช่ว่าจกลงนั้นบูกตัวเองหรอกนะนั้น เรื่องซับซ้อนมาก แถมตัวละครยังโยงกันอีก
ลุ้นมากเลยครับ นึกว่าจะโดนซะแล้ว
เอ่อ ไม่ใช่ว่าอนงค์เป็นลูลุงยามเหรอเนี่ย (มโนล้วนๆ) ปกติปูเรื่องแนวนี้ถ้าเป็นนักเขียนคนอื่นคงจะฮาเร็มสาม แต่กับทั่นผมละหวั่นยิ่งบอกมาก่อนว่าดาร์กหน่อย มโนต่อไม่ถูกเลยครัช ::Me?::
นานเลยไม่ว่างมาอ่านพออ่านก็ติดพัน(มือไม่ว่างเลย ::Shy:: ไม่ใช่ละ ::Sweat:: ) ขออภัยที่รวบยอดเม้นแค่สองทีนะครับทั่นหมายเลขแปด ::Sobad::
ชอบมาก ยิ่งอ่านยิ่งสนุก ขอบคุณครับ
ผมอ่านข้ามนินา ข้ามหลายตอนด้วย ตายละหวา
เจอเด็กเจ้านายไป หงอยเลยนะลุงงงง
หวุดหวิดจริงๆ เกือบเสร็จ เกือบโดน ความหลัง สุดยอดครับ
เดาผิด ... ไม่คิดว่าจะหวุดหวิดอย่างนี้ แล้วเรื่องนายบอลจะแก้ไขยังไงละ
ขอบคุณครับ
รอคอย ติดตาม มาสะที ขอบคุณครับ
เรื่องราวชวนให้ตื่นเต้นไปในทุกตอนที่ได้อ่าน ซับซ้อนแต่สนุกตลอดเวลาเลย
ติดตามครับ รอบทแก้วกับอาทอยู่ครับ
โทรมาทันเวลาจริงๆ เลยพี่ แม้จะเข้าไปนิดนึงก็เหอะ
เฝ้ารอ ตอนต่อไป
ถ้าผมเป็นยาม คงเสร็จคาปากก่อนแน่ๆ
โดนนายบอลเข้าไปเต็มๆลำ ไอ้ที่หวุดหวิดนี่น่าจะมาจากเกือบโดนลุงยามมากกว่าหรือเปล่า
ตามหลักกฎหมายนี่เข้าไปแค่องคุลีเดียวก็เป้นผลแล้วละครับ
ขอบคุณครับ แอบอิจฉาพระเอกของเรื่องจริงๆ
เกือบโดน ซะแล้ว น้องกานต์ รอดมาได้
นายอาร์ต จะเป็นใคร กันแน่
น่าสงสารน้องกานนะครับ เสน่ห์แรงเกินห้ามใจ มีแต่คนจ้องจะจับกิน ดีนะอาร์ตช่วยไว้ได้ทันแบบหวุดหวิดเลย ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
นายอาร์ตนี่ไม่น่าจะแค่แอบรวยธรรมดาๆแล้วซิเนี่ย
แจ่มครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน!! ::Falling::
ขอบคุณมากครับ
ภาพประกอบ น่ารัก
ขอบคุณครับบ
น้องกานต์จะรอดใหม
สุดยอด