สวัสดีอีกรอบครับ ถือว่าเป็นการเบิ้ลให้ หลังจากหายไปนาน ลงไปสองตอนเลยเพื่อความจุใจ ยังไงก็ช่วย คอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ตอนนี้มีซ่อนข้อความ ต้องแสดงความคิดเห็นก่อนนะครับ
และเมื่อหลังอ่านจบทั้งหมด อยากให้กลับมาอ Edit และคอมเมนต์เพิ่มด้วยครับผม
ตอนที่ 26 : พี่อั้ม กับ นายริว 2
ตู้ม !!! ริวกะใช้ท่าของรินที่เคยสอนเขาตอนเด็กๆเอามาใช้ มันเป็น 1 ในกระบวนท่าของวิชาลับประจำตระกูลเฉกเช่นเดียวกับ นาเดชิโกะ แต่ท่านี้พลังทำลายจะมากกว่านาเดชิโกะหลายเท่านัก ในอดีตรินเคยใช้ท่านี้เพื่อทำลายประตูเหล็กกล้าหนากว่า 1 ฟุตมาแล้ว
ภาพตรงหน้านั้นคือ บอดี้การ์ดร่างยักษ์ของไอ้เพียวนั้นลงไปนอนกองกำพื้นเลยทีเดียว อีกทั้งต้นไม้ที่มันใช้พยุงตัวก็เกิดรอยแตกขึ้นด้วย และสิ่งที่มันน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมนั้นคือเสื้อของมัน รอยขาดนั้นแสดงให้เห็นว่า พลังที่อัดกระแทกเข้ามานั้นมหาศาลเพียงใด ขนาดเสื้อกันกระสุนที่ว่าหนายังปริขาดราวกับเสื้อผ้าราคาถูก
แต่สิ่งที่แปลกนั้นก็คือ คนที่ผ่านไปผ่านมานั้น ทำแค่มองๆและเดินผ่านไป พวกเขาไม่คิดว่านี่คือการชกต่อยหรือมีเรื่องกันด้วยซ้ำ ท่วงท่าที่สวยงาม การโจมตีที่ดูแบบมีแผน ทำให้พวกเขาคิดว่า กลุ่มของริวกะและไอ้เพียวกำลังฝึกซ้อมกีฬากันเสียมากกว่า เพราะที่นี่ก็คือสถานที่ออกกำลังกาย จึงไม่แปลกเลยที่จะมีชมรมศิลปะการต่อสู้ตั้งอยู่ในที่นี้ และนั่นก็คือเหตุผลที่พวกเขาไม่สนใจและวิ่งออกกำลังกายกันต่อไปยังไงล่ะ
[ เวย์ ] : โอโห มึงแม่งเกินมนุษย์ไปละมังกร มึงต่อยทะลุเสื้อกันกระสุนเลยเหรอวะ
เวย์ที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 1กิโลเมตร ถึงกับเสียวสันหลังว่าบ ว่าบ ว่าบ เพราะตอนนี้ไอ้มังกรเพื่อนของเขาได้โชว์เทพอีกแล้ว คราวนี้แม้จะไม่ได้ดูคลั่งหรือขาดสติแบบตอนที่สู้กับพวกไอ้นพ แต่ว่าแต่ละหมัดที่ออกไป มันสามารถทำให้คนที่โดนนั้นหมดสภาพได้ในครั้งเดียวเลยก็ว่าได้ แต่ว่าความเสียวมันไม่ได้มีแค่นั้นเพราะว่าความมันส์มันกำลังจะเริ่มขึ้นจากนี้ต่างหาก
บรืน !!! ในขณะที่ไอ้เพียวกำลังสิ้นไร้ไม้ตอกนั้น ก็ได้มีรถแบรนด์ตรา 3 แฉก ขับมาจอดที่ตรงหน้าของมัน ทันทีที่เห็นรมันก็ยิ้มทันที เพราะนี่ก็คือรถของอามันนั่นเอง อาที่มันได้รับเลือดชั่วๆมามากกว่าพ่อตัวเองด้วยซ้ำ
[ เพียว ] : คุณอาครับ
[ อาเหี้ยเพียว ] : อ้าวว่าไงเพียว บังเอิญจังเลยนะ ( ไอ้ตอแหล ) มาทำอะไรเนี่ย
[ เพียว ] : ผมพาอั้ม มาเดินเล่นน่ะครับ พอดีมีคนมาป่วน เลยมีปัญหานิดหน่อยครับ
[ อาเหี้ยเพียว ] : เอ๋ อั้ม อ๋อแฟนเราน่ะเหรอ ไหนล่ะ
อาไอ้เพียวนั้นรีบสวมบทบาทคุณอาผู้แสนดีทันที เขาทำทีเป็นถามหาอั้ม ส่วนไอ้เพียวก็ยิ้มเลย มันคิดว่ายังไงซะถ้าอาเป็นคนออกตัวล่ะก็ อั้มต้องไม่กล้าปฏิเสธแน่ๆ เพราะอั้มน่าจะรู้ดีว่าอาของเขานั้นมีอำนาจแค่ไหน แต่ว่า...
[ อั้ม ] : ขอโทษค่ะ เพียวกับอั้มไม่ได้มีฐานะเป็นแฟนกันแล้วค่ะ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมโลกที่ดีต่อกันค่ะ
คำพูดของอั้มนั้นทำไอ้เพียวถึงกับหน้าเสียเลย มันไม่คิดว่าอั้มพูดแบบนี้ต่อหน้านาย ภูษิต กรรมการบริหารของบริษัทแสงโรจน์ ผู้ที่มีอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆของประเทศแบบนี้ ส่วนนายภูษิตก็ถึงกับหน้าเสียเหมือนกันที่กล้ามีคนมาหักหน้าเขาแบบนี้ และดูเหมือนพี่แกจะจุดเดือดต่ำเสียด้วย เพราะทันทีที่ถูกหยามหน้าสันดารก็เริ่มออกทันที
[ ภูษิต ] : เอ... อาว่าพวกเราไปหาที่เงียบๆนั่งคุยกันดีกว่ามั้ย จะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
ทันทีที่พูดขึ้นมา ไอ้บอดี้การ์ดส่วนตัว ทั้ง4 คนก็เดินเข้าหาอั้มทันที แน่นอนว่าความหมายของนายภูษิตนั้นคือ จับอีนี่มาให้กู ดังนั้นพวกมันจึงไม่รอช้าและเดินเข้าไปจับตัวอั้มทันที แต่ว่า มั่บ !!! มีใครบางคนโผล่มาและจับล็อคข้อมือของพวกมันไว้ทันที
[ ยามิ ] : ไม่ดีนะครับที่ทำแบบนี้ !!!
[ อั้ม ] : พี่ยามิ
ยามินั่นเอง อยู่ดีๆยามิก็โผล่มาและจับล็อคมือของไอ้คนที่กล้าแตะต้องลูกสาวบุญธรรมของนายท่านริน กรึ้กก !!! ยามิแค่บิดเบาๆเท่านั้นบอดี้การ์ดตัวโตถึงกับลงไปนั่งคุกเข่าพร้อมสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างยิ่ง
[ ภูษิต ] : เฮ้ย !!! กล้าทำร้ายคนของชั้นได้ยังไง ( เกรียนแตก ) รู้หรือเปล่าชั้นเป็นใคร ปล่อยมือคนของชั้นเดี๋ยวนี้
[ ยามิ ] : รู้สิ่ครับ คุณภูษิต นิมิตทรัพย์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท แสงโรจน์ จำกัดมหาชน สิ่นะครับ
[ ภูษิต ] : งั้นก็ดี งั้นแก ก็จงปล่อยคนของชั้นซะ
และยามิก็ปล่อยมือคนของนายภูษิตตามที่เขาร้องบอก ไอ้บอดี้การ์ดคนนั้นถึงกับรีบลุกขึ้นด้วยท่าทีที่หวาดกลัว ชายตรงหน้า ( ยามิ ) สูงแค่ 180 จริงอยู่ที่ดูผ่านเสื้อผ้าก็น่าจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แต่ไอ้การบีบมือของมันจนมันเจ็บปวดจนยืนไม่ไหวนั้นมันผิดปกติเกินไป เพราะตอนที่อยู่ในโรงเรียนสอนบอดี้การ์ด เรื่องพละกำลังของมันก็ไม่เป็นสองรองใครในรุ่น แต่ตอนนี้มันเหมือนว่ากลายเป็นเด็กที่ไร้เรี่ยวแรงและไร้หนทางที่จะต่อสู้เลยก็ว่าได้
[ บอดี้การ์ด ] : นายครับ ผมว่าเราถอยกันก่อนเถอะครับ ไอ้นี่มันไม่ธรรมดานะครับ
[ ภูษิต ] : มึงจะกลัวอะไรมันนักหนา นายภูษิตคนนี้ไม่เคยถอย ไม่เคยอ่อนข้อให้คนที่คิดเป็นปฎิปักษ์ ใครหน้าไหนมันหยามชั้น มันต้องพังกันไปข้างนึง คิดว่าตลอดเวลาเกือบ 10 ปีที่ชั้นยืนอยู่ในธุรกิจนี้ได้ เพราะชั้นยอมคนงั้นเหรอ
[ ยามิ ] : จะว่าไปแล้วผมลืมแนะนำตัวเลยครับ ผม คุเรไน ซึบาสะมารุ ผู้ตรวจการณ์จากอิซานางิ ครับ
ทันทีที่เอ่ยชื่อขึ้นมา ทั้งนายภูษิต และบอดี้การ์ดทุกคนถึงกับอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก คุเรไน ซึบาสะมารุ หรือรู้กันในนามผู้ตรวจการของบ้านใหญ่ เขามีหน้าที่ในการตรวจสอบบริษัทต่างๆในเครืออิซานางิกรุ๊ป และไตรภาคี ว่ากันว่าเขาสามารถไปมาได้ราวกับสายลมก็มิปาน ทั่วทั้งภูมิภาคเขาสามารถเดินทางไปมาได้ราวกับหายตัว ตลอด 10 ปีที่ผ่าน ชื่อของ คุเรไน เป็นที่หวาดกลัวของผู้ที่คิดคดทรยศต่อไตรภาคีเป็นอย่างมาก
[ ภูชิต ] : และ และ และคนของอิซานางิกรุ๊ป มีธุระอะไรกับผม ไม่ทราบ
[ ยามิ ] : นั่นสิ่นะครับ
ยามินั่นตอบอย่างเรียบๆ เหมือนว่าไม่สนใจอะไร แต่ตอนนี้เหงื่อของนายภูชิตเรียกได้ว่า แตกพลั่กๆเลย นั่นเพราะว่านายภูษิตนั้นได้ประพฤติมิชอบต่อบริษัท หรือ ยักยอกทรัพย์นั่นเอง จริงอยู่ว่า นิมิตทรัพย์ ไม่ได้ขึ้นตรงกับอิซานางิ แต่ว่ายังไงซะ บริษัทของเขาก็อยู่ในเครือข่ายของพิทักษ์เทวา ซึ่งเป็น 1 ในไตรภาคีนั่นเอง
[ ภูชิต ] : เอ่อะ เอ่อ งั้นเชิญคุณไปนั่งทานน้ำเย็นๆที่บ้าน และนั่งคุยกันก่อนไหมครับ
[ ยามิ ] : ไม่ดีกว่าครับ ผมมาเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่า อิซานางิ กรุ๊ป ขอปลด บริษัท แสงโรจน์ จำกัดมหาชน ออกจากไตรภาคี
[ ภูชิต ] : อะ อะไรกันครับ ทำไมอิซานางิ กรุ๊ป ถึงมีอำนาจการปลดแสงโรจน์ออกจากไตรภาคีล่ะ บริษัทของผมเป็นเครือข่ายของพิทักษ์เทวา แล้วอีกอย่างคุณเอาข้อหาอะไรมาปลดผมออกล่ะ หลักฐานไหนล่ะหลักฐาน
หลักฐานน่ะเหรอครับ มีแน่นอนเสียงบางเสียงดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของใครบางคน และนั่นก็คือ เวตาล หรือ เวโรจน์ พิทักษ์เทวา นั่นเอง เขาเดินมาด้วยตัวคนเดียว ด้วยท่าที่ภูมิฐานและดูสง่างามมากๆ แต่นั่นกลับแฝงไว้ด้วยบารมีและความน่ากลัวจนยากจะหยั่งถึง ริวกะเองก็ถึงกับยืนเอ๋อเลยก็ว่าได้ หรือว่านี่จะเป็นงานที่ยามิพูดถึงกันนะ ส่วนอั้มนั้นได้ทีก็รีบวิ่งไปคล้องแขนนายริวไว้อย่างรวดเร็ว ราวกับว่ารู้ตัวว่าทำผิดไปแล้วและอยากจะขอให้นายริวให้อภัย แต่ตอนนี้ริวกะไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย เขากำลังตั้งใจมองการกระทำของเวตาลที่กำลังจะเกิดขึ้นมากกว่า
[ เวตาล ] : เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณภูชิต
[ ภูชิต ] : เอ่อ... สวัสดีครับ คุณเวโรจน์ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ ถึงได้มาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง
ไอ้เพียวถึงกับหน้าซีดเลยทีเดียว อาของมันที่มันเห็นมาตั้งแต่เด็กคือคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แต่ตอนนี้อาของมันกลับมาท่าทีที่สงบสเงี่ยมเจียมตัวมาก ไอ้คุณเวโรจน์คนนี้มันเป็นใครกันแน่ ซึ่งการที่มันจะไม่รู้จักก็ไม่แปลก เพราะว่ามันไม่เคยเรียนรู้หรือศึกษากิจการและธุรกิจของทางบ้านเลย วันๆเอาแต่ใช้เงินโดยอ้างว่าเรียนหนังสือเท่านั้น
[ เวตาล ] : ผมมาที่นี่เพื่อแจ้งว่า พิทักษ์เทวา ขอปลด นิมิตทรัพย์และบริษัทแสงโรจน์ ออกจากการเป็นเครือข่ายของ พิทักษ์เทวา มีผลตั้งแต่ตอนนี้ครับ
[ ภูชิต ] : อะ อะไรนะ ปลด ปลดออกได้ยังไง แสงโรจน์ ทำอะไรผิด
ภูชิตนั้นเรียกได้ว่าหัวใจตกลงตีนเลยก็ว่าได้ ประกาศิตจากปากเวตาลนั้นทำให้มันถึงกับกลายเป็นคนติดอ่าง อ้ำๆ อึ้งๆ พูดไม่ออก มันได้แต่คิดในใจว่า บ้าน่าทุกอย่างก็ดูไม่มีพิรุธและไม่มีทางที่จะจับได้แน่ๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงโดนจับได้ล่ะ
[ เวตาล ] : คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ ว่าเมื่อ 10 ปีก่อน คุณทำอะไรไว้กับสถิตย์เทวาและคุณหนูรุ้งพลอยไว้ และคุณคงไม่ลืมนะว่า พิทักษ์เทวาถูกก่อตั้งขึ้นมาด้วยจุดประสงค์อะไร
ขึ้นเลยริวกะขึ้นเลย พอเอ่ยว่ารังแกรุ้งพลอยพี่นี่ขึ้นเลย ริวกะกำหมัดแน่น ราวกับรู้ได้ทันทีว่าไอ้ภูชิตนี่เป็น 1 ในคนที่ทำให้พลอยต้องตกระกำลำบากถึง 10 ปีเต็มๆ
[ เวตาล ] : คุณรวมหัวกับพี่น้องสถิตย์เทวา ยักยอกทรัพย์สินส่วนที่เป็นของคุณหนูรุ้งพลอย แอบขายหุ้นบริษัท จนทำให้กิจการค้าส่งมูลค่าหลายล้านๆบาทของสถิตย์เทวาต้องล้มละลาย อีกทั้ง 5 ปีมานี่คุณได้เข้ามาเป็นเครือข่ายของพิทักษ์เทวา คุณก็ยังไม่ทิ้งพฤติกรรมเดิมๆ คุณพยายามทุจริตเรื่องงบการซื้อ อีกทั้งยังนำข้อมูลของบริษัทไปขายให้กับคู่แข่ง แบบนี้เพียงพอให้ผมปลดคุณออกไหมครับ
ภูชิตฟังแล้วถึงกับพูดไม่ออกเลย เพราะทุกๆข้อหาที่เวตาลเอ่ยมานั้นไม่ผิดเพี้ยนไปเลยแม้แต่น้อย ใช่ !!! มันนี่แหละที่มีส่วนทำให้รุ้งพลอยต้องตกระกำลำบาก อีกทั้งระยะเวลา 5 ปีที่แสงโรจน์เข้ามาร่วมหุ้นกับพิทักษ์เทวา นายภูชิตพยายามทำการทุจริตหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งยังขายข่าว ขายข้อมูลอีกด้วย
และนั่นจึงทำให้หลักฐานมันแน่นที่บ่งชี้ว่านายภูชิตคิดไม่ซื่อนั้นหนามากขึ้น เพราะข้อมูลทุกข้อมูลในระยะ 1 ปีที่นายภูชิตนำไปขายนั้นเป็นข้อมูลลวงที่เวตาลสร้างขึ้นมาและมีเพียงนายภูชิตเท่านั้นที่รู้ นั่นเท่ากับว่าการที่คู่แข่งทางธุรกิจรู้ข้อมูลนั้นๆของพิทักษ์เทวา เป็นเพราะนายภูชิตเอาไปขายนั่นเอง
ริวกะงี้กำหมัดแน่นเลย พอได้รู้ความจริงว่าต้นเหตุที่ทำให้รุ้งพลอยต้องลำบากเป็นเพราะมัน ความโกรธความแค้นต่างๆ ก็ประดังเข้ามาราวกับพายุ แต่ว่าอั้มก็กอดแขนเขาแน่นขึ้นราวกับว่าจะบอกให้ใจเย็น เพราะถ้ายิ่งนายริวนั้นโมโหขึ้นมาเรื่องมันยิ่งเลยเถิดไปใหญ่ ส่วนไอ้ภูชิตที่ยืนฟังอยู่นั้นก็เหงื่อแตกพลั่กๆๆๆๆ มันไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงจริงๆ ระยะเวลา 10 ปีที่มันไต่เต้าจากผู้บริหารเล็กๆ จากเงินเดือนเพียงหลักหมื่นจนตอนนี้มีทั้งอำนาจและบารมีที่มากหลาย
เขาเดินมาไกลแล้ว ไกลเกินกว่าที่จะกลับไปได้ เป็นไงเป็นกัน ถ้าต้องยอมเสียทุกอย่างไป สู้ฆ่าคนที่รู้ที่เห็นให้หมดจะดีกว่า ยังไงมันเองก็มีทั้งเงินและอำนาจอยู่แล้ว ยังไงซะอำนาจเงินก็ต้องทำให้มันหลุดคดีแน่ๆ มันส่งสัญญาณให้ลูกน้องของมันทั้งหมดพุ่งเข้าใส่เวตาลทันที แต่ว่า.....
[ เวตาล ] : นั่งลง !!!
เกิดสิ่งที่น่าเหลือเชื่อขึ้น เพียงเวตาลพูดขึ้นมาไอ้พวก 4 คนนั้นถึงกับทรุดลงไปนั่งคุกเข่าทันที ด้วยท่าทางและภาษากายนั้นบ่งบอกว่าพวกมันไม่ได้เต็มใจ แต่กำลังถูกบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นบังคับอยู่ เวตาลพูดย้ำอีกครั้งว่าให้นั่งลง คราวนี้พวกมันถึงกับทรุดลงอย่างรุนแรง ไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้เลย ริวกะนั้นพอจะเข้าใจว่าเวตาลนั้นอาจจะใช้จิตหรืออะไรบังคับให้ทำตาม แต่อั้มนี่สิ่ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว
[ ยามิ ] : ในนามของผู้ตรวจการไตรภาคี ที่ขึ้นตรงต่ออิซานางิ ผมขอประกาศไว้ ณ. ทีนี้ว่า แสงโรจน์ ได้พ้นจากการเป็น สมาชิกของพิทักษ์เทวา และไตรภาคีแล้ว ทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ พวกเราไม่ขอมีส่วนเกี่ยวของใดๆทั้งสิ้น
ไอ้เพียวนั้นถึงกับพูดไปออก ปากสั่นตัวสั่นไปหมด มันเกิดบ้าอะไรขึ้น มาแค่จะพาอั้มมาปิดจ๊อบ ไหงกลายเป็นแบบนี้ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนทั้ง 4 คนของคุณอา นั่งคุกเข่าลงแบบนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพียวมองไปที่ริวกะด้วยสายตาที่เคียดแค้นมาก ถ้าเมื่อครึ่งปีก่อนมันไม่โผล่มาล่ะก็ อั้มคงกลายเป็นของมันไปแล้ว
[ เพียว ] : มึง มึงมันเสือกเรื่องของกู อย่าคิดว่ามันจะจบง่ายๆ มึงคิดว่ามึงเป็นใคร กู ภูภัทร นิมิตทรัพย์ ลูกชายคนเดียว ของนาย ภูมิ นิมิตทรัพย์โว้ย มันต้องไม่จบ มันต้องไม่จบแค่นี้ ( ปากดีเหลือเกินนะเรา )
ไอ้เพียวนั้นสติแตกเลยทีเดียว ชีวิตของมันไม่เคยพบกับความอับอาย ความผิดพลาดขนาดนี้ เป็นเพราะริวกะคนเดียวที่เข้ามาทำให้ทุกๆอย่างของมันป่นปี้ไปหมด ริวกะได้ฟังแล้วก็ยังคงนิ่งอยู่ เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้น แต่เขาค่อยๆเดินไปที่รถของนายภูชิต จากนั้นก็วางมือไปที่ฝากระโปรงรถก่อนที่จะเอ่ยว่า
[ ริวกะ ] : ชั้น อิซานางิ ริวกะ จำใส่หัวเอาไว้ด้วยล่ะ
ตู้ม !!! ริวกะพูดจบก็อัดฝ่ามือลงบนฝากระโปรงรถทันที และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันอยู่เหนือจินตนาการของพวกมันทุกคน ล้อทั้งสี่ข้างนั้นหลุดกระเด็นออกจากเพลาราวกับถูกดึงอย่างรุนแรง ถ้าถามว่าใครที่ตกใจมากที่สุด ก็คงเป็นไอ้คนที่โดนริวกะซัดด้วย ท่าพยัคฆ์คำรณ นั่นเอง นี่ถ้าริวกะเอาจริงขึ้นมาล่ะก็ตัวของมันคงระเบิดเป็นเสี่ยงๆไปแล้ว และอีกคนที่ตกใจไม่แพ้กันก็คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากไอ้คู่หูนรกแตกที่สังเกตการณ์จากยอดตึกที่ห่างออกไป 1 กิโลเมตรนั่นเอง
[ เวย์ ] : เชี้ยเอ๊ย กูสาบานเลย กูจะไม่กวนตีนมึงอีกแล้วไอ้มังกร เสียวหลังเลยกู
เวย์ถึงกับตกใจเลยทีเดียวที่เห็นภาพดังกล่าว เพราะเขาก็ไม่คิดว่าไอ้มังกรเพื่อนของเขาจะทำแบบนี้ได้ ยิ่งอั้มแล้วยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ จริงอยู่ที่เธอรู้อยู่เต็มอกว่าความเก่งของริวกะนั้นสุดยอดเพียงใด ถึงแม้ความเก่งจะไม่ได้เสี้ยวของคุณพ่อริน แต่ก็ถือว่าเก่งเกินมนุษย์อยู่ดี แต่เธอเองก็พึ่งเคยเห็นนี่แหละว่านายริวทำแบบนี้ได้ด้วย
[ อั้ม ] : พยัคฆ์คำรณเหรอ
[ ยามิ ] : ลองมองที่รอยบุบให้ดีๆสิ่ รอยของตำแหน่งการประสานมือไม่ใช่ พยัคฆ์คำรณ นั่นมัน ลมหายใจมังกร ( 竜の息吹 ) ต่างหาก
[ อั้ม ] : หะ หาา ลมหายใจมังกร นี่นายริวใช้ เท็น โนะ กาต้า แบบคุณปู่ได้แล้วเหรอ
[ ริวกะ ] : ถือว่านี่เป็นค่าชดใช้ ที่ทำให้พลอยต้องตกระกำลำบากนับ 10 ปี ไอพวกชั่ว
ริวกะพยายามใจเย็น ใจเย็นและใจเย็น เขาเดินกลับมาทีเดิม พร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนไปราวกับพยายามทำใจให้สงบ ซึ่งยามิเองก็ถูกใจสิ่งนี้มากๆ นายน้อยของเขาดูเหมือนจะรู้จักการระงับอารมณ์ได้ดีขึ้น ถึงแม้พึ่งจะพังรถไป 1 คันก็เถอะ ส่วนเวตาลหลังจากที่คลายคำพูดแล้ว ทั้งนายภูชิตและลูกน้องสี่คนก็เริ่มขยับตัวได้ในทันที
[ ภูชิต ] : ฝากไว้ก่อนเถอะ มันไม่จบแค่นี้แน่
นายภูชิตกล่าวอย่างอาฆาต ก่อนที่จะเดินออกไปทันที ไอ้เพียวนั้นรีบเดินตามอาของมันไปทันที ปล่อยให้พวกลูกน้องนับ 10 นอนแช่อิ่มอยู่ที่เดิม ยามิไม่ได้ตามไปแต่เขายังคงยืนอยู่โดยมีริวกะและอั้มยืนอยู่ด้วย
[ ริวกะ ] : นี่เหรองานที่นายบอก ยามิ
[ ยามิ ] : แหม่ ๆ ๆ ก็มันเป็นงานจริงๆนี่ขอรับนายน้อย แต่ว่าการวิ่งจากรังสิตมาที่นี่ก็ถือว่า เป็นการออกกำลังชั้นยอดเลยนะขอรับ
นั่นไงล่ะ เป็นไปอย่างที่อั้มคาดการไว้จริงๆด้วย ที่ชีพจรต่างๆของนายริวดูรวนไปหมด คงเพราะความเหนื่อยล้าจากการวิ่งจากรังสิตมานี่สิ่นะ
[ อั้ม ] : นายริว นายวิ่งจากมหาวิทยาลัย มาที่นี่จริงๆเหรอ
[ ริวกะ ] : เปล่าครับ วิ่งถึงแค่ราชเทวี ที่เหลือขับมอเตอร์ไซค์มา
[ อั้ม ] : โห จากมหาวิทยาลัยมาถึงราชเทวีก็ 43 กิโลเมตร ยังไงก็ มาราธอนอยู่ดี นายเหนื่อยมั้ย กินอะไรหรือยัง
เท่านั้นแหละ พอเจอคำว่ากินอะไรหรือยัง ริวกะถึงกับสตั้นเลย ก็วันนี้อั้มสัญญาว่าจะทำมื้อเย็นนี่นา แต่กลับกลายเป็นว่าเธอ มากินมื้อเย็นกับไอเพียวแทนแล้ว สีหน้าของริวกะเปลี่ยนไปทันทีจนอั้มรู้สึกได้
[ ริวกะ ] : ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ
[ อั้ม ] : เดี๋ยวสิ่นายริว เดี๋ยวก่อน
อั้มพยายามเรียกนายริวอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล เขาเดินออกไปโดยที่ไม่ฟังอะไรเลย ตอนนี้น้ำใสๆเริ่มไหลมาคลอที่สองตาของเขาแล้ว อารมณ์น้อยใจ อารมณ์เคืองใจ มันถาโถมไม่หยุด ริวกะเดินมาสักพักก็มาถึงที่ที่เขาจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ เขาถอนหายใจดังเฮือกก่อนที่จะขึ้นคร่อมมัน สตาร์ท และบิดออกไปทันที โดยแน่นอนว่าที่ที่จะกลับไปก็คือบ้านของเขานั่นเอง ส่วนอั้มนั้นก็ได้แต่ยืนนิ่งโดยไม่พูดอะไรเลย เธอรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเหมือนกับเมื่อครึ่งปีก่อนเลย มันเหมือนกับตอนที่เธอกับนายริวจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
[ เวตาล ] : ถ้าเช่นนั้นกระผมคงต้องขอตัวไปจัดการธุระให้จบเสียที
[ ยามิ ] : ฝากท่านจัดการต่อด้วย ข้าคงมีเรื่องที่ต้องทำเช่นกัน
ยามิพูดแค่นั้นเวตาลก็เดินออกไปทันทีส่วนเขานั้นก็มองไปที่น้องสาวบุญธรรมที่ตอนนี้ กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ เขารู้ว่าในใจของอั้มนั้นเกิดคำถามมากมายเลยก็ว่าได้
[ ยามิ ] : ไปเถอะ เดี๋ยวข้าไปส่ง
[ อั้ม ] : งือ
อั้มตอบสั้นๆแค่นั้น แบะเดินตามยามิไปทันที ดูเหมือนว่าอั้มจะรู้สึกแย่เอามากๆ เธอคิดตื้นเกินไปจริงๆที่มากับเพียว เธออยากให้โอกาสไอ้เพียวอีกครั้งในฐานะเพื่อนแต่ดูเหมือนว่าเพียวจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อีกทั้งการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเธอครั้งนี้กลับยิ่งน้ำบาดแผลเดิมให้มันกลับมาเจ็บอีกครั้งด้วยซ้ำไป
[ เวย์ ] : เฮ้อ... รอดตัวไปนะเอ็ง หรือว่าเป็นพวกตูที่รอดตัววะ 5555
เวย์นั้นเอ่ยขึ้นอย่างโล่งใจที่ไอ้มังกรเพื่อนเขาไม่ได้อาละวาดอะไรมากมาย แค่ทำลายรถไปคันนึงเท่านั้นเอง เขาสังเกตการณ์ผ่านกล้องส่องทางไกลอีกครั้งและเมื่อเห็นว่าไม่น่ามีอะไรแล้ว เขาจึงได้สั่งให้ถอนกำลังออกทันที
•• ด้านภูชิต ••
หลังจากที่เสียหน้าเพราะถูกหยาม และถูกปลดออกจากลูกข่ายของพิทักษ์เทวา มันก็รีบกลับมาที่บ้านทันที แน่นอนว่าความแค้นครั้งนี้มันต้องเอาคืนให้สาสม
[ ภูชิต ] : แก ไอ้เวโรจน์ ชั้นจะให้แกชดใช้ด้วยชีวิต ไอ้เพียว
[ เพียว ] : ครับคุณอา
[ ภูชิต ] : นังเด็กที่ชื่ออั้มนั้น หาคนไปอุ้มมันมาซะ แก ต้องจับมันทำเมียให้ได้ ไอ้พวกอิซานางิ มันต้องชดใช้ที่ทำให้ชั้นอับอาย
[ เพียว ] : ได้เลยครับ คุณอา
ผมว่า คงไม่มีทางยอมให้ทำแบบนั้นครับ
เอาอีกแล้ว เสียงนี้มาอีกแล้ว เสียงของเวตาลมาอีกแล้ว คราวนี้ไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่มาเป็นทั้งตำบล เจ้าหน้าที่ตำรวจนับ 10 คนเดินเข้ามาพร้อมแสดงหมายจับ หมายค้นทันที
[ ภูชิต ] : นี่มันอะไรกันคุณเวโรจน์
[ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ] : เรามีหลักฐานและพยานที่บุว่า คุณ ภูชิต นิมิตทรัพย์ ได้ทำงานทุจริต ยักยอกทรัพย์ และ แพร่งพรายความลับของบริษัท เชิญไปคุยกันที่โรงพักครับ
[ ภูชิต ] : เฮ้ย ได้ยังไงกัน พวกแกมาปรักปรำกันแบบนี้ ชั้นจะฟ้องกลับทุกคนเลย ทนาย ชั้นต้องการทนาย
[ เวตาล ] : ทนายของคุณให้การสารภาพทั้งหมดแล้วครับคุนณภูชิต ยอมไปกับเราแต่โดยดี ดีกว่าครับ ที่ผมไม่จับกุมคุณตั้งแต่ที่สวนสาธารณะ เพราะผมเห็นแก่หน้าคุณภูมิ พี่ชายของคุณ
ตำรวจสองนายเข้าจับกุมนายภูชิตพร้อมกับนำตัวออกไปทันที โดยที่ปากยังคงด่าทอต่อว่าเจ้าหน้าที่ต่างๆนาๆ ขู่อาฆาตจะฟ้องกลับทุกคน แน่นอนว่าคดีนี้ต่อให้แบ็คใหญ่แค่ไหนก็ไม่กล้ายุ่ง เพราะเจ้าของคดีเป็นถึง 3 ขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชีย อย่างไตรภาคี
เรียกได้ว่าตอนนี้ภูชิตโดนตัดหางปล่อยวัดเรียบร้อย ส่วนไอ้เพียวที่กำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ต้องตกใจอีกรอบเพราะ เจ้าหน้าที่พิเศษคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหามันและแสดงหมายจับอีกฉบับต่อหน้ามันทันที
[ เจ้าหน้าที่พิเศษ ] : คุณภูภัทร นิมิตทรัพย์ ขอเชิญตัวไปที่สถานีตำรวจด้วยครับ
[ เพียว ] : อะไร เชิญทำไม ผมทำอะไรผิด
[ เจ้าหน้าที่พิเศษ ] : มีเจ้าทุกข์ร้องเรียนมาทางเรา ว่าถูกคุณทำการล่วงละเมิดทางเพศหลายราย ขอเชิญมากับเราด้วยครับ
มั่บ !!! ไอ้เพียวโดนรวบทันทีไม่มีรีรอ เพราะข้อมูลที่หน่วยงานพิเศษค้นหามานั้น ระบุว่าไอ้เพียวนั้นก็มีคลิปที่เตรียมไว้เพื่อแบ็คเมลล์หญิฝสาวที่ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน ทันทีที่มันถูกรวบไป ทีมงานที่เหลือก็รีบไปที่ห้องของมัน
เพื่อสำรวจตรวจค้น อุปกรณ์อิเลคโทรนิคทุกอย่างที่มี เพื่อตามหาคลิปทั้งหมด ซึ่งระหว่างนั้น นายภูมิ นิมิตทรัพย์ พ่อของไอ้เพียวและเจ้าของบ้าน ก็เดินลงมาด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง เขารู้และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใครล่ะจะไม่รู้สึกเสียใจที่น้องชายและลูกชายในใส้ถูกจับไปแบบนั้น
[ เวตาล ] : คุณทำถูกแล้วคุณภูมิ อย่าเสียใจไปเลยครับ
[ ภูมิ ] : มรดกพวกนี้ มันเป็นมรดกบาป มรดกที่แย่งชิงเขามาสักวันก็ต้องถูกเอาคืน ผมคงทำอะไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว คุณเวโรจน์
[ เวตาล ] : คุณไม่ได้มีส่วนร่วมกับบาปกรรมครั้งนี้ คุณทำใจให้สบายเถอะ อย่างน้อยในตอนนั้นคุณก็ไม่คิดจะแย่งชิงมรดกของคุณสกุณา และพาคุณหนุรุ้งพลอยไปฝาก คุณป้าดำเลี้ยงที่ลพบุรี ถ้าวันนั้นคุณไม่ได้มีจิตใจที่เมตตา คุณคงปล่อยให้เธอต้องโดดเดี่ยวแล้วล่ะ
[ ภูมิ ] : อย่าพูดแบบนั้นเลยครับ คุณเวโรจน์ เพราะหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ไปดูดำดูดีรุ้งพลอย และปล่อยให้เธอเติบโตมาโดยลำพังเท่านั้น บุญที่ผมเฝ้าทำมาสิบปี ก็คงไม่สามารถชดใช้บาปกรรมเมื่อตอนนั้นได้
[ เวตาล ] : ทุกคนย่อมมีกรรมเป็นของตัวเอง การที่คุณไม่สามารถไปพบเจอคุณหนูรุ้งพลอย นั่นก็เป็นเพราะเวรและกรรมเช่นกัน จงตั้งมั่นทำดีต่อไปเถอะครับคุณภูมิ ต่อให้จากนี้ไป แสงโรจน์และนิมิตทรัพย์ จะไม่ได้ร่วมกับเครือไตรภาคี แต่ผมเชื่อความคุณความดีและความซื่อสัตย์ของคุณ จะทำให้นิมิตทรัพย์กลับมารุ่งเรื่องอีกครั้ง และวันที่คุณใช้ความดีพิสูจน์ตัวตนของแสงโรจน์ได้ วันนั้นพิทักษ์เทวาจะขอต้อนรับคุณอีกครั้ง
เวตาลพูดแค่นั้นและเดินออกไปทันที คุณภูมิก็ได้แต่ทำใจ และเข้าใจเป็นอย่างดี การที่บริษัทแสงโรจน์ของเขาถูกปลดออกมานั้น มันถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆของธุรกิจ ในองค์กรที่มีขนาดใหญ่มากๆ การปกครองนั้นต้องเด็ดขาด ผิดก็คือต้องลงดาบและตัดทิ้ง มันคือสัจธรรมขององค์กรขนาดใหญ่
แต่ถึงยังไงเวตาลก็ถือว่าเมตตามากๆ เขามีสิทธิ์ที่จะฟ้องนิมิตทรัพย์ให้ล้มละลายได้ง่ายๆ แต่เขาไม่ทำ เขาอยากให้โอกาสคนดีๆอย่างคุณภูมิ ได้บริหารบริษัทที่เขาสร้างมากับมือต่อไป ส่วนเนื้อร้ายอย่างภูชิตและไอ้เพียว ก็คงต้องปล่อยให้กฏหมายและเวรกรรมเป็นคนจัดการเท่านั้นเอง
•••••
กลับมาที่พระเอกช้ำรักของเราต่อ หลังจากที่ทุกอย่างจบลง พี่แกก็หง่อมเป็นทุเรียนสุกเลย เขาบิดมอเตอร์ไซค์คันโตกลับมายังคอนโดหรูกลางเมือง และแน่นอนว่าเมื่อเจอรถที่ไม่คุ้นตา พนักงานรักษาความปลอดภัยจึงได้รีบเดินมายังริวกะทันที
[ พนักงานรักษาความปลอดภัย ] : สวัสดีครับ ต้องการติดต่อใครครับผม
[ ริวกะ ] : ( ถอดหมวกกันน็อค ) ผมเองครับ
[ พนักงานรักษาความปลอดภัย ] : อ้าว คุณริวกะเองเหรอครับ ผมขอโทษด้วยครับ พอดีผมไม่คุ้นรถมอเตอร์ไซค์คันนี้เลย
[ ริวกะ ] : ไม่เป็นอะไรครับ ยังไงก็อัพเดททะเบียนรถคันนี้ลงในระบบให้ด้วยนะครับ
[ พนักงานรักษาความปลอดภัย ] : ได้เลยครับ ผมจะประสานกับฝ่ายทะเบียนให้ครับ
[ ริวกะ ] : ขอบคุณครับ
หลังจากคุยกับพนักงานรักษาความปลอดภัยเรียบร้อย ริวกะก็ขับรถเข้ามาจอดในโซน VIP ของเขาทันที จากนั้นพ่อหนุ่มช้ำรักก็เดินขึ้นเข้าไปในตัวคอนโดและตรงไปที่ลิฟต์ด้วยสายตาที่หมองเศร้า ราวกับพระเอกที่พึ่งโดนนางเอกบอกเลิกมาเลยทีเดียว
ติ๊ง !!! เสียงลิฟต์ดังบอกว่า ถึงชั้น 10 แล้ว ตอนนี้ริวกะเองก็เริ่มปรับอารมณ์มาได้ระดับนึงแล้วล่ะ อย่างน้อยพี่อั้มก็พูดชัดเจนแล้วว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้เพียวแล้ว แค่นี้ก็ทำให้พ่อหนุ่มมังกรช้ำรักใจชื้นขึ้นมาได้มากเลยทีเดียว ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก ระหว่างที่ริวกะกำลังเดินเข้าห้องเขาก็รู้สึกได้ว่ามีเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาเดินตามมา แน่นนอนว่าเขารู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
[ ริวกะ ] : ชั้นไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ขอบใจนะที่มาถึงที่นี่ กลับไปบ้านใหญ่เถอะ
ร่างที่สูงใหญ่เกือบติดเพดานย่อเท้าคู่หน้าลงและก้มหัวราวกับกำลังรับฟังอย่างเคารพ ริวกะลูบที่แผงคอของมันอย่าวแผ่วเบาสองสามครั้ง และร่างของปีศาจตนนั้นก็ค่อยๆหายไป ริวกะถอดรองเท้า ถอดเสื้อผ้า เปลี่ยนชุดทันที ตามที่เคยทำมาในทุกๆวัน
[ ริวกะ ] : คิราระ วันนี้มีอะไรกินมั่ง หิวจังเลยยย
ริวกะทำอย่างที่เคยทำเป็นประจำในทุกๆวัน นั่นก็คือถามคิราระว่ามีอะไรกินมั่ง ซึ่งปกติเขาจะเดินเข้าไปหาและกอดเมดสาวและออดอ้อดราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่วันนี้คิราระไม่อยู่ เพราะไปบ้านพลอยนั่นเอง ริวกะถึงกับเกาหัวแกรกๆเลยทีเดียว คงเพราะความเคยชินที่อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา ริวกะจึงได้ลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ เขาดูนาฬิกาซึ่งบอกเวลา 19.00 น. ตอนนี้คงกำลังกินมื้อเย็นกันอยู่ เมื่อคิดแบบนั้นแล้ว ความคิดที่จะโทรศัพท์ไปหาก็ต้องล้มเลิกทันที
[ ริวกะ ] : ตอนนี้ให้สองคนนั้นพักผ่อนดีกว่า
ริวกะคิดแบบนี้จริงๆ เพราะถ้าโทรฯไปตอนนี้ก็จะรบกวนเวลาทานข้าวของคุณแม่ยายและเมียทั้งสองแน่ๆ แต่ยังไงซะ ทั้งเหตุการณ์วันนี้ บรรยากาศแบบนี้ มันทำให้เขา อดที่จะนึกถึงเรื่องราวต่างๆในอดีตจริงๆ เรื่องราวของเขาและพี่อั้มนั่นเอง
•• ณ.บ้านสถิตย์เทวา ••
ทั้งพิกุล คิราระ และรุ้งพลอย กำลังร่วมมื้ออาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย พลอยมีความสุขมากๆ เพราะการกลับมาบ้านครั้งนี้มีอะไรหลานๆอย่างเปลี่ยนไปมากจริงๆ ส่วนทั้งลุงอุดมและป้าเกสร ต่างก็ยิ้มอย่างมีความสุข ภาพตรงหน้านั้นเหมือนกับวันวานไม่มีผิด แม้คุณหนูพลอยของเธอจะโตขึ้น
แม้คนที่อยู่ข้างๆจะเป็นคุณพิกุล แต่ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมา ก็ไม่ต่างจากคุณสกลและคุณสกุณาเลยแม้แต่น้อย
[ พิกุล ] : แล้วคิราระ ออกมาแบบนี้ ริวจะกินอะไรล่ะเนี่ย ฝีมือการทำอาหารยิ่งเป็นแบบนั้นด้วย
[ พลอย ] : งือออ ทำไมเหรอคะแม่กุล ริวทำอาหารไม่เป็นเหรอคะ
[ คิราระ ] : ต้มมาม่าเส้นยังไหม้ติดหม้อเลยค่ะคุณพลอย
[ พลอย ] : ง่าาาา ไม่เอา ไม่เอาคุณพลอย ต้องน้องพลอยสิ่ ฮืออออ
[ พิกุล ] : สอนไม่จำเลยจริงๆ สงสัยชั้นต้องบอกให้รินส่งเธอกลับญี่ปุ่นจริงๆซะแล้วสิ่
[ คิราระ ] : อ๊าาาา อยะ อย่าทำแบบนั้นนะคะ ถ้าคิราระกลับไปนายน้อยจะทานอะไรล่ะคะ ขนาดใช้เครื่องปิ้งขนมปังแบบอัตโนมัติ ขนมปังยังไหม้เลยค่ะ
[ พลอย ] : ฮ๊ะ !!! เครื่องปิ้งขนมปังมันเป็นระบบออโต้นะคะ ปิ้งยังไงให้ขนมปังไหม้เนี่ย โอ๊ย !!! ตาบ๊องเอ๊ย
พลอยนั้นถึงกับเหวอเลยทีเดียวพอได้ยินคิราระพูดแบบนี้ ริวนั้นทำอาหารห่วยจริงๆ แตกต่างจากโคฮาคุและกัปปะที่สองรายนั้นทำอาหารได้อร่อยสุดๆ ทุกคนที่ได้ยินพลอยบ่นก็ถึงขำไม่หยุดโดยเฉพาะคิราระ เธอไม่คิดเลยว่าการมาของพลอย จะช่วยให้เธอได้พบฟ้าหลังฝนแบบนี้ มันนานแล้วนะที่เธอไม่ได้รู้สึกโล่งอกโล่งใจแบบนี้
หลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จพลอยกับคิราระ ก็ถูกป้าเกสรไล่ให้มาพักผ่อนทันที เพราะถ้าไม่พูดแบบนี้ทั้งสองคนคงได้เข้าไปช่วยทำความสะอาดแน่ๆ เรียกได้ว่าป้าเกสรอ่านเกมส์ขาดจริงๆ เพราะทันทีที่ถูกห้ามไม่ให้ช่วย ทั้งสองก็หน้ามุ่ยทันที แต่ป้าเกสรก็ให้เหตุผลว่า " ขอให้พวกป้าได้ทำหน้าที่นี้เถอะ พวกป้าอยากรับใช้หนูพลอยแบบนี้ มาสิบปีแล้ว " ด้วยคำพูดของป้าเกสรจึงทำให้พลอยนั้นไม่อาจจะเถียงได้ เธอจึงพาคิราระขึ้นไปพักผ่อนทันที
[ พิกุล ] : พลอย เดี๋ยวแม่จะคุยธุระกับรินแปปนึงนะ หนูอยู่กับคิราระก่อนนะลูก แล้วถ้าคิราระเรียกหนูว่าคุณพลอยอีก รียมาบอกแม่เลยนะ แม่จะให้รินเอาตัวกลับญี่ปุ่นทันทีเลย
[ พลอย ] : ได้เลยค่ะแม่กุล ว๊า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดูซิ๊พี่คิราระจะเรียกพลอยว่า " คุณ " อีกมั้ย
[ คิราระ ] : อ่ะ ฮือออออ
สาวน้อยวัย20 หัวเราะอย่างผู้มีชัย ความน่ารักสดใส และจิตใจงามแบบนี้ ทำให้คิราระนั้นเอ็นดูเธอราวกับเป็นน้องสาวจริงๆ แค่คงเป็นน้องสาวที่มีสามีคนเดียวกันละมั้งนะ ทั้งพลอยและคิราระพากันขึ้นมานอนพักผ่อนข้างบน คิราระถึงกับตะลึงไปเลยทีเดียว พอได้เห็นที่นอนลายพาวเวอร์พัฟเกิร์ล เธอคงคาดไม่ถึงว่าสาวสวยวัย 20 จะนอนบนที่นอนลายการ์ตูนแบบนี้ แต่พลอยก็ยิ้มอย่างภูมิใจพร้อมกับเล่าเหตุผลที่เธอรักที่นอนหลังนี้มากๆ ซึ่งพอคิราระได้ฟังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้เลย เธอภูมิใจในตัวชายคนรักจริงๆ ที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ซึ่งแน่นอนเธอรู้ดีถึงความใส่ใจนี้อยู่แล้ว นี่คือ 1 ในเหตุผลนานับประการที่ทำให้เธอรักริวกะยังไงล่ะ
[ คิราระ ] : เอ... ทุ่มกว่าแล้ว ริวกะจะได้ทานอะไรหรือยังนะ อืมม... ปานนี้พี่อั้มคงทำให้ทานแล้วล่ะ
คิราระมองนาฬิกาและพร่ำพรรณาออกมาถึงชายคนรัก ซึ่งปกติแล้วในเวลานี้ของทุกๆวันเธอจะง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อเย็นให้เจ้านายสุดที่รัก แต่ว่าวันนี้เธอมาบ้านของพลอย แม้พี่อั้มรับปากว่าจะเป็นคนจัดการเรื่องอาหารให้ แต่เธอก็ยังแอบหวั่นใจเล็กๆอยู่เช่นกัน
ในขณะที่คิราระกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ดูเหมือนสาวน้อยคนทรง ภรรยาคนเล็กของนายมังกรก็ได้สังเกตเห็นพฤติกรรม ของคิราระ พูดก็พูดตรงๆ เธอมีเรื่องที่แอบคิดอยู่ในใจมาหลายวันแล้ว แน่นอนว่าความตะขิดตะขวงใจเรื่องพี่มิไรและคิราระ ได้หายไปหมดแล้ว แต่สิ่งที่เธอยังไม่แน่ใจ นั่นคือความรู้สึกข้างในของอั้มนั่นเอง ทั้งพี่มิไร และพี่คิราระ ก็ต่างยืนยันว่าพี่อั้มนั้นรักนายริวเหมือนกัน แต่สิ่งที่พลอยรู้สึกได้มันไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว
[ พลอย ] : พี่คิราระ พลอยอยากรู้ค่ะ
[ คิราระ ] : หืม ? อะไรเหรอพลอย
[ พลอย ] : พี่อั้มเขา... รักริวจริงๆเหรอคะ
เอาแล้ววววว อยู่ดีๆพลอยก็ถามคำถามแบบนี้ขึ้นมา และพอพลอยถามเท่านั้นแหละคิราระก็ถึงกับนิ่งเลยทีเดียว เธอตกใจราวกับว่าพลอยไปรู้อะไรมาอย่างงั้นแหละ แต่เธอก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้เผลอหลุดปากอะไรไปสักคำ
[ คิราระ ] : ทำไมพลอย ถามแบบนั้นล่ะ พลอยสงสัยอะไรในตัวพี่อั้มเหรอ
[ พลอย ] : ไม่ใช่แบบนั้นค่ะพี่คิราระ อืม พูดยังไงดีล่ะ อื้อออ แบบนี้ๆๆ
อยู่ดีๆพลอยก็ชูมือขึ้นมาทั้งสองข้าง ข้างขวาชูมา 5 นิ้ว และข้างซ้าย 4 นิ้ว ซึ่งคิราระมองแปปเดียวก็พอจะเดาความหมายได้ นั่นก็เพราะเธอรู้ว่าตัวของอั้มยังมีเรื่องอะไรในใจอย่างที่พลอยบอกนั่นเอง
[ พลอย ] : วันที่พลอยไปบ้านริวคราวก่อน ตอนที่พวกเรสามคนนั่งคุยกัน พลอยรู้สึกได้ค่ะ ว่าทุกครั้งๆที่พูดถึงริวพี่คิราระจะแสดงออกชัดเจนว่าคิดยังไง รู้สึกยังไง ทั้งแววนาและภาษากายของพี่คิราระ ทำให้พลอยนั้นรู้ได้เลยว่าพี่รักริวมากๆ แต่กับพี่อั้ม.....
[ คิราระ ] : พี่อั้มทำไมเหรอพลอย
[ พลอย ] : แววตาของพี่อั้มเหมือนจะมีความทุกข์ค่ะ จริงอยู่ว่าพี่อั้มยิ้ม จริงอยู่ว่าพี่อั้มนั้นหัวเราะมีความสุขกับพวกเรา แต่แววตาของพี่อั้มนั้นกลับโกหก
[ คิราระ ] : พลอยจะบอกว่าพี่อั้ม ไม่ได้รักริวกะเหรอ
[ พลอย ] : ..... ( ครุ่นคิด ) พลอยแค่รับรู้ได้ถึงความสับสนในใจของพี่อั้ม จะบอกว่าพี่อั้มไม่ได้รักริวนั้นไม่ใช่แน่ๆค่ะ ตอนที่ริวสลบไปน่ะ ( ตอนที่ 7 ) สายตาของพี่อั้มไม่ต่างจากพี่ๆทั้งสองคนเลย แต่สิ่งที่พลอยรู้สึกได้จากที่พวกเราสามคนนั่งคุยกัน เหมือนพี่อั้มกำลังสับสนและปิดกั้นอะไรบางอย่างอยู่
[ คิราระ ] : ปิดกั้น ( ท่าทางตกใจ )
[ พลอย ] : อืมมม พูดยังไงดีล่ะ
พลอยนั้นครุ่นคิดต่างๆนาๆ ว่าจะอธิบายยังไงให้คิราระเข้าใจ และทันใดนั้นสาวรุ้งพลอยก็คิดได้ ว่าตลอดเวลาที่นั่งคุยกัน พลอยใช้ภาษาไทยคุยกับพี่คิราระนี่นา มิน่าล่ะเธอเลยดูงงในหลายประโยคที่พลอยพูด ถ้างั้นก็แค่พูดด้วยภาษาอังกฤษสิ่ แบบนี้พี่คิราระจะได้เข้าใจง่ายกว่าภาษาไทย และพลอยเองก็จะได้ฝึกการสนทนาไปในตัวด้วย
••• บทสนทนาภาษาปักกิด •••
[ พลอย ] : umm พลอยเคยทำงานร้านเหล้าปั่นค่ะ เรียกว่ายังไงดี อืมม พลอยเห็นสายตาของคนหลากหลายอารมณ์มากเลยค่ะ ( คิราระมีสีหน้าดีขึ้นเพราะเข้าใจทุกคำพูกมากกว่าภาษาไทย )
[ คิราระ ] : สายตา
[ พลอย ] : ใช่ค่ะ ยามปกติคนเราอาจจะสามารถเก็บความรู้สึก ทั้งท่าทางและคำพูดไว้ได้ แต่ยามเผลอหรือยามที่ไม่สามานถควบคุมสติได้ ความรู้สึกเหล่านั้นจะถูกแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวค่ะ
[ คิราระ ] : ใช่ๆๆ ตอนคุณลุงนูระริเฮียงเมานะ ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย แต่พอสร่างเมาท่านบอกว่าจำอะไรไม่ได้
[ พลอย ] : ใช่ค่ะ ตอนที่คนเราเมานั้น จะไม่สามารถประคองสติสัมปชัญญะไว้ได้เหมือนตอนปกติ ทำให้พฤติกรรมต่างๆที่พยายามเก็บไว้ถูกแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งสีหน้า แววตา วาจาและภาษากาย รวมถึงสิ่งที่ต้องการทั้งหมดจะถูกระเบิดออกมาอย่างห้ามไม่ได้
[ คิราระ ] : พลอย หรือว่า...
[ พลอย ] : ใช่ค่ะ เรื่องราวของริวที่พวกเราสามคนพูดกัน มันก็เหมือนแอลกอฮอล์สำหรับพี่อั้ม ตอนที่พี่คิราระและพลอยพูดคุยเกี่ยวกับริว สีหน้า แววตา ของพี่อั้มนั้นมีความสุขมากๆ พี่อั้มจะยิ้มและหน้าแดงตลอดเลยค่ะ แต่ว่า.... พอถึงคราวที่พี่อั้มต้องเล่าให้พวกเราฟังบ้าง แววตาของเธอกลับเปลี่ยนไป เหมือนพยายามเก็บงำอะไรบางอย่าง ตอนที่พลอยจับมือของพี่อั้ม พลอยรู้สึกได้ถึงความอึดอัด กดดันที่มันใกล้จะระเบิดเต็มที เพราะแบบนี้ล่ะค่ะ พลอยถึงสับสนและสงสัย ว่าอันที่จริงแล้วพี่อั้มเขารักริวเหมือนที่พวกเรารักริวหรือเปล่า
พลอยนั้นพรั่งพรูความรู้สึกจริงๆที่เธอได้สัมผัสและรู้สึกออกมา ตลอดเวลาตั้งแต่กลับจากบ้านริวคราวก่อน เธอก็ครุ่นคิดเรื่องพี่อั้มมาตลอดเวลา จะว่าพี่อั้มรักริวเธอก็เชื่อ แต่ไอ้ความรู้สึกแปลกที่เธอรู้สึกได้นี่สิ่ ที่ก่อกวนใจของเธอตลอดเวลา คิราระพอได้ฟังสิ่งที่พลอยพูดออกมาก็ถึงกับนิ่งเลยทีเดียว ด้วยการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษนี้ จึงทำให้เธอเข้าใจทุกคำ ทุกความหมายที่พลอยสื่อออกมา คิราระถึงกับถอนหายใจดัง เฮ้อ ความจริงเธอก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าพลอยจะรู้สึกได้ถึงเรื่องนั้นด้วย
[ คิราระ ] : .... อืมม ... อาจจะเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งปีก่อนน่ะ
[ พลอย ] : หือ ครึ่งปีก่อน ? มันเกิดอะไรขึ้นคะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : .... พลอย สมมติว่าพลอยเป็นผู้ชายที่ได้อยู่ใกล้ชิดพี่อั้มทุกวัน ทุกวัน พลอยคิดว่าพลอยจะเผลอใจ ชอบพี่อั้มมั้ย
[ พลอย ] : โห สวยก็สวย ใจก็ดี แถมนิสัยงี้น่าอยู่ใกล้สุดๆ ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะว่าถ้าพลอยเป็นผู้ชายนะ พลอยก็คงชอบพี่อั้มแน่นอนเลยค่ะ ถามทำไมเหรอคะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : อืมม... ริวกะน่ะเคยแอบชอบพี่อั้มซึ่งพี่อั้มไม่เคยรู้ และมีครั้งหนึ่งที่พี่อั้มปล่อยให้ริวกะนอนป่วยอยู่คนเดียวที่บ้านน่ะ
[ พลอย ] : ห๊า !!! ริวเคยแอบชอบพี่อั้ม และ พี่อั้มเคยทิ้งให้ริวนอนซมเป็นไข้คนเดียว เกิดอะไรขึ้นคะพี่คิราระ
รุ้งพลอยสาวน้อยตาใสตกใจเลยทีเดียวเมื่อความลับครั้งนี้ถูกเปิดเผย ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ มันเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างของริวกะและพี่อั้มกันแน่
[ คิราระ ] : เรื่องมันมันเกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ตอนนั้นริวกะยังเรียนอยู่ปี 1 ซึ่งคงเพราะความใกล้ชิด ความสนิท ความอบอุ่น ความเอาใจใส่ ที่พี่อั้มมีให้ นั่นเลยทำให้ริวกะนั้นแอบชอบพี่อั้ม ถึงริวกะจะไม่บอกพี่ก็รู้เพราะการกระทำทุกอย่างมันฟ้อง แต่ว่าริวกะน่ะไม่ได้พูดมันออกไป แต่ลงมือทำให้พี่อั้มแทบจะทุกๆอย่าง
[ พลอย ] : อ้าว แล้วเกิดอะไรขึ้นคะพี่
[ คิราระ ] : พี่อั้มเองก็มีแผลในใจ พี่อั้มชอบคิดตลอดว่าตัวเองเป็นคนนอก เธอชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับตัวพี่มิไร ตัวพี่เอง และตัวพลอยด้วย
[ พลอย ] : ง๊า หนูเกี่ยวไรด้วย
[ คิราระ ] : ก็เพราะพลอยเป็นคนที่ริวกะคิดถึงไง ในความคิดพี่อั้มนั้น พี่มิไรน่ะเป็นเหมือนคนที่อยู่กับริวกะมานานจึงเป็นคนสำคัญ ชอบคิดว่าพี่น่ะเป็นเมดส่วนตัว ดูแลริวกะได้ทุกๆเรื่องๆ ส่วนตัวพลอยเองก็รู้ๆกันอยู่ว่าริวกะทุ่มเทตามหาตัวมากแค่ไหน ส่วนพี่อั้มเองก็คิดว่าตัวเองเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรมที่นายท่านรับมาเลี้ยงเพราะอยากช่วยเพื่อน
[ พลอย ] : พี่อั้มเลยคิดว่าตัวเอง แปลกแยกจากพวกพี่ๆ ที่อยู่กับริวที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่แรก และพลอยที่รู้จักกับริวมาตั้งแต่เด็กเหรอคะ
[ คิราระ ] : ใช่ ยิ่งนานวันเข้าความกดดันมันก็สะสม จนกลายเป็นความเหงาอ้างว้าง ทั้งๆที่ริวกะทำอะไรให้หลายๆอย่างแต่พี่อั้มก็มองไม่เห็นอยู่ดี และตอนนั้นก็มีคนเข้ามาจีบพี่อั้มเอาอกเอาใจสารพัด คงเพราะความเหงาที่มีถูกแทนที่ด้วยความเอาใจใส่ พี่อั้มเลยตกลงคบกับคนๆนั้น
[ พลอย ] : ง๊า แล้วริวล่ะคะ ริวเป็นไงบ้าง
[ คิราระ ] : ตอนนั้นริวกะก็เป๋ ไปพักนึกเลยนะ แต่เขาก็ยังคงไม่แสดงอาการให้พี่อั้มเห็นและยังคงใช้ชีวิตตามปกติ พอกลับมาจากมหาวิทยาลัยก็จะมาคอยพี่อั้มกลับบ้านทุกวัน พอเข้านอนก็จะไปเสิร์ซข้อมูลเพื่อตามหาเบาะแสของพลอย
พลอยได้ฟังก็ถึงกับสะอึกเลยทีเดียว แต่แปลกที่เธอไม่ยักจะโกรธหรือน้อยใจริวนะที่เคยชอบพี่อั้ม และยิ่งพอมารู้ว่าทุกๆคืนริวจะมาคอยตามหาเธอ เธอก็ถึงกับยิ้มเลย แม้ว่าถ้าจะให้พูดกันตรงๆ ริวนั้นถือว่าเป็นผู้ชายที่หลายใจคนนึง เพราะว่าไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว แต่ด้วยอะไรทั้งหลายทั้งแหล่ที่เธอรับรู้เกี่ยวกับตัวเขาผสมกับสิ่งที่เขาแสดงออกมาให้เธอเห็น มันก็ทำให้พลอยเข้าใจได้
และที่สำคัญคนที่ริวชอบ คนที่ริวกะรัก ไม่ว่าจะพี่มิไร พี่อั้ม พี่คิราระ ทุกคนต่างก็ดีกับเธอมากมายอย่าง อย่างที่ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน นั่นจึงทำให้เธอไม่คิดโกรธและสนับสนุนให้ริวนั้นรวบทั้งหมดเข้าฮาเร็มนั่นเอง และที่ริวชอบพี่อั้มนั้นพลอยก็ไม่แปลกใจเลย โห !!! อยู่ด้วยกันทุกวันกับสาวสวยนิสัยดีขนาดนั้น ไม่รู้สึกอะไรเลยสิ่แปลก จริงอยู่ว่าการรักหรือคบหากันระหว่างพี่น้องมันจะผิดศีลธรรม แต่ว่าบางครั้งความรักมันก็ห้ามกันไม่ได้จริงๆ
[ คิราระ ] : พี่เล่ามาถึงตรงนี้พลอยอาจจะขุ่นเคืองใจเรื่องริวกะน่ะ ที่แอบชอบพี่อั้ม
[ พลอย ] : ไม่เลยค่ะ พลอยเข้าใจ แล้วเรื่องเป็นไงต่อคะ
[ คิราระ ] : จากปกติที่พี่อั้มจะกลับบ้านมาทานข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน กลับกลายเป็นว่ากลับมาหลังอาหารเย็นทุกวัน พี่กับริวกะต้องกินข้าวกันสองคนเป็นเดือนๆ
[ พลอย ] : งือออ งั้นพี่อั้มคง....
[ คิราระ ] : พี่อั้มยังบริสุทธิ์อยู่ เธอยืนยันเรื่องนั้นกับพี่เอง เพราะว่าไม่เคยไปไหนสองต่อสองกับแฟนที่คบกันเลย
[ พลอย ] : เฮ้ออออ โล่งใจ
[ คิราระ ] : มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ่พลอย และสุดท้ายวันนั้นก็มาถึง วันนั้นริวกะมีไข้ตั้งแต่ตอนกลางดึก ไม่ยอมบอกใคร พอพี่อั้มออกไปเรียนถึงได้ยอมบอกพี่ วันนั้นพี่ต้องออกไปทำธุระเรื่องเอกสารที่อิซานางิ กรุ๊ป ( สาขาประเทศไทย ) จริงอยู่ว่าริวกะสั่งห้ามไม่ให้บอกพี่อั้ม แต่เพราะพี่เป็นห่วงพี่เลยโทรไปบอกเธอให้กลับเร็วๆหน่อย ตอนแรกพี่ก็คิดว่าพี่อั้มจะกลับเร็ว พี่ก็เลยไม่ได้รีบกลับและอยู่สะสางธุระจนเสร็จ กว่าจะกลับก็ 5 ทุ่ม พอกลับมาที่บ้านสภาพคือแย่มาก ริวกะไข้ขึ้นเกือบ 50 องศา
[ พลอย ] : หา 50 องศา โอ๊ยยยยย สำหรับพลอยแค่ ตัวร้อน 39 องศาก็แทบพ่นไฟได้แล้วนะคะ แล้วริวเป็นไงบ้างคะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : ลุกไม่ไหวเดินไม่ไหว พูดได้คือแย่น่ะ อย่าว่าแต่ข้าวเลย น้ำก็แทบไม่ได้กิน มันแย่ตรงที่ว่าตอนที่ริวกะกำลังแย่ กำลังทรุดลงกับพื้นพี่อั้มกลับเดินโทรศัพท์หัวเราะเข้ามาและยิ้มอย่างมีความสุข จริงอยู่ว่าพี่อั้มก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะไปกับแฟน แต่ว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมันกลับกลายเป็นภาพจำของริวกะเลยล่ะ
..... เหตุการณ์วันนั้น ....
คิราระนั้นเดินทางกลับบ้านมาเวลา ประมาณ 3 ทุ่ม เพราะคิดว่าพี่อั้มกลับมาดูแลริวกะแล้ว เธอจึงอยู่เคลียร์งานอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่พอเห็นว่าชั้น 5 ไม่เปิดไฟ เธอจึงรีบขึ้นไปทันทีด้วยความร้อนใจ เพราะสังหรณ์ใจไม่ดีและก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ ทั้งชั้นไม่มีไฟติดอยู่เลยสักดวง หลังจากที่ก้าวออกมาจากลิฟต์ ปั้ป ปั้ป คิราระปรบมือ 2 ทีคราวนี้ไฟติดทั้งชั้นเลย เธอจึงรีบวิ่งไปที่ห้องทันที และสิ่งที่พบคือริวกะกำลังนอนซมอยู่ที่โซฟา
[ คิราระ ] : นายน้อย นายน้อย อ๊าย
[ ริวกะ ] : อื้อ กลับมาแล้วเหรอ เธอช่วยหยิบน้ำให้หน่อยได้มั้ย ชั้นหิวน้ำจังเลย
ทันทีที่คิราระแตะที่ตัวของริวกะ เธอก็ต้องสะดุ้งเพราะตอนนี้ตัวของริวกะร้อนมากๆ ปากก็ซีด แถมตัวยังแห้งอีก สภาวะขาดน้ำแน่นอน คิราระวิ่งไปหาปรอทวัดไข้มาทันที เธอเสียบไว้ที่ใต้รักแร้ของริวกะและก็วิ่งไปหยิบน้ำทันที ซึ่งเมื่อเธอกลับมาก็ประจวบเหมาะกับเครื่องวัดไข้ดังแจ้งเตือนพอดี ในขณะที่ริวกะกินน้ำ อึ้ก อึ้ก อึ้ก คิราระที่หยิบปรอทวัดไข้ขึ้นมาก็ถึงกับตกใจจนแทบเป็นลม เพราะตัวเลขมันคือ 50 °C ขนาดตัวเธอมีไข้แค่ 38 ยังทรมานแทบตายที่ริวกะตัวร้อนถึง 50 เลยเหรอ และสิ่งที่ตกตะลึงยิ่งกว่านั้นคือ น้ำจำนวน 3 ลิตรที่เธอหิ้วมาก็หมดไปเช่นกัน นี่เขาต้องทนหิวขนาดไหนเนี่ย ถึงได้กินน้ำหมดรวดเดียวแบบนี้
[ ริวกะ ] : รบกวนพาชั้นไปห้องน้ำทีได้มั้ยคิราระ ชั้นเดินเองไม่ไหวเลย ปวดฉี่จัง
[ คิราระ ] : ไม่รบกวนเลยเจ้าค่ะ นายน้อย
ซึ่งในขณะที่คิราระกำลังประคองริวกะให้ยืนขึ้นนั้น เสียงอั้มก็เดินเข้ามาพอดี เธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุข พร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปยิ้มไป ตุ้บ !!! ริวกะที่ไร้เรี่ยวแรงก็ทรุดตัวล้มลงอย่างกระทันหันทำให้คิราระนั้นคว้าตัวไม่ทัน จนหน้าริวกะฟาดกับขอบโต๊ะปากแตกเลือดอาบเลยทีเดียว
[ อั้ม ] : ว๊ายย เกิดอะไรขึ้น อึ้ก !!! 50 องศา นายริวเกิดอะไรขึ้น
เพียงอั้มแตะตัวริวกะ เธอก็รู้ถึงระดับไข้ของริวกะทันที สมกับเป็นอัจฉริยะ เธอพยายามพูดพยายามถาม แต่ริวกะก็ไม่พูดอะไรกับเธอทั้งนั้น
[ คิราระ ] : นายน้อยเป็นไข้ตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ บ่าวก็พึ่งกลับมาถึง
[ ริวกะ ] : รบกวนพอชั้นกลับไปที่ห้องที
วินาทีนั้นที่ริวกะพูดแทรกคิราระขึ้นมา อั้มก็รู้แล้วว่าทุกๆอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในขณะที่เธอกำลังจะพูดว่าทำไมไม่บอกเธอ อั้มก็ได้ฉุกคิดขึ้นมาว่าตอนเที่ยง คิราระได้โทรไปหาเธอและบอกว่าอยากให้กลับบ้านเร็วๆ ซึ่งเธอกลับไม่สนใจและไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนและแฟนหนุ่มของเธอนั่นเอง ทันทีที่คิราระพาริวกะไปเข้าห้องน้ำและส่งยังที่นอน เธอก็กุลีกุจอวิ่งมาที่ห้องครัว และทำอาหารง่ายๆ เบาๆสำหรับคนไข้ทันที
[ อั้ม ] : เกิดอะไรขึ้น เธอทำอะไรเหรอคิราระ
[ คิราระ ] : บ่าวจะทำอาหารให้นายน้อยเจ้าค่ะ นายน้อยบอกว่าหลังจากมื้อเช้าก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย กินแค่น้ำกับยาแก้ไข้
[ อั้ม ] : ทำไมไม่บอกพี่ล่ะว่านายริวไม่สบาย
[ คิราระ ] : บ่าวบอกไปแล้วเจ้าค่ะว่าอยากให้คุณอั้มกลับเร็วหน่อย บ่าวก็คิดว่าคุณอั้มจะรีบกลับมา ไม่งั้นบ่าวคงกลับมานานแล้วเจ้าค่ะ
อึ้ก !!! อั้มถึงกับสะอึกทันที คำพูดของคิราระก็ไม่ได้แรงอะไรเลย แต่ทำไม่รู้สึกว่าถูกกระแทกใส่หน้าเต็มๆ และหลังจากวันนั้นอั้มก็รู้สึกได้ทันทีว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ทุกครั้งตอนเช้าริวกะจะคอยเตรียมโต๊ะเตรียมเก้าอี้ไว้ให้ตอนนี้กลับกลายเป็นคิราระที่ต้องทำ ทุกเช้าริวกะจะเตรียมกุญแจรถไว้ให้ตอนนี้คิราระก็กลายเป็นคนเตรียมมาให้ ทุกเช้าจะนั่งกินข้าวด้วยกัน 3 คนตอนนี้ก็มีเพียงเธอกับคิราระ เพราะริวกะนั้นขอแค่แซนวิช 2 ชิ้นและออกไปทันที ตอนเย็นแม้จะนั่งกินข้าวด้วยกันแต่เธอกลับรู้สึกว่านายริวไม่ใช่คนเดิม
--- ปัจจุบัน ---
[ พลอย ] : งืมมม เป็นพลอย พลอยก็คงน้อยใจบ้างแหละค่ะ แล้วเป็นไงต่อคะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : บรรยากาศมาคุอยู่ 3 เดือนน่ะ เขาคุยกับพี่ปกติแทบทุกอย่างเลยนะ แต่พอกับพี่อั้มนั้น....
[ พลอย ] : กับพี่อั้ม ทำไมคะ
[ คิราระ ] : ยังไงดีล่ะ คือกับพี่อั้มนั้นริวกะ แทบจะไม่ได้คุยกันเลย พูดยังไงดีคือ ภาษาไทยพี่ก็ไม่ค่อยแข็งแรงมากด้วยสิ่
[ พลอย ] : ภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะพี่ พลอยจะได้ฝึกภาษาด้วย
[ คิราระ ] : อื้อๆ พี่ลืมตัวพูดภาษาไทยอีกแล้ว
ตอนแรกคิราระก็เล่าแบบตะกุกตะกัก เพราะว่าเผลอกลับมาใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร แต่พอพลอยบอกว่าให้คุยกันเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นแหละ คิราระก็พูดคล่องขึ้นมาทันที จนพลอยถึงกับอึ้งเลย ฝ คิราระก็ได้อธิบายเรื่องราวต่างๆให้ฟัง เธอเล่าว่าริวกะนั้นก็ไม่ได้พูดกับอั้มอีกเลย ตั้งแต่วันนั้น วันที่อั้มทิ้งให้เขานอนซมอยู่คนเดียว สำหรับอั้มมันคงอึดอัดมากๆนะ เพราะว่าริวกะนั้นกลายเป็นคนที่เงียบขรึม ถามคำตอบคำ ถ้าอั้มไม่ถามก็คือจะไม่พูด อะไรเลย คิราระรู้ดีว่าริวกะนั้นเป็นอะไรเธอจึงเข้าใจเขา แต่พอวันหนึ่งอั้มก็ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา
[ อั้ม ] : เป็นอะไรทำไมไม่พูด พี่อึดอัดนะนายริว ถ้ายังจะอยู่ด้วยกันก็พูดมาเลยว่าเป็นอะไร
[ ริวกะ ] : ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจครับ
เท่านั้นแหละเรียกได้ว่าความชิบหายบังเกิดเลย วันรุ่งขึ้นริวกะก็โชว์ความอินดี้ด้วยการ เก็บกระเป๋าไปอาศัยอยู่กับเวย์ ซึ่งก่อนไปเขาก็ฝากฝังให้คิราระช่วยดูแลบ้านสักระยะ ถ้าวันไหนเขารู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นภาระเขาจะกลับมา คิราระนั้นใจนึงก็ไม่อยากให้ริวกะไป แต่เพราะว่าเธอนั้นรู้จักริวกะดีว่า เมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้ว ถึงห้ามไปก็ไร้ประโยชน์ เธอจึงยอมให้เขาไป และอีกอย่างเพราะไปอยู่กับเวย์ด้วย นั่นจึงทำให้คิราระไม่ต้องห่วงอะไร หน้าที่ของเธอคือตั้งใจทำงานให้สมกับหน้าที่เมดส่วนตัวและเลขาของมิไรนั้นเอง
ส่วนอั้มนั้นก็ยังคงไม่รู้เรื่องอะไร เพราะคิดว่าริวกะคงแค่ไปทำงาน ทำรายงาน แต่พอสามสี่วันผ่านไป ริวกะยังไม่กลับบ้านอั้มจึงได้เอ่ยถามคิราระ และพอได้ฟังคำตอบจากคิราระ เธอก็ถึงกับไปไม่เป็นเลย เชื่อหรือไม่ว่าตลอด 3 เดือน อั้มไม่ได้เจอหน้าริวกะเลย ไม่ใช่ว่าริวกะไม่ไปเรียน ไม่ใช่ว่าริวกะหนีไปที่อื่น แต่ทุกครั้งที่อั้มพยายามมาหาเขา เขาก็จะเลี่ยงๆออกตลอด และแน่นอนความเร็วระดับเทพสายฟ้าแบบนั้น ใครจะไปตามทัน เรียกได้ว่าตลอดเวลานั้น มันทำให้อั้มได้ทบทวนอะไรมากมายจริงๆ
แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ริวกะต้องมาเจออั้มอีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้อั้มนั้นเลิกกับแฟนคนนั้น บางสิ่งบางอย่างในใจก็ชัดเจนขึ้นมาทันที ตลอดเวลาที่เธอมีแฟนเพราะเธอคิดว่าแฟนที่เธอคบนั้นจะช่วยทำให้เธอลืมริวกะได้ เพราะเธอนั้นคิดว่าตัวเองแค่รู้สึกดีและรู้สึกขอบคุณที่ริวกะเคยเข้ามาช่วยไว้ เลยคิดว่าถ้ามีแฟนก็คงทำให้ลืมริวกะได้ ซึ่งพอถึงเวลากลับไม่ใช่แบบนั้น แม้เธอจะมีแฟนแต่เธอก็ยังคิดถึงริวกะอยู่ดี ตอนนี้อั้มนั้นรู้หัวใจตัวเองทันทีว่าเขาไม่ได้รักริวกะในฐานะน้องชายอีกแล้ว
จนเวลาผ่านไปอีก 1 อาทิตย์อั้มที่พึ่งเลิกกับแฟนและคิดถึงแต่เรื่องของนายริวนั้น ก็ต้องกลับบ้านก่อนเวลาเพราะเธอไม่มีสมาธิในการเรียนเลย และเมื่อเธอกลับบ้านเธอก็พบกับริวกะที่กำลังเก็บเสื้อผ้าอยู่ ริวกะเองก็อึ้งแด๊กเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าคนอย่างพี่อั้มจะโดดเรียนกลับมาบ้าน ตลอดระยะเวลา 3 เดือนนั้นอั้มได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆมากมาย ได้คิดถึงสิ่งที่มันเกิดขึ้นมากมายจนแน่ใจว่าเธอนั้นรักนายริว สภาพของริวกะตอนนี้คือโทรมมากๆ จะว่ายังไงดีคือ เขาต้องทำรายงานกับเวย์ 2 คนมา 2วันสองคืนแทบไม่ได้นอน
แม้คะแนนจะออกมาดีจนได้ท็อปห้องแต่มันก็ต้องแลกมาด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนเพลีย วันนี้เขาตัดสินใจกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า Set ใหม่ เอาไปไว้ที่คอนโดเวย์ ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก ริวกะที่เหม่อๆเพราะอาการง่วงนั้นก็หันควั่บไปตามเสียง และก็พบกับอั้มที่กระโดดพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน และโดนชนล้มไป ริวที่กำลังเหวออยู่นั้นก็จะเงยหน้าขึ้นมาพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ต้องชะงักไปทันที เพราะตอนนี้พี่อั้มกำลังร้องไห้ฟูมฟาย อย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ขนาดว่าเหตุการณ์ตอนที่บ้านของพี่อั้มกำลังแย่ เขายังไม่เคยพี่อั้มร้องขนาดนี้เลย หลังจากนั้นทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันอยู่นาน ( รออ่านใน Side Story ของอั้มนะครัช ) ทั้งคู่ก็ได้กลับมาคุยกันเหมือนเดิม และคนที่ดีใจที่สุดนั้นย่อมเป็นคิราระแน่นอน เพราะเธอจะได้รับใช้นายน้อยสุดที่รักใกล้ชิดสักที
[ พี่อั้ม ] : พี่นอนไม่หลับแทบทุกคืนเลยนะ อย่าทำแบบนี้อีกนะ ทีหลังมีอะไรก็พูดกับพี่ตรงๆนะนายริว ยังไงเรากันพี่น้องกัน
นี่คือคำที่อั้มพูดย้ำไปอีกครั้งเพื่อบอกริวกะ จริงๆนั้นอั้มน่ะไม่ได้อยากจะพูดคำว่าพี่น้องเลย แต่เพราะตื่นเต้นที่จะได้กลับมาอยู่ใกล้กันอีกครั้ง เลยตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ถูก ส่วนตัวริวกะเองนั้นพอได้ยินก็นิ่งไปหลายวินาทีเหมือนกัน และตั้งแต่นั้นมาริวกะก็ฝังใจกับคำว่าพี่น้องมาตลอด จนถึงทุกวันนี้
...ปัจจุบัน...
[ พลอย ] : งืมมม แบบนี้นี่เองเหรอคะ แล้วหลังจากวันนั้นล่ะค่ะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : ตั้งแต่พี่อั้มพูดคำว่ายังไงเราก็พี่น้องกัน ริวกะก็ไม่แสดงอาการอะไรที่บ่งบอกความในใจออกมาเลย เขาทำได้แค่เชื่อฟังพี่อั้มและตามใจพี่อั้มทุกๆอย่างแทน เพื่อหวังว่าคนที่เขารักจะมีความสุข
[ พลอย ] : เฮ้อ ความรักนี่ก็แปลกเนอะ ยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งไม่เข้าใจ
[ คิราระ ] : อื้ม ทุกวันนี้พี่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมพี่รักริวกะมาก ทั้งๆที่ตลอดเวลาเขาตามหาแต่พลอย เฮ้อออออ
[ พลอย ] : ง่าส์ อย่าพูดแบบนั้นสิ่คะพี่ อย่าว่าแต่พี่เลยค่ะ หนูก็ยังแปลกใจเหมือนกัน ทั้งๆที่พลอยน่าจะลืมริวไปแล้ว แต่ เวลาที่พลอยทุกข์ เวลาพลอยเสียใจ หรือแม้แต่ดีใจเพราะทำอะไรสำเร็จ ริวนั้นจะแว๊บขึ้นมาในหัวพลอยเลยค่ะ
[ คิราระ ] : ใช่ ๆ ๆ ๆ ตอนนั้นที่พี่สอบได้ที่ 1 พี่ก็โทรหาริวกะก่อนเลยล่ะ พี่อยากบอกเขา อยากพูดกับเขานะ แต่ริวกะทำไงรู้มะน้องพลอย
[ พลอย ] : ตานั่นทำยังไงคะ
[ คิราระ ] : ตอนที่พี่โทรไปหาในวันที่ประกาศผลสอบเพราะตั้งใจจะบอกข่าวดี ตานั่นดั่นพูดแทรกขึ้นมาแล้วบอกว่า " เธอควรไปบอกน้าคุรุมิก่อนยัยบ๊อง " เนี่ยพูดแบบเนี้ยแล้วก็ตัดสายไปเลย ยังไม่ได้พูดอะไรซักนิด
[ พลอย ] : ง๊าส์ ตานั่นทำไมเป็นแบบนี้นะ ฮึ้ย !!! ขอให้ริวกับพี่อั้มเข้าใจกัน รักกัน เนอะ
[ คิราระ ] : ใช่ จะได้ช่วยกันรีดพิษมังกรด้วย ยังไง 3 คนก็น่าจะเวิร์คกว่า 2
[ พลอย ] : ง๊า ฮืออออ พอแย๊วพี่คิราระ ฮืออออ พลอยอายนะคะ ฮือออออ
สองศรีภรรยานั้นพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและมีความสุข ตามประสาพี่น้องที่รักกันโดยไม่มีเหตุผล และเพียงไม่นานพิกุลก็เข้ามาทำให้ทั้งสองต้องเลิกคุยเรื่องนี้ทันที และใช้เวลาที่มีในการพูดคุยนู่นนี่นั่นตามประสาผู้หญิงๆนั่นเอง ทั้งสองสาวนั้นหวังว่าอั้มจะกล้าเปิดใจมากกว่านี้และหวังว่าริวกะจะกล้าพูดออกไปตรงๆเช่นกัน โดยที่พวกเธอไม่รู้เลยว่าพี่มังกรของพวกเรานั้นกำลังหิวจนใส้แทบจะขาด
จ๊อกกก !!! เสียงท้องร้องดังลั่นห้องเลย เวลาตอนนี้ 19.30 แล้ว ซึ่งปกติมื้อเย็นของบ้านนี้จะเริ่มตอนนี้พอดี และเหมือนว่าร่างกายริวกะจะรับรู้ว่าได้เวลาอาหาร มันจึงส่งเสียงประท้วงว่าให้หาอะไรกินได้แล้ว วันนี้คิราระไม่อยู่ก็คงต้องหาอะไรกินเอง ริวกะกำลังจะหยิบมือถือมาสั่งอาหาร แต่พอมองเห็นถุงถั่วแระกับสาหร่ายก็เลยเลิกล้มความคิดนั้นไป โชคดีที่คิราระซื้อพวกของแห้งที่สามารถกินกับข้าวเปล่าได้ทิ้งเตรียมไว้ ริวกะจึงไม่ต้องลำบากอะไรมาก เพราะถ้าให้ริวกะทำกับข้าวเอง ไฟคงไหม้ครัวพอดี ริวกะจึงได้เดินดูรอบๆในครัวว่ามีอะไรที่เขาพอจะหยิบมากินได้บ้าง
[ ริวกะ ] : อืมมม ไข่ไก่ แฮม ขนมปัง ต้นหอม ซอสโชยุ มะะขือเทศ สาหร่ายแห้ง อื้มๆ พอแล้วมั้ง เอ้ย หุงข้าวก่อน
ริวกะสำรวจวัตถุดิบเบื้องต้นแล้วก็พบว่ามีเพียบเลย เขาถึงกับยิ้มและพูดในใจว่าคิราระน่ารักที่สุด ที่เตรียมของไว้ยามฉุกเฉิน เพราะฝีมือการทำอาหารของริวกะนั้นก็ถือว่าโอ โอโหใครจะไปกินกับมึงได้วะ เรียกได้ว่าความเก่ง ความหล่อ ความฉลาด นั้นไม่ได้ช่วยเรื่องการทำอาหารเลย ริงกะทำอาหารห่วยแตกมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ นี่คือเหตุผลที่คิราระตระเตรียมของที่ทำกินง่ายๆไม่ยุ่งยากไว้ให้นั่นเอง ชายหนุ่มเริ่มจากการหุงข้าวก่อน แล้วจึงไปหยิบสารพัดวัตถุดิบมาเตรียมการ
แฮมกับขนมปังถูกโยนใส่เครื่องปิ้งที่มีระบบอัตโนมัติ เพียงครู่เดียวขนมปังกรอบๆก็เด้งออกมา แต่ว่าใครจะไปเชื่อว่ามันจะไหม้ ใช่ครับริวกะปรับไฟแรงเกินไปและตั้งเวลานานเกินไป จึงทำให้ขนมปังนั้นไหม้ไปชุดนึง แถมแฮมก็เกรียมจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลย
[ ริวกะ ] : เอาวะ ความผิดพลาด คือบทเรียนชั้น
เดี๋ยวๆมึงหยุดเลยไอ้มังกร แค่ปรับอุณหภูมิไฟกับตั้งเวลา มึงยังกะผิด สกิลการทำอาหารห่วยแตกขั้นบรม ริวกะจึงจำเป็นต้องทิ้งขนมปังชุดแรกไปลงถังและเริ่มทำชุดใหม่ ซึ่งก็ถือว่ายังดีที่มีพัฒนาการ เพราะคราวนี้ขนมปังออกมาดูดีมาก แต่แฮมนั้นอาจจะแห้งจนเกือบเกรียมไปสักหน่อย แต่ก็พอกินได้ ขนมปังพร้อมแฮมพร้อมต่อไปก็มะเขือเทศ ต้องชมว่ามะเขือเทศที่ส่งตรงมาจากฟาร์มนั้นสดจริงๆ
ขนาดว่าถูกแช่เย็นไว้หลายวัน สีสันยังดูดีมากๆ สีแดงเข้มซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพชั้นดี อีกทั้งความฉ่ำวาวหลังล้างน้ำก็การันตีได้เลยว่าผักพวกนี้ต้องถูกปลูกในดินที่อุดมสมบูรณ์มากแน่ๆ ริวกะหั่นมะเขือเทศเป็นแว่นหลายๆชิ้นและจัดใส่จาน ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด เมื่อหม้อข้าวแต้งเตือนว่าสุกแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินไปคดข้าวใส่ชามทันที
ป๊อกก แกร่กกก ริวกะตอกไข่ไก่สองใบลงใส่ข้าวทันทีซึ่งเมนูนี้เรียกว่า ทามาโก คาเกะ โกฮัง หรือข้าวหน้าไข่นั่นแหละ เมื่อไข่ทั้งสองใบอยู่ข้าวแล้วริวกะก็คนๆๆๆ จนไข่ไก่สีเหลืองนั้นฉาบทั่วเม็ดขาวสีขาวจนกลายเป็นสีเหลืองนวลชวนหิว อีกทั้งยังเหยาะซอสโชยุเพื่อเพิ่มรสชาติ อ่าาาส์ สวรรค์ของคนกินง่าย
(https://img.in.th/images/acdb60c665b60899074d625c1c227077.jpg) (https://img.in.th/image/T4EUYr)
ข้าวหน้าไข่ราดซอสโชยุ มีเครื่องเคียงคือ ถั่วแระญี่ปุ่น สาหร่ายแผ่น และปลาแห้ง อีกทั้งยังมีขนมปังอบร้อนๆ พร้อมด้วยแฮมที่เกรียมกำลังดี และมะเขือเทศที่แสนจะชุ่มฉ่ำ และเมื่อทุกอย่างครบแล้ว ปั้ป !!! ริวกะประกบมือเข้าหากันและเอ่ยขึ้นว่า
[ ริวกะ ] : อิตาดากิมัซ ( จะทานแล้วนะครับ )
งั่ม !!! ริวกะจับตะเกียบขึ้นโซ๊ยทันที เขาคีบข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆที่ถูกชโลมด้วยไข่ดิบเลิศรสเข้าปาก รสหวานจากไข่ดิบมันช่างเข้ากันกับข้าวเหลือเกิน แกร๊บบบ เสียงสาหร่ายแผ่นกรอบลั่นขึ้นทันทีที่ถูกสัมผัส ริวกะใช้ตะเกียบคีบแผ่นสาหร่ายมาโป๊ะไว้บนข้าว และคีบมันพร้อมกับข้าวหน้าไข่ทันที แผ่นสาหร่ายสีเขียวแก่ถูกห่อเข้ากับข้าวสีเหลืองนวลและคีบเข้าปากอย่างชำนาญ
(https://img.in.th/images/8cc5f0ac1b9b192ba1cdbfb2d7591655.gif)
[ ริวกะ ] : อุไม่ ( อุมาอิ ) ( อร่อยจัง )
แผ่นสาหร่ายกรอบๆคอยๆถูกเคี้ยวช้าๆ อย่างละเมียดละไม สลับกับเสียงเคี้ยวกร๊อบๆจากถั่วแระญี่ปุ่น
(/ />
มันช่างน่าฟังเหลือเกิน คนห่าอะไรกินข้าวเสียงยังเพราะ ริวกะคีบนู่นสลับคีบนี่ เคี้ยวทุกๆคำ ทุกๆเมนู อย่างละเมียดละไมตามฉบับคนถูกสั่งสอนมาอย่างดี พริบตาเดียว ทั้งข้าวหน้าไข่ดิบชามโตๆ ทั้งถั่วแระเกือบ 2 ขีด ทั้งแผ่นสาหร่ายหอมๆนับ10 แผ่นก็หายวับไปกับตา
(/ (/ />
เมื่อจานหลักหมดแล้วก็เหลือจานรอง ขนมปังโฮลวีท.อบกรอบๆและแฮมเกรียมๆนั่นเอง ริวกะใช้มือเปล่าๆหยิบมันขึ้นมาและโซ๊ยมันทันที
(/ />
(/ />
แม้จะไม่กรอบเหมือนทำใหม่ๆแต่รสชาติก็ดีเยี่ยมเลยทีเดียว มะเขือเทศที่หั่นเป็นแว่นๆก็เนื้อกรอบเหลือเกิน
(/ (/ />
ทั้งหวานทั้งกรอบราวกับเด็ดจากต้นมากินสดๆเลย และแค่แปปเดียวขนมปัง 4 แผ่นก็หมดเรียบร้อย เขาก็พนมมืออีกครั้งเพื่อเอ่ยคำขอบคุณอาหารที่เขาได้รับประทาน
(/ (/ />
[ ริวกะ ] : โกจิโซ ซามะ เฮ้อ !!! ยังไม่อิ่มเลย แต่พรุ่งนี้ค่อยออกไปหาอะไรกินแล้วกัน
ยัง !!! มันไม่อิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ ริวกะนั้นเป็นที่ระบบเผาผลาญดีมากๆ ถึงขั้นดีเยี่ยมเลยก็ว่าได้ อีกเหตุผลคือทั้งตัวยังมีแต่กล้ามเนื้อที่เป็นเสมือนเตาเผาผลาญพลังงานตามธรรมชาติ
นั่นจึงทำให้เขาสามารถกินอาหารได้มากกว่าคนทั่วไปนั่นเอง โชคดีที่เมนูที่ริวกะทำนั้นไม่ซับซ้อนอะไรมาก แค่จับนั่นใส่นี่ กดนั่น หั่นนี่ นั่นจึงทำให้คนที่ทำอาหารไม่เป็นแบบเขาสามารถทำได้
ตามตารางเมนูอาหารของริวกะที่โคฮาคุเป็นคนจัดให้นั้น วันนี้ริวกะต้องกินอาหารมากถึง 3000 kcal เพราะวันนี้เป็นวันชีทเดย์ของเขานั่นเอง ซึ่งปกติหลังอาหารเย็นนั้นคิราระจะทำเมนูจำพวกอกไก่มาให้ แต่ว่าวันนี้คิราระไม่อยู่บ้านริวกะจึงไม่ได้กินอะไรอีก จะมีก็แค่นมถั่วเหลืองคุณภาพสูงอีก 1 ลิตรเท่านั้นเอง รวมๆแล้ววันนี้สารอาหารที่ริวกะได้รับทั้งหมดอยู่ที่ราวๆ 1,900 - 2,000 kcal เอง ยังเหลืออีกตั้ง 1,000 kcal
เหตุผลที่ริวกะต้องกินมากขนาดนี้เพราะในทุกๆวันเขาจะต้องออกกำลังกายตามโปรแกรมสุดโหดของโคฮาคุ เขาจึงต้องใช้พลังงานเยอะมากๆ และยิ่งวันนี้เขาก็ใช้ฮิไรชินวิ่งจากรังสิตไปราชเทวี ระยะทางร่วม 42 กิโลเมตรอีกด้วย กล้ามเนื้อที่อ่อนล้าจากการใช้งานย่อมต้องการสารอาหารจำนวนมากมาเติมเต็มและซ่อมแซมอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ริวกะจะกินเยอะขนาดนี้
หลังจากที่เก็บจานชาม อุปกรณ์ต่างๆล้างทำความสะอาด เก็บถังขยะเข้ามุม และ เก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อย ริวกะจึงเดินมาที่ห้องรับแขกและเปิดทีวีดูรายการกีฬาของญี่ปุ่น
" วันนี้ทางสมาคมกีฬาคาราเต้ของญี่ปุ่น ได้ประกาศรายชื่อนักกีฬารุ่นประชาชนอายุไม่เกิน 25 ปี ทั้งทีมเอ และ ทีมบี เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทั้งหมดจะได้เข้าร่วมค่ายเก็บตัวนานาชาติ ซึ่งจะมีนักกีฬาจากทั่วภูมิภาคเอเชีย เข้าร่วมฝึกซ้อมด้วย "
ริวกะยืนดูข่าวด้วยความสนใจมากๆ ถึงตัวเขาจะไม่ได้เดินเส้นทางกีฬาอย่างเต็มตัวแต่เขาก็ติดตามข่าวสารวงการกีฬาศิลปะการต่อสู่ของญี่ปุ่นเสมอ และทันใดนั้นริวกะก็กำหมัดแน่นราวกับกำลังดีใจเป็นอย่างมาก เพราะรายชื่อที่ถูกประกาศออกมานั้นมี อาโอยามะ ทาเครุ อยู่ด้วย
[ ริวกะ ] : คิราระ คิราระ เจ้าทาเครุติดทีมชาติด้วยแหละ ดูสิ่
อึ้ก !!! ริวกะที่กำลังพูดขึ้นด้วยความดีใจก็ถึงกับสะดุกอึ้กทันที เพราะตอนนี้คิราระไม่อยู่นี่นา คงเป็นเพราะความเคยชินนั่นแหละ เพราะทุกๆครั้งที่เขานั่งดูข่าวผ่านจอทีวีจะมีคิราระอยู่ด้วยเสมอ
เขามองนาฬิกาซึ่งก็ 20.00 แล้ว พี่อั้มคงกำลังกลับมาแล้วล่ะ มียามิอยู่ด้วยคงไม่เป็นอะไร ริวกะบอกตัวเองแบบนั้นก่อนที่จะปิดโทรทัศน์และเดินกลับห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำและนั่งสมาธิเหมือนที่เคยทำเช่นทุกวัน
20 นาทีต่อมา ยามิก็ขับรถพาอั้มมาส่งถึงคอนโด อั้มนั้นถึงกับเงียบกริบเลยทีเดียวหลังจากที่ยามิพูดเรื่องราวต่างๆออกมาทั้งหมด ตกลงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นตัวเธอเองสิ่นะที่สร้างช่องว่างนั้นขึ้นมาเอง ยามิไม่พูดอะไรอีกเพราะเขาอยากให้อั้มนั้นทบทวนตัวเอง ทบทวนอะไรหลายๆสิ่งที่มันปั่นป่วนในหัวใจด้วยตัวของเธอเอง
[ ยามิ ] : ข้ากลับก่อนนะ
[ อั้ม ] : ค่ะ
แว๊ป !!! หลังจากเดินมาส่งถึงในบ้าน ยามิก็เทเลพอร์ตกลับไปยังบ้านใหญ่ทันที ตอนนี้ทั่วทั้งห้องมีแต่ความเงียบ เสียงที่ดังที่สุดตอนนี้คือหัวใจที่มันรู้สึกเจ็บปวดของอั้ม ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมองข้ามสิ่งสำคัญไปมากๆ เธอมองข้ามความรู้สึกดีๆที่นายริวมีและทำให้เธอตลอดมา
[ อั้ม ] : เอ๊ะ !!! นายริวล่ะ นายริวกลับมายัง นายริวกินข้าวหรือยัง
อั้มนั้นฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เลยมื้อค่ำแล้ว เธอจึงรีบเดินเข้าไปในห้องครัวเพราะคิดว่านายริวคงอยู่ในห้องครัว แต่เธอก็พบแต่ความว่างเปล่า สิ่งที่เห็นคือซิงค์ล้างจาน ที่ยังมีน้ำขังอยู่เล็กน้อยเท่านั้น นั่นจึงทำให้อั้มรู้ได้ทันทีว่านายริวต้องล้างจานแน่ๆ แล้วนายริวทำอะไรกินล่ะ สิ่งที่อั้มทำต่อมานั่นก็คือเดินไปยังถังขยะ เธอเปิดฝามันขึ้นมาและดูสิ่งที่เหลืออยู่ภายใน ซึ่งมีเปลือกไข่ ขั้วมะเขือเทศ ขั้วถั่วแระ เศษปลาแห้ง
[ อั้ม ] : ข้าวหน้าไข่ดิบเหรอ มันจะไปอิ่มได้ไงแบบนี้ โอย อะไรเนี่ย ปิ้งยังไงให้ขนมปังไหม้ขนาดนี้
เพียงแค่มองวัตถุดิบอั้มนั้นรู้ได้ทันทีว่าเมนูที่นายริวทำกินนั้นคือข้าวหน้าไข่ดิบ เพราะริวกะนั้นทำเป็นอยู่สองอย่าง ไม่ไข่ต้มทรงเครื่อง ก็ข้าวหน้าไข่ดิบ แต่ไอ้สิ่งที่ทำให้อั้มปวดหัวนั่นก็คือขนมปังที่ไหม้จนดำปี๋ อีกทั้งเศษซากเนื้อบางอย่างที่ดำจนไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ ( แฮม ) อั้มรู้ดีเรื่องตารางอาหารของริวกะว่าวันนี้ต้องกินเยอะ แต่ด้วยหลักฐานตรงหน้าที่เหลืออยู่ มันบ่งบอกได้ทันทีว่าไม่พอ นายริวยังกินไม่อิ่มแน่ๆ
[ อั้ม ] : พี่ผิดสัญญาอีกแล้วสิ่นะ นายริว
อั้มรู้สึกสะท้อนใจตัวเองเลยทีเดียว นี่เป็นอีกครั้งแล้วสิ่นะที่เธอผิดสัญญากับนายริว เหมือนที่เคยทำมาในอดีต แต่ว่าตอนนี้เธอจะเศร้าไม่ได้ ถ้าเธอทำผิดพลาดไปเธอก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขมัน พอคิดได้แบบนี้อั้มจึงรีบเดินไปที่ห้องของริวกะทันที เธอใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะทำใจเคาะประตูห้องได้ นั่นเพราะเธอไม่รู้จะทำหน้ายังไงเวลาคุยกับนายริว เพราะวันนี้เธอพึ่งผิดสัญญาว่าจะกลับมาทานข้าวพร้อมกันกับเขานั่นเอง แต่ว่า... ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากังวลอีกต่อไปแล้ว ครึ่งปีที่ผ่านมามันนานมากพอแล้วที่เธอต้องเก็บงันความรู้สึกจริงๆของตัวเองไว้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!![ อั้ม ] : นายริวนอนยัง
[ ริวกะ ] : ครับครับ ยังครับ
เพียงแค่เคาะประตูและเรียกแค่ไม่กี่คำ ริวกะก็ตอบกลับมาทันที และรีบเดินมาเปิดประตู สิ่งแรกที่อั้มเห็นคือ ซีเรียลบาร์อัดแท่ง ที่อยู่ในมือของนายริว นายริวยังไม่อิ่มจริงๆด้วย เธอคิดในใจก่อนที่จะพูดกับเขา
[ อั้ม ] : พี่หิวจังเลย นายริว
[ ริวกะ ] : ครับ ? อ่อ อื้ม เบอร์สั่งอาหารก็แปะไว้ที่ตูเย็นนี่ครับ งั้นเดี๋ยวผมโทรสั่งให้
[ อั้ม ] : ไม่เอา พี่อยากไปหาอะไรกินข้างนอก
[ ริวกะ ] : แต่มันดึกแล้วนะครับ อีกอย่างผมก็กินข้าวแล้วด้วย
[ อั้ม ] : กินแล้วก็กินอีกได้ ไม่รู้ล่ะ พี่จะไปอาบน้ำแล้ว อีก 20 นาทีนายต้องพร้อมด้วยนะ
[ ริวกะ ] : หะ หา !!! ?
อั้มไม่พูดอะไรอีก เธอหันหลังและยิ้มทันทีก่อนที่จะเดินออกไปโดยที่ปล่อยให้ริวกะยืนมึนอยู่อย่างนั้น ส่วนชายหนุ่มก็ได้แต่เกาหัว แกร่กๆ
[ ริวกะ ] : เฮ้อ ไปก็ไป
ริวกะเอ่ยขึ้นมาแค่นั้นจริงๆ เพราะยังไงเขาก็ไม่คิดจะขัดใจอั้มอยู่แล้ว 20 นาทีผ่านไป ริวกะก็แต่งตัวมารอที่ห้องรับแขกเรียบร้อย ตอนนี้เวลาเกือบ จะ 3 ทุ่มแล้ว แล้วเขาจะพาพี่อั้มไปที่ไหนดีล่ะ
ตึ้ง !!! เสียงปิดประตูเบาๆดังขึ้นมาจากข้างใน อั้มคงใกล้ออกมาแล้วล่ะ สิ่งที่ปรากฎตรงหน้าชายหนุ่มนั้นจะเรียกว่านางฟ้านางสวรรค์ก็คงไม่เกินไป ปกติก็ว่าสวยอยู่แล้ว มาตอนนี้ยิ่งไปกันใหญ่
ใบหน้าที่แต่งเบาๆเหมือนจะไม่ได้แต่งก็สวยจนบาดใจ อีกทั้งหน้าอกหน้าใจก็ใหญ่พอดีมือ อั้มนั้นเลือกใส่เสื้อยืดแขนกุดสีเนื้ออ่อน ไซส์ S พอดีตัวก็ยิ่งทำให้ทั้งเอวและหน้าอกนั้นเด่นชัดมากขึ้น อีกทั้งกางเกงยีนส์ที่เธอใส่ก็ทำให้เห็นเรียวขาและสะโพกได้ชัดเจน การเลือกเฉดสี การเลือกทรงเสื้อและกางเกง อั้มทำได้ดีมากๆ เรียกว่าเสื้อผ้าที่เลือกใส่นั้นทำให้ ทรวดทรงองเอวของเธอนั้นเด่นชัดมากขึ้นจนสะกดตาสะกดใจกันเลยทีเดียว ส่วนอั้มนั้นพอเห็นสายตาของนายริวที่มองมา ก็แอบยิ้มในใจทันที นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนี้แล้วใจเต้นรัวๆเลยก็ว่าได้
ชุดที่พี่อั้ม ใส่
(https://img.in.th/images/1393072eb1304684980a54d91b642d85.jpg)
[ อั้ม ] : ไปกันเถอะ นายริว พี่หิวแล้ว
[ ริวกะ ] : ครับๆ กุญแจรถล่ะครับ เดี๋ยวผมขับให้
[ อั้ม ] : ไม่ต้องขับไปหรอก ไป Taxi กันดีกว่า ไปเร็วพี่หิวแล้ว
ทั้งคู่นั้นพากันเดินออกมาพร้อมๆกันวันนี้อั้มนั้นสวยมาก แค่ด่านผ่านล็อบบี้ ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นยังมองตามคอแทบหัก แล้วแบบนี้คนที่อยู่ใกล้ชิดแบบนายริวจะเหลืออะไร กลิ่นน้ำหอมบางๆจากอั้มนั้นก็ยิ่งทำให้จิตใจไม่อยู่สุขเลยทีเดียว
[ ริวกะ ] : พี่อั้มเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมเหรอครับ
[ อั้ม ] : อึ่ อื้อ อื้ออ กลิ่นมันแปลกเหรอ ( ท่าทีกระวนกระวายใจ )
[ ริวกะ ] : เปล่าครับ ก็ปกติตอนไปมหาวิทยาลัยพี่ใช้แต่ chanel chance นี่ครับ
[ อั้ม ] : อือ อือออ ก็ ก็นี่จะออกไปข้างนอกนี่นาก็เปลี่ยนบ้างสิ่ ชอบมั้ยนายริว
[ ริวกะ ] : ครับหอมดีครับ
ดูเหมือนว่าคำตอบนี้จะทำให้อั้มไม่พอใจมาก ริวกะเล่นตอบไม่ตรงประเด็นแบบนี้อั้มก็ปรี๊ดสิ่ครับ อั้มกอดแขนของนายริวไว้จนหน้าแขนของเขาสัมผัสเจ้ากับหน้าอกอึ๋มๆของเธอ และอั้มก็พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า
[ อั้ม ] : ไม่ได้ถามว่าหอมมั้ย ถามว่าชอบมั้ย
[ ริวกะ ] : เออะ เอ่อ ชอบครับ
[ อั้ม ] : ก็แค่เนี้ย นั่นไงๆ รถมาแล้ว โบกๆ ๆ ๆ เร็วนายริว
เอาแล่วช่วงคำตอบวัดใจมาแล้ว พอโบกปุ๊ป เปิดประตูป๊าป พี่ Taxi ถามก่อนเลยว่าไปไหน ตอนนี้แหละจะตอบยังไงดี เพราะอั้มเองก็ไม่ได้บอกด้วยว่าอยากไปไหน บอกแค่ว่าอยากให้พาไปกินข้าว
[ ริวกะ ] : เอเชียทรี๊คครับ
อื้อหืมมม คำตอบนี้ถูกใจอั้มนักแล เอาตามจริงไม่ว่าริวกะจะพาไปไหนเธอก็ดีใจหมดแหละ แต่เพราะนายนิวบอกว่าไปเอเชียทรี๊ค จึงทำให้อั้มนั้นดีใจเป็นอย่างมาก จนเผลอกอดแขนของนายริวจนนมเบียดแขนอีกครั้ง เมื่อพี่โชเฟอร์ตอบกลับมาว่าไป ริวกะจึงขึ้นรถไปก่อนและอั้มจึงขึ้นตาม
แต่ในระหว่างนั้นเธอดันซุ่มซ่ามจนตัวพุ่งเข้าไปซบอกนายริวเต็มๆ หน้าอกที่บึกบึนพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมที่ชวนหลงไหล ทำให้อั้มแทบจะตกอยุ่ในภวังค์เลยทีเดียว อั้มต้องคุมสติตัวเองไม่ให้เคลิ้มให้ได้ เธอสลัดความคิดนั้นทิ้งไปและรับก้าวขึ้นไปทันที
[ โชเฟอร์ ] : พาแฟนไปเที่ยวเหรอครับเนี่ย
[ ริวกะ ] : เปล่าครับ นี่พี่สาวผมเอง
[ โชเฟอร์ ] : เหรอครับ ต้องขอโทษด้วยครับคุณลูกค้า อื้มม มองยังไงก็เหมือนคู่รักนะครับเนี่ย เสื้อก็เหมือนกัน ผมนึกว่าใส่เสื้อคู่นะครับเนี่ย
ใช่แล้ว เป็นไปตามที่คุณโชเฟอร์พูด เพราะริวนั้นก็ใส่เสื้อโปโลสีเนื้ออ่อน แถมยังลายปักก็เหมือนกันอีก จริงๆนั้นริวกะไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น ที่เขาเลือกใส่ตัวนี้เพราะเนื้อผ้ามันนิ่ม ใส่สบายและระบายอากาศได้ดี เรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญที่แสนพิเศษก็ว่าได้
[ ริวกะ ] : อย่าพูดแบบนี้เลยครับพี่ เดี๋ยวพี่สาวผมโกรธเอานะ
ริวกะพูดไปแบบนั้น เพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เขากลัวอั้มจะไม่พอใจ ที่ใครต่อใครก็คิดว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกัน แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ตอนนี้สิ่ที่เธอกำลังงอน เธองอนที่ริวกะไปบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ว่างอนได้ไม่นานอั้มก็ใจเต้นแรงตึกตักตึกตัก เพราะตอนนี้กลิ่นกายของริวได้กระตุ้นเธออีกครั้งแล้ว
[ อั้ม ] : ชิ !!! ร้ายไม่เบานะ ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ด้วย
อั้มคิดในใจก่อนที่จะพยายามดม เบาๆแต่ยิ่งดมยิ่งรู้สึกหลงไหล Giorgio Armani Attitude นี่มันกลิ่นพิฆาตนารีนี่นา ยิ่งดมอั้มก็ยิ่งเคลิ้ม เคลิ้ม เคลิ้ม จนนายริวต้องทักขึ้นมา
[ ริวกะ ] : พี่อั้มไม่สบายหรือเปล่าครับหน้าแดงๆ
ริวถามแค่นั้นก็ก้มไปหาทันที เพราะตอนนี้อั้มมีท่าทีแปลกๆไป ตอนนี้เรียกได้ว่าอั้มนั้นสุดจะทนจริงๆเพราะทั้งความใกล้ชิด ทั้งกลิ่นกายจากนายริว ทั้งความต้องการจากหัวใจ มันเริ่มทำให้สามัญสำนึกเริ่มลดน้อยถอยลง อุ๊ป !!! ชายหนุ่มถึงกับตกใจตาเบิกโพรง เพราะอยู่ดีๆสาวสวยตรงหน้าก็ยื่นหน้าเข้ามาประกบปากจูบเขาด้วยตัวเอง ริมฝีปากเรียวงามบดบี้กับริมฝีปากของชายที่รักอย่างเร่าร้อน
เพียงไม่นานจากการบดบี้ เริ่มเปลี่ยนเป็นการแลกลิ้นเพื่อกระตุ้นอารมณ์หญิงสาวที่เป็นฝ่ายเริ่มกลับกำลังถูกชายหนุ่มที่ประสบการณ์การสูงกว่า ใช้ลิ้นเพื่อไล่ต้อนจนติดมุม ตอนนี้ในหัวของเธอมันโล่งไปหมด ไม่เหลืออะไรนอกจากความอยากที่มันกำลังเพิ่มขึ้นทุกทีที่ลิ้นตวัด ตอนนี้เธอกำลังถูกน้องชายที่รักประเคนความรู้สึกวาบหวิวผ่านปลายลิ้น อีกทั้งมือของเขาก็กำลังพยายามล้วงเข้ามาบีบคลึงหน้าอกเธอด้วย
[ อั้ม ] : อื๊ออออ ซื๊ดดดด นายริว อ๊อยยยย อย่านะ
ถึงปากของเธอจะเอ่ยห้าม แต่น้ำที่มันไหลออกจากหว่างขานั้นช่างขัดแย้งกันจริงๆ ปากก็โดนจูบ นมก็โดนคลึงแบบนี้ แบบนี้มีเหรอที่น้ำจะไม่เดิน อื๊ออออ อ๊อยยย เสียงร้องของหญิงสาวนั้นดังลั่นเลยทีเดียว เพราะชายหนุ่มเริ่มรุกหนักขึ้นมากกว่าเดิม เขาถลกทั้งเสื้อยืดและเสื้อในขึ้นจนเต้าอวบๆนั้นโผล่ออกมาอวดสายตาอย่างน่าชม
[ อั้ม ] : อร๊างง อย่าดูดแบบนั้นสิ่ นายริว อื๊อออ อย่าล้วง หยะ อย่า อร๊าาา
ริวกะรุกหนักจริงๆ เขาก้มลงดูดหัวนมสีชมพูจนอั้มนั้นดิ้นพร่าน ปากก็ดูด มือก็คลึง แต่ที่ทำสติเตลิดก็คือมือขวาที่กำลังล้วงไปยังเนินโหนกสวาทนั่นเอง ริวกะแซะขอบกางเกงยีนตัวฟิตเข้าไปบี้เกี่ยวที่ถ้ำสวาทเสียแล้ว โดนเล้าโลมสามจุดพร้อมกันอย่างนี้มีเหรอที่สาวสวยไร้ประสบการณ์จะรับมือไว้ อั้มทำได้แค่ร้องครางเพื่อระบายความเสียวที่กำลังถาโถมเข้ามาเท่านั้น
[ อั้ม ] : โอ๊ยยย ซื๊ดดดด อย่ากัดแบบนั้นสิ่นายริว ซื๊ดดดดด
[ ริวกะ ] : ผมขอนะพี่อั้ม ผมทนไม่ไหวแล้ว
[ อั้ม ] : อย่านะนายริว กลับไปทำที่บ้านนะ พี่ยอมนายทุกอย่าง แต่กลับบ้านก่อนนะ ที่นี่ไม่ได้ หยะ อย่า อย่าา
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากตอนเก่าๆด้วยครับ
• • • • • รวม Link ในแต่ละตอน • • • • •
→→→เนื้อเรื่องหลัก←←←
ตอนที่ 1 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=210283.0)
ตอนที่ 2 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=210594.0)
ตอนที่ 3 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=210785.0)
ตอนที่ 4 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=210839.0)
ตอนที่ 5 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=210940.0)
ตอนที่ 6 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=211224.0)
ตอนที่ 7 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=211707.0)
ตอนที่ 8 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=211708.0)
ตอนที่ 9 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=212083.0)
ตอนที่ 10 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=212543.0)
ตอนที่ 11 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=212544.0)
ตอนที่ 12 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=214970.0)
ตอนที่ 13 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=215265.0)
ตอนที่ 14 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=215341.0)
ตอนที่ 15 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=216415.0)
ตอนที่ 16 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=216660.0)
➸ ➸ ➸ ➸ จบ Season 1 ➸ ➸ ➸ ➸
Season2
ตอนที่ 17 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=218720.0)
ตอนที่ 18 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=219492.0)
ตอนที่ 19 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=222888.75)
ตอนที่ 20 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=223914.0)
ตอนที่ 21 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=223977.0)
ตอนที่ 22 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=225555.0)
ตอนที่ 23 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=225807.0)
ตอนที่ : 24 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=226128.0)
ตอนที่ : 25 (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=227915.0)
_ _ _ _ _ _ _ _ _ _
เนื้อเรื่องของ น้องเมดคิราระ [ ยังไม่จบ ]
แววตาที่เปลี่ยนไปของสาวแกล
ตอนที่ 1 : โนโซมิ คิราระ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=215491.0)
ตอนที่ 2 : การพบกันอีกครั้ง (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=216924.0)
ตอนที่ 3 : ความรู้สึกที่กำลังก่อตัว (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=217440.0)
ตอนที่ 4 : ในนามของอิซานางิ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=217793.0)
ตอนที่ 5 : อย่าห้ามชั้นเลยนะ ริวกะ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=218151.0)
ตอนที่ 6 : ให้ชั้นดูแลนายนะ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=218265.0)
ตอนที่ 7 : ค่ำคืนของหนุ่มสาว (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=218956.0)
ตอนที่ 8 : เมดข้า ใครอย่าแตะ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=219315.0)
ตอนที่ 9 : ถล่มถ้ำเสือ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=221912.0)
ตอนที่10 : องเมียวจิวัยเยาว์ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=222887.0)
ตอนที่ 11 : จักรพรรดิเพลิง (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=225041.0)
ตอนที่ 12 : ของขวัญที่ดีที่สุด (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=226680.0)
•••••••••••
เนื้อเรื่องของรุ้งพลอย [ จบแล้ว ]
การเดินทางของสายรุ้ง
ตอนที่ 1 : มรสุม (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=212698.0)
ตอนที่ 2 : โหมกระหน่ำ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=213032.0)
ตอนที่ 3 : เมฆสลาย (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=213084.0)
ตอนที่ 4 : วันฝนซา (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=213607.0) [ แนะนำ อ่าน 4-7 ]
ตอนที่ 5 : ฟ้าหลังฝน (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=214756.0)
ตอนพิเศษที่ 6 : แม่ อาจารย์ เจ้านาย (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=214767.0)
ตอนพิเศษที่ 7 : ฉันรักเธอ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=214850.0)
• • • • • •
กระทู้พิเศษ
ข้อมูลตัวละครและประวัติโดยย่อ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=215066.0)
••••••
OVA ไม่เกี่ยวกับ Time Line ใดๆ
เยือนถ้ำแมงมุม (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=224279.0)
ริวกะ ประทะ จิ้งจอกเก้าหาง (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=220465.0)
ตอนพิเศษ : พาทัวร์เขตอาคม (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=222331.0)
. . . . . . . . . . .
Homunculus Serie
สุมไฟรัก (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=219243.0)
พิศวาสซ่อนเร้น (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=220361.0)
มนต์คล้องใจ (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=219611.0)
ได้ค่ะที่รัก (//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=225760.0)
. . . . . . . . . . . .
โหยเวย์ก็ร้ายสุดยอดเลยฉลาดจัด อยากให้สองคนนี้ลงเอยกันเร็วๆแล้วครับ ขอบคุณมากครับ
อั้มโดนริวกะจัดหนักแน่ๆ
จองพี่อั้มๆๆ
อิจฉาไอ้ริวจังง แต่อยากเป็นลุงโชเฟอร์อ่ะ อยากดูริวกับอั้มไกล้ๆ
ลุ้นนายริวกับพี่อั้ม
หวังว่าพี่อั้มจะได้เปิดใจคุยกับริวกะ ใ้เข้าใจซึ่งกันและกันได้สักที
น่าจะสมหวังเข้าใจกันสักที
นายริวกับพี่อั้ม
คงได้ปรับความเข้าใจกันจนฟ้าเหลืองแน่ๆ
เละสุดท่ายความรักก็ทำตายทีหัวใจเรียกร้อง
ได้เวลาปรับควาทเข้าใจกันแล้ว
โชว์คนขับแท็กซี่เลยเหรอ
พี่อั้มยอมรับความจริงหรือยังว่าใจตัวเองต้องการอะไร ยังคิดอ้อมไปอ้อมมาแบบสาวน้อยหลงทางไปเรื่อย
เจ้ามังกรนี่จัดได้ทุกที่จริงๆนับถือเลย
ในที่สุดอั้มก็ยอม
รอบทพิศสวาทระหว่างพี่อั้มกับนายริวมานานมาก วันนี้ละได้สมใจเสียที 555
ริวรีบเปลี่ยนจากพี่น้องเป็นสามีภรรยาเลย พี่อั้มเขาคอยสถานะนี้อยู่ อย่าช้าละ
รีบบอกความในใจกันซักทีนะ จะได้มาร่วมเตียงกัน
แต่ละตอนยาวสะใจเลยครับ
นายริวจัดหนักสาวอั้มแน่เลย
ลุ้นพี่อั้มกันต่อตอนนี้จะสมหวังหรือปล่าว
โดนจนได้ครับำอ้ำ นานมากๆ
ได้อั้มมั้ยตอนนี้ อยากอ่านสี่คนผัวเมีย
สนุกเหมือนเดิมรอนานหน่อย ก็คุ้ม เรื่องผสานกันดี ระหว่างควาใรู้สีกดีๆ กับเรื่องเอากัน....
ได้เวลาปรับความเข้าใจกันแล้วนะ อั้มคงโดนริวกะปรับความเข้าใจกันหนักแน่ๆ
อ้าว ถึงเวลาน้องชายจัดพี่สาวเป็นเมียแล้ว ไชโย
ขอฉากโรสโดนจัดหนักด้วยสิครับท่าน
::HeyHey::จะได้เปิดกัเขาอืกหรือเปล่าว
อั้มโดนริวกะจัดหนักแน่ๆ นายริวดึงพี่อั้มมาเข้าบ้านอีกคน
หายไปนานพอกลับมาก็ทำให้จุใจ ลงติดๆ กันสองตอนเลย ขอขอบคุณครับ FC ครับติดตามผลงานท่านอยู่ลตอดครับ
พี่อั้มนี่ถ้าจะฝันแน่ๆเลย
ยอมรับความจริงสักทีก็ดีเหมือนกันนะครับพี่อั้มว่าชอบนายริว Edit แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่พี่อั้มจะลงเอยกับน้องชายสักทีล่ะครับอุตส่าห์ลุ้นนึกว่าจะให้แท็กซี่พากลับบ้าน
อั้มยอมขนาดนี้แล้ว จัดเต็มเลยนายริว
ในที่สุดพี่อั้มกับริวก็ได้สมหวังเสียที แล้วมารอดูกันต่อดีกว่าว่านายริวจะได้ใครเป็นรายต่อไป
ต้องให้ยามิบอกกับอั่มๆว่าใจอั้มเองคิดยังไงกับริวที่คิดไปเองถึงได้เกิดช่องว่างของความคิด
นอนปรับความเข้าใจกันดีกว่านั่งคุยกันครับ
ลงจากแท็กซี่แล้วหรือยังครับ
คนขับน่าจะงง เมื่อกี้บอกพี่สาวผมอยู่เลยนี่
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นอันตรายซะอีกนะ
ที่แท้พี่เวรจัดให้นี่เอง
ว่าแต่พี่เวย์เนี่ยเป็นคนมีฝีมือมากนี่นา
มาทำอะไรในมหาวิทยาลัยเนี่ย
น่าสงสัยมาก
มาถึงตอนดูดกันในรถนี่คิดใช่ไหมช่างกล้านัก
edit: แทนที่ริวจะได้ดูดดื่มกับอั้มแต่เวย์กลับได้ดื่มกุหลาบก่อนซะงั้น
อย่างนี้ไม่รอดมือน้องชายแน่ๆ
นายริวจะจัดให้พี่แท็กซี่ดูเลยริ
ตอนนี้อั้มจะโดนริวจัดหนักมั้ยนะ
ทำใน taxi เขาไม่ว่าเอาเหรอ บอกว่าเป็นพี่น้องด้วย
นึกว่านายริวจะจัดบนรถที่แท้อั้มอยากโดนจนเพ้อไปเองก่อน
ในที่สุดกว่าอั้มจะยอมเปิดใจออกมา คนอื่น ๆ ในบ้านลุ้นกันแทบตัวโก่ง
ถ้ามี ฉาก มิไร vs อั้ม vs ริว พี่สาวรุม จะเป็นไงน้อ
_______
ทำไมหักหลังกันแบบนี้ 55555
พ้มข้อโท่ด
Edit By #Monotone
::DookDig:: ::DookDig::
ใครจัดใครกันแน่นะ2คนเนี้ย ปิดกั้นความรู้สึกทั้ง2คน เจอรุก แบบนี้ แล้วมาเจอรุกกลับแบบนี้ ไม่ต้องกินแล้วข้าว(แต่ก็เกรงใจพี่คนขับรถบางนะ) กลับบ้านไปจัดการกินอย่างอื่นดีกว่า
นายริวจัดพี่อั๊มให้หายง้อนเลย อิอิ
นายริว บนแท๊กซี่เอ็งก็ไม่เว้นไม่ได้น่ะ
จบแล้วพี่อั้ม อดทนมาตั้งนาน
จะโดนนานริววันนี้แล้ว
ขอขอบพระคุณมากๆๆเลยขอรับ
นายริวกะจัดพี่อั้มหนักแนๆๆ หรือว่าพี่อั้มมโนเอาเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วหรือขอรับ อิอิอิ
ปรับความในใจกันแล้ว
พี่อั้ม ต้องเปิดใจแล้วตอบแทนริวแล้วแหละ
ไอ้ริวจะจัดในแทกชี่เลยหรอ
ถึงคราวของพี่อั้มปรับความเข้าใจกับนายริวซะทีนะครับ
ถึงเวลาของอั้มกับนายริวแล้ว ได้เมียเพิ่มอีกคนแล้วซินะ
ถึงเวลากิน. อั้ม. แล้ววว...นายมังกร
เย้ ในที่สุดก็ถึงคราวพี่อั้มสักที รอมานานตั้งแต่ตอนแรก5555
อ่านครั้งก็ฟินไม่หายเลยครับ
เวย์นี่มันมีที่มาจริงๆ คงต้องรอside story ของมันแล้วหละ
ถึงคราวพี่อั้มคนสวย โดนลงของเป็นรายต่อไป แล้วเอาเข้าโหมดสวิงกิ้งครั้งหน้าด้วยนะ
โห ยอมแล้วใช่ไหมนี่ จะโดนจัดที่ไหนหนอ
พี่อั้มโดนเข้าแล้วววว
ลุงโชเฟิร์นี้ยังไง เป็น กขคริวกับ อั้ม..... หาอะไรน่ะ มันทั่ง 2 เข้าไปทำในรถรถลุง ต่างหาก ..... อ่าวเหรอ ขอโทษคนับลุง
เป็นบุญตาของโชเฟอร์ละงานนี้
นึกว่าต้องเสียพื่อั้มไปซะแล้ว
นึกว่าต้องเสียพื่อั้มไปซะแล้ว
::Ajark::รอพี่อั้มมานานมากสุดท้ายก้อมาถึงจนได้ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆนายริวช่างโชคดีแท้
เป็นผมผมก็งอน ขอให้ปรับความเข้าใจกันได้นะครับ แล้วมาช่วยรีดพิษมังกรเยอะ5555
เวยร้ายนักกก555
นายริวจะเล่นพี่อั๊มบนแท๊กซี่เลยเหรอ เพิ่งบอกว่าเป็นพี่น้องกันเอง รอบนี้หวังว่าจะสมหวังซักทีนะ พลาดมานานมากแล้ว
พี่อั้มเปิดใจยอมแล้วนายริวจัดการโดยไวเลย
รอบนี้เสร็จพระเอกเราแน่ จัดให้กนัก ๆ เลย ขอบคุณครับ
จัดพี่อั๋มให้หนักเลย มาสองตอนติดขอบคุณครับ
ได้เสียที อั้ม เข้าพวกแล้ว
ค้างคาเลยครับ
จะคลายปมในใจของอั้มได้ยังไงนะครับ
ถึงจะนอยด์บ้างไรบ้างก็ห้ามใจไม่ได้จริงจิง
ยอมก็จัดเลยหนักๆ
ในที่สุด พี่อั้มก็ยอมรับความจริงซะที
โอ้โห หลากหลายจริงๆ ผูกกันได้แบบเนียนมาก รวมทั้งเด็ดสุดคือเติมเรื่องอาหาร
สองอาหลานโชคดีจริงที่ถูกตำรวจจับ ไม่โดนริวเช็คบิล โดยลมหายใจมังกร
แต่ดูท่า สองอาหลานจะไม่สำนึก ต้องกลับมาแก้แค้นอีกแน่ๆ
โห มาอ่านตอนดึกนี่ หิวเลย
Edit แล้วไปฝันได้ยังกันหล่ะแม่คุณ แค่กลิ่นน้ำหอมก็เคลิ้มแล้ว
เดี๋ยวๆ ๆ on the road เลยนะ
เอ่ออ..ข้าวง่ายๆ..แต่ทำไมอ่านไปแล้วต้องกลืนน้ำลายตามด้วยนะ..
เรื่องทั้งหมด..ถ้าได้เปิดใจคุยกัน..ก็น่าจะเข้าใจ..
แล้วจะเปิดใจอย่างเดียวหรือว่าเปิดอย่างอื่นด้วยล่ะ??
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ร้อนแรงไม่เบานะยายอั้ม นายริวจะทำอย่างไรต่อละที่นี้ จะปรับความเข้าใจได้มัยเนี่ย
ยอมแล้วก็จัดให้หนักเลย
ถึงคิวพี่อั้โดนบ้างละ หลังจากรอ มานาน
พี่อั้มคงเหนื่อยทั้งคืนกว่าจะปลอบใจนายริวให้หายงอน
อั้มโดนริวจัดหนักแน่
อั้มน่ารักจริงๆ. แต่บนแท็กซี่นะครับ กลับบ้านก่อนดีกว่าค่อยไปกินข้าวทีหลัง
นายริวนี้มันสุดยอดเลย น่าอิจฉาสุดๆ พี่อั้มนี่ก็ที่สุดของความฝันของหนุ่มๆแล้ว ระวังลุงแท็กซี่แบล็กเมล์นะครับ เป็นผมคงจอดรถดูอ่ะครับ ขับต่อไม่ไหว
ขอบคุณครับ
ในที่สุดก็ใกล้จะมีความสุขซะทีเก็บความรู้สึกมาซะนานมีเพื่อนดีก็แบบนี้แหละ
ถึงตอนพี่อั้มโดนบ้างละ คนสุดท้ายของครอบครัวหรือยังน้า
มันก็เหมือนมีกำแพงอะไรมากั้นระว่างคนสองคนต่างฝ่ายก็เก็บความรู้สึกของตนเองใว้ไม่กล้าที่จะพูดความจริงออกมากลัวมันไม่เป็นอย่างที่ตัวเองคิด...มันจึงเกิดการเข้าใจผิดคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดเหมือนกัน......แต่ไม่รู้ว่า"พี่อั้ม"หรือ"นายริว"จะเป็นคนทำลายกำแพงนี้ หรืออาจจะพร้อมกัน?????
edit:อ้าวนึกว่ากำลังจะเกิดฉากเสียวๆบนtaxiที่ไหนได้แค่ความฝัน
ลุ้นๆพี่อั้มหวังว่าพี่อั้มคงเปิดใจเต็มๆเสียที
แบบนี้คงต้องปรับความเข้าใจกันจนฟ้าเหลืองแล้วล่ะนะ
ใจคอริวจะเปิดซิงพี่อั้มในรถแท็กซี่จริงๆเหรอเนี่ย
ฟ้าเหลืองแน่พี่อั้มม ::DookDig:: ::DookDig::
จัดกันคารถคนขับนี้ฟินแน่ๆเลยแล้วจะไปต่อกันที่ไหนนะ
คงไม่ใช่อั้มฝันอีกนะ
ขอบคุณครับ... พี่อั้มคงแย่.. แต่จิตใตของริว.. คงแย่กว่า... แต่เชื่อว่าพี่อั้มคงสามารถทำให้ริวใจอ่อนลงได้แน่นอน... แต่ใช้วิธีไหนนะ
เมือพี่อั้มรู้ใจตัวเอง น่าจะมีสิ่งดีเกิดขึ้น
ดูอดอยากมานานนะนายริว บนแท็กซี่ ก็ไม่เว้น เอ หรือเป็นแค่จินตนาการของพี่อั้มหว่า
เอาแล้วงานนี้มียะบะโอ้บะบะ
จะเสร็จตรงนี้หรือจะเสร็จที่บ้าน?
จะจัดบนแท๊กซี่เลยเหรอนายริว ใจเยดๆนะ พี่เค้ายอมแล้ว กลับไปจัดที่บ้านดีกว่าน่า
ผมว่ามโนไปเองบนรถแน่นอน ไม่น่าใส่เต็ม
เอาใจช่วยพี่อั้มนะครับขอให้ยอมเปิดใจกล้าๆครับผม
เหมือนนายริวกับพี่อั้มจะเข้าใจกันแล้ว หรือว่ายังไง ลุ้นๆ
ในรถเลยหรอนายริว มีโซเฟอร์เป็นผู้ชมด้วยนะ
ยอมนายริวจนได้นะพี่อั้ม
มาอ่านต่อเพื่อจะได้ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วครับ ตามผลงานของนายริวว่าจะจัดการเพียวอย่างไร
ตกใจ คิดว่านายริวจัดบนรถซะแล้ว แหม่ แต่นายเวย์มาวางแผนแบบนี้ คงรอดได้ไม่นานหรอกพี่อั้ม
ยอมรับความในใจตัวเองสักทีนะสาวอั้ม
สงสารคนขับแท็กซี่เลยครับ อีกไม่นานคงเป็น 4-1 แหงๆ
นายริวไม่ไหวแล้ว สงสัยจะหน้ามืด
อย่าบอกนะว่าฝันไป
เดวๆนี้จะจัดบนแท๊กซี่เลยหรอ
_ โถแค่มโนเองหรอแต่ถึงบ้านแล้วคงจะเป็นจริงตามที่มโนแน่ๆ
ใจคอจะล่อกันในแท็กซี่เลยเหรอพ่อคุณ
คืนนี้จะได้คืนดีกันมัยคู่นี้
งานนี้สาวอั้มก็ได้สมหวังซะที
จะได้กินมั้ยข้าว
มีวันนี้สักที วันที่อั้มตกเป็นของนายริว แล้วจะมีใครอีกไหม
คราวนี้จะได้โดนกันครบทุกคนแล้วจะได้ปรับความเข้าใจกันด้วย
ได้มีความสุขกับพี่อั้มซะที
ริวไม่สนใจคนขับรถเลยเหรอครับ บ้าไปแล้ว
พี่อั้มคับผมรอไม่ไหวแล้ว คนอื่นโดนกันหมดแล้วเหลือแต่พี่นี่เหละ ลุ้มาหลายตอนสมหวังสักที..
น้ำหอมกลิ่นนี้อยากมีบ้างเลยครับ
พี่อั้มมโนไปเองหรือเปล่าเนี่ย
เมื่อไรนายริวจะได้ซั่มอั้มซักที
เสร็จล่ะพี่อั้มงานนี้ไม่รอด
พี่อั้มจะโดนจริงไหม
ทำนบทะลายก็วันนี้แหละ ริวจัดไป...อิอิ
ริวกะมัวแต่โม้แล้วจะช่วยพี่อ้ำทันไหมนิ 555
ยอมรับว่าพลอยใจกว้างมากแต่มังกรเราหื่นเกินเล่นในแท็กซี่เลย
ผิดคาดดันฝันซะได้
เจิมก่อน
ตอนหน้าขอให้ได้ขอให้โดนนะครับพี่อั้ม
ในที่สุดอั้มก็เผยความในใจออกมา เก็บกดมาตั้งนาน
และแล้วเราก้อหากันจนเจอนะครับพี่อั้ม😆
เสร็จริวซะแล้ว
แอบเศร้านิดๆนะตอนนี้
::Confident::พี่อั้มพาน้องริวมานั่งเรือหารักแหมน่า
คราวนี้นายริวกับพี่อั้มคงลงเอยสักที ::Glad::
เฮ้ยเดี๋ยว แล้วลุงคนขับล่ะ ไม่อายรึ
.
.
.
อ้าวฝันอีก 555 ว่าแต่อเวจี ไม่ธรรมดาจิงๆ
มันส์สะใจคอแอคชั่นอย่างเราดีแท้ จัดมาอีกครับ จัดมาอีก สนุกมากเลยครับ
ฮาเล็มคนสุดท้าย จะมีสาวใหม่มาเข้ากลุ่มอีกมั้ยเนี่ย
ในที่สุดก็ถีงวันที่ริวรอคอย และก็คงเป็นวันที่อั้มเปิดใจบอกรักกับริว คืนนี้ทั้งคืน ทั้งคู่คงพรำ่ปรับความในใจกันจนสว่างแน่ๆ ริวคงบอกรักกับอั้มจนสาสมใจอยากที่เฝ้ารอวันนี้มานาน แต่พี่อั้มมีรึจะกลัว กลัวริวหมดแรงมากกว่านะสิ
อ้าว.. อั้มฝันไปหรือนี่ แต่ไม่สิ อย่างไงเหตุการณ์ฝันจนนำ้เดินแบบนี้ ก็คงต้องเกิดขึ้นจริง แค่จะเร็วหรือช้าเท่านั้น ทั้งบรรยากาศพาไปและทั้งกับความรู้สึกที่ซ้อนเร้นของทั้งคู่ แถมยังมีคนคอยจัดฉากให้ทั้งคู่พร้อมที่จะเปิดใจบอกความในใจต่อกันอีก ไม่เสร็จสมอารมณ์หมายคราวนี้ ก็คงดองแห้วไว้กินไปอีกนานเลย
ขอบคุณมากครับ นายริวช่างโชคดีเหนือคนจริง ๆ
พระเอกมีหลายบทหลายอารมณ์
พี่อั้มไม่รอดแล้วงานนี้
เรียบร้อยโรงเรียนจีนของนายริว
หนีอะไรก้อหนีได้ แต่อั้มจะหนีใจตัวเองได้หรือ
จัดหนักกันแน่นอน รอมานาน
อั้มจะรอดมั้ยคราวนี้
พี่อั้มจะโดนนายริวขนาดไหนเนี่ย
ต้องซัมติงจิงกะเบลแล้ว
หวังว่าจะเข้าใจกันสักที
บนรถtaxiเลยหรอ หรืออั้มจะจินตนาการไปเอง
::Touchy:: ฉากบู๊กำลังมันส์ แต่มันส์กับฉากอื่นก็ได้ครับ
เอาจริงนะ อั้มยอมจริงนะ อย่าหลอกให้แฟนคลับดีใจเก้อนะ ลุ้นมาตั้งแต่วันที่ไปปลุกริวจนวันนี้
อย่าให้พลาดนะนายริว เพื่อนปูให้ขนาดนี้แล้ว
นายริวจะทนไปถึงบ้านไหวไหมนะ
ใส่กันในแท็กซี่เลยหรอคนขับไม่ชนหรอนั้น
นายริวมโนไปเองป่าว
โอ้โหพระรองก็ไม่เบานะครับน้องเวย์ ::Shy::
นายริวได้เมียอีกคน
พี่อั้มต้องโดนแล้วครับรอบนี้ ไม่ใช่ความฝันแน่นอน
เสร็จริวแน่นอนงานนี้ ได้เปิดซิงอีกแล้วซินะ
อดใจกันไม่ใหว เล่นในรถแท๊กซี่เลยหรอ พี่แท๊กซี่ก็เห็นของดีพี่อั๊มซิเนี้ย
ปรับความเข้าใจแบบได้เสียอิอิ
สงสารริวกะนะ รักอั้มแต่อั้มกลับปิดกั้นตัวเองจนเกือบสายไปแล้ว
ไม่น่าเชื่อนะว่าเวย์จะทำหน้าที่พ่อสื่อได้ดีขนาดนี้
ปรับความเข้าใจกันดีๆนะ เดี๋ยวจะเลอะ
เฮ้ย จะทำบนรถเลยเหรอ เกรงใจพี่แท็กซื่เขาน่ะ ที่แท้พี่อั้มคิดไปเอง
ต้องขอบคุณเพื่อนเวย์มากที่จัดให้เพื่อนริวขนาดนี้
ยอมรับตัวเองสักทีพี่อั้ม
เมื่อไหร่จะเปิดเผยเรื่องเวย์อ่ะครับ เค้าดูเป็นผู้ใหญ่กว่าริวอีกน่าจะผ่านอะไรมามาก
เหมือนอะไรขาดหายไปครับ
ริว : อั้มๆ เป็นอะไร
อั้ม : กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่
พี่อั้มโดนจัดหนักทั้งคืนแน่ๆ
อ้าวพี่อั้มจะโดนนายริวเปิดซิงนอกสถานที่ซะแล้ว
ในที่สุด ซะที สมหวังรอคอย😊
ถ่านไฟเก่าปะทุ
พากลับไปห้องด่วนเลยนายริว
พี่อั้มยอมรับความจริงเถอะแล้วริวก็ซื้อตรงกับความรู้สึกได้แล้ว
อั้มเสร็จแน่งานนี้
มาถึงขนาดนี้แล้วคงจะสมหวังกันเสียทีนะ คนอ่านลุ้นกันแย่แล้ว...
เอาจริงๆเลยนะ สรุปแล้วไอ้นายเวย์นี่เป็นใครกันแน่?... ::Hmmm::
ครั้งแรกของอั้ม
ดูๆแล้ว เหมือนพี่อั้มจะเป็นพวกความรู้สึกช้าหรือว่าไม่ค่อยใส่ใจครับเนี้ย หรือว่าเพราะความรู้สึกที่คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกทำให้ไม่เห็นในสิ่งที่ควรจะเห็น หลังจากที่ได้อ่านตอนที่ซ่อนแล้ว นายริวฉลาดไหวพริบดี แต่ก็พอๆกับพี่อั้มเลยครับ ที่ไม่รู้ใจคนที่แอบชอบ อีกทั้งยังไม่รู้ใจตัวเองอีก เหมือนมีอะไรบางอย่างเป็นกำแพงปิดกั้นความรู้สึกซะนี้
อั้มโดนริวกะจัดหนักแน่ๆ
ผมพลาดตอนนี้ อยากรู้ว่าริวกะอั้มปรับความเข้าใจกันอย่างไร
::JubuJubu::หน้าจะลงเอยกันสักทีนะนายริวกับพี่อั๊ม
อัยนะเราอ่านไม่ระเอียดหรือยังไงนึกว่าอั๊มเสร็จริวแค่นึกไปเอง
เวย์เพื่อนรักช่วยจัดฉากมาก
ปรับความเข้าใจกันได้สะที่สองพี่น้อง หรือจะเป็นแบบผัวเมียดี
นายเวยน์นี่ต้องเก่งขนาดไหน ถึงมีกองกำลังที่คอยช่วยเยอะแบบนั้น
ปรับความเข้าใจแบบใกล้ชิด
งานนี้ต้องมาแล้ว เมียคนที่4 ของริวกะ
ในที่สุด พี่อั้มก็ยอมรับความจริงซะที
::Oops:: อ่านไปนึกว่าทำในแท็กซี่แน้วรึเปล่านะ โถ่ยัยอั้มขยันฝันจริงๆ555
โหเป็นใครก็น้อยใจนะครับทำกันได้ขนาดนั้น ::Crying:: ::Crying:: ::Crying::
หวังว่าพี่อั้มกับริวจะได้สมหวังกันสักทีนะครับ คลาดกันไปมาหลายรอบแล้ว
รีบกลับบ้านอย่างเร็วเลยนสยริวเดี๋ยวอด
คนที่ 4 แล้สนะริวกะ หมดทุกคนในครอบครัวแล้วนะ
อั้มฝันอีกแล้วสิ
ฝันอีกละ
สาวอั้มปากแข็งจะโดนแล้ว
ตอนแรกก้อคิดว่าจะจัดกันบนรถเลยที่แท้แค่อั้มฝันไป แต่นายเวย์นี่ก้อทำเพื่อเพื่อนรักได้ดีมาก แถมอ่านเกมส์ขากมากๆเลย
ในที่สุด อั้มก็ทลายกำแพงใจได้แล้ว
ไม่เกรงใจแท็กซี่กันเลยยย
เวย์นี่แม่งเก่งว่ะ ซักวันคงได้โชว์ของเต็มๆ
โดนแน่นอน
พี่อั้มต้องยอมรับความจริงแล้วละเนี่ย จะได้จัดกันอย่างเต็มๆซะที
พี่อั้มต้องใช้มารยาหญิงเยอะๆ
อั้มจะสมหวังมั๊ยนะ
ชตาหอยขาดแล้วอั้ม
ความหลงผิด ที่มาพร้อม ทิฐิมานะ นี่มันร้าย บดบังสิ่งที่ดี ที่ควรรู้ไปหมด
เคียใจกันสักทีอิอิ แต่จะเคียนานไหมนะอิอิ
เจอรุก3จุดพร้อมกันแบบนี้ เสร็จแน่ๆ ลุ้นแค่ว่าจะโดนเปิดบนรถไหม นี้แร่ะ ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo:: ::HoHo::
อั๊ม..สร้างวีรกรรมไว่เยอะเหมือนกันนะถ้าผมเป็นนายริวผมก็นอยเหมือนกัน ปากแข็่งยังงี้มีอดนะอั๊ม
คนขับแท็กซี่ตาค้างขาแข็งแล้วมั้ง
จัดการพี่อั้มไป อย่าให้เสียครับ
::Snap::เอาแล้ว ฉากที่รอคอยมาแบ้ว
บน taxi เลยเรอะ ใจเย็นๆ
นี่ก็มโนเก่งเกิ๊นนน รอบที่แล้วไปทีล่ะ
ริววว นี่มันในรถแท็กซี่นะ ใจเย็นๆ อะไรจะหื่นได้ทุกที่ขนาดนั้น
พี่อั้มมโนไปเองอีกป่าวเนี่ย
และแล้วอั้มก็เข้าสังกัด รอพร้อม ๆ สี่สาวนะครับ
อยากรู้แล้วว่านายเวย์มีเบื้องหลังยังไง
ปิดจ๊อบพี่อั๊มอีกหนึ่งเคส
และแล้วก้ไม่รอดนายริว ::Ahoo::
พี่อั้มโดนแน่
คงได้เปิดพี่อั้มซะที
เอิ่ม บนรถนะครับ นายน้อยริวกะ สงสัยพี่อั้มจะมโนไปเองแน่ๆ เลยอะ
-----------------------------------------------------
มโนจริงๆ ด้วย แต่ตอนหน้า เสียซิงแน่ครับ พี่อั้ม
พรุ่งนี้ไม่ได้ไปเรียนแหงมๆ
อิจฉาริวววว
แท็กซี่ถามบอกพี่น้องเผลอแป็ปเดียวจะเอากันโชว์ซะแล้ว
เดี๋ยวใจเย็นๆนี่มันบนรถแท๊กซี่นะ
จะจัดโชว์บนtaxiเลยเหรอ555
กล้าหาญขนาดเปิดออกล้วงโชว์กันในแท็กซี่เลยเหรอริวกะ หรือพี่อั้มมโนไปเองด้วยฤทธิ์น้ำหอมของนายริว
บนรถTaxi เลยเหรอ ริวกะ อายคนขับบ้าง...กลับห้องก่อน
ฝัน..นี่เอง ถึงว่าทำไมมันง่ายจังหว่า...
ยาปลุกช้ไม่ได้ผล แต่แพ้น้ำหอมซะงั้นพี่อั้ม5555
ว่าแล้วว่าสถานที่ไม่เอื่อ 555 เคยคิดว่าน้องฝนจินตนาการบัญเจิดแล้ว พี่อั้มหนักกว่าอีก555
นายริวลืมป่าวว่ายุ่บนแทกซี่ กลายเป็นชอบโชวแล้วหรา
นั่นไม่โดนที่แฟนเก่าโดนพระเอกเล่นละ
ฮัลโหลๆๆๆๆ พี่อั้มๆๆๆ ตื่นๆๆๆๆๆๆๆ จินตนาการไปเองอีกแล้ววว
นั้นในรถนะอย่าทำแบบนั้น
นึกไปเองแน่เลย
พี่อั้มยอมรับความจริงได้แล้วว่ารักริวจริงๆสินะจัดงามๆสักดอกจะเยี่ยมมากๆ
ดีมากได้กำจัดไอ้เพียวแบบถอนรากถอนโคน รวมทั้งแก้แค้นใ้พลอยด้วย
สงสัยมาหลายตอนแล้วว่านายเวย์นี่เบื้องหลังทำอะไร
อั้ม.เคลิ้ม
พี่มังกรโชว์ซะนายเวย์ขยาดไปเลย
พี่อั้มจินตนาการไปใช่ไหม เอเชียทีคที่ไปกับดาวเอามาเป็นฉากนี้แน่เลย
อ้าวนายเวย์ถือว่าอยู่คนละฝากเมืองเหรอ น้องฝนเสียใจแย่แบบนี้ แค่พี่ษานี่ก็น่าจะเคลียร์ยากแล้วนะ
ตามอ่านตอนพี่อั้มก่อนตอนอื่นเลย
เดาว่าคิดไปเอง ฮ่าๆ ว่าแต่นี่นิยายหรือรายการทำอาหารครับเนี่ย!!!
บรรยายซะหิวเลย . . . แบบนี้อ่านดึกๆจะแย่เอานะครับ
โดน ๆ อย่างนี้มันต้องโดน
ยังอยู่ใน taxi ไม่ใช่หรอนายริว
เบาๆ พี่อั้มอายนะ
เห้อ ข้อความก่อนซ่อนนี่อั้มต้องจินตนาการไปไกลเองแน่ ๆ นี่ในรถแท็กซี่นะ
เดี่ยวๆในรุแทกซี่นะ พี่อั้มจินตนาการเองแน่ๆ
นายริวกับพี่อั้มจะไปไกลถึงฝั่งฝันหรือไม่เพราะจุดเริ่มต้นบนแท็กซี่คงทำได้ไม่มาก งานนี้รู้สึกอิจฉาโชว์เฟอร์ที่ได้เห็นภาพพลอดรักกันของทั้งคู่
ปรับความเข้าใจกันสักทีเถอะน้าา
พี่น้องแท็กทีมสู้แบบนี้ ไม่น่ารอดกับ
พี่อั๊มฝันอีกแล้วหรือเปล่า ฝันมีความสุขทุกทีเลย
จะได่กันรึเปล่าน้า
ริวมาช่วยอั้มแบบนี้คงได้ใจอั้มไปเต็มๆเลยแน่ๆจากที่รักอยู่แล้วคงหลงอ่ะทีนี้ สุดยอดเลยครับ
ใจเย็นๆก่อนนายริวนี่มันรถแท็กซี่
เป็นผมก็น้อยใจอั้มนะ แต่อย่างว่านั่นแหละความรักมีหลายรูปแบบ
พี่ๆๆๆๆอั๊ม ขอริวนะ
::KO::บทบู๊สนุกสัส
อ้างจาก: Monotone_Memory เมื่อ กุมภาพันธ์ 13, 2020, 03:33:39 หลังเที่ยง
สวัสดีอีกรอบครับ ถือว่าเป็นการเบิ้ลให้ หลังจากหายไปนาน ลงไปสองตอนเลยเพื่อความจุใจ ยังไงก็ช่วย คอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ตอนนี้มีซ่อนข้อความ ต้องแสดงความคิดเห็นก่อนนะครับ
และเมื่อหลังอ่านจบทั้งหมด อยากให้กลับมาอ Edit และคอมเมนต์เพิ่มด้วยครับผม
ตอนที่ 26 : พี่อั้ม กับ นายริว 2
ตู้ม !!! ริวกะใช้ท่าของรินที่เคยสอนเขาตอนเด็กๆเอามาใช้ มันเป็น 1 ในกระบวนท่าของวิชาลับประจำตระกูลเฉกเช่นเดียวกับ นาเดชิโกะ แต่ท่านี้พลังทำลายจะมากกว่านาเดชิโกะหลายเท่านัก ในอดีตรินเคยใช้ท่านี้เพื่อทำลายประตูเหล็กกล้าหนากว่า 1 ฟุตมาแล้ว
ภาพตรงหน้านั้นคือ บอดี้การ์ดร่างยักษ์ของไอ้เพียวนั้นลงไปนอนกองกำพื้นเลยทีเดียว อีกทั้งต้นไม้ที่มันใช้พยุงตัวก็เกิดรอยแตกขึ้นด้วย และสิ่งที่มันน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมนั้นคือเสื้อของมัน รอยขาดนั้นแสดงให้เห็นว่า พลังที่อัดกระแทกเข้ามานั้นมหาศาลเพียงใด ขนาดเสื้อกันกระสุนที่ว่าหนายังปริขาดราวกับเสื้อผ้าราคาถูก
แต่สิ่งที่แปลกนั้นก็คือ คนที่ผ่านไปผ่านมานั้น ทำแค่มองๆและเดินผ่านไป พวกเขาไม่คิดว่านี่คือการชกต่อยหรือมีเรื่องกันด้วยซ้ำ ท่วงท่าที่สวยงาม การโจมตีที่ดูแบบมีแผน ทำให้พวกเขาคิดว่า กลุ่มของริวกะและไอ้เพียวกำลังฝึกซ้อมกีฬากันเสียมากกว่า เพราะที่นี่ก็คือสถานที่ออกกำลังกาย จึงไม่แปลกเลยที่จะมีชมรมศิลปะการต่อสู้ตั้งอยู่ในที่นี้ และนั่นก็คือเหตุผลที่พวกเขาไม่สนใจและวิ่งออกกำลังกายกันต่อไปยังไงล่ะ
[ เวย์ ] : โอโห มึงแม่งเกินมนุษย์ไปละมังกร มึงต่อยทะลุเสื้อกันกระสุนเลยเหรอวะ
เวย์ที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 1กิโลเมตร ถึงกับเสียวสันหลังว่าบ ว่าบ ว่าบ เพราะตอนนี้ไอ้มังกรเพื่อนของเขาได้โชว์เทพอีกแล้ว คราวนี้แม้จะไม่ได้ดูคลั่งหรือขาดสติแบบตอนที่สู้กับพวกไอ้นพ แต่ว่าแต่ละหมัดที่ออกไป มันสามารถทำให้คนที่โดนนั้นหมดสภาพได้ในครั้งเดียวเลยก็ว่าได้ แต่ว่าความเสียวมันไม่ได้มีแค่นั้นเพราะว่าความมันส์มันกำลังจะเริ่มขึ้นจากนี้ต่างหาก
บรืน !!! ในขณะที่ไอ้เพียวกำลังสิ้นไร้ไม้ตอกนั้น ก็ได้มีรถแบรนด์ตรา 3 แฉก ขับมาจอดที่ตรงหน้าของมัน ทันทีที่เห็นรมันก็ยิ้มทันที เพราะนี่ก็คือรถของอามันนั่นเอง อาที่มันได้รับเลือดชั่วๆมามากกว่าพ่อตัวเองด้วยซ้ำ
[ เพียว ] : คุณอาครับ
[ อาเหี้ยเพียว ] : อ้าวว่าไงเพียว บังเอิญจังเลยนะ ( ไอ้ตอแหล ) มาทำอะไรเนี่ย
[ เพียว ] : ผมพาอั้ม มาเดินเล่นน่ะครับ พอดีมีคนมาป่วน เลยมีปัญหานิดหน่อยครับ
[ อาเหี้ยเพียว ] : เอ๋ อั้ม อ๋อแฟนเราน่ะเหรอ ไหนล่ะ
อาไอ้เพียวนั้นรีบสวมบทบาทคุณอาผู้แสนดีทันที เขาทำทีเป็นถามหาอั้ม ส่วนไอ้เพียวก็ยิ้มเลย มันคิดว่ายังไงซะถ้าอาเป็นคนออกตัวล่ะก็ อั้มต้องไม่กล้าปฏิเสธแน่ๆ เพราะอั้มน่าจะรู้ดีว่าอาของเขานั้นมีอำนาจแค่ไหน แต่ว่า...
[ อั้ม ] : ขอโทษค่ะ เพียวกับอั้มไม่ได้มีฐานะเป็นแฟนกันแล้วค่ะ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนร่วมโลกที่ดีต่อกันค่ะ
คำพูดของอั้มนั้นทำไอ้เพียวถึงกับหน้าเสียเลย มันไม่คิดว่าอั้มพูดแบบนี้ต่อหน้านาย ภูษิต กรรมการบริหารของบริษัทแสงโรจน์ ผู้ที่มีอิทธิพลเป็นอันดับต้นๆของประเทศแบบนี้ ส่วนนายภูษิตก็ถึงกับหน้าเสียเหมือนกันที่กล้ามีคนมาหักหน้าเขาแบบนี้ และดูเหมือนพี่แกจะจุดเดือดต่ำเสียด้วย เพราะทันทีที่ถูกหยามหน้าสันดารก็เริ่มออกทันที
[ ภูษิต ] : เอ... อาว่าพวกเราไปหาที่เงียบๆนั่งคุยกันดีกว่ามั้ย จะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
ทันทีที่พูดขึ้นมา ไอ้บอดี้การ์ดส่วนตัว ทั้ง4 คนก็เดินเข้าหาอั้มทันที แน่นอนว่าความหมายของนายภูษิตนั้นคือ จับอีนี่มาให้กู ดังนั้นพวกมันจึงไม่รอช้าและเดินเข้าไปจับตัวอั้มทันที แต่ว่า มั่บ !!! มีใครบางคนโผล่มาและจับล็อคข้อมือของพวกมันไว้ทันที
[ ยามิ ] : ไม่ดีนะครับที่ทำแบบนี้ !!!
[ อั้ม ] : พี่ยามิ
ยามินั่นเอง อยู่ดีๆยามิก็โผล่มาและจับล็อคมือของไอ้คนที่กล้าแตะต้องลูกสาวบุญธรรมของนายท่านริน กรึ้กก !!! ยามิแค่บิดเบาๆเท่านั้นบอดี้การ์ดตัวโตถึงกับลงไปนั่งคุกเข่าพร้อมสีหน้าที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างยิ่ง
[ ภูษิต ] : เฮ้ย !!! กล้าทำร้ายคนของชั้นได้ยังไง ( เกรียนแตก ) รู้หรือเปล่าชั้นเป็นใคร ปล่อยมือคนของชั้นเดี๋ยวนี้
[ ยามิ ] : รู้สิ่ครับ คุณภูษิต นิมิตทรัพย์ กรรมการผู้บริหาร บริษัท แสงโรจน์ จำกัดมหาชน สิ่นะครับ
[ ภูษิต ] : งั้นก็ดี งั้นแก ก็จงปล่อยคนของชั้นซะ
และยามิก็ปล่อยมือคนของนายภูษิตตามที่เขาร้องบอก ไอ้บอดี้การ์ดคนนั้นถึงกับรีบลุกขึ้นด้วยท่าทีที่หวาดกลัว ชายตรงหน้า ( ยามิ ) สูงแค่ 180 จริงอยู่ที่ดูผ่านเสื้อผ้าก็น่าจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แต่ไอ้การบีบมือของมันจนมันเจ็บปวดจนยืนไม่ไหวนั้นมันผิดปกติเกินไป เพราะตอนที่อยู่ในโรงเรียนสอนบอดี้การ์ด เรื่องพละกำลังของมันก็ไม่เป็นสองรองใครในรุ่น แต่ตอนนี้มันเหมือนว่ากลายเป็นเด็กที่ไร้เรี่ยวแรงและไร้หนทางที่จะต่อสู้เลยก็ว่าได้
[ บอดี้การ์ด ] : นายครับ ผมว่าเราถอยกันก่อนเถอะครับ ไอ้นี่มันไม่ธรรมดานะครับ
[ ภูษิต ] : มึงจะกลัวอะไรมันนักหนา นายภูษิตคนนี้ไม่เคยถอย ไม่เคยอ่อนข้อให้คนที่คิดเป็นปฎิปักษ์ ใครหน้าไหนมันหยามชั้น มันต้องพังกันไปข้างนึง คิดว่าตลอดเวลาเกือบ 10 ปีที่ชั้นยืนอยู่ในธุรกิจนี้ได้ เพราะชั้นยอมคนงั้นเหรอ
[ ยามิ ] : จะว่าไปแล้วผมลืมแนะนำตัวเลยครับ ผม คุเรไน ซึบาสะมารุ ผู้ตรวจการณ์จากอิซานางิ ครับ
ทันทีที่เอ่ยชื่อขึ้นมา ทั้งนายภูษิต และบอดี้การ์ดทุกคนถึงกับอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก คุเรไน ซึบาสะมารุ หรือรู้กันในนามผู้ตรวจการของบ้านใหญ่ เขามีหน้าที่ในการตรวจสอบบริษัทต่างๆในเครืออิซานางิกรุ๊ป และไตรภาคี ว่ากันว่าเขาสามารถไปมาได้ราวกับสายลมก็มิปาน ทั่วทั้งภูมิภาคเขาสามารถเดินทางไปมาได้ราวกับหายตัว ตลอด 10 ปีที่ผ่าน ชื่อของ คุเรไน เป็นที่หวาดกลัวของผู้ที่คิดคดทรยศต่อไตรภาคีเป็นอย่างมาก
[ ภูชิต ] : และ และ และคนของอิซานางิกรุ๊ป มีธุระอะไรกับผม ไม่ทราบ
[ ยามิ ] : นั่นสิ่นะครับ
ยามินั่นตอบอย่างเรียบๆ เหมือนว่าไม่สนใจอะไร แต่ตอนนี้เหงื่อของนายภูชิตเรียกได้ว่า แตกพลั่กๆเลย นั่นเพราะว่านายภูษิตนั้นได้ประพฤติมิชอบต่อบริษัท หรือ ยักยอกทรัพย์นั่นเอง จริงอยู่ว่า นิมิตทรัพย์ ไม่ได้ขึ้นตรงกับอิซานางิ แต่ว่ายังไงซะ บริษัทของเขาก็อยู่ในเครือข่ายของพิทักษ์เทวา ซึ่งเป็น 1 ในไตรภาคีนั่นเอง
[ ภูชิต ] : เอ่อะ เอ่อ งั้นเชิญคุณไปนั่งทานน้ำเย็นๆที่บ้าน และนั่งคุยกันก่อนไหมครับ
[ ยามิ ] : ไม่ดีกว่าครับ ผมมาเพื่อแจ้งให้คุณทราบว่า อิซานางิ กรุ๊ป ขอปลด บริษัท แสงโรจน์ จำกัดมหาชน ออกจากไตรภาคี
[ ภูชิต ] : อะ อะไรกันครับ ทำไมอิซานางิ กรุ๊ป ถึงมีอำนาจการปลดแสงโรจน์ออกจากไตรภาคีล่ะ บริษัทของผมเป็นเครือข่ายของพิทักษ์เทวา แล้วอีกอย่างคุณเอาข้อหาอะไรมาปลดผมออกล่ะ หลักฐานไหนล่ะหลักฐาน
หลักฐานน่ะเหรอครับ มีแน่นอน
เสียงบางเสียงดังขึ้นมาพร้อมกับร่างของใครบางคน และนั่นก็คือ เวตาล หรือ เวโรจน์ พิทักษ์เทวา นั่นเอง เขาเดินมาด้วยตัวคนเดียว ด้วยท่าที่ภูมิฐานและดูสง่างามมากๆ แต่นั่นกลับแฝงไว้ด้วยบารมีและความน่ากลัวจนยากจะหยั่งถึง ริวกะเองก็ถึงกับยืนเอ๋อเลยก็ว่าได้ หรือว่านี่จะเป็นงานที่ยามิพูดถึงกันนะ ส่วนอั้มนั้นได้ทีก็รีบวิ่งไปคล้องแขนนายริวไว้อย่างรวดเร็ว ราวกับว่ารู้ตัวว่าทำผิดไปแล้วและอยากจะขอให้นายริวให้อภัย แต่ตอนนี้ริวกะไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย เขากำลังตั้งใจมองการกระทำของเวตาลที่กำลังจะเกิดขึ้นมากกว่า
[ เวตาล ] : เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณภูชิต
[ ภูชิต ] : เอ่อ... สวัสดีครับ คุณเวโรจน์ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ ถึงได้มาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง
ไอ้เพียวถึงกับหน้าซีดเลยทีเดียว อาของมันที่มันเห็นมาตั้งแต่เด็กคือคนที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แต่ตอนนี้อาของมันกลับมาท่าทีที่สงบสเงี่ยมเจียมตัวมาก ไอ้คุณเวโรจน์คนนี้มันเป็นใครกันแน่ ซึ่งการที่มันจะไม่รู้จักก็ไม่แปลก เพราะว่ามันไม่เคยเรียนรู้หรือศึกษากิจการและธุรกิจของทางบ้านเลย วันๆเอาแต่ใช้เงินโดยอ้างว่าเรียนหนังสือเท่านั้น
[ เวตาล ] : ผมมาที่นี่เพื่อแจ้งว่า พิทักษ์เทวา ขอปลด นิมิตทรัพย์และบริษัทแสงโรจน์ ออกจากการเป็นเครือข่ายของ พิทักษ์เทวา มีผลตั้งแต่ตอนนี้ครับ
[ ภูชิต ] : อะ อะไรนะ ปลด ปลดออกได้ยังไง แสงโรจน์ ทำอะไรผิด
ภูชิตนั้นเรียกได้ว่าหัวใจตกลงตีนเลยก็ว่าได้ ประกาศิตจากปากเวตาลนั้นทำให้มันถึงกับกลายเป็นคนติดอ่าง อ้ำๆ อึ้งๆ พูดไม่ออก มันได้แต่คิดในใจว่า บ้าน่าทุกอย่างก็ดูไม่มีพิรุธและไม่มีทางที่จะจับได้แน่ๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงโดนจับได้ล่ะ
[ เวตาล ] : คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ ว่าเมื่อ 10 ปีก่อน คุณทำอะไรไว้กับสถิตย์เทวาและคุณหนูรุ้งพลอยไว้ และคุณคงไม่ลืมนะว่า พิทักษ์เทวาถูกก่อตั้งขึ้นมาด้วยจุดประสงค์อะไร
ขึ้นเลยริวกะขึ้นเลย พอเอ่ยว่ารังแกรุ้งพลอยพี่นี่ขึ้นเลย ริวกะกำหมัดแน่น ราวกับรู้ได้ทันทีว่าไอ้ภูชิตนี่เป็น 1 ในคนที่ทำให้พลอยต้องตกระกำลำบากถึง 10 ปีเต็มๆ
[ เวตาล ] : คุณรวมหัวกับพี่น้องสถิตย์เทวา ยักยอกทรัพย์สินส่วนที่เป็นของคุณหนูรุ้งพลอย แอบขายหุ้นบริษัท จนทำให้กิจการค้าส่งมูลค่าหลายล้านๆบาทของสถิตย์เทวาต้องล้มละลาย อีกทั้ง 5 ปีมานี่คุณได้เข้ามาเป็นเครือข่ายของพิทักษ์เทวา คุณก็ยังไม่ทิ้งพฤติกรรมเดิมๆ คุณพยายามทุจริตเรื่องงบการซื้อ อีกทั้งยังนำข้อมูลของบริษัทไปขายให้กับคู่แข่ง แบบนี้เพียงพอให้ผมปลดคุณออกไหมครับ
ภูชิตฟังแล้วถึงกับพูดไม่ออกเลย เพราะทุกๆข้อหาที่เวตาลเอ่ยมานั้นไม่ผิดเพี้ยนไปเลยแม้แต่น้อย ใช่ !!! มันนี่แหละที่มีส่วนทำให้รุ้งพลอยต้องตกระกำลำบาก อีกทั้งระยะเวลา 5 ปีที่แสงโรจน์เข้ามาร่วมหุ้นกับพิทักษ์เทวา นายภูชิตพยายามทำการทุจริตหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งยังขายข่าว ขายข้อมูลอีกด้วย
และนั่นจึงทำให้หลักฐานมันแน่นที่บ่งชี้ว่านายภูชิตคิดไม่ซื่อนั้นหนามากขึ้น เพราะข้อมูลทุกข้อมูลในระยะ 1 ปีที่นายภูชิตนำไปขายนั้นเป็นข้อมูลลวงที่เวตาลสร้างขึ้นมาและมีเพียงนายภูชิตเท่านั้นที่รู้ นั่นเท่ากับว่าการที่คู่แข่งทางธุรกิจรู้ข้อมูลนั้นๆของพิทักษ์เทวา เป็นเพราะนายภูชิตเอาไปขายนั่นเอง
ริวกะงี้กำหมัดแน่นเลย พอได้รู้ความจริงว่าต้นเหตุที่ทำให้รุ้งพลอยต้องลำบากเป็นเพราะมัน ความโกรธความแค้นต่างๆ ก็ประดังเข้ามาราวกับพายุ แต่ว่าอั้มก็กอดแขนเขาแน่นขึ้นราวกับว่าจะบอกให้ใจเย็น เพราะถ้ายิ่งนายริวนั้นโมโหขึ้นมาเรื่องมันยิ่งเลยเถิดไปใหญ่ ส่วนไอ้ภูชิตที่ยืนฟังอยู่นั้นก็เหงื่อแตกพลั่กๆๆๆๆ มันไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึงจริงๆ ระยะเวลา 10 ปีที่มันไต่เต้าจากผู้บริหารเล็กๆ จากเงินเดือนเพียงหลักหมื่นจนตอนนี้มีทั้งอำนาจและบารมีที่มากหลาย
เขาเดินมาไกลแล้ว ไกลเกินกว่าที่จะกลับไปได้ เป็นไงเป็นกัน ถ้าต้องยอมเสียทุกอย่างไป สู้ฆ่าคนที่รู้ที่เห็นให้หมดจะดีกว่า ยังไงมันเองก็มีทั้งเงินและอำนาจอยู่แล้ว ยังไงซะอำนาจเงินก็ต้องทำให้มันหลุดคดีแน่ๆ มันส่งสัญญาณให้ลูกน้องของมันทั้งหมดพุ่งเข้าใส่เวตาลทันที แต่ว่า.....
[ เวตาล ] : นั่งลง !!!
เกิดสิ่งที่น่าเหลือเชื่อขึ้น เพียงเวตาลพูดขึ้นมาไอ้พวก 4 คนนั้นถึงกับทรุดลงไปนั่งคุกเข่าทันที ด้วยท่าทางและภาษากายนั้นบ่งบอกว่าพวกมันไม่ได้เต็มใจ แต่กำลังถูกบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นบังคับอยู่ เวตาลพูดย้ำอีกครั้งว่าให้นั่งลง คราวนี้พวกมันถึงกับทรุดลงอย่างรุนแรง ไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้เลย ริวกะนั้นพอจะเข้าใจว่าเวตาลนั้นอาจจะใช้จิตหรืออะไรบังคับให้ทำตาม แต่อั้มนี่สิ่ถึงกับพูดไม่ออกเลยทีเดียว
[ ยามิ ] : ในนามของผู้ตรวจการไตรภาคี ที่ขึ้นตรงต่ออิซานางิ ผมขอประกาศไว้ ณ. ทีนี้ว่า แสงโรจน์ ได้พ้นจากการเป็น สมาชิกของพิทักษ์เทวา และไตรภาคีแล้ว ทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ พวกเราไม่ขอมีส่วนเกี่ยวของใดๆทั้งสิ้น
ไอ้เพียวนั้นถึงกับพูดไปออก ปากสั่นตัวสั่นไปหมด มันเกิดบ้าอะไรขึ้น มาแค่จะพาอั้มมาปิดจ๊อบ ไหงกลายเป็นแบบนี้ แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนทั้ง 4 คนของคุณอา นั่งคุกเข่าลงแบบนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพียวมองไปที่ริวกะด้วยสายตาที่เคียดแค้นมาก ถ้าเมื่อครึ่งปีก่อนมันไม่โผล่มาล่ะก็ อั้มคงกลายเป็นของมันไปแล้ว
[ เพียว ] : มึง มึงมันเสือกเรื่องของกู อย่าคิดว่ามันจะจบง่ายๆ มึงคิดว่ามึงเป็นใคร กู ภูภัทร นิมิตทรัพย์ ลูกชายคนเดียว ของนาย ภูมิ นิมิตทรัพย์โว้ย มันต้องไม่จบ มันต้องไม่จบแค่นี้ ( ปากดีเหลือเกินนะเรา )
ไอ้เพียวนั้นสติแตกเลยทีเดียว ชีวิตของมันไม่เคยพบกับความอับอาย ความผิดพลาดขนาดนี้ เป็นเพราะริวกะคนเดียวที่เข้ามาทำให้ทุกๆอย่างของมันป่นปี้ไปหมด ริวกะได้ฟังแล้วก็ยังคงนิ่งอยู่ เขาไม่พูดอะไรทั้งนั้น แต่เขาค่อยๆเดินไปที่รถของนายภูชิต จากนั้นก็วางมือไปที่ฝากระโปรงรถก่อนที่จะเอ่ยว่า
[ ริวกะ ] : ชั้น อิซานางิ ริวกะ จำใส่หัวเอาไว้ด้วยล่ะ
ตู้ม !!! ริวกะพูดจบก็อัดฝ่ามือลงบนฝากระโปรงรถทันที และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันอยู่เหนือจินตนาการของพวกมันทุกคน ล้อทั้งสี่ข้างนั้นหลุดกระเด็นออกจากเพลาราวกับถูกดึงอย่างรุนแรง ถ้าถามว่าใครที่ตกใจมากที่สุด ก็คงเป็นไอ้คนที่โดนริวกะซัดด้วย ท่าพยัคฆ์คำรณ นั่นเอง นี่ถ้าริวกะเอาจริงขึ้นมาล่ะก็ตัวของมันคงระเบิดเป็นเสี่ยงๆไปแล้ว และอีกคนที่ตกใจไม่แพ้กันก็คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากไอ้คู่หูนรกแตกที่สังเกตการณ์จากยอดตึกที่ห่างออกไป 1 กิโลเมตรนั่นเอง
[ เวย์ ] : เชี้ยเอ๊ย กูสาบานเลย กูจะไม่กวนตีนมึงอีกแล้วไอ้มังกร เสียวหลังเลยกู
เวย์ถึงกับตกใจเลยทีเดียวที่เห็นภาพดังกล่าว เพราะเขาก็ไม่คิดว่าไอ้มังกรเพื่อนของเขาจะทำแบบนี้ได้ ยิ่งอั้มแล้วยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ จริงอยู่ที่เธอรู้อยู่เต็มอกว่าความเก่งของริวกะนั้นสุดยอดเพียงใด ถึงแม้ความเก่งจะไม่ได้เสี้ยวของคุณพ่อริน แต่ก็ถือว่าเก่งเกินมนุษย์อยู่ดี แต่เธอเองก็พึ่งเคยเห็นนี่แหละว่านายริวทำแบบนี้ได้ด้วย
[ อั้ม ] : พยัคฆ์คำรณเหรอ
[ ยามิ ] : ลองมองที่รอยบุบให้ดีๆสิ่ รอยของตำแหน่งการประสานมือไม่ใช่ พยัคฆ์คำรณ นั่นมัน ลมหายใจมังกร ( 竜の息吹 ) ต่างหาก
[ อั้ม ] : หะ หาา ลมหายใจมังกร นี่นายริวใช้ เท็น โนะ กาต้า แบบคุณปู่ได้แล้วเหรอ
[ ริวกะ ] : ถือว่านี่เป็นค่าชดใช้ ที่ทำให้พลอยต้องตกระกำลำบากนับ 10 ปี ไอพวกชั่ว
ริวกะพยายามใจเย็น ใจเย็นและใจเย็น เขาเดินกลับมาทีเดิม พร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนไปราวกับพยายามทำใจให้สงบ ซึ่งยามิเองก็ถูกใจสิ่งนี้มากๆ นายน้อยของเขาดูเหมือนจะรู้จักการระงับอารมณ์ได้ดีขึ้น ถึงแม้พึ่งจะพังรถไป 1 คันก็เถอะ ส่วนเวตาลหลังจากที่คลายคำพูดแล้ว ทั้งนายภูชิตและลูกน้องสี่คนก็เริ่มขยับตัวได้ในทันที
[ ภูชิต ] : ฝากไว้ก่อนเถอะ มันไม่จบแค่นี้แน่
นายภูชิตกล่าวอย่างอาฆาต ก่อนที่จะเดินออกไปทันที ไอ้เพียวนั้นรีบเดินตามอาของมันไปทันที ปล่อยให้พวกลูกน้องนับ 10 นอนแช่อิ่มอยู่ที่เดิม ยามิไม่ได้ตามไปแต่เขายังคงยืนอยู่โดยมีริวกะและอั้มยืนอยู่ด้วย
[ ริวกะ ] : นี่เหรองานที่นายบอก ยามิ
[ ยามิ ] : แหม่ ๆ ๆ ก็มันเป็นงานจริงๆนี่ขอรับนายน้อย แต่ว่าการวิ่งจากรังสิตมาที่นี่ก็ถือว่า เป็นการออกกำลังชั้นยอดเลยนะขอรับ
นั่นไงล่ะ เป็นไปอย่างที่อั้มคาดการไว้จริงๆด้วย ที่ชีพจรต่างๆของนายริวดูรวนไปหมด คงเพราะความเหนื่อยล้าจากการวิ่งจากรังสิตมานี่สิ่นะ
[ อั้ม ] : นายริว นายวิ่งจากมหาวิทยาลัย มาที่นี่จริงๆเหรอ
[ ริวกะ ] : เปล่าครับ วิ่งถึงแค่ราชเทวี ที่เหลือขับมอเตอร์ไซค์มา
[ อั้ม ] : โห จากมหาวิทยาลัยมาถึงราชเทวีก็ 43 กิโลเมตร ยังไงก็ มาราธอนอยู่ดี นายเหนื่อยมั้ย กินอะไรหรือยัง
เท่านั้นแหละ พอเจอคำว่ากินอะไรหรือยัง ริวกะถึงกับสตั้นเลย ก็วันนี้อั้มสัญญาว่าจะทำมื้อเย็นนี่นา แต่กลับกลายเป็นว่าเธอ มากินมื้อเย็นกับไอเพียวแทนแล้ว สีหน้าของริวกะเปลี่ยนไปทันทีจนอั้มรู้สึกได้
[ ริวกะ ] : ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ
[ อั้ม ] : เดี๋ยวสิ่นายริว เดี๋ยวก่อน
อั้มพยายามเรียกนายริวอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล เขาเดินออกไปโดยที่ไม่ฟังอะไรเลย ตอนนี้น้ำใสๆเริ่มไหลมาคลอที่สองตาของเขาแล้ว อารมณ์น้อยใจ อารมณ์เคืองใจ มันถาโถมไม่หยุด ริวกะเดินมาสักพักก็มาถึงที่ที่เขาจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ เขาถอนหายใจดังเฮือกก่อนที่จะขึ้นคร่อมมัน สตาร์ท และบิดออกไปทันที โดยแน่นอนว่าที่ที่จะกลับไปก็คือบ้านของเขานั่นเอง ส่วนอั้มนั้นก็ได้แต่ยืนนิ่งโดยไม่พูดอะไรเลย เธอรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มันเหมือนกับเมื่อครึ่งปีก่อนเลย มันเหมือนกับตอนที่เธอกับนายริวจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
[ เวตาล ] : ถ้าเช่นนั้นกระผมคงต้องขอตัวไปจัดการธุระให้จบเสียที
[ ยามิ ] : ฝากท่านจัดการต่อด้วย ข้าคงมีเรื่องที่ต้องทำเช่นกัน
ยามิพูดแค่นั้นเวตาลก็เดินออกไปทันทีส่วนเขานั้นก็มองไปที่น้องสาวบุญธรรมที่ตอนนี้ กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ เขารู้ว่าในใจของอั้มนั้นเกิดคำถามมากมายเลยก็ว่าได้
[ ยามิ ] : ไปเถอะ เดี๋ยวข้าไปส่ง
[ อั้ม ] : งือ
อั้มตอบสั้นๆแค่นั้น แบะเดินตามยามิไปทันที ดูเหมือนว่าอั้มจะรู้สึกแย่เอามากๆ เธอคิดตื้นเกินไปจริงๆที่มากับเพียว เธออยากให้โอกาสไอ้เพียวอีกครั้งในฐานะเพื่อนแต่ดูเหมือนว่าเพียวจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลย อีกทั้งการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเธอครั้งนี้กลับยิ่งน้ำบาดแผลเดิมให้มันกลับมาเจ็บอีกครั้งด้วยซ้ำไป
[ เวย์ ] : เฮ้อ... รอดตัวไปนะเอ็ง หรือว่าเป็นพวกตูที่รอดตัววะ 5555
เวย์นั้นเอ่ยขึ้นอย่างโล่งใจที่ไอ้มังกรเพื่อนเขาไม่ได้อาละวาดอะไรมากมาย แค่ทำลายรถไปคันนึงเท่านั้นเอง เขาสังเกตการณ์ผ่านกล้องส่องทางไกลอีกครั้งและเมื่อเห็นว่าไม่น่ามีอะไรแล้ว เขาจึงได้สั่งให้ถอนกำลังออกทันที
•• ด้านภูชิต ••
หลังจากที่เสียหน้าเพราะถูกหยาม และถูกปลดออกจากลูกข่ายของพิทักษ์เทวา มันก็รีบกลับมาที่บ้านทันที แน่นอนว่าความแค้นครั้งนี้มันต้องเอาคืนให้สาสม
[ ภูชิต ] : แก ไอ้เวโรจน์ ชั้นจะให้แกชดใช้ด้วยชีวิต ไอ้เพียว
[ เพียว ] : ครับคุณอา
[ ภูชิต ] : นังเด็กที่ชื่ออั้มนั้น หาคนไปอุ้มมันมาซะ แก ต้องจับมันทำเมียให้ได้ ไอ้พวกอิซานางิ มันต้องชดใช้ที่ทำให้ชั้นอับอาย
[ เพียว ] : ได้เลยครับ คุณอา
ผมว่า คงไม่มีทางยอมให้ทำแบบนั้นครับ
เอาอีกแล้ว เสียงนี้มาอีกแล้ว เสียงของเวตาลมาอีกแล้ว คราวนี้ไม่ได้มาแค่คนเดียว แต่มาเป็นทั้งตำบล เจ้าหน้าที่ตำรวจนับ 10 คนเดินเข้ามาพร้อมแสดงหมายจับ หมายค้นทันที
[ ภูชิต ] : นี่มันอะไรกันคุณเวโรจน์
[ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ] : เรามีหลักฐานและพยานที่บุว่า คุณ ภูชิต นิมิตทรัพย์ ได้ทำงานทุจริต ยักยอกทรัพย์ และ แพร่งพรายความลับของบริษัท เชิญไปคุยกันที่โรงพักครับ
[ ภูชิต ] : เฮ้ย ได้ยังไงกัน พวกแกมาปรักปรำกันแบบนี้ ชั้นจะฟ้องกลับทุกคนเลย ทนาย ชั้นต้องการทนาย
[ เวตาล ] : ทนายของคุณให้การสารภาพทั้งหมดแล้วครับคุนณภูชิต ยอมไปกับเราแต่โดยดี ดีกว่าครับ ที่ผมไม่จับกุมคุณตั้งแต่ที่สวนสาธารณะ เพราะผมเห็นแก่หน้าคุณภูมิ พี่ชายของคุณ
ตำรวจสองนายเข้าจับกุมนายภูชิตพร้อมกับนำตัวออกไปทันที โดยที่ปากยังคงด่าทอต่อว่าเจ้าหน้าที่ต่างๆนาๆ ขู่อาฆาตจะฟ้องกลับทุกคน แน่นอนว่าคดีนี้ต่อให้แบ็คใหญ่แค่ไหนก็ไม่กล้ายุ่ง เพราะเจ้าของคดีเป็นถึง 3 ขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชีย อย่างไตรภาคี
เรียกได้ว่าตอนนี้ภูชิตโดนตัดหางปล่อยวัดเรียบร้อย ส่วนไอ้เพียวที่กำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ตรงหน้า ก็ต้องตกใจอีกรอบเพราะ เจ้าหน้าที่พิเศษคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหามันและแสดงหมายจับอีกฉบับต่อหน้ามันทันที
[ เจ้าหน้าที่พิเศษ ] : คุณภูภัทร นิมิตทรัพย์ ขอเชิญตัวไปที่สถานีตำรวจด้วยครับ
[ เพียว ] : อะไร เชิญทำไม ผมทำอะไรผิด
[ เจ้าหน้าที่พิเศษ ] : มีเจ้าทุกข์ร้องเรียนมาทางเรา ว่าถูกคุณทำการล่วงละเมิดทางเพศหลายราย ขอเชิญมากับเราด้วยครับ
มั่บ !!! ไอ้เพียวโดนรวบทันทีไม่มีรีรอ เพราะข้อมูลที่หน่วยงานพิเศษค้นหามานั้น ระบุว่าไอ้เพียวนั้นก็มีคลิปที่เตรียมไว้เพื่อแบ็คเมลล์หญิฝสาวที่ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน ทันทีที่มันถูกรวบไป ทีมงานที่เหลือก็รีบไปที่ห้องของมัน
เพื่อสำรวจตรวจค้น อุปกรณ์อิเลคโทรนิคทุกอย่างที่มี เพื่อตามหาคลิปทั้งหมด ซึ่งระหว่างนั้น นายภูมิ นิมิตทรัพย์ พ่อของไอ้เพียวและเจ้าของบ้าน ก็เดินลงมาด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง เขารู้และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ใครล่ะจะไม่รู้สึกเสียใจที่น้องชายและลูกชายในใส้ถูกจับไปแบบนั้น
[ เวตาล ] : คุณทำถูกแล้วคุณภูมิ อย่าเสียใจไปเลยครับ
[ ภูมิ ] : มรดกพวกนี้ มันเป็นมรดกบาป มรดกที่แย่งชิงเขามาสักวันก็ต้องถูกเอาคืน ผมคงทำอะไปไม่ได้มากกว่านี้แล้ว คุณเวโรจน์
[ เวตาล ] : คุณไม่ได้มีส่วนร่วมกับบาปกรรมครั้งนี้ คุณทำใจให้สบายเถอะ อย่างน้อยในตอนนั้นคุณก็ไม่คิดจะแย่งชิงมรดกของคุณสกุณา และพาคุณหนุรุ้งพลอยไปฝาก คุณป้าดำเลี้ยงที่ลพบุรี ถ้าวันนั้นคุณไม่ได้มีจิตใจที่เมตตา คุณคงปล่อยให้เธอต้องโดดเดี่ยวแล้วล่ะ
[ ภูมิ ] : อย่าพูดแบบนั้นเลยครับ คุณเวโรจน์ เพราะหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ไปดูดำดูดีรุ้งพลอย และปล่อยให้เธอเติบโตมาโดยลำพังเท่านั้น บุญที่ผมเฝ้าทำมาสิบปี ก็คงไม่สามารถชดใช้บาปกรรมเมื่อตอนนั้นได้
[ เวตาล ] : ทุกคนย่อมมีกรรมเป็นของตัวเอง การที่คุณไม่สามารถไปพบเจอคุณหนูรุ้งพลอย นั่นก็เป็นเพราะเวรและกรรมเช่นกัน จงตั้งมั่นทำดีต่อไปเถอะครับคุณภูมิ ต่อให้จากนี้ไป แสงโรจน์และนิมิตทรัพย์ จะไม่ได้ร่วมกับเครือไตรภาคี แต่ผมเชื่อความคุณความดีและความซื่อสัตย์ของคุณ จะทำให้นิมิตทรัพย์กลับมารุ่งเรื่องอีกครั้ง และวันที่คุณใช้ความดีพิสูจน์ตัวตนของแสงโรจน์ได้ วันนั้นพิทักษ์เทวาจะขอต้อนรับคุณอีกครั้ง
เวตาลพูดแค่นั้นและเดินออกไปทันที คุณภูมิก็ได้แต่ทำใจ และเข้าใจเป็นอย่างดี การที่บริษัทแสงโรจน์ของเขาถูกปลดออกมานั้น มันถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆของธุรกิจ ในองค์กรที่มีขนาดใหญ่มากๆ การปกครองนั้นต้องเด็ดขาด ผิดก็คือต้องลงดาบและตัดทิ้ง มันคือสัจธรรมขององค์กรขนาดใหญ่
แต่ถึงยังไงเวตาลก็ถือว่าเมตตามากๆ เขามีสิทธิ์ที่จะฟ้องนิมิตทรัพย์ให้ล้มละลายได้ง่ายๆ แต่เขาไม่ทำ เขาอยากให้โอกาสคนดีๆอย่างคุณภูมิ ได้บริหารบริษัทที่เขาสร้างมากับมือต่อไป ส่วนเนื้อร้ายอย่างภูชิตและไอ้เพียว ก็คงต้องปล่อยให้กฏหมายและเวรกรรมเป็นคนจัดการเท่านั้นเอง
•••••
กลับมาที่พระเอกช้ำรักของเราต่อ หลังจากที่ทุกอย่างจบลง พี่แกก็หง่อมเป็นทุเรียนสุกเลย เขาบิดมอเตอร์ไซค์คันโตกลับมายังคอนโดหรูกลางเมือง และแน่นอนว่าเมื่อเจอรถที่ไม่คุ้นตา พนักงานรักษาความปลอดภัยจึงได้รีบเดินมายังริวกะทันที
[ พนักงานรักษาความปลอดภัย ] : สวัสดีครับ ต้องการติดต่อใครครับผม
[ ริวกะ ] : ( ถอดหมวกกันน็อค ) ผมเองครับ
[ พนักงานรักษาความปลอดภัย ] : อ้าว คุณริวกะเองเหรอครับ ผมขอโทษด้วยครับ พอดีผมไม่คุ้นรถมอเตอร์ไซค์คันนี้เลย
[ ริวกะ ] : ไม่เป็นอะไรครับ ยังไงก็อัพเดททะเบียนรถคันนี้ลงในระบบให้ด้วยนะครับ
[ พนักงานรักษาความปลอดภัย ] : ได้เลยครับ ผมจะประสานกับฝ่ายทะเบียนให้ครับ
[ ริวกะ ] : ขอบคุณครับ
หลังจากคุยกับพนักงานรักษาความปลอดภัยเรียบร้อย ริวกะก็ขับรถเข้ามาจอดในโซน VIP ของเขาทันที จากนั้นพ่อหนุ่มช้ำรักก็เดินขึ้นเข้าไปในตัวคอนโดและตรงไปที่ลิฟต์ด้วยสายตาที่หมองเศร้า ราวกับพระเอกที่พึ่งโดนนางเอกบอกเลิกมาเลยทีเดียว
ติ๊ง !!! เสียงลิฟต์ดังบอกว่า ถึงชั้น 10 แล้ว ตอนนี้ริวกะเองก็เริ่มปรับอารมณ์มาได้ระดับนึงแล้วล่ะ อย่างน้อยพี่อั้มก็พูดชัดเจนแล้วว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้เพียวแล้ว แค่นี้ก็ทำให้พ่อหนุ่มมังกรช้ำรักใจชื้นขึ้นมาได้มากเลยทีเดียว ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก ระหว่างที่ริวกะกำลังเดินเข้าห้องเขาก็รู้สึกได้ว่ามีเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาเดินตามมา แน่นนอนว่าเขารู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร
[ ริวกะ ] : ชั้นไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ ขอบใจนะที่มาถึงที่นี่ กลับไปบ้านใหญ่เถอะ
ร่างที่สูงใหญ่เกือบติดเพดานย่อเท้าคู่หน้าลงและก้มหัวราวกับกำลังรับฟังอย่างเคารพ ริวกะลูบที่แผงคอของมันอย่าวแผ่วเบาสองสามครั้ง และร่างของปีศาจตนนั้นก็ค่อยๆหายไป ริวกะถอดรองเท้า ถอดเสื้อผ้า เปลี่ยนชุดทันที ตามที่เคยทำมาในทุกๆวัน
[ ริวกะ ] : คิราระ วันนี้มีอะไรกินมั่ง หิวจังเลยยย
ริวกะทำอย่างที่เคยทำเป็นประจำในทุกๆวัน นั่นก็คือถามคิราระว่ามีอะไรกินมั่ง ซึ่งปกติเขาจะเดินเข้าไปหาและกอดเมดสาวและออดอ้อดราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่วันนี้คิราระไม่อยู่ เพราะไปบ้านพลอยนั่นเอง ริวกะถึงกับเกาหัวแกรกๆเลยทีเดียว คงเพราะความเคยชินที่อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลา ริวกะจึงได้ลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ เขาดูนาฬิกาซึ่งบอกเวลา 19.00 น. ตอนนี้คงกำลังกินมื้อเย็นกันอยู่ เมื่อคิดแบบนั้นแล้ว ความคิดที่จะโทรศัพท์ไปหาก็ต้องล้มเลิกทันที
[ ริวกะ ] : ตอนนี้ให้สองคนนั้นพักผ่อนดีกว่า
ริวกะคิดแบบนี้จริงๆ เพราะถ้าโทรฯไปตอนนี้ก็จะรบกวนเวลาทานข้าวของคุณแม่ยายและเมียทั้งสองแน่ๆ แต่ยังไงซะ ทั้งเหตุการณ์วันนี้ บรรยากาศแบบนี้ มันทำให้เขา อดที่จะนึกถึงเรื่องราวต่างๆในอดีตจริงๆ เรื่องราวของเขาและพี่อั้มนั่นเอง
•• ณ.บ้านสถิตย์เทวา ••
ทั้งพิกุล คิราระ และรุ้งพลอย กำลังร่วมมื้ออาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย พลอยมีความสุขมากๆ เพราะการกลับมาบ้านครั้งนี้มีอะไรหลานๆอย่างเปลี่ยนไปมากจริงๆ ส่วนทั้งลุงอุดมและป้าเกสร ต่างก็ยิ้มอย่างมีความสุข ภาพตรงหน้านั้นเหมือนกับวันวานไม่มีผิด แม้คุณหนูพลอยของเธอจะโตขึ้น
แม้คนที่อยู่ข้างๆจะเป็นคุณพิกุล แต่ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมา ก็ไม่ต่างจากคุณสกลและคุณสกุณาเลยแม้แต่น้อย
[ พิกุล ] : แล้วคิราระ ออกมาแบบนี้ ริวจะกินอะไรล่ะเนี่ย ฝีมือการทำอาหารยิ่งเป็นแบบนั้นด้วย
[ พลอย ] : งือออ ทำไมเหรอคะแม่กุล ริวทำอาหารไม่เป็นเหรอคะ
[ คิราระ ] : ต้มมาม่าเส้นยังไหม้ติดหม้อเลยค่ะคุณพลอย
[ พลอย ] : ง่าาาา ไม่เอา ไม่เอาคุณพลอย ต้องน้องพลอยสิ่ ฮืออออ
[ พิกุล ] : สอนไม่จำเลยจริงๆ สงสัยชั้นต้องบอกให้รินส่งเธอกลับญี่ปุ่นจริงๆซะแล้วสิ่
[ คิราระ ] : อ๊าาาา อยะ อย่าทำแบบนั้นนะคะ ถ้าคิราระกลับไปนายน้อยจะทานอะไรล่ะคะ ขนาดใช้เครื่องปิ้งขนมปังแบบอัตโนมัติ ขนมปังยังไหม้เลยค่ะ
[ พลอย ] : ฮ๊ะ !!! เครื่องปิ้งขนมปังมันเป็นระบบออโต้นะคะ ปิ้งยังไงให้ขนมปังไหม้เนี่ย โอ๊ย !!! ตาบ๊องเอ๊ย
พลอยนั้นถึงกับเหวอเลยทีเดียวพอได้ยินคิราระพูดแบบนี้ ริวนั้นทำอาหารห่วยจริงๆ แตกต่างจากโคฮาคุและกัปปะที่สองรายนั้นทำอาหารได้อร่อยสุดๆ ทุกคนที่ได้ยินพลอยบ่นก็ถึงขำไม่หยุดโดยเฉพาะคิราระ เธอไม่คิดเลยว่าการมาของพลอย จะช่วยให้เธอได้พบฟ้าหลังฝนแบบนี้ มันนานแล้วนะที่เธอไม่ได้รู้สึกโล่งอกโล่งใจแบบนี้
หลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จพลอยกับคิราระ ก็ถูกป้าเกสรไล่ให้มาพักผ่อนทันที เพราะถ้าไม่พูดแบบนี้ทั้งสองคนคงได้เข้าไปช่วยทำความสะอาดแน่ๆ เรียกได้ว่าป้าเกสรอ่านเกมส์ขาดจริงๆ เพราะทันทีที่ถูกห้ามไม่ให้ช่วย ทั้งสองก็หน้ามุ่ยทันที แต่ป้าเกสรก็ให้เหตุผลว่า " ขอให้พวกป้าได้ทำหน้าที่นี้เถอะ พวกป้าอยากรับใช้หนูพลอยแบบนี้ มาสิบปีแล้ว " ด้วยคำพูดของป้าเกสรจึงทำให้พลอยนั้นไม่อาจจะเถียงได้ เธอจึงพาคิราระขึ้นไปพักผ่อนทันที
[ พิกุล ] : พลอย เดี๋ยวแม่จะคุยธุระกับรินแปปนึงนะ หนูอยู่กับคิราระก่อนนะลูก แล้วถ้าคิราระเรียกหนูว่าคุณพลอยอีก รียมาบอกแม่เลยนะ แม่จะให้รินเอาตัวกลับญี่ปุ่นทันทีเลย
[ พลอย ] : ได้เลยค่ะแม่กุล ว๊า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดูซิ๊พี่คิราระจะเรียกพลอยว่า " คุณ " อีกมั้ย
[ คิราระ ] : อ่ะ ฮือออออ
สาวน้อยวัย20 หัวเราะอย่างผู้มีชัย ความน่ารักสดใส และจิตใจงามแบบนี้ ทำให้คิราระนั้นเอ็นดูเธอราวกับเป็นน้องสาวจริงๆ แค่คงเป็นน้องสาวที่มีสามีคนเดียวกันละมั้งนะ ทั้งพลอยและคิราระพากันขึ้นมานอนพักผ่อนข้างบน คิราระถึงกับตะลึงไปเลยทีเดียว พอได้เห็นที่นอนลายพาวเวอร์พัฟเกิร์ล เธอคงคาดไม่ถึงว่าสาวสวยวัย 20 จะนอนบนที่นอนลายการ์ตูนแบบนี้ แต่พลอยก็ยิ้มอย่างภูมิใจพร้อมกับเล่าเหตุผลที่เธอรักที่นอนหลังนี้มากๆ ซึ่งพอคิราระได้ฟังแล้วก็อดยิ้มไม่ได้เลย เธอภูมิใจในตัวชายคนรักจริงๆ ที่ใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบนี้ ซึ่งแน่นอนเธอรู้ดีถึงความใส่ใจนี้อยู่แล้ว นี่คือ 1 ในเหตุผลนานับประการที่ทำให้เธอรักริวกะยังไงล่ะ
[ คิราระ ] : เอ... ทุ่มกว่าแล้ว ริวกะจะได้ทานอะไรหรือยังนะ อืมม... ปานนี้พี่อั้มคงทำให้ทานแล้วล่ะ
คิราระมองนาฬิกาและพร่ำพรรณาออกมาถึงชายคนรัก ซึ่งปกติแล้วในเวลานี้ของทุกๆวันเธอจะง่วนอยู่กับการทำอาหารมื้อเย็นให้เจ้านายสุดที่รัก แต่ว่าวันนี้เธอมาบ้านของพลอย แม้พี่อั้มรับปากว่าจะเป็นคนจัดการเรื่องอาหารให้ แต่เธอก็ยังแอบหวั่นใจเล็กๆอยู่เช่นกัน
ในขณะที่คิราระกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ดูเหมือนสาวน้อยคนทรง ภรรยาคนเล็กของนายมังกรก็ได้สังเกตเห็นพฤติกรรม ของคิราระ พูดก็พูดตรงๆ เธอมีเรื่องที่แอบคิดอยู่ในใจมาหลายวันแล้ว แน่นอนว่าความตะขิดตะขวงใจเรื่องพี่มิไรและคิราระ ได้หายไปหมดแล้ว แต่สิ่งที่เธอยังไม่แน่ใจ นั่นคือความรู้สึกข้างในของอั้มนั่นเอง ทั้งพี่มิไร และพี่คิราระ ก็ต่างยืนยันว่าพี่อั้มนั้นรักนายริวเหมือนกัน แต่สิ่งที่พลอยรู้สึกได้มันไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว
[ พลอย ] : พี่คิราระ พลอยอยากรู้ค่ะ
[ คิราระ ] : หืม ? อะไรเหรอพลอย
[ พลอย ] : พี่อั้มเขา... รักริวจริงๆเหรอคะ
เอาแล้ววววว อยู่ดีๆพลอยก็ถามคำถามแบบนี้ขึ้นมา และพอพลอยถามเท่านั้นแหละคิราระก็ถึงกับนิ่งเลยทีเดียว เธอตกใจราวกับว่าพลอยไปรู้อะไรมาอย่างงั้นแหละ แต่เธอก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้เผลอหลุดปากอะไรไปสักคำ
[ คิราระ ] : ทำไมพลอย ถามแบบนั้นล่ะ พลอยสงสัยอะไรในตัวพี่อั้มเหรอ
[ พลอย ] : ไม่ใช่แบบนั้นค่ะพี่คิราระ อืม พูดยังไงดีล่ะ อื้อออ แบบนี้ๆๆ
อยู่ดีๆพลอยก็ชูมือขึ้นมาทั้งสองข้าง ข้างขวาชูมา 5 นิ้ว และข้างซ้าย 4 นิ้ว ซึ่งคิราระมองแปปเดียวก็พอจะเดาความหมายได้ นั่นก็เพราะเธอรู้ว่าตัวของอั้มยังมีเรื่องอะไรในใจอย่างที่พลอยบอกนั่นเอง
[ พลอย ] : วันที่พลอยไปบ้านริวคราวก่อน ตอนที่พวกเรสามคนนั่งคุยกัน พลอยรู้สึกได้ค่ะ ว่าทุกครั้งๆที่พูดถึงริวพี่คิราระจะแสดงออกชัดเจนว่าคิดยังไง รู้สึกยังไง ทั้งแววนาและภาษากายของพี่คิราระ ทำให้พลอยนั้นรู้ได้เลยว่าพี่รักริวมากๆ แต่กับพี่อั้ม.....
[ คิราระ ] : พี่อั้มทำไมเหรอพลอย
[ พลอย ] : แววตาของพี่อั้มเหมือนจะมีความทุกข์ค่ะ จริงอยู่ว่าพี่อั้มยิ้ม จริงอยู่ว่าพี่อั้มนั้นหัวเราะมีความสุขกับพวกเรา แต่แววตาของพี่อั้มนั้นกลับโกหก
[ คิราระ ] : พลอยจะบอกว่าพี่อั้ม ไม่ได้รักริวกะเหรอ
[ พลอย ] : ..... ( ครุ่นคิด ) พลอยแค่รับรู้ได้ถึงความสับสนในใจของพี่อั้ม จะบอกว่าพี่อั้มไม่ได้รักริวนั้นไม่ใช่แน่ๆค่ะ ตอนที่ริวสลบไปน่ะ ( ตอนที่ 7 ) สายตาของพี่อั้มไม่ต่างจากพี่ๆทั้งสองคนเลย แต่สิ่งที่พลอยรู้สึกได้จากที่พวกเราสามคนนั่งคุยกัน เหมือนพี่อั้มกำลังสับสนและปิดกั้นอะไรบางอย่างอยู่
[ คิราระ ] : ปิดกั้น ( ท่าทางตกใจ )
[ พลอย ] : อืมมม พูดยังไงดีล่ะ
พลอยนั้นครุ่นคิดต่างๆนาๆ ว่าจะอธิบายยังไงให้คิราระเข้าใจ และทันใดนั้นสาวรุ้งพลอยก็คิดได้ ว่าตลอดเวลาที่นั่งคุยกัน พลอยใช้ภาษาไทยคุยกับพี่คิราระนี่นา มิน่าล่ะเธอเลยดูงงในหลายประโยคที่พลอยพูด ถ้างั้นก็แค่พูดด้วยภาษาอังกฤษสิ่ แบบนี้พี่คิราระจะได้เข้าใจง่ายกว่าภาษาไทย และพลอยเองก็จะได้ฝึกการสนทนาไปในตัวด้วย
••• บทสนทนาภาษาปักกิด •••
[ พลอย ] : umm พลอยเคยทำงานร้านเหล้าปั่นค่ะ เรียกว่ายังไงดี อืมม พลอยเห็นสายตาของคนหลากหลายอารมณ์มากเลยค่ะ ( คิราระมีสีหน้าดีขึ้นเพราะเข้าใจทุกคำพูกมากกว่าภาษาไทย )
[ คิราระ ] : สายตา
[ พลอย ] : ใช่ค่ะ ยามปกติคนเราอาจจะสามารถเก็บความรู้สึก ทั้งท่าทางและคำพูดไว้ได้ แต่ยามเผลอหรือยามที่ไม่สามานถควบคุมสติได้ ความรู้สึกเหล่านั้นจะถูกแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัวค่ะ
[ คิราระ ] : ใช่ๆๆ ตอนคุณลุงนูระริเฮียงเมานะ ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย แต่พอสร่างเมาท่านบอกว่าจำอะไรไม่ได้
[ พลอย ] : ใช่ค่ะ ตอนที่คนเราเมานั้น จะไม่สามารถประคองสติสัมปชัญญะไว้ได้เหมือนตอนปกติ ทำให้พฤติกรรมต่างๆที่พยายามเก็บไว้ถูกแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว ทั้งสีหน้า แววตา วาจาและภาษากาย รวมถึงสิ่งที่ต้องการทั้งหมดจะถูกระเบิดออกมาอย่างห้ามไม่ได้
[ คิราระ ] : พลอย หรือว่า...
[ พลอย ] : ใช่ค่ะ เรื่องราวของริวที่พวกเราสามคนพูดกัน มันก็เหมือนแอลกอฮอล์สำหรับพี่อั้ม ตอนที่พี่คิราระและพลอยพูดคุยเกี่ยวกับริว สีหน้า แววตา ของพี่อั้มนั้นมีความสุขมากๆ พี่อั้มจะยิ้มและหน้าแดงตลอดเลยค่ะ แต่ว่า.... พอถึงคราวที่พี่อั้มต้องเล่าให้พวกเราฟังบ้าง แววตาของเธอกลับเปลี่ยนไป เหมือนพยายามเก็บงำอะไรบางอย่าง ตอนที่พลอยจับมือของพี่อั้ม พลอยรู้สึกได้ถึงความอึดอัด กดดันที่มันใกล้จะระเบิดเต็มที เพราะแบบนี้ล่ะค่ะ พลอยถึงสับสนและสงสัย ว่าอันที่จริงแล้วพี่อั้มเขารักริวเหมือนที่พวกเรารักริวหรือเปล่า
พลอยนั้นพรั่งพรูความรู้สึกจริงๆที่เธอได้สัมผัสและรู้สึกออกมา ตลอดเวลาตั้งแต่กลับจากบ้านริวคราวก่อน เธอก็ครุ่นคิดเรื่องพี่อั้มมาตลอดเวลา จะว่าพี่อั้มรักริวเธอก็เชื่อ แต่ไอ้ความรู้สึกแปลกที่เธอรู้สึกได้นี่สิ่ ที่ก่อกวนใจของเธอตลอดเวลา คิราระพอได้ฟังสิ่งที่พลอยพูดออกมาก็ถึงกับนิ่งเลยทีเดียว ด้วยการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษนี้ จึงทำให้เธอเข้าใจทุกคำ ทุกความหมายที่พลอยสื่อออกมา คิราระถึงกับถอนหายใจดัง เฮ้อ ความจริงเธอก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าพลอยจะรู้สึกได้ถึงเรื่องนั้นด้วย
[ คิราระ ] : .... อืมม ... อาจจะเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครึ่งปีก่อนน่ะ
[ พลอย ] : หือ ครึ่งปีก่อน ? มันเกิดอะไรขึ้นคะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : .... พลอย สมมติว่าพลอยเป็นผู้ชายที่ได้อยู่ใกล้ชิดพี่อั้มทุกวัน ทุกวัน พลอยคิดว่าพลอยจะเผลอใจ ชอบพี่อั้มมั้ย
[ พลอย ] : โห สวยก็สวย ใจก็ดี แถมนิสัยงี้น่าอยู่ใกล้สุดๆ ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยค่ะว่าถ้าพลอยเป็นผู้ชายนะ พลอยก็คงชอบพี่อั้มแน่นอนเลยค่ะ ถามทำไมเหรอคะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : อืมม... ริวกะน่ะเคยแอบชอบพี่อั้มซึ่งพี่อั้มไม่เคยรู้ และมีครั้งหนึ่งที่พี่อั้มปล่อยให้ริวกะนอนป่วยอยู่คนเดียวที่บ้านน่ะ
[ พลอย ] : ห๊า !!! ริวเคยแอบชอบพี่อั้ม และ พี่อั้มเคยทิ้งให้ริวนอนซมเป็นไข้คนเดียว เกิดอะไรขึ้นคะพี่คิราระ
รุ้งพลอยสาวน้อยตาใสตกใจเลยทีเดียวเมื่อความลับครั้งนี้ถูกเปิดเผย ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ มันเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างของริวกะและพี่อั้มกันแน่
[ คิราระ ] : เรื่องมันมันเกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่แล้ว ตอนนั้นริวกะยังเรียนอยู่ปี 1 ซึ่งคงเพราะความใกล้ชิด ความสนิท ความอบอุ่น ความเอาใจใส่ ที่พี่อั้มมีให้ นั่นเลยทำให้ริวกะนั้นแอบชอบพี่อั้ม ถึงริวกะจะไม่บอกพี่ก็รู้เพราะการกระทำทุกอย่างมันฟ้อง แต่ว่าริวกะน่ะไม่ได้พูดมันออกไป แต่ลงมือทำให้พี่อั้มแทบจะทุกๆอย่าง
[ พลอย ] : อ้าว แล้วเกิดอะไรขึ้นคะพี่
[ คิราระ ] : พี่อั้มเองก็มีแผลในใจ พี่อั้มชอบคิดตลอดว่าตัวเองเป็นคนนอก เธอชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับตัวพี่มิไร ตัวพี่เอง และตัวพลอยด้วย
[ พลอย ] : ง๊า หนูเกี่ยวไรด้วย
[ คิราระ ] : ก็เพราะพลอยเป็นคนที่ริวกะคิดถึงไง ในความคิดพี่อั้มนั้น พี่มิไรน่ะเป็นเหมือนคนที่อยู่กับริวกะมานานจึงเป็นคนสำคัญ ชอบคิดว่าพี่น่ะเป็นเมดส่วนตัว ดูแลริวกะได้ทุกๆเรื่องๆ ส่วนตัวพลอยเองก็รู้ๆกันอยู่ว่าริวกะทุ่มเทตามหาตัวมากแค่ไหน ส่วนพี่อั้มเองก็คิดว่าตัวเองเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรมที่นายท่านรับมาเลี้ยงเพราะอยากช่วยเพื่อน
[ พลอย ] : พี่อั้มเลยคิดว่าตัวเอง แปลกแยกจากพวกพี่ๆ ที่อยู่กับริวที่ญี่ปุ่นมาตั้งแต่แรก และพลอยที่รู้จักกับริวมาตั้งแต่เด็กเหรอคะ
[ คิราระ ] : ใช่ ยิ่งนานวันเข้าความกดดันมันก็สะสม จนกลายเป็นความเหงาอ้างว้าง ทั้งๆที่ริวกะทำอะไรให้หลายๆอย่างแต่พี่อั้มก็มองไม่เห็นอยู่ดี และตอนนั้นก็มีคนเข้ามาจีบพี่อั้มเอาอกเอาใจสารพัด คงเพราะความเหงาที่มีถูกแทนที่ด้วยความเอาใจใส่ พี่อั้มเลยตกลงคบกับคนๆนั้น
[ พลอย ] : ง๊า แล้วริวล่ะคะ ริวเป็นไงบ้าง
[ คิราระ ] : ตอนนั้นริวกะก็เป๋ ไปพักนึกเลยนะ แต่เขาก็ยังคงไม่แสดงอาการให้พี่อั้มเห็นและยังคงใช้ชีวิตตามปกติ พอกลับมาจากมหาวิทยาลัยก็จะมาคอยพี่อั้มกลับบ้านทุกวัน พอเข้านอนก็จะไปเสิร์ซข้อมูลเพื่อตามหาเบาะแสของพลอย
พลอยได้ฟังก็ถึงกับสะอึกเลยทีเดียว แต่แปลกที่เธอไม่ยักจะโกรธหรือน้อยใจริวนะที่เคยชอบพี่อั้ม และยิ่งพอมารู้ว่าทุกๆคืนริวจะมาคอยตามหาเธอ เธอก็ถึงกับยิ้มเลย แม้ว่าถ้าจะให้พูดกันตรงๆ ริวนั้นถือว่าเป็นผู้ชายที่หลายใจคนนึง เพราะว่าไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว แต่ด้วยอะไรทั้งหลายทั้งแหล่ที่เธอรับรู้เกี่ยวกับตัวเขาผสมกับสิ่งที่เขาแสดงออกมาให้เธอเห็น มันก็ทำให้พลอยเข้าใจได้
และที่สำคัญคนที่ริวชอบ คนที่ริวกะรัก ไม่ว่าจะพี่มิไร พี่อั้ม พี่คิราระ ทุกคนต่างก็ดีกับเธอมากมายอย่าง อย่างที่ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน นั่นจึงทำให้เธอไม่คิดโกรธและสนับสนุนให้ริวนั้นรวบทั้งหมดเข้าฮาเร็มนั่นเอง และที่ริวชอบพี่อั้มนั้นพลอยก็ไม่แปลกใจเลย โห !!! อยู่ด้วยกันทุกวันกับสาวสวยนิสัยดีขนาดนั้น ไม่รู้สึกอะไรเลยสิ่แปลก จริงอยู่ว่าการรักหรือคบหากันระหว่างพี่น้องมันจะผิดศีลธรรม แต่ว่าบางครั้งความรักมันก็ห้ามกันไม่ได้จริงๆ
[ คิราระ ] : พี่เล่ามาถึงตรงนี้พลอยอาจจะขุ่นเคืองใจเรื่องริวกะน่ะ ที่แอบชอบพี่อั้ม
[ พลอย ] : ไม่เลยค่ะ พลอยเข้าใจ แล้วเรื่องเป็นไงต่อคะ
[ คิราระ ] : จากปกติที่พี่อั้มจะกลับบ้านมาทานข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน กลับกลายเป็นว่ากลับมาหลังอาหารเย็นทุกวัน พี่กับริวกะต้องกินข้าวกันสองคนเป็นเดือนๆ
[ พลอย ] : งือออ งั้นพี่อั้มคง....
[ คิราระ ] : พี่อั้มยังบริสุทธิ์อยู่ เธอยืนยันเรื่องนั้นกับพี่เอง เพราะว่าไม่เคยไปไหนสองต่อสองกับแฟนที่คบกันเลย
[ พลอย ] : เฮ้ออออ โล่งใจ
[ คิราระ ] : มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ่พลอย และสุดท้ายวันนั้นก็มาถึง วันนั้นริวกะมีไข้ตั้งแต่ตอนกลางดึก ไม่ยอมบอกใคร พอพี่อั้มออกไปเรียนถึงได้ยอมบอกพี่ วันนั้นพี่ต้องออกไปทำธุระเรื่องเอกสารที่อิซานางิ กรุ๊ป ( สาขาประเทศไทย ) จริงอยู่ว่าริวกะสั่งห้ามไม่ให้บอกพี่อั้ม แต่เพราะพี่เป็นห่วงพี่เลยโทรไปบอกเธอให้กลับเร็วๆหน่อย ตอนแรกพี่ก็คิดว่าพี่อั้มจะกลับเร็ว พี่ก็เลยไม่ได้รีบกลับและอยู่สะสางธุระจนเสร็จ กว่าจะกลับก็ 5 ทุ่ม พอกลับมาที่บ้านสภาพคือแย่มาก ริวกะไข้ขึ้นเกือบ 50 องศา
[ พลอย ] : หา 50 องศา โอ๊ยยยยย สำหรับพลอยแค่ ตัวร้อน 39 องศาก็แทบพ่นไฟได้แล้วนะคะ แล้วริวเป็นไงบ้างคะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : ลุกไม่ไหวเดินไม่ไหว พูดได้คือแย่น่ะ อย่าว่าแต่ข้าวเลย น้ำก็แทบไม่ได้กิน มันแย่ตรงที่ว่าตอนที่ริวกะกำลังแย่ กำลังทรุดลงกับพื้นพี่อั้มกลับเดินโทรศัพท์หัวเราะเข้ามาและยิ้มอย่างมีความสุข จริงอยู่ว่าพี่อั้มก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะไปกับแฟน แต่ว่าเหตุการณ์ตอนนั้นมันกลับกลายเป็นภาพจำของริวกะเลยล่ะ
..... เหตุการณ์วันนั้น ....
คิราระนั้นเดินทางกลับบ้านมาเวลา ประมาณ 3 ทุ่ม เพราะคิดว่าพี่อั้มกลับมาดูแลริวกะแล้ว เธอจึงอยู่เคลียร์งานอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่พอเห็นว่าชั้น 5 ไม่เปิดไฟ เธอจึงรีบขึ้นไปทันทีด้วยความร้อนใจ เพราะสังหรณ์ใจไม่ดีและก็เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ ทั้งชั้นไม่มีไฟติดอยู่เลยสักดวง หลังจากที่ก้าวออกมาจากลิฟต์ ปั้ป ปั้ป คิราระปรบมือ 2 ทีคราวนี้ไฟติดทั้งชั้นเลย เธอจึงรีบวิ่งไปที่ห้องทันที และสิ่งที่พบคือริวกะกำลังนอนซมอยู่ที่โซฟา
[ คิราระ ] : นายน้อย นายน้อย อ๊าย
[ ริวกะ ] : อื้อ กลับมาแล้วเหรอ เธอช่วยหยิบน้ำให้หน่อยได้มั้ย ชั้นหิวน้ำจังเลย
ทันทีที่คิราระแตะที่ตัวของริวกะ เธอก็ต้องสะดุ้งเพราะตอนนี้ตัวของริวกะร้อนมากๆ ปากก็ซีด แถมตัวยังแห้งอีก สภาวะขาดน้ำแน่นอน คิราระวิ่งไปหาปรอทวัดไข้มาทันที เธอเสียบไว้ที่ใต้รักแร้ของริวกะและก็วิ่งไปหยิบน้ำทันที ซึ่งเมื่อเธอกลับมาก็ประจวบเหมาะกับเครื่องวัดไข้ดังแจ้งเตือนพอดี ในขณะที่ริวกะกินน้ำ อึ้ก อึ้ก อึ้ก คิราระที่หยิบปรอทวัดไข้ขึ้นมาก็ถึงกับตกใจจนแทบเป็นลม เพราะตัวเลขมันคือ 50 °C ขนาดตัวเธอมีไข้แค่ 38 ยังทรมานแทบตายที่ริวกะตัวร้อนถึง 50 เลยเหรอ และสิ่งที่ตกตะลึงยิ่งกว่านั้นคือ น้ำจำนวน 3 ลิตรที่เธอหิ้วมาก็หมดไปเช่นกัน นี่เขาต้องทนหิวขนาดไหนเนี่ย ถึงได้กินน้ำหมดรวดเดียวแบบนี้
[ ริวกะ ] : รบกวนพาชั้นไปห้องน้ำทีได้มั้ยคิราระ ชั้นเดินเองไม่ไหวเลย ปวดฉี่จัง
[ คิราระ ] : ไม่รบกวนเลยเจ้าค่ะ นายน้อย
ซึ่งในขณะที่คิราระกำลังประคองริวกะให้ยืนขึ้นนั้น เสียงอั้มก็เดินเข้ามาพอดี เธอเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มมีความสุข พร้อมกับคุยโทรศัพท์ไปยิ้มไป ตุ้บ !!! ริวกะที่ไร้เรี่ยวแรงก็ทรุดตัวล้มลงอย่างกระทันหันทำให้คิราระนั้นคว้าตัวไม่ทัน จนหน้าริวกะฟาดกับขอบโต๊ะปากแตกเลือดอาบเลยทีเดียว
[ อั้ม ] : ว๊ายย เกิดอะไรขึ้น อึ้ก !!! 50 องศา นายริวเกิดอะไรขึ้น
เพียงอั้มแตะตัวริวกะ เธอก็รู้ถึงระดับไข้ของริวกะทันที สมกับเป็นอัจฉริยะ เธอพยายามพูดพยายามถาม แต่ริวกะก็ไม่พูดอะไรกับเธอทั้งนั้น
[ คิราระ ] : นายน้อยเป็นไข้ตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ บ่าวก็พึ่งกลับมาถึง
[ ริวกะ ] : รบกวนพอชั้นกลับไปที่ห้องที
วินาทีนั้นที่ริวกะพูดแทรกคิราระขึ้นมา อั้มก็รู้แล้วว่าทุกๆอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ในขณะที่เธอกำลังจะพูดว่าทำไมไม่บอกเธอ อั้มก็ได้ฉุกคิดขึ้นมาว่าตอนเที่ยง คิราระได้โทรไปหาเธอและบอกว่าอยากให้กลับบ้านเร็วๆ ซึ่งเธอกลับไม่สนใจและไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนและแฟนหนุ่มของเธอนั่นเอง ทันทีที่คิราระพาริวกะไปเข้าห้องน้ำและส่งยังที่นอน เธอก็กุลีกุจอวิ่งมาที่ห้องครัว และทำอาหารง่ายๆ เบาๆสำหรับคนไข้ทันที
[ อั้ม ] : เกิดอะไรขึ้น เธอทำอะไรเหรอคิราระ
[ คิราระ ] : บ่าวจะทำอาหารให้นายน้อยเจ้าค่ะ นายน้อยบอกว่าหลังจากมื้อเช้าก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย กินแค่น้ำกับยาแก้ไข้
[ อั้ม ] : ทำไมไม่บอกพี่ล่ะว่านายริวไม่สบาย
[ คิราระ ] : บ่าวบอกไปแล้วเจ้าค่ะว่าอยากให้คุณอั้มกลับเร็วหน่อย บ่าวก็คิดว่าคุณอั้มจะรีบกลับมา ไม่งั้นบ่าวคงกลับมานานแล้วเจ้าค่ะ
อึ้ก !!! อั้มถึงกับสะอึกทันที คำพูดของคิราระก็ไม่ได้แรงอะไรเลย แต่ทำไม่รู้สึกว่าถูกกระแทกใส่หน้าเต็มๆ และหลังจากวันนั้นอั้มก็รู้สึกได้ทันทีว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ทุกครั้งตอนเช้าริวกะจะคอยเตรียมโต๊ะเตรียมเก้าอี้ไว้ให้ตอนนี้กลับกลายเป็นคิราระที่ต้องทำ ทุกเช้าริวกะจะเตรียมกุญแจรถไว้ให้ตอนนี้คิราระก็กลายเป็นคนเตรียมมาให้ ทุกเช้าจะนั่งกินข้าวด้วยกัน 3 คนตอนนี้ก็มีเพียงเธอกับคิราระ เพราะริวกะนั้นขอแค่แซนวิช 2 ชิ้นและออกไปทันที ตอนเย็นแม้จะนั่งกินข้าวด้วยกันแต่เธอกลับรู้สึกว่านายริวไม่ใช่คนเดิม
--- ปัจจุบัน ---
[ พลอย ] : งืมมม เป็นพลอย พลอยก็คงน้อยใจบ้างแหละค่ะ แล้วเป็นไงต่อคะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : บรรยากาศมาคุอยู่ 3 เดือนน่ะ เขาคุยกับพี่ปกติแทบทุกอย่างเลยนะ แต่พอกับพี่อั้มนั้น....
[ พลอย ] : กับพี่อั้ม ทำไมคะ
[ คิราระ ] : ยังไงดีล่ะ คือกับพี่อั้มนั้นริวกะ แทบจะไม่ได้คุยกันเลย พูดยังไงดีคือ ภาษาไทยพี่ก็ไม่ค่อยแข็งแรงมากด้วยสิ่
[ พลอย ] : ภาษาอังกฤษก็ได้ค่ะพี่ พลอยจะได้ฝึกภาษาด้วย
[ คิราระ ] : อื้อๆ พี่ลืมตัวพูดภาษาไทยอีกแล้ว
ตอนแรกคิราระก็เล่าแบบตะกุกตะกัก เพราะว่าเผลอกลับมาใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร แต่พอพลอยบอกว่าให้คุยกันเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นแหละ คิราระก็พูดคล่องขึ้นมาทันที จนพลอยถึงกับอึ้งเลย ฝ คิราระก็ได้อธิบายเรื่องราวต่างๆให้ฟัง เธอเล่าว่าริวกะนั้นก็ไม่ได้พูดกับอั้มอีกเลย ตั้งแต่วันนั้น วันที่อั้มทิ้งให้เขานอนซมอยู่คนเดียว สำหรับอั้มมันคงอึดอัดมากๆนะ เพราะว่าริวกะนั้นกลายเป็นคนที่เงียบขรึม ถามคำตอบคำ ถ้าอั้มไม่ถามก็คือจะไม่พูด อะไรเลย คิราระรู้ดีว่าริวกะนั้นเป็นอะไรเธอจึงเข้าใจเขา แต่พอวันหนึ่งอั้มก็ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา
[ อั้ม ] : เป็นอะไรทำไมไม่พูด พี่อึดอัดนะนายริว ถ้ายังจะอยู่ด้วยกันก็พูดมาเลยว่าเป็นอะไร
[ ริวกะ ] : ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจครับ
เท่านั้นแหละเรียกได้ว่าความชิบหายบังเกิดเลย วันรุ่งขึ้นริวกะก็โชว์ความอินดี้ด้วยการ เก็บกระเป๋าไปอาศัยอยู่กับเวย์ ซึ่งก่อนไปเขาก็ฝากฝังให้คิราระช่วยดูแลบ้านสักระยะ ถ้าวันไหนเขารู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นภาระเขาจะกลับมา คิราระนั้นใจนึงก็ไม่อยากให้ริวกะไป แต่เพราะว่าเธอนั้นรู้จักริวกะดีว่า เมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้ว ถึงห้ามไปก็ไร้ประโยชน์ เธอจึงยอมให้เขาไป และอีกอย่างเพราะไปอยู่กับเวย์ด้วย นั่นจึงทำให้คิราระไม่ต้องห่วงอะไร หน้าที่ของเธอคือตั้งใจทำงานให้สมกับหน้าที่เมดส่วนตัวและเลขาของมิไรนั้นเอง
ส่วนอั้มนั้นก็ยังคงไม่รู้เรื่องอะไร เพราะคิดว่าริวกะคงแค่ไปทำงาน ทำรายงาน แต่พอสามสี่วันผ่านไป ริวกะยังไม่กลับบ้านอั้มจึงได้เอ่ยถามคิราระ และพอได้ฟังคำตอบจากคิราระ เธอก็ถึงกับไปไม่เป็นเลย เชื่อหรือไม่ว่าตลอด 3 เดือน อั้มไม่ได้เจอหน้าริวกะเลย ไม่ใช่ว่าริวกะไม่ไปเรียน ไม่ใช่ว่าริวกะหนีไปที่อื่น แต่ทุกครั้งที่อั้มพยายามมาหาเขา เขาก็จะเลี่ยงๆออกตลอด และแน่นอนความเร็วระดับเทพสายฟ้าแบบนั้น ใครจะไปตามทัน เรียกได้ว่าตลอดเวลานั้น มันทำให้อั้มได้ทบทวนอะไรมากมายจริงๆ
แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ริวกะต้องมาเจออั้มอีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างทำให้อั้มนั้นเลิกกับแฟนคนนั้น บางสิ่งบางอย่างในใจก็ชัดเจนขึ้นมาทันที ตลอดเวลาที่เธอมีแฟนเพราะเธอคิดว่าแฟนที่เธอคบนั้นจะช่วยทำให้เธอลืมริวกะได้ เพราะเธอนั้นคิดว่าตัวเองแค่รู้สึกดีและรู้สึกขอบคุณที่ริวกะเคยเข้ามาช่วยไว้ เลยคิดว่าถ้ามีแฟนก็คงทำให้ลืมริวกะได้ ซึ่งพอถึงเวลากลับไม่ใช่แบบนั้น แม้เธอจะมีแฟนแต่เธอก็ยังคิดถึงริวกะอยู่ดี ตอนนี้อั้มนั้นรู้หัวใจตัวเองทันทีว่าเขาไม่ได้รักริวกะในฐานะน้องชายอีกแล้ว
จนเวลาผ่านไปอีก 1 อาทิตย์อั้มที่พึ่งเลิกกับแฟนและคิดถึงแต่เรื่องของนายริวนั้น ก็ต้องกลับบ้านก่อนเวลาเพราะเธอไม่มีสมาธิในการเรียนเลย และเมื่อเธอกลับบ้านเธอก็พบกับริวกะที่กำลังเก็บเสื้อผ้าอยู่ ริวกะเองก็อึ้งแด๊กเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าคนอย่างพี่อั้มจะโดดเรียนกลับมาบ้าน ตลอดระยะเวลา 3 เดือนนั้นอั้มได้ทบทวนเรื่องราวต่างๆมากมาย ได้คิดถึงสิ่งที่มันเกิดขึ้นมากมายจนแน่ใจว่าเธอนั้นรักนายริว สภาพของริวกะตอนนี้คือโทรมมากๆ จะว่ายังไงดีคือ เขาต้องทำรายงานกับเวย์ 2 คนมา 2วันสองคืนแทบไม่ได้นอน
แม้คะแนนจะออกมาดีจนได้ท็อปห้องแต่มันก็ต้องแลกมาด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนเพลีย วันนี้เขาตัดสินใจกลับมาที่คอนโดเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า Set ใหม่ เอาไปไว้ที่คอนโดเวย์ ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก ริวกะที่เหม่อๆเพราะอาการง่วงนั้นก็หันควั่บไปตามเสียง และก็พบกับอั้มที่กระโดดพุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน และโดนชนล้มไป ริวที่กำลังเหวออยู่นั้นก็จะเงยหน้าขึ้นมาพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ต้องชะงักไปทันที เพราะตอนนี้พี่อั้มกำลังร้องไห้ฟูมฟาย อย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ขนาดว่าเหตุการณ์ตอนที่บ้านของพี่อั้มกำลังแย่ เขายังไม่เคยพี่อั้มร้องขนาดนี้เลย หลังจากนั้นทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันอยู่นาน ( รออ่านใน Side Story ของอั้มนะครัช ) ทั้งคู่ก็ได้กลับมาคุยกันเหมือนเดิม และคนที่ดีใจที่สุดนั้นย่อมเป็นคิราระแน่นอน เพราะเธอจะได้รับใช้นายน้อยสุดที่รักใกล้ชิดสักที
[ พี่อั้ม ] : พี่นอนไม่หลับแทบทุกคืนเลยนะ อย่าทำแบบนี้อีกนะ ทีหลังมีอะไรก็พูดกับพี่ตรงๆนะนายริว ยังไงเรากันพี่น้องกัน
นี่คือคำที่อั้มพูดย้ำไปอีกครั้งเพื่อบอกริวกะ จริงๆนั้นอั้มน่ะไม่ได้อยากจะพูดคำว่าพี่น้องเลย แต่เพราะตื่นเต้นที่จะได้กลับมาอยู่ใกล้กันอีกครั้ง เลยตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ถูก ส่วนตัวริวกะเองนั้นพอได้ยินก็นิ่งไปหลายวินาทีเหมือนกัน และตั้งแต่นั้นมาริวกะก็ฝังใจกับคำว่าพี่น้องมาตลอด จนถึงทุกวันนี้
...ปัจจุบัน...
[ พลอย ] : งืมมม แบบนี้นี่เองเหรอคะ แล้วหลังจากวันนั้นล่ะค่ะพี่คิราระ
[ คิราระ ] : ตั้งแต่พี่อั้มพูดคำว่ายังไงเราก็พี่น้องกัน ริวกะก็ไม่แสดงอาการอะไรที่บ่งบอกความในใจออกมาเลย เขาทำได้แค่เชื่อฟังพี่อั้มและตามใจพี่อั้มทุกๆอย่างแทน เพื่อหวังว่าคนที่เขารักจะมีความสุข
[ พลอย ] : เฮ้อ ความรักนี่ก็แปลกเนอะ ยิ่งเรียนรู้ก็ยิ่งไม่เข้าใจ
[ คิราระ ] : อื้ม ทุกวันนี้พี่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมพี่รักริวกะมาก ทั้งๆที่ตลอดเวลาเขาตามหาแต่พลอย เฮ้อออออ
[ พลอย ] : ง่าส์ อย่าพูดแบบนั้นสิ่คะพี่ อย่าว่าแต่พี่เลยค่ะ หนูก็ยังแปลกใจเหมือนกัน ทั้งๆที่พลอยน่าจะลืมริวไปแล้ว แต่ เวลาที่พลอยทุกข์ เวลาพลอยเสียใจ หรือแม้แต่ดีใจเพราะทำอะไรสำเร็จ ริวนั้นจะแว๊บขึ้นมาในหัวพลอยเลยค่ะ
[ คิราระ ] : ใช่ ๆ ๆ ๆ ตอนนั้นที่พี่สอบได้ที่ 1 พี่ก็โทรหาริวกะก่อนเลยล่ะ พี่อยากบอกเขา อยากพูดกับเขานะ แต่ริวกะทำไงรู้มะน้องพลอย
[ พลอย ] : ตานั่นทำยังไงคะ
[ คิราระ ] : ตอนที่พี่โทรไปหาในวันที่ประกาศผลสอบเพราะตั้งใจจะบอกข่าวดี ตานั่นดั่นพูดแทรกขึ้นมาแล้วบอกว่า " เธอควรไปบอกน้าคุรุมิก่อนยัยบ๊อง " เนี่ยพูดแบบเนี้ยแล้วก็ตัดสายไปเลย ยังไม่ได้พูดอะไรซักนิด
[ พลอย ] : ง๊าส์ ตานั่นทำไมเป็นแบบนี้นะ ฮึ้ย !!! ขอให้ริวกับพี่อั้มเข้าใจกัน รักกัน เนอะ
[ คิราระ ] : ใช่ จะได้ช่วยกันรีดพิษมังกรด้วย ยังไง 3 คนก็น่าจะเวิร์คกว่า 2
[ พลอย ] : ง๊า ฮืออออ พอแย๊วพี่คิราระ ฮืออออ พลอยอายนะคะ ฮือออออ
สองศรีภรรยานั้นพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและมีความสุข ตามประสาพี่น้องที่รักกันโดยไม่มีเหตุผล และเพียงไม่นานพิกุลก็เข้ามาทำให้ทั้งสองต้องเลิกคุยเรื่องนี้ทันที และใช้เวลาที่มีในการพูดคุยนู่นนี่นั่นตามประสาผู้หญิงๆนั่นเอง ทั้งสองสาวนั้นหวังว่าอั้มจะกล้าเปิดใจมากกว่านี้และหวังว่าริวกะจะกล้าพูดออกไปตรงๆเช่นกัน โดยที่พวกเธอไม่รู้เลยว่าพี่มังกรของพวกเรานั้นกำลังหิวจนใส้แทบจะขาด
จ๊อกกก !!! เสียงท้องร้องดังลั่นห้องเลย เวลาตอนนี้ 19.30 แล้ว ซึ่งปกติมื้อเย็นของบ้านนี้จะเริ่มตอนนี้พอดี และเหมือนว่าร่างกายริวกะจะรับรู้ว่าได้เวลาอาหาร มันจึงส่งเสียงประท้วงว่าให้หาอะไรกินได้แล้ว วันนี้คิราระไม่อยู่ก็คงต้องหาอะไรกินเอง ริวกะกำลังจะหยิบมือถือมาสั่งอาหาร แต่พอมองเห็นถุงถั่วแระกับสาหร่ายก็เลยเลิกล้มความคิดนั้นไป โชคดีที่คิราระซื้อพวกของแห้งที่สามารถกินกับข้าวเปล่าได้ทิ้งเตรียมไว้ ริวกะจึงไม่ต้องลำบากอะไรมาก เพราะถ้าให้ริวกะทำกับข้าวเอง ไฟคงไหม้ครัวพอดี ริวกะจึงได้เดินดูรอบๆในครัวว่ามีอะไรที่เขาพอจะหยิบมากินได้บ้าง
[ ริวกะ ] : อืมมม ไข่ไก่ แฮม ขนมปัง ต้นหอม ซอสโชยุ มะะขือเทศ สาหร่ายแห้ง อื้มๆ พอแล้วมั้ง เอ้ย หุงข้าวก่อน
ริวกะสำรวจวัตถุดิบเบื้องต้นแล้วก็พบว่ามีเพียบเลย เขาถึงกับยิ้มและพูดในใจว่าคิราระน่ารักที่สุด ที่เตรียมของไว้ยามฉุกเฉิน เพราะฝีมือการทำอาหารของริวกะนั้นก็ถือว่าโอ โอโหใครจะไปกินกับมึงได้วะ เรียกได้ว่าความเก่ง ความหล่อ ความฉลาด นั้นไม่ได้ช่วยเรื่องการทำอาหารเลย ริงกะทำอาหารห่วยแตกมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ นี่คือเหตุผลที่คิราระตระเตรียมของที่ทำกินง่ายๆไม่ยุ่งยากไว้ให้นั่นเอง ชายหนุ่มเริ่มจากการหุงข้าวก่อน แล้วจึงไปหยิบสารพัดวัตถุดิบมาเตรียมการ
แฮมกับขนมปังถูกโยนใส่เครื่องปิ้งที่มีระบบอัตโนมัติ เพียงครู่เดียวขนมปังกรอบๆก็เด้งออกมา แต่ว่าใครจะไปเชื่อว่ามันจะไหม้ ใช่ครับริวกะปรับไฟแรงเกินไปและตั้งเวลานานเกินไป จึงทำให้ขนมปังนั้นไหม้ไปชุดนึง แถมแฮมก็เกรียมจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลย
[ ริวกะ ] : เอาวะ ความผิดพลาด คือบทเรียนชั้น
เดี๋ยวๆมึงหยุดเลยไอ้มังกร แค่ปรับอุณหภูมิไฟกับตั้งเวลา มึงยังกะผิด สกิลการทำอาหารห่วยแตกขั้นบรม ริวกะจึงจำเป็นต้องทิ้งขนมปังชุดแรกไปลงถังและเริ่มทำชุดใหม่ ซึ่งก็ถือว่ายังดีที่มีพัฒนาการ เพราะคราวนี้ขนมปังออกมาดูดีมาก แต่แฮมนั้นอาจจะแห้งจนเกือบเกรียมไปสักหน่อย แต่ก็พอกินได้ ขนมปังพร้อมแฮมพร้อมต่อไปก็มะเขือเทศ ต้องชมว่ามะเขือเทศที่ส่งตรงมาจากฟาร์มนั้นสดจริงๆ
ขนาดว่าถูกแช่เย็นไว้หลายวัน สีสันยังดูดีมากๆ สีแดงเข้มซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพชั้นดี อีกทั้งความฉ่ำวาวหลังล้างน้ำก็การันตีได้เลยว่าผักพวกนี้ต้องถูกปลูกในดินที่อุดมสมบูรณ์มากแน่ๆ ริวกะหั่นมะเขือเทศเป็นแว่นหลายๆชิ้นและจัดใส่จาน ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด เมื่อหม้อข้าวแต้งเตือนว่าสุกแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินไปคดข้าวใส่ชามทันที
ป๊อกก แกร่กกก ริวกะตอกไข่ไก่สองใบลงใส่ข้าวทันทีซึ่งเมนูนี้เรียกว่า ทามาโก คาเกะ โกฮัง หรือข้าวหน้าไข่นั่นแหละ เมื่อไข่ทั้งสองใบอยู่ข้าวแล้วริวกะก็คนๆๆๆ จนไข่ไก่สีเหลืองนั้นฉาบทั่วเม็ดขาวสีขาวจนกลายเป็นสีเหลืองนวลชวนหิว อีกทั้งยังเหยาะซอสโชยุเพื่อเพิ่มรสชาติ อ่าาาส์ สวรรค์ของคนกินง่าย
(https://img.in.th/images/acdb60c665b60899074d625c1c227077.jpg) (https://img.in.th/image/T4EUYr)
ข้าวหน้าไข่ราดซอสโชยุ มีเครื่องเคียงคือ ถั่วแระญี่ปุ่น สาหร่ายแผ่น และปลาแห้ง อีกทั้งยังมีขนมปังอบร้อนๆ พร้อมด้วยแฮมที่เกรียมกำลังดี และมะเขือเทศที่แสนจะชุ่มฉ่ำ และเมื่อทุกอย่างครบแล้ว ปั้ป !!! ริวกะประกบมือเข้าหากันและเอ่ยขึ้นว่า
[ ริวกะ ] : อิตาดากิมัซ ( จะทานแล้วนะครับ )
งั่ม !!! ริวกะจับตะเกียบขึ้นโซ๊ยทันที เขาคีบข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆที่ถูกชโลมด้วยไข่ดิบเลิศรสเข้าปาก รสหวานจากไข่ดิบมันช่างเข้ากันกับข้าวเหลือเกิน แกร๊บบบ เสียงสาหร่ายแผ่นกรอบลั่นขึ้นทันทีที่ถูกสัมผัส ริวกะใช้ตะเกียบคีบแผ่นสาหร่ายมาโป๊ะไว้บนข้าว และคีบมันพร้อมกับข้าวหน้าไข่ทันที แผ่นสาหร่ายสีเขียวแก่ถูกห่อเข้ากับข้าวสีเหลืองนวลและคีบเข้าปากอย่างชำนาญ
(https://img.in.th/images/8cc5f0ac1b9b192ba1cdbfb2d7591655.gif)
[ ริวกะ ] : อุไม่ ( อุมาอิ ) ( อร่อยจัง )
แผ่นสาหร่ายกรอบๆคอยๆถูกเคี้ยวช้าๆ อย่างละเมียดละไม สลับกับเสียงเคี้ยวกร๊อบๆจากถั่วแระญี่ปุ่น
(/ />
มันช่างน่าฟังเหลือเกิน คนห่าอะไรกินข้าวเสียงยังเพราะ ริวกะคีบนู่นสลับคีบนี่ เคี้ยวทุกๆคำ ทุกๆเมนู อย่างละเมียดละไมตามฉบับคนถูกสั่งสอนมาอย่างดี พริบตาเดียว ทั้งข้าวหน้าไข่ดิบชามโตๆ ทั้งถั่วแระเกือบ 2 ขีด ทั้งแผ่นสาหร่ายหอมๆนับ10 แผ่นก็หายวับไปกับตา
(/ (/ />
เมื่อจานหลักหมดแล้วก็เหลือจานรอง ขนมปังโฮลวีท.อบกรอบๆและแฮมเกรียมๆนั่นเอง ริวกะใช้มือเปล่าๆหยิบมันขึ้นมาและโซ๊ยมันทันที
(/ />
(/ />
แม้จะไม่กรอบเหมือนทำใหม่ๆแต่รสชาติก็ดีเยี่ยมเลยทีเดียว มะเขือเทศที่หั่นเป็นแว่นๆก็เนื้อกรอบเหลือเกิน
(/ (/ />
ทั้งหวานทั้งกรอบราวกับเด็ดจากต้นมากินสดๆเลย และแค่แปปเดียวขนมปัง 4 แผ่นก็หมดเรียบร้อย เขาก็พนมมืออีกครั้งเพื่อเอ่ยคำขอบคุณอาหารที่เขาได้รับประทาน
(/ (/ />
[ ริวกะ ] : โกจิโซ ซามะ เฮ้อ !!! ยังไม่อิ่มเลย แต่พรุ่งนี้ค่อยออกไปหาอะไรกินแล้วกัน
ยัง !!! มันไม่อิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติมากๆ ริวกะนั้นเป็นที่ระบบเผาผลาญดีมากๆ ถึงขั้นดีเยี่ยมเลยก็ว่าได้ อีกเหตุผลคือทั้งตัวยังมีแต่กล้ามเนื้อที่เป็นเสมือนเตาเผาผลาญพลังงานตามธรรมชาติ
นั่นจึงทำให้เขาสามารถกินอาหารได้มากกว่าคนทั่วไปนั่นเอง โชคดีที่เมนูที่ริวกะทำนั้นไม่ซับซ้อนอะไรมาก แค่จับนั่นใส่นี่ กดนั่น หั่นนี่ นั่นจึงทำให้คนที่ทำอาหารไม่เป็นแบบเขาสามารถทำได้
ตามตารางเมนูอาหารของริวกะที่โคฮาคุเป็นคนจัดให้นั้น วันนี้ริวกะต้องกินอาหารมากถึง 3000 kcal เพราะวันนี้เป็นวันชีทเดย์ของเขานั่นเอง ซึ่งปกติหลังอาหารเย็นนั้นคิราระจะทำเมนูจำพวกอกไก่มาให้ แต่ว่าวันนี้คิราระไม่อยู่บ้านริวกะจึงไม่ได้กินอะไรอีก จะมีก็แค่นมถั่วเหลืองคุณภาพสูงอีก 1 ลิตรเท่านั้นเอง รวมๆแล้ววันนี้สารอาหารที่ริวกะได้รับทั้งหมดอยู่ที่ราวๆ 1,900 - 2,000 kcal เอง ยังเหลืออีกตั้ง 1,000 kcal
เหตุผลที่ริวกะต้องกินมากขนาดนี้เพราะในทุกๆวันเขาจะต้องออกกำลังกายตามโปรแกรมสุดโหดของโคฮาคุ เขาจึงต้องใช้พลังงานเยอะมากๆ และยิ่งวันนี้เขาก็ใช้ฮิไรชินวิ่งจากรังสิตไปราชเทวี ระยะทางร่วม 42 กิโลเมตรอีกด้วย กล้ามเนื้อที่อ่อนล้าจากการใช้งานย่อมต้องการสารอาหารจำนวนมากมาเติมเต็มและซ่อมแซมอย่างมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ริวกะจะกินเยอะขนาดนี้
หลังจากที่เก็บจานชาม อุปกรณ์ต่างๆล้างทำความสะอาด เก็บถังขยะเข้ามุม และ เก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อย ริวกะจึงเดินมาที่ห้องรับแขกและเปิดทีวีดูรายการกีฬาของญี่ปุ่น
" วันนี้ทางสมาคมกีฬาคาราเต้ของญี่ปุ่น ได้ประกาศรายชื่อนักกีฬารุ่นประชาชนอายุไม่เกิน 25 ปี ทั้งทีมเอ และ ทีมบี เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทั้งหมดจะได้เข้าร่วมค่ายเก็บตัวนานาชาติ ซึ่งจะมีนักกีฬาจากทั่วภูมิภาคเอเชีย เข้าร่วมฝึกซ้อมด้วย "
ริวกะยืนดูข่าวด้วยความสนใจมากๆ ถึงตัวเขาจะไม่ได้เดินเส้นทางกีฬาอย่างเต็มตัวแต่เขาก็ติดตามข่าวสารวงการกีฬาศิลปะการต่อสู่ของญี่ปุ่นเสมอ และทันใดนั้นริวกะก็กำหมัดแน่นราวกับกำลังดีใจเป็นอย่างมาก เพราะรายชื่อที่ถูกประกาศออกมานั้นมี อาโอยามะ ทาเครุ อยู่ด้วย
[ ริวกะ ] : คิราระ คิราระ เจ้าทาเครุติดทีมชาติด้วยแหละ ดูสิ่
อึ้ก !!! ริวกะที่กำลังพูดขึ้นด้วยความดีใจก็ถึงกับสะดุกอึ้กทันที เพราะตอนนี้คิราระไม่อยู่นี่นา คงเป็นเพราะความเคยชินนั่นแหละ เพราะทุกๆครั้งที่เขานั่งดูข่าวผ่านจอทีวีจะมีคิราระอยู่ด้วยเสมอ
เขามองนาฬิกาซึ่งก็ 20.00 แล้ว พี่อั้มคงกำลังกลับมาแล้วล่ะ มียามิอยู่ด้วยคงไม่เป็นอะไร ริวกะบอกตัวเองแบบนั้นก่อนที่จะปิดโทรทัศน์และเดินกลับห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำและนั่งสมาธิเหมือนที่เคยทำเช่นทุกวัน
20 นาทีต่อมา ยามิก็ขับรถพาอั้มมาส่งถึงคอนโด อั้มนั้นถึงกับเงียบกริบเลยทีเดียวหลังจากที่ยามิพูดเรื่องราวต่างๆออกมาทั้งหมด ตกลงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นตัวเธอเองสิ่นะที่สร้างช่องว่างนั้นขึ้นมาเอง ยามิไม่พูดอะไรอีกเพราะเขาอยากให้อั้มนั้นทบทวนตัวเอง ทบทวนอะไรหลายๆสิ่งที่มันปั่นป่วนในหัวใจด้วยตัวของเธอเอง
[ ยามิ ] : ข้ากลับก่อนนะ
[ อั้ม ] : ค่ะ
แว๊ป !!! หลังจากเดินมาส่งถึงในบ้าน ยามิก็เทเลพอร์ตกลับไปยังบ้านใหญ่ทันที ตอนนี้ทั่วทั้งห้องมีแต่ความเงียบ เสียงที่ดังที่สุดตอนนี้คือหัวใจที่มันรู้สึกเจ็บปวดของอั้ม ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมองข้ามสิ่งสำคัญไปมากๆ เธอมองข้ามความรู้สึกดีๆที่นายริวมีและทำให้เธอตลอดมา
[ อั้ม ] : เอ๊ะ !!! นายริวล่ะ นายริวกลับมายัง นายริวกินข้าวหรือยัง
อั้มนั้นฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เลยมื้อค่ำแล้ว เธอจึงรีบเดินเข้าไปในห้องครัวเพราะคิดว่านายริวคงอยู่ในห้องครัว แต่เธอก็พบแต่ความว่างเปล่า สิ่งที่เห็นคือซิงค์ล้างจาน ที่ยังมีน้ำขังอยู่เล็กน้อยเท่านั้น นั่นจึงทำให้อั้มรู้ได้ทันทีว่านายริวต้องล้างจานแน่ๆ แล้วนายริวทำอะไรกินล่ะ สิ่งที่อั้มทำต่อมานั่นก็คือเดินไปยังถังขยะ เธอเปิดฝามันขึ้นมาและดูสิ่งที่เหลืออยู่ภายใน ซึ่งมีเปลือกไข่ ขั้วมะเขือเทศ ขั้วถั่วแระ เศษปลาแห้ง
[ อั้ม ] : ข้าวหน้าไข่ดิบเหรอ มันจะไปอิ่มได้ไงแบบนี้ โอย อะไรเนี่ย ปิ้งยังไงให้ขนมปังไหม้ขนาดนี้
เพียงแค่มองวัตถุดิบอั้มนั้นรู้ได้ทันทีว่าเมนูที่นายริวทำกินนั้นคือข้าวหน้าไข่ดิบ เพราะริวกะนั้นทำเป็นอยู่สองอย่าง ไม่ไข่ต้มทรงเครื่อง ก็ข้าวหน้าไข่ดิบ แต่ไอ้สิ่งที่ทำให้อั้มปวดหัวนั่นก็คือขนมปังที่ไหม้จนดำปี๋ อีกทั้งเศษซากเนื้อบางอย่างที่ดำจนไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ ( แฮม ) อั้มรู้ดีเรื่องตารางอาหารของริวกะว่าวันนี้ต้องกินเยอะ แต่ด้วยหลักฐานตรงหน้าที่เหลืออยู่ มันบ่งบอกได้ทันทีว่าไม่พอ นายริวยังกินไม่อิ่มแน่ๆ
[ อั้ม ] : พี่ผิดสัญญาอีกแล้วสิ่นะ นายริว
อั้มรู้สึกสะท้อนใจตัวเองเลยทีเดียว นี่เป็นอีกครั้งแล้วสิ่นะที่เธอผิดสัญญากับนายริว เหมือนที่เคยทำมาในอดีต แต่ว่าตอนนี้เธอจะเศร้าไม่ได้ ถ้าเธอทำผิดพลาดไปเธอก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขมัน พอคิดได้แบบนี้อั้มจึงรีบเดินไปที่ห้องของริวกะทันที เธอใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะทำใจเคาะประตูห้องได้ นั่นเพราะเธอไม่รู้จะทำหน้ายังไงเวลาคุยกับนายริว เพราะวันนี้เธอพึ่งผิดสัญญาว่าจะกลับมาทานข้าวพร้อมกันกับเขานั่นเอง แต่ว่า... ตอนนี้ไม่ใช่เวลามากังวลอีกต่อไปแล้ว ครึ่งปีที่ผ่านมามันนานมากพอแล้วที่เธอต้องเก็บงันความรู้สึกจริงๆของตัวเองไว้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!
[ อั้ม ] : นายริวนอนยัง
[ ริวกะ ] : ครับครับ ยังครับ
เพียงแค่เคาะประตูและเรียกแค่ไม่กี่คำ ริวกะก็ตอบกลับมาทันที และรีบเดินมาเปิดประตู สิ่งแรกที่อั้มเห็นคือ ซีเรียลบาร์อัดแท่ง ที่อยู่ในมือของนายริว นายริวยังไม่อิ่มจริงๆด้วย เธอคิดในใจก่อนที่จะพูดกับเขา
[ อั้ม ] : พี่หิวจังเลย นายริว
[ ริวกะ ] : ครับ ? อ่อ อื้ม เบอร์สั่งอาหารก็แปะไว้ที่ตูเย็นนี่ครับ งั้นเดี๋ยวผมโทรสั่งให้
[ อั้ม ] : ไม่เอา พี่อยากไปหาอะไรกินข้างนอก
[ ริวกะ ] : แต่มันดึกแล้วนะครับ อีกอย่างผมก็กินข้าวแล้วด้วย
[ อั้ม ] : กินแล้วก็กินอีกได้ ไม่รู้ล่ะ พี่จะไปอาบน้ำแล้ว อีก 20 นาทีนายต้องพร้อมด้วยนะ
[ ริวกะ ] : หะ หา !!! ?
อั้มไม่พูดอะไรอีก เธอหันหลังและยิ้มทันทีก่อนที่จะเดินออกไปโดยที่ปล่อยให้ริวกะยืนมึนอยู่อย่างนั้น ส่วนชายหนุ่มก็ได้แต่เกาหัว แกร่กๆ
[ ริวกะ ] : เฮ้อ ไปก็ไป
ริวกะเอ่ยขึ้นมาแค่นั้นจริงๆ เพราะยังไงเขาก็ไม่คิดจะขัดใจอั้มอยู่แล้ว 20 นาทีผ่านไป ริวกะก็แต่งตัวมารอที่ห้องรับแขกเรียบร้อย ตอนนี้เวลาเกือบ จะ 3 ทุ่มแล้ว แล้วเขาจะพาพี่อั้มไปที่ไหนดีล่ะ ตึ้ง !!! เสียงปิดประตูเบาๆดังขึ้นมาจากข้างใน อั้มคงใกล้ออกมาแล้วล่ะ สิ่งที่ปรากฎตรงหน้าชายหนุ่มนั้นจะเรียกว่านางฟ้านางสวรรค์ก็คงไม่เกินไป ปกติก็ว่าสวยอยู่แล้ว มาตอนนี้ยิ่งไปกันใหญ่
ใบหน้าที่แต่งเบาๆเหมือนจะไม่ได้แต่งก็สวยจนบาดใจ อีกทั้งหน้าอกหน้าใจก็ใหญ่พอดีมือ อั้มนั้นเลือกใส่เสื้อยืดแขนกุดสีเนื้ออ่อน ไซส์ S พอดีตัวก็ยิ่งทำให้ทั้งเอวและหน้าอกนั้นเด่นชัดมากขึ้น อีกทั้งกางเกงยีนส์ที่เธอใส่ก็ทำให้เห็นเรียวขาและสะโพกได้ชัดเจน การเลือกเฉดสี การเลือกทรงเสื้อและกางเกง อั้มทำได้ดีมากๆ เรียกว่าเสื้อผ้าที่เลือกใส่นั้นทำให้ ทรวดทรงองเอวของเธอนั้นเด่นชัดมากขึ้นจนสะกดตาสะกดใจกันเลยทีเดียว ส่วนอั้มนั้นพอเห็นสายตาของนายริวที่มองมา ก็แอบยิ้มในใจทันที นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนี้แล้วใจเต้นรัวๆเลยก็ว่าได้
ชุดที่พี่อั้ม ใส่
(https://img.in.th/images/1393072eb1304684980a54d91b642d85.jpg)
[ อั้ม ] : ไปกันเถอะ นายริว พี่หิวแล้ว
[ ริวกะ ] : ครับๆ กุญแจรถล่ะครับ เดี๋ยวผมขับให้
[ อั้ม ] : ไม่ต้องขับไปหรอก ไป Taxi กันดีกว่า ไปเร็วพี่หิวแล้ว
ทั้งคู่นั้นพากันเดินออกมาพร้อมๆกันวันนี้อั้มนั้นสวยมาก แค่ด่านผ่านล็อบบี้ ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นยังมองตามคอแทบหัก แล้วแบบนี้คนที่อยู่ใกล้ชิดแบบนายริวจะเหลืออะไร กลิ่นน้ำหอมบางๆจากอั้มนั้นก็ยิ่งทำให้จิตใจไม่อยู่สุขเลยทีเดียว
[ ริวกะ ] : พี่อั้มเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมเหรอครับ
[ อั้ม ] : อึ่ อื้อ อื้ออ กลิ่นมันแปลกเหรอ ( ท่าทีกระวนกระวายใจ )
[ ริวกะ ] : เปล่าครับ ก็ปกติตอนไปมหาวิทยาลัยพี่ใช้แต่ chanel chance นี่ครับ
[ อั้ม ] : อือ อือออ ก็ ก็นี่จะออกไปข้างนอกนี่นาก็เปลี่ยนบ้างสิ่ ชอบมั้ยนายริว
[ ริวกะ ] : ครับหอมดีครับ
ดูเหมือนว่าคำตอบนี้จะทำให้อั้มไม่พอใจมาก ริวกะเล่นตอบไม่ตรงประเด็นแบบนี้อั้มก็ปรี๊ดสิ่ครับ อั้มกอดแขนของนายริวไว้จนหน้าแขนของเขาสัมผัสเจ้ากับหน้าอกอึ๋มๆของเธอ และอั้มก็พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า
[ อั้ม ] : ไม่ได้ถามว่าหอมมั้ย ถามว่าชอบมั้ย
[ ริวกะ ] : เออะ เอ่อ ชอบครับ
[ อั้ม ] : ก็แค่เนี้ย นั่นไงๆ รถมาแล้ว โบกๆ ๆ ๆ เร็วนายริว
เอาแล่วช่วงคำตอบวัดใจมาแล้ว พอโบกปุ๊ป เปิดประตูป๊าป พี่ Taxi ถามก่อนเลยว่าไปไหน ตอนนี้แหละจะตอบยังไงดี เพราะอั้มเองก็ไม่ได้บอกด้วยว่าอยากไปไหน บอกแค่ว่าอยากให้พาไปกินข้าว
[ ริวกะ ] : เอเชียทรี๊คครับ
อื้อหืมมม คำตอบนี้ถูกใจอั้มนักแล เอาตามจริงไม่ว่าริวกะจะพาไปไหนเธอก็ดีใจหมดแหละ แต่เพราะนายนิวบอกว่าไปเอเชียทรี๊ค จึงทำให้อั้มนั้นดีใจเป็นอย่างมาก จนเผลอกอดแขนของนายริวจนนมเบียดแขนอีกครั้ง เมื่อพี่โชเฟอร์ตอบกลับมาว่าไป ริวกะจึงขึ้นรถไปก่อนและอั้มจึงขึ้นตาม
แต่ในระหว่างนั้นเธอดันซุ่มซ่ามจนตัวพุ่งเข้าไปซบอกนายริวเต็มๆ หน้าอกที่บึกบึนพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมที่ชวนหลงไหล ทำให้อั้มแทบจะตกอยุ่ในภวังค์เลยทีเดียว อั้มต้องคุมสติตัวเองไม่ให้เคลิ้มให้ได้ เธอสลัดความคิดนั้นทิ้งไปและรับก้าวขึ้นไปทันที
[ โชเฟอร์ ] : พาแฟนไปเที่ยวเหรอครับเนี่ย
[ ริวกะ ] : เปล่าครับ นี่พี่สาวผมเอง
[ โชเฟอร์ ] : เหรอครับ ต้องขอโทษด้วยครับคุณลูกค้า อื้มม มองยังไงก็เหมือนคู่รักนะครับเนี่ย เสื้อก็เหมือนกัน ผมนึกว่าใส่เสื้อคู่นะครับเนี่ย
ใช่แล้ว เป็นไปตามที่คุณโชเฟอร์พูด เพราะริวนั้นก็ใส่เสื้อโปโลสีเนื้ออ่อน แถมยังลายปักก็เหมือนกันอีก จริงๆนั้นริวกะไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น ที่เขาเลือกใส่ตัวนี้เพราะเนื้อผ้ามันนิ่ม ใส่สบายและระบายอากาศได้ดี เรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญที่แสนพิเศษก็ว่าได้
[ ริวกะ ] : อย่าพูดแบบนี้เลยครับพี่ เดี๋ยวพี่สาวผมโกรธเอานะ
ริวกะพูดไปแบบนั้น เพราะรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เขากลัวอั้มจะไม่พอใจ ที่ใครต่อใครก็คิดว่าเธอกับเขาเป็นแฟนกัน แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ตอนนี้สิ่ที่เธอกำลังงอน เธองอนที่ริวกะไปบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ว่างอนได้ไม่นานอั้มก็ใจเต้นแรงตึกตักตึกตัก เพราะตอนนี้กลิ่นกายของริวได้กระตุ้นเธออีกครั้งแล้ว
[ อั้ม ] : ชิ !!! ร้ายไม่เบานะ ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ด้วย
อั้มคิดในใจก่อนที่จะพยายามดม เบาๆแต่ยิ่งดมยิ่งรู้สึกหลงไหล Giorgio Armani Attitude นี่มันกลิ่นพิฆาตนารีนี่นา ยิ่งดมอั้มก็ยิ่งเคลิ้ม เคลิ้ม เคลิ้ม จนนายริวต้องทักขึ้นมา
[ ริวกะ ] : พี่อั้มไม่สบายหรือเปล่าครับหน้าแดงๆ
ริวถามแค่นั้นก็ก้มไปหาทันที เพราะตอนนี้อั้มมีท่าทีแปลกๆไป ตอนนี้เรียกได้ว่าอั้มนั้นสุดจะทนจริงๆเพราะทั้งความใกล้ชิด ทั้งกลิ่นกายจากนายริว ทั้งความต้องการจากหัวใจ มันเริ่มทำให้สามัญสำนึกเริ่มลดน้อยถอยลง อุ๊ป !!! ชายหนุ่มถึงกับตกใจตาเบิกโพรง เพราะอยู่ดีๆสาวสวยตรงหน้าก็ยื่นหน้าเข้ามาประกบปากจูบเขาด้วยตัวเอง ริมฝีปากเรียวงามบดบี้กับริมฝีปากของชายที่รักอย่างเร่าร้อน
เพียงไม่นานจากการบดบี้ เริ่มเปลี่ยนเป็นการแลกลิ้นเพื่อกระตุ้นอารมณ์หญิงสาวที่เป็นฝ่ายเริ่มกลับกำลังถูกชายหนุ่มที่ประสบการณ์การสูงกว่า ใช้ลิ้นเพื่อไล่ต้อนจนติดมุม ตอนนี้ในหัวของเธอมันโล่งไปหมด ไม่เหลืออะไรนอกจากความอยากที่มันกำลังเพิ่มขึ้นทุกทีที่ลิ้นตวัด ตอนนี้เธอกำลังถูกน้องชายที่รักประเคนความรู้สึกวาบหวิวผ่านปลายลิ้น อีกทั้งมือของเขาก็กำลังพยายามล้วงเข้ามาบีบคลึงหน้าอกเธอด้วย
[ อั้ม ] : อื๊ออออ ซื๊ดดดด นายริว อ๊อยยยย อย่านะ
ถึงปากของเธอจะเอ่ยห้าม แต่น้ำที่มันไหลออกจากหว่างขานั้นช่างขัดแย้งกันจริงๆ ปากก็โดนจูบ นมก็โดนคลึงแบบนี้ แบบนี้มีเหรอที่น้ำจะไม่เดิน อื๊ออออ อ๊อยยย เสียงร้องของหญิงสาวนั้นดังลั่นเลยทีเดียว เพราะชายหนุ่มเริ่มรุกหนักขึ้นมากกว่าเดิม เขาถลกทั้งเสื้อยืดและเสื้อในขึ้นจนเต้าอวบๆนั้นโผล่ออกมาอวดสายตาอย่างน่าชม
[ อั้ม ] : อร๊างง อย่าดูดแบบนั้นสิ่ นายริว อื๊อออ อย่าล้วง หยะ อย่า อร๊าาา
ริวกะรุกหนักจริงๆ เขาก้มลงดูดหัวนมสีชมพูจนอั้มนั้นดิ้นพร่าน ปากก็ดูด มือก็คลึง แต่ที่ทำสติเตลิดก็คือมือขวาที่กำลังล้วงไปยังเนินโหนกสวาทนั่นเอง ริวกะแซะขอบกางเกงยีนตัวฟิตเข้าไปบี้เกี่ยวที่ถ้ำสวาทเสียแล้ว โดนเล้าโลมสามจุดพร้อมกันอย่างนี้มีเหรอที่สาวสวยไร้ประสบการณ์จะรับมือไว้ อั้มทำได้แค่ร้องครางเพื่อระบายความเสียวที่กำลังถาโถมเข้ามาเท่านั้น
[ อั้ม ] : โอ๊ยยย ซื๊ดดดด อย่ากัดแบบนั้นสิ่นายริว ซื๊ดดดดด
[ ริวกะ ] : ผมขอนะพี่อั้ม ผมทนไม่ไหวแล้ว
[ อั้ม ] : อย่านะนายริว กลับไปทำที่บ้านนะ พี่ยอมนายทุกอย่าง แต่กลับบ้านก่อนนะ ที่นี่ไม่ได้ หยะ อย่า อย่าา
ขอบคุณครับ ขอเม้นก่อนครับ เดี่ยวมา Edit
นายเวย์ นี่พี่อั้มต้องให้รางวัลละ
บนรถแทกซี่เลยนา พี่อั้มไหวมั้ย
ต้องตั้งชื่อตอนว่า เผด็จศึกพี่อั้ม 5555
เย้ๆๆรักกันแล้ว
มากันดีๆ สปาร์กซะแล้ว อยู่บนแท็กซี่คนขับมันก็โชคดีได้ดูหนังสดหนุมหล่อสาวสวย ฮิ ฮิ ถ้าตกลงกันได้พลอยก็ไม่มีอะไรหนักใจที่จะต้องพูดกะพี่อั้มนะ
จัดหนักกัน taxi เลยหรอครับ ดีๆ
ขออ่านดูก่อนนะ
ยอมเถอะพี่ม จะฝืนใจทำไม
555งานนี้นายริวปิดจ็อบพี่อั้ม
สรุปคืออั้มคิดไปเองอีกตามฟอร์ม
::Hunger:: สุดยอดมากแต่งเก่งจริงจริง
อยู่บนแท๊กซี่นะพี่อั้มคิดไปเองอีกแล้ว
ทบทวนเรื่องราวของริวกะ
และแล้วอั้มก้เสร็จนายยริววว
ท่าทางคงจะได้จัดกันก่อนที่จะได้เปิดอกคุยกันนะเนี่ย5555
และแล้วๆๆๆๆ ลุ้น พี่อั้มจัง คงไม่ฝันแบบก่อนหน้านี้อีกนะ
จัดพี่อั้มเลยนายริว
เอฟซีพี่อั้ม นายริวต้องทนุถนอมเธอดีๆนะ
พี่อั้มคิดแน่นอน
จัดหนักๆ
อ่านวนไปวนมาอ่านกี่รอบก็สนุกมาก รอตอนใหม่อยู่นะครับ
::Crying::โหดจริงๆริวจัดให้อั้มโหดๆบ้างนะ
อ้าวริวกะหื่นขนาดอยู่ในรถแท็กซี่เลยนะ
::Hmmm::
ตกลงจะได้กันหรือฝันไป
เอ่อ พี่อั้มไม่ได้มโนไปเองอีกใช่มั้ยครับ
บนรถเลยเรอะสงสัยไม่ได้กินแล้วข้าว
สนุก
เปิดก่อนค่อยคุย
น่าจะให้อัดไอ้พวกเหี้ยๆๆนี่ให้พิการไปเลย
จัดไปสิครับ เมียรอง
ระหว่างรอร้านเกะเปิด ขอกลับมาอ่านตอนเก่าๆๆไปพลางๆๆก่อนนะขอรับ อิอิอิ
ปนในใจของอั้มที่ปิดกั้นตัวเอง ส่งผลร้ายมาจนถึงวันนี้ ถ้าไม่สามารถทำลายกำแพงนี้ได้ ก็ไม่มีใครช่วยได้ รักมากแค่ไหนก็เจ็บมากเท่านั้น ความรักเป็นสิ่งสวยงามแต่พิษของความรักคือยาพิษที่แสนเจ็บปวด
ยังอยู่ใน taxi ไม่ใช่หรอนายริว
เบาๆ พี่อั้มอายนะ
คงได้ปรับความเข้าใจกันซะทีนะ ริวกะพี่อั้ม
แต่ไปปรับความเข้าใจกันบนเตียงจะดีกว่าไหมหนอ
ปิดจ๊อบอีกคน จะหมดกี่คนเนี่ย
ขอบคุณครับ
พี่น้องกันจริงจริ๊ง
ลงเอยกับพี่อั้มาสักทีลุ้นมาตั้งหลายตอนพี่อั้มจะได้หายขุ่นข้องในใจด้วยเซอร์วิสฉากบู๊อีกครับจารย์โคตรมันส์
ถึงคราวของพี่อั้มปรับความเข้าใจกับนายริวซะทีนะ
อั้มคงยอมนายริววันนี้แล้วละ
...เคลียร์ใจ...
สวีทกันได้แล้ววว...^^
จะได้จัดทำความเข้าใจกันมั้ยนะ
พี่อั้มยอมรับความจริงหรือยังว่าใจตัวเองต้องการอะไร
บนTaxi เลยหรือ?
เออพี่อั้มครับ อยู่ในแท๊กซี่ครับพี่ ::Ahh::
ทีของอั้มเขาล่ะ
พี่รอง ยอมนายน้อยซะดีๆ
อั้มเสพชัวร์
หลงมาอ่านสงสัยต้องไล่อ่าน
สงสัยจัดหนักจนร้องขอแน่นอน ::HeyHey::
เอาพี่อ้่มให้อยู่ นะ ริว
เปิดด้วยการ outdoor
อิจฉาๆนาบริวมากครับงานนี้สุดยอด
เมียคนที่สี่ของริว
ถึงคราวสาวอั้ม
ครบทีมแล้วววววววววววว ::Fighto:: ::Fighto:: ::Fighto:: ::Fighto:: ::Fighto::
ปากแข็งทั้งคู่เลย
::Dozy::
ริวไม่ค่อยจะยกซดสาวๆเลยกับพี่อั้มยกซดแบบซดแกงจืดหมูสับใส่ใบตำลึงหน่อยครับ
เดี๋ยววววนายโทนจะทำแบบนั้นกับอั้มบนรถแท๊กซี่ม่ายด้าย
จะสมหวังแล้วพี่อั้ม จะเป็นเมียคนรองได้แล้ว
กัปตันของทีมนักรบขนาดนี้ อายุจะเท่าใด และมาเป็นเพื่อนกับริวอายุ 20 นี่จะต้องหน้าอ่อนขนาดไหนกัน
ฝันอีกแล้วหรือจริง
เดี๋ยวๆๆๆนั้งมาในรถแท๊กซี่ไม่ใช่หรอ แล้วไปร้องเสียงดังได้หรอ
::DookDig::
บนรถแท็กซี่เลยนะ ริวจะลุยเลยหรือ
::Glad::
::Thankyou::
อั้มน่าจะไม่รอดนายริวแน่ๆ