หวังอี้พบเพิงร้างแห่งหนึ่งไม่นานหลังอาทิตย์ตก มันจึงอาศัยนอนจนรุ่งเช้า แล้วจึงเดินทางต่อ จนพบถนนแลสะพานตัดข้ามแม่น้ำ ที่เชิงสะพานมีหมู่บ้านและค่ายทหารขนาดเล็ก
"หยุด" ทหารสี่นายที่ยืนเฝ้าสะพานร้องเมื่อเห็นหวังอี้เดินออกจากป่ามา
"เจ้าเป็นใคร มีธุระอะไรที่นี่เช่นนั้นหรือ" ทหารคนแรกถาม
"ข้าเป็นเพียงชายพเนจร" หวังอี้ตอบ
"เช่นนั้นหรือ" ทหารถาม มันมองสำรวจทั่วตัวหวังอี้ "เช่นนั้น ข้าคงต้องขอเตือน ข้ามสะพานนี้ไปไม่ไกลก็ถึงเมืองวิปลาส ที่นั่นอันตรายนัก น้อยคนจะรอดกลับมาได้ หากจะพเนจร จงพเนจรไปทางอื่นเถิด"
"ขอบคุณพี่ชายสำหรับคำเตือน" หวังอี้คารวะ "ข้าขอถามได้หรือไม่ เมื่อสาม....ไม่สิ สี่วันก่อน พี่ชายได้พบเห็นร่างหญิงสาวลอยมาตามแม่น้ำนี้หรือไม่"
ทหารคนที่คุยกับหวังอี้ทำหน้าครุ่นคิด
"มีคนนึง" ทหารอีกนายบอกมา
"จริงหรือ!! ตอนนี้นางอยู่ที่ใดแล้ว" หวังอี้ร้องด้วยความยินดี
"ฝังไปแล้ว" ทหารนายนั้นตอบ
หวังอี้เข่าทรุด
"ใช่ ข้าจำได้แล้ว" ทหารอีกนายบอก "ศพนางลอยมาเกยใต้สะพานนี้แหละ แก้ผ้าล่อนจ้อน พวกเราช่วยกันขุดหลุมฝังที่ด้านหลังค่าย ตอนนั้นไม่ใช่เวรท่านพี่คัง ท่านเลยจำไม่ได้"
"ข้าเสียใจด้วย" ทหารนายที่คนอื่นเรียกท่านพี่คังบอก "ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนสำคัญของเจ้าหรือ"
หวังอี้พยักหน้า
"เสียดายนะ นางหน้าตาดีด้วย" พวกทหารคุยกันเอง
"จริงด้วย ตอนยังมีชีวิตคงเป็นคนสวยคนหนึ่ง"
"ขอบคุณพวกท่านมาก" หวังอี้คารวะ ก่อนจะถอยหลังเดินจากไปด้วยหัวใจที่แหลกสลาย
"เจ้าจะไม่รับศพนางกลับหรือ" ทหารนายหนึ่งตะโกนเรียก แต่หวังอี้เดินต่อไปโดยไม่หันมาตอบ ตัวมันเองก็ไร้ญาติขาดมิตร รับศพนางไปจะไปฝังที่ใดได้เล่า
 
เซียวเฟยซิง.....ตายแล้ว
ความจริงข้อนี้บีบหัวใจหวังอี้ราวคีมเหล็ก
"ขออภัยด้วย แม่นางเซียว" มันปาดน้ำตา ฝีเท้าก้าวนำไปข้างหน้าไม่หยุด ทว่าดวงตาไม่มองเส้นทางที่ก้าวไปแล้ว "ข้าไม่อาจช่วยเหลือท่านได้"
โครม!!!!
"คนบัดซบ!!! ไยเดินไม่มองทางเล่า!!!!!"
หวังอี้กระพริบตาไล่น้ำตาที่หลั่งไหลออกจนมันมองอะไรไม่เห็น
"แล้วไย......ท่านจึงร้องไห้เพียงนี้"
"มะ.....แม่นางไช่อี้เหนียง"
ไช่อี้เหนียงยิ้ม "ท่านยังจำชื่อข้าได้สินะ ท่านหวังอี้"
มันปาดน้ำตาอีกครั้ง พูดอะไรไม่ออก
"สหายของท่าน.....ที่ท่านบอกว่าท่านตามหาอยู่.....เป็นข่าวร้ายเช่นนั้นหรือ" ไช่อี้เหนียงถาม
หวังอี้พยักหน้า
"ข้าเสียใจด้วย" ไช่อี้เหนียงบอก "สหายคนนี้....สนิทกับท่านหรือ"
"เรา...ฝ่าฟันภัยร้ายแรงด้วยกัน" หวังอี้ตอบ "สู้กับคนที่ทำลายสำนักของนางแลสังหารบิดามารดาข้า เราแพ้ ร่วงหล่นลงแม่น้ำ ข้าฟื้นขึ้นมาเลยออกไปที่ปลายน้ำและออกเที่ยวตามหานางทันทีที่ข้าทำได้ ทว่าขึ้นไปจนถึงสะพานจึงได้พบว่านางเป็นศพติดอยู่ที่สะพานเมื่อสี่วันที่แล้ว"
"ข้าเสียใจด้วยจริง ๆ" ไช่อี้เหนียงดันร่างเล็กบางของนางแนบชิดร่างของมัน หวังอี้สะดุ้ง
แต่เมื่อมีคนรับฟังแลอยู่ใกล้ให้ไออุ่น ช่างรู้สึกดีอย่างประหลาด
"ขอบคุณแม่นางไช่นัก" หวังอี้บอก "แลขอโทษด้วยที่ข้าล่วงเกินแม่นางเมื่อวานนี้"
ไช่อี้เหนียงหน้าแดงก่ำ
"ข้าขอถามได้หรือไม่ เหตุใดแม่นางจึงดีกับข้าถึงขนาดนี้"
"ข้า.....เมื่อวานข้าบอกท่านแล้วใช่หรือไม่ การประลองยุทธจะทำให้ผู้คนเข้าใจกันมากขึ้น"
"ใช่...แต่...ข้าไม่เข้าใจ"
"ท่านมิรู้วิชาตัวเบา จึงหลบหนีจากข้าไม่ได้"
"แม่นางกล่าวได้ถูกต้อง"
"แต่ท่านไม่อยากสู้กับข้า จึงปัดป้องอยู่เสียเกือบเจ็ดสิบกระบวนท่า"
"เป็นเช่นนั้น"
"เมื่อข้าบีบให้ท่านสู้ ท่านก็ใช้วิชาที่ท่านรู้จัก...." ถึงตอนนี้หน้านางแดงเสียยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก
"
ข้ามีความสุขมาก" นางกระซิบเบาจนหวังอี้ไม่ได้ยิน
"อะไรนะ"
"มิมีอันใดดอก" นางรีบกลบเกลื่อน "ท่านชนะ ข้าสิ้นสติไป ถึงตอนนั้นท่านย่ำยีอย่างไรข้าก็ได้ แต่ท่านกลับพาข้าไปไว้ในที่ปลอดภัย มิได้แม้ปลดผ้าผูกผมหรือสายคาดเอว ท่านเป็นสุภาพบุรุษยิ่งนัก"
"ข้า..มิกล้าถือตนเช่นนั้น"
"ตอนนี้ ข้าเชื่อท่านแล้ว ว่าท่านมิใช่โจรผู้ร้าย แต่ท่านถูกชาวบ้านในหมู่บ้านผลักไสไล่ส่งแลทำร้ายท่านก่อนจริง"
"ขอบคุณแม่นางนักที่เชื่อใจข้า"
ทั้งคู่เดินทางต่อลงตามทางแม่น้ำไหล ไช่อี้เหนียงก้าวตามหวังอี้ต้อย ๆ
"แม่นาง ไยจึงตามข้าเล่า" หวังอี้ถาม "แม่นางหนีจากบ้านแลสำนักมามิใช่หรือ แม่นางควรกลับบ้านได้แล้ว"
"หากพิสูจน์ตนไม่ได้ ข้าก็มิอาจกลับไปสู้หน้าบิดา" ไช่อี้เหนียงเชิดหน้า ย่นจมูกอย่างดื้อรั้นอีกครั้ง "ข้ายังมิได้เอาชนะโจรผู้ร้ายแลคนถ่อยเลย จะกลับบ้านได้อย่างไรเล่า"
"แล้วไยจึงตามข้า"
"ท่านอาจได้พบผู้ร้ายแลโจรถ่อย" ไช่อี้เหนียงกล่าว "ข้าจักเอาชนะมันแลช่วยเหลือท่านในการผดุงคุณธรรม"
"ข้ามิได้ไปหาผู้ร้ายแลการต่อสู้ไม่" หวังอี้บอก "อาจารย์ปรารถนาให้ข้าฝึกฝนจนสำเร็จยุทธ แต่ข้าเป็นห่วงแม่นางเซียวจึงแอบหนีออกมาก่อน ข้าจักกลับไปรับโทษแล หากอาจารย์ยอมรับ ฝึกฝนเคล็ดวิชาให้ลุล่วง"
"อาจารย์ของท่าน ท่านบอกว่าชื่อเฮี๊ยงกวยหลี่ใช่หรือไม่"
"ใช่"
"ข้ามิเคยได้ยิน ท่านเป็นอาจารย์ในสำนักใดฤา"
"อาจารย์มิได้สังกัดสำนัก เป็นเพียงชายชราอยู่คนเดียวในป่า"
"ยอดฝีมือเร้นกายอยู่ทุกที่ดังที่บิดาบอกสินะ"
ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงหมู่บ้านที่อาเหลียงอยู่อาศัย
"หลบให้ห่างเถิด" หวังอี้บอก "ข้าไม่อยากถกเถียงกับพวกนั้นอีก"
แต่ทันใดก็มีเรือพายลำเล็กสองลำพายเข้ามาเทียบท่าน้ำของหมู่บ้าน ชายฉกรรจ์ก้าวลงจากบนเรือ ไม่ช้าก็มีเสียงกรีดร้องดังลั่นหมู่บ้าน
"โจรร้าย!" ไช่อี้เหนียงร้อง "พี่หวังอี้ เราไปช่วยชาวบ้านจัดการพวกโจรเถิด"
"เดี๋ยวก่อน!!" แต่ไม่ทันแล้ว ไช่อี้เหนียงเหินทะยานด้วยวิชาตัวเบาก่อนจะลงไปขวางหน้าชายหน้าโหดที่ถือดาบเงื้อง่าอยู่
พ่อของอาเหลียงนอนแผ่อยู่บนพื้น ไม้เท้ากลิ้งโค่โร่ ชายคนหนึ่งยืนถือดาบจ่อคอหอยชายชรา ขณะที่อาเหลียงถือดาบยืนอยู่หน้าลูกสาว
"ส่งลูกเจ้ามา ไม่งั้นพ่อเจ้าตาย" ชายหน้าโหดบอก
"พ่อ!!!"
"อย่าส่งหลานให้มันนะ พ่ออยู่มานานแล้ว ตายก็ไม่เสียตายชีวิต อย่าให้ลูกของเจ้าต้อง............."
ผั๊วะ!!!
ชายหน้าโหดเตะพ่อของอาเหลียงจนเลือดกบปาก
"พ่อ!!!" อาเหลียงเงื้อดาบวิ่งเข้ามา แต่ชายร่างผอมฟันจนมันล้มลง เลือดพุ่งจากแผลที่อก เด็กหญิงร้องไห้จ้า
"มันไม่เล็กไปเหรอ" ชายร่างผอมถามชายหน้าโหด
"เล็กหรือใหญ่ หากมีร่องรูที่ด้านล่าง ย่อมใช้การได้" ชายหน้าโหดบอก "ไปจับตัวมันมา"
เพี๊ยะ!!!
ไช่อี้เหนียงทะยานลงจากฟ้า บาทาฟาดลงบนศีรษะชายร่างผอมจนมันหน้าทิ่มลงบนพื้น
"อา" ชายหน้าโหดร้อง "ยัยหนูตัวเล็กก็ใช้ได้ แต่เจ้าสิ ดรุณีงามอย่างเจ้าค่อยเหมาะนำไปเป็นกำนัลแด่นายท่านหวัง"
"เจ้ามันเป็นโจรโฉดชั่ว" ไช่อี้เหนียงร้อง "วันนี้ ข้า ไช่อี้เหนียง จักปราบพวกเจ้าเพื่อพิทักษ์คุณธรรม"
ชายหน้าโหดหัวเราะและเงื้อดาบ
ไช่อี้เหนียงดึงสายผ้าที่คาดผมออกแล้วซัดไป ผ้าแพรบางพันรอบดาบก่อนที่นางจะกระชากจนดาบเล่มใหญ่ลอยหลุดจากมือของชายหน้าโหด
"บังอาจ!!! นังโสเภณี ข้าจะหักคอเจ้า"
ฝ่ามือปราบหกทิศฟาดออกไปทีเดียวชายหน้าโหดก็ล้มลงไปกองกับพื้น
"จอมยุทธหญิง....ขอบคุณท่านมาก...." อาเหลียงคราง
"แผลของท่านเลวร้ายหรือไม่" ไช่อี้เหนียงถาม
"....ไม่ถึงตาย" อาเหลียงตอบหลังกดที่แปลดูอีกครั้งเพื่อห้ามเลือด "บิดาข้าล่ะ"
"ข้าไม่เป็นไร อาเหลียง"
"แฮ่กๆๆๆ" หวังอี้ที่ไม่มีวิชาตัวเบาเพิ่งตามมาถึง
"มัน!!!!" พ่ออาเหลียงร้อง "มันเป็นโจรโฉดชั่ว เมื่อวานข้าบอกให้เจ้าฆ่ามันมิใช่หรือ เมื่อปล่อยมันรอดไปได้ มันจึงพาสมุนโจรกลับมาจะเข่นฆ่าเราเช่นนี้"
"ท่านผิดแล้ว" ไช่อี้เหนียงบอก "ท่านหวังอี้หาใช่พวกเดียวกับคนร้ายไม่"
ชายร่างผอมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา "หนะ............นายน้อยหวังอี้..............ท่านยังไม่ตาย........"
"เห็นไหม มันเป็นพวกเดียวกัน!!!" ชายชราตะโกน แต่ไช่อี้เหนียงใช้ผ้าแพรบางของนางอุดปากมัน
"เจ้า.........." หวังอี้มองหน้าชายร่างผอม "เจ้าเคยเป็นทหารของพ่อข้า....ใช่หรือไม่"
"ข้ากลัวตาย" ชายร่างผอมรับสารภาพ "เมื่อพวกมันขู่จะฆ่าข้า ข้าจึงแปรพักตร์ไปอยู่กับหวังฟันเจ้า ข้านั้นไร้ศักดิ์ศรี"
"เหตุใดเจ้าถึงบุกมาที่นี่เล่า" หวังอี้ถาม
"พวกมัน...คนของหวังฟันเจ้า.....ต้องการผู้หญิงเพิ่ม พวกมันสั่งเราไปตามหา พวกเราเป็นแค่ลิ่วล้อ......"
"พวกท่านอยู่ที่หมู่บ้านนี้ไม่ได้แล้ว" หวังอี้หันไปบอกอาเหลียง "ย้ายถิ่นเถิด เมื่อพวกโจรโฉดชั่วในเมืองวิปลาสรู้ว่าสองคนนี้ทำงานพลาด พวกมันจะส่งผู้ที่มีวรยุทธร้ายกาจกว่านี้มา ถึงตอนนั้นพวกท่านไม่มีทางสู้ได้แน่ ข้าเคยเห็นฝีมือโจรกลุ่มนั้น พวกนั้นเก่งกล้าสามารถยิ่งนัก"
"พวกเราไม่มีที่จะไป" อาเหลียงร้องไห้
"ข้ามเขาลูกนั้นไป เดินตามแผนที่นี้ จะถึงพรรคป่าวงกต" ไช่อี้เหนียงยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้อาเหลียง "บอกท่านเจ้าสำนักว่าไช่อี้เหลียงวิงวอนให้ท่านดูแลให้ที่พำนักแก่พวกท่าน บิดาข้าจะทำตาม"
"ขอบคุณแม่นางมาก"
"ให้ข้าไปด้วยเถิด" ชายร่างผอมร้อง "อย่างไรพวกมันก็จะฆ่าข้าฐานจับตัวผู้หญิงมาให้มันไม่ได้.....นายน้อยหวังอี้ ท่านจำอาฟงได้หรือไม่ คนที่เคยแบกท่านขึ้นหลังยามท่านยังเด็ก มันแปรพักตร์ไปพร้อมกับข้า แต่พอหวังฟันเจ้าส่งมันไปซุ่มโจมตีพวกผู้หญิงเดินทาง มันกลับทำไม่ลง มันจึงถูกคนของหวังฟันเจ้าสังหาร ข้าไม่อยากลงเอยเช่นนั้น"
"จะไว้ใจได้อย่างไร ว่าเจ้าจะไม่ทรยศพาคนของหวังฟันเจ้าตามล่าคนเหล่านี้" ไช่อี้เหนียงถาม
"ให้โอกาสมันสักครั้งเถิด"
"เห็นแก่ท่านพี่หวังอี้ เจ้าไปกับพวกชาวบ้านได้" ไช่อี้เหนียงบอก "อย่าให้ข้าเสียความไว้วางใจนะ"
"แน่นอน ข้าไม่ทำท่านผิดหวังแน่ ขอบคุณมาก ข้ารอดจากเมืองวิปลาสแล้ว"
หวังอี้และไช่อี้เหนียงจึงเดินทางต่อ ทว่าเมื่อไม่ต้องเกาะติดชายแม่น้ำแล้ว ไช่อี้เหนียงจึงนำทางไปผ่านเส้นทางที่มีถนนเล็กและผู้คนสัญจร จนใกล้ค่ำก็แวะพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง
"ข้ามิได้พกเงินติดตัวเลย" หวังอี้บอก ตอนมันเป็นคนรับใช้ในเมืองวิปลาสก็ไม่เคยมีใครให้เงินมันอยู่แล้ว เศษตังที่แอบหามาได้ก็อยู่ในเสื้อคลุมที่ยกให้เซียวเฟยซิงก่อนจะโดนหวังฟันเจ้าฟันจนขาด
"ข้ามีเงินอยู่บ้าง เราพักกันได้" ไช่อี้เหนียงบอก "เถ้าแก่ ห้องพักหนึ่งห้อง"
"สองห้องสิ บุรุษสตรี นอนร่วมห้อง ย่อมไม่เหมาะสม" หวังอี้แย้ง
"หากท่านประสงค์อยากนอนสองห้อง ก็จงจ่ายค่าห้องอีกห้องด้วยตนเองเถิด"
"แม่นางไช่ ข้าบอกแล้ว ข้าหามีเงินติดกายไม่"
"เถ้าแก่ หนึ่งห้องมีสองเตียงหรือไม่" หวังอี้ถาม เถ้าแก่ทำเสียงงึมงำในคอ
"ถ้ามีสองเตียง ให้เสี่ยวเอ้อเอาออกด้วยเตียงหนึ่ง" ไช่อี้เหนียงกระซิบบอกเถ้าแก่
"หนึ่งห้องมีเตียงเดียว" มันคำราม
"โธ่"
"เย้"
เมื่อทั้งคู่รับประทานอาหารกันเสร็จแล้วจึงได้ขึ้นห้องนอนด้วยกัน
"แม่นางไช่ ได้โปรดเถิด" หวังอี้ร้องเมื่อนางพยายามฉุดลากเข้าห้อง "ให้ข้าอยู่ในห้องกับแม่นาง หาสมควรไม่"
"เข้ามา!!!" นางตวาดและกระชากสุดแรงถูลู่ถูกังลากหวังอี้เข้าห้องจนสำเร็จ
"แม่นางนอนบนเตียงเถิด ข้าจะนอนที่พื้นเอง" หวังอี้บอก
"ได้สิ" ไช่อี้เหนียงบอก พลางก็ปลดเปลื้องอาภรณ์หรูยาวกรุยกรายชั้นนอกที่สวมใส่ออก หวังอี้รีบเบือนหน้าหนี
"แต่ ก่อนเข้านอน ท่านต้องช่วยข้าหนึ่งอย่าง" ไช่อี้เหนียงบอก
"เรื่องอันใดฤา"
หวังอี้หันไป แล้วจึงได้ประจันหน้ากับไช่อี้เหนียง บัดนี้นางอยู่ในอาภรณ์ที่ใส่ด้านใน กระโปรงแหวกสูงเผยให้เห็นขาอ่อนขาวปานหยก ใบหน้าแสดงความดื้อรั้นถึงขีดสุด
(/> "ใช้ดัชนีทิ่มถ้ำใส่ข้าอีกรอบเถิด"  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
แผนลึกซึ้งนักดรุณีน้อย ระวังเถิด คราวนี้หาใช่แค่นิ้ว จากสุขสันต์ จะกลายเป็นแสบสันต์
ตามมานึกว่าจะเรื่องอะไรที่แท้ก็ติดใจ นิ้วนี่เอง ไม่สนใจอย่างอื่นเพิ่มเหรอ? ::Sobad::