"ท่านผู้เฒ่า ท่านรู้จักสำนักเทพกระบี่หรือไม่" หวังปี้ถาม
"ทางนู้นแน่ะ พ้นนาของข้าไปก็ถึงแล้ว" ชายชราที่ทำนาอยู่ตอบ
ในที่สุดก็มาถึงสำนักเทพกระบี่ เป็นจวนใหญ่ดูโอ่อ่านัก
ทว่ากลับแต่งผ้าขาวเสียโดยรอบ
ดรุณีน้อยนั่งคอตกอยู่หน้าสำนัก หวังปี้เดินเข้าไปหาแลกระทำคารวะ
(/> "แม่นาง ที่นี่ใช่สำนักเทพกระบี่หรือไม่"
"ใช่แล้ว" นางตอบห้วน ๆ
"ข้ามาเพื่อแสวงหาเทพกระบี่หลิวปิง"
"ข้าทราบ ทุกผู้ที่มาที่นี่ล้วนแสวงหาความรู้ของบิดา" นางตอบ "ทว่าท่านมิเห็นหรือ ผ้าขาวไว้ทุกข์ยังมิได้เก็บเลย บิดาข้าถึงแก่กรรมแล้ว พึ่งทำพิธีฝังศพเสียเมื่อวานนี้เอง เหล่าศิษย์ของท่านต่างก็แยกย้ายกลับภูมิลำเนาหมดสิ้น"
"ข้าเสียใจด้วย แม่นาง" หวังปี้น้อมศีรษะ "ข้ามิรู้ว่าบิดาท่านมีอันเป็นไป แลไม่ทราบว่าสำนักไว้อาลัยให้แก่ผู้ใด"
"สำนักใดกันเล่า" นางถามเศร้า ๆ "ไม่มีเทพกระบี่ ย่อมไม่มีสำนักเทพกระบี่"
"แล้วตัวท่านเล่า" หวังปี้ถาม
ดรุณีน้อยผงะ "ข้าหรือ........ข้า............ข้าเป็นเพียงบุตรสาวเทพกระบี่ หาใช่ตัวเทพกระบี่ไม่ ข้ามิคู่ควรสืบทอดสำนักดอก"
"แต่ข้าเห็นท่านมีกระบี่" หวังปี้ชี้ไปที่กระบี่เก่าปอนในฝักซอมซ่อที่นางพกแนบกาย "แลแม่นางยังมีหยาดเหงื่อบนใบหน้า ข้าเล็งเห็นว่าท่านเพิ่งฝึกกระบี่มาใช่หรือไม่"
"ท่านสายตาเฉียบคมนัก" นางว่า "มาเถิด ท่านอุตส่าห์เดินทางมาไกล รองเท้าแลขากางเกงสึกหรอนัก หากข้าไม่ต้อนรับย่อมนับว่าเป็นเจ้าบ้านที่เลวทรามนัก"
นางฉวยคว้ากระบี่ที่ข้างกายแล้วเดินนำพาหวังปี้เข้าในสำนัก มันอดสังเกตไม่ได้ว่าท่าทีของนางยามจับถือกระบี่นั่นมั่นคงเข้มแข็งนักแม้นว่ายามปกตินางจะดูเป็นเพียงดรุณีน้อยที่อ่อนหวานแลเศร้าสร้อย
"ขออภัยเถิด แม่นาง ข้ายังมิทราบชื่อของท่านเลย" หวังปี้บอกเมื่อนางยกน้ำชามารินให้
"หลิวอัง ธิดาเทพกระบี่หลิวปิง" นางตอบ "แล้วท่านเล่า"
"หวังปี้ นามกำเนิดว่าหวังอี้ บิดาข้าเคยเป็นนายอำเภอรับใช้ราชสำนัก ทว่าท่านถูกโจรร้ายนามหวังฟันเจ้าฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด บัดนี้โจรนั้นยึดครองเมืองแลย่ำยีผู้คนตามอำเภอใจ"
"ท่านจึงคิดมาร่ำเรียนวิชากับบิดา เพื่อล้างแค้นหวังฟันเจ้าผู้นี้เช่นนั้นหรือ"
"หามิได้" หวังปี้บอก "แม่นางหลิวอัง ท่านเคยได้ยินชื่อธิดาบุปผาเซียวเฟยซิงหรือไม่"
"ย่อมเคย ชื่อของนางกระเดื่องเลื่องลือนัก หลายคนยกย่องว่าฝีมือทัดเทียมบิดาข้าทั้งที่นางยังเยาว์วัยนัก อายุอ่อนกว่าตัวข้าเสียอีก" หลิวอังตอบ "ท่านเอ่ยถึงนางทำไมเล่า"
"เซียวเฟยซิงพ่ายแพ้ต่อหวังฟันเจ้าแทบเอาชีวิตไม่รอด" หวังปี้บอก "ข้าประสงค์รวบรวมเหล่าผู้กล้า ช่วยกันพิทักษ์คุณธรรม ร่วมกันปราบโจรร้ายผู้นี้ให้สิ้นซาก"
นางก้มหน้า "หากบิดายังอยู่ คงยินดีและเต็มใจช่วยท่านเป็นแน่ ท่านชอบพิทักษ์ธรรมนัก อีกยังพยายามแสวงหาคู่มือที่สู้กับท่านได้สมน้ำสมเนื้อ หากได้ยินว่ามีมารร้ายเอาชนะธิดาบุปผาได้ ท่านต้องคว้ากระบี่ออกไปสู้ด้วยตัวท่านเองเป็นแน่"
"บิดาท่านคงเป็นยอดบุรุษเป็นแน่แท้" หวังปี้บอก
"บิดาเป็นยอดบุรุษ" นางตอบ "แลข้าเป็นมิได้เพียงหนึ่งในสิบของท่าน"
"ไยแม่นางพูดจาดูถูกตนเองเช่นนั้นเล่า" หวังปี้ถาม "ยามเดินเข้ามา ท่าทางท่านกุมกระบี่ดูทะมัดทะแมงนัก ท่านต้องเป็นมือกระบี่เยี่ยมยุทธไม่ต่างจากบิดาเป็นแน่"
"มิมีผู้ใดเคยกล่าวเช่นนั้นกับข้ามาก่อน......." นางกระพริบตา ดูประหลาดใจแลตื้นตันนักทว่าเพียงครู่เดียวกลับหดหู่ลงอีกครั้ง "ทว่าท่านหาได้รู้อะไรเรื่องกระบี่ไม่ จะรู้เรื่องข้าแลฝีมือกระบี่ได้เยี่ยงไรเล่า"
หวังปี้ลุกขึ้นยืน ร่ายข้อความที่มันจำได้จากตำราที่เฒ่าลามกเคยให้มันอ่าน "ร้อยวันฝึกดาบ พันวันฝึกหอก หมื่นวันฝึกกระบี่ แต่หากหวังเชี่ยวชาญเพลงกระบี่ต้องฝึกฝนชั่วชีวิต แม่นางหลิวอัง ตัวข้าแม้นมิเคยฝึกกระบี่ก็มีความนับถือเป็นล้นพ้นแก่ผู้ที่อุทิศชีวิตฝึกฝนกระบี่"
หลิวอังก้มหน้าซ่อนใบหน้าที่แดงฉาน โชคดีนักที่หวังปี้มิได้หันกลับไปมอง
"แม่นางหลิวอัง โปรดช่วยเหลือข้าเถิด"
นางลุกขึ้นยืน หยิบกระบี่ที่วางลงข้างกายขึ้นมา อีกครั้งที่หวังปี้สัมผัสได้ว่านางเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคน
"ศิษย์บิดาข้าล้วนจากไปหมดสิ้น สำนักเทพกระบี่ไม่มีแล้ว ข้าจะออกท่องยุทธภพ ฝึกฝนฝีมือ จนกว่าผู้คนจะกล่าวขวัญถึงข้าว่าเป็นเทพกระบี่ หาใช่เพียงธิดาเทพกระบี่ไม่" รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้านาง "หวังปี้ ประมือกับข้าเถิด"
"แม่นาง........."
"หากท่านชนะ ข้าจะเดินทางไปกับท่าน จะช่วยท่านอย่างสุดความสามารถปราบโจรชั่วที่สังหารบิดาท่าน ท่านจะตกลงหรือไม่"
หวังปี้ลังเล มันสัมผัสได้ว่าดรุณีน้อยตรงหน้าไม่ใช่คนที่มันจะเอาชนะได้ง่าย ๆ เช่นขอทานเฒ่า
"หวังปี้ฝีมือน้อยนัก แม่นางโปรดออมมือ"
หลิวอังหัวเราะเสียงใสดุจระฆังแก้วกังวาน "ชาวยุทธหาได้รู้จักคำว่าออมมือไม่ ยามประมือล้วนแล้วแต่สู้จนสุดฝีมือ ข้าอยากจะรู้ว่าฝีมือผู้ที่ข้าอาจร่วมทางด้วยจะเป็นเยี่ยงไร"
นางไม่พูดต่อ กระชากกระบี่เล่มเก่าโทรมออกจากฝัก
เพล้ง!!!! หวังอี้ปัดป้องทันเวลาพอดี หากช้ากว่านี้เพียงชั่วครู่กระบี่นั้นคงแทงทะลุอกของมันแล้ว
ใช่ หลิวอังไม่ได้ออมมือกับมันจริง ๆ!
สามกระบี่ทิ่มแทงจากซ้าย หกกระบี่ทิ่มแทงจากขวาแลอีกหนึ่งท่วงท่าคล้ายว่าจะพุ่งลงมาจากด้านบน ทั้งสิบกระบวนท่าราวกับจะจู่โจมในเสี้ยววินาทีเดียวกัน หวังอี้ตาลีตาเหลือกปัดป้อง
นี่นางไม่เชื่อมั่นในฝีมือตนเอง มองว่าตนเองอ่อนด้อย ทว่ากลับแข็งแกร่งเพียงนี้เชียวหรือ!?!
เพียงสิบสองกระบวนท่าหวังปี้ก็ถอยกรูด หอบตัวโยน รู้สึกราวกับรอดตายเฉียดฉิวสักสิบครั้งแล้ว
"ตลอดชีวิตข้าทุ่มเทให้กับกระบี่" นางรำพึง "ความหวังเดียวคือเป็นเทพกระบี่เช่นบิดา ทว่าข้าฝึกเช่นใดก็เป็นเพียงเงา ฝึกเช่นใดก็เป็นเพียงทายาท ฝึกเท่าใดผู้คนก็บอกว่าข้าเป็นเพียงธิดาของเทพกระบี่"
หวังปี้หน้าซีด สัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่นางเผลอตัวปล่อยออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
ฝ่ามือเบิกธรณีซัดออกไปทว่านางเบี่ยงตัวหลบง่ายดายนัก กระบี่ต่อมาเฉียดลำคอมันเพียงนิด
ด้วยความยาวของกระบี่ หวังปี้มิอาจเข้าระยะใกล้แลจู่โจมนางด้วยวิชาที่มันถนัดได้เลย อย่าว่าแต่ดัชนีทิ่มถ้ำ แค่ยื่นมือออกไปจากตัวมันนิดหนึ่งก็คงถูกฟันแขนขาดแล้ว เมื่อเห็นมันไม่อาจตอบโต้นางจึงเข้าหาพร้อมเงื้อง่ากระบี่อีกครั้ง
มันซัดฝ่ามือเบิกธรณีออกไปอีกฝ่ามือหนึ่ง วิชานี้นั้นมีลักษณะพิเศษคือแฝงเร้นด้วยลมปราณหมุนวน ที่ถึงแม้ศตรูจะหลบหลีกหรือปัดป้องพลังหลักของฝ่ามือได้ แต่พลังแฝงนี้ก็ยังพุ่งตรงไปฉีกทึ้งจนเสื้อผ้าอาภรณ์ขาดออกจากกายจนหมดสิ้นอยู่ดี หวังปี้หวังว่าเมื่อนางสูญเสียเสื้อผ้าจะเกิดอาการเขินอายเปิดโอกาสให้มันคว้าชัยได้ ฝ่ามือที่แล้วนั้นมันใช้ตอนนางยังอยู่ไกลนัก จึงไม่อาจฉีกทึ้งเสื้อผ้านางได้ตามที่มันหวัง แต่ครั้งนี้มันรอจนนางเคลื่อนเข้าโจมจ้วงแทงใส่มันแล้วจึงซัดฝ่ามือ
ทว่าหลิวอังวาดกระบี่ทีเดียวก็ทลายไม่ใช่แค่พลังหลักแต่ลมปราณแฝงเร้นในฝ่ามือจนหมดสิ้น เสื้อผ้าของนางไม่แม้แต่เกิดรอยยับ
"วิทยายุทธ์นั้นแบ่งได้หลัก ๆ เป็นสองประเภท คือวิชามือเปล่าแลวิชาอาวุธ วิชาอาวุธนั้นได้เปรียบด้วยความยาวของอาวุธ ทว่ากลับมีจุดอ่อน ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใดสุดท้ายอาวุธย่อมเป็นเพียงไม้ ศิลาแลโลหะ ความแกร่งของมันก็ได้เพียงความแกร่งของไม้ ศิลาแลโลหะ ทว่ากายเนื้อของมนุษย์แข็งแกร่งได้ไม่มีขีดจำกัด ขอเพียงเจ้าฝึกฝนให้จงหนักแลชาญฉลาดในการต่อสู้"
คำสอนนี้ใช้ได้ดียิ่งยามสู้กับขอทานเฒ่า ทว่ากับหลิวอังกระบี่ของนางเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของร่างกายนาง ปัดป้องกระบี่ทีหนึ่งมันไม่ได้รู้สึกเหมือนปัดป้องโลหะเลย กลับเหมือนเป็นพลังลมปราณที่แกร่งกล้าแลบริสุทธิ์เข้มแข็งนักเข้าปะทะกับตัวมัน
หลิวอังรุกไล่ฝ่ายเดียวอีกห้ากระบวนท่า ทำเอาหวังปี้เหนื่อยหอบเหงื่อโทรมกาย หากยังเป็นแบบนี้มันต้องแพ้แน่ แต่จะแพ้เร็วแค่ไหนและแพ้ยับเยินแค่ไหน
"ไม่มีทางเลือก ข้าคงต้องใช้อาวุธแล้วสินะ" หวังอี้รำพึง
หลิวอังโถมเข้ามาอีกหนึ่งเพลงกระบี่ ทว่าหวังอี้ถือโอกาสใช้ฝ่ามือเบิกธรณีซัดจนนางถอยไปได้ เมื่อแยกจากนางได้มันก็รีบแก้กางเกงลง หลับตาครู่หนึ่งคิดถึงไช่อี้เหนียงแลเซียวเฟยซิง
แท่งทวนเนื้อของมันกลับขยายตัวแข็งใหญ่
"กรี๊ดดดดดดด หวังปี้ ท่านทำอันใด" หลิวอังร้อง ดูราวกับสติของนางจะหลุดออกจากสมาธิของมือกระบี่ไปชั่วครู่
หวังปี้ไม่ตอบ แต่ทะยานเข้าหานาง ฟาดทวนเนื้อเข้าใส่ นางยกกระบี่ขึ้นรับ เสียงทวนเนื้อกระทบกระบี่ดังลั่นก้องบริเวณ
นี่เป็นอีกหนึ่งวิชาที่เฮี๊ยงกวยหลี่สอนให้หวังปี้ ลมปราณที่ไหลเวียนในโลหิตนั้นเข้มแข็งนัก แลยามเมื่อแท่งทวนเนื้อเปี่ยมล้นด้วยเลือดที่ไหลเวียน ย่อมรองรับพลังลมปราณได้มากกว่าอวัยวะอื่นใด ใช้แทนอาวุธในยามยากได้
กระบี่กระทบปะทะทวนเนื้อสามสี่ครั้ง คราวนี้หลิวอังมิใช่ผู้รุกไล่อยู่ฝ่ายเดียวแล้ว ทวนเนื้อของหวังปี้ปาดป่ายทิ่มแทงซ้ายทีขวาที หลายครั้งจวนเจียนจะแตะต้องร่างนางได้ ทว่าหลิวอังเองก็เชี่ยวชาญเพลงกระบี่ยิ่ง ปัดป้องแลฟาดหันกลับได้รุนแรงไม่แพ้กัน
เคร้งงงงงง!!!
ผ่านไปสิบห้ากระบวนท่าหลิวอังก็ตระหนักรู้ว่าทวนเนื้อของหวังปี้อยู่ต่ำนักแลไม่สามารถยืดยาวถึงด้านบนได้ นางจึงเริ่มจู่โจมจากมุมสูงมากขึ้น ทว่าหวังปี้ก็กระโดนตีลังกาเอามือยืนต่างเท้า ทวนเนื้อฟาดใส่รุนแรงจนกระบี่แทบหลุดจากมือนางอีกทั้งยังปาดป่ายผ่านแก้มเนียนของนางไปเพียงเส้นยาแดง
ฉับ!!!!!!!
หวังปี้ดีใจได้เสี้ยววินาทีเดียวกระบี่ของนางก็ฟาดลงสุดแรงบนทวนเนื้อ เหล็กกล้าแนบชิดติดเนื้อหนังท่อนลำใหญ่ ทั้งนางและมันต่างก็โถมกำลังยุทธใส่กันสุดความสามารถ พลังลมปราณฟาดหัดใส่กันจนต้นไม้รอบลานกระลองพริ้วไหว
ฉับบบบบ
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
หลิวอังเป็นฝ่ายได้ชัย กระบี่เฉือนทะลุหนังของทวนเนื้อเข้าไป  หวังปี้ร้องโหยหวนล้มลงไปกองที่พื้น มือกุมที่ของรัก
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
กลัวแพ้ยังไง ก็ไม่กล้าใช้ของรักของหวงไปรับกระบี่อย่างนี้แน่ครับ หวังปี้ นายแน่จริงๆ
แม่นางน้อยด้อยประสบกาม ดีที่เธอไม่ถามว่าทำไมเลือดของท่านเป็นสีขาว 555
หวังปี้นายแน่มากที่กล้าใช้อาวุธลับของตัวเองต่อสู้
สุดยอดวิชา
ทวนสั้นอันตรายกว่ากระบี่อีกหรือนี่
เจอกระบี่ประจำตัวเข้าให้ เป็นอาวุธลับที่สุดยอดไปเลย
::Angry:: เอ็งใช้งานผิดประเภท
ทีหลัง หวังปี้ใช้อาวุธอย่างอื่นเถอะ เสียดายหวาดเสียว 555
เป็นวิชาที่พิสดารนัก ดีที่ไม่โดนกระบี่ฟันจนขาด
จิตใจท่านจอมยุมธ์ช่างหาญกล้า เอาตรงนนั้นไปรับกระบี่ ไม่กลัวเมียไม่ได้ใช่เลยหรือ
เหนือจิตนาการไปแล้วครับ เอาทวนเนื้อไปฟาดฟันกับกระบี่
มิได้กลัวทวนเนื้อขาดเลย ขอคารวะ
หวาดเสียวยิ่งนัก
หวาดเสียวจริงๆ เล่นเอาทวนเนื้อของหวังปี้เสียหายแน่ๆ
เอ่อ แข็งแกร่งปานนั้น สุดยอด
เจออาวุธอันนี้เข้าไป หวาดเสียวกว่าตอนลุงขอทานโดนบีบไข่อีก ::Angry::
ขอร้องละ หาอาวุธอื่นมาใช้เถอะะะะ อาวุธมีเยอะแยะไป ::Horror::
ใช้วิชา ขันที สยบ สาวน้อย ต่อ
สุดยอดครับ ฉากดวล วิทยายุทร ตื่นตาตื่นใจมากเลยครับ
อาวุธลับจะสู้กระบี่ไหวไหม
แค่อ่านตามก็เสียวแล้ว
ทวนเนื้อโดนขนาดนี้จะใช้การต่อได้ดีแค่ไหนนี่
สูญพันธุ์แน่ๆ หวังอี้ ใช้ทวนเผด็จศึก สู้กระบี่ได้หรือ
::Oops::
ไม่ใช่โดนตัดตอนไปซะแล้วนะหวังปี้
::Orz::
ขาดมั้ย เสียวแทนหวังปี้จริงๆ ::Horror::
ทวนเนื้อโลหิตเหล็กไหล
อาวุธอื่นมีถมไป แต่มาใช้แบบนี้ น่ากลัวจิงๆ
โดนเข้าไปเต็มเสียวขาด
ทวนขาดแล้วมั้งนี่
—
ทวนไม่ขาดแต่น้ำแตกแทน 555
โดดบาดจนได้ขาดไหมนั้นหวังปี้คุง
เอามาใช้ระวังหายไปเลยนะไม่มีใช้ไม่รู้ด้วย
::Horror::
หวาดเสียว
กลายเป็นขันที ตัดจบ
จะขาดเอานะหวังปี้
เดี๋ยววิชาบ้าอะไรกันนนนน ::Oops::
::Ahoo::
วิชาพิศดารมาก
ใช้ทวนเนื้อต้านกระบี่ หวังปี้ จะใจถึงไปไหน
ขอบคุณครับ
::Crying:: เสียวยิ่งนัก
เฉือนเฉยๆไม่ขาดนะ
ชั่งกล้าหาญนัก..ไม่กลัวของเสีย..อา
ป..เป็นไปได้ไหม ที่จะเรียนรู้พลังนี้....
ทวนเนื้อของหวังปี้จะถึงคราวชะตาขาด
จะขาดไหมนั่น
อ้าว แบบนี้ทวนยาว มิขาดสะบั้น กลายเป็นลี้คิมฮวง ฤิทธิ์มีดสั้นไปแล้วเหรอ ::Horror::
เนื้อปะทะกระบี่ จินตนาการล้ำลึกยิ่งนัก
ขาดมั้ยเนี่ย
คิดท่านี้ได้ยังไง ขำ
ชอบๆ ทวนเนื้อ
รอดหรือไม่55
อาวุธลับไม่เจอ เจอแต่อาวุธของลับ
อ่านต่อหน่อยคับ
ไม่หวาดเสียวก็บ้าแล้ว
คิดยังไงกล้าเอาเจ้าโลกไปรับกระบี่...หาเรื่องเป็นขันทีชัดๆ ::Sweat::
จะสู้กับกระบี่จริงได้อย่างไร
ขาด!!! งานนี้มีขาด
สู้กับอาวุธก็ต้องใช้อาวุธ ไม่งั้นเสียเปรียบแย่เลย
จอมยุทธ์ช่างเก่งนัก
สนุก ::Glad::
นึกถึงเพลง ยาลาไนก้าเลย
อาวุธแบบนี้ก็มีรึ วิชาล้ำมาก เอาไปรับกระบี่อีก
น่ากลัวมาก ถ้าขาดต่อไม่ได้แน่นอน
อาวุธแบบนี้ก็มีรึ วิชาล้ำมาก
ตอนนี้ค่อยตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย และฮามากที่พระเอกใช้ทวนส่วนตัวสู้กับกระบี่555
กลายเป็น ไอ้ด้วน ซะงั้น
เป็นทวนเลยหรอครับ ไม่ธรรมดา
เจอแต่สาวหาเรื่องตลอด เดี๋ยวก็โดนวิชาพระเอก
ทวนเนื้ออะไรอีกเนี่ยอาวุธใหม่ในสามโลก
::WooWoo::
หวังปี้จะได้ปี้กี่รอบ
ไม่มีโอกาสได้ใช้แล้ว
อย่าบอกนะว่าสูญเสียแท่งทวนรัก ถึงกับเสียของเลยนะ
::Reader::
ช่างเป็นวิชาสยิวกิ้ว ::YehYeh::
::JubuJubu:: ชอบเลยครับจอมยุทธ์ฮาเรม
เจอกระบี่ประจำตัวเข้าให้ เป็นอาวุธลับที่สุดอันตราย
ชอบ
ขาดมั้ย
มีที่ไหนจะใช้อาวุธอย่างนี้