Wayfarer Guardian เพื่อนนักเดินทาง
Chapter 4: ค่ำคืนรอบกองไฟ
By DRACULolitA
"ท่านพ่อท่านแม่จะฟื้นเมื่อไหร่"
โดโรเธียร์อดไม่ได้ที่จะถามถึงพ่อแม่ของนาง ข้าเข้าใจความรู้สึกเป็นห่วงพ่อแม่ของนางดี
(/>
"ข้าไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ของพวกเจ้าสูดก๊าซของสไลม์ไปมากน้อยแค่ไหน แต่โดยส่วนมากไม่เกินเช้านี้ก็คงฟื้นขึ้นมาเป็นปกติ"
คำอธิบายของข้าหยุดความสงสัยของเด็กน้อยได้ ไม่นานนักเธอก็เริ่มหาว แสดงอาการง่วงนอนออกมาให้เห็น
"งั้นข้าจะพาเจ้าไปนอนนะ"
โดโรธีจูงมือน้องสาวกลับเข้าไปนอนในรถข้างพ่อกับแม่ของนาง สักพักหนึ่งนางก็เดินกลับออกมาเพียงลำพัง
"แล้วเจ้าล่ะ...ยังไม่นอนหรือ"
ข้าเอ่ยถามโดโรธีเมื่อเห็นเธอยืนด้วยท่าทีกระสับกระส่าย เด็กสาวนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยอมเปิดปาก
"เอ่อ...ข้า...ปวดฉี่"
เป็นธรรมดาของการเดินทางไกลที่ต้องมีการขับถ่ายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่สำหรับเด็กสาวที่ไม่ค่อยได้เดินทางบ่อยครั้ง การทำธุระนอกห้องน้ำอาจเป็นอะไรที่ทำใจลำบากพอสมควร
"อ่อ...เจ้าจะไปตรงพุ่มไม้นั่นก็ได้ หลังต้นไม้นั่นก็ได้ แต่ไปริมน้ำก็สะดวกดีนะ จะได้ล้างทำความสะอาดได้ง่าย"
ข้าแนะนำสถานที่ปัสสาวะอย่างผู้เชี่ยวชาญ สองตัวเลือกแรกค่อนข้างไกลจากจุดที่พวกเราพักอยู่ หากไปเพียงลำพังในเวลาค่ำมืดเช่นนี้ก็ดูน่ากลัวเกินไปสำหรับเด็ก 13 ข้าจึงคาดหวังว่านางจะเลือกริมน้ำ ซึ่งใกล้กว่ามาก แถมยังเป็นจุดที่ข้าสามารถมองเห็นได้ง่ายด้วย
"งั้น...เดี๋ยวข้ามานะ"
ดูเหมือนสาวก็รู้เหมือนกันว่าข้าจะต้องเห็นนางทำธุระแน่นอน แต่สุดท้ายนางก็เลือกริมน้ำอยู่ดี
"เอ่อ...ท่านอย่าเพิ่งเข้าไปนอนนะ รอข้าก่อน"
แม้แต่คำพูดแสนเย่อหยิ่งอย่างเช่น ห้ามแอบดูนะ! หรือหันไปทางอื่นเดี๋ยวนี้! เด็กสาวก็ยังไม่กล้าเอื้อยเอ่ยออกมา นางคงพิจารณาดีแล้วว่า ให้ข้ามองอยู่ตลอดยังจะดีซะกว่าไม่มีใครคอยปกป้องคุ้มครองนางเลย โดโรธีเลือกจุดที่มีหินก้อนใหญ่ พอที่จะบังช่วงล่างของนางไม่ให้ข้าเห็น ก็ถือได้ว่าพยายามหวงแหนตัวเองได้ดีพอสมควร
(/>
"ฉี่....."
เสียงปัสสาวะของนาง ทำลายบรรยากาศอันเงียบสงบของค่ำคืน นางคงได้ยินเช่นกันและพยายามจะขยับไปริมน้ำมากขึ้น หารู้ไม่ว่ายิ่งนางฉี่ลงน้ำ เสียงปัสสาวะกระทบน้ำในแม่น้ำยิ่งจะทำให้เสียงดังขึ้น นางชะโงกหน้ามามองข้าบ่อยครั้งระหว่างที่ทำธุระอยู่ ท่าทีที่ดูลุกลี้ลุกลนของนาง ช่างดูน่ารักเหลือเกินในมุมมองของข้า หลังจากนั้นไม่นาน นางก็เดินกลับมาพร้อมด้วยสีหน้าเป็นกังวลใจ
"ท่านมาร์คัส...ดูเหมือนสไลม์จะกัดตรงนั้นของข้า ตอนฉี่เมื่อกี้ ข้ารู้สึกแสบ ๆ ตรงนั้น แล้ว...กางเกงในข้าก็มีรอยเลือดด้วย"
นางค่อย ๆ อธิบายสิ่งที่เธอปิดบังไว้อย่างเขินอาย มือที่ไขว้หลังกันอยู่เหมือนเธอพยายามซ่อนอะไรเอาไว้แต่เมื่อข้าขอดู นางก็ยอมยื่นส่งให้ด้วยดี กางเกงในตัวสีขาวของนาง แม้เด็กสาวจะเอาไปล้างน้ำบ้างแล้ว แต่ยังมีรอยเปื้อนเลือดบริเวณเป้ากางเกงอยู่เล็กน้อย แน่นอนว่ามันเกิดจากการที่ข้าเปิดซิงนางไปนั่นเอง ข้าได้แต่ทำนิ่งเฉยไว้ รู้ดีว่าสิ่งที่นางกำลังพูดถึงมันคืออะไร การได้ยินนางพูดถึงมันอย่างไร้เดียงสา ทำเอาข้าแทบจะหุบยิ้มไม่อยู่ แต่การทำแบบนั้นต่อหน้าเด็กสาวที่กำลังกังวลใจ คงจะดูเสียมารยาทไม่น้อย
"ว่าแต่บาดแผลโดนกัดที่เจ้าว่าเลือดออกนั้น อยู่บริเวณใด เจ้าพอจะบอกได้หรือไม่"
โอกาสที่ฟ้าส่งมาให้ข้าในจังหวะที่แสนเป็นใจเหลือเกิน หลังจากข้าชี้แจงให้นางสบายใจขึ้น ข้าจึงถามถึงแผลของนาง พร้อมกับสังเกตท่าทีของเด็กสาวไปด้วย
"เอ่อ...ข้าคิดว่า...เป็นด้านใน...เอ่อ...ใน..."
แม้จะเป็นท้องฟ้าในยามค่ำคืน มีเพียงแสงจากกองไฟที่อยู่เบื้องหน้า ข้าก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของนางแดงเรื่อขึ้น เวลาที่พูดถึงเรื่องนี้ แต่นั่นทำให้นางดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นอย่างน่าประหลาด นางคงพยายามอธิบายให้ละเอียดที่สุดเพื่อให้ข้าช่วยนางได้ถูกวิธี แต่ก็สงวนท่าทีไม่ให้พูดจาน่าอายจนเกินงาม
"ในหีของเจ้าสินะ"
โดโรธีสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำกล่าวเรียกอวัยวะเพศของนางแบบนั้น แม่ของนางคงจะสอนมาอย่างดีทีเดียว หลังจากหายตกใจแล้ว นางก็พยักหน้าตอบโดยไม่สบตาข้า มาถึงขั้นนี้ ข้านึกสนุกที่จะลองท้าท้ายจิตใจของนางดู ข้าพยายามโน้มน้าวให้นางรู้สึกเป็นกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ถ้าเป็นด้านนอกก็คงไม่อันตรายมาก หากได้ทายาและพักผ่อนสักหน่อยก็คงจะหายดี แต่ถ้าเป็นข้างในหีของเจ้าล่ะก็ คงจะทายาลำบาก"
"เอ่อ...แล้วใช้เวทย์รักษาได้ไหมคะ"
ข้ารู้สึกตื่นเต้นเมื่อโดโรธีพยายามคิดหาวิธีรักษาให้ข้าฟัง นางคงเป็นกังวลกับบาดแผลของนางมากทีเดียว ซึ่งถ้าโชคดี ข้าอาจมีโอกาสได้เห็นหีของนางอีกทั้ง ในแบบที่นางยังมีสติครบทุกประการ ข่าวดีนี้ทำให้ข้าดีใจจนอยากจะร้องออกมา แต่ถ้าหากทำเช่นนั้นมีหวังแผนการณ์ที่คิดมาต้องพังทลายลงหมดเป็นแน่ ข้าตั้งใจจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
"พ่อกับแม่ของเจ้ามีเวทย์รักษารึเปล่า"
เด็กสาวส่ายหัวซึ่งก็สมควรจะเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะข้าตรวจสอบมาตั้งแต่ก่อนออกเดินทางแล้ว ว่าทั้งสองคนเป็นนักรบและนักธนู ไม่มีความสามารถด้านเวทย์มนตร์เลยสักนิด
"แล้วท่านมาร์คัสล่ะ...มีเวทย์รักษาข้าได้ไหม"
เด็กสาวไม่อยากพึ่งพาพ่อแม่ของนาง แต่เลือกที่จะพึ่งพาข้า นั่นทำให้แผนของข้าสำเร็จลุล่วงไปได้ไวยิ่งขึ้น
"มีสิ...ข้าเป็นนักดาบเวทย์ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ เวทย์รักษาเบื้องต้นย่อมมีอยู่แล้ว"
"งั้น...ท่านก็ช่วยรักษาให้ข้าสิ"
คำพูดของนางยิ่งเหมือนผลักนางเข้ามาให้ข้ายิ่งขึ้น มีหรือที่ข้าจะยอมปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไป แต่เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ข้าจึงอดทนถามเด็กสาวจนกว่าจะได้คำตอบที่พึงพอใจเสียก่อน
"แต่เพื่อการรักษา เจ้าจะต้องเปิดแผลให้ข้าดูนะ เจ้าจะทำได้หรือ"
เด็กสาวชะงักไปครู่ใหญ่ เมื่อนึกขึ้นได้ว่านางจะต้องเปิดของสำคัญของนางให้ข้าดูเพื่อรับการรักษา โดโรธีชั่งใจอย่างหนักจนข้าเองก็ยังสัมผัสถึงความกดดันนั้นได้ แต่เพื่อให้เด็กสาวตัดสินใจง่ายขึ้น ข้าจึงต้องเป็นฝ่ายกระตุ้นเตือนนาง
"ข้าเข้าใจดี...เด็กสาววัยกำลังน่ารักอย่างเจ้า ต้องตายเพราะถูกสไลม์กัดก็คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ งั้นข้าขอตัวนอนล่ะนะ"
ข้าทำท่าลุกขึ้นเตรียมจะไปนอน ขณะที่ข้ากลับหลังเริ่มเดินไปสองก้าว ก็มือมือข้างหนึ่งดึงชายเสื้อของข้าไว้
"เดี๋ยวก่อน...ท่านมาร์คัส"
ทุกอย่างมันช่างลงตัวเสียจนข้าแปลกใจ นางตัดสินใจกระโจนลงมาในกับดักที่ข้าวางเอาไว้อย่างง่ายดาย
"ข้าจะเปิดแผลให้ท่านช่วยรักษา...แต่...แต่...ท่านช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้หรือไม่"
"เราไม่ควรบอกเรื่องนี้กับพ่อและแม่ของเจ้ารึ"
"ไม่...ข้าไม่อยากให้พวกท่านรู้ หากพวกท่านรู้ ข้าคงไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนอีกแน่ ๆ"
สีหน้าเป็นกังวลของนางดูจะเป็นของจริง แม้เด็กสาวจะกลัวตาย แต่เรื่องกลัวไม่ได้เที่ยวก็เป็นอีกอย่างที่น่าเป็นกังวลพอ ๆ กัน และในเมื่อเด็กสาวขอร้องมาขนาดนี้ จะให้ข้าใจร้ายไม่ดูดำดูดีได้อย่างไรกัน
"ถ้าเช่นนั้นก็ตามใจเจ้า...เรื่องนี้จะเป็นความลับของเราสองคนสินะ"
"ค่ะ...ข้าสัญญา"
โดโรธีเอื้อมนิ้วก้อยออกมาเกี่ยวนิ้วข้า เป็นเหมือนการสัญญาแบบเด็ก ๆ ที่ดูน่ารักมาก ข้าได้แต่ยิ้มให้กับความใสซื่อของนาง พร้อมกับรับปากนางว่าข้าเองก็จะไม่บอกใครเช่นกัน
"ถ้าเช่นนั้น...เรารีบรักษากันเถอะ"
ข้าแทบรอไม่ไหวแล้ว จึงขอเป็นฝ่ายออกปากเริ่มด้วยตนเอง โดโรธีนั่งบนขอนไม้ข้างกองไฟ ความสูงของขอนไม้ทำให้เด็กสาวอยู่ในสภาพนั่งถ่างขาเป็นปกติอยู่แล้ว กางเกงในถูกถอดออกไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นเมื่อเด็กสาวถกกระโปรงขึ้น จึงทำให้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของข้า มีเพียงโหนกเสียวของเด็กสาววัย 13 ที่ข้าเพิ่งเปิดซิงมาหมาด ๆ เท่านั้น มันส่งยิ้มให้ข้าด้วยกลีบเสียวที่เผยอออกเล็กน้อย แสงไฟจากกองไฟทำให้ทุกสิ่งของนางดูชัดเจนไปหมด ไม่เว้นแม้แต่ไรขนอ่อน ๆ เหนือเนินเสียวของนาง
(/>
"ข้ายังไม่เห็นแผลของเจ้าเลย เจ้าแหวกออกให้ข้าดูสักหน่อยได้หรือไม่"
ถึงแม้ในสภาพเช่นนี้จะน่าอายมากแล้ว แต่เพื่อให้นางคุ้นชินกับข้าไว ๆ ข้าจึงเลือกให้นางผ่านพ้นความเขินอายนี้ไปให้ได้โดยเร็ว เด็กสาวนิ่งไปครู่เดียว ก่อนจะเลื่อนมือลงทำตามคำขอของข้าราวกับต้องมนตร์ โดโรธีใช้นิ้วทั้งสองข้างแหวกส่วนที่เร้นลับที่สุดในร่างกายของนางให้ข้าดู กลีบเสียวของนางคลี่บานออกราวกับกลีบกุหลาบสีชมพู แต่มีคราบเลือดไหลซึมออกมา ทำให้กุหลาบของนางดูไม่สดชื่นเอาเสียเลย
"อืม...มีแผลเลือดออกจริง ๆ ด้วย แต่ไม่ใช่รอยกัดหรอกนะ"
ข้าใช้เวลาพิจารณารอยแผลของนางอย่างไม่เร่งร้อน สีหน้าและแววตาของเด็กสาวบ่งบอกความเขินอายอย่างที่สุด แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่อาจทักท้วง ไม่ให้ข้าจ้องมองของสงวนของนางได้
"น่าจะเป็นเพราะมันพยายามจะมุดเข้าไปในรูหีของเจ้ามากกว่า"
ข้าปั้นเรื่องโกหกให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่ข้าทำกับนางให้มากที่สุด และนั่นทำให้นางรู้สึกสงสัยจนอดที่จะถามข้าไม่ได้
"เอ่อ...ทำไม มันถึงต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ"
"ดูเหมือนมันพยายามจะเย็ดกับเจ้าน่ะสิ"
ในเมื่อเรื่องนี้เป็นความลับระหว่างข้ากับนาง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลว่านางจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อกับแม่หรือใครต่อใคร ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ข้าจึงตัดสินใจปั้นเรื่องที่น่าจะสานความสัมพันธ์ของข้ากับนางต่อไปได้
"อะ!...เอ๋! มะ...มะ...มัน มันจะ...เอ่อ...มันจะสมสู่กับข้าเหรอ"
โดโรธีพูดจาติด ๆ ขัด ๆ กับเรื่องแบบนี้ ช่างดูน่ารักและมีเสน่ห์จริง ๆ
"เป็นธรรมชาติของพวกสไลม์น่ะ เวลาเจอมนุษย์ที่หน้าตาน่ารัก กลิ่นกายหอม ๆ มันก็มักอยากจะเย็ดด้วย รูปร่างหน้าตาเจ้าก็น่ารักไม่เบา"
ข้าอธิบายไปจับกลีบเสียวเด็กสาวพลิกไป โดโรธีเขินอายจนแทบจะนั่งไม่ติด แต่นางก็ยังมีเรื่องค้างคาใจที่ต้องถามข้าให้ได้
"เอ่อ...แล้ว...แล้ว ถ้ามัน...ทำ...เสร็จแล้ว จะเป็นยังไงเหรอ ท่านมาร์คัส"
คำถามของนางทำให้ข้าเดาออก ว่านางเก็บซ่อนอะไรบางอย่างไว้ ไม่ยอมบอกข้า
"ถ้าเย็ดกับเจ้าเสร็จ มันก็จะปล่อยน้ำเหนียว ๆ ออกมาใส่รูหีเจ้าน่ะสิ อย่าบอกนะว่าหีของเจ้ามีน้ำเหนียว ๆ ไหลออกมาพร้อมเลือดของเจ้าด้วย"
และแล้วก็เป็นจริงอย่างที่ข้าสงสัย โดโรธีพยักหน้ายอมรับตามตรงว่านอกจากเลือดแล้ว ยังมีน้ำควยของข้าไหลปนออกมาด้วย ซึ่งข้าไม่มีทางยอมรับหรอกว่ามันเป็นของข้า
"ไอ้เจ้าสไลม์พวกนี้มันร้ายจริง ๆ ...ฮีล!"
ข้าตั้งสติเรียกใช้คาถารักษาบาดแผล พลางบ่นอุบโยนความผิดให้สไลม์รับเคราะห์ไป บาดแผลที่เยื่อพรมจรรย์ของเธอค่อย ๆ ผสานกันทีละน้อย ๆ โดยที่เด็กสาวไม่ทันรู้ตัว มันก็หายสนิท ไม่ทิ้งบาดแผลใด ๆ ให้เธอต้องเจ็บปวดกับมันอีก และรูหีที่ถูกข้าทะลวงจนกว้างแล้วนั้น จากนี้ไปมันจะพร้อมต้อนรับการมาเยือนของข้าอย่างเต็มใจโดยไม่ทำให้เด็กสาวต้องเจ็บปวดด้วย
"บาดแผลของเจ้าได้รับการรักษาแล้ว แต่ข้าไม่แน่ใจว่าน้ำควยของสไลม์ยังคงเหลือในหีของเจ้ารึเปล่า มันอาจมีเชื้อโรคและทำให้เจ้าป่วยได้"
สีหน้าเป็นกังวลของเด็กสาว เข้าทางแผนการของข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"แล้ว...จะทำอย่างไรดี ท่านมาร์คัส"
ข้ารวบรวมพลังเวทย์ไว้ที่ปลายนิ้วกลางจนเกิดเป็นแสงขึ้นมา แสดงให้นางดู
(/>
"มันอาจทำให้เจ้าอึดอัดนิดหน่อย แต่ข้าจำเป็นต้องสอดนิ้วเข้าไปฆ่าเชื้อโรคภายในหีให้กับเจ้า ถ้าเจ้าไม่ยินยอม ข้าก็จะไม่ทำ"
ข้าตัดสินใจวัดใจของโดโรธีว่า จะยอมให้ข้ารักษาด้วยวิธีนี้หรือไม่ แต่เนื่องด้วยไม่มีทางเลือกอื่นให้นางเลือก ทางที่ข้ากำหนดจึงเป็นตัวเลือกเดียวของนางในตอนนี้
"ยินยอมสิ ไม่งั้นจะหายได้ยังไงกันล่ะ"
ดูเหมือนโดโรธีจะยังใสซื่อ จนไม่รู้ว่าสิ่งที่ข้าพูดถึงนั้นคืออะไร เมื่อได้รับความยินยอมจากเด็กสาวแล้ว ข้าจึงเริ่มด้วยการปรับเปลี่ยนพลังเวทย์ที่ปลายนิ้วของข้า ให้เป็นเวทย์สายฟ้าอย่างอ่อน ๆ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการรักษาเลย ก่อนจะแตะลงบนเนินเสียวโดโรธีแล้วไล่ลงมายังจุดสำคัญของนางอย่างช้า ๆ
"อาาา...ท่านมาร์คัส ช้า ๆ หน่อย ข้ารู้สึกแปลก ๆ"
กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ที่ข้าส่งไปยังติ่งเสียวของเด็กสาว น่าจะทำให้นางตกใจพอสมควร ข้าจึงค่อย ๆ คลึงปลายติ่งเสียวของนางเบา ๆ และปลอบใจนางไม่ให้รู้สึกหวาดกลัวสัมผัสนี้
"ข้าเตือนเจ้าแล้วนี่... ว่าแต่เจ้ายังต้องการให้ข้ารักษาอีกหรือไม่"
"อา...ค่ะ ต้องการค่ะ"
คำพูดที่เด็กสาวเอ่ยราวกับปรารถนาที่จะรับสัมผัสเสียวจากข้า ทำเอาข้าเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ข้าจึงสัมผัสติ่งเสียวของนางอย่างละมุนละไม เสียงลมหายใจของนางค่อย ๆ ดังขึ้นโดยที่นางไม่รู้สึกตัว
"เนื่องจากเป็นจุดที่อ่อนไหวของเจ้า ข้าจึงจำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีนี้ เจ้าทนไหวหรือไม่"
"อา...ดะ...ได้...ข้าทนไหว...อา...อีกนานไหม...อาาา"
ข้าไม่ทันได้ตอบคำถามนางเพราะมัวเพ่งสมาธิไปที่ติ่งเสียวของเด็กสาว กระแสไฟฟ้าที่พอเหมาะ จะกระตุ้นติ่งเสียวของนางให้ไวต่อการสัมผัสมากยิ่งขึ้น และพร้อมกันนั้นก็เปลี่ยนความเสียวซ่านที่ได้รับให้เป็นความสุขแบบที่นางพึงพอใจ ไม่นานนักติ่งเสียวของโดโรธีก็มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น มันค่อย ๆ โตขึ้นจนกลีบเสียวไม่อาจปกปิดมันเอาไว้ได้ มันตั้งยอดแหลม ๆ เล็ก ๆ ทะลุกลีบเสียวออกมา จนกระทั่งแม้ข้ายกนิ้วออกจากจุดนั้นแล้ว มันก็ยังคงปรากฏให้ข้าเป็นอย่างเปิดเผย เห็นแบบนี้แล้วใครจะทนไหว ข้าจึงทดลองใช้นิ้วอื่นที่ไม่มีพลังเวทย์สัมผัสมันอีกครั้ง
"อา...ท่านมาร์คัส ข้า...ข้าไม่รู้สึกเจ็บแล้ว...อาาา"
ผลเป็นไปอย่างที่ข้าต้องการ เด็กสาวเริ่มคุ้นชินกับความเสียวซ่านในระดับนี้ แถมยังไม่มีอาการต่อต้านข้าเลยแม้แต่น้อย
"ถ้าเช่นนั้น...ข้าจะเริ่มรักษาภายในแล้วนะ"
เด็กสาวพยักหน้าก่อนจะหลับตาปี๋ หลีกหนีสิ่งที่นางไม่อยากจะเห็น ข้าใช้นิ้วกลางที่รวบรวมพลังเวทย์เอาไว้ สอดใส่เข้าไปในร่องเสียวโดโรธีอย่างไม่รีบร้อน โพรงสวาทที่เคยต้อนรับข้ามาแล้วครั้งหนึ่ง และในครั้งนี้มันก็ยังคงตอดรับการมาเยือนของข้าอย่างอ่อนละมุนเช่นเคย
"อา...ท่านมาร์คัส ฮือ....อา..."
ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวผู้เย่อหยิ่ง ภายนอกดูแข็งกระด้าง แต่เมื่อโดนล้วงรูเสียวแล้ว นางก็อ่อนระทวยราวกับลูกแมวน้อยเลยทีเดียว เห็นดังนั้น ข้ากลัวนางจะหงายหลังไปซะก่อน จึงขยับตัวอ้อมไปด้านหลังนาง พยุงนางขึ้นนั่งบนตักของข้า โดยกระบวนการทั้งหมดนี้ ข้ายังคงแช่นิ้วเอาไว้ในร่องเสียวของนางตลอดเวลา
"เจ้ารู้สึกเจ็บ หรือว่ารู้สึกเสียว ถ้าเจ้าเจ็บข้าจะหยุดรักษาเจ้านะ ข้าไม่อยากทำให้เจ้าเจ็บ"
ข้ากระซิบข้างหูนาง เสนอทางเลือกให้เด็กสาววัย 13 ตอบ เป็นอีกครั้งที่ทางเลือกของข้าแทบจะกำหนดคำตอบเอาไว้แล้ว
"อา...เสียวค่ะ...ท่านมาร์คัส ข้าไม่ได้เจ็บ...อา...ข้าแค่รู้สึกเสียว รักษาข้าต่อเถอะ...อา...ข้าทนได้"
คำตอบที่แสนน่ารักของนางทำเอาใจของข้าแทบละลาย นางยังเอามือทั้งสองข้างกอดแขนข้าเอาไว้ด้วย ทุกความรู้สึกของนางถูกระบายออกด้วยการกำแขนเสื้อของข้าอย่างแผ่วเบา ข้าเอามือที่ว่างอยู่ลูบหัวนางด้วยความเอ็นดู พร้อมไปกับดำเนินการรักษา ด้วยการล้วงร่องเสียวของนางเข้าออกด้วยจังหวะเริ่มต้นที่ช้า ๆ แต่แม่นยำ เสียงครางของนางบวกกับจังหวะการขมิบร่องเสียวและการกอดแขนของข้า ช่วยให้ข้าค้นหาจุดเสียวที่ซ่อนอยู่ในโพรงสวาทของเธอได้ในเวลาไม่นาน ข้าเอานิ้วคว้านบริเวณนั้นจนแน่ใจว่าเป็นจุดที่เธอโปรดปรานแล้วจริง ๆ จึงเริ่มใช้พลังเวทย์สายฟ้าแบบอ่อน ๆ จู่โจมใส่จุดนั้นของนางอย่างแผ่วเบา เช่นเดียวกับที่ข้าทำกับติ่งเสียวของนาง
"อ๊า...ท่านมาร์คัส...อา...ร่างกายข้า...ทำไม...อา..อา...ทำไมถึงได้...อือ..."
โดโรธีราวกับตกอยู่ในภวังค์ ร่างกายเธอไร้เรี่ยวแรงจนต้องเอนตัวพิงกับข้า แต่ยังคงแหกขาให้ข้าล้วงหีของนางอย่างไร้ทางขัดขืน นั่นทำให้งานของข้าไปได้สวย ในที่สุดจุดเสียวในโพรงสวาทของนางก็ถูกข้ากระตุ้นจนยากที่นางจะปฏิเสธได้ ข้าหยุดการใช้คาถาแล้วลองเอานิ้วคลึงที่จุดเสียวของนาง เด็กสาวก็ยังคงมีอาการอ่อนระทวยและเหม่อลอย ราวกับตุ๊กตาแสนน่ารักตัวหนึ่ง
"อา...อา...อา..."
โดโรธีไม่มีอะไรจะพูดกับข้าแล้ว นางได้แต่ร้องครางในลำคอราวกับหญิงสาวที่กำลังเสียวซ่านกับคู่รักของนาง ใบหน้าของนางแดงซ่าน เลือดในกายสูบฉีดจนร้อนรุ่มไปหมด ร่องเสียวของเด็กสาวชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำที่นางกลั่นออกมาเอง มันช่วยให้งานของข้าสะดวกราบรื่นยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเห็นว่านางกำลังเพลิดเพลินกับสัมผัสที่ข้ามอบให้ถึงเพียงนี้ ข้าจึงอยากมอบรางวัลให้กับความน่ารักของนางด้วยการเพิ่มนิ้วนางเข้าไปอีกนิ้ว โดยไม่บอกให้นางรู้ตัวก่อนล่วงหน้า ทีแรกข้านึกว่าเด็กสาวจะตกใจจนอาจจะได้สติขึ้นมาก็เป็นได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
"ฮือ...ท่านมาร์คัส...อา...ข้า...รู้สึกอึดอัดเหลือเกิน..."
เด็กสาวกล่าวอย่างเลื่อนลอย ดูเหมือนนางจะยังพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้าง
"ให้ข้าหยุดไหม"
"อา...ไม่นะ...ท่านมาร์คัส...ทำต่อเถอะ เอ่อ...ข้าหมายถึงรักษาต่อน่ะ อา..."
คำพูดของเด็กสาวดูเหมือนนางจะไม่สนแล้วว่าข้าได้จัดการกับสไลม์ให้นางหรือยัง นางกำลังสนใจสิ่งที่ข้าสรรค์สร้างให้นางมากกว่า
"เจ้ารู้สึกดีใช่ไหม"
"อา...ข้ารู้สึกดีค่ะ...ท่านมาร์คัส"
เด็กสาวเอ่ยปากยอมรับความรู้สึกนั้นด้วยตัวนางเอง ฟังแล้วก็อดชื่นใจไม่ได้
"ถ้าเช่นนั้น...ข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดียิ่งกว่านี้อีก"
มือข้างที่ว่างงานเลื่อนไปจับหน้าอกข้างหนึ่งของนางบีบขยำ ส่วนมือที่ดูแลร่องเสียวของนางอยู่ก็เริ่มรุกเข้าใส่ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น
"อ๊ะ!...อ๊ะ!...อ๊ะ!..."
เสียงร้องครางของนางดังขึ้นกว่าเก่า ดูเหมือนนางเริ่มจะอดกลั้นความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ไหวแล้ว สองนิ้วของข้าล้วงโพรงสวาทของนางไปทั่ว นางก็ตอบสนองด้วยการขมิบตอดนิ้วของข้าไม่มียั้งเช่นเดียวกัน ร่องสวาทของนางชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ จากโพรงสวาทของนางเอง อารมณ์ใคร่ของนางในตอนนี้ แทบไม่ต่างจากหญิงที่เติบโตเต็มที่แล้ว
"อา...ท่านมาร์คัส...ท่านมาร์คัส ข้ารู้สึกแปลก ๆ ...อา...อา..."
จากที่เคยไร้เรี่ยวแรง ในที่สุดนางก็เริ่มตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตนเอง ซึ่งข้ารู้ดีว่าสัญญานเตือนนี้หมายถึงอะไร แทนที่ข้าจะหยุดเมื่อเด็กสาวเริ่มตระหนก ข้ากลับล้วงร่องเสียวของนางให้เร็วขึ้นถี่ขึ้น ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ข้ามี
(/>
"อ๊า!...อ๊า!...อ๊า!....ท่านมาร์คาสสสสส!"
เด็กสาวร้องจนสุดเสียง วินาทีนั้นเองร่องเสียวของนางก็พรั่งพรูความรู้สึกออกมาเป็นสายน้ำ แรงขับของนางส่งผลให้กองไฟที่ใกล้จะมอดลงแล้ว ลุกโชนขึ้นมาได้อีก โดโรธียังคงร่อนสะโพกอย่างควบคุมไม่ได้ หยาดน้ำแห่งความสุขของนางพวยพุ่งออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า ข้าจึงถอนนิ้วออกจากร่องเสียวนาง ปล่อยให้เด็กสาวปลดปล่อยสิ่งที่เธออัดอั้นออกมาให้เต็มที่
"อา...ท่านมาร์คัส..."
เด็กสาวอ่อนแรงลงอีกครั้งเอนตัวทิ้งน้ำหนักซบข้าอย่างคนไร้กำลัง ลมหายใจรวยรินที่ดูเหมือนคนใกล้ตาย แต่ยังคงมีรอยยิ้มเปี่ยมสุขราวกับเพิ่งผ่านเหตุการณ์ชีวิตที่สุดวิเศษมา ข้าอดไม่ได้ที่เห็นนางถึงสวรรค์ด้วยมือของข้าเองเช่นนี้ จึงก้มลงจูบปากเธออย่างแผ่วเบา แม้เด็กสาวจะยังไม่รู้วิธีโต้ตอบจูบของข้า แต่นางก็ไม่ได้มีอาการต่อต้านใด ๆ ข้าปล่อยให้นางนอนพักในอ้อมกอดของข้าต่ออีกพักใหญ่ ระหว่างนั้นก็เหม่อมองหยาดน้ำที่นางปล่อยออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ
"โดโรธี...เจ้าช่างน่ารักเหลือเกิน"
แม้ข้าจะเคยเย็ดกับเด็กวัยเดียวกับโดโรธีมาแล้วหลายต่อหลายคน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามีโอกาสล่วงเกินเด็กสาวในขณะที่นางยังมีสติครบถ้วนสมบูรณ์ แววตาของเด็กสาวยามสุขสมกับสวรรค์ของนาง ช่างงดงามราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ซึ่งข้าไม่มีโอกาสได้เห็นจากการลักหลับที่ผ่านมา ข้าได้แต่ยอมรับความจริงข้อนั้นอย่างเงียบ ๆ
ดูเหมือนคนเก่งของข้าจะเหนื่อยอ่อนเต็มที ข้าจึงอาสาอุ้มนางไปส่งในรถม้า ข้าวางโดโรธีลงข้าง ๆ น้องสาวของนาง ที่ตอนนี้หลับสนิทเช่นเดียวกันกับพ่อแม่ของพวกนาง
"ราตรีสวัสดิ์นะ...คนเก่ง"
ข้ากระซิบข้างหูนางเบา ๆ ก่อนจะหอมแก้มนางอีกครั้งเพื่อส่งนางเข้านอน จากนั้นข้าจึงกลับออกมาข้างนอกพร้อมกับที่นอนสำรองของข้า ปล่อยให้โดโรธีได้นอนหลับฝันหวานในค่ำคืนนี้ต่อไป
ลีลาโจรเฒ่า
โดโรธีโดนนิ้วพิคาดของมาร์คัส ::DookDig:: ::Ahoo::
แหมๆ ไม่ได้สอดทายาข้างใน เสียดาย
::Beggar::