จะสมหวังได้ยังไง ใจแข็งจริงๆ
ขอบคุณครับ

พี่อุษาเข้าร่วมกิจกรรมเลย

อดอยากมานานแล้ว

ลุย

พี่นวยก็ไม่เห็นใจผีสาวซิงอย่างอุษาเลย ยังไม่ทันได้ออกเรือนก็มาชิงตายไปก่อน พี่นวยยังมาเล่นบทรักต่อหน้าต่อตาอีก ไม่เห็นใจกันเลย ลองเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับอุษาหน่อยเถอะ ซักครั้งจะไม่ลืมพระคุณเลย

อุษาแอบดูอยู่ อาจจะมี 3รุม1 ก็เป็นได้

เปิดรับสมาชิกใหม่ แต่ยังเจอพวกมักง่ายที่เป็นทั้งคนเก่าคนใหม่ บางคนมันรีพลาย์เนื้อหาเกือบทั้งไปวางที่คอมเมนต์ นอกเหนือจากพวกที่ชอบใช้ข้อความซ้ำๆกัน "เนื้อเรื่องน่าสนใจ ขอติดตาม" "เนื้อหาน่าอ่าน ขอตามต่อ" ไม่รวมพวกที่โคตรจะมักง่าย ที่ใช้ตัวอีโม หรือคำว่า "ขอบคุณ"

บ่นให้อ่านกันเฉยๆครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนถึงวันนี้อำนวยนั้นช่วยงานหลวงพี่มาได้4ปีเศษ ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นไม่มีปัญหาอะไร วิญญาณที่ร้ายๆหลอกหลอนหรือรบกวนผู้คน อำนวยจัดการได้หมดอย่างง่ายดายนอกเหนือจากที่หลวงพี่บอกยังมีพวกที่ตนเองไปเจอระหว่างระหว่างที่ไปส่งของตามต่างจังหวัดที่มีผีมาหลอกทั้งในที่พักหรือระหว่างทางอำนวยจัดการได้หมด มีแต่รายของอุษาเท่านั้นที่จัดการอย่างยากลำบาก ครั้งนี้อำนวยนั้นเจอผีที่มีฤทธิ์เดชอย่างมากที่ตนเองไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต กรณีของอุษานั้นมีอยู่วันหนึ่งหลวงพี่ได้โทรศัพท์ให้อำนวยมาพบที่สำนักสงฆ์  พออำนวยไปถึงหลวงพี่ได้เล่าให้อำนวยฟังว่า คุณหมอที่เป็นคนถวายที่ดินและสร้างสำนักสงฆ์นี้ ได้พาเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจหญิงหม้ายมีชื่อเสียงในวงการไฮโซมาขอคำปรึกษาเพราะไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใคร และมีความเชื่อว่าหลวงพี่นั้นธุดงค์ในป่าลึกมาตลอดคงจะมีอะไรที่พอจะชี้แนะให้บ้าง

นักธุรกิจหญิงคนนั้นได้เล่าให้หลวงพี่ฟังว่าตัวของนักธุรกิจคนนี้และลูกชายที่กำลังจะแต่งงานกับแฟนสาวในอีกไม่กี่เดือนได้ถูกวิญญาณร้ายที่เป็นผู้หญิงตามมารังควาน โดยไม่รู้สาเหตุ วิญญาณดวงนี้ได้ขู่อาฆาตตนต่างๆนานา ที่ผ่านมาได้เชิญหมอผีมากำจัดผีสาวตนนี้หลายคนแต่ไม่เป็นผล หมอผีโดนผีหลอกจนเสียผู้เสียคนไปทุกรายแต่ยังดีที่ผีตนนั้นเข้าไปในบ้านตัวเองไม่ได้ คงเพราะเจ้าที่ในศาลพระภูมิที่สามารถสกัดกั้นให้วิญญาณร้ายของหญิงสาวเข้าไปในบ้านไม่ได้ แต่ผีตนนี้ยังหาทางรังควานเธอกับลูกชายตลอด จนเธอมารู้เรื่องของสำนักสงฆ์แห่งนี้จากหมอเพื่อนของเธอ ทำให้เธอที่ไม่รู้จะหันไปขอความช่วยเหลือจากใครแล้วจึงมาขอคำปรึกษากับเพื่อน หมอจึงพาเธอมาขอคำปรึกษาจากหลวงพี่ ซึ่งหลวงพี่เองก็รับฟังและให้คำแนะนำไปว่าให้แผ่เมตตาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณของผีสาวตนนี้ แล้วมันจะดีขึ้นเองหลังจากที่นักธุรกิจได้กลับไป หลวงพี่ได้นั่งทางในเลยทำให้รู้ว่าดวงวิญญาณนี้ร้ายกาจและมีอิทธิฤทธิ์อย่างมาก หลวงพี่จึงเรียกอำนวยมาพบ

"หลวงพี่ดูแล้วงานนี้หนักมากนะ อำนวยเอาไพลดำไปด้วย เพราะวิญญาณดวงนี้มีอิทธิฤทธิ์เยอะ แถมยังมีอาคมสูงด้วย "

อำนวยทำตามที่หลวงพี่บอก และคืนนั้นในที่รกร้างแห่งหนึ่งไม่ห่างจากบ้านนักธุรกิจคนนั้น อำนวยได้เผชิญหน้ากับดวงวิญญาณของอุษาและเป็นไปอย่างที่หลวงพี่บอก มันไม่ง่ายเหมือนทุกครั้ง เพราะเธอนั้นสามารถแก้คาถาของอำนวยได้ตลอดแถมยังปล่อยคาถาใส่อำนวยเป็นการโต้ตอบซึ่งอำนวยก็แก้ได้เช่นเดียวกัน จนอำนวยต้องใช้ไพลดำเอามาสะกดวิญญาณเธอซึ่งมันได้ผล ดวงวิญญาณของอุษานั้นต้านฤทธิ์ของไพลดำไม่ได้ อำนวยนั้นสะกดดวงวิญญาณของเธอแล้วนำมามอบให้หลวงพี่เหมือนทุกครั้ง แต่พอมาถึงสำนักสงฆ์หลวงพี่กลับบอกกับอำนวยว่า

"ดวงวิญญาณนี้อำนวยเอาไปดูแลแล้วกัน เอาไว้ที่นี่ไม่ได้มันจะยุ่ง"

"อ้าวหลวงพี่แล้วจะให้ผมทำยังไงละครับ"

อำนวยถามกลับด้วยความประหลาดใจ

"ไม่ต้องกังวล เอาดวงวิญญาณเขาไปกักไว้ในสิ่งของอะไรก็ได้แล้วให้ใช้ไพลดำสะกดวิญญาณไว้ หลวงพี่จะคอยแผ่เมตตาไปให้สีกาคนนี้ส่วนอำนวยคอยเปิดบทเทศนาสั่งสอน บทสวดมนต์ อำนวยหาจากพวกยูทูปให้สีกาอุษาฟังด้วยนะ อ้อพวกการบรรยายธรรมด้วยจากพระหรือวิทยากรที่เก่งๆนะก็เปิดให้สีกาอุษาฟังด้วย แล้วอำนวยอย่าลืมเซ่นไหว้หรือไม่ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สีกาเขาทุกวันด้วยนะ แล้วหลวงพี่จะบอกเองว่าจะให้ปล่อยเขาไปตามทางเมื่อไหร่"

อำนวยที่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเลยรับคำสั่งจากหลวงพี่ด้วยความมึนงง อำนวยจัดการกักวิญญาณเธอไว้ในเรือนไทยจำลองที่ตั้งอยู่บนหลังตู้โชว์ แล้วนำไพลดำไปวางไว้ใกล้ๆพร้อมบริกรรมคาถาเพื่อสะกดวิญญาณเธอไว้ แต่ด้วยความที่เธอนั้นเฮี้ยนอย่างมากในตอนแรก เธอทั้งด่าทั้งโวยวายกล่าวคำอาฆาตอำนวยหรือไม่ก็แกล้งทำเป็นวิงวอนให้ดูน่าสงสารแต่อำนวยรู้ทันจึงไม่สนใจแต่ทำตามที่หลวงพี่แนะนำตลอดจนผ่านไป 3เดือนวิญญาณของอุษานั้นดูจะเข้าใจในเรื่องต่างๆดีขึ้น จากการที่หลวงพี่แผ่เมตตามาให้ตลอดและบทเทศนาและการบรรยายธรรมที่อำนวยเปิดให้ฟังตลอดทำให้เธอนั้นเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรมมากขึ้น จนไม่อาฆาตแค้นครอบครัวของนักธุรกิจคนนั้นแล้ว หลวงพี่ได้บอกให้อำนวยนั้นปล่อยวิญญาณของเธอไป แต่พออำนวยคลายมนต์สะกดนั้น เธอกลับบอกอำนวยหน้าตาเฉยว่า

"ข้าไม่ไปหรอก อยู่กับเจ้าแล้วสบายดีมีอาหารการกินครบ อยากจับข้ามาเองไว้ข้าพอใจเมื่อไหร่แล้วจะไปเอง"

อำนวยนั้นถึงกับเกาหัวและไปปรึกษาหลวงพี่ซึ่งหลวงพี่ให้คำตอบกับอำนวย

"ก็แล้วแต่สีกาอุษาเขาแล้วกัน  อย่าไปบังคับเขาถ้าอยากไปเมื่อไหร่เขาก็จะไปเอง อย่างน้อยเขาอาจจะเป็นประโยชน์กับอำนวยเข้าสักวัน แต่อย่าลืมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สีกาอุษาเหมือนที่ผ่านมาด้วยละ"

อำนวยนั้นพูดไม่ออกเลยจำใจให้เธออยู่ด้วยและตอนนี้ผ่านมาปีเศษแล้วที่เธออยู่กับอำนวย ประวัติของอุษานั้นเธอเป็นคนในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นลูกสาวของตระกูลใหญ่และร่ำรวยอย่างมากในยุคนั้น เป็นตระกูลที่มีทั้งอิทธิพลและบารมีอย่างมาก ป้าของเธอที่เป็นพี่สาวคนโตของตระกูลนั้นเป็นถึงเจ้าจอม ส่วนลุงของเธอที่เป็นพี่ชายคนรองมีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาที่มีอำนาจและบารมีอย่างมาก พ่อของเธอเป็นคหบดีที่ร่ำรวยและมีบรรดาศักดิ์เป็นคุณพระ อุษานั้นเป็นลูกสาวคนเดียว แม่เธอได้จากไปเพราะป่วยตายตอนเธออายุยังไม่ถึง  5 ขวบดี ถึงพ่อเธอจะมีเมียมากเหมือนคนในยุคนั้นแต่ไม่มีลูกกับเมียคนอื่น ส่วนลุงของเธอนั้นมีเมียเพียงคนเดียวและไม่มีลูก ด้วยความที่เป็นลูกและหลานคนเดียวทำให้ทั้งลุงทั้งป้ารวมไปถึงพ่อต่างตามใจเธอมาก อุษานั้นได้รับอบรมและการศึกษามาอย่างดี ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงทำให้เธอสามารถเข้าไปเฝ้าป้าของเธอในตำหนักฝ่ายในได้สะดวก

ยิ่งป้าของเธอนั้นค่อนข้างที่จะเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่เพราะจากที่ได้เข้าเฝ้าเจ้านายชั้นสูงหลายพระองค์จึงสนับสนุนเรื่องการศึกษาให้กับหลานสาว ป้าเธอนั้นได้จ้างครูชาวต่างชาติให้มาสอนภาษากับหลานสาว ทำให้อุษานั้นเป็นคนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องเพราะได้รับการสอนตั้งแต่เด็ก ยิ่งเธอเป็นคนที่ฉลาดอยู่แล้ว ทำให้เธอกลายเป็นคนที่มีความรู้อย่างมากเมื่อเทียบกับคนในยุคนั้น และเธอนั้นเองก็ใช่ว่าเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมีความซนและแก่นแก้วอย่างแต่ไม่เคยมีตักเตือนและห้ามปรามอย่างจริงจังโดยเฉพาะป้าเธอที่ดูจะชื่นชอบความแก่นแก้วของหลานสาว ทำให้เธอนั้นไม่เคยเกรงกลัวอะไรเพราะผู้ใหญ่คอยให้ท้าย

เลยทำให้เธอค่อนข้างเป็นคนก้าวร้าวเอาแต่ใจตัวเองเพราะถือว่าตนเองนั้นมีความรู้สูง อยู่ในตระกูลใหญ่ ใครๆต่างยอมศิโรราบแถมยังเป็นพระสหายกับบรรดาพระโอรสและพระธิดาของเจ้านายชั้นสูงหลายพระองค์ ยิ่งทำให้เธอลำพองใจอย่างมาก จนเธออายุได้ 20 ด้วยความฉลาดและประกอบกับหน้าตาที่สวย ทำให้เจ้าฟ้าพระองค์หนึ่งได้มาติดต่อสู่ขอเพราะรู้สึกต้องพระทัยในตัวอุษามานานตั้งแต่เธออายุได้ 16เพราะเห็นเธอเข้าออกวังเป็นประจำ พอเธอรู้ทำให้เธอนั้นดีใจเป็นอย่างมากเพราะความฝันนั้นเป็นจริงที่จะได้แต่งงานกับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง รวมถึงอิสริยยศชั้นสูงที่จะได้รับพระราชทานตามมาหลังจากการอภิเษกสมรสอีกทั้งอำนาจวาสนาที่เพิ่มขึ้นจากที่เป็นเจ้านายในวัง

แต่ด้วยนิสัยของเธอและความที่พ่อรักและปกป้องมาตลอดทำให้เธอนั้นไม่ถูกกับเมียน้อยของพ่อคนหนึ่ง ที่มีความอิจฉาริษยาเธอมาตลอด ซึ่งตัวเธอเองก็ดูถูกเมียน้อยคนนี้ของพ่อเหมือนกัน ยิ่งทำให้ทั้งคู่ไม่ถูกกัน พอรู้ข่าวเรื่องของอุษาที่จะได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสทำให้เมียน้อยของพ่อเธอนั้นทวีความอิจฉาเธอมาขึ้นจนวางแผนฆ่าเธอ โดยวางแผนจะทำให้เรือที่เธอโดยสารนั้นล่ม และทุกอย่างนั้นเป็นไปตามความตั้งใจของเมียน้อยพ่อเธอ เรือนั้นถูกแอบเจาะที่ท้องเรือและวันนั้นเกิดพายุฝนขึ้นทำให้เรือที่อุษานั่งนั้นล่มระหว่างทางที่เธอเดินทางไปหาป้า ทำให้อุษาเสียชีวิตจากการจมน้ำ ทั้งพ่อทั้งลุงเธอระดมบ่าวไพร่เพื่อค้นหาร่างของเธอ

จนผ่านไป 3วันถึงเจอศพเธอ หลังจากงานศพของเธอผ่านไป วิญญาณอาฆาตของเธอได้ปรากฏกายขึ้น ที่เธอกลับมาเพราะความอาฆาตแค้นต่อเมียน้อยพ่อเธอ วิญญาณของอุษานั้นรู้ความจริงว่าใครทำให้เธอตาย ความตายของเธอทำให้ความฝันของเธอที่จะเข้าพิธีอภิเษกสมรสในอีก 2เดือนได้พังทลายลง ทุกสิ่งที่เธอหวังไว้มันสูญสิ้นไปหมด ทำให้เธอนั้นอาฆาตคนที่สั่งฆ่าเธออย่างมาก วิญญาณของเธอได้หลอกหลอนเมียน้อยพ่อเธอจนเสียสติรวมไปถึงบ่าวไพร่ที่ร่วมมือทำตามคำสั่งทุกคนถูกเธอหลอกหลอนหมด

ทำให้ลุงของเธอที่เป็นคนมีวิชาอาคมชั้นสูงเพราะได้รับการถ่ายทอดจากปู่ของเธอมาอีกที ต้นตระกูลของอุษานั้นได้ศึกษาวิชาอาคมจนเชี่ยวชาญตั้งแต่สมัยปลายอยุธยาและได้ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ลุงของเธอได้จำใจที่จะจัดการกับวิญญาณของหลานรัก โดยจับวิญญาณเธอขังไว้แหวนมรกต ซึ่งตอนแรกลุงเธอตั้งใจว่าจะกักไว้ระยะเพื่อสั่งสอนและจะปล่อยวิญญาณเธอไปตามทาง แต่ไม่นานนักลุงเธอนั้นเริ่มป่วยหนักจนรู้ว่าไม่มีทางรอด แต่การจะปล่อยวิญญาณของอุษามาในตอนนั้นจะไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน เพราะเธอนั้นยังมีความอาฆาตอยู่ยิ่งถูกกักขังด้วยความอาฆาตจะยิ่งทวีคูณ และคงหาคนที่จะมาปราบเธอได้ยาก ซึ่งจะเป็นผลร้ายกับคนอื่นๆและไม่มีใครที่จะคลายมนต์สะกดนี้ได้เพราะเป็นอาคมชั้นสูง ลุงเธอจึงตัดสินใจที่จะร่ายเวทมนต์ทั้งหมดที่ตัวเองมีลงไปในแหวนมรกต เพื่อหวังจะให้อุษาได้ศึกษาเรียนรู้คาถาพวกนี้เพื่อจะได้รู้ถึงบาปบุญคุณโทษจากสิ่งที่ตนเองมอบให้และถือเป็นการขอโทษหลานสาวที่จับดวงวิญญาณมากักขัง ลุงของตั้งจิตอธิษฐานก่อนตายว่าถ้าวันใดที่อุษารู้ถึงบาปบุญคุณโทษขอให้มนต์สะกดนี้คลายลง เพื่อที่หลานสาวจะได้ไปตามทางของเธอ

แต่มันไม่เป็นอย่างที่ลุงของเธอหวังไว้ ถึงอุษาจะทนทุกข์ทรมานจากการถูกกักขัง แต่ตลอดเวลานั้นดวงวิญญาณของเธอนั้นได้ศึกษาคาถาอาคมที่ลุงเธอมอบให้จนเธอนั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้และการบำเพ็ญเพียรตลอดเวลาที่ถูกกักทำให้วิญญาณเธอมีอิทธิฤทธิ์อย่างมาก  และแหวนวงนั้นได้มีการเปลี่ยนมือเจ้าของไปหลายคนจนตกมาถึงมือนักสะสมของเก่าคนหนึ่งที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของเดิมและเก็บรักษาไว้อย่างดี  จนจู่ๆมนต์ที่สะกดเธอได้คลายลงเพราะคาถานั้นเสื่อมไปตามกาลเวลา วิญญาณของเธอได้หลุดพ้นออกมา  แต่เธอยังมีความอาฆาตอยู่ด้วยฌานวิถีที่มีจากการเรียนรู้ระหว่างถูกขัง ทำให้เธอรู้ว่าเมียน้อยของพ่อเธอนั้นกลับชาติมาเกิดเป็นนักธุรกิจชื่อดังส่วนเจ้าฟ้าที่จะแต่งงานกับเธอนั้นเกิดมาเป็นลูกชายของนักธุรกิจคนนี้ และกำลังจะแต่งงาน ด้วยความอาฆาตที่มีเธอจึงไปก่อนกวนและหลอกหลอนนักธุรกิจคนนี้ จนวิญญาณของเธอถูกอำนวยจับมาอีกครั้งเพราะตัวเธอนั้นต้านทานฤทธิ์ของไพลดำไม่ได้ แต่ด้วยการแผ่เมตตาและคำสั่งสอนของหลวงพี่ที่มีมาในดวงจิตของเธอหรือบางครั้งกายทิพย์ของหลวงพี่ก็มาเทศนาสั่งสอนเธอที่หน้าเรือนไทยจำลองที่เธอถูกขังอยู่

รวมไปถึงบทสวดมนต์คำบรรยายธรรมที่อำนวยเปิดให้เธอฟังตลอด ทำให้เธอนั้นจิตใจสงบลงและเข้าใจในเรื่องของบาปบุญคุณโทษ การอโหสิกรรม จนเธออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่เคยทำร้ายเธอและเข้าใจดีว่าทำไมอำนวยกับหลวงพี่ถึงได้จับวิญญาณเธอมากักขังหลังจากที่เธอได้รับการปลอดปล่อย มันเกิดจากความหวังดีและดวงวิญญาณทุกดวงที่อาศัยใบบุญของหลวงพี่ที่สำนักสงฆ์นั้นก็ไม่ได้ถูกกักขัง แต่ถูกผูกด้วยธรรม ทุกวันพระใหญ่อุษาจะไปที่สำนักสงฆ์เพื่อฟังเทศนาจากหลวงพี่เหมือนกับดวงวิญญาณดวงอื่น  และตลอดเวลาที่ถูกกักขังอำนวยก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรเธอแถมยังเลี้ยงดูเธออย่างดี จนอำนวยคลายมนต์จากไพลดำที่สะกดเธอไว้เพื่อปล่อยเธอไป แต่เธอกลับไม่ไปไหนเพราะมันมีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ

หลังจากนั้นด้วยความที่เธอนั้นเป็นคนที่ฉลาดทำให้ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้อย่างทั้งคำพูดคำจา วัฒนธรรมใหม่ๆหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ เธอได้ศึกษาจากโทรทัศน์ที่อำนวยเปิดดูหรือสื่อต่างๆที่มีในอินเทอร์เน็ตมีอยู่วันหนึ่งขณะที่อำนวยกำลังดูโทรทัศน์เธอได้ถามอำนวย

"นี่ ตอนนี้ไทยกับฝรั่งเศสเป็นมิตรกันแล้วหรือ"

อำนวยได้ฟังคำถามจากเธอนั้นก็รู้สึกงงๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเธอนั้นเป็นคนในยุค ร.ศ.112 เลยเข้าใจ

"เป็นมาตั้งนานแล้ว"

เธอนิ่งคิดไปขณะแล้วพูดขึ้นมา

"ตอนนั้นนะที่พวกมันเอาเรือมาจอดที่หน้ากงสุล ใครๆก็พูดกันว่าปืนบนเรือมันนะยิงได้ถึงพระบรมมหาราชวังฉันนี้กลัวแทบตาย นึกถึงตอนนั้นแล้วยังเจ็บใจไม่หายป้าฉันบอกว่าในหลวงท่านต้องเอาเงินในท้องพระคลังไปจ่ายให้มัน ตอนนั้นเราสู้มันไม่ได้เราเลยต้องยอม แถมต้องเสียดินแดนให้มันอีก"

เธอพูดด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจอย่างมาก ทำให้อำนวยนั้นนึกอะไรขึ้นมาเลยบอกเธอ

"นี่คุณรู้ไหมละ หลังจากนั้นเกือบๆ 50 ปีนะ เรารบกับฝรั่งเศสนะ และได้ดินแดนคืนมาด้วยแต่มันช่วงสั้นๆ"

"จริงหรือ ไหนเล่าให้ฉันฟังหน่อยแล้วเราชนะหรือเปล่า"

อุษาพูดด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น อำนวยนั่งนึกไปชั่วครู่

"เดี๋ยวก่อนนะไอ้ผมมันก็พวกหัวไม่ดีซะด้วย จำได้ไม่เท่าไหร่ มันแทบจะไม่มีในแบบเรียนเลยนะแต่อาจารย์ที่สอนสังคมเล่าให้ฟังเลยรู้เรื่อง"

อำนวยเล่าเรื่องสงครามอินโดจีนให้เธอจากความจำที่ได้ฟังมา ก่อนจะปิดท้ายให้เธอฟังว่า

"มันเป็นการรบช่วงสั้นๆนะ ไม่กี่เดือนเอง ก่อนที่ญี่ปุ่นจะเข้ามาไกล่เกลี่ย ไทยได้ดินแดนคืนบางส่วน ฝรั่งเศสต้องยอมเพราะตอนนั้นก็ประเทศถูกเยอรมันยึด ทางภาคพื้นยุโรปสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังรบกันอยู่ แต่หลังจากนั้นไม่เท่าไหร่ในปลายปีนั้นญี่ปุ่นก็บุกประเทศไทย สงครามโลกครั้งที่ 2ก็ขยายมาถึงประเทศเรา หลังสงครามเราเป็นฝ่ายแพ้ก็ต้องคืนดินแดนให้ฝรั่งเศส"

อุษานั่งฟังตลอด ถึงจะไม่กระจ่างเท่าไหร่แต่เธอเองก็ใช้เวลาไปหาข้อมูลจากสื่อที่เธอเข้าถึงได้ ยิ่งอำนวยเป็นสมาชิกสตรีมมิ่งหนังอยู่ 2-3เจ้า ทำให้เธอได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆในยุคนี้จากหนังเหล่านั้นจนกลายเป็นผีที่ติดซีรียส์เกาหลีงอมแงม อำนวยนั้นต้องเปิดทีวีไม่ก็ไอแพดให้อุษาดูซีรียส์ตลอดทั้งวันไม่อย่างนั้นเธอจะกวนใจและอาละวาดไม่หยุด บางครั้งก็สร้างความปวดหัวให้กับอำนวยอย่างวันหนึ่งระหว่างที่อำนวยมาที่ร้านขายอุปกรณ์มือถือ  เสียงของเธอดังในดวงจิตของอำนวยบอกให้รีบกลับมาที่บ้านด่วนมีเรื่องสำคัญ ทำให้อำนวยรีบขี่มอเตอร์ไซด์กลับ พอรู้สาเหตุว่าเรื่องสำคัญนั้นคืออะไร อำนวยนั้นแทบจะหายาระงับประสาทมากิน  เพราะเน็ตนั้นหลุดทำให้เธอดูซีรียส์เกาหลีไม่ได้

"ก็ฉันไม่รู้นี่หว่าว่าเน็ตมันหลุด คุณเป็นเจ้าของบ้านก็ทำสิ"

เธอยืนท้าวสะเอวพูดแบบไม่สนใจอะไร อำนวยได้แต่ส่ายหน้า ด้วยความที่เธอนั้นติดซีรียส์เกาหลีอย่างงอมแงม ทำให้อุษานั้นเหมือนกับสาวๆในยุคนี้ เธอนั้นคลั่งไคล้ดารานักร้องเกาหลี ยิ่งเวลามีการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องเกาหลีในประเทศไทย อุษานั้นไม่เคยพลาด เธอไปดูถึงขอบเวที จนบางครั้งเธอนั้นสามารถปรากฏกายให้คนเห็นเพราะเธอลืมตัวจนทำให้พลังที่เธอมีอยู่นั้นสำแดงออกมาให้คนเห็นเพราะอารมณ์ของเธอที่ควบคุมไม่อยู่ แต่คนที่เห็นนั้นไม่แปลกใจ เพราะตัวอุษาเองด้วยความมีอิทธิฤทธิ์สูง เธอมักจะบันดาลให้วิญญาณของเธอแต่งตัวตามสมัย

 ยิ่งเวลาที่เธอไปดูคอนเสิร์ตเธอจะแต่งตัวให้เข้ากับคอนเสิร์ตที่เธอไปดู คนที่เห็นร่างของเธอนั้นไม่สงสัยว่าคนที่เต้นอยู่ข้างๆคือ"ผี" ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งวิญญาณของเธอนั้นจะตามพวกศิลปินเกาหลีที่เป็นผู้ชายเข้าไปถึงห้องแต่งตัวด้วย  มาจากนิสัยตั้งแต่สมัยที่เป็นคนของเธอที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่นัก รวมถึงอาหารการกินที่เธออยากกินอาหารเกาหลีแบบที่เห็นในซีรียส์ซึ่งอำนวยต้องลำบากในการไปหาซื้อเพื่อมาเซ่นไหว้เธอ

อุษาตอนสมัยที่เป็นคนนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่เก็บกดอารมณ์ทางเพศอยู่พอสมควรเพราะวัฒนธรรมประเพณีที่ทำให้ผู้หญิงในยุคนั้นแสดงออกเรื่องเพศไม่ได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีชาติตระกูลอย่างเธอ จนเธอได้ทดลองรักกับสาวใหญ่ที่เป็นหัวหน้าโขลนของตำหนักในที่แอบตามจีบเธอมานาน หัวหน้าโขลนนั้นได้สอนบทรักของหญิงกับหญิงให้เธอจนเธออดไม่ได้ที่จะไปเอาไปลองกับบรรดาเพื่อนๆที่เป็นสาวชาววัง ตั้งแต่ตอนอายุ 15 เธออาศัยช่วงจังหวะที่เข้าไปนอนพักค้างคืนในตำหนักของป้าเธอ ซึ่งไม่มีใครสงสัยเพราะเธอเข้าออกและมาพักค้างคืนที่ตำหนักนี้ตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เธอได้ระเริงกับเพื่อนของเธอได้อย่างเต็มที่ มันเป็นการปลอดปล่อยความต้องการทางเพศของเธอได้อย่างดีแต่มันใช่ความต้องการที่แท้จริง จนเธอเกือบจะได้ลองกับของจริงตามที่ใจต้องการเธอมาเสียชีวิตไปเสียก่อน

และอำนวยนั้นก็พลาดเอง เพราะหลายครั้งตั้งแต่ที่วิญญาณเธอถูกกักอยู่ อำนวยพาเก๋กับตาลมาเสพสุขด้วยกันที่บ้านหลายครั้งทั้งแบบหมู่หรือแบบเดี่ยว บางครั้งที่สนามรักนั้นเป็นโซฟาที่ตั้งอยู่ชั้นล่างทำให้อุษาได้เห็นตลอด จนวิญญาณเธอเป็นอิสระ ทำให้เธอได้ตามไปดูถึงในห้องนอน มันปลุกความต้องการของผีสาวขึ้นมา ทำให้เธอเริ่มยั่วยวนสวาทอำนวยมาตลอด แต่อำนวยไม่สนใจเพราะไม่อยากจะเอากับผีทั้งๆที่รู้ว่าเธอนั้นสามารถสร้างกายหยายขึ้นมาได้อย่างสบายๆ ทำให้เธอไม่พอใจเริ่มแกล้งเก๋กับตาลหลายครั้งเช่นทำให้ไฟดับ หรือทำเป็นเงาหลอนๆระหว่างที่อยู่ในห้องน้ำ ทำให้ทั้งสองสาวไม่กล้ามาที่บ้านอำนวยอีก จนต้องเปลี่ยนไปเสพสุขกันที่อื่น

ยิ่งอำนวยเฉยอุษายิ่งยั่วอำนวยหนักขึ้น แถมยังปรากฏกายในชุดแบบซีทรูให้อำนวยอีกหลายครั้ง จนบางครั้งมาปรากฏในห้องนอนกลางดึกทำให้อำนวยต้องร่ายมนต์ให้ไพลดำที่ตั้งบูชาอยู่ในห้องพระ แผ่รัศมีกั้นไม่ดวงวิญญาณของเธอขึ้นมาชั้นบน ไม่อย่างนั้นวิญญาณของเธออาจลักหลับอำนวยเข้าสักวัน และทำให้อำนวยเข้าใจได้ว่าเพราะอะไรหลวงพี่ถึงไม่รับดวงวิญญาณของอุษาไว้ที่สำนักสงฆ์นอกเหนือจากฤทธิ์เดชที่เธอมีอาจไปสร้างความปั่นป่วนให้กับดวงวิญญาณดวงอื่น และอีกเรื่องคือเพราะมีลุงมั่นอยู่ซึ่งตลอดมาลุงมั่นนั้นไม่เคยสนใจดวงวิญญาณผู้หญิงคนไหนเลย ตั้งหน้าปฏิบัติธรรมอย่างเดียว แต่พอเจออุษานิสัยหัวงู บ้ากามที่สงบไปนานนั้นได้กำเริบขึ้น

ต่อหน้าหลวงพี่แกทำตัวปกติแต่ลับหลังแกทำตัวอีกอย่างทั้งพูดจาแทะโลม หรือทำกิริยาท่าทางที่บ่งบอกถึงความบ้ากาม ซึ่งอุษานั้นด่ากลับไปทุกครั้ง  อำนวยนั้นเห็นทุกครั้งแต่พูดอะไรไม่ออก ส่วนหลวงพี่ท่านเองก็ไม่ยุ่งกับเรื่องพวกนี้ ตัวอำนวยนั้นเองก็รู้ดีว่านี่คงเป็นเหตุผลหลักที่หลวงพี่ไม่ให้อุษามาอยูที่สำนักสงฆ์ เพราะไม่อย่างั้นวิญญาณลุงมั่นถูกอุษากระทืบจมธรณีแน่นอน เพราะวิชาอาคมของลุงมั่นนั้นเทียบอุษาไม่ติด แต่แกก็ไม่วายที่จะแทะโลมอุษาทุกครั้งที่เจอ เพราะรู้ว่าอุษานั้นเกรงใจหลวงพี่ไม่กล้าทำอะไรแก

แต่อุษานั้นไม่เคยช่วยอำนวยในเรื่องจับวิญญาณเลย เพราะเธอถือว่าไม่ใช่เรื่องของเธอแต่มีติดรถไปด้วยบางครั้งที่อำนวยไปจับวิญญาณหรือไปส่งของ เธอบอกว่าเบื่อไม่อยากอยู่บ้าน ทั้งๆที่วิญญาณเธอจะไปไหนมาไหนได้สะดวกแต่เธอมักจะไปกับรถของอำนวย เวลาที่อำนวยจัดการกับพวกวิญญาณเธอจะอยู่เฉยๆไม่ยุ่งเกี่ยวอะไร   แต่มีอยู่ 2 ครั้งที่อำนวยได้เห็นฤทธิ์เดชของเธอ ครั้งแรกอำนวยต้องไปจับผีกุมารทองที่อาละวาดหลอกหลอนชาวบ้าน แต่พออำนวยจับได้ กุมารทองที่นิสัยทะลึ่งได้พูดจาแซวพร้อมแทะโลมอุษาจนเธอโกรธ อำนวยเห็นเธอเข้าไปเตะกุมารทองจนกลิ้งเป็นลูกขนุน และตามไปกระทืบอย่างไม่ยั้งก่อนจะร่ายเวทย์จนตัวกุมารทองนั้นมีไฟลุกท่วมตัว  ทำให้กุมารทองนั้นต้องร้องขอความเห็นใจจากเธอ อุษานั้นคลายมนต์ให้แต่ตามไปตบหัวอีก2 ฉาดใหญ่ เพราะกุมารทองไปเรียกเธอว่าแม่

"พ่อมึงไม่เคยเอากับกูไม่ต้องมาเรียกกูว่าแม่"

เธอสำทับลงไปที่ร่างกุมารทองที่นอนตัวสั่นอยู่แทบเท้าเธอ  อีกฝ่ายนั้นค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วพนมมือ

"จ๊ะ ฉันขอโทษที่ไปล่วงเกินพี่สาวคนสวย"

"เออเรียกแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เด็กเวรให้รู้มั่งว่าใครเป็นใคร ที่โดนแบบนี้เพราะความปากหมาของมึง จำไว้อย่าริอ่านมาทะลึ่งกับกูอีก"

เธอยิ้มออกมาอย่างสะใจที่กำราบอีกฝ่ายนั้นกลัวเธอจนตัวสั่น พออำนวยเอาวิญญาณกุมารทองนั้นมาส่งให้หลวงพี่ ท่านก็เมตตาและตั้งชื่อให้ว่าจุกเพราะกุมารทองนั้นไม่มีชื่อ จนถึงปัจจุบันกุมารทองตัวนี้ได้ปรับปรุงนิสัยและตั้งใจรับคำสอนของหลวงพี่อย่างตั้งใจ ส่วนอีกครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อ2-3เดือนที่ผ่านตอนที่อำนวยกลับจากส่งของในจังหวัดภาคอีสาน และระหว่างทางช่วงกลับโดนผีเด็กสก๊อยหลอกอำนวยจัดการจับผีสาวทันที แต่ผีสาวนั้นโดนอุษาตบเพราะไปเรียกเธอว่า"ป้า"จนอุษาด่ากลับ  ผีเด็กสก๊อยนั้นต่อปากต่อคำไปเรียกเธอว่าอีแก่ เลยโดนเธอตบไม่ยั้งแถมร่ายเวทย์ให้มีเชือกอาคมมารัดตัวทำเอาวิญญาณเด็ก สก๊อยนั้นกลัวเธอจนลนลาน

"โอ๊ยกลัวแล้ว จ้ากลัวแล้ว ฉันขอโทษคุณพี่ด้วย โอ๊ยจะตายอยู่แล้ว"

เสียงร้องครวญครางนั้นดังออกมาไม่หยุดจนอำนวยต้องขอให้อุษาหยุด ดวงตาของเธอในตอนนั้นลุกวาวเป็นสีแดง

"ครั้งนี้กูละเว้นให้ แต่ครั้งหน้ามึงยังปากหมาแบบนี้ระวังจะไม่เหลือวิญญาณให้เห่าหอนอีก"

อีกฝ่ายนั้นดูจะเข็ดจริงๆเพราะดูหวาดกลัวจากสิ่งที่ได้รับถึงกับนั่งพับเพียบพนมมือตัวสั่นหลังจากที่อุษาคลายมนต์สะกดให้ จากที่เคยปะมือกันมาแล้วรวมถึงเห็นการใช้คาถาของเธอกับกุมารทองผีเด็กสก๊อย ทำให้อำนวยนั้นรู้ว่าถ้าไม่ใช้ไพลดำช่วยตนเองอาจจะแพ้ให้กับอุษาก็เป็นได้ แต่หลายๆครั้งที่ตัวเธอทำความปวดหัวให้ อำนวยรู้ดีว่าพลังที่เธอมีนั้นสามารถที่จะกำหนดหรือทำอะไรได้อย่างสบายๆ อย่างเรื่องปิดเปิดโทรทัศน์หรือไอแพด เพื่อที่จะเลือกดูสิ่งที่เธอชอบแต่เธอไม่ยอมทำรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่เธอสามารถเปิดปิดเองได้ อำนวยนั้นต้องทำให้ตลอด จนบางครั้งอำนวยถึงกับโวยออกมาแต่เธอตอบแบบลอยหน้าตาแถมกลายร่างไปนุ่งชุดบิกินนี่ที่บางจนเห็นหัวนมและร่องหีอย่างชัดเจนว่า

"ทำเองทำไม เก็บพลังงานไว้เย็ดกับพี่นวยควยโตดีกว่า"

อำนวยได้แต่เม้มปากอย่างขัดใจแต่ต้องทำให้เธอ ถึงตัวอุษาเองจะไม่ช่วยอำนวยในการจับผี แต่อำนวยรับรู้ว่าตั้งแต่ปล่อยวิญญาณของเธอให้เป็นอิสระนั้น บ้านที่ตนเองอยู่นั้นดูสะอาดขึ้นมากถึงอำนวยจะทำความสะอาดอยู่ทุกวันจากนิสัยที่ติดมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ทุกซอกทุกมุมในบ้านนั้นไม่มีฝุ่นจับเลยและอีกเรื่องที่อำนวยนั้นไม่เคยรู้ ว่าร้านของตนเองในตลาดเคยเกือบจะถูกขโมยมาแล้วหนหนึ่งเพราะมีเจ้าของร้านที่ขายอุปกรณ์มือถือที่อยู่ไม่ห่างจากร้านของอำนวยนักเกิดความอิจฉาเพราะเห็นร้านอำนวยขายดีกว่าเลยพาพวกจะมางัดร้าน แต่อุษานั้นไปปรากฏร่างเป็นเงาดำยืนอยู่หน้าร้านอำนวยทำให้พวกนั้นต่างพากันกลัวและไม่กล้าที่จะงัดร้านและวันต่อมาได้เลิกขายของที่ตลาดแห่งนั้นทันที เพราะคิดว่าผีเจ้าที่หลอก

 ส่วนป้านานั้นอุษาไม่ค่อยชอบเพราะตัวป้านาเองเป็นคนที่มีนิสัยชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน ตัวป้านานั้นเคยอยู่กับครอบครัวของลูกสาวที่ต่างจังหวัดแต่ด้วยนิสัยของแกนั้นทำให้ไม่ลงรอยกับลูกเขยแกเลยมาอยู่บ้านลูกชายคนเล็กที่กรุงเทพ แต่ลูกชายคนเล็กนั้นทำงานอยู่กับเรือเดินสมุทรนานๆนั้นกลับบ้านที ตอนแรกๆอำนวยเองก็ไม่ได้คุยกับแกเท่าไหร่นัก แต่วันหนึ่งตั้งแต่ที่อุษายังไม่ถูกจับตัวมา อำนวยไปเห็นแกนอนไม่ได้สติอยู่ที่ลานจอดรถในบ้านของแก อำนวยเลยรีบพาแกไปส่งโรงพยาบาลและรีบติดต่อลูกสาวหลังจากที่แกฟื้น แกป่วยเพราะความดันโลหิตขึ้นสูงจนแกเวียนหัวทำให้หมดสติ ดีที่อำนวยมาเห็นก่อนจึงพาส่งโรงพยาบาลทัน หลังจากวันทั้งลูกสาวและลูกชายแกก็ฝากให้อำนวยช่วยดูแลแม่ ซึ่งอำนวยนั้นเต็มใจ จึงคอยช่วยดูแลแกตลอด จนป้านานั้นอยากจะตอบแทนมาทำความสะอาดบ้านให้เพราะเห็นอำนวยอยู่คนเดียวแต่อำนวยปฏิเสธ  ซึ่งตอนแรกที่อำนวยมาอยู่แกเองก็แอบสังเกตุตามนิสัยของแก จนแกเห็นตาลกับเก๋มาที่บ้านอำนวยบ่อยๆ ทำให้แกพอจะเดาออก และยิ่งช่วงหลังที่อุษามาอยู่แกมักจะได้ยินเสียงทีวีดังมาจากบ้านของอำนวยในช่วงที่อำนวยไม่อยู่บ้าน ทำให้แกมาด้อมๆมองๆเป็นประจำ จนอำนวยต้องโกหกไปว่าลืมปิดทีวี หรือไม่ก็บางครั้งแกเห็นเงาของอุษาในบ้าน แต่อำนวยต้องยืนยันว่าไม่ใครอยู่ในบ้าน พยายามให้ป้านาเข้าใจว่าตาฝาด เป็นสาเหตุที่ทำให้อุษาไม่ค่อยพอใจป้านาเท่าไหร่

ด้วยฌานวิถีที่เธอมีทำให้อุษานั้นรู้เรื่องของอำนวย ว่าเป็นคนที่มีวิชาคมสูงสูสีกับเธอ แต่อำนวยใช้วิชาอาคมในทางที่ดีและรู้ว่าอำนวยนั้นมีเงินเก็บจำนวนมหาศาลถึงจะได้มาจากการพนันถึงจะใช้วิชาอาคมช่วยก็ตามทีแต่อำนวยรู้จักพอก่อนจะมาทำงานสุจริตและไม่โอ้อวดว่าตนเองนั้นรวย ถึงตอนนี้เธอจะเป็นอิสระแล้วแต่เธอก็ยังพอใจที่จะอยู่ป่วนอำนวยต่อไปอีก จนช่วงหัวค่ำวันนั้นหลังจากที่อำนวยได้จัดการงานที่ร้านเสร็จเรียบร้อย รวมทั้งของที่ถูกสั่งทางออนไลน์ที่อำนวยนั้นจัดการแพ็คของและบริษัทขนส่งเข้ามารับของเป็นที่เรียบร้อย อำนวยเดินไปขึ้นรถที่มาจอดรอที่ลานจอดรถของตลาด เป็นเก๋ที่ขับรถมารับ จุดหมายปลายทางของทั้งคู่นั้นอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ตาลได้มาเปิดห้องรออยู่แล้ว หลังจากที่ทั้งสองสาวไม่กล้าไปเล่นเกมส์เซ็กส์หมู่ที่บ้านอำนวย จึงต้องมาใช้ห้องพักในรีสอร์ทหรือโรงแรมเป็นสถานที่เซ็กส์หมู่แทน  เพราะตาลเองก็ไม่สะดวกที่บ้านเช่นเดียวกับเก๋ที่ไม่กล้าใช้คอนโดที่เธอซื้อมาได้2-3ปีเป็นสถานที่ระเริงรักเพราะกลัวตกเป็นเป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่ถ้าอำนวยหรือตาลไปคนเดียวนั้นมันอีกเรื่อง

 หลังจากที่เข้าไปในห้องได้ไม่นานนัก  ทั้งสามที่ไม่ได้พูดอะไรกันมากนักต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าให้จนเปลือยกายทั้ง3คนและพาร่างเปลือยกันไปที่เตียง ตาลกับเก๋นั้นนอนเคียงข้างกันโดยที่อำนวยนั่นคร่อมอยู่บนตัวของทั้งคู่ หุ่นของทั้งสองสาวนั้นใกล้เคียงกันแต่ตาลนั้นออกจะอวบกว่าเล็กน้อย แต่นมใหญ่หีใหญ่และหมอยดกทั้งคู่ อำนวยก้มหน้าลงไปดูดดื่มที่เต้านมของตาลก่อนจะสลับมาที่เก๋

ทั้งสองสาวสาวนั้นต่างแอ่นกายให้คู่ขาดูดดื่มความหอมหวานจากเต้า จนอำนวยเลื่อนหน้าลงไปด้านล่างพร้อมขยับหน้าที่โคกหีของเก๋ แล้วใช้ลิ้นกวาดเข้าไปในรูหีทันที เก๋นั้นผวาตัวขึ้นแต่เธอไม่สามารถที่ร้องครางออกมาได้เพราะตาลนั้นขยับตัวมาคร่อมด้านบนของเธอพร้อมริมฝีปากของตาลนั้นมาทาบริมฝีปากเธอ ทั้งสองต่างแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม จนตาลขยับตัวขึ้นไปเอานมจ่อที่ปากของอีกฝ่าย เก๋นั้นสนองตอบทันทีหัวนมของตาลถูกริมฝีปากของเก๋เม้มและดูดทันที ทั้งสามต่างเพลิดเพลินกันในบทรักท่านี้ จนอำนวยถูกจับมาให้นอนหงายบนที่นอน

ตาลนั้นใช้ปากกับหัวนมของอำนวย ส่วนด้านล่างเป็นเก๋ที่กำลังใช้ลิ้นเลียควยที่แข็งตัวเต็มที่ของอำนวย จนตาลค่อยๆเลื่อนตัวลงมา ทั้งสองสาวต่างผลัดกันใช้ปากกับควยอำนวยอย่างชำนาญ  จนเก๋เป็นฝ่ายเลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน เธอเอาโคกหีไปจ่อที่ปากอำนวยส่วนตาลนั้นขยับตัวเอาโคกหีมาจ่อที่ควยพร้อมเอามือจับควยอำนวยให้มาจ่อตรงรูหีแล้วค่อยๆเลื่อนตัวให้หีเธอครอบควยอำนวยจนมิดด้ามก่อนจะค่อยๆโยกตัวไปมาอย่างช้า พร้อมเอามือโอบไปที่ตัวของเก๋ที่นั่งอยู่ด้านหน้าและบี้ไปที่หัวนมทั้งสองข้าง ทำเอาเก๋ครางออกมาไม่หยุดพร้อมตัวที่ส่ายไปมา เป็นบทรักที่ทั้งสามต่างคุ้นชินกันเป็นอย่างดี จนไปถึงจุดหมายไล่ๆกัน

หลังจากที่นอนพักไม่นาน เก๋ที่ยังรู้สึกไม่อิ่มจากเกมรักที่ผ่านมา เธอขยับตัวไปหาตาลที่นอนอยู่ข้างแล้วพลิกตัวขึ้นไปนอนทับก้มหน้าลงเอาไปประกบ หม้ายสาวทั้งที่ยังอ่อนเพลียนั้นตอบรับคู่ขาสาวทันทีมือทั้งสองของตาลตวัดขึ้นมากอดรัดพร้อมตอบรับการจูบที่ดูดดื่ม  นมขนาดใหญ่ของทั้งสองสาวนั้นทับกันจนทะลักออกมาด้านข้างจนเก๋เลื่อนจมูกไปไซร้ตามแก้ม ซอกคอของตาลก่อนจะเลื่อนหน้าลงมาเต้าอวบใหญ่ หัวนมสีน้ำตาลนั้นบานขยายชูชันจากอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง เก๋ดูดสลับไปมาทั้งสองเต้าพร้อมกัดไปแรงๆ ทำเอาตาลผวาและร้องออกมาสุดเสียงด้วยความเสียว เก๋ดูดดื่มบนเต้านมของเพื่อนสาวอยู่ครู่ใหญ่ ทำให้ตาลที่อารมณ์สวาทเดือดพล่านทนไม่ไหว ดันหัวเก๋ลงไปด้านล่างทันที ใบหน้าของเก๋ลงไปเกลือกบนโคกหีขนาดใหญ่ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเงี่ยนของตาลกับอำนวย เก๋นั้นใช้ลิ้นเลียไปทั่วโคกหีและขนหมอย ก่อนจะเอาลิ้นกวาดเข้าไปในรูหีของตาล

"ซี๊ดดด แบบนั้นละเก๋  อูยยย ดี ซี๊ดดดด"

มือทั้งสองของตาลกดหัวของเก๋ให้แนบไปกับโคกหีเธอพร้อมแอ่นก้นรับการลงลิ้นและนิ้วที่ล้วงเข้าไป เก๋ใช้ลิ้นและนิ้วสร้างความเสียวให้กับตาลจนตัวเองทนไม่ไหว เก๋ขยับตัวเลื่อนขึ้นมาด้านบน จนโคกหีของเธอมาทาบกับโคกหีของตาล เก๋เริ่มขยับตัวไปมาพร้อมก้มหน้าลงไปจูบแลกลิ้นกับตาล ซึ่งตาลนั้นสนองตอบอย่างดีเธอขยับตัวรับด้วยความชำนาญ มือทั้งสองข้างเธอลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของคู่ขาสาว จนมาสะโพกที่อวบอิ่มตาลแล้วขยำไปแรงๆ เหมือนเป็นการกระตุ้นอารมณ์สวาทของเก๋ให้ลุกโชนขึ้นอีก เก๋ขยับตัวเร็วขึ้น โคกหีที่ใหญ่ของทั้งสองสาวต่างสีกันไปมา เช่นเดียวกับเต้านมที่อวบใหญ่นั้นบดกันไปมาจนล้นทะลัก  อำนวยนั้นนั่งดูอยู่ไม่ห่างถึงจะเห็นมาหลายครั้งแต่มันทำให้อารมณ์นั้นระอุขึ้นมา แต่อำนวยอดใจไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้สองสาวบรรเลงเพลงรักกันต่อไป

หลังจากที่เอาหีสีกันมาครู่ใหญ่ ตาลร้องบอกให้เก๋เปลี่ยนท่าเป็นท่า 69  เก๋นั้นขยับตัวลุกขึ้นมานั่งพร้อมบอกให้ตาลขยับตัวไปนอนขวางบนที่นอน พอตาลขยับตัวไปนอนตามที่เก๋บอก เก๋จัดการคร่อมไปบนตัวตาลโดยหันหน้ามาทางเท้า แต่เธอยังไม่ทันก้มหน้าไปที่โคกหีของอีกฝ่าย ตาลนั้นจัดการผงกหัวพร้อมเอาลิ้นกวาดเข้าไปในรูหีก่อน  เก๋สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงไปลงลิ้นบนโคกหีของตาล ต่างฝ่ายต่างใช้ทั้งลิ้นกับนิ้วปรนเปรอรสสวาทให้กัน ทั้งคู่ทำรักให้กันในท่า69กันพอประมาณถึงเปลี่ยนท่ามาอยู่ในท่านั่งหันหน้าเข้าหากันขานั้นกางออกพร้อมเอาโคกหีประกบกัน แขนทั้งสองนั้นยันไปบนพื้นเตียงพร้อมเอาหีสีกันไปมา พร้อมกับนมที่กระเพื่อมตามจังหวะของทั้งคู่ประสานกับเสียงครางที่ดังออกมาไม่หยุดจนทั้งสองสาวไปถึงจุดหมาย อำนวยนั้นนั่งดูตั้งแต่ต้นจนแต่ที่ไม่รู้ว่าระหว่างบทรักอันดุเดือดตั้งแต่เริ่มแรกนั้นมีสายตาคู่หนึ่งมองดูอยู่ด้วยความตื่นตาตื่นใจโดยไม่พลาดแม้แต่วินาทีเดียว เจ้าของสายตาคู่นั้นคืออุษานั่นเอง

เปิดรับสมาชิกใหม่ แต่ยังเจอพวกมักง่ายที่เป็นทั้งคนเก่าคนใหม่ บางคนมันรีพลาย์เนื้อหาเกือบทั้งไปวางที่คอมเมนต์ นอกเหนือจากพวกที่ชอบใช้ข้อความซ้ำๆกัน "เนื้อเรื่องน่าสนใจ ขอติดตาม" "เนื้อหาน่าอ่าน ขอตามต่อ" ไม่รวมพวกที่โคตรจะมักง่าย ที่ใช้ตัวอีโม หรือคำว่า "ขอบคุณ"

บ่นให้อ่านกันเฉยๆครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนถึงวันนี้อำนวยนั้นช่วยงานหลวงพี่มาได้4ปีเศษ ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นไม่มีปัญหาอะไร วิญญาณที่ร้ายๆหลอกหลอนหรือรบกวนผู้คน อำนวยจัดการได้หมดอย่างง่ายดายนอกเหนือจากที่หลวงพี่บอกยังมีพวกที่ตนเองไปเจอระหว่างระหว่างที่ไปส่งของตามต่างจังหวัดที่มีผีมาหลอกทั้งในที่พักหรือระหว่างทางอำนวยจัดการได้หมด มีแต่รายของอุษาเท่านั้นที่จัดการอย่างยากลำบาก ครั้งนี้อำนวยนั้นเจอผีที่มีฤทธิ์เดชอย่างมากที่ตนเองไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต กรณีของอุษานั้นมีอยู่วันหนึ่งหลวงพี่ได้โทรศัพท์ให้อำนวยมาพบที่สำนักสงฆ์  พออำนวยไปถึงหลวงพี่ได้เล่าให้อำนวยฟังว่า คุณหมอที่เป็นคนถวายที่ดินและสร้างสำนักสงฆ์นี้ ได้พาเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจหญิงหม้ายมีชื่อเสียงในวงการไฮโซมาขอคำปรึกษาเพราะไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาใคร และมีความเชื่อว่าหลวงพี่นั้นธุดงค์ในป่าลึกมาตลอดคงจะมีอะไรที่พอจะชี้แนะให้บ้าง

นักธุรกิจหญิงคนนั้นได้เล่าให้หลวงพี่ฟังว่าตัวของนักธุรกิจคนนี้และลูกชายที่กำลังจะแต่งงานกับแฟนสาวในอีกไม่กี่เดือนได้ถูกวิญญาณร้ายที่เป็นผู้หญิงตามมารังควาน โดยไม่รู้สาเหตุ วิญญาณดวงนี้ได้ขู่อาฆาตตนต่างๆนานา ที่ผ่านมาได้เชิญหมอผีมากำจัดผีสาวตนนี้หลายคนแต่ไม่เป็นผล หมอผีโดนผีหลอกจนเสียผู้เสียคนไปทุกรายแต่ยังดีที่ผีตนนั้นเข้าไปในบ้านตัวเองไม่ได้ คงเพราะเจ้าที่ในศาลพระภูมิที่สามารถสกัดกั้นให้วิญญาณร้ายของหญิงสาวเข้าไปในบ้านไม่ได้ แต่ผีตนนี้ยังหาทางรังควานเธอกับลูกชายตลอด จนเธอมารู้เรื่องของสำนักสงฆ์แห่งนี้จากหมอเพื่อนของเธอ ทำให้เธอที่ไม่รู้จะหันไปขอความช่วยเหลือจากใครแล้วจึงมาขอคำปรึกษากับเพื่อน หมอจึงพาเธอมาขอคำปรึกษาจากหลวงพี่ ซึ่งหลวงพี่เองก็รับฟังและให้คำแนะนำไปว่าให้แผ่เมตตาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณของผีสาวตนนี้ แล้วมันจะดีขึ้นเองหลังจากที่นักธุรกิจได้กลับไป หลวงพี่ได้นั่งทางในเลยทำให้รู้ว่าดวงวิญญาณนี้ร้ายกาจและมีอิทธิฤทธิ์อย่างมาก หลวงพี่จึงเรียกอำนวยมาพบ

"หลวงพี่ดูแล้วงานนี้หนักมากนะ อำนวยเอาไพลดำไปด้วย เพราะวิญญาณดวงนี้มีอิทธิฤทธิ์เยอะ แถมยังมีอาคมสูงด้วย "

อำนวยทำตามที่หลวงพี่บอก และคืนนั้นในที่รกร้างแห่งหนึ่งไม่ห่างจากบ้านนักธุรกิจคนนั้น อำนวยได้เผชิญหน้ากับดวงวิญญาณของอุษาและเป็นไปอย่างที่หลวงพี่บอก มันไม่ง่ายเหมือนทุกครั้ง เพราะเธอนั้นสามารถแก้คาถาของอำนวยได้ตลอดแถมยังปล่อยคาถาใส่อำนวยเป็นการโต้ตอบซึ่งอำนวยก็แก้ได้เช่นเดียวกัน จนอำนวยต้องใช้ไพลดำเอามาสะกดวิญญาณเธอซึ่งมันได้ผล ดวงวิญญาณของอุษานั้นต้านฤทธิ์ของไพลดำไม่ได้ อำนวยนั้นสะกดดวงวิญญาณของเธอแล้วนำมามอบให้หลวงพี่เหมือนทุกครั้ง แต่พอมาถึงสำนักสงฆ์หลวงพี่กลับบอกกับอำนวยว่า

"ดวงวิญญาณนี้อำนวยเอาไปดูแลแล้วกัน เอาไว้ที่นี่ไม่ได้มันจะยุ่ง"

"อ้าวหลวงพี่แล้วจะให้ผมทำยังไงละครับ"

อำนวยถามกลับด้วยความประหลาดใจ

"ไม่ต้องกังวล เอาดวงวิญญาณเขาไปกักไว้ในสิ่งของอะไรก็ได้แล้วให้ใช้ไพลดำสะกดวิญญาณไว้ หลวงพี่จะคอยแผ่เมตตาไปให้สีกาคนนี้ส่วนอำนวยคอยเปิดบทเทศนาสั่งสอน บทสวดมนต์ อำนวยหาจากพวกยูทูปให้สีกาอุษาฟังด้วยนะ อ้อพวกการบรรยายธรรมด้วยจากพระหรือวิทยากรที่เก่งๆนะก็เปิดให้สีกาอุษาฟังด้วย แล้วอำนวยอย่าลืมเซ่นไหว้หรือไม่ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สีกาเขาทุกวันด้วยนะ แล้วหลวงพี่จะบอกเองว่าจะให้ปล่อยเขาไปตามทางเมื่อไหร่"

อำนวยที่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงเลยรับคำสั่งจากหลวงพี่ด้วยความมึนงง อำนวยจัดการกักวิญญาณเธอไว้ในเรือนไทยจำลองที่ตั้งอยู่บนหลังตู้โชว์ แล้วนำไพลดำไปวางไว้ใกล้ๆพร้อมบริกรรมคาถาเพื่อสะกดวิญญาณเธอไว้ แต่ด้วยความที่เธอนั้นเฮี้ยนอย่างมากในตอนแรก เธอทั้งด่าทั้งโวยวายกล่าวคำอาฆาตอำนวยหรือไม่ก็แกล้งทำเป็นวิงวอนให้ดูน่าสงสารแต่อำนวยรู้ทันจึงไม่สนใจแต่ทำตามที่หลวงพี่แนะนำตลอดจนผ่านไป 3เดือนวิญญาณของอุษานั้นดูจะเข้าใจในเรื่องต่างๆดีขึ้น จากการที่หลวงพี่แผ่เมตตามาให้ตลอดและบทเทศนาและการบรรยายธรรมที่อำนวยเปิดให้ฟังตลอดทำให้เธอนั้นเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรมมากขึ้น จนไม่อาฆาตแค้นครอบครัวของนักธุรกิจคนนั้นแล้ว หลวงพี่ได้บอกให้อำนวยนั้นปล่อยวิญญาณของเธอไป แต่พออำนวยคลายมนต์สะกดนั้น เธอกลับบอกอำนวยหน้าตาเฉยว่า

"ข้าไม่ไปหรอก อยู่กับเจ้าแล้วสบายดีมีอาหารการกินครบ อยากจับข้ามาเองไว้ข้าพอใจเมื่อไหร่แล้วจะไปเอง"

อำนวยนั้นถึงกับเกาหัวและไปปรึกษาหลวงพี่ซึ่งหลวงพี่ให้คำตอบกับอำนวย

"ก็แล้วแต่สีกาอุษาเขาแล้วกัน  อย่าไปบังคับเขาถ้าอยากไปเมื่อไหร่เขาก็จะไปเอง อย่างน้อยเขาอาจจะเป็นประโยชน์กับอำนวยเข้าสักวัน แต่อย่าลืมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้สีกาอุษาเหมือนที่ผ่านมาด้วยละ"

อำนวยนั้นพูดไม่ออกเลยจำใจให้เธออยู่ด้วยและตอนนี้ผ่านมาปีเศษแล้วที่เธออยู่กับอำนวย ประวัติของอุษานั้นเธอเป็นคนในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นลูกสาวของตระกูลใหญ่และร่ำรวยอย่างมากในยุคนั้น เป็นตระกูลที่มีทั้งอิทธิพลและบารมีอย่างมาก ป้าของเธอที่เป็นพี่สาวคนโตของตระกูลนั้นเป็นถึงเจ้าจอม ส่วนลุงของเธอที่เป็นพี่ชายคนรองมีบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาที่มีอำนาจและบารมีอย่างมาก พ่อของเธอเป็นคหบดีที่ร่ำรวยและมีบรรดาศักดิ์เป็นคุณพระ อุษานั้นเป็นลูกสาวคนเดียว แม่เธอได้จากไปเพราะป่วยตายตอนเธออายุยังไม่ถึง  5 ขวบดี ถึงพ่อเธอจะมีเมียมากเหมือนคนในยุคนั้นแต่ไม่มีลูกกับเมียคนอื่น ส่วนลุงของเธอนั้นมีเมียเพียงคนเดียวและไม่มีลูก ด้วยความที่เป็นลูกและหลานคนเดียวทำให้ทั้งลุงทั้งป้ารวมไปถึงพ่อต่างตามใจเธอมาก อุษานั้นได้รับอบรมและการศึกษามาอย่างดี ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงทำให้เธอสามารถเข้าไปเฝ้าป้าของเธอในตำหนักฝ่ายในได้สะดวก

ยิ่งป้าของเธอนั้นค่อนข้างที่จะเป็นผู้หญิงหัวสมัยใหม่เพราะจากที่ได้เข้าเฝ้าเจ้านายชั้นสูงหลายพระองค์จึงสนับสนุนเรื่องการศึกษาให้กับหลานสาว ป้าเธอนั้นได้จ้างครูชาวต่างชาติให้มาสอนภาษากับหลานสาว ทำให้อุษานั้นเป็นคนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องเพราะได้รับการสอนตั้งแต่เด็ก ยิ่งเธอเป็นคนที่ฉลาดอยู่แล้ว ทำให้เธอกลายเป็นคนที่มีความรู้อย่างมากเมื่อเทียบกับคนในยุคนั้น และเธอนั้นเองก็ใช่ว่าเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมีความซนและแก่นแก้วอย่างแต่ไม่เคยมีตักเตือนและห้ามปรามอย่างจริงจังโดยเฉพาะป้าเธอที่ดูจะชื่นชอบความแก่นแก้วของหลานสาว ทำให้เธอนั้นไม่เคยเกรงกลัวอะไรเพราะผู้ใหญ่คอยให้ท้าย

เลยทำให้เธอค่อนข้างเป็นคนก้าวร้าวเอาแต่ใจตัวเองเพราะถือว่าตนเองนั้นมีความรู้สูง อยู่ในตระกูลใหญ่ ใครๆต่างยอมศิโรราบแถมยังเป็นพระสหายกับบรรดาพระโอรสและพระธิดาของเจ้านายชั้นสูงหลายพระองค์ ยิ่งทำให้เธอลำพองใจอย่างมาก จนเธออายุได้ 20 ด้วยความฉลาดและประกอบกับหน้าตาที่สวย ทำให้เจ้าฟ้าพระองค์หนึ่งได้มาติดต่อสู่ขอเพราะรู้สึกต้องพระทัยในตัวอุษามานานตั้งแต่เธออายุได้ 16เพราะเห็นเธอเข้าออกวังเป็นประจำ พอเธอรู้ทำให้เธอนั้นดีใจเป็นอย่างมากเพราะความฝันนั้นเป็นจริงที่จะได้แต่งงานกับเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง รวมถึงอิสริยยศชั้นสูงที่จะได้รับพระราชทานตามมาหลังจากการอภิเษกสมรสอีกทั้งอำนาจวาสนาที่เพิ่มขึ้นจากที่เป็นเจ้านายในวัง

แต่ด้วยนิสัยของเธอและความที่พ่อรักและปกป้องมาตลอดทำให้เธอนั้นไม่ถูกกับเมียน้อยของพ่อคนหนึ่ง ที่มีความอิจฉาริษยาเธอมาตลอด ซึ่งตัวเธอเองก็ดูถูกเมียน้อยคนนี้ของพ่อเหมือนกัน ยิ่งทำให้ทั้งคู่ไม่ถูกกัน พอรู้ข่าวเรื่องของอุษาที่จะได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสทำให้เมียน้อยของพ่อเธอนั้นทวีความอิจฉาเธอมาขึ้นจนวางแผนฆ่าเธอ โดยวางแผนจะทำให้เรือที่เธอโดยสารนั้นล่ม และทุกอย่างนั้นเป็นไปตามความตั้งใจของเมียน้อยพ่อเธอ เรือนั้นถูกแอบเจาะที่ท้องเรือและวันนั้นเกิดพายุฝนขึ้นทำให้เรือที่อุษานั่งนั้นล่มระหว่างทางที่เธอเดินทางไปหาป้า ทำให้อุษาเสียชีวิตจากการจมน้ำ ทั้งพ่อทั้งลุงเธอระดมบ่าวไพร่เพื่อค้นหาร่างของเธอ

จนผ่านไป 3วันถึงเจอศพเธอ หลังจากงานศพของเธอผ่านไป วิญญาณอาฆาตของเธอได้ปรากฏกายขึ้น ที่เธอกลับมาเพราะความอาฆาตแค้นต่อเมียน้อยพ่อเธอ วิญญาณของอุษานั้นรู้ความจริงว่าใครทำให้เธอตาย ความตายของเธอทำให้ความฝันของเธอที่จะเข้าพิธีอภิเษกสมรสในอีก 2เดือนได้พังทลายลง ทุกสิ่งที่เธอหวังไว้มันสูญสิ้นไปหมด ทำให้เธอนั้นอาฆาตคนที่สั่งฆ่าเธออย่างมาก วิญญาณของเธอได้หลอกหลอนเมียน้อยพ่อเธอจนเสียสติรวมไปถึงบ่าวไพร่ที่ร่วมมือทำตามคำสั่งทุกคนถูกเธอหลอกหลอนหมด

ทำให้ลุงของเธอที่เป็นคนมีวิชาอาคมชั้นสูงเพราะได้รับการถ่ายทอดจากปู่ของเธอมาอีกที ต้นตระกูลของอุษานั้นได้ศึกษาวิชาอาคมจนเชี่ยวชาญตั้งแต่สมัยปลายอยุธยาและได้ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ลุงของเธอได้จำใจที่จะจัดการกับวิญญาณของหลานรัก โดยจับวิญญาณเธอขังไว้แหวนมรกต ซึ่งตอนแรกลุงเธอตั้งใจว่าจะกักไว้ระยะเพื่อสั่งสอนและจะปล่อยวิญญาณเธอไปตามทาง แต่ไม่นานนักลุงเธอนั้นเริ่มป่วยหนักจนรู้ว่าไม่มีทางรอด แต่การจะปล่อยวิญญาณของอุษามาในตอนนั้นจะไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน เพราะเธอนั้นยังมีความอาฆาตอยู่ยิ่งถูกกักขังด้วยความอาฆาตจะยิ่งทวีคูณ และคงหาคนที่จะมาปราบเธอได้ยาก ซึ่งจะเป็นผลร้ายกับคนอื่นๆและไม่มีใครที่จะคลายมนต์สะกดนี้ได้เพราะเป็นอาคมชั้นสูง ลุงเธอจึงตัดสินใจที่จะร่ายเวทมนต์ทั้งหมดที่ตัวเองมีลงไปในแหวนมรกต เพื่อหวังจะให้อุษาได้ศึกษาเรียนรู้คาถาพวกนี้เพื่อจะได้รู้ถึงบาปบุญคุณโทษจากสิ่งที่ตนเองมอบให้และถือเป็นการขอโทษหลานสาวที่จับดวงวิญญาณมากักขัง ลุงของตั้งจิตอธิษฐานก่อนตายว่าถ้าวันใดที่อุษารู้ถึงบาปบุญคุณโทษขอให้มนต์สะกดนี้คลายลง เพื่อที่หลานสาวจะได้ไปตามทางของเธอ

แต่มันไม่เป็นอย่างที่ลุงของเธอหวังไว้ ถึงอุษาจะทนทุกข์ทรมานจากการถูกกักขัง แต่ตลอดเวลานั้นดวงวิญญาณของเธอนั้นได้ศึกษาคาถาอาคมที่ลุงเธอมอบให้จนเธอนั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้และการบำเพ็ญเพียรตลอดเวลาที่ถูกกักทำให้วิญญาณเธอมีอิทธิฤทธิ์อย่างมาก  และแหวนวงนั้นได้มีการเปลี่ยนมือเจ้าของไปหลายคนจนตกมาถึงมือนักสะสมของเก่าคนหนึ่งที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของเดิมและเก็บรักษาไว้อย่างดี  จนจู่ๆมนต์ที่สะกดเธอได้คลายลงเพราะคาถานั้นเสื่อมไปตามกาลเวลา วิญญาณของเธอได้หลุดพ้นออกมา  แต่เธอยังมีความอาฆาตอยู่ด้วยฌานวิถีที่มีจากการเรียนรู้ระหว่างถูกขัง ทำให้เธอรู้ว่าเมียน้อยของพ่อเธอนั้นกลับชาติมาเกิดเป็นนักธุรกิจชื่อดังส่วนเจ้าฟ้าที่จะแต่งงานกับเธอนั้นเกิดมาเป็นลูกชายของนักธุรกิจคนนี้ และกำลังจะแต่งงาน ด้วยความอาฆาตที่มีเธอจึงไปก่อนกวนและหลอกหลอนนักธุรกิจคนนี้ จนวิญญาณของเธอถูกอำนวยจับมาอีกครั้งเพราะตัวเธอนั้นต้านทานฤทธิ์ของไพลดำไม่ได้ แต่ด้วยการแผ่เมตตาและคำสั่งสอนของหลวงพี่ที่มีมาในดวงจิตของเธอหรือบางครั้งกายทิพย์ของหลวงพี่ก็มาเทศนาสั่งสอนเธอที่หน้าเรือนไทยจำลองที่เธอถูกขังอยู่

รวมไปถึงบทสวดมนต์คำบรรยายธรรมที่อำนวยเปิดให้เธอฟังตลอด ทำให้เธอนั้นจิตใจสงบลงและเข้าใจในเรื่องของบาปบุญคุณโทษ การอโหสิกรรม จนเธออโหสิกรรมให้กับทุกคนที่เคยทำร้ายเธอและเข้าใจดีว่าทำไมอำนวยกับหลวงพี่ถึงได้จับวิญญาณเธอมากักขังหลังจากที่เธอได้รับการปลอดปล่อย มันเกิดจากความหวังดีและดวงวิญญาณทุกดวงที่อาศัยใบบุญของหลวงพี่ที่สำนักสงฆ์นั้นก็ไม่ได้ถูกกักขัง แต่ถูกผูกด้วยธรรม ทุกวันพระใหญ่อุษาจะไปที่สำนักสงฆ์เพื่อฟังเทศนาจากหลวงพี่เหมือนกับดวงวิญญาณดวงอื่น  และตลอดเวลาที่ถูกกักขังอำนวยก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรเธอแถมยังเลี้ยงดูเธออย่างดี จนอำนวยคลายมนต์จากไพลดำที่สะกดเธอไว้เพื่อปล่อยเธอไป แต่เธอกลับไม่ไปไหนเพราะมันมีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ

หลังจากนั้นด้วยความที่เธอนั้นเป็นคนที่ฉลาดทำให้ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้อย่างทั้งคำพูดคำจา วัฒนธรรมใหม่ๆหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่ เธอได้ศึกษาจากโทรทัศน์ที่อำนวยเปิดดูหรือสื่อต่างๆที่มีในอินเทอร์เน็ตมีอยู่วันหนึ่งขณะที่อำนวยกำลังดูโทรทัศน์เธอได้ถามอำนวย

"นี่ ตอนนี้ไทยกับฝรั่งเศสเป็นมิตรกันแล้วหรือ"

อำนวยได้ฟังคำถามจากเธอนั้นก็รู้สึกงงๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเธอนั้นเป็นคนในยุค ร.ศ.112 เลยเข้าใจ

"เป็นมาตั้งนานแล้ว"

เธอนิ่งคิดไปขณะแล้วพูดขึ้นมา

"ตอนนั้นนะที่พวกมันเอาเรือมาจอดที่หน้ากงสุล ใครๆก็พูดกันว่าปืนบนเรือมันนะยิงได้ถึงพระบรมมหาราชวังฉันนี้กลัวแทบตาย นึกถึงตอนนั้นแล้วยังเจ็บใจไม่หายป้าฉันบอกว่าในหลวงท่านต้องเอาเงินในท้องพระคลังไปจ่ายให้มัน ตอนนั้นเราสู้มันไม่ได้เราเลยต้องยอม แถมต้องเสียดินแดนให้มันอีก"

เธอพูดด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจอย่างมาก ทำให้อำนวยนั้นนึกอะไรขึ้นมาเลยบอกเธอ

"นี่คุณรู้ไหมละ หลังจากนั้นเกือบๆ 50 ปีนะ เรารบกับฝรั่งเศสนะ และได้ดินแดนคืนมาด้วยแต่มันช่วงสั้นๆ"

"จริงหรือ ไหนเล่าให้ฉันฟังหน่อยแล้วเราชนะหรือเปล่า"

อุษาพูดด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น อำนวยนั่งนึกไปชั่วครู่

"เดี๋ยวก่อนนะไอ้ผมมันก็พวกหัวไม่ดีซะด้วย จำได้ไม่เท่าไหร่ มันแทบจะไม่มีในแบบเรียนเลยนะแต่อาจารย์ที่สอนสังคมเล่าให้ฟังเลยรู้เรื่อง"

อำนวยเล่าเรื่องสงครามอินโดจีนให้เธอจากความจำที่ได้ฟังมา ก่อนจะปิดท้ายให้เธอฟังว่า

"มันเป็นการรบช่วงสั้นๆนะ ไม่กี่เดือนเอง ก่อนที่ญี่ปุ่นจะเข้ามาไกล่เกลี่ย ไทยได้ดินแดนคืนบางส่วน ฝรั่งเศสต้องยอมเพราะตอนนั้นก็ประเทศถูกเยอรมันยึด ทางภาคพื้นยุโรปสงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังรบกันอยู่ แต่หลังจากนั้นไม่เท่าไหร่ในปลายปีนั้นญี่ปุ่นก็บุกประเทศไทย สงครามโลกครั้งที่ 2ก็ขยายมาถึงประเทศเรา หลังสงครามเราเป็นฝ่ายแพ้ก็ต้องคืนดินแดนให้ฝรั่งเศส"

อุษานั่งฟังตลอด ถึงจะไม่กระจ่างเท่าไหร่แต่เธอเองก็ใช้เวลาไปหาข้อมูลจากสื่อที่เธอเข้าถึงได้ ยิ่งอำนวยเป็นสมาชิกสตรีมมิ่งหนังอยู่ 2-3เจ้า ทำให้เธอได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆในยุคนี้จากหนังเหล่านั้นจนกลายเป็นผีที่ติดซีรียส์เกาหลีงอมแงม อำนวยนั้นต้องเปิดทีวีไม่ก็ไอแพดให้อุษาดูซีรียส์ตลอดทั้งวันไม่อย่างนั้นเธอจะกวนใจและอาละวาดไม่หยุด บางครั้งก็สร้างความปวดหัวให้กับอำนวยอย่างวันหนึ่งระหว่างที่อำนวยมาที่ร้านขายอุปกรณ์มือถือ  เสียงของเธอดังในดวงจิตของอำนวยบอกให้รีบกลับมาที่บ้านด่วนมีเรื่องสำคัญ ทำให้อำนวยรีบขี่มอเตอร์ไซด์กลับ พอรู้สาเหตุว่าเรื่องสำคัญนั้นคืออะไร อำนวยนั้นแทบจะหายาระงับประสาทมากิน  เพราะเน็ตนั้นหลุดทำให้เธอดูซีรียส์เกาหลีไม่ได้

"ก็ฉันไม่รู้นี่หว่าว่าเน็ตมันหลุด คุณเป็นเจ้าของบ้านก็ทำสิ"

เธอยืนท้าวสะเอวพูดแบบไม่สนใจอะไร อำนวยได้แต่ส่ายหน้า ด้วยความที่เธอนั้นติดซีรียส์เกาหลีอย่างงอมแงม ทำให้อุษานั้นเหมือนกับสาวๆในยุคนี้ เธอนั้นคลั่งไคล้ดารานักร้องเกาหลี ยิ่งเวลามีการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องเกาหลีในประเทศไทย อุษานั้นไม่เคยพลาด เธอไปดูถึงขอบเวที จนบางครั้งเธอนั้นสามารถปรากฏกายให้คนเห็นเพราะเธอลืมตัวจนทำให้พลังที่เธอมีอยู่นั้นสำแดงออกมาให้คนเห็นเพราะอารมณ์ของเธอที่ควบคุมไม่อยู่ แต่คนที่เห็นนั้นไม่แปลกใจ เพราะตัวอุษาเองด้วยความมีอิทธิฤทธิ์สูง เธอมักจะบันดาลให้วิญญาณของเธอแต่งตัวตามสมัย

 ยิ่งเวลาที่เธอไปดูคอนเสิร์ตเธอจะแต่งตัวให้เข้ากับคอนเสิร์ตที่เธอไปดู คนที่เห็นร่างของเธอนั้นไม่สงสัยว่าคนที่เต้นอยู่ข้างๆคือ"ผี" ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งวิญญาณของเธอนั้นจะตามพวกศิลปินเกาหลีที่เป็นผู้ชายเข้าไปถึงห้องแต่งตัวด้วย  มาจากนิสัยตั้งแต่สมัยที่เป็นคนของเธอที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยเท่าไหร่นัก รวมถึงอาหารการกินที่เธออยากกินอาหารเกาหลีแบบที่เห็นในซีรียส์ซึ่งอำนวยต้องลำบากในการไปหาซื้อเพื่อมาเซ่นไหว้เธอ

อุษาตอนสมัยที่เป็นคนนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่เก็บกดอารมณ์ทางเพศอยู่พอสมควรเพราะวัฒนธรรมประเพณีที่ทำให้ผู้หญิงในยุคนั้นแสดงออกเรื่องเพศไม่ได้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีชาติตระกูลอย่างเธอ จนเธอได้ทดลองรักกับสาวใหญ่ที่เป็นหัวหน้าโขลนของตำหนักในที่แอบตามจีบเธอมานาน หัวหน้าโขลนนั้นได้สอนบทรักของหญิงกับหญิงให้เธอจนเธออดไม่ได้ที่จะไปเอาไปลองกับบรรดาเพื่อนๆที่เป็นสาวชาววัง ตั้งแต่ตอนอายุ 15 เธออาศัยช่วงจังหวะที่เข้าไปนอนพักค้างคืนในตำหนักของป้าเธอ ซึ่งไม่มีใครสงสัยเพราะเธอเข้าออกและมาพักค้างคืนที่ตำหนักนี้ตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เธอได้ระเริงกับเพื่อนของเธอได้อย่างเต็มที่ มันเป็นการปลอดปล่อยความต้องการทางเพศของเธอได้อย่างดีแต่มันใช่ความต้องการที่แท้จริง จนเธอเกือบจะได้ลองกับของจริงตามที่ใจต้องการเธอมาเสียชีวิตไปเสียก่อน

และอำนวยนั้นก็พลาดเอง เพราะหลายครั้งตั้งแต่ที่วิญญาณเธอถูกกักอยู่ อำนวยพาเก๋กับตาลมาเสพสุขด้วยกันที่บ้านหลายครั้งทั้งแบบหมู่หรือแบบเดี่ยว บางครั้งที่สนามรักนั้นเป็นโซฟาที่ตั้งอยู่ชั้นล่างทำให้อุษาได้เห็นตลอด จนวิญญาณเธอเป็นอิสระ ทำให้เธอได้ตามไปดูถึงในห้องนอน มันปลุกความต้องการของผีสาวขึ้นมา ทำให้เธอเริ่มยั่วยวนสวาทอำนวยมาตลอด แต่อำนวยไม่สนใจเพราะไม่อยากจะเอากับผีทั้งๆที่รู้ว่าเธอนั้นสามารถสร้างกายหยายขึ้นมาได้อย่างสบายๆ ทำให้เธอไม่พอใจเริ่มแกล้งเก๋กับตาลหลายครั้งเช่นทำให้ไฟดับ หรือทำเป็นเงาหลอนๆระหว่างที่อยู่ในห้องน้ำ ทำให้ทั้งสองสาวไม่กล้ามาที่บ้านอำนวยอีก จนต้องเปลี่ยนไปเสพสุขกันที่อื่น

ยิ่งอำนวยเฉยอุษายิ่งยั่วอำนวยหนักขึ้น แถมยังปรากฏกายในชุดแบบซีทรูให้อำนวยอีกหลายครั้ง จนบางครั้งมาปรากฏในห้องนอนกลางดึกทำให้อำนวยต้องร่ายมนต์ให้ไพลดำที่ตั้งบูชาอยู่ในห้องพระ แผ่รัศมีกั้นไม่ดวงวิญญาณของเธอขึ้นมาชั้นบน ไม่อย่างนั้นวิญญาณของเธออาจลักหลับอำนวยเข้าสักวัน และทำให้อำนวยเข้าใจได้ว่าเพราะอะไรหลวงพี่ถึงไม่รับดวงวิญญาณของอุษาไว้ที่สำนักสงฆ์นอกเหนือจากฤทธิ์เดชที่เธอมีอาจไปสร้างความปั่นป่วนให้กับดวงวิญญาณดวงอื่น และอีกเรื่องคือเพราะมีลุงมั่นอยู่ซึ่งตลอดมาลุงมั่นนั้นไม่เคยสนใจดวงวิญญาณผู้หญิงคนไหนเลย ตั้งหน้าปฏิบัติธรรมอย่างเดียว แต่พอเจออุษานิสัยหัวงู บ้ากามที่สงบไปนานนั้นได้กำเริบขึ้น

ต่อหน้าหลวงพี่แกทำตัวปกติแต่ลับหลังแกทำตัวอีกอย่างทั้งพูดจาแทะโลม หรือทำกิริยาท่าทางที่บ่งบอกถึงความบ้ากาม ซึ่งอุษานั้นด่ากลับไปทุกครั้ง  อำนวยนั้นเห็นทุกครั้งแต่พูดอะไรไม่ออก ส่วนหลวงพี่ท่านเองก็ไม่ยุ่งกับเรื่องพวกนี้ ตัวอำนวยนั้นเองก็รู้ดีว่านี่คงเป็นเหตุผลหลักที่หลวงพี่ไม่ให้อุษามาอยูที่สำนักสงฆ์ เพราะไม่อย่างั้นวิญญาณลุงมั่นถูกอุษากระทืบจมธรณีแน่นอน เพราะวิชาอาคมของลุงมั่นนั้นเทียบอุษาไม่ติด แต่แกก็ไม่วายที่จะแทะโลมอุษาทุกครั้งที่เจอ เพราะรู้ว่าอุษานั้นเกรงใจหลวงพี่ไม่กล้าทำอะไรแก

แต่อุษานั้นไม่เคยช่วยอำนวยในเรื่องจับวิญญาณเลย เพราะเธอถือว่าไม่ใช่เรื่องของเธอแต่มีติดรถไปด้วยบางครั้งที่อำนวยไปจับวิญญาณหรือไปส่งของ เธอบอกว่าเบื่อไม่อยากอยู่บ้าน ทั้งๆที่วิญญาณเธอจะไปไหนมาไหนได้สะดวกแต่เธอมักจะไปกับรถของอำนวย เวลาที่อำนวยจัดการกับพวกวิญญาณเธอจะอยู่เฉยๆไม่ยุ่งเกี่ยวอะไร   แต่มีอยู่ 2 ครั้งที่อำนวยได้เห็นฤทธิ์เดชของเธอ ครั้งแรกอำนวยต้องไปจับผีกุมารทองที่อาละวาดหลอกหลอนชาวบ้าน แต่พออำนวยจับได้ กุมารทองที่นิสัยทะลึ่งได้พูดจาแซวพร้อมแทะโลมอุษาจนเธอโกรธ อำนวยเห็นเธอเข้าไปเตะกุมารทองจนกลิ้งเป็นลูกขนุน และตามไปกระทืบอย่างไม่ยั้งก่อนจะร่ายเวทย์จนตัวกุมารทองนั้นมีไฟลุกท่วมตัว  ทำให้กุมารทองนั้นต้องร้องขอความเห็นใจจากเธอ อุษานั้นคลายมนต์ให้แต่ตามไปตบหัวอีก2 ฉาดใหญ่ เพราะกุมารทองไปเรียกเธอว่าแม่

"พ่อมึงไม่เคยเอากับกูไม่ต้องมาเรียกกูว่าแม่"

เธอสำทับลงไปที่ร่างกุมารทองที่นอนตัวสั่นอยู่แทบเท้าเธอ  อีกฝ่ายนั้นค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วพนมมือ

"จ๊ะ ฉันขอโทษที่ไปล่วงเกินพี่สาวคนสวย"

"เออเรียกแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย ไอ้เด็กเวรให้รู้มั่งว่าใครเป็นใคร ที่โดนแบบนี้เพราะความปากหมาของมึง จำไว้อย่าริอ่านมาทะลึ่งกับกูอีก"

เธอยิ้มออกมาอย่างสะใจที่กำราบอีกฝ่ายนั้นกลัวเธอจนตัวสั่น พออำนวยเอาวิญญาณกุมารทองนั้นมาส่งให้หลวงพี่ ท่านก็เมตตาและตั้งชื่อให้ว่าจุกเพราะกุมารทองนั้นไม่มีชื่อ จนถึงปัจจุบันกุมารทองตัวนี้ได้ปรับปรุงนิสัยและตั้งใจรับคำสอนของหลวงพี่อย่างตั้งใจ ส่วนอีกครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อ2-3เดือนที่ผ่านตอนที่อำนวยกลับจากส่งของในจังหวัดภาคอีสาน และระหว่างทางช่วงกลับโดนผีเด็กสก๊อยหลอกอำนวยจัดการจับผีสาวทันที แต่ผีสาวนั้นโดนอุษาตบเพราะไปเรียกเธอว่า"ป้า"จนอุษาด่ากลับ  ผีเด็กสก๊อยนั้นต่อปากต่อคำไปเรียกเธอว่าอีแก่ เลยโดนเธอตบไม่ยั้งแถมร่ายเวทย์ให้มีเชือกอาคมมารัดตัวทำเอาวิญญาณเด็ก สก๊อยนั้นกลัวเธอจนลนลาน

"โอ๊ยกลัวแล้ว จ้ากลัวแล้ว ฉันขอโทษคุณพี่ด้วย โอ๊ยจะตายอยู่แล้ว"

เสียงร้องครวญครางนั้นดังออกมาไม่หยุดจนอำนวยต้องขอให้อุษาหยุด ดวงตาของเธอในตอนนั้นลุกวาวเป็นสีแดง

"ครั้งนี้กูละเว้นให้ แต่ครั้งหน้ามึงยังปากหมาแบบนี้ระวังจะไม่เหลือวิญญาณให้เห่าหอนอีก"

อีกฝ่ายนั้นดูจะเข็ดจริงๆเพราะดูหวาดกลัวจากสิ่งที่ได้รับถึงกับนั่งพับเพียบพนมมือตัวสั่นหลังจากที่อุษาคลายมนต์สะกดให้ จากที่เคยปะมือกันมาแล้วรวมถึงเห็นการใช้คาถาของเธอกับกุมารทองผีเด็กสก๊อย ทำให้อำนวยนั้นรู้ว่าถ้าไม่ใช้ไพลดำช่วยตนเองอาจจะแพ้ให้กับอุษาก็เป็นได้ แต่หลายๆครั้งที่ตัวเธอทำความปวดหัวให้ อำนวยรู้ดีว่าพลังที่เธอมีนั้นสามารถที่จะกำหนดหรือทำอะไรได้อย่างสบายๆ อย่างเรื่องปิดเปิดโทรทัศน์หรือไอแพด เพื่อที่จะเลือกดูสิ่งที่เธอชอบแต่เธอไม่ยอมทำรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดที่เธอสามารถเปิดปิดเองได้ อำนวยนั้นต้องทำให้ตลอด จนบางครั้งอำนวยถึงกับโวยออกมาแต่เธอตอบแบบลอยหน้าตาแถมกลายร่างไปนุ่งชุดบิกินนี่ที่บางจนเห็นหัวนมและร่องหีอย่างชัดเจนว่า

"ทำเองทำไม เก็บพลังงานไว้เย็ดกับพี่นวยควยโตดีกว่า"

อำนวยได้แต่เม้มปากอย่างขัดใจแต่ต้องทำให้เธอ ถึงตัวอุษาเองจะไม่ช่วยอำนวยในการจับผี แต่อำนวยรับรู้ว่าตั้งแต่ปล่อยวิญญาณของเธอให้เป็นอิสระนั้น บ้านที่ตนเองอยู่นั้นดูสะอาดขึ้นมากถึงอำนวยจะทำความสะอาดอยู่ทุกวันจากนิสัยที่ติดมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ทุกซอกทุกมุมในบ้านนั้นไม่มีฝุ่นจับเลยและอีกเรื่องที่อำนวยนั้นไม่เคยรู้ ว่าร้านของตนเองในตลาดเคยเกือบจะถูกขโมยมาแล้วหนหนึ่งเพราะมีเจ้าของร้านที่ขายอุปกรณ์มือถือที่อยู่ไม่ห่างจากร้านของอำนวยนักเกิดความอิจฉาเพราะเห็นร้านอำนวยขายดีกว่าเลยพาพวกจะมางัดร้าน แต่อุษานั้นไปปรากฏร่างเป็นเงาดำยืนอยู่หน้าร้านอำนวยทำให้พวกนั้นต่างพากันกลัวและไม่กล้าที่จะงัดร้านและวันต่อมาได้เลิกขายของที่ตลาดแห่งนั้นทันที เพราะคิดว่าผีเจ้าที่หลอก

 ส่วนป้านานั้นอุษาไม่ค่อยชอบเพราะตัวป้านาเองเป็นคนที่มีนิสัยชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน ตัวป้านานั้นเคยอยู่กับครอบครัวของลูกสาวที่ต่างจังหวัดแต่ด้วยนิสัยของแกนั้นทำให้ไม่ลงรอยกับลูกเขยแกเลยมาอยู่บ้านลูกชายคนเล็กที่กรุงเทพ แต่ลูกชายคนเล็กนั้นทำงานอยู่กับเรือเดินสมุทรนานๆนั้นกลับบ้านที ตอนแรกๆอำนวยเองก็ไม่ได้คุยกับแกเท่าไหร่นัก แต่วันหนึ่งตั้งแต่ที่อุษายังไม่ถูกจับตัวมา อำนวยไปเห็นแกนอนไม่ได้สติอยู่ที่ลานจอดรถในบ้านของแก อำนวยเลยรีบพาแกไปส่งโรงพยาบาลและรีบติดต่อลูกสาวหลังจากที่แกฟื้น แกป่วยเพราะความดันโลหิตขึ้นสูงจนแกเวียนหัวทำให้หมดสติ ดีที่อำนวยมาเห็นก่อนจึงพาส่งโรงพยาบาลทัน หลังจากวันทั้งลูกสาวและลูกชายแกก็ฝากให้อำนวยช่วยดูแลแม่ ซึ่งอำนวยนั้นเต็มใจ จึงคอยช่วยดูแลแกตลอด จนป้านานั้นอยากจะตอบแทนมาทำความสะอาดบ้านให้เพราะเห็นอำนวยอยู่คนเดียวแต่อำนวยปฏิเสธ  ซึ่งตอนแรกที่อำนวยมาอยู่แกเองก็แอบสังเกตุตามนิสัยของแก จนแกเห็นตาลกับเก๋มาที่บ้านอำนวยบ่อยๆ ทำให้แกพอจะเดาออก และยิ่งช่วงหลังที่อุษามาอยู่แกมักจะได้ยินเสียงทีวีดังมาจากบ้านของอำนวยในช่วงที่อำนวยไม่อยู่บ้าน ทำให้แกมาด้อมๆมองๆเป็นประจำ จนอำนวยต้องโกหกไปว่าลืมปิดทีวี หรือไม่ก็บางครั้งแกเห็นเงาของอุษาในบ้าน แต่อำนวยต้องยืนยันว่าไม่ใครอยู่ในบ้าน พยายามให้ป้านาเข้าใจว่าตาฝาด เป็นสาเหตุที่ทำให้อุษาไม่ค่อยพอใจป้านาเท่าไหร่

ด้วยฌานวิถีที่เธอมีทำให้อุษานั้นรู้เรื่องของอำนวย ว่าเป็นคนที่มีวิชาคมสูงสูสีกับเธอ แต่อำนวยใช้วิชาอาคมในทางที่ดีและรู้ว่าอำนวยนั้นมีเงินเก็บจำนวนมหาศาลถึงจะได้มาจากการพนันถึงจะใช้วิชาอาคมช่วยก็ตามทีแต่อำนวยรู้จักพอก่อนจะมาทำงานสุจริตและไม่โอ้อวดว่าตนเองนั้นรวย ถึงตอนนี้เธอจะเป็นอิสระแล้วแต่เธอก็ยังพอใจที่จะอยู่ป่วนอำนวยต่อไปอีก จนช่วงหัวค่ำวันนั้นหลังจากที่อำนวยได้จัดการงานที่ร้านเสร็จเรียบร้อย รวมทั้งของที่ถูกสั่งทางออนไลน์ที่อำนวยนั้นจัดการแพ็คของและบริษัทขนส่งเข้ามารับของเป็นที่เรียบร้อย อำนวยเดินไปขึ้นรถที่มาจอดรอที่ลานจอดรถของตลาด เป็นเก๋ที่ขับรถมารับ จุดหมายปลายทางของทั้งคู่นั้นอยู่ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ตาลได้มาเปิดห้องรออยู่แล้ว หลังจากที่ทั้งสองสาวไม่กล้าไปเล่นเกมส์เซ็กส์หมู่ที่บ้านอำนวย จึงต้องมาใช้ห้องพักในรีสอร์ทหรือโรงแรมเป็นสถานที่เซ็กส์หมู่แทน  เพราะตาลเองก็ไม่สะดวกที่บ้านเช่นเดียวกับเก๋ที่ไม่กล้าใช้คอนโดที่เธอซื้อมาได้2-3ปีเป็นสถานที่ระเริงรักเพราะกลัวตกเป็นเป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่ถ้าอำนวยหรือตาลไปคนเดียวนั้นมันอีกเรื่อง

 หลังจากที่เข้าไปในห้องได้ไม่นานนัก  ทั้งสามที่ไม่ได้พูดอะไรกันมากนักต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าให้จนเปลือยกายทั้ง3คนและพาร่างเปลือยกันไปที่เตียง ตาลกับเก๋นั้นนอนเคียงข้างกันโดยที่อำนวยนั่นคร่อมอยู่บนตัวของทั้งคู่ หุ่นของทั้งสองสาวนั้นใกล้เคียงกันแต่ตาลนั้นออกจะอวบกว่าเล็กน้อย แต่นมใหญ่หีใหญ่และหมอยดกทั้งคู่ อำนวยก้มหน้าลงไปดูดดื่มที่เต้านมของตาลก่อนจะสลับมาที่เก๋

ทั้งสองสาวสาวนั้นต่างแอ่นกายให้คู่ขาดูดดื่มความหอมหวานจากเต้า จนอำนวยเลื่อนหน้าลงไปด้านล่างพร้อมขยับหน้าที่โคกหีของเก๋ แล้วใช้ลิ้นกวาดเข้าไปในรูหีทันที เก๋นั้นผวาตัวขึ้นแต่เธอไม่สามารถที่ร้องครางออกมาได้เพราะตาลนั้นขยับตัวมาคร่อมด้านบนของเธอพร้อมริมฝีปากของตาลนั้นมาทาบริมฝีปากเธอ ทั้งสองต่างแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม จนตาลขยับตัวขึ้นไปเอานมจ่อที่ปากของอีกฝ่าย เก๋นั้นสนองตอบทันทีหัวนมของตาลถูกริมฝีปากของเก๋เม้มและดูดทันที ทั้งสามต่างเพลิดเพลินกันในบทรักท่านี้ จนอำนวยถูกจับมาให้นอนหงายบนที่นอน

ตาลนั้นใช้ปากกับหัวนมของอำนวย ส่วนด้านล่างเป็นเก๋ที่กำลังใช้ลิ้นเลียควยที่แข็งตัวเต็มที่ของอำนวย จนตาลค่อยๆเลื่อนตัวลงมา ทั้งสองสาวต่างผลัดกันใช้ปากกับควยอำนวยอย่างชำนาญ  จนเก๋เป็นฝ่ายเลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน เธอเอาโคกหีไปจ่อที่ปากอำนวยส่วนตาลนั้นขยับตัวเอาโคกหีมาจ่อที่ควยพร้อมเอามือจับควยอำนวยให้มาจ่อตรงรูหีแล้วค่อยๆเลื่อนตัวให้หีเธอครอบควยอำนวยจนมิดด้ามก่อนจะค่อยๆโยกตัวไปมาอย่างช้า พร้อมเอามือโอบไปที่ตัวของเก๋ที่นั่งอยู่ด้านหน้าและบี้ไปที่หัวนมทั้งสองข้าง ทำเอาเก๋ครางออกมาไม่หยุดพร้อมตัวที่ส่ายไปมา เป็นบทรักที่ทั้งสามต่างคุ้นชินกันเป็นอย่างดี จนไปถึงจุดหมายไล่ๆกัน

หลังจากที่นอนพักไม่นาน เก๋ที่ยังรู้สึกไม่อิ่มจากเกมรักที่ผ่านมา เธอขยับตัวไปหาตาลที่นอนอยู่ข้างแล้วพลิกตัวขึ้นไปนอนทับก้มหน้าลงเอาไปประกบ หม้ายสาวทั้งที่ยังอ่อนเพลียนั้นตอบรับคู่ขาสาวทันทีมือทั้งสองของตาลตวัดขึ้นมากอดรัดพร้อมตอบรับการจูบที่ดูดดื่ม  นมขนาดใหญ่ของทั้งสองสาวนั้นทับกันจนทะลักออกมาด้านข้างจนเก๋เลื่อนจมูกไปไซร้ตามแก้ม ซอกคอของตาลก่อนจะเลื่อนหน้าลงมาเต้าอวบใหญ่ หัวนมสีน้ำตาลนั้นบานขยายชูชันจากอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง เก๋ดูดสลับไปมาทั้งสองเต้าพร้อมกัดไปแรงๆ ทำเอาตาลผวาและร้องออกมาสุดเสียงด้วยความเสียว เก๋ดูดดื่มบนเต้านมของเพื่อนสาวอยู่ครู่ใหญ่ ทำให้ตาลที่อารมณ์สวาทเดือดพล่านทนไม่ไหว ดันหัวเก๋ลงไปด้านล่างทันที ใบหน้าของเก๋ลงไปเกลือกบนโคกหีขนาดใหญ่ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำเงี่ยนของตาลกับอำนวย เก๋นั้นใช้ลิ้นเลียไปทั่วโคกหีและขนหมอย ก่อนจะเอาลิ้นกวาดเข้าไปในรูหีของตาล

"ซี๊ดดด แบบนั้นละเก๋  อูยยย ดี ซี๊ดดดด"

มือทั้งสองของตาลกดหัวของเก๋ให้แนบไปกับโคกหีเธอพร้อมแอ่นก้นรับการลงลิ้นและนิ้วที่ล้วงเข้าไป เก๋ใช้ลิ้นและนิ้วสร้างความเสียวให้กับตาลจนตัวเองทนไม่ไหว เก๋ขยับตัวเลื่อนขึ้นมาด้านบน จนโคกหีของเธอมาทาบกับโคกหีของตาล เก๋เริ่มขยับตัวไปมาพร้อมก้มหน้าลงไปจูบแลกลิ้นกับตาล ซึ่งตาลนั้นสนองตอบอย่างดีเธอขยับตัวรับด้วยความชำนาญ มือทั้งสองข้างเธอลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของคู่ขาสาว จนมาสะโพกที่อวบอิ่มตาลแล้วขยำไปแรงๆ เหมือนเป็นการกระตุ้นอารมณ์สวาทของเก๋ให้ลุกโชนขึ้นอีก เก๋ขยับตัวเร็วขึ้น โคกหีที่ใหญ่ของทั้งสองสาวต่างสีกันไปมา เช่นเดียวกับเต้านมที่อวบใหญ่นั้นบดกันไปมาจนล้นทะลัก  อำนวยนั้นนั่งดูอยู่ไม่ห่างถึงจะเห็นมาหลายครั้งแต่มันทำให้อารมณ์นั้นระอุขึ้นมา แต่อำนวยอดใจไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้สองสาวบรรเลงเพลงรักกันต่อไป

หลังจากที่เอาหีสีกันมาครู่ใหญ่ ตาลร้องบอกให้เก๋เปลี่ยนท่าเป็นท่า 69  เก๋นั้นขยับตัวลุกขึ้นมานั่งพร้อมบอกให้ตาลขยับตัวไปนอนขวางบนที่นอน พอตาลขยับตัวไปนอนตามที่เก๋บอก เก๋จัดการคร่อมไปบนตัวตาลโดยหันหน้ามาทางเท้า แต่เธอยังไม่ทันก้มหน้าไปที่โคกหีของอีกฝ่าย ตาลนั้นจัดการผงกหัวพร้อมเอาลิ้นกวาดเข้าไปในรูหีก่อน  เก๋สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงไปลงลิ้นบนโคกหีของตาล ต่างฝ่ายต่างใช้ทั้งลิ้นกับนิ้วปรนเปรอรสสวาทให้กัน ทั้งคู่ทำรักให้กันในท่า69กันพอประมาณถึงเปลี่ยนท่ามาอยู่ในท่านั่งหันหน้าเข้าหากันขานั้นกางออกพร้อมเอาโคกหีประกบกัน แขนทั้งสองนั้นยันไปบนพื้นเตียงพร้อมเอาหีสีกันไปมา พร้อมกับนมที่กระเพื่อมตามจังหวะของทั้งคู่ประสานกับเสียงครางที่ดังออกมาไม่หยุดจนทั้งสองสาวไปถึงจุดหมาย อำนวยนั้นนั่งดูตั้งแต่ต้นจนแต่ที่ไม่รู้ว่าระหว่างบทรักอันดุเดือดตั้งแต่เริ่มแรกนั้นมีสายตาคู่หนึ่งมองดูอยู่ด้วยความตื่นตาตื่นใจโดยไม่พลาดแม้แต่วินาทีเดียว เจ้าของสายตาคู่นั้นคืออุษานั่นเอง

อุษาคงเสียวน่าดู ลงอีกคนอำนวยไหวไหม?

อุษาแอบสิงร่างใครไปเล่นเสียวกับอำนวยมั้ยนะ และอำนวยเสียท่าให้อุษาหรือป่าวนะทำให้ดูขนาดนี้ผีก็มีอารมณ์เหมือนกันนะครับ

อำนวยน่าตะใช้อุษาแปลงกายเป็นดาราคนนั้นคนนี้แล้วร่วมรักน่าจะสนุก

นี่ลุ้นมาก เมื่อไหร่พระเอกจะพลาดท่าให้ผีสาวซะที555

ให้อุษามาร่วมด้วย

อุษาจะได้เสียตัวเมื่อไหร่กัน 

ติดตาม​ครับ​

นักดนตรีไทยชอบในสิ่งนี้ 5555

โดนเอาแน่ๆ

วันนึงยังไงก็ต้องพลาดโดนเจ๊อุษาจนได้