★★★★★★★★★★★

ความเดิมตอนที่แล้ว - ย้อนไปอ่านน่าจะเข้าใจง่ายกว่า

















มิ้นต์ / เจ้าหญิงน้ำแข็ง

สาวสวยผมสั้น ที่มีท่าทีเย็นชาซะเหลือเกิน
แต่แปลกที่ทั้งผม และ คุณผู้อ่านหลายท่าน
กลับรู้สึกว่ามันคือสเน่ห์ในอีกรูปแบบนึง



★★★★★★★★★★★


เอื้ออออ อ่ะเฮื้อออออ ชอบมิ้นต์เปล่า ดูคำถามโว้ยยยย แล้วมองผมตาใส่แป๋วเลยแฮะ เฮ้อออ ยะ แย่แล้วเอาไงดี พอผมช้านิดเดียว เธอทำแก้มป่องใส่เลย แล้วบอกเชอะงอน...

เฮ้ย !!! นี่ผมฝันไปป่ะเนี่ย มิ้นต์บอกว่างอน ผมเหมือนโดนสตั๊นติดมัลติแคช  x4 ตุ้ง ๆ ๆ ๆ  จังหวะนั้นเธอหันหลังหนี เอาแล้วงานซวยละ คือผมเหวอที่เธอถามก็พออยู่แล้ว ยังมาออกอีกว่า เชอะงอน

โอ้ยยย ทำไรไม่ถูกเลย เธอพูดขึ้นมายังไม่กอด อีก  ผมก็รีบกอดเลยตอนนั้น แปปนึงเธอพลิกตัวมานอน และจ้องหน้าผม เธอบอกว่า งอนไปก็เท่านั้น คนซื่อบื้อๆอย่างพี่จะง้อใครเป็น เสียเวลางอน

เธอพูดแล้วกอดผมแน่นเลย อูยยย ใจเต้นตูมตามเลย ตอนนั้นมิ้นต์ที่กอดหน้าแนบอกของผม เธอก็รับรู้ เธอแหงนหน้ามาแล้วบอกใจเต้นตูมตามเลย ไม่ต้องพูดก็ได้รู้คำตอบละ  ... อะ เฮ้ออออออออ !!! ยะแย่แล้วครับ

เธอกอผมและนอนอยู่แปปนั้น นี่มันฝนหลงฤดูหรือไงนะ นี่ก็เกือบจะธันวาคมแล้วนะ... แต่ว่าเอาเถอะฟ้าฝนเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ แล้วนี่ก็บนเขาบนดอย ฝนตกพอสมควรเลยล่ะ คงต้องทำใจว่าพรุ่งนี้ดินโคลนอาจจะเละ เดินทางอาจจะไม่สะดวกก็ได้

ผมเลยบอกมิ้นต์ไปว่าพรุ่งนี้บางทีอาจจะไปไม่ได้นะ เพราะว่าในมันตก ทางมันจะไม่ค่อยสะดวก มิ้นต์บอกอือๆ แล้วซุกนอนต่อ ผมถามง่วงเหรอ เธอบอกงื้มม อากาศมันเย็นๆอยากนอนง่ะ หนูนอนได้มั้ยพี่โทน ผมบอกนอนได้สิ่

เธองื้มๆ แล้วซุกตัวผมนอนต่อ คืออากาศก็เย็น ฝนก็ตก ผมลองหายใจแบบพ่นๆดู เป็นควันจริงๆแฮะ ก็คิดเอาครับว่าเย็นไม่ต่างจากเปิดแอร์เลยครับ นอนกอดกันแบบนี้ยังไม่มีความรู้สึกอึดอัดหรือร้อนเลย

จริงๆตามหลักแล้ว ไม่ควรกางเต็นท์ใต้ต้นไม้นะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าข้างในมันเปราะหรือพร้อมหักตลอดเวลารึเปล่า แต่อย่างที่บอกครับ ผมดูจากขนาดกิ่งไม้ที่แผ่ใบ แตกกิ่งก้านออก น้ำหนักมันไม่สามารถทำให้เต็นท์พังได้

ผมเลยกางตรงนี้นี่แหละ ฝนเริ่มเพิ่มกำลังขึ้นเล็กน้อยแต่เต็นท์ของผมก็ยังสบายๆ เม็ดคนลงมาแค่เปาะแปะๆ เพราะมีใบไม้กิ่งไม้ช่วยซับเอาไว้ พอมานอนคิดๆแล้ว วันนั้นที่ตัดสินใจซื้อเต็นท์ออกัสตัวนี้ ถือว่าคุ้มมากเลยนะ

ผมคิดไม่ออกเลยว่าถ้าเอาเต็นท์อีกตัวที่ถูกกว่า แล้วเอามาใช้มันจะเป็นยังไง คือไม่ใช่อีกรุ่นมันไม่ดี แต่เพราะรุ่นนี้มันดีกว่า เต็นท์ 3 ตอน มีเทอเรสด้านหน้า แบบนี้


เอาไว้ใช้นั่งชิลๆรับลมเย็นๆ ส่วนต่อผมเรียกว่าช่วงกลางตามที่ภาพวงๆครับ


มาผมเอาไว้สำหรับถอดรองเท้า และวางพวกของที่เอาไว้ใช้บ่อยๆ เช่นพวกกระติกน้ำ แกลลอนน้ำ เป็นส่วนกึ่งๆเปียกครับ ยกตัวอย่างก็อย่างไปล้างตัว ล้างมือมา หรือ อย่างเช่นตากในมานี่แหละ และที่สำคัญรองเท้าผมจะเก็บไว้ตรงส่วนกลางนี้

ในส่วนที่นี้ ผมคุยกับมิ้นต์เอาไว้ว่า เราจะจัดการตัวเองให้แห้งสนิทตรงนี้นะ เพราะว่าในห้องเรา ต้องแห้งสนิท จะได้นอนกันสบายๆ และส่วนที่3 นี้แน่นอนครับห้องนอน ปูด้วยผ้านวมผืนใหญ่ๆ จะได้นอนไม่ปวดหลัง

และจะมีพวกหมอน พวกกระเป๋า วางไว้แต่ละมุม และมีตะเกียงใส่ถ่านห้อยอยู่ แล้วที่ผมยกทั้งใจให้เต๊นท์นี่ห้อนี้เลย คือเหมือนเขารู้ว่า ผมไม่ชอบจ้องแสงจ้าๆเท่าไร ในมุมที่แขวนตะเกียงมเจาจะมีผ้าทึบชิ้นเล็กๆ สามเหลี่ยมมีเชือกเกี่ยวมาใช้

เย็บติดมาเพื่อให้เกี่ยว เอาไว้กั้นแสงไม่มองเห็นตรงๆ เวลาจะใช้งานก็แค่เอาเชือกที่ติดมาไปขึงกับหูกระต่ายที่เขาเย็บเอามาไว้ให้ พูดง่ายๆว่ามุมที่ผมกับมิ้นต์นอนแสงจะบางกว่าจุดอื่นนิดหน่อย ถนอนสายตาได้ดีเลยล่ะ 5, xxx ค่าเต็นท์ถือว่าคุ้มมากเลยแฮะ


มิ้นต์ขยับตัวนิดๆ เธอนอนตะแคงข้างหันหลังให้ ผมไม่รู้ว่าหลับยัง แต่ว่าอย่างที่เขียนมาทุกตอน บอกว่าทุกครั้งว่าการนอนหนุนแขนมันไม่ได้โรแมนติกเหมือนในละคร ผมขยับๆ จับหมอนประจำตัวมิ้นต์ขยับๆมาและจัดการพยุงหัวของเธอแล้วหนุนดีๆ 

เธอพลิกตัวขยับๆและนอนซุกผมอีกที ตอนนี้ผมจะนอนให้สูงกว่าเธอประมาณนึง ก็นอนกางเกง มิ้นต์จะนอนตะแคงกอดอยู่ช่วงจุ๊กกุแร้แหละครับ แบบนี้ผมจะได้ลูบหัวเจ้าหญิงได้ ถ้าเธอนอนดิ้นหรือไม่สบายตัว

แต่ด้วยอากาศที่เย็นแบบนี้ยังไงก็น่าจะนอนหลับสบายครับ...  แต่ผมยังนอนไม่ค่อยหลับแฮะ ผมแหงนหน้ามองเต็นท์แล้วคิดถึงตอนไป... ทะเลกับดาว.. คือมันดูหะรูหะรา หรูหราหมาเห่ามากเลยนะ แต่กับมิ้นต์ตอนนี้อื่มม ผมพามานอนเต็นท์เฉยเลย

คืออย่างที่ทุกท่านรู้ว่าตอนที่ตกลงกันว่าจะพาสาวๆไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง ใจผมน่ะคิดแล้วว่าไปแต่ละที่ความสะดวกสบาย ยังไงก็ไม่แตกต่างกันมากแน่ๆ แต่ว่า... ตัวแปรเลยคือโดนแม่อรจับได้นี่แหละว่าไปพัทยา ความ VVIP จึงบังเกิด มันเลยกลายเป็นทริปในฝันของดาวไปเลย ผมกอดไหล่เจ้าหญิงเบาๆ

เสียงผู้คนตอนนี้ก็เริ่มเงียบแล้ว จะมีก็เสียงฝนที่สาดกับต้นไม่รอบๆกับลมที่พัดมา รู้สึกผิดกับมิ้นต์นิดๆแฮะ แต่ค่อยไปชดเชยให้เธอทีหลังแล้วกัน ยังไงซะการมาเที่ยวครั้งนี้ก็คงต้องทำให้เต็มที่ที่สุด แล้วตอนนั้นเจ้าหญิงน้ำแข็งที่เหมือนจะหลับไปแล้วก็พลิกตัวมาหาผม เธอเรียกพี่โทนนนนน

ผมก็หืมยังไม่หลับเหรอ เธอบอกหึ่ แล้วเจ้าหญิงน้ำแข็งก็จับหน้าผมไว้ แล้วถามเป็นอะไร ผมบอกม่ายมีไร เธอบอกไม่อ่ะต้องมีแน่ๆ มิ้นต์เธอแหงนหน้ามาทำหน้าตามู่ยๆแล้วบอกว่า พี่โทนทำหน้าเหมือนตอนโดนบังคับให้กินยาจีนอ่ะ ผมบอกเดี๋ยวๆ มันคือยังไงเนี่ย มิ้นต์บอกก็หน้ามุ่ยๆ แล้วพูดว่าแบบที่พี่หมิวบอกว่าเหมือนลิงป่วย ผมก็อ้าวๆๆ อะไรเนี่ย แล้วเธอก็จับหน้าผมแน่นขึ้นแล้วถามว่า ตกลงเป็นอะไรบอกมิ้นต์มาเลย

ผมก็กอดเอวเธอไว้นะ แล้วบอกว่าอืม... มันยังไงดีล่ะ กับตอนที่พาดาวไปเที่ยวได้ทั้งล่องเรือ ได้ทั้งไปนอนเกาะ ได้ไปเดินเล่นไหนต่อไหน แต่กับมิ้นต์พี่พามานอนติดฝนซะงั้น มิ้นต์บอกโถ่เอ๊ยนึกว่าอะไร แล้วเธอก็บิดตัวไปมาๆ ก่อนจะนั่งขึ้นและมองผมก่อนจะบอกว่า ก็บอกไปแล้วอ้ะว่ามิ้นต์ไม่ชอบทะเล มันเหนียวๆตัวอ่ะ แล้วก็แดดร้อนด้วย จำไม่ได้เหรอว่ากลับมาอ่ะตัวคล้ำกันไปเท่าไร

พี่ดาวอ่ะผิวกลับมาขาวไวอยู่แล้ว เพราะขาวเป็นธรรมชาติอ่ะ แต่พี่ต้องโปะครีม โบ๊ะครีมตั้งหลายอาทิตย์กว่าจะขาวกลับมาเท่าเดิม มิ้นต์อ่ะไม่อยากตากแดดทะเลหรอกเดี๋ยวดำ แล้วอีกอย่างมิ้นต์อยากมาแบบนี้อ่ะ เราก็คุยกันแล้วนี่ว่าอยากมาแบบนี้อ่ะ แล้วอีกอย่างอ่ะตอนนี้มันก็ค่ำแล้ว ฝนก็ตกแบบนี้จะมีไอ้บ้าที่ไหนมาเดินเล่นกัน ไอ้บ้าพี่โทนชอบคิดเองเออเอง

เธอพูดแล้วก็หยิกแก้มผมเบาๆแล้วบอกว่า ถ้ารู้สึกไม่ดีคราวหน้าก็พามิ้นต์ไปบ้างดิ่ ก็แค่นั้นเอง อื้อหืออออ เหมือนผมได้รับการ Heal เลยล่ะครับ มิ้นต์บอกผมว่า อีกอย่างมาที่นี่อ่ะอากาศเย็นม๊ากกก มิ้นต์ชอบแบบนี้มากกว่า เธอขยับมาก้มตัวกอดผมแล้วบอกหนาววววว อยากกอด ผมเอื้อมมือไปกอดเธอไว้ มิ้นต์ก็ค่อยๆ นอนๆ นอนๆ จนลงมานอนท่าเดิม เธอหนุนแขนนะตอนแรก แล้วก็ขยับๆลงมา จับหมอนของเธอมาหนุนๆๆ

เธอนอนหงายขยับๆมาเบียดๆผม เธอเหยียดแขนขึ้นบิดขี้เกียจ อื๊ดดด แล้วบอกว่าพรุ่งนี้ไปผาหัวนาคถ่ายรูปกันเยอะๆเลยดีกว่าเนอะพี่โทน ผมบอกอื้มๆ เธอกลับตัวนอนตะแคงหันหลังให้ ผมก็กอดเอวเธอไว้นะ เธอจับมือผมไว้ก่อนจะหันมาพูดด้วยน้ำเสียงหวานๆว่า คืนนี้ห้ามนะ

ผมก็อ้าวๆพี่ยังไม่ได้คิดอะไรเลยนะ มิ้นต์คิดเหรอ มิ้นต์บอกว่าไว้ใจไอ้คนมักมากแบบพี่ไม่ได้หรอก ผมก็กอดเธอแน่นๆ งับไปที่คอเธอเบาๆแล้วกอดนอนไปแบบนั้น เสียงฝนเบาๆจนแทบไม่ได้ยิน แต่จะทดแทนด้วยเสียงหยดน้ำจากกิ่งต้นไม้ที่ช่วยชะลอเอาไว้ จะว่าไปผมก็ไม่ได้กางฟลายชีท ซ้อนอีกชั้นเลยนี่นะ

เอาเถอะ นี่เป็นการตั้งแคมป์ กางเต็นท์ นอกสถานที่แบบเต็มรูปแบบครั้งแรกนี่นะ ไม่รวมเข้าค่ายลูกเสือ ก็คงจะมีเรื่องที่คาดไม่ถึงนั่นแหละนะ แล้วก็ไม่คิดว่าฝนจะตกด้วย แต่ถึงฝนจะไม่ตก ผมก็คงไม่ได้กางอยู่ดี เพราะไม่ได้ซื้อมา เฮ้อ วงการกางเตนท์นี่อยู่ยากละ

กลับไปจะต้องซื้ออะไรเพิ่มหน่อยแล้วล่ะ ยังไงซะเงินโบนัสก็เหลืออยู่อีกพอสมควรด้วย ผมกอดเอวเจ้าหญิงน้ำแข็งไปจนหลับ แต่แปปนึงก็คงขยับๆตัวกันออกนั่นแหละครับ อากาศมันเย็นมากๆ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าจะสะดวกไปทุกอย่าง ผมตื่นมากลางดึกตอนนั้น ก็ไปรูดซิปเพื่อระบายลมนิดหน่อย

ตี 2 เหรอนิ ผมควานๆนาฬิกาแล้วเอามามอง เจ้าหญิงน้ำแข็งอยู่ดีๆก็ตื่นมาสะกิดบอกพี่โทนหนูปวดฉี่พาไปหน่อย ระหว่างที่พูดนั้นก็หลับตางึมๆงำๆอยู่ พอพาออกมานอกเต็นท์ เธอกอดแขนแล้วบอกหนาววว หนาวววว ปิดแอร์หน่อย ผมขำเลยแล้วบอกนี่มิ้นต์เราอยู่บนมอ นะ

มิ้นต์บอกฮืออ หนาวว ผมก็บอกป่ะๆ ผมก็นะถือไฟฉายกระบอกนึง ส่องนำทางไปตรงห้องน้ำ คือข้างบนเขาปิดไฟหลายจุดนะ ในช่วงเวลาที่ผมไปส่วนตอนนี้เป็นไงบ้างไม่แน่ใจเลยครับ หูว อากาศเย็นถึงหนาวเลยล่ะหลังฝนตกด้วย ผมจูงมือเจ้าหญิงมาที่ห้องน้ำนั่นแหละ แยกกันทำธุระส่วนตัวแปปนึง

ผมน่ะเร่งเลย จะได้มายืนรอ แล้วเธอก็เดินมาหน้ามุ่ยๆแล้วบอกหนาวๆ ผมก็หัวเราะนะ เธอตีแขนเผี๊ยะๆ แล้วบอกไอ้พี่โทนบ้า ผมก็พาเธอเดินกลับมา บอกตรงๆว่าฟ้าน่าจะปิดครับผมว่าเมฆยังคงมีแน่ๆแหละ จุดที่ผมกางเต็นท์น่ะรถน้อยมาก แต่ส่วนที่เขาเอารถมาจอดเยอะๆก็มี คือผมเห็นนะ

ฝ้าขึ้นกระจกแทบทุกคน ฮู๊ววว อากาศเย็นมากๆ มิ้นต์ดึงแขนผมแล้วบอกพี่โทนกลับเต็นท์กัน ผมก็ป่ะครับ เดินดีๆนะระวังเหยียมหลุมน้ำ กลับมาถึงเต็นท์ก็อย่างที่บอกทุกคนไปว่าในเต็นท์ส่วนกลางนั้น เราจะทำให้ทุกอย่างแห้งสนิทจริงๆ แต่ก็จะมีจุดๆนึงที่จะแห้งทันทีไม่ได้

ก็ล้างอะไรมาก็อันนั้นแหละ มิ้นต์ใช้เวลาเช็คๆอยู่เกือบ 5 นาทีแน่ะจนมั่นใจว่าแห้ง ก่อนนอนผมก็กินน้ำหน่อยนึง และ ให้มิ้นต์ดื่มด้วย ป้องกันอาการคอแห้ง บอกเลยว่าการมาเที่ยวอ่ะพวกสุขภาพต้องดูแลดีๆไม่งั้นเที่ยวกร่อยแน่ๆ อ่ะพอเรียบร้อยก็มานอนกันต่อ

อากาศมันเย็นมากๆเลยนะ เมื่อกี้ตอนรอมิ้นต์จัดการธุระส่วนตัวผมมองไปที่เทอโมมิเตอร์นี่ 19 องศาเลย วู๊ววว หนาวได้ใจ อ่ะ ปิดตะเกียงแล้วนอนกันต่อเลย แล้วเวลาก็ผ่านไปอีกจนตื่น เอื้อออออออ ตื่นแล้วแต่อยากนอนต่อ ไอ้ความรู้สึกที่เมื่อมีอากาศเย็นๆวนเวียนอยู่รอบตัวเนี่ยโคตรฟิน แล้วยิ่งเป็นอากาศเย็นแบบธรรมชาติด้วยก็ยิ่งฟินจาดดดด

เราสองคนยังนอนซุกอยู่ในผืนผ้าห่มหนาๆนุ่มๆ โอยย ไม่อยากลุกเลยคร๊าบ แต่จองที่นั่งไว้แล้วนี่หว่าทำไงได้ ผมบิดตัวไปมา แล้วไปกอดที่เจ้าหญิงน้ำแข็ง  ธอเองก็ งืออออ นอนต่อน๊าพี่โทน น๊าาา หนูหนาวง้ะ ผมบอกเดี๋ยวเถิะตื่นได้แล้ว ไปผาหัวนาคกัน มิ้นต์บอกมันหนาวง้ะ อากาศน่านอนจะตายย แล้วที่เธอทำคือยื่นมืออกมาจากกองผ้าห่ม แต่ว่าแค่ออกมานิดเดียวก็ชักกลับ

แล้วบอกฮืออ หนาวว ขั้วโลกเหนือตอนนี้พวกเราอยู่ขั้วโลกเหนือแน่ๆ ต้องทำตัวให้อุ่นๆไว้ แล้วเธอก็มุดผ้าห่มไปนอนต่อจริงๆก็อยากตามใจนะ แต่ว่าไม่ได้น่ะสิ่  ผมเลยต้องปลุกเธอนั่นแหละ

โอ๊ยหนาวง่ะพี่โทน หนาวววว เธอบ่นไม่หยุดเลย แต่ว่าสุดท้ายก็ยอมตื่น ผมก็ให้รางวัลไป 1 ฟอด ถึงแม้เธอจะหน้าบูดเพียงใด ผมก็ต้องขัดใจเธออยู่ดีนั่นแหละ เธอยังคงซุกผ้าห่ม และบ่นหนาวๆ ผมเลยต้องใช้ท่าไม้ตาย


ผมก็เปิดผ้าห่มและซุกเข้าไปหาเธอ เจ้าหญิงน้ำแข็งรีบกอดผมไว้แล้วบอกว่านอนกันๆ อุ่น ๆ ๆ  ผมกอดนะแล้วบอกว่าอยากอุ่นเหรอ มิ้นต์บอกงื้มๆ ผมเริ่มลูบแขนเธอเบาๆ เบาๆ ผมกระซิบเธอว่าอุ่นยังเธอบอกงื้มๆ จนผมล้วงมือจากชายเสื้อล้วงเข้ามาที่เนินหน้าอกของเธอ


มิ้นต์ก็สะดุ้งตื่นแล้วตีแขนผมเผี๊ยะๆๆๆ ไอ้พี่โทนบ้าๆๆ  แล้วเธอก็เด้งตัวขึ้นมานั่งเลย ผมก็ล้มตัวลงนอนตะแคงแล้วถามว่าตื่นแล้วหรา มิ้นต์บอกไอ้บ้ากามไม่ต้องมาพูดเลย ผมก็บอกอ้าวๆปลุกแบบนี้ได้ผลดีเชียวล่ะ มิ้นต์มองหน้าผมมุ่ยๆแล้วบอกหนูอยากนอนต่อง่ะ ผมเลยบอกว่า ต้องตื่นแล้วครับ ผมขยับไปลูบหัวเธอเบาๆแล้วบอกว่าไปเที่ยวกัน จองรถไว้แล้วด้วย

มิ้นต์ทำหน้ามุ่ยๆบอกอืออออ แล้วจากนั้น ผมกับเธอก็เดินไปล้างหน้าตรงห้องน้ำ  มิ้นต์น่ะก้าวขานึงก็บ่นทีนึง หนาวววว ไม่ไหวว คือชุดจัดเต็มมากครับ เสื้อกันหนาว กางเกงขายาว รองทาผ้าใบ แต่ก็บ่นอยู่ ส่วนผมน่ะเหรอ โฮ๊ะโฮ่ เสื้อยืด กางเกงยีน ครับ จัดมาเลยอากาศเย็นเนี่ยชอบเว้ยยยย

อู้ววว ยิ่งตอนน้ำเย็นโดยหน้านี่ทันแบบ อู้ววว สะใจโว้ยยย จังหวะยืนแปรงฟันด้วยกัน มิ้นต์ก็บ่นหนาว ปากชาา  ขล่อก ๆ ๆ  บุ๋งๆมบ้วนปาก อ่าส สดชื่น หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน ผมกับมิ้นต์ก็กลับมาจัดกันเลย หมายถึงจัดเสื้อผ้าน่ะ มิ้นต์เธอตื่นแล้วและถามว่าจะไปไง

ผมเลยบอกว่า เจ้าหน้าที่บอกว่าจะมีรถมารับน่ะ รถของชาวบ้านที่จองไว้เมื่อวาน เช้าอยู่เลยสิ่งที่ต้องทำคือปาท่องโก๋ โอวัลตินครับ ควันฉุยๆจากการต้มน้ำไม่ว่าจะจากทั้งเต้าแก๊ส หรือ เตาถ่าน มันก็ช่วยทำให้บรรยากาศธรรมชาตินั้นยิ่งน่าหลงใหลเข้าไปอีก

ผมจูงมือเจ้าหญิงน้ำแข็งเดินมาที่ร้านค้าเล็กๆตรงนั้น มิ้นต์ก็ ฮู๊ววว ฮ่อววว พี่โทนๆมิ้นต์พ่นควันได้แหละ ผมหันไปมองถึงกับกุมขมับ เพราะเจ้าหญิงนิทราที่ไม่ยอมลุกจากที่กองผ้าห่มเมื่อกี้ ตอนนี้ตาใสแจ๋วและกำลังเล่นเป่าปากจนควันมันออกมา ผมนี่อดยิ้มไม่ได้เลย

พอเดินมาถึงร้านค้าผมก็สั่งโอวัลติน ปาท่องโก๋ ไข่ลวก มิ้นต์มองหน้าผมเลยแล้วถามว่าทำไมต้องโด๊ปอ่ะ ผมบอกเดี๋ยวๆๆๆ ถ้าร้านไหนมีไข่ลวกพี่ก็กินหมดแหละ ดงโด๊ปอะไรเนี่ย มิ้นต์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วบอกมะรุ๊ ผมเลยขยับเข้าไปใกล้ๆแล้วบอกว่า หรืออยากให้อึดๆกว่าเดิม มิ้นต์ตีเผี๊ยะๆๆๆๆ แล้วบอกไอ้บ้าๆๆ

แม่ค้าก็มองหน้าแล้วยิ้มๆ ถามว่าเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย ผมมองๆแล้วก็บอกว่า ขนมปังเนยด้วยครับ มิ้นต์ก็บอกเอาโอวัลติน ฟูวววว สิ่งที่แปลกใจคือทำไมพอหายใจแล้วมันเย็นจมูก เย็นแบบไม่แห้งๆนะ เย็นเหมือนสูดละอองน้ำเข้าไปเย็นมาก แต่จะว่าไปทำไมทัศนวิสัย มันถึงดูเลือนๆแปลกๆ

ตอนแรกผมน่ะคิดว่ายังตื่นไม่เต็มตา แต่พอทดสอบอะไรหลายๆอย่างมันไม่ได้อยู่ที่สายตาของผมแฮะ เพราะงั้นที่เหลือก็คือหมอกลง เราไปนั่งโต๊ะก่อนแล้ว ป้าแม่ค้าจะเอามาเสิร์ฟให้ เขาก็ถามว่ามาจากไหนล่ะ ทำไมมาเที่ยวช่วงนี้ ผมก็เลยบอกว่ากรุงเทพฯน่ะครับ

ที่มาก็เพราะว่าช่วงนี้คนไม่เยอะมาก เพราะถ้าเป็นช่วงท่องเที่ยวล่ะก็คงเลือกที่กางเต็นท์ดีๆไม่ได้แน่ๆ จะกินอะไรก็คงลำบากต้องต่อคิว ป้าเขาก็บอกอื่ม แม่นๆ เขาก็ถามว่าทำไมมาที่นี่ล่ะมีญาติเหรอ ผมก็เลยบอกว่าครับอยู่หมู่บ้าน... ข้างล่างนี่เอง

ป้าเขาก็บอกอ้าวๆลูกบ้านไหนล่ะ เขาเองก็อยู่หมู่บ้านนั้น ผมก็เลยบอกชื่อป้าของผมไป เขาก็บอกเอ้าๆหลาน ( ชื่อป้า ) เหรอ ผมก็ครับๆ แล้วจากนั้นก็ได้ไข่ลวกเพิ่มมาฟรีๆอีก 1 ใบ บ้านป้าผมเรียกว่าเป็นกึ่งกลางระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวก็ได้ครับ ระหว่างมามอหินขาวกับน้ำตกตาดโตน

ผมก็ถามป้าเขานะว่าป้าครับ จากตรงนี้ไปผาหัวนาคไกลมั้ย ป้าบอกโอ้ยไม่ใกล้หรอกไม่กี่กิโลฯ ผมคิดในใจละ จริงมั้ยน๊อออออ แต่ป้าเขาบอกว่าไม่กี่กิโลเมตรจริงๆ  มิ้นต์นั้นดูจะชอบโอวัลติน + ปาท่องโก๋ มากๆครับ กินๆๆ จิบๆๆ ป้าก็แนะนำว่าไปนั่งตรงนั้นได้นะ เช้าๆมันสวยดี

คือตอนนั้นก็เกือบจะ 6 โมงละ แสงตอนนี้มันเหมือนจะเริ่มๆสว่างแล้วล่ะ แสงไฟสีสมจากหลอดนีออน มันเริ่มตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มๆ หรือ สีครามนะ ผมก็อธิบายไม่ถูก ผมหยิบโอวิลตินใส่พวง มิ้นต์ก็บ่นยังกินอยู่เลย แต่ผมก็บอกว่าไปตรงที่ป้าบอกกัน และมันก็ดีงามมากจริงๆ

จุดที่นั่งตรงนี้ มองเห็นพื้นที่ด้านล่างแทบทั้งหมดเลย ถึงจะวิวไม่ได้หลักล้านแต่ผมว่าถ้าหลักหมื่นหลักแสนล่ะไม่เกินจริงแน่นอน พื้นที่ข้างล่างมีหมอกบางจุด ภาพมันเหมือนในเกมส์ที่ FPS ที่ผมชอบเล่น ไม่ว่าจะเกมส์ COD  , Sniper ,  อย่างภารกิจที่ต้องไปลุยในป่าในเขา เนี่ยวิวนี้ใช่เลย

ต้องซุ่มอยู่บนพื้นที่ชัยภูมิที่ได้เปรียบ อ้อ ชัยภูมิแปลว่า ทำเลที่เหมาะ  แหม่บังเอิญจริงๆที่ตอนนี้ผมก็อยู่ชัยภูมิ มาต่อๆ ในเกมส์ที่ผมต้องไปซุ่มบนเขาบนเนิน วิวที่เห็นก็แบบนี้แหละ ข้างล่างมืดๆ และจะมีแสงไฟจากบ้านของผู้คน ตอนนี้เหมือนกันเลย ผมนั่งมองๆ กับมิ้นต์ มิ้นต์บอกสวยจัง ไปทะเลก็ไม่ได้วิวแบบนี้หรอก เชอะ สมน้ำหน้าพี่ดาว

อ้าวๆ ไปถึงดาวซะแล้ว แล้วตอนนั้นมิ้นต์ก็บอกพี่โทนถ่ายรูปกัน เธอก็หยิบกล้องถ่ายรูปที่เตรียมมาตอนไหนก็ไม่รู้ มาถ่ายรูปนั่นแหละครับ หันไปทางวิวข้างล่างนั่นแหละ ถ่ายทั้งรูปแก้วโอวัลตินที่ตั้งคู่กัน ถ่ายทั้งภาพที่ผมกอดเอวเธอไว้ เยอะแยะ บอกตรงๆ

จนพอกินหมด เอาแก้วมาคืน ตอนนี้ก็ 6 โมงกว่าๆแล้วล่ะ ตอนนั้นมีรถ 4x4 มาแล้วล่ะ มาถึงก็ชูป้ายเลยว่าไปผาหัวนาค ผมกับมิ้นต์ก็เดินไปแสดงตัวเลยครับว่าที่โทรติดต่อไว้เมื่อวาน เจ้าหน้าที่เองก็มาด้วย แล้วมีการแสดงตัวยืนยันตนนั่นแหละ เขาก็ถามว่าพร้อมไปหรือยัง ผมก็มองมิ้นต์แล้วบอกไปๆๆ

ระหว่างที่เขาเตรียมรถ เจ้าหน้าที่บอกว่า เป็นรถที่เข้าร่วมโครงการของสถานที่นี้เพราะงั้นขอให้สบายใจได้ คือผมเป็นคนรีเควสไปว่าขอเป็นรถที่นั่งง่ายๆและลุยพื้นที่ดี เขาก็เลยเป็นคันนี้มา ซึ่งปกติรถชาวบ้านคนอื่นๆผมก็ไม่รู้จะเป็นแบบนี้มั้ยนะ ตอนนั้นคนขับรถก็มาบอกว่า เดี๋ยวขอรอรับผู้โดยสารอีกสักหน่อย ช่วงนี้ Low season คนก็จะเบาบางหน่อย

ผมก็มองๆแล้วก็ถามขึ้นมาว่าถ้าเหมารถไปแค่ 2คนคิดเท่าไร เขาก็บอกราคามาเลย อื้ม..เป็นราคาที่พอรับได้นะ ผมก็บอกว่างั้นถ้าตอนนี้ผมเปลี่ยนมาเหมารถเลยล่ะครับ อย่างเที่ยวส่วนตัวกันสองคน พี่ขับรถพาไปส่งตามจุดเที่ยวแล้วก็ปล่อยให้พวกผมเดินเล่นกัน และรอบรับกลับ แค่นั้น

เขาก็บอกว่าแบบนั้นได้ เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ ผมก็เลยแจ้งไปแบบนั้นอ่ะเขาก็ใส่ข้อมูลอะไรสักอย่างไว้ ผมถามว่างั้นผมขอนั่งกะบะหลังไปได้มั้ยครับ ถ้าไปผาหัวนาคน่ะได้ อ่ะจากนั้นผมก็โดดดึ๋งเหยียบแลคหลัง และ เด้งตัวขึ้นกะบะหลังเลย เจ้าหน้าที่บอกแรงดีนะหนุ่ม ผมก็เอื้อมมือไปรอรับเจ้าหญิงน้ำแข็งอย่างเบาๆ

แต่ก่อนที่รถจะออกนั้นก็มีนักท่องเที่ยวอีก 2 คน เป็นผู้ชายผู้หญิง ก็คงเป็นแฟนกันนั่นแหละ เป็นชาวต่างชาติครับ มาถึงก็พูดๆ ( แปลไทย )  จะไปผาหัวนาคสามารถไปตรงนี้ได้มั้ย เจ้าหน้าที่เขาก็บอกว่าผมน่ะเหมารอบรถแล้ว แล้วเขาหันมาถามผมว่าจะเอาไง

ผมแทบไม่ต้องคิดอะไรเลย มองเจ้าหญิงน้ำแข็งแค่เธอพยักๆหน้าผมก็ไม่มีปัญหา ชาวต่างชาติสองท่านนี้ดูแล้วอายุ 30++ แน่ๆล่ะ เพราะเหตุผลนั้นผมเลยตัดสินใจไม่ยาก เพราะว่าคงจะวุ่นวายอะไรมาก หลังจากนั่งอะไรเรียบร้อยแล้วรถก็ออกตัวเลย รถก็วิ่งไปตามทางครับ ซึ่งด้วยแสงที่มันไม่ได้สว่างมาก ผมว่ามันก็สวยไปอีกแบบนะ มิ้นต์ก็กอดผมไว้แน่นเลย

ผมกอดเธอเหมือนกันนะ ถึงจะใส่เสื้อผ้ามากัน 2 ชั้นแต่ด้วยอุณหภูมิ หมอก และ ลมจากการนั่งรถ มันก็เย็นอยู่ดี สองข้างทางนั้นแค่ยื่นมือออกไปก็คงจะสัมผัสกับต้นไม้ใบไม้ได้แล้วล่ะ ถนนเป็นแบบสองเลน สวนกันไปมา บางทีนั่งข้างหลังมันก็เสียวๆดีนะ เพราะรู้ว่าอีกฝั่งนั้นคือภูเขาและหน้าผา

นักท่องเที่ยวต่างชาติเขาก็จัดเต็มเลยเสื้อผ้า ผมว่าเขาคงรู้ว่ายังไงมันก็หนาวแน่ๆ เขาก็ถามผมนะว่า มาเที่ยวกันสองคนเหรอ ผมบอกใช่ครับ ขับรถมากางเต็นท์ตั้งแต่เมื่อวาน พอคุยกันไปๆมา ก็รู้ว่ามาจากออสเตรเลีย จนรถแล่นไป สิ่งที่รู้สึกได้คือเหมือนหน้ารถเชิดขึ้นเหมือนขึ้นเนิน

สักพักรถชะลอลง แล้วก็มีเสียงมาตามสาย คือด้วยความเป็นรถนำเที่ยวอ่ะเนอะ ก็เลยมีต่อเครื่องเสียงเบาๆ เขาบอกว่าตรงนี้เรียกว่ากลุ่มหินโขลงช้างครับ ตอนแรกผมก็คิดในใจบรรลัยละนี่ผมต้องอธิบายอะไรมั้ยเนี่ย ถ้าให้พูดคุยปกติก็พอได้ แต่ถ้าต้องเป็นไกด์จำเป็นนี่ไม่ไหวนะ

แต่ว่าเขาก็พูดเป็นภาษาอังกฤษแนะนำนะ ผมก็โล่งใจไป เขาก็บอกว่าจะจอดให้ลงถ่ายรูปสัก 5นาที ผมก็ลงรถเลยรับเจ้าหญิงน้ำแข็งลงมาด้วย เท่าที่ผมดูคือเป็นกลุ่มหินนั่นแหละ ลานกว้างๆ แต่ว่าในภาพมันปี 2023 แต่ตอนที่ไปมันหาไม่ได้น่ะสิ่ รูปก็เอามาลงไม่ได้เพราะว่ามีภาพผมกับมิ้นต์ติดอยู่หมดเลย


หูว พอลงมาก็ยิ่งรู้ว่าหมอกลงจัดๆเลยครับ บอกเลยว่าตอนนี้น่ะบรรยากาศ ความรู้สึก ของตอนที่เข้าค่ายลูกเสือมันกลับมาอีกครั้งเลย ฟู่ววว ฟู่ววววว มิ้นต์ยังคงเป่าควันเล่น แล้วคู่รักชาวต่างชาติก็มาขอให้ผมถ่ายรูปให้ ผมก็ไปถ่ายให้นะ เขาก็แนะนำบลาๆ เขาบอกโชคดีจังที่ผมฟังภาษาอังกฤษออก ผมก็คิดในใจว่าถ้าแค่คุยปกติผมน่ะพอถูๆไถๆไปได้ แต่ถ้ามากกว่านี้ หรือคุยลึกว่า กว่านี้รับรองผมไม่ทันแน่ๆ

ผมถ่ายรูปเขา มาเช็คภาพกันเขาก็ชมว่าถ่ายภาพสวย เอาตรงๆผมก็เล่นแสงอะไรไม่ค่อยเป็นหรอกครับ เพราะเรียนถ่ายภาพมันก็แค่ตอนปี2 ซึ่งผมคืนวิชาไปเกือบ 90 % แล้ว มิ้นต์เองก็มาช่วยดูด้วย คือด้วยความที่แสงมีน้อย และ หมอกมันเยอะ ก็เลยต้องเพ่งสมาธิหน่อยแหละ

แล้วตอนนั้นเขาก็ถามว่า ผมกับแฟนจะถ่ายรูปด้วยมั้ย ผมก็หืมแล้วหันไปมองมิ้นต์ มิ้นต์ก็หือ แล้วหันไปหาคู่รักต่างชาตินั้น เขาก็ถามว่าจะถ่ายรูปกับแฟนของคุณมั้ย ซึ่งมันลงท้ายประโยคว่า ยัวร์ บอยเฟร๊นด์    มิ้นต์เธอมามองผมแล้วกอดแขนและพูดกับชาวต่างชาติว่า ไม่ใช่แค่แฟน แต่เป็นผู้ชายของชั้น.... My boy 

อ๊ากกก ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


 

เจอดาเมจของเจ้าหญิงไปเป็นไงล่ะ โดนแช่เลยสิโทนคุง

บรรยากาศดีแน่ๆ
อากาศดี คนข้างๆดี ฟิน

น่ารักอะไรเบอร์นั้นนะเจ้าหญิง IPFC อยากเห็นภาพตอนเบ่นปล่อยควันออกจากปาก น่ารักละลายแน่ๆ

เย้ เจ้าหญิงน้ำแข็งมาแล้ว

หายไปนานเลยเจ้าหญิงน้ำแข็ง คงจะมีความสุขละครับได้เจออากาศหนาวๆแบบนี้

น่าจะจับจัดหนักทุกคืนหนาวๆแบบนี้ต้องได้ของอุ่นๆ

เจ้าหญิงหายไปนานเลย

Princess of ice กลับมาแล้ววววว

เกือบลืมตอนเทพีบ้านไพรไปแล้ว

โรแมนติกจัง เจ้าหญิงน้ำแข็ง

โทนบอก Yes iam 555

หายไปนาน ต้องกลับไปอ่านตอนเก่ารื้อฟื้นก่อน

แสดงตัวพร้อมยื่นยันเลยมินท์

นานจนเกือบจะลืมไปแล้วทริปมอหินขาวกะน้อมมิ้นมีไรตื้นเต้นบ้างไหมหนอ