ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_saradio

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 10

เริ่มโดย saradio, พฤศจิกายน 17, 2015, 07:42:50 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

saradio

[align=center]
                                  คิมิยะ เรกะ
       (บุตรสาวผู้สืบทอดตระกูล คิมิยะ แก็งค์ยากุซ่า ที่ใหญ่ติดลำดับต้นๆของญี่ปุ่น)[/align]
        

          สามสี่วันที่ชาวญี่ปุ่น ตะเวนไปตามเกาะต่างๆชมทะเลอันดามันของประเทศไทย เมื่อถึงรีสอร์ทตามเกาะต่างๆ ก็เข้าพักค้างคืนส่วนผมกับลุงแขกก็นอนรอกันบนเรือ
            พอวันต่อมาระหว่างที่เรือแล่นอยู่กลางทะเลเพื่อจะไปอีกเกาะหนึ่งกลับเห็นเรือเร็ววิ่งตามหลังมา แล้วก็เร่งขึ้นมาตีคู่ คนบนเรือนั้นนับได้ 5 คนแล้วคนหนึ่งทำสัญญาณมือให้หยุดเรือ ลุงแขกกับผมต่างสงสัย
            ลุงแขกจึงชะลอเรือลง ผมรู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลจับจ้องมองสังเกตตลอด จนเห็นคนบนเรือเร็วนั้น ชักปืนกลมืออูซี่ออกมาแอบแนบข้างตัวรู้ได้ทันทีว่า ไอ้คนบนเรือเร็วไม่ประสงค์ดีแน่ ผมชี้ตะโกนบอกลุงแขก ว่า
            "พวกมันมีปืน"
            ลุงแขกตกใจ แต่ยังตังสติได้ดี รีบเร่งเครื่องหนีหักหัวเรือทิ้งโค้ง90 องศา จนลำเรือเอียง คนบนเรือเร็วเมื่อเห็นพวกเราไหวตัวก็เล็งปืนยิงใส่ทันที จนโดนข้างลำตัวเรือเป็นรูพรุน ตอนนั้นชาวญี่ปุ่น 3คนที่พักอยู่ในห้องท้องเรือได้ยินเสียงปืน 2คนที่เป็นชายรีบขึ้นมาพร้อมอาวุธปืนแล้วยิงต่อสู้ ส่วนผู้หญิงยังอยู่ในห้องท้องเรือไม่ออกมา
            ตอนนั้นผมกับลุงแขกไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรนึกว่าโจรสลัดดักปล้นซะอีก ลุงแขกก็เร่งเครื่องจนเต็มกำลัง ไม่ให้เรือเร็วของพวกมันขึ้นตีขนาบข้างได้แต่เรือเร็วของพวกมันเหมือนมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ สามารถเร่งขึ้นมาตีขนาบจนได้จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ทันที
            ชาวญี่ปุ่นที่อยู่บนเรือผมก็ยิงตอบโต้แต่ปืนของชาวญี่ปุ่น 2 คนนั้นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ  ค่อนข้างเสียเปรียบคนบนเรือเร็วที่เป็นปืนกลมือที่สาดกระสุนได้มากกว่าไม่นานชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งก็ถูกกระสุนคนบนเรือเร็วยิงตาย เลยเหลือแต่คนพูดไทยได้มันตะโกนถามผมว่า ยิงปืนเป็นมั๊ย โดยไม่รอคำตอบ มันโยนปืนของคนที่ถูกยิงตายมาให้ผมแล้วให้ช่วยมันยิงต่อสู้
            ผมก็เลยต้องตกกระไดพลอยโจน ช่วยมันยิงสกัดไปด้วยตอนนั้นจังหวะผมดีหน่อยยิงโดนมือปืนบนเรือเร็วร่วงไป1
            วินาทีถัดมา ไอ้ญี่ปุ่นที่ให้ผมช่วยยิงก็เสือกโดนยิงหงายท้องมาตายต่อหน้าต่อตาผมเลยเหลือผมยิงสู้กับมันคนเดียว ขณะที่ร้องในใจ ว่าฉิบหายแล้วกู พริบตานั้นผมเห็นผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่ชื่อคิมิยะ เรกะ พุ่งตัวออกมาจากห้องท้องเรือ มาที่กราบเรือไม่ไกลจากผม เธอสวมกางเกงขาสั้นทับชุดบีกีนี่โดยที่ส่วนบนเธอยังไม่ได้สวมเสื้อทับ ในมือเธอยังถือปืนมาอีก 1 กระบอก และกระสุนอีกหลายแม็กเธอโยนให้ผม 2 แม็ก จากนั้นเธอก็เปิดฉากช่วยผมยิง ภาพที่เธอจับปืนยิงมันดูทะมัดทะแมงอย่างคนเคยใช้งานอยู่ประจำและสีหน้าตาเธอดูไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูแล้วมันเกินผู้หญิงธรรมดา
            ตอนนั้นพวกมือปืนยังตามเทียบเรือไม่ได้ เลยยิงกราดไปที่หัวเรือ เพื่อเล่นงานคนขับ ลุงแขกเลยโดนกระสุนตายคาที
            ผมเห็นว่าแย่แน่ถ้าเรือหยุดจะตกเป็นเป้านิ่งจึงรีบไปหัวเรือขับแทนลุงแขก ผมต้องหมอบต่ำหลบกระสุนและพาเรือพยายามเร่งหนีพวกมันส่วนเรกะ ก็คอยยิงสกัด ไม่ให้พวกมันเข้าใกล้เกินไป
             พอดีจังหวะนั้นเห็นลมทะเลหอบคลื่นมาอีกด้านหนึ่งผมหันหัวเรือเข้าหาลมทะเล คิดในใจว่า เรือผมใหญ่กว่า โต้คลื่นได้ดีกว่าเรือมันเรือเร็วลำเล็กถ้าวิ่งโต้คลื่นด้วยความเร็ว เรือมันกระโดดแน่
            แล้วก็จริงอย่างที่ผมคิดมันไม่กล้าเร่งเครื่องเร็วมาก เพราะกลัวเรือเสียหลักกระดอนหงายแถมมันยังยิงปืนกันไม่ได้ เพราะเจอคลื่นกระแทกเรือกระโดดตลอด เสียงปืนเงียบหายไปพักหนึ่งแต่มันยังตามหลังมาติดๆ เหมือนรอให้พ้นคลื่นลมทะเลบริเวณนี้จะเตรียมเปิดฉากถล่มใหม่
            ผมเห็นว่ายังไงก็ไม่รอดแน่ มีทางเดียวคือดับเครื่องชน ตอนนั้นผมขับล่อรอจังหวะให้มันตามติดขึ้นมาใกล้ๆ พอสบโอกาสตำแหน่งที่คิดว่ามันหลบไม่พ้นแน่ๆ ก็ดับเครื่อง เครื่องเมื่อถูกดับความเร็วตกกระทันหัน ผมก็หักหัวเรือขวางลำจนเรือผมไปขวางทางข้างหน้ามัน คนขับเรือเร็วคิดไม่ถึงว่าผมจะใช้วิธีนี้มันพยายามหักหลบ แต่หลบไม่พ้น เพราะมันตามมากระชั้นชิด จนมันชนเข้ากลางลำเรืออย่างจัง
            เสียงปะทะดังโครมสนั่นตัวเรือยอร์ซถูกชนจนข้างเรือทะลุ ส่วนเรือเร็วหัวเรือปักคาขางเรือผมสภาพแหลกยับเยิน คนขับเรือเร็วตายคาที ไอ้พวกมือปืนที่เหลือ 3คนก็ตายหมดเพราะแรงกระแทกร่างลอยเกลื่อนอยู่ในน้ำเพราะใส่เสื้อชูชีพ ศพเลยไม่จมลงไป
            ส่วนผมไม่เป็นอะไรมากเพราะเตรียมรับแรกกระแทกโดยการหาที่จับยึดไว้ก่อนแล้ว แต่ คิมิยะ เรกะ กลับโดนแรกกระแทกจากการชนจนร่างถลาไปกระแทกกับกราบเรืออีกข้างสลบไปเลย ดีที่เธอไม่ตกลงไปในทะเลไม่อย่างนั้นเธอไม่รอดแน่ๆ ผมไปอุ้มเธอขึ้นมามาวางไว้ตรงที่ปลอดภัยจากน้ำที่กำลังทะลักเข้าเรือ และเรือกำลังจะจม
            ผมต้องรีบกลางเรือชูชีพแล้วอุ้มเธอไปไว้บนเรือ จากนั้นก็เอาของจำเป็นที่พอหยิบฉวยได้ขึ้นไปบนเรือชูชีพ ก่อนที่เรือจะจม
          เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็ดันเรือชูชีพออกไปจากบริเวณนั้น ลอยเรืออยู่กลางทะเลมองดูเรือยอร์ชลำละหลายสิบล้านจมไปต่อหน้าต่อตา จากนั้นผมก็มาจัดการตรวจดูพวกของใช้อุปกรณ์ยังชีพที่ขนขึ้นมาว่าจะใช้สิ่งไหนทำอะไร
            เวลาผ่านไปเป็นเวลาค่ำและลมแรงเหมือนจะมีพายุฝน ผมจึงกางหลังคาเต็นท์เรือชูชีพเพื่อกันลมกันฝน ขณะนั้น เรกะรู้สึกตัวขึ้นมาพอดี เธอสะดุ้งลุกขึ้นนั่งแล้วลืมตาโพลงมองรอบๆ อย่าง งงๆก่อนมองผม มีสีหน้าเหมือนกำลังนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ แล้วถามว่า
            "พวก มัน ไปกัน หมดแล้วหรือ แล้วเรา อยู่ ที่ ไหน"
          ผมถึงรู้ว่าเธอก็พูดไทยได้แต่เธอพูดไทยด้วยสำเนียงไม่ชัดเหมือนคนเพิ่งหัดภาษาไทย ฟังดูทั้งน่ารักทั้งตลก จนผมนึกขำเผยยิ้มที่จะผูกมิตรด้วย แต่เธอกลับบอกสีหน้าดุว่า
            "ฉันไม่ชอบ คนหัวเราะหรือยิ้มแบบนี้ เวลาฉันพูดภาษาไทย"
          ผมเลยยิ้มเก้อ รู้สึกเหมือนเธอไม่ต้องการจะผูกมิตรด้วยนี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งมั่ง ที่เธอให้ผู้ชายญี่ปุ่นที่พูดไทยได้เป็นคนพูดแทนเพราะเวลาเธอพูดไทยคนอาจจะไม่กลัวความเป็นนางพญาของเธอ
          ผมเริ่มรู้สึกไม่ชอบเธออย่างมากและพาลคิดว่าเพราะเธอนี่แหละที่ทำให้ลุงแขกต้องตาย และให้ผมต้องเกือบตายไปด้วยถ้าเธอไม่อยากเป็นมิตรด้วยก็ไม่ต้องเป็นมันหละ
            ผมเลยไม่ได้สนใจเธออีกหันมาจัดการกับอาหารน้ำดื่มยังชีพคำนวณดูว่าจะอยู่ได้กี่วัน เรกะมองของที่ผมกำลังจัดการนับดูแล้วก็พูดว่า
            "หาอะรให้ฉันกินหน่อยสิ"
          คำพูดของเธอเป็นการสั่งมากกว่าขอ มันทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเลยโยนอาหารกระป๋องและน้ำถุงยังชีพให้ เธอมองผมอย่างไม่พอใจ ที่เสียมารยาทกับเธอเพ่งมองผมสั่งเสียงเขียว
            "จัดการมันให้ดีสิ คิดว่าฉันเป็นใครแล้วนายเป็นใคร"
          "แล้วคุณเป็นใครหละ"
          ผมย้อนถามทำหน้าตากวนตีน
            "ฉันก็คือ.ก็คือ คือคนที่เช่าเรือจากเจ้านายพวกนายเท่ากับฉันเป็นนายจ้างพวกนายด้วยยังไง"
          เธอบอกเหมือนมีอะไรปิดบังที่กำลังจะหลุดเผยออกมาแต่คงนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรบอก ก็เลยอ้างความเป็นนายจ้าง ผมก็เลยบอกว่า
            "สัญญาจ้างหมดตั้งแต่เรือจมแล้วคุณหนู และบนเรือชูชีพที่นี่ทุกอย่างเราเท่าเทียมกันเข้าใจนะ"
          เธอเถียงอะไรไม่ออก สีหน้าเหมือนอยากจะกัดผม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ได้แต่สะบัดหน้าเชิดระบายความโมโห โดยไม่สนอาหารและน้ำที่กองอยู่ตรงหน้าสักพักเธอก็ไม่อาจทนหิวทนกระหายได้ ก็ต้องเปิดถุงน้ำกิน และเปิดกระป๋องเพื่อกินอาหารอย่างทุลักทุเล
            โธ่ นึกว่าจะแน่ผมแอบชำเลืองอย่างนึกขำในใจ ตอนนั้นพายุเริ่มแรงขึ้นจนเรือชูชีพโคลงเคลงฝนฟ้าข้างนอกกระหน่ำจนคลื่นทะเลม้วนตัวสูง พาเรือเกือบคว่ำตั้งหลายรอบ ทั้งผมและเรกะต่างหวาดหวั่นพรั่นพรึง กลัวว่าเรือชูชีพนี้จะต้านพายุไม่ไหวแล้วมันก็เทเอียงข้างจนเรกะกลิ่งมาทับผม ผมกอดรัดเอวเธอไว้มือหนึ่งอีกมือก็พยายามจับยึดที่จับเอาไว้เรกะก็เหมือนจะลืมความทะนงตัวไปชั่วขณะหนึ่ง เธอกอดผมไว้แน่นเหมือนเอาผมเป็นที่ยึด พายุพัดโหมทั้งคืน พัดเราจนไม่รู้ลอยไปไหนต่อไหนจนนานเท่าไหร่ไม่รู้มันเริ่มจะเบาบาง เรือชูชีพโคลงเคลงไม่มาก พอให้ยึดตั้งหลักได้แต่เรกะยังหลับตากอดผมไม่ยอมปล่อย จนกระทั้งผมเริ่มเพลียหลับไป
            มาตื่นรู้สึกตัวอีกที เรกะก็นอนกอดผมอยู่เหมือนเดิมโดยผมยังโอบเอวเธอเอาไว้ รูปร่างสาวชาวญี่ปุ่น ที่ผิวขาวเนียนโดยท่อนบนมีเพียงเสื้อบีกินี่ห่อหน้าอกที่อวบอูมเอาไว้ที่เบียดชิดหน้าอกผม และช่วงเอวที่กิ้วรับกับสะโพกที่แอ่นอวบของเธอที่อยู่ในอ้อมแขนผมมันให้สัมผัสปลุกอารมณ์ได้อย่างเกินหักห้ามใจ
            ควยผมเริ่มแข็งเป็นรูป แต่มันถูกตัวเธอกดทับบีบแน่นมันเค้นเสียจนผมอยากจะขยับถูไถให้มันได้ระบายออกจริงๆ
            เรกะ กลับค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นช้าๆ และรู้สึกเหมือนเป้ากางเกงเธอทับดุ้นเนื้ออะไรใหญ่ๆ เมื่อเธอรู้ว่าเป็นอะไรเธอก็หน้าแดงเด้งตัวออกจากผม ตอนนั้นผมแกล้งหลับ เธอเลยคิดว่าเป็นเรื่องที่ผมม่ได้ตั้งใจเลยไม่ได้โวยวายอะไร เธอมาปลุกผมว่า
            "นาย ตื่นสิ ฉันอยากให้นายไปดูว่าข้างนอกเป็นยังไงบ้าง"
          ผมทำเป็นเพิ่งตื่น และขยับตัวไปรูดซิบหน้าต่างเต็นท์เรือชูชีพออกเพื่อดูสภาพอากาศข้างนอกตอนนี้แสงแดดส่องสว่าง ทะเลเงียบสงบ เหมือนพายุได้ผ่านไปแล้วแถมที่ดีใจที่สุดคือเห็นเกาะ เป็นเงารูปร่างอยู่ห่างออกไปไม่น่าจะไกลมาก
            "เกาะ เจอเกาะแล้ว"
          ผมร้องอย่างดีใจ จนเรกะมาขอดูผ่านหน้าต่างเพื่อให้เห็นกับตาด้วยผมจึงรีบเก็บหลังคาเต็นท์เรือ และพายเรือมุ่งไปหาเกาะ
            ---------------------------------------------------------------------
โปรดติดตามตอนต่อไป....
มาตอนสั้นนะครับค่อยคิดๆ ค่อยเขียน ลงให้อ่านกันไปก่อน

................................................................
ติดตามผลงานได้ที่นี้ ไล่ตามที่ลงจากล่างขึ้นบนนะ...

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 9 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 10
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 7 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 8
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 5 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 6
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 3 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 4
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 1 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 2
ชอบเล่นชู้ ตอนที่ 2 (Remake) สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 5
ของวิเศษ โดเรม่อน ตอน คำคืนหฤหรรษ์กับเชือกเพื่อนแท้ (ซีรีย์จบในตอน)
ของวิเศษ โดเรม่อน ตอน หยิ่งนักมันต้องเจอรุมเปียก (ซีรีย์จบในตอน)
สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 4ชอบเล่นชู้ ตอนที่ 1 (Remake)
สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 2สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 3
สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 1 (นิยายกำลังภายใน ล้อยุทธภพ เสียวทะลึงปนฮา)
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่12
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่11
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่10
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 9
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 8
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 7
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 6
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 5
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 4
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 3
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 2
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 1
Reply 1994 ย้อนเล่าประสบการณ์ sex 8 บทส่งท้ายลูกพี่ลูกน้อง 2
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex7
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex6Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex5
ลูกกระหรี่Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex4
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex3
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex2
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex1
สวัสดีครับคุณครู แอม ฟราย แต็งค์กิ้ว ฟักยู
[/size]



คนธรรมดา ธรรมดา


suriyamahajit