ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_saradio

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 12

เริ่มโดย saradio, พฤศจิกายน 19, 2015, 07:18:06 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

saradio


          รุ่งเช้าผมตื่นขึ้นมา โดยไร้เงาเรกะอยู่ข้างกายเธอตื่นออกไปตอนไหนผมไม่ทราบ เมื่อผมออกมาจากเต็นท์ก็เห็นเธอนั่งเหม่อมองทะเลอยู่บนโขดหิน สีหน้าเธอดูเศร้าและเหม่อลอย เหมือนมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจ
            ตอนนั้นผมกลับคิดว่าเธอกำลังคิดเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนผมเลยรู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายรุกล้ำเธอก่อน เลยเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วเอ่ยคำขอโทษสั้นๆ เรกะ หันมามองผมแล้วเผยยิ้ม แล้วพูดว่า
            "นายขอโทษเรื่องอะไร"
          "ก็.. เรื่อง.. เรื่องเมื่อคืนหนะ.."
          "ก็ไม่เห็นต้องขอโทษนี่..ฉันไม่เสียใจหรอกกับเรื่องเมื่อคืน ...แต่นายรู้ใช่มั๊ยว่านายจะเป็นเจ้าของฉันไม่ได้ เพราะฐานะเรามันแตกต่างกัน"
          เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาอย่างไม่อ้อมค้อม และนี่อาจเป็นสิ่งที่เธอคิดอยู่ก็ได้ผมอึ้งไปชั่วขณะ คิดว่า มันก็แน่แหละ ลองเธอมีเงินมาเช่าเรื่อยอร์ซเที่ยวเป็นอาทิตย์แถมมีคนคุ้มกันเป็นมือปืน2คนที่ยอมรับใช้อย่างยอมตายถวายหัวเธอคงไม่ใช่บุคคลธรรมดาที่จะมารักกับผมได้แน่
            เพียงแต่หนุ่มสาวมาติดเกาะร้างกัน 2ต่อ 2 ความใกล้ชิดและความว้าเหว่ อาจทำให้เธอเผลอใจเผลอตัวไป
          ผมเสียใจและอกหักกับผู้หญิงที่ชอบและรักมาหลายครั้งแล้ว จนรู้สึกชาชินหากครั้งนี้จะต้องเสีย เรกะไปอีก ผมคงไม่เศร้าใจเท่าไหร่และยอมรับได้จากความแตกต่างที่เราเป็น จึงบอกว่า
            "ผมเข้าใจดี.. ไม่เป็นไรหรอก ถ้ามันจะแค่คืนเดียวผมก็ถือว่ามีวาสนามากแล้ว"
          "นี่นายไม่เสียใจเลยเหรอ ..หรือจริงๆ นายไม่ได้รู้สึกชอบหรือรักฉันเลยเพียงแต่เห็นเป็นที่ระบายความใคร่"
          เรกะพูด น้ำเสียงแฝงความน้อยใจปนเคืองนิดๆ ทำเอาผมงงไปเหมือนกัน แล้วก็คิดได้ว่าถึงเธอจะรักผมไม่ได้ แต่การที่ผมไม่แสดงการอาลัยอาวรณ์เธอมันทำให้เธอคิดว่าตัวเองไร้ค่าไปหรือเปล่า เลยต้องตีหน้าเศร้าทำหน้าตาให้น่าสงสารเหมือนกำลังจะถูกเธอทิ้ง แล้วพูดว่า
            "เสียใจสิ ทำไมจะไม่เสียใจ แต่ผมเจ็บมาจนชินแล้วกับการที่ถูกคนที่รักทิ้งไป ถึงครั้งนี้มันจะเจ็บอีก มันก็ไม่ทำให้ผมตายหรอก"
          มันได้ผล เรกะ หายเคือง เธอเผยยิ้มออกมา แล้วเข้ามากอดแขนผมเหมือนจะปลอบใจพูดเบาๆว่า
            "ถึงแม้เราจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่เธอก็ทำให้ฉันมีความสุข"
          แล้วเธอก็ขยับมากระซิบที่ข้างหู พูดว่า
            "เอาอย่างนี้แล้วกัน ตราบเท่าที่เราอยู่บนเกาะนี้ฉันให้นายเป็นเจ้าของฉันได้เต็มที่"
          โดยไม่รอให้ผมพูดอะไร เธอก็ลุกขึ้นด้วยท่าทีที่ดูเบิกบานใจคล้ายสลัดความหม่นหมองออกไปหมดคงสบายใจที่ตกลงกับผมได้ แล้วหันมาสั่งผมว่า
            "ฉันอยากอาบน้ำแล้ว พาฉันไปอาบน้ำซิ"
           แล้วเธอก็เดินนำไปโดยไม่รอดูผมว่าจะลุกตามเธอไปหรือไม่แน่นอนว่าผมต้องลุกตาม คำพูดกระซิบที่บอกว่า ให้ผมเป็นเจ้าของเธอได้เต็มที่ แล้วชวนไปอาบน้ำอย่างนี้ถ้าผมไม่เข้าใจความหมายก็ควายเต็มทน เลยลุกตามเธอไป
            ----------------------------------------------
          ในโพล่งถ้ำยามสาย ที่มีแสงแดดสาดส่องกระทบแอ่งน้ำส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับ มันงดงามราวกับแสงไฟจากโคมระย้า
            ร่างเปลือยเปล่าของผมกับเรกะ กำลังยืนกอดประกบกันจูบฟัดรัดกันนั่วเนียราวกับจะหล่อหลอมรวมกันเป็นร่างเดียวหยาดหยดน้ำที่ตกลงมาจากผนังหลังคาถ้ำอย่างกับหยดฝนน้อยๆค่อยๆชโลมร่างของเราให้เปียกชุ่ม เมื่อต่างคนต่างคิดว่าเวลาแห่งความสุขมีไม่มากย่อมต้องตักตวงเอาจากกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
            ผมโอบกอด ร่างงามของเรกะจากด้านหลังด้วย อ้อมแขน มือหนึ่งเคล้าคลึงเต้านมอีกมือหนึ่งลูบไล้นูนโหนกโคกหีของเธอ เธอบิดร่างเงยหน้ารับรสสัมผัสอย่างเสียวซ่านวิธีที่ใช้นิ้วปลุกเร้าที่น้าแก้วเคยสอนผม ผมเอามาใช้กับเธอทุกอย่างที่รู้มานิ้วผมชำแรกแหวกแคมเข้าไปเร้าติ่งแตดอย่างนุ่มละมุน จนเธอเสียวแอ่นตัวงอ ปล่อยเสียงร้องที่ฟังดูทรมานแต่แฟงไปด้วยความสุขสะท้อนก้องในโพล่งถ้ำ
            สาวญี่ปุ่น ไม่ค่อยร้องซีดส์ปากเหมือนคนไทย หรือชาวตะวันตก แต่เธอจะร้องเหมือนคนโดนทรมาน แบบกั้นกั๊กอารมณ์แล้วปล่อยออกมา
            เรกะ ยกขาเหยียบยันหินก้อนหนึ่งเพื่อถ่างขาให้ผมใช้นิ้วลุกล้ำเข้าไปในรูหีเธอได้ง่ายขึ้นผมจุ่มนิ้วลึกเข้าไปหาจุดเสียวกระสันภายใน ที่ทำให้ผู้หญิงเสร็จน้ำแตกได้ด้วยนิ้วและกดกระตุ้นเธอเร็วๆ
            "อิ๊.. อิ๊.. อิ๊. โซดิซุ(ใช่แล้ว).. อ๊าย.. ซุโค้ยอิ๊(สุดยอดเลย) "
          เรกะ ร้องบอกเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผมเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแต่ก็รู้ว่าลังทำถูกใจเธอเพราะอากับกิริยาที่เธอแสดงความเสียวซ่านตอบสนองต่อนิ้วผมมันทำให้ผมเห็นเด่นชัดกว่าคำพูด แล้วเธอก้ร้อง อิคึพร้อมกับตัวสะท้อนไปมาเหมือนว่ากำลังจะเสร็จ
            "อ๊ายย . อิคึ (จวนแล้ว) อิคึอิ๊ (จะแตกอยู่แล้ว) อิคึ. (จวนแล้ว) อิคึ.. อิคึอือออออ"
          แล้วเธอก็เสร็จน้ำแตกคานิ้วผมแล้วผมก็อุ้มเธอไปนอนบนก้อนหินเรียบก้อนหนึ่งที่พอแทนเตียงได้ผมจับเธอถ่างขาและเบิร์นหีให้ ตอนนั้นลีลาผมมีเท่าไร ใส่แบบไม่กั๊กทั้งนิ้วทั้งลิ้น เพราะรู้ว่า ผมจะมีความสุขกับเธอได้แค่บนเกาะนี้เท่านั้นผมเบิร์นลิ้นลงหีบี้แตดจนน้ำย้อยเต็มปาก เธอขยับร้องหาควยผม อ้าปากเหมือนอยากจะอมผลเลยต้องขยับไปท่าหกเก้ากับเธอ ผมเบิร์นหีให้เธอเสร็จน้ำแตกอีกรอบแล้วผมก้เสร็จน้ำแตกคาปากเธอด้วย
           น้ำผมมันเต็มปากเธอจนเลอะหน้าดูแล้วมันได้อารมณ์ถึงใจดีจริงๆ แล้วผมก็นอนหงายบนหินให้เธอขึ้นคร่อมขย่มลีลาเธอไม่เบา แถมเสียงร้องแบบญี่ปุ่นก็เร่งเร้าอารมณ์ได้อย่างดี  
            "อิ๊.. อี้.. อิ๊ มันใหญ่จังแน่นไปหมดเลย อ๊ายย อิ๊"
          ครั้งนี้เธอร้องบอกเป็นภาไทย คงอยากให้ผมรับรู้เธอขย่มพร้อมร้องบอกไม่ขาดปาก แล้วเธอก็ขย่มเร็วๆ จนผมเสียวเกร็งไปหมด
            "ซีดดดส์ เรกะ จ๋า เธอขย่มได้เสียวดีจริงๆ ซีดดดส์ อาห์ "
          "อิ๊.. อิ๊ .. ชอบมั๊ย นายชอบให้ฉัน ทำให้แบบนี้มั๊ย อิ๊ .. อิ๊"
          "อาห์ ซีดดดส์ ชอบสิ ชอบมาก ผมมีความสุขจัง"
          ตอนนั้น น้ำควยผมที่เปื้อนหน้าเธอ มันย้อยหยดจากหน้าเธอลงบนหน้าอกผมผมเอามือไปปาดเช็ดที่เหลืออยู่บนหน้าเธอ เธอกลับทำปากโหยหาอยากจะลิ้มรสมันจากมือผมผมจึงอานิ้วที่เปื้อนน้ำควยจากการปาดเช็ดให้เธอดูด และใช้ลิ้นเลียเล่นนิ้วผมไปด้วย
            เธอทั้งขย่มทั้งดูดเลียนิ้วอารมณ์เธอกลับขึ้น จนตัวเองจะเสร็จเอง หยุดขย่มแต่เปลี่ยนมาบดโยกเร็วๆจนเธอกระตุกเสร็จ ผมเลยพลิกเธอลงล้างผมอยู่บน แล้วเย็ดท่าเบสิกเพื่อเร่งให้ผมเสร็จตาม แล้วผมแตกใส่หีเธอเต็มหีเหมือนเมื่อคืนเธอมีสีหน้าอิ่มเอมจนเคลิ้มลอย ตัวกระตุกเสร็จตามมาอีกติดๆ และเธอก็ถ่างขาให้น้ำควยผมไหลออกจากหีเธอได้สะดวก จนไหลเป็นทางไปตามแผ่นหินที่นอนอยู่
            เรานอนกอดกันพักเหนื่อยก่อนให้น้ำที่หยดจากบนผนังถ้ำเป็นสปานวดตัวไปด้วยสักพักก็ชวนกันลุกขึ้นไปล้างเนื้อล้างตัว แล้วค่อยออกไปหาอาหารกัน
            ตอนนั้นผมเริ่มอยากเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นเพราะอยากรู้ว่าเธอพูดอะไรตอนเธอโดนผมเย็ด เธอก็สอนให้ จนผมรู้คำญี่ปุ่นได้หลายคำพอเวลาผ่านไปอีกอาทิตย์หนึ่ง ผมก็เริ่มสื่อสารภาษาญี่ปุ่นกับเธอจนพอเข้าใจได้และจากนั้นผมก็พูดญี่ปุ่นกับเธอตลอดเพื่อฝึกภาษา
          เรกะ เคยถามผม ถึงเรื่องที่ผมเคยถูกผู้หญิงทิ้งที่ผมเคยบอกเธอว่าผมโดนจนชาชิน เธอเกริ่นถามเหมือนอยากรู้ ผมก็เล่าชีวิตผมให้ฟังทั้งหมดและผู้หญิงที่ผมจากมาเริ่มตั้งแต่ กิ่ง กลางแอน และนาง
            เรกะ ฟังเรื่องและความรู้สึกความคิดของผมทั้งหมดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย จนเดาไม่ออกว่าเธอคิดอะไร แล้วเธอก็พูดว่า
            "คนชื่อนาง คงเป็นคนที่นายรักที่สุดสินะ เวลาโดนคนที่ตัวเองรักไล่ให้ไปให้พ้น มันคงเจ็บปวดน่าดู แต่ฉันว่ากลางเป็นคนที่รักนายมากที่สุดฟังจากที่นายเล่า เธอทำทุกอย่างเพื่อนาย"
          เรกะ วิเคราะห์ออกมาเป็นฉากๆ และผมก็คิดได้ตามนั้นจริงๆ แล้วเรกะก็ถามมาว่า
            "ฉัน กลาง และ นาง ใครสวยกว่ากัน"
          ผมยิ้มหน้าทะเล้นมองหน้าเธอ แต่ไม่ตอบ เธอมีสีหน้าไม่สบอารมณ์แต่ไม่ถามต่อ แล้วผมก็ถามเธอมั่งว่า เธอเป็นใคร ทำไมถึงโดนไล่ฆ่าเธอไม่ตอบเหมือนกัน บอกแค่ว่า นายไม่รู้เป็นดีที่สุด แล้วก็เข้าเต็นท์ไปนอน ผมมองตามเธอ แล้วลองนึกดูเล่นๆ ว่าใครสวยที่สุดผมยังหาคำตอบไม่ได้เลย ถ้าให้เลือกว่าเลือกได้คนใดคนหนึ่ง ผมก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน
            เวลาผ่านไปร่วมเดือนการช่วยเหลือก็มาถึง เมื่อเรกะกับผม เห็นฮอริคอปเตอร์ลำหนึ่งกำลังบินวนสำรวจรอบเกาะ เหมือนกำลังค้นหาพวกเราอยู่ และในที่สุดก็เห็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากพวกเราฮอลำนั้นจึงหาที่จะจอดลง ส่วนเรกะกับผมที่แรกก็ดีใจที่จะได้กลับบ้านแต่เมื่อนึกถึงเวลาแห่งความสุขของเราก็หมดลงแล้วด้วยมันทำให้รู้สึกใจหายจนหน้าสลดลง แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้แก่กันเหมือนเป็นคำลำลาสุดท้าย
            ------------------------------------------------------------------------------------------------
             ทันที่ที่ฮอลำนั้น ลงจอดแตะถึงพื้น เรกะก็มีสีหน้าเย็นชาและหญิ่งยโสกลับไปเป็นเรกะนางพญาคนเดิม ฮอที่มารับเป็นของบริษัทชาวญี่ปุ่นที่มาลงทุนอยู่ในไทยโดยมีชาวญี่ปุ่นมาด้วยถึง 4 คน ทันทีที่พวกนั้นลงจากฮอแล้วเห็นเรกะก็รีบยืนตรงโค้งคำนับอย่างนอบน้อม แล้วพูดภาษาญี่ปุ่นด้วยเสียงดัง แบบยอมรับความผิดว่า
            "พวกเรามารับคุณหนูช้า ขอให้คุณหนูยกโทษให้ด้วย"
            เรกะ ปลายหางตามองแล้วพูดเสียงเย็นชาว่า
            "แล้วทำไมถึงมาช้า"
          "คือตอนแรก ทางการไทย ค้นหาในสิบวันแรกไม่พบร่องรอยจึงประเมินว่าเสียชีวิตทั้งหมด แต่ท่านประธานไม่ยอมรับ ให้บริษัทในเครือทั้งหมดในประเทศไทยระดมกำลังตามหา พวกเราค้นหาทุกตารางนิ้ว เพื่อไม่ให้สิ่งใดรอดพ้นสายตาไปได้จึงเป็นเหตุให้เสียเวลาล่าช้า"
          เรกะ ผงกศีรษะ พอใจในเหตุผล แล้วพวกนั้นยังบอกอีกว่า
            "พวกเราโชคดีที่เจอคุณหนู และเราต้องพาคุณหนูกลับญี่ปุ่นโดยเร็ว ท่านประธานเป็นห่วงคุณหนูมากจนโรคหัวใจกำเริบล้มป่วยคุณหนูต้องรีบไปพบท่าน"
          เรกะมีสีหน้ากังวลขึ้น แล้วรีบเดินขึ้นฮอ พวกนั้นเลยพาผมและเรกะออกจากเกาะกลับขึ้นแผ่นดินไทย
            เรกะ หลังจากออกจากเกาะไม่พูดกับผมแม้สักคำ มีแต่สายตาที่บางครั้งลอบชำเลืองมองมายังผมเท่านั้นซึ่งผมก็ยิ้มให้ แต่เธอก็ไม่ได้ยิ้มตอบ
            จนถึงแผ่นดินไทย พวกนั้นพาผมไปที่หนึ่งแล้วพาเรกะไปไหนไม่รู้ พวกมันทิ้งผมไว้กับชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งและคนไทยซึ่งเป็นทนายอีกคนหนึ่งเพื่อพาผมไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ายังไม่ตายและเป็นพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ผมจึงมีโอกาสได้ถามทนายคนไทยว่า ตกลงเรกะ เป็นใคร ทำไมถึงถูกลอบฆ่า
            ถึงได้รู้ว่า เรกะเป็นลูกสาวของแก็งค์ยากุซ่าที่มีอิธิพล อันดับ 2 ของญี่ปุ่น และจะขึ้นเป็นผู้สืบทอดต่อจากคิมิยะ ทาเอดะ แต่รู้สึกว่ามีคนไม่พอใจการขึ้นเป็นผู้สืบทอดของเธอจึงลงมือลอบสังหาร คิดว่าเป็นคนสำคัญในแก็งค์ตัวเองนั่นแหละที่อยากขึ้นเป็นผู้สืบทอดแทนตอนนี้ทางโน้นก็คงรู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังแล้วมั่งว่าเป็นใคร
            ผมพอได้รู้ ว่าเธอเป็นลูกสาวยากุซ่าที่ทรงอิทธิพลขนาดนี้ ซึ่งมันเกินความคาดหมายของผมเยอะรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันทีนี่ถ้าพ่อเธอรู้ว่าผมไปมีอะไรกับเธอ จะตามมาเก็บผมมั๊ยวะ มิน่า เรกะจึงทำเป็นไม่สนใจผมตั้งแต่ออกจากเกาะ
คดีนี้ไม่มีอะไรคืบหน้านักหรอกในประเทศไทยเพราะเป็นความขัดแย้งของยากุซ่า มาก่อเหตุในประเทศไทย
            หลังจากผมให้ปากคำต่างๆ ไปเรียบร้อยพวกญี่ปุ่นก็ส่งผมกลับไปที่กระบี่ ที่เดิมที่ผมทำงานอยู่ และให้เงินผมก้อนหนึ่งประมาณ 1 แสนบาท และผมก็กลับไปทำงานที่บริษัทให้เช่าเรือเหมือนเดิม
             ต่อมาอีก 1 เดือน มีคนญี่ปุ่นที่มาเที่ยวมาเสนองานให้ผมเพราะเห็นผมพูดญี่ปุ่นได้ โดยจะพาผมไปทำงานที่ญี่ปุ่นและบอกว่าจะได้เงินเยอะมากบอกว่าจะพาไปทำงานบริษัทภาพยนตร์ของญี่ปุ่น ผมคิดอยู่นานเพราะกลัวจะโดนหลอกไปทำงานแต่คิดอีกทีเป็นผู้ชาย มันจะหลอกไปทำไมวะ แถมการไปก็ไม่เสียเงินสักบาท แถมทำ พลาสปอร์ตขอ วีซ่า ไปทำงานถูกต้อง มันไม่น่าจะหลอกกันได้
            แล้วผมก็ตัดสินใจที่จะไปเพราะต้องการสร้างอนาคต และก็แอบคิดไปด้วยว่าผมอาจจะได้เจอ เรกะที่โน้น แต่คิดอีกทีก็ไม่น่าเป็นไปได้ คนระดับเธอจะมาเดินถนนให้ผมเจอได้ยังไง
---------------------------------------------------------------------------------



ติดตามผลงานได้ที่นี้ ไล่ตามที่ลงจากล่างขึ้นบนนะ...

กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 11
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 9 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 10
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 7 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 8
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 5 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 6
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 3 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 4
กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 1 กามลิขิต ชีวิตหฤหรรษ ตอนที่ 2
ชอบเล่นชู้ ตอนที่ 2 (Remake) สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 5
ของวิเศษ โดเรม่อน ตอน คำคืนหฤหรรษ์กับเชือกเพื่อนแท้ (ซีรีย์จบในตอน)
ของวิเศษ โดเรม่อน ตอน หยิ่งนักมันต้องเจอรุมเปียก (ซีรีย์จบในตอน)
สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 4ชอบเล่นชู้ ตอนที่ 1 (Remake)
สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 2สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 3
สองพยัคฆ์หนักแผ่นดิน ตอนที่ 1 (นิยายกำลังภายใน ล้อยุทธภพ เสียวทะลึงปนฮา)
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่12
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่11
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่10
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 9
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 8
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 7
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 6
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 5
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 4
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 3
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 2
Reply 2003 สามหนุ่มสามมุม ตอนที่ 1
Reply 1994 ย้อนเล่าประสบการณ์ sex 8 บทส่งท้ายลูกพี่ลูกน้อง 2
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex7
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex6Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex5
ลูกกระหรี่Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex4
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex3
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex2
Reply 1994 ย้อนเรื่องเล่าประสบการณ์ sex1
สวัสดีครับคุณครู แอม ฟราย แต็งค์กิ้ว ฟักยู
[/size]


suriyamahajit

ใหญ่ได้มีโอกาสไปทำงานต่างประเทศแล้ว