ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_assasin008

จิตราคะ ตอนที่ 6 - นกกระจอก

เริ่มโดย assasin008, กันยายน 26, 2015, 02:12:50 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

assasin008

จิตราคะ ตอนที่ 6 - นกกระจอก
........................................
Assasin008 2015-09-26

   จีวรนอนไม่หลับ ได้แต่ลืมตาโพลงอยู่ในห้องมืดสลัว ความจริงอันแปลกประหลาดหลายอย่างประดังเข้าใส่จนเขาหัวหมุนติ้วตั้งหลักรับไว้ไม่ทัน ทั้งที่อาศัยอยู่กินกับวัดมานาน ผ่านป่าช้าสุสานมาก็ไม่น้อย แต่นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสถึงการดำรงคงอยู่ของภูติผีและวิญญาณด้วยตนเอง

   โดยปกติแล้ว เขาไม่เกรงกลัวความมืด เขาโตมากับความมืดเสียเป็นส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ นับตั้งแต่จำความได้ เรือนนอนในวัดนั้นทั้งมืด เงียบสงบ และวังเวง แต่เขาก็คุ้นชินไม่จนแทบไม่รู้สึกหวาดกลัว นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่ไว้ใจความมืด เพราะไม่ทราบว่าในนั้นจะมีภูติผีตนไหนหลบซ่อนรอคอยออกมาหลอกหลอนเขาหรือไม่ ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว

   "นะโมตัสสะ ..."

   เมื่อจิตใจไหวหวั่นก็ต้องมองหาที่พึ่งทางใจ จีวรพนมมือท่องนะโมสามรอบ ตามด้วยคาถาชินบัญชรชุดใหญ่ ในขณะที่มือซึ่งพนมอยู่นั้นมีตะกรุดดาบของขลังที่เมญ่าให้มา เธอมองออกว่าเขาจะเกิดความกลัว จึงบอกให้เขาย้ายมานอนในห้องพักของบ้านใหญ่ใกล้กับห้องของแม่บ้าน เพราะมีคนอยู่หลายคนเขาจะได้อุ่นใจกว่านอนคนเดียวในบ้านเล็กด้านนอก

   แน่นอนว่าเขาอุ่นใจขึ้น อย่างน้อยสองห้องที่ขนาบข้างก็มีแม่บ้านนอนอยู่ ห้องรับรองก็หรูหราใหญ่โตโอ่อ่าเหมือนห้องพักในโรงแรมห้าดาว แต่บางทีเพราะมันใหญ่โตเกินไป มีห้องหับมากมายเกินไป จีวรจึงยิ่งรู้สึกได้ถึงความวังเวงและความเงียบสงัดอยู่รอบกาย

   คำรับรองที่เมญ่าบอกว่าในบ้านไม่มีผีที่คิดร้ายแน่นอนนั้นสร้างความอุ่นใจให้เขาอยู่บ้างในคราวแรก แต่เมื่ออยู่คนเดียวนานเข้าแล้วคิดฟุ้งซ่านถึงเจ้าผีแว่น เขาก็เริ่มสงสัยและระแวงขึ้นมา เมญ่าบอกว่าไม่มีผีที่คิดร้ายในบ้านเพราะผีบ้านผีเรือนคอยดูแลให้ และเธอก็ได้กำชับกับผีบ้านผีเรือนแล้วว่าอย่าอุตริคิดแกล้งเขา

   ตอนนี้ข้อระแวงของเขาก็คือผีบ้านผีเรือนนั้นนับเป็นผีด้วยหรือไม่? เพราะจะคิดร้ายหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผี ตอนนี้เขาก็ยังไม่คิดอยากจะพบปะสนทนา หรืออยากโดนแกล้งรับน้องด้วยสักเท่าไหร่นัก

   จีวรพยายามสลัดความกังวลและหวาดกลัวออก ด้วยการหันไปนึกถึงภาพเสน่ห์อันงดงามของเมญ่า โดยเฉพาะฉากร่วมรักในภาพมายาที่เมญ่าทำให้เขาเห็น ถึงเวลานี้เขาก็ยังแทบไม่อยากทำใจเชื่อ ว่านั่นเป็นเพียงมายาไม่ใช่ของจริง เพราะทุกรสสัมผัสนั้นช่างหอมหวานเสมือนจริงจนเขาแยกแยะไม่ออก แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเนียนนุ่มของผิวกาย และสัมผัสที่ตอดหนุบหนับเมื่อสอดใส่ร่วมรัก

   เพียงคิดถึงเรื่องนี้ ความเป็นชายของจีวรก็พองโตขึ้นมาจนบวมเป่ง จากนั้นก็ตามด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยวในหัวใจ เมื่อคิดไปว่าตอนนี้เมญ่านางในฝันของเขาน่าจะกำลังพลอดรักกับพี่เอกที่สุดแสนจะน่ายำเกรงคนนั้น เขาเชื่อว่าเขาคงไม่คิดผิด เพราะเพียงแค่รับรู้จากจินตนาการวาบหวิวที่เมญ่ามีให้พี่เอก เขาก็ทราบแล้วว่าเมญ่านั้นหลงไหลชายคนรักจนหัวปักหัวปำเพียงใด

   "แต่เมญ่าก็ไม่ได้รังเกียจเรานี่นา แถมยังยอมสร้างภาพมายาให้เราได้มีอะไรกับเธอด้วย เธออาจจะชอบเราด้วยก็ได้นี่นา ..."

   เขาบ่นพึมพำออกมาด้วยความคิดเข้าข้างตัวเองตามวิสัยของชายหนุ่ม ถึงแม้สิ่งที่เห็นกับตาจะเป็นเรื่องหนึ่ง ทั้งยังมีความรู้สึกผิดด้านศีลธรรมข้อกามารั้งไว้อีกข้อหนึ่ง แต่ใจคนก็ใช่จะหักหาญกันได้โดยง่าย

   เมญ่านั้นเป็นดาราที่จีวรคลั่งไคล้มาตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นด้านความสวยสง่าราศีและความสามารถทางด้านการแสดงนั้นล้วนแล้วแต่ยอดเยี่ยมจับใจ เมื่อเขาได้ใกล้ชิดร่วมกลุ่มได้สนทนา แนวคิดไม่ถือตัว รวมถึงความน่ารักสดใสของเมญ่าก็ยิ่งทำให้เขาปลาบปลื้ม

   โดยเฉพาะเมื่อได้ทราบถึงความหลังอันน่าสงสารของเมญ่า เขายิ่งรู้สึกอยากเป็นคนปลอบประโลมดูแลเธอ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ยิ่งเพิ่มพูนให้จีวรตกอยู่ในบ่วงแห่งรักกับเมญ่ามากขึ้นทีละน้อย จนนำมาซึ่งความคิดที่เข้าข้างตัวเอง จินตนาการของเขาจึงเริ่มเลยเถิดไปไกลลิบ

   มือหยาบกร้านล้วงมุดลอดกางเกงลงไปจับดุ้นเอ็นที่แข็งเกร็งตระหง่าน สองตาหลับพริ้มในความมืด ลอบคิดจินตนาการไปว่าเมญ่าคนสวยลงมาหาเขาถึงห้องนอนยามดึกดื่น เธอมาหาเขาในชุดนอนบางเบา แล้วบอกรักเขา จากนั้นก็กอดรัดร่วมรักอย่างเร่าร้อนเช่นเดียวกับที่เคยประสบผ่านภาพมายา

   ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูแผ่วเบาที่ดังแทรกเสียงหอบหายใจหนักหน่วงทำให้จีวรสะดุ้งโหยงรีบถอนมือออกจากการรูดถอก ภาพในจินตนาการกำลังถึงช่วงเวลาที่เขากระแทกกระทั้นบั้นเอวเข้าใส่เมญ่าเป็นระวิง แต่แล้วภาพนั้นก็ต้องสลายหายวับไปเพราะความรู้สึกตื่นตระหนก เขาจึงรีบทำตัวเป็นปกติแล้วเอียงหน้ามองดูไปทางประตู แล้วแสร้งเป็นว่ายังหลับอยู่

   เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งหลังจากเว้นไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งความจริงจีวรควรจะรีบลุกไปเปิดหรือไม่ก็ขานรับ แต่ความรู้สึกแปลก ๆ และหนาวเยือกบางอย่างทำให้เขาขนลุกจนไม่ลุกขึ้นไป

   เขาตัดสินใจนอนนิ่งเช่นเดิม แต่ก็เอียงหน้ามองไปทางประตู ดึกดื่นแบบนี้ใครกันที่จะมาหาเขา เขาจึงเพียงหวังว่าที่อยู่นอกห้องนั้นคงไม่ใช่ผีบ้านผีเรือนอย่างที่เมญ่าบอก และตอนนี้เขาเพิ่งนึกได้ว่าเขาไม่ได้ล๊อคประตูห้องนอน

   กริ๊ก!! เสียงลูกบิดประตูดังขึ้น พร้อมกับแสงขาวนวลที่สาดส่องเข้ามาเมื่อบานประตูเปิดออก จีวรยังคงแสร้งนอนหลับในความมืด แต่ยังแอบหรี่ตามองดูว่าผู้มาเยือนคือใครด้วยความรู้สึกหวาดวิตกอยู่บ้าง

   'เมญ่า!!!!'

   ทันใดนั้นจีวรแทบจะกระโดดลุกจากเตียงแล้วส่งเสียงร้องโพล่งออกมา เพราะร่างที่สะท้อนแสงไฟจากนอกห้องนอนนั้นคือเมญ่าอย่างไม่ผิดเพี้ยน ผมยาวของเธอสยายออกเป็นลอนงาม ร่างงามเปล่งปลั่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยส่วนโค้งเว้ายืนอยู่ตรงนั้น เธอสวมใส่ชุดนอนบางเบาสีขาวสะอาดตาราวกับนางฟ้าที่เตรียมเข้านอน

  อย่างไรก็ตามจีวรเลือกที่จะแกล้งทำเป็นนอนหลับไปก่อน เขาไม่ทราบว่าเมญ่ามาหาเขาด้วยเรื่องอะไร แต่คงไม่เหมาะแน่หากเขาจะลุกขึ้นไปต้อนรับในสภาพที่มีดุ้นเอ็นแข็งโด่ตั้งธงแบบนี้ เขาหรี่ตามองดูนิ่งเงียบเช่นนั้นเนิ่นนาน กว่าที่เมญ่านางฟ้าเดินดินจะเริ่มขยับเคลื่อนไหว

   "หลับไปแล้วเหรอจ๊ะวอน?"

   เธอส่งเสียงถามจากหน้าตาประตู และเมื่อไม่มีเสียงตอบร่างงามก็เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับแสงไฟที่ค่อย ๆ หายไปเพราะบานประตูปิดลง เวลานี้ทั้งห้องจึงตกอยู่ในความมืดอันเงียบสงบ มีแต่เพียงเสียงหายใจด้วยความตื่นเต้นตึงเครียดของจีวรที่แว่วดังอยู่ การที่เมญ่าเข้ามาอยู่ในห้องนอนหาเขาสองต่อสองแบบนี้หมายความว่าอะไร?
 
   หนุ่มเวอร์จิ้นไร้ประสบการณ์อย่างจีวรรู้สึกเหมือนหัวสมองพองโต แต่ไม่ว่าจะนึกคิดอย่างไรก็ไม่พ้นเรื่องชู้สาวคาวสวาท จินตนาการของเขาจึงวิ่งตะบึงจนไกลสุดกู่ และเขาแน่ใจว่านี่ไม่ใช่การมองเห็นภาพผ่านราคะจิตอย่างที่เคยเห็น

   "เมย์คิดถึงวอนจนนอนไม่หลับ แต่วอนเล่นนอนหลับไม่รู้เรื่องแบบนี้ต้องลงโทษกันหน่อยแล้ว"

   เสียงหวานใสดังขึ้นพร้อมกับกลิ่นกายหอมหวานที่โชยมาเข้าจมูก จากนั้นเตียงนอนของจีวรก็ยวบขยับด้วยมีน้ำหนักกดลงไป แต่เขาไม่กล้าลืมตาดูจึงไม่ทราบว่าเธอกำลังทำอะไร เพราะเกรงว่าจะโดนจับได้เรื่องแกล้งหลับ

   จีวรสะดุ้งเล็ก ๆ เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสเย็นเยียบที่แตะลงบนแก้มของเขา เขาคิดว่านั่นน่าจะเป็นปลายนิ้วของเมญ่า และปลายนิ้วนั้นกำลังลากไล้ไปทั่วใบหน้าของเขาแล้วไล่เล้าโลมต่ำลงไปที่ลำคอ

   เขาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความตื่นเต้น มือของเมญ่าเย็นแปลก ๆ ก็จริง แต่นั่นอาจเป็นเพราะความเย็นของเครื่องปรับอากาศ เขาจึงไม่ได้ใส่ใจนัก โดยเฉพาะตอนนี้ที่มือของเธอลากล่วงลึกลงไปถึงบริเวณท้องน้อยแล้ว

   "หลับอยู่ก็ยังหื่นอีกนะวอน แข็งซะขนาดนี้เชียว"

   จีวรถึงกับพยายามกลั้นหายใจเอาไว้เมื่อฝ่ามือนุ่มแต่เย็นเยียบนั้นลูบไล้มุดลงใต้เสื้อยืดสัมผัสกับกล้ามเนื้อหน้าท้องครู่ใหญ่ ก่อนจะเริ่มขยับต่ำมุดลอดกางเกงแล้วคว้าจับเข้ากับดุ้นเอ็นที่แข็งตัวโด่เด่ของเขา

   เขาเกือบเผลอร้องซี้ดออกมาเมื่อฝ่ามือนุ่มบีบใส่ดุ้นเอ็นของเขาแผ่วเบา พร้อมกับรูดเข้ารูดออกแผ่วเบาไม่หยุด แต่ความเสียวก็ยากเกินจะเก็บกักไว้ เขาเผลอแอ่นเด้งตัวขึ้นเล็กน้อย สองมือถึงกับจิกเกร็งลงไปเบาะนอน เพราะรสสัมผัสของมือเมญ่านั้นยอดเยี่ยมกว่าการช่วยตัวเองหลายเท่านัก

   'อูยยสสสสส เสียวจัง เมญ่าตัวจริงเหรอนี่ หรือว่าเรากำลังฝันไป แต่มันเหมือนของจริงชะมัด'

   ภายใต้ท่าทีการนอนหลับอย่างเงียบสงบนั้น อารมณ์ของจีวรกำลังพลุ่งพล่านสุดจะทานทน เขาเริ่มไม่แน่ใจว่านี่คือความฝันหรือไม่ แต่แน่ใจว่าไม่ใช่การรับรู้ราคะจิตอย่างที่เคยเป็น และไม่คิดว่านี่เป็นภาพมายาเพราะเขาไม่ได้สบตากับเมญ่าอีกเลย ส่วนจะเป็นความฝันหรือไม่นั้นเขาก็ไม่คิดว่าจะใช่ เพราะความรู้สึกมันชัดเจนมากเกินไป จะมีก็แต่เพียงความรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย ที่มือของเมญ่าเย็นผิดปกติอยู่บ้าง

   หลังจากโดนใช้มือรูดให้พักใหญ่จนปลายหัวบานเปียกชุ่ม ขนาดของมันก็พองโตขึ้นมาจนเต็มที่ ตอนนี้จีวรเริ่มรับรู้ได้ถึงรสสัมผัสอันแปลกใหม่ อะไรบางอย่างที่เปียกชื้นหยุ่นนุ่มกำลังโอบล้อมห่อหุ้มดุ้นเอ็นของเขาพร้อมกับแรงดูดดังจ๊วบจนเขาต้องแอ่นเดาะเอวขึ้นตามแรงดูด

   ความสงสัยทำให้เขาเผลอก้มหน้าลงมองฝ่าความมืดสลัวไปที่กลางหว่างขา ก่อนจะพบว่าส่วนหัวของเมญ่ากำลังซุกผงกอยู่ตรงนั้น ดาราสาวดาวรุ่งอันดับหนึ่งในตอนนี้กำลังใช้ปากดูดเลียให้เขา!!!

   "ซี้ดดดสสสสส"

   ความเสียวและความตื่นเต้นทำให้จีวรยั้งเสียงครางเอาไว้ไม่อยู่ ซึ่งความจริงเขาก็ไม่ต้องการยั้งเอาไว้อยู่แล้ว การกระทำของเมญ่าชัดเจนอยู่ในตัวเองจนแม้แต่คนที่โง่ที่สุดในโลกก็ต้องเข้าใจ เธอกำลังอยากมีเซ็กส์กับเขา

   เมื่อคิดได้ดังนั้นสองมือจึงขยับไปจับกุมที่หลังศีรษะของเมญ่าตามแรงปราถนา เธอเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีตื่นตกใจแต่อย่างใด เหมือนจะรู้อยู่แล้วด้วยซ้ำว่าเขาไม่ได้นอนหลับอยู่ จีวรจึงสนองตัณหาตนเองอย่างเต็มที่ด้วยการกดศีรษะของเธอเข้าหาตัว พร้อมกับแอ่นกระดกเอวขึ้นไปด้านบนเพื่อเสียกไสเข้าไปให้สุดลำ

   "อู้ววววว เมย์จ๋า ซี้ดดสสสสส"

   จีวรกดแช่ไว้เช่นนั้น สัมผัสเปียกชื้นในโพรงปากที่โอบล้อมทั่วทุกพื้นผิวของความเป็นชายจนมิดด้ามนั้นช่างหฤหรรษ์เกินจะทานทน อีกทั้งภายในนั้นลิ้นของเธอกำลังตวัดระรัวเข้าสู้ไม่ถอย ตามมาด้วยแรงดูดในระดับที่เขาแทบน้ำแตกในคราวเดียว

   บ๊วบ บ๊วบ บ๊วบ ... หลังจากจับหัวเธอกดใส่เข้าปากจนมิดลำ จีวรก็ค่อย ๆ ผ่อนแรงกด ปล่อยให้เธอผงกหัวขึ้นลง แรงดูดสุดเสียวนั้นทำให้เกิดเสียงดังบ๊วบไปทั่วห้องอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มบริสุทธิ์ผุดผ่องเช่นเขาจึงส่งเสียงร่ำร้องครางแล้วครางอีกไม่หยุด

   "อ๊าากกก ไม่ไหวแล้วเมย์ ออกแล้ว ซี้ดดสสสสสส เมย์"

   ลีลาการดูดอันเร่าร้อนทำให้จีวรไม่อาจทานทนไหว เพียงไม่นานนักความเป็นชายก็พ่ายแพ้ให้กับโพรงปากของเมญ่า เขาตะปบมือกดใส่ศีรษะของเมญ่าอีกครั้ง พร้อมกับเดาะเอวกระแทกขึ้นสุดแรง และการกระแทกครั้งนี้ก็ตามด้วยการปลดปล่อยน้ำกามคาวข้นออกมาชุดใหญ่

   การเคลื่อนไหวภายนอกนั้นดูเหมือนจะหยุดนิ่ง แต่ว่าแรงดูดในโพรงปากยังคงต่อเนื่องอย่างเร่าร้อน จีวรสัมผัสได้ถึงแรงดูดตอดที่แสนหฤหรรษ์ขณะที่ร่างเขากระตุกด้วยความเสียว เขารู้สึกราวกับว่าน้ำรักของเขาที่หลั่งออกมา คงจะต้องโดนเมญ่าดูดกลืนเข้าไปได้จนหมดทุกหยาดหยด

   จีวรปลดปล่อยสองมือนอนแผ่หราด้วยความเหน็ดเหนื่อยหลังจากได้ปลดเปลื้องอารมณ์ใคร่ แต่เมญ่ายังคงผงกหัวดูดเลียอย่างต่อเนื่อง ดุ้นเอ็นที่อ่อนตัวลงเล็กน้อยจึงแข็งตัวขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว

   "เมย์ ... อูยยสสส"

   เขาส่งเสียงครางเล็กน้อย ด้วยความรู้สึกเสียดายเมื่อเธอปลดปล่อยดุ้นเอ็นของเขาออกจากโพรงปากนุ่มชื้น จึงก้มหน้ามองดูเงาร่างที่แอ่นลุกขึ้นในความมืด เวลานี้เธอกำลังขยับร่างมานั่งคร่อมทับเขาอย่างเงียบงัน น่าเสียดายก็แต่เพียงในห้องมืดเกินไป เขาจึงมองไม่เห็นผิวพรรณอันขาวเปล่งปลั่งสวยสดของเธอ

   "... ไม่ต้องพูดอะไรแล้วจ้ะวอน นับตั้งแต่นี้เมย์จะเป็นของวอนคนเดียว"

   เธอนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงหวานฉ่ำที่ทำให้หัวใจของเขาพองโตราวกับฝันไป จีวรแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองในคราวแรก แต่จะให้ไม่เชื่อก็คงไม่ได้ เพราะเธอพูดจบก็ขยับจับดุ้นเอ็นของเขาตั้งตรง แล้วขยับร่างยุกยิกขึ้นขย่มพรวดเดียว ใช้ร่องหลืบกลืนกินของเขามุดหายเข้าไปจนสุดลำ

   "อูยสสสสสสสส"

   จีวรสูดปากครางเสียงดัง ตัวกระตุกเฮือกด้วยความเสียวหฤหรรษ์ เมื่อครู่ความเสียวจากการโดนปากจิ้มลิ้มนั้นดูดว่าสุดยอดแล้ว แต่สัมผัสของแรงตอดรัดหนุบหนับในร่องเสียวนั้นร้อนแรงสุดยอดยิ่งกว่าหลายเท่า ชายหนุ่มจึงได้แต่ร่ำร้องขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาปราณีให้เขาได้เปิดซิงกับนางฟ้าขวัญใจอย่างเมญ่า

   เสียงครางของจีวรดังกว่าในช่วงแรก จนกระทั่งเมื่อสะโพกของเมญ่าเริ่มบดส่ายเป็นระวิง เสียงครางเร่าร้อนของเธอจึงค่อยดังผสานกับเสียงครางของเขา เสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังถี่ยิบพร้อมกับการเด้งขึ้นเด้งลงของเบาะนอนหนานุ่ม

   "อูยยสสสส วอนจ๋า .... ซี้ดดดสสส ช่วยเมย์ด้วยซิวอน"

   เมญ่าร่ำร้องครวญครางสุดเสียวแต่ก็ยังโหมขย่มใส่อย่างไม่หยุดยั้ง อีกทั้งยังเอื้อมมือลงไปจับมือสองข้างของเขาขึ้นมาวางแหมะลงบนสองเต้าที่ใหญ่โตล้นมือ

   ต่อให้จีวรจะไร้เดียงสาหรือโง่กว่านี้ก็ต้องแปลความหมายออก เขาลงมือบีบขย้ำเข้าใส่ก้อนเนื้ออวบกลมนุ่มนิ่มเด้งสู้มือนั้นอย่างเมามัน สองมือบีบสุดแรงจนบุ๋มยุบลงไป ก่อนจะปล่อยออกให้มันเด้งกลับคืนสู่สภาพเดิม รอบแล้วรอบเล่าที่เขากระทำเช่นนี้ และรอบแล้วรอบเล่าที่สร้างความรู้สึกหื่นกระหายให้เขาอย่างไม่หยุดยั้ง

   เมญ่าควบร่อนเอวแสดงให้เห็นถึงลีลาอันเร่าร้อน สะโพกผายกระแทกแรงบ้างเบาบ้างสลับไปมา ทั้งยังมีการโยกซ้ายโยกขวาจนรสเสียวตรงจุดเชื่อมต่อเปลี่ยนแปลงไปมา

   "ซี้ดดสสส ไม่ไหวแล้วเมย์ ... อ๊าากกก อูยยยสสสส"

   น่าเสียดายที่จีวรอ่อนประสบการณ์เกินไป จึงยังไม่รู้จักยั้งอารมณ์ให้เสร็จสมพร้อมกัน แต่รสชาติความเสียวหฤหรรษ์นั้นก็ร้อนแรงเกินไป ต่อให้เขากัดฟันทนก็ไม่แน่ว่าจะรับไหว เพียงโดนคร่อมขย่มไม่นานก็ถึงจุดสุดยอดปลดเปลื้องอารมณ์ใคร่เข้าใส่ร่างของเมญ่าทุกหยาดหยดอีกครั้ง

   "... วอนอ่ะ ไม่รอกันเลย"

   เมญ่าหยุดการขย่มสะโพกแล้วส่งเสียงด้วยอารมณ์เง้างอนออกมา จีวรที่นอนแผ่หราหอบหายใจหนักหน่วงจึงเริ่มฉุกคิดได้ถึงความรู้บนเตียงที่เขาเคยอ่านมา เขานึกถึงคำว่านกกระจอกไม่ทันกินน้ำออกมาเป็นคำแรก

   "ขอโทษ ... เดี๋ยวนะรอนิดนึง"

   จีวรรู้สึกหน้าแดงวูบเพราะรู้สึกผิด เขารู้แค่เพียงว่าการทำให้ผู้หญิงไปไม่ถึงฝั่งฝันนั้นนับว่าเป็นความผิดอันร้ายกาจอย่างหนึ่งของผู้ชาย เขาจึงยิ้มแห้งตั้งใจว่าจะชดเชยให้เมญ่าอย่างเต็มที่

   เวลานี้เขาเริ่มรู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างภาพมายาที่เหมือนจริงของเมญ่าแล้ว ในภาพมายานั้นเมญ่าทำให้เขารู้สึกราวกับเป็นยอดมนุษย์ ความรู้สึกที่สามารถปราบพิชิตปรนเปรอมอบความรักให้จนเมย์เสร็จสมรอบแล้วรอบเล่านั้นช่างหอมหวานน่าภาคภูมิ หากทว่าในความเป็นจริง กลับเป็นเขาที่โดนอีกฝ่ายกำราบจนต้านไม่อยู่ เขาเสร็จไปแล้วสองครั้ง ในขณะที่เธอยังไม่เสร็จสมเลยสักครั้งเดียว

   ความรู้สึกผิดมาพร้อมกับความยินดี เขาไม่ทราบว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ทำไมเมญ่าจึงมาเสนอตัวให้เขาถึงขนาดนี้โดยไม่มีสาเหตุ แต่ดูแล้วสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ไม่น่าจะเป็นความฝันหรือภาพหลอน ดังนั้นเขาจึงยินดีอ้าแขนรับสถานการณ์โดยไม่คิดอิดออด

   "อุ๊ย แข็งขึ้นมาอีกแล้ว ... คราวนี้ทนให้ได้นาน ๆ หน่อยจ๊ะวอน เมย์จะควบเต็มที่แล้ว"

   เมญ่าที่ยังคงนั่งคร่อมอยู่บนร่างส่งเสียงหัวเราะคิกคักอย่างมีจริตเล็กน้อย เพราะจีวรเพียงใช้มือลูบคลำเนื้อตัวของเธอครู่เดียว ความเป็นชายที่โดนรีดพิษไปสองรอบจนเริ่มอ่อนตัวก็แข็งโด่ขึ้นมาใหม่ ซึ่งความจริงแล้วนั่นก็ไม่แปลก ต่อหน้าเรือนร่างที่อวบอิ่มอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ ขอแค่เพียงมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่ อารมณ์ใคร่ก็จะโดนปลุกขึ้นมาได้โดยไม่ยากนัก

   จีวรรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยกับการพูดจาของเมญ่า แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เพราะตอนนี้เมญ่าคนสวยได้แปลงร่างเป็นสาวคาวบอยเร่งขย่มโยกเอวอย่างหนักหน่วงถี่ยิบ แรงตอดหนึบหนับที่จู่โจมเข้าใส่ดุ้นเอ็นจึงรุนแรงขึ้นอีกเท่าตัว

   "เมย์ โอววสสสส ซี้ดดสสสสสสส เมย์จ๋า อูยยสสสส"

   ความเสียวหฤหรรษ์นั้นช่างสุดยอดยิ่งกว่าที่เคยจินตนาการ นี่นับเป็นความฝันอันสูงสุดอย่างหนึ่งของชายหนุ่มทุกคน เพียงแต่ปัญหาใหญ่ของจีวรในเวลานี้ก็คือความเสียวนั้นรุนแรงเกินไปจนเขาแทบรับไม่ไหว รู้สึกได้ว่าดุ้นเอ็นกระตุกหงึก ๆ ใกล้แตกกระฉูดอีกรอบ ในขณะที่เมญ่ายังคงควบขี่เข้าใส่โดยไม่มีท่าทีว่าจะเสร็จสม

   จีวรพยายามใช้สติที่เหลือเพียงน้อยนิดนึกถึงถ้อยคำในบทความเกี่ยวกับเซ็กส์ที่เคยอ่านผ่านตา ประโยคหนึ่งบอกว่าหากอยากยืดเวลาการร่วมรัก ให้ลองเบี่ยงเบนความสนใจไปยังสิ่งอื่นบ้าง ดังนั้นเขาจึงพยายามนึกถึงอะไรก็ตามที่ไม่ใช่เมญ่า แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรในหัวสมองก็ยังคงมีเพียงภาพของเมญ่าเต็มไปหมด

   "เมย์หยุดพักก่อน ผมจะแตกอีกแล้ว ซี้ดดดดสสสส"

   จีวรรีบส่งเสียงร้องห้ามเพราะทราบดีถึงข้อจำกัดของตัวเอง วันนี้เขาเสียน้ำไปแล้วหลายครั้ง หากเสียไปอีกรอบเขาคงจะหมดสภาพลุยต่อไม่ไหวจนขายขี้หน้าเป็นแน่ แต่กระนั้นเมญ่ากลับไม่มีทีท่าจะยอมปล่อยให้เขาหยุดพัก ร่างบางส่ายร่อนพริ้วไหวกระหน่ำใส่ไม่ยั้ง

   ในที่สุดเสียงร้องครางทุ้มต่ำของจีวรก็ดังกังวานไปทั่วห้องหับอีกครั้ง เพียงแค่ไม่ถึงสามนาทีเขาก็แตกกระฉูดระเบิดน้ำกามเข้าใส่ร่องหลืบของเมญ่าอีกรอบหนึ่ง และการกระฉูดครั้งนี้ตามมาด้วยความรู้สึกสุขสมจนหมดเรี่ยวแรง

   จีวรรู้สึกเหมือนสติจะดับลงไปวูบหนึ่ง แต่ก็ยังฝืนรั้งสติมองดูเมญ่าในความมืด เธอหยุดขยับร่างแล้วก้มลงมองดูเขาอย่างเงียบงัน และกิริยานั้นทำให้จีวรยิ่งรู้สึกได้ถึงความอ่อนด้อยของตัวเองที่ไม่สามารถทำหน้าที่ของบุรุษได้สำเร็จ

   "ขอโทษนะเมย์ ..."

   เขาพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแหบแห้งหมดความมั่นใจ ในความสุขหฤหรรษ์อิ่มเอมนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกคับข้องใจ เพียงแต่ไม่ทราบว่าจะกระทำอย่างไรได้ นอกจากการออกปากยอมรับผิดอย่างตรงไปตรงมา

   ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากเมญ่า แต่จีวรรับรู้ได้ถึงความรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจที่แสดงออกมาจากทางร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อดุ้นเอ็นของเขาที่มุดคาอยู่ในร่องหลืบค่อย ๆ ห่อเหี่ยวหมดเรี่ยวแรงลงทีละน้อย ตอนนี้เขาถึงกับร่ำร้องภาวนาต่อเทพยดาและผีสาง เขายินยอมแลกอะไรก็ได้กับโอกาสใหม่อีกครั้งเพื่อไม่ให้เมญ่าสัมผัสถึงความอ่อนแอไม่สมชายของเขา

   พรึ่บ!!! ราวกับจะมีใครได้ยินเสียงร่ำร้องภาวนา แสงไฟในห้องกลายเป็นสว่างวูบขึ้นมาพร้อมกับประตูห้องที่เปิดออก

   จีวรสะดุ้งโหยงแต่ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงนั้นขยับไม่ไหว จึงทำได้แค่เพียงเอียงหน้ามองไปทางประตูห้องนอน ก่อนที่เขาจะต้องตื่นตะลึงปากอ้าตาค้างมองหญิงสาวที่อยู่หน้าประตูสลับกับหญิงสาวที่เปลือยกายคร่อมอยู่บนร่างของเขาไปครู่ใหญ่

   "เมญ่า!!!"

   เขาส่งเสียงร้องโพล่งออกมาด้วยความแตกตื่น เพราะหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับพี่เอกนั้นคือเมญ่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในขณะเดียวกันเมญ่าอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนก็กำลังนั่งคร่อมอยู่บนร่างของเขาในสภาพเปลือยเปล่า

   "พี่นิคกี้ทำอะไรคะ หนูบอกแล้วไงว่าอย่ามาแกล้งเพื่อนหนู แล้วนี่ยังแปลงร่างเหมือนหนูมาทำเรื่องน่าอายแบบนี้อีก ... ดีนะพี่เอกบอกว่ามีใครบางคนใช้มนตราข้างล่างนี่ หนูก็เลยลงมาดูทัน"

   เมญ่าที่ยืนอยู่หน้าประตูส่งเสียงต่อว่าโวยวายพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ ในขณะที่จีวรได้แต่อ้าปากค้างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ใครคือนิคกี้ แล้วใครแปลงร่างอะไรยังไง

   "แหม ไม่ได้แกล้งซักหน่อย พี่ก็แค่อยากช่วยบริการให้แขกมีความสุขแค่นั้นเอง พ่อหนุ่มคนนี้คลั่งเธอยังกะอะไรดี พี่ก็เลยช่วยให้เค้าสมหวังแค่นั้นเอง ไม่ได้แกล้งซักหน่อยนะ"

   แสงไฟที่สว่างในห้องทำให้จีวรมองเห็นสีหน้าเหนื่อยหน่ายของเมญ่าที่นั่งคร่อมเขาอยู่ แต่จากนั้นเขาก็ต้องกระพริบตาขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เพราะว่าใบหน้าที่เหมือนเมญ่านั้นค่อย ๆ เปลี่ยนไปทีละน้อย จวบจนกระทั่งกลายเป็นสาวสวยผมสั้นสวมแว่นนางหนึ่ง

   จีวรอ้าปากค้างอีกครั้งเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวัน ตอนนี้เขานึกออกแล้วว่าเคยเห็นสาวสวยผมสั้นคนนี้ที่ไหน เธอคนนี้เป็นนางแบบชื่อดังที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน และชื่อของเธอก็คือนิคกี้ ... ดังนั้นเขาจึงอดขนลุกไม่ได้ เมื่อนึกคิดไปว่าคนที่คร่อมร่างของเขาอยู่นี้คืออะไรบางอย่างที่ไม่ใช่คน

   "ไม่ต้องเลยค่ะพี่นิคกี้ เดี๋ยวเพื่อนหนูตกใจช๊อคไปจะทำยังไงคะ เป็นผีบ้านผีเรือนแท้ ๆ ยังจะมาแกล้งคนอื่นอีก"

   "จ้ะ ๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ แหม กำลังมันเลย ไปก่อนนะจ๊ะพ่อหนุ่มนกกระจอก ถ้ามีคราวหลังหวังว่าจะเก่งขึ้นนะจ๊ะ คิก คิก"

   นิคกี้แสดงยืนยันให้เห็นถึงสิ่งที่จีวรกำลังหวาดกลัว สาวแว่นแสนสวยหันมายิ้มให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะส่งเสียงหัวเราะคิกคักขณะที่ร่างกายค่อย ๆ จางหายไปกับอากาศธาตุทีละน้อยจนหมดสิ้น

   "วอนเป็นอะไรมั้ย ... ว้าย วอน ตาค้างสลบไปแล้วเหรอ วอน!!!"

   ภาพสุดท้ายที่จีวรมองเห็น ก็คือภาพสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของเมญ่าตัวจริง บัดนี้เขารู้แล้วว่าทำไมเมญ่าที่ร่วมรักกับเขาจึงมีท่าทีแปลกผิดปกติ จากนั้นสติของเขาก็หายวับไปเนื่องจากความเหน็ดเหนื่อยและความตื่นกลัวต่อผีสาวนิคกี้

   กระนั้นก่อนที่จะสลบเหมือดไปจริง ๆ เขากลับแย้มยิ้มน้อย ๆ และแอบรำพึงรำพันในใจด้วยความรู้สึกเสียดายผสมกับความโล่งอกว่า

   'เฮ้อ ดีแล้วล่ะที่ไม่ใช่เมญ่าตัวจริง'

...............................

   จีวรเพิ่งได้รับทราบด้วยตนเองว่าอาการฟ้าเหลืองนั้นเป็นอย่างไร หลังจากค่ำคืนที่ทั้งวาบหวามและน่าขนลุกนั้น เขาก็จับไข้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปสบายไปหนึ่งวันเต็ม เขาจึงต้องขาดเรียนเป็นครั้งแรก ส่วนวันที่สองและสามนั้นก็ยังมีอาการหวิว ๆ ไม่มีเรี่ยวแรงอยู่บ้าง จึงนอนพักต่อเนื่องไปอีกสองวันเต็ม ซึ่งก็ยังดีที่บ้านของเมย์ช่วยดูแลรักษาให้เป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นหากเขาไปนอนซมที่วัดคงจะย่ำแย่กว่านี้

   "วอนจ๊ะ เย็นนี้มีธุระอะไรหรือเปล่า เมย์มีอะไรอยากให้ช่วยหน่อย?"

   "ไม่มีอะไรครับเมย์ อยากให้ช่วยอะไรบอกมาได้เลย"

   จีวรรีบตอบอย่างรวดเร็วที่สุดเมื่อเมญ่าดาวมหาลัยคนสวยถามมา เวลานี้เขารู้สึกเหมือนว่าระยะห่างกับดาราสาวสวยสุดฮอตคนนี้ลดลงไปพอสมควร อย่างน้อยเขาและเธอก็กุมความลับเล็ก ๆ ระหว่างกันและกัน เขาทราบว่าเมญ่ามีพลังพิเศษในการสร้างภาพมายา ทั้งยังสามารถจัดการกับผีสางได้ ในขณะที่เขาเองก็มีความสามารถของคนทรง และความสามารถแปลก ๆ อย่างการสัมผัสกับราคะจิต

   "อืม งั้นสรุปว่าว่างนะ งั้นอีกครึ่งชั่วโมง ไปรอที่ลานจอดรถหน้าหอสมุดด้วยล่ะ"

   เมญ่าพูดจบก็ยิ้มให้น้อย ๆ แล้วเดินผ่านไปรวมกลุ่มกับต่ายและเพื่อนสาวร่วมชั้นปีอีกหลายคน ต่ายหันมามองเขาเล็กน้อยแล้วเชิดใส่ตามปกติวิสัยของเธอ แต่เขาขี้คร้านจะสนใจมอง เพราะในสายตาของเขาและหนุ่ม ๆ ในบริเวณนี้ต่างก็กำลังแอบลอบมองดูเรือนร่างงดงามสมส่วนในชุดนักศึกษาของเมญ่ากันตาเป็นมันวาว

   ชุดนักศึกษาของเมญ่าหากจะบอกว่าถูกตามระเบียบก็คงไม่ได้ แต่หากจะให้บอกว่าผิดระเบียบก็ไม่ใคร่เหมาะสม เสื้อสีขาวเนื้อบางที่รัดติ้วนั้นไม่ต่างอะไรกับนักศึกษาคนอื่น เพียงแต่หน้าอกหน้าใจที่อวบใหญ่เกินวัยนั้นขับเน้นเสน่ห์แห่งราคะของเธอออกมายั่วน้ำลายชายหื่นได้มากกว่าใคร

   จีวรแอบสำรวจสายตากลัดมันของชายหนุ่มคนอื่นที่มองดูเมญ่า ก่อนจะแอบหัวเราะหึหึในใจด้วยความรู้สึกเหนือกว่า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่แฟนของเมญ่า แต่อย่างน้อยก็เคยใกล้ชิดถึงขั้นแตะเนื้อต้องตัวกันมาแล้ว ดังนั้นนี่จึงนับเป็นเหมือนชัยชนะเล็ก ๆ ของเด็กวัดสถานะต่ำต้อยอย่างเขา

   "อีกครึ่งชั่วโมงเหรอ ... ไม่ได้แล้วต้องรีบล่ะ ... เอาไงดีหว่า ตัวเหม็นมั้ยเนี่ยเรา"

   เขาบ่นพึมพำออกมาแผ่วเบาเมื่อเมญ่าเดินหายลับตาไป จากนั้นจึงยกแขนขึ้นดมกลิ่นของตัวเองจากเสื้อนักศึกษาสีขาวหม่น แล้วรีบวิ่งไปซื้อกระดาษทิชชู่และหายเข้าไปเช็ดคราบเหงื่อไคลในห้องน้ำด้วยหวังว่าเมญ่าจะไม่รังเกียจกลิ่นตัวของเขา

   จีวรไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลาราวสิบห้านาทีก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขายืนนิ่งลังเลอยู่ครู่ใหญ่เพราะไม่แน่ใจว่าสมควรซื้อของสิ่งนั้นติดตัวไว้ดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ถือคติว่ามีไว้ดีกว่าไม่มี เผื่อจำเป็นต้องใช้แล้วไม่ได้ใช้อาจจะย่ำแย่เสียเปล่า ๆ

   เขาเดินเข้าไปในร้านขายของชำหน้ามหาลัยด้วยความรู้สึกกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ยังดีที่เวลานี้คนในร้านไม่เยอะนัก เขาจึงแสร้งหยิบขนมราคาถูกสองสามอย่างมาวางที่หน้าเคาท์เตอร์จ่ายเงิน ก่อนจะรีบหยิบฉวยเอากล่องถุงยางที่เขาไม่เคยใช้วางแทรกเข้าไปแล้วทำหน้านิ่งใจระทึก

   จีวรโล่งใจไม่น้อย เมื่อพนักงานเก็บเงินชายไม่ได้สนใจอะไรมาก แค่หยิบของใส่ถึงพลาสติคแล้วรับเงินทอนเงินไปตามปกติ หนุ่มอ่อนประสบการณ์หน้าบางจึงค่อย ๆ หยิบแกะเอาถึงยางชิ้นหนึ่งขึ้นมาใส่กระเป๋าเงินอย่างเงียบ ๆ ส่วนของที่เหลือนั้นเขาจับยัดใส่กระเป๋าสะพายไปแบบลวก ๆ จากนั้นก็ยืนคอยตรงที่นัดหมายด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเล็ก ๆ

   "มาตรงเวลาดี ว่าแต่ซื้อถุงยางนี่กะจะเอาไปใช้กับใครเรอะนายวอนหื่นสัมผัส?"

   เสียงทุ้มต่ำแฝงพลังอำนาจที่ดังขึ้นอย่างกระทันหันทำเอาจีวรสะดุ้งโหยง และเมื่อหันไปมองเขาต้องหน้าซีดแข้งขาสั่นเมื่อใครคนนั้นก็คือพี่เอกคนรักของเมญ่านั่นเอง

   จีวรยืนอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก เขาไม่ทราบว่าพี่เอกคนนี้เห็นเขาซื้อถุงยางได้อย่างไร ทั้งยังไม่ทราบว่าจะตอบอีกฝ่ายว่าอย่างไร เพราะเขาเองนั้นถือศีลมุสางดเว้นการพูดปด

   "เอ่อ สวัสดีครับพี่เอก มาทำอะไรแถวนี้เหรอครับ"

   จีวรรู้สึกเหมือนมีเหงื่อผุดขึ้นมาบนใบหน้า ทั้งที่อากาศตอนนี้มีลมพัดเย็นสบาย เขารีบพยายามเปลี่ยนการสนทนาไปเรื่องอื่น เพราะหากตอบไปว่าซื้อถุงยางเผื่อใช้กับเมญ่า เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าจะโดนพี่เอกคนนี้จับไปบำบัดกับผีประเทืองเหมือนที่เจ้าผีแว่นโดนจนยอมไปเกิดหรือเปล่า

   "อย่ามาแถเปลี่ยนเรื่อง คิดจะซื้อถุงยางเผื่อไปใช้กับเมญ่าใช่มั้ย?"

   "... เอ่อ ... ผะ ผม ... คือ"

   การบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนเรื่องกลับไม่เป็นผล เอกมองด้วยสายตาเย็นชาแล้วยันโครมกลับมาด้วยคำพูดตรงไปตรงมาจนจีวรเหงื่อตกพูดอะไรไม่ออก

   "ไหนเอามาดูซิ"

   "อะ อะไรครับ?"

   "ถุงยางไง เอาออกมา"

   เสียงคาดคั้นในแบบเรียบ ๆ ทำให้จีวรมือไม้สั่นรีบหยิบกระเป๋าเงินออกมา แล้วใช้นิ้วคีบซองถุงยางสีดำออกมายื่นให้ด้วยท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ

   "หืม รสนิยมแปลกดีนี่ ซื้อถุงยางกลิ่นสะตอเนี่ยนะ ... แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่ได้ใช้กับน้องเมย์หรอก ที่สำคัญน้องเมย์เค้าไม่ค่อยชอบให้ใส่ถุงหรอกนะ เห็นบอกว่าไม่ใส่แล้วมันได้สัมผัสเสียวมากกว่า"

   เอกพูดโพล่งออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ จีวรจึงยิ่งยืนอึ้งไปอีกพักใหญ่ เขาไม่ทราบด้วยซ้ำว่าถุงยางมันมีกลิ่นอะไรด้วย แล้วไอ้กลิ่นสะตอนี่มันยังไงกัน กระนั้นที่สำคัญกว่าก็คือพี่เอกกลับพูดออกมาตรง ๆ แบบขวานผ่าซากเหมือนจะรู้ว่าจีวรตั้งใจซื้อไปเผื่อใช้กับเมญ่า ทั้งยังพูดข่มเข้าให้อีกต่างหาก

   "... เอาคืนไป เก็บไว้ก่อน ไม่แน่งานนี้อาจจะได้ใช้ก็ได้นะนายวอนหื่นสัมผัส"

   "งานอะไรครับ แล้วทำไมพี่เรียกผมว่าหื่นสัมผัส?"

   จีวรยื่นมือไปรับถุงยางด้วยความรู้สึกโล่งใจ แล้วรีบซุกเก็บไว้ในส่วนลึกของกระเป๋าเงินอีกครั้ง แต่ก็ยังอดสงสัยฉายาใหม่ที่พี่เอกเรียกเขาไม่ได้

   "ก็จะให้เรียกอะไรล่ะ นายมีสัมผัสกับราคะจิต ก็ต้องเรียกวอนหื่นสัมผัสน่ะถูกแล้ว ... เอ้าไปกันเถอะ เสียเวลา เดี๋ยวลูกค้ารอนาน"

   คำตอบที่ได้รับทำเอาจีวรหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก หากจะบอกว่านั่นไม่ถูกต้องก็ไม่กล้า แต่จะให้ยอมรับฉายาที่ดูประหลาดพิกลนั้นก็ยากจะทำใจได้

   "ไป? ไปไหนครับ?"

   "ถามแปลก ก็ไปหาลูกค้าไงล่ะ"

   "ลูกค้า? ... แต่ผมมีนัด"

   "ก็ที่เมญ่านัดนั่นแหละ รีบตามมาขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวปั๊ดจับไปอยู่กับผีประเทืองซะนี่"

   "หา!!!"

   เอกพูดพลางเดินไปเปิดประตูรถยุโรปคันหรู ส่วนจีวรนั้นได้แต่ยืนอ้าปากค้างด้วยความมึนงง แต่ก็ยังพอจะรวบรวมสติปะติดปะต่อเรื่องราวได้

   เมญ่าไม่ได้บอกว่าจะไปเที่ยวกับเขา เพียงแต่บอกว่าจะขอแรงเขาทำอะไรหน่อย และเขาตอบตกลง ส่วนไอ้ที่เขาคาดหวังทั้งหมดนั้นมาจากการมโนด้วยความหื่นส่วนตัวล้วน ๆ ดังนั้นจะโทษเมญ่าก็คงไม่ได้

   จีวรยืนงงได้เพียงครู่เดียว ก็ต้องรีบจ้ำอ้าวไปขึ้นรถคันหรู เพราะโดนสายตาคมกริบของพี่เอกกราดมองมา และเมื่อเขาขึ้นไปนั่งยังไม่ทันจะได้คาดเข็มขัด รถคันหรูก็ออกตัวด้วยความเร็วจนเขาผงะหงายหลังไปพิงเบาะ

   "เอ่อ พี่เอกครับ ลูกค้าอะไรครับ ผมงงหมดแล้ว เมญ่าไม่เห็นบอกอะไรเลย แค่บอกให้ผมมารอตรงนี้เฉย ๆ"

   หลังจากนั่งนิ่งอยู่เนิ่นนาน จีวรก็ค่อย ๆ รวบรวมความกล้า หันไปถามพี่เอกด้วยน้ำเสียงให้ความเคารพอย่างสูง เอกจึงปรายตามองมาเล็กน้อย แล้วแอบยิ้มขบขันที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยเฉลยคำตอบที่ทำให้จีวรขนลุกซู่แทบอยากกระโดดลงจากรถในทันที

   "หึ หึ ไม่บอกถูกแล้ว ไม่งั้นแกคงไม่ยอมมาแน่นายวอนหื่นสัมผัส .... เห็นบอกว่าอยากทำงานที่บริษัทไม่ใช่เหรอ ... วันนี้ก็เลยว่าจะพาไปทดลองงานกันสักหน่อย ... เราจะไปบำบัดผีกัน"

.....................................

( เพิ่มเติมเนื้อหา 29/11/2559 )
เวปส่วนตัว -
Discord -

medsay

เหมือนเนื้อหาจะขาดหายไปนะครับ ขอบคุณครับท่านแอส

pinmonkey

อ้อ วิญญาณนี่เองแปลงร่างเป็นเมย์มาหรอกจีวรของเรา ขอบคุณมากครับ

zannaty

สนุกมากครับ ไม่เสียทีที่ติดตามผลงาน

่jub2520

สนุกสนานได้ความสุขอีกแบบ จากการอ่านนักเขียนระดับฝีมือ

Somchai Sudsakhorn

เป็นภาคสองของเรื่องรักยมนี่เองสูดๆๆๆๆยอด

armfine