เรื่องนี้เป็นอดีตของผมเอง  โดยผมได้รู้จักสาวปวส. ชื่อน้องกุ้ง  (ผมจำไม่ได้แล้วว่าผมไปรู้จักเธอช่องทางไหน เพราะผมทำงานบริษัทฯ ส่วนเธอนั้นเป็นสาวปวส. เอาเป็นว่าข้ามเรื่องนี้ไปก่อน)  ผมได้เข้าไปช่วยเหลือเธอโดยทำงานเอกสารเพื่อทำส่งอาจารย์ เพราะบริษัทฯมีเครื่องพิมพ์จึงไม่เหลือบ่ากว่าแรง เธอรู้ว่าผมมีแฟนแล้วและผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธอมากไปกว่าน้องสาวคนหนึ่งเพราะผมมีแฟนอยู่แล้ว

    แต่นานวันเข้า...ใจผมก็มีเอนเอียงอยู่บ้าง  ส่วนแฟนผมทำงานอยู่ไกลหลายเดือนจะได้มาเจอกันสักครั้ง และแล้ววันหนึ่งเธอมาขอเลิก  มันทำให้ผมหดหู่มาก ผมก็ทำอะไรไม่ได้ คงต้องปล่อยตามสิ่งที่แฟนต้องการไม่แม้แต่ถามสักคำว่าทำไม  ส่วนน้องกุ้งก็รู้ว่าผมเลิกกับแฟน

    โดยปรกติผมกลับบ้านต่างจังหวัดทุกวันเสาร์อาทิตย์และบ้านน้องกุ้งก็เป็นทางผ่าน ขากลับเข้ากรุงเทพฯ ผมชวนน้องเขาดูหนังที่เมเจอร์ปิ่นเกล้ากํนบ่อยๆ เรียกว่ากลับเข้ากรุงเทพฯก็จะโทรให้เธอมาดูหนังกันทุกสัปดาห์และไปส่งน้องกุ้งหลังหนังจบ  จนมีความคุ้นชินจนเริ่มใกล้ชิดกันเราสองคนไม่ได้เอ่ยปากรักกันหรือบอกเป็นแฟนกันสักครั้ง  น้องเขายังขี้อ้อนผมก็จับมือกันในโรงหนังระหว่างดูหนังอิงซบไหล่กันแต่ก็ไม่มีอะไรไปกว่านั้น  จนเริ่มมีกอดจูบกันในบริษัทฯ ในบางครั้งที่ผมต้องทำงานดึกไม่มีคนอยู่แล้ว (แต่ก็ได้แค่นั้นผมไม่ได้รุกเร้าต่อ  เพราะยังไม่รู้ว่ายังไงเหมือนผมกลัวตัวเองว่า เอาน้องกุ้งมาระบายความอัดอั้นและเอาเปรียบน้อง น้องก็ไม่ได้ถามอะไรที่ผมหยุดที่จะไปต่อ)  จนวันหนึ่งเราไปดูหนังที่เมเจอร์เอกมัยและให้รถพาเข้าม่านรูดแถวนั้น  และมันก็คือครั้งแรกของน้องเขา(ซึงผมตัดสินใจขอน้องเขา น้องเขาก็เงียบไป) ตอนที่ผมให้แท็กซี่พาเข้าโรงแรมม่านรูดน้องก็เงียบแค่ตามมาในรถด้วยกัน

    มันเป็นครั้งแรกของผมเหมือนกันที่เข้าม่านรูด เราช่วยกันดูว่ามีกล้องซ่อนอยู่ไหม น้องเขาถามผมว่า"จะทำจริงๆ เหรอ รักกุ้งไหม อย่าทิ้งกันนะ" ผมกับน้องก็ไปไหนมาไหนด้วยกันจนผมว่าผมรักน้องเขานะ ก็ตอบน้องไปว่า"รัก" เราต่างมองตากัน เป็นครั้งแรกที่เราจูบกันบนเตียงกันเนิ่นนาน จ้องตากัน

    ที่สุดแแล้วก็ปลดผ้าขนหนูน้องออก น้องก็เขินๆ เอามือปิดหน้าอก ผมเลยล้วงจับด้านล่างแต่น้องบิดตัวหลบ ผมเลยเอาตัวทาบกันน้องเขาพลิกแล้วกลับมาสนในกับหน้าอกคัพ B ของน้องแล้วขบยอดอกเบาๆ ตะโบมจูบไปทั่วหน้าอก ซ้ายไปขวา ขวาไปซ้าย   น้องกุ้งก็ทำอะไรไม่ถูกคว้าหมอน จิกผ้าปูที่นอน

    ถึงตอนนี้น้องกุ้งก็ไม่ปิดกั้นด้นล่างแล้ว ผมค่อยๆไล้ลงท้อง สะดือไปช้าๆ แล้วถึงยกขาน้องขึ้น ใช้ปากและลิ้นละเลงกลีบอ่อนไปมา จนผ้าปูเตียงเปียก  น้องดิ้นเป็นงู อูยย ซีดด จนผมว่าน้องเขาพร้อมแล้วจึงหยัดตัวขึ้นมา ค่อยลากปาดบนล่างเปิดเนื้อใน แล้วค่อยๆ ดันเข้าไป มันได้แค่ปักเหมือนเสาตั้งเด่บนปากหลุมไม่เข้า น้องก็ซีดดแบบเจ็บ

    ผมเอนลงไปหาน้องกุ้งแล้วบอกว่าพี่จะทำแล้วนะ "เบาๆ นะ" ผมผงกหัว แล้วค่อยๆ กระทุ้งยึกๆ เข้าๆ/ออกๆ ทีละนิด เพราะไม่อยากให้น้องเขาเจ็บในครั้งแรกที่ทำกันเหมือนที่คนเล่ากันว่าถึงกับเข็ดหลาบ จดจำในสิ่งไม่ดีของการเสียพรหมจรรย์     ผมอยากให้มีความสุขด้วยกัน   ระหว่างที่ทะยอยตอกลิ่มก็เคล้นคลำหน้าอก จูบปาก  จนมันเข้ามิดขนแนบชิด น้องเขาบอกว่านึกว่ามันจะเจ็บขนาดนั้น แค่รู้สึกปริและปึ๊ดหนึง   "พี่ไม่อยากให้เราเจ็บ"  ผมค่อยๆ ถอนลิ่มครึ่งลำแล้วดันเข้าไปใหม่ช้าๆ น้องได้แต่รัดตัวผมแน่นผมค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ จนเธอเริ่มผ่อนคลาย ผมจึงซอยได้ราบรื่นแต่ก็ไม่เร็วนัก จนผมไม่ไหวก่อนชักออกมาราดบนหน้าท้อง เพราะผมไม่ได้ใส่ถุง มีคราบเลือดติดลิ่ม เป็นลิ่มเล็กๆ  ผมช่วยเช็ดน้ำรักให้เธอ ก่อนเธอจะลุกไปล้าง น้องบอกว่าแสบแล้วออกมากางขาเปิดจิ๋มให้ผมดู แต่ผมมองไม่เห็นหรอกมันอยู่ด้านใน  เราไม่ได้ทำอะไรกันต่อเพราะเป็นครั้งแรกของเธอ เราพักกันจนหมดเวลาก็ไปส่งเธอกลับเข้าบ้าน น้องเขาก็กลับไปนอนเลย

    เราสองคนคบหากันมานานจนจบปวส. แล้วต่อมหาวิทยาลัยจนจบเราถึงห่างกันไป  เราสองคนลุยกันหลายแบบ วันนี้มาแค่เล่าครั้งแรกของน้องกุ้ง ไว้จะมาเล่าต่อในตอนต่อไป

ได้เปิดซิงซะด้วย

เปิดซิงแล้วกินกันต่อยาวๆ

เปิดซิงแล้วกินกันต่อยาวๆ

จริงๆ ผมเฉยๆ กับการเปิดซิง เพราะหากวันหนึ่งน้องเขาเสียดายที่ให้ซิงกับผม  มันจะเป็นความจำสีดำในใจน้อง เพราะเราไม่รู้อนาคตว่าเราจะได้ครองคู่ผัวเมียหรือเปล่า  วันหนึ่งเกิดเขารักคนใดจริงๆ เขาจะเสียใจที่ให้ผม

ผมชอบแบบลื่นๆ มีน้ำ เพราะมันสื่อว่าเขามีความสุขตอนเข้าได้เข้าเข็มกับผมมากกว่า แถมเขาใส่เราอย่างเต็มใจ/เต็มที่

ค่อยๆ เลี้ยงมาเชือด

น้องๆนักศึกษาเนี่ยดีต่อใจจริงๆ

หายากมากที่ซิง

ท่านตอนนั้นไม่มีรถ การพาสาวไปเล่นเสียวมันก็ทุลักทุเลพอควรนะครับ มีรถคล่องตัวกว่ามาก

จริงๆเพื่อนผมวิศวะหลายคน ก็เสียซิงให้สาว ปวส บ้าง สาวพาณิชย์บ้าง บางคนโดนเด็กเอ็นเปิดซิงด้วย แล้วก็คบกันซักพักก็ไม่ได้ลงเอยกัน คงเพราะสังคมต่างกันมั้ง มาคิดอีกทีมันก็ไม่รู้เป็นการสร้างตราบาปให้พวกเธอรึเปล่า แต่ทุกวันนี้หลายคนก็แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว เมียก็คนละแนวกับสาวคนแรกเลย ก็ถือเป็นประสบการณ์ในชีวิตมั้ง

อ่านเพลินๆ แนวนี้ผมชอบครับ ซอฟๆ ค่อยเป็นค่อยไป หลังจากนั้นก็แล้วบุญกรรมครับ

การเล่าของท่าน คล้ายๆคุณ pongwut ชอบครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ

นักศึกษาอาชีวะ กำลังกรุบๆๆ พอดี