คุกเลยนะนั่น

     ::Glad::แจ่ม

 

  คุ้มค่าเสี่ยง

วัยนี้กำลังดี แต่เสี่ยงคุกเยอะไปหาน่อย 5555

[  ตอน  ข้าวไข่เจียว  ]

ผมชื่อสินครับ อายุ 32 ปี ทำงานอยู่ที่บริษัทชื่อดัง แห่งหนึ่งในกรุงเทพ ย่านใจกลางเมือง ด้วยความที่เป็นบริษัทชื่อดัง ให้ค่าตอบแทนสูงสวัสดิการดี วันหยุดเยอะ จึงมีแต่คนอยากเข้ามาทำงานที่นี่

และผมที่อยู่มานาน ทำงานเก่ง จะเรียกว่าเป็นพี่เบิ้ม ของแผนกก็ได้ครับ จึงมักมีแต่คนมาขอให้ผมช่วยอยู่บ่อยๆ ก็เรื่องฝากเด็กเข้าทำงานนี่ละครับ ผมเลยกลายเป็นฝ่ายบุคคลประจำแผนกไปโดยปริยาย เพราะผู้จัดการแกก็ใว้ใจผมมาก

จนกระทั่งวันหนึ่ง ป้าแม่บ้านที่เป็นพนักงานบริษัทข้างนอก หรือ Outsource นั่นละครับ แกก็มาหาผม แล้วบอกว่า อยากฝากหลานสาวแกมาทำ part time ในช่วงปิดเทอมคนนึง

ป้าแกก็ดึงดราม่าใส่เลย ว่าหลานสาวของแกคนนี้ น่าสงสารขนาดไหน พ่อก็ตาย ส่วนแม่ก็ไปมีสามีใหม่ ป้าเลยรับเธอมาอยู่ด้วย ตั้งแต่เรียน ม.ปลาย

พอฟังมาถึงตรงนี้ ผมก็เริ่มเอ๊ะ ! แล้ว


" ป้าๆ หลานป้าอายุเท่าไหร่ ? "


ป้าแกบอกว่า อีกเทอมเดียว หลานป้าก็จะจบ ม.ปลายแล้ว  " ป้าเอาดีๆ หลานป้าอายุเท่าไหร่ ? "


" ...เอ่อ ก็ 17 เกือบ 18 ละ "


ผมเลยบอกป้าแกไปตรงๆ ว่าไม่ได้ครับ อย่างน้อยๆก็ต้องอายุ 18 ปี ขึ้นไป ป้าแกก็เลยเล่นใหญ่ ดึงดราม่าหนัก ว่าหลานสาวแก อยากได้เงินมาซื้อโน๊ตบุ๊ค เพราะต้องใช้ตอนเรียนต่อมหาลัย แล้วก็โน่นนี่นั่นไปเรื่อย กว่าผมจะปลีกตัว ออกมาจากป้าได้ ก็ทำเอาปาดเหงื่อ

   

-----------------------------

แต่แล้วก็เหมือนฟ้าเป็นใจให้กับป้า เมื่อหัวหน้ามอบงาน Big Project มาให้ผมทำ กำชับว่าเป็นงานด่วน และต้องทำให้เนี๊ยบ ! มีผลต่อโบนัสปลายปีของบริษัท ถ้าทำสำเหร็จ ลูกค้าจะเซ็นสัญญาป้อนงาน ให้กับบริษัทเรา

แน่นอนละครับ อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับโบนัส มันก็ทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันมาก เพราะลูกค้าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ถ้าทำให้ลูกค้าพอใจได้ อย่าว่าแต่โบนัสหนักๆปีเดียวเลยครับ ผมกล้าการันตี ว่าต้องมีโบนัสหนักๆ อย่างน้อย 5 ปี ขึ้นไป

และ Big Project ใหญ่ขนาดนี้ มันก็ต้องใช้คนเยอะ ผมเลยเรียก หลานสาวป้ามาช่วยงาน อย่างน้อยมาช่วยกัน จัดเรียงเอกสารก็ยังดี เพราะผมขาดคนมาก

ผมบอกเพื่อนฝ่ายบุคคล มึงช่วยกูหน่อยเหอะ เดี๋ยวกูตาย มันก็รับคำ บอกน้องให้มาทำงานได้เลย เดี๋ยวมันเคลียร์ให้

   

-----------------------------

หลานสาวป้า เธอชื่อ มิว ครับ ผมเห็นน้องมิว เดินเข้ามาในบริษัท แว๊บ ! แรก บอกตรงๆผมนึกว่าน้องเป็นดารา น้องมิวสวยมากครับ แถมยังหุ่นดีอีกด้วย เสน่ห์ของน้องมิว อยู่ที่รอยยิ้มครับ ยิ้มแต่ละที ทำเอาใจละลาย น้องมิวเป็นคนอัธยาศัยดี กล้าแสดงออก แถมขยัน ถูกใจคนบ้างานอย่างผมมาก

ตลอดสองสัปดาห์ ที่ผมวุ่นวายอยู่กับ Big Project น้องมิว ช่วยงานผมได้ดีเกินคาด จนแทบจะเป็นเลขาส่วนตัว ของผมเลยก็ว่าได้ ต่อให้กลับบ้านดึกดึ่นแค่ไหน น้องมิวก็ไม่เกี่ยง

นั่นละครับ พอชายหญิงพออยู่ใกล้ชิดกันมากๆเข้า ก็เริ่มปิ๊ง กันขึ้นมา จนผมเริ่มอยากรู้จักน้องมิวมากยิ่งขึ้น

   

-----------------------------

น้องมิว เป็นนักเรียน ม.ปลายที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งแถวสาทร แปลกไหมครับ น้องเรียนโรงเรียนเอกชน ทั้งที่ป้าทำงานแม่บ้าน ตอนแรก ผมอะโครตสงสัย จนมารู้ทีหลัง ว่ามีคนส่งน้องเรียน รับเป็นแม่ทูนหัวอะไรแบบนี้ เขาก็จะให้เงินก้อนใหญ่ มาในแต่ละปี

ซึ่งป้า แกก็แอบจิ๊กเอาเงินก้อนนั้นไปใช้ด้วย จนกระทั่งไม่มีเงินจ่าย ค่าเทอม ม.ปลาย ปีสุดท้าย น้องมิวเลยต้องมาหางาน part time ทำ

เอาแล้ว ป้าโกหกผมแล้วหนึ่ง แล้วความสัมพันธ์ของน้องมิวกับป้า ก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะป้าติดหรู ใช้เงินฟุ่มเฟือย ซึ่งอันนี้จริงมาก เพราะผมเองก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน ว่าป้าแกชอบยืมเงิน เพื่อนร่วมงาน แถมยังไปกู้นอกระบบ

และตอนที่มีปากเสียงกับน้องมิวเรื่องค่าเทอม ป้ายังไล่น้องมิว ให้ไปขายตัว ผมฟังแล้วถึงกับอึ้ง ! น้องมิวบอกผมว่า ถ้าจบ ม.ปลายแล้ว เธอจะย้ายออกจากบ้านป้า หาเช่าห้อง แล้วทำงานส่งตัวเองเรียนมหาลัย

น้องมิว บอกว่าเรื่องนี้ เธอไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย นอกจากผม แม้แต่เพื่อนของเธอเองก็ยังไม่รู้ ผมแอบดีใจที่น้องมิว เชื่อใจ และใว้ใจผม

แล้วน้องมิว เธอก็ถามผมครับ ว่าผมแต่งงานแล้วหรือยัง ผมก็ตอบไปตรงๆว่ายัง
แล้วแฟนละ ผมก็ตอบน้องมิวไปว่า ยังไม่มี
น้องมิวเธอก็ส่ายหัว บอกไม่เชื่อ หาว่าผมหลอกเธอ

แต่ผมก็ไม่ได้หลอกน้องเขาจริงๆนะ เพราะผม พึ่งถูกแฟนบอกเลิกมาจริงๆ สาเหตุ เพราะความเจ้าชู้ ของผมเองนี่ละครับ ตอนนี้ผมก็เลยโสด

-----------------------------

ส่วนตัวผมเอง ก็รู้สึกดี กับน้องมิวมากครับ เวลาอยู่ใกล้น้องมิว ผมรู้สึกมีความสุข

เด็กสาว วัย 17 ย่างเข้า 18 อย่างน้องมิว มันเป็นวัยแห่งความสดใส น่ารัก ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง พออยู่ใกล้แล้ว มันมีแต่พลังด้านบวก

ผม ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว มาจน 32 ปี ทำไมจะดูไม่ออก ว่าน้องมิวเอง เธอก็แอบมีใจให้กับผม

ซึ่งผมก็เข้าใจน้องมิวนะ ว่าเธอต้องการผู้ชาย ที่พึ่งพาได้ ดูเป็นผู้ใหญ่ เพราะเธอไม่อยากอยู่กับป้าของเธออีกแล้ว

จนเวลาผ่านไป 20 วัน งาน Big Project ก็เสร็จสิ้น และถูกส่งมอบจนถึงมือลูกค้า ซึ่งผลงานก็ออกมาดีเกินคาด จนลูกค้าพึงพอใจมาก ตกลงเซ็นสัญญาเป็น Partner ร่วมกัน ระหว่างสองบริษัท ซึ่งนั่นหมายถึง ผลกำไรมหาศาล ที่จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

-----------------------------

พองานเสร็จ ผมก็เริ่มมีเวลาว่างมากขึ้น แต่น้องมิว เธอต้องกลับไปเรียน ม.ปลาย เทอมสุดท้ายต่อ

ผมก็เลยขอเบอร์ แลก line กันเรียบร้อย ผมกับมิว เราสองคนคุย line กันทุกวัน ผมส่งสติ๊กเกอร์ฝันดี ส่งเธอเข้านอนทุกคืน จนความสัมพันธ์ของเราสองคน พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ

จนเริ่มเดทด้วยกันในช่วงวันหยุด ซึ่งผมก็พาเธอเที่ยวห้างดูหนังปกติ เหมือนคนทั่วไป

แต่ต้องส่งน้องมิวกลับบ้านก่อนบ่ายสาม เพราะไม่งั้นเดี๋ยวป้าเธอจับได้

จนเวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือน น้องมิว เธอก็มาสารภาพรักกับผม ขอคบเป็นแฟน ผมก็โอเครตกลง เพราะผมเอง ก็รู้สึกดีกับน้องมิวมากเช่นกัน

ผมนะรู้ดี ความรักที่อายุ ห่างกันขนาดนี้ มันไม่ยั่งยืนหรอก เพราะมันมีช่องว่าง ระหว่างวัย อีกทั้งน้องมิว ก็ยังเด็กมาก เธอยังมีโอกาส ได้เจอกับผู้ชายอีกมากมาย

แต่ที่ผมตอบตกลง เพราะอยากแอ้มน้องมิวไง นี่คือพูดแบบจริงใจเลยนะ

แต่น้องมิวเธอก็ชัดเจนกับผมนะ เธอแนะนำเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มของเธอ ซึ่งมีทั้งหมดด้วยกัน อีกสี่คน ให้ผมได้รู้จัก จะเรียกว่าเปิดตัวแฟนก็ได้ครับ ซึ่งพวกเธอ ก็มีแฟนกันหมดแล้วทุกคน แต่ผมบอกเลย ว่าน้องมิว เธอสวยที่สุดในกลุ่ม

แล้วน้องมิว ก็ยังขึ้นสเตตัสในเฟส ว่ามีแฟนแล้ว ทำเอาผมปลื้มใจสุดๆ

-----------------------------

จนกระทั่งวันนึง น้องมิวเธอก็โทรมาหาผม บอกให้ผม มาหาเธอที่บ้านหน่อย เธอทำข้าวไข่เจียว อยากให้ผมมาลองชิม ตอนนี้ที่บ้านไม่มีใครอยู่ ป้าไปทำงาน

ซึ่งผมก็บอกน้องมิวไปว่า ไม่ไปจ้า จะไปได้ไงละครับ เข้าบ้านเด็กอายุ 17 ปี ถ้าถูกจับได้ ติดคุกหัวโต

แต่น้องมิวก็รบเร้า จนผมใจอ่อน น้องมิวบอกว่า ปลอดภัยแน่นอน

ซึ่งผมก็รู้ละ หญิงชวนเข้าบ้านแบบนี้ มันหมายถึงอะไร แต่ก็อย่างว่าละครับ ความเงี่ยนมันชักนำ จนทำให้ผมมายืนอยู่ หน้าบ้านของน้องมิว แล้วผมก็กดโทรศัพท์หาน้องมิว ซึ่งน้องมิวก็นัดแนะผม ให้เข้าทางหลังบ้าน รอให้ปลอดคนก่อน ค่อยเข้ามา

ผมก็ยืนมองซ้ายมองขวา รอจนไม่มีคน แล้วค่อยแอบย่อง เข้าหลังบ้านน้องมิว ซึ่งน้องมิว ก็มายืนเปิดประตูรอรับผมอยู่แล้ว

ผมก็แว๊บ ! เข้าไปยังกับนินจา แม่งโครตตื่นเต้น รู้สึกเหมือนตัวเอง กลับไปเป็นเด็ก ม.ปลายอีกครั้ง

พอเข้าไปข้างในบ้าน ผมก็กอดน้องมิวทันที โดยที่ไม่พูดอะไรซักคำ น้องมิวเธอก็อ่อนย้วยเลยครับ เอามือปัดป้องอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา ระหว่างที่กอดกัน มือผมของผมก็คว้าหมับ บีบตูดน้องมิว มันนุ่มเด้งมากเลยครับ ตูดเด็กม.ปลาย โครตแน่น

แล้วผมก็ซุกไซ้ซอกคอ กอดหอมน้องมิว ไปหลายฟอดจนชื่นใจ มันหอมมากครับ กลิ่นตัวของเด็กสาว ทำเอาผม ถึงกับควยแข็ง

น้องมิวทำหน้าเขิน แล้วชี้ไปที่ข้าวไข่เจียว ที่เธอทำเอาใว้ ให้ผมลองชิม

โห่ ! จังหวะนี้ ใครมันจะไปสนข้าวไข่เจียว ผมสนใจแต่น้องมิว ที่ยืนอยู่ตรงหน้ามากกว่า

ผมดันตัวน้องมิว จนแผ่นหลังของเธอชิดติดผนัง แล้วหอมแก้มนุ่มๆของเธอไปอีกหลายฟอด น้องมิวยังไม่ยอมให้ผมจูบครับ เธอหันหน้าหนีตลอด เอาแก้มสองข้าง มาให้ผมหอมแทน

มือของผม ก็เริ่มจับหน้าอกของน้องมิวผ่านเสื้อ ซึ่งมันก็เต็มไม้เต็มมือมากเลยครับ หน้ามัธยม นมมหาลัย นี่ละคือน้องมิว

ผมจับบีบคลึงเค้นหน้าอกสองเต้า ของมิวไปซักพัก จนน้องมิวก็เริ่มหน้าแดง หายใจถี่ เนื้อตัวอ่อน ยวบยาบ

ผมได้ใจ ก็เลยเอามืออีกข้างล้วงตํ่าลงไป จับเนินหีเด็กมัธยมผ่านกางเกงนอน

อื้อ หือ แค่สัมผัสภายนอก ก็ยังรู้สึกได้ ว่าโครตโหนก

ส่วนน้องมิว เคลิ้มไปกับมือผมเรียบร้อยแล้วครับ เธอหายใจแรง ตาปรือ เม้มริมฝีปากเป็นระยะ

ผมเลยดึงมือของน้องมิว ไปนั่งบนโซฟาด้วยกัน เพื่อจะได้กอดหอม ล้วงน้องมิวได้ง่ายขึ้น

จะโดนจับมั้ย