ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ขุดไฟล์เก่าหลุดโลก [1][4เรื่อง]

เริ่มโดย ShameStory [Izuna], กรกฎาคม 16, 2024, 06:08:05 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชอบเรื่องไหนที่สุด

เจ้าหญิงตรวจตรา
9 (45%)
อัปยศต่างโลก
4 (20%)
สำนักเหมันต์พิสุทธิ์
4 (20%)
เหวินหรง
3 (15%)

จำนวนสมาชิกโหวดทั้งหมด: 20

ปิดโหวตแล้ว: กรกฎาคม 23, 2024, 06:41:17 หลังเที่ยง

ShameStory [Izuna]


0936 เจ้าหญิงตรวจตรา 32 หน้า
0533 อัปยศต่างโลก 27 หน้า
0971 สำนักเหมันต์พิสุทธิ์ 23 หน้า
0972 เหวินหรง 24 หน้า


ลองขุดไฟล์เก่าๆมาลงเพราะบังเอิญไปเจอในเครื่องที่เคยเขียนทิ้งไว้จนลืม 55 อ่านแล้วเป็นยังไงบ้างฝากคอมเม้นต์บอกด้วยนะคะ (ไม่ได้ซ่อนเนื้อหา)

คำเตือน: เรื่องทั้งหมดคือเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการที่หลุดโลกไปไกล กรุณาอ่านเพื่อความสนุกโดยไม่ต้องหาเหตุผลใดๆมารองรับ


เจ้าหญิงตรวจตรา (หลุดโลก)
—--------------------------------

องค์หญิงเอริก้าผู้มีพรสวรรค์ในเวทมนต์และยังสนใจโลกภายนอกเป็นชีวิตจิดใจ จึงชอบออกมาเดินเล่นตรวจตราบ้านเมืองของตัวเองอยู่บ่อยๆ

เมื่อโตเป็นสาวก็ยิ่งอยากออกผจญภัยในโลกกว้าง พอดีกับปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นมาพอดี ที่เมืองเล็กภายใต้อาณัติมีบางอย่างแปลกไป

องค์หญิงเอริก้าจึงเสนอตัวออกตรวจตรากับองครักษ์อีก 2 คน ทั้งความสามารถด้านเวทมนต์ของเจ้าหญิงทั้งความเก่งกาจขององครักษ์ ราชาจึงวางใจอนุญาต

ด้วยเหตุนี้องค์หญิงเอริก้าจึงเริ่มออกเดินทาง..

เมืองหี คือชื่อเมืองที่เดินทางมาถึงเป็นเมืองแรก ทว่าชื่อเมืองจริงๆไม่ใช่ชื่อนี้ เป็นเพียงชื่อเรียกที่ติดปากกันมา จนลืมกันไปแล้วว่าชื่อเดิมนั้นคืออะไร

เอริก้า: ฉันมาตรวจตราภายใต้คำสั่งของเสด็จพ่อ ช่วยเปิดทางให้ฉันได้หรือไม่?

ทหารยาม: องค์หญิง! ข้าพเจ้าจะรีบไปรายงานท่านเจ้าเมือง โปรดรอสักครู่ขอรับ

เอริก้าที่นั่งรถม้ามาก็นั่งคอยอยู่เงียบๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มาเมืองอื่นแม้จะอยู่ใต้อาณัติก็ตามแต่ก็ยอมรับเลยว่าตื่นเต้น

องครักษ์ทั้งสองก็นั่งนิ่งราวกับรูปปั้นบนหลังม้า ดูองอาจเหมาะสมกับตำแหน่งองครักษ์ข้างกายเจ้าหญิงจริงๆ

ระหว่างที่รอ เอริก้าก็มองรอบๆ ทางเข้าหลักมีการตรวจค้นที่เข้มงวด แต่กฌอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมผู้หญิงต้องแยกไปอีกแถวด้วย และในแถวก็มีแค่สาวๆกับวัยกลางคน

มีทหารยามคนหนึ่งยืนเฝ้าอยู่ข้างรถม้า องค์หญิงเอริก้าจึงเปิดประตูรถม้าถามเพื่อไขความกระจ่าง

เอริก้า: แถวตรงนั้นมันคืออะไร ทำไมถึงมีแต่สาวๆกับผู้หญิงวัยกลางคน?

ทหารยาม: เป็นแถวสำหรับตรวจค้นเช่นกันขอรับ ด้วยกฏของเมืองจึงต้องแยกพวกนางเป็นพิเศษ

เอริก้า: กฏอะไรกัน?

ทหารยาม: เป็นกฏที่เจ้าเมืองเป็นคนตั้งขอรับ โดยผู้หญิงที่ตรงตามเกณฑ์จะห้ามใส่เสื้อผ้าปกปิดท่อนล่างตั้งแต่เอวลงมาขอรับ แถวตรงนั้นจะเป็นการตรวจค้นสัมภาระว่ามีของผิดกฏรึปล่าว อย่างกางเกงหรือกระโปรงขอรับ และยังมีขั้นตอนการทำความสะอาดรูหีกับรูตูดด้วยขอรับ

เมื่อได้ยินคำตอบของทหารยามทำเอาองค์หญิงแก้มแดง จิตใจที่อ่อนต่อโลกก็สั่นสะท้าน ณ เมืองใต้อาณัติมีการใช้กฏแบบนี้ด้วยหรอ ด้วยความอยากรู้จึงสนอกสนใจขึ้นมา

เอริก้า: แล้วฉันตรงตามเกณฑ์นั่นรึปล่าว?

ทหารยามสะดุ้งพลางก้มหน้าลงต่ำอย่างกลัวๆ องค์หญิงเอริก้าจึงรีบพูดต่อ

เอริก้า: ไม่ต้องกลัว โปรดตอบฉันมาตรงๆห้ามโกหกเด็ดขาด

ทหารยาม: ผะผ่านเกณฑ์ขอรับ อายุ 15-40 รูปร่างก็อยู่ในเกณฑ์ขอรับ

เอริก้า: งั้นแสดงว่าฉันต้องทำตามกฏนั่นด้วยสินะ ห้ามใส่เสื้อผ้าท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไป?

ทหารยาม: ขะขอรับ..

องค์หญิงเอริก้าตื่นเต้นกับกฏแปลกๆนี่ ในเมื่อทุกคนยอมทำตามกฏคงจะดูแปลกถ้าองค์หญิงไม่ยอมทำตามกฏคนเดียว

ฉืกก~

เสียงฉีกขาดของผ้าเนื้อดี เวทมนต์เฉือดเฉือนถูกร่ายออกมาอย่างชำนาญโดยเอริก้าเอง ชุดเจ้าหญิงสีชมพูกับผ้าบางๆสีขาวถูกตัดออกไปครึ่งตัว ตั้งแต่เอวลงไปไม่มีชุดเจ้าหญิงอีกต่อไป มีเพียงท่อนล่างที่เปลือยเปล่าขาวผ่องเรียบเนียน ตรงหว่างขาปรากฏโหนกหีนูนสง่าดูนุ่มนิ่มไร้ขนถูกปิดด้วยมืออันบอบบางแต่แคมหีอูมก็ล้นออกมาอยู่ดี

ทหารยามอดเงยหน้าขึ้นมาดูไม่ได้ ทำเอาใจเต้นหน้าแดงแท๊บเป็นลม เขาไม่เคยเห็นของสวยงามขนาดนี้มาก่อนในชีวิต

องค์หญิงเอริก้ารู้สึกอายแต่กลับตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ตื่นเต้นในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน คิดอยากรู้อยากลองมากกว่านี้

องครักษ์: องค์หญิง แบบนี้มัน..

เอริก้า: พวกเจ้าก็ด้วย จงทำตามกฏของที่นี่ซะ

ไม่รู้ว่าด้วยความอายหรืออะไรจึงสั่งออกไปแบบนั้น องครักษ์หญิงทั้งสองคนที่เป็นห่วงก็ต้องยอมทำตามอย่างขัดคำสั่งไม่ได้

องครักษ์หญิงถอดชุดเกราะอัศวินท่อนล่างออกทั้งหมดจนช่วงล่างไม่มีอะไรปิดบัง ทั้งคู่มีหีที่ใหญ่เกินฝ่ามือดูลามก คนหนึ่งมีหมอยสีฟ้า คนหนึ่งมีหมอยสีแดง เหมือนกับสีผม

เอริก้า: ดีมาก กลับไปทำหน้าที่ได้แล้ว ขอฉันคุยกับทหารยามคนนี้ก่อน

องครักษ์: รับทราบเพคะองค์หญิง

ทั้งคู่จึงหันกลับขึ้นม้า เวลานั่งหีก็สัมผัสกับอานม้าตรงๆ เป็นความรู้สึกอันแปลกใหม่จนมีน้ำบางอย่างไหลออกมา แต่ก็ต้องนั่งม้าในท่าองอาจเช่นเดิม

เอริก้า: ขึ้นมาตรวจค้นรถม้าของฉันได้ ว่ามีของผิดกฏอะไรรึปล่าว

ทหารยาม: แต่..

เอริก้า: ฉันไม่อยากทำผิดกฏบ้านเมือง มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีน่ะ

ทหารยาม: ถ้าองค์หญิงกล่าวเช่นนั้น ข้าผู้ต่ำต้อยขอล่วงเกินนะขอรับ

พูดจบทหารยามก็ขึ้นรถม้าทันที ระหว่างตรวจค้นก็อดกรอกตามององค์หญิงไม่ได้ มืออันบอบบางที่ปิดหีไว้นั้นยังเห็นวับแวมๆให้ลุ้นระทึก ขาอ่อนที่ไม่มีอะไรปกปิดก็เนียยนุ่มน่ามองชมดีเหลือเกิน

เอริก้า: ที่เจ้ายึดไปคือของที่ผิดกฏ? แต่นั่นมันชุดทั้งหมดที่ฉันเตรียมมาเลยนะ

ทหารยาม: ตามกฏของเมืองนับว่าผิดขอรับ เป็นชุดกระโปรงยาวปกปิดท่อนล่าง ชุดอื่นๆก็เช่นกันขอรับ แต่ไม่ต้องห่วงขอรับ ในเมืององค์หญิงสามารถหาซื้อเสื้อผ้าได้ตามต้องการ

องค์หญิงเอริก้าได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจ โบกมืออนุญาตให้ทหารยามนำชุดทั้งหมดออกไป แม้จะเสียดายชุดสวยๆก็ตาม

และสิ่งที่เห็นต่อไปก็คือการใช้เตาเผาชุดทั้งหมดจนหายเกลี้ยง ทีนี้ก็เหลือแค่ชุดเดียวคือชุดที่กำลังใส่แถมยังฉีกท่อนล่างทิ้งไปแล้วด้วย

ตอนนั้นเองที่รถม้าของเจ้าเมืองเดินทางมาถึง ท่านเจ้าเมืองนามอากุสพาร่างเจ้าเนื้อเดินออกมาต้อนรับ

อากุส: ถวายบังคมองค์หญิง ท่านคงเดินทางมาเหนื่อย ได้โปรดให้ข้าได้รับรองด้วยเถิด

ด้วยความเร่งรีบ มาถึงก็ทักทายตามมารยาทอย่างก้มหน้าก้มตา ที่มุมนี้ก็มีรถม้าบังจึงยังไม่เห็นตัวองค์หญิง

เอริก้าได้ยินแบบนั้นจึงเดินลงจากรถม้า เท้าเปลือยเท้าค่อยๆก้าวออกมา ประตูรถม้าก็ค่อยๆเผยส่วนอื่นๆตามการเดินขององค์หญิง

และแล้วเอริก้าก็เดินออกมาทั้งตัว ท่านเจ้ามืองอากุสก็ถึงกับตาโตควยแข็ง เพราะองค์หญิงอยู่นสภาพเปลือยท่อนล่างตามรสนิยมหื่นๆของเขานั่นเอง

นี่เขากำลังตาฝาดเห็นภาพหลอน? นี่คือสิ่งที่อากุสคิด ทว่ากลับสมจริงเกินบรรยาย จนกระทั่งองค์หญิงมาหยุดยืนตรงหน้าด้วยแก้มอันแดงก่ำ

เอริก้า: ต้องรบกวนท่านอากุสแล้ว ฉันเดินทางมาตามคำสั่งของสเด็จพ่อให้มาตรวจตราเมืองแห่งนี้ ถ้าไม่ว่าอะไรฉันขอเข้าไปเลยได้ไหม?

อากุสสะดุ้งตื่นรีบตอบอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก มาตรวจตรา? ทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้? ไม่รู้ว่าควรเดินเกมยังไง

อากุส: ขอรับๆ เชิญเลยๆ ได้โปรดขึ้นมาข้าจะรับรองอย่างดี

พูดไปเหงือก็ไหลไป ก่อนจะเดินตามขึ้นรถม้าก็หันไปเห็นองครักษ์หญิงทั้งสองที่เปลือยท่อนล่างไปด้วย ยิ่งงงงงวยไปใหญ่

องค์รักษ์หญิงก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ขี่ม้าตามรถม้าของเจ้าเมืองไป แน่นอนว่าตลอดทางก็มีสายตามากมายมองมา แต่จะแสดงท่าทางอายออกไปไม่ได้ ต้องทำตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งองคณักษ์ จึงได้แต่นั่งนิ่งบนหลังม้า ปล่อยให้สายตามากมายโลมเลียท่อนล่างที่เปลือยเปล่า

ในขณะเดียวกัน บนรถม้าของเจ้าเมือง มีอากุสนั่งอยู่ตรงข้ามกับองค์หญิง ทั้งคู่หันหน้าชนกันในบรรยากาศที่แสนอึดอัด แต่ก็ไม่ได้มีแค่พวกเขาทั้งสองคน ยังมีสาวใช้ที่อากุสโปรดปรานนั่งมาด้วย

สาวใช้นั่งข้างๆอากุสในท่านั่งที่พิศดารน่าอับอาย สองขายกขึ้นผสานไว้ที่หลังคอโชว์หีที่งอนขึ้นอย่างโจ่งแจ้ง มือทั้งสองข้างก็ช่วยกันแหวกแคมหีอย่างกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้

องค์หญิงเอริก้าหันไปมองสาวใช้ที่นั่งท่าพิศดารอยู่เยื้องๆ ในใจร้อนลุ่มอย่างบอกไม่ถูก ความตื่นเต้นปนอยากรู้อยากลองทำให้ถามออกไป

เอริก้า: ท่านอากุส นั่นคือท่านั่งอะไร ทำไมมันพิศดารเช่นนั้นกัน?

เจ้าเมืองได้ยินคำถามถึงกับเหงือตก ก่อนหน้านี้เขารีบมาจนเกินไป ทำให้ลืมสาวใช้ส่วนตัวคนนี้ไปเลย แต่ในเมื่อย้อนกลับไม่ได้แล้วก็ตัดสินใจบอกไปตามตรง

อากุส: เออ.. อะแฮ่มม.. มันคือท่านั่งสำหรับผู้หญิงน่ะขอรับ องค์หญิงไม่ต้องใส่ใจมันหรอก

เอริก้า: มันเป็นกฏงั้นหรอ? ผู้หญิงทุกคนที่นี่ก็นั่งแบบนี้สินะ?

อากุส: อะแฮ่ม.. แค่กๆ ก็ใช่ขอรับ

อากุสเหงือท่วมตัวรนรานไปหมด ไม่คิดเลยว่ารสนิยมของเขาจะสร้างกฏบ้าบอเหล่านี้ขึ้นมา ทีแรกมันก็ไม่หนักขนาดนี้หรอก แต่นับเดือนนับปีมันก็ยิ่งหนักขึ้นจนถึงตอนนี้ไงล่ะ

เอริก้า: แสดงว่าฉันกำลังทำผิดกฏอยู่สินะ ต้องขออภัยด้วยเพราะฉันเพิ่งจะเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก

อากุส: ไม่ขอรับ ไม่เป็นอะไรเลยขอรับ

อากุสรู้สึกกดดันเพราะคำพูดขององค์หญิงราวกับเป็นการตอกย้ำความผิดของเขา จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเงียบปาก

เอริก้า: ไม่ได้ ฉันเป็นถึงเจ้าหญิงของอาณาจักรจะทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีได้อย่างไร

องค์หญิงเอริก้าพูดจบก็ลุกขึ้นจัดแจงท่านั่งซะใหม่ ดีที่เอริก้ามีร่างกายที่ยืดหยุ่นจึงนั่งท่าพิศดารได้อย่างง่ายดาย ขาทั้งสองข้างไขว้กันที่หลังหัว พร้อมมือทั้งสองที่ช้อนก้นมาแหกหีอย่างสุดแรง จนแคมหีสีชมพูอ้าออกจนตึงเห็นไปถึงข้างในรูหีได้ชัดเจน

และคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามอย่างอากุสก็เห็นเต็มๆสองตา ด้วยความตะลึงจึงทำตัวไม่ถูก บวกกับในใจที่คิดว่าอีกฝ่ายกำลังทดสอบตนอยู่จึงยิ่งไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม

แต่อากุสก็อดมองหีที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ มันอวบอูมนุ่มนิ่มสีชมพู แถมมีน้ำไหลซึมออกมาจนฉ่ำ ยิ่งเพิ่มความน่าดูชมขึ้นไปอีก

เอริก้า: ท่านอากุส นี่ฉันทำผิดรึปล่าว โปรดตรวจดูท่านั่งของฉันหน่อยจะได้ไหม?

อากุส: อึก.. ข้าจะตรวจดู

อากุสกวาดสายตามอง ขนาดทำเป็นครั้งแรกยังไร้ที่ติ ขาอ้าได้พอดี ถ้าไม่ใส่ท่อนบนนมคงเผยออกมาโดยที่ขาไม่บดบัง หีที่แหวกออกก็เห็นทุกอย่างชัดเจน ติ่งแตดตั้งชูชันใช้ได้ รูหีตั้งมุมหาสายตาพอดีจนเห็นไปถึงปากมดลูก พอคิดถึงตรงนี้ก็ชะงัน ดันลืมไปแว๊บนึงว่าหีตรงหน้าคือของเจ้าหญิง!

อากุส: ช่างไร้ที่ติขอรับ

เอริก้า: ถ้ามีกฏอะไรอีกช่วยบอกฉันทีนะ ฉันไม่อยากทำผิดกฏอีก

อากุส: ขอรับ

พอตบปากรับคำก็ตัดสินใจตามเหตุการณ์ไปก่อน อากุสเป็นคนระแวงคิดลบหมกหมุนอยู่กับหีจนเรื่องบานปลายขนาดนี้

ผ่านไปสักพักรถม้าก็จอด บริเวณนั้นคือลานกว้างหน้าปราสาทที่มีสวนดอกไม้ประดับอย่างสวยงาม

อากุสพาร่างเจ้าเนื้อของตนลงจากรถม้าด้วยท่าทางที่นอบน้อม ก่อนจะตัดสินใจกล่าวถามองค์หญิง

อากุส: องค์หญิงจะทำตามกฏของเมืองนี้จริงๆหรือขอรับ

เอริก้า: ฉันพูดไปแล้วนี่ ไม่ต้องเกรงใจ ตราบใดที่เป็นกฏของบ้านเมืองฉันยินดีทำตามอยู่แล้ว

อากุส: รับทราบขอรับ ถ้างั้นข้าจะขออธิบายเกี่ยวกับท่าเดินกับท่ายืนนะขอรับ

เอริก้า: กล่าวมา

อากุส: การจะเดินในเมืองแห่งนี้ ต้องมีชายสักคนจูงหีด้วยขอรับ โดยการให้ชายคนนั้นสอดสักนิ้วเข้าไปในรูหีแล้วพาเดิน ส่วนท่ายืนจะหยุดจูงหีเอานิ้วออกก่อน ให้ฝ่ายหญิงยืนอ้าขาแอ่นหีไปข้างหน้าพร้อมใช้สองมือแหวกหีค้างไว้จนตึงขอรับ

เอริก้าใจเต้นขณะรับฟัง กฏของที่นี่ทำให้ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ฟังเลย ยิ่งทำให้เอริก้าอยากรู้ขึ้นไปอีก

เอริก้า: ฉันยังไม่มีคนจูงหี.. ท่านช่วยหาให้ที

อากุส: ขอรับ ข้าต้องขออธิบายเพิ่มเติมนะขอรับ ปกติแล้วท่านจะต้องยืนแหกหีจนกว่าจะมีคนใจดีมาจูงหีน่ะขอรับ อาจจะมีข้อเสนอหรือจ้างด้วยเงินก็ได้

เอริก้า: แล้วตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี

จากที่เล่ารายละเอียดออกไปทำให้อากุสเองที่หื่นขึ้นจนระงับเอาไว้ไม่อยู่จึงเริ่มกล้าขึ้นมาบ้าง

อากุส: ถ้ามีข้อเสนอดีๆอย่างยอมให้ข้าเลียหีล่ะก็..

อากุสชะงักคำพูดไป เมื่อได้สติว่าคนที่พูดด้วยเป็นเจ้าหญิงของอาณาจักร ทว่าก็พูดออกไปเสียแล้ว

เอริก้า: ได้สิ ถ้าท่านเจ้าเมืองช่วยจูงหี จะยอมให้เลียหีก็ได้นะ

เอริก้าพูดไปก็ตื่นเต้นไป แน่นอนว่าทางฝั่งอากุสถึงกับตาโตเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อ พร้อมพยักหน้ารับคำทันที

อากุส: ขอรับ!

ทันใดนั้นเองอากุสก็ก้าวขึ้นรถม้าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้นอบน้อม เขาโน้มตัวลงลิ้นเลียหีที่แหวกอ้ารอไว้อยู่แล้ว

สกิลการใช้ลิ้นของอากุสที่เลียหีมานักต่อนักเรียกได้ว่าชำนาญขั้นสุด เพียงแค่แตะลิ้นลงไป เอริก้าก็ถึงกับเชิ่ดหน้าครางอย่างหักห้ามใจไม่ได้ ทั้งยังสั่นกระตุกเสร็จถี่ๆนับครั้งไม่ถ้วน เนื้อตัวสั่นไม่หยุดกระดกก้นไปมาตามจังหวะการเลีย ใบหน้าแสนอ่อนโยนปนอายกลับกลายเป็นใบหน้าเหยเกด้วยความลามก สภาพราวกับกะหรี่ติดเซ็กที่ชื่นชอบการเสร็จ

ผ่านไปเป็นนาที ไปจนถึงชั่วโมง การเสร็จอันไม่รู้จบวนเวียนจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีท้องฟ้าก็มืดลงซะแล้ว

ตอนนี้อากุสนั่งเอาหน้านาบหีอย่างชอบใจ ราวกับรักหีหวงไม่อยากห่าง ทั้งสูดดมกลิ่นหีทั้งเลียทั้งชิมไม่หยุด ทางด้านขององค์หญิงเอริก้าก็ดูหอบเหนื่อย แต่ยังคงนั่งแหวกหีอยู่ท่าเดิมซึ่งก็คือท่าทางพื้นฐานสำหรับผู้หญิงนั่นเอง

อากุส: คงได้เวลาแล้ว ข้าคงทำเสียเวลาไปมากต้องขออภัยด้วย โปรดลุกขึ้น เชิญองค์หญิงเข้าสู่ปราสาทของข้าขอรับ

อากุสตัดใจออกห่างจากหีตรงหน้าพร้อมใช้สองนิ้วสอดเข้าไปในรูหีเพื่อจูง เอริก้าที่ถูกสองนิ้วรั้งหีก็ต้องเปลี่ยนท่าเป็นลุกขึ้นเดินตามไปด้วย

ราวกับถูกจูงหีจริงๆ ไม่มีอิสระในการเดินทางเลย ถ้าอีกฝ่ายจูงหีไปที่ไหนเธอก็ต้องเดินตามไปด้วย และไม่ลืมเก็บมือผสานไว้บนหัวตามกฏระเบียบ

ระหว่างจูงหี อากุสก็แกล้งขยับนิ้วไปด้วยจนเจ้าหญิงเผลอร้องครางออกมาอย่างอายๆ ทำให้เป็นจุดสนใจตลอดทาง ไม่ว่าจะทหารยามหรือคนใช้ต่างก็มองมาด้วยความหื่น แน่นอนว่าสิ่งนี้ได้ก่อความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจ

ในขณะเดียวกันที่รถม้า..

องครักษ์หญิงผมฟ้ากับผมแดงยืนอยู่หน้าสวนดอกไม้ยามเย็น ท่ายืนก็เป็นไปตามกฏระเบียบที่ได้ยิน คือการยืนอ้าขาแอ่นหีไปข้างหน้า จากนั้นก็ใช้สองมือแหวกหีจนตึง

ที่องครักษ์ไม่สามารถเดินตามไปได้ก็เพราะไม่มีคนจูงหีนั่นเอง เพราะกลัวว่าจะทำผิดกฏจนเสียชื่อเสียงขององค์หญิง จึงยืนรอคนจูงหีอยู่อย่างนั้น

องครักษ์หญิงนามว่าโรสมีผมสีแดง ส่วนองครักษ์หญิงนามว่าอความีผมสีฟ้าอันเป็นเอกักษณ์ ไม่ต่างจากขนหมอยที่มีสีตามนั้นเช่นกัน

โรส: ข้าอายเหลือเกิน

อควา: ข้าก็อายเช่นกัน

ทั้งคู่แก้มแดงหันมองกันอย่างอับอาย แต่สายตายังคงมุ่งมั่นทำตามเจดจำนงขององค์หญิงคือห้ามทำผิดกฏของที่นี่!

โรส: ต้องรีบหาคนจูงหีโดยไว ไม่งั้นจะคุ้มกันองค์หญิงได้ยังไง

อควา: ข้าเห็นด้วย คงต้องขอร้องพวกคนสวนที่อยู่ตรงนั้น

โรส: นี่เจ้า! คนที่มองพวกข้าอยู่นั่นน่ะ ช่วยมาใกล้ๆได้หรือไม่

คนสวนแก่ๆคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกรรไกรตัดแต่งดอกไม้ในมือ สายตาที่จ้องมองก็โลมเลียสองหีที่อยู่ตรงหน้าไม่กระพริบ

คนสวน: เรียกข้ามา มีอะไรงั้นรึ

สีหน้าคนสวนดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที

โรส: ช่วยจูงหีพวกข้าเข้าไปในปราสาทที เดี๋ยวข้าจะให้เงินอย่างงาม

คนสวน: เงินงั้นรึ ข้าไม่อยากได้สักนิด

อควา: รู้ไหมว่าพวกข้าเป็นใคร พวกข้าเป็นถึงองครักษ์ผู้มีเกียรติของเจ้าหญิง แค่คุยด้วยก็นับเป็นบุญแกแล้ว

โรส: เลิกเรื่องมากแล้วจูงหีพวกข้าไปได้แล้ว

คนสวน: โอย คนแก่ๆอย่างข้ากลัวแล้วขอรับ ได้ขอรับข้าจะพาพวกท่านไปเดี๋ยวนี้

โรส: รู้หน้าที่ก็ดี

คนสวนวางกรรไกรตัดดอกไม้ลงก่อนจะใช้สองมือเกี่ยวหีทั้งสองแล้วพาเดินออกไป ทว่าทางที่เดินไปกลับไม่ใช่ปราสาท

อควา: เดี๋ยวก่อน ทางนั้นไม่ใช่

โรส: เจ้าแก่ไปผิดทางแล้ว ไปปราสาทต่างหาก

องครักษ์หญิงทั้งสองได้แต่บ่นตลอดทาง แต่ก็ไม่ได้ทำผิดกฏอะไร ได้แต่เดินตามแรงจูงหีพร้อมสองมือที่ผสานไว้บนหัว จนไม่สามารถต่อต้านอะไรได้

หลังจากถูกจูงหีมาสักพักในที่สุดก็หยุด พอมือของคนสวนผละออก ทั้งสองก็กลับไปยืนอ้าขาแหวกหีตามเดิม แต่ใบหน้าของทั้งสองนั้นโกรธเกรี้ยวเอามากๆ

เพราะสถานที่ๆมาถึงก็คือกระท่อมพักผ่อนส่วนตัวของตาแก่คนสวนคนนี้ และตรงหน้าก็มีกระจกเวทมนต์ตั้งอยู่คนละบาน ทำให้เห็นสภาพที่น่าอายของตัวเองเป็นครั้งเดียว

ท่ายืนนั้นสุดจะลามกทั้งยังแหวกหีจนเห็นไปถึงข้างในรูหี ทั้งยังเห็นรูตูดด้วยเพราะแอ่นหีไปด้านหน้าสุดตัว

อควา: นี่เจ้าเลิกล้อเล่นได้แล้ว พาพวกฉันกลับไปเดี๋ยวนี้ รีบๆจูงหีเร็วเข้า

โรส: ถ้าเรื่องนี้ถึงหูองค์หญิงหรือท่านเจ้าเมือง เจ้าคิดหรอว่าจะรอดไปได้ พวกข้าคือแขกอันทรงเกียรติเชียวนะ

คนสวนไม่ฟังไม่ตอบโต้ มัวแต่ก้มๆเงยๆหยิบของบางอย่างออกมา มีหลายอย่างที่ถูกนำมาวางก่อนจะเริ่มใช้ทีละชิ้น

คนสวน: สิ่งนี้เรียกว่ายาลืมผัว มักจะใช้คู่กับสิ่งนี้ที่เรียกว่าควยติดหี โอ๋เกือบลืม.. พวกท่านทั้งสองมีผัวรึยัง?

โรส: ใช่แล้ว สามีของข้าเป็นถึงเจ้าเมืองทางตะวันออก ถ้าเจ้าอยากมีชีวิตก็จงจูงหีพวกข้ากลับไปได้แล้ว

อควา: อย่าใช้ของแปลกๆนั่นเชียวนะ สามีของข้าเป็นหัวหน้าอัศวิน ถ้ากลัวก็จงทำตามที่โรสบอกซะ

คนสวน: โอ้.. โล่งไป มีสามีก็ดีแล้ว ฮี่ๆๆ งั้นข้าจะทายาลืมผัวให้ทั่วหีเลยละกัน

องครักษ์ทั้งสองยืนอ้าขาแหกหีอยู่แล้ว คนสวนจึงทายาได้อย่างง่ายดาย ยาถูกชโลมไปทั่วหีลามออกมารอบๆเพื่อความชัว ทำให้หียิ่งมันวาวน่าดูขึ้นไปอีก

คนสวน: จากนั้นข้าจะทาไปที่ควยติดหีอันนี้ ฮี่ๆๆ ข้าจะบอกให้ว่ารูปร่างของมันมีต้นแบบมาจากควยของข้าเอง

ว่าแล้วก็ทาจนทั่วก่อนจะเสียบควยติดหีเข้าไปจนลึกที่สุด จนใบหน้าของทั้งสองจุกตาเหลือกไปด้วยความฟินที่ยากจะจินตนาการ

ควยติดหีเป็นของที่น่ากลัวเหลือเกิน มันติดหีตามชื่อ ไม่สามารถดึงออกได้จนกว่าหีจะติดใจควยแท่งนี้ และมันยังแทงเข้าออกหมุนควงไปมาตามแต่อารมณ์ ทำเอาองครักษ์พูดไม่ออก ปากเผยออ้าน้ำลายไหล พอได้สติก็เห็นสภาพของตัวเองผ่านกระจกเวทที่อยู่ตรงหน้า แล้วควยติดหีก็ทำหน้าที่ของมันต่อไปจนสติหลุดวนไป

น้ำยาลืมผัวจะทำหน้าที่ต่อต้านควยก่อนหน้าทั้งหมดที่เคยเย็ดมา ถ้ากลับไปเย็ดกับควยเก่าจะไม่มีทางเสียวหีเด็ดขาด และถ้าใช้กับควยติดหีอันนี้มันจะดัดแปลงให้หีรู้สึกดีกับควยรูปร่างแบบนี้เท่านั้น นั่นก็คือควยของคนสวนแก่ๆคนนี้นั่นเอง

ที่จริงแล้วของพวกนี้จะไม่น่ากลัวเลยถ้าดึงมันออกก่อนที่จะทำงาน หรือไม่ก็ร่ายเวทต่อต้านแค่นั้น ทว่าองครักษ์ทั้งสองกลับทำตามกฏยืนอ้าขาแหกหีไม่ขยับไปไหนจนตกอยู่ในสภาพนี้ไป

คนสวนไม่คิดเลยว่าจะง่ายดายถึงเพียงนี้ เขายืนสังเกตอยู่นานตั้งแต่พวกเจ้าหญิงมาถึงปราสาท ขนาดเจ้าหญิงยังยอมให้ท่านเจ้าเมืองเลียหีแลกกับจูงหีเดินเลย พวกองครักษ์คงรักษากฏไม่ต่างกัน แล้วมันก็เป็นจริงอย่างที่คิด เขาที่ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้

กลับมาทางด้านของท่านเจ้าเมือง..

ภายในห้องอาหารที่เต็มไปด้วยแสงไฟ เฟอนิเจอร์สุดหรู่หราสีทองสะกดสายตา โต๊ะยาวสุดองังการวางด้วยอาหารชั้นเลิศที่ถูกเตรียมมาอย่างดี

บุตรของท่านเจ้าเมืองนั่งหลังตรงอย่างมีมายาท ประกอบด้วยบุตรชายวัยเดียวกันกับองค์หญิงเอริก้า และบุตรหญิงที่ยังเป็นเด็กจึงนั่งข้างๆท่านหญิงที่คอยดูแล และหัวโต๊ะก็นั่งด้วยอากุสผู้เป็นเจ้าเมือง

ถ้าถามว่าองค์หญิงเอริก้าอยู่ที่ไหน คำตอบคือข้างบน ถ้าลงรายละเอียดให้มากกว่านี้ องค์หญิงเอริก้าถูกเชือกเวทมนต์มัดขาให้อ้ากว้าง 180 องศาอยู่บนอากาศ ตำแหน่งความสูงของหีจะพอดีกับใบหน้าของคนที่นั่งอยู่ ซึ่ตอนนี้หีขององค์หญิงนั้นลอยเด่นอยู่ตรงหน้าท่านเจ้าเมืองอากุสอยู่นั่นเอง

ที่อยู่ในสภาพนี้ไม่ใช่เพราะกฏเหมือนที่ผ่านๆมา แต่เป็นคำขอของบุตรชายท่านเจ้าเมืองอย่างคุณชายออกัส ที่เจ้าเนื้อไม่ต่างจากอากุสผู้เป็นพ่อ

อากุส: ข้าต้องขอขอบคุณองค์หญิงอีกครั้ง ที่กรุณาตามใจคำขอไร้สาระของเจ้าออกัสบุตรชายของข้า

เอริก้า: เป็นถึงคำขอของคุณชาย ฉันจะปฏิเสธได้อย่างไร แต่ก่อนอื่นท่านควรทานอาหารก่อนมันจะเย็นนะ

องค์หญิงยิ้มหวานด้วยใบหน้าเขินอาย เพราะหีที่น่าอายของตนกำลังลอยเด่นอยู่บนอากาศตรงหน้าคู่สนทนา ระหว่างพูดก็ต้องยกมือชูสองนิ้วไปด้วยตามคำขอ

ออกัส: จงลอยมาทางนี้

คุณชายออกัสออกคำสั่ง เวทเชือกที่รัดเอริก้าก็เคลื่อนย้ายจนหีมาลอยเด่นอยู่ตรงหน้า นี่คือคำขอของออกัสนั่นเอง

ออกัส: หีของเจ้าหญิงสวยน่าเลียที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย จงลอยมาใกล้ๆ

พูดชมแล้วก็เอ่ยสั่งจนหีลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้า ไม่สิต้องบอกว่าหีลอยมาชนหน้ามากกว่า เพราะแคมหีได้แนบชิดไปกับใบหน้าไปแล้ว

เอริก้า: อ๊ะ.. ชมแบบนี้ฉันก็อายสิ แล้วก็.. หีมันชนแล้วนะ.. อ๊ะ อร๊ายย

ออกัส: โอ๊ะ ต้องขออภัยองค์หญิง พอดีข้าควบคุมเวทไม่ค่อยเก่งน่ะ

คุณชายออกัสกล่าวตอบทั้งๆที่หียังแนบหน้า ทำให้ราวกับโดนเลียหีไปนิดนึง ทั้งๆที่พูดแบบนั้นแต่กลับไม่ได้เอ่ยสั่งให้ถอยไป ทำให้หีของเอริก้าค้างอยู่ที่เดิม

ความรู้สึกอุ่นจากใบหน้าจึงเผ่ซ่านมาที่แคมหี มันบดไปที่ใบหน้าอย่างต่อต้านไม่ได้ จากนั้นก็รู้สึกบางอย่างจนต้องเสร็จ ทันทีที่หีเสร็จก็พ่นน้ำออกมา แน่นอนว่าโดนใบหน้าของคุณชายเต็มๆ

เอริก้า: อ๊ะ อาา ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ คือมัน.. คือมันออกมาเอง

ออกัส: จงถอยออกไป

ออกัสยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะใช้มือเปล่าลูบใบหน้าของตัวเองเป็นการเช็ด แต่เหมือนการระเลงน้ำหีไปทั่วหน้าซะมากกว่า

ออกัส: องค์หญิงคงไม่ทราบ ว่าการกระทำนี้หมายถึงอะไรนะ

ออกัสเก็บซ่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เอาไว้ ปั้นหน้าจริงจังออกมา

เอริก้า: ฉัน.. ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร แต่ฉันจะทำผิดชอบแน่นอน ด้วยเกียรติของเจ้าหญิงเลย

ออกัส: องค์หญิงช่างน่านับถือจริงๆ ข้าก็ไม่อยากทำอะไรใหญ่โต เพราะท่านก็เป็นถึงเจ้าหญิงคนสำคัญ ดังนั้นถ้าองค์หญิงยอมเต้นระบำหีเพื่อขอโทษ ข้าจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น

เอริก้า: องค์หญิงเอริก้าสาบานว่าจะเต้นระบำหีเพื่อเป็นการไถ่โทษ

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้ทั้งออกัสและอากุสก็ยิ้มแบบเดียวกันออกมา

วันต่อมา

ครูสอนระบำหีเดินทางมาถึงแต่เช้า และเริ่มฝึกให้องค์หญิงทันทีที่ทานอาหารเช้าเสร็จ เขาไม่ได้มาตัวเปล่าแต่มาพร้อมเครื่องแต่งกายที่ใช้ในการเต้น

เอริก้าใส่ชุดนั้นด้วยท่าทีเขินอาย เพราะชุดมันลามกเปิดเผยสุดๆ ชุดรัดรูปสีดำที่มีเนื้อผ้าแค่ข้างลำตัวกับบนเนินอก ที่ต่ำลงมาจากเนินอกจนถึงหีไม่มีอะไรปิดเลยสักนิด แถมตรงหียังมีตัวหนีบแคมหีให้อ้าไว้ตลอดเวลา ที่หัวก็ใส่ที่คาดผมหูกระต่ายสีดำ ดูรวมๆแล้วราวกับชุดกระต่ายยั่วสวาทที่รูดตูดจะมีหางถูกเสียบเอาไว้ด้วย

ครูฝึก: เอาล่ะ เรามาเริ่มฝึกการเลยองค์หญิง

..

ในขณะเดียวกันกลางเมืองก็เต็มไปด้วยผู้คน แม้ว่าบริเวณนี้จะเป็นแหล่งค้าขายที่มีคนเยอะอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เคยมีคนเยอะขนาดนี้มาก่อน เหล่าผู้คนที่เดินผ่านก็หยุดยืนดูที่กลางลาน ซึ่งมีหญิงสาวสองคนยืนอยู่

หญิงสาวทั้งสองที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทั้งตัว ทั้งนมทั้งหีไม่มีอะไรปิดบัง กำลังอยู่ในท่ายืนอ้าขาแหวกหี ระหว่างนั้นก็ขยับหันไปทางนู้นทีทางนั้นทีราวกับหาอะไรบางอย่าง

ตัวตนของทั้งสองที่ทำให้ทุกคนสนใจก็คือ องครักษ์ประจำตัวขององค์หญิงเอริก้า ซึ่งตอนนี้อยู่ในสภาพที่น่าอับอาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเงี่ยนกระสัน ปากก็ตะโกนด้วยน้ำเสียงกระเส่าออกมาเรื่อยๆ

โรส: อ๊าาา กลับมาสักทีเถอะ เมื่อไหร่ข้าจะโดนเย็ดอีก ข้าอยากโดนเย็ดจะบ้าอยู่แล้ว ควย.. ข้าคิดถึงควยของนายท่าน

อควา: อือออ~ อาาา~ อย่าแย่งควยของข้านะ นายท่านต้องเย็ดข้าก่อน หีของข้าดีกว่าเป็นไหนๆ อาาา เมื่อไหร่จะกลับมาเย็ดสักทีนะ

องครักษ์ทั้งสองถูกควยติดหีผสมยาลืมผัวจนเปลี่ยนไป ในหัวเต็มไปด้วยความเงี่ยนงัน และต้องการเพียงควยของคนสวนแก่เท่านั้น ราวสามชั่วโมงแล้วที่ถูกคนสวนจูงหีมายืนกลางเมืองแล้วหายไปไหนไม่รู้ ทั้งคู่ได้แต่ยืนรอตะโกนบ่นอยู่อย่างนั้น

ชาวเมือง: คนสวนงั้นรึ ใช่ตาแก่อานส์รึปล่าว

อานส์คือชื่อของคนสวนแก่ที่กระหน่ำเย็ดองค์รักษ์ทั้งสองไปเมื่อคืน

โรส: ใช่ ท่านอยู่ที่ไหน ช่วยบอกข้าที

อควา: อาา คิดถึงควยท่านอานส์จัง หีข้าคันไปหมดแล้ววว~

ชาวเมือง: ฮ่าๆ คงต้องรอนานหน่อยนะ กว่าจะเสร็จงานที่ปราสาทท่านเจ้าเมืองคงตกค่ำพอดี

โรส: อึยยย นานขนาดนั้นเลย อ่าาา ข้าต้องทนไม่ไหวแน่ๆ ท่านอานส์ท่านรีบกลับมาเร็วๆเข้า

อควา: ข้าเงี่ยนหี เงี่ยนหีอยากโดนควยท่านอานส์เย็ดเหลือเกิน~

ชาวเมืองที่เดินผ่านไปมาก็หยุดดูด้วยความสนุกสนาน องค์รักษ์อันมีเกียรติที่ร้องหาควยของชายแก่เป็นความบรรเทิงที่หาได้ยากจริงๆ

..

หลายวันผ่านไป

องค์หญิงเอริก้าใช้ชีวิตอยู่ในปราสาท ช่วงเช้าจะเป็นการฝึกเต้นระบำหี ช่วงบ่ายจะเป็นการเดินตรวจเมืองว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ แน่นอนว่าต้องมีคนจูงหีเดิน ซึ่งนั่นก็คือคุณชายออกัสที่อาสาจูงหีให้ แลกกับการเลียหีจูบปากทุกเมื่อที่ต้องการ ตลอดการเดินตรวจตราจึงถูกออกัสจูบปากแลกลิ้นไม่ก็เลียหีจนเสร็จแล้วเสร็จอีก หลังๆมานี้เพียงแค่คิดก็เกือบจะเสร็จแล้ว จึงเป็นเหตุให้เสร็จทันทีที่โดนจูบโดนเลียไปแล้ว

เรียกการเดินตรวจเมืองว่าเป็นการโชว์โดนลวนลามซะมากกว่า ไม่ว่าจะเดินไปไหน จะในเมือง ในร้านค้า หรือแม้แต่รอบกำแพงเมือง ก็จะถูกคุณชายออกัสจูบอย่างดูดดื่มไม่ก็เลียหีอย่างลามกให้คนรอบๆได้ดูชม และทุกครั้งก็จะเสร็จอย่างรุนแรงกระหีไปมาอย่างลามก

ระหว่างเดินตรวจเมืองบางครั้งก็เจอกับองครักษ์ทั้งสอง ที่มักจะถูกพามายืนโชว์ตัวตามมุมต่างๆของเมือง การพูดคุยกันทำให้รู้ว่าจะมีคนมารับไปเย็ดตอนเย็นแล้วเอามาปล่อยตอนเช้าเท่านั้น

ณ ห้องประชุมในปราสาท

ท่านเจ้าเมืองอากุสกำลังนั่งประชุมกับเหล่าบริวารอย่างจริงจัง ซึ่งตอนนั้นเองที่ออกัสเปิดประตูเดินเข้ามา ตามหลังมาด้วยองค์หญิงเอริก้าที่ถูกจูงหีจนต้องเดินตามเข้ามาด้วย

เหล่าบริวาร: งานเลี้ยงวันเกิดลูกชายท่านอัมการ์นั้นสำคัญไม่น้อย พวกเราควรเตรียมของขวัญให้เหมาะสม ไม่งั้นเมืองของเราต้องน้อยหน้าเป็นแน่

อากุส: ออกัส เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร

อากุสส่งสายตาให้ออกัสแล้วหันไปมององค์หญิงเอริก้าที่อยู่ข้างๆ ออกัสนั้นเข้าใจได้ทันที ก่อนจะกล่าวอะไร ออกัสชักมือออกจากรูหี ทำให้องค์หญิงเอริก้าต้องเปลี่ยนเป็นท่ายืน สองขาอ้ากว้างแอ่นหีก่อนจะใช้มือทั้งสองแหวกหีอย่างน่าไม่อาย

ออกัส: เรื่องนี้สำคัญเป็นอย่างมาก แต่โชคดีที่ข้ามีความคิดอันชาญฉลาดมาเสนอ ก่อนหน้านี้องค์หญิงเอริก้าพ่นน้ำหีใส่หน้าข้าจนต้องฝึกเต้นระบำหีเพื่อไถ่โทษ และข้าคิดว่าควรให้องค์หญิงโชว์ระบำหีเป็นของขวัญวันเกิดน่าจะเหมาะ

เอริก้า: งานเลี้ยงงั้นหรอ คุณชายออกัส นี่ท่านไม่ควรพูดเล่นนะ ที่นั่นมันเต็มไปด้วยคนจากหลายๆเมือง ท่านจะให้ข้าเต้นระบำหีในที่แบบนั้นจริงๆหรอ

เอริก้าเบิกตากว้างอย่างรนรานเมื่อได้ยินข้อเสนอสุดน่าอายแบบนั้น เธอเข้าใจว่าที่แห่งนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าให้ทำเรื่องแบบนี้นอกเมืองมันแปลกประหลาดเกินไป

ออกัส: องค์หญิง ไหนท่านสาบานแล้วว่าจะเต้นระบำหีไถ่โทษ นี่ท่านจะกลับคำอย่างนั้นหรอ ท่านที่เอาชื่อเจ้าหญิงเป็นเดิมพัน?

เอริก้า: แต่ว่ามัน..

องค์หญิงเอริก้าไม่กล้าโต้เถียงอีกต่อไป เพราะคำสาบานที่เอ่ยออกมาแล้ว จะไม่มีทางกลับคำได้เด็ดขาด นี่คือศักดิ์ศรีของเธอ

การประชุมจึงจบลงด้วยเหตุนี้เอง แต่กว่าจะถึงวันนัดหมายก็อีกตั้งเดือนนึงเลย ซึ่งมันเลยกำหนดการณ์ตรวจตราไปแล้ว

และวันนั้นก็มาถึงวันที่องค์หญิงเอริก้าต้องเดินทางกลับอาณาจักร องครักษ์ทั้งสองดูเงี่ยนตลอดเวลาแต่พอได้รับคำสั่งจากองค์หญิงก็ทำตามได้ทันที

แต่การเดินทางกลับครั้งนี้มีบุคคลเพิ่มมาด้วย 2 คน หนึ่งคือตาแก่อานส์ที่องครักษ์ทั้งสองกล่าวขอแก่ท่านเจ้าเมือง ส่วนอีกคนคือครูฝึกระบำหีที่ติดตามกลับมาฝึกให้องค์หญิงด้วย

เมื่อออกจากเมืองมาแล้ว เอริก้าก็ไม่จำเป็นต้องทำตามกฏแปลกๆนั่นอีก จึงกลับมานั่งเรียบๆร้อยๆตามเดิม ทว่าที่ผ่านมามันทำให้การนั่งปกติไม่ชินเอาซะเลย ในใจกลับอึดอัดอยากนั่งแหวกหี แม้แต่การยืนการเดินยังรู้สึกอึดอัดไปหมด

ในรถม้าก็มีครูฝึกนั่งอยู่ข้างๆ ครูฝึกมีนิสัยประหลาดชอบดอมดมไปทั่ว ตอนนี้ยังเอาจมูกมาใกล้หน้าบ้าง ก้มซุกที่หว่างขาบ้าง เพื่อสูดหายใจแรงๆเข้าปอด

ที่ผ่านมาก็ถูกดอมดมมากกว่าหลายเท่าจนชินไปแล้ว ก็ฝึกทุกเช้าเจอทุกวัน บางครั้งไม่ใช่แค่ดมอย่างเดียว ยังใช้มือลูบไล้ลวนลามไปทั่วทั้งตัว ที่หนักที่สุดก็คงควักควยออกมาถูตัวถูหน้าองค์หญิง

เอริก้า: ท่านครูฝึก ท่านจะดมหีอีกนานมั้ย

ครูฝึก: ข้าขออภัยด้วย ก็หีองค์หญิงมันหอมถูกใจข้ามากจริงๆ ให้ดมทั้งชีวิตก็พอหรอกขอรับ

เอริก้า: นี่ท่านครูฝึกพูดจริงหรอ

ครูฝึก: ข้าพูดจริงเสมอ องค์หญิง

เอริก้า: ถ้าท่านครูฝึกพูดถึงขนาดนั้น ช่วยขยับออกไปก่อน ฉันขอเปลี่ยนท่านั่งสักครู่

ครูฝึกถอยออกไปอย่างไม่ยินยอม มององค์หญิงลุกขึ้นเผยโหนกหีอวบอูมที่เยิ้มไปด้วยน้ำหี จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งโดยเอาขาไขว้ไว้ที่หลังหัว เป็นท่าตัวอ่อนที่อวดหีได้เด่นสุดๆ

ไม่พอแค่นั้นยังใช้มือแหวกหีจนเห็นไปถึงด้านใน

เอริก้า: ท่านครูฝึกจะได้ดมหีได้สะดวก ถ้าอยากดมส่วนไหนโปรดพูดออกมา ฉันจะแอ่นให้ท่านดมทันทีเอง

ครูฝึก: คำพูดขององค์หญิงหนักแน่นดั่งขุนเขา ข้าจะจดจำเอาไว้ในใจขอรับ

จะว่าไปชุดที่ใส่มายังคงเปลือยท่อนล่างเช่นเดิม เพราะในเมืองหีไม่มีขายเลยสักชิ้น มีแต่ชุดผู้หญิงที่ไม่มีท่อนล่าง แต่ก็ได้คำแนะนำมาว่าให้แวะซื้อที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งก่อน

องครักษ์โรสกับอควาขี่ม้าในสภาพเปลือยท่อนล่าง ท่อนบนเป็นชุดเกราะอัศวินสีเงินดูองอาจ ทว่าท่อนล่างกลับเปลือยเปล่า และตอนนี้อควายังถูกอานส์อดีตคนสวนเย็ดหีขณะขี่ม้าอยู่ด้วย

อควา: อ๊าา ควยท่านอานส์ช่างดีเหลือเกิน อ๊ะๆๆ เสียวหี เสียวที่สุดเลย

อานส์: หีของแกก็ตอดแรงใช้ได้ ทำเอาควยข้าฟินไม่แพ้กัน

อควา: อาาา ขอบพระคุณมากๆค่ะ ได้โปรดเย็ดข้าเยอะๆ หีของข้าเป็นของท่านคนเดียว

โรส: หีของข้าด้วย

องครักษ์โรสพูดออกมาด้วยเสียงที่เบาหวิว มองไปยังอควาด้วยความิจฉา หีของเธอนั้นเยิ้มแฉะไปหมด รอคอยมานานแล้วแต่ก็ยังไม่โดนอานส์เย็ดสักที

ยิ่งม้าควบแรงควยก็กระแทกเร็วตามจังหวะ หีอควาต้องฟินมากแน่ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งแฉะจนไม่ทันได้ระวังอะไร

ทันใดนั้นเองก็มีรถม้าสวนทางมา อควาที่มัวแต่โดนเย็ด กับโรสที่หันไปมองด้วยความอิจฉา ไม่ทันได้สังเกต รถม้าที่สวนทางก็พยายามหันหลบทว่าก็ไม่ทัน

ฮี่~ โคร้มมม!

ม้าเลี้ยวหนีตามสัญชาตญาณ ทว่ารถม้ากลับชนกันเต็มๆ ทั้งสามคนล้มลงจากหลังม้ามองดูม้าวิ่งหนีไปคนละทิศทางด้วยความตกใจ

โรส: ท่านอานส์ เป็นอะไรไหม ท่านอานส์!

อควา: ข้าใช้เวทรักษาได้

พูดแล้วก็ร่ายเวทรักษาทันที กลายเป็นว่าองครักษ์ทั้งสองเห็นเจ้าของควยสำคัญกว่าองค์หญิงที่อยู่ในรถม้า

ทางด้านของเอริก้าที่ล้มลงจนอยู่ในสภาพกลับหัว ทว่าท่าทางยังคงไว้เช่นเดิมที่ทั้งสองขาไขว้อยู่บนหลังหัว ครูฝึกก็ล้มหงายหลังอยู่ข้างๆ ทั้งคู่นั้นหมดสติไปจากแรงกระแทก

ที่รถม้าอีกคันมีชายวัยกลางคนจูงมือลูกชายที่อายุมากกว่าองค์หญิงเล็กน้อยเดินออกมา ท่าทางของทั้งสองดูกดดัน เพราะจำตราบนรถม้าที่ชนได้ มันคือตราประจำอาณาจักรที่คนสำคัญเท่านั้นที่มีสิทธิ์นั่ง

ชายวัยกลางคนเป็นพ่อค้ามีนามว่าเปรเกีย ส่วนลูกชายวัย 20 มีนามว่าเปรโต

เปรเกีย: พวกเราคงจบสิ้นแล้ว

เปรโต: ท่านพ่อ เราเข้าไปช่วยเหลือก่อนไหมขอรับ

เปรเกีย: อื้ม

ทั้งคู่ก้าวขาเข้าไปใกล้รถม้าที่ล้มตะแคงข้างก่อนจะปีนขึ้นไปเปิดประตู เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในรถม้าก็ถึงกับตาโต

หีขององค์หญิงขาวเนียนอวบอูมดูนุ่มนิ่มอยู่ตรงหน้าของพ่อลูก แม้ความหื่นจะประทุขึ้นมาทันทีแต่ก็ระงับมันเอาไว้ได้ จึงช่วยกันพยุงร่างองค์หญิงออกมา ตามด้วยครูฝึกวัยกลางคน

ทั้งสองถูกพามานั่งข้างทาง องค์หญิงยังคงอยู่ในท่าสองข้างชี้ขึ้นผสานไว้หลังหัวแต่อยู่ในสภาพนอนหลังชนพื้น ทำให้แอ่นเด่นอยู่เบื้องหน้า

เปรโต: ข้าว่าใบหน้าของนางนั้นคุ้นๆ ท่านพ่อพอจะนึกออกไหม

เปรเกียคิ้วขมวด เพราะนึกออกอยู่คนหนึ่ง

เปรเกีย: คงไม่ใช่องค์หญิงเอริก้าหรอกใช่ไหม?

เปรโต: อะอง องค์หญิง?

เปรโตตาโตหันไปมองอีกครั้งด้วยความตกใจ คราวนี้เขามองไปที่ใบหน้าอ่อนวัยที่สวยงดงามเวลาหลับยิ่งดูน่ารักน่าเอ็นดู ทว่าหีที่แอ่นเด่นงอนงุนอยู่ตรงหน้านั้นดึงสายตาได้ดีกว่า

โรส: พวกแกเองสินะที่บังอาจมาชน

เสียงสาววัยกลางคนดังมาจากด้านหลัง พ่อลูกจึงหันควับกลับไปมอง ก็พบกับหญิงสาวที่ท่อนบนใส่เกราะอัศวินสีเงิน ทว่าช่วงล่างกลับเปลือยเปล่าอวดหีที่ไร้การปกปิดป้องกัน ท่ายืนที่อ้าขาเล็กน้อยทำให้เห็นได้ชัด มีน้ำหีเยิ้มย้อยลงมาเป็นเส้นสาย

เปรเกีย: ต้องขออภัยจริงๆขอรับ อย่าทำอะไรพวกข้าเลย ข้าจะยอมทำทุกอย่างที่ท่านบอก

โรส: เรื่องนี้ค่อยคุยกันทีหลัง ก่อนอื่นต้องหาที่พักก่อน

เปรเกีย: ได้ขอรับ ได้โปรดใช้รถม้าของข้าด้วย

รถม้าของพ่อค้าดูไม่ได้เสียหายมากนัก ม้าตัวหนึ่งก็ยืนอยู่ไม่ไกลเปรโตจูงม้ากลับเข้าที่พร้อมคนขี่ที่บาดเจ็บเล็กน้อย ก่อนจะช่วยกันอุ้มคนที่หมดสติขึ้นรถม้า จากนั้นก็มีชายแก่อุ้มหญิงสาวอัสวินมาอีกคน แต่เป็นการอุ้มเย็ดไปเดินไปซะมากกว่า

เป็นภาพเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดสำหรับพ่อลูก ที่องครักษ์หญิงทั้งสองนั่งคุกเข่าแย่งกันโลมเลียควยของชายแก่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นนี้

ส่วนองค์หญิงกับครูฝึกที่หมดสติก็นั่งอยู่ข้างๆ โดยสายตาของเปรโตจ้องมองไปยังแคมหีสีชมพูที่น่าดูชมแบบตาไม่กระพริบ

ด้วยความยากจนของครอบครัวทำให้เปรโตมีร่างกายที่ผอมแห้ง สีผิวก็ดำคล้ำจากการอยู่ใกล้แดด ใบหน้าชาวบ้านแสนธรรมดาราวกับตัวประกอบ พอเห็นสิ่งที่สวยงามอยู่ตรงหน้าก็อดน้ำลายไหลไม่ได้

ในใจคิดว่าจับสักนิดคงไม่เป็นไร ไม่มีใครหันมาสนใจทางนี้ด้วย ความคิดพิเรนแล่นเข้ามาไม่หยุด และแล้วเปรโตก็แอบใช้มือลูบสัมผัสแคมหีที่อยู่ข้างๆ

นุ่ม! เปียก! ลามกเหลือเกิน

เปรโตลูบไล้แคมหีเบาๆ ใจเต้นตึกตักด้วยความหื่นที่ประทุขึ้นมา โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าองค์หญิงเอริก้านั้นลืมตาตื่นตั้งแต่โดนสัมผัสหีแล้ว

ทว่าเอริก้ากลับนิ่งเฉยไม่ได้ต่อต้านทั้งยังหลับตาแกล้งสลบต่อไป ทางด้านของเปรโตก็ได้ใจลงน้ำหนักมือ นิ้วสอดเข้าไปข้างในแคมหี สัมผัสติ่งเสียวกับปากรูหี ช่างฟินอย่างบอกไม่ถูก

ยิ่งสัมผัสยิ่งมีน้ำไหลออกมาช่างสนุกเหลือบรรยาย หันไปมองใบหน้าแสนงดงามที่หลับอยู่ก็ยิ่งได้ใจ ใช้มืออีกข้างแหวกแคมหีจนเห็นข้างในเป็นครั้งแรก

ตอนนั้นเองที่เปรโตหักห้ามใจไม่ได้อีกต่อไป จึงโน้มหัวลงซุกแคมหีพร้อมใช้ลิ้นโลมเลียอย่างหื่นกระหาย จมูกก็สูดหายใจเสียงดัง จนเปรเกียผู้เป็นพ่อหันมามองด้วยความตกใจ

เปรเกีย: ฮึก!

เปรเกียไม่ได้ส่งเสียงใดๆออกมา แต่ใช้มือกระชากคอลูกชายให้ถอยออกมาทันที จนน้ำหียืดเป็นสายระหว่างใบหน้ากับหีก่อนจะขาดออกจากกัน

องค์หญิงเอริก้าที่กำลังแกล้งสลบก็รู้สึกขัดใจ ทั้งที่อุตส่ามีคนมาเลียหีกลับถูกดึงออกไปซะอย่างงั้น จึงช่วยไม่ได้ที่จะล้มเลิกแผนแกล้งสลบ

เอริก้า: อืออ นี่ฉันอยู่ที่ไหนกัน

องค์หญิงส่งเสียงออกมาก่อนที่จะลืมตาขึ้น พ่อลูกจึงหันมามองด้วยสีหน้ากังวลว่าจะถูกจับได้ แค่ความผิดที่ชนรถม้าก็ไม่อาจให้อภัยแล้ว ยังมีความผิดที่ลูกชายเอาหน้าซุกหีอีก

เปรเกีย: ท่านกำลังอยู่บนรถม้าของข้าขอรับ ก่อนหน้านี้ที่รถม้าชนกันจนท่านสลบไป พวกข้าจึงพาพวกท่านขึ้นมาบนรถม้าขอรับ และกำลังมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่พวกข้าจากมา

เอริก้า: งั้นพวกฉันก็กำลังรบกวนท่านอยู่สินะ

เปรเกีย: ไม่ๆๆขอรับ จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ถือเป็นบุญของพวกข้าด้วยซ้ำที่องค์หญิงอุตส่าขึ้นมานั่ง

ได้ยินแบบนั้นก็พูดอะไรไม่ออก จึงได้แต่ยิ้มหวานส่งกลับไป ตลอดทางกว่าครึ่งชั่วโมงเห็นเพียงสายตาหื่นจากเปรโตเท่านั้น เป็นสายตาที่ไม่มีความเกรงใจเอาเสียเลย มองราวกับจะกลืนกิน

เปรเกีย: ถึงแล้วขอรับ ข้างหน้าคือหมู่บ้านที่ข้าอาศัยอยู่ และข้าต้องขออภัยด้วยที่การต้อนรับไม่ดีพอสำหรับองค์หญิง

เอริก้า: ช่วยอุ้มท่านครูฝึกไปทีนะ

เปรโต: ขอรับ

เอริก้า: และก็ลูกชายของท่าน..

เปรโต: ลูกชายข้า? เจ้าเปรโตหรือขอรับ องค์หญิงมีคำสั่งอะไรหรือขอรับ

คนเป็นพ่อเหงือตก รู้สึกกดดันขึ้นมาทันที คิดไปว่าองค์หญิงจะสั่งลงโทษจากการกระทำของลูกชาย

เอริก้า: ให้เปรโตลูกชายท่านอุ้มฉันไปด้วย เพราะอุบัติเหตุร่างกายจึงขยับไม่ได้เลย

องค์หญิงกล่าวเท็จคำโตเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าทุกคนที่อยู่ในรถม้าก็ดูออก แต่ใครล่ะจะกล้าปฏิเสธ ถ้าบอกว่าไม้คือนกก็จะเชื่อเช่นนั้น

พอรถม้าจอดชายแก่อานส์ก็ลงมาพร้อมโรสกับอควาที่โอบกอดอยู่คนละข้างราวกับคู่รักสุดหวานชื่น ตามมาด้วยเปรเกียพ่อค้าเร่ที่อุ้มชายวัยกลางคนออกมา และท้ายสุดคือเปรโตที่อุ้มองค์หญิงเอริก้าออกมา ท่าอุ้มนั้นแสนน่าอิจฉา คนในหมู่บ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ตะลึงจนตาโต

องค์หญิงเอริก้ายังคงอยู่ในท่าสุดตัวอ่อนเช่นเดิม ขาทั้งสองยกขึ้นไขว้ไว้ที่หลังหัว แอ่นโชว์แคมหีรูตูดอย่างน่าไม่อาย และมือของเปรโตก็ช้อนอุ้มอยู่ที่แก้มก้นงอนนิ่มจากด้านหลัง กลายเป็นท่าอุ้มโชว์หีซะมากกว่า

กลุ่มเด็กซนเห็นเปรโตอุ้มสาวสวยในท่าลามกก็ปรี่กันเข้ามาดู วิ่งวนไปมาเพื่อดูรอบๆพร้อมเสียงดังถามคำถามกันเข้ามา

กลุ่มเด็กซน: นี่พี่เปรโต นี่เมียพี่งั้นหรอ ทำไมถึงสวยจัง

กลุ่มเด็กซน: พี่สาวๆ ผมอยากอุ้มบ้างอ่า

กลุ่มเด็กซน: พี่เปรโตสุดยอด อุตส่าพาพี่สาวคนสวยมาโชว์ให้พวกเราดู

กลุ่มเด็กซน: ผิวอย่างกับชนชั้นสูงแน่ะ พวกเราดูตรงหีสิ มันสีชมพูด้วยล่ะ หีสีชมพูล่ะ!

เสียงดังแสบแก้วหูของเด็กๆเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี คนในหมู่บ้านก็อยากรู้เช่นกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทางด้านของเปรโตก็เหงือตกพูดไม่ออก ไม่รู้ควรตอบยังไงดี กระทั่งองค์หญิงตอบออกมาเอง

เอริก้า: ใช่แล้วจะ พี่เป็นเมียลามกของเปรโต ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ

กลุ่มเด็กซน: ว้าว จริงหรอพี่เปรโต งั้นพวกเราขอจับหีเมียพี่หน่อยสิ นะๆๆพี่เปรโตสุดหล่อ

เปรโต: อึก.. คือว่า..

เปรโตถึงกับพูดไม่ออกไม่รู้ว่าจะถูกองค์หญิงแกล้งแบบนี้ ถ้าคล้อยตามเขาจะโดนโทษอะไรรึปล่าวนะ นี่คือความกังวลที่เปรโตคิด

เอริก้า: อย่ามัวแต่คิดสิจ๊ะ เมียตามใจผัวทุกอย่างอยู่แล้ว

เปรโตได้ยินเสียงหวานสุดอ่อยจากองค์หญิงก็ขนลุกซู่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก มือที่ช้อนก้นงอนก็ขยับขยำอย่างลืมตัวจนฟินเข้าไปอีก

เปรโต: อ่า อือ ได้สิ

จึงเผลอตอบไปแบบเคลิ้มๆ ทันใดนั้นพวกเด็กซนก็พากันรุมจับหีขององค์หญิง ซึ่งคนที่อุ้มอยู่ก็คือเปรโตเอง พอเห็นหีแสนอวบอูมถูกรุมจับก็หื่นกระหายอยากจับขึ้นมาบ้าง

เปรเกีย: เปรโต! เข้าบ้านได้แล้ว

เสียงเข้มของคนเป็นพ่อดังมาจากด้านหน้า เปรโตจึงยิ้มเจื้อนก่อนจะอุ้มพาองค์หญิงเข้าไปในบ้านโทรมๆ

บนเตียงมีโรสกับอควากำลังรุมชายแก่อานส์อย่างสนุกสนาน ส่วนครูฝึกก็นอนฟุบอยู่ข้างโต๊ะ เปรโตเห็นที่ว่างจึงวางองค์หญิงบนไว้โต๊ะกลางบ้าน

เปรเกีย: องค์หญิง ท่านคิดอะไรอยู่กันแน่ขอรับ

เปรเกียเห็นเหตุการณ์จึงอดสงสัยไม่ได้ ไม่รู้ว่าองค์หญิงคิดอะไรอยู่ เขาได้แต่ห่วงลูกชายของตน

เอริก้าถูกวางบนโต๊ะจึงนอนหงายหีแอ่นไม่ได้ขยับเปลี่ยนท่าใดๆ เปรโตก็จงใจแบบนั้นจึงวางไว้บนโต๊ะแทนที่จะเป็นเก้าอี้ ตอนนี้เขาจ้องมองหีที่อยู่ตรงหน้าตาไม่กระพริบ

เอริก้า: ช่วยเก็บตำแหน่งองค์หญิงเป็นความลับด้วย ศัตรูมีทุกแห่งหน ฉันไม่ควรเปิดเผยตัวตนออกมา

เปรโต: งั้นแสดงว่า..

พ่อลูกได้ยินเช่นนั้นก็คิดออกได้ทันที องค์หญิงจะปลอมตัวเป็นเมียของเปรโต จะให้ทุกคนรู้ไม่ได้ว่านี่คือองค์หญิง และในมุมมองศัตรูคงคาดไม่ถึงว่าองค์หญิงจะมาเป็นเมียชาวบ้านจนๆอย่างเขา

เอริก้า: จนกว่าครูฝึกจะฟื้นตัวและหารถม้าได้ ขอให้พวกท่านแสดงบทบาทให้แนบเนียนด้วยเถิด

เปรเกีย: ขอรับ สมองอันน้อยนิดของข้าคิดไม่ถึงเรื่องนี้ ต้องขออภัยองค์หญิงด้วยขอรับ

เอริก้า: เปลี่ยนวิธีพูดซะ เพราะจากนี้ฉันคือเมียลามกของเปรโต

เปรเกีย: เมียลามก?

เอริก้า: ใช่แล้ว เมียลามกคือเมียที่สนองความเงี่ยนของผัวได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะสั่งเรื่องลามกแบบไหนเมียลามกจะทำตามทุกอย่าง

เปรโต: องค์หญิงคือเมียลามกของข้าจริงๆ!!

เอริก้า: อย่างที่บอก ต้องแสดงบทบาทให้แนบเนียน ห้ามเกรงใจ ห้ามหยุดแสดงแม้ว่าจะอยู่กันแค่พวกเราก็ตาม นี่คือคำสั่ง

เปรเกีย/เปรโต: รับทราบขอรับ!

..

หลังจากเหตุการณ์นั้น เปรเกียก็ตามหมอมาดูแลครูฝึก แล้วทิ้งโรส อควา และอานส์ไว้ที่บ้าน ก่อนจะไปประกาศความจริงกับทุกคนในหมู่บ้าน ซึ่งก็คือการบอกเกี่ยวกับเมียลามกของเปรโตนั่นเอง

ทุกคนในหมู่บ้านจึงรู้แค่ว่าเอริก้าเป็นเมียลามกที่จะทำตามที่เปรโตสั่งทุกอย่าง ไม่ว่าเปรโตจะไปไหนจึงมีแต่คนประสบประแจง สัตว์ที่ควรออกล่าก็มีคนนำมาให้ น้ำที่ควรไปตักที่ลำธารก็มีคนนำมาเสิร์ฟ

และคืนวันนั้นเองที่เปรโตทำตามความต้องการของตัวเอง

เปรโต: เมียลามกของข้า จงอ้อนวอนจนกว่าข้าจะเย็ดให้ได้

นี่คือใจจริงของเปรโตที่เก็บกดมานาน นี่คือโอกาส ตรงหน้าตัวจริงคือองค์หญิงแห่งอาณาจักรเชียวนะ!

สถานที่ๆทั้งสองคนอยู่ก็ไม่ใช่ที่ลับตา แต่เป็นลานกลางหมู่บ้านที่รอบๆปักคบเพลิงเอาไว้ ทำให้โดยรอบสว่างสไว คนในหมู่บ้านก็มาดูกันอยู่รอบๆ เปรเกียผู้เป็นพ่อก็ยืนกำหมัดกับการกระทำของลูกชาย แต่ก็เข้าไปห้ามไม่ทันเสียแล้ว

องค์หญิงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าไปทั้งตัว พอได้ยินคำสั่งก็บิดตัวไปมาอย่างงดงาม ขาค่อยๆกางออกเอวกระดกหน้าทีหลังทีให้หีลอยเด่นอยู่ข้างหน้า นี่คือหนึ่งในท่าระบำหีที่ฝึกมานั่นเอง

เอริก้า: ท่านเปรโตขา กรุณาเย็ดหีเมียด้วยเถอะ หีร่านๆมันอยากได้ควยของท่านเหลือเกิน

เปรโตยังคงยืนนิ่งด้วยใบหน้าสะใจอย่างถึงที่สุด ที่องค์หญิงพูดอ้อนวอนเขาอย่างไร้ยางอายต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้

องค์หญิงพลิกตัวไปมาโดยให้หีกับตูดงอนสวยเป็นจุดสนใจ ก่อนจะคลานเข่าอ้าขา กดช่วงบนแนบพื้น กระดกหีไปด้านหลังก่อนจะส่ายไปมาช้าๆ

เอริก้า: ทุกคนมองมาที่หีร่านๆนี่สิ มันอยากโดนควยเย็ดจะขาดใจแล้ว ท่านเปรโตขา รีบๆใส่ควยเข้ามาสิ

องค์หญิงเห็นว่าไร้การตอบสนองจึงพลิกตัวหงายอีกครั้งก่อนจะชันเข่าอ้ากว้างหลังแนบพื้น ขาที่อ้างกว้าง 180 องศาหุบอ้าๆสลับกันไป

พอทำท่านี้เปรโตก็งัดควยดำเขื่องออกมา ทว่าก็ไม่ได้ทำอะไรอีก ได้แต่โชว์ควยดำเหม็นออกมาเฉยๆ

เปรโต: ถ้าอยากได้นักก็ยัดเข้าไปเองซะ

องค์หญิงได้ยินแบบนั้นก็ยกยิ้มกระดกหีจนตัวลอยไปหาควยด้วยท่าทางเดิมที่โพสไว้ เป็นท่าโหยหาควยที่ดูลามกสุดๆ

เอริก้า: อ๊าาา โดนแล้ว หีโดนควยชนแล้ว อย่าหนีสิ อีกนิดเดียว~

พอขยับไปถึงเปรโตก็แกล้งส่ายควยหนีซ้ายทีขวาที ทำให้องค์หญิงต้องส่ายหีไปมาให้ควยเสียบเข้าหีให้ได้ เป็นท่าทางที่สู้ตายเอามากๆ

เอริก้า: นิดเดียว.. อย่าแกล้งเมียสิ เมียยอมแล้ว

เปรโตสะใจกับเหตุการณ์นี้มากๆ พอได้จังหวะก็งัดควยสวนกลับไป ทันใดนั้นเององค์หญิงก็แอ่นหีสุดตัว ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเหยเกลามก ยิ่งกว่าโดนเลียหีเป็นพันๆเท่า ความเสียวนี้เองที่ทำให้สติแตก

หีที่อมควยเข้าไปจนมิดก็กระตุกถี่ๆ ขาที่ยันพื้นสั่นพับๆอย่างควบคุมไม่ได้ น้ำหีมากมายก็พุ่งกระจายออกมา บ่งบอกให้ทุกคนรับรู้ว่าหีแสนร่านตัวนี้เสียวขนาดไหน คงเสียวมากจนคาดใจเลยล่ะมั้ง

นี่คือครั้งแรกที่องค์หญิงโดนเย็ดหี มันไม่เจ็บสักนิดแถมยังเสียวจนคุมสติไม่อยู่ ติดใจๆๆๆๆ นี่คือสิ่งที่ฝังอยู่ในจิตใจ

หลังจากนั้นองค์หญิงก็จำอะไรไม่ได้..

แสงสว่างยามเช้าสอดทะลุเปลือกตา องค์หญิงลืมตาตื่นอย่างเชื่องช้า ผมเผ้ายุ่งเหยิงจึงร่ายเวททำความสะอาดจนเนื้อตัวทรงผมกลับมาสะอาดเรียบร้อยเช่นเดิม

ทว่าความรู้สึกเสียวมดลูกยังไม่จางหาย น้ำขาวขุ่นที่ไหลออกจากหีก็มีเรื่อยๆ ในปากก็รับรสขมแปลกๆแต่กลับกระตุ้นจิตใจทุกครั้งที่กลืนมันลงไป

พอมองรอบๆก็พบว่านอนอยู่กลางหมู่บ้าน คนส่วนใหญ่ออกไปล่าสัตว์ไม่ก็ทำงานตามประสา มีเด็กๆที่วิ่งไปมา พอเห็นเอริก้าตื่นจึงหันมามองดู

องค์หญิงลุกขึ้นอวดร่างเปลือยก่อนจะเดินกลับบ้าน พอไปถึงก็เจอเปรเกียนั่งอยู่ราวกับรอคอยใครบางคนอยู่ ส่วนคนอื่นๆหายไปหมด

เปรเกีย: ข้ามีเรื่องจะคุยด้วย

องค์หญิงนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม สำรวจท่าทางของอีกฝ่ายที่ดูจริงจังกว่าที่ผ่านๆมา หรือว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกัน

เอริก้า: ท่านพ่อตา ท่านมีอะไรจะพูดหรือ

เปรเกีย: พ่อตา.. เอ่ออ อืม อะแฮ่ม.. เรื่องเมื่อคืน..

เอริก้า: ท่านประทับใจการอ้อนควยของข้ารึ?

เปรเกีย: ข้าต้องขออภัยแทนลูกชายของข้าด้วย ถ้าเกิดจะลงโทษได้โปรดลงโทษข้าแทนจะได้หรือไม่ขอรับ

เอริก้า: นี่ท่านพ่อตาพูดอะไรน่ะ ฉันคือเมียลามกของเปรโต การอ้อนควยให้ผัวเย็ดเป็นหน้าที่ของเมียอยู่แล้ว ท่านไม่ต้องใส่ใจหรอก

เปรเกีย: ข้าลืมบอกเรื่องสำคัญไป.. ที่จริงแล้ว ทุกคนในหมู่บ้านรู้ว่าท่านคือใคร องค์หญิง

เอริก้า: .....

องค์หญิงชะงักหมดคำพูด แสดงว่าเมื่อคืน..

เปรเกีย: มีคนปล่อยข่าวเรื่องท่าน และข้าคิดว่าคนๆนั้นคือลูกชายข้าเอง

เอริก้า: เป็นแบบนั้นเองสินะ

เปรเกีย: ได้โปรดลงโทษข้าแทนนะขอรับ ลูกชายของข้าแค่โดนความชั่วบังตา ข้าเป็นพ่อสอนลูกไม่ดีเอง..

เอริก้า: เรื่องนี้ไม่ควรด่วนสรุป อาจจะมีใครบางคนอยู่เบื้องหลังก็ได้ ระหว่างนี้ก็แสดงบทบาทต่อไป

เปรเกีย: ขอรับองค์หญิง

ปึ้ง! เสียงประตูเปิดออก คนที่เข้ามาคือเปรโตที่ถือจานอาหารอยู่ในมือ

เปรโต: อยู่นี่เองเมียลามกของข้า นี่ข้าไปทำอาหารมาให้เจ้าเลยนะ กินเยอะๆนะกินให้เกลี้ยงอย่าให้เหลือ มันคือน้ำควยคนในหมู่บ้านที่ข้าอุตส่ารวบรวมมาเชียว

เอริก้า: ว๊ายย เมียลามกดีใจที่สุดเลย เมียจะทานให้เกลี้ยงเลยนะ

เปรโต: ท่านพ่อก็ด้วย รีบควักควยออกมาเร็ว

เปรเกีย: ของข้าด้วยรึ?

เปรเกียที่เพิ่งคุยเรื่องสำคัญจบไปก็ยังทำตัวไม่ถูก ลูกชายจึงช่วยถอดกางเกงงัดควยออกมาวางบนโต๊ะ

เอริก้าส่งสายตาบอกว่าไม่เป็นไร เปรเกียจึงเลยตามเลยใช้มือชักควยก่อนจะพ่นน้ำควยใส่จานที่เต็มไปด้วยน้ำควยอยู่แล้ว และมีบางหยดกระเด็นออกนอกจาน

เอริก้าจึงก้มเลียน้ำควยที่หกก่อนจะกลืนลงคอด้วยใบหน้าแสนลามก พร้อมกันนั้นก็ใช้มือเกี่ยวหีจนน้ำหีพุ่งออกมาอย่างลามก

เปรเกียจ้องมององค์หญิงอย่างตกตะลึง นั่นคือน้ำของของเขาที่กลืนลงไปด้วยใบหน้าแสนร่านพร้อมทั้งเสร็จจนน้ำหีพุ่งอีก แม้จะรู้ว่ากำลังแสดงแต่มันเกินไปหรือไม่

จากนั้นก็ยืนดูองค์หญิงกลืนน้ำควยจนหมดจาน แต่ละอึกที่กลืนลงคอก็เขี่ยหีไปพร้อมกัน บางครั้งก็เสร็จออกมาอย่างรุนแรง บางครั้งก็แค่ตัวกระตุก แต่ที่เหมือนกันเลยก็คือใบหน้าแสนลามกที่ดูชื่นชอบน้ำควยเอามากๆ

หลังจากนั้นเปรโตก็พาองค์หญองออกไปทำเรื่องลามก เปรเกียผู้เป็นพ่อก็แอบตามอยู่ห่างๆ

องค์หญิงถูกใส่ปลอกคอจูงไปทั่วหมู่บ้าน ทั้งยังแสดงท่าทางราวกับหมา แอ่นหีแอ่นตูดไปมา เวลาฉี่ก็ยกขาข้างเดียว เวลาเงี่ยนก็อ้อนควยเปรโต

ทุกคนในหมู่บ้านรู้ตัวจริงขององค์หญิงอยู่แล้ว จึงตื่นเต้นกับการแสดงแสนลามกนี้มากๆ ไม่มีใครเอ่ยปากเลยว่ารู้ความจริงเพราะกลัวว่าองค์หญิงจะหยุดการแสดงนี้ไป


=================================================
=================================================


อัปยศต่างโลก (หลุดโลก)
--------------------------------

หลังจากกินนอนมาหลายปีรู้ตัวอีกทีก็มาเกิดใหม่ในต่างโลกซะแล้ว ไม่แน่ใจว่าตายเพราะขาดอากาศลิ้นจุกคอ หรือตายเพราะน้ำหนักเกินแล้วเตียงหักหัวกระแทก แต่อย่างไหนก็ช่างมันเถอะเพราะผมได้มาเกิดใหม่แล้ว แถมยังอยู่ในร่างของชายอ้วนหน้าตาน่าเกลียด ที่น่าเศร้าคือแม้จะเกิดใหม่แต่ยังอ้วนหน้าเกลียดเหมือนเดิม

ความทรงจำของชายคนนี้ทับซ้อนกับของผมอาเรียบร้อย เขาชื่อดีปเป็นโจรกระจอกที่ชอบดักปล้นข้างทาง ดูเหมือนโลกนี้จะเป็นยุคกลางไม่มีไฟฟ้าแต่กลับมีเวทมนต์สุแฟนตาซีแทน

"เอาโว็ย!" ผมตะโกนอาเรียกกำลังใจดันตัวลุกขึ้นจากพื้น ก่อนหน้านี้พยายามจะปีนต้นไม้แล้วตกลงมา เจ้าของร่างอาจจะตายเพราะเหตุนี้ก็ได้ ผมเลยได้ร่างนี้มาแทน

"เสียงดังอะไรวะ มึงเป็นอะไร เดี๋ยวเหยือก็รู้ตัวหมดหรอก รีบหาที่ซ้อนซะถ้าไม่อยากเดือดร้อน" เสียงดังจากด้านหลัง

ผมหันไปมองพบชายหน้าโฉดคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ สถานการณ์ตอนนี้กำลังดักปล้นสินะ ต้องหาที่ซ่อนๆ ผมรีบไปมุดพุ่มไม้อีกฝั่งทันที

ไม่นานรถม้าก็ผ่านเข้ามาเป็นขบวนรถม้าขนาดใหญ่ ลวดลายบนรถดูหรูหรางดงามขนาดคนขี่ยังแต่งตัวดูดีมีเงิน นี่มันรถม้าราชวงศ์รึยังไง

"เห่ย! เจ้านั่นล่ะ ออกมา! อย่านึกว่าข้าไม่เห็น" ทหารนายหนึ่งตะโกนชี้นิ้ว และนิ้วนั่นก็ชี้มาทางผมเต็มๆ

ซวยแล้วหลบไม่มิด พอหันไปหาอีกคนก็ไม่เห็นแล้ว มันทิ้งกูไปแล้ว!? เกิดใหม่ทั้งทีมาซวยอะไรแบบนี้เนี่ย

"ถ้ายังไม่ออกมา อย่าหาว่าข้าไม่เตือน ข้าจะนับสาม!" ทหารหยุดม้าใกล้ๆคราวนี้ชักดาบออกมาชี้ใส่

ชิบหายแล้ว! "รอก่อนๆๆ ออกแล้วๆ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้ขอรับ" ผมรนรานพยายามพูดตามที่เคยได้ยินในหนังมา ขอให้รอดทีเถอะ

ทหารเก็บดาบเข้าฝัก "มีกี่คน ยังมีคนอื่นอีกหรือไม่?" แต่เสียงยังแข็งเช่นเดิม คงลดการระวังตัวเพราะเห็นสภาพของผมสินะ

"ไม่มีๆ ไม่มีแล้วขอรับ มีข้าคนเดียว ข้าแค่ผ่านมาแต่เห็นขบวนม้าของพวกท่านจึงหลบให้พ้นสายตาเท่านั้น ข้าเกรงว่าจะทำพวกท่านเสียสายตาที่เห็นข้า" คำพูดพวกนี้โลกเก่าเคยโดนต่อว่าบ่อยๆ ขอเอามาใช้หน่อยเถอะ

ทหารมองซ้ายมองขวา "ไม่มีก็ดี งั้นเจ้าหลบไป ขบวนเสด็จของเจ้าหญิงเทียน่าจะผ่านทางนี้" พูดแล้วก็วางมาดท่าทางภาคภูมิเลี้ยวม้ากลับเข้าขบวน

ทว่าตอนนั้นเองที่มีเสียงประกาศดังขึ้น "หยุด!" ลากยาวกังวาล ทุกคนหยุดขยับตัวราวกับรูปปั้น

จากนั้นม่านก็ถูกเปิดโดยคนใช้สาว 2 คน เผยให้เห็นหญิงสาวผมสีขาวยาวสลวย ใบหน้างดงามสูงศักดิ์ อารมณ์รอบตัวราวกับน้ำนิ่งที่ค่อยๆไหลผ่านไปอย่างเงียบเชียบ เธอคือเจ้าหญิงเทียน่า

แว็บแรกที่เห็นก็หัวใจเต้นแรงจนแท๊บจะระเบิด ความสวยงามระดับนี้เพิ่งเคยพบเห็นเป็นครั้งแรก ด้วยความลืมตัวจึงยืนมองด้วยใบหน้าหื่นๆอยู่อย่างนั้น

ทางด้านของเจ้าหญิงเทียน่า ก่อนหน้านี้มองผ่านหน้าต่างพบกับชายอ้วนอัปลักษณ์ ในใจมีบางอย่างถูกกระตุ้น ทำให้เธอก้าวออกจากรถม้า พอได้ออกมาเห็นชัดๆก็ยิ่งมีความรู้สึกที่รุนแรง สาวใช้ข้างกายก็เช่นกัน

"เจ้าหญิงมีคำสั่งใดรึพ่ะย่ะค่ะ" องครักษ์คุกเข่าถามอย่างเคารพ

เจ้าหญิงเทียน่ายังคงยืนนิ่งไม่ออกอาการใดๆแต่ในใจกลับอยู่ไม่นิ่งอยากจะกระทำบางอย่าง เมื่อได้ยินคำถามจึงเอ่ยตอบ "คำสั่งข้าไม่มี แต่ชายที่อยู่ตรงหน้าคือผู้ใด เขาสร้างปัญหาอะไรหรือไม่?"

องครักษ์ตอบ "มันคือชายเร่ร่อน เจ้าหญิงไม่ต้องใส่ใจ เขาไม่มีพิษภัย แต่ถ้ามองมันมากๆอาจจะเสียสายตา ข้าว่าเจ้าหญิงไม่ควรออกมานาน" พูดแล้วก็ส่งหางตาดุร้ายไปยังชายอ้วน

ด้านข้างเจ้าหญิงมีสาวใช้เข้ามากระซิบ "ข้าสอบถามพวกทหารมาแล้วเจ้าค่ะ เขาไม่มีที่ไปพอเห็นขบวนจึงเข้าไปหลบในพุ่มไม้กลัวพวกเราจะเสียสายตา ข้าคิดว่าเขาเป็นคนดี"

เจ้าหญิงเทียน่าพยักหน้าเบาๆก่อนจะผ่ายมือไปด้านหน้า "เชิญเขาเข้ามา" แล้วจึงหมุนตัวกลับไป

องครักษ์กัดฟันแต่น้อมรับคำสั่ง เข้าไปหาชายอ้วนที่ขวางทางอยู่ "วันนี้เจ้าโชคดี เชิญ!" ออกปากเชิญแต่ท่าทางดุร้ายไม่ต่างจากเดิม

ผมถึงกับงงนี่มันเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าปฏิเสธคงเป็นเรื่องใหญ่แถมยังได้เข้ารถม้าของเจ้าหญิงอีก จะว่าไปก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อด้วย เดินนิดเดียวก็เหนื่อยแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าโชคดีสุดๆไปเลยนี่หว่า

พอก้าวเข้าไปในรถม้าก็เห็นเจ้าหญิงนั่งสง่าอยู่ด้านใน ข้างๆมีสาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มกำลังมากลับมาด้วยสายตาแปลกๆ ผมตัวเกร็งไปหมดหาที่นั่งว่างๆนั่ง มีแค่ฝั่งตรงข้ามเท่านั้น

รถม้าออกเดินทาง สาวใช้ลุกขึ้นปิดม่านก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม ทุกท่าทางดูงดงามและในนี้ยังมีกลิ่นหอมที่สูดเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ แม้จะสงสัยว่าเชิญขึ้นมาทำไมแต่ไม่ทำตัวมีปัญหาคงดีที่สุด

ในจังหวะที่คิดแบบนั้นเองสาวใช้ก็เปิดปากถาม "เจ้าชื่ออะไร" ผมได้ยินเสียงก็หัวใจเต้นทันที

"ชะชื่อ.. ผม.. ข้าชื่อดีป" เกือบหลุดวิธีพูดของโลกเก่าไปแล้ว ดีที่ตั้งตัวได้ทัน

สาวใช้ยิ้มตอบ "ข้าชื่อไอรีนส่วนอีกคนชื่ออาเรียเป็นคนใช้ส่วนตัวของท่านหญิงเทียน่า"

การแนะนำตัวทำให้บรรยากาศดูดีขึ้น ผมจึงผ่อนคลายลงไปบ้าง แต่พวกเธอดูเป็นคนดีมากๆทั้งที่ผมอ้วนอัปลักษณ์แบบนี้ยังเชิญเข้ามาแถมยังคุยกับผมอีก ผ่านไปหลายชั่วโมงที่ผมได้คุยกับคนใช้ทั้งสอง พวกเธอค่อนข้างน่ารัก แต่เจ้าหญิงยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม

"หยุด!!" เสียงประกาศดังกังวาล ขบวนม้าหยุดลง เวลานี้มืดค่ำแล้วจึงต้องหยุดพักตั้งแคมป์ให้ม้าได้กินน้ำ

ที่พักถูกจัดวางอย่างรวดเร็ว กระโจมของเจ้าหญิงนั้นใหญ่ที่สุด อยู่ท่ามกลางกระโจมเล็กๆมากมาย ถ้าจะบุกเข้าไปคงต้องผ่านทหารเป็นสิบๆคน

ภายใยกระโจม

"เขาไม่มีอะไรติดตัวมาจึงไม่มีกระโจมส่วนตัว ถ้าขลุกอยู่กับพวกทหารจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแน่" ไอรีนสาวใช้ออกอาการร้อนรน

เจ้าหญิงเทียที่เงียบอยู่นานจึงเอ่ยปากพูด "พวกเจ้ารู้สึกอะไรหรือไม่ เวลาเขาอยู่ใกล้ๆ" ราวกับระบายความสงสัยออกมา

ไอรีนกล่าวตอบ "เจ้าค่ะ ข้าก็คิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในใจ ขออนุญาตพูดตรงๆได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ" พูดจบก็ดูรนรานหน้าแดง

เจ้าหญิงเทียหน้าพยักหน้า เพราะเธอค่อนข้างสนิทกับสาวใช้เอามากๆ ทุกเรื่องที่ผ่านมาก็มีสาวใช้อยู่ข้างกายตลอด

ไอรีนสูดลมหายใจกลั่นคำพูดที่ตรงที่สุดออกมา "ความรู้สึกนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน มันทำให้ข้าอยากเปิดเผยเรือนร่างให้เขาเห็น ไม่สิ อยากให้ทุกคนเห็นมากกว่า ข้าต้องการให้เขาสั่งข้าให้ทำเรื่องน่าอาย นี่ข้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นทั้งสาวใช้อาเรียและเจ้าหญิงเทียน่าก็ดูจริงจังขึ้นมา เพราะว่าพวกเธอก็รู้สึกแบบเดียวกัน มันจะระเบิดอยู่กลางอกอยู่แล้ว ถ้าไม่ทำอาจจะหงุดหงิดจนตายก็ได้

"ไปอาเรียกเขามา" เจ้าหญิงสั่ง

..

ผมที่อยู่ท่ามกลางทหารมากมาย สายตาดุร้ายมากมายกำลังมองมาที่ผม นี่ผมไปทอะไรผิดถึงได้มองอย่างกินเลือดกินเนื้อขนาดนี้

"เห้ย! เจ้าอ้วนอัปลักษณ์ล่กหูล่กตา พวกข้ากำลังกินอาหารอย่างมีความสุข มานั่งให้เสียบรรยากาศทำไม" ทหารนายหนึ่งพูดขึ้น

"ถ้ามันไม่โชคดีเป็นแขกของเจ้าหญิง ข้าจะฆ่ามันคนแรกเลย เห็นแล้วล่กหูล่กตาจริงโว็ย" ทหารอีกนายพูดเสริม

ผมอยากจะหนีออกจากที่นี่แต่ขากลับไม่ขยับ นี่ผมกำลังกลัวอยู่รึนี่ ทำยังไงดี ถ้าพูดอะไรไปก็คงไม่เข้าหูพวกมันอยู่ดี

ตอนนั้นเองก็มีมือจากด้านหลังมาจับ "นี่เจ้า สนใจมาแข่งเกมกับข้าไหม เจ้าต้องชอบบทลงโทษของคนแพ้แน่ๆ ฮ่าๆ" เจ้าของเสียงคือองครักษ์หญิง

ในขบวนรถม้ามีผู้มีอำนาจทางทหารอยู่ 2 คน ซึ่งก็คือองครักษ์ชายเมื่อกลางวันที่เชิญดีปเข้ารถม้า อีกคนก็คือองครักษ์หญิงที่กำลังท้าแข่งอยู่ตอนนี้

ผมจะไปตอบตกลงได้ยังไง อยู่เฉยๆดีที่สุดไม่งั้นได้ตายก่อนได้ทำอะไรแน่ อุตส่ามากิดในโลกเวทมนต์ทั้งที

เมื่อเห็นว่าเงียบองครักษ์หญิงจึงพูดเสริม "เจ้าไม่สนใจบทลงโทษ? งั้นข้าจะบอกให้ คนแพ้จะต้องถูกสาปให้เปลือยตลอดชีวิต เป็นไง น่าสนใจไหมล่ะเจ้าอ้วน" ขณะพูดก็มายืนอวดรูปร่างผ่านเกราะที่ใส่อยู่

อึก.. ผมกลืนน้ำลาย องครักษ์หญิงหน้าตาสวยแต่ไม่เท่าสาวใช้ หุ่นดีใช้ได้ผิวออกคล้ำๆดูเป็นผู้หญิงลุยๆ พวกทหารรอบๆเมื่อได้ยินบทลงโทษก็ฮือฮากันใหญ่

"รับคำท้า! รับคำท้า! รับคำท้า!" เสียงเชียร์ดังกึกก้อง กดดันเป็นอย่างมาก ปากผมจะกล่าวปฏิเสธแต่ก็ถูกเสียงเชียร์กลบหมด

องครักษ์หญิงยกมือเสียงตำโกนจึงหยุดลง "ถือว่าเจ้ารับคำท้า ข้าอยากรู้จริงๆว่าเจ้าอ้วนอัปลักษณ์เดินเปลือยไปทั่วจะขัดหูขัดตาขนาดไหน คิคิคิ" พูดแล้วก็ขำก่อนจะนำเหรียญออกมา

เมื่อเห็นเหรียญทหารที่อยู่รอบๆก็มีสายตาที่เปลี่ยนไป เพราะเหรียญนี้มีพลังเวทใส่ไว้อยู่ สามารถกำหนดด้านของเหรียญได้ องครักษ์หญิงมักจะใช้หลอกพวกพ่อค้าเป็นประจำ

"เกมง่ายๆ เจ้าเลือกมาว่าหัวหรือก้อย ฝ่ายไหนทายถูกจะเป็นฝ่ายชนะ ส่วนฝ่ายแพ้ต้องถูกสาปให้เปลือยตลอดชีวิต" องครักษ์หญิงยกเหรียญขึ้นแล้วอธิบาย

ผมค่อยโล่งใจเมื่อเป็นเกมแบบนี้โอกาสชนะก็อยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ คำสาปดูเหมือนจะรุนแรงแต่ที่จริงอีกฝ่ายต่างหากที่ต้องกังวล ใครจะสนชายอ้วนอัปลักษณ์เปลือยกันล่ะ?

"ก้อย ข้าเลือกก้อย" แพ้ก็คงไม่มีใครสนใจแต่ถ้าชนะคงเป็นกำไร สายตาพวกทหารก็คงคิดแบบเดียวกัน

องครักษ์หญิงกำเหรียญ "ดี เจ้าเลือกแล้ว เพื่อป้องกันการโกงข้าจะให้คนอื่นโยน.. เจ้า! ออกมาโยนให้ข้า" ทหารนายหนึ่งก้าวออกมา

จากที่ผมเห็นทหารนายนั้นมีสายตาที่เปล่งประกาย คงไม่มีวิธีโกงหรอกนะ? แบบนี้ผมก็แย่อะดิ โธ่เอ่ยถ้าโดนบทลงโทษจริงๆจะเข้าหาผู้คนยังไง แค่นี้ก็ไม่มีใครอยากเข้าใกล้แล้ว

เริ่ม!

เหรียญถูกโยนโดยทหารก่อนจะตกลงบนมือ นายทหารใช้มือปิดเอาไว้ให้ทุกคนได้ลุ้น ผมเห็นรอยยิ้มของนายทหารแว็บหนึ่งก่อนที่ฝ่ามือจะเปิดออก

"ก้อย!"

ทันทีที่ผลออก องครักษ์หญิงเผยรอยยิ้มตื่นเต้นออกมาแต่ก็หายไปในเวลาแค่แว็บเดียว เธอหันไปจ้องนายทหารตาเขม็ง "เจ้านี่มัน.." แล้วก็เงียบไป

นายทหารกลืนน้ำลายคำโตเหงือเต็มหน้า ความหื่นทำให้เขาตัดสินใจพลาดไปลืมคิดไปว่าหลังจากนี้ต้องโดนเล่นงานหนักแน่ๆ เพราะรู้กันว่าเหรียญนี้ใช้พลังเวทควบคุมผลลัพธ์ได้ เขาผิดเต็มๆจึงเกิดกลัวขึ้นมา

ทหารทุกคนเงียบกริบไม่คิดเลยว่าทหารนายนี้จะกล้าถึงเพียงนี้ จากเรื่องตลกกลายเป็นเรื่องใหญ่ซะแล้ว

ความเงียบยิ่งทำให้บรรยากาศดูน่าอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไรออกมา ผมที่เป็นฝ่ายชนะยังรู้สึกอึดอัดเลย ก็คนแพ้คือองครักษ์หญิง

"ข้าพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว แต่จะหานักเวทคำสาปในที่แห่งนี้คงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นข้าจะเปลือยด้วยตัวของข้าเองจนกว่าจะถึงเมืองหลวง" องครักษ์หญิงกล่าวจบก็ลงมือถอดเกราะทีละชิ้น

ผู้คนโดยรอบได้แต่ตาโตค้างควยแข็ง ไม่คิดว่าจะพูดจริงทำจริงขนาดนี้ ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องล้อเล่นก็คงไม่มีใครคัดค้านอยู่แล้ว แต่พอเรื่องมาถึงตอนนี้คงย้อนกลับไม่ได้แล้ว พอคิดว่าจะได้เห็นองครักษ์หญิงเปลือยนับจากนี้ไปตลอดชีวิตควยก็แข็งไปตามๆกัน

เมื่อถอดเกราะออกจนหมดก็ถอดชุดด้านในต่อ ผ้าที่พันไว้ก็ถูกเอาออกจนหมด เป็นเรื่องเซอร์ไพร์จริงๆที่องครักษ์หญิงกล้าขนาดนี้ บางคนนับถือ บางคนก็คิดว่าโง่ แต่ก็คาดหวังรอดูอย่างใจจดใจจ่อ

และในที่สุดก็เหลือแต่เรือนร่างเปลือยเปล่า ผิวขาวอมเหลืองจากแดดที่เผาแต่ก็เนียนละเอียดดูสุขภาพดี หน้าอกทรงกำลังดีแต่โหนกหีกลับนูนจนเด่น หัวนมสีชมพูหีมีขนเล็กน้อย ที่สำคัญคือไม่ได้เอามือปิดทุกคนจึงเห็นได้อย่างง่ายดาย

"เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมองครักษ์ถึงอยู่ในสภาพนี้!?" เสียงดังมาจากทิศทางหนึ่ง ทุกคนจำเสียงได้และหันไปหาทันที

สาวใช้ไอรีนเดินเข้ามาร่วมกลางวงล้อม ยืนเคียงคู่กับองครักษ์หญิงที่กำลังเปลือยเปล่า ตรงหน้าก็มีชายอ้วนอัปลักษณ์ยืนอยู่ที่ทำท่าทางสับสนรนราน

องครักษ์หญิงตอบด้วยความสุภาพเสียงอ่อนนุ่มกว่าปกติ "ไม่มีอะไรหรอก พวกข้าแข่งเกมกันแต่ข้าดันแพ้จึงต้องโดนบทลงโทษ ข้าพูดคำไหนคำนั้นจึงตกอยู่ในสภาพเช่นนี้"

"ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าคงช่วยอะไรไม่ได้" สาวใช้ไอรีนส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง แต่ในใจกลับตื่นเต้นที่เห็นองครักษ์หญิงแสนเก่งกาจตกอยู่ในสภาพนี้ เธออยากเล่นเกมนี้บ้างจริงๆแต่ไม่รู้จะทำยังไง

ตอนนี้คำสั่งของเจ้าหญิงสำคัญที่สุด "ท่านดีป เจ้าหญิงเชิญท่านไปที่กระโจม โปรดตามข้ามา" พูดจบก็เดินนำออกไป

หลังจากออกไปแล้วกลางวงล้อมจึงเหลือเพียงองครักษ์หญิงที่ยืนเปลือยอย่างไม่อายสายตาใคร ทุกคนเห็นชัดเลยว่าหน้าอกเป็นยังไง รูปร่างทุกสัดส่วน และหีมีรายละเอียดอะไรบ้าง ทุกคนพยายามจดจำราวกับจะไม่มีวันนี้อีกแล้ว

"มองอะไรกัน! ห่ะ! ที่ข้าตกอยู่ในสภาพนี้ก็เพราะเจ้า!" องครักษ์หญิงทำเป็นโกรธชี้นิ้วใส่ทหารที่โยนเหรียญ แต่ก็ทำท่าระงับอารมณ์กล่าว "ช่างเถอะ ถือว่าข้าผิดเองที่เลือกเจ้า.. ยังไงข้าก็ต้องอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนานดังนั้นข้าอยากจะทำตัวให้ชินไวๆ ทหารทุกนายนี่คือคำสั่ง! ใครก็ตามที่อยากดูใกล้ๆให้บอกมาตรงๆข้าจะโชว์ให้ดูทันที"

คำพูดทุกคำได้ยินชัดทุกคนจึงทำให้เกิดบรรยากาศสับสนไม่เชื่อหูตัวเอง พอเห็นทุกคนนิ่งเงียบองครักษ์หญิงจึงกล่าวต่อ "ทั้งหมดนี้เพื่อให้ข้าได้ปรับตัวให้ชิน ดังนั้นไม่ว่าที่ไหนเมื่อไหร่ก็ขอให้มาบอกข้าจะโชว์ให้ดูทุกที่ทุกเวลาเลย และที่สำคัญไม่ต้องเกรงใจ สามารถวิจารณ์เรือนร่างของข้าได้เต็มที่ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เข้าใจไหม!?"

"รับทราบท่านองครักษ์!!" เมื่อจบประโยคทุกคนก็ตอบอย่างพร้อมเพรียง เสียงอันดังกึกก้องกว่าครั้งไหนๆ ใบหน้าแต่ละคนดูตื่นตาตื่นใจรู้สึกขอบคุณเจ้าอ้วนอัปลักษณ์ด้วยใจจริง

..

ณ กระโจมใหญ่

ผมเดินตามสาวใช้ชื่อไอรีนเข้าไปในกระโจม กลิ่นหอมที่คุ้นเคยลอยเข้าจมูก ความสับสนตึงเคลียดจึงหายเป็นปลิดทิ้ง

"ข้าพาท่านดีปมาแล้วเจ้าค่ะ" สาวใช้ไอรีนกล่าวรายงาน ก่อนจะเข้าไปกระซิบเรื่องราวขององครักษ์หญิงที่ข้างหู

เจ้าหญิงเทียน่าพยักหน้าเป็นทีๆ ม่านตาหุบบ้างกว้างบ้างจนกระทั่งเล่าจบ ขาที่นิ่งอยู่นานก็เริ่มขยับเสียดสีกันไปมา แต่ท่าทางยังคงนิ่งสง่าเช่นเดิม

"คืนนี้เจ้าพักที่นี่ได้ ข้ารับรองจะไม่มีใครมารบกวนเจ้า ถ้าเจ้าต้องการอะไรให้อาเรียกสาวใช้ของข้าได้เลย" เจ้าหญิงเทียน่ากล่าวจบก็เดินไปหลังกระโจม ที่มีผ้ากั้นบดบังสายตา

ผมขอบคุณเจ้าหญิงในใจ ตั้งแต่โลกเก่าไม่เคยมีใครทำดีกับเขาขนาดนี้ โชคดีจริงๆที่เกิดใหม่และมาเจอเจ้าหญิงเทียน่าคนนี้

คืนนั้นผมจึงนอนหลับสนิทไม่มีอะไรมากวนใจเลยสักนิด รู้สึกตัวอีกทีก็มีคนมาปลุก..

"ตื่นได้แล้วท่านดีป ท่านกำลังสร้างปัญหานะเจ้าคะ ท่านดีป.. โปรดตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ" เสียงหวานใสของสาวใช้ไอรีนดังข้างหู

ผมรู้สึกตัวจากความมืดมิดกลับกลายเป็นแสงสว่าง ดวงตาของผมหนักอึ้งพอลืมตาขึ้นมาก็เห็นภาพตรงหน้าที่ค่อยๆชัดขึ้น

ทำไมถึงเห็นพื้น นี่ผมนอนละเมออีกแล้วหรอเนี่ยขนาดเกิดใหม่นิสัยนอนละเมอยังติดมาด้วยอีก ระหว่างนั้นเองที่ภาพกับความรู้สึกเริ่มชัดขึ้น ด้านข้างมีขาสองข้างแนบหน้าผมอยู่ และมีกลิ่นหอมบางอย่างที่แรงเอามากๆ ผมจึงก้มลงดูต้นตอ และตอนนั้นที่ผมแข็งค้างไป เพราะพอก้มก็เจอเข้ากับหีอวบอูมเข้าเต็มๆ มันอยู่ตรงปากของผมพอดี

"ท่านดีป ท่านขยับตัวออกได้ไหม ท่านอยู่ท่านี้มาหลายชั่วโมงแล้วนะ ข้าเกรงว่าท่านหญิงจะลำบาก.." สาวใช้ไอรีนกล่าวขณะดันตัวผมไปด้วย แต่ร่างกายใหญ่โตไม่ขยับสักนิดไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทับใครอยู่ แต่หีตรงหน้าทันน่าอร่อยซะเหลือเกิน

ผมทนความหื่นไม่ไหวลงลิ้นเลียหีตรงหน้าอย่างมูมมาม ลิ้นของผมสอดเข้าออกเสียงซดหีดังราวกับกำลังกินของโปรด ตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าควยแข็งๆของผมไม่ได้อยู่ในกางเกง มันตั้งแข็งแมงอยู่กับอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่ม พอผมเริ่มเลียมันก็ตอดควยผมอย่างแรง พร้อมแรงดูดมหาศาลจนผมตัวเกร็งไปหมด

ฟินสุดๆจนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ด้วยความหื่นผมจับขาแน่นลงลิ้นเลียอย่างมูมมามชนิดที่ว่าไม่กลัวหีตรงหน้าพังเลย และปฏิกิริยาก็รุนแรง หีทั้งสั่นทั้งตอดลิ้นผมขายังกระตุกแอ่นหีสู้ปากอีกด้วย

ผ่านไปสักพักที่ผมดำดิ่งไปกับหีในที่สุดผมก็ถึงจุดสุดยอด น้ำควยแรกที่ปล่อยในต่างโลกได้พุ่งออกมา มันเข้าไปในบางอย่างที่กำลังดูดอย่างกระหาย เสียงดังเบื้องล่าง อึก.. อึก.. อึก.. ให้ได้ยินชัดเจน นั่นมันเสียงกลืน! แสดงว่าควยของผมอยู่ในปากของเจ้าของหีตัวนี้

หลังจากน้ำควยหยุดลงหีก็กระตุกอย่างรุนแรงพร้อมน้ำที่ไหลทะลักออกมาอย่างมากมาย ผมที่กำลังประกบปากดูดหีจึงต้องกลืนน้ำหีลงไปอย่างช่วยไม่ได้ มันหวานอร่อยจนหยุดกินไม่ได้เลย

แต่ช่วงเวลานั้นก็ต้องหมดลง หีหยุดกระตุกน้ำหยุดไหล สาวใช้ไอรีนกับอาเรียที่เงียบอยู่นานเพราะกำลังร่ายเวทมนต์อยู่ และตอนนี้ก็เสร็จสิ้น

"จงลอย!"

เมื่อคำสองคำได้ถูกเปล่งออกมา แสงสีชมพูได้ล้อมรอบตัวของผม ความเบาสบายได้ยกตัวผมให้ลอยขึ้น ควยจึงหลุดออกจากปาก ผมพลิกตัวหงายค่อยๆตกลงสู่พื้นแล้วแสงสีชมพูก็หายไป

สุดยอด! นี่คือเวทมนต์สินะ อย่างแจ่ม ผมอยากใช้เวทมนต์บ้างแหะแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง พอเข้าเมืองต้องหาห้องสมุดซะแล้ว

"เป็นยังไงบ้างเจ้าคะท่านหญิง" เสียงมาจากด้านข้าง พอผมได้ยินก็สะดุ้งตัวลุกขึ้น ท่านหญิง!? พอมองดีๆก็พบว่ามีเจ้าหญิงเทียน่านอนอยู่ แถมยังเปลือยทั้งตัว เธอถูกพยุงให้ลุกขึ้นโดยสาวใช้ทั้งสอง

ผมพยายามเปลี่ยนท่านั่งเพื่อกราบขอโทษอย่างสุดซึ้ง เรื่องเมื่อครู่อาจถึงตายได้ ผมเริ่มเห็นคุณค่าของชีวิตแล้ว ถ้าตายตอนนี้คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

ทว่าตอนนั้นเอง เจ้าหญิงเทียน่ากลับเอ่ยออกมา "ข้าผิดเอง เมื่อคืนข้านอนละเมอจนมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ความผิดนี้ข้าจะชดใช้ให้แน่นอน ข้าขอให้ท่านดีปโปรดอภัยข้าด้วย" พูดจบก็เปลี่ยนท่าเป็นก้มกราบ ด้วยสภาพเปลือยเปล่าจึงเห็นก้นโค้งกลมกลึงอยู่ด้านหลัง เรือนร่างก็สง่างามพอมาอยู่ในสภาพนี้ทำเอาควยผมแข็งขึ้นอีกรอบ

ชิบหายแล้ว แบบนี้ผมควรดีใจหรือเสียใจเรื่องนี้ถือว่าโชคดี? ผมจึงตามน้ำไป "ไม่เป็นไรขอรับ ข้าไม่คิดมากอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ" ขำแห้งๆลงท้าย

แต่เจ้าหญิงเทียน่ายังคงก้มกราบอยู่ "ท่านดีปช่างมีจิตใจงดงามไม่เหมือนหน้าตา ข้าขอขอบคุณ" พูดจบแล้วจึงลุกขึ้นยืน

พอยืนขึ้นผมจึงเห็นสภาพเปลือยเปล่าของเจ้าหญิงเทียน่าอย่างเต็มตัว หน้าอกทรงโตล้นมือเอวคอดกิ่งสวยงามสะโพกกลมขาอาเรียวยาวไร้ไขมัน หีก็ใช้เต็มมือแถมไม่มีขนสักเส้น แม้จะมีบุคลิกสงบเงียบแต่พอมายืนเปลือยแบบนี้ก็ดูเร้าร้อนไม่เบา

ผมเผลอมองนานจนเจ้าหญิงเอ่ยออกมา "ท่านดีปคงชื่นชอบเรือนร่างของผู้หญิง เพื่อเป็นการไถ่โทษของข้า ท่านดีปสามารถมองและสัมผัสเรือนร่างของข้าได้ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงเมืองหลวง ท่านคิดเห็นว่าอย่างไร?"

ผมได้ยินดังนั้นก็ตาโตตื่นเต้นใครกันจะปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ได้ "ข้าคิดว่าเหมาะแล้ว" ผมตอบไปตามอารมณ์ที่พุ่งพล่าน

เรือนร่างของเจ้าหญิงผมไม่สามารถต้านทานได้จริงๆ ผมเอื้อมมือไปจับหน้าอกตรงหน้าทันที สัมผัสเด้งดึ๋งอย่างที่คิด มันนุ่มสบายมือมากๆจับนานแค่ไหนก็ไม่เบื่อ

"พวกเจ้า ไปนำอาหารเช้ามา" เจ้าหญิงออกปากสั่งโดยไม่สนการกระทำของผม แน่นอนว่าผมได้ใจทั้งบีบทั้งคลึงอย่างใจอยาก

ด้านนอกกระโจม

พวกทหารนั่งกินอาหารรอบกองไฟยามเช้า อาหารถูกอุ่นเป็นอย่างดีโดยนักปรุงอาหารที่พามาด้วย แต่บทสนทนากลับเต็มไปด้วยเรื่องลามก ทั้งยังเฮฮาชี้นิ้ววิจารณ์อย่างสนุกปาก

"พวกเจ้าลองยัง เมื่อคืนข้าลองแล้ว ท่านองครักษ์หญิงทำอย่างที่พูดจริงๆ ข้าขอดูหีชัดๆก็แหวกให้ดูทันที ข้างในลามกอย่างที่คิด ข้าเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกนี่ล่ะ ตอนนี้ยังจำติดตาอยู่เลย ฮ่าๆๆ" ทหารนายหนึ่งกล่าวอย่างสนุกปาก ดูยืดอกภูมิใจ คนที่นั่งฟังใกล้ๆยังไม่มีใครกล้าพอที่จะลอง พอได้ฟังแบบนี้ความกล้าจึงเพิ่มขึ้นมาหน่อย

ทหารนายหนึ่งเดินถือถ้วยอาหารเข้ามา พร้อมคำพูดเกทับ "เจ้ายังกล้าไม่พอ ข้านี่ของจริง เมื่อคืนก่อนนอนข้าขอให้ท่านองครักษ์หญิงยืนแหวกหีให้ดู ตอนนั้นข้านอนหงาย เดาสิ้ว่าท่านทำยังไง" พูดแล้วก็ยกยิ้มยืดอก

คนที่ฟังก็เดาตามในใจแต่ไม่มีใครตอบออกมา ทหารนายนั้นจึงพูดต่อ "ใช่แล้ว ตอนนั้นองครักษ์หญิงมายืนค่อมหน้าของข้า ไม่พอแค่นั้นยังย่อตัวจนหีอยู่ห่างจากหน้าของข้านิดเดียว พอแหวกหีข้าเลยเห็นไปถึงข้างใน ขอบอกเลยว่าสุดยอดมาก ข้าหลับฝันดีเลยล่ะฮ่าๆ"

เหล่าทหารที่ได้ยินก็อดอิจฉาไม่ได้ ยิ่งฟังยิ่งจินตนาการตามอยากขอแบบนั้นบ้าง ความกล้าค่อยๆเพิ่มมากขึ้น หลังจากนี้คงมีคนขอมากขึ้นแน่นอน

"เออ แล้วท่านองครักษ์หญิงไปไหน ไม่มาทานอาหารเช้า มีใครเห็นท่านบ้าง?" ทหารนายหนึ่งสงสัย มองรอบๆก็ไม่เจอ

ทหารทุกนายก็มองหาแต่ก็ไม่เจอ องครักษ์ชายที่เงียบอยู่นานจึงพูดขึ้น "นางไปอาบน้ำเดี๋ยวคงมา" ทุกคนจึงสงบปากสงบคำลงทันที

ตอนนั้นเองที่ไอรีนกับอาเรียเดินเข้ามารับอาหาร เป็นอาหารที่ถูกจัดเตรียมให้กับเจ้าหญิงเทียน่าโดยเฉพาะ พร้อมยกถ้วยอาหารของเจ้าดีปไปด้วย พอทั้งสองออกไปพวกทหารจึงกลับมาพูดคุยอีกครั้ง

ระหว่างทางเดินกลับไอรีนก็พูดกับอาเรีย "เจ้าว่าท่านหญิงกำลังมีความสุขไหม"

อาเรียส่ายหน้า "ข้าไม่รู้"

ไอรีนพูดเสริม "ข้าก็ไม่รู้ แต่ข้าบอกได้เลยว่าถ้าเป็นข้าที่โดนแบบนั้นต้องมีความสุขมากแน่ๆ" พูดแล้วก็อมยิ้มเขินอาย

"เห้ออ.." อาเรียถอนหายใจ ลึกๆก็คิดเช่นนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขค้นที่สาวๆรอบตัวของเจ้าอ้วนอัปลักษณ์เกิดความต้องการแปลกๆแบบนี้

เมื่อเข้าไปในกระโจมก็เห็นฉากสุดลามก เจ้าอ้วนกำลังนอนเลียหัวนมอยู่บนตักของเจ้าหญิง มือข้างหนึ่งบีบหน้าอกอย่างสนุกมือ ส่วนมืออีกข้างก็สอดนิ้วเข้าไปในปากทำหน้าเจ้าหญิงอ้าปากร้องเสียงแปลกๆออกมา

"นี่เจ้าค่ะอาหารเช้า" ไอรีนรีบวางอาหารแล้วออกกระโจมไป อาเรียก็วางอาหารแล้วออกไปเช่นกัน

พอออกกระโจมมาก็เจอกับองครักษ์หญิงที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า คงเพิ่งอาบน้ำมาเพราะผมยังคงชื้นๆอยู่

"ข้ามารายงานว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะออกเดินทางต่อ โปรดเตรียมตัวให้เรียบร้อย ฝากส่งข้อความให้เจ้าหญิงด้วย" องครักษ์หญิงพูดจบก็เตรียมจะเดินจากไป

ทว่าอาเรียที่ปกติเป็นคนเงียบๆกลับห้ามไว้ "เดี๋ยวก่อนท่านองครักษ์ ข้ามีเรื่องคาใจเล็กน้อย"

องครักษ์หญิงหันกลับมาด้วยท่าทางสุภาพ "มีเรื่องอะไรโปรดถามมาได้เลย ถ้าข้าตอบได้จะไม่ปิดบังอย่างแน่นอน"

อาเรียมองซ้ายมองขวาอย่างกังวลก่อนจะถาม "ท่านรู้สึกเช่นไรบ้าง" คำพูดดูเบาบางแต่ก็ได้ยินชัดเจน

องครักษ์หญิงดูจะไม่เข้าใจ แต่ไอรีนเข้าใจจึงพูดเสริม "นางหมายถึงท่านที่อยู่ในสภาพนี้"

พอเข้าใจความหมายองครักษ์หญิงก็สูดหายใจลึก ไม่คิดเลยว่าจะมีคนถามแบบนี้แถมยังตอบแบบโกหกไม่ได้อีกด้วย

"ข้าจะพูดความจริง.. ข้ารู้สึกแปลกประหลาดเมื่ออยู่ใกล้เจ้าอ้วนอัปลักษณ์ เอ่อ.. อะแฮ่ม..  ข้าหมายถึงท่านดีป ข้าบอกไม่ถูกแต่ข้าอยากทำแบบนี้จนข้าวางแผนแกล้งแพ้แล้วมาอยู่ในสภาพนี้ ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง ข้าบอกเลยว่าดีมากๆ ข้าอยากให้พวกทหารขอดูส่วนที่น่าอับอายตลอดเวลาเลย ข้า.. ข้าทนไม่ไหวแล้ว ข้าขอตัวไปหาพวกเขาก่อน" องครักษ์หญิงพูดเร็วขึ้นเรื่อยๆราวกับระบายความในใจก่อนจะขอตัวกลับไป

อาเรียได้ฟังก็แข็งค้างไปก่อนจะเอ่ยคำออกมาช้าๆ "ข้า.. ก็คิดเช่นนั้น"

..

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

ขบวนรถม้าเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ทุกคนดูมีชีวิตชีวิตมากกว่าเมื่อวาน คงเป็นเพราะมีองครักษ์หญิงเปลือยกายให้ดูตลอดเวลา ขณะนี้ก็ขี่ม้าอยู่ด้านหน้า คนด้านหลังจึงได้มองหีกันเต็มๆ เพราะองครักษ์หญิงถูกขอให้นั่งโก่งตูดเยอะๆ โชว์หีโชว์ตูดให้คนข้างหลังดูตลอดทาง

การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น ด้านนอกไม่มีใครรู้เลยว่าในรถม้าเจ้าหญิงกำลังถูกโลมเลียลูบไล้ไปทั้งตัวโดยเจ้าอ้วนอัปลักษณ์ที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ มีสาวใช้ไอรีนกับอาเรียเป็นพยานตลอดเวลา สองสาวพยายามนิ่งเงียบแต่ก็เก็บซ่อนใบหน้าเขินอายไม่ได้

ผมที่กำลังดื่มด่ำกับเรือนร่างของเจ้าหญิงเทียน่า คิดว่านี่คือสวรรค์จริงๆ จะไม่มีทางปล่อยเวลาให้ศูนย์เปล่า ผมจึงทั้งฟัดทั้งกอดทั้งเลียอยากจับตรงไหนก็จับเพราะถ้าถึงเมืองหลวงจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกก็ได้

ตอนนั้นเองที่ผมสงสัยขึ้นมาจึงหันไปถามสาวใช้ "อีกไกลแค่ไหนจะถึงเมืองหลวง" ผมใช้คำห้วนๆเพราะเคยชิน และไม่มีใครว่ากล่าวตักเตือน

สาวใช้ไอรีนตอบ "ประมาณ 2 วันเจ้าค่ะ และเย็นนี้น่าจะถึงเมืองซันชายจ์ เป็นเมืองเล็กๆแต่ก็พักผ่อนได้ดีเจ้าค่ะ"

ผมพอใจกับคำตอบมาก ได้รู้ว่ามีเวลาอีกเยอะและจะได้เจอผู้คนใหม่ๆสักที ผมยอมรับเลยว่าตื่นเต้น อดใจรอไม่ไหวแล้วสิ พอตื่นเต้นความหื่นก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

ผมคิดอะไรดีๆออกจึงหยิบแก้วน้ำขึ้นมา จากนั้นก็เกี่ยวหีเจ้าหญิงเทียน่าเร็วขึ้น น้ำหีเจ้าหญิงกระชอกออกมาไม่หยุด ผมใช้แก้วรองน้ำหีจนเต็ม สีดูใสๆแยกไม่ออกเลยว่าน้ำเปล่าหรือน้ำหีแต่มีกลิ่นหอมเฉพาะของเจ้าหญงอยู่

ผมส่งแก้วน้ำหีให้สาวใช้ "นำไปให้คนลากรถม้าดื่มแล้วจงอธิบายด้วยว่าน้ำนี้มาจากไหน เสร็จแล้วกลับมาเล่าให้ข้าฟัง" ความคิดหื่นๆของผมทำงานอย่างหยุดไม่อยู่ พูดได้ว่าผมกำลังได้ใจอยากทำอะไรก็ทำจริงๆ

เจ้าหญิงเทียน่ากล่าวเสริม "ทำตามที่ท่านดีปบอก จงอธิบายให้ชัดเจนว่าน้ำในแก้วคือน้ำอะไรมาจากไหน และทำยังไงถึงได้มา" พูดจบก็น้ำหีพุ่งออกมาอีกระรอก รอบนี้ถูกเจ้าอ้วนดูดเข้าปากจนหมด

ไอรีนรับแก้มน้ำด้วยมือสั่นๆ ใจอยากโดนแบบนี้บ้างจนอยากตะโกนขอร้องออกมา แต่ก็ทำไม่ได้ "ได้เจ้าค่ะ ข้าจะทำตามที่สั่งอย่างเคร่งครัด"

ไอรีนหายออกไปสักพักก่อนจะกลับเข้ามา แต่กลับมามือเปล่าไม่ได้มีแก้วน้ำกลับมาด้วย ผมจึงจ้องมองรอคำตอบอย่างตื่นเต้น

สาวใช้ไอรีนนั่งลงก่อนจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ "ข้านำแก้วน้ำส่งให้คนขี่ม้าลากรถแล้วพูดว่า เจ้าหญิงเทียน่าสั่งให้นำน้ำมาให้จงดื่มให้หมด น้ำนี้คือน้ำที่ออกมาจากหีของเจ้าหญิง โดยที่ท่านเปลือยกายทั้งตัวนั่งอ้าขาให้ท่านดีปใช้นิ้วสอดเข้าออกจนมีน้ำพุ่งออกมา ท่านจะดื่มมันหรือไม่? ข้าถามจบเขาก็ดื่มทีเดียวจนหมดแก้วแล้วเลียแก้วอย่างกระหาย เขาขอเก็บแก้วไว้ข้าจึงให้เขาไปเจ้าค่ะ"

คำบอกเล่าทำให้เจ้าหญิงหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม การหายใจก็ดูหืดหอบแม้อาการจะเย็นแต่รู้สึกเลยว่าภายในกำลังร้อนรุ่มแค่ไหน หีก็ตอดนิ้วมือไม่หยุดจนน้ำหีอีกระรอกทะลักออมา

เสียงประกาศดังขึ้น "ตั้งค่ายกล.. โจมตี!!"

ผมสะดุ้งเงยหน้ามองเจ้าหญิงเทียน่าและก็ได้คำตอบ "ไม่ต้องตกใจ แค่พวกมอนเตอร์ชั้นต่ำ" พอได้ยินแบบนั้นผมก็อุ่นใจ คงเป็นเรื่องปกติของต่างโลกสินะ

หลังจากนั้นก็มักจะได้ยินเสียงการโจมตีเป็นระยะๆ สาวใช้บอกว่าใกล้ถึงเขตเมืองซันชายจ์แล้ว เพราะรอบๆเมืองมักจะมีมอนเตอร์ปรากฏตัว

ผ่านไปหลายชั่วโมงในที่สุดรถม้าก็หยุด บรรยากาศดูร่มเย็นจากเงากำแพงขนาดใหญ่ที่บดบังดวงอาทิตย์ ด้านหน้ามีองครักษ์หญิงที่กำลังพูดคุยกับทหารยามเฝ้าประตู

"ขบวนรถม้านี้เป็นของใคร" ทหารยามถามขณะมองเรือนร่างเปลือยเปล่าตรงหน้า หุ่นดีหน้าตางดงามใครจะอดมองได้

องครักษ์หญิงยื่นเอกสารพร้อมกล่าว "ขบวนรถม้าเป็นของเจ้าหญิงเทียน่ากำลังเดินทางกลับเมืองหลวง โปรดดูเอกสารแล้วเปิดทางให้พวกข้าด้วย"

พอทหารยามอ่านเอกสารก็ตาค้างหันไปมององครักษ์หญิงอีกที "ท่าน.. ท่านคือองครักษ์ผู้เก่งกาจคนนั้น ทำไม.." เหมือนจะถามบางอย่างแต่ก็หุบปากไป

ทหารยามอีกคนยืนอยู่ใกล้ๆก็รีบพูดต่อ "ท่านคือองครักษ์หญิงของเจ้าหญิงเทียน่า เชิญ.. ข้าเปิดทางให้พวกท่านแล้ว" พูดจบก็พาทหารยามอีกคนถอยไปด้วย

องครักษ์หญิงจึงกลับไปขี่ม้าโดยท่าขี่แอ่นก่นสูงไปด้านหลัง พอขี่ผ่านพวกทหารยามก็ได้เห็นหีจากด้านหลังเต็มๆ ม้าก็ไม่ได้ไปเร็วเรียกได้ว่าช้าเพราะแค่เดินเยาะๆ ทหารยามจึงจ้องตาไม่กระพริบได้แต่สงสัยในใจว่าทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้

ตอนนั้นเองที่ทหารในขบวนตะโกนไปข้างหน้า "ท่านองครักษ์หญิง ข้าอยากดูหี มาแหกหีให้ข้าดูหน่อย" เป็นทหารคนเดียวกับที่โยนเหรียญ

ทหารยามถึงกับตัวแข็งทื่อหันไปมองทหารคนนั้นด้วยสายตาราวกับมองคนตาย ทว่าองครักษ์หญิงกลับไม่โกรธและยังวนม้ากลับมา ปล่อยให้ขบวนรถม้าไปกันต่อเพราะมีองครักษ์ชายนำอยู่ด้วย

พอลงจากม้า ทหารคนนั้นก็พูดอีก "เร็วๆ ข้าอยากดูหี ช่วยแหวกออกกว้างๆด้วยเพราะตาข้าไม่ดีอาจจะมองเห็นไม่ชัดก็ได้" ทหารยามที่อยู่ใกล้ๆถึงกับเหงือตกยืนเงียบๆไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย

องครักษ์หญิงเดินเข้ามาใกล้ ท่าทางดูองอาจสมเป็นนักรบหญิงที่เก่งกาจแม้ร่างกายจะดูบอบบางไปบ้างแต่ก็แฝงไปด้วยพลัง ทว่าพอเปลือยไปทั้งตัวก็รู้สึกขัดๆยังไงไม่รู้

ทหารยามเดาว่านางต้องชักดาบฆ่าเจ้าโง่นั่นทันทีอย่างแน่นอน แต่ทุกอย่างกลับตาลปัดเมื่อองครักษ์หญิงหยุดแล้วยืนอ้าขา จากนั้นก็แอ่นหีไปด้านหน้าก่อนจะใช้มือทั้ง 2 ข้างแหวกแคมหี จนเห็นไปถึงข้างใน

"เจ้าเห็นรึยัง" องครักษ์หญิงถามขณะแอ่นหีให้ไปข้างหน้ายิ่งกว่าเดิม

ทหารคนนั้นส่ายหน้า "ยังไม่เห็นอะไรเลย ท่านต้องแอ่นหีให้มากกว่านี้"

องครักษ์หญิงหันซ้ายหันขวาเห็นขบวนค่อยๆผ่านเข้าไป ตรงนี้มีทหารยามหลายคนกำลังจ้องมองอยู่ ในใจจึงรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ขาอ้ากว้างมากขึ้นเอนตัวโค้งไปด้านหลังให้หีแอ่นไปด้านหน้าให้มากที่สุด เป็นท่าที่สื่อให้เห็นว่าต้องการแอ่นหีโชว์มากแค่ไหน

"ฮ่าๆ หีของท่านองครักษ์หญิงนี่สุดยอดสมคำล่ำลือ แคมใหญ่ติ่งยาวข้างในสีชมพูมีปุ่มเต็มไปหมด ข้าว่าถ้าใส่ควยเข้าไปคงรู้สึกดีไม่น้อย ว่าไหมเจ้ายาม" ทหารคนนั้นพูดแล้วก็กอดคอยามอย่างสนิทสนม

"ห.. เห็นรึยัง" องครักษ์หญิงแอ่นจนตัวเกร็งไปหมด

"ยังเลยข้ายังไม่เห็นอะไรเลย ข้าว่าหูกับตาของข้ามันเชื่อมถึงกัน ท่านต้องตะโกนบอกดังๆว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ ข้าแน่ใจว่าสายตาของข้าจะมองชัดขึ้นแน่ๆ"

องครักษ์หญิงสูดลมหายใจลึกอย่างตื่นเต้น ความอับอายนี้มากมายแต่กลับทำให้มีความสุข จากปกติต้องโกรธแค้นแต่ในใจกลับขอบคุณ การเปลี่ยนแปลงนี้แค่อยู่ใกล้เจ้าอ้วนอัปลักษณ์เพียงไม่นานเท่านั้น

"ข.. ข้ากำลังโชว์หีให้เจ้าดู" คำพูดดูเบาบางได้ยินประโยคไม่ครบด้วยซ้ำ แต่ทหารยามนั้นตั้งใจฟังจึงได้ยินทุกคำเบาๆ

ทหารคนนั้นยกยิ้มแต่ก็บ่นออกมาว่า "ข้าไม่ได้ยิน ท่านพูดว่าอะไรนะ ท่านควรพูดรายละเอียดให้มากกว่านี้ด้วย"

องครักษ์หญิงตัวสั่นเกร็งไปหมดแต่ก็ต้องแอ่นหีสุดตัวเช่นเดิม ความรู้สึกบางอย่างใกล้จะระเบิดออกมาเต็มที

"ข้า.. ข้ากำลังโชว์หี! เพราะมีคนขอดูข้าจึงโชว์หีให้ดู ตอนนี้ข้ากำลังใช้มือแหวกหีและแอ่นสุดตัว ทุกคนโปรดดูหีของข้า! อ๊ะ.. อ๊าาาาา~" องครักษ์หญิงยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอัปยศและยิ่งอยากทำมากกว่านี้ จนพูดจบก็ครางลั่นพร้อมปล่อยน้ำหีพุ่งออกมา เธอเสร็จทั้งๆที่ไม่ได้สัมผัสในหีเลย

น้ำหีพุ่งกระจายไปทางด้านหน้า ซึ่งมีทหารยามยืนอยู่กับทหารที่ขอดูหี พวกมันไม่หลบแม้แต่น้อยทั้งยังยิ้มรับอย่างหื่นๆ น้ำหีขององครักษ์หญิงส่วนตัวของเจ้าหญิงเทียน่าใครล่ะจะอยากพลาดโอกาสนี้

ทหารคนนั้นเห็นสภาพตรงหน้าก็อดยิ้มกว้างไม่ได้ ครั้งแรกที่หนักขนาดนี้หรือว่าองครักษ์หญิงจะชอบความอัปยศเรื่องนี้ต้องเอาไปบอกต่อแน่นอน

"พวกเจ้าไม่ต้องแปลกใจ ที่จริงแล้วท่านองครักษ์หญิงเป็นพวกร่านโรคจิตชอบโชว์นมโชว์หีมาตลอด แต่เก็บอาการไม่ยอมเปิดเผย วันนี้ท่านได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงแล้ว ท่านยังกล่าวไว้ว่าใครอยากดูให้มาบอกตรงๆท่านจะโชว์ให้ดูทุกที่ทุกเวลา ข่าวนี้โปรดนำไปกระจายให้ทั่ว" ทหารคนนั้นพูดให้อับอายขึ้นไปอีก

องครักษ์หญิงได้ยินก็น้ำหีแตกอีกระรอกจนตัวล้มนอนลงกับเพื่อน ความฟินนี้หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว ติดใจเข้าแล้ว ย้อนกลับไม่ได้แล้ว

ณ โรงเตี๊ยม

ขบวนรถม้าของเจ้าหญิงเทียน่าเข้าพักที่โรงเตี๊ยม พวกทหารนั่งดื่มพักผ่อนกันที่ชั้นล่าง ส่วนเจ้าหญิงพักอยู่ชั้นบนในห้องพักที่ดีที่สุด และในห้องยังมีสาวใช้อีกสองคนกับชายอ้วนอัปลักษณ์อีกหนึ่งคน

ผมกำลังมีความสุขกับเรือนร่างของเจ้าหญิงแท้ๆแต่ก็อยากออกไปดูโลกกว้างบ้าง พอรู้ว่าพรุ่งนี้จะถงเมืองหลวงก็อดเสียดายไม่ได้ หรือจะรอจนกว่าจะถึงเมืองหลวงก่อนดี

ระหว่างนั้นเจ้าหญิงเทียน่าก็พูดขึ้น "ท่านดีป ท่านไม่สนใจออกไปเดินเล่นในเมืองหรอกหรือ เห็นท่านเคยบอกไว้ว่าอยากท่องโลกกว้าง"

ผมที่กำลังลังเลก็ตัดสินใจได้ "ใช่ ข้าอยากออกไป" ผมตอบอย่างเสียดาย แต่สัญญาในใจว่าจะรีบกลับถ้าไม่มีอะไรน่าสนใจ

"ไอรีน เจ้าไปกับท่านดีป ถ้ามีปัญหาจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที" เจ้าหญิงสั่น

ผมกับสาวใช้ไอรีนจึงเดินออกมา โรงเตี๊ยมดูวุ่นวายไปด้วยผู้คนไม่มีอะไรนอกจากเบียร์และอาหาร ผมจึงออกเดินตามถนนแทน เมืองนี้ดูเรียบง่ายบ้านเรือนทำจากไม้ บางหลังก็ทำจากปูนดูมีฐานะ แต่มองไกลๆก็จะเห็นราชวังน่าจะเป็นสถานที่ของพวกขุนนาง

เดินมาจนถึงย่านร้านค้ามีคนมากมายกำลังเดินดูของ ส่วนใหญ่มีแต่แร่กับอุปกรณ์เวทมนต์ทั่วๆไป สาวใช้ไอรีนมักจะเล่าให้ฟังอย่าง่ายๆให้ฟัง

"แล้วร้านนั้นคือร้านอะไร ทำไมดูแตกต่างจากร้านอื่นๆ" ผมชี้นิ้วถาม

"ร้านนั้นเรียกว่าร้านประเมินเวทมนต์ ใครที่อยากทราบชนิดเวทมนต์ก็ไปที่ร้านนั้น แน่นอนว่าประเมินได้ทั้งอุปกรณ์และผู้คน ยังสามารถวัดระดับพลังได้อีกด้วย" สาวใช้ไอรีนกล่าวอย่างลื่นไหล

ผมสนใจร้านนี้ล่ะร้านที่ตามหา "ไปร้านนั้นกัน"

ภายในร้านเต็มไปด้วยแร่เวทมนต์ชนิดต่างๆประดับแสงสีตามผนังกำแพงดูหรูหรางดงาม แค่ก้าวเท้าเข้าไปก็ราวกับอยู่คนละโลก ทั้งเครื่องเรือนภายในยังดูดีมีราคาเหมาะกับชนชั้นสูง แน่นอนว่าคนที่มีพลังเวทมักจะเป็นชนชั้นสูง

"เจ้าอ้วนขยะ หลงทางก็รีบกลับไป สถานที่นี้ไม่ต้อนรับคนอย่างเจ้า" ยามประจำร้านเร่งเท้าเข้ามาขวางทาง พูดไล่ราวกับไม่ใช่คน

ผมถึงกับสะดุ้งนึกว่าคนจากโลกเก่าตามมาด่าซะแล้ว แต่มองดีๆเป็นยามของร้านนี้นี่เอง แต่ผมก็กลัวจนก้าวถอยหลังไป จนไปชนกับสาวใช้ไอรีนที่อยู่ด้านหลัง

ไอรีนดันตัวผมไว้ก่อนจะถาม "ให้ข้าช่วยไหมท่านดีป"

ผมกำลังจะตอบบอกให้ช่วยแต่มีอีกเสียงดังมาจากในร้าน เป็นเสียงหวานใสจนผมต้องหันไปมอง "มีเรื่องอะไรกัน ข้าได้ยินจึงรีบออกมา" เจ้าของเสียงปรากฏตัวเป็นสาวร่างบางแต่งตัวโชว์สัดส่วน

ยามยืนตรงเร่งตอบ "มีขยะหลงทางเข้ามาในร้านขอรับคุณหนู ข้ากำลังไล่มันไปขอรับ"

สาวร่างบางมองมาทางผมด้วยสายตาสงสัยก่อนจะเปลี่ยนเป็นสนใจจากนั้นก็พูดขึ้น "เจ้าขยะ เจ้าต้องการวัดระดับพลังเวทรึ คิดว่าอาจโชคดีเปลี่ยนชีวิตรึ ฮ่าๆๆ" พูดแล้วก็ขำ ยามเห็นแบบนั้นก็ขำตาม คนมนร้านที่ดูเหตุการณ์ก็ขำตามอีกที

ผมที่ถูกหัวเราะเยาะมาตั้งแต่โลกเก่าจึงไม่สะทกสะท้านอะไร ผมตอบไปตามตรง "ใช่ ข้าต้องการวัดระดับพลังเวท" ใช่แล้วนี่คือสิ่งที่ผมอยากรู้ เกิดใหม่ทั้งทีขอให้มีพลังเวทเถอะครับ

"ฮ่าๆๆ ถ้าขยะเปียกอย่างเจ้ามีพลังเวท ข้าจะยอมเป็นส้วมมนุษย์เลย" พูดจบก็ขำกันอีกรอบ ดูจะมั่นใจเอามากๆ

ผมที่สงสัยจึงหันไปถามไอรีน "อะไรคือส้วมมนุษย์?"

ไอรีนกระซิบตอบ "รายละเอียดค่อนข้างเยอะแต่สรุปได้ว่าหญิงสาวผู้นั้นจะโดนเวทมนต์ดัดแปลงร่างกายเพื่อให้เหมาะกับการเป็นส้วมมนุษย์เจ้าค่ะ"

ผมพอจะเข้าใจคร่าวๆแล้วแต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นส้วมจริงๆ นี่มันน่าตื่นเต้นมากจนผมอยากเห็นเลยล่ะ

"แต่ถ้าเจ้าแพ้ต้องมาเป็นทาสของข้า กล้าก็ตามข้ามาได้เลย ฮ่าๆๆ" สาวร่างบางกล่าวจบก็เดินเข้าร้านไป

ผมสูดหายใจลึกจากตอนแรกอยากลองดูแต่ถ้าไม่มีพลังเวทต้องตกเป็นทาส ผมไม่อยากคิดเลยว่าจะโดนอะไรบ้าง คงไม่ทรมานผมหรอกมั้ง?

ผมมัวลังเลไอรีนจึงเข้ามากระซิบ "ท่านดีปไม่ต้องกังวล ถ้าแพ้จริงๆข้าจะช่วยทันเอง ถ้าข้าช่วยไม่ได้ยังมีท่านหญิง ดังนั้นโปรดวางใจเจ้าค่ะ" ผมได้ยินก็อุ่นใจขึ้นมา แน่นอนว่าต้องเดินเข้าร้านไป

ด้านในเป็นห้องกว้างมีคนมากมายกำลังวัดพลังเวทอุปกรณ์ ส่วนตรงกลางห้องมีศิลาเวทขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ผมต้องไปตรงนั้นเพราะสาวร่างบางรออยู่

"เจ้ากล้าดีนี่ อยากเป็นทาสของข้าจนตัวสั่นเลยหรอ ฮ่าๆ" สาวร่างบางยังคงดูถูกผมต่อหน้าคนมากมาย

ผมไม่สนใจแต่อยากรู้ว่าข้อตกลงยังมีอยู่ไหม "ถ้าข้าชนะเจ้าสัญญาว่าจะเป็นส้วมมนุษย์?" ผมถามไปตรงๆ

"ฮ่าๆๆๆๆ คิกๆๆๆ"

ต้องมาฟังเสียงหัวเราะอีกแล้ว สาวร่างบางที่ถูกเรียกว่าคุณหนูคงจะสนุกกับการดูถูกคนอย่างผมเอามากๆ

"ได้สิๆ เจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูดงั้นรึ ข้าคงต้องร่างสัญญาเวทสินะ คิกๆ แต่ยังไงเจ้าก็แพ้งั้นข้าจะใส่รายละเอียดเพิ่มเล่นๆดีกว่า" ว่าแล้วก็หยิบกระดาษหนังขึ้นมา

กระดาษหนังเปล่งแสงสีทองสาวร่างบางสบัดข้อมือไปมากลายเป็นอักษรสลักลงบนกระดาษหนัง จากนั้นก็วางมือบนกระดาษแล้วส่งมาให้ผม

"ลองอ่านดูสิ คิกๆ อ่านแล้วก็วางมือลงไปซะ"

ปกติผมไม่ค่อยอยากอ่านอะไรแบบนี้ แต่นี่คือต่างโลกผมลองอ่านรายละเอียดดูและก็ต้องตกใจ คือผมอ่านไม่ออก มันภาษาอะไรก็ไม่รู้ และดูเหมือนอีกฝ่ายจะดูออกจึงพูดขึ้น "เจ้าขยะ เจ้าโง่ เจ้าอ่านไม่ออก!? ฮ่าๆๆๆ" พูดจบก็ขำกันยกห้อง ทั้งพนักงานทั้งลูกค้าพากันขำ

ผมเกาหัวอย่างโง่งมไม่รู้จะพูดอะไรดี สงสัยคนในต่างโลกจะอ่านเป็นทุกคน พอผมอ่านไม่ออกเลยดูตลกละมั้ง

"งั้นข้าจะช่วยสักครั้ง.. สัญญามีอยู่ว่าถ้าเจ้าขยะเปียกมีพลังเวทข้าจะแพ้ แต่ถ้าเจ้าไม่มีพลังเวทข้าชนะ ถ้าเจ้าแพ้ต้องมาเป็นทาสของข้าตลอดชีวิต แต่ถ้าข้าแพ้จะต้องเป็นส้วมมนุษย์ส่วนตัวให้กับเจ้าตลอดชีวิต" พูดจบก็ตัวสั่นถี่ๆ ไม่รู้ว่าสะใจหรืออะไร

ผมวางมือลงบนกระดาษหนังแสงสีทองสว่างก่อนจะหายไป กระดาษหนังก็หายไปเช่นกัน เวทมนต์ช่างน่าสนใจจริงๆ ผมอยากใช้เวทมนต์ ต้องชนะเท่านั้น!

"เอามันออกมา" สาวร่างบางหันไปเอ่ยสั่งแก่พน้กงานก่อนที่ศิลาก้อนหนึ่งจะถูกนำออกมาวางตรงหน้า

ไอรีนกระซิบ "สิ่งนั้นคือศิลาเวทมนต์ใช้สำหรับการวัดระดับพลังเวทและจำแนกธาตุ ท่านเพียงแค่วางมือลงบนศิลาเจ้าค่ะ"

ตอนแรกที่ผมเห็นก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ราวกับหลุดออกมาจากนิยายเลยแหะ คาดหวังสุดๆว่าผมจะสามารถใช้เวทมนต์ได้ ไม่งั้นได้กลายเป็นทาสสาวปากหีคนนั้นแน่

ฮึบ!

ผมเตรียมใจฮึดสู้เอื้อมมือไปวางบนศิลา..

?????

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!

"ฮ่าๆๆๆๆๆ~"

ทุกคนในร้านแห่งนี้หลุดขำออกมาดังลั่นราวกับจะพูดออกมาว่า 'คิดไว้แล้ว' ทว่าก็มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้ขำออกมา สาวร่างบางจ้องเขม่งไปยังศิลาเวทก่อนจะทำตาโตอย่างตะลึง

"มะ.. ไม่จริง.. เขามีพลังเวท!"

คนที่ได้ยืนสาวร่างบางก็ชะงักก่อนจะจ้องเขม่งไปยังศิลาเวท แม้จะค่อนข้างเล็กแต่ก็เห็นได้ มีพลังเวทปรากฏอยู่จริงๆ แต่น้อยนิดจนแท๊บมองไม่เห็น แถมยังเป็นสีดำที่ไม่รวมอยู่กับธาตุไหนๆอีกด้วย

ไอรีนจับไหล่ของผมก่อนจะพยักหน้า "ท่านดีป ท่านมีพลังเวท ท่านชนะการเดิมพัน" ผมยังคงอึ้งอยู่ มีน้อยดีกว่าไม่มีสินะ แต่ที่น่ายินดียิ่งกว่าก็คือผมชนะการเดิมพัน!

ตอนนั้นเองที่ชายร่างใหญ่เดินเข้ามา พร้อมคำพูดที่ไม่มีความเกรงใจสักนิด "เจ้าอ้วน จงขายส้วมส่วนตัวให้ข้าซะ"

"หยุดนะ เจ้าไม่มีสิทธิ์เข้ามาที่นี่" ทหารยามรีบเข้ามาขวางยกอาวุธเตรียมต่อสู้ทันที ชายร่างใหญ่คนนี้ตามรังควานคุณหนูมานาน ไม่เว้นแม้แต่ตอนนี้

ผมตกอยู่ในความสับสน ชายร่างใหญ่เป็นใคร คนใหญ่คนโตรึปล่าว? แต่ผมก็ไม่อยากได้ส้วมปากเสียแบบนี้อยู่ดี ที่ตอบตกลงเดิมพันไปก็เพราะคำดูถูกของอีกฝ่ายล้วนๆ ใครล่ะจะเทียบกับองค์หญิงเทียน่าได้ แค่คิดก็อยากกลับไปขยำนมล้วงหีแล้ว

ไอรีนเห็นท่าทางอันสับสนจึงเข้ามากระซิบ "เขาคือหัวหน้ากองโจรตีนป่า เป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้เจ้าค่ะ"

ผมได้ยินแบบนั้นก็ปอดแหกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ อย่าได้เกิดปัญหาเลย ต้องตามน้ำไปก่อน "ได้ครับๆ ข้าจะขายให้" ผมจึงเผยรอยยิ้มอันเป็นมิตรออกไป

"โอ้ว ถือว่าเป็นคนฉลาดไม่เลว" ชายร่างใหญ่ฉีกยิ้มโยนถุงทองอันหนักอึ้งมาทันที แน่นอนว่าผมต้องใช้แรงจำนวนมากในการรับมัน

"แกไอชั่ว แกมันฉวยโอกาส!" สาวร่างบางจ้องตาดุไปยังชายร่างใหญ่ ซึ่งผมแค่มองดูเงียบๆราวกับคนนอก

ชายร่างใหญ่เดินฝ่าทหารยามเข้าไปอย่างง่ายดาย เนื่องจากสิทธิ์เจ้าของส้วมที่เป็นคุณหนูของพวกเขา

"ฮ่าๆๆๆ จะพูดอะไรก็พูดไป ยังไงเจ้าก็เป็นของข้าอยู่ดี ข้าจะบอกหน้าที่ของเจ้าให้ฟัง หากข้าปวดฉี่เจ้าต้องอ้าปากอมควยของข้าให้มิด หลังข้าฉี่เสร็จต้องดูดเลียให้สะอาดจากนั้นก็เอาใบสวยๆของเจ้ามาเช็ดควยของข้าให้แห้ง หากข้าควยแข็งก็จงใช้หีรีดน้ำควยให้ข้าจนกว่าข้าจะพอใจ แน่นอนว่าร่างกายของเจ้าต้องถูกดัดแปลงให้รับสารอาหารผ่านน้ำควยเท่านั้น"

ทุกคนที่ได้ยินก็ตะลึงพลางสงสารในความโชคร้ายของคุณหนูคนนั้น ซึ่งสาวร่างบางก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปราวกับคนเสียสติก่อนจะทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง ทว่าก็เงยหน้าขึ้นพลางเปลี่ยนสีหน้าเป็นดูถูกเหยียดหยาม

"แค่นี้? เจ้าตามกดดันตระกูลของข้าเพื่อเรื่องแค่นี้? เป้าหมายของเจ้าช่างต่ำทรามอย่างที่ข้าคิด จะทำอะไรข้าก็เชิญ ยังไงข้าก็เป็นส้วมส่วนตัวของเจ้าแล้วนี่"

ชายร่างใหญ่ราวกับพยายามเก็บงำความโกรธ "ปากดีนักนะ!" กล่าวจบก็ระเบิดความโกรธออกมา

เขากระชากเสื้อผ้าของสาวร่างบางจนเผยส่วนที่น่าอายออกมาทั้งหมด ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก เขาอุ้มสาวร่างบางงัดควยทะลวงหีทันที ในท่าอุ้มแตงหันออก ทำให้ทุกคนเห็นชัดเลยว่าควยกำลังทะลวงเข้าออกหีขาวๆอันไร้ขน ขนาดของควยนั้นใหญ่โตต่างจากหีเล็กๆที่ตอนนี้บานอ้าบานหุบไม่หยุด

แม้ฉากเย็ดอันดุดันนี้จะน่าเชยชมแค่ไหน แต่ก็แปลกที่ผมไม่ได้สนใจขนาดนั้น จึงเดินออกจากร้านท่ามกลางความวุ่นวาย

ที่ด้านหลังของผมตามมาด้วยสาวใช้ไอรีนที่มือกุมอยู่ที่หว่างขา หรือว่าจะปวดฉี่กันนะ ผมที่สงสัยและไม่คิดมากจึงถามออกไป "อยากเข้าห้องน้ำรึปล่าว?"

"ไม่เจ้าค่ะ ข้าไม่เป็นไร" ไอรีนรีบส่ายหน้าแดงๆ ผมมองแล้วใจฟูขึ้นมา มุมนี้ดูน่ารักขึ้นมาเลย

แต่จะปล่อยไว้ก็ไม่ได้ ต้องปวดฉี่อยู่แน่ๆ แต่ห้องนี้ในโลกแฟนตาซีนี้หน้าตาเป็นยังไง มองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านค้าแผงลอย จึงตัดสินใจเดินกลับที่พัก

มาถึงโรงเตี๊ยมก็เห็นพวกทหารยังคงนั่งดื่มกินกันอยู่ ที่ต่างไปจากเดิมก็คือองครักษ์หญิงกำลังเต้นเปลือยในท่าสุดแสนจะลามก ทั้งอ้าข้าแหกหี ทั้งปั้นหน้าลามก เหล่าทหารพากันหัวเราะชอบใจ

"มาแล้วเว้ย เจ้าอ้วนมาแล้ว ไปรายงานองค์หญิงเทียน่าเร็วเข่า" เหล่าทหารดูกระตือรือร้นขึ้นมาทันที ผมจึงระวังตัวขึ้นมา เห็นทหารคนหนึ่งวิ่งขึ้นไปชั้นสอง

ไม่นานทหารคนนั้นก็ลงมา ตามมาด้วยองค์หญิงเทียน่ากับสาวใช้อาเรีย ทั้งสองคนมีสีหน้าที่จริงจังก้าวเดินมาทางผม ราวกับปัญหามากมายกำลังเดินเข้ามาแบบนี้ผมจะไม่กังวลได้ยังไง

"ท่านดีป ข้ามีเรื่องอยากปรึกษากับท่าน" องค์หญิงเทียน่าจ้องเขม่งมายังผม แน่นอนว่าเหงือของผมอาบท่วมตัวไปเรียบร้อย

"ขอรับ.. เชิญกล่าวมาได้เลย" ผมพยายามตอบออกไปด้วยท่าทางเกร็งๆ ทหารที่ตอนแรกส่งเสียงเอะอะหัวเราะคิกคักก็เงียบกันหมด บรรยากาศน่าอึดอัดจริงๆ

"เรื่องที่องครักษ์พนันกับท่านจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ข้าไม่ได้ติดใจเอาความ แต่หากให้อยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อไปคงดูไม่ดี ข้าจึงเสนอตัวเพื่อลดหย่อนระยะเวลาได้หรือไม่"

คำพูดของเทียน่าดูราบเรียบทว่าคนที่ฟังก็ถึงกับตาโต ตอนแรกพวกทหารคิดว่าองค์หญิงจะโกรธเจ้าอ้วนนั่นเสียอีก ทว่ากลับต้องการลดหย่อนผลของการพนัน ซึ่งทุกคนทราบดีว่าหากต้องการลดหย่อนผลจากการเดิมพันจะต้องโดนเช่นเดียวกับผู้แพ้ แค่คิดว่าองค์หญิงเทียน่าจะตกอยู่ในสภาพเดียวกับองครักหญิงก็ตื่นตัวกันยกใหญ่

"ลดหย่อน.. ?" ผมสงสัยจึงทวนคำออกไป ลดหย่อนระยะเวลา? จำได้ว่าระยะเวลาที่พนันไปคือตลอดชีวิต

องค์หญิงเทียน่ารีบกล่าวตอบ "คิดว่าเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมหรือ ตามที่ท่านดีปต้องการได้เลย"

เหล่าทหารตาลุกวาว บางคนจ้องเขม่งมาทางผมราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ บางคนส่งสายตาคาดหวัง มันหมายถึงอะไรกันแน่ แต่ถ้ามากไปคงไม่ดี น้อยไปก็คงไม่ดี

หากวัดจากระยะเวลาตลอดชีวิต.. เหลือสัก 30 ไม่สินั่นก็มากไป สัก 10 ปีดีรึปล่าว?

"สะ.. สิบปี?" ผมลองเชิงพูดเชิงถามออกไป ทว่ากลับได้คำตอบจากองค์หญิง "ตกลง ลดหย่อนเหลือสิบปี ข้าจะเป็นผู้กระทำการลดหย่อนเอง"

!!!!

เกิดเสียงฮือฮาจากเหล่าทหาร องค์หญิงเทียน่าหันไปทางทหารก่อนจะลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าต่อตาทุกคน

"นับจากวันนี้อีกสิบปี ข้าขอสาบานว่าจะไม่ใส่เสื้อผ้าปิดบังร่างกาย และจะไม่หลบซ่อนจากสายตาหื่นกามใดๆ หากใครอยากเชยชมเรือนร่างของข้าโปรดบอกข้าได้ตลอดเวลา ข้าพร้อมจะแอ่นนมแหกหีให้ดูอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญอย่าปิดบังความคิดลามก หากใครคิดลามกอันใดเกี่ยวกับข้าก็จงพูดออกมาต่อหน้าข้าได้เลย"

กล่าวจบเทียน่าก็เดินไปยังองครักษ์หญิงที่เต้นท่าทางลามกอยู่บนโต๊ะ เทียน่าขึ้นไปยืนโต๊ะข้างๆก่อนจะเรียนแบบท่าเต้นสุดแสนจะลามกนั้น ทำเอาทุกคนตาโตควยตั้งแข็ง คนที่ไม่อาจระงับอารมรณ์ได้ก็พูดออกมา

"สุดยอด ไม่คิดเลยว่าองค์หญิงจะเร่าร้อนขนาดนี้ ข้าเคยจินตนาการตอนหลับมาก่อนแต่ไม่ถึงขนาดนี้"

"แม่เจ้าโว๊ย ข้าอยากจับนางกดจริงๆ ควยข้าแข็งหมดแล้วเนี่ย"

เสียงเหล่านั้นไม่ได้เบาเลย บางคนถึงกับผวาเมื่อได้ยิน นั่นเจ้าหญิงเลยนะพวกมันไม่กลัวตายเลยหรือไง แม้เทียน่าจะเป็นคนพูดเองแต่หลายคนก็ยังไม่กล้าอยู่ดี

องค์หญิงเทียน่าที่กำลังเต้นก็เอ่ยตอบ "เสียใจด้วยนะ พวกเจ้าสามารถเชยชมได้อย่างเดียว แต่หากท่านดีปช่วยลดระยะเวลาให้อีก ข้าจะยอมให้สัมผัสเรือนร่างได้ทุกส่วนเลย"

ทหารทุกคนลุกขึ้นยืนอย่างลืมตัวแล้วหันมามองทางผมเป็นตาเดียว ความคาดหวังนี่มันอะไรกัน ตอนแรกยังมองเหยียดๆมาทางผมอยู่เลย

ผมจึงสูดหายใจลึกก่อนจะหันไปถามทหารคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ "เหลือสักเก้าปีเป็นไง?"

ทว่าองค์หญิงเทียน่ากลับเป็นคนตอบ "ตกลง ลดหย่อนจากสิบปีเหลือเก้าปี แลกกับทุกคนสามารถสัมผัสเรือนร่างของข้าได้ตามใจชอบ"


=================================================
=================================================



สำนักเหมันต์พิสุทธิ์ (หลุดโลก)
—---------------------------------

ณ โลกที่เต็มไปด้วยกำลังภายใน ถูกปกครองด้วยสำนักน้อยใหญ่ ถ้าจัดอันดับสำนักจะมีเพียง 2 สำนักที่อยู่อันดับสูงสุด นั่นก็คือ สำนักพยัคฆ์ กับ สำนักเมฆา ทว่าก็มีอีกสำนักที่สามารถเทียบเคียงกับสองสำนักนี้ได้ นั่นก็คือสำนักเหมันต์พิสุทธิ์

แต่ด้วยข้อจำกัดของสำนักเหมันต์พิสุทธิ์ทำให้ไม่มีอำนาจเท่าที่ควร ทั้งเงื่อนไขที่รับเฉพาะศิษย์เพศหญิง ทั้งยังต้องมีพรสวรรค์ระดับสีทองขึ้นไป

พรสวรรค์ถูกแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ขาว ส้ม แดง ทอง ดำ ซึ่งจะติดตามมาตั้งแต่กำเนิดไม่อาจฝืนชะตาได้

ด้วยเงื่อนไขสุดหินทำให้สำนักเหมันต์พิสุทธิ์มีลูกศิษย์น้อยกว่าสำนักอื่นๆได้ สำนักอื่นมีเป็นหมื่นเป็นแสน ทว่าสำนักนี้มีเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่ก็เป็นหญิงสาวที่ไม่อาจดูถูกได้

บนภูเขาสูงมีพายุหิมะตลอดทั้งปี มีสำนักเหมันต์พิสุทธิ์ตั้งอยู่ กำแพงเป็นสีขาวลงลวดลายดอกไม้อย่างสวยงาม ที่ประตูบานใหญ่ถูกปิดสนิทไม่ต้อนรับแขก มีหญิงสาวยืนเฝ้าประตูอยู่สองคน

ทั้งคู่อยู่ในชุดของสำนัก แม้อากาศจะเยือกเย็นแต่พวกเธอไม่แสดงอาการหนาวออกมาเลย ชุดที่ใส่ก็มีเพียงผ้าพันคอสีขาวเข้ากับผิวกายที่ขาวราวกับหิมะ พวกเธอไม่แม้แต่จะปิดส่วนที่น่าอายอย่างหน้าอกหรือหี

เป็นเพราะการฝึกเคล็ดวิชาของสำนักที่จะซึมซับธรรมชาติให้เต็มที่ตลอดเวลา การละทิ้งความอายที่โชว์เรือนร่างจึงเป็นสิ่งแรกๆที่ต้องฝึก

ตอนนั้นเองที่ประตูสำนักได้เปิดออกด้วยกำลังภายในอันบริสุทธิ์ หญิงสาวผู้งดงามเดินออกมา แน่นอนว่าใส่เพียงผ้าพันคอผืนเดียว รูปร่างทั้งหมดจึงเผยออกมาให้เห็น เธอมีหุ่นที่ผอมบางตัวสูง หน้าอกหน้าใจใหญ่เต็มมือทว่าก็เต่งตึงราวกับสาวๆ

??: ท่านเจ้าสำนักเจียง!

หญิงสาวทั้งสองที่ยืนเฝ้าประตูรีบโค้งตัวคำนับด้วยความเคารพ คนตรงหน้าคือ เหม่ยเจียง เป็นเจ้าสำนักเหมันต์พิสุทธิ์นั่นเอง

ที่ด้านหลังตามมาด้วยเด็กใหม่ผู้มีพรสวรรค์ระดับสีดำ ซึ่งร้อยปีจะมีสักคน ชื่อของเธอคือ ไป๋หลิน

เหม่ยเจียง: หลินเอ๋อ ข้าจะพาเจ้าไปฝึกจิตใจ เจ้าพร้อมหรือไม่

ไป๋หลิน: ข้าพร้อมค่ะท่านอาจารย์

เหม่ยเจียงพยักหน้าก่อนจะเดินนำออกไป ไป๋หลินมีท่าทีกังวลเล็กน้อยเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอออกไปข้างนอกในสภาพนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าพันคือผืนบางที่ปิดอะไรไม่ได้ ไม่สิ ถึงปิดได้ก็ผิดกฏสำนักอยู่ดี เธอต้องฝึกฝนจิตใจตัดขาดความอายออกไปให้ได้

ณ เมืองเหมันต์

เมืองที่ตั้งอยู่ตีนเขาที่มีหิมะพัดผ่านตลอดทั้งปี จึงไม่ค่อยมีหน้าใหม่ๆแวะมา ส่วนใหญ่จะทำอาชีพล่าสัตว์ เปิดร้านอาหาร และขายของหายากจากภูเขา สมุนไพรบางชนิดก็หาได้เฉพาะที่นี่ จึงมักจะพบเห็นพ่อค้าเข้ามาบ้าง

เหม่ยเจียงเดินไปตามถนนท่ามกลางสายตาของชาวเมือง พวกเขาไม่เคยชินเลยที่สำนักเหมันต์พิสุทธิ์เปลือยกายแบบนี้ มองกี่ทีก็ตะลึง ทั้งขาวสวยหุ่นดี แถมยังไม่บ่นสักคำที่มีคนมอง

ส่วนไป๋หลินที่เดินตามเจ้าสำนักก็มีท่าทีร้อนรน หันไปทางไหนก็มีแต่คนมอง ในใจอับอายจนอยากจะวิ่งหนี หน้าเริ่มแดงก่ำ ร้อนรุ่มไปทั้งตัว

เหม่ยเจียง: หลินเอ๋อ?

ไป๋หลิน: ค่ะท่านอาจารย์ ศิษย์ต้องขออภัยจริงๆ

ไป๋หลินเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายจะสื่อ จึงรีบขอโทษพลางแก้ท่าทางให้ดูเป็นปกติ แม้ภายนอกจะเดินเกร็งไม่รนรานเหมือนเดิม แต่ภายในกำลังเต้นตุบตับแท๊บระเบิด

เหม่ยเจียงพาไป๋หลินเข้าโรงเตี๊ยม นั่งโต๊ะที่ใกล้ทางออกที่สุดและให้ไป๋หลินนั่งฝั่งที่ติดกับทางเข้า คนที่เดินผ่านโรงเตี๊ยมจะได้เห็นก้นขาวๆของไป๋หลินได้สะดวก

ไป๋หลินรู้ดีว่านี่คือบททดสอบของอาจารย์ จึงนั่งแอ่นก้นไปด้านหลังท้าทายสายตาซะเลย เผื่ออาจารย์จะได้ชมเธอบ้าง

เด็กเสิร์ฟ: อาหารที่สั่งได้แล้วขอรับ นี่ขอรับ

อาหารถูกวางบนโต๊ะ เป็นซุปร้อนๆสองถ้วย เหมาะกับอากาศหนาวๆตอนนี้จริงๆ ถ้ามาถึงร้านเป็นเมนูที่ทุกคนต้องสั่ง

ทว่าก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน กลุ่มชายฉกรรจ์ในชุดหนังสัตว์เดินเข้ามา สายตาของพวกเขาหยุดที่โต๊ะของไป๋หลิน

??: เห่ยๆๆ ที่นี่มีสาวงามด้วยว่ะ แถมยังแก้ผ้ารอโดนเย็ด ป่ะ พวกเรา

คนที่เหมือนหัวหน้ากลุ่มเดินนำลูกน้องเข้ามา แขนใหญ่ๆพาดลงบนไหล่ของเหม่ยเจียง ไม่ใช่แค่นั้น ตำแหน่งของมือยังอยู่ที่หน้าอก เขาไม่รอช้าขยับมือบีบหน้าอกอย่างชอบใจ

??: นมใหญ่ดีนะน้องสาว ไม่ขัดขืนซะด้วย

??: ฮี่ๆๆ ลูกพี่ เด็กนี่ก็น่ารักไม่เบา แต่ทำไมดิ้นจังแหะ

ทางด้านของไป๋หลินก็ถูกชายสองคนนั่งประกบสองข้าง มือไม้ลวนลามไปทั่วตัวทั้งกอดดมไปทั่วร่าง โดนขยำนมล้วงหีอย่างไม่เกรงใจ

เหม่ยเจียง: หลินเอ๋อ!

เจ้าสำนักไม่ได้ต่อว่าพวกคนเถื่อน แต่กลับส่งเสียงเตือนไปยังลูกศิษย์ ไป๋หลินชะงักจากที่ขัดขืนก็ยอมให้จับแต่โดยดี

??: ฮ่าๆๆ โดนพี่สาวดุหน่อยก็ยอมแล้วรึ ต้องขอบคุณพี่สาวหน่อยซะแล้ว

ชายที่เป็นหัวหน้าพูดจบก็อ้าปากจูบเจ้าสำนัก ลิ้นหยาบสอดเข้าไปในปากพัวพันแลกลิ้นราวกับคนรัก

ไป๋หลินก็โดนเช่นกัน ไม่ใช่แค่โดนจูบปากแลกลิ้นแต่โดนนิ้วหยาบๆล้วงหีจับนมไปด้วย คนในร้านที่รู้ว่าหญิงสาวสองคนนี้คือใครก็มองอย่างกลัวๆ เจ้าของโรงเตี๊ยมถึงกับกลืนน้ำลายกลัวว่าร้านของเขาจะพังหรือไม่

??: แพล่บๆๆ หีอะไรช่างหอมหวานเหลือเกิน แพล่บๆๆ

ลูกน้องอีกคนก็ลงไปเลียหีไป๋หลินอย่างเอร็ดอร่อย สองมือจับขาอ้ากว้างจนคนที่สอดรู้สอดเห็นมองมาด้วยความอิจฉา

ไป๋หลินมองอาจารย์ของเธอที่เป็นถึงเจ้าสำนัก เห็นนั่งนิ่งไม่ตอบโต้ แม้จะโดนขยำหน้าอกดูดปากแลกลิ้น เธอจึงต้องอดทนต่อไป ปล่อยให้สองคนนั้นดูดปากขยำนม เลียหีของเธอได้ตามใจ

??: เห่ย อาหารเมื่อไหร่จะได้ว่ะ

เด็กเสิร์ฟ: ขอรับๆๆ อาหารของท่านมาแล้วขอรับ

เด็กเสิร์ฟรู้งานเอาอาหารของโต๊ะอื่นมาเสิร์ฟก่อน จะอะไรก็ช่างเพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้สั่ง พร้อมยกเหล้ามารินอย่างประจบประแจง กลัวว่าพวกคนเถื่อนจะไปลงกับเจ้าสำนักจนเกิดเรื่อง

??: ฮ่าๆๆ ดี.. ดีมาก มีทั้งสาวงามให้กอดจูบได้ตามใจ มีทั้งอาหารดีๆ ฮ่าๆๆ ข้าเหยียนอี้ถูกใจยิ่งนัก

คนที่ดูเป็นหัวหน้าอารณ์ดีจนประกาศชื่อของตนออกมา และชื่อนั้นเองก็เป็นที่รู้จักในด้านที่ไม่ดีเท่าไหร่ เป็นกลุ่มที่คอยดักปล้นพ่อค้า ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเขา ทำไมวันนี้ถึงเข้าเมืองมาได้?

เหยียนอี้อุ้มเหม่ยเจียงขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ โดยหันตัวมาทางเขาแล้วจับขาของเหม่ยเจียงอ้ากว้าง พลางนั่งกินอาหารไปด้วย ราวกับเรือนร่างของเจ้าสำนักเป็นเพียงอาหารตาระหว่างกินข้าวเท่านั้น

เหยียนอี้: นมใหญ่หีโหนกหุ่นดี เจ้ามีนามว่าอะไร

คนเถื่อนเหยียนอี้คีบอาหารเข้าปากพลางถามอย่างสบายอารมณ์ อีกมือที่ว่างก็เขี่ยหีของเหม่ยเจียงไปด้วย

เหม่ยเจียง: ข้ามีนามว่าเหม่ยเจียง

เหยียนอี้: โอ้ว เป็นชื่อที่เหมาะกับเจ้าจริงๆ สวยงดงามไปทุกส่วน ผิวเนียนขาวราวหิมะ โอ้ๆๆหีของเจ้าแฉะแล้ว

??: ลูกพี่จะจัดก่อนมั้ยขอรับ

เหยียนอี้: มาๆอุ้มมาหาข้า

ลูกน้องได้ยินคำสั่งก็ยิ้มแย้มหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ จากนั้นก็ช่วยกันอุ้มไป๋หลินไปให้นั่งค่อมลูกพี่ของมัน

ไป๋หลินหันหน้าไปทางอาจารย์ของเธอ สีหน้าดูไม่ค่อยดี ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำลายจากการจูบเลีย หน้าอกก็ถูกขยำจนเป็นรอยแดงตัดกับผิวขาวๆ

เหยียนอี้งัดควยออกมาจ่อที่รูหี ไป๋หลินถูกกดตัวให้นั่งลง หีของเธอจึงค่อยๆกลืนควยเข้าไปทีละนิด พร้อมกันนั้นจิตใจของเธอก็ปั่นป่วน ความรู้สึกต่างๆถาโถมเข้ามาแม้กระทั่งความเสียว

เหยียนอี้: ฮ่าๆๆ ลืมขอพี่สาวเลยวุ้ย ขอเย็ดน้องสาวตอนนี้ทันมั้ยขอรับคุณพี่สาว

ขณะที่พูดก็กดตัวไป๋หลินลงจนสุด ควยได้เข้ารูหีไปจนมิดแล้ว นี่คือครั้งแรกของไป๋หลินแท้ๆ แต่กลับโดนคนเถื่อนแปลกหน้าเอาไปซะได้

??: ลูกพี่ๆ พกผมขอเล่นกับยัยนี่ก่อนนะ

เหยียนอี้: เออๆ

เหล่าลูกน้องจับเหม่ยเจียงหันไปอีกทาง ปัดอาหารที่ขวางลงจากโต๊ะก่อนจะกดเหม่ยเจียงให้นอนราบ

ลูกน้องคนหนึ่งเล่นช่วงบน ขยำนมเลียหน้า ส่วนอีกคนเล่นช่วงล่าง ลูบขาเลียหี ไป๋หลินที่กำลังนั่งขย่มควยก็เห็นอาจารย์นอนให้ทำได้ตามสบาย

ตอนนั้นเองที่ไป๋หลินเริ่มเข้าใจขึ้นมา เคล็ดวิชาเหมันต์นิรันดร์ต้องใช้จิตใจที่เข้มแข็ง ห้ามมีความอายหลงเหลือ แม้จะถูกลวนลามหรือแม้แต่โดนเย็ด มันก็แค่ร่างกายเท่านั้น

แต่การคิดได้กับการลงมือทำมันคนละเรื่อง ไป๋หลินยังคงอับอาย เสียใจ และเงี่ยน ที่โดนเย็ดโดยคนไม่รู้จักต่อหน้าคนมากมายเช่นนี้

เหม่ยฮวา: ท่านเจ้าสำนักมีเรื่องด่วนค่ะ

เหม่ยเจียง: พูดมา

อยู่ๆก็มีสาวงามอีกคนปรากฏตัว ไมมีใครเห็นว่ามาจากไหนรู้ตัวอีกทีก็เห็นละอองน้ำแข็งรูปดอกไม้กระจายไปทั่ว เหม่ยเจียงที่นอนอยู่บนโต๊ะก็ตอบกลับทันควัน จนคนที่กำลังเลียหน้าชะงัก

เหม่ยฮวา: หู่หลงจากสำนักพยัคฆ์ได้ขอพบท่านเจ้าสำนักค่ะ

เหม่ยเจียง: ถึงเวลานั้นแล้วสินะ

เจ้าสำนักนึกบางอย่างออกก็ลุกขึ้น ไอเย็นกระจายไปรอบๆจนพวกที่ลวนลามถอยหนี มันหนาวเย็นไปถึงกระดูกถ้าไม่ถอยออกมาคงตายไปแล้ว

เหม่ยเจียงจับมือไป๋หลินผู้เป็นลูกศิษย์สายตรง ร่างของไป๋หลินก็ลอยขึ้นจนควยหลุดจากหีดังบ๊อก เหยียนอี้นั่งอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะทันได้รู้ตัวสาวงามทั้งสามคนก็หายไปแล้ว

..

..

ณ สำนักเหมันต์พิสุทธิ์

ห้องรับรองแขกอันหรู่หราถูกประดับด้วยโต๊ะเก้าอี้สีทองคำ ตามกำแพงยังมีรูปของศิษย์ในสำนักที่โดดเด่น แน่นอนว่าในรูปไม่ได้ใส่อะไรเลย ทั้งนมทั้งหีถูกเปิดเผยให้เห็น

หู่หลง: ข้าอุตส่าพาเจ้ามา อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามล่ะ

หู่จงอี้: ขอรับท่านพี่ ข้าแค่ตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็นเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะมีรูปพวกนี้ติดอยู่จริงๆ

เหม่ยเจียง: ถ้าเจ้าชอบก็เอาติดมือไปสักรูปสิ

ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังเข้ามา หู่จงอี้หันไปมองตามเสียงอย่างใจหาย กลัวว่าที่เขาพูดไปจะเป็นการดูหมิ่น

หู่หลง: ท่านเจ้าสำนักเจียง ยังคงงดงามนมใหญ่เช่นเดิม

เหม่ยเจียง: พวกเจ้ามีธุระอะไร จงอย่าได้อ้อมค้อม

หู่จงอี้แปลกใจที่เจ้าสำนักไม่มีท่าทีใดๆกับคำพูดลวนลามนั่นเลย แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะแค่ติดตามพี่ชายมาเท่านั้น

หู่หลง: เจ้ายังคงเย็นชาไม่เปลี่ยน ก่อนหน้านั้นช่วยบอกข้าทีว่าข้างหลังเจ้า ใช่ไป๋หลินหรือไม่?

เหม่ยเจียง: ใช่ นางคือไป๋หลิน ลูกศิษย์สายตรงของข้า

หู่จงอี้: ไป๋หลิน? น้องสาวของไป๋หลงนั่นน่ะหรือ!

หู่จงอี้ตะลึงจนตาโต หันไปมองไป๋หลินให้ชัดๆ และก็ได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าแสนงดงาม นมเล็กหีโหนกแค่มองก็ควยตั้งแล้ว

หู่หลง: ข้าบอกว่าไงจงอี้!

หู่จงอี้: ขออภัยท่านพี่ ข้าจะไม่รบกวนท่านอีก

หู่หลง: ข้าต้องขอโทษแทนน้องชายของข้าด้วย ถ้าไม่ยืนกรานข้าคงไม่พามา

เหม่ยเจียง: ข้าไม่ถืออยู่แล้ว ท่านน่าจะทราบดี

หู่หลง: ฮ่าๆๆ ข้ารู้ว่าต่อให้จับลูกศิษย์ของท่านเย็ด ท่านเจ้าสำนักก็ไม่ปริปากบ่น แต่ก็ควรมีความเกรงใจกันบ้าง จริงหรือไม่?

เหม่ยเจียง: ตามนั้น แล้วเข้าเรื่องได้รึยัง

หู่จงอี้ได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความเงี่ยนขึ้นในใจ จับเย็ดก็ไม่ปริปากบ่น? ได้หรือ!? พอคิดเช่นนั้นก็ค่อยๆเดินไปหาไป๋หลินผู้แสนงดงาม

ก่อนมาที่นี่ไป๋หลินมีชื่อเสียงด้านพรสวรรค์ที่ร้อยปีจะมีสักครั้ง ทุกคนต่างรู้จักเธอ ไม่ใช่แค่ความสามารถแต่รูปร่างหน้าตายังถือเป็นที่หนึ่งในเมืองไป๋

หู่จงอี้ยื่นมือไปจับหน้าอกเล็กที่อยู่ตรงหน้า อีกฝ่ายยื่นนิ่งไม่แม้แต่จะหลบหรือปัดป้อง เขาจึงจับหมับอย่างเต็มมือ เป็นความฟินสุดยอดที่ได้จับนมสาวงามอันดับหนึ่ง

หู่หลง: จงอี้!

เหม่ยเจียง: อย่าไปสนเลย เข้าเรื่องที่เจ้าอยากพูดดีกว่า

หู่จงอี้ชะงักแต่พอได้ยินเจ้าสำนักพูดแบบนั้นก็ยิ่งได้ใจ ค่อยไปขอโทษท่านพี่ทีหลัง ตอนนี้ขอเย็ดสาวงามอันดับหนึ่งก่อน

ไม่รอช้าหลงจงอี้สวมกอดจูบปาก ทั้งดูดเลียริมฝีปากทั้งสอดลิ้นเข้าไป มือที่สวมกอดก็ลูบแผ่นหลังขาวเนียน อีกข้างก็บีบก้นงอนๆอย่างหื่นกระหาย

หู่หลง: ท่านเจ้าสำนึกได้ยินข่าวเกี่ยวกับดาวตกหรือไม่

เหม่ยเจียง: ข้าทราบ

หู่หลง: อย่างที่ท่านทราบ ดาวตกเป็นสิ่งของลึกลับที่ไม่เคยเห็น ไม่มีใครเข้าไปในหมอกแล้วกลับออกมาได้

เหม่ยเจียง: พูดต่อสิ

หู่หลง: หลายต่อหลายปีผ่านไป ในที่สุดก็มีคนออกมาได้! แต่บุคคลคนนั้นถูกสำนักเมฆาจับตัวไป

เหม่ยเจียง: สำนักเมฆา..

เหม่ยเจียงทราบดีว่าสำนักเมฆาคงไม่ยอมบอกข้อมูลอะไรแน่ พอคิดแบบนั้นก็รู้จุดประสงค์ที่หู่หลงนำข้อมูลนี้มาบอกทันที

!!

หู่หลง: อย่าเพิ่งปฏิเสธข้าเลยท่านเจ้าสำนัก ฟังข้อเสนอของข้าก่อน

เหม่ยเจียง: พูดมา

หู่หลง: ฟู่วว.. โอสถหัวใจพิสุทธิ์

หู่หลงพ่นลมหายใจก่อนจะพูดออกมา ซึ่งเจ้าสำนักที่สำเร็จวิชาเหมันต์นิรันดร์ยังใจเต้นขึ้นมาได้ หรือก็คือโอสถหัวใจพิสุทธิ์เป็นสิ่งที่ล้ำค่าขนาดนั้น

เหม่ยเจียง: เข้าใจแล้ว ปล่อยให้ข้าจัดการเอง

หู่หลง: ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก หากท่านได้ข้อมูลโปรดนำมาบอกที่สำนักพยัคฆ์

เหม่ยเจียง: ท่านจะกลับเลยหรือว่าจะอยู่พักก่อน

หู่หลง: ฮ่าๆ ข้าคงต้องขอรบกวนสักสองสามวัน

ขณะที่พูดก็มองไปยังน้องชายที่เขาพามา หู่จงอี้กำลังนอนทับไป๋หลินบนพื้น ทั้งกอดจูบทั้งกระแทกเอวเย็ดอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่รู้ตัวเลยว่าเขากับเจ้าสำนักหันไปมองอยู่

เหม่ยเจียง: ฮวา พาท่านหู่หลงไปพักด้วย ส่วนไป๋หลินกับหู่จงอี้พาคนอื่นมาช่วยอุ้มไป

เหม่ยฮวา: ได้ค่ะท่านเจ้าสำนัก

..

..

วันต่อมา

ตับๆๆๆๆๆ

เสียงกระแทกเย็ดดังออกมาจากห้องอย่างต่อเนื่อง หู่จงอี้เย็ดไปหลินอย่างไม่รู้จักเหนื่อย สภาพของไปหลินเต็มไปด้วยน้ำควยทั่วตัว โดยเฉพาะรูหีที่กระแทกแต่ละทีก็ทะลักสวนออกมา

ดีที่เคล็ดวิชาเหมันต์นิรันดร์ทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ ไม่งั้นคงท้องไปนานแล้ว และไป๋หลินเหมือนจะเริ่มเข้าใจในวิชามากขึ้นไปด้วย

หู่จงอี้: หีของเจ้าเย็ดไม่เบื่อจริงๆ โอ้วว ร่างกายก็งดงาม ข้ากอดจูบมาทั้งคืนก็ยังไม่พอ เจ้ารู้ไหมว่าไป๋หลงพี่ของเจ้าทำอะไรกับข้าไว้ มันดูถูกข้าว่าขยะ ถ้ามันรู้ว่าข้าที่เป็นขยะได้เย็ดเจ้าทั้งคืนจะเป็นยังไง ฮ่าๆๆ

ไป๋หลิน: ก็เรื่องของเจ้าสิ

หู่จงอี้: งั้นข้าคงต้องสั่งสอนอีกสักหน่อยแล้ว!

..

..

วันต่อมา

ไป๋หลินยังคงถูกเย็ดอยู่เช่นเดิม ตอนนี้อยู่ในท่านั่งยองๆบนควยของหู่จงอี้ มืออีกฝ่ายก็จับเอวยกขึ้นลงจนไม่ได้พัก และไม่ได้มีพวกเขาแค่สองคน ตอนนี้ยังมีศิษย์พี่ในสำนักนั่งอยู่ด้วย

ศิษย์พี่เสวี่ยอิงกำลังนั่งวาดภาพของเธออยู่ ซึ่งเป็นภาพที่ไป๋หลินนั่งขย่มควย เจ้าของควยก็นั่งยิ้มอยู่ข้างหลัง ภาพที่เสี่ยอิงวาดเป็นที่รู้กันว่าสมจริงมาก ทั้งยังมีวิชาให้ลวดลายขยับได้เล็กน้อย ในที่นี้คือการขยับขย่มควย

เสวี่ยอิง: เสร็จแล้ว!

หู่จงอี้: ขอบใจเจ้ามาก ข้าจะนำภาพนี้ไปติดในสำนัก ทุกคนโดยเฉพาะไป๋หลงจะได้เห็น ฮ่าๆๆ

เสวี่ยอิง: งั้นข้าขอตัวก่อนนะ ข้าต้องไปวาดให้ท่านเจ้าสำนักต่อ

..

..

วันต่อมา

รถม้าคันใหญ่ถูกประดับด้วยลายพยัคฆ์สีแดง บ่งบอกถึงสถานะว่ามาจากสำนักพยัคฆ์อันยิ่งใหญ่ ผ่านไปไหนก็มีแต่คนยำเกรง

ภายในรถม้ากว้างขวางนั่งสบาย มีชายสองคนกำลังพูดคุยอวดภาพกันอย่างสนุกปาก

หู่หลง: ไป๋หลินงดงามสมคำร่ำรือ ถ้าใครได้เห็นภาพนี้ คงแอบสาปแช่งเจ้าในใจ

หู่จงอี้: ฮ่าๆๆ ท่านพี่อย่าหยอกข้าสิขอรับ ภาพของท่านไม่แย่กว่ารึ ท่านพี่ทำยังไงท่านเจ้าสำนักถึงยอมทำขนาดนี้

ภาพของหู่หลงนำมาโชว์ เหม่ยเจียงที่เป็นถึงเจ้าสำนักเหมันพิสุทธิ์กำลังนั่งยองๆอ้าขา ใช้ร่องนมบีบท่อนควยอยู่ตรงหน้า ปากก็อ้าอมหัวควยเข้าไป ทำให้หน้าเปลี่ยนรูปจากการดูดควย เป็นใบหน้าแสนลามกที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน แถมภาพยังขยับเล็กน้อย ทั้งขยำนมให้รัดควยทั้งใบหน้าที่ดูดควยเข้าออก

หู่หลง: ฮ่าๆๆ ข้าเป็นคนบอกให้ทำแบบนั้นเอง เจ้ายังไม่รู้รึ ว่าสำนักเหมันพิสุทธิ์ต้องละทิ้งความอาย ท่านเจ้าสำนักเลยทำเรื่องไร้ยางอายได้ยังไงล่ะ ฮ่าๆๆ

หู่จงอี้: แบบนี้ก็หมายความว่า..

หู่หลง: ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร แต่ที่ทำได้ขนาดนี้เพราะอีกฝ่ายยอมให้ทำต่างหาก ถ้าเกิดไปขวางทางพวกนางล่ะก็ จบไม่สวยแน่ ข้าถึงบอกไงว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม

หู่จงอี้: ขอรับท่านพี่

รถม้าเดินทางติดต่อกันหลายชั่วโมง ม้าถูกฝึกมาอย่างดี ทั้งยังกินโอสถวิเศษเป็นประจำ ทำให้เดินทางได้ข้ามคืนแบบสบายๆ และในที่สุดก็มาถึงสำนักพยัคฆ์

ประตูเปิดต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว สองพี่น้องตระกูลหู่ลงจากรถม้าพร้อมภาพในมือคนละใบ พวกเขาไม่ลืมที่จะสั่ง นำภาพไปติดในสำนัก

แน่นอนว่าต้องเกิดเรื่อง ไป๋หลงผู่อยู่อันดับ 1 ในการจัดอันดับในสำนัก คำรามด้วยความโกรธ

ไป๋หลง: หู่จงอี้! เจ้าอยู่ที่ไหน จงออกมาเจอหน้าของข้าเดี๋ยวนี้!!

เสียงคำรามดังไปทั่ว ดึงความสนใจของคนในสำนักจนมารวมตัวกันที่ลานประลอง และภาพที่ถูกแขวนอยู่ข้างๆก็คือตัวต้นเหตุ

ภาพนั้นถูกสำนักนำไปแขวน เป็นภาพน้องสาวของไป๋หลงกำลังนั่งขย่มควยด้วยใบหน้าเย็นชา เรือนร่างอันงดงามถูกทุกคนเห็นอย่างหมดจด

หลิงเฝิง: เกิดอะไรขึ้น.. โอ้วว ภาพนี้มัน

อาจารย์หลิงเฝิงรีบตรงดิ่งมาตามเสียง เขาคือผู้คุมกฏของสำนัก พอเห็นภาพที่แขวนอยู่ก็ตะลึงอึ้งไป ทว่าตามกฏแล้วมีสิทธิ์ทำแบบนี้ แต่ฝ่ายที่เป็นทุข์คือศิษย์อันดับหนึ่งของสำนัก!

ไป๋หลง: ท่านอาจารย์เฝิง โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ข้าด้วย นั่นคือภาพน้องสาวของข้า หากข้าทำลายมัน..

ไป๋หลงกำหมัด แต่เขาเป็นคนเคารพกฏในสำนักจึงยังไม่ลงมือ แต่เรื่องในคราวนี้ทำเขาลังเลว่าควรทำลายมันเดี๋ยวนี้เลยหรือไม่!

หลิงเฝิง: ใจเย็นๆก่อน ข้าจะนำภาพนี้ลงเอง

หู่ฉี: หยุด! เจ้ามีสิทธิ์อะไร ผู้คุมกฏไม่ควรเอนเอียงข้าพูดถูกหรือไม่?

หู่ฉีคืออาจารย์ใหญ่ของสำนัก เป็นคนที่มีอิทธิเพราะเจ้าสำนักรุ่นต่อไปก็คือเขา และหู่หลงกับหู่จงอี้ก็คือลูกชายของเขา

หลิงเฝิง: แต่ภาพนี้มัน..

หู่ฉี: อะแฮ่ม.. ถ้าลองดูรอบๆ เจ้าคิดว่ามีกี่คนกันที่ไม่ชอบภาพนี้?

ผู้คุมกฏหลิงเฝิงหันไปมองรอบๆ คนในสำนักต่างจ้องมองด้วยใบหน้าหลงใหล มีเพียงคนเดียวที่ไม่พอใจก็คือไป๋หลง

หู่จงอี้: เป็นหีที่วิเศษไปเลยล่ะ ข้าที่เย็ดไปสองวันสองคืนขอยืนยัน

ไป๋หลง: หู่! จง! อี้!

ในที่สุดคนต้นเรื่องก็ปรากฏตัว มาถึงก็ไปยืนข้างๆหู่ฉี ไป๋หลงจึงตะโกนเรียกชื่อด้วยความโกรธ ทว่าก็ทำอะไรไม่ได้

หู่จงอี้: สาวงามอันดับหนึ่งในเมืองไป๋ช่างามคำร่ำลือ ข้าเลียไปทั่วทุกซอกมุมมาแล้ว หอมหวานไปทั้งตัวเลยล่ะ ฮ่าๆ

คนในสำนักได้ยินแบบนั้นก็เกิดเสียงคำถามมากมาย ทั้งอิจฉา ทั้งตื่นเต้น ทั้งอยากรู้อยากเห็น มีเพียงไป๋หลงที่ยืนกำหมัดคิดอะไรบางอย่างในใจ

ส่วนหู่จงอี้ก็เริ่มตอบคำถามให้คนอื่น มองข้ามไป๋หลงโดยสมบูรณ์ ทั้งๆที่ไป๋หลงคือพี่ชายของคนที่กำลังพูดถึง

หู่จงอี้: ใช่ๆข้าแตกในไปเยอะเลยล่ะ.. อืมๆ เย็ดไปหลายท่า.. กลับไปอีก? ข้ากลับไปเย็ดได้ทุกเมื่อล่ะ.. เมียข้า? ปล่าวเลย นางเป็นแค่รูเย็ดสำหรับข้าเท่านั้น..

พอได้ยินคำตอบล่าสุด ไป๋หลงที่อดทนอดกลั้นมานานก็ต้องระเบิดออกมา กำลังภายในสีคราวสุดเข้มข้นปะทุออกมาจนคนอื่นๆกระเด็นออกไป

เหลือเพียงผู้คุมกฏหลิงเฝิง อาจารย์ใหญ่หู่ฉี และหูจงอี้ที่หลบอยู่ข้างหลัง

หู่ฉี: นั่นเจ้าจะทำอะไร!

หลิงเฝิง: ไป๋หลง เจ้าสงบสติลงก่อน อย่าทำในสิ่งที่เจ้าคิดเชียว!

ไป๋หลง: ไอขยะหู่จงอี้! เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาทำน้องสาวของข้า!

เสียงคำรามดังลั่นพร้อมกำลังภายในที่ระเบิดออกมา ทว่าตอนนั้นเองทุกอย่างราวกับหยุดนิ่ง เจ้าสำนักพยัคฆ์ หลิงเหยาปรากฏตัวจากบนฟ้า

หลิงเหยา: ขอให้เรื่องจบลงแค่นี้ ทุกคนแยกย้ายไปได้!

เสียงอันทรงพลังทำให้ทุกคนเชื่อฟังแต่โดยดี ไป๋หลงที่เห็นอาจารย์ก็หยุดปล่อยพลัง แต่ยังคงกำหมัดกัดฟันอย่างแค้นเคือง

หู่ฉีพาหู่จงอี้ไปอีกทาง ในลานประลองจึงเหลือศิษย์อาจารย์ยืนกันอยู่ หลิงเหยาสบัดมือเกิดอากาศรูปพยัคฆ์ขย้ำไปยังภาพนั้นจนหายไปไม่เหลือร่องรอย

หลิงเหยา: อย่าให้เรื่องนี้รบกวนจิตใจของเจ้าอีก เจ้าคือความหวังของสำนักพยัคฆ์ เจ้าเข้าใจหรือไม่?

ไป๋หลง: ขอรับท่านอาจารย์ ข้าจะลองทบทวนดู

..

..

ณ เมืองเมฆ

หญิงสาวหลายคนเดินเข้ามาในเมือง ได้สะกดสายตาของทุกคนที่เดินผ่านเอาไว้ เพราะหญิงสาวทุกคนไม่ใส่เสื้อผ้า มีเพียงผ้าพันคอสีขาวบางๆ เดินโชว์นมโชว์หีอย่างไม่มียางอาย

แต่ใครจะบ่นก็แต่ละคนนั้นงดงามล่มเมือง ผิวกายขาวราวกับหิมะ รูปร่างผอมสูงหุ่นดี แค่มองก็ควยตั้งกันเป็นแถว

เหม่ยเจียง: แยกย้ายกันไปพักในเมือง ส่วนข้าจะไปทำธุระที่สำนักเมฆา

เหม่ยฮวา: ค่ะท่านเจ้าสำนัก ระหว่างที่ท่านไม่อยู่ ข้าจะรักษาการณ์แทน ดังนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วง

เหม่ยเจียงพยักหน้าก่อนจะเดินต่อตามลำพัง ส่วนคนอื่นๆที่เดินทางมาด้วยก็แยกย้ายตามคำสั่ง

สำนักเมฆาตั้งอยู่บนภูเขาสูง มีบันไดยาวหลายพันขั้นเป็นทางเดียวที่จะขึ้นไปได้ แต่สำหรับเหม่ยเจียงเป็นเพียงของเด็กเล่น ใช้เวลาไม่นานก็ขึ้นมาถึง

ข้างหน้ามีประตูที่สลักป้ายใหญ่โตว่าเมฆา คนเฝ้าประตูตาลุกวาวเมื่อเห็นสาวงามในสภาพเปลือยเปล่า

??: มีธุระอะไรคนสวย

เหม่ยเจียง: ข้าคือเหม่ยเจียง เจ้าสำนักเหมันต์พิสุทธิ์ ข้ามาขอพบหยางตงเฉิน

??: เจ้าสำนัก? ขอรับ ข้าจะไปรายงานเดี๋ยวนี้

คนเฝ้าประตูคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปแจ้ง ส่วนอีกคนก็ยืนเฝ้าอยู่ที่เดิม พอรู้ว่าสาวงามตรงหน้าคือเจ้าสำนักเหมันต์พิสุทธิ์ก็ไม่กล้ามองตรงๆอีกเลย

สักพักก็มีคนรีบวิ่งออกมา

??: ตอนนี้ท่านเจ้าสำนักไม่อยู่ขอรับ แต่ถ้ารอได้ก็ได้โปรดเชิญเข้ามา

เหม่ยเจียง: ข้ารอได้

พูดแล้วก็ถูกนำทางเข้าไปในสำนัก พื้นที่กว้างใหญ่สมเป็นสำนักมหาอำนาจ ลานฝึกกว้างขวางทั้งยังกินอาณาเขตภูเขาทั้งลูก

กุ้ยตาน: โอ้ โฮๆๆ ท่านเจ้าสำนักเจียง ข้าจะรับช่วงต่อเอง

คนที่เข้ามาทักทายคือกุ้ยตาน เป็นศิษย์นอกสำนักที่ไร้พรสวรรค์ เนื่องจากอายุมากแล้วจึงมีสถานะอันต่ำต้อย เป็นได้เพียงขี้ข้าในสำนัก

เหม่ยเจียงพยักหน้าแล้วเดินตามชายแก่ไป ทว่าชายแก่กุ้ยตานก็เข้ามาโอบเอวเดินไปพร้อมกัน แม้การปฏิบัติจะน่าแปลกใจแต่เหม่ยเจียงก็ไม่คิดมาก

กุ้ยตานพาเดินไปทั่วสำนักอย่างช้าๆ มือที่โอบเอวก็เริ่มลามขึ้นมาถึงหน้าอก ทั้งยังบีบขยำหน้าอกราวกับของเล่น บางครั้งยังขยี้หัวนมบิดไปมา

กุ้ยตาน: ท่านเจ้าสำนักหยางมีธุระด่วน คงอีกสักสองสามวันถึงจะกลับมา ท่านเจ้าสำนักเจียงคงต้องค้างคืนที่นี่นะขอรับ

เหม่ยเจียง: ข้ารอได้

กุ้ยตาน: คือว่า..

เหม่ยเจียง: ข้ารู้ เจ้าพูดออกมาเถิด

ที่จริงแล้ว เหม่ยเจียงกับเจ้าสำนักเมฆาหยางตงเฉินเคยมีปัญหากันมาก่อน เหม่ยเจียงรู้อยู่แล้วว่าการเข้ามาเหยียบที่นี่ต้องไม่ง่ายเช่นนี้ จากการสังเกตขี้ข้าที่กำลังขยำหน้าอกของเธอก็บอกได้เลยว่าถูกสั่งมา

กุ้ยตาน: คือว่าระหว่างสองสามวันที่ท่านอยู่ที่นี่ สถานะของท่านอาจจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถ้าหากท่านไม่เต็มใจก็เชิญกลับไปได้เลยนะขอรับ

ขี้ข้ากุ้ยตานพูดอย่างระมัดระวัง แม้จะถูกสั่งมาแต่ก็กลัวตายอยู่ดี ถ้าอีกฝ่ายเกิดคลั่งเขานี่แหละที่จะตายเป็นคนแรก

เหม่ยเจียง: ไม่ต้องอ้อมค้อม ข้าจะรอจนกว่าเจ้าสำนักหยางตงเฉินจะออกมา!

กุ้ยตาน: อึก.. หากท่านยืนกรานเช่นนั้นข้าก็จะบอกตรงๆ.. ท่านเจ้าสำนักจะมีสถานะเป็นทาสร่านควยขอรับ

กุ้ยตานใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ ไม่รู้ว่าตนจะตายตอนไหนอาจจะตายเพราะหัวใจวายก็เป็นได้ เป็นถึงเจ้าสำนักจะมาตกลงเป็นทาสร่านควยได้ยังไง

เหม่ยเจียง: จงบอกหน้าที่ของทาสร่านควยให้ข้าฟัง

!!

กุ้ยตาน: วะว่ายังไงนะขอรับ

เหม่ยเจียง: สถานะของข้าคือทาสร่านควย ข้าต้องรู้ว่าข้าต้องทำอะไรบ้าง

กุ้ยตาน: อึก.. ท่านตกลง! ได้ขอรับ เอ่ออ.. ทาสร่านควยมีหน้าที่ใช้ร่างกายเป็นที่ระบายความเงี่ยนให้คนในสำนัก ต้องทำตัวร่านๆยั่วให้ควยเย็ดให้มากที่สุด ทั้งท่าทางและคำพูดต้องร่านควยตลอดเวลา

เหม่ยเจียงพยักหน้าก่อนที่ท่าทางจะเปลี่ยนไป ใบหน้าที่แสนงดงามเย็นชากลายเป็นร่านลามกในทันที การยืนก็ไม่สง่างามเช่นแต่ก่อน ขาที่ยืนก็อ้ากว้างทั้งยังแอ่นหีไปมาอย่างร่านๆ

เหม่ยเจียง: ท่านกุ้ยตาน กรุณาใช้หีร่านควยของข้าด้วยเถอะ หีของข้าต้องการควยของท่านกุ้ยตาย กรุณาเย็ดแตกในข้าที

กุ้ยตาน: ทะ ทะ ท่านเจ้าสำนัก..

เหม่ยเจียง: ไม่ ตอนนี้ข้าคือทาสร่านควย กรุณาใช้ร่างกายของข้าระบายความเงี่ยนได้ตามสบายเลยค่ะ หน้าอกร่านๆของข้ามีไว้ยั่วควย หีของข้าก็มีไว้เก็บน้ำควย ข้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

กุ้ยตาน: ไม่ไหวแล้ว! นอนลง ข้าจะใช้ร่างกายยั่วควยของเจ้าเดี๋ยวนี้!

เหม่ยเจียง: มาเลยค่ะ ยัดควยเข้ามาเลย~

..

..

เหม่ยฮวากับลูกศิษย์ที่ติดตามมาด้วยแยกย้ายกันไปพักผ่อน ซึ่งแต่ละคนถูกชายฉกรรจ์เข้ามาลวนลาม และจบลงด้วยการพาขึ้นห้อง ค่ำคืนนั้นเสียงเตียงดังเป็นจังหวะจากหลายๆที่ เหม่ยฮวาก็เช่นกัน

เช้าวันต่อมา

เหม่ยฮวาลืมตาตื่นผลักชายตัวอ้วนจนกลิ้งตกเตียง สภาพของเธอเต็มไปด้วยน้ำควยและน้ำลาย เธอจึงใช้เคล็ดเหมันต์ชำระล้าง ทันใดนั้นร่างกายก็กลับมาสะอาดตามเดิม

เมื่อวานได้นัดหมายกับเหล่าลูกศิษย์เอาไว้แล้ว จึงมารวมตัวกันที่โรงเตี๊ยม รวมเหม่ยฮวาด้วยก็มีทั้งหมด 5 คน

เหม่ยฮวา: ระหว่างรอท่านเจ้าสำนัก ใครมีความคิดอะไรบ้าง

เหวินจาง: ท่านอาจารย์ ที่นอกเมืองอาจจะมีสมุนไพรหายากที่สำนักเราไม่มีค่ะ

เหวินเจิ้ง: ท่านอาจารย์ ในเมืองอาจจะมีด้วยก็ได้ค่ะ

เพ่ยหนิง: ข้าได้ยินข่าวลือว่ามีสถานที่ๆผู้หญิงใช้หาเงินได้ค่ะ

เหม่ยหง: เพ่ยหนิง! สถานที่นั้นคงใช้ร่างกายแลกเงินสินะ ข้าว่าพวกเราไม่ควรไปที่แห่งนั้น

เพ่ยหนิง: แต่เมื่อคืนข้าถูกพาไปที่นั่น ดูสิข้าได้เงินมาเยอะเลย

เหม่ยฮวา: หนิงเอ๋อ นี่เจ้าใช้ร่างกายแลกเงินมากี่คน?

เพ่ยหนิง: ขะข้าจำไม่ได้ท่านอาจารย์ ข้าถูกมัดแล้วก็มีคนต่อคิวมาเย็ดข้าทั้งคืน

ทุกคนส่ายหน้าเหนื่อยใจ

เหม่ยฮวา: ข้าได้ข้อสรุปแล้ว พวกเราจะออกเดินทางไปนอกเมือง ข้าได้ยินมาว่ามีป่าพงไพรอยู่ใกล้ๆ มีสมุนไพรบางชนิดที่ข้าตามหาอยู่

..

..

ณ เมืองไป๋

เหตุที่ไป๋หลินไม่ได้ติดตามท่านเจ้าสำนักไปด้วยเพราะตระกูลเรียกให้เธอกลับบ้านชั่วคราว ตอนนี้รถม้าที่ส่งมารับก็ได้เดินทางมาถึงเมืองไป๋เป็นที่เรียบร้อย

ตงฟู่: คุณหนูรอง

ข้ารับใช้ออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ตงฟู่คือข้ารับใช้ที่ดูแลไป๋หลินมาตั้งแต่เด็กๆ

ไป๋หลิน: ท่านตา

แล้วไป๋หลินก็มักจะเรียกอีกฝ่ายด้วยความเคารพ ทว่าร่างกายที่ไม่มีสิ่งใดปกปิดทำให้ตงฟู่ถึงกับหลบสายตา เพราะควยของเขาดันแข็งตัวซะได้

ไม่แปลกที่เป็นเช่นนั้น ในเมืองไป๋แห่งนี้ คุณหนูรองแห่งตระกูลไป๋ถือว่างดงามเป็นอันดับหนึ่ง ไม่อาจมีใครคัดค้านได้

เมื่อเดินเข้าตระกูลได้ไม่นานก็เกิดลมแรงพร้อมเสียงที่คุ้นเคย ชายคนหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าไป๋หลิน

ไป๋หลง: หลินเอ๋อ เจ้าเป็นยังไงบ้าง

ไป๋หลิน: ท่านพี่ ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ

ตงฟู่: เข้าไปคุยข้างในกันเถอะขอรับ

ทั้งสามคนจึงเข้าไปในตระกูล ในห้องโถงมีผู้อาวุโสนั่งนั่งเรียงอยู่สองข้าง และตรงกลางมีผู้นำตระกูลนั่งอยู่

ไป๋หลิน: ไป๋หลินขอคราวะท่านผู้นำตระกูล

ผู้นำตระกูล: ที่ข้าเรียกเจ้ามาเพราะไป๋หลงเป็นห่วงเจ้า และข้าต้องจัดการกับปัญหาที่ตามมาอีก

ไป๋หลิน: ข้าขออภัยที่ทำให้ตระกูลลำบากค่ะ

ผู้อาวุโส: เจ้ารู้ตัวก็ดีแล้ว!

ผู้นำตระกูลยกมือห้ามปราม ไป๋หลงที่อยู่ข้างหลังก็หันไปมองอาวุโสคนนั้นอย่างไม่พอใจ

ผู้นำตระกูล: เรื่องที่เจ้ามีอะไรกับหู่จงอี้แพร่กระจายไปทั่วเมืองแล้ว ผู้คนพูดถึงตระกูลของเราเสียๆหายๆ ดังนั้นเจ้าต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา

ไป๋หลง: ท่านผู้นำตระกูล ข้าจะเป็นคนไปฆ่ามันเอง โปรดอนุญาตด้วยเถิด

ผู้นำตระกูล: ไม่ได้ ตระกูลหู่มีอิทธิพลกว้างขวางไม่แพ้ตระกูลของเรา เจ้าอยากให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดงั้นรึ

ไป๋หลง: แต่มันทำกับน้องหลิน..

ผู้นำตระกูล: เจ้าพอเถอะ ข้าได้คิดมาดีแล้ว ทางออกเดียวคือให้ไป๋หลินแต่งเข้าตระกูลหู่

ไป๋หลง: ไม่นะขอรับ ท่านผู้นำโปรดคิดใหม่ด้วย โปรดคิดใหม่ด้วยขอรับ

ไป๋หลิน: ไม่เป็นไรท่านพี่ ข้าละทิ้งความอายได้บ้างแล้ว ไม่มีใครทำร้ายข้าได้แล้วค่ะ ข้าก็แค่แต่งงานแล้วกลับไปฝึกที่สำนัก

ผู้อาวุโส: ฮ่าๆๆ เด็กดี

ผู้นำตระกูล: ถ้าตัดสินใจได้แล้ว ไป๋หลินจงเดินทางไปตระกูลหู่เพื่อเจรจาเรื่องการแต่งงาน ให้ไปคนเดียวเพราะเป็นเงื่อนไขของทางนั้น

ไป๋หลินคำนับด้วยความเคารพก่อนจะหันหลังเดินออกไป อาจารย์สอนว่าเคล็ดเหมันต์พิสุทธิ์ต้องละทิ้งความอายไปให้ได้เธอใกล้จะถึงขั้นนั้นแล้ว แม้จะยังหลงเหลือความอับอายอยู่ก็ตาม

ณ ตระกูลหู่

ไป๋หลินถูกนำไปยังห้องโถงตระกูลหู่ ภายในห้องมีผู้อาวุโสหลายคน ผู้นำตระกูลหู่เฉิน อาจารย์ใหญ่สำนักพยัคฆ์หู่ฉี และหู่จงอี้

ไป๋หลิน: คราวะท่านผู้นำตะกูลหู่

หู่เฉิน: การที่เจ้าเดินทางมาคนเดียว แสดงว่าตัดสินใจได้แล้วรึ

ไป๋หลิน: ข้าตัดสินใจแต่งเข้าตระกูลหู่ค่ะ

หู่เฉิน: หู่จงอี้ ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าไม่ต้องการให้ไป๋หลินเป็นเมียงั้นรึ

หู่จงอี้: ขอรับท่านผู้นำตระกูล ข้าไม่ต้องการให้ไป๋หลินเป็นเมีย แต่ข้าต้องการให้เป็นแค่รูเย็ดเท่านั้น

หู่เฉิน: เจ้าได้ยินใช่มั้ย หากเจ้าแต่งเข้าตระกูล จะแต่งเข้าในฐานะรูเย็ด

ทุกคนได้ยินก็ยกมือปิดปากกลั้นขำ เป็นการรังแกตระกูลไป๋ที่ดีเกินคาด มีที่ไหนส่งลูกสาวไปเป็นรูเย็ด

ไป๋หลิน: ข้ายอมรับค่ะ ขอแค่ได้แต่งเข้าตระกูลหู่ จะให้ข้าเป็นอะไรก็ยอม

หู่จงอี้: เจ้ามั่นใจนะ รูเย็ดต้องคอยยั่วให้ข้าเย็ดตลอดเวลา ตอนเย็ดก็ต้องเต็มที่ห้ามเย็นชาใส่ข้า

ไป๋หลิน: ค่ะ ข้าจะปฏิบัติตามนั้น

หู่เฉิน: ฮ่าๆๆ ดี จงประกาศออกไป งานแต่งจะเริ่มจัดในวันพรุ่งนี้ และอย่าลืมประกาศหน้าที่ของรูเย็ดด้วยล่ะ ฮ่าๆๆ

ผู้นำตระกูลหู่สะใจอย่างมาก นี่มันราวกับการตบหน้าตระกูลไป๋ชัดๆ ทุกคนหัวเราะชอบใจ ไป๋หลินเองก็โล่งใจที่ผ่านไปด้วยดี

..

..

ณ สำนักเมฆา

เหม่ยเจียง: อาาห์~ ข้าคือทาสร่านควย ดูหีของข้าสิ ข้าเต้นส่ายหีแบบนี้ชอบมั้ย กรุณาดูแล้วเย็ดข้าด้วยนะ หีของข้ามีไว้ระบายความเงี่ยนเก็บน้ำควย~

เหม่ยเจียงอยู่ในสำนักเมฆาในสถานะทาสร่านควย ตอนนี้จึงกำลังทำหน้าที่นั้นอยู่ และตรงหน้าก็มีศิษย์นอกสำนักนั่งมองอยู่

??: นั่นใช่เจ้าสำนักเหมันต์พิสุทธิ์จริงๆรึ

เหม่ยเจียง: ข้าเหม่ยเจียงเป็นเจ้าสำนักจริงๆค่ะ แต่ตอนนี้ข้าเป็นทาสร่านควย กรุณาใช้ร่างกายของข้าไม่ว่าจะปาก รูหี รูดตูด ระบายความเงี่ยนได้ตามสบายเลยค่า


===========================================
===========================================



เหวินหรง (หลุดโลก)
—---------------------

ณ ยุทธจักรที่ผู้ที่แข็งแกร่งเป็นใหญ่ ถูกปกครองด้วยตระกูลผู้มีอำนาจตามแต่ละพื้นที่ สำนักที่มีอำนาจก็เริ่มผูกขาดหลายๆสิ่ง ตระกูลจึงจำเป็นต้องเข้าร่วม จนกลายเป็นการส่งเสริมอำนาจของกันและกัน

ณ เมืองเหวิน

ตระกูลเจ้าเมืองที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น เหวินหรงเป็นเจ้าเมืองคนปัจจุบัน แม้จะเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยถูกยอมรับในสมัยนี้ ทว่าด้วยกำลังภายในกับเคล็ดวิชาที่ไม่มีใครเทียบเคียง ทำให้เสียงบ่นเงียบไป

ในเมืองเหวินก็มีตระกูลน้อยใหญ่มากมาย และตระกูลหู่ก็มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุเพราะเป็นน้ำใต้ศอกของสำนักงูเห่าทำให้ไม่มีใครกล้าต่อต้าน

ด้วยเหตุนี้เองนายน้อยตระกูลหู่ หู่ตงฟาน ได้ทำตามอำเภอใจเพราะทุกคนเกรงกลัวตระกูลหู่ของเขา หรือพูดให้ถูกก็คือเกรงกลัวสำนักงูเห่านั่นเอง

เวลาไปไหนมาไหนหู่ตงฟานมักจะมีสาวงามอยู่ข้างกายสองคน สาวงามทั้งสองแม้ไม่เต็มใจแต่ก็ต่อต้านไม่ได้ รสนิยมของหู่ตงฟานก็แสนจะน่ารังเกลียด สั่งให้พวกนางแก้ผ้าล่อนจ้อน คอยซบกอดหู่ตงฟานตลอดเวลา

??: เจ้าหมูตอนนั่นเอาอีกแล้ว คราวนี้เป็นสาวงามตระกูลไหนกัน

??: เห้ย ชู่วๆ เบาๆหน่อยเดี๋ยวมันก็ได้ยินหรอก

??: เออๆข้ารู้ ใครจะไม่ระวังกัน ในเมืองนี้ไม่ตระกูลเหวินก็ตระกูลหู่นี่ล่ะที่ไม่ควรหาเรื่องด้วย

ชาวบ้านในเมืองต่างแอบกระซิบนินทา หู่ตงฟานกอดสาวงามร่างเปลือยไว้สองข้าง ด้วยร่างกายที่อวบอ้วนทำให้สาวงามโอบกอดเต็มแขนก็ยังไม่พอ จึงต้องใช้สองคน

หู่ตงฟาน: เจ้าตรงนั้น มาหาข้าสิ้

ขณะเดินก็สาดสายตาไปพบหญิงสาวคนหนึ่งจึงสั่งให้อีกฝ่ายมาหาทันที หญิงสาวตัวสั่นด้วยความกลัว หน้าตางดงามพอใช้ รูปร่างผอมบางตัวเล็ก

หู่ตงฟาน: แก้ผ้าออกให้หมด ข้าอยากดูเรือนร่างของเจ้า

หญิงสาวที่ถูกเรียกรนรานมองซ้ายมองขวาเจอแต่สายตาที่มองมา ไม่มีใครช่วยเธอได้ จึงใช้มือสั่นๆถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น กระทั่งร่างเปลือยเปล่าอีกร่างปรากฏสู่สายตาของทุกคน

หญิงสาวขยะแขยงสายตาที่มองมา แต่ก็กลัวตระกูลหู่จนไม่กล้าต่อน้าน แขนที่ยกมาปิดก็เอาออกพลางหันหน้าหลบตาให้มากที่สุด เพราะเธออายจนไม่กล้าสบตาใคร

หู่ตงฟาน: ฮิๆๆ นมเล็กไปหน่อยแต่โดยรวมถือว่างดงาม วันนี้เจ้าไม่ต้องใส่เสื้อผ้าอีก มีของดีจะเก็บไว้ทำไม จริงมั้ย?

??: ค.. ค่ะ ข้าเห็นด้วย

หู่ตงฟาน: ฮิๆๆ ดีมาก เจ้าไปได้

หญิงสาวรีบเดินออกจากตรงนั้นทันที ไม่กล้าแม้แต่จะก้มไปเก็บเสื้อผ้าที่ถอดทิ้งไว้ วันนี้เธอต้องใช้ชีวิตแบบเปลือยๆ แค่คิดก็อายจนไม่กล้ามองหน้าใครแล้ว

หู่ตงฟานเดินไปต่อ หญิงสาวในเมืองต่างหลบให้พ้นสายตา ผู้คนโดยรอบจึงเหลือแต่ผู้ชาย สาวงามข้างกายหู่ตงฟานก็ยิ่งอาย เพราะเดินไปไหนก็มีแต่ผู้ชายมองมา

ทว่าอยู่ๆก็เกิดพายุสีชมพู ภายในพายุเต็มไปด้ยดอกไม้หลากสี ทุกคนทราบดีว่าเคล็ดวิชานี้เป็นของใคร ท่านเจ้าเมืองเหวินหรงจึงปรากฏตัวท่ามกลางพายุนั่น

เหวินหรง: นี่เจ้าก่อความวุ่นวายในเมืองของข้าอีกแล้วรึ

หู่ตงฟาน: ท่านเจ้าเมือง ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะขอรับ พวกนางสมัครใจที่จะทำเอง ข้าไม่ได้ทำร้ายใครสักหน่อย

ด้วยอิทธิพลของตระกูลหู่ทำให้หู่ตงฟานกล้าต่อปากต่อคำ สายตาที่มองเหวินหรงก็โลมเลียไม่เกรงใจ เหวินหรงที่ฝึกวิชาชั้นสูงจึงมีร่างกายที่ไม่แก่ ราวกับหญิงสาวอายุ 30 ต้นๆเท่านั้น ไม่แปลกที่จะถูกมองอย่างหื่นๆ

เหวินหรง: คิดว่าข้าเกรงกลัวสำนักงูเห่างั้นรึ ที่ข้าไม่ทำอะไรเพราะไม่อยากให้มีการนเลือดเกิดขึ้น

ท่านเจ้าเมืองหรี่ตา ใบหน้าสวยคมของเธอมีประกายอำมหิตออกมาจากสายตา หู่ตงฟานถึงกับขาสั่น กอดสาวงามข้างกายแน่นเพื่อบรรเทาความกลัว

หู่หลง: ท่านเจ้าเมือง ท่านกำลังทำลูกชายข้ากลัวนะ ฮ่าๆๆ

เหวินหรง: หู่หลง? เจ้ามาทำอะไรที่นี่

ชายที่เดินเข้ามาคือผู้นำตระกูลหู่คนปัจจุบัน หู่หลง เป็นชายตัวผอมสูงมีใบหน้าที่เจ้าเล่ห์ รอยยิ้มที่แสดงออกมาไม่มีความจริงใจแม้แต่นิดเดียว

หู่หลง: ฮ่าๆๆ ข้าก็แค่ผ่านมา และบังเอิญมาเจอท่านกำลังข่มขู่ลูกชายข้าก็เท่านั้น

เหวินหรง: เจ้าเล่ห์นักนะ

หู่หลง: ฮ่าๆ ท่านไม่เชื่อข้าสินะ ไม่เป็นไร เรื่องที่เจ้าลูกชายของข้าก่อความวุ่นวายต้องขออภัยด้วย เขาเป็นพวกขาดผู้หญิงไม่ได้น่ะ

เหวินหรงหรี่ตามองอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะมาไม้ไหนอีก

หู่หลง: เพื่อเป็นการไถ่โทษข้าจะมอบสิ่งนี้ให้ท่าน มันคือผงเกล็ดหิมะ สรรพคุณคงทราบดี มันจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้งดงามไปอีกสิบปี

เหวินหรงทราบดีถึงความล้ำค่าของมัน และของขวัญชิ้นนี้เธอไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะเธอตามหามันมานานแล้ว เหตุการณ์ในวันนี้จึงจบลงด้วยดี

เหวินหรง: ถ้าเจ้าพูดเช่นนั้น ข้าจะขอรับไว้

เหวินหรงรับของเสร็จก็หายไปพร้อมกับพายุดอกไม้หลากสี หู่หลงยังคงยิ้มเช่นเดิมไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่

ในคืนวันนั้น

เหวินหรงได้ส่งผงเกล็ดหิมะให้นักโอสถตรวจสอบ ผลก็คือเป็นผงเกล็ดหิมะของแท้ คืนนี้จึงเริ่มใช้กับตัวเองทันที

เหวินหรงเตรียมอ่างน้ำใต้แสงจันทร์ เพื่อให้ผลของมันดีขึ้นจึงต้องใช้แสงจันทร์ช่วย ตอนนี้อ่างได้ถูกวางไว้ที่ลานหน้าปราสาท เพราะเป็นที่เดียวที่ไม่มีสิ่งใดบดบังแสงจันทร์

ทุกคนในปราสาทเจ้าเมืองห้ามเข้ามาในที่แห่งนี้ คำสั่งถูกกระจายออกไปทั่ว เหวินหรงเทผงเกล็ดหิมะลงไปในอ่างน้ำ ทันทีที่ผงละลาย น้ำก็ใสขึ้นอีกระดับ จนคิดว่าในอ่างไม่มีน้ำเหลือแล้ว

เหวินหรงถอดเสื้อผ้าเผยร่างเปลือยภายใต้แสงจันทร์ ก่อนจะลงไปแช่ในอ่างน้ำ ด้วยความใสของน้ำทำให้ได้เห็นหน้าอกทรงโตที่ยังเต่นตึง หัวนมยังคงมีสีชมพู แคมหีเปิดออกเล็กน้อย เห็นติ่งแตดสีชมพูอยู่ภายใน

ผลของผงเกล็ดหิมะช่วยบำรุงผิวพรรณอย่างสุดยอด เหวินหรงรู้สึกได้ ความสบายตัวได้ทำให้เธอหลับไป

..

เช้าวันต่อมา

เหวินหรงลุกออกจากอ่างที่แห้งเผือด ร่างกายของเธอซึมซับผลเกล็ดหิมะไปจนหมดแล้ว เมื่อลองสำรวจร่างกายก็พบว่าผิวพรรณดูเปล่งประกาย ใบหน้าก็ดูเด็กลงจนรู้สึกพึงพอใจ

ทว่าก็มีบางอย่างที่เป็นปัญหา ร่างกายของเธอไวต่อความรู้สึกมากขึ้น หัวนมสีชมพูเม็ดใหญ่ขึ้นตั้งชูชันตลอดเวลา ติ่งแตดก็ยิ่งออกมาโดนผ้า แคมหีที่อ้าเล็กน้อยก็อ้าจนเผยแคมหีชั้นในออกมาทั้งหมด

เหวินหรงคิดว่าเป็นผลข้างเคียงเล็กๆน้อยๆจึงไม่ได้สนใจ เธอสวมใส่ชุดตามปกติ ทว่าหัวนมกับติ่งแตดมันสัมผัสโดนเนื้อผ้าจนเสียวไปหมด เธอได้แต่อดทนและหวังว่ามันจะดีขึ้นเอง

ตอนนั้นเองที่ผู้นำตระกูลหู่มาขอเข้าพบ เหวินหรงกับหู่หลงจึงนั่งกันอยู่ในห้องรับรอง หู่หลงดูใจเย็นยกชาขึ้นมาดื่ม แต่เหวินหรงกลับนั่งเกร็งเพราะกำลังทนเสียวจากหัวนมกับติ่งแตด

หู่หลง: ข้าไม่สบายใจจึงเดินทางมาขอโทษท่านเจ้าเมืองอีกครั้งน่ะขอรับ

เหวินหรง: ข้าไม่ได้เก็บมาคิดแล้ว เจ้าสบายใจได้

เหงินหรงยังคงพึงพอใจกับผลของผงเกล็ดหิมะ ที่ทำให้ผิวพรรณเปล่งประกายทั้งยังทำให้เธออ่อนวัยลง แม้จะมีผลข้างเคียงที่น่าอึดอัดแต่คงโทษหู่หลงไม่ได้

หู่หลง: ท่านเจ้าเมืองสีหน้าไม่ค่อยดี ท่านเป็นอะไรหรือไม่

เหวินหรง: ข้าไม่เป็นอะไร

หู่หลง: หากท่านไม่เป็นอะไรก็ดี ข้าคงกังวลไปเอง แม้ว่าจะหาได้ยากแต่ก็มีคนที่ใช้ผงเกล็ดหิมะแล้วได้รับผลข้างเคียงร้ายแรง

เหวินหรง: ผลข้างเคียงแบบไหนงั้นรึ

หู่หลง: จุดเสียวทั่วร่างถูกกระตุ้น หากปล่อยไว้ร่างกายจะทรุดโทรมลงเรื่อยๆ นักปรุงโอสถทราบดีถึงผลข้างเคียง แต่โอกาสเกิดก็เพียงเล็กน้อยจึงไม่ได้กล่าวเตือนผู้ที่ใช้

เหวินหรง: แล้วมีทางรักษาหรือไม่

หู่หลง: ท่านคงต้องถามนักปรุงโอสถของท่าน ข้าเป็นเพียงคนธรรมดาจะไปรู้ได้ยังไง

หู่หลงยังคงใบหน้าเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มก็ทำให้เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ ทั้งสองคุยกันต่ออีกสักพักก่อนที่อีกฝ่ายจะกลับไป

เหวินหรงเรียกหัวหน้านักปรุงยา หย่งฟู เข้าพบ เขาเป็นชายแก่ผู้มากวิชาไว้หนวดเครายาวแต่งเครื่องแบบนักปรุงโอสถขั้นสูง

หย่งฟู: ท่านเจ้าเมืองเรียกข้าหาหรือขอรับ

เหวินหรง: ข้ามีเรื่องจะถามเกี่ยวกับผงเกล็ดหิมะสักเล็กน้อย

ตอนนั้นเองที่หย่งฟูตัวสั่นสะท้าน หน้าตาเริ่มบิดเบี้ยวไปด้วยความกังวล โชคดีที่เขายังคงก้มหน้าอีกฝ่ายจึงไม่สังเกตเห็น

หย่งฟู: ม.. มีอะไรจะถามข้าหรือ ข้าไม่รู้ไม่เกี่ยวด้วยนะขอรับ

เหวินหรง: ท่านหย่งฟูไม่รู้งั้นรึ ข้าคิดว่าตัวเองได้รับผลข้างเคียงจากมัน หากท่านไม่ทราบวิธีแก้ก็ไม่เป็นไร

หย่งฟูชะงักเงยหน้าที่เต็มไปด้วยเหงืออย่างโล่งใจ คิดว่าท่านเจ้าเมืองจะรู้อะไรเสียอีก พอได้รู้แบบนั้น สีหน้าก็กลับมาเป็นปกติ

หย่งฟู: เรื่องผลข้างเคียงหรือขอรับ ข้าไม่ทราบวิธีแก้จริงๆ แต่ข้ารู้จักคนที่รักษามันได้ เขามีฉายาว่าเฒ่าอัปปรี เป็นนักปรุงโอสถในสำนักงูเห่าขอรับ

เหวินหรง: มีคนอื่นอีกหรือไม่

เหวินหรงได้ยินชื่อเฒ่าอัปปรีก็รู้สึกรังเกลียดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากเห็นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ

หย่งฟู: ไม่มีเลยขอรับ ผลข้างเคียงจากผงเกล็ดหิมะค่อนข้างหายาก ผู้ที่รักษาได้จึงหายากตามไปด้วย

เหวินหรงไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอนั่งคิดกับตัวเอง หัวนมกับติ่งแตดก็คอยตอกย้ำอยู่เรื่อยๆ ถ้าไม่รีบรักษาอาจจะเป็นหนักกว่านี้ก็ได้

..

..

ณ สำนักงูเห่า

ภายในห้องรับรองหู่หลงมาในฐานะแขก ซึ่งกำลังพูดคุยกับชายแก่หัวโล้นที่ใช้แผ่นหลังของสาวเปลือยแทนที่นั่ง

หู่หลง: หย่งฟูคงไม่ทำให้ข้าผิดหวังแน่นอนขอรับ ข้ามองคนไม่เคยผิด

เฒ่าอัปปรี: งั้นหรอกรึ ฮ่าๆๆ โอสถที่ข้าทำก็ไร้ที่ติ คนธรรมดาไม่มีทางรู้ว่ามันคือของปลอม ถ้าหากหย่งฟูนั่นพูดเสริมสักเล็กน้อยทุกอย่างคงราบรื่น

หู่หลง: เป็นไปตามนั้นขอรับ

เฒ่าอัปปรี: แผนของเจ้าช่างเจ้าเล่ห์เสียจริง ตอนแรกข้ายอมรับเลยว่าไม่เชื่อ จะทำยังไงให้เหวินหรงของข้ามาเสนอตัวให้ข้าด้วยตัวเอง ฮ่าๆๆ

หู่หลง: ท่านเฒ่า ข้าซาบซึ้งที่ท่านให้โอกาสแก่ข้า

??: เจ้าเมืองเหวินหรงเดินทางมาถึงแล้วขอรับ

ศิษย์ในสำนักงูเห่าเข้ามารายงาน เฒ่าอัปปรีตาลุกวาวหันไปยิ้มให้กับหู่หลง

เฒ่าอัปปรี: พานางมาพบข้า

หู่หลง: ถ้างั้นข้าต้องขอตัวก่อน

เฒ่าอัปปรี: ตามสัญญา ข้าจะช่วยสนับสนุนตระกูลของเจ้าเอง

หู่หลง: ท่านช่างมีน้ำใจยิ่งนัก

..

..

เหวินหรงเดินทางมาถึงสำนักงูเห่าตามลำพัง เพราะไม่อยากให้ใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ชื่อเสียงของเธอคงป่นปี้แน่ๆถ้ามีคนรู้ว่าเธอมาเกี่ยวข้องกับเฒ่าอัปปรี

เฒ่าอัปปรี: โอ้ว เหวินหรงของข้า ในที่สุดก็มาหาข้าสักที ยอมรับรักของข้าแล้วใช่หรือไม่ ไม่ต้องอายหรอก มาจูบข้าสิ

เฒ่าอัปปรีทำท่าทางหื่นๆต่อหน้าเหวินหรง นี่คือต้นตอของฉายาเฒ่าอัปปรี ไม่ใช่แค่กับเธอ หญิงสาวทุกคนก็ถูกกระทำเช่นนี้

แต่ที่เหวินหรงยังรอดพ้นเงื่อมมือมาได้เพราะกำลังภายในของเธอสูงส่ง สำนักงูเห่าอาจไม่ใช่คู่มือของเธอด้วยซ้ำ แต่วันนี้เธอต้องมาพึ่งตาเฒ่าอัปปรีในการรักษา

เหวินหรง: ท่านรู้วิธีรักษาผลข้างเคียงของผงเกล็ดหิมะหรือไม่

เฒ่าอัปปรี: โอ้วๆ เจ้าคงได้รับผลข้างเคียงจากมันสินะ ถึงว่าหัวนมของเจ้ามันดันชุดขึ้นมาเช่นนั้น

เหวินหรงหน้าแดงรีบก้มไปมอง พบว่ามีรอยนูนหัวนมขึ้นมาจริงๆแต่ก็เป็นจุดที่เล็กมากๆ นี่มันสื่อถึงความน่ารังเกลียดของมันที่สังเกตเห็น

เฒ่าอัปปรี: ข้าต้องขอตรวจดูก่อนถึงบอกได้ เพราะผลข้างเคียงก็หลายแบบ

อยู่ๆเฒ่าอัปปรีก็ดูจริงจังขึ้นมา เป็นบุคคลที่คาดเดายากจริงๆ เหวินหรงที่ต้องการจะหายจึงตกลง

เฒ่าอัปปรีเดินนำไปยังห้องรักษา ในห้องมีเตียงไม้อยู่หนึ่งเตียง โต๊ะที่มีเครื่องมือต่างๆ ชั้นวางของที่เต็มไปด้วยสมุนไพร รอบๆห้องเป็นหน้าต่างที่อากาศถ่ายเทสะดวก ทว่าก็เป็นจุดที่แย่ เพราะคนที่เดินผ่านสามารถมองเห็นในห้องได้

เฒ่าอัปปรี: แก้ผ้าแล้วขึ้นไปยืนบนโต๊ะ ข้าจะขอดูอาการสักหน่อย

เหวินหรง: หึ? ข้าไม่ทำได้หรือไม่

เฒ่าอัปปรี: หากเจ้าไม่อยากให้ข้าตรวจก็เชิญกลับไป ในทวีปนี้คงหาคนที่รักษาได้ยากหน่อยนะ ฮิๆๆ

เหวินหรง: หึ!

เหวินหรงไม่มีทางเลือก เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องออกทีละชิ้น รอบๆห้องก็เริ่มมีซิษย์ในสำนักมายืนดูห่างๆ คนที่ฝึกกำลังภายในมักจะมีสายตาที่กว้างไกล จึงไม่ได้มามุงดูใกล้ๆ

เหวินหรงขึ้นไปยืนบนเตียงไม้ ความสูงทำให้เธอเด่นอยู่กลางห้อง มองไปรอบๆห้องก็มีแต่หน้าต่างที่เปิดอยู่ ข้างนอกมีศิษย์ในสำนักพากันยืนมอง

เฒ่าอัปปรี: เอามือออกข้ามองไม่เห็น

เหวินหรงกัดฟันหน้าแดงก่ำ ความอับอายปะทุขึ้นในจิตใจ มือที่พยายามเอามาปิดนมปิดหีจึงค่อยๆยกออกไปไว้ข้างลำตัว

เฒ่าอัปปรี: หัวนมยังใหญ่ไม่พอ ติ่งแตดก็ยื่นออกมานิดเดียว ส่วนแคมหีบานออกพอดีแล้ว

เหวินหรง: ที่แก.. ท่านพูดหมายความว่ายังไง

เฒ่าอัปปรี: เป็นทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย เรื่องดีคืออาการยังไม่หนัก ส่วนเรื่องร้ายคือยังรักษาไม่ได้ ต้องรอให้หัวนมกับติ่งแตดใหญ่มากกว่านี้เสียก่อน

เหวินหรง: ทำไมกัน รักษาเลยไม่ได้หรือ!

เฒ่าอัปปรี: หากทำการรักษาตอนนี้จะหายเพียงชั่วคราว และพอกลับไปเป็นอีกจะแย่ยิ่งกว่านี้ ข้าจึงรอให้ผลข้างเคียงเบ่งบานให้เต็มที่ข้าจะได้รักษาให้หายขาดได้

เหวินหรง: ถึงตอนนั้นข้าจะไม่แย่ก่อนรึ

เฒ่าอัปปรี: ข้าไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้เรื่องนี้หรือไม่ ถ้ารักษามั่วๆเจ้าจะอาการหนักกว่านี้แน่นอน

เหวินหรง: ก็ได้ ข้าจะให้ท่านรักษา

เฒ่าอัปปรี: เช่นนั้นก็นอนลง ข้าจะทาสมุนไพรให้ มันจะช่วยเร่งผลข้างเคียง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมข้าจะรักษาให้ทันที

เหวินหรงนอนลงบนเตียงไม้ด้วยท่าทีอายๆ สายตาจ้องตาเฒ่าอย่างกังวล สายตาที่ตาเฒ่ามองเธอเต็มไปด้วยความหื่น แต่ยังไงก็ต้องทนไปก่อน รักษาหายเมื่อไหร่จะไม่กลับมาอีกเป็นครั้งที่สอง

สมุนไพรถูกทำให้เป็นน้ำมันทาตัว เฒ่าอัปปรีลงน้ำมันที่หน้าท้องใช้มือชโลมไปทั่วๆ ตอนนั้นเองที่เหวินหรงรู้สึกร้อนวูบไปทั่วร่าง

เฒ่าอัปปรีชโลมน้ำมันไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย โดยเน้นไปที่หน้าอก มือขยำๆอย่างเมามันส์ ตรงแคมหีก็ลูบวนๆอยู่หลายรอบ

เหวินหรงได้แต่ถามในใจว่าอีกฝ่ายกำลังฉวยโอกาสหรือไม่ และคำตอบก็แน่ชัดว่าถูกฉวยโอกาสอยู่แน่ๆ แต่เธออยู่ในฐานะที่ต่อว่าอะไรไม่ได้ หากอีกฝ่ายไม่ยอมรักษา เธอนี่แหละคือฝ่ายที่แย่

เฒ่าอัปปรี: เอาล่ะ ลงจากเตียงได้แล้ว ข้าจะพาไปอีกที่

เหวินหรงลงจากเตียงไม้ ทั่วร่างมันวาวไปด้วยน้ำมัน ซึ่งช่วยขับเน้นเรือนเรื่องให้น่าดูชมมากขึ้น ผิวขาวราวหิมะของเธอช่างเข้ากับความมันวาวซะเหลือเกิน

เฒ่าอัปปรี: ห้ามจับร่างกายของตัวเองเด็ดขาด ข้าเป็นคนเดียวที่จับร่างกายขอเจ้าได้ เข้าใจหรือไม่?

เหวินหรง: ข้าเข้าใจ

เฒ่าอัปปรี: เอาล่ะ ข้าจะกระตุ้นร่างกายของเจ้าเป็นระยะเพื่อเร่งฤทธิ์ยา

พูดจบก็ทำยื่นมือไปจับหัวนมทั้งสองข้าง เหวินหรงตาเบิกกว้างมือเตรียมจะผลักอีกฝ่ายทว่าก็ยั้งใจได้ทัน ตอนนั้นเองที่เฒ่าอัปปรีบิดหัวนมทั้งสองข้างของเธอ

!!! อ๊าาาาห์

เหวินหรงเผลอครางออกมาจึงรีบเอามือปิดปากหยุดเสียง แต่ก็หยุดความเสียวไม่ได้อยู่ดี หัวนมถูกบิดอย่างไร้ปราณี มันเสียวจนต้องเงยหน้า ขายืนสั่นๆพร้อมหีที่เยิ้มแฉะ

เฒ่าอัปปรี: เหลือข้างล่างอีกจุด

พูดแล้วก็ปล่อยมือที่บิดหัวนม เหวินหรงถอนหายใจยาวอย่างโล่งๆ ความฟินเมื่อครู่มันคืออะไรกัน และไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกดีดไปที่ติ่งแตดอย่างแรง

อ๊ะ อ๊าาาาห์~

เหวินหรงเงยหน้าสุดตัวครางสุดเสียงจนรีบเอามือปิดปากอีกครั้ง ความเสียวครั้งนี้ทำหีเธอเสร็จอย่างรุนแรง ความเสียวนี้มันคืออะไรกัน มันคืออะไรกัน เธอได้แต่สงสัยอยู่ในใจ

เฒ่าอัปปรี: ข้าจะทำจนกว่าเจ้าจะเสร็จนะ ถ้าเสร็จก็บอกข้าด้วย

พูดจบก็บิดหัวนมอีกครั้ง ทั้งยังดีดติ่งแตดไปด้วย เหวินหรงเสร็จทันที น้ำหีพุ่งกระจายไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต

เหวินหรง: เสร็จ.. ข้าเสร็จแล้ว

เฒ่าอัปปรี: หูข้าไม่ค่อยดี ตะโกนดังๆ บอกข้าด้วยว่าตรงไหนที่เจ้าเสร็จ!

พูดจบก็บิดหัวนมดีดติ่งแตดอีกครั้ง ขาสองข้างสั่นไม่หยุดยืนอ้าขาทรงตัวแท๊บไม่อยู่จนต้องใช้มือยันเตียงด้านหลังเอาไว้

เหวินหรง: เสร็จแล้ว! หีข้า.. เสร็จแล้วว!

เหวินหรงทั้งครางทั้งตะโกนออกมาสุดเสียงอย่างสะใจ ราวกับได้ระบายความเครียดทั้งหมดในชีวิต ร่างกายก็เสียวรู้สึกฟินอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อน

เฒ่าอัปปรี: ดีมาก หากข้าตบก้นเจ้าคือสัญญาณว่าถึงเวลากระตุ้นเสียว เจ้าต้องยืนอ้าขาพร้อมยกมือผสานไว้บนหัว เข้าใจหรือไม่?

เหวินหรงที่กำลังตกอยู่ในความฟินก็ตอบรับอย่างว่าง่าย

เหวินหรง: เข้าใจค่ะ

เฒ่าอัปปรี: ดี งั้นตามข้ามา

เฒ่าอัปปรีเดินนำออกไป เหวินหรงตั้งสมาธิรวบรวมกำลังภายในมาฟื้นพลังกายก่อนจะเดินตามออกไป

ระหว่างทางเดินเต็มไปด้วยศิษย์สำนักงูเห่าที่จ้องมองมาที่เธอด้วยสายตาโลมเลีย เหวินหรงอัปยศในใจอยากยกมือยกแขนขึ้นมาปิดแต่ถูกสั่งห้ามไม่ให้โดนร่างกายของตัวเองมั่วซั่ว จึงได้แต่เดินโชว์นมโชว์หีไปทั่วสำนักเช่นนี้

เพรี๊ย!

ตอนนั้นเองที่เหวินถูกมือตีก้นอย่างแรง แต่แทนที่จะเจ็บดันเสียวขึ้นมาซะได้ และการโดนตีก้นถือเป็นสัญญาณว่าถึงเวลากระตุ้นเสียว เหวินหรงจึงยืนอ้าขายกมือผสานไว้บนหัว

ศิษย์ในสำนักต่างตาโตน้ำลายไหล หน้าอกทรงโตไร้การป้องกัน ท่ายืนก็อ้าขาโชว์หีโชว์ตูดอย่างน่าไม่อาย

เฒ่าอัปปรีฉีกยิ้ม จับหัวนมข้างหนึ่งบิดอย่างแรง แทนที่จะเจ็บเหวินหรงกลับเสียวอีกแล้ว ทั้งยังเสียวจนหลุดครางออกมา คราวนี้เธอเอามือมาปิดปากไม่ได้

มืออีกข้างก็จับไปที่แคมหีอย่างเต็มมือ เหวินหรงคิดว่าจะถูกดีดหีซะอีก แต่โดนจับแบบนี้ก็เสียวเช่นกัน ทั้งโดนลูบหีเขี่ยติ่งแตด จนขาที่ยืนอ้าส่ายไปมา บางครั้งก็กระดกหีหน้าหลังตามมืออย่างลามก

เหวินหรง: หีเสร็จแล้วค่าา~

ในที่สุดก็เสร็จ เหวินหรงเงยหน้าฟินๆตะโกนออกมาเสียงดัง เพราะถ้าบอกเบาๆอีกฝ่ายคงไม่หยุดแน่ๆ

จากนั้นก็พาเดินต่อไป ไม่ทราบว่าจะพาไปที่ไหน เหวินหรงเลิกคิดไปแล้วเพราะในหัวช่างว่างเปล่ามีเพียงความเสียวความฟินที่เข้ามาแทน

เฒ่าอัปปรีตีก้นเหวินหรงอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งก็ตีก้นในที่มีคนจำนวนมาก และการกระตุ้นเสียวก็แตกต่างกันออกไป เช่น ดีดหัวนม ขยี้ติ่งแตด ล้วงหี ล้วงตูด ดูดนม ถึงขั้นจูบปากแลกลิ้น

เหวินหรงราวกับคนติดเซ็กในหัวมีแต่เรื่องหื่นๆ ขอแค่โดนกระตุ้นเรื่อยๆก็พอ ในใจเริ่มพอใจกับสิ่งที่โดนแล้ว

..

หลายวันผ่านไป

เหวินหรงยังคงถูกรักษาแบบหลอกๆอย่างต่อเนื่อง ถูกทาสมุนไพรน้ำมันไปทั่วร่างและพาไปกระตุ้นเสียวตามที่ต่างๆในสำนัก เหวินหรงถูกมองเป็นอาหารตาประจำสำนักไปเสียแล้ว และเธอก็มัวเมาไปกับมัน บางครั้งยังแกล้งไม่บอกว่าเสร็จเพื่อให้เฒ่าอัปปรีกระตุ้นเสียวเรื่อยๆ

และการกระตุ้นเสียวก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นควักควยออกมาเย็ดเป็นที่เรียบร้อย แถมยังมีสัญญาณแบบใหม่ ถ้าเฒ่าอัปปรีงัดควยออกมาให้เหวินหรงโก้งตูดแหกหีทันที

หลายวันที่ผ่านมาเหวินหรงมัวเมาไปกับการกระตุ้นเสียว ถ้านับดีๆเธอเสร็จไปมากกว่าร้อยครั้งแล้ว ส่วนเฒ่าอัปปรีก็ได้เย็ดทั้งโลมเลียตลอดเวลาที่ต้องการ ยาสมุนไพรของเขาช่างออกฤทธิ์ดีจริงๆ

คืนวันหนึ่ง

ทุกวันที่ผ่านมาเหวินหรงพักอาศัยอยู่ในห้องข้างๆเฒ่าอัปปรี คืนนี้เป็นอีกคืนที่นอนไม่หลับ การไม่ให้แตะต้องร่างกายของตัวเองช่างเป็นคำสั่งที่โหดร้ายเสียจริง เหวินหรงอยากขยำนมบ้วงหีมากๆ ถ้าเป็นคืนอื่นเธอต้องรอคอยให้ถึงพรุ่งนี้เช้า

ทว่าคืนนี้เหวินหรงทนไม่ไหวจริงๆ เธอต้องการเสร็จอีกสักสองสามทีไม่งั้นต้องแย่แน่ๆ เหวินหรงจึงลุกเดินไปห้องข้างๆ

!!

ไม่เจอ เฒ่าอัปปรีไม่ได้อยู่ในห้อง ความหวังของเธอพังทลาย อยากโดนดูดนมอยากโดนเย็ดหรือทำอะไรก็ได้ ทุกวันที่ผ่านมามีแค่เฒ่าอัปปรีที่ทำให้เธอได้

เหวินหรงสูดหายใจแรงเดินตามหาเฒ่าอัปปรี คงอยู่แถวนี้ไม่ผิดแน่ เพราะจมูกของเธอได้กลิ่นควยที่คุ้นเคยจากไกลๆ ใช่แล้ว เธอโม็กควยให้เฒ่าอัปปรีบ่อยๆจนจำได้ ทั้งรสทั้งกลิ่น

ใกล้ถึงแล้ว ต้องเป็นห้องข้างหน้า เหวินหรงมัวแต่คิดเรื่องเงี่ยนจนไม่ได้สังเกตว่าห้องข้างหน้าคือห้องรับรองแขก

และเสียงพูดจากห้องนั้นเองที่ดึงสติเธอขึ้นมา เป็นเสียงของหู่หลงกำลังคุยกับเฒ่าอัปปรี

เฒ่าอัปปรี: ด้วยแผนของเจ้า ตอนนี้ข้าทำให้เหวินหรงเชื่องได้แล้ว ต้องขอบใจเจ้าจริงๆ ฮ่าๆๆ นี่คือยาหัวใจมังกรรับไปเถอะ

หู่หลง: ข้าทำเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว ท่านเฒ่าไม่ต้องเกรงใจนะขอรับ หากมีสิ่งใดโปรดบอกข้าคนนี้

เหวินหรงแอบมองที่หน้าต่าง เห็นหู่หลงกำลังรับกล่องยาหัวใจมังกรซึ่งมีค่าเป็นอย่างมาก และบทสนทนาเมื่อครู่ก็ทำให้เธอรู้ความจริง!

หู่หลง: ท่านเฒ่า ข้ามีเรื่องคาใจเล็กน้อย ผลข้างเคียงของผงเกล็ดหิมะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ขอรับ ข้าแค่สงสัยน่ะ ฮ่าๆ

เฒ่าอัปปรี: จะไปมีผลข้างเคียงเช่นนั้นได้อย่างไร เป็นผงที่ข้าสลัดขึ้นมาเอง มีผลกระตุ้นจุดเสียวเท่านั้น

หู่หลง: ฮ่าๆๆ ท่านเฒ่าช่างฉลาดหลักแหลม

เฒ่าอัปปรี: ตอนนี้แม่นางเหวินหรงก็เป็นของข้าแล้ว แค่ข้าควักควยออกมาก็พร้อมโก่งตูดแหกหีให้ข้าเย็ด ช่างถูกใจข้าจริงๆ ฮ่าๆๆ

เหวินที่รู้ความจริงก็ทรุดตัวลงนั่ง หัวใจเต้นตุบตัวๆ มือที่หักห้ามใจอยู่นานก็ขยับมาบีบหน้าอกของตัวเอง มืออีกข้างก็เร่งล้วงหี ความฟินนี่แหละคือสิ่งที่โหยหา เหวินหรงหลับตานึกถึงความอับอายที่ได้เจอเ เผลอคิดว่าลีลาการล้วงหีสู้เฒ่าอัปปรีไม่ได้ แต่แล้วก็เสร็จออกมา

..

..

เช้าวันต่อมา

เหวินหรงตื่นขึ้นมา ในใจยังคงสับสนและยังคงเต็มไปด้วยความเงี่ยน แม้จะรู้ความจริงไปแล้วแต่ก็คิดไปว่าขออีกแค่สองสามครั้งก็พอ ถึงตอนนั้นเธอจะจัดการกับมันให้เด็ดขาด

เฒ่าอัปปรีทำเหมือนทุกๆวัน ลงน้ำมันไปทั่วร่าง ตอนที่โดนบีบนมก็เผลอครางออกมา เหวินหรงที่รู้ว่าเธอโดนแผนชั่วหลอกมาเย็ดกลับรู้สึกสะใจขึ้นมา

เหมือนทุกๆวันที่ถูกพาไปทั่วสำนัก โดนตีก้นก็รีบโพสท่ายืนอ้าขายกมือไว้บนหัวอย่างจำนน ให้เฒ่าอัปปรีลวนลามได้ตามใจ ซึ่งเหวินหรงก็เสียวจนน้ำหีแตกร้องตะโกนว่าหีเสร็จแล้วอย่างเต็มเสียง

บางครั้งก็งัดควยออกมา เหวินหรงก็ลงไปคลานที่พื้นโก่งตูดหลังแอ่นใช้มืออ้อมมาแหวกหีทางด้านหลัง ซึ่งมักจะโดนเย็ดหีทันที บางทีก็โดนเย็ดตูด ซึงก็ฟินไม่แพ้กัน

ครั้งแล้วครั้งเล่าก็บอกกับตัวเองว่า ขออีกแค่สองสามครั้งก็จะหยุด หลังๆมานี้จำนวนครั้งก็ยิ่งเพิ่มขึ้นกลายเป็นจำนวนวัน ขอแค่อีกสามวันก็จะจัดการตาเฒ่านั่น กระทั่งล่าสุด.. ขอแค่อีกเดือน ขอโดนเย็ดอีกเดือนข้าจะจัดการท่านเฒ่าซะ

แต่แล้ววันหนึ่ง หย่งฟูก็เดินทางมายังสำนักงูเห่า เฒ่าอัปปรีจึงพาเหวินหรงมาที่ห้องรับรองด้วย

เฒ่าอัปปรี: มีธุระอะไรงั้นรึ ตาเฒ่าหย่งฟู

ในใจเฒ่าอัปปรีไม่ได้เกลียดอีกฝ่าย เพราะหย่งฟูก็ช่วยแผนการณ์ของเขา

หย่งฟู: ข้ามาตามหาท่านเจ้าเมืองขอรับ ท่านเหวินไห่ที่รักษาการณ์แทนกำลังเจอกับเรื่องลำบากใจ

เฒ่าอัปปรี: งั้นรึ เหวินหรง มีคนมาตามหาเจ้าน่ะ

เฒ่าอัปปรีก้มไปบอกแก่หญิงสาวที่ทำตัวเป็นเก้าอี้ เธอเปลือยไปทั้งร่างคลานเข่าโก่งตูดให้ตาเฒ่านั่ง ระหว่างที่นั่งก็ล้วงหีเล่นไปด้วย

หย่งฟูตื่นตระหนก ไม่คิดว่าหญิงสาวคนนั้นจะเป็นท่านเจ้าเมืองของเขา พอเฒ่าอัปปรีลุกขึ้นยืน เหวินหรงก็ลุกขึ้นตาม เผยให้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่า หน้าอกท่านเจ้าเมืองใหญ่อย่างที่คิด หัวนมสีชมพูเม็ดใหญ่ลามกสุดๆ หีโหนกแคมหีใหญ่เห็นติ่งแตดยื่นออกมาชัดเจน รูหีก็บานอ้าท้าทายสายตาเหลือเกิน หย่งฟูมองแล้วควยตั้งทันที

เหวินหรง: มีเรื่องอะไรงั้นรึ

เพรี๊ย!..  อ๊ะ!

เฒ่าอัปปรีตีก้นอย่างแรง เหวินหรงเปลี่ยนท่ายืนอย่างอัตโนมัติ กลายเป็นยืนอ้าขาแอ่นหี สองมือผสานไว้บนหัว หย่งฟูเห็นก็ยิ่งตื่นตระหนกตกใจ

ไม่ใช่แค่นั้น เฒ่าอัปปรียังโอบเอวบีบนมต่อหน้าเขา ซึ่งท่านเจ้าเมืองไม่มีท่าทีขัดขืนหรือต่อว่า ใบหน้าก็แสดงถึงความเต็มใจ เขาไม่เคยเห็นท่านเจ้าเมืองแสดงใบหน้าร่านๆแบบนี้มาก่อน

หย่งฟู: คือ.. คือว่า ท่านเหวินไห่ที่รักษาการณ์แทน เรียกท่านเหวินหรงให้กลับไปขอรับ ตอนนี้กำลังเจอกับปัญหาใหญ่

เหวินหรง: อ๊าาห์ ข้ากำลังรักษาอยู่ ข้ากลับไปไม่ได้หรอก อาาาห์

หย่งฟู: แต่ว่า..

เฒ่าอัปปรี: เหวินหรง ดูท่าเมืองของเจ้าจะเจอกับปัญหาจริงๆ แล้วอาการของเจ้าก็ดีขึ้นแล้ว ไปทำธุระสักสัปดาห์คงไม่เป็นอะไร

ตั้งหนึ่งสัปดาห์!!

เหวินหรงได้ยินแบบนั้นก็ใจหายหันไปมองเฒ่าอัปปรีด้วยสายตาอ้อนๆ อย่าว่าแต่หนึ่งสัปดาห์เลย แค่หนึ่งวันก็ขาดใจตายแล้ว ถ้าไม่มีเฒ่าอัปปรีเธออยู่ไม่ได้แน่ๆ

เหวินหรง: แม้ว่าท่านเฒ่าจะพูดแบบนั้น แต่ข้าคงกลับไปไม่ได้จริงๆ

ที่จริงแล้วเฒ่าอัปปรีกำลังลองใจเหวินหรง เพื่อดูว่าเธอติดเขาแค่ไหน จากที่สังเกตคงห่างจากเขาไม่ได้แน่ๆ ถือว่าเชื่องสุดๆไปแล้ว เมื่อถึงขั้นนี้จึงต้องเดินหน้าต่อ

เฒ่าอัปปรี: ถ้าไม่อยากให้การรักษาสะดุด งั้นข้าจะตามเจ้าไปด้วย

เหวินหรง: ถ้าเช่นนั้น ได้ค่ะ!

เหวินหรงไม่ได้คิดเรื่องอื่นนอกจากเฒ่าอัปปรี ถ้าเขาไปไหนหรือสั่งอะไรเธอเต็มใจทำทุกอย่างอยู่แล้ว การทำตามคำสั่งนั้นถือเป็นความสุขของเธอไปแล้ว

..

..

รถม้าออกวิ่งจากสำนักงูเห่าไปยังเมืองเหวินที่อยู่ไม่ไกล เดินทางไม่นานก็ไปถึง ภายในรถม้าหย่งฟูนั่งมองท่านเจ้าเมืองที่นั่งอยู่อีกฝั่ง

ตอนนี้เหวินหรงอยู่ในชุดคลุมที่ปกติจะใช้เป็นเสื้อนอกประดับด้วยลวดลายดอกไม้หลากสี หย่งฟูรู้ดีว่าภายใต้ชุดคลุมนั้นไม่มีสิ่งใดอีก ถ้าเปิดออกจะเผยร่างเปลือยเปล่าออกมาทันที

และเฒ่าอัปปรีที่นั่งอยู่ข้างๆก็กำลังกอดจูบเหวินหรงอย่างไม่เกรงใจ โดยอ้างว่าเป็นวิธีการรักษาของเขา แน่นอนว่าการรักษาแบบนั้นจะไปมีได้ยังไง

เฒ่าอัปปรี: หย่งฟู เจ้าคิดว่าเหวินหรงใส่หรือไม่ใส่เสื้อผ้างดงามกว่ากัน

หย่งฟู: คำถามนั้นมัน.. ข้าไม่ขอตอบนะขอรับ

เฒ่าอัปปรี: อะไรกัน แค่เรื่องคุยเล่นเอง เหวินหรงของข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ใช่มั้ย?

เหวินหรง: ค่ะท่านเฒ่า

เฒ่าอัปปรี: เจ้าได้ยินรึยัง?

หย่งฟู: ขอรับ.. ข้าคิดว่างดงามทั้งคู่เลยขอรับ แต่ถ้าถามว่าแบบไหนงดงามกว่า.. อึก.. ไม่ใส่ขอรับ

หย่งฟูพยายามหลบเสียงให้ฟังออกยากๆ แต่ก็ตอบออกไปอยู่ดี ใจเขาเต้นรัวแม้อายุปูนนี้ก็ยังแข็งแรงดีอยู่

เฒ่าอัปปรี: ฮ่าๆๆ งั้นรึ เหวินหรงถอดเสื้อคลุมออกแล้วไปนั่งฝั่งนั้นซะ

เหวินหรง: ค่ะท่านเฒ่า

เหวินหรงทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ปลดเสื้อคลุมจนกองลงไปอยู่ที่พื้นก่อนจะย้ายไปนั่งข้างๆหย่งฟู ซึ่งหย่งฟูก็นั่งเกร็งทำอะไรไม่ถูก

เฒ่าอัปปรี: หย่งฟู เจ้าก็เป็นนักปรุงโอสถขั้นสูงเหมือนข้า คงช่วยข้ารักษาได้สินะ.. เจ้าลองรักษานางดู จะจับนมล้วงหีก็ตามสบาย

เหวินหรงได้ยินแบบนั้นก็นั่งแอ่นอกท้าทาย ขาก็อ้ารอการจับอย่างลามก ร่างกายลุ่มร้อนไปหมด นี่เป็นครั้งแรกเลยที่จะมีคนอื่นมาแตะเนื้อต้องตัวนอกจากเฒ่าอัปปรี

หย่งฟู: ชะใช่.. ข้าก็รักษาได้เช่นกัน

หย่งฟูกลืนน้ำลายพูดด้วยอาการสั่นๆ สายตาจ้องไปยังหน้าอกทรงโตที่มีหัวนมสีชมพูล่อตา เขาใช้มืออันสั่นเทาจับหมับไปที่หน้าอก ความนุ่มฟินส่งผ่านฝ่ามือของเขา

หย่งฟู: อู้ว นมใหญ่เต็มมือดีจริงๆท่านเจ้าเมือง

พอได้จับก็เริ่มได้ใจที่อีกฝ่ายไม่ขัดขืน ท่านเจ้าเมืองผู้งดงามเขาเคยแอบจินตนาการตอนชักว่าว ทว่าตอนนี้เขาได้จับนม ความหื่นที่อยู่ข้างในจึงปะทุออกมา

หย่งฟูอ้าปากงับหัวนม ดูดเลียอย่างเอร็ดอร่อย มืออีกข้างก็ล้วงหี ลูบๆแคมเขี่ยติ่งแตดก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปข้างใน มือที่จับหน้าอกก็เริ่มเค้นแรงขึ้น ปากก็ดูดแรงขึ้น

เหวินหรงรู้สึกฟินเสียวไปทั้งตัว ไม่คิดเลยว่าคนอื่นก็ทำให้เธอเงี่ยนได้ ด้วยความที่ถูกฝึกให้แตกนับครั้งไม่ถ้วน โดนกระตุ้นจุดเสียวได้ไม่นานก็ถึงจุดสุดยอดทันที

เหวินหรง: อ๊าาาาห์~ หีข้าเสร็จแล้วค่ะ.. หีข้าเสร็จแล้ว!

เหวินหรงตะโกนบอกสุดเสียงจนหย่งฟูตกใจรีบแหวกม่านออกไปดูข้างนอกว่ามีใครได้ยินหรือไม่ และก็ต้องหน้าเสียเมื่อเห็นผู้คนในเมืองมองกลับมา ตอนนี้รถม้าเคลื่อนอยู่ในเมืองเหวินที่เต็มไปด้วยผู้คน

เฒ่าอัปปรี: หย่งฟู ฮ่าๆ เป็นไง เจ้าชอบรักษาเหวินหรงหรือไม่?

หย่งฟู: ชะชอบขอรับ ขอบคุณท่านมาก

เฒ่าอัปปรี: งั้นรึ หากเจ้าต้องการก็รักษาได้ตามสบาย ข้าอนุญาต เหวินหรงแนะนำตัวตามที่ข้าสอนซะสิ

เหวินหรงทำตามคำสั่งทันที เธอนึกถึงเรื่องที่ถูกสอนก็เงี่ยนขึ้นมาอีกครั้ง เหวินหรงลงไปหมอบกราบโดยกระดกก้นขึ้นมา จากด้านบนเห็นส่วนที่โค้งเว้าชัดเจน หย่งฟูถึงกับสูดหายใจลึก เรือนร่างของท่านเจ้าเมืองช่างสุดยอด

เหวินหรง: ข้าเหวินหรงป่วยเป็นโรคเงี่ยนค่ะ กรุณารักษาโดยการลวนลามข้า ใช้ข้าเป็นที่ระบายความเงี่ยน หรือแม้แต่เย็ดแตกในข้าทุกรู ท่านสั่งอะไรข้าพร้อมจะทำตามด้วยความร่านทั้งหมดที่ข้ามี ข้าขอสาบานว่าจะเป็นรูเย็ดที่ดีค่ะ

เฒ่าอัปปรี: ฮ่าๆๆ ได้ยินที่นางแนะนำตัวมั้ย มันคือหนทางรักษาของข้าเอง ให้นางเป็นรูเย็ดจนกว่าจะหาย

หย่งฟูทั้งอึ้งทั้งแปลกใจที่ท่านเจ้าเมืองยอมทำขนาดนี้เพื่อการรักษาที่ไม่มีอยู่จริง แถมยังเป็นคำพูดของเฒ่าอัปปรีที่ไม่มีความน่าเชื่อถือสักนิด เขาไม่รู้เลยว่าตาเฒ่าทำได้ยังไง แต่เขาที่ได้รับผลประโยชน์จึงไม่ได้ว่าอะไรออกไป

รถม้าเคลื่อนมาถึงปราสาทของท่านเจ้าเมือง หย่งฟูลงจากรถม้าเป็นคนแรก ตามมาด้วยเฒ่าอัปปรี คนสุดท้ายคือเหวินหรงในชุดเสื้อคลุมยาวถึงเข่า

ในปราสาทชั้นบนสุด เหวินไห่ที่รักษาการณ์แทนเข้าเมืองกำลังปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตอนนั้นเองที่ประตูห้องเปิดออก

เหวินหรงเดินเข้ามา ส่วนเฒ่าทั้งสองยืนรออยู่หน้าห้อง เมื่อเหวินไห่เห็นคนที่เดินเข้ามาก็ราวกับเจอความหวัง

เหวินไห่: โอ่ๆๆ ท่านเจ้าเมือง ท่านกลับมาแล้ว รู้มั้ยข้ากำลังแย่แล้วขอรับ!

เหวินหรง: มีเรื่องอะไร ค่อยๆเล่าให้ข้าฟัง.. นั่งก่อนท่านเหวินไห่ ทำใจเย็นๆก่อน

เหวินไห่นั่งลงอย่างร้อนรนแล้เริ่มอธิบายสถานการณ์ทันที..

สรุปได้ว่า ระหว่างที่เหวินหรงไปเก็บตัวรักษา ลูกสาวของเหวินไห่ชื่อเหวินเหอถูกจับตัวไปโดยหู่ตงฟาน เหวินเหอถูกบังคับให้แก้ผ้าเดินไปไหนมาไหนกับมัน เหวินไห่ต้องการจะช่วยแต่อิทธิพลของตระกูลหู่มีมากเกินไป ถ้าหากลงมือบุ่มบ่ามอาจเกิดการนองเลือดได้ เหวินไห่จึงต้องเรียกเหวินหรงมาตัดสินใจ

เหวินหรง: ข้าทราบแล้ว ปล่อยให้ข้าเป็นคนจัดการเอง

เฒ่าอัปปรี: เดี๋ยวก่อน

เหวินไห่เห็นเฒ่าอัปปรีเดินเข้ามาก็ลุกพรวดพร้อมตั้งท่าเตรียมต่อสู้ทันที เพราะเฒ่าอัปปรีเป็นนักปรุงโอสถจากสำนักงูเห่า ตระกูลหู่ที่มีอิทธิพลได้ก็เพราะสำนักงูเห่านั่นเอง

เหวินไห่: เจ้าเฒ่าอัปลักษณ์ กล้าดียังไงถึงมาเหยียบที่นี่ คืนลูกสาวของข้ามานะ!

หย่งฟู: เดี๋ยวก่อนขอรับ ท่านเฒ่าอัปปรีมากับท่านเจ้าเมืองขอรับ

เหวินไห่: จริงรึท่านเจ้าเมือง

เหวินหรง: ใช่ ท่านเฒ่าเดินทางมากับข้าเอง

เฒ่าอัปปรี: เมื่อกี้เจ้าด่าข้างั้นรึ?

เหวินหรง: ท่านเหวินไห่ รีบขอโทษท่านเฒ่าเร็วเข้า

เหวินไห่: ทำไมกัน.. ทำไมข้าต้องขอโทษมันด้วย พวกมันจับลูกสาวของข้าไปนะ ท่านเจ้าเมืองได้โปรดทบทวนด้วยขอรับ

เฒ่าอัปปรี: เหวินหรง เจ้าคงต้องขอโทษแทนคนของเจ้าแล้วล่ะ

เหวินหรงได้ยินเช่นนั้นก็รีบเคลื่อนไหวทันที เสื้อคลุกถูกปลดกองลงไปอยู่ที่พื้นก่อนจะลงไปกราบแทบเท้าของเฒ่าอัปปรี ก้นที่หันไปทางเหวินไห่ก็กระดกขึ้น จนเหวินไห่ตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาแคมหีจากทางด้านหลังของท่านเจ้าเมืองชัดเจน

เหวินหรง: ข้าเหวินหรงต้องขออภัยในความเสียมารยาทของเหวินไห่ด้วยค่ะ ได้โปรดเมตตาด้วยค่ะ

เหวินไห่: ท่านเจ้าเมือง.. ทำไมถึงทำขนาดนี้.. เพราะข้างั้นรึ..

เหวินไห่ตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก พูดติดๆขัดๆ ตายังค้างกับสิ่งที่เห็นอยู่เลย แคมหีของท่านเจ้าเมืองก็ล่อสายตาดีเหลือเกิน แม้จะหันหลบก็ยังเห็นตรงหางตาอยู่ดี

เฒ่าอัปปรี: เอาล่ะ ข้ายกโทษให้ แต่อย่าให้มีอีกเป็นครั้งที่สอง

เหวินหรง: ขอบคุณท่านเฒ่าที่เมตตาค่ะ

เหวินหรงกราบเท้าอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืน พอเหวินไห่เห็นด้านหน้าของท่านเจ้าเมืองก็ยิ่งเสียอาการ หน้าอกทรงโตหัวนมใหญ่สีชมพูงดงามสะกดสายตา หน้าท้องแบนราบ สะโพกกลมกลึมเห็นแคมหีอ้าท้าทายให้มอง เห็นติ่งแตดยื่นกับรูหีบานโบ๋สีชมพูน่าเลีย เขาเผลอเคลิ้มไปแว๊บนึงก่อนจะดึงสติกลับมา

เฒ่าอัปปรี: โชคดีที่ข้าเป็นคนใจกว้าง แม้จะโดนพ่อคนไม่เอาไหนด่าทอก็ยังออกตัวช่วยเหลือลูกสาวให้ ปล่อยให้ข้าจัดการเอง

เหวินไห่หรี่ตา โดนเหน็บแนมพอว่าแต่อีกฝ่ายบอกจะจัดการให้จึงไม่ค่อยเชื่อ แต่ท่านเจ้าเมืองดูเปลี่ยนไป เป็นเพราะเจ้าเฒ่านั่นรึปล่าว แต่เขากลับชอบที่ท่านเจ้าเมืองเป็นแบบนี้ เพราะก่อนหน้าช่างเย็นชาเข้าถึงยาก ตอนนี้รู้สึกเข้าถึงได้ง่ายสุดๆ

เฒ่าอัปปรีเดินออกไปตามลำพัง ในห้องจึงเหลืออยู่สามคน หย่งฟูหัวหน้านักปรุงโอสถ เหวินหรงท่านเจ้าเมือง และเหวินไห่

เหวินไห่: ท่านเจ้าเมือง ใส่ชุดเถอะขอรับ

เกือบลืมพูดไปเลยเพราะมัวแต่ยืนมองเรือนร่างของท่านเจ้าเมือง ที่ยืนเฉยๆยังสง่า ยิ่งตอนนี้ที่ไม่ใส่เสื้อผ้า มองกี่ทีก็ไม่พอจริงๆ

หย่งฟู: ไม่ต้องใส่หรอกขอรับ แบบนี้งดงามกว่ากันเยอะ ฮิๆ

เหวินไห่ตะลึงกับคำพูดของหย่งฟู แม้ในใจจะเห็นด้วยก็ตาม เขาเดาว่าตาเฒ่าจะโดนท่านเจ้าเมืองอัดแน่ๆ

เหวินหรง: ถ้าท่านหย่งฟูว่าเช่นนั้น ข้าจะไม่ใส่มันอีก

!!

เหวินไห่ตะลึงอีกรอบ นี่ท่านเจ้าเมืองป่วยจริงๆงั้นรึ ความสงสัยนั้นเองทำให้เขาหันไปมองหย่งฟู เผื่อจะรู้อะไรมาบ้าง

หย่งฟู: มีอะไรหรือขอรับ?

เหวินไห่: เอ่อ.. อาการของท่านเจ้าเมืองเป็นยังไงบ้าง

หย่งฟู: ไม่ค่อยดีขอรับ ท่านเฒ่าอัปปรีกับข้ากำลังช่วยกันรักษาอยู่

เหวินไห่มองท่านเจ้าเมืองด้วยความเป็นห่วง แต่ก็อดหื่นไม่ได้ นี่คือเรือนร่างของสาวงามชัดๆ

เหวินหรง: เหวินไห่ สถานการณ์ในตระกูลเป็นยังไงบ้าง มีปัญหาอื่นอีกหรือไม่

เหวินไห่: อะแฮ่ม.. ไม่มีขอรับ ปัญหาเล็กๆน้อยๆข้าจัดการได้ไม่ยาก เว้นแต่เรื่องนี้ที่ยากจะจัดการ..

เหวินหรง: เจ้าไม่ต้องกังวล ข้าเชื่อว่าท่านเฒ่าอัปปรีจะจัดการปัญหานี้ได้

เหวินไห่: ขอรับท่านเจ้าเมือง ระหว่างนี้เชิญท่านพักผ่อนเถิด ข้าไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของท่าน

เหวินหรง: ตกลง ถ้างั้นข้าอยากเดินสำรวจรอบๆ ระหว่างที่ข้าเก็บตัวรักษา ตระกูลจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนกันนะ

!!

เหวินไห่: ท่านเจ้าเมือง! ท่านจะไปในสภาพนั้นจริงๆหรือ ให้ข้าหาชุดมาเปลี่ยนให้ท่านเถิด

หย่งฟู: เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ให้ข้าจัดการเอง

หย่งฟูพูดพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ มือข้างหนึ่งโอบสะโพกกลมงอนไปวางตรงขาอ่อนใกล้ๆแคมหี ทำเอาเหวินหรงเสียวสะท้านขึ้นมา





acromeda

#1
ขอบคุณสำหรับทั้ง4เรื่อง เสียดายเรื่องสั้นประมาณครึ่งนึงของปกติ อารมณ์เลยไม่สุดเท่าเรื่องก่อนๆ ส่วนตัวอยากให้แยกกระทู้เป็นเรื่องๆเลยมากกว่า น่าจะตามอ่านได้ง่ายกว่า

-ชอบเรื่อง1กับ2 ตอนนี้ชอบ1มากกว่า แต่ถ้ามีเวลาเล่ามากขึ้น เรื่อง2น่าจะบิ้วอารมณ์ได้สุดกว่า(เอริก้านี้น่าจะคนละคนกับเรื่องที่แล้ว แค่ใช้ชื่อเหมือนกันเฉยๆใช่มั้ย555 ส่วนเรื่องชุดเต้นระบำนี่ถ้าแปะรูปซักหน่อยก็น่าจะดี พอนึกภาพเองแล้วจินตนาการออกมาเป็นชุดreverse bunny ไม่รู้ว่าตรงกับที่ผู้เขียนคิดไว้รึปล่าว)

-ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆกับเรื่อง3กับ4 ส่วนตัวคิดว่าแนวจอมยุทธ์น่าจะไม่เหมาะกับแนวหลุดโลกเพราะส่วนใหญ่จะมีแต่พวกขี้แอ็คขี้เก็กทั้งชายหญิงเลย ทำให้ตอนฉากบิ้วอารมณ์รู้สึกเหมือนจะดูฝืนๆขัดอารมณ์หน่อย

-รู้สึกว่าแนวหลุดโลกที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ระหว่าคำว่า"เวทมนต์"กับ"พลังปราณ หรือ กำลังภายใน" ส่วนตัวมีอารมณ์ร่วมกับคำว่า"เวทมนต์"มากกว่า พวกแนวจอมยุทธ์น่าจะเหมาะกับแนวแอคชั่นฉากบู๊เท่ๆสวยๆมากกว่า

...อยากเห็นตอนต่อของเรื่องเก่าๆนะ แต่เข้าใจนะว่าแนวหลุดโลกนี้ อารมณ์ศิลปินมีผลค่อนข้างมาก หวังว่าคอมเมนต์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักเขียนนะครับ จะรอติดตามอ่านนะครับ(พิมพ์ยาวอีกละ555)

chanky2007

ส่วนตัวคิดว่า แต่ละเรื่องขยายได้อีก พอเป็นตอนแบบช่วงเดียว อารมณ์เหมือนไม่สุด
แต่นานๆ อ่านแนวนี้ที ก็น่าสนใจมากครับ

ขอบคุณครับ
คิดว่าดี ก็ทำไป

ShameStory [Izuna]

อ้างจาก: acromeda เมื่อ กรกฎาคม 17, 2024, 03:09:40 ก่อนเที่ยงขอบคุณสำหรับทั้ง4เรื่อง เสียดายเรื่องสั้นประมาณครึ่งนึงของปกติ อารมณ์เลยไม่สุดเท่าเรื่องก่อนๆ ส่วนตัวอยากให้แยกกระทู้เป็นเรื่องๆเลยมากกว่า น่าจะตามอ่านได้ง่ายกว่า

-ชอบเรื่อง1กับ2 ตอนนี้ชอบ1มากกว่า แต่ถ้ามีเวลาเล่ามากขึ้น เรื่อง2น่าจะบิ้วอารมณ์ได้สุดกว่า(เอริก้านี้น่าจะคนละคนกับเรื่องที่แล้ว แค่ใช้ชื่อเหมือนกันเฉยๆใช่มั้ย555 ส่วนเรื่องชุดเต้นระบำนี่ถ้าแปะรูปซักหน่อยก็น่าจะดี พอนึกภาพเองแล้วจินตนาการออกมาเป็นชุดreverse bunny ไม่รู้ว่าตรงกับที่ผู้เขียนคิดไว้รึปล่าว)

-ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆกับเรื่อง3กับ4 ส่วนตัวคิดว่าแนวจอมยุทธ์น่าจะไม่เหมาะกับแนวหลุดโลกเพราะส่วนใหญ่จะมีแต่พวกขี้แอ็คขี้เก็กทั้งชายหญิงเลย ทำให้ตอนฉากบิ้วอารมณ์รู้สึกเหมือนจะดูฝืนๆขัดอารมณ์หน่อย

-รู้สึกว่าแนวหลุดโลกที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ระหว่าคำว่า"เวทมนต์"กับ"พลังปราณ หรือ กำลังภายใน" ส่วนตัวมีอารมณ์ร่วมกับคำว่า"เวทมนต์"มากกว่า พวกแนวจอมยุทธ์น่าจะเหมาะกับแนวแอคชั่นฉากบู๊เท่ๆสวยๆมากกว่า

...อยากเห็นตอนต่อของเรื่องเก่าๆนะ แต่เข้าใจนะว่าแนวหลุดโลกนี้ อารมณ์ศิลปินมีผลค่อนข้างมาก หวังว่าคอมเมนต์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักเขียนนะครับ จะรอติดตามอ่านนะครับ(พิมพ์ยาวอีกละ555)


ขอบคุณมากๆสำหรับคำติชมแนะนำนะคะ ตอนแต่งก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน 55 พอมาคิดๆดูกำลังภายในก็ดูขัดๆจริงๆ ส่วนเรื่องชุดของเอริก้า พอลองเอาไป search ก็ค่อนข้างตรงเลยค่ะ ต้นแบบในจินตนาการก็มาจากชุด bunny เลย

เรื่องเก่าๆลองพยายามเขียนต่ออยู่บ่อยๆ แต่คุมจินตนาการไม่ค่อยได้ พอมีไอเดียใหม่ๆก็ไปเขียนไว้อีกไฟล์กลายเป็นเรื่องใหม่ไปเลย เคยคิดว่าถ้าจะแก้จุดนี้คงต้องวงแผนการเขียนให้ละเอียดกว่านี้ แต่พอลองทำจริงๆยากกว่าที่คิดค่ะ 55

^^ ที่เอามาลงรวมกันเพราะกลัวจะสั้นเกินไปค่ะ และที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เอาเรื่องพวกนี้มาลงเพราะเป็นหนึ่งในเรื่องที่เขียนไม่เสร็จค่ะ จากที่เลื่อนๆดูจนตาลายมีอีกเป็นร้อยเป็นพันไฟล์ที่เขียนไม่เสร็จเหมือนกันเลยลองสุ่มคัดมาลงดูค่ะ

สุดท้ายนี้ที่ชื่อเอริก้าเหมือนเรื่องที่แล้วเพราะลองค้นคำว่า เอริก้า ในเครื่อง เลยเจอเรื่องแรก 55

 ::Thankyou::  ::Thankyou::  ::Thankyou::

ShameStory [Izuna]

อ้างจาก: chanky2007 เมื่อ กรกฎาคม 17, 2024, 04:59:57 ก่อนเที่ยงส่วนตัวคิดว่า แต่ละเรื่องขยายได้อีก พอเป็นตอนแบบช่วงเดียว อารมณ์เหมือนไม่สุด
แต่นานๆ อ่านแนวนี้ที ก็น่าสนใจมากครับ

ขอบคุณครับ

 ::Thankyou::
ขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ

review1972

นับถือจริงๆความคิดสร้างสรรค์สุกยอดดด

BallG2

เตือนสปอยกับคนที่ชอบอ่านเม้นแล้วยังอ่านไม่จบ
บอกเลยว่าเม้นยาวไหนๆเรื่องที่ได้อ่านมันก็ยาวมาก
เจ้าหญิงตรวจตรา : ส่วนที่ชอบคือการที่ตัวละครทำตามกฎ ฉากที่ชอบสุดคงเป็นตอนคนสวนพาโรสกับอควาพามาที่บ้านแล้วทายากับของอีกอย่างนึงที่2สาวโดน ชอบสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นของสาว2คนนี้ด้วยครับ
อัปยศต่างโลก : ส่วนที่ชอบคงเป็นการที่ชอบท้าแข่งกันคนแพ้โดนอะไรคนชนะได้อะไร ฉากที่ชอบสุดของเรื่องนี้ยกให้ตอนเข้าร้านวัดเวทมนตร์แล้วเจ้าของร้านแพ้กลายเป็นส้วมแล้วยังโดนขายให้กับหัวหน้ากองโจร
สำนักเหมันต์พิสุทธิ์ : เรื่องนี้ยกให้เป็นที่1ในกล้ามเนื้ออกข้างซ้ายเลย หมายถึงที่1ในใจอะน555+ จากทั้ง4เรื่องชอบเรื่องนี้สุดครับ ผมชอบทุกอย่างของเรื่องนี้เลย พวกการที่ตัวละครหญิงไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง ใครอยากทำอะไรก็ทำเลยไม่ว่า ฉากที่ชอบที่สุดนี้คือเลือกไม่ถูกเลย ชอบทุกฉากเลยทั้งตอนอยู่โรงเตี๊ยม ตอนอยู่สำนักแล้วหู่จงอี้มีอะไรกับไป๋หลินกับตอนมาเมืองเมฆ ฉากที่สาวๆในสำนักแยกย้ายกันแล้วโดนจัดกันทุกคนเลยโดนเฉพาะเจ้าของสำนัก
เหวินหรง : เรื่องนี้ส่วนที่ชอบคงเป็นการที่ร่างกายของตัวละครเปลี่ยนไปจากเดิม ฉากที่ชอบที่สุดคงเป็นตอนที่เหวินหรงรู้ความจริงแล้วแบบค่อยจัดการละกัน แล้วก็ผลัดวันไปเรื่อยๆ555+
โดยรวมๆคือผมชอบทั้ง4เรื่องนี้เลยครับ จำนวนหน้าพอรวมกันแล้วนี้คือเยอะมากครับอ่านเพลินๆเลยที่นี้ ชอบทุกเรื่องที่เขียนออกมาให้อ่านเลยครับ ระหว่างนี้ผมก็อ่านเรื่องเก่าวนๆไป รอตอนใหม่แต่ละเรื่องที่เขียนออกมานี้คือผมกลับไปอ่านหลายรอบมาก ถึงจะเคยอ่านไปแล้วแต่พอกลับไปอ่านก็ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนแต่งเรื่องใหม่ออกมาเรื่อยๆนะครับ แต่ถ้าไม่เขียนแล้วอย่าลบเรื่องเก่าๆทิ้งนะครับจะได้กลับมาอ่านซ้ำได้ 555+

ShameStory [Izuna]

อ้างจาก: BallG2 เมื่อ กรกฎาคม 18, 2024, 09:13:59 หลังเที่ยงเตือนสปอยกับคนที่ชอบอ่านเม้นแล้วยังอ่านไม่จบ
บอกเลยว่าเม้นยาวไหนๆเรื่องที่ได้อ่านมันก็ยาวมาก
เจ้าหญิงตรวจตรา : ส่วนที่ชอบคือการที่ตัวละครทำตามกฎ ฉากที่ชอบสุดคงเป็นตอนคนสวนพาโรสกับอควาพามาที่บ้านแล้วทายากับของอีกอย่างนึงที่2สาวโดน ชอบสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นของสาว2คนนี้ด้วยครับ
อัปยศต่างโลก : ส่วนที่ชอบคงเป็นการที่ชอบท้าแข่งกันคนแพ้โดนอะไรคนชนะได้อะไร ฉากที่ชอบสุดของเรื่องนี้ยกให้ตอนเข้าร้านวัดเวทมนตร์แล้วเจ้าของร้านแพ้กลายเป็นส้วมแล้วยังโดนขายให้กับหัวหน้ากองโจร
สำนักเหมันต์พิสุทธิ์ : เรื่องนี้ยกให้เป็นที่1ในกล้ามเนื้ออกข้างซ้ายเลย หมายถึงที่1ในใจอะน555+ จากทั้ง4เรื่องชอบเรื่องนี้สุดครับ ผมชอบทุกอย่างของเรื่องนี้เลย พวกการที่ตัวละครหญิงไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายตัวเอง ใครอยากทำอะไรก็ทำเลยไม่ว่า ฉากที่ชอบที่สุดนี้คือเลือกไม่ถูกเลย ชอบทุกฉากเลยทั้งตอนอยู่โรงเตี๊ยม ตอนอยู่สำนักแล้วหู่จงอี้มีอะไรกับไป๋หลินกับตอนมาเมืองเมฆ ฉากที่สาวๆในสำนักแยกย้ายกันแล้วโดนจัดกันทุกคนเลยโดนเฉพาะเจ้าของสำนัก
เหวินหรง : เรื่องนี้ส่วนที่ชอบคงเป็นการที่ร่างกายของตัวละครเปลี่ยนไปจากเดิม ฉากที่ชอบที่สุดคงเป็นตอนที่เหวินหรงรู้ความจริงแล้วแบบค่อยจัดการละกัน แล้วก็ผลัดวันไปเรื่อยๆ555+
โดยรวมๆคือผมชอบทั้ง4เรื่องนี้เลยครับ จำนวนหน้าพอรวมกันแล้วนี้คือเยอะมากครับอ่านเพลินๆเลยที่นี้ ชอบทุกเรื่องที่เขียนออกมาให้อ่านเลยครับ ระหว่างนี้ผมก็อ่านเรื่องเก่าวนๆไป รอตอนใหม่แต่ละเรื่องที่เขียนออกมานี้คือผมกลับไปอ่านหลายรอบมาก ถึงจะเคยอ่านไปแล้วแต่พอกลับไปอ่านก็ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนแต่งเรื่องใหม่ออกมาเรื่อยๆนะครับ แต่ถ้าไม่เขียนแล้วอย่าลบเรื่องเก่าๆทิ้งนะครับจะได้กลับมาอ่านซ้ำได้ 555+

ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาตลอดนะคะ  ::Thankyou::  สรุปทุกเรื่องได้กระชับมากเลย เป็นความรู้สึกตอนเขียนที่อยากจะสื่อออกมาเลยค่ะ
เมื่อก่อนเป็นคนชอบอ่านนิยายและตามหาแนวที่ชื่นชอบจริงๆไม่ได้สักที นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เขียนเรื่องแนวนี้เลยค่ะ แล้วพอเห็นคนชอบก็ดีใจนะคะ ^^

Kraken5

ต้องบอกว่าการแต่งนี้มันช่างลึกล้ำเหนือจินตนาการจริงๆ การใช้ภาษาและพล็อตเรื่องเข้าใจได้ไม่ยาก แต่อ่านแล้วได้รสชาติจริงๆ
ข้าน้อยขอคารวะ  ::Orz::


กา

ทั้ง 4 เรื่องสนุกครับถึงจะรู้สึกแปลกๆกับ 2 เรื่องหลังที่เป็นจอมยุทธเพราะรู้สึกไม่เข้ากับเรื่องหลุดโลกเท่าไหร่แต่ที่ว่าใช้ได้ 4 เรื่องผมคิดว่าสามารถนำไปต่อยอดได้โดยรวมก็สนุกครับ

tantawan2244

ขอบคุณมากกับเรื่องเสียวยุคเก่า ๆ บอกตรง ๆ ว่าอ่านแล้วอารมณ์มากเลยครับท่าน

Chai Wat

ค่อนข้างชอบ2เรื่องแรก แต่ต่อไม่ติดกับเรื่องที่ไปทางนิยายจีนๆ จะรู้สึกชอบมากกว่าถ้าโทนเรื่องไปทางเทคโนโลยี ระบบ กฏ หรือพลังพิเศษ อะไรแบบนี้ไปเลยมากกว่า

Wattbeta1980

....อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ครับ

.....เป็นแรงใจ แรงเชียร์ ครับ..