ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ร้อยรักวัยสวาท ภาคแรก ตอนที่28

เริ่มโดย suckzeed, มีนาคม 01, 2016, 01:47:37 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

suckzeed

 
แจงเพื่อนสาวคนแรกที่ฝากรอยแค้นไว้ในใจ
 

พี่หน่อย สาวใหญ่ผู้มุ่งมั่นในความรัก
 

เกวลิน ลูกครึ่งสาวผู้เย้ายวน
 

หมวยอรจิรา นักศึกษา ผู้อยากเรียนรู้เรื่องรัก
 

กันทิมา รักแรกที่ยากจะหักใจลืม
 
ตั้งแต่ผมมาหาไอ้เอกที่มหาวิทยาลัย จนกระทั่งพากันมาทานข้าว ผมยังไม่ได้เอ่ยปากถามไอ้เอกแม้สักคำเกี่ยวกับเรื่องของ
น้องกัน ทั้งๆที่ใจผมอยากรู้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปอีกสักพักผมจึงสะกิดขาไอ้เอกแล้วบอก
 
"ไปห้องน้ำกับกูหน่อยได้ป่าววะ..."
 
ผมร้องบอกแล้วพยักหน้า ไอ้เอกคงรุ้ว่าผมอยากชวนมันลุกออกมาจากวงสนทนา จึงรีบลุกเดินตามผมมา จนทันที่หน้าห้องน้ำ
แล้วรีบถามผม
 
"มีอะไรวะไอ้ชาย...."
 
"กูอยากถามมึงเรื่องน้องกันน่ะ..." เมื่อผมบอกความต้องการออกไป ไอ้เอกก็ร้องอ๋อ..แล้วปล่อยให้ผมพูดต่อ
 
"หลังจากกูลาออกจากโรงเรียนแล้วน้องกันเป็นไงบ้างวะ..." ผมรีบถามเพราะความอยากรู้ ไอ้เอกก็เล่าเรื่องทั้งหมดเท่าที่มันรู้
ออกมาให้ผมทราบทันที
 
"น้องกันก็ดูเศร้าๆซึมๆไปนะ..ตอนนั้นกูก็รุ้แล้วว่า น้องเขาคงคิดอะไรกับมึง กูก็เลยเลิกจีบ..ทำตัวเป็นพี่แค่นั้น...จนกูเรียนจบ
ออกมา กูก็ไม่เห็นน้องเค้าสนใจใครอีก คงคิดถึงมึงนั่นแหละ..แล้วทำไมมึงไม่ติดต่อไปหาน้องเค้าเลยวะ.."
 
"กูไม่กล้าวะ..รู้สึกตัวเองยังต่ำต้อยเกินกว่าจะเผยอตัวไปคบน้องเค้า..." ผมบอกความรู้สึกไปตามตรง
 
"ห่า!...มึงน่ะคิดมาก..." ไอ้เอกด่าผมกลับพร้อมหัวเราะหึๆ
 
"มึงรู้มั๊ยน้องกันเรียนต่อที่ไหน แล้วมีแฟนหรือยัง.." ผมถามด้วยความอยากรู้
 
"อืมมมม..เรียนที่ไหนอ่ะรุ้ น้องเขาเรียนแพทย์ที่จุฬา..แต่มีแฟนหรือยังกูไม่รุ้จริงๆว่ะ..เอาไว้มึงลองถามเองสิ..วันงานกูว่าน้อง
เค้าคงมาแน่ๆ..."
 
ไอ้เอกพูดเสร็จก็เอามือตบไหล่ผมเบาๆเหมือนให้กำลังใจ จากนั้นเราก็เดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกัน ขณะกำลังยืนปลดทุกข์
เบา ไอ้เอกดันทะลึ่งชะโงกหน้าข้ามเข้ามามองผมพร้อมพูดแล้วหัวเราะฮาๆๆ
 
"สัต..! ขนเอามาจากไหนวะมึง...ฮ่าๆๆๆๆ.."
 
ผมรีบเอามือป้องด้วยความอาย แล้วฉี่จนเสร็จก่อนเก็บเข้าไปในกางเกง แล้วตบไหล่ไอ้เอกดังปึ๊ก ด้วยความอาย พร้อมกำชับ
ว่าอย่าเสือกเอามาล้อต่อหน้าสาวๆนะ
 
จากนั้นผมสองคนก็เดินกันกลับมาที่โต๊ะ มองเห็นสองสาวคุยกันจิ๊ๆจ๊ะๆ ไม่รู้เรื่องอะไร แต่พอเธอมองเห็นผมกับไอ้เอกเดินกลับ
มา ก็รีบเงียบ พร้อมทำหน้าเลิ่กลักเหมือนมีพิรุธ ผมเดาเอาได้เลยว่าสองสาวคงกำลังแอบนินทาเราทั้งสองคนเป็นแน่
 
สักพักพอทานข้าวกันอิ่มเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขับรถพายัยแจงกับไอ้เอกไปส่งที่มหาวิทยาลัย โดยไม่ต้องร่ำลาอะไรกันมากนัก
เพราะอีกแค่ไม่กีวันก็จะได้พบกันอีกแล้ว แต่ระหว่างการร่ำลา สายตาไอ้เอกเพื่อนผมกลับจับจ้องมองหน้าเกวลินเขม็ง ไม่สนใจ
เลยว่าแฟนตนเองคือยัยแจงมองผมด้วยสายตาอย่างไร แม้ผมรู้สึกไม่ค่อยชอบเลยที่โดนยัยแจงมองด้วยสายตาชื่นชมแบบนั้น
เพราะเธอเป็นแฟนของไอ้เอกเพื่อนผมนั่นเอง
 
จากนั้นผมก็ขับรถพาเกวลินขับรถออกมาตามเส้นทางอ่อนนุช ผ่านทุ่งหนองงูเห่าที่รกร้าง ไม่คิดเลยว่าในภายภาคหน้าสถานที่
แห่งนี้จะถูกก่อสร้างเป็นสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของประเทศเรา
 
ผมขับรถออกมาจนถึงซอยอ่อนนุช(ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นถนนอ่อนนุชแล้ว) มองเห็นหมู่บ้านจัดสรรผุดขึ้นเรียงราย มีทั้งก่อสร้าง
เสร็จแล้ว และบางแห่งยังเพิ่งลงมือก่อสร้าง จึงจอดรถข้างทางแล้วบอกเกวลินให้ลงไปเดินหาลูกค้าในย่านนี้ โดยผมจะรอ
อยู่ในรถ
 
"วันนี้ยังต้องหาลูกค้าอีกหรือคะหัวหน้า..." เกวลินส่งเสียงอิดออด เหมือนไม่อยากทำ
 
"อืมมมมม..เป็นเซลล์ห้ามขี้เกียจครับ..ไม่เช่นนั้นจะมีรายชื่อลูกค้ามาเขียนรีพอร์ทได้ไง..น่าทำเถอะ..ได้สักห้าหกรายก็ยังดี..
เดี่ยวผมจอดรถรอ..."
 
ผมพูดรัวๆเร็วๆตัดบท ไม่อยากมองหน้าตาอิดออดอ้อนๆ กับเสียงกรุ๊งกริ๊งอ้อนๆของเกวลิน เมื่อเธอจำยอมลงจากรถไปแล้ว
ผมก็เคลื่อนรถไปจอดรอใต้ร่มไม้ พร้อมความคิดโลดแล่นไปถึงน้องกันตาโตของผม ว่าถ้าผมพบเธอในวันงานโรงเรียน ผมจะ
ทำอย่างไรดี จะเริ่มต้นพูดแบบไหน แล้วผมก็ลองซ้อมคำพูดคนเดียวในรถไปเหมือนคนสติไม่สมประกอบ แต่ไม่ว่าจะพูด
อย่างไร ที่คิดว่าดีว่าเหมาะแล้ว สักพักผมก็เปลี่ยนใหม่ วนซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนบ้า จนแม้เกวลินเดินกลับมาที่รถอีกครั้ง
ด้วยใบหน้าชุ่มเหงือ พร้อมเคาะกระจกเรียกจนทำให้ผมสะดุ้งได้อย่างไม่รู้ตัว
 
"กลับมาแล้วหรอครับ..." ผมถามแก้เก้อ ไม่รู้ว่าเกวลินจะมองเห็นผมพูดคนเดียวหรือไม่อย่างไร
 
"ค่ะ..." เธอตอบสั้นๆ แล้วมองผมยิ้มๆ

"มาตั้งนานแล้ว แต่เห็นหัวหน้าพูดถึงคุณกันตาโต...อยู่คนเดียวเลยไม่อยากรบกวน..."
 
เกวลินพูดต่อด้วยเสียงแปร่งๆ ผมเลยรู้ว่าหล่อนคงได้ยินบทพูดของผมอย่างแน่นอน ก็รุ้สึกอายๆ แต่หันไปทำตาดุใส่แก้เขิน
แล้วรีบขับรถออกไปจากที่ตรงนั้นทันที เกวลินก็นั่งหัวเราะคิกๆ คงขำกับท่าทีอายๆของผม จนผมเริ่มรู้สึกรำคาญเสียงหัวเราะ
หวานๆใสๆของหล่อน
 
"ขำอะไรนักหนารึเกว..."
 
ผมทำเสียงดุๆร้องถาม พร้อมพยายามเก๊กหน้าให้ดูเหมือนดุ แต่เกวลินกลับไม่กลัว หล่อนตอบคำถามผมด้วยเสียงหัวเราะคริคริ
 
"ก็ขำเรื่องของหัวหน้าแหละค่ะ..พี่แจง..อุ๊บ..." เกวลินพูดยังไม่ทันจบประโยคก็คงเพิ่งนึกได้ จึงรีบหุบปากทันที
 
"แจงเล่าอะไรเกี่ยวกับตัวผมให้ฟัง..บอกมาเดี๋ยวนี้นะ..." คราวนี้ผมไม่ต้องแสร้งทำเสียงดุแล้ว เพราะมันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ที่โดน
ยัยแจงเผา ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
 
[post]
"ก็หลายเรื่องน่ะค่ะ..พี่แจงยังบอกอีกว่า ตอนเรียนอยู่ หัวหน้าไม่ถูกกับเธอ..จริงมั๊ยคะ..." ผมฟังแล้วใจหายวาบ คิดไปถึงเรื่อง
ราวที่ยัยแจงทำเอาไว้กับผม ไม่รู้หล่อนจะเล่าให้ลูกน้องหน้าแหม่มคนนี้ฟังหรือเปล่า
 
"เหลวไหลน่า..." ผมทำเสียงดุใส่ แต่เกวลินก็ยังขำๆยิ้มๆไม่หยุด จนผมอยากหยุดรถแล้วเข้าไปบีบคอปิดปากเสียงหัวเราะของ
เธอจริงๆ
 
"เกวไม่ล้อหัวหน้าหรอกค่ะ..จะไม่ถามด้วยว่าเรื่องที่พี่แจงเล่านั้นเท็จหรือจริง...สบายใจได้ค่ะ..แต่อยากทราบจริงๆว่า คุณกันทิมา
ที่หัวหน้าเพ้อถึงนี่ สวยขนาดไหนคะ..สวยเท่าเกวได้มั๊ย...."
 
ผมได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งของเกวลินสอบถาม แล้วถึงกับสะอึก โดยเฉพาะท่านั่งของเธอที่เปลี่ยนไป เป็นยืดตัวระหงตั้งตรง พร้อม
แอ่นอกที่ดูอวบใหญ่ตามสายพันธ์เชื้อชาติตะวันตกของพ่อ ให้ผมดูพร้อมร้องถามว่าน้องกันของผม สวยเท่าเธอได้มั๊ย
 
ผมเหลือบสายตามองไปที่เกวลินแป๊บเดียว ก็รีบเบือนสายตากลับไปมองถนนเบื้องหน้า แล้วร้องตอบเธอไปด้วยเสียงที่พยายาม
บังคับไม่ให้สั่นแตกพร่า
 
"น้องกันกับเกวสวยคนละแบบครับ..." ผมตอบไปตามความรุ้สึกที่แท้จริง
 
"คนละแบบยังไงคะ..เกวไม่เข้าใจ..." เกวลินยังคงส่งเสียงหวานๆใสๆร้องถามอย่างเซ้าซี้ให้ผมอธิบายให้ฟัง
 
"อืมมมมม..น้องกันสวยแบบหวานๆ เรียบร้อย ดูน่ารัก..แต่เกว.เอ้อ..สวยแบบร้อนแรง เซ็ส์ซี่...นั่นแหละที่ต่างกัน" ผมรีบสรุป
เพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายอะไรได้มากไปกว่าที่ตาเห็น และใจคิด
 
"แล้วนอกจากตัวหัวหน้า..คิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ จะชอบความสวยแบบไหนคะ..."
 
ผมไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะในใจของผมนั้นมีเพียงน้องกันคนเดียว แล้วคำถามที่ดูซื่อๆ ใสๆ เหมือนเด็กอยากรู้คำตอบนี้
มันก็ยากจะตอบได้จริงๆ
 
"ผมไม่ทราบครับ...ตอบยาก เพราะผมไม่ใช่ผู้ชายส่วนใหญ่..."
 
ผมพยายามหลีกเลี่ยงไม่ยอมตอบคำถามของเกวลินไปตามตรง ว่าแนวโน้มของผู้ชายส่วนใหญ่ คงชอบสาวสวยเร่าร้อนเซ็กซี่
อย่างเกวลินเป็นแน่ เพราะดูได้จากไอ้เอกเพื่อนผม ที่มันจ้องมองหน้า มองนมของเกวลินไม่วางตา ทั้งๆที่แจงแฟนของมัน ก็มี
ไม่น้อยหน้าเกวลินสักเท่าใดเลย เมื่อผมตอบคำถามไปแล้ว เราทั้งสองคนก็นิ่งเงียบกันไปสักพัก ก่อนที่เกวลินจะถอนหายใจ
แล้วพูดออกมาคนเดียวว่า
 
"เห้อออ...เมื่อไหร่นะเกวจะโชคดี มีผู้ชายมารัก ลุ่มหลงได้แบบที่หัวหน้ารักคุณกันสักทีน๊า...เห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้"
 
แม้ผมได้ยินเต็มสองหู แต่ก็แสร้งงทำเป็นไม่ได้ยินไม่สนใจคำพูดของเกวลิน ขับรถต่อไปจนถึงออฟฟิส แล้วผมก็แยกจากเธอ
รีบเดินตรงไปหาพี่หน่อยที่ห้อง ไม่รู้ว่าเธอจะมาทำงานหรือเปล่าด้วยซ้ำ
 
ผมเดินไปหยุดหน้าห้องพี่หน่อยแล้วยกมือเคาะประตูเสียงดัง ก๊อกๆเบาๆ สักครู่เสียงด้านในก็ตะโกนออกมาบอกว่า..เชิญค่ะ..
ผมจึงรีบเปิดประตุเข้าไปแล้วปิดทันที
 
"พี่ครับผมได้บัตรมาแล้ว..." ผมชูบัตรเข้างานสองใบให้พี่หน่อยดูพร้อมยิ้มด้วยด้วยดีใจ เพราะใบที่สามผมยัดใส่มือเกวลินไป
แล้วตั้งแต่ตอนที่กลับมาถึงออฟฟิส
 
"ดีจัง..."
 
พี่หน่อยตอบมาสั้นๆด้วยเสียงเนือยๆ จนผมรุ้สึกผิดปรกติ แล้วยิ่งเงยหน้าขึ้นจับจ้องมองหน้าพี่หน่อยใกล้ๆอย่างสังเกตุ จึงพบ
พิรุธในแววตาของพี่หน่อยที่ดูเหนื่อยอ่อนล้า อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
 
"เอ๊ะ..พี่ไม่สบายหรือเปล่าครับ..ไปหาหมอเมื่อวาน หมอว่าไงบ้างครับ.." ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน รู้สึกเป็นห่วงพี่หน่อยขึ้น
มาอย่างประหลาด
 
"อ้อ..ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ...พี่สบายดี ยังแข็งแรงอยู่จ๊ะ..."
 
พี่หน่อยรีบตอบ พร้อมปรับสีหน้าแววตาให้แช่มชื่น เป็นพี่หน่อยสาวสวยคนเดิมอีกครั้ง พร้อมกับยกมือทำท่าเบ่งกล้ามให้ผมเห็น
ว่าเธอยังคงแข็งแรงตามที่บอก ผมเลยขำ หัวเราะออกมาพร้อมกับพี่หน่อย ขณะนั้นไม่สงสัยเลยสักนิดว่าพี่หน่อยจะไม่สบาย
 
"ชายไม่เปลี่ยนใจแน่นะจ๊ะ..ที่จะพาพี่ไปงานด้วยนะ..ไม่กลัวเพื่อนๆล้อเอาหรอว่าควงคนแก่มางานด้วย..."
 
ผมได้ยินแล้วขำจนหัวเราะ ถ้าใครบอกว่าพี่หน่อยแก่นี่คงบ้าอย่างแน่นอน เธอยังทั้งสาวและทั้งสวยสง่า จนผมกล้าพูดได้เลยว่า
ถ้าผมควงพี่หน่อยไปร่วมงาน คงมีแต่สายตาที่มองมาด้วยความอิจฉา เพราะคิดว่าผมมีแฟนสวยเยี่ยงนี้ได้อย่างไร
 
"ไม่ครับ..ผมอยากให้พี่หน่อยไปด้วย จะได้รู้จักน้องกันของผม..."
 
ตอนที่ผมพูดออกไปว่าน้องกันของผมนั้น ผมไม่ได้คิดอะไรเลยด้วยความสัจจริง และไม่ได้สังเกตุเลยด้วยซ้ำว่าพี่หน่อยจะอึ้ง
ไปเล็กน้อยที่ได้ยินเช่นนั้น
 
ผมอยู่คุยกับพี่หน่อยอีกครู่ใหญ่ก็ขอตัวลากลับไปดูลูกทีมของผม แต่พี่หน่อยกลับเรียกรั้งไว้แล้วบอกว่า เย็นนี้เธอขอให้ผมขับรถ
ไปส่งหน่อย เพราะเธอไม่ได้ขับรถมาเมื่อเช้า เพราะรู้สึกเวียนๆหัว ผมก็รับปาก แล้วกลับออกมาจากห้องทำงานส่วนตัวของพี่หน่อยทันที
 
[/post]

johnywalker

พี่หน่อยท่าทางจะป่วย สมชายช่วยดูแลหน่อยสิ

swbkk

ดูแลอย่างเดียวไม่พอหรอกครับ อย่างนี้ต้องฉีดยาสักเข็มสองเข็ม ถึงจะพอมีแรงขึ้นมาได้ หรืออาจจะหมดแรงฟุบไปเลยก็ได้นะ ::DookDig::

st23652

พระเอกใสซื่อเหมือนละครไทยเลยครับ 555

aeadza

อะไรๆก็น้องกันตลอดสงสารพี่หน่อยจังครับ


kris02

สนุกมากครับ สนุกอย่างไม่น่าเชื่อ ถึงแม้ไม่มีบทเสียวให้เห็นเลย (1-24) แต่เนื้อเรื่องน่าติดตามมากครับ อยากรู้บทสุดท้ายสมชาย จะประสบความสำเร็จมั้ย พี่หน่อยเป็นอะไร จะเจอน้องกันมั้ย ยอดเยี่ยมครับ

aey3699

หน่อยมีปัญหาสุขภาพ เป็นโรคร้ายแรงแน่ๆ ถ้าสมัยนั้นก็น่าจะเป็นมะเร็ง น่าสงสารจัง ชายต้องดูแลหน่อยให้ดีนะ รักแบบพี่สาวก็ได้