• Welcome to 🧡 XONLY 🧡.
 

ข่าว:

📢📢📢 เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น แล้วจ้า  ชื่อเก่าบินไปเรียบร้อยแล้ว 😭

Main Menu

หลักสูตรร้อนอ้อนรัก - Lustlow R Zuse (บทเรียนที่ 16)

เริ่มโดย lustlow, กรกฎาคม 07, 2025, 11:35:03 หลังเที่ยง

-

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ถึงผู้อ่านทุกท่าน

นิยายเรื่องนี้สามารถอ่านฟรี จนจบเรื่อง เป็นเรื่องราวสุดสยิวของครูหนุ่มผู้มีความต้องการอันสุดหยั่งคาดกับบรรดาคนในโรงเรียน

เนื่องจากไรท์ช่วงนี้มีปัญหาส่วนตัว  ::Crying::  อาจทำให้ไม่สามารถอัพเดทงานได้ตรงเวลา จึงขอปรับการอัพตามความสะดวกจนกว่าจะจัดการปัญหาได้

ขอบคุณที่ติดตามครับ

=================================================

กลิ่นน้ำมันทอดลอยคลุ้งอยู่ตรงระเบียงหน้าบูธ ม.5/1 บรรยากาศที่เคยตึงเครียดระหว่างจัดนิทรรศการ บัดนี้กลายเป็นความวุ่นวายแบบอบอุ่น เด็ก ๆ หัวเราะเสียงดังนิดหน่อย พูดคุยกันข้ามโต๊ะ นั่งล้อมวงกับถาดโฟมใส่ลูกชิ้นทอดและน้ำอัดลมเย็นเจี๊ยบในแก้วพลาสติก มีซอสพริกหกเลอะบนกระดาษทิชชู่ และไม้เสียบกองกันจนเหมือนซากหลังศึกใหญ่
แพรยืนอยู่ริมขอบกลุ่ม มือกอดแฟ้มไว้หลวม ๆ แต่บนใบหน้าเธอมีรอยยิ้มที่ผ่อนคลายกว่าทั้งวัน เธอไม่ได้กินลูกชิ้นกับเพื่อน แต่ยืนดูพวกนั้นหยิบกินกันอย่างไม่หวง ดูทุกคนเหมือนเพิ่งผ่านอะไรใหญ่มาด้วยกัน
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาจากทางด้านหลัง ใครบางคนเดินกลับเข้ามาตามทางเดิม ต้นเงยหน้าขึ้นก่อนใคร สะดุดสายตากับเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่เริ่มยับนิด ๆ ตรงชายเสื้อ รอยยิ้มเขาฉายออกมาเหมือนเด็กเห็นซูเปอร์ฮีโร่เดินกลับมาจากสนามรบ
"ครูรัฐมาแล้ว!!"
ไม่ต้องมีใครสั่ง ต้นคว้าแก้วน้ำอัดลมพลาสติกขึ้นมาทันทีในมือหนึ่ง อีกมือหยิบไม้ลูกชิ้นที่ยังมีสองลูกติดอยู่ วิ่งเข้าไปหาอย่างเร็วแทบจะกระแทกหัวเข่าคนข้างหน้า น้ำในแก้วสั่นจนซ่าแทบล้นขอบ
"รับลูกชิ้นมั้ยครับครู!! กับน้ำโค้กเย็น ๆ ครับ เพิ่งเปิดเมื่อกี้เลย!!"
"เฮ้ย มึงอย่าเดินไว น้ำจะหก!"
"เดี๋ยวเปื้อนเสื้อครูเขา!"
เสียงเพื่อน ๆ ว่ากันวุ่น ต้นชะงักไปครู่หนึ่งก่อนหัวเราะแบบไม่รู้จะวางอะไรลงก่อน "โทษครับ โทษครับ มือไม่พอ แต่อยากให้ครูกินจริง ๆ!"
รัฐยิ้มกว้างกว่าที่เขาเคยยิ้มทั้งวัน รับแก้วจากมือต้นอย่างระวัง ริมฝีปากเอ่ยเรียบ ๆ แต่เสียงมีความอบอุ่นแบบที่ทุกคนในกลุ่มสัมผัสได้ทันที
"ขอบใจมากครับ...ถือว่าเป็นรางวัลเหรอ?"
"แน่นอนครับครู!" ต้นยืดอก "ฉลองความสำเร็จของห้องเรา! คนแวะบูธเราทั้งวันเลย! พี่ ม.6 ยังชมเลยครับ!"
"พวกครูเวรยังแวะมาแอบกินขนมตรงโต๊ะเราเลยนะคะ" เด็กหญิงอีกคนเสริมเสียงใส
รัฐพยักหน้าเบา ๆ จิบน้ำอัดลมช้า ๆ แววตาเขามองรอบกลุ่มนักเรียนตรงหน้า ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อ รอยซอสเลอะ รอยยิ้ม และแรงล้าแบบที่มาจากความพอใจ
เขาไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มอีกครั้ง
แต่แค่การอยู่ตรงนั้น—ไม่ต้องสอน ไม่ต้องชี้ ไม่ต้องให้คะแนน
มันก็ทำให้พวกเขารู้แล้วว่า วันนี้...พวกเขาทำได้ดีแค่ไหน
กฎของเขาไม่เคยเปลี่ยนมาตั้งแต่เริ่มงาน—"ทำดีต้องได้รางวัล" ไม่ใช่เพราะเขาเชื่อในการให้แบบแลกเปลี่ยน แต่เพราะเขารู้ว่า "ความภูมิใจ" เป็นของขวัญที่เด็ก ๆ จับต้องไม่ได้ ถ้าไม่มีใครเป็นคนบอกว่า นี่แหละ ที่ทำดีแล้วจริง ๆ
และวันนี้...พวกเขาทำได้ดีมาก
เขายืนอยู่กลางกลุ่มเด็ก ม.5/1 ที่ยังหัวเราะไม่หยุดจากความวุ่นวายของลูกชิ้นทอดและน้ำอัดลมที่เกือบหกใส่รองเท้าเขาเมื่อครู่ มือหนึ่งยังถือแก้วอยู่ มืออีกข้างล้วงกระเป๋าอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดังพอให้ทุกคนได้ยินทั่ววง
"วันนี้ทุกคนเยี่ยมมาก"
เสียงพูดนั้นทำให้เสียงพูดคุยเบา ๆ ของเด็กเงียบลงแทบจะทันที หันมามองเขาเป็นสายตาเดียว ไม่มีเสียงเฮ ไม่มีคำตอบ แต่ใบหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด—รอยยิ้มที่ลึกขึ้น หัวไหล่ที่คลายลง เหมือนเพิ่งถูกตบไหล่ด้วยคำชมจากใครบางคนที่พวกเขาอยากได้ยินมากที่สุด
"พรุ่งนี้วันเสาร์..." เขาเว้นวรรคเล็กน้อย แกล้งขยับแก้วในมือ "ทุกคนว่างรึเปล่า?"
ต้นชูมือขึ้นก่อนใคร "ว่างครับครู!"
"หนูไม่มีเรียนพิเศษค่ะ!"
"หนูจะเทติวคณิตเลย!"
เสียงตอบสนองหลั่งไหลอย่างพร้อมเพรียงจนคนพูดยังไม่ได้ตั้งใจจะฟังครบทุกคนก็พอจะเดาได้ว่าคำตอบนั้นเอกฉันท์
เขายิ้มนิด ๆ ดวงตาเหลือบมองไปทั่วหน้าเด็ก ๆ แต่ละคนก่อนจะเอ่ยประโยคที่ชัดพอจะจดในสมุดประจำวันของใครหลายคนได้
"บ่ายโมง มาที่โรงเรียนกันนะ ครูจะสั่งหมูกะทะเลี้ยงทุกคน"
คราวนี้ไม่ต้องรอใครเริ่ม เสียงเฮลั่นของกลุ่มเด็ก ม.5/1 ดังขึ้นพร้อมกันราวกับนัดซ้อมมาก่อน เสียงหัวเราะผสมเสียงตะโกน "เย้!" "หมูกะทะ!" "รักครู!" ดังจนบูธข้าง ๆ ต้องหันมามองด้วยรอยยิ้มงง ๆ
ต้นกระโดดหมุนรอบตัวเหมือนเพิ่งถูกรางวัลใหญ่ "ครูคือที่สุดของผมแล้วครับ!"
"ขอให้ทุกวันเป็นงานวิทยาศาสตร์เถอะ!"
แพรยืนอมยิ้มอยู่ด้านข้าง ส่ายหัวเบา ๆ กับความโหวกเหวกของเพื่อนในห้อง แต่สายตาเธอทอดไปยังครูรัฐที่ยืนยิ้มอย่างเงียบ ๆ อยู่ตรงกลางวง
ไม่ใช่เพราะหมูกะทะหรอกที่ทำให้ทุกคนดีใจขนาดนี้
มันเป็นเพราะเขา—เลือกอยู่ตรงนี้กับพวกเขา
ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง วุ่นวาย และการกระโดดโลดเต้นแบบไม่มีท่าทีจะหยุดลงของเด็กห้อง ม.5/1 รัฐยืนนิ่งอยู่ตรงกลางวงล้อมด้วยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า แต่ดวงตาเขากำลังมองใครบางคนเป็นพิเศษ แพรยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว มือยังถือแก้วน้ำอัดลมเอาไว้แน่น ริมฝีปากยิ้มบาง ๆ แต่สายตาคอยมองเขาอย่างระแวดระวัง ราวกับพยายามไม่ให้ใครเห็นว่าเธอกำลังรออะไรอยู่
เขาเหลือบตามองเธอเพียงแวบเดียวก่อนขยับปลายคางน้อย ๆ ไปทางตัวเอง มันไม่ใช่คำสั่ง ไม่ใช่การเรียก แต่เป็นการเชิญที่เงียบที่สุด—และแพรก็เข้าใจ
เธอก้าวเข้ามาใกล้ ในจังหวะที่ต้นกำลังจะขอถ่ายเซลฟี่หมู่และเสียง "หมูกะทะ! หมูกะทะ!" ยังดังก้องอยู่ด้านหลัง เธอเอียงตัวเข้ามาเล็กน้อย เพื่อฟังให้ชัดเจน
เขาไม่ได้มองเธอตรง ๆ แต่พูดเสียงเบา ชิดพอจะไม่ให้คนอื่นได้ยิน แต่ชัดพอจะไปถึงตรงกลางหัวใจเธอ
"ผมไม่ลืมสัญญาของเราหรอกนะ"
เพียงแค่นั้น...แววตาของแพรเปลี่ยนทันที รอยยิ้มบนริมฝีปากเธอไม่หายไปไหน แต่สีหน้ากลับอ่อนลง ราวกับสิ่งที่เธอแบกไว้ในใจมาตลอดทั้งวัน ถูกปลดลงอย่างไม่ทันตั้งตัว
เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย พยายามกลั้นอาการที่แสดงออกไม่ได้ ใบหูสองข้างขึ้นสีจาง ๆ ก่อนจะกลายเป็นสีแดงระเรื่อ ราวกับเลือดไหลย้อนขึ้นมาพร้อมคำพูดเพียงหนึ่งประโยค
"ค่ะครู" เธอพึมพำตอบเบา ๆ โดยไม่เงยหน้าขึ้นมองเขา
เขายิ้มเพียงนิดเดียว ก่อนหันกลับไปสบตากับกลุ่มเด็กที่กำลังชูไม้เสียบลูกชิ้นราวกับเป็นธงชัย
ขณะที่แพรถอยกลับไปที่กลุ่ม เพียงไม่กี่ก้าว แต่หัวใจของเธอยังคงเต้นดังอยู่ในอก มือยังจับแก้วพลาสติกแน่นกว่าเดิมเล็กน้อย
ในความวุ่นวายนั้น ไม่มีใครได้ยิน
ไม่มีใครสังเกต
แต่เธอรู้...ว่าเขาจำได้
และเธอรู้...ว่าความคาดหวังของเธอไม่ได้ลอยอยู่คนเดียวในอากาศอีกต่อไป
ในห้องทำงานเล็ก ๆ ที่จัดมุมไว้หลังบ้าน โต๊ะไม้เรียบ ๆ ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเกินความจำเป็น ไม่มีกรอบรูป ไม่มีเครื่องเขียนฟุ่มเฟือย มีเพียงโคมไฟตั้งโต๊ะ แฟ้มเอกสาร และกล่องเหล็กใบเล็กที่เปิดค้างอยู่ เผยให้เห็นขวดแก้วเรียงรายอยู่ด้านใน
รัฐนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตรงโต๊ะนั้น ขาทอดไปด้านหน้า เอนหลังพิงพนักเบา ๆ แก้วเบียร์ในมือมีหยดน้ำเกาะเต็มผิวด้านนอก ความเย็นของมันแทบไม่ได้แตะจิตใจเขา
เขายกแก้วขึ้นจิบเล็กน้อย สายตาเหลือบไปมองขอบโต๊ะ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบหลอดทดลองแก้วใสทรงเล็กที่บรรจุของเหลวที่ดูไม่ต่างจากน้ำเปล่าเอาไว้—ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหากมองผ่าน ๆ
เขาหยิบ ดรอปเปอร์ อันเล็กขึ้นมา กดเบา ๆ เพื่อดูดของเหลวใสขึ้นมานิดเดียว ตรวจเช็คความคงตัว แล้ววางมันลงอย่างระมัดระวังในซองหนังสีเข้มที่วางอยู่ข้างกล่อง เปิดฝาพับก่อนจะเรียงมันข้างอีกสองหลอดที่จัดอยู่ในตำแหน่งพอดี
เขามองหลอดทั้งสามเงียบ ๆ แล้วพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
"รอบนี้ได้แค่นี้สินะ..."
ไม่มีน้ำเสียงเสียดาย ไม่มีแววผิดหวัง มีแค่การยอมรับแบบคนที่รู้ดีว่าเกมแบบนี้...ไม่มีคำว่าได้ครบตามเป้าเสมอ
เขายืดตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนเอื้อมมือไปยังกล่องเหล็กอีกใบ เปิดฝาแล้วหยิบขวดเล็ก ๆ ขนาดไม่ต่างจากขวดยาทาเล็บออกมา วัสดุเป็นแก้วขุ่น ฝาสีดำพลาสติกด้าน เมื่อเขายกขึ้น แสงไฟกระทบของเหลวภายในที่นิ่งอยู่ก้นขวด
เขย่าขวดเบา ๆ สารข้างในขยับช้า ๆ ใสจนแทบไม่มองเห็น แต่ถ้ารู้จักมันดีพอ...ก็จะรู้ว่ามันไม่ธรรมดา
"ต้องสั่งเพิ่มอีกแล้วสิเนี่ย"
เขาพึมพำขณะมองสารในขวดเหมือนกำลังอ่านข้อมูลจากมัน
เขาวางขวดกลับลงอย่างเบามือ หยิบซองหนังขึ้นอีกครั้ง พับเก็บแล้ววางลงในลิ้นชักล็อกแน่น
บ่ายวันเสาร์ แสงแดดอ่อนลงช้ากว่าปกติราวกับรู้ว่ามีบางอย่างพิเศษเกิดขึ้นในโรงเรียน ธารเกษมไม่ได้ว่างเปล่าเหมือนเช้าวันหยุดทั่วไป ลานปูนหน้าอาคารเรียนถูกแปรสภาพให้กลายเป็นพื้นที่เฉพาะกิจ เสื่อผืนใหญ่ปูเรียงกันบนพื้น โต๊ะพับวางกระจาย ตรงกลางแต่ละกลุ่มมีเตาแก๊สแบบปิคนิคตั้งไว้ควันพวยพุ่งขึ้นเป็นสายเหมือนโรงงานอบไอน้ำแบบมีชีวิต
เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระลอกคล้ายลมโกรก เด็ก ม.5/1 เกือบทั้งห้องมารวมตัวกันครบ พวกเขาใส่ชุดไปรเวตตามสไตล์ของตัวเอง บ้างใส่เสื้อยืดทีมโรงเรียน บ้างมาในชุดวอร์มที่ยังดูเหมือนเพิ่งนอน บ้างผมยังยุ่งเหมือนไม่ได้หวี แต่ทุกคนดูเบิกบานและสบายใจแบบที่ในห้องเรียนไม่เคยมีให้
ต้นนั่งคร่อมเตาเหมือนเป็นเจ้าของกิจการหมูกะทะโดยตรง มือหนึ่งคีบหมู อีกมือปาดเหงื่อไม่หยุด ปากยังไม่หยุดคุย "เอ้า! ใครอยากกินเนื้อสุก ๆ ทางนี้! ใครชอบไหม้ ๆ ไปอยู่กลุ่มโน้นนะครับผม!"
เสียงซ่า! ดังขึ้นจากหมูที่เพิ่งถูกวางลงบนกระทะโลหะร้อนจัด กลิ่นหอมลอยคลุ้งจนเด็กห้องอื่นที่เดินผ่านยังต้องชะงัก
แพรนั่งอยู่ที่ริมเสื่อ กลางวงที่ไม่ห่างจากเตาหลัก มือคีบผักให้คนข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ เธอยังเป็นแพรคนเดิม—ดูสุขุมกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน แต่รอยยิ้มบนหน้าวันนี้เป็นรอยยิ้มที่ลึกกว่าเวลาเธอได้คะแนนเต็ม
และในที่สุด...เสียงฝีเท้าก็ค่อย ๆ ใกล้เข้ามา
"ครูรัฐมาแล้ว!"
เสียงตะโกนจากปลายสนามประกาศเหมือนพิธีกรงานเลี้ยง เด็กทุกคนหันควับไปมอง รัฐเดินมาในเสื้อเชิ้ตแขนพับกับกางเกงผ้าสีเข้ม ดูไม่ทางการแต่ก็ไม่ถึงกับสบายจนเด็ก ๆ กล้าแกล้ง แต่มันพอดี...พอดีแบบที่เขาเลือกวางตัวกับพวกเขาเสมอ
เขาถือถุงพลาสติกสีขาวที่ข้างในบรรจุน้ำแข็ง กับขวดน้ำอัดลมขนาด 1.25 ลิตรอีกสองขวดในมืออีกข้าง
"ใครขาดน้ำยกมือขึ้น" เขาพูดเสียงนิ่งแต่ดังพอให้ได้ยินทั่ววง
เสียงโห่ดังขึ้นทันที ต้นรีบลุกไปรับถุงอย่างรวดเร็ว "ของแท้! โค้กแท้! ไม่ใช่แบบไม่มีน้ำตาลนะครับทุกคน!"
รัฐหัวเราะในลำคอเบา ๆ ขณะวางขวดลงบนโต๊ะพับ แล้วหย่อนตัวลงนั่งริมเสื่อในมุมว่าง เขาไม่ได้แย่งไม้คีบจากใคร แต่รับจานหมูที่ต้นส่งให้ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
เด็ก ๆ พูดคุยกันวนไปไม่หยุด—จากหมูกะทะถึงเรื่องตลกในห้องเรียน จากนิทรรศการถึงอาจารย์ที่เคยหลับคาหนังสือเรียน บางคนเอามือถือขึ้นมาเปิดเพลงดังจากลำโพงเล็ก ๆ ที่ใครสักคนแอบพกมา แล้วทุกคนก็เริ่มโยกตัวเบา ๆ เหมือนบาร์บีคิวริมชายหาด
แพรนั่งอยู่ริมเสื่อในมุมที่ไม่ได้โดดเด่นที่สุด แต่ก็ไม่หลบสายตาเกินไป เธอวางจานเปล่าไว้ข้างตัว มือยังคีบผักในจังหวะเนิบนาบเหมือนทำไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้สึกหิวจริง ๆ ดวงตาเธอจับจ้องไปที่บุคคลคนหนึ่ง—แม้จะไม่ได้หันหน้าไปตรง ๆ แต่แววตาเธอไม่เคยหลุดจากเขาเลย
ครูรัฐนั่งอยู่ในอีกวงใกล้กัน ห่างไม่ถึงห้าเมตร มีเด็ก ๆ ล้อมรอบเหมือนพระจันทร์ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มดาว ทุกคำพูดของเขาทำให้คนรอบข้างหัวเราะ ทุกคำชมของเขาทำให้ไหล่ใครบางคนยืดขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว
เขาไม่ได้พูดมาก แต่การอยู่ของเขากลับดึงดูดได้มากกว่าคำพูดใด ๆ
แพรขยับมือเล็กน้อย ขอบตาเธอเริ่มร้อนวูบขึ้นมาแบบไม่มีสัญญาณ เธอรีบหลุบตาลงทันที ใช้มืออีกข้างปาดเหงื่อที่ไม่ได้มีจริงตรงขมับเบา ๆ แล้วหายใจเข้าเงียบ ๆ หนึ่งครั้ง
เธอจำประโยคของเขาได้แม่นยำ


ห้องทั้งห้องมีเพียงแสงไฟฟลูออเรสเซนต์สีขาวขุ่นจากหลอดยาวเหนือศีรษะ พื้นกระเบื้องสะท้อนเงาอุปกรณ์ทดลองที่วางระเกะระกะบนโต๊ะยาวด้านในสุด บีกเกอร์ แอลกอฮอล์ สารละลาย และสายไฟโยงกันเหมือนร่างแผนสนามรบ
แพรกำลังนั่งจดบันทึกหน้าบอร์ดนิทรรศการ ท่ามกลางความเงียบที่มีเพียงเสียงพิมพ์ปากกาและพัดลมเพดานที่หมุนเอื่อย ๆ เธอใส่เสื้อยืดสีอ่อน ผมถูกรวบครึ่งหัวลวก ๆ มีรอยชอล์กติดปลายแขนเสื้อ
เพื่อนในกลุ่มทยอยกลับกันหมดแล้ว เหลือแค่เธอกับแสงที่ยังเปิดไว้ครึ่งห้อง
เสียงเปิดประตูดัง "แกร๊ก" เบา ๆ จากมุมห้อง
"ยังไม่กลับเหรอ?" น้ำเสียงนุ่มแต่ทุ้มต่ำที่เธอจำได้ทันที—ครูรัฐ
แพรเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย "แพรอยากเช็กลำดับการจัดแสดงกับพิมพ์ใบรายชื่อกลุ่มค่ะ...พรุ่งนี้จะได้ไม่วุ่น"
เขาเดินเข้ามาเงียบ ๆ ช้า ๆ จนเสียงรองเท้ากระทบพื้นแทบไม่ได้ยิน หยุดอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะก่อนจะวางขวดน้ำเย็นที่ถือมาไว้ตรงหน้าเธอ
"ดื่มน้ำก่อน จะได้คิดต่อไหว"
แพรมองขวด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขาแล้วพยักหน้าเบา ๆ
"ขอบคุณค่ะ..."
รัฐไม่ได้พูดอะไรต่อทันที เขาหยิบเก้าอี้อีกตัวเข้ามานั่งลงข้าง ๆ ห่างแค่ครึ่งช่วงแขน แล้วทอดสายตามองโต๊ะที่เต็มไปด้วยรอยดินสอ แผ่นกระดาษ และตารางงาน
"เหนื่อยมั้ย?" เขาถามเรียบ ๆ
แพรนิ่งคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบทั้งที่ยังมองเอกสาร "เหนื่อยค่ะ...แต่ดีที่ยังรู้สึกมีแรง"
รัฐพยักหน้าเบา ๆ พลางเอนตัวไปหยิบแฟ้มอีกเล่มที่เธอวางทิ้งไว้ "แพรทำได้ดีนะ รู้ใช่ไหม?"
คำพูดนั้นทำให้มือของเธอที่ถือปากกาชะงักไปเล็กน้อย
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพึมพำออกมาว่า "บางทีก็...ไม่แน่ใจค่ะครู"
เขาหันมามองหน้าเธอชัด ๆ ครั้งแรก ดวงตาคู่นั้นดูสงบแต่จริงจัง "ทำไมล่ะ"
"บางที...แพรรู้สึกว่า ถ้าไม่มีผลลัพธ์ ไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรม คนอื่นก็จะไม่เห็นว่าแพรพยายามแค่ไหน..." เธอหลบสายตาเล็กน้อย ก่อนพูดต่อ "แล้วมันก็เหมือนต้องพยายามต่อไปเรื่อย ๆ ไม่รู้จบ"
รัฐเงียบฟัง ไม่พูดแทรกแม้แต่คำเดียว เขาปล่อยให้คำของเธอลอยวนอยู่ในห้องสักครู่ ก่อนจะพูดช้า ๆ ว่า
"แพรเป็นเด็กที่ฉลาด และมีวินัย ไม่ต้องมีใครย้ำเลยก็รู้ว่าต้องทำอะไร"
เขาหยุดเพื่อเว้นจังหวะ แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่นุ่มกว่าทุกครั้งที่เคยพูดในห้องเรียน
"แต่ครูอยากให้รู้ไว้ว่า...การที่มีใครสักคน เห็น ความพยายามของเรา มันสำคัญพอ ๆ กับความพยายามนั้นเอง"
แพรเม้มปากแน่นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ "แล้ว...ครูเห็นแพรหรือเปล่าคะ?"
รัฐเงียบเพียงครู่ ก่อนพยักหน้าช้า ๆ น้ำเสียงเขานุ่มแต่มั่นคง
"เห็นสิ...ตั้งแต่วันแรกที่เธอลุกขึ้นพูดในที่ประชุมห้องจนถึงวันนี้—ครูเห็นทุกก้าวที่เธอพยายาม"
คำตอบนั้นทำให้หัวใจแพรเต้นแรงกว่าที่เธออยากให้เป็น เธอหลุบตาลงเล็กน้อย คล้ายจะกลบอาการบางอย่างในแววตา
รัฐนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอนหลังเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้รู้สึกเหมือนเขากำลังถามอะไรสำคัญ
"นึกถึงวันนั้นที่คุยกัน....แพรอยากได้อะไรนะ"
เขาหยุดเล็กน้อยเพื่อสบตาเธอ
"แพรอยากได้อะไรพิเศษ...เป็นรางวัลที่บอกว่าต่างจากคนอื่น?"
แพรนิ่งไป ไม่คิดว่าเขาจะถามแบบนี้ เธอยกมือขึ้นดันปลายผมที่ตกลงมาข้างแก้ม ริมฝีปากขยับเบา ๆ ราวกับลังเล แต่สุดท้ายเธอก็พูดออกมาอย่างช้า ๆ
"...อยากให้ครูเลี้ยงข้าวค่ะ ซักมื้อ"
รัฐหัวเราะในลำคอเบา ๆ ยิ้มบาง ๆ แต่แฝงความเอ็นดูในแววตา
"จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ครูก็ตั้งใจจะเลี้ยงทุกคนอยู่แล้วน่า"
แพรยิ้มตาม แต่ไม่ใช่รอยยิ้มธรรมดา เธอสบตาเขาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะพูดเสียงเบา...แต่มั่นคง
"...แพรหมายถึง ให้ครูพาไปเลี้ยง...กันแค่สองคนค่ะ"
รัฐเงียบไป
ไม่ใช่เพราะตกใจ แต่เพราะกำลังประมวลทุกน้ำหนักในถ้อยคำของเธอ เขาไม่ได้หลบตา แต่ก็ไม่ได้ตอบทันที
แสงจากหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์กระทบแววตาของเขาในมุมที่ทำให้ดวงตาคู่นั้นยิ่งดูอ่านยากขึ้นไปอีก
ท้ายที่สุด เขาเพียงพยักหน้าช้า ๆ
"...เข้าใจแล้วครับ"
แพรหลุบตาลง พร้อมรอยยิ้มที่พยายามซ่อนอย่างที่สุด แก้มสองข้างเธอเริ่มขึ้นสี ริมฝีปากขบเม้มแน่นจนเกือบเป็นเส้นตรง แต่หัวใจกลับเต้นจนแทบจะหลุดจากอก
เธอไม่ได้พูดอะไรอีก—และเขาก็ไม่ได้พูดซ้ำ
แต่ในห้องทดลองอันเงียบงันคืนนั้น มีบางสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วโดยไม่มีคำประกาศชัดเจน
สัญญานั้น...ไม่ใช่แค่เรื่องของโครงงานอีกต่อไป

=======โปรดติดตามตอนต่อไป=====
ติดตามผลงานอื่นได้ที่
FB กลุ่มเรื่องเสียวดารา ->
Fictionlog ->

#1
แพรคือเหยื่อคนที่สองที่ติดบ่วงครูรัฐ

#2
ขอบคุณและรอคอยสิครับ ^_^

ขอให้ไรท์ข้ามผ่านปัญหาไปได้ด้วยดีนะครับ

#3
ชักสงสารเด็ก​ที่เข้ามา​อยู่​ในอาณัติ​ครูรัฐ​ เหมือน​งูเหลือม​ที่กลืนเหยื่อทั้งเป็น​

#4
ทำไมหนอ รัฐก๋ดูโปรไฟลดี จิตวิทยาสูง แผนสูง หน้าตาดี มีฐานะ ถึงกับต้องมอมยา ให้สาวนร.ด้วย ทั้งๆที่สาวก็มีใจให้
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

#5
ความสัมพันธ์ยากคาดเดา



/index.php?action=profile;area=showposts;u=353791/index.php?topic=239806.525/index.php?topic=285508.1350two-hitchhikers.ru/index.php?topic=241780.750/index.php?topic=172262.0/index.php?topic=259442.30/index.php?topic=202525.0/index.php?topic=230423.90/index.php?topic=257764.75จอมคนโลกใหม่ site:two-hitchhikers.ru/index.php?topic=258621.45/index.php?topic=83673.0/index.php?PHPSESSID=7imuqk648ntltuhqc5vl7urn20&board=54.0/index.php?topic=240291.0ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ ตอนที่ 44 site:two-hitchhikers.ru/index.php?topic=153271.0ปั้นเมียให้เป็นชู้....ตอนที่ 2/index.php?topic=237776.285/index.php?topic=209828.0chase pentien/index.php?topic=218494.60/index.php?topic=294189.330two-hitchhikers.ru ลูกพลิยขิงพ่อ/index.php?PHPSESSID=oqm6vnin2fptrbk7ecjrrhd8jv&topic=182282.2625เรื่องเสียว มหาลัยกระสันต์/index.php?topic=80794.0 two-hitchhikers.ru - มุมมืด/index.php?board=60.900/index.php?topic=210473.60เรื่องเสียว Return!/index.php?topic=217077.210Two-hitchhikers.ru โลกก็เป็นแบบนี้ ตอนที่ 8/index.php?topic=254882.0ปั้นเมียให้เป็นชู้....ตอนที่ 2/index.php?topic=209810.30/index.php?board=3.200/index.php?topic=238984.90แม่ผมใจดีเห็นผมเงี่ย่นเลยให้ผมเย็ด/index.php?PHPSESSID=oqm6vnin2fptrbk7ecjrrhd8jv&topic=182282.2625/index.php?topic=230745.15/index.php?topic=80278.0/index.php?topic=298364.0/index.php?topic=200824.0/index.php?topic=274263.210/index.php?topic=266513.315/index.php?topic=284921.270เธอมีชู้ "พงษ์เทพ"/index.php?topic=256402.75เกมส์รักภารโรงเฒ่า/index.php?topic=252048.60/index.php?topic=223028.180/index.php?topic=285508.1170/index.php?topic=254982.150/index.php?topic=229563.60/index.php?topic=80278.0/index.php?topic=258779.90/index.php?topic=260222.0/index.php?topic=259550.0/index.php?topic=181041.75/index.php?topic=260222.0/index.php?topic=263045.0/index.php?topic=160011.0two-hitchhikers.ru แม่ลูกอ่อนผัวเผลอ/index.php?topic=285895.165วัน(ไม่)ธรรมดาของแฟนผม/index.php?topic=242711.645/index.php?topic=161735.0/index.php?topic=253635.195Two-hitchhikers.ru โลกก็เป็นแบบนี้ ตอนที่ 8| two-hitchhikers.ru เรื่องเสียวTwo-hitchHikers.ru เรื่องเสียว ทอม/index.php?topic=241917.15