มาแล้ว! เล่มต่อของนิยายยอดฮิตทันยุคทันสมัยกับ แฟนผมเป็นคนดี เล่มที่ 6 เรื่องราวการพักผ่อนในช่วงกักตัวกำลังถึงจุดสำคัญ ต้อมจะทำยังไงเมื่อเขาต้องเจอกับชายหนุ่มที่เข้ามายุ่งกับแฟนสาวเขา เป็นถึงชายร่างใหญ่จากต่างประเทศ โปรดติดตามต่อได้ที่



-------------------------------------------------------------------------------------------------

รูปภาพด้านล่างไม่เกี่ยวกับนิยาย เป็นการโปรโมทงานเฉยๆนะครับ



หากใครอยากติดตามผลงานของผมที่ลงในรูปแบบอื่นนอกจากรวมเล่มในธัญวลัย ตอนนี้ผมได้มีโอกาสร่วมงานกับน้องกวาง DEERLONG ใน Onlyfans นะครับ เป็นการลงนิยายสัปดาห์ละตอนโดยประมาณ สามารถเข้าไปติดตามกันได้ นอกจากนิยายผมก็ยังมีภาพ ไลฟ์สด และสุดพิเศษจริงๆกับการที่น้องกวางอ่านนิยายของผมออกมาเป็นเสียง ใครอยากฟังเข้าไปติดตามและอุดหนุนกันได้เลยครับ ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้



---------------------------------------------------------------------------------------------

นิยายตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ แฟนผมเป็นคนดี เล่มที่ 4 เท่านั้น

สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้คนได้รับความเดือดร้อนทุกรูปแบบ บ้างก็ต้องเข้าโรงพยาบาล บ้างก็ไม่มีรายได้ ผมเองยังดีที่เป็นเพียงนักศึกษา จากอยู่หอก็กลับมาอยู่บ้าน มีผู้ปกครองคอยเลี้ยงดูทั้งเรื่องกินและค่าใช้จ่ายต่างๆ จะลำบากก็ตรงการหาของกิน ต้องคอยพึ่งบริการส่งถึงบ้านซะเป็นส่วนใหญ่

 

ผลกระทบที่หนักสุดเห็นจะเป็นการปิดมหาลัย แต่มันก็มีข้อดีและข้อเสียในตัว ผมเองถึงจะเสียดายเวลาเรียน แต่การอยู่บ้านมันก็ทำให้ผมมีความสุขเช่นกัน ทุกเรื่องบนโลกนี้ล้วนแล้วแต่มีหลายมุมมอง มีแง่ดีและแง่ร้ายควบคู่เสมอ

 

แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมมองมุมไหนก็มีแต่แง่ร้าย นั่นคือการไม่ได้เจอสิค แฟนสาวของผม ปกติผมก็คิดถึงเธอจะแย่อยู่แล้ว มาเจอเรื่องราวของโควิดอีกยิ่งแล้วใหญ่ ทุกวันนี้จึงพึ่งพาเทคโนโลยีใช้วีดีโอคอลเพื่อเห็นหน้ากัน 

 

สิคเองก็น่ารัก เธอมักจะใช้แท็บเล็ตเปิดวีดีโอคอลทิ้งไว้แล้วก็ไปทำอย่างอื่น ปล่อยให้ผมนั่งจ้องโทรศัพท์มือถือดูเธอทำกิจวัตรประจำวันอย่างเพลิดเพลินใจ พอจะดับอารมณ์เหงาในตัวไปได้บ้าง ถึงยังไงผมก็ยังคงคิดถึงมือที่นุ่มนิ่ม เวลาสัมผัสแล้วสบายใจ คิดถึงรอยยิ้มและดวงตาที่คอยจ้องมองผมจนประหม่าหน้าแดง ตอนนี้ก็ทำได้แต่มองหน้าจอเอา

 

สิคเองก็ได้ผลกระทบไม่ต่างจากผม เพราะเราสองคนเรียนมหาลัยเดียวกัน ส่วนเรื่องวงโคฟเวอร์ SWG69 เองก็ต้องพับโปรเจ็คลงไปชั่วคราว เนื่องจากช่วงนี้ไม่สามารถรับงานได้ แต่ยอดดวงใจของผมก็ไม่ปล่อยให้เวลามันเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ เธอคอยดูแลร่างกายและซ้อมเต้นเพลงเก่าๆอยู่ตลอดเวลา

 

ผมยืนยันได้เพราะผมเป็นผู้ชมเพียงหนึ่งเดียวในขณะนี้ สิคซ้อมหนักมาก เธอพยายามใส่ลูกเล่นไปในท่าทาง สีหน้าและสายตา เวลาที่เธอมองจิกมาที่กล้องโทรศัพท์ ทำเอาผมใจละลาย นับวันสิคยิ่งมีเสน่ห์และความสามารถมากขึ้น ดูโดดเด่นกว่าเมื่อก่อนมาก

 

สุดท้ายสิคก็ยังคงเป็นสาวน้อยบอบบาง แฟนสาวของผมฝึกซ้อมต่อเนื่องจนเกินไป ทำให้เธอรู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วขาและสะโพก 

 

"มันปวดๆตึงๆยังไงก็ไม่รู้อ่า" สิคทำเสียงออดอ้อนใส่ผม

"เด็กดื้อ บอกให้พักแล้วก็ไม่ยอมพักไง"

"แหะๆ ลืมตัวไปหน่อย" สิคแลบลิ้นเขกหัวตัวเองเบาๆ ดูน่ารักน่าหยิก

"ว่าแต่ปวดมากไหม ไปหาหมอมั้ย? เดี๋ยวต้อมพาไป" ไม่ว่าช่วงนี้จะเสี่ยงหรืออันตรายเพียงไหน ผมก็พร้อมไปหาสิค

"ไม่เป็นไร สิคว่าจะลองนวดดู น่าจะช่วยได้มั่ง" 

"นวด? สิคนวดเป็นด้วยเหรอ ระวังจับเส้นผิดนะ" 

"เปล่าๆ พอดีสิคไปเจออันนี้มาอะ มันติดอยู่ตรงหน้าลิฟท์"

 

สิคหยิบกระดาษแผ่นเล็กยื่นมาที่หน้ากล้อง มันเป็นแผ่นโฆษณาเขียนว่านวดผ่อนคลาย นวดน้ำมัน โดยคนในหอพักเดียวกับที่สิคอยู่ ด้วยความที่เป็นหอนอกที่ใกล้มหาลัย จึงมีผู้คนหลากหลายอาชีพและหลายช่วงวัยอาศัยอยู่

 

สิคให้เหตุผลโน้มน้าสว่า มันน่าจะปลอดภัยเพราะเป็นคนในหอด้วยกันเอง ไม่น่าจะมีโรคติดต่อ อีกอย่างสิคก็อยากช่วยเหลือคนขาดรายได้ในช่วงนี้ด้วย

 

ได้ฟังอย่างงี้แล้วผมก็ปลื้มใจ แฟนผมเป็นคนดีจริงๆ ขนาดสถานการณ์แบบนี้เธอยังคิดที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คนอื่น ทั้งที่ตนเองก็งานหดหายรายได้น้อยลง ผมซึ่งเป็นแฟนก็ยินดี และพร้อมจะสนับสนุน ถ้าเธอขาดเหลืออะไรก็พร้อมที่จะช่วย

 

"ว่าแต่สิครู้จักคนนวดไหมอะ"

"ไม่รู้อ่า เขาไม่ได้ลงชื่อเอาไว้ ลงแต่เบอร์โทร ว่าจะลองโทรดู"

"อื้อ ลองดูสิ"

 

สิคเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรถาม ส่วนผมก็นั่งมองแฟนคนสวยอย่างเพลินตา วันนี้สิคน่ารัก เธอแต่งหน้าบางๆ ผมที่สั้นเริ่มยาวก็หวีจัดทรงเป็นอย่างดี ใส่เสื้อยืดสีส้มตัวโคร่งโอเวอร์ไซส์และกางเกงขาสั้นสีขาว หลังจากเจรจาอยู่ครู่นึง สิคก็กดวางสาย

 

"เป็นยังไงบ้าง?" 

"เขาบอกว่าชื่อ พี่โต อะ เสียงดูมีอายุ สิคเองก็ไม่คุ้นหูนะ น่าจะไม่รู้จัก"

"แล้วสิคตกลงว่าจะนวดปะ?"

"อื้อ ว่าจะลองดู อีกไม่นานก็น่าจะขึ้นมา" สิคมองนาฬิกาในโทรศัพท์มือถือ

"ถ้าต้อมจะขอดูตอนนวดจะได้ไหม?"

"ได้สิ แต่อย่าแอบทำอะไรทะลึ่งๆละ" 

 

สิคหัวเราะ เธอชอบล้อผมเรื่องช่างโด่งเป็นประจำ ที่ผมคิดจินตนาการเรื่องทะลึ่งระหว่างสิคกับพวกช่างจนเผลอน้ำแตกเลอะกางเกง สิคเห็นก็เลยช่วยทำความสะอาดให้ แต่เธอมักจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเสมอ 

 

หลังจากที่ผมคุยกับสิคสักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น สิคจึงหันมาปิดไมค์ของผมเอาไว้ตามที่ตกลงกัน เพื่อไม่ให้หมอนวดกลัว แล้วรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูเพื่อรับหมอนวดชายคนนั้นเข้ามา อันที่จริงผมเองก็อยากให้คนนวดสิคเป็นผู้หญิงมากกว่า แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้คงเลือกอะไรมากไม่ได้

 

สิคเดินกลับมาในกล้องพร้อมชายมีอายุคนหนึ่ง ใบหน้าของเขาดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจเท่าไหร่ ตามคำของโบราณว่าคนที่สายตาคล้ายคลึงกับหมาป่านั้นย่อมเจ้าเล่ห์ ท่าทางเกเรราวกับอันธพาล ผิวคล้ำตัวหนา ผมสั้นไว้หนวดเคราเตียนแซมสีดอกเลา สวมเสื้อโปโลกางเกงขายาวขัดกับบุคลิกภาพ 

 

ผมแอบสังเกตุเห็นสายตาของเขาที่มองสิคอย่างเจ้าชู้ ชอนไชไปทั่วร่างกาย ทำเอาสิคที่ดูมั่นใจยังประหม่าหลบสายตา

 

"ไม่คิดว่าลูกค้ารายแรกของพี่จะเป็นเด็กนักศึกษานะเนี่ย" หมอนวดผิวคล้ำคนนั้นพูดพลางยิ้ม ลูบเคราปลายคาง

"จริงเหรอคะ หนูเป็นคนแรกเลยเหรอ" สิคทำหน้าตกใจเอามือป้องปากดูน่ารักสดใสตามสไตล์

"อื้ม ว่าแต่เราอยากนวดแบบไหนล่ะ?" 

 

สายตาของเขาไล่มองสิคตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยเฉพาะหน้าอก และต้นขากระชับขาวนวล เห็นแล้วรู้สึกหงุดหงิด สิคคงจะไม่ทันสังเกตุ หวังว่าเขาจะไม่เป็นมิจฉาชีพฉวยโอกาสทำร้ายหรือชิงทรัพย์ ถึงแม้ว่าผมจะนั่งดูอยู่ แต่ถ้าเกิดเป็นอันตรายขึ้นมาก็คงไปช่วยไม่ทัน

 

"ช่วงนี้ปวดตรงแถวขากับสะโพกน่ะค่ะ พอจะแนะนำได้ไหมคะว่านวดแบบไหนดี"

 

สิคก้มลงไปชี้จุดที่ปวดช่วงขา ในตอนนั้นเองเจ้าคอเสื้อไม่รักดีก็ร่วงเปิดออก ทำให้หมอนวดน่าสงสัยคนนั้นมองเห็นซาลาเปาขนาดพอดีคำที่ถูกโอบอุ้มด้วยชุดชั้นในสีดำตัวน้อย ผมตะโกนบอกให้สิคระวังตัว แต่ลืมไปเสียสนิทว่าถูกปิดใหม่อยู่

 

"ถ้างั้นเดี๋ยวพี่นวดคลายกล้ามเนื้อให้แล้ว เดี๋ยวแถมนวดน้ำมันให้ฟรีๆเลยเอามั้ย? ถือว่าประเดิม" 

"ฟรีเลยเหรอคะ?" 

 

สิคตาโต ตามประสาผู้หญิงที่เจอป้ายลดแลกแจกแถม แต่สิคใสซื่อเกินไปที่จะรู้เรื่องการนวดน้ำมัน แฟนของผมเป็นคนกระตือรือล้น เวลาว่างเธอมักจะตั้งใจทบทวนหรือไม่ก็ฝึกซ้อมเต้น เรื่องราวของผู้ใหญ่จึงไม่ค่อยสนใจนัก เธอคงไม่รู้ว่ามันต้องถอดเสื้อผ้าออกด้วย ถ้ารู้สิคคงจะไม่ยอมแน่ 

 

หมอนวดพยักหน้ายืนยันข้อเสนอก่อนจะบอกให้สิคนอนหงายลงบนเตียง สิคจัดแจงขยับแท็บเล็ตที่เปิดกล้องคุยกับผมอยู่เล็กน้อย จากที่สังเกตุการมองของหมอนวดแล้ว เขาคงจะไม่เห็นว่าสิคกำลังคุยกับใครอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าสิคกดซ่อนหน้าจอของผมเอาไว้

 

การนวดเริ่มต้นขึ้น หมอนวดหน้าดุเริ่มนวดที่ขา ท่าทางของเขาดูทะมัดทะแมงเป็นมืออาชีพกว่าที่ผมคิดไว้ และมือน่าจะหนักพอสมควร สิคทำหน้าเหยเกใส่กล้องขยับปากบอกผมว่าเธอเจ็บแค่ไหน 

 

หมอนวดคนนี้ยังคงแอบแสดงอากัปกริยาที่ไม่ดีลับหลังสิคอยู่หลายรอบ หลายครั้งที่เขาวนเวียนเข้าใกล้จุดสงวนแต่ก็ทำเนียนเขยิบมือหนีก่อนที่สิคจะอ้าปากกล่าวตักเตือน

 

"ขาของหนูสวยมากเลยนะ แต่นวดดูแล้วรู้เลยว่าใช้งานหนัก ดูแลมันดีๆล่ะ" หมอนวดชวนคุย

"จะพยายามนะคะ เวลาทำอะไรแล้ว หนูมักจะจริงจังและลืมตัวทุกที"

"ไม่เป็นไร ถ้าเมื่อยเมื่อไหร่ก็เรียกพี่มานวดได้" 

"นั่นสินะคะ พี่นี่นวดดีมากเลย หนูรู้สึกสบายขึ้นเยอะ" สิคนอนหลับตายิ้ม 

"แล้วน้องอยู่ห้องกับใครเหรอ เผื่อพี่จะฝากให้ช่วยโปรโมทเพื่อนหน่อย"

"หนูอยู่คนเดียวค่ะ" 

 

สิคเผลอพูดออกไป จนเธอลืมตาขึ้นมาคิดจนคิ้วขมวด แฟนของผมยังคงขาดความรอบครอบอยู่เหมือนเดิม ทำให้ผมเป็นห่วงได้อยู่ประจำ เธอคงไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา 

 

 

 

เจอหมอเฒ่า