เนื้อเรื่องเหมือนคุณแม่สอนเสียว ผมเพิ่มด้วยเพราะว่า เก็บไว้อ่าน แนวนี้ผมชอบด้วยผมเอาตัวผมไปเป็นพระเอก ชือชุ้ง จะเป็นการตีความใหม่โดยนำตัวละครของท่าน katalun Farewell  ก้อปปี้เรื่องคุณแม่สอนเสียวชัดๆ ไม่มีเรื่องไหนที่ผมชอบแล้ว เอาเรืองนี้อ่านกลับมาอ่านได้ใหม่

ดาหวันตื่นเช้ามาเดินลงบันไดมา ดาหวันเดินไปชงกาแฟมากิน ได้ยินเสียงมินตรา พูดออกมาว่า เมื่อคืนสนุกไหมบอกดาหวัน  ดาหวัน สนุกมากเลยแกเพื่อนรัก ดาหวันบอก มินตรา   

มินตรา บ่นได้ ดาหวัน ฟังเดี๋ยวนี้ เธอไม่ใช่เด็กสาวอีกแล้วนะไปทำแบบนั้นไม่ได้แล้วนะ ดาหวัน คือสาวใหญ่วัย 40 ปี แล้วนะ ดาหวันบอกกับเพื่อนรักไม่ไปนอนกับผู้ชาย บอกมินตราไป เข้าใจดีแล้ว บอกดาหวัน

ดาหวัน บอกมาว่า ได้ข่าวมาว่าเมื่อวานลูกสะใภ้มาบ้านหรอ มินตราถอนหายใจออกมา  มีเรื่องอะไรเล่ามา ดาหวันบอกมินตรา

มินตรา เรื่องนี้แหละขอมาปรึกษาดาหวันหน่อย มินตราบอกดาหวันไปเรื่องชุ้งกับไอติมไปวาดแบบนี้แบบนี้  เอาแบบนี้ก็ได้นี่ เราวางแผนไว้เหรอเอาเลยไหม ดาหวันบอก มินตรา ถาม ดาหวัน แกมันดีจริงหรอ แบบนี้ดีแล้ว บอกมินตรา ไป เดี๋ยวหามาให้สาว รอแป๊บนึง 7 วัน ดาหวัน บอกมาว่า มินตรา พูดออกมาว่า เอาสาวๆหลายคนหน่อยOK  เดี๋ยวขอไปทำงานก่อนนะบ๊ายบายเดี๋ยวกลับมา บอกมินตรา
ดาหวันได้ออกไปทำงาน

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป

คำแนะนำของมินตราใช้ได้ผลเป็นอย่างดี จริงๆแล้วไอติมก็ไม่ได้โกรธชุ้งเท่าไหร่นัก เธอแค่รู้สึกอายมากกว่า ทำให้ไอติมกับชุ้งยังคงคบกันได้ราบลื่นไม่มีปัญหา แต่จากคำบอกเล่าของชุ้งนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งชุ้งและไอติมก็ยังดูไม่ไปไหน อย่างมากก็แค่จับมือกันเดิน ส่วนจูบยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย มินตรานั้นเห็นด้วยที่ทั้งคู่ยังไม่ได้เกินเลยกัน เพราะวัยนี้ต้องมุ่งมั่นเรียนไปก่อน แต่เธอก็รู้ว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว หากทั้งสองจะมีอะไรเกินเลยเธอก็ไม่ขัด เธอย้ำเสมอให้ชุ้งป้องกันตัวทุกครั้ง

ตั้งแต่วันที่ไอติมมากินข้าวที่บ้าน ชุ้งก็ยังไม่ได้สอนมินตราเล่นไอจีหรือเฟซบุ๊คเลย เนื่องจากทั้งคู่มักจะว่างกันตอนค่ำๆมืดๆ

ดาหวันได้คนไปรวบรวมรูปสาวสวยมากในแฟ้ม ข้อมูลในแฟ้มดาราสาวนางแบบสาว พริตตี้สาว สาวไซด์ไลน์

ดาหวันเปิดแฟ้มดูรูปข้อมูลสาวสวย ดาหวันเปิดแฟ้มดูไปเรื่อยๆไปเจอ2คน อุทานออกมาว่าเหมาะสมมาก ดาหวันดูผู้หญิงคนแรกดูชื่อดูข้อมูล ดาหวันอ่านข้อมูล

ผู้หญิงคนที1ชื่อ เจนนี่ อายุ22 "ดาราสาวในประเทศไทย ไม่มีใครร้อนแรงเกินหน้าเกินตาดาราสาวสวยวัยรุ่นผู้นี้ไปได้ ด้วยหน้าตาที่สวยคมจากคุณพ่อชาวไทยบวกกับผิวพรรณที่ขาวใสเปล่งประกายจากคุณแม่ชาวเกาหลี ดาหวันบอกว่าน่าสนใจมากเจนนี่คนนี้โปรไฟล์ผ่านมาก




ดาหวันเปิดดูคนที่2

ผู้หญิงคนที2ชื่อ ฟลอเรนซ์ ลูกครึ่งไทยอิตาเลี่ยนวัยใส ผู้เข้าประกวด นางงาม   ✓165/45, 33-24-34 เกรด สาวน้อยวัยเพียง 21 ปี ดีกรีลูกครึ่งอิตาเลี่ยน ดาหวัน บอกว่า คนนี้ดีกว่า หัวหน้า ให้ผมไปเรียกมาไหมครับ





เดี๋ยวก่อน เอาข้อมูลไปได้มินตราดูก่อน มีคนเดินเข้ามาเรียกชื่อดาหวัน หัวหน้าครับแฟ้มผมเตรียมมาดูหน่อยครับ ได้เดี๋ยวดู ดาหวันดูนาฬิกา ออกไปทำงานได้แล้ว

มีคนอยู่ที่มหาลัย ย้อนเวลากลับไปตอนเช้าที่บ้าน  มินตรานั้นได้ถูกเรียกสัมภาษณ์ต่อ ป.โท ในมหาลัยเดียวกับ ชุ้งเรียบร้อยแล้ว และวันนี้เป็นวันสอบสัมภาษณ์ สาวสวยในตอนนี้กำลังสำรวจตัวเองในชุดนักศึกษาสุดรัดไม่ติดกระดุมเม็ดบน เผยให้เห็นอกคู่งามเบียดแน่นอยู่ ส่วนกระโปรงก็เป็นทรงเอสั้นจุ๊ดยาว 12 นิ้ว อวดเรียวขาขาวจนถึงโคน แค่นั่งเฉยๆก็เห็นกางเกงในลายลูกไม้สีขาวแล้ว เธอใส่ส้นสูงเพื่อให้ท่าเดินสวยขึ้น ทุกย่างก้าวจะถูกส้นสูงบังคับให้ต้องส่ายสะโพกหน่อยๆ อย่างยั่วยวน

'อูยยยยย ทั้งสั้นทั้งรัดเลย'
ชุ้งมองเรียวขาขาวสวยของมินตรา ทุกย่างก้าวตั้งแต่เธอลงบันไดมา สายตาของชายหนุ่มเห็นกางเกงในสีขาวลายลูกไม้แบบไม่ต้องพยายามมากนัก สาวสวยเดินมาหยุดตรงหน้าชุ้งราวกับตั้งใจ ขาเรียวขาวห่างจากชุ้งแค่ไม่กี่ก้าว เล่นเอาชุ้งมีอารมณ์ตั้งแต่เช้า

'มองใหญ่เลย อิอิ'

มินตรานั้นแต่งตัวยั่วยวนเป้มา 1 สัปดาห์แล้ว แต่จะพูดว่าแต่งตัวยั่วก็ไม่ถูกนัก เพราะเธอไม่ได้ใส่ชุดโป๊ๆแบบที่เธอชอบต่อหน้าเขาเลยสักครั้ง ยังไงเธอก็เป็นแม่อยู่ เธอเพียงแค่ใส่ชุดปกติแบบที่เคยใส่ เพิ่มเติมคือมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆชุ้ง
เท่านั้นเอง สาวสวยเดินต่อไปแล้วนั่งลงใกล้ๆเจ้าลูกชาย ยกมือขึ้นก่ายหน้าผากจนเต้างามดันเสื้อนักศึกษา แล้วก็อ้าขาออกหน่อยๆ โชว์กางเกงในลายลูกไม้สีขาวให้ชุ้งเห็นเต็มๆ 2 ตา



"โอ้ยยย เซ็งเลย" มินตราบ่นอุบ ทำทีเป็นหลับตาพริ้มแต่แอบหรี่ตามองหน่อยๆ เธอเห็นชุ้งกำลังมองเนินสามเหลี่ยมเธออย่างไม่เกรงใจ เล่นเอาสาวสวยเสียววาบเข้าไปถึงท้องน้อย จนเธอต้องรีบหุบขาแน่นเพื่อกันอารมณ์ไม่ให้เตลิดไปมากกว่านี้  เธอไม่รู้ว่าเป้เห็นอะไรบ้าง

"เป็นอะไรครับ" ชุ้งถาม รีบละสายจากเนินสามเหลี่ยมตามามองหน้าแม่เขาทันที

"แม่เพิ่งรู้ว่า ป.โท ใส่ชุดอะไรไปก็ได้น่ะสิ" มินตราบอก "ดูซิเนี่ย อุตส่าห์ซื้อชุดนักศึกษาแบบน่ารักๆมาใส่ เสียเงินฟรีเลย





มินตราผายมือไปที่ชุดนักศึกษาสุดเซ็กซี่ของตัวเองราวกับอนุญาติให้ชุ้งมองได้อย่างเต็มที่ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนั่งหนีบขาแน่นแต่ไม่ไขว่ห้าง กระโปรงสุดสั้นไม่ได้บังกางเกงในลายลูกไม้สีขาวสักนิด ชุ้งมองวิภาไปควยแข็งไป เขารู้สึกว่าช่วงนี้แม่เขาเซ็กซี่ขึ้นมาก ทั้งๆที่เธอก็แต่งตัวสไตล์แบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ชายหนุ่มคิดว่าเป็นเพราะเขาเข้าสู่ช่วงวัยหนุ่มสาว จึงสนใจเพศตรงข้ามเป็นพิเศษ ชุ้งคิดว่าถ้าแค่มองเรือนร่างสุดเซ็กซี่ของมินตราก็คงไม่เป็นไรนัก เขาก็ไม่ได้หื่นขนาดจะปล้ำแม่ตัวเองสักหน่อย


'หูยยย มองไม่วางตาเลยแหะเดี๋ยวนี้'มินตรายิ้มหน่อยๆ นับวันลูกชายเธอยิ่งกล้ามองเธอนานขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกๆที่แค่มองนิดๆก็ยังอาย


"แม่ใส่แบบนี้แล้วน่ารักไหม" คุณแม่ยังสาวถามยิ้มๆ เธอเพิ่มดีกรีการยั่วขึ้นอีกนิดเพราะรู้ว่าลูกชายเธอเริ่มกล้าขึ้นแล้ว มินตราค่อยๆลูบไล้ขาอ่อนจากเข่าขึ้นมาถึงโคนขาอ่อน และจากโคนขาลงไปที่เข่า ไปๆมาๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ เล่นเอาชุ้งควยแข็งแทบระเบิด


"นะ...น่ารักครับ" ชุ้งประหม่าอีกครั้ง ใจเขาเต้นโครมครามเมื่อมองมือเรียวของสาวสวยลูบไล้ขาตัวเองเล่นไปมาแบบนั้น มินตราสังเกตได้ว่าเธอยั่วมากเกินไป เธอจึงหยุดลูบขาตัวเองแล้วกลับไปนั่งหนีบขาแบบเก่าแทน เก็บจริตยั่วยวนเอาไว้เพื่อให้ชุ้งไม่ตื่นเต้นเกินไปนัก

'เหมือนจะกล้าแต่ไม่กล้าแหะ นี่เรายั่วเพิ่มแค่นิดเดียวยังอายขนาดนี้ แบบนี้จะพัฒนากับหนูอีฟได้ไงล่ะเนี่ย' มินตราคิด


"แม่ก็ว่าชุดนี้เข้ากับแม่นะ แต่สงสัยต้องไปเปลี่ยนแล้วล่ะ" มินตราเอ่ยเสียงหวานทำทีเป็นลุกขึ้น จริงๆเธอรู้มาสักพักแล้วว่า ป.โท ใส่ชุดอะไรก็ได้ เธอแค่อยากใส่ชุดนักศึกษามาแกล้งลูกชายเล่นเท่านั้น เอาเข้าจริงเธอคงไม่เสี่ยงแต่งแบบนี้ไปเรียนแน่ๆ

"แม่ครับ" ชุ้งรีบยกมือเรียกไว้ เขานึกเสียดายที่จะไม่ได้เห็นแม่เขาใส่ชุดแบบนี้อีก


"อะไรเหรอลูกรัก" มินตรายืนเท้าเอวอวดขาสวยไม่ห่างจากชุ้งนัก ชุ้งเห็นขนอ่อนนิดๆที่เรียวขา ยิ่งมองก็ยิ่งน่าลูบไล้ ลำควยของเขาตุงจนปวดกางเกงไปหมด มือกำบนเข่าอย่างเก็บอาการ ดีที่ชุ้งใส่กางเกงยีนสีออกดำๆ มินตราจึงไม่เห็นเป้าที่ตุงออกมา


"แม่ก็ใส่แบบนี้ก็ได้ครับ แล้วเตรียมชุดไปเปลี่ยนที่มหาลัย" ชุ้งลองเสนอดู อย่างน้อยเขาจะได้มองมินตราในชุดนี้ให้ชื่นใจตอนอยู่ในรถ เขาเคยเห็นสาวๆที่แต่งตัวขนาดนี้แค่ในรูปเท่านั้น ยังไม่เห็นต่อหน้าแบบนี้เลย

"เอางั้นเหรอ" มินตราคิดหนัก เธอไม่ได้กะจะใส่แบบนี้ไปข้างนอกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ชุดมันค่อนข้างโป๊ไปหน่อย ถึงมันจะไม่ได้โป๊อะไรมากเมื่อเทียบกับชุดที่เธอชอบใส่ แต่เธอก็รู้กาลเทศะดีว่าไม่ควรแต่งแบบนี้ไปเรียน แต่ถ้าไปถึงมหาลัยแล้วรีบเปลี่ยนก็คงไม่เป็นไรนัก ความคิดมินตราตีกันไปมาในหัว




"ใช่ครับ ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว จะได้ใช้ด้วยไงครับ" ชุ้งบอกอย่างตื่นเต้น เขามองเรือนร่างสาวสวยแล้วอยากลูบควยตัวเองใจจะขาด

"มันจะเสียเวลาแม่รึป่าว ต้องไปเปลี่ยนชุดอีกทีน่ะ" มินตราลองหยั่งเชิง เธออยากรู้ว่าชุ้งจะทำไงต่อ

\

คุณแม่ยังสาวนั่งลงข้างๆแล้วหันทั้งตัวมาหาลูกชาย สองมือเธอดันเบาะพยุงตัวไว้ แอ่นอกหราท้าสายตาจนกระดุมปริเห็นร่องอกลางๆ กระโปรงสุดสั้นร่นสูงจนถึงโคนขา มินตรารีบไขว่ห้างทันทีเพื่อกันประเจิดประเจ้อ เธอชอบยั่วยวนมาตั้งแต่สาวๆแล้ว ประสบการณ์พวกนี้มากขึ้นเรื่อยๆตามอายุ แต่สำหรับชุ้ง มินตราใช้จริตเหล่านี้เพียงแค่เศษเสี้ยวเท่านั้น เธอยั่วยวนแต่จะระวังตัวไม่ให้มากเกินไปอยู่ตลอด เพราะเธอแค่อยากทำให้เจ้าลูกชายกล้ามากขึ้น ความสัมพันธ์กับไอติมจะได้พัฒนาขึ้นสักที แต่ถึงจะใช้นิดเดียว การที่เธอนั่งท่านี้ก็เล่นเอาเป้หน้าแดงก่ำ สายตาอยู่ไม่สุข จ้องมองเธอเขม็งจนเงียบไปนาน แน่นอนว่าไม่อาจรอดพ้นสายตาของมินตราไปได้

"ม...ไม่เสียเวลาหรอก ค...ครับ" ชุ้งพูดติดๆขัดๆ สายตามองเข้าไปในเนินสามเหลี่ยมอยู่ตลอด เขาเห็นกางเกงในลายลูกไม้สีขาวบางวับๆแวมๆ เห็นร่องอกสวยได้รูปเบียดกันแน่น ท่านั่งนี้มันสุดจริงๆ

'อิอิ สงสัยจะมากไป' มินตราคิดในใจทำทีเป็นตั้งใจฟังที่ชุ้งพูด ร่องเสียวเริ่มมีน้ำซึมออกมาช้าๆ เธอรีบหยิบหมอนที่อยู่ใกล้ๆมาวางปิดขาไว้ทันที จากนั้นก็สางผมยาวสวยให้บังๆหน้าอกเพื่อลดดีกรีการยั่วลงอีกหน่อย

"แม่จะได้ใส่ชุดที่ซื้อมาไงครับ เสียเวลานิดหน่อยแต่ไม่เสียของนะ"ชุ้งหาเหตุผลมาสนับสนุน จิตใจเขาเริ่มกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้ง เมื่อไม่ได้เห็นขาขาวๆกับอกอวบๆของคุณแม่ยังสาว


มินตราทำทีเป็นคิดแปปนึงก่อนตอบ

"ก็ได้ งั้นแม่ไปหยิบชุดที่จะเปลี่ยนก่อนนะ" มินตราเอาหมอนออกแล้วรีบลุกเดินออกไปทันที เร็วจนชุ้งเห็นเรียวขาเพียงแวบเดียวเท่านั้น เธอจงใจทำแบบนี้เพื่อคุมการยั่วยวนไม่ให้มากเกินไปนัก เพราะถึงยังไงสาวสวยก็แค่อยากให้ชุ้งกล้าขึ้นเฉยๆ

"ครับ"

ตลอดทางที่มินตรา ขับรถ  ปกติแล้วชุ้งจะชวนเธอคุยแทบจะตลอด แต่พักหลังๆมานี้ชุ้งไม่พูดจาสักคำ  เขาเอาแต่มองเรียวขาแม่ตัวเองอยู่ตลอด ยิ่งเธออยู่ในกระโปรงสั้นจุ๊ดแบบนี้แล้ว ยิ่งดูลุ้นไปทุกการเคลื่อนไหว ยิ่งมินตราขยับ กระโปรงก็ยิ่งร่นขึ้นช้าๆ สูงขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะเห็นกางเกงใน เป้นั่งลุ้นไปตลอดทาง ท่อนเอ็นแข็งปั๋ง แต่จนแล้วจนรอดก็เห็นมากสุดเพียงแค่วับๆแวมๆเท่านั้นจนถึงมหาลัย

"ไปละครับ หวัดดีครับ" ชุ้งไหว้ แล้วเขาก็ตัดสินใจเอนกายไปหาคุณแม่สุดสวย แขนกางออก "ขอกอดหน่อยครับ"

"อิอิ จ้าไอ้ลูกชาย" มินตรา โน้มร่างบางเข้าหาอ้อมกอดของชายหนุ่ม ร่างเล็กๆของเธอจมหายเข้าไปในอ้อมกอดนั้น แล้วมินตรา ก็พูดขึ้นขณะที่ทั้งสองกอดกันอยู่ "อยากได้อะไรจากแม่เหรอ เดี๋ยวนี้อ้อนเก่งจัง"

"มะ...ไม่มีอะไรครับ แค่อยากกอดแม่เฉยๆ" ชุ้งเอ่ยเสียงสั่นๆ สูดกลิ่นน้ำหอมกลิ่นใหม่จางๆของมินตรา ชายหนุ่มนึกเสียดายที่ไม่ได้กอดด้านนอกรถ เพราะการกอดกันในรถแบบนี้ จะสัมผัสกันแค่ร่างกายส่วนบนเท่านั้น แต่แค่นี้ก็รู้สึกถึงหน้าอกนิ่มๆบนแผงอกเขาแล้ว

'แค่กอดก็ตื่นเต้นเหรอ ลูกเรา' มินตรา  ลูกชายเธอหล่อเสียของจริงๆ หล่อแต่ขี้อายแบบนี้จะกล้ารุกใส่สาวๆได้ยังไง เห็นทีเธอต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว

"ป่ะ ไปเรียน" มินตราพยายามจะคลายอ้อมกอด แต่เหมือนชุ้งจะฝืนตัวหน่อยๆ เหมือนไม่อยากปล่อยเธอ แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยไป

"ขอหอมหน่อยครับ" ชุ้งไม่ลดละ เขายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้  มินตรา มองการกระทำของลูกชายตัวแสบแล้วขำหน่อยๆ แต่แม่ลูกหอมกันถือเป็นเรื่องปกติมาก

"ได้จ้า" คุณแม่ยังสาวยื่นหน้าให้ลูกชายหอม ริมฝีปากของชายหนุ่มประทับลงบนแก้มเนียนใสของเธอ และเนื่องจาก มินตราสวยและดูเด็กมาก หากมีใครมาเห็นภาพนี้เข้า คงคิดว่าเป็นการแสดงความรักของคู่รักวัยรุ่นอย่างแน่นอน "ขอแม่หอมมั่ง"

มินตราเม้มปากหอมเป้แบบเร็วๆ ลิปสติกจะได้ไม่เลอะหน้าเขา  "หอมกันเสร็จแล้ว ไปกันได้รึยังจ๊ะลูก"มินตราเอ่ยยิ้มๆ เธอเห็นสายตาเสียดายๆของชุ้งมองมาที่เรือนร่างของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะลาเธออีกครั้งแล้วลงจากรถไป


คุณแม่ยังสาวออกรถไปจอดที่คณะบริหารที่เธอมีนัดสัมภาษณ์ต่อ ป.โท เธอสำรวจชุดนักศึกษาของตัวเองในรถก็รู้สึกว่าเธอแต่งตัวเหมือนพวกโคโยตี้ชุดนักศึกษาตามผับไม่มีผิด มันทั้งรัดทั้งสั้นสุดๆ โป๊กว่าชุดนักศึกษาที่เธอใส่ตอนมากับชุ้งในวันนั้นเยอะมาก คอก็ค่อนข้างลึกมินตรา ลองดึงกระโปรงลงแต่ก็ติดสะโพกดึงลงอีกไม่ได้ คงไม่เหมาะนักหากลงไปทั้งชุดแบบนี้ อีกทั้งเธอกำลังจะเรียน ป.โท ที่นี่ หากใครเห็นแล้วเอาไปพูดคงไม่ดี เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนชุดในรถซะเลย ดีที่แถวนี้ไม่ค่อยมีคน และฟิล์มรถก็ค่อนข้างมืด ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็น




มินตราเดินลงจากรถในชุดสูทขายาวสีดำ เสื้อด้านในเป็นสายเดี่ยวสีขาวผ้ามันตัวบางเบาแต่ก็ไม่ได้ดูเซ็กซี่แต่อย่างใด  เพราะเธอสวมชุดสูททับไว้อีกที  ปกติแล้วมินตรา ไม่แต่งตัวเรียบร้อยขนาดนี้ ชุดนี้เธอซื้อมาเพื่อตอนเรียนที่นี่โดยเฉพาะ  คุณแม่ยังสาวเปลี่ยนจากสาวเซ็กซี่กลายเป็นสาวเรียบร้อยในพริบตา แม้จะอึดอัดแบบสุดๆที่ต้องใส่แบบนี้ แต่ก็ยังดีที่ไม่ต้องใส่นานนัก สาวสวยโดยปกติแล้วชอบเดินส่ายสะโพกยั่วยวนไปตามนิสัยที่สะสมมานาน แต่วันนี้เธอต้องเก็บจริตพวกนั้นไว้ก่อน การทำตัวเป็นสาวเรียบร้อยแม้จะยากสำหรับเธอ แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงนัก ก่อนเดินเข้าไปมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มินตราเปิดดูชื่อดาหวันโทรมา ฮัลโหลดาหวันมีอะไร  ดาหวันบอกมินตราว่า นี่แก เปิดดูรูปหน่อยได้ไหม มินตรา ถาม รูปอะไรหรอ ดาหวันบอก ไปเปิดดูเถอะนะบอกด้วยชอบไหม บอกมินตรา มินตราเปิดlineดู ข้อความ ของดาหวัน ค้นรูปกับข้อมูลมาด้วยเลยหรอนี่ มีสาว6คนสวยมากเลยเอามาได้ชุ้งฝึก บอกด้วยชอบคนไหน

รูปสาวคนที1ชื่อ เจนนี่ อายุ22 "ดาราสาวในประเทศไทย ไม่มีใครร้อนแรงเกินหน้าเกินตาดาราสาวสวยวัยรุ่นผู้นี้ไปได้ ด้วยหน้าตาที่สวยคมจากคุณพ่อชาวไทยบวกกับผิวพรรณที่ขาวใสเปล่งประกายจากคุณแม่ชาวเกาหลี ดาหวันบอกว่าน่าสนใจมากเจนนี่คนนี้โปรไฟล์ผ่านมาก




รูปสาวคนที2ชื่อฟลอเรนซ์ ลูกครึ่งอิตาเลี่ยนวัยใส ผู้เข้าประกวด นางงาม  ✓165/45, 33-24-34   21 ปี ดีกรีลูกครึ่งอิตาเลี่ยน  ไทย เห็นหน้าร้องอ๋อ ลูกครึ่งมาเลย




รูปสาวคนที3ชื่อกิมลั้ง เป็นสาวจีนเกิดที่เมืองไทย ทำงานเป็นนางแบบถ่ายแบบ  21 ปี





รูปสาวคนที4ชื่อ นาบี สาวไทย อายุ 22 ปี ผิวขาวเหลือง สัดส่วน 34-25-35 สูง 153 หนัก 44 หุ่นผอมเพรียว





รูปสาวคนที5ชื่อ ครีม  อายุ 20
สูง 168 cm สูงขนาดนี้ เพราะครีมเป็นลูกครึ่งคะ พ่อเป็นชาวเยอรมัน
ผมดำ โครงหน้าครีมออกมาทางไทยๆหน่อย แต่หุ่นออกฝรั่ง ตาโตอมสีน้ำเงินนิดๆ
ผิวเนียนขาวออร่า คุณแม่เป็นคนเชียงใหม่
หุ่น 35-26-36 เด่นที่ก้นคะ เพื่อนคนไหนก็อิจฉาครีม หาว่าดินระเบิดทั้งนั้น
ระดับนางแบบเชียวแหล่ะ  ไม่ได้อคุย อิอิ แต่ว่าไม่ได้เป็นนางแบบนะคะ ไม่สันทัดแนวนั้น
เพราะครีมชอบออกไปเดินทางมากกว่า ครีมเป็น Youtuber คะ
ช่องของครีมมีคนติดตามเป็นแสนทีเดียว
ครีมเรียนอยู่ ปี4 มหาลัยแห่งนึงทางภาคเหนือ




โซ่ คือ 1 ในเพื่อนสนิทของครีม ที่ชวนมาออกช่องบ่อยๆ
เรียนห้องเดียวกัน ปี 3, ยัยโซ่  เป็นพริตตี้ MC หุ่นดี 33-26-34 สูงน้อยกว่าครีมที่ 162 cm
หน้าตาคนและแนวกับครีม  ยัยโซ่ ออกหมวยๆ หน้าเด็ก น่ารักตาโต
แต่สะโพกเล็กกว่า



มินตรา พิมพ์กลับไปหาดาหวัน บอกไปว่า ขอคิดดูหน่อยดาหวัน 2 วันไม่นานแน่นอน ดาหวันถาม มินตรา ว่าสมัครเรียนแล้วหรอ เดี๋ยวเข้าไปสอบสัมภาษณ์ต่อบอกดาหวันไป
ดาหวันผู้ออกมาว่าแบบนี้ไม่กวนแล้วเดี๋ยวไปทำงานเหมือนกัน วางสายมือถือไปแล้วหรออีเพื่อนคนนี้ก็ มินตราเดินไป


สาวสวยเดินไม่นานก็มาถึงห้องประชุมรวม เธอเลือกนั่งหลังสุดเพื่อที่จะสังเกตบรรยากาศโดยรอบ ในนี้หากดูจากหน้าตาส่วนใหญ่แล้วน่าจะมีแต่คนอายุประมาณเธอ คือประมาณ 30-50 ปี แต่ก็มีเด็กๆวัยหนุ่มสาวอยู่บ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่นัก หากดูรวมๆแล้วก็จะเหมือนว่า มินตราเป็นเด็กสาววัยรุ่นสุดน่ารักคนหนึ่ง ทั้งๆที่เธอก็อายุเยอะแล้ว

"ขอโทษค่ะ นั่งด้วยได้ไหมคะ?" เสียงหวานๆเอ่ยขึ้นใกล้ๆเธอ มินตราหันไปมอง



ปรากฎเป็นสาวสวยผิวขาว หน้าตาน่ารัก ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนยืนยิ้มให้เธออยู่ เธอคนนั้นใส่ชุดเดรสสีขาวด้านในแล้วทับด้วยเสื้อสูทสีฟ้า ดูๆแล้วเหมือนจะเป็นสาวเรียบร้อย มินตราเห็นกระโปรงของสาวนางนี้แม้จะยาวเกือบถึงเข่า แต่กลับซีทรูจนเห็นสูงขึ้นไปจนถึงโคนขาอ่อน ดูๆแล้วตัวจริงน่าจะเป็นสาวเปรี้ยวนางหนึ่ง แต่ต้องคุยกันอีกทีว่านิสัยเป็นแบบไหนกันแน่

"ได้ค่ะ ไม่มีคน"มินตรายิ้มให้ เธอยกกระเป๋าออกจากเก้าอี้ด้านนึงไปวางไว้อีกด้านนึง ให้สาวสวยนางนั้นนั่ง พอเธอนั่งก็ไขว่ห้างทันที

"เราแป้งนะ เธอล่ะ" แป้งแนะนำตัว

"เรามิน" มินตรามองแป้งอย่างสงสัย ที่นั่งออกจะเยอะแยะ ทำไมแป้งต้องมานั่งกับเธอ และดูเหมือนแป้งจะอ่านสีหน้าของมินตราออก

"พอดีเราอยากทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่น่ะ แต่ดูๆแล้วในห้องนี้คนที่น่าจะอายุประมาณเรา ก็มีแต่เธอนี่แหละ เธอน่าจะรุ่นๆเรา น่าจะคุยกันง่าย" แป้งบอกยิ้มๆ ดูน่ารัก ตอนนี้คนเริ่มทยอยหายไปสัมภาษณ์เรื่อยๆ "หรือเธออายุน้อยกว่าเรา เธออายุเท่าไหร่เหรอ"

"44 จ้ะ" มินตราบอกยิ้มๆไม่ปิดบัง เล่นเอาแป้งตาโต จนวิภาอดขำไม่ได้

"แหม เพิ่งรู้จักกันยังกล้าเล่นมุกอีก แต่ไม่บอกก็ไม่เป็นไร" แป้งขำเบาๆด้วยคน เธอนึกว่ามินตราเล่นมุก เพราะสำหรับแป้งแล้ว มินตราดูยังไงอายุก็ไม่น่าเกิน 22 อาจจะบวกลบไม่กี่ปี "เราอายุ 24 นะ"


"แป้งสวยจังค่ะ แนะนำครีมบ้างสิคะ" มินตรา ชมตามมารยาท แต่แป้งกลับดูเขินๆจนหน้าออกแดงระเรื่อ มือไม้กำแน่นบิดไปมา ทำเอามินตรา แปลกใจ

"ได้ค่ะ เดี๋ยวแป้งส่งให้ในไลน์นะคะ" แป้งบอกพลางหยิบมือถือตัวเองยื่นให้มินตรา พิมพ์ไอดีไลน์ให้เธอ "มินทำงานที่ไหนเหรอ"


"ธุรกิจที่บ้านค่ะ" มินตรา ตอบ เธอมองไปที่แป้งพลันเห็นสายตาของสาวสวยนางนี้มองมาที่เธออย่างหยาดเยิ้ม แต่แวบเดียวก็หายไป "นี่ค่ะมือถือ"

"อยากเห็นจังค่ะ" แป้งพูด พลางรับมือถือแล้วเช็คไลน์ของมินตรา อย่างตั้งใจ "ว่างๆพาแป้งไปดูหน่อยสิคะ"

"ได้ค่ะ" มินตรา ตอบรับอย่างไม่คิดอะไรมาก ทำเอาแป้งตาโตอย่างดีใจ คุณแม่ยังสาวเอ็นดูกับลีลาการแสดงออกของแป้ง รู้สึกถูกชะตาจึงลองชวนเธอกินข้าว "สัมภาษณ์เสร็จไปหาอะไรกินกันไหมคะ"

"ไปค่ะ ชวนแล้วนะคะ" แป้งตอบอย่างรวดเร็ว แทบไม่คิด ตาโตสุกใส

"คุณมินตรา เชิญที่ห้องสัมภาษณ์ครับ" เสียงลำโพงดังเรียกชื่อเธอ


มินตราโบกมือลาแป้ง ยิ้มน่ารักให้เพื่อนใหม่ จนแป้งหัวใจพองโต ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ในห้องสัมภาษณ์นั้นปรากฏชายคนหนึ่งอายุน่าจะราวๆเดียวกับเธอ(40 กว่าๆ)เขาใส่ชุดสูทตามปกติของมินตรา ชานี้ ดูจากรูปร่างน่าจะมีกล้าม ท่าทางจะดูแลตัวเองดีระดับหนึ่ง ในมือเขาถือเอกสารซึ่งน่าจะเป็นแบบฟอร์มของมินตรา เขาอ่านชื่อในแบบฟอร์มนั้นโดยยังไม่ได้มองรูป พลางขมวดคิ้วเหมือนครุ่นคิดอะไรสักอย่าง

"คุณมินตรา เชิญนั่งครับ"

"ค่ะ" มินตรา เดินมานั่งยิ้มแย้มอย่างน่ารัก แต่ทันทีที่ชายคนนั้นเงยหน้ามองก็ทำเอาเขาตกใจ

"มิน!!" เขามองมินตราตาค้าง อย่างไม่เชื่อสายตาเล่นเอามินตรางุนงงสุดๆ "มินใช่ไหม เราต่อไง"


มินตรานึกย้อนกลับไปก็จำได้ทันที

ต่อในอดีตคือชายหนุ่มเนิร์ดๆที่อ้วนๆ





เขามักจะปลอบเธอเสมอเวลาที่เธอมีปัญหากลุ้มใจจากผู้ชาย เป็นคนที่ดูแลเธอเวลาเธอไม่มีใคร มินตราเคยคิดว่าต่อน่าจะชอบเธอ แต่เขาก็ไม่เคยบอกชอบเธอเลยสักครั้ง พอผ่านไปจนเธอท้องชุ้งขึ้นมา เธอก็อายจนเลิกติดต่อกับทุกคนในมหาลัย ซึ่งรวมถึงต่อด้วย ต่อในตอนนี้ต่างกับเมื่อก่อนมาก เขาไม่อ้วนสักนิด ดูเป็นหนุ่มใหญ่พราวเสน่ห์ ถ้าเทียบๆกับดาราก็คงประมาณพวกสามีแห่งชาติได้ แถมยังรูปร่างดีอีกด้วย

"จำได้แล้ว ต่อไม่อ้วนแล้วนี่" มินตราอ่ยยิ้มๆอย่างดีใจ "ผอมแล้วหล่อขึ้นนะเนี่ย"


ต่อหนุ่มวัย 40 ปี



"ฮ่าๆ โดนคนล้อเยอะน่ะมิน เลยเปลี่ยนตัวเอง" ต่อมองวิแบบคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน สายตาเขาดูจริงใจไม่มีจริตอื่นแอบแฝงแม้แต่น้อย "มินนี่ก็สวยเหมือนเดิมเลยนะ คือหมายถึงเหมือนเดิมจริงๆ นี่วิโดนสตาฟตอนอายุ 20 เหรอ"

"ขอบคุณค่ะ มินดูแลตัวเองดีน่ะ มีสาวๆวัยรุ่นทักวิเป็นน้องหลายคนเลย" มินตรา พูดขำๆ เธอหัวเราะอย่างสดใส

"ไม่แปลกใจเลย" ต่อบอก เขามองสาวสวยอย่างชื่นชม

แล้วนี่เราจะไม่สอบสมภาษณ์กันเหรอ"มินตรา  เตือนสติ "นี่มินอุตส่าห์แต่งตัวมาเลยนะ"


"เออใช่ แต่เราก็รู้แหละว่ามินมาเรียนเพราะจะเอาไปบริหารธุรกิจครอบบครัวต่อ" ต่อบอก เขายังจำทุกอย่างของมินตรา ได้ "หรือไม่ใช่"

"ใช่จ้า" มินตรา ตอบยิ้มๆ เธอดีใจหน่อยๆ ที่เขาจำรายละเอียดของเธอได้ "แบบนั้นแหละ"

"รู้ว่ามาเรียนทำไม มีเป้าหมายชัดเจนแบบนี้ก็ผ่านอยู่แล้ว" ต่อบอก พลางนั่งเอนหลังอย่างสบายๆ ใจเขาอยากชวนมินตราไปกินข้าว แต่ยังไม่กล้าเท่าไหร่ จิตใจสมัยตอนเป็นเด็กอ้วนเหมือนจะกลับมา เปลี่ยนเรื่องคุย ต่อถามว่า ดาหวัน สบายดีไหม สบายดีมาก มินตรา ตอบ ต่อไม่มีเรื่องคุย แล้ว

"แล้วมินไปได้เลยไหม" มินตราทำท่าจะลุกขึ้น


"เหลืออีกตั้งหลายนาที จะไม่คุยกันหน่อยเหรอ" ต่อดูนอยๆ แววตาออกจะเศร้านิดๆ จนสาวสวยรีบกลับมานั่งที่เดิม ทำตาโตอย่างสำนึกผิด ทำเอาพัทขำกับท่าทีสุดน่ารักทันที "ฮ่าๆ มินนี่น่ารักเรียบร้อยจัง"


"เรียบร้อยเหรอคะ" มินอมยิ้มในใจอย่างยินดีที่ลุคภายนอกของเธอดูเรียบร้อยตามที่เธอได้สร้างไว้ สาวสวยลองใส่จริตการยั่วดู เธออยากรู้ว่าเธอจะยั่วตอนอยู่ในชุดสุดเรียบร้อยแบบนี้ได้ไหม "แล้วปกติ ต่อชอบแบบเรียบร้อยหรือแบบเซ็กซี่คะ"


น้ำเสียงวิภาเปลี่ยนเป็นยั่วยวน เธอส่งสายตาอันร้อนแรงจ้องต่อเต็มที่ สาวสวยยิ้มหวานพลางขยับเก้าอี้เข้าใกล้หนุ่มใหญ่ราวกับกำลังสนใจในคำตอบที่กำลังจะได้ ใบหน้าหวานใสทำเอาพัทใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

"ก็ แบบไหนก็ได้ แต่ชอบแบบเรียบร้อยมากกว่า" พัทตอบ เขามองวิภาอย่างหลงไหล รักแรกของเขาคือมินตราก็ว่าได้ ไม่เคยลืมในหัวใจ


"เหรอคะ" มินตราเอนตัวออกห่าง เก็บจริตการยั่วยวนทั้งหมดออกไปตามที่ต่อตอบ ในเมื่อต่อชอบคนเรียบร้อย เธอก็จะเรียบร้อย หนุ่มต่อไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนทดสอบอยู่ "ต่อมีลูกยังคะ"

"มีแล้วครับ เป็นลูกสาว หน้าตาไล่ๆกับวินี่แหละ" ต่อพูดยิ้มๆ ทำเอาวิอมยิ้มไปด้วย


"เหรอคะ หมายถึงลูกหน้าแก่หรือมินหน้าเด็กคะ" มินตราอมยิ้มขำๆ

"แหมมิน หมายถึงวิหน้าเด็กสิ" ต่อมีความสุขที่ได้คุย

"ชมเก่ง" มินตราแซว

ทั้งสองแลกไลน์แลกเบอร์ติดต่อกัน จากการพูดคุยกัน มินตรารู้ว่าต่อหย่ากับภรรยาไปหลายปีแล้ว เพราะเธอดันไปมีชู้กับผู้ชายหลายคนตอนที่เขาไม่อยู่บ้าน แต่ดูๆแล้ว ต่อน่าจะทำใจได้แล้ว เพราะเขาพูดถึงอดีตภรรยาได้แบบปกติ ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรทางน้ำเสียงเลย หลังจากนั้น มินตราก็ออกมาจากห้องสัมภาษณ์และไปกินข้าวกับแป้งตามที่ได้ให้สัญญาเอาไว้

สองสาวกินข้าวกันดูกระหนุงกระหนิงสุดๆ โดยเฉพาะแป้งที่เอาใจเธอเก่งเป็นพิเศษจนมินตรางงๆว่าทำไมแป้งถึงได้ดีกับเธอนัก พอบ่าย สองสาวก็ลากัน มินตราคงได้เจอกับแป้งอีกทีก็ในคลาสเลย พอมินตรากลับเข้ามานั่งในรถเตรียมกลับบ้าน เธอก็ถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ราวกับระบายความเครียดทั้งหมดออกมา สาวสวยมองตัวเองในชุดสุดเรียบร้อยแล้วรู้สึกอึดอัดสุดๆ แถมเธอต้องเก็บอาการปกติที่ชอบยั่วเอาไว้อีก นิสัยเธอเป็นสาวเซ็กซี่ การแสร้งเรียบร้อยมันทำให้เธอเครียดมาทั้งวัน

'เหนื่อยจัง' มินตรารำพึงเบาๆในใจ เห็นทีเธอต้องแต่งตัวแบบแป้งแล้ว จะได้ไม่เครียดมากจนเกินไป

คุณแม่ยังสาวมองซ้ายขวา พอเห็นว่าไม่มีคน เธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าในรถทันที สาวสวยโยนชุดสูทขายาวไปด้านหลังอย่างไม่ใยดี แล้วกลับไปใส่ชุดนักศึกษาสุดสั้นตัวเก่าที่เพิ่งใส่มาเมื่อเช้าแทน เธอรู้สึกดีขึ้นมากที่แต่งตัวแบบนี้ มินตราค่อยๆถอด กางเกงในลายลูกไม้ออกเพื่อระบายความอัดอั้นที่ทนเรียบร้อยมาทั้งวัน สาวสวยเสียวหว่างขาสุดๆที่ได้ทำอะไรห่ามๆแบบนี้ ร่องเสียวเริ่มมีน้ำซึมออกมาช้าๆ มินตราเอนหลังพิงเบาะ เธอหรี่ตามองรอบๆคันเพื่อเช็คว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ ก่อนจะกรีดนิ้วเรียวลงไปบนร่องเสียว สัมผัสถึงเม็ดแตดที่แข็งเป็นไต

"ซี๊ดดดดดด เสียววววว" มินตราร่อนเอวบดเบาะไปด้วยใช้มือคลึงติ่งเสียวไปด้วย เต้างามคัดแน่นจนอยากบีบเค้น แต่เธอไม่กล้าบีบนมตัวเองเท่าไหร่ เพราะคนอาจเห็นได้ แต่ถ้าลูบเนินเสียวเล่น ยังไงคนก็มองไม่เห็น

ทำไมเรามีอารมณ์บ่อยจัง เดือนนี้ 2 ครั้งแล้วนะ'มินตรา คิดในใจ ปกติเธอจะอยากช่วยตัวเองแค่เดือนละครั้งเท่านั้น

มินตราไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังเสพติดการยั่วอยู่ ซึ่งมันเป็นผลทำให้เธอมีอารมณ์มากกว่าปกติ ก่อนหน้านี้ เธอไม่ได้ยั่วใครเลยหลายสิบปี ความร่านในจิตใจตอนสมัยเป็นสาวๆเลยถูกฝังเอาไว้ แต่พอมินตราลองยั่วชุ้งดูมาตลอดอาทิตย์นี้ เจตนาคืออยากให้เขากล้าขึ้น ก็เปรียบเสมือนขุดเอาความร่านในใจตอนสมัยสาวๆที่ชอบมั่วผู้ชายออกมาอย่างช้าๆ

"ซี๊ดดดดด ดีจัง" มินตราบีบติ่งเสียวอย่างรุนแรง ตาหลับพริ้มชอบใจ เธออยากยัดนิ้วเข้าไปในร่องหลืบ แต่เธอตั้งกฏเอาไว้แล้ว จึงฝืนตัวเองแค่บดภายนอกเป็นพอ

ร่างบางไหวกระตุกเหมือนไฟช็อตทุกครั้งที่เธอบีบติ่งเสียว อารมณ์เธอทะยานใกล้เสร็จสม แต่พอเธอปรือตามองรอบๆรถ ก็เริ่มเห็นคนออกมาเดินเยอะขึ้นเรื่อยๆ คุณแม่ยังสาวตกใจ ใบหน้าแดงก่ำ เธอจำเป็นหยุดตัวเองไว้ก่อนเพราะมีกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งเดินมาใกล้รถเธอแล้ว อารมณ์เสียวเธอค้างเติ่งอยู่ปลายฝั่งฝัน มินตรา กอดตัวเอง หนีบเรียวขาแน่นเพื่อข่มอารมณ์เอาไว้ ร่องเสียวยังเยิ้มเต็มไปด้วยน้ำเงี่ยน คันยุบยิบลึกเข้าไปถึงข้างในโพรง เรียกร้องให้เธอทำต่อ สาวสวยตัดสินใจสวมกางเกงในกลับเข้าที่ แต่เม็ดแตดกลับถูเข้ากับกางเกงในลายลูกไม้จนวิภาใบหน้าเหยเก ร่างอรชรกระตุกเบาๆอย่างมีอารมณ์ "อ้ายยยย" มินตราครางอย่างลืมตัวจึงกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น เธอต้องรีบกลับบ้านไปปลดปล่อยเดี๋ยวนี้ อารมณ์ค้างแบบนี้สาวสวยแทบอยากจะบ้าตาย แต่พอเธอจะออกรถ เสียงมือถือก็ดังขึ้น

ตรู๊ดดดด!!!

"ว่าไงไอ้ลูกชาย" มินตรารับสาย พยายามพูดให้เสียงเป็นปกติ

"วันนี้ชุ้งเรียนแค่ช่วงเช้าอ่ะแม่ ถ้าแม่ยังไม่กลับ ขอชุ้งกลับด้วยนะ"

"อ่า ได้ๆ เดี๋ยวแม่ไปรับที่เดิม แล้วนี่เราไม่ได้ไปไหนกับหนูไอติมเหรอ"

"เรื่องมันยาวอ่ะแม่ เดี๋ยวชุ้งเล่าให้ฟัง" เสียงชุ้งฟังดูเศร้าๆ

"แน่ะ อะๆ แม่กำลังจะกลับพอดี รอที่เดิมนะ"

"ได้ครับ"

มินตราออกรถไปรับชุ้งที่เดิม ร่องเสียวยังคงตอดหนุบหนับอยากปลดปล่อย เธอเห็นลูกชายยืนคอยอยู่ ทันทีที่ชุ้งเข้ามาในรถ เขาก็มองวิภาในชุดนักศึกษาสุดสั้นด้วยความดีใจ เขาคิดว่าจะไม่ได้เห็นชุดนี้อีกแล้ว ท่อนเอ็นที่สงบก็เริ่มแข็งตัวอย่างช้าๆ ชุ้งมองแม่เขาจนถึงบ้าน พยายามเนียนๆมองเธอซึ่งสำหรับมินตรามันก็ไม่เนียนเท่าไหร่ สายตาร้อนแรงของชุ้งเล่นเอามินตราเสียวแทบขาดใจ เธอยังอารมณ์ค้างจากการช่วยตัวเองที่ไม่เสร็

อ่านสนุกมากเลยฮะ เป็นกำลังใจให้ผลิตผลงานดีๆแบบนี้ออกมาเรื่อยๆนะฮะ