นิทานรัก เล่าจากคืนวันแต่งงาน (2)

[Pee_kit]

อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าประสบความสำเร็จที่สุด คือการหา "แม่งาน" มารับผิดชอบทุกอย่าง โดยที่ไม่ต้องมาปวดหัวผมกับหลิน โชคดีที่เพื่อนผู้หญิงของเธอมีรสนิยมคล้ายกัน แถมยังห้าว ออกปากบัญชาการทุกอย่าง ทำงานกับทุกฝ่าย และประสานงานกับคุณแม่ของพวกเรา เข้ากันได้ดีจนน่าเอามาทำเป็นสะใภ้อีกคน

เมื่อรับแขกครบทุกโต๊ะ ถ่ายรูปจนหมดเวลา และร่ำลาแขกเหรื่อเสร็จ ผมกับหลินก็ทิ้งทุกอย่างเพื่อไปฮันนีมูนกันต่อ พิธีเริ่มตอนเที่ยง พอฟ้ามืดได้ไม่นานเราก็ออกมาห่างกรุงเทพฯแล้ว ไม่นานจากนั้น เราก็มาถึงพลูวิลล่าแห่งหนึ่ง ซึ่งเช่าไว้เป็นที่ฉลอง

ผมจูงมือพาเธอเดินลงมาจากรถ มีเสียงโห่ยินดีและปรบมือต้อนรับดังมาจากบนชานบ้าน มีผู้ชายอย่างน้อยห้าคนอยู่ตรงนั้น คนขับรถซึ่งเป็นรุ่นน้องของหลินรีบวิ่งไปสมทบ เขาอ้าแขนกั้นเป็นด่านประตูเงินประตูทองแรกก่อนที่เราจะเดินขึ้นบรรได

"ผมขบรถเมื่อยตัวไปหมดละเนี้ย ขออะไรที่มันชื่นใจหน่อยได้ไหมครับพี่" น้อง 'ต้น' ยิ้มมองผมกับหลิน

"ได้สิ สำหรับน้องต้นของพี่ ได้อยู่แล้ววว เอาเป็น..แก้มนุ่มๆของเมียพี่เป็นไง" ผมเสนอ หลินยิ้มแล้วยื่นแก้มให้ เมื่อน้องต้นได้จุ๊บ เสียงโห่ดีใจจากบนชานบ้านก็ลั่นอีกรอบ

"แค่นี้ยังไม่ชื่นใจเลยอ่าา" มันทำหน้าอ้อน กดสายตาลงมองไปตามร่องของชุดพิธีซึ่งหลินยังใส่อยู่ เธอยิ้มด้วยความเขินมองมาทางผม ผมพยักหน้ายอม หลินก็เขยิบตัวเข้าไป ต้นรีบซบลงที่อกนุ่มๆ สองมือขยุ่มนมเมียผมยกใหญ่ เสียงโห่ดังขึ้นกว่าเดิม หลินบีบมือแน่น ผมเข้าไปโอบให้กำลังใจ แล้วค่อยๆปลดซิปของชุดที่อยู่ด้านหลังลง

เมื่อพิธีอย่างเป็นทางการจบลงไป ก็ได้เวลาเริ่มพิธีอย่างที่ผมและหลินต้องการ

____________________________


ผมพยายามปลอบตัวเองว่า อาจจะอ่านปากผิดก็ได้นะ ผมไม่ใช่นักอ่านภาษาปากสักหน่อย มันเป็นเพราะช่วงนี้ผมคิดมากเรื่องที่หลินชอบโดนเย็ดแบบเรื่อย ๆ นาน ๆ ต่างหาก ว่าเป็นเพราะอะไร แฟนเก่าทำอะไรเธอมา ?? ก็เลยเข้าใจอะไรผิดอย่างเพ้อเจ้อ ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ ผมพยายามกล่อมตัวเองให้สงบใจลง

'แต่ถ้าอ่านปากไม่ผิดหล่ะ' เสียงในใจดังขึ้น 'นั่นไม่เท่ากับว่า..'

ไม่ !!! ผมรีบส่ายหัว ไม่กล้าคิดต่อ.... T ^ T แต่ผมไม่อาจสลัดภาพในหัวออกไปได้เลย ตอนพูดประโยคนั้น ไอ้ปาล์มมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ผสมกับแววตาเย้ยหยัน เขาดูมั่นใจเหลือเกินว่าหลินคงจะหนีไปไหนไม่พ้นมือเขาอย่างแน่นอน บางสิ่งที่เขาเคยทำได้ผูกมัดหลินเอาไว้ และไม่ช้าเธอคงต้องซมซานหาทางกลับไปหาเขาแน่นอน 

เมื่อหลินกลับมาถึงแลป เธอพยายามทำตัวปกติ ที่ว่าพยายาม เพราะเธอมีสีหน้าไม่ค่อยดี คิ้วขมวดนิดๆ หน้านิ่วหน่อยๆ ราวครุ่นคิดถึงบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต จนตัวต้องบิดไปมา ร่างกายขยับอย่างอยู่ไม่สุขนัก ผมไม่อยากโทษเธอเลย ถ้าจะคิดถึงอะไรต่อมิอะไรที่ผ่านมา สิบปีเลยนะที่เธอคบกับไอ้หน้าหล่อนั่น เธอคงเคยโดนจนมันจดจำได้ทุกซอกมุม คงเคยโดนจน..มันเบื่อที่จะทำ แต่ก็อดหึงไม่ได้จริงๆหนิครับ ยิ่งมันพูดเรื่องแบบนี้ออกมา

ความหึงหวงเป็นแบบนี้เองสินะ ตัวสั่นๆ วูบไหวไปทั่วท้อง มีอะไรแน่นๆจุกอยู่ในอก และเจ็บแปล๊บๆ

เย็นนั้นเราไปกินข้าวด้วยกัน อาการหลินยังแปลก ๆ มาจนถึงตอนนี้ เธอเงียบกว่าทุกครั้ง แววตาเหมือนปรารถนาอยากขออะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้า จนกระทั่งกินข้าวเสร็จ เราเดินเล่นด้วยกันนานกว่าทุกครั้ง เพราะหลินยังไม่อยากจะกลับบ้าน กระทั่งดึกมากเต็มที ในที่สุดหลินก็บอกว่าคืนนี้อยากมาค้างห้องผม ?? นั่นน่ะหรอ ความปรารถนาของเธอ แล้วทำไมต้องไม่กล้าพูดออกมาตั้งแต่แรกหล่ะ ปกติ เธอน่ารักจะตาย ถ้าวันไหนอยากก็จะพูดตรงๆตั้งแต่บ่ายเลยว่า "คืนนี้ไปห้องเธอนะ" แต่ทำไมคราวนี้ต้องทำเหมือนกับว่ารู้สึกผิดด้วยหล่ะ ???

คืนนั้นผมทำให้เธออย่างเต็มที่ที่สุดเท่าที่เคยรู้จักมา ทั้งหึง ทั้งแค้น ผมงัดมันออกมาเป็นพลัง ย่ำยีเธออย่างเต็มที่ หลายท่า บางท่าไม่เคยกล้ามาก่อนเลย เช่น เอาเธอไปอยู่นอกระเบียง แต่ผมกลับยิ่งรู้สึกไม่ดีอะ หลินดูสาสมใจฉิบหาาาย เธอไม่อายเลย

วันนี้ ที่เธอมีความปรารถนาเอ่อล้นมากขนาดนี้ ก็เพราะไอ้หมอนั่นไม่ใช่หรอ เพราะเรื่องที่มันเคยทำ และยังแซวให้เธอคิดถึงเรื่องพวกนั้น ไอ่เหี้ยนั่น ไอ้เหี้ยปาล์มมมม !!!!!

 ผมโคตรจะคิดมาก ผมแค่ช่วยตอบสนองมันรึเปล่านะ หรือเป็นแค่ตัวแทนที่เติมน้ำมันหล่อเลี้ยงชั่วคราวรึเปล่านะ ?? ผมคิดมาก มากๆเลย ความน้อยใจ ความ.. อะไรต่อมิอะไร ...

พอดีว่าหลังจบปี 2 นิสิตป.โทจะต้องสอบวัดผลด้วยปากเปล่า หรือก็คือไปนั่งต่อหน้าอาจารย์อย่างน้อยสามท่าน และโดนถามว่าตลอดสองปีที่ผ่านมาเรียนอะไรไปบ้าง ต้องตอบให้ได้ให้หมด ผมเลยมีข้ออ้างที่จะทำน้อยเวลาลง คือ ยังคงทำบ่อยเท่าเดิม แต่คราวละไม่นาน อ้างว่าต้องอ่านหนังสือ

ไม่อยากยอมรับเลยครับ แต่ความจริงคือผมกำลังเจ็บๆอยู่ อาจเพราะผมมันขี้คิดมากด้วยแหละมั้ง ที่เธอแอบไปคุยกับแฟนเก่า แถมมันยังแซวทะลึ้งๆกับเธอได้ ผมกลัวอะว่าถ่านไฟเก่ามันจะร้อนขึ้นมา และถ้าผมเทใจลงไป จะต้องเสียใจ จะบอกว่าผมลองใจเธอก็ได้ ผมหวังว่าการไม่ตอบสนองความต้องการทางเพศของหลิน อาจเร้าให้เธอยอมเผยธาตุแท้ออกมา ถึงตอนนั้นผมคงตัดสินใจง่ายกว่านี้

ผมคิดว่ามันจะต้องเป็นช่วงเวลาที่ระทมทุกข์มากแน่ๆเลย ไหนจะอ่านหนังสือ ไหนจะทำวิจัย ไหนจะต้องตามสืบดูว่าเธอนอกใจไหม

แต่.. มันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น

หลังจากที่ผมทำตัวนิสัยไม่ดี คือเย็ดเสร็จจบโดยไม่แคร์อะไรเธออยู่สาม-สี่ครั้ง โดยอ้างว่าต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ มันก็เป็นหลินอีกแล้วที่พูดขึ้นมาว่า "เธอนั่งอ่านหนังสือไปนะ เดี๋ยวเราอมให้" "สักน้ำก็พอนะ ให้เธอหายเครียด คืนนี้จะได้ฝันดี" หลินบอกเป็นนัยว่าเธอยอมแต่โดยดี จนผมกล้าพูดออกมาว่า "อยากอีกแล้วอ่าา แต่ขอแค่แปปเดียวได้ไหม" หลินจะยิ้มให้แบบโคตรรรรรรร...น่ารัก พยักหน้ายินยอม แล้วถอดเสื้อผ้าออก เธอยินดีให้ผมใช้เป็นเครื่องระบายตัณหา บำเรอกาม ผมลองนับ วันนั้นเป็นวันหยุด นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ห้อง ผ่านไปสี่ชั่วโมง ผมเย็ดหลินไปหกครั้ง แต่ละครั้งใช้เวลาไม่กี่นาทีเลย แค่เอาให้เสร็จสมใจก็พอ และผมรู้เลยอ่ะว่าถ้าขอเป็นครั้งที่เจ็ดหลินก็จะยอม

T v T

หลินทำตัวน่ารักมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก เธอบอกว่าเข้าใจ เธอรู้ดีว่าผมกำลังต่อสู้เพื่อหน้าที่การงาน และอนาคตที่ดีของตัวเอง ผมรู้เลยว่าหลินไม่ทันเสร็จสมใจหรอก แถมมีอารมณ์เงี่ยนจัด สะสมมากขึ้นทุกวัน แต่เธอไม่ได้งอแงหรือบีบบังคับ ตรงกันข้าม เธอค่อยๆ 'หลอกล่อ' ผมอย่างน่ารัก การทำตัวราวกับเป็นนางบำเรอกามยอมให้ผมเย็ดแป๊ปๆทุกครั้งน่ะ ก็เป็นหนึ่งในแผนของเธอด้วยครับ เธอทำหน้า ทำท่าซะ ผมยิ่งเงี่ยนมากขึ้นทุกครั้ง !!

วันหนึ่งหลินมาชวนคุย เธอชวนว่าถ้าผมสอบเสร็จไปเที่ยวทะเลเป็นการฉลองกันนะ ดูเหมือนว่านี่ก็จะเป็นอีกแผนของเธอนะ เธอเอาชุดบีกีนีมาให้ผมช่วยเลือก อื้อหืออ ก กล้าใส่แบบนี้เลยหรอ ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาไหม ไม่เคยมีแฟนแล้วพาไปทะเลมาก่อนเลยไง แต่หลินพูดมาคำหนึ่งที่ถูกใจผมฉิบหาย ผมบอกเธอว่าอย่าใส่แบบนี้เลย เดี๋ยวคนอื่นมอง แต่เธอตอบกลับว่า "ให้เราใส่แบบนี้แหละดีแล้ว เธอจะได้โอบโชว์คนอื่นไง ว่าเนี้ยแฟนเธอ"

> < ?

อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้น ความจริงแล้ว ผมไม่สันทัดเรื่องเสียวๆเลย แปลว่าไม่ถนัด แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่อยาก อยากสิ อวดว่าแฟนสวย แฟนขาว อยากถ่ายรูปลง เด็ดแบบนี้ทำไมจะไม่อยาก แต่ไม่เคยกล้าคิดมาก่อนเลยไง หลินเป็นคนเสนอขึ้นมาเองอีกแล้ว ??

หลังจากนั้นสามสี่วัน หลินขอครางดัง ๆ ตอนโดผมทำ เธอบอกว่า ป่านนี้ข้างห้องรู้หมดแล้วว่าเราเอากัน ไหนๆก็ปิดไม่ได้แล้ว ก็ไม่ต้องไปปิดสิ

ผมไม่ได้คิดไปเองนะ หลังจากคืนนั้น ไอ้หนุ่มข้างห้องมันก็ชอบมองพวกเรา สายตามันทั้งอิจฉา ทั้งสนใจ หลินเองก็เหมือนรู้งาน เธอไม่ได้หันไปมองไอหนุ่มนั่นเลยนะ แต่เบียดผมเข้ามา ให้ตัวชิดใกล้ ทำตัวน่ารัก ออดๆอ้อนๆใส่ จนมันตาร้อน ผมหล่ะรู้สึกดีมาก !!!

และตลอดเวลานั้นผมเช็คมือถือแฟนนะ ไม่ใช่ไม่เช็ค ผมเองนี่แหละที่งี่เง่า แต่ไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลย ไม่มีร่องรอย ไม่มีเบาะแส ไม่มี

ในที่สุดผมก็รู้สึกผิด เหมือนว่าผมกำลังเล่นเกมวัดใจ และผลที่ได้คือหัวใจของเธอที่ถาโถมใส่มาเต็มๆ แล้วผมก็คิดอะ ถ้างั้นผมควรเอาไงต่อ ผมเองก็รู้หนิว่าอดีตมันแก้ไขไม่ได้ ดังนั้นผมไม่โอเคกับอะไร ???

แล้วผมก็ได้คำตอบทันทีเลยอะ

สองคืนก่อนสอบผมตั้งใจปล่อยให้สมองตัวเองโล่งที่สุด ผมจึงขอมีเซ็กส์กับหลิน เราอาบน้ำกัน นัวเนียกัน และพอมาถึงเตียงผมสอดจู๋ปลอมใส่คาไว้ก่อนเลย ผมมีเซ็กส์กับหลินอย่างเร้าร้อนจนเสร็จไปหนึ่งน้ำและเอาจู๋ปลอมสอดเลี้ยงอารมณ์ ระหว่างนั้นผมก็พูดขึ้น ..

"หลิน เราได้ทำแบบนี้กับเธอบ่อยๆ จนชอบแล้วอะ" ผมเกริ่น "มันเสียวแปลกๆ ดี เหมือนว่าไม่ได้เย็ดเธออยู่คนเดียว" ผมยิ้มราวไร้เดียงสา

ตรงข้ามกับหลินที่วูบไหวตอบสนองอย่างมีพิรุธออกมาทันที แต่มันเป็นความมีพิรุทที่คาดหวัง

"เหมือนยังไงของเธออ่าาา"

"ก็แบบ พอเย็ดเธอเสร็จแล้วเอาจู๋ปลอมซ้ำ ก็เท่ากับว่าเธอไม่ได้พักเลยใช่ป๊ะ มันเหมือนว่าคนต่อแถว เรียงคิวเข้ามาช่วยเราเย็ดเธอเลยอ่าา ชอบบบบ" ผมยิ้มทำตัวใสซื่อต่อไปอีก "จริงๆก็แอบคิดงี้มาตลอดตั้งแต่ใช่จู๋ปลอมครั้งแรกเลยนะ ก็เลยชอบใช้จู๋ปลอมตลอด เธอติดใจเหมือนเรารึเปล่า"

ผมหันไปสอดจู๋ปลอมเข้าๆออก รอคำตอบอย่างไม่รีบร้อน

"อื้อ"

หลินตอบสั้นๆ แต่เสียงนั้นฟังได้ยินชัด ไม่ใช่แค่เสียงครางเลยครับ

"แต่ยอมรับเลยว่าบางทีก็เมื่อยๆ ทำไงดีนะ" ผมลองพูดเปิดทาง "มันมีเครื่องที่ช่วยสอดแทนป๊ะ ไม่เอาแบบจู๋สั่นนะ อยากได้แบบสอดเข้าๆออกๆเลยอ่ะ มือเราจะได้ว่างทั้งสองข้าง เอามาขย่ำเธอ จะได้เหมือนว่ามีคนช่วยอยู่จริงๆ"

แววตาหลินแสดงอาการ เธอมีความปรารถนาอย่างมหาศาลที่ต้องการอยู่ภายใน และผมกำลังค่อยๆเปิดทางให้

ผมครางแสดงอารมร์เสียวที่มากขึ้นๆ ก้มลงซุกไซร้พร้อมเขย่าจู๋ปลอมให้ และทำเป็นบ่นกับตัวเอง ว่า ชอบอ่าา ทำไงดีนะ ทำไงดี แบบนี้อยู่นานน จนกระทั่ง..

"แล้วเธอจะทำไงหล่าาาา จะให้คนอื่นมาช่วยก็ไม่ได้ป๊ะ" ในที่สุดหลินก็พูดมันออกมา ใช่ ผมอยากให้เธอพูดเอง

"อื้อออออออออ" ผมเขินจริงๆครับ ไม่รู้เลยว่าจะโต้ตอบยังไง แต่ก็แสดงสีหน้าให้หลินรู้สึกว่าเป็นไปได้ เธอจึงพูดต่อ

"ทำแบบนั้น ค คงง อายแย่"

"นั่นน่ะสิ เราหวงหลินด้วยอ่าา แต่ก็เงี่ยนจริงๆ อยากทำ!!" ผมครางอีก

.. ผ่านไปอีกสักพัก

"แต่ก็.. อยากให้เธอใช้ทั้งสองมือจริงๆอ่าา มันคงเสียวมากเลยยย" หลินพูดอีก สีหน้าเธอดูทั้งตื่นเต้นและกังวล เธอคงวัดใจเหมือนกัน พูดออกมาให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปข้าง "เธอจะได้ไม่เมื่อยมือด้วย"

โอเค แค่นี้ก็มากเพียงพอแล้วที่จะยืนยัน

"เราอ่ะเป็นผู้ชาย ไม่อายหรอกถ้าจะหาอีกคน.. มาช่วย ... หลินเถอะ จะอายรึเปล่าา"

ผมชอบนะที่หลินทำท่าทางลำบากใจ เพราะกลัวว่าผมอาจจะรับไม่ได้ ทั้งๆที่สายตาฟ้องว่าอยากจะตะครุบโอกาสนี้ไว้
 
"อื้อออ อายสิ ... แต่ถ้าเธออยากลอง .. หมายถึง .. คือ.. ไม่รู้สิ แบบ" หลินพยายามไม่ทำให้ตัวเองดูง่ายเกินไป

ผมเงี่ยนจัดเลยเมื่อเห็นท่าทางเธอแบบนั้น และบทสนทนาที่ชวนคุยก็ช่าง เร้าให้เกิดอารมณ์จัด เลยถอนควยปลอมออก แล้วขึ้นไปสอดของจริงอีกครั้ง

"อื้ออ เราา .. อยาาก ... ลองงง ... หลินจะ .. ยอมม .. ให้เรา .. ลอง ... ได้ไหม" ผมถามทีละคำขณะเด้าเข้าไปแต่ละที

เธอหลับตาปี๋ ตอบ "อื้ออออ" ด้วยอาการเสียวสั่น

พอเมื่อย ผมจึงผ่อนแรงเอวและถามเธอ

"แล้ว จะเอาใครมาช่วยดีหล่ะ เธอมี คนที่วางใจได้ไหม คือ มันเป็นเธอไงที่จะรู้สึกอาย เราเลยอยากให้เป็นคนที่เธอวางใจได้" ผมเปิดโอกาสให้หลินเต็มที่ อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะมีซุกไว้ที่ไหนไหม

หลินไม่ได้ให้คำตอบผมในทันที แต่เธอมีสีหน้าเหมือนนึกอยู่ตลอด จนผมเสร็จอีกยก

ตอนที่ผมถามอีกครั้ง หลินทำท่าทางอายบอกว่า เป็นรุ่นน้องแถวบ้านได้ไหมอ่ะ นิสัยดี เรียนอยู่ ม.นี้ด้วย ดูสุภาพ แต่ก็ขี้เล่น เธอพอรู้จัก น่าจะไว้ใจได้ ผมก็ตอบว่าได้

คำถามต่อมาคือ แล้วเราจะชวนให้น้องเขามา 'ช่วย' ได้ยังไง ผมบอกให้หลินติดต่อน้องคนนี้ให้มารู้จักผมก่อน หลังจากนั้นผมจะคุยเอง ผมยุให้เธอทักน้องคนนั้นไปตอนนี้เลย แล้วนัดมาเจอผมหน่อย หลินก็ทำ

หลินยังให้ชื่อกับช่องทางติดต่อน้องคนนั้นมา

หลินแสร้งถามต่ออีกว่า ผมจะคุยกับรุ่นน้องคนนั้นว่าอย่างไร ผมก้มลงดูชื่อและภาพของไอเด็กนั่นในจอ แล้วก็ยิ้ม

"เป็นผู้ชายด้วยกัน เรามีวิธีของเราก็แล้วกัน ไม่ยาก"

ไม่ยากจริงๆครับ น้องเขาชื่อ "ต้น" เป็นชื่อที่เพื่อนเรียกสั้นๆ ย่อจากชื่อเต็มๆ "ต้นตาล" ที่คุณแม่ตั้งให้ ซึ่งตั้งใจให้คล้องกับ "ต้นปาล์ม" ผู้เป็นพี่ชาย !!! หรือพี่เพื่อนเรียกกันสั้น ว่า "ปาล์ม"

!!!?????

[Santika111]

นานๆจะเจอเรื่องระดับปรมจารย์ซะที สรรเสริญครับ

[artherox]

หรือบนระเบียงที่ยืนอยู่นั่นจะมีปาล์มด้วยนะ 

[likestory]

  โอยยยยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกเข้าถึงตัวละครได้ดีเลย ใจจดจ่ออยากอ่านต่อนต่อไปเร็วๆจังเลย เรียบเรียงได้เข้าใจง่ายจริงๆ ลุ้นตลอดช่วงเลยครับ 

[1819]

ชอบนะ ลุ้นในการปลุกปั้นอารมณ์แฟน และ อารมณ์ตัวเอง ว่า จะไปทางไหน  หลินนี่ น่าจะผ่านมามากมาย แต่ดึงตัวเองออกมาได้ แต่ คงมีร่องรอยความอยากเหมือนเก่า     ตัวแปร คิอแฟนเก่าหลินแหละ มั้ง

[swss2511]

หาสิ่งเติมเต็มชีวิตคู่

[teerawatc]

การจะเปิดใจพูดเรื่องแบบนี้กับคู่ของเราในครั้งแรกมันยากนะครับ

ต้องมีจังหวะเวลาและอารมณ์ที่เหมาะสมถึงจะพูดออกมาได้

แต่มีวิธีที่ง่ายขึ้นในการพูดเรื่องเซ็กของบุคคลที่สาม คือการดื่มแอลกอฮอ พอเมาแล้วจะพูดเปิดใจกันง่ายขึ้น

รอติดตามเรื่องนี้อยู่ทุกวันนะครับ 

[review1972]

สำนวนที่ใช้แปลกไม่เหมือนใคร เนื้อเรื่องเหมือนไม่มีไรแต่ซ่อนอะไรไว้ให้ค้นหา

[Max23]

ใครจะหลอกใครละที่นี้ พระเอกก็หาวิธีให้เปิดปากพูด
คนที่เสนอมาจะเคยแล้วหรือเปล่าเน้อ ลุ้นกันต่อ