ระหว่างมื้ออาหารค่ำพร้อมหน้าในครอบครัว แมงผึ้ง ลูกสาวคนเล็กเอ่ยสารภาพขื้นมากลางวงว่าเธอจะขอมีแฟน เล่นเอาพ่อกับแม่อึ้งกิมกี่เหล่มองกันไปมาอยู่พักใหญ่ การที่แมงผึ้งจะลุกขึ้นมาประกาศว่ามีแฟนแล้วจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เพียงแต่พ่อกับแม่ยังตั้งตัวไม่ทันก็แค่นั้น

แมงผึ้งเรียนเก่งในระดับไม่ธรรมดานางเคยเป็นถึงตัวแทนนักเรียนไปแข่งโอลิมปิกวิชาการคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้ว ต่างกับ แมงปอ พี่สาวที่อุปนิสัยชิลล์กว่าเรื่องเรียนคิดเอาแค่จบภายในสี่ปีพร้อมเพื่อนๆก็พอ เคยสรุปเอาเองว่าแมงปอสวยเหมือนแม่ส่วนน้องสาวฉลาดเหมือนพ่อ

เมื่อลูกสาวคนโปรดทะลุกลางปล้องเรื่องขอมีแฟน ผู้เป็นพ่อรู้ว่าตัวเองไม่อาจฝืนกฏของธรรมชาติทำได้ตอนนี้ดีที่สุดคือทำใจเย็นๆนิ่งๆไปก่อน สอบสวนไล่เรียงเรื่องราวได้ความว่าเจ้าหนุ่มที่สามารถพิชิตใจยัยน้องสาวหน้าจืดเป็นหนุ่มฝรั่งชาวนอร์เวย์(บอกแล้วว่ายัยผึ้งมันไม่ธรรมดา) ทั้งสองสปาร์คปิ๊งปั๊งกันที่ประเทศบราซิลตอนไปแข่งโอลิมปิกวิชาการเมื่อสามปีที่แล้ว แมงผึ้งมักจะอ้างว่าที่ชม้อยชม้ายชายตาหว่านเสน่ห์นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนสกัดดาวรุ่งให้ทีมคู่แข่งเสียสมาธิ(แต่ดันท่าดีทีเหลวพลาดไปชอบเขาจริงๆนี่สิ55)

          "แล้วคบเป็นแฟนกันได้ยังไงอ่ะอยู่คนละประเทศ" พ่อถาม
          "ก็แชทคุยกัน สไกป์" แมงผึ้งตอบ
          "แค่แชทคุยกันเนี่ยนะเรียกแฟน" พ่อยิ้มส่ายหน้า "โถ..เด็กหนอเด็ก"
          "แล้ววิดีโอคอลเสียวด้วยป่ะ" แมงปอแกล้งทำท่าเลิกเสื้อโชว์หน้าอกแซวน้องสาวคู่กัด         
          "เสียวพ่อง.." แมงผึ้งยกนิ้วกลางชี้ให้พี่สาวอ่านปาก

          "คนเป็นแฟนกันก็ต้องเจอกันกินข้าวดูหนังเรียนรู้นิสัยกัน ต่างคนต่างอยู่คุยทางเน็ตอย่างผึ้งนี่เค้าเรียกเป็นเพื่อน คบเป็นเพื่อนกันพ่อไม่เคยห้ามอยู่แล้ว" พ่อซื้อเวลาหาเหตุผลไปเรื่อย
          "ไม่เห็นจำเป็นเลย ทีอาดนัยเพื่อนพ่อมีลูกมีเมียยังไปทำงานสองสามเดือนกลับบ้านทีนึงเลย" แมงผึ้งยกตัวอย่าง
          "นั่นเค้าเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตก็ต้องไปอยู่ประจำการสิ เอางี้.. ผึ้งก็หาแฟนอยู่กระทรวงต่างประเทศเหมือนอาดนัยสิพ่อจะไม่ว่าซักคำ"

          "เถียงไปก็เสียเวลาพ่อก็เชียร์แต่ข้าราชการเหมือนกันนั่นแหละ เอาเป็นว่าเพื่อนผึ้งเค้าจะมาเมืองไทยเดือนหน้า เค้าอยากให้ผึ้งพาไปเที่ยวทะเล" ลูกสาวคนเล็กก้มมองจานข้าว
          "แล้วจะไปกันได้ยังไงแค่สองคน" แม่ทำท่าจะห้ามแต่พ่อเบรคเอาไว้ก่อน
         
          "เพื่อนผึ้งจะมาเมื่อไหร่นะ" พ่อสูดหายใจลึกถาม
          "เดือนหน้าใช่ป่ะ.."

....................

ใครๆก็รู้ว่านิสัยเนื้อแท้ของแมงผึ้งเป็นคนแค้นฝังหุ่น ภายนอกแสดงกิริยาเรียบเฉยแต่ภายในอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจผ่านไปเป็นสิบปีมันก็ไม่เคยลืม รอเพียงโอกาสที่จะได้เอาคืนอย่างใจเย็น

จะว่าไปพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยกล้าหืออือกับลูกสาวคนเล็กนี้มากนักอาจเพราะความประพฤติของเธอดีเยี่ยมอยู่ในร่องในรอยมาตลอดไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียหายเป็นที่เชิดหน้าชูตาของครอบครัว ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่พ่อปลื้มสุดๆแถมลุ้นเกียรตินิยมอีกต่างหาก ย่าบอกว่าแมงผึ้งมันเป็นเทวดานางฟ้ามีบุญวาสนามาเกิดไม่ใช่คนธรรมดา ลูกเทพลักษณะนี้เอาดีได้ด้วยตัวเองพ่อกับแม่ไม่ต้องทะลึ่งไปอบรมสั่งสอนมากมายนัก

พ่อใช้เส้นสายระดับซีสิบจองบ้านพักริมทะเลของหน่วยราชการหนึ่ง งานนี้ถ้าขืนจองโรงแรมตามปกติค่าใช้จ่ายรวมคงจะหลายเงินอยู่ ในเมื่อไม่กล้าปฏิเสธลูกสาวคนเล็กให้เด็ดขาดก็เลยเอาเป็นว่าพวกเราจะไปพักผ่อนที่ชายหาดทะเลชุมพรสองคืนสามวันกันทั้งครอบครัวบวกว่าที่แฟนยัยผึ้งเข้าไปอีกรวมเป็นห้าชีวิต

พ่อลาพักร้อนทั้งอาทิตย์เพื่อลูกสาวคนเล็กโดยเฉพาะทั้งขับรถไปรับที่สนามบินทั้งไปส่งโรงแรมที่พักพาไปโน่นนี่ ดูเหมือนจะเริ่มปลื้มว่าที่แฟนลูกคนนี้ขึ้นมาพลอยชื่นชมให้แม่ฟังไม่ขาดปากว่าเป็นเด็กที่ฉลาดทัศนคติดีอนาคตไกล ระหว่างทางจากกรุงเทพไปชุมพรได้ยินแต่เสียงพ่อส่งภาษาต่างประเทศคุยโน่นถามนี่ ส่วนสามสาวเงียบกริบผลัดกันหลับผลัดกันตื่นอยู่ที่เบาะหลัง

....................

แมงผึ้งได้รับอนุญาตให้พาเพื่อนตัวสูงเกือบร้อยแปดสิบออกไปเดินเล่นที่ริมชายหาด ส่วนแมงปอต้องอยู่ช่วยจัดข้าวของเครื่องใช้อาหารสดอาหารแห้งของจิปาถะอื่นๆให้เข้าที่เข้าทางวุ่นวายดั่งแม่ยกบ้านมาอยู่ที่นี่สามวัน ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดเคลียร์บ้านไว้อย่างดีแล้วแต่แมงปอก็ยังต้องถูบ้านล้างห้องน้ำซ้ำอีกรอบระหว่างที่แม่เตรียมอาหารเย็น ส่วนพ่อนั้นชิ่งออกไปนั่งชิลล์ละเลียดวิสกี้สิบสองปีรับลมทะเลยามบ่ายแก่ๆที่ชานหน้าบ้าน สายตาจับจ้องลูกสาวกับแฟนที่กำลังเดินคุยกันสองคนกระหนุงกระหนิงอยู่ไกลๆบนหาดทรายไม่ให้คลาดสายตากันเลยทีเดียว เจ้าหนุ่มไวกิ้งตัวสูงเกือบร้อยแปดสิบบอกชื่อจริงของเขาสองสามทีแล้วแต่พวกเราออกเสียงกันไม่ค่อยจะถูกเลยก็ให้เรียกเขาว่า มาร์ติน

มาร์ตินเพิ่งเรียนจบวิศวกรรมบัณฑิตหมาดๆพ่วงท้ายเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยเทคนิคชื่อเสียงอันดับต้นๆของเยอรมัน(กิ่งทองใบหยกจริงๆ) กำลังอยู่ในช่วงสองจิตสองใจระหว่างจะเริ่มทำงานเป็นวิศวกรหาประสบการณ์สักปีสองปีหรือเลือกเรียนต่อระดับปริญญาโทตอนนี้เลยเพราะผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีเพียงพอที่จะสามารถยื่นขอทุนจากมหาวิทยาลัยดีๆในอเมริกาได้ แสงสีแดงปนน้ำเงินเข้มระบายท้องฟ้าเป็นภาพส่งท้ายหลังจากที่ดวงอาทิตย์ลาลับ พ่อชงวิสกี้โซดาบางๆยื่นให้แม่ซึ่งต้องเป็นโอกาสพิเศษจริงๆถึงจะได้เห็นแม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

          "เอามั่งมั้ยเราอ่ะ" พ่อชำเลืองหางตามาทางแมงปอพร้อมชงเหล้าในอัตราส่วนผสมที่บางจัดยื่นให้ด้วยเหตุผลที่ว่าเราอายุยี่สิบสามทำงานแล้ว หัดดื่มเอาไว้เข้าสังคมบ้างก็ดี
         
          "นี่เหล้าในกระเช้าปีใหม่ที่บ้านเราน่ะเหรอ" ลูกสาวคนโตยกขวดวิสกี้ขึ้นมาดูฉลากที่ออกแบบสีสันสวยงาม
          "พูดภาษาอังกฤษสิ มีฝรั่งนั่งอยู่ด้วยพูดภาษาไทยกันเองมันเสียมารยาทรู้มั้ย" พ่อหาเรื่องเอ็ดเราได้ตลอดเวลาทุกสถานที่
         
          "เอ่อ...." เลยพาลเงียบกันไปหมดทั้งวงเหล้าบวกข้าวมื้อเย็น
         
          "พวกกุ้งหอยปูปลาอะไรไว้เอาค่อยย่างก็แล้วกันนะ กินหมดเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีอะไรกิน" แม่รับหน้าที่วางแผนบริหารจัดการเรื่องอาหารการกิน
          "พูดภาษาอังกฤษสิแม่ เอ๊.. เพิ่งบอกแมงปอไปหยกๆเมื่อกี๊แม่ลูกคู่นี้นี่ยังไง"

พ่อหันไปเอ็ดแม่บ้างซึ่งเป็นภาพที่คุ้นชินเห็นบ่อยๆในบ้าน ไม่แม่ก็แมงปอนั่นแหละที่มักจะโดนบ่นสลับๆกันไปแล้วแต่อารมณ์ เรื่องความสะอาดในบ้านไปยันเรื่องทัศนคติทางการเมือง มีแค่แมงผึ้งคนเดียวที่พ่อยอมลงให้ก่อนเสมอ

          "ปกติผมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครับ" มาร์ติดออกตัว "อาจมีมีดื่มเบียร์บ้างนี้ด.. หน่อย"
          "ปกติผมก็ไม่ใช่ว่าดื่มนะเบียร์แค่วันละขวดสองขวดแล้วก็นอน นี่ก็เหล้าเค้าให้มาทั้งนั้นทิ้งไว้เปล่าๆปลี้ๆก็เลยเอามากิน" ว่าที่พ่อตากวักมือเรียกแก้วของว่าที่ลูกเขยที่เหลือแต่น้ำแข็ง

แม่นั่งตาปรือเพราะโดนวิสกี้โซดาบางๆเข้าไปหลายแก้ว แมงผึ้งใช้ไม้แบดช้อตยุงกวาดไปรอบๆตัวเสียงดังแปะๆ พี่สาวเล่นทีเผลอคว้าขวดวิสกี้ซิงเกิ้ลมอลต์สิบสองปีมาเทจั๊กๆลงแก้วเปล่าแล้วยกซดเพียวพรวดเดียวหมด แมงปองอตัวเป็นกุ้งทำหน้าเหยเกฝาดเฝื่อนสุดชีวิต
         
          "จะบ้าเหรอกินแบบนี้เดี๋ยวก็เมาตายห่า" พ่อตกใจรีบดึงขวดเหล้าคืน   
          "ปอไปเดินเล่นชายหาดนะแม่.." ลูกสาวคนโตสบัดหัวลุกขึ้นโดยไม่รอฟังคำอนุญาต
          "อย่าไปไกลนักนะปอ.."

หรี่ตามองตามแสงหลอดไฟที่สองสว่างออกไปได้แค่สองสามเมตร ข้างหลังนั้นคือความดำมืดอันเวิ้งว้างของชายหาดยามน้ำลงไกลสุดลูกหูลูกตาแสงไฟสีเขียวของเรือจับปลาหมึกที่เส้นขอบฟ้าบรรจบกับท้องทะเลสีดำสงบนิ่งไร้คลื่นลม ถึงจะอยู่ภายในพื้นที่บ้านพักของหน่วยราชการแม่ก็ยังไม่วายเป็นห่วงลูกสาว

...................

ลมทะเลพัดอู้จนต้องคอยจับรวบผมไม่ให้ปลิวกระเซอะกระเซิง แมงปอเดินย่อยอาหารสลับวิ่งจ้อกกิ้งยืดเหยียดกล้ามเนื้อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เรื่องของแมงผึ้งกับมาร์ตินชวนให้นึกอิจฉาสักวันคงเป็นวันที่เธอได้เปิดตัวแฟนของตัวเองบ้าง แหงนหน้าถามดาวบนท้องฟ้าเล่นสนุกๆอยากรู้ว่าผู้ชายคนนั้นเค้าจะเป็นคนยังไง ทำมาหากินอะไร รูปร่างหน้าตาแบบไหนหล่อมั้ย เป็นคุณหมอใจดี เป็นบอดี้การ์ดสุดเข้ม เป็นนักธุรกิจหนุ่มหล่อ หรือว่านักสืบเอกชนผู้แสนลึกลับ สักวันเธอจะชวนเขากลับมาเดินจับมือดูดาวบนหาดทรายทะเลชุมพรตรงที่เดิมนี้อีก โอ้วว.. แค่คิดก็ฟินแล้ว

เดินไปเรื่อยไม่วายคิดทะลึ่งเทียบความสูงกับมาร์ตินแล้วยัยผึ้งอย่างกับคนแคระ ต่างไซส์ขนาดนี้ถึงบทเข้าพระเข้านางยัยน้องสาวหน้าจืดคงต้องรับศึกหนักเป็นแน่แท้ งานนี้อาจคับอกคับใจถึงขั้นยับเยินกันเลยทีเดียว ว้าวว..

....................

          "แม่.. ใครอยู่ในห้องน้ำอ่ะ พ่อเหรอ" เราถามพลางหอบแฮกไปด้วย
          "พ่อแกเมาหลับอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีโน่นน่ะ" แม่ตอบ
          "มาร์ตินอาบน้ำอยู่" แมงผึ้งตอบน้ำเสียงห้วน

          "นั่นก็เมาใช้ได้เหมือนกัน นี่ผึ้งมาเที่ยวกับแฟนนะแม่ไม่ใช่ชวนแฟนมากินเหล้ากับพ่อ ชนอยู่ได้เดี๋ยวก็หมดแก้วๆเมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้วมั้งนั่นน่ะ" แมงผึ้งบ่นพลางเก็บซ้อนจ้าน
          "มีเพื่อนคุยก็สนุกเค้าล่ะ อยู่บ้านกินเบียร์ดูทีวีคนเดียวเงียบๆทุกวัน" แม่ตอบ
          "แล้วนี่พี่ปอไปวิ่งมาเหรอเนี่ยเหงื่อซกเลย"
          "เออร้อนชิ้บเป๋ง ว่าจะอาบน้ำอยู่เนี่ย"
          "มาร์ตินเพิ่งเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี๊นี้เองคงอีกนานแหละ" แมงผึ้งก้มหน้าเก็บกวาดต่อ

          "แล้วนี่ใจคอไม่คิดจะช่วยกันเก็บหน่อยหรือไง นี่ก็ออกกำลังเหมือนกันนะกินอะไรกันนักกันหนาก็ไม่รู้"
          "เมื่อตอนบ่ายแมงปอมันก็กวาดถูให้แล้วอย่าบ่นนักเลยน่า นี่แกจะไปวิ่งไปอาบน้ำอะไรก็ไปเถอะไป" แม่เพยิดหน้าไล่ให้ลูกสาวทั้งสองอยู่ห่างๆกันสักพัก

....................

เมื่อตอนบ่ายที่โดนใช้ให้กวาดถูสังเกตุเห็นร่องรอยแยกบนผนังตามจุดต่างๆจากความเก่าทรุดโทรมตามอายุของบ้าน แสงไฟจากภายในห้องน้ำลอดเล็ดออกมาตามซอกขอบประตูที่สบกันไม่สนิท ไม่รู้ว่าเพราะวิสกี้เพียวพรวดเดียวหมดแก้วนั้นหรือเปล่าที่ยั่วยุให้แมงปอกล้าหาญชาญชัยห้าวเป้งขนาดนี้ เธอมองซ้ายขวาแล้วค่อยๆย่องเข้าไปทรุดลงนั่งพับเพียบที่หน้าประตูห้องน้ำ แมงปอหน้าแดงหูแดงเคยเห็นของจริงแค่กระจู๋หลานๆตอนแก้ผ้าอาบน้ำสายยางยังไม่เคยเห็นของฝรั่ง เผื่อว่าท่าไม่ดียังไงจะได้ตักเตือนน้องสาวให้รู้เท่าทันเตรียมพร้อมรับมือ

เคยตั้งสมมติฐานเล่นๆว่าเส้นขนที่ปกคลุมอวัยวะเพศของมนุษย์ต่างชาติพันธ์ควรจะมีสีสันสัมพันธ์กับสีผมซึ่งเห็นเองถนัดตาแล้วว่าคิดผิด ทายาทมนุษย์ไวกิ้งผมสีไข่ไก่มีขนหน้าอกสีทอง ขนตั้งแต่สะดือลามเลื้อยลงมาถึงโคนอวัยวะเพศสีแดงเข้มดกรกครึ้มหนา ลำองคชาติทิ้งน้ำหนักตามแรงโน้มถ่วงของโลกชวนให้นึกถึงซุ้มโค้งปลูกแตงกวาญี่ปุ่นห้อยยาวโตงเตงตามงานเกษตรหรือไม่ก็ไส้กรอกเยอรมันอ้วนๆในซูเปอร์มาร์เก็ต อยู่ในสภาพอ่อนตัวยังขนาดนี้แล้วตอนแข็งกระโดงจะอื้อหือโอฬารตราลูกโลกขนาดไหน หุ่นกระทัดรัดเอวบางร่างน้อยอย่างแมงผึ้งโดนท่อนฟุตลองนอร์เวย์เสริฟอุ่นๆมีหวังได้ร้องไห้เรียกหาพ่อแน่ๆ

แอบดูผู้ชายอาบน้ำในระยะเผาขนเป็นครั้งแรกมันได้ความเร้าใจแบบเป็นธรรมชาติ ได้ลุ้นผสมเสียวหลัง มีเพียงประตูห้องน้ำเก่ากั้นกลางระหว่างหนุ่มฝรั่งแปลกหน้า แต่ละมัดกล้ามสมส่วนอย่างกะรูปปั้นเทพเจ้ากรีกกับสาวออฟฟิศโสดวัยยี่สิบสามที่โตจนป่านนี้แล้วยังหาแฟนไม่ได้ แมงปอละสายตาหลับตาสูดหายใจลึกปล่อยใจเตลิดไปตามสิ่งยั่วยุสักแป๊ปนึง มือซ้ายลูบไล้หน้าอกอีกมือล้วงเลื้อยสอดลึกเข้าไปในกางเกงกีฬาขาสั้นใบหน้าร้อนผ่าวลมหายใจกำลังพุ่งสูงสู่อุณหภูมิจุดเดือด ทันใดนั้นเสียงน้ำฝักบัวก็หยุดลง เพียงชั่วอึดใจพี่สาวคนโตกระโดดพรวดเดียวไปยืนทำฟอร์มคุยกับพ่อที่เมาหลับอยู่บนโซฟาหน้าทีวีในห้องรับแขก

....................

มองนาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มกว่าๆแม่ปลุกพ่อพาเข้าห้องไปแล้ว มาร์ตินปูที่นอนปิ๊กนิคกับถุงนอนเสร็จเรียบร้อยที่มุมห้องรับแขกลุกขึ้นมานั่งเล่นโทรศัพท์ข้างๆแมงผึ้งที่กำลังอ่านหนังสือนิยาย สามคนต่างอยู่ในโลกส่วนตัวปล่อยให้เสียงจากโทรทัศน์ทำลายความเงียบไปเรื่อยๆ

แมงปอเลือกภาพถ่ายสวยๆจากโทรศัพท์มือถือเตรียมอัพโหลดอวดเพื่อนในโลกโซเชียล รู้สึกเหมือนมีใครกำลังมองเธออยู่ เหลือบหางตาชำเลืองมองแฟนหนุ่มของน้องสาวถือโทรศัพท์ในมือด้วยท่าทางแปลกๆคล้ายกับกำลังแอบหันกล้องมาทางเธอ มัวแต่เลือกรูปจนลืมตัวว่ามีคนอื่นนอกครอบครัวนั่งอยู่ด้วยและดูเหมือนในตอนนี้เขากำลังสนใจที่ต้นขาขาวกับเจ้ากางเกงกีฬาขาสั้นจุ๊ดของพี่สาวว่าที่แฟน จากที่เมื่อกี๊ยังนั่งชิดเบียดกระแซะยัยผึ้งอยู่ดีๆกลับค่อยๆทำฟอร์มขยับเคลื่อนตัวออกห่าง

          "พี่ปอไม่ไปอาบน้ำอ่ะ" แมงผึ้งถามคล้ายๆจะไล่
          "เดี๋ยวค่อยอาบ" พี่สาวรู้สึกได้จากน้ำเสียง แต่แค่กวนตีนไม่อยากตามใจ
          "โอเค.. งั้นผึ้งอาบก่อนนะ"

ในห้องรับแขกตอนนี้เหลือเพียงมาร์ตินกับแมงปอ ยิ่งทำเฉยๆเจ้าไวกิ้งหนุ่มน้อยก็เหมือนจะยิ่งได้ใจ ถึงตอนนี้มาร์ตินนักศึกษาดีเด่นสุดเท่ห์ดูเสียอาการมากๆไม่ค่อยกระมิดกระเมี้ยนฟอร์มจัดแบบเมื่อกี๊ที่แมงผึ้งยังนั่งอยู่ พี่สาวเอนตัวนั่งพิงพนักเก้าอี้ยกขาขึ้นไว้บนหัวเข่ามาร์ตินทำฟอร์มหาวบิดขี้เกียจขยับตัวในองศาที่มีพิรุธ ภาพร่างเปลือยเปล่าหยดน้ำเกาะพราวเน้นมัดกล้ามให้ยิ่งชัดเจนผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง แมงปอทำฟอร์มเล่นโทรศัพท์เพลินๆไม่รู้ไม่ชี้ยกเท้าขึ้นมาไว้บนเก้าอี้ทั้งสองข้างแยกหัวเข่าออกเป็นรูปตัวเอ็ม ป่านนี้มาร์ตินคงแทบคลั่ง

          "ทำไมได้ถึงอยากมีแฟนอ่ะ ยูไม่ชอบอยู่คนเดียวเหรอ" แมงปอถามเป็นภาษาอังกฤษจนเจ้าหนุ่มไวกิ้งสะดุ้งเฮือก
          "อ๋อ ..เอ่อ .. แบบว่า.."
          "เปล่าๆ.. ไม่เป็นไร ไอก็แค่ถามดูเฉยๆ"

....................

แมงผึ้งเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเสื้อกางเกงนอนเดินเช็ดผมสวนกับพี่สาวที่ถือผ้าเช็ดตัวเตรียมจะอาบน้ำ

          "เฮ้.. บี.. ฮันนี่" มาร์ตินอ้าแขน แมงผึ้งสองจิตสองใจกล้าๆกลัวๆแต่ก็เดินเข้าไปสวมกอด เขาจะจูบแต่เธอเบี่ยงหน้าหนี "พี่สาวยูข้าไปอาบน้ำรึยัง"
          "แต่พ่อกับแม่อยู่ในห้องนะ"
          "แค่กอดเอง ไออยากกอดยูมากๆเลยนะจะบ้าตายแอยู่แล้วรู้มั้ย" เจ้าหนุ่มไวกิ้งเอนตัวนอนบนโซฟาดึงว่าที่แฟนสาวลงมากอด
          "ปากหวานขนาดนี้สงสัยเมาแล้วมั้ง.."

แมงปอปิดประตูห้องน้ำแกล้งลงกลอนหลอกๆเสียงดัง เอื้อมไปหมุนวาล์วเปิดน้ำฝักบัวทั้งที่ยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าปล่อยนิ่งเงียบให้มีแต่เสียงน้ำกระทบพื้นรอสักพักแล้วค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำช้าๆให้เสียงเบาที่สุด ย่องออกมาแอบดูและก็เป็นอย่างที่คิด โทรทัศน์มีภาพแต่ปิดเสียงเงียบไม่มีใครนั่งอยู่ที่โซฟาหรือในถุงนอน ย่องไปดูหน้าบ้านพบว่ารองเท้าห้าคู่ยังอยู่ครบ เดินมาลองผลักประตูห้องนอนเบาๆพบว่าล็อคเปิดไม่ได้ สองคนนั้นต้องอยู่ในห้องแน่ๆยิ่งร้อนรนพยามมองหาตามผนังห้องเผื่อจะมีรูมีช่องให้ส่องดูเหตุการณ์ข้างในแต่ก็ไม่มี

ไวเท่าความคิดลองวิ่งออกไปดูนอกบ้านพยามมองลอดบานเกล็ดหน้าต่างตามช่องผ้าม่านที่ปิดไม่สนิท ยัยผึ้งเอนตัวอยู่ในอ้อมกอดของมาร์ตินบนเตียง เขาก้มลงมาจูบดูดดื่มมือขวาบีบเคล้นหน้าอกส่วนอีกมือลูบที่ท้องน้อย น้องสาวหลับตาจูบตอบอย่างเร่าร้อน

แมงปอตกใจขาสั่นมือเท้าเกร็งตามยืนแทบไม่ไหว เจ้าหนุ่มไวกิ้งพยามจะถอดกางเกงชุดนอนแต่เหมือนแมงผึ้งจะไม่ยอม หนุ่มน้อยผมสีเทาหยักศกสั้นเปลี่ยนเป็นนั่งคุกเข่าบนเตียงรั้งขอบกางเกงขาสั้นลงท่อนเนื้อกระเด้งเด้งออกมาชี้หน้าว่าที่แฟนสาว ขนาดในตอนนี้ต่างกับตอนอาบน้ำมากขยายตัวพองทั้งอวบทั้งใหญ่ยาวเห็นเส้นเลือดปูดโปนน่าเกรงขาม

แมงปอเผลอกลืนน้ำลายปากคอแห้งตาม น้องสาวขยับชิดใช้มือค่อยๆจับลูบสำรวจไปทั่วลำองคชาติ ค่อยๆรูดขึ้นลงช้าๆทำไปตามสัญชาติญาณแฟนหนุ่มต่างชาติลูบผมของแมงผึ้งอย่าแผ่วเบาค่อยๆกดหัวเธอลงไปที่ท้องน้อย ยัยผึ้งแลบลิ้นเลียวนช้าๆส่วนหัวบานใหญ่สักพักก็อ้าปากกว้างสุดชีวิตอมท่อนเนื้อเข้าไปเต็มปากผงกหัวขึ้นลงตามที่แฟนหนุ่มสอน เธอเป็นคนฉลาดเรียนเรียนรู้เร็วแป๊ปเดียวก็ทำเองเป็นแต่อนิจาปากน้อยๆอมได้แค่ส่วนหัวสีแดงเข้ม แมงผึ้งเปลี่ยนยุทธวิธีเป็นเกร็งลิ้นรอใช้สองมือช่วยสาวชักขึ้นลงถี่ๆจนแฟนหนุ่มซู้ดปากตามด้วยความเสียว   

....................   

เกือบจะตีสองแล้วเสียงน้องสาวกรนเบาๆ แมงปอยังนอนไม่หลับภาพเหตุการณ์ทั้งหมดถูกนึกย้อนวนไปมาเพลย์ภาพซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ความประหลาดใจตื่นเต้นกับขนาดอันแตกต่างกันระหว่างตอนที่ยังไม่แข็งกับตอนที่แข็งตัวเต็มที่ถึงขนาดเผลอไผลลองอ้าปากกว้างๆตามแบบที่น้องสาวทำนึกเลยเถิดไปถึงความจุกเสียดแสบสันต์ที่จิ๊มิ๊น้อยๆจะต้องแบกรับยามถูกเสียดสีกระแทกกระทั้น

นอนพลิกไปพลิกมาอย่างไรก็ไม่หลับหรือไม่อยากจะหลับก็ไม่รู้ เอามือบีบคลึงตามหน้าอกลูบไล้ไปมาตามตัวล้วงลึกจนถึงเนินสามเหลี่ยมลูบไล้สางเส้นแพรไหมเล่นๆ แมงปอรู้ตัวเองว่านาทีนี้ควรปลดเปลื้องอารมณ์ความต้องการของตัวเองจะได้เลิกฟุ้งซ่านเสียที แต่บนเตียงนี่มันไม่ใช่ในห้องส่วนตัวแถมกลัวว่ายัยน้องสาวคู่กัดที่นอนอยู่ข้างๆจะรู้สึกตัวตื่น 

พลิกตัวนอนตะแคงค่อยๆขยับบีบนวดคลึงของสงวนของตัวเองในกางเกงชุดนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขส่วนอีกมือก็นวดคลึงสองเต้าไปด้วย พยามหักห้ามไม่ให้ครางจินตนาการว่าเปิดประตูเดินออกไปที่ห้องรับแขกค่อยๆทรุดตัวลงแทรกซุกเข้าไปในถุงนอนที่มีร่างเปลือยเปล่าของแฟนน้องสาวทักทายเจ้ายักษ์ตาเดียวที่แสยะยิ้มรอเธออยู่ ไม่ต้องรายงานตัวว่าเขาคือแฟนน้องสาวหรือแมงปอคือพี่สาวของแฟน ภายใต้ถุงนอนตอนนี้มีเพียงแค่เพศหญิงกับชายที่พร้อมจะปฏิบัติต่อกันตามสัญชาติญาณสัตว์โลก

เสียงลงกลอนประตูห้องน้ำดังแคล็ก พ่อกับแม่ไม่น่าจะออกมาข้างนอกเพราะในห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัว คิดได้เพียงแค่นั้นแมงปอก็ค่อยๆลุกจากเตียงเปิดประตูห้องนอนอย่างแผ่วเบาที่สุด ย่องไปที่จุดนัดพบเดิมร่องระหว่างขอบประตูกับวงกบไม้ผุๆ พี่สาวแฟนเปลี่ยนท่าเป็นนอนราบแอบดูในมุมเสยขึ้นจากพื้น(worm eye view) คราวนี้เธอได้เห็นทั้งพวงแบบเต็มสองตา เจ้าท่อนเนื้ออลังการงานสร้างตอนกำลังแข็งตัวเต็มที่อยู่ในอุ้งมือ

มาร์ตินนั่งบนชักโครกคงกำลังได้อารมณ์กับภาพในจอโทรศัพท์อีกมือก็สาวท่อนเนื้อของตัวเองไปด้วยจึงไม่ทันได้ระวังตัวมองซ้ายมองขวา เขารูดอย่างเร็วแรงโดยไม่กลัวว่ามันจะงอหรือหักกลาง แมงปอฉุกคิดขึ้นมาว่าภาพในโทรศัพท์นั้นอาจเป็นภาพของเธอตอนที่นั่งท่าตัวเอ็มยั่วแฟนน้องสาวเล่นๆ คิดได้ดังนั้นก็เหมือนมีลมตีขึ้นจากท้องมาจุกที่อกแล้วก็วนลงท้องวนสลับไปมาจนจุกเสียดเกร็งท้องน้อยผสมกับอารมณ์เงี่ยนหงี่ที่คั่งค้างตั้งแต่อยู่บนเตียง

แมลงปอปีกบางกลายร่างเป็นสุนัขป่าสาวอารมณ์เปลี่ยวในคืนเดือนมืด เธอรั้งกางเกงนอนพร้อมกางเกงในลงไปกองที่ข้อเท้า นั่งยองจนเม็ดเสียวยื่นโผล่พ้นสองกลีบเนื้อโหนกนูนบวมเป่ง ปลายนิ้วคลึงปุ่มกระสันของตัวเองเล่นเขี่ยที่เม็ดเสียวจนสะโพกเกร็งสั่นระริกเยิ้มแฉะเต็มร่องเสียวไปหมดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งสะกิดบดบี้เม็ดเสียวก็ยิ่งถึงอารมณ์เลื่อนสองนิ้วแยงเข้าๆออกใบหน้าเหยเกเสียวซ่าน นึกถึงหนังโป๊ที่เคยแอบเปิดดูยิ่งอยากเพิ่มประสบการณ์ดีกรีความแรดร่านให้ได้แบบนั้น ไม่ใช่ไม่เคยตกเบ็ดช่วยตัวเองแต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่เสียวสุดๆ นิ้วของแมงปอแหย่เข้าออกถี่เร็วอย่างเร่าร้อนเสียงดังแจ๊ะๆๆดังตามจังหวะมือที่แรงและเร็วขึ้นไปเรื่อยๆจนทนแทบไม่ไหว

  เสียวมาก