ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ชุ้ง

รัก(ไม่)ธรรมดา: 10 ชีวิตในร่างเดียว ตอนที่ 3: เงาของการเริ่มต้นใหม่

เริ่มโดย ชุ้ง, มีนาคม 23, 2025, 05:44:07 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชุ้ง

รัก(ไม่)ธรรมดา: 10 ชีวิตในร่างเดียว
ตอนที่ 3: เงาของการเริ่มต้นใหม่

หลี่เจิ้งเฉินเดินตามเซี่ยเหมยหลานไปในห้องที่เต็มไปด้วยแสงสว่างจากไฟสีเหลืองอ่อน เสียงฝีเท้าของทั้งสองคนดังก้องในห้องที่เงียบสงบ แต่ความรู้สึกในใจของหลี่เจิ้งเฉินกลับไม่สงบเลย เขายังคงไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองได้เต็มที่

เซี่ยเหมยหลานหันไปยิ้มให้เขาอีกครั้ง ด้วยสายตาที่ดูมั่นใจและท้าทาย "นายกำลังจะได้รู้แล้วว่าทำไมทุกสิ่งถึงต้องเป็นแบบนี้" เธอพูดเสียงเบาแต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง

หลี่เจิ้งเฉินรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่ความมืดมิดของปริศนา โดยไม่สามารถออกจากมันได้ เขากำลังจะค้นพบบางสิ่งที่อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล แต่ทุกก้าวที่เขาก้าวไปข้างหน้า กลับเต็มไปด้วยคำถามที่ยากจะตอบ

เซี่ยเหมยหลานหยุดยืนตรงหน้ากระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพของเธอและหลี่เจิ้งเฉิน ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน ผมยาวสีแดงเพลิงที่พลิ้วไหวตามลมที่พัดผ่านจากช่องระบายอากาศ เสื้อซีทรูที่เผยให้เห็นส่วนโค้งของร่างกายเธอจนแทบไม่เหลืออะไรที่ซ่อนเร้น สวมกางเกงหนังเอวต่ำและปลอกคอหนังที่เสริมเสน่ห์ให้เธอดูเหมือนเทพธิดาที่มาเยือนจากโลกใบใหม่

"นายอยากรู้ใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?" เซี่ยเหมยหลานหันมาถามเขาด้วยรอยยิ้มที่ท้าทาย

หลี่เจิ้งเฉินพยักหน้าช้าๆ คำถามที่เขาถามตัวเองซ้ำๆ กลับมาตอกย้ำในหัวใจของเขาอีกครั้ง "ทำไมต้องเปลี่ยนตัวตนไปเป็นคนอื่น? และทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนมันเกี่ยวข้องกับฉัน?"

เซี่ยเหมยหลานหรี่ตามองเขา "นี่คือการเริ่มต้นใหม่ของนาย ที่นายจะเข้าใจทุกอย่างในเวลาของมัน มันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงของบุคลิก แต่เป็นการเปิดประตูสู่ความจริงที่ซ่อนอยู่ในทุกชีวิตที่นายเคยพบเจอ"

คำพูดของเธอเหมือนกับคลื่นที่ซัดสาดเข้ามาในใจหลี่เจิ้งเฉิน เขารู้ว่ามันมีมากกว่าการแต่งตัวหรือท่าทางที่เปลี่ยนไป แต่สิ่งที่เขาต้องเผชิญอยู่นั้นคือการทดสอบที่หนักหน่วงกว่าทุกสิ่งที่เขาคิดไว้

เซี่ยเหมยหลานยืนหันหลังให้เขาเดินไปที่โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารสำคัญและแผนที่เต็มไปด้วยร่องรอยของแผนการที่ซับซ้อน ร่างกายของเธอดูเหมือนจะซ่อนความลับอะไรบางอย่างที่ยังไม่ได้เปิดเผย หลี่เจิ้งเฉินรู้สึกถึงความมืดมิดที่แผ่ขยายอยู่ในทุกซอกมุม

"นายต้องพร้อมที่จะยอมรับความจริงทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต หรือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต" เธอพูดพร้อมยิ้มให้เขา ก่อนจะเดินไปหยิบแผนที่ที่วางอยู่บนโต๊ะ

หลี่เจิ้งเฉินยืนอยู่ในห้องนั้น ท่ามกลางความสงสัยและความเครียดที่สะสมในใจ เขารู้ดีว่าเขากำลังยืนอยู่บนทางที่ไม่มีทางย้อนกลับ ทุกการกระทำของเขาจะส่งผลต่อการเปิดเผยความจริงในที่สุด และเขาจะต้องพร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างในตัวเขาเอง

เมื่อหลี่เจิ้งเฉินก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจขึ้น เขารู้ว่าในไม่ช้าเขาจะต้องเผชิญกับความจริงที่ซ่อนอยู่ในทุกสิ่งรอบตัว...

หลี่เจิ้งเฉินรู้สึกเหมือนโลกทั้งหมดหมุนรอบตัวเขา ขณะที่เขาก้าวเข้าไปใกล้แผนที่ที่เซี่ยเหมยหลานหยิบขึ้นมา ทุกสิ่งในห้องนั้นดูเหมือนจะหายไป เหลือเพียงเสียงของหัวใจที่เต้นอย่างรวดเร็ว และความรู้สึกของบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเขา

เซี่ยเหมยหลานวางแผนที่ลงบนโต๊ะ ขณะที่มือของเธอขยับไปตามเส้นทางบนแผนที่ที่ดูเหมือนจะซับซ้อนยิ่งขึ้นทุกที "นี่คือเส้นทางที่นายจะต้องเดินตามไป" เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความลึกลับ "มันจะพานายไปยังสถานที่ที่มีความจริงซ่อนอยู่ ซึ่งมันจะทำให้ทุกคำถามของนายได้รับคำตอบ"


หลี่เจิ้งเฉินยืนมองแผนที่ตรงหน้า เขาสังเกตเห็นเส้นสายที่ขีดเขียนทับซ้อนกันไปมา ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่แผนที่ธรรมดา แต่กลับเป็นแผนการที่ซับซ้อนที่สุดที่เขาเคยเห็น บางเส้นมีลักษณะคล้ายกับตัวอักษรโบราณ และบางเส้นก็แสดงถึงสถานที่ที่ไม่เคยมีในโลกที่เขารู้จัก

"ที่นี่คือจุดเริ่มต้น" เซี่ยเหมยหลานกล่าวและชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในป่าอันมืดมิด ที่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสำหรับใครก็ตามที่จะเดินเข้าไป

หลี่เจิ้งเฉินเงียบไปชั่วขณะ หัวใจของเขารู้สึกหนักหน่วงไปกับคำพูดของเซี่ยเหมยหลาน ทุกอย่างที่เขาเคยรู้มาเริ่มจะเป็นเพียงภาพลวงตา เส้นทางที่เขากำลังจะต้องเดินนั้นไม่ใช่แค่การตามหาคำตอบ แต่เป็นการพบกับอดีตที่เขาพยายามจะหลีกหนี

"นายเชื่อว่าโลกนี้มีแค่สิ่งที่มองเห็นไหม?" เซี่ยเหมยหลานถามขึ้น ราวกับรู้ความคิดของเขา

หลี่เจิ้งเฉินหันมองหน้าเธอ ความไม่เข้าใจเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ "หมายความว่าอย่างไร?"

"มันมีมากกว่านั้น" เธอตอบเสียงเบา "ทุกสิ่งที่นายคิดว่าเป็นจริง มันอาจจะเป็นเพียงแค่เงาของความจริงที่ซ่อนอยู่รอบตัวนาย"

หลี่เจิ้งเฉินรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งที่เขาไม่เคยเข้าใจมาก่อนถูกเปิดเผยออกมาอย่างช้าๆ ทุกคำพูดของเซี่ยเหมยหลานเหมือนกับดวงดาวที่ส่องสว่างในท้องฟ้าที่มืดมิด ทำให้เขาเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่เขาต้องเผชิญในอนาคต

"นายต้องเตรียมใจที่จะเผชิญกับมันทั้งหมด" เซี่ยเหมยหลานยิ้มให้เขา แต่รอยยิ้มนั้นกลับไม่ทำให้เขารู้สึกสบายใจเลยแม้แต่น้อย "เพราะบางครั้ง ความจริงก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่นายต้องการให้มันเป็น"

หลี่เจิ้งเฉินยืนอยู่ในห้องนั้น รู้สึกเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบตัวเขา ความสงสัยเริ่มแทรกซึมไปในทุกๆ คำพูดและทุกๆ การกระทำของเขา การเริ่มต้นใหม่ที่เซี่ยเหมยหลานพูดถึงนั้น อาจจะไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงของตัวเขา แต่เป็นการเปิดเผยบางสิ่งที่เขายังไม่พร้อมที่จะรู้

"ฉันพร้อม" เขากล่าวเสียงต่ำ แต่มั่นคง

เซี่ยเหมยหลานพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเริ่มเดินไปที่ประตูห้อง "ถ้าอย่างนั้น ไปกันเถอะ" เธอบอกสั้นๆ และเปิดประตูออกไป ข้างหลังเธอคือความมืดที่ดูเหมือนจะรอคอยเขาอยู่

หลี่เจิ้งเฉินก้าวตามเธอไป ขณะที่หัวใจของเขายังคงเต้นแรง และสมองเต็มไปด้วยคำถามที่ไม่มีคำตอบ เขากำลังจะเดินไปยังสถานที่ที่เขาไม่เคยคิดว่าจะไป และจะต้องพบกับความจริงที่เขาหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด

ทุกก้าวที่เขาก้าวไป ข้างหน้า คือเส้นทางที่ไม่มีทางกลับ...

หลี่เจิ้งเฉินก้าวออกจากห้องตามเซี่ยเหมยหลาน หัวใจของเขายังคงเต้นแรง ขณะที่บรรยากาศรอบตัวเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเงียบสงัดของค่ำคืน ดวงจันทร์ส่องแสงจางๆ เหนือยอดไม้สูงตระหง่าน และสายลมเย็นพัดผ่านราวกับเป็นสัญญาณของบางสิ่งที่กำลังจะมาถึง

เซี่ยเหมยหลานเดินนำไปข้างหน้าโดยไม่พูดอะไร ราวกับว่าทุกย่างก้าวของเธอเป็นไปตามแผนที่เธอวางเอาไว้ หลี่เจิ้งเฉินสังเกตเห็นว่าเธอกำลังพาเขามุ่งหน้าไปยังเส้นทางที่อยู่ในแผนที่ เส้นทางที่ลึกเข้าไปในป่าทึบ ซึ่งแทบไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปยามค่ำคืน

"เธอแน่ใจหรือว่าเราต้องไปตอนนี้?" เขาถามขึ้น เสียงของเขาแฝงไปด้วยความระแวง


เซี่ยเหมยหลานหยุดเดินและหันกลับมามองเขาด้วยสายตาจริงจัง "ถ้านายต้องการคำตอบจริงๆ นายต้องพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร"

หลี่เจิ้งเฉินกัดฟันแน่น เขารู้ดีว่าเส้นทางนี้ไม่มีที่ให้ความลังเล ความกลัวไม่มีที่ยืนในเกมที่เขากำลังจะเข้าไปเกี่ยวข้อง เขาพยักหน้าเบาๆ "ฉันเข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ"

พวกเขาทั้งสองเดินลึกเข้าไปในป่า เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องสะท้อนอยู่ในความเงียบ ดวงตาของหลี่เจิ้งเฉินจับจ้องไปที่เงามืดรอบตัว มันทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกเฝ้ามอง แต่เขาไม่สามารถระบุได้ว่ามันเป็นเพียงความคิดของเขาเองหรือมีบางสิ่งอยู่ที่นั่นจริงๆ

หลังจากเดินมาได้สักพัก เซี่ยเหมยหลานหยุดลงตรงจุดหนึ่งซึ่งดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่เมื่อเธอค่อยๆ กวาดมือผ่านต้นไม้เก่าแก่ต้นหนึ่ง เปลือกไม้บางส่วนก็ขยับออก เผยให้เห็นสัญลักษณ์ประหลาดที่ซ่อนอยู่ข้างใต้

"นี่มันอะไร?" หลี่เจิ้งเฉินถามขณะที่เขามองสัญลักษณ์นั้นด้วยความสงสัย

เซี่ยเหมยหลานไม่ได้ตอบทันที เธอเพียงแค่เอื้อมมือไปสัมผัสสัญลักษณ์นั้นอย่างแผ่วเบา ทันใดนั้น แสงสีฟ้าจางๆ ก็เปล่งออกมาจากรอยสลักบนต้นไม้ เสียงกลไกบางอย่างดังขึ้นใต้พื้นดิน และเพียงไม่นาน พื้นดินใต้เท้าของพวกเขาก็เริ่มสั่นสะเทือน

"จับมือฉันไว้" เซี่ยเหมยหลานพูดเสียงหนักแน่น

หลี่เจิ้งเฉินทำตามโดยไม่ลังเล และก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว พื้นใต้พวกเขาก็ยุบลงอย่างรวดเร็ว นำพาพวกเขาทั้งสองตกลงไปในความมืดเบื้องล่าง


ความมืดโอบล้อมพวกเขาในทันที ขณะที่ร่างของหลี่เจิ้งเฉินและเซี่ยเหมยหลานดิ่งลงไปในอุโมงค์ลับที่ซ่อนอยู่ใต้ป่า ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วจนหลี่เจิ้งเฉินแทบไม่มีเวลาตั้งตัว ความรู้สึกเหมือนกำลังร่วงหล่นผ่านความว่างเปล่าทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัว

วินาทีต่อมา ร่างของทั้งสองกระแทกลงบนพื้นหินเย็นเฉียบ หลี่เจิ้งเฉินพยายามยันตัวขึ้น แม้ความเจ็บแปลบจะวิ่งพล่านไปทั่วร่าง "เธอไม่คิดจะบอกฉันก่อนเหรอว่าเราจะต้องตกลงมาแบบนี้?"

เซี่ยเหมยหลานลุกขึ้นอย่างสงบนิ่ง เธอปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าก่อนจะมองไปรอบๆ ราวกับนี่เป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ "ฉันบอกแล้วไงว่าให้นายจับมือฉันไว้ ก็ยังดีที่เรามาถึงโดยปลอดภัย"

หลี่เจิ้งเฉินหันไปมองรอบตัว บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยแสงสลัวจากผลึกเรืองแสงที่ติดอยู่ตามผนังถ้ำ โครงสร้างของที่นี่ดูเหมือนเป็นอุโมงค์ใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างตั้งใจ ไม่ใช่เพียงแค่โพรงถ้ำธรรมดา เสาหินสูงตั้งเรียงรายไปตามทางเดิน ลวดลายสลักบนผนังดูแปลกตา เป็นอักษรโบราณที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

"ที่นี่คือที่ไหนกันแน่?" เขาถาม

เซี่ยเหมยหลานก้าวเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามอง "สถานที่ที่ซ่อนคำตอบของนายอยู่"

หลี่เจิ้งเฉินขมวดคิ้ว เขาตัดสินใจเดินตามเธอไป แม้จะยังเต็มไปด้วยคำถามในใจ

พวกเขาเดินลึกเข้าไปในอุโมงค์ จนกระทั่งมาถึงห้องโถงกว้างขนาดใหญ่ เบื้องหน้าคือแท่นหินที่ดูเหมือนแท่นบูชา บนแท่นนั้นมีบางสิ่งที่ดูคล้ายกล่องไม้เก่าแก่ตั้งอยู่

เซี่ยเหมยหลานหยุดลงตรงหน้าแท่นหิน ก่อนจะหันกลับมามองหลี่เจิ้งเฉิน "นี่คือสิ่งที่นายต้องเปิด ถ้านายอยากรู้ความจริง"

หลี่เจิ้งเฉินลังเลเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะกล่องใบนั้น...

(โปรดติดตามตอนต่อไป)