ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

IDOL FANTASY : ไอดอลสาวตะลุยต่างโลก

เริ่มโดย ccmaxi, กันยายน 23, 2024, 11:57:46 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ccmaxi




เสียงดนตรีที่ดังกึกก้องไปทั่วห้องโถงขนาดใหญ่เริ่มค่อยๆเงียบลง
ความมืดในห้องขับแสงจากแท่งไฟหลากสีละลานตามากมายให้เด่นชัด
เหล่าสาวน้อยในชุดกะลาสีกับกระโปรงฟูฟ่องค่อยๆ ทยอยออกมาโค้งตัวโบกมือขอบคุณผู้ชมของพวกเธอในวันนี้
เสร็จสิ้นไปอีกวันกับคอนเสิร์ต วงไอดอลสาวดาวรุ่งชื่อดังของเชียงใหม่

    "วันนี้สนุกมากๆเลยเนอะ"
    "นี่ๆ แฟนคลับเธอมากขึ้นอีกแล้วนะ สิรา"
    "แหม ยังน้อยกว่าเธอเยอะน่ายัยพิมพ์"
    "โหย ถ้าเพิ่มเร็วขนาดนี้ อีกแปปเดียวก็แซงชั้นละ"

    "เอาล่ะๆ แฟนคลับใครเพิ่มก็ดีกับวงเราทั้งนั้นแหละ
      มาๆ วันนี้พี่เลี้ยงหมูทะ รีบๆแต่งตัวแล้วตามมา ใครช้าอดนะ!"
    "เย่! ขอบคุณค่าาาาพี่อ้อม!!!"

บรรยากาศในห้องแต่งตัวหลังการแสดง เป็นไปอย่างครึกครื้นเหมือนทุกที
พวกเธอคือเหล่าไอดอลสาวแสนน่ารักอันดับต้นๆของประเทศ
ซึ่งมีเจ้าของวงเป็นอดีตไอดอลชื่อว่าเรนะสาวสวยจากญี่ปุ่น และอ้อมกัปตันวงรุ่นพี่ที่แสนดี
และเป็นแบบอย่างของน้องๆหลายคนในวงพวกเธอล้วนสดใสเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของสาวน้อย
เป็นกลุ่มไอดอลสาวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายมานานหลายปี
   
สิรา ไอดอลสาวสวยวัย 23 ปีที่เข้าวงมาเป็นรุ่นแรก ตั้งแต่อายุ 17 ตอนนี้เธอเพิ่งได้เป็นเซ็นเตอร์ในเพลงใหม่ล่าสุด
ด้วยตำแหน่งที่โดดเด่นทำให้เธอมีแฟนคลับใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้วที่สิราได้เป็นเซ็นเตอร์ตั้งแต่เข้าวงมา
   
ด้วยความขาวสวยแบบคนเหนือผมดำยาว และรูปร่างที่ผอมสมส่วน น่ารัก
ทำให้สิราถูกจับตาตั้งแต่เดบิวต์และมีแฟนคลับมากกว่าคนอื่น เธอได้เป็นเซ็นเตอร์คนแรกของวง
และสร้างปรากฏการณ์ไอดอลเมืองเหนือ จนวงไอดอลวงนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักมาถึงทุกวันนี้

ในช่วงนั้นหลังจากเอ็มวีถูกปล่อย ความน่ารักและมีเสน่ห์ของเธอ โดนใจผู้คนมากมาย
ชื่อของสิราถูกเสิร์ชเป็นอันดับหนึ่งในโลกโซเชียล    สิราเป็นคนฉลาด และมีพรสวรรค์ที่เต็มเปี่ยม
ทำให้ในตอนนั้นทุกๆอย่างดูง่ายไปหมดสำหรับเธอ ด้วยความที่ยังเด็ก และชื่อเสียงประดังเข้ามากว่าที่คาดคิด
ทำให้เธอเริ่มหลงระเริงไปกับชื่อเสียง เธอเริ่มมาซ้อมน้อยลง ไม่สนใจแฟนคลับ และเริ่มแอบคบหาแฟนหนุ่ม

กว่าเธอจะรู้สึกตัวทุกอย่างก็แทบจะสายไป ชีวิตของสิรากลายเป็นโรลเลอร์โคสเตอร์ทันทีเมื่อเธอพยายามจะเลิกกับแฟน
แต่เขากลับปล่อยรูปลับของเธอลงในเน็ต แม้จะไม่เห็นหน้าชัดแต่นักสืบโซเชียลก็เทียบรูปกันจนแทบจะยืนยันได้ว่ารูปนั้นคือรูปเธอ
ชื่อของสิราถูกเสิร์ชเป็นอันดับหนึ่งบนโลกโซเชียลอีกครั้ง แต่เป็นคนละแบบกับตอนแรกโดยสิ้นเชิง

สิราจมอยู่กับความสิ้นหวังจนเกือบจะขอลาออกจากวง โชคยังดีที่มีพี่อ้อมและพี่เรนะ
คอยช่วยเหลือเธอให้ผ่านพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้มาได้ ทว่าข่าวลือของเธอก็ยังแพร่สะพัดอยู่
แม้ชาวเน็ตจะพิสูจน์กันไม่ได้จริงแต่ก็มีผลทำให้ความนิยมของสิราตกลง จนเธอไม่ได้เป็นเซ็นเตอร์อีก

เธอรับโอกาสครั้งที่สองมา และเก็บความผิดพลาดนี้ไว้เป็นบทเรียนอันที่จริงเธอคิดว่าการมีแฟนไม่ใช่เรื่องผิด
แต่ที่ผิดคือเธอควรเลือกผู้ชายให้ดีกว่านี้มากกว่า หลังจากนั้นเธอก็บอกกับตัวเองว่าจะนับหนึ่งใหม่
และจะทุ่มเทกับงานไอดอลอย่างเต็มที่ ด้วยการฝึกฝนตลอดหลายปี และพรสวรรค์ของเธอ
ทำให้สิราสามารถเรียนรู้ท่าเต้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าไอดอลชื่อดังคนไหนเธอก็สามารถลอกเลียนแบบท่าทาง
หรือท่าเต้นได้อย่างสมบูรณ์ นั่นรวมไปถึงเทคนิคการจับมือและโปรยเสน่ห์ของไอดอลคนอื่นๆด้วยนั่นเอง
ทำให้สิรากลายเป็นไอดอลที่มีชื่อเสียงในงานจับมือ จนมีคำพูดขึ้นว่า "ถ้าได้จับมือกับสิราครั้งนึงแล้ว จะต้องมาอีกตลอดไป"
นั่นทำให้ฐานแฟนคลับที่เคยหายไปของเธอกลับมาใหม่อีกครั้ง และค่อยๆมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว...

หลังจากเหล่าไอดอลสาวกินหมูกระทะร้านดังเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เพื่อนบางคนกลับหอ บางคนกลับบ้าน
ส่วนสิราเธอแวะร้านสะดวกซื้อก่อนกลับ เธอจึงเดินกลับหอคนเดียว ระหว่างทางที่เดินเธอก็คิดย้อนไปถึงอดีตที่ผ่านมา
เธอเสียใจแต่ไม่รู้สึกเสียดายกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอมักคิดเสมอว่า สิ่งใดที่เกิดขึ้นล้วนดีเสมอ โชคดีแล้วที่เธอรู้ตัวเร็ว
   
ตอนนี้เธอรู้สึกสนุกกับการเป็นไอดอล แล้วเริ่มตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง
แม้วันนี้เธอจะได้กลับมาอยู่บนเวทีในฐานะเซ็นเตอร์อีกครั้ง แต่เธอก็ไม่ได้อยากเป็นที่หนึ่ง
สิราอยากเป็นแบบพี่เรนะมากกว่า สักวันเธออยากตั้งวงไอดอลของตัวเองเพื่อสานฝันของเหล่าเด็กสาว
และช่วยเหลือพวกเธอเมื่อมีปัญหาเหมือนกับที่พี่เรนะได้เคยช่วยเธอไว้...

ในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆ แล้วกำลังจะเดินข้ามถนนไปยังหอพักที่อยู่ด้านหน้า
แสงไฟก็สาดเข้ามาเข้าตาเธอ ชั่ววินาทีนั้นสิรางงงันไปวูบหนึ่ง กับภาพรถกระบะสีแดงที่พุ่งเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว

    'เอ๊ะ! อะไรน่ะ... นี่มันก็ไฟแดงอยู่หนิหน่า แล้วทำไมถึงขับมา...'
    'ต้องหลบ...แต่...ไม่ทันแล้ว...อ่าา...'

.
.
.

ในเสี้ยววินาทีนั้นเองบนพื้นก็มีอักขระปรากฏขึ้นซึ่งสิราไม่มีทางสังเกตเห็นได้เลย แต่ถึงเธอเห็นก็คงไม่เข้าใจมันอยู่ดี
แสงสว่างจ้าสว่างขึ้นเรื่อยๆ มันสว่างมากขึ้นจนผิดปกติ แสงสว่างปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณนั้น
หญิงสาวหลับตาปี๋รอรับความเจ็บปวดที่กำลังจะเผชิญ แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น... สิราค่อยๆลืมตา
ก็พบว่ารอบตัวเธอขาวโพลนไปหมด เธอกวาดตามองไปรอบๆ ไม่มีกำแพงไม่มีเพดานแต่มีพื้นเรียบสีขาว
ทุกอย่างเป็นสีขาว ไม่มืดไป ไม่สว่างไป ดูเวิ้งว้างแต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
   
'เห๊ะ! ห๊ะ!... ที่นี่ที่ไหน...หรือว่านี่...เราตายแล้วหรอ?!?'
"ยังหรอกสาวน้อย..."
"ว้ายย!!!"

จู่ๆ เสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ สิราตกใจจนร้องออกมา เธอตกใจที่จู่ๆ ก็มีเสียงคนมาจากด้านหลัง
และเสียงนั้นยังตอบสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่ในใจซะอีก เจ้าของเสียงเป็นชายอ้วนใส่แว่นกลมในชุดสีขาวดำ
ให้อารมณ์เหมือนชุดนักศึกษาชาย เป้สีดำด้านหลังมีแท่งพลาสติกโผล่ออกมาให้เห็น มันเป็นสิ่งที่สิราเห็นอยู่เป็นประจำ
แค่เห็นแว่บเดียวก็จำได้ทันทีว่ามันคือแท่งไฟที่ใช้เชียร์ไอดอล มองจากดาวอังคารก็รู้ว่านี่มันโอตะตัวพ่อชัดๆ เธอคิด

    "จะว่ายังงั้น...มันก็ใช่อยู่หรอกนะ"
    "ห๊ะ! อ่านใจได้จริงด้วย พี่เป็นใครน่ะ พี่เป็นคนช่วยหนูไว้หรอ?"
    "มันก็ใช่แหละครับ แต่อันที่จริงผมตะหากที่ต้องให้คุณช่วย..."
    "ห๊ะ! พี่เป็นใครเนี่ย แล้วมันเกิดอะไรขึ้น หนูตายแล้วหรอคะ?!?"
    "ยังครับ ยังมีชีวิตอยู่ ใจเย็นๆนะครับ ค่อยๆถามจะดีกว่าครับ"
    "ค่ะ...ค่ะ...อืมมม... งั้นเกิดอะไรขึ้นกับหนูหรอ?"
    "อันที่จริง คุณต้องเสียชีวิตลงจากการถูกรถชนครับ แต่ในจังหวะนั้นเอง ผมจึงถือวิสาสะเข้าแทรกแซง อัญเชิญคุณมาที่นี่..."
    "อ๊าา...แปลว่าหนูยังไม่ตาย... คุณพาหนูมาก่อน..."
    "ครับ..."
    "คุณเป็น...เอ่อ...เป็นพระเจ้าหรอคะ?"
    'พระเจ้าสภาพแบบนี้หรอ...' สิราคิดในใจ...
    "ไม่เชิงครับ... ว่าแต่คุณคิดอะไรเสียมารยาทน่าดูเลยนะครับ"
    "อ๊ะ! ข...ขอโทษค่ะ..."

    "อืมมมม...ผมอธิบายแบบนี้ครับ คือพระเจ้าเนี่ย เป็นตัวตนที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง
ในความเป็นจริงแล้วก็พูดยากว่าผมคืออะไร เพราะจากการรับรู้ที่แตกต่างกันทำให้ผมอธิบายค่อนข้างลำบาก
เหมือนการอธิบายเรื่องสีให้กับคนตาบอดสีตั้งแต่กำเนิด เล่าเรื่องบนบกให้กับปลาที่อยู่ในน้ำก็คงเป็นเรื่องที่ยาก
แต่ถ้าจะให้อธิบายให้คุณเข้าใจได้ ฐานะของผมเป็นเหมือนผู้ดูแลมากกว่าครับ"
    "ผู้ดูแล...ดูแลโลกนี้หรอคะ?..."
    "ครับ...และไม่ใช่แค่โลกของคุณ ยังมีโลกอื่นๆอีกด้วยครับ"
    "โลกอื่น! เหมือนในเกมส์ ในการ์ตูนหรอคะ!?"
    "ถ้าพูดจากพื้นฐานความรู้ของคุณก็ใช่ครับ ยังมีโลกแบบอื่นอีกครับ ทั้งโลกที่มีเวทมนตร์
โลกที่เทคโนโลยีรุดหน้ากว่าโลกของคุณไปไกล และโลกที่มนุษยชาติต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาดตัวมหึมาก็มีนะครับ..."
    "โห...สุดยอดดด... แล้ว...คุณพาหนูมาที่นี่ทำไม อย่าบอกนะว่า..."
    "ใช่ครับ...อย่างที่คุณคิด...ผมอยากให้คุณไปอีกโลกนึงครับ...    "
    "ว้ายๆๆๆๆ สะ...สุดยอด...สุดยอดไปเลยยย..."
   
สิราตาเป็นประกาย เธอตื่นเต้นดีใจจนแทบจะเก็บความรู้สึกไว้ไม่อยู่เมื่อรู้ว่าเธอจะได้ไปผจญภัยในต่างโลก
เหมือนในการ์ตูนที่เธออ่านประจำ จากประสบการณ์เฉียดตาย แต่เธอกลับไม่ตายและจะได้ไปที่ต่างโลกอีก
แบบนี้ต่อให้ตายจริงก็คุ้ม เธอคิด...
   
    "ไม่คุ้มหรอกครับ... ชีวิตมีค่านะครับคุณสิรา..."
    "อ๊ะ...ค่ะ...ค่ะ...ขอโทษค่ะ..."
    "คือผมอยากให้คุณช่วยไปที่โลกหมายเลข 48 ที่ผมดูแลอยู่ เป็นโลกที่แม้เทคโนโลยีจะค่อนข้างล้าหลังกว่าโลกที่คุณอยู่
แต่เป็นโลกที่มีสิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์ และมีการใช้สิ่งที่เรียกกันว่า สกิล ครับ..."
    "ไปค่ะ! ไปค่ะ! จะให้หนูไปทำอะไรที่นั่นคะ ว่ามาได้เลยค่ะ!"

    "ครับ...อย่างที่บอกมันเป็นโลกที่มีทั้งเวทมนตร์และสกิล แต่ก็มีสิ่งที่เรียกว่ามอนสเตอร์และจอมมารอยู่ด้วยเช่นกัน
ซึ่งตอนนี้โลกมนุษย์ที่ถูกคุกคามด้วยจอมมารมาแสนนาน กำลังจะเปลี่ยนสู่ยุคสมัยใหม่ จากข้อมูลที่มี
ทำให้คาดการณ์ได้ว่าเหล่าผู้กล้าจะสามารถปราบจอมมารลงได้ในอีกไม่ถึงสิบปี..."
    "อ่าว... แล้วไม่ได้ให้หนูไปปราบจอมมารหรอคะเนี่ย..."
    "อ้อ... เปล่าครับ..."   
    "แล้วจะให้หนูไปทำอะไรหรอคะ..."
    "ผมจะให้คุณสิรา ไปตั้งวงไอดอลที่โลกนี้ครับ..."
    "ห๊ะ!"
    "เพราะปัญหามันจะเกิดขึ้นต่อจากนั้นครับ ตอนที่จอมมารถูกปราบเมื่อโลกไม่มีภัยคุกคามร่วมกัน
มีความเป็นไปได้สูงที่เหล่ามนุษย์จะหันมาต่อสู้กันเอง และสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง
มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความสูญเสียมากกว่าที่ถูกจอมมารคุกคามมาตลอดซะอีก
จากข้อมูลที่ผมมี สิ่งที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือไอดอลครับ..."
    "ห๊ะ!"
    "จากที่ผมเก็บข้อมูลอยู่ที่โลกของคุณอยู่นาน ผมก็ค้นพบสิ่งนี้ครับ ไอดอลเป็นสิ่งวิเศษ สร้างแรงบันดาลใจ
เป็นความหวังความฝันให้ผู้คน สายสัมพันธ์ของผู้คนบนโลกจะถูกถักทอให้เป็นหนึ่งเดียว"
    "เดี๋ยวค่ะ! ถ้ายังงั้นทำไมต้องเป็นหนูด้วยอ่ะ!
สู้ไปเอาพี่เรนะ หรือคนเก่งๆจากญี่ปุ่นที่เป็นต้นตำรับไอดอลแท้ๆจะดีกว่าไหมคะนั่น!"
    "จริงอย่างที่คุณว่าครับ แต่เนื่องจากผมไม่อาจแทรกแซงเรื่องราวบนโลกได้มากเกินไป
ผมต้องดึงคนที่ใช้ชีวิตบนโลกจนหมดแล้วมาเท่านั้นและผมมีเวลาไม่มากนัก
เนื่องจากความเหลื่อมล้ำของเวลาในแต่ละโลกก็ไม่เท่ากัน คนที่มีจังหวะเสียชีวิตตรงตามเงื่อนไข
ทั้งเวลา สถานที่ และอาชีพ จึงเหลือคุณเป็นตัวเลือกเดียวครับ แม้คุณจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด
แต่ก็เป็นเพียงตัวเลือกเดียวครับ..."
    "อ๋าา...ยังงี้นี่เอง...ถึงหนูจะฝันว่าสักวันจะตั้งวงไอดอลของตัวเอง...แต่มันก็เป็นเรื่องอีกนานเลย
...แล้วให้มาทำตอนนี้...แถมยังต่างโลกอีก..."
    "เส้นตายคือประมาณ 10 ปีครับจนกว่าผู้กล้าจะโค่นจอมมารได้สำเร็จถือว่าไม่มากไม่น้อยไป
แล้วผมจะรับคุณกลับมาส่งไปยังโลกเดิม โดยที่จะส่งกลับไปในเวลาเดียวกันที่คุณจากมา 
แต่ผมจะเหลื่อมเวลาให้สักหน่อย คุณจะได้ไม่ถูกรถชน ไม่ต้องกดดันมากครับ ผมอยากให้คุณช่วยโลกนั้นไว้ก็จริง
แต่ถ้าทำไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไรครับ หรือคุณจะไม่ทำอะไรเลยก็ได้ ถือว่าได้ไปท่องเที่ยวผจญภัยในต่างโลกก็ได้ครับ
ถึงสงครามจะเกิด จะมีคนตายมากมาย แต่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้..."

    "อ๊า...ขี้โกง ได้ยินแบบนี้แล้วใครมันจะไปเที่ยวเล่นกันได้ลง..."
    "อ๊ะ ขออภัยครับ ใช้เวลาพูดคุยมากกว่าที่คิด ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาแล้ว คล้ายๆกับการขึ้นรถเป็นเที่ยวน่ะครับ
ถ้าพลาดตอนนี้ไปอาจจะไปไม่ทัน แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวคุณจะได้รับสกิลที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุดครับ"
    "ห๊ะ! ทำไมเร่งยังงี้ งั้นขอสกิลโกงๆด้วยนะคะ ขอเงินทุนด้วยนะคะ!"
    "เรื่องสกิลเดี๋ยวระบบจะจัดการให้ครับ เรื่องภาษาก็ไม่ต้องห่วง
แต่เรื่องวัตถุสสารนี่ต้องขออภัยจริงๆที่ไม่สามารถมอบให้ได้ครับ...
มีข้อจำกัดเกี่ยวกับการแทรกแซงโลกน่ะครับ แล้วผมก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลืออะไรคุณได้ด้วย...
ได้เวลาแล้วครับ ตอนไปที่โลกนั้นอาจจะง่วงเล็กน้อยพบกันอีกทีอีกสิบปีข้างหน้านะครับ"
    "อ๊ะ! เดี๋ยวสิ เฮ้ย! ไม่มีทุน...แล้วจะ...ให้...ตั้งวง...ไอดอลเนี่ย...นะ..."

ความง่วงถาโถมเข้าหาสิรา มันไม่ใช่อาการง่วงเล็กน้อยอย่างที่โอตะแปลกหน้าบอกเธอเลย
เธอค่อยๆหมดสติลง...พร้อมกับร่างกายที่หายไป
.
.
.

แสงแดดที่แยงตา ทำให้สิราที่เริ่มได้สติค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น เธอนอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
มองเห็นท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอตกใจเล็กน้อยด้วยความสับสน
ก่อนจะทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหัว ความดีใจปนเสียใจ ความตื่นเต้นเจือความกดดันถาโถมเข้ามาในใจเธอ

    'ต่างโลก! ที่นี่คือต่างโลกจริงๆสิเนี่ย! อ๊ะ! แล้วนี่เราใส่ชุดอะไรน่ะ'
[ชุดนักบวชศักดิ์สิทธิ์]
    'อ๊ะ! อะไรเนี่ย เหมือนมีข้อความขึ้นมาในหัวเลย'
[สกิลประเมิน]
    'อ๋ออ...ไอ้สกิลแสนสบายที่ ทำให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรได้เหมือนในการ์ตูน ถ้ายังงั้นประเมินตัวเองได้ไหมนะ'

[ ชื่อ : สิรา  เลเวล : 1
สกิล : ประเมิน/ สกินชิฟ
สกิลที่สามารถใช้ได้ในคลังสกิลสกินชิฟ
ดาบผ่าสวรรค์/ ควบคุมเวทมนตร์ /
แสงแห่งการรักษา / ฟื้นพลังกาย]

    'โอ้...มายก็อด...ฉันเลเวล 1 ไอ้ผู้ดูแลอ้วนขี้ตืด แบบนี้ ไม่ใช่ว่าหกล้มก็ตายแล้วนะ...
สกิลประเมินพอเข้าใจแล้วแต่อีกสกิลที่ชื่อสกินชิฟ นี่มันทำอะไรได้บ้างล่ะเนี่ย...'

[สกิลสกินชิฟ]
[สกิลสกินชิฟ]

    'ไม่มีประโยชน์ ไม่เข้าใจว่าทำอะไรได้เลย... แล้วไอ้สกิลในคลังล่ะ...'

[สกิลที่ใช้ได้ ในคลังสกิลสกินชิฟ]
ดาบผ่าสวรรค์ : สกิลสำหรับโจมตี
ควบคุมเวทมนตร์ : สกิลสำหรับการใช้เวทมนตร์
แสงแห่งการรักษา : สกิลรักษาบาดแผล และความผิดปกติ
ฟื้นพลังกาย : สกิลสำหรับฟื้นฟูพลังกาย
[ประสิทธิภาพของสกิลที่ได้รับมา จะเพิ่มตามเลเวลของผู้ใช้งาน]

    'อุ๊ย...มีสกิลหลายอย่างเลยนะเนี่ย...อืมมม ดาบผ่าสวรรค์หรอ จะลองยังไงล่ะ เราไม่มีดาบซะด้วย
เวทมนตร์ดูน่าสนใจ เราจะใช้เวทได้งี้หรอ? ว้าวเลย! ส่วนฟื้นฟูพลังกายนี่คือจะไม่เหนื่อยหรออืมม...
แล้วแสงแห่งการรักษานี่ก็น่าจะมีประโยชน์ปลอดภัยที่สุด ตาผู้ดูแลอ้วนนี่ก็ให้สกิล มาเยอะเลยแฮะ ใจป้ำจริงๆ
หรือเค้าจะเป็นแฟนคลับเรากันนะ โอเคๆ ชั้นขอโทษที่เผลอว่านายไปก่อนหน้านี้ก็ได้...'
   
สิรารู้สึกปวดเมื่อยตามตัวเล็กน้อย นี่น่าจะเป็นผลจากการเดินทางข้ามมิติ เธอนั่งตรวจดูสกิลตัวเอง
และพยายามทำความเข้าใจกับโลกนี้ ก่อนจะลองเดินไปสำรวจพื้นที่รอบๆบริเวณนี้ดู เธอแปลกใจอยู่เหมือนกัน
ที่ตอนแรกผู้ดูแลบอกว่าให้อะไรเธอมาไม่ได้ แต่กลับมีชุดเสื้อผ้าคุณภาพดีกับถุงที่ใส่ของจำเป็นมาให้เล็กน้อยด้วย...

. . .


คณะผู้กล้าประกอบด้วยเฮรุนนักดาบฝีมือยอดเยี่ยม แถมยังมีคุณสมบัติของพระเอกอย่างเต็มที่
ตัวสูงผมสีบลอนด์รูปหน้าหล่อเหลา ป๊อปนักเวทที่เก่งกาจที่สุดของราชสำนักเด็กหนุ่มหน้าตาบ้านๆมีผมดำ
พร้อมร่างกายที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี อันโตนิโอนักต่อสู้กล้ามโตที่ชนะเลิศการแข่งกราดิเอเตอร์
เขาไม่ชอบใส่เสื้อจึงเห็นมัดกล้ามได้อย่างชัดเจน แม้จะดูป่าเถื่อนแต่มีความสุภาพเป็นอย่างมาก
และชมิตส์นักบวชหนุ่มหล่อเนิร์ดแว่นที่เหมือนหลุดมาจากการ์ตูนตาหวานผู้ใช้เวทฟื้นฟูหายาก
กลุ่มนักผจญภัยฝีมือดีที่สุดของโลกกำลังเดินทางเพื่อไปปราบจอมมารที่อาณาจักรอันไกลโพ้น
การเดินทางครั้งนี้น่าจะใช้เวลายาวนานนับสิบปี ชายหนุ่มทั้งสี่เดินทางมาด้วยกันตอนนี้ก็ร่วมสามปีได้แล้ว
พวกเขามักจะคอยช่วยเหลือเหล่าผู้คนจาก มอนสเตอร์มากมายระหว่างทาง
จนมาถึงเมืองวิโอเล่พวกเขาก็ได้รับคำไหว้วานให้จัดการ ค็อกทาริสสัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนงูกับไก่ผสมกัน
ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาอย่างยาวนาน   
   
ค็อกทาริสมีลักษณะคล้ายกับบาซิลิสก์ แต่ตัวใหญ่และสาปคนเป็นหินได้ทำให้ร้ายกาจกว่ามาก
แต่พวกเขาก็จัดการมันได้อย่างไม่ยากเย็นระหว่างกลับ พวกเขาก็ได้พบสาวสวยผมดำนอนหมดสติอยู่ที่ใต้ต้นไม้เข้า

    "เอ่อ...เฮรุน...นายเห็นเหมือนที่ชั้นเห็นรึเปล่าน่ะ..."
    "เออ...ชั้นก็เห็นเหมือนนาย ชมิตส์...เอื้อก...สะ...สวยจัง..."

ผู้กล้าทั้งสี่เดินเข้ามาสำรวจใกล้ๆ หญิงสาวคนนี้คือสิรา ที่เพิ่งจะเดินทางข้ามโลกมาในสภาพหลับใหลไม่ได้สติ
และอย่างที่ผู้ดูแลอ้วนพูดไว้ เขาไม่สามารถส่งวัตถุสสารข้ามมาได้ด้วยข้อจำกัดของการแทรกแซงโลก
สิราจึงมาถึงที่นี่ในสภาพเปลือยเปล่า ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมาด้วย ทำให้ชายหนุ่มทั้งสี่ถึงกับตะลึงทำอะไรไม่ถูก
ชมิตส์ใช้เวทศักดิ์สิทธิ์ตรวจร่างกายเธอ ก็พบว่าสาวน้อยเพียงแค่หลับอยู่เท่านั้น ซึ่งก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเธอจะรู้สึกตัวตอนไหน
หลังจากอธิบายให้ทุกคนฟังแล้ว นอกจากความสงสัยที่ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน อยู่ที่นี้ในสภาพนี้ได้อย่างไร
ทุกคนก็ยังคงครุ่นคิดว่าควรจะทำยังไงกับต่อเธอดี พวกเขาคือจุดสูงสุดของมนุษย์ชาติแต่การที่จะมาถึงจุดนี้ได้
ย่อมต้องแลกอะไรไปหลายอย่าง พวกเขาทุ่มเทฝึกฝนจนไม่มีเวลาให้เรื่องอื่น
ส่วนใหญ่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศกันมาก่อน
เมื่อได้เห็นสาวงามนอนหมดสติในสภาพเปลือยเปล่าในที่ห่างไกลผู้คนแบบนี้
ก็ล้วนต้องหวั่นไหวกันเป็นธรรมดา ป็อปจ้องไปที่หัวนมสีน้ำตาลสวยบนทรวงอกเนียนที่ขยับขึ้นลงตามการหายใจอย่างไม่วางตา
ในขณะที่เฮรุนก็จ้องที่รอยแยกกลางหว่างขาของเธออย่างสนอกสนใจเป็นพิเศษ
   
พวกเขาคือผู้กล้า ความหวังของมนุษย์ชาติที่แบกรับหน้าที่พิเศษ โดนพื้นฐานแล้วเรียกได้ว่าพวกเขาเป็นคนดีมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง
แต่อย่างไรพวกเขาก็ยังคงเป็นเพียงกลุ่มเด็กหนุ่มที่อยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น
ในขณะที่ทุกคนได้แต่ยืนมองอย่างเก้ๆกังๆ ป๊อปก็ค่อยๆยื่นมือออกไปขยำเข้าที่หน้าอกนุ่มของหญิงสาวที่หลับใหลไม่ได้สติอย่างเต็มมือ

    "เฮ้ย! ป๊อปทำอะไรน่ะ!"
    "ม...ไม่...ไม่ๆ แค่ตรวจดูเฉยๆ ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า...ไง"
    "อืมมม...ท...ท่านเฮรุน ผ...ผมเองก็เห็นด้วย แค่ใช้เวทตรวจสอบมันอาจจะตรวจได้ไม่ดีนะ
ย...ยังไงความปลอดภัยของเธอก็สำคัญกว่า..."

    นักบวชหนุ่มตอแหลออกมาอย่างกระอักกระอ่วน ถ้าเวทศักดิ์สิทธิ์ของเขายังตรวจอาการไม่ได้ แล้วการสัมผัสจะไปรู้ได้ยังไง
   
    "ย...ยังงั้นสินะ...จริงด้วยสิ...พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย..."
    "ช...ใช่เลย! ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย พวกเราทำสิ่งที่ควรทำแล้ว!"
    "เนอะๆ...น...นิ่มจัง...นี่หรอหน้าอกผู้หญิง..."
    "ง...งั้น...ผ...ผมช่วยด้วยคน..."

    ชายหนุ่มทั้งสี่เห็นพ้องต้องกัน พวกเขาจึงพากันรุมล้อมยื่นมือเข้าไปขยำจับลูบไล้ตามตัวเธอ
เพื่อช่วยตรวจสอบความผิดปกติต่างๆ เฮรุนลองใช้นิ้วกดที่ปลายถันสีน้ำตาลอ่อนตรงหน้า เขาลองสะกิดบดหัวนมนั้นไปมา
อันโตนิโอยื่นมือหยาบกระด้างของเขาบีบเนินอกอีกข้างอย่างกล้าๆกลัวๆ
ชมิตช์และป๊อป จับขาเรียวสวยของเธออ้าออกแล้วเพ่งมองเนินเนื้ออูมไร้ขนตรงกลางด้วยใจเต้นระรัว
ขาขาวๆขับให้กลีบสีชมพูระเรื่อตรงกลางดูโดดเด่นสวยงามมากกว่าอัญมณีที่ไหนที่เคยพบ
พวกเขาค่อยๆ ใช้นิ้วแหวกสำรวจดูหลืบเนื้อตรงหน้าด้วยใจระทึก

"อ...อืออ..."
    " !!! "
    "อ๊ะ! ด...ดีพสลีป!"

พอถูกสัมผัสมากๆ หญิงสาวที่หมดสติก็ทำหน้านิ่วและส่งเสียงครางออกมาเบาๆ ทำเอาเหล่าผู้กล้าแตกตื่น
จนป๊อปเผลอร่ายเวทหลับลึกใส่เธอไปโดยสัญชาตญาณ

    "ห๊ะ! ป๊อป นายทำอะไรน่ะ!"
    "ป...เปล่า...ก็เหมือนเธอจะตื่นน่ะ...เลยเผลอร่ายเวทหลับลึกไป..."
    "งั้น........เอ่อ....แปลว่าเธอจะหลับ...ไปอีกนานเลยสินะ..."
    "ก...ก็ราวๆอีกแปดชั่วโมงน่ะ...เธอถึงจะตื่น..."
    "แปดชั่วโมงนี้...ไม่ว่ายังไง...เราจะทำอะไร...เธอก็จะไม่ตื่น...หรอ..."
    "อืม...ต่อให้มีมังกรมาพ่นไฟระเบิดอยู่ตรงหน้า...เธอก็ไม่รู้สึกตัว..."
    "อืมมมม...."

แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุมบริเวณนั้น ชายหนุ่มทั้งสี่ไม่มีใครพูดอะไรอีกต่อไป
เส้นแบ่งศีลธรรมอันดีของเหล่าผู้กล้ากำลังค่อยๆจางหาย เฮรุนผู้กล่าหนุ่มเป็นคนแรกที่ก้าวข้ามเส้นแบ่งเลือนรางนั้นมา
เขาซุกหน้าลงบนอกอวบของสาวน้อย บีบนวดอกนุ่มของเธอก่อนจะดูดหัวนมเข้าปาก
แล้วใช้ลิ้นตวัดใส่ปลายยอดจุกที่ถูกดูดเข้าไปในปากรัว ๆ

คนอื่นที่เหลือเห็นมีคนเปิดก็เริ่มตามกันมา เหล่าชายหนุ่มน้อยประสบการณ์ก็เริ่มทยอยกันลงลิ้นชิมร่างเธอ
ริมฝีปากนุ่มถูกประทับจูบ แต่เจ้าหญิงนิทรากลับไม่ฟื้นตื่นขึ้นมา หน้าอกนุ่มถูกขยำ ก้นนิ่มก็ถูกบีบผิวเนียนๆถูกลูบไล้ทั่ว
อีกทั้งกลิ่นหอมจางๆจากตัวเธอทำให้ทุกคนยิ่งคึกไม่มีใครพูดอะไร
ทุกคนต่างรอให้มีใครสักคนเตือนออกมาว่าผู้กล้าอย่างพวกเขาไม่ควรทำอะไรแบบนี้
แต่ในใจลึกๆเองก็อยากสำรวจร่างหญิงสาวสวยผู้ลึกลับตรงหน้าต่อไปให้สุดทาง

พวกเขาผลัดกันลิ้มรสส่วนต่างๆของร่างเธอจนหนำใจก่อนจะยกระดับไปสู่ขั้นต่อไป
แล้วนักบวชหนุ่มชมิตส์ก็เป็นคนแรกที่ถอดกางเกงออก เขาค่อยๆจ่อคทาศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวเข้าที่หน้าถ้ำมืดมิดของหญิงสาว
ท่ามกลางเพื่อนๆที่เฝ้ามองอยู่ข้างๆอย่างลุ้นระทึกกัน แต่ไม่สำเร็จ
ชมิตส์พยายามดันตัวอีกหลายครั้งแต่เขาก็ไม่สามารถเข้าไปในดันเจียนลึกลับนี้ได้
จนเฮรุนชายหนุ่มผู้มีประสบการณ์คนเดียวในปาร์ตี้นี้เหมือนจะนึกอะไรออก
เขานึกถึงบทเรียนรักที่สาวเอลฟ์ลึกลับเคยสอนให้เขาเมื่อนานมาแล้วได้
เฮรุนจึงอาสาขอเป็นผู้ท้าทายดันเจียนนี้เป็นคนแรกแทน

ผู้กล้าหนุ่มใช้นิ้วเรียวแทรกเข้าไปด้านในถ้ำเนื้อด้านหน้า ความอุ่นและแน่นคับในนั้นทำเขารู้สึกดีมาก
เฮรุนค่อยๆขยับนิ้วควานล้วงภายใน แล้วใช้ริมฝีปากดูดเม้มเข้าที่กลีบเนื้อคู่น้อยๆ
ปลายลิ้นดุนเข้าที่เม็ดนูนจนสักพักนิ้วด้านในก็เริ่มขยับได้ง่ายขึ้น ถ้ำลับเริ่มปล่อยน้ำหวานออกมา
และเมื่อเขาสอดนิ้วเพิ่มเป็นสองนิ้วได้ ก็เป็นสัญญาณว่าดันเจียนได้ถูกคลายผนึกออกแล้ว
ผู้กล้าหนุ่มจึงหยิบดาบแข็งคู่ใจบุกเข้าภายในทันที แม้มันจะแน่นแต่ก็ยังพอลื่นตัวเข้าได้ เขากระแทกเอวเบาๆ
เพื่อเบียดแทรกตัวผ่านกลีบเนื้อเนียนนั้นเข้าไปด้านในจนสุดลำ
แม้จะไม่ได้สติแต่เธอก็โต้ตอบเขาด้วยการกระตุกบีบแท่งเนื้อที่ขยับอยู่ภายใน

สองเต้านุ่มกระเพื่อมเบาๆ ตามแรงกระแทก หน้าสวยใสไร้อารมณ์ยังคงไม่ได้สติ
เฮรุนช้อนเอวจนตัวเธอลอยก่อนจะกระแทกแรงขึ้นเรื่อยๆส่วนคนที่เหลือก็เฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นพลางบีบเล่นนมเธอไปด้วย

ชายหนุ่มที่ล่วงล้ำเข้าไปในดันเจียนของสาวน้อย เขารู้สึกถึงกับดักที่ตอดรัดภายในอย่างหนักหน่วง
ช่างเป็นดันเจียนที่ท้าทายเป็นอย่างมาก นักผจญภัยหนุ่มประสบการณ์น้อยถูกเล่นงานจนทนไม่ไหว
แท่งเนื้อแข็งเกร็งจำเป็นต้องปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นไว้ภายใน
เขาถอนตัวออกจากถ้ำคับพร้อมน้ำสีขาวเหนียวที่ไหลทะลักตามออกมามากมาย...

[สกิลสกินชิฟ เปิดใช้งาน]
[ได้รับสกิลดาบผ่าสวรรค์]
    เสียงเตือนของสกิลดังขึ้นในหัวของหญิงสาวที่หมดสติ แน่นอนว่าเธอไม่รู้ตัว และไม่อาจรู้ได้เลยว่าสกิลของเธอได้ถูกใช้งานแล้ว

ในเวลานั้นเอง ณ สถานที่ขาวโพลนไร้ขอบเขตผู้ดูแลร่างอ้วนตรวจดูสกิลที่สิราได้รับไป
แล้วเขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง จนอดห่วงสาวน้อยที่ถูกส่งตัวไปต่างโลกไม่ได้...

'อ๊ะ! แย่แล้ว...รึเปล่านะ...คุณสิรา... สกิลสกินชิฟนี่มัน... อืมมม...'

[ได้รับสกิลควบคุมเวทมนตร์]
[ได้รับสกิลแสงแห่งการรักษา]
[ได้รับสกิลฟื้นพลังกาย]
[ได้รับสกิลดาบผ่าสวรรค์ เนื่องจากมีสกิลนี้แล้วจึงไม่สามารถรับได้อีก]
[...ไม่สามารถรับได้อีก]
[...ไม่สามารถรับได้อีก]
[สกิลสกินชิฟ ทำงาน]
[...ไม่สามารถรับได้อีก]
[...ไม่สามารถรับได้อีก]
[สกิลสกินชิฟ ทำงาน]

.
.
.

หลังจากเฮรุนได้เบิกทางดันเจียนลึกลับนี้แล้ว
คนอื่นที่เหลือก็สามารถเข้าไปผจญภัยในดันเจียนของสาวน้อยด้วยอย่างไม่ยากมากแล้ว
ด้วยความที่เป็นเหล่าผู้กล้านักผจญภัยเลเวลสูงพวกเขาจึงมีแรงเหลือเฟือ
ทำให้ผลัดเปลี่ยนกันใช้เวลาลงดันเจียนแห่งนี้ได้อีกคนละหลายรอบ

เต้าอวบคู่สวยถูกจับขยำเคล้นคลึงอยู่ตลอด จุกสีน้ำตาลอ่อนถูกดูดเม้มจนเริ่มกลายเป็นสีแดง
ร่องสาวที่ถูกกระแทกแตกในก็ได้รับเวทน้ำทำความสะอาดแล้วทะลวงเข้าไปใหม่ไม่รู้จบ
ปากนุ่มของเธอก็ไม่ต่างกัน ร่างไร้สติของสาวสวยถูกพวกเขาจัดเปลี่ยนท่าไปมาโดยไม่อาจขัดขืนใดๆ

ตอนแรกๆพวกเขาก็ทำกับเธออย่างทะนุถนอม แต่หลังๆก็เริ่มทำกันรุนแรงมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ผิวขาวๆมีจ้ำแดงตามตัวจากรอยดูดเต็มไปหมด สาวน้อยถูกน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าผู้กล้าเวียนกันโจมตีใส่ทั้งในและนอกตัวทั้งคืน
ร่องแคบคับที่เริ่มขยายจากการรุกล้ำมาตลอดขมิบน้ำสีขาวออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า
กลิ่นคาวจากน้ำรักของเหล่าชายฉกรรจ์ตลบอบอวลไปทั่วบริเวณนั้น
และเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นพวกเขาก็รู้ตัวว่าเกือบจะครบแปดชั่วโมงแล้ว พวกเขาจึงรีบแต่งตัวและจัดการกับสาวน้อยทันที

แล้วเหล่าผู้กล้าก็มาพูดคุยกันจนได้ข้อสรุปสี่ประการ ประการแรกพวกเขากับเธอไม่รู้จักกัน
ประการที่สองเธอไม่ได้สติ ไม่อาจรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว ประการที่สามเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆจากเวทฟื้นฟู
ประการสุดท้ายเรื่องราวในคืนนี้จะเป็นความลับไปตลอดกาล
   
หลังจากได้บทสรุปที่ดีต่อทุกฝ่าย ป๊อปก็ได้ใช้เวทชำระล้างร่างกายให้กับเธอ
ซึ่งมันจะช่วยจัดการน้ำเชื้อที่คั่งค้างอยู่ภายในร่างกายเธอด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่าเธอจะท้องลูกของพวกเขา
ส่วนชมิตช์ก็ใช้เวทฟื้นฟูเพื่อคืนสภาพร่างกายที่ถูกพวกเขารุมโทรมมาตลอดทั้งคืน
เพียงพริบตาเดียวสาวน้อยที่ร่างเปื้อนเปรอะไปด้วยน้ำกาม
เต็มไปด้วยรอยช้ำก็กลับมาสวยสะพรั่งดูบริสุทธิ์หมดจดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
ชมิตส์ได้เอาชุดนักบวชสำรองของเขาออกมาสวมให้กับเธอเพื่อไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก
และก่อนจากมาพวกเขายังได้ทิ้งเงินและของใช้ของกินเล็กน้อยไว้ให้เธอด้วยอีกจำนวนหนึ่ง

พวกเขารีบมุ่งหน้าออกเดินทางกลับไปยังเมืองเพื่อรายงานภารกิจด้วยใบหน้าแจ่มใส
แม้จะไม่ได้นอนตลอดทั้งคืนการพบกับสาวน้อยครั้งนี้แม้พวกเขาจะรู้สึกผิดกัเธอ
แต่ทุกคนต่างก็รู้สึกของคุณเธอมากเช่นกันเปรียบเหมือนการเติมเสบียงครั้งใหญ่
ราวกับได้รับน้ำทิพย์ชื่นใจหลังจากเดินทางในทะเลทรายที่แห้งเหือดมาอย่างยาวนาน

หลังจากกลุ่มผู้กล้าเดินทางจากไปได้ไม่นาน เปลือกตาของหญิงสาวก็เริ่มขยับ
เธอค่อยๆลืมตาขึ้นสัมผัสกับแสงสว่างจากต่างโลกเป็นครั้งแรก
โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า เธอเพิ่งจะได้รับค่าประสบการณ์มาอย่างล้นเหลือ...

...



กลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปนาน ผม ccmaxicc
จาก Idol Hunter เจ้าเก่าเจ้าเดิม
ผ่านไปเกือบปีจาก พาเอม่า ไอดอลสาวข้ามเวลา

นานเกินเลยจำ password จำอีเมล ไม่ได้เลยต้องสมัครใหม่ครับ 55

เรื่องนี้เป็นแนวไอดอลต่างโลก
ลองดูครับถ้าผลตอบรับดีเล่มสองอาจจะมาเร็วหน่อย
ใครสนใจ สามารถติดตามต่อได้ที่ Meb ได้เลย
ขอบคุณมากครับ


kazu36


gunsteel

เริ่มเรืองได้สนุกมากครับ น่าสนใจจริงๆ ::Glad::

Ball Ei

รีแอพรอเล่มสองทุกวันเลยครับ