ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Airflyline

เล่นกับไฟในหัวใจเมีย ตอนที่ 5

เริ่มโดย Airflyline, ธันวาคม 20, 2024, 10:47:14 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Airflyline

ติดตามอ่านเรื่องเต็มได้ตามสะดวกที่ลิงค์ด้านล่างนี้นะค้า ขอบคุณมากนะคะ







หรืออ่านเป็นตอน ๆ ได้ที่







.....................................

"เฮ้ย...เป็นอะไรวะที...วันสองวันนี้ดูหน้าเครียดชิบหาย"

พี่แสวงหรือ "พี่แหวง" วิศวกรรุ่นพี่วัย 40 ปีเศษซึ่งถือเป็นหัวหน้างานโดยตรงของผมเอ่ยถามพลางตบหลังตบไหล่ขณะผมนั่งกินข้าวกลางวันอยู่ในห้องอาหารแคนทีนของออฟฟิศ ผมเคี้ยวข้าวขาหมูอยู่ในปาก ส่ายศีรษะตอบเขาแล้วบอกว่าไม่มีอะไรครับพี่แหวง แค่เครียดเรื่องงานนิดหน่อย

เออ อย่าเครียดให้มากนัก มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ พี่แหวงเอ่ยอย่างนั้นแล้วเดินไปสั่งข้าว ผมมองตามหนุ่มใหญ่รุ่นพี่ซึ่งเป็นคนพูดเสียงดังสมกับขนาดตัวที่สูงใหญ่กว่าผมอย่างเห็นได้ชัด

แต่จะให้ผมบอกพี่แหวงได้อย่างไรว่าจริง ๆ แล้วผมเครียดเรื่องอะไร ก็ในเมื่อมันเป็นเรื่องบนเตียงของผมกับเมีย และเป็นผมเองที่รนหาเรื่องใส่ตัว คิดแล้วก็ไม่น่าเชื่อคำแนะนำของสมาชิกในกลุ่มสวิงมากไปจนทำให้เกิดปัญหาตามมา

...เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อสองคืนก่อน

"กลุ่มอะไรนะคะ" แพทเอ่ยถาม

"เอ่อ...คือ...ก็...พี่อยากให้แพทลองดูเฉย ๆ"

ผมบอกแล้วยื่นมือถือให้เธอดู หน้าจอปรากฎกลุ่มสวิงกิ้งที่ใช้ชื่อว่า "กลุ่มเสริมสร้างความสัมพันธ์ชีวิตสามีภรรยา" หากดูเผิน ๆ ก็ฟังดูเหมือนกลุ่มให้คำปรึกษาด้านชีวิตคู่ แต่แท้จริงแล้ว เนื้อในนั้นค่อนข้างฮาร์ดคอร์เลยทีเดียว

แพทรับมือถือของผมไปดูแล้วเธอก็ไถดูแล้วอ่านไปด้วย สีหน้าของเธอเรียบเฉยจนผมเดาไม่ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

"คือ...กลุ่มนี้มัน..." ผมกำลังจะอธิบายเพิ่มเติม แต่แพทก็สวนขึ้นมาก่อน

"พี่ทีให้แพทดูทำไมเหรอคะ" เธอถาม ผมอึ้งไปชั่วขณะ

"ก็ไม่อะไรหรอก" ผมอึกอัก เพราะน้ำเสียงของเธอค่อนข้างแข็งขึ้นมา

"นี่มันกลุ่มของผู้ชายโรคจิตหรือเปล่า...ดูสิ เอารูปแฟนตัวเองมาโชว์ทำไมเนี่ย"

แพทถามแล้วให้ผมดูหน้าจอสมาชิกท่านหนึ่งซึ่งโพสต์สัดส่วนโค้งเว้าของเมียตัวเองในชุดนอนวาบหวิวสีดำซีทรูแบบใส่แล้วไม่ได้นอนพร้อมมีการเซ็นเซอร์ปิดบังหน้า ผมยิ้มแหย ๆ แล้วเธอก็เลื่อนดูอีกหลายรูป ดีหน่อยที่เธอยังไม่ไปถึงรูปที่มันเข้าข่ายอนาจาร

แล้วผมก็ใจหายวาบขึ้นมา เพราะผมโพสต์รูปของเธอไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลามเลยทีเดียว ผมคิดว่าจะโพสต์รูปจุดสงวนของเธอด้วยในคราวต่อไป จู่ ๆ เมียผมก็หันขวับมา

"พี่ที...โพสต์รูปที่ถ่ายแพทลงในนี้ด้วยหรือเปล่า" เธอถาม

"เปล๊า...บ้าเหรอ พี่จะกล้าโพสต์ได้ยังไง" ผมตอบเสียงสูง

แพทจ้องมองหน้าผมแบบเค้นเอาความจริง ผมยิ้มแล้วบอกย้ำว่าไม่ได้โพสต์หรอกน่า เก็บไว้ดูคนเดียวก็พอแล้ว ผมพูดแล้วกลืนน้ำลายตัวเอง คอแห้งจนต้องลุกไปกินน้ำ คิดจะดึงโทรศัพท์กลับคืนมาโดยพลันแต่ก็กลัวจะมีพิรุธจนเกินไป

เมียผมดูอีกครู่ใหญ่แล้วเธอก็ชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปแวบหนึ่งซึ่งผมบอกไม่ถูกว่าเธอโกรธหรืออะไรกันแน่ ก่อนเธอจะยื่นโทรศัพท์คืนให้

"เพราะกลุ่มนี้หรือเปล่า...ช่วงนี้พี่ทีถึง..." เธอเอ่ยถามแล้วเงียบไป

"ถึงอะไร...พี่ถึงดูหื่นมากน่ะเหรอ" ผมถาม

"ไม่ต้องเอามาให้แพทดูอีกนะ" เธอพูดตัดบทแล้วพลิกตะแคงหันหลัง ทำท่าจะนอน

ผมจ้องมองเอวเล็ก ๆ และช่วงสะโพกที่ผายขึ้นเป็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่เชิญชวนให้ขยับเข้าไปกอดจากด้านหลัง มือของผมวางแปะที่หน้าท้อง

"น่าเกลียดมากนะ เอารูปแพทไปโพสต์แบบนั้น" แพทเอ่ยขึ้น ผมชะงักกึกทันใด นึกว่าเมียผมไม่เห็นโพสต์ของผมเสียอีก แต่ปรากฎว่าเธอเห็นเรียบร้อยแล้ว

"ไม่เห็นหน้าสักหน่อย" ผมตะล่อม

"แต่แพทก็รู้ว่าเป็นแพทนี่" เธอพูด

"มีแต่คนชอบนะ...เกือบทุกคนล่ะ บอกว่าแพทสวยมากเลย" ผมหยอดคำหวาน แต่เธอดึงมือของผมออก

"ไม่ต้องเลย...แพทง่วง" เธอพูดแค่นั้นแล้วกระชับผ้าห่ม อันเป็นสัญญาณว่าผมหมดสิทธิชื่นชมเรือนร่างของเมียคนสวยเสียแล้วในค่ำคืนนี้

วันรุ่งขึ้นและวันต่อมา แพทดูเย็นชากับผมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติเวลาเธอโกรธเคืองหรือตอนที่เราทะเลาะกัน เธอมักเลือกที่จะเงียบและนิ่งเฉย อันเป็นสัญญาณถึงความขุ่นเคือง ถึงแม้จะน่าหงุดหงิดที่เธอเงียบแบบนี้ แต่ผมคิดว่าดีกว่าเธอตีโพยตีพายหรือเสียงดังก่นด่า

แต่พอเวลาผ่านไปอีก 2-3 วัน เธอก็ยังแสดงท่าทีไม่พอใจเหมือนเดิม ผมก็ชักจะเริ่มเครียดขึ้นมาบ้าง อีกไม่ถึงสองสัปดาห์ก็จะถึงวันเกิดของเธอแล้ว ผมคงต้องหาอะไรมาเซอร์ไพรส์เธอสักหน่อยเพื่อทำให้อารมณ์ของเธอดีขึ้นมาบ้าง

"กินเสร็จแล้วเหรอคะ พี่ที"

เสียงหนึ่งถามขึ้น ทำให้ผมตื่นจากความคิด ผมเงยหน้าขึ้นก็เห็นน้องแนน นักศึกษาฝึกงานในแผนกวิศวกรถามขึ้น ผมตอบว่ากำลังจะเสร็จพอดีครับ พร้อมกับมองถาดอาหารที่เธอถืออยู่ ผมผายมือบอกให้นั่งกินเลย เดี๋ยวพี่นั่งเป็นเพื่อน

น้องแนนเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดียวกับผม เธอเข้ามาฝึกงานในบริษัท พี่แหวงเรียกเธอว่าเป็น "ช้างเผือกในป่าใหญ่" เพราะไม่เพียงสายวิศวะจากสถาบันที่ผมเรียนจะได้ต้อนรับผู้หญิงแบบนานทีปีหน แต่เป็นผู้หญิงสวยและหุ่นดีอย่างแนนนี่ถือว่าเป็นปรากฎการณ์เลยทีเดียว

นั่นทำให้แนนได้รับเลือกให้เป็นดาวคณะแบบนอนมา ไม่ต้องไปแข่งขันกับใครเลยเพราะมีผู้หญิงอยู่ไม่กี่คน ก่อนที่เธอจะเข้าประกวดดาวมหาลัยแล้วได้อันดับ 3 มาครองด้วย

"เอ็งดูแลน้องเค้าหน่อยแล้วกัน"

พี่แหวงบอกให้ผมเป็นพี่เลี้ยงน้องแนนตลอดช่วงฝึกงาน 3 เดือนด้วยเหตุผลที่ว่าผมแต่งงานมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้ว จะได้ไม่สร้างเรื่องวุ่นวาย พี่แหวงคาดการณ์ว่าความสวยของแนนดึงดูดชายหนุ่มหลายคนในบริษัทแน่นอน ลำพังแค่ขาเพรียวขาวสุดสวยคู่นั้นของสาวน้อยก็น่าจะทำให้ผู้ชายบางคนเหลียวมองจนคอแทบหักแล้ว

การคาดการณ์ของหัวหน้าผมถูกเผง หนุ่มหลายคนมาลอบ ๆ มอง ๆ บางคนกล้าหน่อยก็มาสอบถามผมว่าน้องเขาชื่ออะไร บ้านอยู่ไหน ฝึกงานอีกนานหรือเปล่า ผมก็ตอบไปแกน ๆ โดยเน้นย้ำส่งท้ายกับทุกคนที่มาถามว่าน้องเขามีแฟนแล้ว

ผมได้ยินมาว่าน้องแนนมีแฟนเป็นไอ้หนุ่มจากมหาลัยเดียวกัน ซึ่งไม่เพียงหล่อเหลาแต่ยังร่ำรวยเข้าขั้นหนุ่มไฮโซอีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าเหมาะสมและคู่ควรกันอยู่แล้ว

"น้องแนนโอเคมั้ยวะ" พี่แหวงถามเมื่อน้องแนนฝึกงานมาครบ 1 เดือนเต็ม

"โอเคนะครับ หัวไว เรียนรู้เร็วทีเดียว" ผมตอบก่อนจะถามแบบยิ้ม ๆ "พี่แหวงสนใจน้องแนนขึ้นมาแล้วเหรอครับ"

"เฮ้ย พี่ไม่กินไก่วัดเว้ย...อีกอย่าง พี่ไม่ชอบเด็กมหาลัยหรอก...สเปกพี่ต้องสาว 30 อัพเท่านั้น"

พี่แหวงพูดแล้วหัวเราะเสียงดัง ก่อนแกจะอธิบายถึงความดีงามของสาววัย 30 ว่ามีประสบการณ์เข้มข้นมาแล้ว ไม่ต้องสอนอะไรมาก เวลาขึ้นควบนะเอ็ง ยิ่งกว่าจ็อกกี้นักขี่ม้าเหรียญทองโอลิมปิกอีก ส่วนเด็กสาวมหาลัย ทำแบบไม่ประสีประสา มันจะไปสนุกอะไร

คำพูดของพี่แหวงเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนพนักงานในช่วงบ่ายที่น่าเบื่อหน่าย ดีหน่อยที่วันนี้น้องแนนไปทำธุระที่มหาลัย จึงไม่ได้ยินคำพูดอุจาดหูของหัวหน้างาน

น้องแนนให้ความสนิทสนมกับผมในฐานะพี่เลี้ยง ทำให้ผมได้รู้เรื่องราวส่วนตัวของเธอนิดหน่อย อย่างไอ้หนุ่มแฟนของเธอที่เอาใจเก่ง พูดจาหวานหู และยังใจดี ซื้อนู่นซื้อนี่ให้เธอเป็นประจำ ผมก็รับฟังไปตามเรื่องตามราว แถมเธอยังโชว์รูปให้ดูความหล่อเหลาของแฟนหนุ่มอีกด้วย

แต่บางครั้ง น้องแนนจะแสดงออกถึงความสนิทกับผมมากเกินไปหน่อย บางทีเธอมากอดแขนขณะเรากำลังรอรับชาไข่มุกในตลาดหลังออฟฟิศช่วงพักเที่ยง หน้าอกอวบใต้เสื้อนักศึกษาดันแขนของผมแบบที่เธอไม่กลัวว่าผมจะคิดเลยเถิดเลย

ปกติแล้วผมไม่ได้เล่าเรื่องที่ทำงานให้แพทฟังมากนัก ผมจึงไม่ได้เล่าเรื่องน้องแนนให้เธอฟัง หรือถ้าผมต้องทำโอทีที่ออฟฟิศจนดึกดื่น ผมก็แค่โทรบอกเธอว่าวันนี้ทำงานดึกหรือมีประชุมสำคัญอาจจะเลิกช้าหน่อย เธอก็ไม่เคยโทรตามหรือแสดงความหึงระแวงแต่อย่างใด

ในทางกลับกัน ผมก็ไม่ได้ตามติดเธอหรือไต่ถามเกี่ยวกับการทำงานของเธอมากนัก ยกเว้นแต่เธอจะเล่าเรื่องที่ทำงานเองเวลาอยากจะปรึกษาเรื่องนู่นนี่นั่น

แล้วก็มาถึงหัวค่ำวันหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังเคลียร์งานอันยุ่งเหยิงอยู่ สาวน้อยนักศึกษาฝึกงานโทรมาหาผมด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น

"พี่ทียังอยู่ที่ออฟฟิศไหมคะ" แนนถามด้วยเสียงขึ้นจมูก

"ใช่จ๊ะ...นี่เป็นอะไรหรือเปล่า" ผมถาม

"ไม่มีอะไรค่ะ" แนนตอบแล้ววางหู

อีกไม่ถึง 10 นาที แนนก็ปรากฎตัวที่ออฟฟิศ ผมตกใจเพราะตอนแรกนึกว่าโดนผีหลอกเข้าให้แล้ว เพราะทั้งสำนักงานมีแต่ผมนั่งอยู่คนเดียว เปิดไฟแค่หย่อมเดียวตรงนี้ ขณะที่สาวน้อยเดินฝ่าความมืดเข้ามา

Dark_hell

งานเก่ายังค้างคา งานใหม่จะมา


Au Nanma