ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_Airflyline

ตื่นมาอีกทีผมรับหน้าที่ภรรยา ตอนที่ 3

เริ่มโดย Airflyline, พฤษภาคม 28, 2024, 12:44:51 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Airflyline

ติดตามกันได้ทุกช่องทางเหมือนเดิมนะเจ้าา

Readawrite:

ธัญวลัย:

อีบุ๊กที่ Meb:

อีบุ๊กที่ปิ่นโต:

พูดคุยกันได้ที่ X:

ขอบพระคุณทุกท่านมากค้า

...........................

เมื่อตื่นมาเช้าวันเสาร์ ทุกอย่างก็ยังผิดเพี้ยนพิสดารเช่นเดิม ผมลุกมาส่องกระจกแต่เช้าหวังว่าจะกลับคืนไปอยู่ในร่างของผม แต่เงาตรงหน้าแสดงให้เห็นว่าผมยังคงครอบครองร่างอ้อนแอ้นและอวบอัดของเมย์ เฮ้อ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

ผมหวีผมยาวสลวยให้เรียบร้อยแล้วกลับมาที่เตียง เมย์นอนคลุมโปง ยังไม่ยอมตื่นขึ้นมา ผมเลิกผ้าห่มออกแล้วบอกตื่นเถอะ เรายังไม่คืนร่างเดิมเลยนะ

เมย์นอนตะแคง ตัวงอดิก ผมถามว่าเป็นอะไร ปวดท้องเหรอ เธอส่ายหัวแต่ไม่ได้ตอบอะไร ผมเอะใจตามประสา จึงล้วงมือไปที่กลางลำตัว สัมผัสกับความเป็นชายที่แข็งโด่เด่

"อย่าจับนะ" เธอพูดโดยยังคลุมโปงใต้ผ้าห่ม

"อ่า...ฮ่าๆๆ" ผมหัวเราะด้วยเสียงใสกิ๊กของเมย์ "เรื่องปกตินะ ตอนเช้าก็แบบนี้แหละ"

"มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว" เธอพูดอ้อมแอ้ม

"จริงเหรอ"

ผมถามแล้วล้วงมือไปจับอีก เมย์พยายามดันมือผมออกในตอนแรก แต่แปปเดียวก็ปล่อยให้ผมบีบเล่น มือเรียวเล็กของเมย์ทำให้รู้สึกว่าท่อนเนื้อของผมเองใหญ่โตกว่าที่เคย ถึงแม้จริง ๆ แล้วมันจะมีขนาดเท่ามาตรฐานชายไทยทั่วไปก็เถอะ เมย์ในร่างผมพลิกตัวนอนหงายเพื่อให้ผมจับได้ถนัดขึ้น

"อั้นไว้หลายวันแล้วนี่ ถ้าไม่เอาออกมันก็เป็นแบบนี้ล่ะนะ" ผมพูดพลางบีบ ๆ คลึง ๆ แล้วรูดมือขึ้นลง "ลองทำเองสิจะได้สบายตัว"

"บ้าเหรอ เมย์ทำไม่เป็น ใครจะทำเป็น" เธอตอบ "อืออ พี่ต้นจับแบบนี้ดีอะ"

เธอเอ่ยบอกเมื่อถูกมือนุ่ม ๆ บีบคลึงแล้วขยับขึ้นลงเร็วขึ้น ใครจะไปคิดว่าเหตุการณ์สุดพิลึกจะล่วงเลยมาถึงขนาดนี้ ผมที่อยู่ในร่างเมย์ต้องมานั่งอยู่ข้าง ๆ ร่างกายของผมเอง ขยับข้อมือกระตุกรูดท่อนเนื้อของตัวเอง พลางมองใบหน้าตัวเองที่ตอนนี้สายตาเป็นประกาย

"ทำไมทำหน้าแบบนั้น" ผมถาม เมย์นอนพิงหัวเตียงแล้วตอบเสียงแหบแห้ง

"ก็มันรู้สึกดีอะ"

ส่วนหัวพองตัวบานมากขึ้น เมื่อผมเร่งจังหวะมือ จะมีใครรู้ดีไปกว่าผมในการช่วยตัวเองแบบนี้ว่าทำอย่างไรให้ได้รับความสุขเสียว ผมมองสีหน้าปุเลี่ยนที่แสดงออกผ่านใบหน้าของผมเอง มือขาวจั๊วของเมย์ตัดกับสีผิวท่อนเนื้อ น้ำเหนียวเยิ้มไหลออกมาจนเปื้อนมือ อารมณ์ที่เมย์รู้สึกตอนนี้คงเดือดพล่านเต็มที

ตอนที่เมย์เป็นประจำเดือน เธอเคยใช้มือกับปากช่วยผมระบายความใคร่แบบนี้อยู่บ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก ผมนึกไปถึงตอนนั้นแล้วรู้สึกแปลกประหลาดสิ้นดีที่บทบาทของเราสลับกันแล้ว...และนี่ถ้าเมย์ขอให้ผมใช้ปากกับของตัวเองจะทำยังไง

แต่ความกังวลของผมก็หมดไป เพราะผมกระถอกมืออยู่แค่แปปเดียว ต้นขาบนร่างผมก็เกร็งแข็ง น้ำขุ่นข้นพุ่งกระฉูดสูงปรี๊ดอย่างไม่ทันตั้งตัว ส่วนที่เหลือทะลักออกมาจากส่วนหัวที่บานเป่งเป็นดอกเห็ด เปรอะเปื้อนมือไปหมด บางส่วนไหลลงหน้าขาย้อยลงบนเตียง ผมเกือบหัวเราะออกมาที่เห็นว่าเสร็จรวดเร็วเหลือเกิน

ผมยังเห็นหน้าของตัวเองบิดเบี้ยว หลับตาปี๋ คิ้วขมวด เผยอปากอ้าค้างอยู่นานหลายอึดใจก่อนจะสงบลง นี่ผมหน้าตาดูไม่ได้อย่างนี้เลยหรือตอนระบายความใคร่ออกมา

"โอยย ทำไมมัน..." เมย์พูดแล้วชะงัก

"มันอะไร...เสียวเหรอ?" ผมถาม เธอพยักหน้า ผมถามต่อ "เสียวกว่าผู้หญิงอีกเหรอ"

"มันไม่เหมือนกัน ผู้หญิงมันแบบ...รู้สึกนานกว่า แต่อันนี้มันระเบิดมาทีเดียวเลย"

เธอตอบอย่างนั้น ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าตอนผู้หญิงเสร็จนั้นจะรู้สึกยังไง เสียวนานกว่าอย่างนั้นหรือ? แล้วจะเสียวกว่าผู้ชายหรือเปล่านะ

เมย์เข้าไปอาบน้ำ ผมอาบต่อ ยังไม่ค่อยคุ้นชินกับร่างกายเท่าไหร่นักแต่ไม่รู้ทำไมผมถึงอยากใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าเดิม ขัดถูทุกซอกมุมของร่างกาย หรือเป็นเพราะสัญชาตญาณผู้หญิงที่รักความสะอาดหมดจดอย่างนั้นหรือ พออาบเสร็จแล้ว ขณะกำลังจะแต่งตัว เมย์ก็เอ่ยขึ้น

"เมย์ว่าเราออกไปห้างกันดีกว่า" เธอชวน

"ไปทำไมอะ" ผมถามพลางกระชับปมผ้าขนหนูให้ปิดหน้าอก ยังไม่ชินสักที

"ก็เผื่อถ้าถึงวันจันทร์ เรายังเป็นอย่างนี้...จะได้ชินเวลาอยู่นอกบ้านไง" เมย์บอก เหตุผลของเธอฟังขึ้นอยู่เหมือนกัน ไปก็ไป

เมย์เลือกหยิบกระโปรงสั้นเอวสูงกับเสื้อกล้ามมาให้ใส่ออกไปนอกบ้าน ผมปฏิเสธทันใดแล้วเลือกเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์แทน เธอไม่ได้ว่าอะไรแต่ก็บ่นอุบอิบว่าแต่งตัวสวย ๆ หน่อยก็ไม่ได้ ผมหัวเราะแล้วบอกว่าไปห้างแถวบ้านแค่นี้เองนี่นา

ภรรยายังจับผมมานั่งหน้ากระจกแล้วสอนวิธีแต่งหน้าให้ด้วย ซึ่งผมค้นพบว่ามันเป็นยิ่งกว่าศาสตร์และศิลป์แห่งการใช้ชีวิต ลำพังแค่จำชื่ออุปกรณ์มากมายบนโต๊ะเครื่องแป้งและครีมสารพัดก็ยากแล้ว แต่ยังต้องรู้วิธีใช้และลำดับการใช้ให้ถูกต้องอีกด้วย

กว่าจะออกจากบ้านได้ก็เกือบเที่ยง ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงถึงแต่งตัวนานเหลือเกิน แค่เป่าผมกับแต่งหน้าก็ปาไปเป็นชั่วโมงแล้ว

เบาะที่ผมนั่งขับรถเป็นประจำต้องเลื่อนขยับเข้าไปใกล้พวงมาลัย ผมเป็นคนขับเพราะเมย์ยังขับรถไม่คล่องแคล่วเท่าไหร่นัก เมื่อไปถึงห้าง เมย์ต้องออกปากเตือนบ่อยครั้งให้ผมเดินดี ๆ หน่อย อย่าแกว่งแขนมากนัก และไม่เดินกางขามากจนเกินไป ผมถอนหายใจหลายรอบ ดีแล้วที่ออกบ้านวันนี้จะได้ทำความคุ้นชินกับร่างใหม่ที่ไม่รู้จะกลับคืนเหมือนเดิมเมื่อไหร่

เรานั่งกินอาหารญี่ปุ่น เมย์สั่งอาหารให้เสร็จสรรพเพราะเธอไม่ค่อยชอบของทอด ปลาย่างจึงถูกสั่งมาแทนทงคัทสึที่ผมอยากกิน

"จนกว่าจะกลับร่างคืน...ห้ามกินอะไรที่ทำให้อ้วนนะ" เมย์พูด ผมถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้แล้วล่ะ

"แล้วกินเบียร์ได้มั้ย" ผมถามทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

"ห้ามเด็ดขาดเลย เดี๋ยวพุงออก...แต่ถ้าไวน์น่ะ พอได้" เธอบอกแล้วยิ้ม

ผมหัวเราะเมื่อเห็นหน้าตาของผมดูเนิร์ด ๆ กวนโอ๊ยดีเหมือนกัน ตอนนี้เริ่มคิดว่าขอให้สลับร่างคืนโดยเร็วด้วยเถิด เวลาเกือบ 48 ชั่วโมงที่มาอยู่ในเรือนร่างของภรรยาคนสวยทำให้ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตใหม่หมดราวกับได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ถือว่าโชคดีก็ว่าได้ที่ยังมีเวลาปรับตัวหลายวัน ก่อนจะเริ่มทำงาน

แต่กระนั้น ดูเหมือนว่าเมย์จะปรับตัวได้เร็วกว่าผมมาก หรืออาจเป็นเพราะเธออยู่ในร่างผู้ชายที่สามารถใช้ชีวิตได้ง่าย ๆ สบาย ๆ กว่าก็ไม่รู้ เธอทำตัวเหมือนเป็นผู้ชายปกติที่ออกไปทางสุภาพเรียบร้อยหน่อยเท่านั้นเอง

เราใช้เวลาช่วงที่เหลือของวันอาทิตย์ในการบรีฟถึงหน้าที่การงานของกันและกันเผื่อสำหรับการทำงานในวันพรุ่งนี้ที่เป็นวันจันทร์ โชคดีที่เราทำงานสายโฆษณาเหมือนกัน แถมยังเป็นเออีเหมือนกัน แตกต่างกันที่คนละบริษัทและระดับเลเวลในการทำงาน

ถึงแม้ตำแหน่งหน้าที่ของผมจะซีเนียร์มากกว่า ด้วยการเป็นผู้ช่วยเมเนเจอร์ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ยังต้องประสานงาน ดูแลลูกค้า และทำงานอื่น ๆ เหมือนที่เออีทำกัน หวังว่าเมย์จะทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

"ไม่ต้องเมาท์กับพวกพี่ ๆ เยอะนะ" เมย์เปรยขึ้น

ผมมองหน้าเธอ คำแนะนำของภรรยาทำให้นึกถึงเพื่อนร่วมงานผมอย่างไอ้วิน ซึ่งมักพูดจาทะลึ่งตึงตังอยู่เป็นประจำ

"เมย์ก็ไม่ต้องคุยกับพวกพี่ ๆ มากนักล่ะ" ผมบอกทำนองเดียวกัน

ขณะที่เรายังมีความหวังว่าพรุ่งนี้จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมแต่เราก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วย ตกกลางคืน เมย์หยิบชุดที่จะให้ผมใส่ไปทำงานวันพรุ่งนี้มาให้ลอง มันเป็นชุดแส็กกระโปรงสั้น ซึ่งผมปฏิเสธทันใดอีกเหมือนเดิม แล้วเลือกเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาวมาใส่แทน

วันรุ่งขึ้น ทุกอย่างก็ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ช่วยไม่ได้ เราต้องออกไปทำงานแล้ว ผมสวมเสื้อเชิ้ตพอดีตัวกับกางเกงขายาวรัดรูปของเมย์ กางเกงมันรัดเปรี๊ยะจนรู้สึกไม่มั่นใจแต่พอส่องกระจกแล้ว กางเกงกลับพอดีตัวอย่างน่าประหลาด ทำให้ขาดูเรียวยาวกว่าเดิม แต่ผมก็สะท้อนใจชอบกลเมื่อเห็นก้นงอนกลมกลึงได้รูปในกระจก เมย์บอกให้ผมลองแต่งหน้าเองด้วยเพราะต้องฝึกไว้เผื่อจะต้องเติมเครื่องสำอางเองตอนทำงาน

เพราะบริษัทเราอยู่ใกล้กัน ปกติแล้วเราจึงขับรถจากบ้านไปจอดที่สถานีรถไฟฟ้าแล้วขึ้นรถไฟฟ้าไปด้วยกัน ระหว่างเราโหนราวรถไฟฟ้า เมย์ก็หัวเราะคิกคัก

"หัวเราะอะไรอะ" ผมกระซิบถาม

"เรตติ้งกระฉูดเลยนะเรา" เมย์พูดแบบติดตลก

"เรตติ้งอะไร" ผมถามด้วยความงุนงง

"ไม่มีอะไรหรอก" เธอตอบแล้วหัวเราะกิ๊ก

ผมเหลียวหันไปรอบตัวก็สบตาเข้ากับชายหนุ่ม 2-3 คนที่ยืนอยู่ห่าง ๆ ทำให้รู้ว่าเมียหมายถึงอะไร ถึงแม้จะแต่งตัวมิดชิด แต่วงหน้าสวย ๆ ของเมย์กับหุ่นอันอรชรอ้อนแอ้นนั้นตกเป็นเป้าสายตาของผู้ชายบางคน ซึ่งผมไม่รู้ตัวหรอก แต่เมย์กระซิบบอกแล้วหัวเราะคิกคัก เธอคงจะถูกผู้ชายมองจนชินชาเสียแล้ว

"น่าเบื่อ" ผมพูดแบบงอน ๆ แล้วหันหลังให้เธอ

"ทำหน้างอนแบบนี้น่ารักดีนะ" เมย์พูด

คนค่อนข้างแน่น ร่างสูงของตัวผมจึงมาเบียดอยู่ข้างหลังตัวเมย์ที่ไม่สูงมากนัก ผมไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าที่รู้สึกเหมือนมีอะไรมาดุนดันอยู่ที่สะโพก ขณะกำลังจะหันไปหาเธอ ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ เราก็มาถึงสถานีปลายทางแล้ว

Thank30

สนุก​ดีครับลุ้นไปด้วยว่าจะเจออะไรอีกบ้าง

therasak

รู้ตัวเองยังว่านกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำเป็นอย่างไร  แต่สงสัยยังไม่รู้ตัว