ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ฉันตัดสินใจถูกหรือเปล่า(7)

เริ่มโดย rattiya, กรกฎาคม 29, 2024, 01:53:13 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

rattiya

     ว่าจะเขียนให้จบในบทนี้ แต่อธิบายแยะไปหน่อย จะพยายามให้จบในบทหน้านะคะ
---------------------------
     รถไฟฟ้าสีน้ำเงินเมทาลิคคันหรู ราคาน่าจะไม่ต่ำกว่าสามล้านบาท ค่อยๆ หันหัวเลี้ยวผ่านเข้าไปยังหมู่บ้านเก่าแก่โครงการในตำนานอย่างไม่รีบร้อนนัก เมื่อรถฯ ผ่านเข้ามาถึงบริเวณส่วนของร้านค้า ก็เลยเวลาอาหารกลางวันมาหลายชั่วโมงแล้ว พี่พงษ์ค่อยๆ ชะลอจอดรถเทียบเข้าข้างทางหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดัง เขาหันมายิ้มให้ฉัน ตั้งท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉันแกล้งทำเป็นไม่เห็น รู้สึกหมั่นไส้เขาจนอยากจะอาละวาด แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากตั้งป้อมมองค้อนเขาจากที่นั่งข้างคนขับ
     เขาเอื้อมมือมากุมมือขวาของฉันไว้หลวมๆ ยิ้มให้ฉันอีกครั้ง ฉันดึงมือกลับไม่ยอมให้เขาจับ
     "ยังโกรธพี่อยู่อีก เมื่อคืนพี่ผิดต่ออลิส แต่คริส... พี่หมายถึงลูกค้า... เจ็บหนักโทรมาขอความช่วยเหลือ อลิสก็ได้ยินที่หมอบอกแล้ว ลูกค้ามีอาการเลือดตกในช่องท้อง ถ้าไปถึงโรงพยาบาลช้าไปแค่นิดเดียว อาจมี อันตรายถึงชีวิต พี่ตัดสินใจพลาดไปเพราะตอนนั่นไม่มีสติ ให้อภัยพี่นะครับ..."
     "ลูกค้า...เลี่ยงคำพูดซะดูดี ... หิวแล้ว..."   
     เราทั้งคู่ทานอาหารกันโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ ครู่เดียวก็กลับขึ้นรถ พี่พงศ์ขับรถตรงเข้ามาในหมู่บ้านอย่างชำนาญทาง
     คงจะมาหากันบ่อยหละสิ ฉันคิดเคืองอยู่ในใจ รถคันที่นั่งอยู่นี่ก็น่าจะเป็นของแฟนเก่า เมื่อวานเขาคงจะทิ้งรถตัวเองไว้ที่บ้านของเธอ แล้วขับรถคันนี้ออกมาหาหมอด้วยกันเป็นแน่
     "พี่ก็เพิ่งรู้ ว่าคริสเขายังไม่ได้ขายบ้านหลังนี้ หรือว่าบางทีเธออาจจะกลับมาซื้อมันอีกรอบก็ได้พี่ไม่ได้ถาม ครั้งก่อนที่เราไปเจอเธอด้วยกัน เธอกับสามียังพักที่โรงแรมอยู่เลย จำได้ไหม..."
     เหมือนพี่พงษ์จะร้อนตัว รีบแก้ตัวโดยที่ฉันยังไม่ทันจะเอ่ยปากถาม แต่ข้อแก้ตัวของเขาก็ดูมีเหตุผล จากรูปการณ์ การพูดคุยของเขากับแฟนเก่า แสดงว่าเธอน่าจะเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ไม่นานนัก
     "เมื่อก่อนสมัยมัธยม พี่ก็อยู่บ้านแถวนี้ ก็เลยคุ้นเคยอยู่พอสมควร แต่พี่ไม่ได้มาที่นี่นานหลายปีแล้ว..."
     "เมื่อวานเพิ่งมา... หลายปีที่ไหน..."
     ฉันค้อนเขาตวัดใหญ่
     แก้ตัวเข้าไป แต่แปลกอยู่นะ ฉันแอบอมยิ้มไม่ให้เขาเห็น  ในใจลึกๆ ฉันกลับรู้สึกดี ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนที่พูดเก่ง แต่การที่เขาพยายามพูดแก้ตัวกับฉัน  แสดงว่าเขาเห็นฉันเป็นคนสำคัญ จริงๆ แล้ว ฉันแอบดีใจตั้งแต่ที่เขาแนะนำฉันกับแฟนเก่าในฐานะคู่หมั้นที่โรงพยาบาลแล้ว ฉันยังแสดงความเป็นเจ้าของ เดินควงแขนเขาออกมาจากห้องพักผู้ป่วยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะผละจากเขาเพื่อแสดงจริตว่า ยังไม่พอใจในพฤติกรรมของเขาอยู่

     รถเอสยูวีของพี่พงษ์จอดไว้ที่หน้าบ้านของเธอจริงๆ ประตูรั้วของบ้านเปิดออกเองอัตโนมัติในทันทีที่รถของเจ้าของบ้านเคลื่อนเข้ามาใกล้ พี่พงษ์ขับรถเข้าไปจอดที่โรงรถทางด้านข้าง ฉันมองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า มันน่าจะได้รับการปรับปรุงเมื่อไม่นานมานี้ ด้านหน้าถูกดัดแปลงให้เป็นลานจอดรถมีหลังคาที่สามารถจอดรถได้หลายคัน ก่อนถึงตัวอาคารมีการจัดแต่งเป็นสวนญี่ปุ่นขนาดเล็กๆ กั้นจุดที่เป็นถนนบริเวณหน้าบ้านพักเอาไว้ ตัวอาคารด้านนอกจัดให้ดูโปร่งสบายสไตล์มินิมอล ด้านในเป็นกระจกใสเพื่อติดเครื่องปรับอากาศ แต่คงไว้ซึ่งความรู้สึกโปร่ง มีผ้าม่านในบางจุดเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวหากจำเป็นต้องใช้
     "คริส... เอออ... ลูกค้า...ให้แม่บ้านเตรียมเสื้อผ้ากับข้าวของจำเป็นของเธอ วางไว้ที่บาร์ตรงห้องนั่งเล่น พี่เข้าไปเอาแป๊บเดียว ที่จริงอลิสไม่ต้องอาสาลูกค้ามาเอาของก็ได้ ยังไงพี่ก็ต้องมาเอารถที่จอดอยู่ตรงหน้าบ้านอยู่แล้ว..."
     พี่พงษ์ใช้คีย์การ์ดที่เจ้าของบ้านให้มา แตะเปิดประตู ฉันเดินตามเขาเข้าไปอย่างรวดเร็ว พี่พงษ์ยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ห้ามปรามอะไร เขาเดินตรงไปลากกระเป๋าเสื้อผ้าที่แม่บ้านเตรียมไว้กลับมาวางไว้ที่ข้างประตู
     "ห้องนอนของแฟนพี่อยู่ชั้นบนหรือคะ..." ฉันหันไปถามเขาเสียงราบเรียบแกมประชด ก่อนที่จะเอื้อมมือไปแย่งคีย์การ์ดในมือของเขา
     "... ไม่นะ...อลิส อย่าไปรุ่มร่ามบ้านของคนอื่นสิ อลิส... ลงมา..."
     ฉันไม่สนใจคำพูดของเขา เดินอย่างเร็ว ตรงขึ้นไปบนชั้นสองในทันทีนั้น...

     ห้องนอนถูกตกแต่งด้วยสีออกแนวเอิร์ธโทนดูโปร่งสบายตา เตียงขนาดใหญ่จัดวางไว้ด้านขวามือหันข้างออกไปทางหน้าต่างกระจกซึ่งวางไม้กระถางเล็กๆ หลายใบตกแต่งไว้ มีโต๊ะสำหรับแต่งตัวพร้อมกระจกบานใหญ่อยู่ทางอีกด้านหนึ่งของห้อง ขนาดของห้องดูเล็กกว่าที่คาดเดาเอาไว้ เมื่อเทียบกับห้องอื่นๆ ในอาคาร
     ด้านหลังห้องนอนมีการกั้นเป็นห้อง แยกจากห้องนอนเข้าไปด้านในอีกสองห้อง ด้านขวาเป็นประตูห้องน้ำ เมื่อเปิดเข้าไป จะพบว่าห้องน้ำมีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ มีการแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้อย่างชัดเจนด้วยกระจกฝ้า แต่ห้องตรงกันข้ามกับห้องน้ำทางด้านซ้าย กลับมีประตูที่ใช้คีย์การ์ดที่มีแป้นกดรหัสแยกต่างหาก
     ฉันทดลองใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเปิดประตู แต่มันไม่ได้ผล
     ฉันเปิดดูข้อมูลของลูกค้าในโทรศัพท์ ทดลองใช้วันเกิดของลูกค้าเป็นรหัส แต่ก็ปลดล็อคไม่ได้เช่นเดิม
     "พี่พงษ์ อดีตแฟนของพี่เกิดวันที่เท่าไร..."
     "อลิส... มันเกินไปแล้วนะ... พี่เริ่มจะโกรธแล้ว..."
     "... พี่ไม่อยากรู้หรือว่า คุณคริสทำไมถึงเจ็บขนาดนั้น..."
     ...พี่พงษ์จำวันเกิดของแฟนเก่าได้จริงๆ แต่มันก็ยังปลดล็อคเพื่อเปิดประตูไม่ได้อยู่ดี...
     เหมือนพี่พงษ์จะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาเข้ามายืนตรงหน้าประตูแทนที่ฉัน ก่อนที่จะกดแป้นสัมผัสเพื่อใส่รหัสเลข 6 หลัก
     "คลิ๊ก..."

     เสียงเครื่องปรับอากาศเปิดขึ้นอัตโนมัติในทันทีที่ประตูห้องนั้นเปิดแง้มออก ภายในเป็นห้องปิดสนิท แม้จะมีแสงลอดเข้ามาจากภายนอกได้บ้างผ่านขอบของผ้าม่านทึบหนาเต็มผนัง แต่ก็มืดจนมองอะไรแทบไม่เห็น แสงไฟสีนวลออกเหลืองแบบเรียลเดล์ไลท์ค่อยๆสว่างขึ้นทีละน้อย ความสว่างที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นเป็นลำดับดำเนินอยู่แค่เพียงชั่วอึดใจ ลำดับความสว่างก็หยุดนิ่งลง แสงนวลสลัวเพียงพอแค่สามารถมองเห็นสิ่งของต่างๆในห้องได้อย่างเลือนราง
     เสียงประตูปิดตัวเองโดยอัตโนมัติทันทีที่เราทั้งคู่เดินผ่านเข้ามาในห้อง
     พี่พงษ์ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บริเวณหลังประตู ดูเหมือนเขาจะสติหลุดตั้งแต่ประตูถูกเปิดออกแล้ว ฉันเดินเข้าไปในห้องมองหาสวิทควบคุมไฟส่องสว่างได้ไม่ยากนัก มันเป็นสวิทระบบสัมผัสที่สามารถไล่ระดับความสว่างได้ ฉันเพิ่มความสว่างของไฟบริเวณกลางห้องจนสามารถมองเห็นทุกอย่างภายในได้อย่างชัดเจน
     ฉันมองสำรวจรอบบริเวณห้อง...
     เตียงเดี่ยวขนาดไม่ใหญ่นักถูกวางไว้หน้าผ้าม่านสีเลือดหมูเข้มผืนใหญ่เต็มทั้งกำแพง มีแสงลอดจากหน้าต่างด้านหลังเข้ามาได้เพียงเล็กน้อย ปลายเตียงมีโซ่ผูกข้อมือห้อยระย้าลงมาจากเสาเหนือปลายเตียง บนกำแพงด้านขวาข้างหัวเตียง มีราวแขวนเชือก, กุญแจมือหนัง, โซ่,แส้,และพวกเบลท์บางอย่างที่ไม่รู้จัก ส่วนหัวเตียงด้านซ้าย ก็มีราวเก็บอุปกรณ์ชุดหนังประเภทโยคส์สำหรับพันธนาการหรือลากจูงแขวนห้อยเอาไว้
     ถัดจากปลายเตียง มีโซฟาสีน้ำเงินดำโค้งต่างระดับสูงต่ำเป็นรูปตัวเอส หรือเลิฟแชร์ หรือตันตระโซฟา แล้วแต่จะเรียก วางไว้เกือบกึ่งกลางของห้อง โต๊ะข้างโซฟาวางพวกอุปกรณ์คอสเพลย์ ที่คาดผมหูจิ้งจอก ปลั๊กซิลิโคนหางจิ้งจอก ปลอกคอผ้าลูกไม้ติดกระดิ่งที่มีสายลากจูงและที่หนีบหัวนมสองข้าง รวมทั้งมีหลอดซิลิโคนเจลที่นิยมในหมู่รักร่วมเพศวางไว้ข้างๆ กันด้วย
     "น่าจะเล่นกันหนักน่าดู พี่พงษ์คะ รู้จักอันนี้หรือเปล่า..."
     ฉันตั้งใจเรียกเขาให้เดินตามเข้ามาในห้อง พี่พงษ์เดินเข้ามาหาฉันอย่างใจลอย เขามองสิ่งต่างๆรอบห้อง เหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง
     "คุณคริสของพี่โดนคอสเพลย์เป็นหมาจิ้งจอกด้วย ดูจากของละ... น่าจะโดนเสียบรูก้นด้วย..."
     ฉันหยิบหางจิ้งจอกที่มีปลั๊กติดที่ปลายขึ้นมาดู ปลั๊กแบบนี้น่าจะใช้เสียบเข้าไปที่... ฉันเหลือบมองหลอดเจลแบบใช้กับทวารหนักที่วางอยู่บนโต๊ะแล้ว รู้สึกเสียวแทนคุณคริสไม่ได้
     ฉันวางหางจิ้งจอกคืนไว้ที่โต๊ะ ถอดสูทแจ๊คเก็ตออกเหลือแต่เสื้อเชิ้ตแขนยาว หยิบที่คาดผมหูจิ้งจอกขึ้นมาคาด ใส่ปลอกคอลูกไม้ติดกระดิ่ง ก่อนที่จะทดลองใช้ที่หนีบ คีบหัวของปทุมถันทั้งสองข้างของฉันนอกเสื้อ
     ฉันส่งสายลากจูงให้พี่พงษ์ เขารับมันไปด้วยท่าทางเรียบเฉย ด้วยความบังเอิญ เขากำมันไว้แน่นจนไปเปิดสวิทช์ ทำให้ที่คีบหัวเริ่มทำงาน
     หัวนมของฉันสั่นระริก มันเพิ่มความเจ็บที่ถูกบีบ และส่งกระแสไฟอ่อนๆ ทำให้ฉันเจ็บกระตุกเป็นจังหวะ
     "เจ็บแล้วค่ะ แต่ก็แปลกดี... คิดถึงตอนที่คุณคริส... เธอจะโดนหนักขนาดไหนนะ..."
     อยู่ดีๆ พี่พงษ์ก็กระตุกเชือกอย่างรุนแรง ทำให้ฉันถลาเข้าไปหาเขา เขาบดปากจูบฉัน ส่งลิ้นเข้ามาแลกเปลี่ยนของเหลวของกันและกันอย่างเร่าร้อน เขาปลดกระดุมเสื้อของฉันอย่างรีบเร่ง ดันถลกยกทรงไร้โครงของฉันให้ขึ้นไปกองอยู่เหนืออก ถอนลิ้นออกจากปากของฉัน เปลี่ยนมาลงลิ้นที่ถันทั้งสองสลับกันไปมา หลังจากอมคำใหญ่ๆให้ฉันจนฉันครางเสียว เขาก็ถอนปากออกอีกครั้ง กว่าฉันจะรู้ตัว เขาก็ง้างที่คีบไฟฟ้าทั้งสองข้างออก แล้วหนีบเข้าไปตรงๆที่หัวจุกปทุมถันที่เปล่าเปลือยทั้งคู่ของฉันอย่างรุนแรง
     ร่องฟันเล็กๆหนีบเข้าไปในจุกเนื้อ ฉันรับแรงบีบและกระแสไฟของเครื่อง เข้าตรงๆ จนหัวแดงระเรื่อ แรงบีบทำให้หัวของมันยื่นยาวออกมาเหนือเนินถันอย่างเห็นได้ชัดเจน
     "เจ็บค่ะ เจ็บ... อลิสเจ็บ... โอ้ย..."

swss2511

เล่นเสียวหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล

bybee


wutthigai

อลิสจะโดนไปด้วยนะสิแบบนี้ รึอาจจะชอบไปเลยก็ได้

peddo

อลิสอยากรู้อยากเห็นเอง จะโทษพี่พงษ์ไม่ได้นะ อาจจะต้องเข้าไปนอนข้างๆ คริส แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน