งานเคาท์ดาวน์ที่บ้านของฉันปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่มาก พื้นที่กว่าร้อยไร่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นลานคอนเสิร์ต ที่ทำให้มีผู้คนมากมายหลายพันคนมารวมตัวกันที่นี่ เพราะว่ามีศิลปินมากมายตบเท้าเข้ามาสร้างความบันเทิงให้ ฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่มาเที่ยว แน่นอนว่ามีคนเดียว เพราะว่าความรักของฉันมันเพิ่งพังไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเท่านั้นเอง มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้ฉันนั้นไม่ได้อยากจะใส่ใจความรักอีกแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเรามันขาดเรื่องเสียวไม่ได้

ความรักไม่มี ไม่ได้แปลว่าฉันจะไม่มีความเงี่ยน

แต่เหมือนวาสนาคนเรามันจะโดนเย็ดค่ะ เพราะว่าตอนที่ศิลปินขึ้นร้องเพลง ฉันเองก็ไปเบียดเสียดกับผู้คนที่เข้ามาในนี้ ก่อนที่จะเผลอไปเซใส่ผู้ชายคนหนึ่งที่เขาช่วยประคองฉันเขาไว้ ตอนนั้นเขายิ้มแล้วพูดว่าระวังหน่อยนะครับ ถ้ากลัวจะล้ม เต้นตรงนี้ได้ครับ เดี๋ยวผมช่วยดูให้เอง เขายิ้มด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ว่าฉันนั้นไม่สามารถที่จะหยุดเต้นได้ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร จนกระทั่งงานใกล้จบ ฉันเองหันไปก็ยังเจอเขายืนอยู่ห่างๆ ฉันเลยเดินเข้าไปหาเขาแล้วกล่าวขอบคุณที่ช่วยดูให้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ดูอะไรให้ฉันก็ตามที

เราเริ่มทำความรู้จักกันในวันนั้น แล้วตลอด 5 วัน 5 คืน เราก็มาเจอกันที่งานแล้วเริ่มเต้นด้วยกัน เหมือนว่าเรานั้นสนิทสนมกันมากขึ้น จนกระทั่งในคืนวันสุดท้าย เขามาอยู่กับฉันตั้งแต่งานเริ่ม แล้วค่อยๆ เริ่มอยู่ด้วยกันมากขึ้น จนขากลับ เขาบอกว่าขอไปส่งฉันได้ไหม ฉันบอกว่าไม่เป็นไร เพราะว่าฉันเองรถมาเอง ถ้าจะกลับบ้านไม่ใช่เรื่องยาก ฉันชินทางแล้ว

เขาเลยยิ้มแล้วถามว่า...แล้วถ้าไม่ใช่ที่บ้านล่ะ ขอไปส่งได้ไหม ?

เขาถามมาขนาดนี้ เลยทำให้ฉันตัดสินใจกลับบ้านทันที ทั้งๆ ที่ศิลปินคนโปรดเพิ่งจะขึ้น เพราะอะไรน่ะเหรอ ?

เพราะว่าฉันใช้ความเงี่ยนนำทางมากกว่าความชอบไง...ศิลปินฉันสามารถดูเขาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ว่าพอเป็นผู้ชาย ฉันไม่รู้ว่าจะได้เจอเขาเมื่อไหร่ ดังนั้นถ้ามันจะเกิดการเย็ดชั่วคราวขึ้นในคืนปีใหม่แบบนี้...ฉันว่ามันเป็นความคิดที่น่าสนใจเลยทีเดียว เมื่อเราเข้ามาในม่านรูด เราดื่มเบียร์ด้วยกันมาแล้วพอประมาณ นั่นเลยทำให้เราใช้ความเมาและความเงี่ยนนั้นโผเข้าหากันแล้วเริ่มกอดจูบลูบคลำกันทันที

ไม่นาน หลังจากรสจูบที่หนักหน่วงผ่านไป ฉันก็โดนเขาทาบตัวโถมเข้ามาใส่แล้วพาฉันลงไปนอนบนเตียงอย่างง่ายดาย เขาใช้หน้าอกกดที่ร่างกายของฉันเอาไว้แล้วเริ่มถอดกางเกงของฉันลงไป เขาเป็นคนที่ทำทุกๆ อย่างให้มันเกิดขึ้นได้อย่างดี เหมือนกับว่าเรื่องแบบนี้เขาช่างช่ำชองเหลือเกิน

สองขาถูกจับแลก ริมฝีปากนุ่มๆ จูบที่เนินหีใหญ่ของฉัน ก่อนที่ลิ้นอุ่นๆ จะเริ่มตวัดเลียหีของฉันพร้อมกับเริ่มเร่งจังหวะมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเนื้อตัวของฉันสั่นระริก เขาทำอย่างนั้นอยู่สักพักแล้วค่อยๆ ถอดกางเกงของตัวเองไปด้วยพร้อมกับเริ่มที่จะขยับร่างกายขึ้นมาคร่อมที่หน้าอกของฉันแล้วเอาควยมาจ่อปาก

ฉันถึงกับตกใจ...เพราะเมื่อได้เห็นใกล้ๆ แล้วเขาควยใหญ่เหลือเกินจริงๆ

ฉันอ้าปากรอควยของเขาที่ป้อนเข้ามาทันที ก่อนที่จะค่อยๆ เริ่มจิกเส้นผมของฉันแล้วกระเด้าควยเย็ดปากของฉันเข้ามาทันที ในตอนนั้นฉันทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากที่จะดูดเท่านั้น ดูดควยสู้จังหวะที่เขาค่อยๆ ดันควยเข้ามาจนสุดลำควยแล้วกระชากออกไปเพราะว่าฉันสู้ไม่ไหว

ทั้งใหญ่ทั้งยาว...ทำเอาฉันสำลักจนน้ำตารื้นไหลขึ้นมา

แต่เขาไม่ได้หยุดเท่านั้น รอยยิ้มของเขาในเวลานี้เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์อย่างถึงที่สุด ก่อนจะขยับร่างกายลงไปที่ระหว่างขาของฉันเหมือนเดิมแล้วยกขาฉันขึ้นพาดบ่าทันที ขาหยิบหมอนที่ไม่ทันจะได้ใช้หนุนมารองที่สะโพกของฉันเอาไว้ให้สะโพกมันลอยขึ้นหว่าเดิมแล้วดันควยเข้ามาทันที

ฉันร้องลั่นด้วยความเสียวซ่าน...ลำควยของเขาดันเข้ามาจนสุดลำ มันทั้งลึก ทั้งเสียวจนขาของฉันสั่นไปหมดในเวลานี้ ก่อนที่เขาจะเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนเนื้อของเรานั้นกระแทกกันด้วยเสียงที่หนักๆ จนเนื้อตัวของฉันสั่นสะท้าน ยิ่งเสียงดนตรีจากงานที่อยู่ไม่ไกลมากดังขึ้นมาเขาเองก็ยิ่งเร่งจังหวะมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนที่เขาเริ่มนับถอยหลังนาทีสุดท้ายกันในงาน

ผู้ชายตรงหน้าของฉันก็ยิ้มกริ่มออกมาแล้วเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ...นี่กะจะเย็ดกันข้ามปีเลยเหรอ ?

10 9 8 7 6 5 4 3 2 1

เสียงพลุดังขึ้นมา ก่อนที่เสียงครางของเขาจะดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของความรื่นเริงนั้น เขาค่อยๆ กระแทกควยเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับน้ำควยของเขาที่แตกในเข้ามาในรูหีของฉันแล้วแช่ควยเอาไว้แบบนั้น ก่อนที่จะทิ้งตัวลงมานอนกอดฉันเอาไว้แบบนั้น

แน่นอนว่าหลังจากนั้น ฉันไม่ได้ต้องการที่จะเป็นแฟนกับเขา เพราะว่าฉันไม่อยากรู้สึกว่าอยากจะอกหักอีกแล้ว

เพราะฉะนั้นตอนที่เขาขอฉันเป็นแฟน ฉันเลยยังไม่ได้ให้คำตอบเขาอย่างชัดเจน แต่บอกเขาไปตรงๆ ว่า

ถ้าอยากเป็นแฟน...ให้คำตอบไม่ได้

แต่ถ้าอยากเย็ด มาเมื่อไหร่ก็ได้

งานเคาท์ดาวน์ที่บ้านของฉันปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่มาก พื้นที่กว่าร้อยไร่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นลานคอนเสิร์ต ที่ทำให้มีผู้คนมากมายหลายพันคนมารวมตัวกันที่นี่ เพราะว่ามีศิลปินมากมายตบเท้าเข้ามาสร้างความบันเทิงให้ ฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่มาเที่ยว แน่นอนว่ามีคนเดียว เพราะว่าความรักของฉันมันเพิ่งพังไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเท่านั้นเอง มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้ฉันนั้นไม่ได้อยากจะใส่ใจความรักอีกแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเรามันขาดเรื่องเสียวไม่ได้

ความรักไม่มี ไม่ได้แปลว่าฉันจะไม่มีความเงี่ยน

แต่เหมือนวาสนาคนเรามันจะโดนเย็ดค่ะ เพราะว่าตอนที่ศิลปินขึ้นร้องเพลง ฉันเองก็ไปเบียดเสียดกับผู้คนที่เข้ามาในนี้ ก่อนที่จะเผลอไปเซใส่ผู้ชายคนหนึ่งที่เขาช่วยประคองฉันเขาไว้ ตอนนั้นเขายิ้มแล้วพูดว่าระวังหน่อยนะครับ ถ้ากลัวจะล้ม เต้นตรงนี้ได้ครับ เดี๋ยวผมช่วยดูให้เอง เขายิ้มด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ว่าฉันนั้นไม่สามารถที่จะหยุดเต้นได้ เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร จนกระทั่งงานใกล้จบ ฉันเองหันไปก็ยังเจอเขายืนอยู่ห่างๆ ฉันเลยเดินเข้าไปหาเขาแล้วกล่าวขอบคุณที่ช่วยดูให้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ดูอะไรให้ฉันก็ตามที

เราเริ่มทำความรู้จักกันในวันนั้น แล้วตลอด 5 วัน 5 คืน เราก็มาเจอกันที่งานแล้วเริ่มเต้นด้วยกัน เหมือนว่าเรานั้นสนิทสนมกันมากขึ้น จนกระทั่งในคืนวันสุดท้าย เขามาอยู่กับฉันตั้งแต่งานเริ่ม แล้วค่อยๆ เริ่มอยู่ด้วยกันมากขึ้น จนขากลับ เขาบอกว่าขอไปส่งฉันได้ไหม ฉันบอกว่าไม่เป็นไร เพราะว่าฉันเองรถมาเอง ถ้าจะกลับบ้านไม่ใช่เรื่องยาก ฉันชินทางแล้ว

เขาเลยยิ้มแล้วถามว่า...แล้วถ้าไม่ใช่ที่บ้านล่ะ ขอไปส่งได้ไหม ?

เขาถามมาขนาดนี้ เลยทำให้ฉันตัดสินใจกลับบ้านทันที ทั้งๆ ที่ศิลปินคนโปรดเพิ่งจะขึ้น เพราะอะไรน่ะเหรอ ?

เพราะว่าฉันใช้ความเงี่ยนนำทางมากกว่าความชอบไง...ศิลปินฉันสามารถดูเขาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ว่าพอเป็นผู้ชาย ฉันไม่รู้ว่าจะได้เจอเขาเมื่อไหร่ ดังนั้นถ้ามันจะเกิดการเย็ดชั่วคราวขึ้นในคืนปีใหม่แบบนี้...ฉันว่ามันเป็นความคิดที่น่าสนใจเลยทีเดียว เมื่อเราเข้ามาในม่านรูด เราดื่มเบียร์ด้วยกันมาแล้วพอประมาณ นั่นเลยทำให้เราใช้ความเมาและความเงี่ยนนั้นโผเข้าหากันแล้วเริ่มกอดจูบลูบคลำกันทันที

ไม่นาน หลังจากรสจูบที่หนักหน่วงผ่านไป ฉันก็โดนเขาทาบตัวโถมเข้ามาใส่แล้วพาฉันลงไปนอนบนเตียงอย่างง่ายดาย เขาใช้หน้าอกกดที่ร่างกายของฉันเอาไว้แล้วเริ่มถอดกางเกงของฉันลงไป เขาเป็นคนที่ทำทุกๆ อย่างให้มันเกิดขึ้นได้อย่างดี เหมือนกับว่าเรื่องแบบนี้เขาช่างช่ำชองเหลือเกิน

สองขาถูกจับแลก ริมฝีปากนุ่มๆ จูบที่เนินหีใหญ่ของฉัน ก่อนที่ลิ้นอุ่นๆ จะเริ่มตวัดเลียหีของฉันพร้อมกับเริ่มเร่งจังหวะมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเนื้อตัวของฉันสั่นระริก เขาทำอย่างนั้นอยู่สักพักแล้วค่อยๆ ถอดกางเกงของตัวเองไปด้วยพร้อมกับเริ่มที่จะขยับร่างกายขึ้นมาคร่อมที่หน้าอกของฉันแล้วเอาควยมาจ่อปาก

ฉันถึงกับตกใจ...เพราะเมื่อได้เห็นใกล้ๆ แล้วเขาควยใหญ่เหลือเกินจริงๆ

ฉันอ้าปากรอควยของเขาที่ป้อนเข้ามาทันที ก่อนที่จะค่อยๆ เริ่มจิกเส้นผมของฉันแล้วกระเด้าควยเย็ดปากของฉันเข้ามาทันที ในตอนนั้นฉันทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากที่จะดูดเท่านั้น ดูดควยสู้จังหวะที่เขาค่อยๆ ดันควยเข้ามาจนสุดลำควยแล้วกระชากออกไปเพราะว่าฉันสู้ไม่ไหว

ทั้งใหญ่ทั้งยาว...ทำเอาฉันสำลักจนน้ำตารื้นไหลขึ้นมา

แต่เขาไม่ได้หยุดเท่านั้น รอยยิ้มของเขาในเวลานี้เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์อย่างถึงที่สุด ก่อนจะขยับร่างกายลงไปที่ระหว่างขาของฉันเหมือนเดิมแล้วยกขาฉันขึ้นพาดบ่าทันที ขาหยิบหมอนที่ไม่ทันจะได้ใช้หนุนมารองที่สะโพกของฉันเอาไว้ให้สะโพกมันลอยขึ้นหว่าเดิมแล้วดันควยเข้ามาทันที

ฉันร้องลั่นด้วยความเสียวซ่าน...ลำควยของเขาดันเข้ามาจนสุดลำ มันทั้งลึก ทั้งเสียวจนขาของฉันสั่นไปหมดในเวลานี้ ก่อนที่เขาจะเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนเนื้อของเรานั้นกระแทกกันด้วยเสียงที่หนักๆ จนเนื้อตัวของฉันสั่นสะท้าน ยิ่งเสียงดนตรีจากงานที่อยู่ไม่ไกลมากดังขึ้นมาเขาเองก็ยิ่งเร่งจังหวะมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนที่เขาเริ่มนับถอยหลังนาทีสุดท้ายกันในงาน

ผู้ชายตรงหน้าของฉันก็ยิ้มกริ่มออกมาแล้วเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ...นี่กะจะเย็ดกันข้ามปีเลยเหรอ ?

10 9 8 7 6 5 4 3 2 1

เสียงพลุดังขึ้นมา ก่อนที่เสียงครางของเขาจะดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของความรื่นเริงนั้น เขาค่อยๆ กระแทกควยเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับน้ำควยของเขาที่แตกในเข้ามาในรูหีของฉันแล้วแช่ควยเอาไว้แบบนั้น ก่อนที่จะทิ้งตัวลงมานอนกอดฉันเอาไว้แบบนั้น

แน่นอนว่าหลังจากนั้น ฉันไม่ได้ต้องการที่จะเป็นแฟนกับเขา เพราะว่าฉันไม่อยากรู้สึกว่าอยากจะอกหักอีกแล้ว

เพราะฉะนั้นตอนที่เขาขอฉันเป็นแฟน ฉันเลยยังไม่ได้ให้คำตอบเขาอย่างชัดเจน แต่บอกเขาไปตรงๆ ว่า

ถ้าอยากเป็นแฟน...ให้คำตอบไม่ได้

แต่ถ้าอยากเย็ด มาเมื่อไหร่ก็ได้