น้านวลเดินทางไปหาพ่อมาเกือบเดือนแล้ว
ดิฉันโทรติดต่อกับพ่ออยู่เรื่อย ๆ พวกนักการเมืองนี่ปัญหามันมากจริง ๆ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา
แต่พ่อก็รับปากดิฉันเอาไว้เป็นมั่นเหมาะแล้วว่าสิ่งใดไม่ถูกต้องดีงามพ่อจะไม่รับทำให้เด็ดขาด

ความสัมพันธ์ของดิฉันกับพี่องอาจดำเนินไปได้อย่างสวยงามและรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ทุกวันที่ดิฉันไปมหาลัย ดิฉันไม่เคยเจอพี่อาจองอีกเลย
ถามใคร ๆ ก็บอกว่าพี่เค้าเรียนหนักไม่ค่อยมีเวลาตอนนี้ใกล้สอบแล้ว

ดิฉันถามพี่องอาจก็ไม่สามารถบอกได้เพราะอยู่กันคนละบ้าน
ทุกอย่างก็ปล่อยเลยตามเลย

แก้วส่งดีวีดีมาให้ดิฉันดูอีกหลายแผ่น
ดูแล้วมันก็อดไม่ไหว..เฮ่อ..ต้องช่วยตัวเองทุกทีเลย
ดิฉันมีความคิดขัดแย้งกันในสมอง
จะทดลองมีอะไร ๆ กับพี่องอาจดีไหมหนอ
ใจก็ยอมรับว่า "รัก" เค้าเข้าให้แล้วนิ
ทดลองมีอะไรกับเค้าเหมือนแก้วกับอ๊อดก็น่าจะสนุกดีเหมือนกัน

คิดแล้วก็วาบหวาม แล้วก็ไม่กล้าคิดต่อสักที
ดิฉันไม่กล้าไม่ให้โอกาสนี้กับพี่องอาจและตัวเองด้วย

..............

จนเวลาใกล้สอบเต็มที
พี่องอาจมาดูหนังสือเป็นเพื่อน
บางวิชาดิฉันขอให้พี่เค้าช่วย และบางวิชาพี่ก็ขอให้ดิฉันช่วยติว
ติวกันไปก็จู่จี๋กันไป มีหยอกเอินและกอดจูบกันบ้าง แต่ก็เพียงภายนอกเท่านั้น
ดิฉันยกย่องในความเป็นสุภาพบุรุษของพี่องอาจ เพราะเค้าไม่คิดจะเอาเปรียบ
มีแต่ดิฉันเองต่างหากที่บางทีก็รุกเค้าจนเกือบแย่

คิด ๆ ดูวันนี้ก็น่าจะเหมาะนะ
อิอิอิ (คิดเจ้าเล่ห์อีกแล้วซิ)

แค่คิดดิฉันก็หน้าแดงก่ำแล้วละ
พี่องอาจรักดิฉันโดยที่ไม่ต้องใช้วิชาแก่นรักหรือฝังรูปฝังรอย
เป็นความรักที่เกิดจากจิตใจไม่ใช่อาคม

ดิฉันเองก็ชอบเค้ามาก ๆ เหมือนกัน
บอกว่า "รัก" ก็ได้ แล้วการที่เราจะมีอะไรกันก่อนแต่งงานจะเป็นไรไป
แล้วช่วงนี้ดิฉันอยู่ในช่วงปลอดภัยเสียด้วย
น่า..ลอง..นะ

เฮ่อ..ลองดีไหมนะ...
ลอง..ไม่ลอง...ลอง..ไม่ลอง...ลอง..ไม่ลอง...
จนมีเสียงเรียกของโทรศัพท์
"โหล..."
"วิ..พี่ใกล้ถึงแล้วนะ..จะกินอะไรหรือเปล่า..."
"พี่องอาจหาของอร่อยมาซิคะ..."
"อื้อ..เดี่ยวพี่แว๊ะซื้อไปให้"
"ค่ะ..."

ลอง..ไม่ลอง...ลอง..ไม่ลอง..ยอม..ไม่ยอม...
เฮ่อ...เอายังไงดี
โยนหัวโยนก้อยดีหรือเปล่า
อ้าว..ลองดูก็ได้ ออก "ก้อย" ลอง ออก "หัว" ไม่ลอง

ดิฉันไปหยิบเหรียญบาทออกมาเหรียญหนึ่ง
ปั่นให้หมุนติ๋วบนโต๊ะแล้วเอามือตบ
จากนั้นดิฉันค่อย ๆ เปิดแย้ม ๆ ด้วยใจเต้นตึกตั๊ก
"ก้อย..."
ก้อยก็ต้องลองซินะ งั้นปั่นพิสูจน์สัก 3 ครั้งก็แล้วกัน
ดิฉันปั่นใหม่อีก 2 ครั้ง ก็น่าแปลกที่ออกก้อยทั้ง 2 ครั้ง
รวมแล้วก็ออก "ก้อย" ทั้ง 3 ครั้ง
ในเมื่อเสี่ยงแล้วเป็นไงก็เป็นกัน

พอดีมีเสียงกดแตรที่ประตูรั่ว
มองไปทีระบบวงจรปิดแล้วเดินไปกดรีโมทเปิดประตู
ดิฉันยืนดูผ่านจอเห็นพี่องอาจขับเข้ามาจอดยังโรงจอดรถ

ดิฉันเดินลงมาชั้นล่างเปิดประตูบ้านให้
"สวัสดี..วิ..."
"โห..พี่องอาจซื้อมาเยอะเลย"
"จ๊ะ...วันนี้อ่านหนังสือกันให้เต็มที่ จะได้ไม่ต้องออกไปไหน..."
"คะ..."

ดิฉันช่วยพี่องอาจถือของเอาไปวางไว้บนโต๊ะ
"มีอะไรมั่งนี่..."
"สาคูใส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ เปาะเปี๊ยะทอด เจ้านี้อร่อยเด็ด แล้วก็หมูสะเต๊ะท่าดินแดง"
"อร่อย ๆ ทั้งนั้นเลย...อ้วนแย่เลย.."
"อ้วนอะไร...วิหุ่นดีเชียว..."
"จริงอ๊ะ..ไม่ใช่พะโล้นะ.."

"ยังไงก็รัก..."
ดิฉันหันไปค้อนแล้วพูดว่า
"ตอนนี้ก็พูดแบบนี้แหละ ปากผู้ชาย..."
"ใครบอก..ผู้ชายไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคนหรอก จริงจังจริงใจก็มีวิ..."
"เช่นพี่องอาจเป็นต้นละซิ..."
"อื้อ..แน่นอน..."

เราช่วยกันจัดของกินแล้วเอาไปวางที่โต๊ะในห้องหนังสือที่อยู่ถัดไป
ดิฉันกลับออกมาล้างมือล้างไม้
เห็นหนังสือที่พี่องอาจเอามาด้วยก็เลยช่วยเอาเข้าไปในห้องด้วย

2 ชั่วโมงเต็ม ๆ ที่เราช่วยกันทบทวนหนังสือเรียนโดยไม่วอกแวก
พี่องอาจเก่งคณิตศาสตร์มาก แต่ภาษาปานกลาง
ส่วนดิฉันนะเรียนได้ดีเกือบทุกวิชา
แต่ก็แกล้งอ้อนเป็นขอให้เค้าช่วยติวคณิตศาสตร์ให้
คนมีแฟนมันแบบนี้ทุกคนแหงเลย
ก็ดิฉันเห็นแก้วชอบทำแบบนี้กับอ๊อด ก็เลยเอามาใช้กับพี่องอาจบ้าง
แต่มันสร้างความภูมิใจให้ผู้ชายได้ดีจริง ๆ เลยใช่หรือปล่าว

ต้องแกล้งหยอด แกล้งออดอ้อนบ้าง
ทำเป็นขอพึ่ง ขอพักพิง ผู้ชายคนไหนละจะไม่ชอบ
ร้อยทั้งร้อยเสร็จผู้หญิงหมดแหละ..

อ้อนไปอ้อนมาพี่องอาจคงทนไม่ไหวดึงดิฉันไปจูบ
อ้าว...จูบมาก็จูบตอบไปซิ...ก็ตัดสินใจแล้วนิ

เราจูบกันครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ
จูบกันจนดิฉันอ่อนระทวยไปทั้งตัว ต้องอิงแอบแนบกับอกพี่เค้า
มือพี่องอาจลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังดิฉัน

มือผู้ชายนี่ก็มีพิษสงมากเหมือนกันนะ
ทำเอาดิฉันซ่านสยิวน่าดู
พี่องอาจลูบไล้แผ่นหลังดิฉันไปเรื่อย ๆ พร้อม ๆ ก้มลงหอมเรือนผม
ดิฉันจึงตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปประกบปากจูบดูดลิ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้ดิฉันว่าเราจูบกันรุนแรงกว่าทุกครั้ง
ยิ่งตอนที่ดิฉันแอ่นอกขึ้นทำให้เต้านมอวบของดิฉันถูไถกับอกเค้า
พี่องอาจก็คงสุดทนยกมือขึ้นมาตระกองเต้านมของดิฉันคลึงจนเต็มมือ

เฮ่อ..เพิ่งรู้นะ..ว่าการถูกคลึงนมนี่มันสร้างความอ่อนระทวยให้มากถึงขนาดนี้
ยิ่งมือเค้าไปบดตรงหัวนม มันเสียวมาก ๆ เลย

พี่องอาจคลึงเคล้าเต้านมดิฉันไปเรื่อย ๆ แม้จะถอนปากออกแล้วก็ตาม
ดิฉันยอมรับคะ..ว่ามันเพลินดีเหมือนกันเลยปล่อยเค้าทำ

แต่ไม่แค่นั้นซิคะ..จากการเคล้าคลึงนอกเสื้อพี่องอาจสอดมือเข้าไปในเสื้อยืด
เข้าไปสัมผัสกับบราตัวงามของดิฉัน
เค้าใกล้ชิดเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง
ดิฉันก็ยังไม่ห้ามเค้าอีกนั่นแหละ
หลับตาพริ้มแล้วบีบปากกัดฟันเมื่อเกิดความเสียวขึ้น

พี่องอาจเห็นเข้าาก็ประกบปากจูบอีก
ดิฉันยกมือขึ้นโอบรอบคอเค้ายกตัวขึ้นทำให้เกิดช่องว่างทางด้านหลัง
พี่องอาจจึงเลื่อนมือสอดเข้าไปด้านหลังปลดตะขอบราของดิฉัน
รู้ตัวนะ..แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย
มัวบดปากกับพี่เค้าอย่างเมามันนี่นา

ทีนี้ก็ฝ่ามือพี่เค้ากับเต้านมเนื้อแท้ของดิฉันก็เจอกันแบบเต็ม ๆ
พอสัมผัสถูกก็สดุ้งเหมือนกันนะ
มันสยิวอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งนิ้วมือพี่เค้าบีบบี้ตรงหัวนมไปมา
พอเสียวดิฉันก็เลยยื่นหน้าประกบปากจูบปากพี่เค้า
ทำอยู่แบบนั้นแหละ..จนเกร็งไปทั้งตัว

"วิ..ขอพี่ดูนะ..."
พี่องอาจกระซิบข้างหู
ดิฉันไม่กล้าตอบหรอก แต่ก็พยักหน้ายิก ๆ ข้างแก้มเค้า

พี่องอาจจึงค่อย ๆ ดันเสื้อยืดดิฉันขึ้นแต่มันก็เกี่ยวบราขึ้นมาด้วย
เท่านั้นเองเต้านมทั้งสองเต้าโผล่ออกมา
พี่องอาจขยับตัวขึ้นนิดนึง เพื่อจะมองให้ถนัด ๆ

ไม่รู้ละ..คงจะถูกใจพี่เค้าหรือไงก็ไม่รู้ตัวสั่นเชียว
"สวย..จัง..วิ...โอววว..."

พี่องอาจจับตัวดิฉันให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้
ดิฉันทำตามลุกขึ้นเสื้อยืดก็เลยตกลงมาปิดเต้านมตัวเองไว้เหมือนเดิม

พี่องอาจดึงตัวดิฉันให้มานั่งบนตัก
แล้วจับสื้อดิฉันรูดขึ้นใหม่
ตาเรามองสบตากันนิ่งนาน
พี่องอาจดึงเอาสื้อและบราของดิฉันออกจากแขนวางไว้ข้าง

ดิฉันโชว์เต้านมอวบกับสายตาโดยไม่มีอะไรปิดบัง
มันก็เขินและอายด้วยเหมือนกันนะ ก็เลยโผเข้ากอดเค้าไว้แน่น
ดิฉันรู้สึกว่าที่โคนขาดิฉัน ทับท่อนแข็งของพี่องอาจ

อะไรจะเกิดก็ให้มีเกิดไปเลย
ตอนนั้นดิฉันคิดแบบนั้นจริง ๆ
แล้วอยู่ในช่วงปลอดภัยมันไม่น่าห่วงสักเท่าไหร่
ภาพที่ดูดีวีดีของแก้วกับอ๊อดปรากฎขึ้นในหัวเป็นฉาก ๆ

พี่องอาจจูบที่ยอดอกดิฉันฟอด ๆ
ดิฉันสอดมือคล้องคอพี่เค้าเอาไว้กันหล่น
แอ่นตัวออกให้พี่เค้าหอมได้ถนัด ๆ

จากยอดอกพี่เค้าก็หอมไล่ลงไป
ในที่สุดดิฉันก็ต้องเกร็งแบบสุดตัว
ก็..พี่..พี่..เค้าจูบแล้วดูดหัวนมแล้วดูดจนดังจ๊วบ ๆ

โอววว...มันเสียวแบบนี้นี่เอง..ตอนที่เห็นแก้วโดนก็รู้สึกไม่เท่าไหร่
โดนกับตัวเองนี่..โอยยย....อยากครางแบบแก้วมั่งจัง
แต่ก็ไม่กล้าทำหรอก..กัดฟันเสียแน่นแอ่นอกหราเลย

โอ๊ยยย...มันเสียวจริง ๆ ด้วย
นี่แค่โดนดูดหัวนมนะ...
ถ้า..โดน...เหมือนแก้ว...อาาา..ไม่อยากคิดเลย

พี่องอาจดูดหัวนมข้างซ้ายบ้างข้างขวาบ้างอย่างหิวกระหาย
ดิฉันคิดว่าตรงนั้นของดิฉันคงแฉะไปหมดแล้วแหละ
มันเสียวมาก ๆ ชาเห่อไปทั้งตัว
ตรงนั้นรู้สึกยุบยิบ ๆ เสียวมาก ๆ

จากดูดนม หอมนมจนพอใจ
พี่องอาจเงยหน้าดึงดิฉันเข้ามากอดแล้วประกบปากจูบแลกลิ้นกันอีก
ดิฉันได้แต่โอนอ่อนผ่อนตามพี่เค้าไปเรื่อย ๆ แค่นั้นเอง

ปากจูบดูดลิ้นมือพี่เค้ารัดตัวดิฉันแน่น
ดิฉันเลยแกล้งบดเต้านมกับอกเค้าก็เคยเห็นแก้วทำแบบนี้นี่

พอถอนปากดิฉันหายใจยาว
ก็อยากระบายความเสียวสยิวออกไปกับลมหายใจ
แล้วดิฉันก็จูบไซ้ที่ซอกคอพี่องอาจตอบแทนบ้าง
พอไล่ขึ้นมาถึงซอกหูก็ทำให้พี่องอาจเกร็งเขม็งขึ้นมาทันที

"วิ...วิ...อูวววซซซ์...พี่...โอววว..."
ยิ่งได้ยินเสียงดิฉันก็เหมือนหน้ามืดแลบลิ้นเลียตรงใบหู
พี่องอาจกระตุกริก ๆ ครางระงม

พี่องอาจกอดรัดตัวดิฉันไว้แน่นแล้วลุกขึ้นอุ้มดิฉันเอาไว้
ดิฉันรีบโอบรอบคอบพี่เค้าเอาไว้กลัวหล่น
พี่เค้าพาดิฉันดินออกจากห้องไปยังห้องนอนของดิฉัน

พี่องอาจวางดิฉันลงบนเตียง
ดิฉันเขินจนต้องเอามือปิดเต้านมทั้งสองข้างเอาไว้ แม้จะไม่มิดก็ตาม
พี่องอาจคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ดิฉัน
ตาเรามองสบตากันนิ่งในนั้นเหมือนจะถามตอบ ๆ อะไร ๆ กันมากมาย
แล้วคำตอบในสายตาดิฉันคงจะบอกอะไร ๆ พี่เค้าหมด

พี่องอาจก้มตัวลงตรงหน้าท้องดิฉันไล่ลงที่หลุมสะดือ
โห...มันทั้งเสียทั้งจั๊กจี้จนดิฉันดิ้นพลาด ๆ ทีเดียว
ยกมือที่ปิดอกออกจับหัวพี่องอาจเอาไว้แน่น
เหมือนพยายามหยุดการส่ายขยี้ไปทั่วหน้าท้อง

พี่องอาจเงยหน้าขึ้น
"หอมเหลือเกินวิ..."
ดิฉันไม่กล้าลืมตามองได้แต่หลับตาพริ้มปล่อยให้พี่องอาจทำตามใจชอบ
แต่รู้สึกตัวนะคะว่าพี่เค้าทำอะไรบ้าง

อย่างตอนนี้พี่เค้าค่อย ๆ ปลดตะขอกางเกงแล้วรูดกางเกงดิฉันออก
เฮ่อ..เป็นไงเป็นกัน..ดิฉันขยับแอ่นก้นขึ้นให้รูดออกอย่างสะดวก
นานทีเดียวที่พี่เค้ารูดออกจากปลายเท้า
จนดิฉันอดไม่ได้ที่จะปรือตามอง

พี่องอาจตะลึงมองตรงที่กางเกงในของดิฉันที่ยังปิดอยู่
วันนี้ดิฉันใส่กางเกงในตัวบางสีขาวอีกต่างหาก
ดิฉันดูในกระจกตอนเช้าแล้วใยไหมดำที่แผ่หย่อมน้อย ๆ เหนือเนินนูนเห็นชัดเจน

พี่องอาจตะลึงอยู่นานแล้วก็ถอนหายใจพรืดอย่างสุดกลั้น
ดิฉันว่าพี่เค้าต้องกลั้นหายใจเอาไว้แน่เลย
เพราะดิฉันเองตื่นเต้นจนหัวใจเต้นตูมตามเป็นรัวกลอง

พี่องอาจจับขาดิฉันให้อ้าออก แล้วสอดตัวเข้าไปอยู่กลางหว่างขา
ตอนแรกดิฉันก็ยังเกร็งเอาไว้บ้างเหมือนกัน
แต่พอมาคิดดูอีกทีก็ตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน
เลยปล่อยให้พี่เค้าเป็นคนนำก็แล้วกัน

พี่องอาจก้มหน้าลงจนดิฉันคิดว่าน่าจะห่างจากเนินนูนไม่กี่นิ้ว
แล้วดิฉันก็ต้องร้อง อูยยยซซซ์
พี่องอาจฟุบหน้าลงหอมตรงนั้นของดิฉันฟอด ๆ
เค้ากล้าทำขนาดนั้นเลยเหรอ...

โอววว..พี่องอาจขา...
ดิฉันพึมพำในใจไม่กล้าให้ออกมาจากปาก

ดิฉันเพิ่งรู้เดี่ยวนี้เองว่า
การเสพสมนะไม่ใช่แค่เพียงการสอดใส่แล้วกระทำเท่านั้น
ข้อเท็จจริงมันยังขึ้นกับอารมณ์ จิตใจ และจินตนาการของกันและกันเป็นสำคัญอย่างหนึ่ง

เหมือนตอนนี้ในสมองดิฉันปรากฎภาพพี่องอาจจูบเฟ้นฟอนเนินเนื้อ
ความกระสันต์สวาทภายในใจเพิ่มขึ้นแทบสุดกลั้น
อาจจะบอกได้ว่าเข้าใกล้จุดสอดยอดไปทุกที

ดิฉันเสียวจนต้องแอ่นสะโพกขึ้นร่อนรับการเฟ้นฟอน
อยากจะร้องครางแต่ก็ไม่กล้าทำ
พยายามกัดฟันแน่นไม่ให้มีเสียงใด ๆ เล็ดรอดออกมา
มีแต่การสะท้อนของลมหายใจจนมีเสียงเฮือก ๆ เป็นระยะ

ขาที่พยายามหนีบแน่นของดิฉันก็ค่อย ๆ อ้าออกทีละนิด ๆ อย่างไม่รู้สึกตัว
แล้วในที่สุดขณะนี้ดิฉันงอเข่าขยับขาเข้ามาทำให้โดยอ้าขาออกไปจนสุด
ท่านี้เป็นเป็นท่าที่เปิดเผยเนินนูนจนเต็มที่
ใบหน้าพี่องอาจซุกไซ้ขยี้ทั้งเนินและกลีบทั้งสองได้ถนัดถนี่

ดิฉันเสียวมาก ๆ มันเสียวกว่าที่ดิฉันช่วยตัวเองเป็นไหน ๆ
ไม่เพียงแต่เสียวอย่างเดียว ภายในของดิฉันขมิบยิก ๆ ยังไงก็ไม่รู้
ตอนช่วยตัวเองยังไม่รุนแรงเท่านี้เลย

ในที่สุดดิฉันก็สุดที่ต้านทานเอาไว้ได้
เสียงซี้ดเริ่มออกจากริมฝีปากอย่างแผ่วเครือ ๆ
แล้วก็ค่อยดังมากขึ้นจนพี่องอาจได้ยิน

พี่เค้าดันตัวขึ้นก้มลงกอดจูบปากดิฉันอีกครั้ง
ดิฉันสนองตอบอย่างรุนแรงและเต็มอารมณ์

พี่องอาจถอนปากออกดันตัวขึ้นมองหน้าดิฉันที่ปรือตาเยิ้มหัวใจเต้นเป็นรัวกลอง
"วิ..พี่ถอดนะ..."

ดิฉันหลับตาพริ้มไม่กล้ามอง ไม่กล้าตอบหรอก นอนตัวแข็ง
มอบให้พี่องอาจตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน

พี่องอาจขยับตัวขึ้นเอามือเกี่ยวขอบกางเกงในที่ข้างเอวแล้วรูดลง
ดิฉันรู้สึกว่ามือพี่องอาจก็สั่นรัวเช่นกัน

เฮ่อ..ในที่สุดดิฉันก็แอ่นก้นให้รูดออกได้สะดวกเหมือนเดิม

ตอนนี้ดิฉันเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวแล้ว
เป็นครั้งแรกในชีวิตสาวที่เปลื้องผ้าต่อหน้าคนอื่น
แล้วคนนั้นเป็นผู้ชายอีกต่างหาก

พี่องอาจเอากางเกงมายกขึ้นแล้วบอกดิฉันว่า
"วิ..เปียกเป็นวงใหญ่เลย..."

ดิฉันยกมือขึ้นปิดหน้า..ก็มันน่าอายนี่คะ
มันเปียกเป็นวงขนาดนั้น แสดงว่าดิฉันหลั่งหล่อลื่นออกมาเยอะมากเลย

"อย่าอายซิ...นี่พี่นะ..."
นั่นซินะ..ถึงขนาดนี้แล้ว ดิฉันยังจะอายเค้าไปทำไม

ดิฉันตัดสินใจที่จะมอบให้เค้าแล้วนิ
แต่ก็ต้องให้เวลาทำใจอีกหน่อยนะ..คงไม่ใช่ในครั้งแรกนี้

พี่องอาจม้วนกางเกงในแล้วโยนไปที่ปลายเตียง
จากหน้าก็ก้มลงมองเนินเนื้อดิฉัน
ตาพี่องอาจเบิ้งโตแวววาวเหมือนแปล่งประกายออกมาทีเดียว

เค้ามองเนินเนื้อแล้วก็มองหน้าดิฉันแล้วก้มลงมองเนินเนื้อสลับไปมา
ดิฉันไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไร
แล้วพี่ค่อยสอดมือเข้าไปตรงใต้ข้อพับดิฉันแล้วดันออก
ดิฉันปล่อยไปตามที่พี่เค้าต้องการไม่ขัดขืน
ขาทั้งสองของดิฉันอ้าออกงอเข่าเล็กน้อย

มานึกดู..
ท่านี้กลีบทั้งสองของดิฉันคงถูกรั้งจนแยกอ้าออกไม่น้อยแน่เลย

ดิฉันหรี่ตามองอาการของพี่องอาจ
พี่องอาจหน้าแดงก่ำ หายในฟืดฟาด สายตาที่มองนะลุกวาว

ดิฉันเห็นแววตาแล้วกระตุ้นอารมณ์เหลือเกิน
พี่องอาจก้มตัวลงฟุบกับที่นอน
แล้วก้มลงจูบที่เนินเนื้อแท้ ๆ ของดิฉันทันที

สะดุ้งจริง ๆ คะ..สะดุ้งไปทั้งตัวเลย...
จมูกของพี่เค้าซุกเข้าไปกลางร่องแน่เลย

พอพี่เค้าขยับใบหน้ามันก็ครูดร่องของดิฉันเต็ม ๆ
โอ๊ยยยย...เสียวแบบนี้เหรอ..โอวววว...พี่องอาจขา...
ดิฉันร้องคร่ำครวญอยูในใจ

ที่ร้องนะไม่ใช่ไม่ต้องการ ไม่ยินดี
แต่เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

แล้วดิฉันต้องสะดุ้งอีกครั้ง
ลิ้นพี่เค้าเริ่มที่จะกวาดแกว่งไปทั่วร่อง

โอวววว..มันเสียวอะไรขนาดนั้น
"อูยยซซ์.....ซี้ดดด...."

ดิฉันพยายามให้เสียงร้องออกมาเบา ๆ และพยายามให้สั้นที่สุด
ดิฉันผ่อนออกมาเป็นลมหายใจที่ยาวและแรง
การกระตุกเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนเคลื่อนขึ้นลงตามความเสียว

บางทีดิฉันกระตุกจนตัวงออย่างฝืนยังไงก็ไม่อยู่
ลิ้นของผู้ชายมันไร้กาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ

โห..มันเสียวจริง ๆ ดิฉันเกร็งกระตุก ๆ จนเสร็จเรียบร้อยไปทันที
แต่พี่องอาจยังไม่หยุด
ลิ้นไร้กาจของไล้ไปที่กลีบขึ้นมาจนชนจุดสำคัญที่อยู่ด้านบน
อีกไม่กี่ครั้งดิฉันก็เกร็งกระตุกอีกแล้ว

ดิฉันถึงจุดสุดยอดอีกครั้งตอนที่ลิ้นของพี่เค้าเหมือนเกร็งแหย่เข้าที่ช่องแล้วกดยิก ๆ
สะโพกดิฉันเกร็งแอ่นยกลอยจนไม่ติดที่นอน
ส่ายริกบดกับใบหน้าพี่เค้าเหมือนอยากให้มันติดคาอยู่แบบนั้นนานเท่านาน

ดิฉันทิ้งตัวลงนอนแผ่หราเหมือนหมดแรงกาย
แต่แรงกระหายอยากยังไม่หมด
พี่องอาจจัดการถอดเสื้อผ้าของเค้าออกโดยเร็ว
ดิฉันปรือตามองอย่างหวั่น ๆ และตื่นเต้นแล้วดิฉันตัดสินใจยันตัวลุกขึ้น

"พี่องอาจ..แค่นี้ก่อนนะพี่...วิ..ไม่ไหวแล้ว..."
...................

----------------------------------------------------------------

น้านวลเดินทางไปหาพ่อมาเกือบเดือนแล้ว
ดิฉันโทรติดต่อกับพ่ออยู่เรื่อย ๆ พวกนักการเมืองนี่ปัญหามันมากจริง ๆ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา
แต่พ่อก็รับปากดิฉันเอาไว้เป็นมั่นเหมาะแล้วว่าสิ่งใดไม่ถูกต้องดีงามพ่อจะไม่รับทำให้เด็ดขาด

ความสัมพันธ์ของดิฉันกับพี่องอาจดำเนินไปได้อย่างสวยงามและรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ทุกวันที่ดิฉันไปมหาลัย ดิฉันไม่เคยเจอพี่อาจองอีกเลย
ถามใคร ๆ ก็บอกว่าพี่เค้าเรียนหนักไม่ค่อยมีเวลาตอนนี้ใกล้สอบแล้ว

ดิฉันถามพี่องอาจก็ไม่สามารถบอกได้เพราะอยู่กันคนละบ้าน
ทุกอย่างก็ปล่อยเลยตามเลย

แก้วส่งดีวีดีมาให้ดิฉันดูอีกหลายแผ่น
ดูแล้วมันก็อดไม่ไหว..เฮ่อ..ต้องช่วยตัวเองทุกทีเลย
ดิฉันมีความคิดขัดแย้งกันในสมอง
จะทดลองมีอะไร ๆ กับพี่องอาจดีไหมหนอ
ใจก็ยอมรับว่า "รัก" เค้าเข้าให้แล้วนิ
ทดลองมีอะไรกับเค้าเหมือนแก้วกับอ๊อดก็น่าจะสนุกดีเหมือนกัน

คิดแล้วก็วาบหวาม แล้วก็ไม่กล้าคิดต่อสักที
ดิฉันไม่กล้าไม่ให้โอกาสนี้กับพี่องอาจและตัวเองด้วย

..............

จนเวลาใกล้สอบเต็มที
พี่องอาจมาดูหนังสือเป็นเพื่อน
บางวิชาดิฉันขอให้พี่เค้าช่วย และบางวิชาพี่ก็ขอให้ดิฉันช่วยติว
ติวกันไปก็จู่จี๋กันไป มีหยอกเอินและกอดจูบกันบ้าง แต่ก็เพียงภายนอกเท่านั้น
ดิฉันยกย่องในความเป็นสุภาพบุรุษของพี่องอาจ เพราะเค้าไม่คิดจะเอาเปรียบ
มีแต่ดิฉันเองต่างหากที่บางทีก็รุกเค้าจนเกือบแย่

คิด ๆ ดูวันนี้ก็น่าจะเหมาะนะ
อิอิอิ (คิดเจ้าเล่ห์อีกแล้วซิ)

แค่คิดดิฉันก็หน้าแดงก่ำแล้วละ
พี่องอาจรักดิฉันโดยที่ไม่ต้องใช้วิชาแก่นรักหรือฝังรูปฝังรอย
เป็นความรักที่เกิดจากจิตใจไม่ใช่อาคม

ดิฉันเองก็ชอบเค้ามาก ๆ เหมือนกัน
บอกว่า "รัก" ก็ได้ แล้วการที่เราจะมีอะไรกันก่อนแต่งงานจะเป็นไรไป
แล้วช่วงนี้ดิฉันอยู่ในช่วงปลอดภัยเสียด้วย
น่า..ลอง..นะ

เฮ่อ..ลองดีไหมนะ...
ลอง..ไม่ลอง...ลอง..ไม่ลอง...ลอง..ไม่ลอง...
จนมีเสียงเรียกของโทรศัพท์
"โหล..."
"วิ..พี่ใกล้ถึงแล้วนะ..จะกินอะไรหรือเปล่า..."
"พี่องอาจหาของอร่อยมาซิคะ..."
"อื้อ..เดี่ยวพี่แว๊ะซื้อไปให้"
"ค่ะ..."

ลอง..ไม่ลอง...ลอง..ไม่ลอง..ยอม..ไม่ยอม...
เฮ่อ...เอายังไงดี
โยนหัวโยนก้อยดีหรือเปล่า
อ้าว..ลองดูก็ได้ ออก "ก้อย" ลอง ออก "หัว" ไม่ลอง

ดิฉันไปหยิบเหรียญบาทออกมาเหรียญหนึ่ง
ปั่นให้หมุนติ๋วบนโต๊ะแล้วเอามือตบ
จากนั้นดิฉันค่อย ๆ เปิดแย้ม ๆ ด้วยใจเต้นตึกตั๊ก
"ก้อย..."
ก้อยก็ต้องลองซินะ งั้นปั่นพิสูจน์สัก 3 ครั้งก็แล้วกัน
ดิฉันปั่นใหม่อีก 2 ครั้ง ก็น่าแปลกที่ออกก้อยทั้ง 2 ครั้ง
รวมแล้วก็ออก "ก้อย" ทั้ง 3 ครั้ง
ในเมื่อเสี่ยงแล้วเป็นไงก็เป็นกัน

พอดีมีเสียงกดแตรที่ประตูรั่ว
มองไปทีระบบวงจรปิดแล้วเดินไปกดรีโมทเปิดประตู
ดิฉันยืนดูผ่านจอเห็นพี่องอาจขับเข้ามาจอดยังโรงจอดรถ

ดิฉันเดินลงมาชั้นล่างเปิดประตูบ้านให้
"สวัสดี..วิ..."
"โห..พี่องอาจซื้อมาเยอะเลย"
"จ๊ะ...วันนี้อ่านหนังสือกันให้เต็มที่ จะได้ไม่ต้องออกไปไหน..."
"คะ..."

ดิฉันช่วยพี่องอาจถือของเอาไปวางไว้บนโต๊ะ
"มีอะไรมั่งนี่..."
"สาคูใส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ เปาะเปี๊ยะทอด เจ้านี้อร่อยเด็ด แล้วก็หมูสะเต๊ะท่าดินแดง"
"อร่อย ๆ ทั้งนั้นเลย...อ้วนแย่เลย.."
"อ้วนอะไร...วิหุ่นดีเชียว..."
"จริงอ๊ะ..ไม่ใช่พะโล้นะ.."

"ยังไงก็รัก..."
ดิฉันหันไปค้อนแล้วพูดว่า
"ตอนนี้ก็พูดแบบนี้แหละ ปากผู้ชาย..."
"ใครบอก..ผู้ชายไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคนหรอก จริงจังจริงใจก็มีวิ..."
"เช่นพี่องอาจเป็นต้นละซิ..."
"อื้อ..แน่นอน..."

เราช่วยกันจัดของกินแล้วเอาไปวางที่โต๊ะในห้องหนังสือที่อยู่ถัดไป
ดิฉันกลับออกมาล้างมือล้างไม้
เห็นหนังสือที่พี่องอาจเอามาด้วยก็เลยช่วยเอาเข้าไปในห้องด้วย

2 ชั่วโมงเต็ม ๆ ที่เราช่วยกันทบทวนหนังสือเรียนโดยไม่วอกแวก
พี่องอาจเก่งคณิตศาสตร์มาก แต่ภาษาปานกลาง
ส่วนดิฉันนะเรียนได้ดีเกือบทุกวิชา
แต่ก็แกล้งอ้อนเป็นขอให้เค้าช่วยติวคณิตศาสตร์ให้
คนมีแฟนมันแบบนี้ทุกคนแหงเลย
ก็ดิฉันเห็นแก้วชอบทำแบบนี้กับอ๊อด ก็เลยเอามาใช้กับพี่องอาจบ้าง
แต่มันสร้างความภูมิใจให้ผู้ชายได้ดีจริง ๆ เลยใช่หรือปล่าว

ต้องแกล้งหยอด แกล้งออดอ้อนบ้าง
ทำเป็นขอพึ่ง ขอพักพิง ผู้ชายคนไหนละจะไม่ชอบ
ร้อยทั้งร้อยเสร็จผู้หญิงหมดแหละ..

อ้อนไปอ้อนมาพี่องอาจคงทนไม่ไหวดึงดิฉันไปจูบ
อ้าว...จูบมาก็จูบตอบไปซิ...ก็ตัดสินใจแล้วนิ

เราจูบกันครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ
จูบกันจนดิฉันอ่อนระทวยไปทั้งตัว ต้องอิงแอบแนบกับอกพี่เค้า
มือพี่องอาจลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังดิฉัน

มือผู้ชายนี่ก็มีพิษสงมากเหมือนกันนะ
ทำเอาดิฉันซ่านสยิวน่าดู
พี่องอาจลูบไล้แผ่นหลังดิฉันไปเรื่อย ๆ พร้อม ๆ ก้มลงหอมเรือนผม
ดิฉันจึงตัดสินใจเงยหน้าขึ้นไปประกบปากจูบดูดลิ้นอีกครั้ง

ครั้งนี้ดิฉันว่าเราจูบกันรุนแรงกว่าทุกครั้ง
ยิ่งตอนที่ดิฉันแอ่นอกขึ้นทำให้เต้านมอวบของดิฉันถูไถกับอกเค้า
พี่องอาจก็คงสุดทนยกมือขึ้นมาตระกองเต้านมของดิฉันคลึงจนเต็มมือ

เฮ่อ..เพิ่งรู้นะ..ว่าการถูกคลึงนมนี่มันสร้างความอ่อนระทวยให้มากถึงขนาดนี้
ยิ่งมือเค้าไปบดตรงหัวนม มันเสียวมาก ๆ เลย

พี่องอาจคลึงเคล้าเต้านมดิฉันไปเรื่อย ๆ แม้จะถอนปากออกแล้วก็ตาม
ดิฉันยอมรับคะ..ว่ามันเพลินดีเหมือนกันเลยปล่อยเค้าทำ

แต่ไม่แค่นั้นซิคะ..จากการเคล้าคลึงนอกเสื้อพี่องอาจสอดมือเข้าไปในเสื้อยืด
เข้าไปสัมผัสกับบราตัวงามของดิฉัน
เค้าใกล้ชิดเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง
ดิฉันก็ยังไม่ห้ามเค้าอีกนั่นแหละ
หลับตาพริ้มแล้วบีบปากกัดฟันเมื่อเกิดความเสียวขึ้น

พี่องอาจเห็นเข้าาก็ประกบปากจูบอีก
ดิฉันยกมือขึ้นโอบรอบคอเค้ายกตัวขึ้นทำให้เกิดช่องว่างทางด้านหลัง
พี่องอาจจึงเลื่อนมือสอดเข้าไปด้านหลังปลดตะขอบราของดิฉัน
รู้ตัวนะ..แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย
มัวบดปากกับพี่เค้าอย่างเมามันนี่นา

ทีนี้ก็ฝ่ามือพี่เค้ากับเต้านมเนื้อแท้ของดิฉันก็เจอกันแบบเต็ม ๆ
พอสัมผัสถูกก็สดุ้งเหมือนกันนะ
มันสยิวอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งนิ้วมือพี่เค้าบีบบี้ตรงหัวนมไปมา
พอเสียวดิฉันก็เลยยื่นหน้าประกบปากจูบปากพี่เค้า
ทำอยู่แบบนั้นแหละ..จนเกร็งไปทั้งตัว

"วิ..ขอพี่ดูนะ..."
พี่องอาจกระซิบข้างหู
ดิฉันไม่กล้าตอบหรอก แต่ก็พยักหน้ายิก ๆ ข้างแก้มเค้า

พี่องอาจจึงค่อย ๆ ดันเสื้อยืดดิฉันขึ้นแต่มันก็เกี่ยวบราขึ้นมาด้วย
เท่านั้นเองเต้านมทั้งสองเต้าโผล่ออกมา
พี่องอาจขยับตัวขึ้นนิดนึง เพื่อจะมองให้ถนัด ๆ

ไม่รู้ละ..คงจะถูกใจพี่เค้าหรือไงก็ไม่รู้ตัวสั่นเชียว
"สวย..จัง..วิ...โอววว..."

พี่องอาจจับตัวดิฉันให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้
ดิฉันทำตามลุกขึ้นเสื้อยืดก็เลยตกลงมาปิดเต้านมตัวเองไว้เหมือนเดิม

พี่องอาจดึงตัวดิฉันให้มานั่งบนตัก
แล้วจับสื้อดิฉันรูดขึ้นใหม่
ตาเรามองสบตากันนิ่งนาน
พี่องอาจดึงเอาสื้อและบราของดิฉันออกจากแขนวางไว้ข้าง

ดิฉันโชว์เต้านมอวบกับสายตาโดยไม่มีอะไรปิดบัง
มันก็เขินและอายด้วยเหมือนกันนะ ก็เลยโผเข้ากอดเค้าไว้แน่น
ดิฉันรู้สึกว่าที่โคนขาดิฉัน ทับท่อนแข็งของพี่องอาจ

อะไรจะเกิดก็ให้มีเกิดไปเลย
ตอนนั้นดิฉันคิดแบบนั้นจริง ๆ
แล้วอยู่ในช่วงปลอดภัยมันไม่น่าห่วงสักเท่าไหร่
ภาพที่ดูดีวีดีของแก้วกับอ๊อดปรากฎขึ้นในหัวเป็นฉาก ๆ

พี่องอาจจูบที่ยอดอกดิฉันฟอด ๆ
ดิฉันสอดมือคล้องคอพี่เค้าเอาไว้กันหล่น
แอ่นตัวออกให้พี่เค้าหอมได้ถนัด ๆ

จากยอดอกพี่เค้าก็หอมไล่ลงไป
ในที่สุดดิฉันก็ต้องเกร็งแบบสุดตัว
ก็..พี่..พี่..เค้าจูบแล้วดูดหัวนมแล้วดูดจนดังจ๊วบ ๆ

โอววว...มันเสียวแบบนี้นี่เอง..ตอนที่เห็นแก้วโดนก็รู้สึกไม่เท่าไหร่
โดนกับตัวเองนี่..โอยยย....อยากครางแบบแก้วมั่งจัง
แต่ก็ไม่กล้าทำหรอก..กัดฟันเสียแน่นแอ่นอกหราเลย

โอ๊ยยย...มันเสียวจริง ๆ ด้วย
นี่แค่โดนดูดหัวนมนะ...
ถ้า..โดน...เหมือนแก้ว...อาาา..ไม่อยากคิดเลย

พี่องอาจดูดหัวนมข้างซ้ายบ้างข้างขวาบ้างอย่างหิวกระหาย
ดิฉันคิดว่าตรงนั้นของดิฉันคงแฉะไปหมดแล้วแหละ
มันเสียวมาก ๆ ชาเห่อไปทั้งตัว
ตรงนั้นรู้สึกยุบยิบ ๆ เสียวมาก ๆ

จากดูดนม หอมนมจนพอใจ
พี่องอาจเงยหน้าดึงดิฉันเข้ามากอดแล้วประกบปากจูบแลกลิ้นกันอีก
ดิฉันได้แต่โอนอ่อนผ่อนตามพี่เค้าไปเรื่อย ๆ แค่นั้นเอง

ปากจูบดูดลิ้นมือพี่เค้ารัดตัวดิฉันแน่น
ดิฉันเลยแกล้งบดเต้านมกับอกเค้าก็เคยเห็นแก้วทำแบบนี้นี่

พอถอนปากดิฉันหายใจยาว
ก็อยากระบายความเสียวสยิวออกไปกับลมหายใจ
แล้วดิฉันก็จูบไซ้ที่ซอกคอพี่องอาจตอบแทนบ้าง
พอไล่ขึ้นมาถึงซอกหูก็ทำให้พี่องอาจเกร็งเขม็งขึ้นมาทันที

"วิ...วิ...อูวววซซซ์...พี่...โอววว..."
ยิ่งได้ยินเสียงดิฉันก็เหมือนหน้ามืดแลบลิ้นเลียตรงใบหู
พี่องอาจกระตุกริก ๆ ครางระงม

พี่องอาจกอดรัดตัวดิฉันไว้แน่นแล้วลุกขึ้นอุ้มดิฉันเอาไว้
ดิฉันรีบโอบรอบคอบพี่เค้าเอาไว้กลัวหล่น
พี่เค้าพาดิฉันดินออกจากห้องไปยังห้องนอนของดิฉัน

พี่องอาจวางดิฉันลงบนเตียง
ดิฉันเขินจนต้องเอามือปิดเต้านมทั้งสองข้างเอาไว้ แม้จะไม่มิดก็ตาม
พี่องอาจคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ดิฉัน
ตาเรามองสบตากันนิ่งในนั้นเหมือนจะถามตอบ ๆ อะไร ๆ กันมากมาย
แล้วคำตอบในสายตาดิฉันคงจะบอกอะไร ๆ พี่เค้าหมด

พี่องอาจก้มตัวลงตรงหน้าท้องดิฉันไล่ลงที่หลุมสะดือ
โห...มันทั้งเสียทั้งจั๊กจี้จนดิฉันดิ้นพลาด ๆ ทีเดียว
ยกมือที่ปิดอกออกจับหัวพี่องอาจเอาไว้แน่น
เหมือนพยายามหยุดการส่ายขยี้ไปทั่วหน้าท้อง

พี่องอาจเงยหน้าขึ้น
"หอมเหลือเกินวิ..."
ดิฉันไม่กล้าลืมตามองได้แต่หลับตาพริ้มปล่อยให้พี่องอาจทำตามใจชอบ
แต่รู้สึกตัวนะคะว่าพี่เค้าทำอะไรบ้าง

อย่างตอนนี้พี่เค้าค่อย ๆ ปลดตะขอกางเกงแล้วรูดกางเกงดิฉันออก
เฮ่อ..เป็นไงเป็นกัน..ดิฉันขยับแอ่นก้นขึ้นให้รูดออกอย่างสะดวก
นานทีเดียวที่พี่เค้ารูดออกจากปลายเท้า
จนดิฉันอดไม่ได้ที่จะปรือตามอง

พี่องอาจตะลึงมองตรงที่กางเกงในของดิฉันที่ยังปิดอยู่
วันนี้ดิฉันใส่กางเกงในตัวบางสีขาวอีกต่างหาก
ดิฉันดูในกระจกตอนเช้าแล้วใยไหมดำที่แผ่หย่อมน้อย ๆ เหนือเนินนูนเห็นชัดเจน

พี่องอาจตะลึงอยู่นานแล้วก็ถอนหายใจพรืดอย่างสุดกลั้น
ดิฉันว่าพี่เค้าต้องกลั้นหายใจเอาไว้แน่เลย
เพราะดิฉันเองตื่นเต้นจนหัวใจเต้นตูมตามเป็นรัวกลอง

พี่องอาจจับขาดิฉันให้อ้าออก แล้วสอดตัวเข้าไปอยู่กลางหว่างขา
ตอนแรกดิฉันก็ยังเกร็งเอาไว้บ้างเหมือนกัน
แต่พอมาคิดดูอีกทีก็ตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน
เลยปล่อยให้พี่เค้าเป็นคนนำก็แล้วกัน

พี่องอาจก้มหน้าลงจนดิฉันคิดว่าน่าจะห่างจากเนินนูนไม่กี่นิ้ว
แล้วดิฉันก็ต้องร้อง อูยยยซซซ์
พี่องอาจฟุบหน้าลงหอมตรงนั้นของดิฉันฟอด ๆ
เค้ากล้าทำขนาดนั้นเลยเหรอ...

โอววว..พี่องอาจขา...
ดิฉันพึมพำในใจไม่กล้าให้ออกมาจากปาก

ดิฉันเพิ่งรู้เดี่ยวนี้เองว่า
การเสพสมนะไม่ใช่แค่เพียงการสอดใส่แล้วกระทำเท่านั้น
ข้อเท็จจริงมันยังขึ้นกับอารมณ์ จิตใจ และจินตนาการของกันและกันเป็นสำคัญอย่างหนึ่ง

เหมือนตอนนี้ในสมองดิฉันปรากฎภาพพี่องอาจจูบเฟ้นฟอนเนินเนื้อ
ความกระสันต์สวาทภายในใจเพิ่มขึ้นแทบสุดกลั้น
อาจจะบอกได้ว่าเข้าใกล้จุดสอดยอดไปทุกที

ดิฉันเสียวจนต้องแอ่นสะโพกขึ้นร่อนรับการเฟ้นฟอน
อยากจะร้องครางแต่ก็ไม่กล้าทำ
พยายามกัดฟันแน่นไม่ให้มีเสียงใด ๆ เล็ดรอดออกมา
มีแต่การสะท้อนของลมหายใจจนมีเสียงเฮือก ๆ เป็นระยะ

ขาที่พยายามหนีบแน่นของดิฉันก็ค่อย ๆ อ้าออกทีละนิด ๆ อย่างไม่รู้สึกตัว
แล้วในที่สุดขณะนี้ดิฉันงอเข่าขยับขาเข้ามาทำให้โดยอ้าขาออกไปจนสุด
ท่านี้เป็นเป็นท่าที่เปิดเผยเนินนูนจนเต็มที่
ใบหน้าพี่องอาจซุกไซ้ขยี้ทั้งเนินและกลีบทั้งสองได้ถนัดถนี่

ดิฉันเสียวมาก ๆ มันเสียวกว่าที่ดิฉันช่วยตัวเองเป็นไหน ๆ
ไม่เพียงแต่เสียวอย่างเดียว ภายในของดิฉันขมิบยิก ๆ ยังไงก็ไม่รู้
ตอนช่วยตัวเองยังไม่รุนแรงเท่านี้เลย

ในที่สุดดิฉันก็สุดที่ต้านทานเอาไว้ได้
เสียงซี้ดเริ่มออกจากริมฝีปากอย่างแผ่วเครือ ๆ
แล้วก็ค่อยดังมากขึ้นจนพี่องอาจได้ยิน

พี่เค้าดันตัวขึ้นก้มลงกอดจูบปากดิฉันอีกครั้ง
ดิฉันสนองตอบอย่างรุนแรงและเต็มอารมณ์

พี่องอาจถอนปากออกดันตัวขึ้นมองหน้าดิฉันที่ปรือตาเยิ้มหัวใจเต้นเป็นรัวกลอง
"วิ..พี่ถอดนะ..."

ดิฉันหลับตาพริ้มไม่กล้ามอง ไม่กล้าตอบหรอก นอนตัวแข็ง
มอบให้พี่องอาจตัดสินใจเอาเองก็แล้วกัน

พี่องอาจขยับตัวขึ้นเอามือเกี่ยวขอบกางเกงในที่ข้างเอวแล้วรูดลง
ดิฉันรู้สึกว่ามือพี่องอาจก็สั่นรัวเช่นกัน

เฮ่อ..ในที่สุดดิฉันก็แอ่นก้นให้รูดออกได้สะดวกเหมือนเดิม

ตอนนี้ดิฉันเปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวแล้ว
เป็นครั้งแรกในชีวิตสาวที่เปลื้องผ้าต่อหน้าคนอื่น
แล้วคนนั้นเป็นผู้ชายอีกต่างหาก

พี่องอาจเอากางเกงมายกขึ้นแล้วบอกดิฉันว่า
"วิ..เปียกเป็นวงใหญ่เลย..."

ดิฉันยกมือขึ้นปิดหน้า..ก็มันน่าอายนี่คะ
มันเปียกเป็นวงขนาดนั้น แสดงว่าดิฉันหลั่งหล่อลื่นออกมาเยอะมากเลย

"อย่าอายซิ...นี่พี่นะ..."
นั่นซินะ..ถึงขนาดนี้แล้ว ดิฉันยังจะอายเค้าไปทำไม

ดิฉันตัดสินใจที่จะมอบให้เค้าแล้วนิ
แต่ก็ต้องให้เวลาทำใจอีกหน่อยนะ..คงไม่ใช่ในครั้งแรกนี้

พี่องอาจม้วนกางเกงในแล้วโยนไปที่ปลายเตียง
จากหน้าก็ก้มลงมองเนินเนื้อดิฉัน
ตาพี่องอาจเบิ้งโตแวววาวเหมือนแปล่งประกายออกมาทีเดียว

เค้ามองเนินเนื้อแล้วก็มองหน้าดิฉันแล้วก้มลงมองเนินเนื้อสลับไปมา
ดิฉันไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไร
แล้วพี่ค่อยสอดมือเข้าไปตรงใต้ข้อพับดิฉันแล้วดันออก
ดิฉันปล่อยไปตามที่พี่เค้าต้องการไม่ขัดขืน
ขาทั้งสองของดิฉันอ้าออกงอเข่าเล็กน้อย

มานึกดู..
ท่านี้กลีบทั้งสองของดิฉันคงถูกรั้งจนแยกอ้าออกไม่น้อยแน่เลย

ดิฉันหรี่ตามองอาการของพี่องอาจ
พี่องอาจหน้าแดงก่ำ หายในฟืดฟาด สายตาที่มองนะลุกวาว

ดิฉันเห็นแววตาแล้วกระตุ้นอารมณ์เหลือเกิน
พี่องอาจก้มตัวลงฟุบกับที่นอน
แล้วก้มลงจูบที่เนินเนื้อแท้ ๆ ของดิฉันทันที

สะดุ้งจริง ๆ คะ..สะดุ้งไปทั้งตัวเลย...
จมูกของพี่เค้าซุกเข้าไปกลางร่องแน่เลย

พอพี่เค้าขยับใบหน้ามันก็ครูดร่องของดิฉันเต็ม ๆ
โอ๊ยยยย...เสียวแบบนี้เหรอ..โอวววว...พี่องอาจขา...
ดิฉันร้องคร่ำครวญอยูในใจ

ที่ร้องนะไม่ใช่ไม่ต้องการ ไม่ยินดี
แต่เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

แล้วดิฉันต้องสะดุ้งอีกครั้ง
ลิ้นพี่เค้าเริ่มที่จะกวาดแกว่งไปทั่วร่อง

โอวววว..มันเสียวอะไรขนาดนั้น
"อูยยซซ์.....ซี้ดดด...."

ดิฉันพยายามให้เสียงร้องออกมาเบา ๆ และพยายามให้สั้นที่สุด
ดิฉันผ่อนออกมาเป็นลมหายใจที่ยาวและแรง
การกระตุกเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนเคลื่อนขึ้นลงตามความเสียว

บางทีดิฉันกระตุกจนตัวงออย่างฝืนยังไงก็ไม่อยู่
ลิ้นของผู้ชายมันไร้กาจถึงเพียงนี้เชียวหรือ

โห..มันเสียวจริง ๆ ดิฉันเกร็งกระตุก ๆ จนเสร็จเรียบร้อยไปทันที
แต่พี่องอาจยังไม่หยุด
ลิ้นไร้กาจของไล้ไปที่กลีบขึ้นมาจนชนจุดสำคัญที่อยู่ด้านบน
อีกไม่กี่ครั้งดิฉันก็เกร็งกระตุกอีกแล้ว

ดิฉันถึงจุดสุดยอดอีกครั้งตอนที่ลิ้นของพี่เค้าเหมือนเกร็งแหย่เข้าที่ช่องแล้วกดยิก ๆ
สะโพกดิฉันเกร็งแอ่นยกลอยจนไม่ติดที่นอน
ส่ายริกบดกับใบหน้าพี่เค้าเหมือนอยากให้มันติดคาอยู่แบบนั้นนานเท่านาน

ดิฉันทิ้งตัวลงนอนแผ่หราเหมือนหมดแรงกาย
แต่แรงกระหายอยากยังไม่หมด
พี่องอาจจัดการถอดเสื้อผ้าของเค้าออกโดยเร็ว
ดิฉันปรือตามองอย่างหวั่น ๆ และตื่นเต้นแล้วดิฉันตัดสินใจยันตัวลุกขึ้น

"พี่องอาจ..แค่นี้ก่อนนะพี่...วิ..ไม่ไหวแล้ว..."
...................

----------------------------------------------------------------