ep5

ถ้าจะบอกว่านัดครั้งแรกของผมกับน้องนิด จบด้วยการไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากที่บอกในตอนที่แล้ว จะมีใครเชื่อบ้างมั๊ยครับ แต่ความจริงอย่างไรมันก้คือความจริงอยู่นั่นเอง ผมจำได้แม่นยำมากว่าตอนที่ผมเอามือไปวางบนตักน้องเค้านั้น ตัวน้องนิดสั่นมากมือเย็นเฉียบของน้องนิดที่ยื่นมาจับมือผมบีบเบาๆนั้น ผมรู้ว่าน้องเค้าแค่จับมือผมยึดไว้เหมือนเป็นที่พึ่งพาเท่านั้น หาได้ยึดแน่นแข็งขืนถ้าผมจะลองเลื้อยมือไปสัมผัสร่างกายส่วนอื่นของน้องนิด แต่ผมก็ไม่ทำเช่นนั้น ตลอดเวลาที่หนังยังฉายอยู่ ผมเพียงแค่ยื่นแขนซ้ายไปโอบไหล่น้องเค้า ดึงร่างสูงระหงนั้นให้เอนเข้ามาหาตัวผมจนหน้าของเราแทบจะแนบติดกัน ตาน้องเพ่งมองภาพยนต์ในจอ ส่วนตาผมเพ่งมองวงหน้าแสนสวยอย่างหลงไหล

นานๆครั้งที่น้องจะเบือนหน้ามาสบตาผมพร้อมส่งยิ้มให้ ผมก็จะถือโอกาสนั้นจูบเบาๆ แถวๆหน้าผากบ้าง แก้มนวลบ้าง เป็นการจูบแบบถนุถนอม อบอุ่นไม่ได้จูบเพื่อหวังปลุกความกำหนัดให้เกิดขึ้นในหัวใจที่เต้นโครมครามของน้องนิดเลยจวบจนกระทั่งหนังฉายจบ ผมไม่รู้เลยสักนิดว่ามันเรื่องอะไร พอไฟสว่างขึ้นผมรอให้คนอื่นๆออกไปก่อนยังไม่ลุกขึ้น สาเหตุน่ะหรอ เพราะส่วนอื่นในร่างกายของผมมันลุกโชนแข็งปั๋งไปตั้งแต่หนังเริ่มฉายเสียแล้ว ผมเกรงสายตาผู้คนที่เดินสวนกัน คงมองไม่เหมาะที่ตาแก่ควงสาวสวยออกมาจากชมภาพยนต์ด้วงเป้ากางเกงตุงโป่งขึ้นเป็นลำ จริงมั๊ยครับ

วันนั้นผมขับรถไปส่งน้องนิดที่ท่าน้ำจังหวัดนนท์บุรี น้องนิดบอกว่าข้ามเรือไปแปบเดียวก็ถึงบ้านเธอแล้ว อีกทั้งไม่อยากให้ผมขับรถอ้อมไปส่งถึงใกล้ๆบ้านเกรงคนรู้จักจะเห็น แล้วไปบอกพ่อแม่ ซึ่งผมก็เข้าใจอยู่แล้วละครับ ไม่อยากทำให้นัดครั้งแรกของเรา กลายเป็นการนัดครั้งสุดท้าย

พอส่งน้องเค้าแล้วผมก็รีบขับรถกลับคอนโดย่านเพลินจิต ชีวิตหนุ่มโสดของผมช่วงนั้นชอบอาศัยอยู่ในคอนโดเสียมากกว่าไปอยู่ที่บ้านย่านรามอินทรา พอผมถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะหาความสุขกับน้องเค้าเหมือนเช่นเคยทำ เริ่มจากการออนเอ็ม พอน้องเค้าออนมาเราก้คุยกันแบบสยิวๆ อุ่นเครื่องที่ร้อนรุ่มจากการดูหนังให้ยิ่งเร่าร้อนกันขึ้นทั้งสองฝ่าย จนท้ายสุดก็sex phone กันอีกตามเคย แต่ครั้งนั้นผมจำได้ว่า ผมค่อนข้างจะวิตถารไปสักหน่อย

น้องนิดเคยบอกกับผมตั้งแต่เราคุยกันในปีแรกว่า ครอบครัวญาติพี่น้องทางฝ่ายพ่อของเธอนั้นมีที่ดินเป็นผืนยาวติดค่อนอยู่ประมาณเกือบ20ไร่ พอปู่ย่าถึงแก่กรรมก็โอนมรดกแบ่งให้ลูกๆทั้ง5คนเท่าๆกัน พ่อของเธอเป็นลูกคนกลางที่ดินบ้านเธอนั้นด้านหน้าอยู่ติดถนนบางกรวย-ไทรน้อย เป็นถนนสายเล็กๆ สามารถขับรถลัดเลาะไปออกถนนจรัลสนิทวงศ์ตรงใกล้ๆการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ ส่วนด้านหลังที่ดินเป็นคลอง ญาติพี่น้องฝ่ายพ่อต่างก็ปลูกสร้างบ้านของแต่ละคนในที่ดินของตนเอง บ้านเธอจะอยู่ริมซ้ายสุดของที่ดิน แล้วถัดๆไปด้านขวาก็เป็นบ้านป้าบ้านลุงเรื่อยๆไปตามลำดับ นั่นคือรายละเอียดที่ผมพอจะทราบได้

อย่างที่บอกว่าคราวนี้ผมsex phone กับน้องนิดค่อนข้างวิตถารสักหน่อย คือระหว่างที่เรากำลังคุยกันผมบอกให้น้องนิดไปยืนตรงหน้าต่างแล้วแง้มม่านออกหน่อยๆ แล้วถามน้องนิดว่าเห็นอะไรบ้างมั๊ย น้องนิดตอบมาว่าด้านข้างนั้นเป็นบ้านเช่า
"แล้วน้องเห็นใครในบ้านเช่ามั๊ย"
"เห็นค่ะ..ผู้ชายคนหนึ่ง...ยืนอยู่ในห้องชั้นสอง หน้าต่างบ้านเค้าเยื้องๆกับหน้าต่างห้องนิดพอดี"
"เห็นมั๊ยจ๊ะว่า...คนนั้นทำอะไรอยู่...แล้วน้องรู้จักผุ้ชายคนนั้นมั๊ย"
"นิดว่าน่าจะกำลังดูทีวีนะคะ....เคยเห็นหน้าค่ะ แต่ไม่เคยคุยกัน"
"งั้นดีละ พี่อยากให้น้องเปิดม่านหน้าต่างให้กว้างสักครึ่งหนึ่ง พอทำได้มั๊ยที่รัก"
"พี่เก่งจะให้ทำอะไรคะ...."
"พี่อยากให้น้องจินตนาการว่าโดนพี่เย็ดที่หน้าต่างแล้วมีผู้ชายคนนั้นแอบดู..."

แล้วผมกับน้องนิดก็เล่นกันเราปลดปล่อยอารมณ์กันอย่างเต็มที่ ผมให้น้องนิดเปลื้องเสื้อผ้าออกให้หมดจนเปลือย ให้หันหน้าไปทางหน้าต่างนั้นแล้วโก่งโค้ง ผมจะสอดใส่เธอทางด้านหลัง น้องนิดก็ทำตาม(ผมเชื่อว่าเธอทำตามทุกคำพูดที่ผมบอกจริงๆนะครับ) เราทำรักกันจนใกล้จะเสร้จ น้องนิดก็พูดขึ้นว่า
"ว๊ายพี่เก่งคะ....ผู้ชายคนนั้นมายืนมองนิดตรงหน้าต่างอ่ะ...."จากนั้นโทรศัพท์ก็ถูกตัดสาย ทำให้ผมค้างคา แม้จะพยายามโทรไปหาอีกหลายครั้ง ดูเหมือนน้องนิดจะปิดสาย ผมรอจนกระทั่งดึกจึงเห็นน้องนิดออนเอ็มมา ผมก็ถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...แค่นิดตกใจเลยทำโทรศัพท์หล่น พอดีพ่อแม่กลับจากสวนเลยไม่ได้คุยต่อ" เธอแชทมาแบบนี้ แต่ในความรู้สึกของผม ว่ามันไม่ใช่แค่นี้ แต่ด้วยรุ้นิสัยกันดีว่า ถ้าเธอบอกแค่นี้แบบนี้ ผมก็ไม่ควรเซ้าซี้ลุกไล่ถามต่อ เพราะเธอจะงอนผม แล้วพาลให้การคุยกันไม่สนุก ผมจึงเปลี่ยนเรื่องสนทนา ส่วนเรื่องอารมณ์ที่ค้างคานั้น ต่างก็มอดไหม้จนจุดไม่ติดเสียแล้ว คืนนั้นจึงเพียงได้แต่คุยกันธรรมดาๆจนเข้านอน

หลังจากวันนั้นผมกับน้องนิดก็นัดเจอกันอาทิตย์ละครั้งบ้างสองอาทิตย์เจอกันสักครั้งบาง แต่ทุกครั้งผมยังคงไม่รีบเร่งที่จะรวบรัดเอาเธอเป็นของผม ผมปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างใจเย็นไม่เร่งรีบ พัฒนาการเพิ่มไปบ้างก็เพียงแค่จูบปากกันบ่อยขึ้น (โดยไม่ได้สอดลิ้นเข้าไป) ผมลูบไล้ขาเธอบ่อยขึ้นโดยหยุดยั้งมือเอาไว้เพียงแค่โคนขา ผมยังไม่เคยกล่ำกลายฝ่ามือลูบสูงขึ้นไปสักครั้ง ถามว่าถ้าจะทำจริง ทำได้มั๊ย ทำได้ครับ เพียงแค่ผมยังไม่อยากเร่งรีบนัก เธอยังเด็กเรียนมหาวิทยาลัยแค่ปีสอง ผมยังไม่อยากทำลายอนาคตของเธอ เพราะผมพอทราบนัยๆในเรื่องครอบครัวของเธอว่าค่อนข้างหัวโบราณ การที่จะให้ครอบครัวเธอยอมรับผมเป็นเขยทั้งที่มีอายุแก่เท่ากับพ่อของเธอนั้น คงเป็นเรื่องยาก
คงด้วยหตุนี้กระมังทำให้ผมไม่ปรารถนาที่จะชิงสุกก่อนห่าม ถ้ายังไม่มั่นใจว่าผมจะพิชิตชัยเอาชนะครอบครัวเธอได้ ผมสัญญากับตัวเองจะไม่ล่วงเกินพรากความสาวไปจากตัวเธอ

ep6

[post]ช่วงหลังจากนั้นผ่านมาสองเดือนจนน้องนิดเปิดภาคเรียนขึ้นปีสาม ความสัมพันธ์ของผมกับเธอก็ดำเนินไปเรื่อยๆยังไม่มีเรื่องอะไรหวือหวามากนัก เรายังคงคุยกันทุกคืน นัดเจอกันอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งผมจะเลือกพบกันในสถานที่สาธารณะ ผมหลีกเลี่ยงที่จะไปพบเธอที่หอพัก หรือที่คอนโดของผม ทั้งนี้เพื่อเป็นการปิดโอกาสของตนเองในการอยู่กันสองๆต่อสองในที่รโหฐาน หลังจากการไปออกเดท ผมก็มาเล่นsex phone กับน้องนิดทันทีที่ต่างคนต่างถึงที่พัก
อย่าคิดว่าผมเป็นโรคจิตนะครับ ที่ไปเที่ยวกับสาวสวยแต่กลับไม่ทำอะไร กลับมาชักเว่าช่วยตัวเองที่บ้าน ขอให้เข้าใจตัวผมสักหน่อยว่า สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้เพราะอะไร

พอเปิดภาคเรียนปีสามไปได้สักเดือนหนึ่ง ครอบครัวญาติๆลุงป้าน้าอารวมทั้งพ่อของน้องนิดตัดสินใจขายที่ดิน
มรกดให้กับนายทุนที่จะทำบ้านจัดสรรไปยกแปลง เพียงแต่พ่อน้องนิดผู้เดียวที่เก็บที่ดินบริเวณบ้านไว้1ไร่ ซึ่งปัจจุบัน
ที่ดินผืนนั้นก้คือบ้านที่ผมกับน้องนิดอาศัยอยู่นั่นแหละครับ พอพวกญาติ ๆ ขายที่ดินกันไปหมดแล้วคงได้เงินมาค่อนข้างมาก จึงอพยพย้ายครอบครัวไปเปิดร้านอาหารที่อเมริกา เนื่องจากพี่ลูกป้าของน้องนิดเรียนจนจบปริญญาตรีที่นั่น
จึงได้ศึกษาปูทางไว้ก่อนแล้ว ส่วนบ้านของน้องนิดไม่ได้ไปด้วย อันนี้ผมก็ไม่ทราบถึงเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ย้ายตามกันไปหมด แต่ก็ดีสำหรับผม เพราะขืนย้ายตามกันไปด้วย น้องนิดก็คงต้องตามพ่อแม่ไปเช่นกัน

พอเริ่มมีเงินจากการขายที่ พ่อน้องนิดก็ซื้อรถให้เธอขับ แล้วซื้อห้องคอนโดย่านบางพลัดไว้หลายห้องกะเอาไว้เปิดให้เช่า พร้อมกับยกห้องหนึ่งให้เป็นกรรมสิทธิ์ของน้องนิด ช่วงที่นั้นผมก็น้องนิดเลยดูห่างๆกันไปโดยปริยาย เพราะไหนเธอจะต้องยุ่งวุ่นวายเรื่องการเรียน การหัดขับรถ การตกแต่งหักพักของเธอ แต่ที่แปลกและข้องใจติดใจมาตลอดว่าทำไมเวลาเธอตกแต่งห้องคอนโด เธอถึงไม่ปรึกษาผมแม้สักครั้ง ทั้งๆ ที่น้องนิดก็รุ้ว่าผมเป็นสถาปนิก ออกแบบตกแต่งบ้าน

การที่เราห่างๆกันในช่วงนี้ตอนแรกผมก็ใจไม่ค่อยดีเลยว่าจะสูญเสียเธอไป แต่กลับเป็นตรงกันข้าม พอน้องนิดขับรถได้คล่อง ตกแต่งห้องพักในคอนโดเสร็จสิ้น พ่อแม่น้องนิดก็ขอให้ย้ายกลับมาอยู่บ้าน แล้วน้องนิดก็กลับมาคุยกับผมเหมือนเดิม เรานัดพบกันทันทีหลังจากที่ไม่ได้sex phone กันร่วมสองเดือน

เรานัดพบกันที่ศูนย์การค้าใกล้ๆบ้านเธอ ในระหว่างที่ผมกำลังรถไปหานั้น ผมโทรเข้าไปที่เครื่องของน้องนิดจุดประสงค์ก็แค่อยากรู้ว่าน้องนิดไปถึงแล้วหรือยัง เนื่องจากวันนั้นรถค่อนข้างติด ทำให้ผมเลยเวลานัดหมายมาเกือบชั่วโมงแล้ว ปรากฎว่าน้องนิดก็เพิ่งมาถึงยังอยู่บนปาร์คกิ้งชั้น4ซึ่งเป็นชั้นบนสุด รถค่อนข้างน้อยเนื่องจากเธอยังไม่ค่อยชำนาญในการถอยหลังจอด ผมก็คุยกันไปเหมือนเรื่อยๆ ในระหว่างที่ขับรถ ไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็น sex phone แต่แล้วพอคุยกันไปคุยกันมา มันดันกลายเป็นsex phoneได้อย่างไรก็ไม่ทราบ

คราวนี้พอกลายเป็นsex phone แล้ว ผมก็หยุดไม่อยู่ ด้วยความที่เราสองคนห่างจากเรื่องแบบนี้ร่วมสองเดือน ทำให้ผมพลั้งปากพูดออกไปว่า
"พี่เก่งอยากเลียหีน้องจริงๆสักครั้งจะได้มั๊ยครับ" น้องนิดอึ้งไปชั่วครู่ เสียงก็เริ่มกระเส่า ย้อนถามกลับมาว่า จะทำจริงๆหรอคะ พอผมยืนยันว่าอยากทำจริงๆ ในรถผม
"ได้ค่ะ....." เสียงน้องนิดกระซิบแผ่วโหย แล้วบอกให้ผมขับรถมาจอดใกล้ๆรถเธอ  

ผมขับรถวนไปจนถึงชั้นที่4 น้องนิดจอดรถอยู่ด้านริมสุดรอบข้างไม่มีรถคันใดจอดอยู่ใกล้ๆเลย อาจเพราะว่าห้างเพิ่งเปิด รถที่มาใช้บริการจึงจอดอยู่ในชั้นล่างๆให้เต็มก่อนก็เป็นได้ พอผมนำรถไปจอดด้านข้างติดกับรถของน้อง เธอก็รีบเปิดประตูรถเธอลงมาแล้วรีบขึ้นมาที่รถของผม นับว่าเป็นโชคดีจริงๆของผม เพราะวันนี้น้องนิดใส่กระโปรงพรีทจีบรอบตัวยาวเหนือเข่าขึ้นมาเล็กน้อย จึงไม่ลำบากเลยที่ผมจะถลกกระโปรงเธอขึ้นมาแล้วซบหน้าลงไปยังน้องหมวยของเธอ

ยังจำได้ติดตามาจนทุกวันนี้ว่าพอน้องนิดขึ้นมานั่งบนรถผมแล้ว ผมก็ปรับเบาะนั่งด้านเธอให้เอนราบ แล้วถลกกระโปรง
ของน้องนิดขึ้นมากองที่เอว น้องนิดใส่กางเกงในสีขาวตรงเป้าเป็นลูกไม้ซีทรู ผมใช้นิ้วแตะตรงร่องกลีบเรียวแล้วกรีดนิ้วจากด้านล่างขึ้นมาจนถึงเม็ดเสียว นิ้วของผมก็สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่ร่องรัก ผมก้มหน้าต่ำลงไปจูบโหนกเนื้ออวบอูมของน้องอย่างหลงไหล กลิ่นหอมอ่อนๆโชยเข้าโพรงจมูก ร่องเสียวของน้องขมิบตัวยวบๆจนผมเห็นชัด มือน้องสั่นเย็นเฉียบเมื่อยกมือมาลูบหน้าลูบผมของผมด้วยความเสียวสยิว

ผมใช้นิ้วแหวกขอบกางเกงชั้นในเบี่ยงไปด้านข้าง กลีบแคมสีชมพูอ่อนๆก็ค่อยๆแพลมแย้มลอดออกมา ผมแลบลิ้นกวาดเลียลากไปตามความยาวของกลีบแคมเสียว น้ำหล่อลื่นของน้องก็ทะลักทะลายออกมาจากโพรงเสียวรสชาติเหมือนน้ำหวานใส่เกลือเล็กน้อย น้องนิดร้องอูยยยกระเด้งโหนกเนื้อใส่หน้าผมด้วยความสยิว แล้วใช้มือขยุ้มผมบนหัวผมแน่นเมื่อผมลากลิ้นไปกดคลึงที่เม็ดเสียวสีแดงเม้ดเล็ก ๆ ตรงส่วนบนของกลีบแคม

ตลอดเวลาเราสองคนไม่ได้พูดกันแม้แต่คำเดียว แม้แต่ตอนที่ผมใช้นิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในของน้องดึงลงมา น้องก็ขยับยกก้นขึ้นจากเบาะที่นั่งให้ความสดวก ผมรูดม้วนชั้นในของน้องจนหลุดลงมาที่ข้อเท้า แล้วหยิบมันขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอมกรุ่น ก่อนที่จะโยนไปที่เบาะหลัง แล้วก้มหน้าลงไปซบโหนกเนินเนื้อที่ประดับด้วยเส้นขนบางเบาละเอียดอ่อน ขาน้องนิดค่อยๆกางออกทีละนิดทีละหน่อยตามความเสียวสยิวที่ผมส่งผ่านปลายลิ้นไปยังร่องเสียว เสียงครางซี๊ดๆ อูยๆ
เร่งเร้าให้ผมเกิดความกำหนัดขึ้นอย่างมากมาย จนท่อนลำโป่งแข้งดันกางเกงออกมาเป็นลำเป็นก้อน

ปลายลิ้นผมกวาดไปมาตามขอบแคมเสียวสีชมพูอ่อนที่ตอนนี้สีมันเริ่มเข้มขึ้นตามความกำหนัดที่เพิ่มสูง แล้วตัดสินใจสอดปลายนิ้วกลางค่อยๆแยงแหย่เข้าไปช้าๆ น้องนิดร้องครางซี๊ดดด..เสียงดังขึ้นแต่ก้คงไม่ดังจนออกไปนอกรถ ผมสอดเข้าไปจนถึงครึ่งข้อนิ้วแล้วชักดึงออกมา น้ำหล่อลื่นก็ติดปลายนิ้วจนเป็นยางยืด น้องนิดเสียวสยิวจนยกสะโพกเด้งขึ้น ในจังหวะพร้อมกันกับที่ผมแทงนิ้วเข้าไปจนสุดลำ ซี๊ดดด....พี่เก่ง.....นิดเสียว....น้องนิดครางเสียงกระเส่า พร้อมยกสองมือของเธอขึ้นไปจับนมอวบกลมบีบคลึงหน้าตาแดงสร้านบ่งบอกว่าเสียวสยิวแค่ไหน

ผมรู้ว่าพอเว่าที่เริ่มติดลมบน มักต้องการลมแรงที่จะหนุนส่งให้มันลอยตัวอยู่ได้อย่างสง่างาม เฉกเช่นน้องนิดก็เหมือนกัน พอความกระสันเริ่มติดเครื่อง เธอก็ต้องความความรุนแรงหนักแน่นมากกว่าตอนเริ่มแรก ผมจึงค่อยๆเพิ่มนิ้วชี้เข้าไปในร่องเสียวของเธอ แล้วกระแทกนิ้วถี่ๆรัวๆ จนน้องดีดเด้งส่ายสะโพกตอบโต้ แคมเสียวบีบขมิบตัวถี่ยิบ มันตอดนิ้วผมจนรู้สึกถึงแรงบีบลึกภายในโพรงเสียว เสียงน้องนิดครางกระเส่าบอกติดๆขัดๆว่าใกล้แล้วๆ

ผมเพิ่มความเร็วของนิ้วขึ้น จนเกิดเสียงแจ๊ะๆๆๆๆ น้ำหล่อลื่นไหลทะลักจากปลายแคมเสียวหยดลงบนเบาะรถผมเป็นหย่อมๆ
"ถึง...ถึงแล้วค่ะพี่...ซี๊ดดดด" เสียงแตกพร่ากระเส่า บอกว่าบัดนี้เธอได้ถึงจุดหมายปลายทางเสียวเรียบร้อยแล้ว แต่ผมกลับยังไม่ยอมดึงนิ้วออก ผมสอดนิ้วทั้งสองเข้าไปจนสุดโคนแล้วหงายมือขึ้นปลายนิ้วผมสัมผัสได้ถึงจุดจีสปอร์ตตุ่มเล็กๆ จนาดเท่าปลายหัวนิ้วโป้งที่อยู่ลึกในโพรงเสียว ผมใช้ปลายนิ้วทั้งสองคลึงเล่นที่ปุ่มนั้น จนน้องนิดดิ้นบิดตัวร้องครางโอยๆ ซี๊ดๆๆๆ สะโพกยกส่ายแล้วค้างนิ่งกลีบเสียวขมิบตัวยวบๆถี่ยิบ แล้วน้ำใสๆสีขาวๆไร้กลิ่นก็พุ่งปริ๊ดๆๆ
ออกมาเป็นระลอกๆสามสี่ครั้งแล้วน้องนิดก็ทิ้งสะโพกที่ยกค้างลงเบาะที่นั่งอย่างหมดแรง

"มีความสุขมั๊ยที่รัก" ผมกระซิบแผ่วที่ริมหู พร้อมถือโอกาสนั้นจูบไซ้แก้มแดงปลั่งด้วยความรัก น้องนิดหันหน้ามาแล้วจูบตอบที่ริมฝีปากผม แล้วสิ่งที่เกินคาดถึงคือเธอพยายามแทรกปลายลิ้นเข้าในปากผม พอผมเผยอปากรับ ปลายลิ้นของเราทั้งสองก็เกี่ยวกระหวัดรัดรึงกันเหมือนงูเหลือมรัดเหยื่อ มือผมที่เลอะน้ำหล่อลื่นของน้องนิดยกขึ้นสัมผัสกับอกอวบกลมของเธอเป็นครั้งแรก อกอวบของน้องนิดคัดแข็ง แต่พอออกแรงบีบคลึงก็หยุ่นเด้งเหมือนภายในมีสปริงซ่อนอยู่ ผมทั้งจูบดูดปากแลกลิ้นอย่างหื่นกระหายสองมือก็บีบคลึงเล่นอกอวบอย่างไม่รุ้หน่าย ไม่สนใจสิ่งรอบข้างแม้สักนิดว่าจะมีรถคันใดมาจอดเทียบ[/post]

 ::DayDream::เอาใจช่วยคนแก่เหมือนกันครับ