ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ทับทิม PT3

เริ่มโดย darkfrl, มีนาคม 18, 2017, 08:59:02 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

darkfrl

จากตอนนี้เป็นต้นไปเป็นตอนที่ผมเขียนเมื่อเร็วๆนี้  หลังจากสองตอนก่อนหน้าตั้งสองปีเห็นจะได้  ไม่รู้ว่าสำนวนจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนนะครับ  ชอบแบบไหนก็แสดงความเห็นกันเข้ามาได้ครับ

Part3 : เพื่อนบ้าน
   
   ที่ดินตรงนั้นเดิมทีเป็นของครอบครัวชาวนาเล็กๆ ที่จับจองมาแต่ดั้งเดิม  ครั้นเมื่อชาวนาสองผัวเมียที่ไม่มีลูกสืบทอดมรดกล้มป่วยลง  แกก็ขายให้แก่เศรษฐีที่ดินหมู่บ้านข้างๆ  เอาเงินมาเลี้ยงชีพยามสิ้นเรี่ยวแรง  ซึ่งเจ้าของที่รายใหม่ก็ปล่อยให้แกทั้งคู่อาศัยอยู่จนหมดอายุขัยไป  แต่นั้นมาดูเหมือนว่าที่ดินแค่ไม่ถึงไร่ที่อยู่ติดถนนนั้นคงไม่มีใครสนใจอยากได้สักเท่าไร  เพราะมีขนาดที่ไม่ใหญ่นัก  ซ้ำยังอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับบ้านเก่าแก่ทรุดโทรมน่ากลัวสีขาวดูไม่เจริญตานั้นเสียอีก  ที่ดินจึงถูกทิ้งไว้เนิ่นนานจนกระทั่งผู้คนในละแวกนั้นลืมไปเสียแล้วว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริงแน่
   จนกระทั่งไม่กี่เดือนมานี้แค้มป์คนงานจึงถูกสร้างอย่างลวกๆ ตรงริมเขตแดนที่รกร้างนั้น คนงานจำนวนหนึ่งเข้ามาหักถางป่าพงรกเรื้อ  เข้าปลูกสร้างก่ออิฐถือปูนบ้านสองชั้นไม่ใหญ่นัก  กลุ่มคนงานต่างถิ่นที่ดูไม่ค่อยจะคบค้ากับคนท้องถิ่นเหล่านั้นไม่เคยเปิดปากบอกใครเลยว่าผู้ใดเป็นเจ้าของบ้าน  แต่อย่างน้อยผู้คนก็ยังรู้สึกดีที่กลิ่นควันไฟหุงต้มอันเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตยังลอยออกมาจากแค้มป์คนงานในเวลาเช้า  ก่อนที่จะลงมือทำงานก่อสร้างกันในเวลากลางวัน  ทั้งเงียบเชียบและรวดเร็วราวกับเงาผี รถบรรทุกคันแล้วคันเล่าขนวัสดุอุปกรณ์มาเพิ่มเติมให้บ้านหลังนั้นจนดูเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
   เวลาผ่านล่วงไปจนเหล่าคนงานใกล้จะรื้อแค้มป์ที่พักชั่วคราวออกไปแล้วนั่นแหละ  ชาวบ้านจึงได้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขาก่อสร้างอยู่คือบ้านสองชั้นแบบโมเดิร์นที่ออกแบบอย่างทันสมัย  สีขาวตัดน้ำตาลและหลังคาดาดฟ้าสูงล้ำกว่าบ้านหลังที่อยู่ใกล้เคียง  พรางตาด้วยรั้วคอนกรีตสีเทาในสไตล์ที่เข้ากัน  เกิดมีคำพูดที่หนาหูขึ้นว่าบ้านหลังนี้น่าจะเป็นของหญิงในท้องถิ่นบางคนที่อาจได้สามีต่างชาติมาสร้างไว้ให้อยู่
   เทพนั่งเหม่อลอยอยู่บนระเบียง  คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ถูกแตะต้องจนจอดับมืดดำไปแล้ว  กองเอกสารถูกรวบซ้อนกันอย่างลวกๆ  สายตาของเขาทอดไปยังอาคารดาดฟ้าสีขาวฝั่งตรงข้ามไกลออกไป
   "พี่เทพ ดูอะไรคะ"  เสียงของเด็กสาวดังขึ้นข้างๆ ตัว  วันนี้พลอยอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตไม่เข้ารูปสีฟ้าอ่อน  มือถือปากกา เลิกคิ้วหนามองมาที่เขา  ผมตรงไม่ยาวนักไม่ได้รวบเป็นหางม้าไว้ข้างหลังอย่างที่ชายหนุ่มคุ้นตา  แต่เธอปล่อยมันสยายคลอเคลียอยู่กับบ่า  ปอยผมบางส่วนปลิวส่ายไหวตามแรงลงเอื่อยเบาๆ จากพัดลมตั้งพื้นข้างๆ  ตรงหน้าของเธอคือหนังสือเรียนวิชาสังคมศึกษา สมุด และใบงานวิชาเดียวกัน
   "บ้านนั้นสร้างเสร็จแล้วเหรอ  พี่เห็นคนงานขนของกลับไปหลายวันแล้ว"
   "คงงั้นค่ะ  แต่ไม่รู้จะมีคนมาอยู่เมื่อไร  ของใครก็ยังไม่รู้เลย"  พลอยกระพริบตาปริบๆ
   "อืม คงปล่อยทิ้งร้างยาวอีกหลังสินะ"  เทพพยายามไม่ใส่ใจทั้งที่รู้สึกเหมือนมีอะไรรบกวนจิตใจอยู่นิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้  "เอ้า ต่อไปว่ายังไงนะ"
   "ข้อนี้ให้อธิบายต้นเหตุของสงครามกลางเมืองสหรัฐ..."
   เขาดึงสมาธิกลับมาอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง  ก่อนเริ่มอธิบายตามบทเรียน...
   "ดีจริงๆ เลยค่ะที่มีพี่เทพคอยสอน พลอยทำได้มากกว่าที่เรียนในหนังสืออีก"  พลอยกล่าวเสียงสดใสหลังจากวางปากกาลง  ปิดสมุดหนังสือ จัดเรียงเอกสารเข้ากระเป๋า
   "เราก็ต้องอ่าน ต้องศึกษาให้มากกว่าในหนังสือเองด้วย  ถ้าเราชอบเราก็จะอยากศึกษามัน"
   "ไม่เห็นต้องศึกษาอะไรเลย ยังไงก็มีพี่เทพช่วยอยู่แล้ว  พลอยอยากให้พี่เทพช่วยตลอดไปเลย  แล้วถ้ามีอะไรที่พลอยจะช่วยพี่เทพได้  พี่เทพก็จะให้พลอยช่วยด้วยนะ"  ตาโตใสนั้นมองสวนเข้ามาในตาผมอย่างเปิดเผย  ผู้ถูกมองมองสวนกลับเข้าไป  แต่ไม่เห็นอะไรมากไปกว่าแววตาบริสุทธิ์ไม่มีความหมายใดๆ ซ่อนอยู่
   "เมื่อยคอ เมื่อยหลัง"  ฝ่ายชายหนุ่มแกล้งพูดยิ้มๆ
   "เดี๋ยวพลอยนวดให้"  เด็กสาวพรวดพราดลุกขึ้นไปด้านหลัง
   "ไม่ ไม่ พี่พูดเล่นน่ะ"  เทพรีบปฏิเสธ  แต่ไม่ทันเสียแล้ว  โดยไม่ใส่ใจเสียงห้าม  พลอยเคลื่อนตัวมาที่หลังเก้าอี้ที่เขานั่ง มือน้อยอุ่นๆ แตะที่ไหล่ทั้งสองข้าง แล้วลูบไล้แผ่วเบาไปยังบ่า  ลูบไล้ไปยังแผ่นหลังส่วนบน  ก่อนที่จะเน้นนิ้วโป้งหนักที่กล้ามเนื้อทั้งสองฝั่ง  เทพสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากมือสาววัยแรกรุ่น  ความนุ่มละมุนของสัมผัสแม้จะผ่านเสื้อเชิ้ตผ้าบางที่ใส่อยู่  แต่เขาก็รู้สึกถึงมันได้ราวกับเป็นสัมผัสของผิวกายเปลือยเปล่า
   พลอยลากเก้าอี้มานั่งด้านหลังเก้าอี้เขา  แล้วเริ่มนวดสัมผัสไล้เน้นคลึงที่แผ่นหลัง  ไล่ขึ้นไปยังบ่าหนาทั้งสองข้าง  ขึ้นไปที่ต้นคอ  เทพหลับตาเพื่อตัดสัมผัสอื่นออกให้หมดสิ้น  รับรู้แต่เพียงสัมผัสจากมือของเด็กสาวที่เคล้นร่างกายของเขา  ชายหนุ่มยอมรับว่าแม้สาวน้อยจะไม่มีเทคนิคการนวดอย่างถูกต้อง และไม่ได้มีเรี่ยวแรงที่ทำให้รู้สึกคลายเมื่อยล้ามากนัก  แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเธอได้กระทำให้กับเขา  การกระทำที่ส่งผ่านทั้งความรู้สึก ความปรารถนาดีที่มีให้  มันทำให้เขารู้สึกดียิ่งกว่าที่เคยได้รับจากหมอนวดชั้นครูคนไหนๆ
   "ชอบหรือเปล่าคะ"  เสียงเบาๆ เกือบจะเป็นกระซิบดังที่ข้างหูเขา เทพรู้สึกเหมือนจะรับรู้ถึงลมหายในอุ่นและหอมหวานที่สัมผัสได้ตรงต้นคอด้านขวามือ  เขาค่อยๆ หันไปทางต้นเสียง  ภาพที่ปรากฏคือใบหน้าของสาวน้อยแรกรุ่น  ตากลมใสอยู่ใต้กรอบคิ้วหนา  ริมฝีปากดูนุ่มละมุนเปิดออกเล็กน้อยเห็นฟันขาวเรียบสนิท ปอยผมตกลงมาเป็นกรอบหน้าใสบริสุทธิ์นั้นอยู่ห่างจากหน้าเขาเพียงฝ่ามือเดียว
   "ชอบที่สุด" เขากระซิบตอบ  กลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆ ผสมกับกลิ่นอะไรสักอย่างที่เขาก็บอกไม่ได้ทำให้เทพเริ่มรู้สึกมึนงง  เขาเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป  แก้มสีเข้มนั้นเหมือนดึงดูดให้เทพเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อย่างที่ไม่สามารถต้านทานได้  เธอคนนั้นเป็นใคร มาจากไหน  และเขากำลังทำอะไรอยู่ นั่นคือคำถามที่ชายหนุ่มยังไม่สามารถตอบได้ในเวลานี้
   มือขวาของเทพค่อยๆ ยกขึ้น จนแตะที่ต้นคอของเด็กสาว  เกือบจะเหนี่ยวรั้งศีรษะนั้นเข้ามาหาใบหน้าของตัวเอง  ตอนที่เขาได้ยินเสียงเหมือนไม้ไผ่แห้งๆ ตกกระทบพื้นปูนดังขึ้นมาจากชั้นล่าง  เสียงเบาๆ นั้นเรียกสติเขาให้กลับคืนมา  พลันจำได้ว่าตัวเองเป็นใคร  และสาวน้อยใบหน้าสวยข้างๆ นั้นคือใคร
   เทพเพิ่งนึกได้ว่าเขากับพลอยไม่ใช่เพียงสองคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้  แม่บ้านสาวกำลังกวาดพื้นอยู่ข้างล่าง  ให้เขาดิ้นตายไปเถอะ เขาไม่เคยนึกถึงเธอเลยจนกระทั่งไม่ว่าจะโดยจงใจหรือไม่จงใจ เธอทำไม้กวาดหลุดมือตกพื้น
   เขาละมือออกจากศีรษะของพลอย  ไม่รู้จะทำอะไรที่ดีไปกว่ายิ้มโง่ๆ  ออกไปอย่างนั้น  พร้อมกับความรู้สึกโล่งใจที่ไม่เห็นว่าพลอยจะมีกิริยาอย่างไรนอกจากกระพริบตาปริบๆ และยิ้มกว้างให้เขาในท่าเดิม
   "ดีจัง  ถ้าพี่เทพอยากให้พลอยนวดให้อีกก็บอกพลอยได้เลยนะคะ"  เธอผละจากหลังของเทพกลับไปนั่งที่เดิม  หยิบหนังสืออีกเล่มออกจากกระเป๋ามากางเปิด
   เทพมองตามกิริยานั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ถูก  ใจหนึ่งก็ขอบใจความซุ่มซ่ามของยัยแม่บ้านสาวที่ทำให้เขาได้สติก่อนที่จะทำอะไรบ้าๆ อันเป็นการทำลายน้ำใจและทำลายความไว้ใจที่เด็กสาวมีให้เขา  แต่อีกใจหนึ่งก็นึกสาปแช่งนางที่ดันมาขัดจังหวะที่กำลังดำเนินไปอย่างดี
   แต่ถ้าเขาไม่ได้สติและทำอะไรเป็นการล่วงเกินพลอยไปล่ะ  ผลมันจะออกมาลงเอยอย่างไร  สาวน้อยจะยินดีด้วยกับเขา  จนกระทั่งเลยเถิดไปจนเกินความสัมพันธ์ฉันพี่น้องเหมือนคนธรรมดาทั่วไป  แค่คิดก็ทำให้ชายหนุ่มแทบจะรู้สึกตื่นตัวขึ้นมา  หรือเธอจะเห็นเขาเป็นปิศาจจอมฉวยโอกาส  และรังเกียจที่จะเข้าใกล้เขาอีกต่อไป พลันความคิดนั้นทำให้เขาสงบลงเป็นปกติ
   เมื่อมองไปที่พลอย  ก็พบเพียงแต่เธอกำลังยุ่งอยู่กับการพลิกเปิดหาหน้าหนังสือ  ไม่มีอะไรที่ทำให้เทพตีความเป็นอย่างไรได้เลย
   เขาเหม่อมองดูเด็กสาวเสียจนไม่ได้สังเกตว่าที่นอกประตูรั้ว  รถกระบะสี่ประตูยกสูงคันใหญ่จอดติดเครื่องยนต์อยู่หน้าบ้านนานแล้ว

   "หมอนั่นน่ะเหรอ"  หญิงสาววัยเบญจเพสซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้ารถข้างคนขับถามขึ้นด้วยน้ำเสียงดูแคลน  ร่างสูงระหงปกปิดไว้ด้วยชุดแซ็กสั้นสีแดงเข้มไม่มีแขน  ใบหน้าจัดจ้านไปด้วยเครื่องสำอางหรูสวยสมบูรณ์แบบอย่างสาวเปรี้ยวจัด  "ก็ดูธรรมดาๆ  ไม่เห็นมีอะไรพิเศษเลย"
   "ถ้าพ่อบอกว่าพิเศษก็ต้องพิเศษ"  หญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่ที่ตำแหน่งคนขับพูดเรียบๆ เสียงเข้มงวดยะเยือก  เธอเป็นคนร่างสูงใหญ่ สะโพกอวบหนากว่าค่าเฉลี่ยหญิงทั่วไป  ทว่าเอวนั้นคอดโค้งเว้าเข้ารูปราวกับทรงของนาฬิกาทราย  เสื้อเกาะอกและสูทแบบลำลองสีอ่อนไม่ติดกระดุมนั้นยิ่งขับดันทรวงอกให้โดดเด่นกว่าส่วนอื่นใด  แม้จะมีใบหน้าสวยคมในลักษณะเดียวกับหญิงสาวที่นั่งข้าง  แต่ก็ดูอาวุโสและดูจริงจังเข้มงวดกว่ามาก
   "แล้วเมื่อกี้พี่ทำอะไรลงไป"  หญิงสาวอีกคนที่นั่งตอนหลังของรถถามขึ้นมา  ตามองไปที่หญิงในชุดแดงที่นั่งอยู่ตอนหน้า
   "ก็ทดสอบอะไรนิดๆ หน่อยๆ ดูว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง"  สาวชุดแดงตอบแบบสบายใจ  "แล้วก็อย่างที่เห็น ไม่เหลือ"
   "แต่อรว่ามันแปลกๆ นะพี่  หมายถึงตอนท้ายน่ะ"  หญิงสาวที่นั่งตอนหลังกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจนัก  ร่างเล็กบางในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยประจำจังหวัดนั้นขยับอย่างอึดอัด  ใบหน้าหวานทว่าผิวเข้มผิดกับสองสาวที่นั่งอยู่ตอนหน้านั้นแสดงสีหน้ากังวลชัดเจน สังเกตได้ชัดผ่านแววตาเบื้องหลังกรอบแว่นบางใสที่ช่วยขับให้ตาดวงหวานสวยซึ้งขึ้นไปอีก  "อรว่ามันจะไม่ง่ายเหมือนทุกทีนะ"
   "พี่เห็นด้วยกับอร"  สาวผู้ทำหน้าที่ขับรถเสริม  "เมื่อกี้มันมีจังหวะหนึ่งที่ไม่ควรจะเป็น  โน่นไง เห็นไหม ไม่ผิดแน่"  เธอพยักหน้าไปทางบ้านโบราณหลังสีขาวนั้น  สองสาวมองตาม
   สาวเปรี้ยวครางในลำคอเบาๆ  "งานนี้สนุกแน่ รับรองได้ว่าสนุก"
   "เอาล่ะ เราไปกันดีกว่า  อยากเข้าบ้านเต็มทีแล้ว"  ผู้ขับรถตัดบท เข้าเกียร์ส่งรถกระบะให้เคลื่อนออกจากหน้าบ้านไม้หลังสีขาว  ไปได้ไม่ไกลนักก็ชะลอรถ  กดรีโมทเปิดประตู  และเลี้ยวเข้าไปยังบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์นสร้างใหม่นั้นเอง

   ตะวันเย็นคล้อยลงแล้วเมื่อพลอยลาเทพกลับบ้านไป  เขาเดินลงจากบ้านเพื่อยืดเส้นยืดสายจากการนั่งเป็นเวลานาน  จึงเพิ่งจะรู้ว่าทับทิม แม่บ้านสาวยังไม่กลับ  คงอ้อยอิ่งนั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะใต้ถุนบ้าน
   "ยังไม่กลับรึ"  เขาถามเรียบๆ
   "สักพักก็คงกลับแล้วล่ะ"  เธอตอบโดยที่ตายังไม่ละจากจอ
   เทพไม่รู้จะตอบความอย่างไร  จึงได้แต่เดินเตร่ไปมา
   "ไก่ที่บ้านน่ะ ต้องคอยไปเฝ้าดู  หมามันคอยจ้องจะลักกิน"  เธอตอบเรียบๆ หันมาประสานตากับเจ้าของบ้าน
   ชายหนุ่มรู้สึกไม่ค่อยชอบคำตอบนั้นเท่าไรโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ  เขาเองก็ไม่เคยรู้ว่าทับทิมเลี้ยงหมาหรือไก่ไว้ที่บ้านเสียด้วย
   ก่อนที่เขาจะคิดหาคำตอบโต้อย่างใดออกไป  เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นที่หน้าบ้าน
   "สวัสดีค่า"  เป็นเสียงของสตรีสาว
   "มีคนมาที่หน้าบ้านแน่ะ คุณไปดูดีกว่า  ฉันก็จะไปแล้วล่ะ  โชคดีคุณเทพ"  ทับทิมลุกขึ้น  เทพเดินออกไปที่ประตูหน้า  ซึ่งหญิงสาวสามคนยืนรออยู่ตรงนั้น คนหนึ่งโบกมือให้เขา
   "สวัสดีครับ"  เทพตอบคำทัก สีหน้างงๆ
   "เรามาขออนุญาตทำความรู้จักน่ะค่ะ  พอดีเราเพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่  อยู่บ้านหลังโน้น..."  หญิงสาวร่างใหญ่ผู้ดูอาวุโสที่สุดกล่าวขึ้น  เสียงของเธอทุ้มต่ำกังวาน  เธอชี้ให้ดูบ้านเพิ่งสร้างเสร็จใหม่เยื้องออกไปไม่ไกล
   "อ้อ..."  เทพครางในลำคอ  ตาของเขากลับถูกดึงดูดโดยสาวเปรี้ยวในชุดแซกสั้นสีแดงเสียมากกว่า
   "เราสามคน เอ่อ  เป็นพี่น้องกัน  ดิฉันชื่อธัญญา เรียกว่าธัญก็ได้ค่ะ  คนนี้น้องสาวคนรอง  ชื่อรัค  ส่วนคนนี้..."  เธอผายมือหนานุ่มไปยังหญิงสาวผิวเข้มในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทท่าทางขี้อาย ผู้ซ่อนดวงตากลมโตไว้ใต้แว่นกรอบบาง  "...น้องคนเล็ก ชื่ออร  เรามาอยู่ที่นี่กันสามคน"
   "อ้อ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"  เทพรับไหว้ทั้งสามไปทีละคน  เขายอมรับว่าทั้งสามเป็นพี่น้องที่ดูไม่มีอะไรเหมือนกันจริงๆ  และยิ่งไปกว่านั้นยังดูไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตที่บ้านชานเมืองอันเงียบสงบแบบนี้เลย 
"ผมชื่อเทวา เรียกว่าเทพก็ได้ครับ  เพิ่งมาอยู่แถวนี้ได้ไม่นานเหมือนกัน  เอ้อ เชิญเข้าไปคุยกันในบ้านกันก่อนดีไหมครับ"
   ธัญมองเข้าไปในบ้านอย่างพินิจพิจารณา
   "วันนี้คงยังไม่รบกวนล่ะค่ะ เดี๋ยวจะกลับไปที่บ้านแล้ว พอดีวันนี้ยุ่งๆ เรื่องจัดของเหลือเกิน เดี๋ยวจะขอตัวไปจัดการให้เรียบร้อยก่อน"
   "เดี๋ยวเราคงได้มีโอกาสสังสรรค์กันบ่อยๆ นะคะ"  สาวรัคมองสบตาเขา ยิ้มหวาน
   "อ้อ ครับ แน่นอนครับ  เอ่อ ให้ผมช่วยเรื่องข้าวของไหมครับ  มีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้บ้าง  หรือจะให้ผมส่งแม่บ้านของผมไปช่วยไหมครับ"  เทพพูดจบก็ขยับหันไปจะเรียกทับทิม  แต่ธัญยื่นมือมาแตะที่แขนเขาไว้
   "ไม่เป็นไรค่ะ จริงๆ จะเสร็จหมดแล้ว ส่วนใหญ่เราส่งคนมาจัดการเรื่องของไว้ล่วงหน้าแล้ว  ขอบคุณจริงๆ นะคะ"
   "เดี๋ยวให้ทุกอย่างเรียบร้อย  จะขอเชิญคุณเทพไปเยี่ยมบ้านในฐานะเพื่อนคนแรกของเราในละแวกนี้เลยนะคะ  จะได้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกว่านี้"  รัคเชิญชวนเสริมมา
   "ครับ ขอบคุณอย่างยิ่งเลย" 
   ทั้งสามเดินกลับออกไปแล้ว  เทพเดินเข้ามาในบ้าน  สังเกตเห็นทับทิมยืนลับๆ ล่อๆ อยู่ที่พุ่มไม้ข้างบ้าน
   "อ้าว...  หมากินไก่หมดแล้วมัง"  เขาพูดล้อเล่น  เมื่อเขาเห็นชัดๆ จึงพบว่าทับทิมมีอาการอ่อนเพลียจนรู้สึกได้
   "เธอเป็นไรหรือเปล่าทับทิม ไม่สบายหรือเปล่า"
   "ไม่เป็นไร วันนี้เหนื่อยนิดหน่อย พักสักหน่อยก็หายแล้วล่ะ"
   "ถ้าเป็นไรก็รีบบอกฉันนะ อย่าให้เป็นอะไรหนักไป"
   ทับทิมมองสบตาเขาครู่หนึ่ง  ขยับตัวเข้าไปใกล้เทพเล็กน้อย ทำท่าเหมือนจะขยับปากพูดอะไรออกมา  แต่แล้วก็กล่าวเพียงว่า "ฉันกลับล่ะ"
   เทพมองหญิงสาวจนกระทั่งเธอเดินลับหายไปตามทางเดินหลังบ้าน  เขาจึงกลับขึ้นไปชั้นบน

   ในละแวกบ้านของเทพแม้จะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักแต่บรรยากาศโดยรอบโดยเฉพาะพื้นที่ส่วนที่พ้นจากเขตที่อยู่อาศัยติดถนนไปแล้วก็คือชนบทนั่นเอง  พื้นที่นาราบเรียบกว้างใหญ่พาดผ่านไปด้วยคลองธรรมชาติและคลองชลประทาน  มีไร่นาสวนผสมตั้งอยู่ห่างๆ กัน แน่นไปด้วยไม้ผลนานาชนิด  ดูราวหย่อมโอเอซิสกลางทะเลทรายอันกว้างใหญ่  ที่เห็นเป็นแนวทิวของต้นไม้ร่มรื่นนั้นคือริมคลองธรรมชาติที่ไม้ใหญ่ยืนต้นแผ่กิ่งล้ำไปในคลองน้ำ ลมพัดเอื่อยเฉื่อยโบกกิ่งไม้ไหวเบาบาง
   ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงแล้ว แต่ยังสาดแสงลงสู่ท้องทุ่ง  ร่างแข็งแกร่งก้าวเรื่อยๆ สม่ำเสมอไปตามคันนา  ร่างนั้นไร้อาภรณ์ปกปิดท่อนบน  เผยให้เห็นผิวเข้มแดดสีทองแดง  ริ้วของมัดกล้ามบางๆ ปรากฏไปทั่วร่าง  หยาดน้ำปนเหงื่อเป็นเม็ดยังเกาะพราวทั่วทั้งร่างและเรือนผมหยักสั้น  และเกาะไปทั่วใบหน้าคมสันทว่าอ่อนเยาว์  ขาครึ่งแข้งเลอะไปด้วยโคลนหมาดๆ สีเทาดำ
   ถ้าหากทุ่งนาอุดมกว่าแปดสิบไร่และควายนับร้อยตัวคือความภาคภูมิใจของผู้ใหญ่ชายแล้ว  ไม้ ลูกชายคนเดียวของแกคงเป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งกว่านั้นหลายเท่านัก  มีเด็กหนุ่มจำนวนไม่มากนักในหมู่บ้านที่เติบโตขึ้นมาจากไร่นา  ได้รับการศึกษาตามสมควร  และกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับท้องนาได้อย่างมีความสุขเหมือนอย่างเด็กหนุ่มผู้นี้  ด้วยวัยจวนจะครบบวช  ไม้ซึ่งกำลังจะเป็นผู้ใหญ่เต็มที่จึงเป็นกำลังสำคัญของผู้ใหญ่ชายในการทำมาหากินบนแผ่นดินของตัวเอง
   ไม้เอาถุงปุ๋ยสีขาวพาดบ่าข้างหนึ่ง  หนักแอ้ไปด้วยปลาหลากหลายชนิดที่กำลังจะกลายเป็นอาหารและรายได้เสริมของเขา  บ่าอีกข้างพาดแหสีมอๆ เกาะเต็มไปด้วยเศษกิ่งไม้ใบไม้เน่า  ในใจของเด็กหนุ่มคิดถึงว่าจะจัดการแปลงเจ้าสัตว์น้ำให้กลายเป็นอาหารเย็นได้อย่างไร
   เขายังคิดอยู่เช่นนั้นจนกระทั่งเดินมาถึงคลองแคบๆ ร่มรื่น  ที่จะต้องลุยน้ำใสแจ๋วสูงแค่อกนิ่งสนิทข้ามไปยังรถไถนาที่จอดไว้ใกล้นาของพ่อเขาอีกฝั่งทุ่งหนึ่ง  ก่อนที่จะสังเกตถึงสิ่งผิดปกติ
   น้ำใสในคลองกระเพื่อมสั่นไหว  เสียงน้ำจ๋อมแจ๋มอยู่หลังพุ่มไม้เหนือน้ำตรงจุดที่เขากำลังจะเดินข้าม  โดยไม่ทันคิดเด็กหนุ่มเดินตามไปยังต้นเสียง  เพื่อจะพบเห็นในสิ่งที่เขาไม่คาดว่าจะเห็น
   ร่างขาวฝาดเลือดแดงระเรื่อร่างหนึ่งเอนกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงชายตลิ่ง  หญ้าสั้นๆ นุ่มๆ รองรับแผ่นหลังขาวนวลเนียนนั้น ผมยาวเปียกสยายลงมาปกคลุมช่วงบ่า  เลยมาถึงเนินอกคู่ที่เบียดแน่นรัดเต้าครึ่งหนึ่งด้วยผ้าถุงสีแดงเข้ม  ใบหน้า  ผ้าถุงเปียกแนบเนื้อส่วนที่พ้นน้ำขึ้นมาเห็นเป็นทรวดทรงชัดเจน  เม็ดทับทิมตรงปลายถันทั้งคู่ดุนดันผ้าถุงเปียกชันขึ้นมา  จากลำคอขาวจัดไล่สาดลงมายังไหล่เปลือยเปล่า  จี้สีเงินเส้นเล็กประดับอัญมณีสีแดงเม็ดจิ๋ววางอยู่เหนือช่องแคบระหว่างเนินอกคู่นั้น  แขนทั้งสองข้างทอดลงในน้ำข้างลำตัว มือวักน้ำขึ้นมารดที่หน้าอกก่อนจะไหลลงสู่เบื้องล่างลู่ตามส่วนนูนโค้งเว้าต่างๆ  ใบหน้าสวยเข้มนั้นหลับตาพริ้ม  เส้นเลือดฝาดบางๆ กระจายไปทั่วแก้มขาวใส  ที่ร้ายกว่านั้น เมื่อไม้มองต่ำลงไปยังท่อนล่าง  ก็พบลำขาเรียวยาวขาวสว่างข้างหนึ่งยกชันเข่าขึ้น  ปลายผ้าถุงถลกลงไปจมอยู่ใต้น้ำที่โคนขาทำให้เด็กหนุ่มไม่อาจมองเห็นอะไรมากไปกว่านั้นได้อีก  แสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นสีแดงสาดลอดกิ่งไม้ย้อมผิวของร่างนั้นให้แดงสว่างเข้มขึ้นไปอีก
   ไม้ยืนนิ่งเหมือนต้องมนต์สะกด  เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มอ่อนโลกที่ไม่เคยสัมผัสเรือนร่างของสตรีมาก่อน  แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นนักรักที่ช่ำชอง  ชีวิตของเขาสนใจสิ่งที่อยู่ในทุ่งมากกว่าสิ่งที่อยู่บนเตียง  และภาพที่เห็นตรงหน้านั้นไม่เหมือนสิ่งใดที่เขาเคยพบเจอมา  เขาได้แต่จ้องมองจนกระทั่งใบหน้านั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา 
   "อ้าว ไม้..." 
   "พี่ทับทิม" ไม้เอ่ยขึ้นมาได้เพียงเท่านั้น ก็รู้สึกหัวใจเต้นโครมครามหวิวจะเป็นลม  ใจหนึ่งก็ตกใจกลัวทับทิมจะแหวขึ้นมาจนเป็นเรื่อง  อีกใจหนึ่งก็ตื่นเต้นกับภาพที่ได้เห็น
   "กำลังจะกลับบ้านเหรอไม้  ทำไมรีบกลับจังล่ะ ไปหาปลามาเหรอ"
   "เอ่อ ใช่พี่ พี่แบ่งไปสักสองสามตัวไหมล่ะ"  ไม้ลนลานถามไปอย่างโง่งม จัดแจงปลดถุงปลาออกจากบ่า  พลางรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่บ้าที่สุด และงี่เง่าที่สุด
   "ไม่ๆๆๆ  เย็นนี้พี่มีของกินแล้ว ไม่เอาหรอก"  ทับทิมตอบเรื่อยๆ อย่างไม่ใส่ใจ ตาปรือมองผิวน้ำเบื้องหน้า
   "แล้วพี่มาอาบน้ำอะไรตรงนี้"  เด็กหนุ่มพยายามเรียกสติของตัวเองกลับมา
   "ร้อนจะตาย ไม้ไม่ร้อนหรือยังไง อยู่บ้านมันร้อน อาบน้ำที่บ้านไม่เหมือนแช่น้ำเย็นๆ อย่างนี้หรอก"
   "ร้อนสิครับ วันนี้ร้อนมากเลย"  ไม้ตอบขณะในใจคิดว่าวันนี้มันก็ร้อนจริงอยู่  แต่จะร้อนที่สุดก็อีตอนนี้นี่แหละ
   "วางปลาลงก่อนเถอะ มันไม่ไปไหนหรอก มาแช่น้ำเล่นกับพี่สักพัก ไม่ต้องรีบหรอก"  หน้าขาวใสหันมามองด้วยดวงตาที่ปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง
   หัวใจภายใต้แผงอกใหญ่หนานั้นเต้นไม่เป็นส่ำ  อย่างน้อยพี่ทับทิมก็ไม่ได้ด่าหรือโวยวายที่มันมาแอบดูเธอเล่นน้ำ  กลับชวนเขาเล่นน้ำและเป็นอาหารตาให้เลือดเด็กหนุ่มของเขาพลุ่งพล่าน  โอกาสและจังหวะแบบนี้เขาไม่คิดว่าจะมีอีกแล้วในชีวิต  โดยไม่ต้องคิดอะไรเลย เขาเหวี่ยงถุงปลาขึ้นไปบนตลิ่ง  ปลดแหออกวาง  และค่อยๆ ขยับลงนั่งแช่น้ำข้างทับทิม  ห่างกันพอเอื้อมถึง
   "ไปนั่งอะไรตรงนั้น  มานั่งตรงพี่นั่งนี่ หญ้าตรงนี้นุ่มดี"  ทับทิมขยับตัว จับแขนเด็กหนุ่มให้เข้ามาเคียงชิดใกล้  ไม้รู้สึกเหมือนกำลังจะคลั่งตาย  อยากจะกระโจนเข้าฟัดร่างนั้นให้จมเขี้ยว  แต่ใจก็ไม่กล้า  ด้วยว่าเขาไม่ได้รู้จักพี่ทับทิมดีนัก  รู้แต่เป็นลูกของคนแถวนี้ที่เพิ่งย้ายมาอยู่  อันที่จริงเขารู้สึกว่าไม่มีใครแถวนี้ที่รู้จักพี่ทับทิมดีจริงๆ หรอก  ยิ่งสีหน้ากับแววตาเข้มๆ ดุๆ ของเธอยิ่งทำให้ความอยากรู้อยากเห็นหมดไป และไม่มีใครพยายามจะตีสนิทด้วย  ไม้ไม่รู้ว่านี้คืออะไร และทับทิมจะมาไม้ไหน
   แต่ขณะนี้ความอยากรู้อยากเห็นและอยากสัมผัสของเขาเต็มเปี่ยม  ไหล่ข้างขวาเขาเบียดแนบชิดกับต้นแขนขาวผ่องของทับทิม สัมผัสถึงความละเอียดอ่อนนุ่มอบอุ่นของผิวกายสาวสะพรั่ง  เมื่อมาถึงขั้นนี้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่ไม้จะต้องสงสัยอีกแล้ว  แต่เขาก็ยังรู้สึกเกรงๆ  ไม้ลองเอาปลายนิ้วข้างขวาแตะที่ต้นขาของทับทิมใต้ผิวน้ำนอกผ้าถุง  พยายามทำให้เหมือนไม่ตั้งใจ  ทับทิมยังคงอยู่ในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอนหลับตาพริ้ม  ไม้ได้ใจค่อยๆ เพิ่มจากปลายนิ้วเป็นนิ้วมือข้างขวา  ไล้ลูบไปตามต้นขาด้านนอกผ้าถุง  เมื่อไม่เห็นว่าทับทิมมีอาการอย่างไรจึงใช้มือลูบไล้เต็มฝ่ามือ  มืออีกข้างของเด็กหนุ่มเกาะกุมอวัยวะส่วนสำคัญของตัวเองที่ใต้น้ำ  พยายามกดไม่ให้มันชูชันดันกางเกงออกนอกหน้า  แต่เหมือนยิ่งกดมันก็ยิ่งแข็งเกร็งต่อต้าน
   ไม้ใช้นิ้วมือขวาค่อยๆ คืบคลานดึงร่นชายผ้าถุงของทับทิมให้สูงขึ้น จนกระทั่งมือของเขาได้สัมผัสเนื้อแท้นุ่มเนียนเหนือเข่าใต้น้ำ  ทับทิมระบายลมหายใจเฮือกใหญ่  ไม้จึงรับรู้ได้ว่าทับทิมเริ่มเกิดความรู้สึกตามที่เขากระตุ้นแล้ว มือจึงเริ่มไล้ลึกเข้าไปที่โคนขา
   ทันใดทับทิมก็ลืมตา ขยับชันตัวขึ้น  ไม้ตกใจรีบชักมือกลับก่อนที่นิ้วจะลงลึกได้มากกว่านั้น  อวัยวะสำคัญใต้มือซ้ายอ่อนวูบลงทันทีด้วยความเกรงกลัวความผิด
   "มาถูตัวให้พี่ดีกว่า" ทับทิมพูดยิ้มๆ แววตาคมกริบหยาดเยิ้มนั้นทำให้ไม้ค่อยใจชื้นขึ้น หน้าของเธอในยามนี้ดูไม่ดุอย่างที่ไม้คิด  ดูเหมือนเขาจะเดินเกมรุกไม่ทันใจสาวใหญ่เสียแล้ว  ทับทิมหันหลังให้เด็กหนุ่ม  ไม้ขยับเข้าด้านหลังทับทิมทันที  มือวักน้ำลูบไล้หลังเปลือยส่วนบนเหนือผ้าถุงปกปิด  จากนั้นจึงไล่นิ้วลงต่ำ  นิ้วมือเลาะไปตามขอบผ้าถุง  ไล่ไปตามใต้วงแขน  จนสัมผัสครึ่งเต้าขาวอวบที่อยู่เหนือผ้าถุง  เขาไล้นิ้วไปตามเนินอก ตามร่อง  ร่างของทับทิมเอนลงพิงหลังเขา  ไม้ขยับเอาแผ่นอกของตัวเองเข้ารองรับแผ่นหลังนวลเนียนของทับทิม เนื้อแนบเนื้อ  อวัยวะท่อนแข็งแนบชิดเข้ากับร่องสะโพกเบื้องหลังของทับทิม  ทับทิมจับมือทั้งสองของเขาให้กำขยำที่หน้าอก  ไม้เคล้นคลึงอกอวบนอกร่มผ้าสลับกับใช้สองนิ้วสะกิดบีบบี้เม็ดทับทิมชูชันทั้งสองข้าง  จนทับทิมเริ่มหายใจแรงหนักขึ้น
   ทับทิมผละมือจากมือของไม้  สะกิดปมผ้าถุงของตัวเองออก  ผ้าถุงสีแดงคลายตัวลู่ไหลไปตามแรงโน้มถ่วงด้วยน้ำหนักของน้ำที่เปียก  ผ้าถุงด้านหลังเลื่อนลงไปยังเอว  มือข้างหนึ่งเกาะกุมชายผ้าให้ยังปกปิดถันสองข้างในด้านหน้าอยู่เช่นเดิม  เด็กหนุ่มลูบไล้ที่แผ่นหลังขาวนวล  พรมจูบไปทั่วไหล่และหลัง  มือข้างหนึ่งไล้ลงต่ำไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่า  อ้อมมายังด้านหน้า สัมผัสที่หน้าท้องราบนวลเนียนใต้น้ำวกขึ้นมาเคล้นคลึงที่ฐานเต้าด้านล่างจากในผ้าถุง  ขณะที่มืออีกข้างยังกำขยำสองเต้าจากนอกร่มผ้า  เต้าถันขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือของเด็กหนุ่มหยุ่นตัวไปตามแรงบีบ และลมหายใจที่หนักขึ้น
   หญิงสาวบดเบียดสะโพกอัดเข้ากับท่อนเนื้อแข็งเกร็งของเด็กหนุ่มเป็นจังหวะ ไม้ขยับสะโพกตาม  เพียงไม่นานก็สามารถจับจังหวะการเคลื่อนไหวได้อย่างสอดคล้องกัน  มือข้างที่อยู่ในผ้าถุงเลื่อนจากฐานเต้าลงต่ำ ผ่านหน้าท้องลงใต้น้ำสู่มุ่นกอสาหร่ายลึกลับสีดำที่โบกไสวอยู่ใต้น้ำ  มือไม้ลูบไล้กอสาหร่ายอยู่ไม่นานจึงเปลี่ยนเป็นกรีดนิ้วขึ้นตามความยาวของร่องเนื้อที่ปิดสนิท  สะโพกของทับทิมไหวเยือกตามจังหวะการกรีดนิ้ว  ไม้สัมผัสได้ถึงของเหลวแปลกปลอมที่มีสัมผัสข้นและลื่นต่างจากน้ำธรรมดาจากร่องนั้น  เขาแหวกร่องน้ำแปลกปลอมออก  นิ้วสัมผัสที่เม็ดทับทิมเบื้องล่าง  นิ้วแตะสลับหมุนวนแผ่วเบา  มือข้างที่เคล้นคลึงเต้าคลายออก ปล่อยให้ผ้าถุงด้านหน้าเลื่อนไหลลงมายังหน้าท้อง  แล้วจึงเค้นคลึงสองเต้าเปลือยเปล่าปราศจากสิ่งบดบัง  สลับกับบีบบี้เม็ดยอดถันสีแดงเข้มที่ประดับยอดเนินอกขาวเนียน  ทับทิมหายใจถี่แรง  ปากแดงระเรื่อเผยอน้อยๆ ระบายลมหายใจเกิดเป็นเสียงลมหายในเจือเสียงครางแผ่วๆ  ตามจังหวะการกระตุ้นเม็ดทับทิมที่เบื้องล่างใต้น้ำ  มือทั้งสองข้างลูบไล้ไปตามต้นขาของไม้ที่โอบคร่อมสะโพกของทับทิม  และขยับอัดแท่งเนื่องเข้ากับร่องสะโพกของเธอ
   ทับทิมหายใจถี่ เสียงลมหายใจแผ่วของเธอเร่งเร้าให้ไม้ใช้มือกระตุ้นเม็ดทับทิมหนักหน่วงยิ่งขึ้น  ยิ่งกระตุ้นหนักทับทิมยิ่งหอบหายใจถี่  เสียงลมหายใจเริ่มกลายเป็นเสียงครวญครางหนักขึ้น
   "อย่าหยุดนะ ไม้ อย่าหยุด ทำต่อไป"  เธอครางเสียงกระเส่า  ก่อนที่ร่างจะกระตุกยะเยือกรุนแรงในอ้อมกอดของเด็กหนุ่ม  มือคว้าข้อแขนของไม้ที่ทำงานอยู่เบื้องล่างให้หยุดด้วยถึงจุดที่สุดของความรู้สึก  ไม้ละมือไปครู่หนึ่งแล้วกว่าที่ทับทิมจะหยุดกระตุกร่างกาย
   ทับทิมพักพิงหลังกับหน้าอกไม้ไม่นาน มือก็ควานลงไปใต้น้ำหาท่อนเนื้อที่ยังแข็งเกร็งอัดอยู่ในร่องสะโพกของตนอยู่  เธอชักมันเข้าออกไม่กี่ครั้งก็หันหน้ามาทางไม้  ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน  โคนขาของทับทิมวางพาดทับต้นขาของเด็กหนุ่ม  เธอลูบไล้แผ่นอกและหน้าท้องที่เห็นริ้วรอยของกล้ามเนื้อ ไหล่ และท่อนแขนอย่างรัญจวนใจ  ไม้มองร่างท่อนบนเปลือยเปล่าอวบอิ่มไปด้วยอกชูชันประดับด้วยยอดถันสีแดงเข้ม ไล่ต่ำลงมายังใต้ผิวน้ำใสเห็นได้ชัดถึงเอวที่คอดเล็กลง และลาดกว้างขึ้นเป็นส่วนของสะโพกกลมสวยเห็นเป็นเงารางๆ ใต้น้ำ  ไม้นิ่งราวถูกมนต์สะกด  ท่อนเนื้อแข็งเกร็งยังถูกมือของทับทิมชักเข้าออกอยู่ใต้น้ำ
   ไม้รู้สึกได้ว่าทับทิมขยับหน้าเข้ามาใกล้  เขารู้สึกตัวเมื่อริมฝีปากหอมละมุนอ่อนนุ่มแดงเรื่อนั้นประกบเข้าที่ริมฝีปากของเขา สัมผัสได้ถึงรสหวานจางๆ และกลิ่นรัญจวน  เขาขยับริมฝีปากเล็กน้อยก็สัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้นอ่อนนุ่ม  ก่อนจะถูกรุกไล้ด้วยปลายลิ้นนุ่มที่สอดเข้ามาสัมผัสกับลิ้นของเขา  ไม้ใช้ลิ้นสอดประสานสัมผัสกับลิ้นของสาวรุ่นพี่เนิ่นนาน สำรวจล้วงลึกไปทั่วช่องปากนุ่ม  ก่อนจะขยับเชื้อเชิญลิ้นอันเต็มไปด้วยรสสัมผัสของทับทิมให้เข้ามาสำรวจในปากของเขาบ้าง  มือข้างหนึ่งของไม้โอบต้นคอทับทิม  มืออีกข้างเคล้นคลึงหน้าอกคู่สวย  และเลื่อนต่ำลงไปยังพงสาหร่ายสีดำเบื้องล่าง  นิ้วสะกิดเสียดสีเม็ดทับทิมจนทับทิมเริ่มหอบหายใจอีกครั้ง  เขาจึงละจากริมฝีปากของทับทิม  น้ำลายเหนียวยืดยาวเป็นเส้นโยงระหว่างริมฝีปากทั้งสองคู่  ไม้จูบไล้ไปตามแก้ม คาง คอ ไล้จูบลงต่ำ  เขาเอื้อมมือทั้งสองอุ้มสะโพกของทับทิมขึ้นนั่งบนตัก  ยอดถันทับทิมจึงอยู่ตรงปากของเขา  หน้าท้องทับทิมแนบอก  และเบื้องล่าง  ร่องเนื้ออันปกคลุมด้วยสาหร่ายดำไสวใต้น้ำนั้นโอบอัดเข้ากับแท่งเนื้อตามความยาวของร่อง  แท่งเนื้อแข็งเบียดเสียดกับเม็ดทับทิมแดงสด  ทับทิมขยับร่อนสะโพกอัดเข้าหาแท่งเนื้ออีกครั้ง  ปากของไม้โอบครอบอมและดูดดุนยอดอกสีแดงราวทารกดูดดื่มน้ำนมจากอกมารดา  ทับทิมแอ่นกายสยิวตามการดูดเลียสลับกันทั้งสองเต้า
   ทับทิมล้วงมือเข้าไปยังท่อนเนื้อของไม้  จับมันถูไถไปตามปากรูร่อง  ปาดท่อนเนื้อไปมาที่ปากทางเข้า  ไม้ขยับสะโพกตาม  พยายามดันท่อนเนื้อของตนเข้าไปในกายของทับทิม 
   พลันทับทิมหยุดชะงักกึก ผละอกออกจากใบหน้าของเด็กหนุ่มรุ่นน้อง  เอียงใบหน้าเล็กน้อย  ใบหน้าคมครุ่นคิดเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม้ไม่เข้าใจ  ไม้ทำท่าทางงงๆ แบบไม่ค่อยเข้าใจ  มือของทับทิมคลายออกจากท่อนเนื้อที่ยังแข็งเกร็งอยู่
   "พวกนี้มัน...  พี่ต้องไปแล้ว"
   "อะไรพี่ ผมไม่เข้าใจ"  ไม้กระพริบตาถี่
   "คือ พี่มีธุระด่วน ต้องกลับบ้านแล้ว"  ทับทิมผละจากร่างของไม้  ลุกขึ้นยืน ก้าวขึ้นบนตลิ่ง ทิ้งผ้าถุงเปียกชุ่มลงไปที่ข้อเท้า เรือนร่างเปลือยเปล่าแดงระเรื่อในแสงแดดยามเย็น  เผยให้ไม้เห็นร่างกายท่อนล่างชัดๆ เป็นครั้งแรก  พงสาหร่ายนุ่มสีดำสนิทที่เขาเคยสัมผัสเป็นจุดเด่นที่สุดประดับที่เนินสามเหลี่ยมตรงกลางตัวไม่หนาแน่นนักเปียกน้ำลู่แนบเนื้อสนิท  พอมองเห็นเนื้อในสีแดงสดที่ซ่อนอยู่ภายในกลีบเนื้อขาวผ่องใสสะอาด  สะโพกกว้างกลมกลึงลาดลงมาเป็นต้นขาขาวผ่องมีรอยเส้นเลือดฝาดอยู่ทั่วไป  อวบใหญ่เบียดชิดกัน  ไม้มองตามทับทิมที่หันหลังให้เขา ก้มลงหยิบผ้าถุงเปียกชุ่มจากพื้นหญ้า หันสะโพกผายมาทางเขา  ที่ช่องแคบระหว่างสะโพกกลมนั้นคือพูเนื้อสีแดงสดฉ่ำด้วยหยาดน้ำชุ่มชื้นคู่หนึ่งที่เบียดอัดที่ระหว่างต้นขา  ทับทิมบิดผ้าถุงแขวนไว้กับกิ่งไม้แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าอย่างไม่สนใจจะปกปิดร่างกายเลย
   "พี่ทับทิม"  ไม้ร้องเรียก "พี่จะไปยังไง  แล้วผมล่ะ"
   "ก็กลับบ้านไปสิ"  เธอตอบเรียบๆ คลี่เสื้อยืดสีชมพูเข้มออกทำท่าจะสวม
   "แล้วผมล่ะ พี่เสร็จไปแล้วแต่ผมยังไม่เสร็จนะ"
   ทับทิมชะงักไปครู่หนึ่ง  แล้วจึงวางเสื้อลง
   "ขึ้นมานี่ เดี๋ยวพี่จัดการให้"
   ไม้ก้าวขึ้นมาบนฝั่ง ร่างกายเปลือยเปล่าเช่นกัน  ท่อนเนื้อขนาดไม่เล็กแข็งเกร็งโงนเงนขณะที่เดิน
   ทับทิมเคลื่อนตัวมาหยุดตรงหน้าไม้  คุกเข่าลง แยกเข่าออก ใช้มือชักท่อนเอ็นครู่หนึ่งแล้วเริ่มต้นใช้ปลายลิ้นโลมเลียที่ส่วนหัวของท่อน  ไล้เลียไปทั่วทั้งท่อนลำ แล้วจึงใช้ริมฝีปากโอบรัดส่วนหัวของท่อนไว้แล้วรูดเข้าออกช้าๆ
   ไม้ยืนแอ่นสะโพกใสปากของสาวรุ่นพี่  เขามองดูร่างเปลือยเปล่าพราวน้ำขาวโพลนที่คุกเข่าตรงหน้าเขา หลังนวลเนียนคอดที่เอวแล้วผายออกที่สะโพก  ที่ก้นนั้นเป็นก้อนกลมสองก้อนเบียดเข้าหากันเหมือนรูปหัวใจ  ภาพที่เห็น  แรงรัดรึงของริมฝีปากที่รูดอวัยวะของเขาเข้าออก แรงดูดและสัมผัสของลิ้นภายในมันทำให้รู้สึกเหมือนท่อนเนื้อของเขาจะละลายหายไปในปากของพี่ทับทิม ความเสียวกระสันเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ  จนแผ่กระจายไปทั่วร่าง  เหมือนพี่ทับทิมจะรู้ใจเขาทุกอย่าง  เธอเร่งจังหวะการรูดด้วยปาก แรงดูดดึงและเพิ่มสัมผัสของลิ้นมากขึ้น
   "พี่ ผมจะเสร็จ จะเสร็จนะ"
   "อืม"
   "ผมเสร็จในปากเลยนะ นะ"
   "อืม"
   ไม้รู้สึกถึงความปั่นป่วนในท้องน้อย  เขาแอ่นซอยสะโพกถี่ๆ เข้าปากพี่ทับทิมเน้นๆ  หัวใจเต้นแรง ความเสียวมารวมกันที่ท้องน้อยจุดเดียว  แล้วระเบิดออกเป็นน้ำขาวข้นอัดเข้าช่องปากของพี่ทับทิม  กระตุกครั้งแรกมันหายเข้าไปในปากสาวรุ่นพี่ กระตุกครั้งที่สองน้ำขาวข้นเริ่มทะลักล้นออกทางมุมปากที่โอบรัดท่อนลำของเขา กระตุกครั้งที่สาม สี่ ห้า น้ำบางส่วนไหลทะลักออกอาบคาง ย้อยลงที่เนินอก
   ทับทิมอมรูดต่ออีกเล็กน้อย ทำเอาไม้รู้สึกเหมือนหัวใจจะวาย เข่าอ่อน ขาอ่อนแทบจะยืนไม่ติด  ทับทิมยังคงเม้มปากอบไว้เช่นนั้นขณะกลืนน้ำกามลงคอ เธอกลืนมันจนหมดจึงละปากออก  อวัยวะสำคัญของไม้อ่อนตัวลงเล็กน้อยแต่ยังคงแข็งโงนเงน  ทับทิมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก เก็บกวาดน้ำกามที่เหลือ นิ้วปาดน้ำขาวข้นจากคาง  และที่ล้นลงไปยังเนินอกขึ้นใส่ปากดูดกินจนหยดสุดท้าย  จึงชันร่ายเปลือยลุกยืนขึ้น
   "ดีไหม โอเคหรือยัง"
   ไม้ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร  แม้จะไม่ใช่แบบที่เขาคิด  แต่ก็ดีพอแล้วสำหรับเขา  จึงได้แต่พยักหน้าเบาๆ
   "ไม่ต้องห่วงน่า ถือว่าครั้งนี้พี่ติดไม้ไว้ครั้งหนึ่ง  วันนี้ยังไม่ใช่วันของเธอ เดี๋ยวเราได้มีครั้งหน้าแน่ พี่สัญญา"
   ไม้มองดูพี่ทับทิมใส่เสื้อผ้า ใส่กางเกงขาสั้น โดยที่ไม่มีชุดชั้นในอย่างรวดเร็ว  เมื่อแต่งตัวพร้อมแล้วทับทิมจึงหันมาจูบหน้าผากเขาทีหนึ่ง
   "พี่ไปก่อนละนะ"
   ไม้มองตามหลังทับทิมซึ่งเดินลัดเลาะไปตามแนวไม้ชายทุ่งอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกหลากหลาย เหนื่อยและเพลียราวกับเดินตามรถปั่นนามาทั้งวัน  วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เด็กหนุ่มไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง   ทับทิมทิ้งอะไรไว้ให้เขาอย่างมากมาย และจากไปอย่างรวดเร็ว  และเขาคงจะไม่สามารถนอนหลับได้ง่ายๆ ในคืนนี้  แม้ว่าเวลานี้เขาเข่าอ่อนแทบจะยืนไม่อยู่แล้วก็ตาม

kaithai

#1
เทพมีเพื่อนบ้านใหม่
เป็นสามสาวแถมสวยด้วยสิ
เดาแนวทางเรื่องไม่ถูกเลย อิอิ





คำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
................................................................................................................
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ::Angry:: ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา ::Cheeky:: เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1ปี. .

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .
................................................................................................................



naitoom

สามสาวเพื่อนบ้านใหม่ ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับท่าทางแปลกๆของทับทิมแน่ๆ
แต่มันคืออะไร?

peddo

สงสัยจะเป็นวิธีเติมพลังของทับทิม ดีกว่าเป็นผีดูดเลือดครับ ขอบคุณครับ

3hman

ลึกลับซับซ้อน ซ่อนเงี่ยน พาลนึกไปถึงผู้มีพลังพิเศษ พลังจิต แม่มด หมอผี อมนุษย์ อะไรแบบนั้น
สรุปคือชอบแนวนี้ สนุกมาก มีปริศนาให้ผู้อ่านเดาไปต่างๆนาๆ

elviswhat

เริ่มรู้สึกงง ๆ กับทับทิม เป็นคนรึเปล่านิ แล้วมีคนย้ายมาอยู่ใหม่ด้วยจะเป็นยังไงต่อไปละทีนี้

mongk

ทาทางเหมือนทับทิม กับ เพื่อนบ้านที่มาใหม่ จะไม่ค่อยจะสมพงษ์กันเท่าไร

peat

มีตัวละครมาเพิ่มพร้อมด้วยปริศนาตัวโตๆเลยล่ะทีนี้..ว่าตกลงทับทิม..เธอคือใครกันแน่..

gumpxxxx

ตัวละครแค่ละตัวเริ่มเผย เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สนุกมากครับ แถมมีตัวใหม่เพิ่มมา เพื่อผูกเรื่องอีก เก่งมาจริงๆ ขอบคุณที่แบ่งปันครับ

therasak

สำนวนยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ลื่นไหลเชื่อมต่อกับตอนที่ผ่านได้ครับ ปมเรื่องที่ผูกไว้เป็นระยะ ๆ ทำให้ใจระทึกอยากอ่านต่อเร็ว ๆ เยี่ยมครับ

gritkin

อยากเห็นน้องพลอยโดนเทพปักเสา 555 สนุกมากครับ หวังว่าไม่ใช่เเนวผีนะครับ 555 เดาๆๆ

sunnie06


navy868

เดาทางไม่ถูก เนื้อเรื่องเริ่มสลับซับซ้อนขึ้น ::Hmmm::...

swss2511

/เมื่อผีเกิดอาการหึงหวงน่ากลัวแทนสามสาวเพื่อนบ้านใหม่จริงๆ

arsenyo

3 สาวเพื่อนบ้านวางแผนอะไรไว้รึเปล่าหนอ น่าติดตาม จะตามไปติดๆครับผม