ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 14

เริ่มโดย ifamily03, กรกฎาคม 24, 2018, 10:23:30 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

dodoza2

โดนทุกรูเลยแม่การะเกดสนุกดีครับ ขอบคุณมาก

Natsuda Kaewkanokwijit

 ::Bloody::
อ้างจาก: ifamily03 เมื่อ กรกฎาคม 24, 2018, 10:23:30 หลังเที่ยง
บุพเพสันนิวาส ภาคพิสดาร ตอนที่ 14

ย้อนความกลับไปก่อนที่ขุนเรืองจะไปหาคุณหญิงนิ่มเพื่อเจรจาสู่ขอแม่หญิงจันทร์วาดแต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันสักเล็กน้อย ในวันที่พ่อเดชกลับมาจากประเทศฝรั่งเศส ทุกคนในเรือนต่างมารอต้อนรับการกลับมาของเขากันพร้อมหน้าพร้อมตา ขาดก็แต่ท่านออกญาซึ่งนอนป่วยหนักไม่สามารถลุกออกมาจากหอนอนได้ ซึ่งเมื่อพ่อเดชทราบเรื่องจากคุณหญิงจำปา เขาก็รีบเข้าไปหาท่านออกญาพร้อมๆกับแม่การะเกดทันที

"พ่อเดช กลับมาแล้วกระนั้นหรือ ข้านึกว่าจะทนรอจนถึงวันที่เจ้ากลับมามิไหวเสียแล้ว"
ท่านออกญาเอ่ยทักลูกชายจบคำก็ไอโขลกๆอย่างหนัก ทั้งพ่อเดชและแม่การะเกดต่างก็รีบเข้าไปนั่งข้างๆเตียงท่านออกญาแลจับมือของเขาเอาไว้
"คุณพ่อขอรับ คุณพ่อจะต้องไม่เป็นกระไรขอรับ ประเดี๋ยวลูกจะไปขอยาจากพวกทหารที่มาจากฝรั่งเศสด้วยกัน คนพวกนี้มีหยูกยาที่ทันสมัยมากนัก อาจจะพอบรรเทาอาการของคุณพ่อให้ทุเลาลงได้"
"อย่าลำบากไปเลยพ่อเดช พ่อรู้ตัวเองดีว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน เจ้ากลับมาก็ดีแล้ว พ่อมีเรื่องที่ต้องสั่งเสียเจ้าไว้ก่อนที่พ่อจะต้องจากไป"
"คุณลุงเจ้าขา คุณอย่าเป็นอะไรนะเจ้าคะ คุณลุงแข็งแรงต้องหายแน่ๆนะเจ้าคะ"
ทั้งแม่การะเกดและพ่อเดชต่างพูดให้กำลังใจท่านออกญา แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าอาการของท่านนั้นหมอคนใดก็ไม่อาจจะรักษาเยียวยาได้อีก พ่อเดชมีสีหน้าเศร้าสลดอย่างเห็นได้ชัด ส่วนแม่การะเกดก็เริ่มสะอื้นไห้น้ำตาไหลอย่างสุดจะกลั้นแล้ว ท่านออกญาจึงเอ่ยปากเรียกแม่การะเกดเข้าไปสั่งเสีย โดยให้พ่อเดชออกไปรอข้างนอกก่อน พ่อเดชจึงถอยออกไปเงียบๆ ปล่อยให้แม่การะเกดได้คุยกับท่านออกญาตามลำพัง

"แม่การะเกด ก่อนที่ลุงจะตาย ลุงมีเรื่องอยากจะสารภาพกับหลาน และต้องขอโทษหลานเรื่องนึง"
ท่านออกญาพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับไร้สิ้นเรี่ยวแรงที่จะเอ่ยออกมา
"เรื่องอันใดเจ้าคะคุณลุง"
แม่การะเกดถามกลับ ใบหน้ามีคราบน้ำตาจนอาบไปทั้งสองแก้ม
"หลานจำวันที่เข้าไปอ่านหนังสือในหอหนังสือของลุงได้หรือเปล่า ลุงอยากจะขอโทษหลานเรื่องนี้แหละ วันนั้นด้วยความหลงผิดของลุง ลุงจึงล่อลวงหลานเข้าไปกระทำย่ำยี ฉุดพรากเอาความสาวไปจากตัวออเจ้า แลใช้อาคมปกปิดความชั่วร้ายของลุงเอาไว้ไม่ให้ออเจ้าจำสิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้นได้ ลุงต้องขอโทษหลานจากใจจริงละนะ"
แม่การะเกดไม่ได้ตกใจกับความจริงจากปากของคุณลุงแต่อย่างใด นางยังคงกุมมือของคุณลุงเอาไว้และกล่าวกับคุณลุงด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือต่อไป
"ข้าจำได้เจ้าคะคุณลุง ข้าจำได้ทุกอย่างทุกการกระทำของคุณลุงในวันนั้น อาคมของคุณลุงไม่ได้ลบล้างความจำของข้าไปจนหมดหรอกเจ้าค่ะ แต่ข้าเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ยอมบอกแก่ผู้ใด เพราะข้ารักและเคารพท่านจนเกินกว่าจะพูดจาให้ร้ายแก่ท่านได้ แม้ข้าจะต้องสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่ข้าก็ไม่เสียใจเลยเพราะว่าคนๆนั้นคือคุณลุงที่ให้ความเมตตากับข้ามาโดยตลอดยังไงละเจ้าคะ"
การะเกดพูดไปตามความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง อันที่จริงส่วนนึงที่ทำให้นางเลือกเก็บเงียบเอาไว้คงเป็นเพราะจิตใต้สำนึกของแม่การะเกดอีกคนที่ทำให้นางกลายเป็นคนแบบนี้ด้วยกระมัง แรงถวิลหากามราคะในจิตใจทำให้นางมีความสุขกับเรื่องอย่างว่าจนไม่อาจกล่าวโทษผู้ใดได้ เพราะนางเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายสมยอมเสียเอง

"ถ้าเช่นนั้น ลุงมีสิ่งสุดท้ายที่ลุงจะมอบให้กับหลาน อยู่ในกล่องบนหิ้งนั่นยังไงล่ะ ออเจ้าจงไปหยิบมาเถิด"
การะเกดเดินไปหยิบของที่คุณลุงบอก ข้างในกล่องมีถุงผ้าแพรสีขาวถุงหนึ่ง บรรจุสิ่งใดไม่รู้เอาไว้ข้างใน
"ลุงตรวจดวงชะตาของหลานเอาไว้ก่อนหน้านี้ หลานจะต้องเผชิญกับภัยร้ายครั้งใหญ่ในไม่ช้า ของสิ่งนี้จะช่วยให้หลานรอดพ้นจากภยันตรายที่จะเข้ามากล้ำกรายได้ เพียงแต่หากไม่ถึงคราวคับขันจริงๆ จงอย่าได้เปิดถุงออกดูเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่"
แม่การะเกดรับปากท่านออกญาแล้วเก็บถุงผ้านั้นติดตัวเป็นอย่างดี ก่อนที่ท่านออกญาจะเรียกพ่อเดชและคนอื่นๆเข้ามาสั่งเสียต่อทีละคน เมื่อครบแล้วท่านออกญาก็จากไปอย่างสงบท่ามกลางครอบครัวและบ่าวไพร่ในเรือนที่ร้องไห้เสียใจกันระงม

...

หลังจากงานศพของท่านออกญาผ่านพ้นไปแล้ว แม่การะเกดก็พาพ่อเดชไปพบแม่หญิงจันทร์วาด แม่หญิงจันทร์วาดเล่าให้นางฟังว่า ตั้งแต่ขุนเรืองเข้าไปพบคุณหญิงนิ่ม เขาก็ถูกแม่ของนางกักขังไว้แต่ในห้องไม่ยอมให้ออกมาพบเจอผู้ใดอีกนานนับเดือน จนวันหนึ่งที่คุณหญิงนิ่มเรียกให้นางไปพบในห้องที่ขังขุนเรืองเอาไว้ แล้วคุณหญิงนิ่มก็ได้บอกข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของนางให้ฟัง
"แม่จันทร์วาด แม่ใคร่ครวญแล้วว่าแม่ไม่อาจรับขุนเรืองมาเป็นลูกเขยได้ดังที่เคยพูดไว้มาตลอด"
เพียงประโยคแรกก็ทำให้แม่จันทร์วาดถึงกับเสียใจจนน้ำตาไหลพราก แต่ประโยคที่ตามมายิ่งทำให้นางตกตะลึงยิ่งกว่า
"แต่แม่จะรับขุนเรืองมาเป็นผัวของแม่แทน และเขาจะได้เป็นพ่อเลี้ยงให้แก่เจ้าด้วย อีกทั้งเจ้ากำลังจะมีน้องอีกคนด้วยแล้วนะลูกเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากเลย จริงมั้ยแม่จันทร์วาด"
แม่การะเกดฟังที่นางเล่าแล้ว แม้จะสงสารปนสมเพชขุนเรืองเพียงใดแต่ก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก จึงจำต้องปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น

...

เรื่องของแม่หญิงจันทร์วาดผ่านไปได้ไม่นาน ก็มีเรื่องใหม่มาให้แม่การะเกดได้หนักใจเพิ่มขึ้นอีก เมื่อแม่มะลิหอบข้าวของหนีกลับมาอยู่กับพ่อที่ชุมชนโปรตุเกส สอบถามได้ความว่านางหนีกลับมาเพราะฟอลคอนสามีนางแอบไปมีอะไรกับคลาร่า ลูกเลี้ยงของแม่มะลิ จนนางทนรับไม่ได้จึงหนีมา แม่การะเกดจึงเดินทางไปหาแม่มะลิที่บ้านทันที

"แม่มะลิ เหตุใดออเจ้าจึงหุนหันพลันแล่นเช่นนี้ มีอะไรทำไมไม่คุยกันดีๆล่ะ คลาร่าเป็นลูกเลี้ยงของเจ้า หากเจ้าร่วมกับนางโล้สำเภากันสามคนแบบที่เจ้ากับข้าเคยทำ เจ้าจะได้ไม่ต้องผิดใจกับสามีของเจ้าไงล่ะแม่มะลิ"
แม่การะเกดเอ่ยถามอย่างสงสัย ว่าทำไมแม่มะลิต้องหึงหวงสามีขนาดนั้น เพราะนางควรจะรู้แก่ใจว่าสามีของนางเป็นคนเจ้าชู้เพียงใด
"มันมิใช่อย่างที่เจ้าคิดแม่การะเกด ข้ากลับมานี่เพราะมีเหตุผลอื่นแฝงอยู่ต่างหาก ข้าต้องการมาส่งข่าวให้ออเจ้ารู้ว่าสามีของข้ากำลังคิดการบางอย่างอยู่ ซึ่งมันคงจะร้ายแรงมาก เพราะเขากับนายพลเดส์ฟาร์จแอบมาปรึกษาหารือกันทุกวัน ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรดีจึงถือโอกาสที่เขากับคลาร่าได้เสียกันมาเป็นข้ออ้างเพื่อลงมาอยุธยา และนำความนี้มาบอกกับออเจ้า"
"ถ้าเช่นนั้นข้าคงจะต้องไปสืบให้รู้ความให้แน่ชัดเสียก่อนจึงค่อยคิดการแก้ไขกันต่อไป"

แม่การะเกดจึงแสร้งทำเป็นพาตัวแม่มะลิมาคืนให้กับฟอลคอน แต่หลังจากพาแม่มะลิส่งขึ้นห้องแล้วนางก็ย้อนกลับมายืนแอบฟังที่นายพลเดส์ฟาร์จคุยกับฟอลคอนอยู่หลังฉากกั้น ด้วยความเข้าใจภาษาฝรั่งเศสของนาง จึงทำให้แม่การะเกดรู้แผนการนำทหารฝรั่งเศสจากบางกอกมาก่อการร้ายโค่นล้มอำนาจพระเพทราชาจนหมดสิ้น ซึ่งในระหว่างที่กำลังตั้งใจฟังอย่างจดจ่ออยู่นั้นเอง ฟอลคอนก็เดินพรวดเข้ามาถึงตัวของนางที่ยืนแอบอยู่อย่างไม่ทันรู้ตัว
"ข้าได้กลิ่นแป้งน้ำอบน้ำหอมของหญิงสยาม นึกไว้ไม่ผิดว่าเจ้าจะต้องมาสืบความของข้า ทหาร!!..จับตัวนางไว้"

แม่การะเกดคิดจะหันหลังวิ่งหนีก็ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะทั้งทหารฝรั่งเศสและบ่าวไพร่ของฟอลคอนต่างล้อมหน้าล้อมหลังนางเอาไว้จนหมดทางหนี นางจึงถูกเขาจับกุมตัวในที่สุด สิ่งสุดท้ายที่นางสัมผัสได้คือฝ่ามืออันหยาบหนาของฟอลคอนที่ฟาดลงมาบนใบหน้าของนางอย่างแรงจนนางสิ้นสติไปในที่สุด

...

เมื่อลืมตาขึ้นมา แม่การะเกดก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ตอนนี้นางกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องใดห้องหนึ่งในเรือนของฟอลคอน อีกทั้งร่างกายของนางก็เปล่าเปลือยล่อนจ้อนไปหมดทั้งตัว มีบ่าวไพร่ผู้ชาย 7-8 คนยืนล้อมอยู่รอบเตียง สายตาที่แต่ละคนจ้องมองมาดูหื่นกระหายราวกับพร้อมจะเข้ามาขย้ำนางได้ทุกเมื่อ ที่ปลายเตียงมีโต๊ะเก้าอี้สองตัวโดยมีฟอลคอนและนายพลเดส์ฟาร์จนั่งจิบน้ำชาอยู่ เมื่อฟอลคอนเห็นนางฟื้นแล้วเขาจึงเอ่ยทักนางออกมา

"ฟื้นแล้วเหรอแม่การะเกด ข้าขอโทษด้วยที่ตบหน้าเจ้าแรงไปหน่อย แต่เรื่องที่เจ้าแอบมาสืบข่าวของข้า ข้าคงไม่อาจให้อภัยได้ ดังนั้นข้าจึงเตรียมบทลงโทษไว้ให้กับเจ้า มองไปรอบๆสิแม่การะเกด ข้าว่าคนฉลาดอย่างเจ้าคงพอจะรู้นะว่ากำลังจะโดนลงโทษอย่างไร"

ถึงไม่บอกก็รู้ ว่านางจะโดนอะไรบ้าง แม่การะเกดผุดลุกขึ้นมาหมายจะวิ่งออกไปจากห้องโดยเร็ว แต่ก็โดนเหล่าบ่าวไพร่ฉุดแขนแล้วเหวี่ยงนางกลับลงไปนอนบนเตียงอย่างแรงจนนางถึงกับจุก และเมื่อฟอลคอนพยักหน้าเป็นสัญญาณ บ่าวทั้งเจ็ดคนนั้นก็ถอดผ้านุ่งออกพร้อมๆกัน แล้วกรูกันเข้ามารุมทึ้งแม่การะเกดราวกับฝูงหมาป่าขย้ำเหยื่อ โดยมีหน้าอกคู่สวยทั้งสองข้างเป็นเป้าหมายแรกของการจู่โจม ทุกคนต่างรุมกันเข้ามาแย่งดูดเลียหน้าอกของนางราวกับไม่เคยพบเห็น พวกมันทั้งดูดทั้งขบหัวนมของนางอย่าไม่ปรานีปราศรัย คนที่เหลือที่พลาดไม่ได้เชยชมสองเต้างอนคู่นั้น ก็เปลี่ยนไปซุกไซร้ส่วนอื่นๆในร่างกายของนาง มีบ่าวสองคนยื่นควยมาถูไถไปตามใบหน้าของนางทั้งซ้ายและขวา ควยเหม็นๆสองอันเกลือกกลิ้งไปตามใบหน้า ทิ่มใส่แก้มบ้าง ไถไปโดนจมูกบ้าง หนักเข้าถึงขั้นเอามือมาบีบจมูกของนางจนนางต้องเผยออ้าปากออกเพื่อหายใจ แต่ก็โดนแทงควยสวนเข้ามาจนเต็มปากเต็มคำ แม่การะเกดได้แต่ส่งเสียงร้องอู้อี้จนฟังไม่ได้ศัพท์เพราะมีท่อนควยคาอยู่ในปาก
แม้แต่ท่อนล่างของนางก็โดนใครบางคนซุกไซร้ดูดเลียปาดลิ้นลากขึ้นลงไปตามแนวร่องเสียวของนางอย่างหื่นกระหาย เม็ดแตดของนางก็โดนดูดเม้มแลใช้ลิ้นบดบี้จนความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั้งร่างกาย มือที่ว่างอยู่ทั้งสองข้างก็โดนคว้าให้ไปเกาะกุมควยของคนที่เหลือแล้วบังคับให้กระทอกควยขึ้นลงให้พวกมันอย่างไม่เต็มใจนัก นางถูกพวกบ่าวผลัดเปลี่ยนตำแหน่งหมุนเวียนกันจู่โจมไปทุกส่วนในร่างกายของนางอย่างเข้าขารู้ใจยิ่งนัก จนนางแปลกใจว่าเหตุใดบ่าวไพร่พวกนี้จึงดูช่ำชองกับการรุมข่มขืนผู้อื่นเหลือเกิน ราวกับมิได้เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก แต่ไม่นานนางก็ได้ยินเสียงฟอลคอนดังแว่วมา

"มิต้องแปลกใจอันใดหรอกหนาแม่การะเกด ข้าสั่งสอนบ่าวไพร่พวกนี้ด้วยตัวข้าเอง แลให้พวกมันรุมข่มขืนแม่ตองกีมาร์จนนับครั้งไม่ถ้วน เช่นเดียวกับที่ทำกับเจ้าในวันนี้ เพราะข้าชังนางที่นางสำส่อนไปนอนกับคู่หมายของเจ้าแล้วยังเอาบุตรมาให้ข้าเลี้ยง นางจึงต้องโดนแบบที่เจ้ากำลังจะโดนอยู่บัดเดี๋ยวนี้"
แม่การะเกดได้ฟังแล้วถึงกับสะดุ้ง นึกสงสารแม่มะลิขึ้นมาจับใจ ว่าระหว่างที่นางกำลังใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่อยุธยา แต่กลับไม่รู้เลยว่าแม่มะลิจะต้องเผชิญชะตากรรมที่แสนเลวร้ายอยู่ที่ละโว้นี่ แต่ตอนนี้นางควรจะคิดถึงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเสียก่อน ว่าจะเอาตัวรอดออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร

แม้จะมองท่อนล่างของตัวเองไม่เห็น แต่แม่การะเกดก็สัมผัสได้ว่าร่องหีของนางกำลังจะโดนดุ้นควยชำแรกแหวกกลีบเข้าไป ฉับพลันนางก็รู้สึกเสียววาบเมื่อแท่งควยอุ่นๆแทงพรวดเข้ามาในรูหีของนางจนมิดลำ แม้มันจะไม่ใหญ่โตดังเช่นควยท่อนอื่นๆที่นางเคยประสบมาก่อนหน้านี้ แต่ความเสียวสยิวที่เกิดขึ้นก็ยังมีมากมายยิ่งนัก แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่นางจะต้องรับมือผู้ชายพร้อมๆกันทีเดียวหลายๆคน ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียวจนร่องรักขมิบเอาน้ำเมือกลื่นออกมามากยิ่งขึ้นไปอีก

บ่าวคนแรกกระเด้าสะโพกเย็ดนางอยู่ไม่ถึงห้านาทีก็ชักท่อนควยออกมาฉีดน้ำกามของมันราดรดไปบนหน้าท้อง จากนั้นคนที่สองที่รอคิวอยู่ก็เข้าแทนที่ เสียบควยเข้ามาทีเดียวมิดลำแล้วกระเด้าเอวอย่างไม่ลืมหูลืมตาต่อเช่นกัน แม่การะเกดทำได้เพียงนอนเด้งสะโพกรับการกระแทกกระทั้นไปตามสัญชาตญาณ ทั้งที่ปากยังคาบอมควยสองอันสลับกันไปมาไม่หยุด ส่วนหน้าอกก็โดนบีบคลึงสลับดูดเลียจนแดงช้ำไปทั้งสองข้าง
พลันสายตาของแม่การะเกดก็เหลือบไปเห็นกองเสื้อผ้าของนางที่โดนถอดออกไปก่อนหน้านี้วางอยู่ใกล้ๆมุมเตียง ห่างออกไปเพียงแค่เอื้อมมือเท่านั้น นางจึงเหยียดแขนออกไปหมายจะไปให้ถึงกองเสื้อผ้านั้น แต่ไม่คิดว่านางจะโดนพลิกตัวเปลี่ยนท่าเสียก่อน จึงเอื้อมมือคว้าไปไม่ถึง

บัดนี้นางถูกจับให้นอนคว่ำหน้าทาบทับอยู่บนตัวบ่าวคนที่สาม โดยท่อนควยของมันถูกสอดใส่เข้าไปรูหีของนางเรียบร้อยแล้ว บ่าวคนที่สี่และห้านั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆศีรษะของนาง คนนึงจับท่อนควยยัดใส่ปากนางแล้วจับศีรษะกระแทกเข้าออกกับท่อนควยของมัน ส่วนอีกคนก็จับมือนางไปสาวรูดท่อนควยที่ยังว่างอยู่ของมัน บางทีแม่การะเกดก็อมท่อนควยของคนทางซ้าย รูดชักให้คนทางขวา จากนั้นก็หันกลับมาอมให้คนทางขวาบ้างสลับกันไปตามจังหวะอารมณ์ สายตานางจ้องมองไปที่กองเสื้อผ้านั้นแต่ไม่อาจเอื้อมมือไปถึงได้เพราะต้องรูดชักควยในมือไม่ได้หยุดพัก

ทันใดนั้นแม่การะเกดก็ต้องตกใจจนหันหลังเอี้ยวคอกลับไปมอง เพราะบ่าวอีกคนกำลังจับสะโพกของนางแหวกออก จากนั้นมันก็ก้มลงไปเลียรูตูดของนางอย่างไม่มีทีท่ารังเกียจ
"อย่า..อย่าทำอย่างนั้น มันสกปรกนะ...อ๊า...ซี้ด...ข้าบอกว่าอย่าไงเล่า...โธ่...ซี้ด..."
แม่การะเกดร้องห้ามแต่ก็ไม่เป็นผล มันยังคงลงลิ้นเลียรูตูดของนางจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลาย สร้างความเสียวซ่านอย่างไม่เคยมีมาก่อนกับกับนางเป็นอันมาก ทั้งรูหีก็ยังมีควยเสียบคาอยู่พลางกระเด้าเข้าๆออกๆ ทั้งรูตูดก็โดนดูดเลียจนเสียวไปทั้งด้านหน้าด้านหลัง

เพียงไม่นานหลังจากที่ประตูหลังของแม่การะเกดชุ่มชื้นดีแล้ว บ่าวคนที่เลียอยู่เมื่อครู่ก็ลุกขึ้นมาจ่อท่อนควยของมันเข้ากับรูตูดของแม่การะเกด แม่การะเกดดิ้นส่ายสะโพกเล็กน้อยเพราะความตื่นกลัว เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่นางต้องเสียความบริสุทธิ์ทางประตูหลัง แต่นางก็ดิ้นหนีได้เพียงชั่วครู่สะโพกของนางก็ถูกจับตรึงไว้ แล้วท่อนควยอันนั้นก็ค่อยๆชำแรกผ่านรูตูดของนางเข้ามาช้าๆ ความคับแน่นทั้งสองร่องรูทำเอาแม่การะเกดถึงกับตาเหลือกลิ้นจุกปากเลยทีเดียว

แล้วควยทั้งสองดุ้นที่เสียบเข้าไปในตัวนางทั้งหน้าและหลังก็ทำหน้าที่ของมันราวกับกระบอกสูบ เคลื่อนตัวขึ้นลงเข้าออกสอดคล้องกันเป็นจังหวะ แม่การะเกดเสียวซ่านจนสติแทบจะดับวูบไป ดวงตาเหม่อลอยจับจ้องออกไปที่ใดมิรู้ได้ บัดนี้ร่างกายของนางราวกับหุ่นกระบอกที่เชือกชักขาดสะบั้นลง ไม่ว่าพวกบ่าวที่รุมโทรมนางอยู่จะจัดแจงท่าทางไปทางไหนนางก็ไม่อาจขัดขืนได้อีกต่อไป นางถูกพลิกตัวหงายขึ้นมาโดยมีบ่าวคนหนึ่งนอนอยู่ข้างใต้ ท่อนควยปักเสียบคาอยู่ในรูตูด คนอื่นๆก็สลับกันเข้ามาเย็ดรูหีของนางผลัดเปลี่ยนกันจนครบถ้วนทั้งหกคน

แม่การะเกดอ่อนเพลียจากการถูกชายทั้งเจ็ดรุมข่มขืนนางจนเกือบจะหมดสติไปอยู่รอมร่อ หากเป็นเพราะจังหวะหนึ่งที่มือนางป่ายไปโดนเสื้อผ้าที่กองอยู่ตรงมุมเตียงนั้นโดยบังเอิญ นางล้วงคลำดูอยู่ซักพักก็เจอถุงผ้าแพรที่คุณลุงสั่งให้นางพกติดตัวไว้ปกป้องนางในยามมีภัย แม่การะเกดจึงกลั้นใจใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายที่มีดึงเชือกที่รัดปากถุงออกก่อนจะล้วงมือเข้าไปด้านในนั้น แล้วนิ้วเรียวของนางก็สัมผัสเข้ากับกระดาษแข็งๆแผ่นหนึ่งด้านใน พลันสายตาของแม่การะเกดก็พร่ามัวด้วยแสงอันเจิดจ้า จากนั้นนางก็มองไม่เห็นสิ่งใดอีก และสติของนางก็ดับวูบไปทันที

...

เมื่อแม่การะเกดลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่า บัดนี้ตัวเองกำลังยืนอยู่ข้างเตียงที่นางเพิ่งนอนอยู่เมื่อครู่ หากแต่บนเตียงยังคงมีร่างของนางที่กำลังโดนรุมโทรมจากพวกบ่าวทั้งเจ็ดคนอยู่เช่นเดิม แม่การะเกดตกใจเป็นอย่างยิ่งเพราะนึกว่าตนเองตายแล้วจนวิญญาณหลุดออกจากร่างมาเช่นนี้ หากแต่มีเสียงหนึ่งทักขึ้นมาจากด้านหลัง
"เกศสุรางค์!!"
นางจึงหันกลับไปมองและพบว่าแม่การะเกดตัวจริงในชุดสไบสีแดงกำลังยืนจ้องมาทางนาง
"การะเกด...นั่นเธอจริงๆใช่ไหม เธอมาได้ยังไงเนี่ย"
"ข้ามิใช่ผู้ใด ข้าคือเศษเสี้ยวหนึ่งของดวงจิตที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่าง บัดนี้ข้าก็คือตัวเจ้า และเพราะข้านี่แหละที่ดลจิตใจของเจ้าให้เข้าสู่วังวนของกามราคะ จนกลายเป็นเจ้าในทุกวันนี้"

ร่างนั้นอธิบายออกมา แท้จริงแล้วนางก็คือแรงปรารถนาสุดท้ายของแม่การะเกดตัวจริงที่ตายไปโดยที่ยังไม่เคยสัมผัสรสชาติแห่งการเสพสังวาสกับผู้ชาย และนางก็คือตัวการที่ทำให้เกศสุรางค์ในร่างของการะเกดรู้สึกหงี่ร่านทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิดกับชายอื่นตามลำพังจนเกิดเป็นเหตุการณ์โล้สำเภาในทุกคราว แต่พักหลังๆมานี้นางแทบไม่ได้มีบทบาทใดๆต่อจิตใจของเกศสุรางค์ในร่างนี้อีก เพราะนางเริ่มติดใจหลงใหลเรื่องกามารมณ์จนมันกลายเป็นนิสัยของนางไปแล้วนั่นเอง

"สิ่งที่เจ้าสัมผัสในถุงผ้านั้นคือเศษเสี้ยวหนึ่งของคัมภีร์มนต์กฤษณะกาลี ที่คุณลุงฉีกออกมาใส่ไว้ในถุงแลมอบให้เจ้า เมื่อเจ้าสัมผัสโดนมันเข้า จิตของเจ้าจึงหลุดออกจากกายและได้มาพบกับข้าที่นี้ยังไงล่ะ"
ดวงจิตของแม่การะเกดอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้นางฟัง
"แล้วมันจะช่วยข้าให้รอดไปจากตรงนี้ได้ยังไงล่ะ เจ้าดูสิ ตอนนี้ร่างของข้าโดนบ่าวของฟอลคอนรุมโทรมจนแทบดูไม่ได้แล้วหนา ร่างของข้าพังยับเยินไปหมดแล้วเจ้าเห็นหรือเปล่า"
เกศสุรางค์เริ่มโวยวาย เพราะตอนนี้ร่างของนางนั้นกระเด้งกระดอนไปมาตามแรงกระเด้าเย็ดจนดวงตาเหม่อลอยประดุจคนไร้ชีวิต ใบหน้าของนางนั้นไม่แสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกใดๆอีก ดูเรียบเฉยราวกับใบหน้าของตุ๊กตา แม้พวกบ่าวจะโหมกระแทกท่อนควยใส่ร่องรูของนางทั้งหน้าและหลังพร้อมกันอย่างรุนแรงแค่ไหนนางก็ไม่แสดงอาการใดๆออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

"ออเจ้าต้องให้ข้าได้ทำหน้าที่ของข้า เรื่องนี้หนักหนาเกินกว่ากำลังของเจ้าจะแก้ไขได้เอง คุณลุงของเจ้าและข้ารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นจึงวางแผนนี้เอาไว้เพื่อให้ข้าได้ช่วยเหลือเจ้า แต่เจ้าต้องปล่อยให้ข้าได้ควบคุมร่างกายของเจ้าทั้งหมด เจ้าจึงจะรอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไปได้"
ดวงจิตของแม่การะเกดบอกวิธีแก้ไขสถานการณ์ให้เกศสุรางค์ฟัง ซึ่งนางก็ไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องยอมรับข้อเสนอนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้

แม่การะเกดเดินออกมาจนพ้นเรือนของฟอลคอนได้ซักระยะ นางก็ทรุดตัวลงนั่งเพราะแข้งขาไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะพยุงตัว นางผ่านการร่วมสังวาสกับผู้ชายถึงสิบคนมาอย่างต่อเนื่อง ย่อมต้องถึงจุดที่ร่างกายเกินจะทนไหว นางรำพึงรำพันกับตัวเองเบาๆ
"ไม่ไหวแล้ว ข้ามาได้แค่นี้เองหรือนี่"
จากนั้นนางก็สลบไปใต้ร่มไม้ต้นหนึ่งที่ข้างทางนั้นเอง

"แม่การะเกด!! แม่การะเกดฟื้นสิ"
แว่วเสียงเรียกของชายผู้หนึ่ง แม่การะเกดจึงลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าเป็นคุณพี่เดชของนางนั่นเองที่เข้ามาปลุกนาง
"คุณพี่..คุณพี่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ"
"ออเจ้าทำกระไรลงไป รู้ตัวหรือไม่"
"ข้าผิดไปแล้ว ขอโทษเจ้าค่ะ"
แม่การะเกดยกมือไหว้ขอโทษคุณพี่ แต่พลันเขาก็ชักกริชออกมาจากเอวแล้วจ่อใบมีดเข้าที่คอตัวเอง แล้วพูดออกมาด้วยท่าทีขึงขังเป็นที่สุด
"สัญญากับข้าว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีก ออเจ้ารู้หรือไม่ว่าแรกที่ข้าได้ยินว่าออเจ้าจะแฝงกายเข้าไป ข้าแทบขาดใจตายลงเดี๋ยวนั้น รู้หรือไม่ว่าถ้าหากพลาดพลั้งไปย่อมถึงแก่ชีวิต"
"สัญญาเจ้าค่ะสัญญา ข้าจะไม่ทำแบบนั้นอีก จะไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอีกเจ้าค่ะ เอามีดออกเถอะนะเจ้าคะ เลือดออกแล้วหนาเจ้าคะ"
แม่การะเกดพูดด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะเกรงว่าคุณพี่จะแทงมีดใส่คอตัวเอง นางรีบรับปากให้สัญญากับเขาก่อนจะดึงมีดออกจากคอแล้วโยนทิ้งไปให้ห่างตัว แล้วดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเลือดที่คอของคุณพี่

"ออเจ้ากล้าหาญชาญชัย กระทำในสิ่งที่แม่หญิงคนอื่นไม่มีวันกระทำกัน ผู้ใดห้ามปรามออเจ้าก็ไม่เคยฟัง ลืมไปแล้วหรือว่าในอยุธยานี้ ออเจ้าเป็นเพียงคนที่มีชีวิตเดียว หากออเจ้าเป็นกระไรไป ข้าก็มิขออยู่เป็นผู้เป็นคน ให้ข้าตายก่อนเสียยังดีกว่า"
"ข้าขอโทษเจ้าค่ะ ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว"
แม่การะเกดยกมือไหว้พลางพูดเสียงสะอื้นทั้งน้ำตา นางรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเป็นอย่างยิ่ง พลางโผเข้ากอดพ่อเดชอย่างสุดซึ้ง แล้วทั้งคู่ก็จูบปากกันเนิ่นนานจนเหมือนเวลารอบตัวจะหยุดลง เมื่อถอนปากออกจากกันแม่การะเกดก็ซบใบหน้าลงบนไหล่ของเขา แล้วลืมตาขึ้นมาด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์ราวกับเป็นอีกคน
'ข้าขอรับคุณพี่ไปละนะ เกศสุรางค์'

แล้วแม่การะเกดก็ยิ้มที่มุมปากออกมาอย่างผู้ชนะในที่สุด

ปล.ตอนหน้าอวสานแล้วนะครับ หมดมุขเขียนต่อแล้ว

pacheannoom


Prasit Saeeaw


BIG_A



navy868





somchai.soonklang

โหแม่การะเกดเอย โดนรุมสกัมเครื่องพังหมด

เก๊าส์ เกา ดาก


eaddy48


redarmy1998

ติดตามผลงานได้ที่ : //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?action=profile;area=showposts;u=280686

wood007

การะเกดเรื่องนี้แซ่บกว่าในหนังอีก