สวัสดีครับ สวัสดี กระทู้นี้มาไขข้อข้องใจ และกระบวนท่าต่างๆนะครับ ถือซะว่าเป็นกระทู้อ่านเล่นๆ คล้ายๆ วิกิพีเดีย แล้วกันนะครับ  ให้คิดซะว่า Side Story นี้ คือ อนิเมะสักเรื่องแล้วกันนะครับผม  แล้วก็อย่าลืมโหวตกันนะครับ พี่อั้ม หรือ น้องปาล์ม




••••••


ชิกิงามิ 式神




ชิกิงามิ เขียนด้วย

式 ( ชิกิ )  แปลว่า สูตร , พิธี
神 ( คามิ ) แปลว่า พระเจ้า


ชิกิคามินั้นเป็นเวทย์อัญเชิญชนิดหนึ่งของ องเมียวจิ โดยที่ผู้ที่จะทำการอัญเชิญ ต้องเคยทำพันธะสัญญากับภูติตนนั้นมาก่อน ชิกิคามินั้น สามารถเป็นได้ทั้งเทพหรือปีศาจ ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ทำสัญญานั่นเอง  ส่วนในกรณีของริวกะนั้น ทั้ง โอดะ โนบุนากะ และ เบงเค นั้น ริวกะไม่ได้เป็นผู้ที่ทำพันธะสัญญาด้วยตัวเอง แต่ได้รับสืบทอดมา ริวกะตอนนี้ไม่มีปัญญาที่จะทำพันธะสัญญาชิกิคามิได้ เพราะยังอ่อนอยู่นั่นเอง ชิกิคามิของตระกูลอิซานางินั้นจะแตกต่างออกไปคือ ทุกตนจะมีความคิดเป็นของตนเอง และมีจุดเด่นด้านนิสัยเหมือนตอนที่มีชีวิตนั่นเอง  โนบุนากะนั้น ถูกทำพันธะสัญญา โดย อิซานางิ มาโมรุ ผู้นำตระกูลอิซานางิในยุคเซ็นโงคุ ส่วนเบงเคนั้น ได้ อิซานางิ ชิน เป็นผู้ทำพันธะสัญญา



••••


โอดะ โนบุนากะ

จอมทัพแห่งยุคเซนโกคุในอดีต เหตุผลที่เขามาปรากฎในร่างเทพอัญเชิญ หรือ ชิกิคามิ นั้น เพราะเขาได้ทำพันธะสัญญากับสหายรัก อย่าง อิซานางิ มาโมรุ ( ผู้นำตระกูล อิซานางิ ในยุคนั้น )  เนื่องจากโอดะ โนบุนากะ เป็นผู้ที่มีแนวคิดทันสมัย ชอบเทคโนโลยี เขาจึงอยากที่จะอยู่เพื่อเฝ้ามองเทคโนโลยีใหม่ๆ ในภายภาคหน้า นั่นจึงทำให้ โอดะ โนบุนากะ ในวัย 30 เศษ ที่มีทั้งพลัง ฝีมือ สติปัญหา ที่อยู่ในจุดสูงสุด ( ช่วงพีค )  ได้ทำพันธะสัญญาแบ่งวิญญาณเพื่อเป็นเทพอัญเชิญของตระกูล อิซานางิ เพื่อที่จะได้มีชีวิตนิรันดิ์มากพอที่จะมองความก้าวหน้าของโลก ได้ตลอดกาล


แต่มาโมรุก็ได้แอบใช้มนต์บางอย่างที่เปลี่ยนแปลงแนวคิดของเขาในบางเรื่อง จริงอยู่ที่เขาเป็นจอมทัพที่ฝีมือสุดยอด อีกทั้งยังมีความชาญฉลาด แต่ต้องยอมรับว่าเขาเป็นก็มีส่วนที่โหดเหี้ยมมากๆ  มาโมรุจึงได้แอบใช้เวทย์ชำระล้าง แยกนิสัยในส่วนที่โหดร้ายนั้นออกไป เหลือไว้เพียงความเข้มงวด และเด็ดขาดเท่านั้น เพราะมาโมรุคิดว่าความเข้มงวดและเด็ดขาดของโนบุนากะนั้น จำเป็นต่อลูกหลานของอิซานางิในอนาคต




••••


เบงเค


เบงเคถูกอัญเชิญออกมาโดย ชิน ปู่ของริวกะ แรกเริ่มนั้น หลังจากที่ชินได้พลิกฟื้นผืนดินนางาซากิ จนกลับมาแข็งแกร่งเป็นปึกแผ่น เขาจึงตัดสินใตเดินทางมาที่กรุงโตเกียวเพื่อขยาย และสร้างความมั่นคงให้แก่ผู้ทุกยาก แต่ระหว่างนั้น ชินและ 4 ผู้คุมกฎในยุคนั้นได้เดินทางไปที่ หลุมศพของ เบงเค จังหวัดอิวาเตะ ชินมองการไกลไปถึงอนาคตว่า พละกำลังของเบงเคนั้นจำเป็นสำหรับอิซานางิ ในภายภาคหน้า ตกดึกค่ำคืนวันหนึ่ง ชินได้พบกับวิญญาณของเบงเค ยืนตระหง่านน่าเกรงขามอยู่ที่เดิม ที่ที่เขายืนเพื่อปกป้องเกียรติของนายเหนือหัวจนตัวตาย


แน่นอนว่าลูกผู้ชายต้องคุยกะนด้วยพละกำลัง และชินในวัย 25 ก็เอาชนะเบงเค ชายผู้ที่มีพละกำลังเหลือล้นลงได้ ไม่ว่าจะดวลด้วยอาวุธ หรือ มือเปล่า  เบงเคก็ไม่สามารถเอาชนะชินได้เลย หรือ แม้แต่แข่งงัดข้อเพียวๆ เบงเคก็แพ้ยับ แต่ถึงกระนั้นเบงเคก็ยังไม่อาจละทิ้งหน้าที่ตรงนี้ไปได้ จนเกิดประโยคหนึ่งจากชินขึ้นมา


เบงเค  นายเหนือหัวของท่านได้ทำการ เซปปุกุ อย่างสมศักดิ์ศรีแล้ว หน้าที่ของท่านจบลงไปหลายร้อยปีแล้ว มาเถอะ มาเป็นกำลังให้อิซานางิเถอะ มาช่วยข้าพลิกฟื้น และ ก่อร่างสร้างรากฐานอิซานางิในโตเกียว ให้มั่นคงเถอะ


คำๆนี้ของชิน เหมือนเป็นการปลดพันธะนาการของเบงเค โดยสิ้นเชิง เบงเคสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อชินและอิซานางิด้วยวิญญาณของเขา และ เบงเคก็กลายมาเป็นเทพอัญเชิญของอิซานางิ ในที่สุด


••••••



รวมกระบวนท่าของริวกะในร่างเพลิง เรียงจากต้นเรื่องยันท้ายเรื่อง


# เอ็นไค หรือ บัญญัติเปลวอัคคี
ทุกครั้งที่ริวกะจะใช้เพลิงโจมตีในรูปแบบต่างๆ ที่มีสเกลที่ใหญ่กว่าปกติ เขาจะต้องใช้บัญญัติเปลวอัคคีเสียก่อน เพื่อเป็นการรวบรวมเพลิงให้มากกว่าปกติ ก่อนที่จะใช้โจมตี ซึ่งเหตุผลนั้นก็คือ  ต้องอ่านในตอนที่ 12

•••••

กระบวนท่าที่ 1 :  คากามิ

คากามิ แปลว่า กระจก

ริวกะใช้คากามิในการรับเปลวไฟกรดกัดกร่อนของ อินุงามิ ด้วยการสร้างกำแพงขึ้นมาและปรับเพลิงของตัวเองให้เบาลงกว่าปกติ เพื่อที่จะได้มีความร้อนแรงเท่าอินุงามิ และทำการดีดสะท้อนกลับออกไป เหมือนกระจกสะท้อนนั่นเอง


คากามิ นั้นเขียนได้ 2 รูปแบบ

ถ้าเขียนด้วยตัวอักษรนี้  鏡  จะแปลว่ากระจก

แต่ถ้าเขียนด้วยคันจิตัวนี้  火神 จะแปลได้ว่า เทพแห่งไฟ

ซึ่งทั้งสองคำอ่านว่า คากามิ เหมือนมิ



......


กระบวนท่าที่ 2  : ฮิ โนะ โฮโย

ฮิ แปลว่า ไฟ
โนะ เป็นคำเชื่อมประโยค เหมือนคำว่า of

โฮโย แปลว่า อ้อมกอด , การกอด

แปลจากหลังมาหน้าตามแบบญี่ปุ่นก็จะได้ความหมายว่า อ้อมกอดของเปลวไฟ

ท่านี้เป็นเหมือนท่าคอมโบเสียมากกว่า เพราะริวกะจะใช้ประโยชน์จากการสะท้อนเพลิงจากคางามิ ให้เป็นประโยชน์ เขาจะควบคุมเปลวไฟที่สะท้อนกลับออกไป ให้เข้าโจมตีเป้าหมายจากทั่วทุกทิศราวกับอ้อมกอดของพระเพลิง เนื่องจากเป็นการโจมตีต่อเนื่องจึงจำเป็นต้องใช้บัญญัติเปลวอัคคี


.........................


ท่า ที่ 3 :  เอ็นไค : คะเอ็น โกเงคิ

แปลว่า บัญญัติเปลวอัคคี เพลิงจู่โจม

ริวกะจะรวบรวมเปลวเพลิงจำนวนหนึ่งไว้ที่รอบตัว และ บัญชาให้มันหมุนด้วยความเร็วสูง และพุ่งโจมตีแบบสุ่มออกมา ราวกับหอกพิฆาต


........................


ท่าที่ 4  : เอ็นไค : ฮิ โนะ อุมิ

แปลว่า บัญญัติเปลวอัคคี ทะเลเพลิง
ท่านี้เป็นท่าที่เอาไว้ใช้ตอนโดนลุม ริวกะจะใช้เอ็นไคเพื่อเรียกรวมเพลิงจำนวนหนึ่งในระยะเวลาสั้นๆ และปล่อยเพลิงทั้งหมดสู่พื้น ความร้อนจากเปลวไฟที่อาบทั่วผืนดินจะค่อยๆเปลี่ยนผืนดินนั้น ให้หลายเป็นเหมือนทะเลเพลิงที่พร้อมจะพาไปสู่ความตายนั่นเอง

•••••


#  ไดเอ็นไค :  มหาบัญญัติเปลวอัคคี

ท่านี้คือขั้นที่เหนือกว่าของบัญญัติเปลวอัคคี หรือจะเรียกว่าท่าใหญ่ก็ได้

ได ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าใหญ่


ไดเอ็นไคจึงเป็นการโจมตีที่รุนแรงปละทรงพลานุภาพมาก เงื่อนไขการจะใช้ มหาบัญญัติเปลวอัคคีได้ นั่นก็คือจะต้แงมีเปลวไฟที่มากเพียงพอ ไม่เช่นนั้นอำนาจทำลายล้างจะลดลงและไม่สามารถคงรูปร่างไว้ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ริวกะต้องใช้กระบวนทั้ง 4  คางามิ , ฮิโนะโฮโย , คะเอ็นโกเงคิ , และ ฮิโนะอุมิ   เพื่อที่จะมีเปลวไฟที่มากพอนั่นเอง  แต่การที่จะใช้มหาบัญญัติเปลวอัคคีนั้นก็มีผลเสีย เพราะร่างกายของผู้ใช้จะสูญเสียแรงทั้งหมดทันที มันคือแลกเปลี่ยนที่มีความเสี่ยงสูงมาก



••••

ไดเอ็นไค : ซูซาคุ


ซูซาคุ 1 ใน 4 สัตว์ที่เทวะแห่งทิศใต้ ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ซูซาคุมีรูปร่างเป็นหงส์แดง หงส์เพลิง แล้วแต่จะเรียกกัน  ริวกะใช้ไดเอ็นไค และสร้างร่างเพลิงมายาซูซาคุขึ้นเพื่อโจมตีเป็นเส้นตรง พลานุภาพการทำลายล้างนั้นเกินจินตนาการ เพราะความร้อนของเปลวไฟนั้นสามารถละลายเหล็กได้ แม้เพียงโฉบผ่านเท่านั้น


อันที่จริงกระบวนมหาบัญญัติเปลวอัคคีที่เอ็นมะสอนให้ริวกะนั้น มี 4 ท่า แต่ตอนนี้ริวกะสามารถใช้ได้เพียงท่าเดียวเท่านั้น อีก 3 ท่ายังทำไม่ได้ ข้อห้ามของการใช้ท่าเหล่านี้คือ ห้ามใช้บนโลกมนุษย์ ไม่เช่นนั้นจะเกิดภัยพิบัติได้



•••••



เพลิงสุริยะ


เป็นเพลิงขั้นที่ 2 ในร่างมนุษย์ของริวกะ มันเป็นไฟที่ประทุเนื่องจากความโกรธของริวกะที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้นั่นเอง เพลิงชนิดนี้ร้อนกว่าเพลิงชนิดแรกหลายเท่า ร้อนจนริวกะฟื้นฟูตัวเองไม่ทัน จริงๆกระบวนท่าของเพลิงสุริยะนั้นมีหลายท่ามาก แต่ริวกะหมดสภาพเสียก่อนจึงได้ปล่อยไปแค่ท่าเดียว


1.  ไทโย โนะ ฮังไค


แปลว่า รัศมีสุริยะ

ริวกะจะวาดมือออกไปรอบลำตัว เพื่อปล่อยคลื่นความร้อนออกมา เปรียบเสมือนคลื่นฮีทเวฟนั่นเอง แต่เป็นคลื่นฮีทเวฟที่ทำให้ไหม้เกรียมในทันที เพลิงสุริยะต่างจากเพลิงขั้นที่ 1 นั่นก็คือ มันสามารถทำบายดวงวิญญาณได้ แต่มันก็จะทำลายผู้ที่ใช้ด้วยเช่นกัน ตราบใดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้


••••

ชิรานุย


- อุป ไว้ก่อน ฮ่า ฮ่า ฮ่าาา



•••••••




ทำไม ริวกะสามารถใช้เวทย์จักรพรรดิเพลิงได้ ?


นั่นเพราะเจ้าของเขาอนุญาตยังไงล่ะครับ แถมยังถ่ายถอดเสี้ยวความทรงจำเกี่ยวกับการใช้ให้นิดหน่อยด้วย เรียกแบบภาษาชาวบ้านคือ มาบัฟให้ริวกะนั่นเอง เพราะริวกะเองก็มีความรู้ด้านองเมียวจิพอตัวเลยทีเดียว ซึ่งข้อมูลนั้นจะเปิดเผยในตอนต่อไป ส่วนตำรา โฮวคิ  ไนเด็น นั้น อ้างอิงตามตามประวัติศาตร์ เป็นตำราที่มีอยู่จริงๆครับ ท่านเซย์เมย์ ( ในประวัติศาสตร์ ) ได้รับสืบทอดมาอีกทีหนึ่ง


•••••


อาณาเขตจักรพรรดิ


เป็นเวทย์ฟื้นฟู ที่ริวกะได้แถมมาด้วยจากเสี้ยวความทรงจำ เป็นเวทย์ฟื้นฟูที่ทรงพลังมาก ฟื้นฟูได้ทั้งสภาพร่างกายที่บาดเจ็บ และ ความอ่อนล้า อ่อนเพลีย  อีกทั้งยังเป็นเวทย์ป้องกันด้วย สัมภเวสีหรือวิญญาณตนใดที่ผู้ใข้คาถานี้ึิดส่าเป็นภัยหรือเป็นอันตรายต่อตนเอง ถ้าเข้ามาในอาณาเขตนี้ก็จะสลายหายไปทันที



หลังจากนี้จะเป็นข้อมูล ในเนื้อเรื่องที่ซ่อนไว้ ขออนถญาตซ่อนไว้เพื่อ ปกป้องการถูกสปอย แต่ถ้าใครไม่กลัว ก็แสดงความคิดเห็นและอ่านได้เลยครับ




••••••



หลังจากที่ริวกะเข้าสู่ร่างจักรพรรดิเพลิง ทั่วทั้งตัวเขานั้นจะถูกก่อกุ้มด้วยเวทย์มนต์ไฟที่มีอำนาจ ลบบ้าง ทำลายวิญญาณได้ แต่ว่าร่างกายของเขาบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้ อีกทั้งยังเสียหายหนักจากการใช้เพลิงสุริยะ ทำให้เขาไม่สามารถใข้การร่ายมนต์แบบปกติได้ เขาจึงต้องเคลื่อนย้ายมนต์จักรพรรดิเพลิงให้ไปสถิตที่ดาบคุซานางิแทน และใข้มันเพื่อโจมตี จึงได้เกิดท่าฟันขึ้นมากมาย โดยจะเรียงตามนี้ครับ


ธีมดนตรี ตอนที่ริวกะเริ่มใช้ดาบคุซานางิ





ริวกะคือชาวร็อค



 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ได้ความรู้ทำใหอ่านเรื่องได่สนุกขึ้น

เนื้อหา น่าติดตาม ขอชื่นชมผลงาน  สุดยอดเลยครับ  

[kazu36]

ได้ความรู้ไปด้วย
จินตนาการบรรเจิด

แต่ละท่านี่สุดยอด

ขอบคุณครับที่รวมท่าต่างๆมาให้อ่านแต่ละท่านี้สุดยอดเลย

ขอบคุณมากครับ
ได้ทั้งความรู้
ได้ทั้งความเสียว แต่รู้สึกอิจฉาริวกะนะทั้งเก่ง ทั้งมีเสน่ห์
สาวๆรอบกายสุดยอดทุกคน

ขอบคุณครับ
สุดยอดให้รายละเอียดกระบวนท่าได้อ่านสนุกขึ้นครับ

ขอไม่โหวต เพราะส่วนตัวอยากให้จบเป็นเรื่องๆ เพราะ พอมีหลายเรื่อง และแต่ละตอน กว่าจะออกค่อนข้างนาน พอมาอ่านต่อ แทบจำเนื้อเรื่องเก่าได้ไม่หมด ได้แค่รางๆ สุดท้ายมันดูสับสนบนเป ในมุมผู้อ่านแบบผมบางครั้งต้องย้อนลับไปอ่าน บางตอนก็ บรรยาย ออกจะยืดยาวไปมากไปนิด ถ้าลดรายระเอียดลงบ้าง น่าจะอ่านได้ลื่นไหลกว่านี้ ทั้งหมดนี้เป็นความคิดผมคนเดียวนะครับ ยังงัยผมก็คิดตาม เพราะผมก็ติดท่านแล้ว ก็เป็นกำลังใจให้ แล้วก็ขอให้ออกตอนใหม่เร็วๆ กว่านี้นะครับ เข้าใจว่าท่านมีภาระกิจในชีวิตจริง แต่คนรออ่าน ทรมานมากก กว่าจะออกมาแต่ละตอน 555

สุดยอดจริงๆครับ แม้แต่รายละเอียดด้านภาษาญี่ปุ่นก็ยังให้ความรู้ผู้อ่านด้วย
ขอบคุณที่ตั้งใจครับ

มาอ่านตอนนี้ทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องขึ้นอีกเยอะเลยครับ

ลอง ธีมดนตรี แบบนี้ก็น่าจะดีนะครับ มีกลิ่นอายตะวันออกด้วย



ของ Whispered "Hold the Sword" ครับ

ได้อ่านรายละเอียดแล้วเห็นภาพขึ้นเยอะ ริวนี้เทพจริงๆเลย

รู้รายละเอียดเพิ่มมากขึ้นเลย

ส่วนตัวอยากให้ได้ทั้งคู่เลย