ครั้งหนึ่ง ณ ทะเล ตอนที่ 9 ( เรื่องเล่าของนายโทนกับพี่เหมียว )

[wat2017]

คงเงี่ยนมา

[srpsr]

อ่านเพลินอีกแล้ว สนุกมากครับ

[Thebigone]

เจอพี่โทนเรา.. จบ

[PL5037]

มีแง่คิดในหลายๆเรื่อง

[Nid Manprasert]

ดูๆไปเหมี่ยวนี่แสบยุนะ

[Wmwm01]

ขอบคุณครับ

[jarbmong]

พลอยรีเทริน์

[LOF]

รำคานพี่เท่มาก

[akkanee]

โค๊ด เลือก ขยาย

ความรู้แน่นไปเลย

[nort]

ลุ้นพี่พลอยดีกว่า

[jackky]

แล้วคืนนี้นายโทนจะไหวไหมเนี้ย เล่นกับเหมียวไปก่อน 1ยกแล้วด้วย

[sabza203]

ลุ้นพี่พลอยยย

[tum696969]

สวิงเลยไหม

[Bluemuffer]

ลงอย่างเร่งด่วน ตอนเที่ยงๆจะมาอัพ รายละเอียด



............................

ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมกำลังจัดกิจกรรมนันทนาการให้คณะสัมมนาครับ

แล้วระหว่างรออยู่นั้นพี่พลอยก็เดินมาถามว่าคืนนี้ว่างมั้ย

ไปเดินเล่นกัน ผมบอกอ่ออื้มก็ได้แหละครับ พี่พลอยก็บอก โอเค

งั้นทั้งคืนนะ ผมก็ตกใจสิ่ครับ อิหยัง อิหยังนะ อะไรทั้งคืนเหรอพี่พลอย !!!


..................


ตอนที่ 9





" ไม่ได้เหรอ "


พี่พลอยมองหน้าและพูดด้วยแววตาอ้อนวอนสุดๆ หูยทั้งคืน ทั้งคืนอะไรกันเนี่ย ผมถามอะไรล่ะนั่น พี่พลอยบอกกลับ เอ้าก็นั่งดูดาวไง


ผมก็ อือ อ่า เอ้อ โอเคดูดาว พี่พลอยก็อื้อๆ แล้วเขาก็เดินอ้อมกลับไปเข้าแถวครับ พอพี่พลอยเดินออกไป ผมแม่งนั่งเอามือทาบ อกเลย


หัวใจเต้นตุ้บๆๆๆๆๆๆๆ คือเคยเป็นกันมั้ย มันเป็นความรู้สึกที่แบบคาดหวังกับคำตอบ แต่พอได้ฟังมันกลับไม่รู้สึกผิดหวังอะไร



แต่หัวใจแม่งเต้นตุ้บๆๆๆๆๆๆๆ ไม่หยุด พี่พลอยลงไปนั่งกับกลุ่มของเธอและกันมาทำมือ OK ที่ผมและแจกรอยยิ้มที่สดใสให้หนึ่งที



เฮ้อ พูดตามตรงครับท่านผู้อ่าน ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงจะวุ่นวายกับความคิดที่ว่าจะหาโอกาสยังไงให้ได้ซั่มเธอ คือเคยเป็นนะเว้ย


ตอนไปออกค่ายตอน ปี1 คือมีสาวคนนึงโดนใจแล้วเธอก็สนิทกับผมด้วย คือรู้แหละว่าเหมือนจะเล่นด้วย ผมนี่ก็หาโอกาสอยู่กับเธอสองคนตลอด


แต่ด้วยความกระหาย ความหื่น มันเลยทำให้ผมเนี่ยเหมือนแสดงความอยากจนออกหน้าออกตา สุดท้ายแห้วครับ ผู้หญิงบอกว่าผมตั้งใจจะเอาอย่างเดียว ไม่มีความโรแมนติกเลย


เธอบอกผมนะ ว่าจริงๆแล้วอยู่กับผมแล้วสนุกดี แต่นี่อะไรไม่รู้เอะอะชวนหนุนตัก แล้วประเด็นคือเธอพูดในกลุ่มเพื่อนๆด้วยนะ ไม่ได้พูดกับผมตรงๆ



ผมจิตตกไปเป็นอาทิตย์ มีแต่เพื่อนมาบอก เอดโยส เอดโยส เฮ้อแล้วจากนั้นมาผมก็นิ่งเลยทีนี้ เพื่อนผู้หญิงก็เข้ามาหานะ เพราะคิดว่าผมเป็นสุภาพบุรุษ


แต่อันที่จริง ผมกลัวโดนเอาไปนินทาอีกครับ บอกตรงๆ อ่ะฮืออ แล้วครั้งหนึ่งที่จำได้เลยคือไปไปทะเลกับคณะ เพื่อนในกลุ่มนี่แหละ


คือด้วยความที่วัยรุ่นอ่ะเนอะ ใครมาคุยด้วย ใครมาจับมือ เกาะไหล่ เราแม่งก็คิดไปว่า โอ๊วสงสัยเธออาจจะมีใจนิดๆ แล้ววันนั้น อยู่ด้วยกันสองคน


ผมก็คิด ผมก็หวังว่าเอาละว่ะได้แน่ๆล่ะ เพราะถ้าไม่ได้แม่งจบข่าวเลย บรรยากาศเป็นใจงี้ เสียงทะเลเป็นใจงี้โดนกูแน่ แต่จนแล้วจนรอด นั่งคุยกัน ผลักดันไปกันมา ก็ยังไม่สปาร์ค


สุดท้ายไอ้พวกเพื่อนเหี้ยถือเหล้าขาวใส่น้ำแดงมาชวนกิน ไม่รู้ทำไม ผมรินเหล้าแต่ผมได้กินแห้ว แล้วผมแม่งแบบดิ่งเลยอ่ะ คาดหวังมากก็ดิ่งมากจริงๆ



แต่ปัจจุบัน ณ ทะเล ทั้งการที่มีสามสาวเข้ามาในชีวิต ทั้งยังคิดเรื่องพี่หมิวอีก มันทำให้ผมในตอนนั้น ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ ทำอะไรเสียวๆกับพี่พลอยเลยครับ ดูย้อนแย้งเนอะว่ามะ



ปากบอกไม่คาดหวังแต่ใจแม่งเต้นตุ้บๆๆๆเลยครับ ผมกลับมาเริ่มกิจกรรมนันทนาการอีกครั้ง ซุ้มของผมจะเป็นการวิ่งไล่จับ


แบ่ง 2 ฝั่งยืนเป็นแนวตรง วิ่งอ้อมกรวยไล่แปะฝั่งตรงข้าม และเนื่องจากในกลุ่มนี้ ส่วนมากนะ จะมีคนจากสาขากรุงเทพที่ผมรู้จัก ผมก็เลยแซวไปว่า




มีบริการยาหอม สำหรับป้าๆที่จะเป็นบมนะก๊าบ เท่านั้นอหละ โดนด่าเล๊ย อีโทน บลาๆๆ ชั้นยังไม่แก่บลาๆ ฮาดีครับ



แล้วพอเริ่มกิจกรรม ปรี๊ด ทุกคนก็เฮฮากันใหญ่เลยครับ เชียร์ฝั่งเดียวกันสนุกสนาน บรรยากาศยังกับงานกีฬาสี บางคนวิ่งล้ม


ไอ้พวกพี่ผู้ชายบางคน แม่งพุ่งหลาวไล่แปะเลย ฮาชิบหาย กิจกรรมนี้เป็นการเก็บคะแนนครับ คือการวิ่งไล่จับมันอาจจะเป็นแค่กิจกรรมที่ดูธรรมดานะ



แต่ท่านผู้อ่านลองคิดสิ่ครับ   ว่าคนที่วันๆเอาแต่นั่งทำงาน ห่างเหินจากการเล่นสนุกแบบนี้มานาน พอได้กลับมาเล่นจริงๆจังๆ มันจะสนุกขนาดไหน


เพราะว่าสัมมนานี้เรามีกฎว่าเล่นให้สุด เอนจอยให้สุด แล้วทุกคนก็ทำได้ดีมากๆเลยนะ ผมน่ะแค่ทำงานมาปีกว่าๆยังเครียดชิบหายเลย



แล้วพวกพี่ๆเขาล่ะ จะไม่เครียดกันบ้างเหรอ นี่เป็นแค่มุมมองความคิดผมนะ ผมคิดว่าจริงๆแล้วทุกคนที่เกิดมาเป็นคนที่อารมณ์ดีนะเว้ย แต่มันอยู่ที่ว่า



จะถูกหล่อหลอมมาแบบไหน จะถูกสังคมแบบไหนกดดันแค่นั้นเอง ทุกคนเล่นสนุกกันมากเลยล่ะครับ ใครชนะก็ได้แต้มไป ใครแพ้ก็ได้แต้มน้อยลงมาหน่อย



และที่สำคัญใครแพ้ ต้องเต้นได้ย่างครับ กร๊ากกก ไก่ย่างถูกผาวว ไก่ย่างถูกผาว ซึ่งต้องขอขอบคุณทางรีสอร์ตครับ ที่มีกลองให้ยืม


จังหวะสามช่านี่บอกเลยครับว่าชิวๆ ตีตอนงานกีฬาสีประจำ ผมก็รับหน้าที่ตีกลองไปครับ  ทุกคนเต้นไปก็หัวเราะไป บางคนก็บอกว่าผมอ่ะ เอาแต่ตีกลองไม่มาช่วยเลย


ผมก็บอกว่า ผม STAFF คร๊าบ ไปช่วยไม่ได้ มีใครเป็นลมมั้ย เดี๋ยวเอายาหอมมาให้ แล้วผมก็โดนพี่ๆลุมด่าอีกรอบ แต่สนุกดีนะครับ สนุกมากๆ พี่พลอยเธอก็ยิ้มก็สนุกมากๆเลยล่ะ


ปรี๊ดดดด กลุ่มแรกจบลงเรียบร้อยครับ ผมก็ตักน้ำในถังมาให้ล้างเนื้อล้างตัวกัน เพราะว่าล้มคลุกทรายกันหลายคนเลย พี่พลอยก็เดินมาล้างมือครับ ผมก็ตักให้ล้าง


ทำให้โดนคนในกลุ่มแซวเลยว่า โอ้โห ทีคนอื่นให้ตักเองอ่ะ แล้วนี้ทีสาวๆมาล่ะทำเป็นตักให้ เชี่ยเขินเฉยเลย ผมก็ยิ้มๆแล้วบอกว่า เอาหมากมั้ยป้า เท่านั้นแหละครับ แว๊ดๆๆๆ มาเลย


ผมก็ยิ้มไปตักน้ำให้พี่พลอยล้างมือไป ยิ้มอะไรเนี่ย พี่พลอยถามขึ้นมาตอนที่ปาดเส้นผม ปาดหน้า ครับ อูย สวยทะลุแป้งแท้ๆแม่คุณ ผมบอกเปล่านี่ไม่มีอะไร


วันนี้มีทีมแพ้ทีมชนะ แต่มันก็เป็นแค่คะแนนครับ ผมบอกทุกคนว่าขอบคุณที่ทุกคนร่วมกิจกรรมซุ้มของผมเต็มที่ แล้วก็เก็บรหัส RC ไว้นะครับ มีรางวัลแจก เป็นของเล็กๆน้อยๆ


[ เสียงจากวอ ]   เปลี่ยนฐานได้แล้วครับ


เสียงพี่จักรวอ ได้เวลาเปลี่ยนฐานพอดี ทุกคนก็รีบเดินไปฐานอื่นๆต่อ พี่พลอยก็หันมาแล้วเหมือนบอกว่าไปก่อนนะ ผมก็ยิ้มและหยักหน้าอื้อๆไป


จนผ่านไปอีก 1 กลุ่ม  2 กลุ่ม 3 กลุ่ม อุ้ย เจอพี่เท่ส์สุดหล่อกับไอ้แบนครับ ไอ้แบนเดินมาถึงก็ 55555 ทักผมก่อนเลย ผมก็เอ้อไสหัวไปเข้าแถวแล้วร่วมกิจกรรมซะดีๆ 

ซึ่งแน่นอนครับว่าท่าทาง ท่าที่ที่ผมเล่นกับไอ้แบนคงไปสะกิดต่อมไม่พอใจให้ไอ้พี่เท่ส์ครับ มันพูดขึ้นมาว่ารบกวนใช้คำพูดให้ดูสุภาพหน่อยได้มั้ยครับ ผมก็เลยบอกว่าถ้าอยากได้สุภาพรบกวนไปเชิญมัคทายก มานะครับ


ไอ้แบนก็หัวเราะแล้วบอกเอาน่าๆๆ คนรู้จักไม่เป็นอะไร แล้วมันก็เดินกลับเข้าไปในกลุ่มครับ แล้วทุกอย่างมันก็ดำเนินต่อไปเหมือนทุกๆกลุ่ม 55555555555 กลุ่มไอ้เชี่ยพี่เท่ส์แม่งแพ้ ตัวแม่งอ่ะถ่วงทีม


กากซ๊าด ผมก็แอบขำเบาๆ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ แล้วผมก็จะคำแนนนู่นนี่นั่น ทำกิจกรรมต่างๆต่อไปครับ ผมก็พูดย้ำ คือก็ต้องพูดเปล่าวะ ว่าทีมนั้นแพ้ ทีมนี้แพ้ เพราะมันต้องแจก RC แล้วอยู่ดีๆ


ไอ้พี่เท่ส์เขาเป็นห่าอะไรไม่รู้ อยู่ดีๆก็พูดมาว่า จริงๆแล้วชัยชนะไม่ได้สำคัญอะไรหรอกครับ อย่าคิดมากนะทุกคน ผมก็พูดลอยไปว่า แพ้ได้10 คะแนน ชนะได้ 30 คะแนนนะครับ จดกันไว้ด้วยนะ


แล้วแม่งยังไม่ยอมแพ้เว่ย แม่งก็บอกว่าไม่เป็นไรนะครับทุกคน แพ้เป็นพระ ผมก็จดไปเรื่อยแล้วก็บอกอีกครับว่า แพ้อ่ะเป็นพระ ชนะเป็นเจ้าอาวาสนะครับ ( มุขอย่างเก่า )


แล้วทุกคนแม่งก็ฮานะ พี่เท่ส์แม่งก็ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม ในใจล่ะมั้งนะ คือมันพยายามแสดงออกชัดเจนเลยนะ ว่ามันไม่ชอบขี้หน้าผม แต่มันถามผมบ้างมั้ย ว่าผมชอบมันหรือเปล่า ก็ไม่เลย


อ่ะยอมรับว่าแม่งหล่อกว่า แต่ไอ้เชี่ย มึงแม่งทำตัวปัญญาอ่อนอ่ะ เฮ้อออออออ



หลังจากที่กิจกรรมต่างๆบนชายหาด จบลงแล้ว พี่จักรก็วอสื่อสารให้ทุกคนมารวมตัวกันตรงบริเวณหาดหน้ารีสอร์ต


[ พี่จักร ]  :  เดี๋ยวผมให้เวลา 20 นาทีอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันนะ แล้วเรามีเข้าสู้พาร์ทวิชาการสุดท้ายของวันกันครับ



หลังจากที่พี่จักรประกาศเสร็จแล้ว ทุกคนรวมถึงทีมงานก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า  เฮ้อบรรยากาศแบบนี้ผมคิดถึงจัง คือเหมือนเข้าค่ายลูกเสืออ่ะ


ผมคิดถึงบรรยากาศตอนนั้นจัง ม.3 เข้าค่ายลูกเสือที่ มวกเหล็ก สระบุรี เขาจะมีอาคารนั่งกินข้าวสองชั้น ผู้ชายนั่งบน ผู้หญิงนั่งข้างล่าง  อ่าส์


นั่งมองพระอาทิตย์ติดปลายยอดไม้ แสงสลัวๆ ลมเย็นๆ มีเพื่อนวัยห้าวเป้งนั่งคุยกันข้างๆ โคตรดีบอกเลย คือมันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกนะครับ



มันคงเป็นความรู้สึกเดียว กับตอนที่ท่านผู้อ่านทั้งหลายไปเที่ยวต่างจังหวัดและนั่งมองวิวของที่พักมั้ง คงประมาณนั้นแหละ แล้วถ้ายิ่งได้วิวสวยๆ ที่พักดีๆนะ อ่าส์ เอาไปเลย 5 ดาว


ตอนนี้ก็เหมือนกัน หลังจากที่เดินกลับมาจากชายหาด ผมก็ไปอาบน้ำเลยล่ะครับ เฮ้ออาบน้ำ อาบน้ำ พวกพี่ๆ ทีมงานบางคนยังไม่มานะ


เหมียวก็ยังไม่มา ช่างเถอะผมอาบน้ำดีกว่า แต่พอเข้าห้องไป ผมกลับเจอเหมียวที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ ผ้าขนหนูสีขาวกำลังเกาะเนินนมไซส์มินิชวนมองดีแท้


ส่วนความกว้างของผ้าจนหนูก็ปิดได้แค่ข่วงขาอ่อนของเธอ 555 ใช้คำโคตรแก่ ขาอ่อน อ่าช่างเถอะ ผมเห็นก็ชะงักนิดนึง และเดินเข้าไปหยิบผ้าขนหนูและหาเรื่องคุย


ผมถามว่ามาเมื่อไรเนี่ย เหมียวก็บอกอือ พึ่งมาแล้วแม่สาวไซส์มินิก็เดินเข้ามาคล้องแขนผมไว้ แล้วพูดว่าอาบน้ำกัน ผมก็หื๊ม อะไรนะ เหมียวก็เขย่าๆแขนแล้วบอกอาบน้ำกัน



คือเขินมั้ย เขินครับยังไงก็เขิน ไม่ว่าผมจะเคยอาบน้ำกับสาวๆคนไหน พอต้องอาบใหม่ทีไรมันก็ยังเขินทุกที เหมียวเดินมากอดผมทั้งๆที่ตัวเธอเองมีแค่ผ้าขนหนูปกปิดเท่านั้น เนื้อผ้านุ่มๆฟูๆ ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะนุ่มเท่าผิวของเหมียวได้มั้ยนะ

[ เหมียว ]  :  อาบน้ำกันน๊า น๊า


เหมียวพูดย้ำด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อนมากเลยล่ะ ผมก็ถามหืมแน่ใจเหรออาบน้ำ รู้มั้ยครับท่านผู้อ่านทำไมผมทำแบบนั้น เพราะเหมียวเธอปลดผ้าขนหนูของตัวเธอออกแล้วน่ะสิ่ พูดไปอาจจะดูไม่แมนนะ


หุ่นเหมียวอาจจะไม่ได้ดีมาก ถ้าเทียบกับสามสาว แต่ผมคิดนะว่าในหมู่พนักงานออฟฟิศที่เจอๆกันทุกวัน เหมียวก็จัดว่าเป็นสาวงามหุ่นดีคนนึงเลย จริงอยู่ว่าเธอไม่ได้มีลอนกล้ามที่ท้องเหมือนดาว


ก็นะงานนั่งออฟฟิศนี่เนอะแล้วสมัยก่อนนู่น การออกกำลังกายก็ยังไม่ฮิตยังไม่มี T25 ยังไม่มี video สอนการออกกำลังกายคือ ถ้าไม่ใช่สาย Healthy จริงๆหุ่นก็ประมาณเหมียวนี่แหละ


ผอมๆ มีเอว แต่อาจจะไม่กระชับ แต่แปลกที่ผมกลับรู้สึกว่าก้นของเธอแน่นมากเลยล่ะครับ แต่ก็นะมีของสวยๆงามๆมาให้ชมแบบนี้วัยเห่อฮะมอยแบบผมเนี่ย มีเหรอจะไม่ชอบครับ


ผมก็อื้มๆเดี๋ยวเราอาบก่อนนะ อันที่จริงผมแกล้งครับผมแค่อยากรู้ว่าเหมียวจะทำยังไง เหมียวคว้ามั่บที่แขนไว้แล้วบอก โห !!! ดูดิ่ ทำขนาดนี้แล้วยังหนีอีกเหรอ เท่านั้นแหละครับ ผมกอดเลย กอดแล้วก็บีบก้นเธอเต็มไม้เต็มมือ


เหมียวก็ว๊ายนิดนึงแล้วบอก โหยเล่นทีเผลอเหรอ ผมก็บอกว่าไม่รู้สิ่ อาบน้ำๆๆ ผมก็พูดนะแล้วเหมียวก็บอกป่ะอาบน้ำกัน มันแปลกนะเอาตรงๆ ผมรู้สึกเคืองนิดๆ รู้สึกหงุดหงิดที่เหมียวอี๋อ๋อกับไอ้พี่เท่ส์


แต่ในตอนนี้ผมกับเหมียวกลับกำลังจะไปอาบน้ำด้วยกัน เราเดินไปด้วยกันแหละครับ ผมก็มีแอบจุ๊ปที่หัวของเหมียวบ้าง คือมันเป็นความรู้สึกที่แบบไม่รู้สิ่ พูดไม่ถูกเหมือนกัน


คือถ้าเป็นแฟนกันมันก็จะรู้สึกอีกแบบ หรืออารมณ์แบบลงอ่างมันก็ไม่น่าใช่ ถ้าให้พูดก็คงเหมือนแบบว่า จริงเหรอเนี่ย ได้ทำจริงๆเหรอเนี่ย


คือเหมือนคุณได้เป็นแฟนกับคนที่ตามจีบมานานอ่ะครับ คือพอมีอะไรกันแล้วมันก็เป็นอีกฟิวนึงนะ แต่พอมาอาบน้ำด้วยกันครั้งแรกนี่แม่งแบบ เฮ้ยจริงเหรอเนี่ย โอยนี่เราจะได้อาบน้ำด้วยกันเหรอ


แล้วเราก็จะคิดอะไรสยิวๆระหว่างอาบน้ำ จินตนาการสารพัด นั่นแหละครับความคิดที่ผมจะสื่อออกมา อ่ะกลับมาต่อๆ ทันทีที่เข้าไปในห้องน้ำเหมียวก็ถลกเสื้อผมขึ้นเธอทำเหมือนจะจูจุ๊ปที่ตัวผม แต่ก็ต้องชะงัก ก็ต้องยอมรับแหละครับว่าเหงื่อผมตอนนี้ก็ออกมาเยอะเลยล่ะ


ก็นะมันต้องทำกิจกรรมหลายอย่างนี่หว่า เหมียวก็ชะงักๆ ผมก็บอกอาบน้ำเถอะ เฮ้อแปลกป่ะเฮ้ยท่านผู้อ่านคือปกตินะถ้ามาถึงเวลานี้อ่ะ ยังไงก็ต้องได้เสียบแล้ว แต่ผมแม่งไม่ได้คิดอะไรเลย


คือได้ก็ดี ไม่ได้ก็ช่างแม่ง คือต้องขอบคุณทั้งสามสาวนะ เพราะมีพวกเธอความคิดแบบนี้ถึงถูกฝังลงมาในหัวผม เพราะเอาจริงๆสาบานต่อหน้าหลอดไฟเลย ถ้าไม่มีสามสาวแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้ เชื่อมั้ยผมจับเหมียวกดตั้งแต่ก่อนผ้าขนหนูหลุด


อ่ะกลับมาต่อครับ หลังจากที่ผมบอกเหมียวว่าอาบน้ำเถอะ แม่สาวออฟฟิศไซส์มินิก็อื้อๆ ผมถอดเสื้อผ้าออกในขณะที่เธอก็สวมหมวกอาบน้ำและเอื้อมไปเปิดฝักบัว อื้อมมม อื้มมมมม นึกว่าอยู่ในอาบอบนวด


เหมียวลูบไล้ไปทั่วอย่างเป็นงาน ผมก็แบบโอยนี่มันอะไรกันหือ ทำไมเป็นแบบนี้ได้ เพื่อนร่วมงานที่ผมเคยชอบ ย้ำนะว่าเคย คือไม่คิดเลยว่ามันจะมาถึงจุดๆนี้ได้ คือเหมือนแบบเคยรู้สึกกันไหมครับว่ายิ่งใกล้เท่าไรมันก็ยิ่งไกลเท่านั้น


ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมกับเหมียวจะได้มาทำอะไรแบบนี้ จริงอยู่ที่เราบร๊ะกันไปแล้ว แต่ไม่รู้สิ่ ผมคิดนะว่าหลังจะบะบะโอ๊ะบะกันไปแล้ว ผมกับเธอก็คงไม่ได้มีโมเมนต์อะไรแบบนี้


แต่มันไม่ใช่ว่ะ ทำไมผมกับเธอมาเปลือยกายใต้ฝักบัวกันแบบนี้ได้ละว่ะเนี่ย เราช่วยกันอาบน้ำ ถูสบู่กันครับ มันก็เหมือนไม่มีอะไรนะ แต่ไอ้จ้อนผมมันแข็งนี่สิ่ครับ แล้วเหมียวก็ทั้งลูบ ทั้งคลึงด้วยความแผ่วเบา



เคยมั้ยครับ ไม่ต้องสักคำก็รู้ว่าต่างคนอย่างทำอะไร ผมกับเหมียวกอดกันอีกครั้งตัวของผมแนบสนิทกันจนไอ้จ้อนของผมกระตุกงึกๆๆๆ เราจูบ เราเลีย เราดูดปากกันเบาๆ


มือของผมช้อนขาเธอขึ้นมาข้างนึงผมขยับนิดๆ ปาดหน่อยๆ และกดอย่างแผ่วเบา แท่งหรรษาที่แข็งปั๋งของผมค่อยๆแหวกทะลวงเข้าไปในรูกลีบเสียวของเหมียวช้าๆ ช้าๆ


เหมียวก็ซื๊ดดดด พร้อมกับกอดคอผมแน่นกว่าเดิม อาจจะเพราะทั้งเสียว ทั้งกลัวล้มก็ได้ ก็นะตอนนี้เธอยืนแค่ขาเดียวนี่นา ผมดันแท่งเสียวเข้าไปอีกนิด อีนิด ซื๊ดด ผมบีบก้นอวบอัดของเหมียวจนเต็มมือและดึงเข้าหาเป็นจังหวะ


ตั้บ ตั้บ ตั้บ ตั้บ ซื๊ดดด ในขณะเดียวกันผมก็เด้งเอวสวนเหมือนกันเชื่อไหมเหมียวเสียวจนต้องร้องจูบเค้าหน่อย เค้ากลั้นเสียงไม่ไหว ผมก็แกล้งถามนะว่าถ้าไม่ให้จูบล่ะ เหมียวพูดขึ้นมาเลยครับว่า " เค้าไม่สน "


และเพื่อนร่วมเตียงตัวของผม ก็รุกเข้ามาจูบด้วยตัวเอง ผมเองก็เร่งซอยตั้บๆ ๆ ๆ ๆ  เธอก็ครางเลยครับคราวนี้ เธอครางแรงมาก ดังมาก เสียงมันดังก้องเข้ามาในหูเลย กะพุ้งแก้มของผมก็พองขึ้นเลย


ส่งใสจะกรี๊ดหนักจริงๆ ผมซอยปั้ปๆๆ ขยำตูด สลับกันไป มันเสียวนะ เสียวมากๆ แต่ไม่ถนัดเลย ผมจึงช้อนขาอีกข้างและยกขึ้นพร้อมกันกลายเป็นท่าโทนอุ้มแตงไปแล้ว ทันทีที่ผมยกขาขึ้นเหมียวก็ซื๊ดดด ดีจัง ซื๊ดดด ผมก็ยกตัวเธอขึ้นนะบอกเลยว่าเบามากๆเลยล่ะ


[ เหมียว ]  :  ซื๊ดดดดด ดีจังเสียวซื๊ดดด


ผมกดซวบกระเด้าเอวเข้าไปจนสุดลำ เหมียวก็ครางลั่นห้องน้ำเลยล่ะครับ บางทีก็เสียวนะว่าคนอื่นจะได้ยิน แต่ผมก็เสียวแท่งหรรษามากกว่า เหมียวบอกอ๋อยโทนจ๋าอย่าพึ่งขยับนะเค้าแน่นอ่ะ อื๊ยยย


ผมฟังเธอนะ ผมอุ้มเธอไว้แบบนั้นและไม่นานผมก็เริ่มซอยละ ปั้ป ปั้ป ปั้ป ปั้ป อ่าส์ลิงอุ้มแตงในห้องน้ำเสี่ยงลื่นดีแท้ ผมกระแทกปั้ปๆๆๆๆ เหมียวก็ตอดไม่หยุดเลย ซื๊ดดดเสียวว่ะท่านผู้อ่าน แล้วเชื่อมั้ยว่ากระแทกได้ไม่กี่นาที


เหมียวก็ตอดตุ้บๆๆๆ ผมก็คิดในใจว่าทำไมไวจังจะแตกละเหรอ ผมเลยเร่งเลยทีนี้ ปั้ปๆๆๆๆ เหมียวก็อ๊อย โทน อ๊อยยยย ผมเร่งกระแทกปั้ปๆๆ เสียวคือแบบเสียวจนขาสั่น ร่องสงวนของเหมียวก็ตอดหนุบหนับๆๆๆ


จะถึง จะถึง ซื๊ดด เหมียวเพ้อออกมาอย่างลืมตัว ถ้าเป็นเวลาปกติผมเองก็คงอยากจะเปลี่ยนท่าสักหน่อยแหละครับ แต่เวลาเรามีจำกัดจะทำไงได้ล่ะ

[ เหมียว ]  :  ขอเสร็จบนเตียงนะคะ

อยู่ดีๆเหมียวที่เสียวจนปลายเท้านี่จิกจนเกร็งก็กัดฟันพูดขึ้นว่า ว่าขอบนเตียง ผมหยุดขยับเอวแต่ก็ยังรั้งเอวเธอส่ายไปมา ให้ครูดไปครูดมาอยู่ดี เหมียวก็พูดด้วยเสียงกระท่อนกระแท่นว่า นะคะเค้าขอนะ



ผมเองก็ไม่ได้ใจร้ายอะไรนะ ถ้าขอมาแบบนั้นผมก็ยินดี ผมเดินปี้เบาๆไปจนถึงที่นอนซึ่งเชื่อมั้ยว่าระหว่างทางเดินไม่กี่เมตร เหมียวพยายามรั้งตัวเองขึ้น เพราะไม่อยากโดนซอบ เธอแบบ อื๊ออ ใจเย็นสิ่โทน อื๊ยย


ผมว่างเหมียวลงที่ขอบเตียงช้าๆ โดยที่ไม่ให้ปลั๊กหลุด เหมียวก็ซื๊ดด อื้มมม แล้วเธอก็คล้องขอผมโน้มลงไปหาอีกครั้ง ผมถามว่าแน่ใจนะหืม เหมียวกัดจมูกผมแล้วบอกว่า " คา " อยู่แบบนี้จะถามอีกเหรอ อ๊อยยย


ผมไม่รอให้เธอพูดอีกแล้วล่ะเมื่ออยากจะไปถึงสวรรค์ผมก็จะดันไปให้ ผมไม่ขึ้นเตียงนะ ผมวางเหมียวลงแค่ที่ขอบเตียงดันขาของเธอให้ขยับเป็นรูปตัว M เหมือนที่พี่อิลบอกไว้


ส่วนผมน่ะเหรอ... ยืนที่ขอบเตียงครับ โชคดีจริงๆที่เตียงมันเตี้ยกว่าหัวเข่าของผม เพราะมันจะทำให้ผมซอยได้ถนัดๆยังไงล่ะ เอาจริงๆผมก็ไม่นึกนะว่าพื้นฐานการย่อขาของยูโดที่ยืนยืนกันทีละ 5 นาที 10 นาที มันจะได้เอามาใช้อย่างอื่น


ใช่ครับ ตอนนี้ผมกำลังย่อขาและ YES เหมียวยังไงล่ะ ผมกระแทกปั้ปๆๆๆ จนเหมียวถึงกับเด้งเลย ไม่รู้สิ่ ผมรู้สึกว่าการย่อขาซอยแบบนี้มันทำให้ผมใส่แรงได้มากกว่าปกตินะ ผมดันขาเหมียวแยกออก ล็อคเอวและกดมิดด้าม ซอยรัวๆ ถี่ๆ


จนแม่สาวออฟฟิศถึงกับครางไม่หยุด อ๊อยโทน อ๊อยจะถึง อื๊อออ ซื๊ดดด ผมซอบปั้ปๆๆๆๆๆ อูยย อย่าว่าแต่คนโดนซอยเลยทีเสียว ผมเองนี่ก็เสียว ต้องยอมรับเลยว่าเหมียวนั้นแน่นๆจริงๆ


เหมียวร้องซื๊ดดจะถึง จะถึง แล้วร่องของเธอก็ตอดหนุบหนับ หนุบหนับ หนุบหนับเลยล่ะครับ เหมียวไม่ได้โกหกแฮะเธอใกล้จะแตกแล้วจริงๆ ผมจับที่ข้อเท้าของเหมียวคนสวยและดันมันออกข้างๆจนพูโยนีสีน้ำตาลอ่อนๆของเธอนูนเด่นขึ้นมา


ผมซอยเน้นๆถี่ๆหนักกว่าเดิมจนเหมียวเนี่ยดิ้นเลยครับ แต่ดิ้นแล้วเธอดูเสียวซ่านจริงๆ จะถึงแล้ว อีกค่ะ อีกค่ะ อีกค่ะ คำพูดที่บ่งบอกถึงความต้องการออกมาแบบนี้มีเหรอผมจะไม่รับฟัง ผมซอยปั้ปๆๆๆๆๆๆ เหมียวก็คราง อื๊ย อื๊ยยยมาไม่หยุด


จนสุดท้ายผมก็พาเธอมาส่งถึงฝั่งจนได้เหมียวกัดริมฝีปากและแอ่นอก แอ่นเอว ขึ้นราวกับมีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น ใช่ครับ เหมียวกำลัง " ถึงจุดสุดยอด "


ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวเหยเก มือของเธอกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่นี่ ผมเองก็จะถึงแล้วล่ะครับไม่ไหวแล้วจริงๆ ซื๊ดดด ผมเกร็งท่อนเอ็นและกระฉูดน้ำเหนียวๆกระฉูดแตกในอีกครั้ง เหมียวก็ซื๊ดดดด ซื๊ดดด  ผมกดเอวอีกครั้งและดึงมันออกมาทันที


เสียงดังบั๊วะเบาๆดังขึ้นมาเหมียวถึงกับต้องแอ่นตาม ไม่ว่าเหมียวจะนิสัยเป็นยังไง ผมก็ขอยืนยันนะครับว่าตอนนั้นเวลานั้น เหมียวแน่นมากจริงๆ ถ้าบอกว่าไม่มีอะไรกับใครๆมาเป็นครึ่งปีผมก็เชื่อ


ทันทีที่ดึงปลั๊กออกน้ำขาวๆ ขุ่นๆ ก็ไหลออกมาจากร่องสาวที่ตอนนี้เป็นรูเล็กๆครับ อื้มมม เราก็ใหญ่ใช่ได้นะ เฮ้อชมตัวเองก็เป็น เหมียวรีบยันตัวขึ้นมาจูบแล้วถามว่าทำต่อไหมคะ ผมก็บอกนะว่าเราต้องทำงานกันนะ


เหมียวก็ทำหน้าบูดๆแล้วพูดอ้อมแอ้ม อ้อมแอ้ม ว่ายังไม่ครบ 2 โหลเลย โฮ๊ะโฮ่ แค่โหลเดียวก็คางเหลืองแล้วล่ะ ไม่ต้องถึงสองโหล พวกเราล้างตัวกันอีกนิดนึงและรีบมาเปลี่ยนชุดกันทันที


หืม ผมถามเหมียวว่าเอาชุดมาเปลี่ยนเหรอ ก็เพราะพอผมเดินออกมาจากห้องน้ำผมก็เห็นเธอกำลังใส่เสื้ออยู่นั่นแหละครับ อื้มม ภาพตรงหน้าก็ชวนหำแข็งจริงๆแหละครับ แม่สาวออฟฟิศกำลังจัดเสื้อให้เข้าทรง


แต่ช่วงล่างมีแค่กางเกงในสีชมพูตัวบางๆสวมอยู่ เอาจริงๆนะท่านผู้อ่านผมว่าบางครั้งการแต่งตัววับๆแวมๆแบบนี้ มันกระตุ้นอารมณ์มากกว่าการได้เห็นร่างเปลือยๆอีกนะเว้ย


ซึ่งมันก็แล้วแต่สถานการณ์อ่ะเนอะ อ่ะกลับมาต่อเหมียวบอกอื้อเอามาด้วย เธอบอกแค่นั้นแหละก็ตระเตรียมของอีกน่ะครับผมเองก็มาใส่เสื้อผ้าอะๆให้เรียบร้อย ซึ่งก็แน่นอนครับ ผมใส่เสื้อโปโล และ กางเกงยูโด รองเท้าผ้าใบเหมือนเดิม ก็มันคล่องตัวกว่านี่นา


ก่อนออกไปเหมียวเหมือนมีอะไรจะพูดกับผมนะ แต่ก็ไม่ได้พูดเธออกไปก่อน ผมเองก็ต้องเซฟตัวเองและเซฟเธอด้วยแหละครับ เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครที่นอกเหนือจากพวกเราทีมงานเสล่อเข้ามานั่งหรือเปล่า


เฮ้ยมันแปลกมากเลยนะตอนนี้ คือพูดก็พูดนะครับท่านผู้อ่าน ผมก็ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน ที่ว่าพอมี SEX แล้วมาทำงานสัมมนาต่อ ไม่นะเฮ้ยไม่เคยเลย


คือแบบพอทำกันเสร็จแล้วก็อยากจะนัวเนีย อยากจะนอนกอดแล้วคุยกันจริงป่ะ แต่นี่พอทำกันเสร็จแล้วก็เตรียมไปทำงานเลย เออแปลกดีว่ะไม่คิดว่าชีวิตผมจะมาเจออะไรแบบนี้


ซึ่งพอเหมียวออกไปสักพักผมก็ตามออกไปแล้วพอออกมาจากห้องพัก มาข้างหน้าบ้านผมเห็นอะไรรู้มะ ไอ้พี่เท่ส์กำลังใช้มือของมันลูบเส้นผมของเหมียวและทัดที่หู แหม่ สายตากุ้มกริ่มจริงๆเชียว


เขาหันมาหาผมแล้วก็เอ้ามาแล้วเหรอครับ เหมียวก็ดูหน้าตาตื่นๆนะ ผมก็แบบเฮ้อเมื่อกี้ยังโซโล่กันอยู่แท้ๆ ไหงออกมาเป็นแบบนี้ล่ะ มันก็มึนๆนิดนึงกับเธอนะ แต่ผมก็ไม่ได้หึงหรืออะไร กำไรเน้นๆล่ะครับทริปสัมมนานี้


และพอผมไม่สนใจเหมือนไอ้พี่เท่ส์ก็ไม่เลิกนะเป็นห่าอะไรก็ไม่รู้ ก็ทำพูดนู่น พูดนี่ ชวนผมคุยนั่นคุยนี่ เฮ้อโคตรไร้สาระเลยเอาจริงๆ แล้วตอนนั้นเว้ย นางฟ้าก็โผล่มาเฉย


พี่พลอยเธอมากับเพื่อนของเธอแหละครับ อื้อหือแต่งตัวสวยมากมายเลยเว้ย แต่งเหมือน ยุนอา เพลง Bubble pop อ่ะ อูยแล้วหุ่นนี่อย่างให้เลยแม่คุณทูนหัว


คือการแต่งตัวแบบนี้มันทำให้ผมรู้เลยล่ะว่าพี่พลอยนั้นเป็นพวกตามแฟชั่นเหมือนกันนะ พี่พลอยเดินมาก็มองหน้ากับเพื่อนเขาเลย ผมก็จะเดินแยกออกมานะ เพราะต้องไปประสานงานอีก พี่พลอยก็พูดขึ้นมาเลยครับว่าไปด้วยกันมั้ย ผมก็มองๆแล้วก็บอกไม่เป็นอะไรครับ เดี๋ยวผมต้องไปข้างหลังเวทีอีก


แต่พี่พลอยก็คว้ามั่บเข้าที่มือของผม เชี่ยเอ๊ยอยู่ดีๆก็ใจมันหวิว ช่วยเก็บผ้าเช็ดหน้าให้หน่อย ดักแก่ไปที อ่ะกลับมาต่อพอพี่พลอยคว้ามือของผมเสร็จเธอก็พูดว่าก็ไปด้วยกันจะเป็นไรไป ทีเมื่อก่อนยังเดินด้วยกันได้เลย


โอย ผมแบบไปไม่เป็นเลยทีนี้ คืออาจจะฟังแล้วดูเชี่ยมากๆ แต่ตอนนั้นคือลืมเรื่องเหมียวไปเลยว่ากำลังทำอะไรกับไอ้พี่เท่ส์ เพื่อนพี่พลอยก็แบบกิ๊วๆๆๆ นี่คุยเรื่องสมัยกิ๊กกันเหรอเนี่ย


ผมก็แบบโอยนิ่งไว้ นิ่งไว้ไอ้หนุ่ม แต่พี่พลอยก็บอกว่าไปกันเถอะแก เดี๋ยวสัมมนาจะเริ่มแล้ว เพื่อนพี่พลอยก็บอกย่ะ ป่ะ ไปกัน แล้วผมก็เดินมากับกลุ่มพี่พลอยเลยครับ แต่แค่แปปเดียว


เหมียวก็เดินแซงไปเลยเว้ย แต่ไม่มีไอ้พี่เท่ส์ตามมา อิหยังวะน่ะ ซึ่งหลังจากที่มาถึงบริเวณจัดสัมมนาผมก็ตรงกลับเข้าไปหลังเวทีทันทีครับ วิทยากรชุดสุดท้ายก็ได้พูดคุยกับผมว่าจะทำแบบนั้น แบบนี้ ช่วยซัพพอร์ตตรงนี้ที


ผมก็อ่าครับ อ่าครับ อ่าครับ แล้วก็เตรียมตัว เอาล่ะได้เวลาสัมมนาชุดสุดท้ายแล้ว ทันทีที่วิทยากรออกไปเขาก็ได้ให้สัญญาณเงียบเสียงตามที่พวกเราได้ตกลงกันไป  Say Hi


พวกผมก็รับ Hi เขาพูด Say Hi พวกผมก็ตอบ Hi อีกครับ และสุดท้ายวิทยากรพูดคำว่า Focus พวกผมก็ตะโกนตามว่า HEY เสียงดังๆ มันเป็นเหมือนการให้สัญญาณน่ะครับ


ก็คงเหมือนพี่โน้ต อุดม ที่ก่อนเริ่มการแสดงเดี่ยว เขาจะร้องเพลง หากว่าเรากำลังสบายจังตบมือพลัน แล้วทุกคนก็ตบมี แป๊ะ !!! แป๊ะ !!! แล้วก็เงียบแทบจะ 100% เหมือนทุกคนรู้กันว่าความสนุกจากชายชื่อ อุดม แต้พานิช กำลังจะเริ่มขึ้น


ซึ่งในงามสัมมนานี้เองก็เหมือนกันครับ แค่เปลี่ยนคำนิดหน่อย หลังจากที่ HEY และเงียบกันแล้ว วิทยากรก็เดินขึ้นมาข้างหน้าพร้อมกับกระดาษแผ่นใหญ่ๆ


วิทยากรจะสอนพวกเราเรื่องการ Focus เป้าหมายครับ เมื่อเราจะทำอะไร เราต้องมีเป้าหมายและกำหนดเสร็จ เขาบอกนะการที่สามารถดีล Project ซักอย่างจนสำเร็จได้ มันยังไม่ใช่ความสำเร็จ


แต่มันเป็นเพียงการเริ่มต้นของความสำเร็จ ความสำเร็จทุกอย่างล้วนแต่มีเวลาของมัน แต่ถ้าเราไม่เป็นคนกำหนดเวลา ไม่ทำอย่างเต็มความสามารถล่ะก็ทุกอย่างก็จบ


วิทยากรถามพวกผมว่าอะไรคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าพึ่งพอใจกับงานที่พวกผมขายให้ ซึ่งแน่นอนว่าเสียงระงม ที่พูดออกมาจากหลายๆคนก็คือ ผลงานที่ดีที่ถูกใจ ซึ่งมันก็คือคำตอบที่ถูกต้อง


[ วิทยากร ]  :  ใช่ครับคำตอบนี้ถูกต้อง แต่มันก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สิ่งสำคัญที่ต้องมาพร้อมกับความถูกต้องคือระยะเวลาที่รวดเร็ว


วิทยากรพูดว่าลูกค้าต้องการงานที่ดี ในเวลาที่รวดเร็ว เพราะเช่นนั้นสิ่งที่พวกผมต้องเจอก็คือการทำงานภายใต้ความกดดันและความละเอียดของเนื้องานที่ต้องทำออกมาให้ได้ 100%


แต่เขาถามว่าอะไรรู้มั้ยคือศัตรูของการทำงาน ทุกคนก็ต่างคนต่างตอบว่าความกดดันบ้าง ข้อมูลไม่เพียงพอ การรีเซิร์ทที่ไม่ดีบ้าง ลูกค้าเรื่องเยอะบ้าง แต่ไม่ใช่ครับ วิทยากรบอกว่าศัตรูของการทำงานคือ " เอาน่าเดี๋ยวก็เสร็จ "


เท่านั้นแหละครับทุกคนก็ฮือกันเลยทีเดียว เพราะสิ่งที่เขาพูดมามันจริงแทบจะทั้งหมด เอาจริงๆบางครั้งผมก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน เอาน่าเดี๋ยวก็เสร็จ เอาน่าค่อยทำ จนสุดท้ายบางทีงานก็เสร็จก่อน เดดไลน์ไม่ถึงวัน


คราวนี้วิทยากรแจกกระดาษแข็งแผ่นใหญ่ให้คนละแผ่นครับ เขาให้พวกเราเขียนสิ่งที่เรียกว่า Mind Mapping หรือ แผนที่ความคิด ผมนี่ถึงกับเหงื่อตกและคิดในใจเลยครับ


" เชี่ยไรเนี่ย ไม่เคยได้ยินเลย "










จัดก่อนกลับ

[Deed]

คืนนี้จะรอดจากพี่พลอยไหม