ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

จิตบำบัด EP7-9 End of Seasons 1

เริ่มโดย Khawnkaow, กุมภาพันธ์ 03, 2021, 08:09:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Khawnkaow

ข้าวกับพี่แก้ม ต้องลงมาก กทม. มารับขวัญหลานคนที่สองของพี่น้ำ เลยอาจไม่มีเวลาเขียนเรื่อง ต่อ กลัวว่าจะอ่านแล้วค้างๆ คาๆ เลยขอเขียนงานให้จบ Seasons 1 ก่อนนะค่ะ  ส่วนเรื่องที่เขียน เป็นเรื่องจริงๆ 97% และแต่งเติมอีก 3% ::Suffocate::

จิตบำบัด    EP7
เราตื่นมาเพราะเสียงไลน์ของพี่เก้า ถามว่า วันนี้ไปเรียนไหม เรานึกได้ เลยบอกว่า เรามีเรียนตอนบ่าย  เราเลยรีบอาบน้ำ แล้วออกจากคอนโดพี่แก้ม เพราะพี่แก้มไปทำงานแล้ว
พอถึงบ้านเรารีบแต่งตัวแล้วออกจากบ้านไป กลายมาเป็นเด็กเนิรส์ คนเดิม กระโปรงพลีสยาวๆ เสื้อตัวใหญ่  แว่นหนาๆ   พอถึงมหาวิทยาลัยเราขึ้นไปเรียน  พอเลิกเรียนเราจะกลับบ้าน พี่ก้าวบอกว่า เป็นไง สาวน้อย คนเมื่อวันก่อนไม่มาด้วยหรือ  เราเลยบอกว่าไม่มาค่ะ มาแต่เด็กเนิร์สคนนี้ละ
แล้วนี่จะกลับบ้านเลยไหม พี่จะไปส่งพี่ก้าวถาม เราตอบไปว่าได้ นะ แต่พ่อกับแม่นู๋ดุนะ ไหวหรือ  แกบอกว่า ไม่กลัว  เราเลยซ้อนมอไซค์ พี่เค้าไปบ้าน  พอถึงบ่านเรา เราเลยชวนพี่เขาเข้ามาบ้านกินข้าวกัน แล้วเราก็ส่งพี่เค้ากลับไป>>>  แหมๆ  ที่บ้านนะคะ จะให้มีกิจกรรมอะไร ที่บ้านข้าวนะ เป็นเหมือนเด็กน้อยจริงๆ>>>>>>>>เรากะนั่งคุยกับที่บ้านดูหนังตามปกติ จนแม่เราถามว่า นี่แฟนหรือ เราเลยตอบว่าไม่นะพี่เขาเป็นรุ่นพี่ค่ะ กะรู้จักเลยคุยกัน แม่ กับพี่เราเลยบอกว่าให้ระวังจะทำอะไรกะค่อยๆ คิด  และคิดเยอะ นะแม่ไม่ว่าหรอก แม่ถามถึงพี่หมอแก้ม ว่าเป็นไง รักษาแล้วเป็นไงบ้าง เราตอบว่าดีนะ อาการดีขึ้นมา นอนหลับสบายๆ  แม่บอกว่าอาการแบบเราอย่างลืมกินยา อย่าพยายามเครียด  แล้วแม่จะไปถามแก้มว่าจะรักษาต่อด้วยวิธีใน  เพราะพี่แก้มเป็นลูกศิษย์แม่เราเองอย่างสบายใจ
เช้ามาเราเดินเดินลงมาจากบนบ้านพี่ก้าว มารอเราละ เราเลยบอกว่าใครบอกให้มา ไม่ต้องมารับหรอก ไปเองได้แค่นี้เอง แม่มาตีแขนเรา แล้วบอกว่าชวนพี่เค้ากินข้าว แล้วจะได้เรียน >>>>>>> พีก้าวทำหน้าทะเล้น เรานี้อยากจะเอากระเป๋าฝาดหน้าจริงๆ กินข้าวเสร็จ >>>>เรากะซ้อนรถเค้าไปมหาวิทยาลัย และบางจังหวะเราต้องกอดพี่เค้าเพราะด้วยสภาพการจราจร ด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจมือเรากะไปกุมเป้าพี่เค้า  จนรู้สึกว่ามันมีอะไรขยายตัวที่มือเรา พอถึงหมาวิทยาลัยเรา เอ่ยปากว่าขอโทษ มิได้ตั้งใจ  พี่ก้าวยิ้ม ส่วนเรากะวิ่งหนีไปตึก
เราเรียนไม่รู้เรื่องทั้งวันหน้าแดงหนัก>>>> พอเลิกเรียน เราเลยไปเดินซื้อของ ดันไปเจอพี่โอม   เรายกมือไหว้พี่เค้า แล้วถามว่าสบายดีนะคะ แล้วพี่มาคนเดียวหรือ  พี่โอมบอกว่าใช่  นี่มาซื้อของไปให้แฟนพี่ จะวันเกิดเขาแล้ว......ข้าวถามว่าให้ข้าวช่วยเลือกไหม พี่โอมตอบว่าพี่ได้ของแล้ว 
เรากระซิบเบาๆ ว่า ของพี่หายบาดเจ็บแล้วยังอะ วันนั้นขอโทษนะ  พี่เค้าบอกว่าไม่เป็นไร>>>>วันนั้นเสียดายที่ไม่ได้แจมด้วย แต่พี่กะขอโทษที่วันนั้นทำให้ข้าวต้องอาเจียรนะ เราบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ กะสนุกดี...... แต่วันนี้พี่โอม ซื้อของเสร็จแล้วจะรีบกลับเลยไหม แล้วบ้านพี่อยู่แถวไหน .......บ้านพี่โอมตอบ........ เราบอกว่าโหยอย่างนี้บ้านพี่กับบ้านน้องอยู่ห่างกันนิดเดียว....งั้นข้าวกลับบ้านก่อนนะ พี่โอมบอกว่าพี่ไปส่งไหม..... ข้าวไม่ต้องเดินทางลำบาก
เราเดินมาขึ้นรถกับพี่เค้า ระหว่างทางเราคุยกับสับเพเหระ  พอใกล้จะถึงบ้าน>>>>>>ไม่รู้อะไรดลใจเราให้ถามว่า พี่เสียดายไหมวันนั้น พี่ไม่ได้แจมข้าวกับเพื่อน พี่โอมบอกว่า เสียดาย แต่พี่ได้ความสุขมากกว่าเขาตรงที่พีได้เสร็จในปากข้าวไง บอกเลยว่าสุขมากนะ แม้ว่าจะเจ็บไปบ้าง
เราเลยถามว่า อยากดูว่าอันนั้นหายเจ็บหรือยัง เราไม่พูดเปล่า เอามือจับที่เป้าแล้วลูบเบาๆ  พี่เค้าจับมือเราแล้วถามเราว่าต้องการจริงๆ หรือ เราตอบว่าใช่ เราอยากจะฝึกอีกรอบ พี่สอนเราด้วย   ตอนนั้นบอกได้เลยค่ะ ว่าแฉะไปหมดละ เราเลยรูดซิบลงแล้วงัดเอามันออกมา บอกตรงๆ ว่าตอนนี้เราเขิน น้อยลงกว่าวันนั้นมาก เพราะคงด้วยอยากจะสัมผัส พี่โอม จอดรถริมทาง เราลูบแล้วเอาลิ้นไล่ที่หัวลงมาจนถึงโคน....ไล่ขึ้นไล่ลง แล้วเน้นที่หัว จนพี่เค้าต้องเอามือมาขยำหน้าอกเราอย่างรุนแรง ไม่รู้ผีห่า ซาตานอะไรมาสิงเราในตอนนั้น เราบอกว่า พี่จัดการนู๋หน่อยนะ นู๋ขอร้อง  นู๋ไม่ไหวละน้ำเต็มไปหมด 
พี่โอมปรับเบาะรถให้เอนลง แล้วข้ามฝั่งมาแล้วระดมจูบ ปากแลกปากลิ้นแลกลิ้น กะโปรงเราโดนถลกขึ้นมาถึงหน้าท้อง กางเกงในเราโดนถึงออกจนไปกองที่ข้อเท้าของขาข้างหนึ่ง  น้ำถูกขับออกมาตามแรงของอารมณ์อย่างเนืองนอง พี่โอมค่อยสอดแท่งเข้า มา ถ้าบอกตรงๆ ว่าแท่งพี่โอมนี่ขนาดใหญ่กว่าพี่สองคนมาก  มิน่าพี่แก้ม ถึงชอบกินของพี่โอมมาก นัดนอกรอบบ่อยด้วยเหตุนี้ แล้วอีกอย่างพี่โอมเป็นคนอึดมากๆ>>>>>ตามที่พี่แก้มบอกนะค่ะ
พี่โอมจ่อหัวเข้าที่ช่องทางขอเราค่อยๆ ดัน ค่อยๆ จูบ ค่อยฟอนเฟ้นไปตามร่างกายเรา แท่งค่อยๆ ดันเข้าไปจากหัวค่อยๆ เบาๆ เรารู้สึกดี แม้ว่าจะเจ็บ  พี่เขาดันเข้าไปครึ่งลำ แล้วค่อยๆ ดึงออก เราโยกสะโพกขึ้นอย่างเสียดายกลัวมันจะหลุด พร้อมสูดปาก
แต่พี่เค้ากะดันกลับเข้ามาอีก เรารู้สึกตลอดว่าช่องทางของเรามันบีบรัด หนักหน่วง พร้อมกันได้ยินเสียงสูดลมหายใจของพี่เขาอย่างต่อเนื่อง พี่โอม ร้องมาว่าทำไมช่องมันบีบเยอะอย่างนี้ ข้าวจะเสร็จแล้วหรือ เราพยักหน้าพี่โอม ดันกระบอกลูกสูบเข้ามา เราเด้งขึ้นเด้งลง  ถ้าใครเห็นคงคิดว่ารถมันคงมีปัญหาอะไรบางอย่าง 
ขอพี่โอมยังเข้าไปแค่ครึ่งลำ เราเสียวหนักร้องหนัก เอามือกดก้นพี่โอมไว้  พี่โอมดันเฮือกสุดท้าย เราเจ็บจี๊ดพร้อมกับช่องทางบีบรัดอย่างแรง ท้องเรากับท้องพี่โอมแทบบดกันเป็นเนื้อเดียวกัน น้ำเราทะลักออกมาอย่างเนืองนอง พร้อมกับน้ำพี่โอมที่เข้าไปในช่องทางของเรา  เรากดก้น พร้อมเด้งตัวรับน้ำของพี่เค้าจนหยาดสุดท้าย 
แล้วน้ำตาเรากะไหลอาบแก้ม


จิตบำบัด    EP8
ปากกับปาก เราประกบกับพี่โอม แลกลิ้นกันอย่างนัวเนีย.....เราหน้าแดง ผลักพี่โอมออกแล้วรีบแต่งตัว  สติเรากลับมาเต็มตัว น้ำใสๆ ไหลออกมาจากดวงตาเรา....พี่โอมหอมแก้มเราเบาๆ แล้วบอกว่าสุดยอดเลยข้าว>>>>เราตบหน้าพี่โอมอย่างแรง แล้วเปิดประตูรถออกไปแล้ววิ่งอย่างเร็ว 
"ภาพเรากับมินตรา กลับมาอีกครั้ง ตอนที่เราเข้าค่ายเนตรนารี มินตราปรึกษาเรา ว่าโดนครูรวนลาม เราบอกว่าต่อไปไปไหนเราต้องไปด้วยกัน มินต้องไม่อยู่คนเดียวเพราะโอกาส มันจะเข้ามา  เรากับมิน ตัวติดกันตลอดเวลาที่อยู่โรงเรียนและกลับบ้าน จนวันหนึ่ง เรามีอาการป่วยด้วยอาการเครียดในเรื่องเรียนและเรื่องพี่สาวเราพี่มันชอบกดดันที่เราไม่เคยคิดจะเรียนสายเดียวกับคนในบ้าน  เราโดนกดดันหลายทางทั้งที่บ้าน ญาติ  จนเราต้องกรีดข้อมือตัวเอง ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล เหตุการณ์ที่เกิดกับมิน คือ มินโดนครู ให้เข้าพบในห้อง หลังจากนั้น ครูหว่านล้อม มิน ต่างๆ นาๆ เรื่องเกรดของมิน ที่จะต้องทำให้ดีเพราะมินจะใช้เรียนต่อทางหมอ มินไม่มีทางเลือกต้องใช้ปาก และสุดท้ายมินก็เสียตัวให้กับครู และต้องโดนครูจัดการเกือบจะทุกวัน
อีกอาทิตย์หนึ่งเรากลับมาเรียนตามปกติ แม้ที่ข้อมือจะมีผ้าพันแผล  มิน มาร้องไห้กับเรา เราเลยคิดแผนในการแก้แค้นให้นาง>>>> ด้วยความแปรปรวนของอารมณ์เรา ที่เกินความคุม เราเลยให้มิน นัดอาจารย์คนนี้ให้ โดยบอกว่าเราอยากได้เกรด เพิ่มขึ้น  เพราะเราอยากเปลี่ยนใจที่จะเรียนหมอเหมือนมิน..... เดนสังคมคนนั้น คงคิดอยากจะเครม เราอีกคน เพราะขึ้นชื่อว่าวัยแรกสาวใครๆ ก็อยากจะมีอะไรด้วย  แม้ว่าความสวยกับความน่ารัก เราจะสู้มินไม่ได้นะ แต่เมื่อมินเป็นเพื่อนเรากะพร้อมจะช่วย
คนชั่วคนนั้นนัดเราตอนเลิกเรียน  มินมาส่งเราแล้วถามว่าข้าวจะทำอย่างไร เราบอกว่าเดวเราจัดการเอง มินคอยช่วยเราหน้าห้องพักนะ เราเข้าไปเจอคนชั่วคนนั้น เค้าถามเราถึงอยากได้เกรดดีๆ เพราะอะไร เราตอบไปว่าเราอยากเรียนหมอ เกรดมันต้องดี สวยๆ จะได้แต้มต่อที่ดีค่ะ ตานั่น บอกว่า มินบอกแล้วใช่ไหมว่าต้องทำอะไร   เราตอบว่าใช่ค่ะ แล้วพร้อมหรือยังละ
เราแกะกระดุมลง ให้เห็นเต้าน้อยๆ ที่ห่อด้วยบรา  ตานั่นมือสั่นคงไม่เคยเห็นแบบที่มีนักเรียนมารุก เรารุกต่อว่าอยากกินไอติมของครูแล้วละค่ะ รีบกิน รีบเสร็จ ครูได้รีบให้เกรด นู๋  เราถอดเข็มขัด เอากางเกงกองอยู่ตรงข้อเท้า  เราใช้หน้าอกถูที่แท่ง ตามแบบในหนังที่เราได้ดูมา ด้วยอารมณ์เราที่มันแปรปรวนหดหู่ สิ่งที่เราทำจากนี้เราทำโดยไม่รู้ตัว และมันเป็นความผิดของเรามาถึงวันนี้
เราใช้มือกับไอติมของคนนั้น เราใช้มือชักให้ เจ้านั่นเสียวอย่างแรง กำลังจะฟินส์ เราเอาไอติมของเขามาใส่ในร่องอก โดยให้ชั้นในเป็นตัวรัด แล้วบีบหน้าอกขึ้นๆ ลงๆ  ตานั่น ตาลอย ไม่คิดว่าเราจะทำแบบนี้ ตานั่นพยายามดึงตัวเราขึ้นเพื่อจะเสียบแน่นอนเราตีมือแล้วบอกว่าให้ครูเสร็จก่อนเดวจะให้นะ  ตานั่นตลอย เราดึงแต่ออกมาจากเต้าเรา แล้วใช้ลิ้นเลียตรงหัวอีกมือเราติดกระดุมเสื้อทีละเม็ดจนเสื้อเรากลับมาเป็นปกติ เราเร่งลิ้นอย่างแรง จนเราโดนจับหัวจะให้อม เราสะบัดออกแล้วเร่งลิ้น จนเค้ากระฉูดออกมา นาทีนั้นเรากัดเข้าไปที่ แท่งไอติมอย่างแรง จนตานั่นร้องเสียงหลง เลือดกระฉูดออกมาเต็มไป เราลุกยืนแล้วเตะเข้าที่กลางไข่ แบบเต็มๆ เตะและกระทืบ จนมันแน่นิ่งไป เราเดินออกจากห้องอยากสบายใจ.>>>>> 
มิน เห็นภาพไอ้นั่นนอนนิ่ง มิน เข้ามากระทืบซ้ำจนเราต้องฉุดมือแล้วเดินออกจากห้องไป "
ตัดมาที่ตอนเราวิ่งออกมาจากรถพี่โอม
เราวิ่งมาจนถึงหน้าบ้านเราพักจนหายใจเป็นปกติ เช็ดคราบเตะน้ำตาออก ทำตัวปกติเข้าบ้าน ทักทายคนที่บ้านตามปกติ ไม่วายจะโดนกระแหนกะแหนจากพี่สาวเราตามเคย เราได้แต่เงียบ  แต่สิ่งที่สยองกว่าคือเราวิ่งออกมาแล้วกางเกงในเราหายไปไหน  ส่วนน้ำของพี่โอมไหลมาเป็นทางตรงขาเรา.......พร้อมกับน้ำแดงจางๆ ไหลออกมาตาม ดีทีเราใส่กระโปรพลีส ยาวเราเลยรีบนั่งลงกินข้าว แล้วเราขึ้นไปที่ห้อง  อาบน้ำสำรวจความเสียหาย 
หัวใจเราเต้นไม่เป็นปกติ อาการมันจะกลับมาอีก เรากินยาแล้วโทรหาพี่แก้ม  สารภาพกับพี่แก้มตรงๆ   พี่แก้มตอบมาด้วยเสียอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไรข้าว แต่ข้าวมีความสุขเนอะ พี่ไม่ว่าหรอก ทำใจให้สบายๆ ของแบบนี้มันเกิดขึ้นได้เสมอ แต่เราต้องระวังตัว ป้องกันไว้นะ>>>> ตอนนี้เราอยากได้กอดอุ่นๆ ของพี่แก้ม>>>> พี่แก้มตอบเราว่า พี่อยู่แถวนี้ละ โอมมันโทรมาปรึกษาพี่เรื่องข้าวแล้ว พี่บอกมันว่า ข้าวคงตกใจ สติคงกลับมา  แล้วมันฝากขอโทษข้าวด้วยนะ>>>
เรานึกขึ้นได้เลยบอกพี่แก้ว ว่าบอกพี่โอมให้เคลียกางเกงในน้องด้วยนะ เดวพี่เขาเข้าบ้านแล้วจะลำบากใจ
20 นาทีผ่าน ไปพี่แก้ม มาที่บ้านแม่เรากอดพี่แก้มที่เป็นลูกศิษย์ คนโปรด แม่บอกว่ามาอย่างไร พี่แก้มบอกว่าอยากมาหาข้าวนะคะอาจารย์ เห็นข้าวโทรมาบ่นว่าช่วงนี้เครียดๆ สงสัยจะเรื่องปรับตัว แม่เราถามว่ากินข้าวมาหรือยังกินข้าวก่อน แม่ยกสำรับกับข้าวให้พี่แก้มได้นั่งทาน 
แม่เราขึ้นมาตามเรา เห็นเราตาแดงๆ เลยปลอบเรา แล้วบอกว่าพี่แก้มมาแล้ว ลงไปหาเค้า  แม่เราลูบหัวเราแล้วบอกว่ารู้แล้วใช่ไหม ว่าแม่รักเราแค่ไหน มีอะไรคุยกับแม่ได้ทุกเรื่องนะ>>>>> แม่เรายิงคำถามที่เราอึ้งไปเลยว่า>>>> ข้าว ข้าวชอบพี่แก้มใช่ไหม>>>เราหลบตาแม่>>> แล้วแม่กะกอดเรา อ้อมกอนนี้เราไม่ได้เจอมานานแล้ว ด้วยที่แม่กับพ่อเรายุ่งๆ จนแม่ต้องลาออกจากงาน มาดูแลเราช่วงเราป่วย
 



จิตบำบัด    EP9
เราหลบตาแม่ เมื่อได้รับยินคำถามว่า เราชอบพี่แก้มหรือ>>> แม่กอดเราอย่างอ่อนโยแล้วบอกกับเราว่า >>>ตัวพี่แก้มเองไม่มีอะไรเสียหาย เป็นคนดีเป็นเด็กที่เรียนดีเรียนเก่งนะ เป็นหมอจิตที่ดิ แม้ว่าปมของพี่เค้าตอนวัยเด็กก็มี แม่เคยเป็นที่ปรึกษาเค้าตอนเรียน>>  ไม่่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม่อยากให้ข้าวรู้ว่า แม่รักข้าวเสมอ และสิ่งไหนที่ข้าวชอบ แม่จะชอบเหมือนกัน>> ไม่ว่าสิ่งนั้นมันจะเป็นอะไร ....แต่ถ้าเราเป็นในสิ่งนั้นแล้วเรามีความสุข เราควรเป็นสิ่งนั้น >>> แม่บอกต่อว่าวันนี้ชวนพี่เค้าเค้าที่้บ้านเราด้วยนะ มันดึกเขาจะกลับบ้านลำบาก
เราเดินลงมานั่งคุยกับพี่แก้ม  แล้วชวนพี่แก้มค้างที่บ้าน พี่แก้มอิดออด>>> แต่แม่เราบอกว่าค้า'ที่นี่เถอะ ได้คุยกับข้าวนานๆ ชุดกะน่าจะใส่ด้วยกันได้นะ ตอนเช้าแม่ไปส่งที่ทำงาน แม่ได้ไปหาลูกศิษย์ด้วย
เมื่ออิ่มข้าวกันแล้ว เรากะชวนพี่แก้มขึ้นไปบนห้องเรา เราถามพี่แก้มว่า อยากอาบน้ำกับด้วยกันไหม พี่แก้มบอกว่าได้ดิ เราอาบน้ำ แล้วให้ดูร่องรอยที่โดยพี่โอม จัดการมา ตอนนี้มันบวมขึ้นมา พี่แก้ม อาบน้ำทำความสะอาดให้เราอย่างเอี่ยมอ่อง เรานอนคุยกัน พี่แก้มเริ่มบำบัดเราอีกรอบ เราสบายใจมากขึ้น จนหลับในอ้อมกอด พี่แก้ม
เช้านี้ เราตื่นขึ้นด้วยความสดใสเหมือนเคย กินข้าว นั่งรถไปกับแม่ แล้วพี่แก้ม  นานแล้วนะที่เราไม่ได้นั่งรถกับแม่แบบนี้
"ด้วยที่บ้านเราต่างคนต่างทำงาน แม่กับพ่อก็ยุ่ง เราเลยต้องช่วยเหลือตัวเองตลอดเวลาไม่ว่าจะไปไหนต่อไหน  เราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาโดยตลอด สิ่งนี้มันอาจเป็นสิ่งที่เราไม่เคยมองผู้ชายคนไหนเลย"
ตัดภาพมาที่ เรากับมินตรา ได้กระทำสิ่งสั่งสอนคนชั่วคนนั้น  ด้วยการกระทืบกล่องดวงใจ เรากับมินตรา โดนโรงเรียนเชิญผู้ปกครองเข้าพบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ราชการ ในฐานะทำร้ายร่างกาย ซึ่งเคสนี้ ถ้าเรามีเรื่องคงต้องออกจากการเรียน แน่นอน ฝั่งนั้้นอ้างว่า เรากับมินตรา เสนอตัวให้เขาเพื่อแลกเกรด แล้วเค้าพยายามที่จะไม่ทำอะไรแต่โดนเราปลุกปั่น จนเค้าต้องการ แล้วเรากะทำร้ายร่างกายเขา
เคสนี้เป็นจุดที่ทำให้เราแตกหัก และเกิดอาการที่คิดจะทำร้ายตัวเอง  และแม่เราต้องลาออกมาดูแลเรา เราเครียดและต้องหยุดเรียนไปเกือบอาทิตย์  ระหว่างที่เราพัก>>> สิ่งที่แม่เราจะถามเสมอ ด้วยคำถามเดิมๆ ว่า >>ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ข้าวจะทำอย่างไร?? คิดว่ามีอะไรที่ดีกว่านี้ไหม???>>>คำถามนี้ทำให้เราได้เริ่มคิดและคุยกับมิน ด้วยคำถามแบบเดียวกันจนมินนึกได้ว่า มินถ่ายคลิปไว้ เรารีบไปหามิน แล้วดูคลิปด้วยกัน บทสนทนาทั้งหมด มันค่อนข้างมัดตัวคนนั้นได้ เราเลยตัดสินใจที่จะเอาคลิปให้แม่เราดู ซึ่งบอกตรงว่าแม่เรานะอึ้งไป แล้วส่งคลิปต่อให้ทนายความ เรื่องนี้เราเข้าใจเลยว่า ทำไมส่วนใหญ่ผู้หญิงที่ถูกกระทำแบบนี้ ถึงเก็บตราบาปนี้เอาไว้คนเดียววจนวันตาย  ก็ด้วยกระบวนการสอบสวน เรามันจะถูกคำถามซ้ำๆๆ  วนเวียนไปแม่เรากับพี่แก้ม ได้เข้ามาในจุดนี้ด้วยกัน โดยเป็นนักจิตวิทยาสำหรับเยาวชน ช่วยมิน กับข้าว คำถามที่เรามักจะถูกถามซ้ำๆ บ่อยๆ วนเวียนในห้ว ไม่ว่าจะเรื่องทำอะไร เริ่มอยากไรใครเริ่มก่อน....  จนสุดท้ายคนนั้นกะโดนจำคุก และหมดสภาพความเป็นครู และหมดสภาพทางเพศ ด้วยลูกอันทะแตก เรากับมิน โดนลงอาญาเนื่องจากเป็นเยาชน และต้องไปรายงานตัว 2 ปี เราเรียนต่อที่นี่เพราะเหลือแค่อีกปีเดียวและได้รับโรคซึมเศร้าตามมา ส่วนมิน ทนแรงกดดันไม่ไหว เลยลาออกไปเรียนต่อ กศน>>>"
ตัดภาพมาในรถ พี่แก้ม กับแม่คุยกัน อย่างสนุก เพราะไม่ค่อยได้เจอกันมานาน  เรานั่งฟังไปเรื่อยๆ เพราะเรานั่งเบาะหลัง พี่แก้ม แอบมองเราเป็นระยะๆ ความสุขของแม่กับพี่แก้ม หยุดลง ด้วยเราพูดดังๆ ขึ้น ว่า "แม่คะถ้าข้าวขอพี่แก้มเป็นแฟน แม่จะว่าไหม">>>>
บรรยากาศอึมครึม น่าอึดอัดกำลังก่อตัว >>>พี่แก้ม อ้าปากค้าง>>>>
แม่เรา สูดลมหายใจ และระบายออกเหมือนคนถอนหาใจ แล้วยิ้มแบบเข้าใจแล้วบอกกับพี่แก้มว่า>>>> แก้มตัดสินใจเอาเองนะ น้องเค้ามาขอแล้ว ไม่ว่าน้องจะขอด้วยฐานอะไร ความเป็นเด็ก หรือความรัก การตัดสินใจนี้มันเป็นสิทธิของแก้ม>>>> แม่ขอแค่ ถ้าเป็นแฟนกัน ดูและกันและกันเท่าที่ทำได้และเมื่อถึงเวลาที่จะจากกันอยากให้จากกันด้วยดี อย่าทำร้ายร่างกายกันและกัน>>แม่รักข้าวมาก ก่อนหน้าเค้าถูกทำร้ายจิตใจด้วยคนในบ้านมาเยอะ  รวมถึงนอกบ้าน  น้องอาจมีอารณ์ขึ้นๆ ลงๆ เอาแต่ใจบ้าง งอลแบบเด็กน้อยบ้าง แม่เชื่อว่าแก้มรู้ว่าจะจัดการกับอารมณ์นี้อย่างๆ ไร แม่รู้ว่าแก้มเข้าใจน้องอย่างที่สุด>>>> ถ้าแก้มตกลง>>>>แก้มก็จะเป็นลูกสาวคนโตของแม่>>>  ถ้าแก้มไม่ตกลง กะไม่เป็นไร แก้มก็ยังเป็นลูกศิษย์ของแม่ หมอและพี่สาวของข้าวอยู่ดีนะ>>>>

พี่แก้ม ยกมือไหว้แม่แล้วตอบเบาๆ ว่า "นู๋ยินดีเป็นลูกสาวแม่คะ">>>>พร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้เราอย่างอบอุ่น

"จบเรื่องของเรากับพี่แก้ม ตอนที่เราเรียน ปี 1 เท่านี้ก่อนนะค่ะ ตอนนี้เราไม่ต้องไปหาจิตแพทย์แล้ว เพราะเรามีจิตแพทย์ส่วนตัวแล้ว>>>> ส่วนเรื่องพี่ตองกับพี่แก้ม>>>กลุ่มเพื่อสวิง>>>>กลุ่มมหาวิทยาล้ยของข้าวจะเป็นอย่างไร>>>ชีวิตวัยทำงานของข้าวจะเป็นอย่างไร>>>ติดตามตอนต่อๆ ไปนะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า


1819

 อ่านไปอ่านมา อารมณ์สวืงขึ่นลงตามเลยครับ 555
กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า

Khawnkaow

ขอบคุณ ที่อ่านจนจบคะ...อารฒณ์สิงขึ้นลงตามคนเขียนนี่ละคะ

test911


NaNNz

อย่างหลายๆท่านบอกว่าอารมณ์สวิงๆตามเลย แต่ สำหรับผม ถ้า กลับเป็น ntr ด้วยนี่ ผม ดิ่งเหวเลยนา  ::Elder::
" "