ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_cyborg0011

สงกรานต์...ปี 51 copy

เริ่มโดย cyborg0011, เมษายน 15, 2021, 12:19:35 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

cyborg0011


สงกรานต์...ปี 51


ดิน(ground) <mailto:ดิน(ground)>December 27 2009 at 9:31 PM 
------------------------------------------------------------------------

ในทุกๆปี ผมเองมีโอกาสได้กลับไปพักผ่อนที่บ้านนอกเขตชนบท ก่อนเทศกาลสงกรานต์ หลังจากที่ตรากตรำกับงานมาทั้งปี เป็นเวลา2อาทิตย์ ผมเองมีอายุ49 ปี แต่อย่าดูหน้าตาผิวพรรณ หลายคนที่ผมบอกเรื่องอายุ เค้าว่าผมอยากเป็นคนแก่บ้าง อยากให้คนอื่นเรียกพี่บ้างสารพัด ก็เพราะหน้าตาผมเหมือนคนอายุ 28-30ปี ผิวหนังก็ไม่เหี่ยวย่นเหมือนคนอายุเกือบครึ่งร้อยโดยทั่วไป ผมเองยังแอบดีใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เมื่อได้ไปพักผ่อนตามชนบท(บ้านพ่อตาแม่ยาย) พ่อตาเสียไปเมื่อ2ปีที่ผ่านมาด้วยโรคฮิตคือมะเร็ง คนชนบทชอบดื่มเหล้าเป็นชีวิตจิตใจ โรคที่คาดไม่ถึงก็มาเยือน

อ้อ ผมเองไม่ดื่มไม่สูบไม่เสพทุกอย่างที่ร่างกายไม่ต้องการครับ ตรงนี้เองมั่งที่ทำให้ผมดูไม่แก่ไปตามอายุใครอยากเอาตามก็ไม่สงวนสิทธิ์ครับ คงเหลือแต่แม่ยายวัย70กว่าเลี้ยงหลานสาวกำพร้าพ่อ หลานสาวภรรยาคือเด็กสาวคนนี้อายุ12ขวบร่างกายอวบอั๋นไปตามวัยที่กำลังเปลี่ยนจากวัยเด็กเข้าสู่วัยรุ่นตอนต้น(พ่อเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเช่นกันเมื่อปีกลายที่ผ่านมา เพราะเหล้า บุหรี่ ด้วยวัยเพียง40 แม่ก็ไปมีสามีคนใหม่ ทิ้งไว้ให้ย่าซึ่งอายุย่างเข้าวัยไม้ใกล้ฝั่งเลี้ยงดู)

ผมหมายตาและจ้องมองเธอและให้ความสนิทสนมกันอย่างแยกไม่ออก เอาใจเธอไม่ว่าเธอจะเอ่ยปากอยากกินอะไร อยากเที่ยวที่ไหน หรือต้องการอะไรที่ผมทำให้ได้ผมจะตามใจเธอทุกอย่าง เพราะเธอขาดทั้งพ่อและแม่ จนเธอให้ความไว้วางใจผม เธอเรียกผมว่า "อา" ตกเย็นใกล้ค่ำแถวชนบททุกคนก็มานั่งล้อมวงกันที่ชานบ้านกินข้าวและพูดคุยกันอย่างออกรส มีความเป็นกันเองในชีวิตชนบท ซึ่งผมได้สัมผัสทุกปี ค่ำมืดก็นั่งล้อมวงกันพูดคุยสารทุกข์สุขดิบ โดยเฉพาะเด็กๆฟังนิทานหลายรสหลายแบบ ใครมีนิทานอะไรก็งัดออกมาสาธยายให้เด็กๆฟังกัน ผมเองชอบเล่าเรื่องลี้ลับที่อยู่ในชีวิตชนบท คงไม่พ้นเรื่องผีสางนางไม้ เด็กๆสนใจเป็นพิเศษโดยเฉพาะหลานเมียวัย12ที่ผมหมายปอง

เมื่อเล่ากันถึงความเฮี้ยนของผี เด็กๆก็จะมานั่งเบียดเสียดผมเป็นพัลวัน ผมก็ถือโอกาสได้กอดเธอไปโดยตั้งใจ เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเมื่อแขนผมไปสัมผัสบัวตูมของเธอที่เพิ่งตูมไม่มากนัก ผมยิ่งต้องสร้างจิตนาการเรื่องน่ากลัวให้เพิ่มมากขึ้นจนเธอต้องลงมานั่งตักผม เจ้าจำปีของผมก็ต้องตื่นขึ้นมาทันที มันเป็นความสุขที่สุดจะบรรยายทีเดียว เมื่อร่องก้นของเด็กสาวแรกแย้มสัมผัสกับเจ้าจำปีของผม จนเรื่องเล่าเกือบติดขัดเพราะใจไม่อยู่กับจิตนาการของเรื่องที่เล่าให้เด็กฟัง

ดึกพอสมควร21.00นของชีวิตชนบท ได้เวลาเข้านอนแต่เธอชอบฟังเรื่องผีมากแต่ก็กลัวมาก เด็กๆเล็กๆก็แยกตัวไปนอน ก็คงเหลือเธอและผม มันจึงได้โอกาสเหมาะเจอะไปหมดตามที่คิดไว้ เธอยังคงนั่งตักอยู่ ผมก็ต้องงัดเรื่องเฮี้ยนของผีสางนางไม้ที่น่าสะพรึงกลัวมากขึ้น เธอไม่เพียงนั่งเฉยแต่ต้องกอดผมไว้แน่น หันหน้าเข้าหาผมและนั่งคร่อมไว้ เธอคงไม่คิดอะไรมาก อาจเป็นเพราะความไร้เดียงสาของเด็กชนบทครับ แต่ใจผมมันปั่นป่วนจนไม่เป็นอันเล่า เสียงเริ่มสั่นเครือจนคอแห้งผาก เธอถามว่า "อาเป็นไรเหรอ?เล่าต่อสิ" ผมก็อยากจะเล่าแต่ใจมันปั่นป่วนไปหมดแล้ว (ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนเธอ5-7ขวบก็เคยเล่าให้ฟังอยู่เกือบทุกปีที่มีโอกาสมา และได้มีโอกาสจับต้องของลับสงวนอยู่บ้าง แต่ตอนนั้นยังเด็กเกินไปมันไม่เหมือนตอนนี้)

ผมเลยออกอุบายว่า "เอาไว้ต่อคืนหลังนะ คืนนี้อาคอแห้งหมดแล้ว หากอยากฟังต่อก็ต้องไปเล่าที่ห้องนอน" เธอยินดีและตามผมเข้าห้องนอน (เมียรำคาญเสียงเล่าของผม เลยแยกไปนอนอีกห้อง) ผมเล่าต่อเธอก็กอดผมและปีนป่ายผมไว้แน่นผมนอนตะแคงให้เธอ และกอดเธอไว้ด้วย กางเกงขาสั้นตัวบางๆรึจะกั้นเจ้าจำปีผมได้ ผมใสกางแกงแพรผ้ามัน ผมจึงถือโอกาสเอามันชนกับจิ๋มอวบๆของเธอนอกกางเกงขาสั้นตัวบางๆ จนเธอสะดุ้งและหันมามองหน้าพร้อมกับหยิกที่สีข้างผมเบาๆ แล้วยิ้มแบบเอียงอาย ผมคิดว่าเธอคงรู้ว่าผมจะต้องแกล้งเอามาชน ทำให้ของผมมาสัมผัสของเธอแน่ แต่เธอไม่ว่าอะไร ผมก็ยิ่งได้ใจ จึงเอามือเธอมาให้สัมผัสกับเจ้าโลกของผม เธอดึงมือกลับไม่กล้าแตะ

ผมบอกว่า "นอนเถอะนะดึกแล้ว" เธอก็บอก "พรุ่งนี้อาเล่าอีกนะ" แล้วผมก็หรี่สวิตซ์ไฟที่หัวเตียง เธอก็นอนหายใจแต่นัยน์ตาเธอยังสบตาผมแบบอายๆ ผมเอาแขนโอบกอดเธอไว้ หัวใจเธอเต้นแรงเพราะความกลัวรึอะไร ผมรอจังหวะสักชั่วโมงกว่า เธอหลับตาไปแล้ว ผมเองนอนไม่หลับ ทุกคนหลับกันหมด ใจผมมันครุ่นคิดไปต่างๆนานา ใจผมเริ่มสั่นไม่เป็นจังหวะมือไม้สั่นไปหมด กลืนน้ำลายแทบจะไม่ค่อยลงคอ ร้อนๆหนาวๆบอกไม่ถูก มือผมสั่นสะท้านครุ่นคิดอยู่สักระยะหนึ่ง ผมรวบรวมสติอารมณ์ แต่ก็ยังไม่วายที่จะตื่นเต้นกับสิ่งที่ผมจะทำในอีกไม่กี่นาทีนี้ ใจก็คิดไปว่าหากเธอโวยวายผมคงเสียคนแน่ ผมรวบรวมความกล้าแล้วจึงตัดสินใจเอามือคลำเป้ากางเกง (คลำมันนอกกางเกงนี่แหละ เธอไม่รู้สึกตัว)

ใจคอผมมันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ในที่สุดก็ต้องล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นตัวบางๆ มือสัมผัสกับกางเกงในตัวน้อย มันเปียกๆนิดๆตรงร่องจิ๋มของเธอ ใจผมมันปั่นป่วนเหมือนจะเป็นลม ผมไม่เคยตื่นเต้นอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต มือก็สั่นหัวใจมันหวิวๆอย่างบอกไม่ถูก ผมบรรจงล้วงเข้าไปในกางเกงในจึงรู้ว่าเมือกเหนียวๆระหว่างร่องเด็ก ขนอุยบางๆเหนือร่องผ่ากลางไม่กี่เส้นพอรู้สึก หอยอวบอูมเต็มฝ่ามือผม อูย...หัวใจผมแทบจะหลุดออกมานอกอก แล้วผมก็รูดลงทั้งกางเกงขาสั้นกับกางเกงในออกเบาๆ ผมถ่างขาเธอออกพอประมาณ ผมเอานิ้วที่เปียกเมือกมาดมกลิ่นอับแบบบอกไม่ถูกแต่ก็ได้อารมณ์ ผมเอาเมือกไปถูที่เม็ดเสียวของเธอเบาๆอย่างทะนุถนอม ความตื่นเต้นที่สุดในชีวิตผมได้สัมผัสแล้วหรือนี่

มืออีกข้างก็ลูบคลำดอกบัวตูมที่เพิ่งตั้งหัวพอนูนเสื้อ และแล้วจมูกของผมก็ได้สัมผัสจิ๋มของเธอ กลิ่นออกอับๆแต่ก็เร้าใจจนบอกไม่ถูก แต่ด้วยความกระหายของอารมณ์เพศขณะนี้ ผมไม่สะอิดสะเอียนแม้แต่นิดเดียว ลิ้นผมสะกิดปลายเม็ดเสียวของเธอเบาๆ และเลียจากร่องก้นขึ้นมาถึงเม็ดเสียว มันทำให้ผมมีความสุขสุดบรรยายจริงๆ ผมอยากหยุดโลกไว้ตรงนี้สักล้านปีจัง ผมเลียจิ๋มของเธอจนเมือกและกลิ่นถึงกับหายไปเกือบหมด ผมเองแข็งทื่อเกือบทะลักเสียให้ได้ แต่ก็ต้องอดทนไว้ ทุกครั้งที่เลียหอยของเธอมาถึงเม็ดเสียว ร่างเธอจะเกร็งและกระตุกที่ปลายเท้า ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะรู้สึกตัวหรือไม่ เมื่ออดทนไว้ไม่ได้แล้ว ผมก็ดึงแขนเธอให้นอนตะแคงกอดผมไว้ แล้วเอาขาขวาเธอมาปีนป่ายคร่อมสีข้างตัวผม

ผมก็หันหน้าเข้าหาเธอ ผมดึงเอาผ้าห่มมาห่มไว้เพื่อกันสายตาเด็กคนอื่นๆที่อาจตื่นลุกขึ้นฉี่ ในที่สุดควยของผมก็ได้สัมผัสกับหีเธอ อูย...มันจะแตกเสียให้ได้ ควยผมถูที่ติ่งแตดเสียวและร่องเนินหีของเธอ เมือกผมมันออกมาแฉะร่องหี ที่หีเธอเต็มไปด้วยน้ำเมือกผม ผมตั้งใจจะดันมันเข้าไปเบาๆ แต่มันเข้าได้แค่นิดเดียวเองไม่ถึงเซ็น ผมสุดจะอัดอั้นไว้ไม่ไหวแล้ว...เป็นไงเป็นกัน ผมเสียวสุดๆ อูย..ผมทนมันไม่ได้อีกต่อไปแล้วจึงปล่อยน้ำรักของผมฉีดเข้าเต็มที่ในรูหอยของเธอทันที

อูย...อูย.... ผมถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัว สวรรค์ชั้นไหนๆผมไม่สนอีกแล้ว เด็กเอ๋ยอะไรมันจะมาเปรียบปานได้ บุญของควยผมจริงๆ ผมมีความสุขชนิดหาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว ผมยังคงจ่อเจ้าควยผมไว้ที่ร่องหีสักครู่ใหญ่ด้วยความเสียวและก็ถูไปมาที่ปลายเม็ดแตดเสียวไปด้วย สลับกับถูขึ้นลงระหว่างร่องหีเธอ สักครู่ร่างเธอเริ่มเกร็งมือที่กอดผมอยู่เริ่มตึงกับสะเอวผม ขาที่ปีนป่ายสีข้างผมเริ่มมีน้ำหนักขึ้นผมคิดว่าเธอคงตื่นแล้วแน่ ผมเริ่มเอาเจ้าควยผมถูแรงขึ้นๆๆ ก้นเธอดันเข้าหาตัวผมมากขึ้น ผมเริ่มถูเร็วขึ้นๆ สักครู่ผมคิดว่าเธอคงเสียวสุดทนไว้ได้ ร่างเธอเกร็งและกอดรัดผมไว้แน่น แล้วครู่หนึ่งก้นเธอกระตุกหยึกๆๆๆสองสามครั้ง แล้วผมก็ฉีดน้ำรักเข้าร่องหีเธออีกรอบ ร่างเธอก็คลายลง พร้อมกับผ่อนเสียงหายใจออกมาเป็นระยะ

ผมเข้าใจทันทีว่าเธอคงถึงจุดสุดยอดครั้งแรกกับผมแน่นอน แต่เธอยังคงหลับแน่นิ่งไม่กระดุกกระดิกเลย ผมจัดการเอาผ้าขนหนูผืนเล็กๆที่เตรียมตอนออกจากห้องน้ำ ชุบน้ำไว้หมาดๆเช็ดทำความสะอาดหีของเธอจนเกลี้ยงทุกตารางนิ้ว ผมก้มลงเอาจมูกจูบลงไปที่หีเธอและร่องกลางหี สูดดมจนเป็นที่พอใจ ขอบใจนะหีจ๋าแล้วผมก็จัดการใส่กางเกงใน กางเกงขาสั้นตัวนอกให้เรียบร้อย คืนนั้นทั้งคืนผมนอนไม่หลับ มือข้างขวาก็ยังตะปบหีที่โหนกนูนเต็มฝ่ามือ ตะปบไว้ทั้งนอกกางเกงขาสั้นตัวบางนี่แหละ ใจก็คิดไปต่างๆนานา หากเธอรู้สึกตัวตลอดเวลาที่ผมทำกับเธอ หากเธอเอาไปพูดกับย่าของเธอผมคงเสียคนแน่ แต่หากเธอไม่พูดผมก็คิดว่าคืนต่อไปต้องได้อีก ทั้งทุกข์ทั้งสุข ปนอยู่ในสมองผม

ดูนาฬิกาตีสามเข้าไปแล้ว ง่วงก็ไม่ง่วง จะเอาอีกรอบก็กลัวบอบช้ำ คิดมากก็คิดมากอยากก็อยาก อุ๊ย...มันสับสนไปหมด นอนก็หลับไม่ลง ผมมาคิดดูมันทุกข์หรือสุขกันนี่ ไม่น่าทำเลย แต่มันก็ผ่านไปแล้ว นอนคิดอยู่สักพักใหญ่ เธอก็ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ ผมลุกตามไปด้วยเพื่อสังเกตอาการว่าเป็นอย่างไร พอเธอออกจากห้อง น้ำก็ส่งยิ้มแบบง่วงๆให้ผม และเดินเข้าห้องไป ผมเข้าห้องน้ำหลังจากที่เธอออกมา ผมได้กลิ่นฉี่ของเธอมันช่างยั่วยวนใจผมมากขึ้น ผมสูดดมกลิ่นฉี่ที่อบอวนในห้องน้ำจนกลิ่นเบาบางลง แล้วผมก็เข้าห้องนอน เห็นเธอนอนคลุมผ้าห่มโผล่แต่หน้า ผมแอนตัวลงนอนแล้วหอมแก้มเบาๆ พร้อมนึกขอบใจเธอที่ทำให้ผมมีความสุขและรู้สึกรักเธอมากขึ้นทวีคูณจับใจ

ผมข่มตาหลับก็หลับไม่ลงจริงๆ ครุ่นคิดไปสารพัดจนเสียงไก่ขันตามเวลาของมัน นกเริ่มส่งเสียงบินออกจากรัง แม่ยายก็เตรียมหุงหาอาหารเช้า คนบ้านใกล้ก็นำวัวออกไปกินหญ้าในทุ่ง ส่งเสียงร้อง..มอ..มอ อยู่ข้างบ้าน มันบ่งบอกถึงความเป็นชนบทแบบบ้านนอกคอกนาจริงๆ มันเป็นมนต์เสน่ห์ของคนบ้านทุ่งที่หลายคนอาจได้สัมผัสมาบ้างแล้ว มันทำให้ผมอยากจะมาทุกปีมากขึ้นเสียแล้วครับ...ชีวิตชนบท ผมปลุกเด็กๆตื่นเพื่อออกไปสูดอากาศในทุ่งนายามรุ่งอรุณของวันใหม่ หลานคนอื่นๆลุกขึ้นออกจากห้องไปหมดแล้ว สังเกตเธอจะเอียงอายผมแบบไม่ค่อยกล้าสบตาเหมือนตอนกลางวันเลย ผมแกล้งถามว่า "ฝันเห็นผีไหมเมื่อคืน?" เธอส่ายหน้าแต่ไม่สบตาไม่พูด

ผมจับมือเธอไว้ต้องการทดสอบว่าเธอรู้ตัวไหมเมื่อคืน เธอก็ไม่ดึงกลับแต่ฟุบลงนอนแบบขี้เกียจลุก แล้วผมก็ดึงเธอขึ้นพร้อมกับตีไปที่ก้นเบาๆ เธอส่งเสียงเบาๆ "..ยังง่วงอยู่เลยอยากนอนอีก..."  ผมบอก "จะออกไปทุ่งนาไม่ไปเหรอ?" เท่านั้นเองเธอก็ลุกขึ้นนั่ง ผมโอบกอดและหอมแก้มทีนึง เธออายนิดๆแล้วเดินออกจากห้องไปล้างหน้าล้างตา ผมพาเด็กๆออกไปสูดอากาศในทุ่งเธอก็ตามไปด้วย หลานคนอื่นๆก็กระโดดโลดเต้นไปตามประสาเด็กๆ แต่เธอเดินไปมารอบๆทุ่งนา ไม่ค่อยกล้ามองหน้าผมเหมือนเมื่อวานเลย ผมครุ่นคิดว่าถ้าเมื่อคืนเธอรู้สึกแล้ว เธอจะกล้านอนอีกไหมคืนนี้ ผมถามเธอคำเธอก็พูดคำ ตอบแบบไม่สบสายตา ผมเดินเข้าใกล้เธอและจับมือถือแขนเธอก็ไม่ดึงออก หรือไม่แสดงอาการวิตก

ผมได้แต่คอยสังเกตอาการเธอ แต่เธอก็ไม่มีอะไรที่แสดงออกตามความคิดของผม มีก็เพียงไม่ค่อยสบตาผมก็เท่านั้น จนแสงแดดอ่อนๆค่อยๆเริ่มร้อนขึ้น ผมจึงบอกเด็กๆกลับบ้าน อาบน้ำและกินอาหารเช้าที่แม่ยายหรือย่าของหลานๆเมียเตรียมจัดไว้แล้ว กินข้าวกันเสร็จ ผมขับรถไปส่งแม่ยายและเมียผมไปวัดห่างจากบ้านสามสี่กิโลเมตร เพื่อทำบุญวันสงกรานต์ เด็กๆก็ตามไปด้วย กลับจากวัดเด็กๆก็เล่นสงกรานต์สาดน้ำกันอย่างสนุก. ตกค่ำของคืนวันนั้น...เหตุการณ์ปกติของชีวิตชนบทยังคงดำเนินไปอย่างเช่นทุกวัน หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จทุกคนก็มารวมตัวกันที่ชานบ้าน ผู้ชายที่อายุมากที่สุดไม่มีใครเกินผม วัยรุ่นตอนกลางก็จับเจ่าอยู่กับโทรทัศน์ เด็กๆก็คงไม่พ้นกับการฟังเรื่องเล่า ซึ่งผมเองเป็นนักเล่าเรื่องราวต่างๆให้หลานๆได้ฟังกัน เพราะประสบการณ์ชีวิตค่อนข้างมากกว่าใครๆ(ยกเว้นแม่ยาย)

เรื่องราวของนิทาน มันย่อมเข้มข้นขึ้นทุกที เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เธอหลานสาววัย12คนเดิม ขยับกายเข้ามาเบียดเสียดกับผมทีละนิดๆ ส่วนหลานคนอื่นๆก็ขยับเข้ามา เมื่อเรื่องเล่ามาถึงตอนที่ผีสำแดงเดช เธอถึงกับลุกมานั่งตักผม ผมทำทีผลักเธอออกแต่เธอยิ่งกอดอกผมไว้แน่น ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แต่เด็กอาจไม่คิดอะไร ผมเล่าเรื่องราวความเฮี้ยนของผีมากขึ้นเท่าไร ทุกคนที่ฟังต้องเบียดเสียดแทบเป็นเนื้อเดียวกัน เธอเป็นเด็กสาวคนเดียวในกลุ่มที่สนิทสนมกับผมมากที่สุด เธอกอดผมไว้แน่นด้วยความกลัวขนาดปวดฉี่ก็ไม่กล้าลุกไป เธอโยกแขนผมแล้วบอกว่าปวดฉี่ หยุดไว้ก่อนแล้วค่อยเล่าต่อ วานบอกให้ผมไปเป็นเพื่อนหน่อย

ผมยืนรอหน้าห้องน้ำ เธอปิดแค่ประตูแต่ไม่ได้ลงกลอน คงแง้มไว้พอมองเห็นว่าเธอกำลังถลกกางเกงลงถึงเข่าแล้วนั่งฉี่ เสียงฉี่พุ่งถูกคอห่านดังซี้ดๆๆๆชัดเจน จนเธอเสร็จกิจ ตักน้ำลาดจิ๋มสองสามที เอาริมเสื้อซับจิ๋มแล้วหันมายิ้มกับผมแบบอายๆ เมื่อสายตาเธอหันมา เห็นผมกำลังวาดสายตาผ่านประตูที่แง้มเอาไว้ เด็กเอ๋ยเด็กช่างไร้เดียงสาเสียจริงๆ ไม่รู้จักอายเราบ้างเลย ใส่กลอนเสียหน่อยก็ได้นี่.. ผมโอบไหล่เธอกลับมาที่ชานบ้านเล่าเรื่องผีต่อ แต่เด็กๆคนอื่นๆไปดูโทรทัศน์กันหมด "นางทาส"ถึงตอนเข้มข้น เธอยังคงอยู่กับผม ให้ผมเล่าเรื่องผีต่อ ผมก็ไม่รอช้า คัดสรรตอนที่ผีมันเฮี้ยนสุดๆกันเลยทีเดียว เธอถึงกับนั่งคร่อมผมแบบหันหน้าเข้าหากัน กอดอกผมไว้แน่น

กางเกงผ้าแพรที่ผมนุ่งอยู่กับกางเกงในมันคงจะรั้งดุ้นควยผมไม่อยู่เสียแล้ว มันตุงออกมาเห็นได้ชัด เธอยิ่งกอดผมแน่นเท่าไร ควยของผมมันยิ่งแข็งขึ้นตามแรงกอด ผมรู้สึกได้ทันทีว่าควยผมได้ชนอยู่กับหีตังเป้งของเธออย่างจัง เพราะเธอนั่งคร่อมตัวผมไว้ ผมเอนหลังพิงราวรั้วชานบ้านเพื่อให้น้ำหนักตัวเธอกดทับและเพื่อให้หีอูมๆของเธอกดลงที่ควยผมไว้แรงๆ ผมตั้งใจให้เธอรู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ และเธอคงรู้ตัวเพราะเธอหันมายิ้มแบบอายๆนิดๆ ผมยิ่งๆได้ใจ ผมยกก้นตัวเองขึ้นสองสามครั้งเพื่อให้แรงกดน้ำหนักตัวเธอที่กดทับลงมา หีอูมๆชนกับควยผมจนเธอสะดุ้งหนี ผมรั้งเอวเธอไว้ไม่ให้ถอยออก แล้วขยับเด้งก้นซอยเบาๆ เธอรู้ทันทีว่าผมเจตนาให้ควยผมชนกับหีอูมๆของเธอ เธอหันมายิ้มและอายก้มหน้า

ผมเกือบทะลักแตกออกมาเลยทีเดียว ผมหยุดเล่าตั้งแต่ตอนที่ผมเอนหลังพิงแล้ว ผมถามว่าอยากฟังต่อไหม เธอส่ายหน้าไม่พูด ผมยังคงรั้งเอวเธอไว้ไม่ให้ถอยหนี ใจคิดไปว่าหากผมล้วงหีเธอตอนนี้ เธอคงไม่ว่าอะไรแน่ แต่อย่าใจร้อนดีกว่า...ผมเอ่ยถามเธอที่ข้างหูเบาๆว่า "จั๊กจี้ไหม?" เธอพยักหน้าครั้งหนึ่งแต่ไม่สบตา ผมหอมหน้าผากเธอเบาๆ พร้อมกับกอดรัดเธอไว้แน่นพอควร ผมเอาหูทาบที่อกซ้ายตรงหัวใจเธอ เสียงเต้นแรงกว่าปกติมาก ผมรู้ทันทีว่าหัวใจเธอตอนนี้มันไม่ธรรมดาเสียแล้ว ซึ่งไม่ต่างกับผม ผมเอาหูเธอมาแนบอกผมฟังเสียงหัวใจเต้น เธอก็หันมายิ้ม..แล้วถามผมว่าทำไมหัวใจเต้นแรงจัง? ผมก็ตอบไปว่าคงเหมือนเธอนั่นแหละเสียงหัวใจก็เต้นแรงเหมือนกัน..

"ง่วงนอนยัง?" ผมถาม เธอพยักหน้า ผมบอกให้เธอไปนอนได้แล้วในมุ้งอานะ เดี๋ยวอาตามไป เธอเข้ามุ้งไปไม่ถึงนาทีผมก็เข้าไปนอนเช่นกัน ทุกคนที่ไม่นอนกำลังสนุกอยู่กับละคร"นางทาส"..  ผมดึงเธอมานอนแนบผมแล้วกอดเธอหอมแก้มเธอๆก็กอดผมไว้ ผมยกขาเธอให้คร่อมเอวผมไว้เพื่อให้หีอูมของเธอมาสัมผัสกับเจ้าควยของผมไว้ มือผมก็รั้งเอวเธอไว้ไม่ให้ถอยหนีไปไหน มือขวาผมรัดก้นเธอให้แนบเข้าชิดกับควยผมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วผมเองก็กระเด้าเอวเข้าออกเพื่อให้เจ้าควยของผมสัมผัสกับหีอูมๆของเธอนอกางเกงขาสั้นผ้าบางๆ ทุกครั้งที่ผมรัดก้นเธอและซอยก้นผมเบาๆ เธอจะกอดรัดตัวผมไว้เป็นระยะๆ ผมเสียวสุดจะทนแต่ก็ต้องหักห้ามความรู้สึกไว้ไม่ให้แตกเสียก่อน

เมื่อเธอรู้ตัวว่าผมเจตนาทำกับเธอแบบนี้ ผมก็ตัดสินใจจับหอยตัวเป้งของเธอนอกกางเกง เธอเอามือเธอผลักมือผมออกเบาๆ แต่ผมก็ไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ ผมยิ่งได้ใจล้วงเข้าไปในกางเกงในของเธอเลย มือผมสัมผัสกับหีอูมๆอย่างเต็มกำ นิ้วกลางผมเริ่มเซอะเข้าหว่างกลางหีทันที มันเต็มไปด้วยน้ำเมือกของเธอ ผมปาดน้ำเมือกของเธอมาถูกับติ่งแตดเสียวของเธอ เท่านั้นเองเธอถึงกับกอดรัดผมไว้แน่น ก้นเธอก็กดเข้าหาตัวผมไว้ ผมถลกกางเกงในไปกองอยู่ปลายเท้าเธอ ผมคงไม่รอช้างัดเจ้าควยของผมออกมาสัมผัสกับ
หีอูมๆเธอ และจับเจ้าควยผมถูกับเม็ดแตดเสียวของเธอขึ้นลงช้าๆ เธอยิ่งกดตัวเข้าหาผมตามจังหวะที่เจ้าควยผมสัมผัสกับเม็ดเสียวของเธอ ผมคงอดใจไว้ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว..มันจะระเบิดออกมาเสียแล้วครับ....มือซ้ายผมรั้งก้นเธอไว้ไม่ให้ออกจาก มือขวาจับเจ้าควยของผมถูไปกับเม็ดแตดเสียวอย่างถี่ขึ้นๆ

...จนผม....โอย...ระเบิด..ฉีดน้ำรักของผมเข้าตรงรูหีตัวเป้งของเธออย่างแรง... เธอถึงกับสั่นเทาทั้งตัว แล้วร่างเธอก็กระตุก..ยึกๆๆๆ..สี่ห้าครั้ง พร้อมกับเสียงผ่อนลมหายใจออกมาเป็นระลอกๆ ร่างเธอเริ่มอ่อนตัวลง แต่ผมยังคงจ่อเจ้าควยของผมไว้กับรูหีของเธออยู่ เธอซุกหน้ากับอกผมไว้ ไม่กล้าสบตาไม่พูดอะไรทั้งนั้น ผมจับหน้าผากเธอให้เงยหน้าขึ้น แต่เธอยังกดหน้าซกกับอกผมไว้แน่น เธอคงอายมาก ผมจัดการกับน้ำรักที่ออกมามากมาย กับผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำพอหมาดๆที่เตรียมเอาไว้แล้ว ผมผลักเธอให้นอนหงาย ตาเธอยังคงปิดอยู่ไม่กล้าสบตาผม แสงไฟสลัวจากดวงไฟนอกห้องพอมองเห็น และผมจัดการเช็ดเสียจนหมดน้ำเมือก ผมก้มลงบรรจงจูบที่หีตัวเป่งเธอ เธอถึงกับสะดุ้งตะแคงตัวหนีและนอนคว่ำหน้าไว้

ผมจูบที่ซอกคอเธอ จนเธอหัวเราะคิกๆออกมา พูดว่า "อาขาหนูจั๊กจี้ค่ะ อย่าทำอย่างนั้นซี" ผมปล่อยให้เธอนอนอยู่เฉยๆสักพัก แต่ใจผมอยากเอาอีกรอบ เธอลุกขึ้นใส่กางเกงเพราะคงอายสายตาผม ที่จ้องมองอย่างไม่ละสายตา มือเรารึก็ซุกซนไปตามความหื่นกาม หลานคนอื่นๆยังคงนั่งดูโทรทัศน์กันอยู่ที่ห้องหน้าบ้าน ผมและเธอเราอยู่ในห้องกันสองคน คงไม่มีใครคิดว่าเราทำอะไรกันบ้าง เพราะผมวางตัวแบบสบายๆทั้งต่อหน้าและลับหลัง(หากไม่เห็นเวลาแสดงบทรัก คงไม่มีใครรู้) ผมนอนรอจนเธอหลับไป ใจผมครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา ผมนอนกอดเธอและจูบแก้มเธอ กลิ่นของเด็กสาวมันช่างหอมกรุ่นรันจวนใจ ไออุ่นของเด็กเริ่มเป็นสาว มันทำให้คนอย่างผมถึงกับนอนไม่หลับสองคืนแล้ว ผมจี้เธอที่สะเอวเพื่อทดสอบว่าเธอหลับสนิทไหมหรือแกล้งหลับกันแน่ เธอไม่สะดุ้งตัวเลย แสดงว่าหลับสนิทจริงๆ อาจเป็นเพราะความอ่อนเพลียก็เป็นได้

ผมครุ่นคิดถึงคืนที่ผ่านมาไม่แน่ใจว่าเธอจะหลับเหมือนคืนนี้ หรือรู้สึกตัวแต่แกล้งทำเป็นหลับ ผมนอนรอหลานๆคนอื่นๆอยู่สักพักใหญ่ หากผมทำไรลงไป หลานคนใดคนหนึ่งอาจเห็นได้ ความแตกแน่ๆ รอแล้วรออีกก็ไม่เห็นมีใครเข้ามา ผมจึงเดินออกไปดู ปรากฏว่าทุกคนหลับอยู่หน้าโทรทัศน์ ในที่สุดผมก็ต้องเอามุ้งหลังใหญ่มากางให้หลานๆสามคนนอนอยู่หน้าโทรทัศน์นั่นเอง มันเป็นโอกาสเหมาะสำหรับผมจริงๆ กางมุ้งเสร็จผมเดินไปเปิดไฟในห้องน้ำทิ้งไว้ (เพราะทุกคืนก็เปิดเป็นประจำอยู่แล้ว เผื่อใครลุกเข้าห้องน้ำ)

ผมเข้าห้องนอนปิดประตูล็อกเรียบร้อย กลิ่นเด็กสาวยังตลบอบอวนเย้ายวนใจไปทั้งห้อง ผมดึงเธอให้นอนหงายเปิดพัดลมปลายเท้าเบาๆ ผมถลกกางเกงขาสั้นบางๆกับกางแกงในเธอ ออกจากร่างไปกองอยู่ปลายเท้า  เสื้อยืดตัวน้อยก็ถูกผมถอดออกจนร่างเธอเปลือยเปล่า ผมบรรจงหอมแก้มเบาๆลดจมูกต่ำลงมาถึงที่นม ที่เพิ่งเริ่มตั้งหัวนูนขึ้นมานิดนึง ขนาดฝาขนมครก ผมเลียที่หัวนมลากลิ้นวนรอบๆเต้าน้อยๆทั้งสองข้างอย่างทะนุถนอม และลากลิ้นลงมาถึงหน้าท้อง วนรอบสะดือ...ต่ำลงมาถึงเนินสามเหลี่ยมซึ่งเต่งตึงโหนกนูนอวบอูมจนผมสั่นสะท้านทรวง ขนอุยอ่อนๆเหนือร่องผ่ากลางพอรู้สึกได้ เมื่อริมฝีปากผมลากผ่านบนเนินสามเหลี่ยมที่โค้งโหนกรับ ประมาณสักไม่เกินสิบเส้น

ผมเม้มปากงับขนอุยดึงขึ้นเบาๆ ยาวไม่มากนักสักหนึ่งเซ็น มันช่างเร้าอารมณ์ผมมากยิ่งขึ้น ลิ้นผมซอกซอนลงหว่างเนินที่แนบสนิท ดันดุนปลายเม็ดเสียวของเธออย่างเอร็ดอร่อย กลิ่นอับๆและฉุนฉี่แต่ก็ต้องยอมรับเพราะความอยากของเรามันท่วมท้น มิได้คิดรังเกียจแม้แต่น้อย ผมแยกขาเธอออกนิดนึง หีตัวเป่งอ้าออก ผมก้มลงฝังจมูกลงไปที่หว่างหี สูดดมกลิ่นอันพีงปรารถนาจนเป็นที่สะใจ มันช่างไร้สิ่งใดมาเปรียบปานได้ในขณะนี้ ลิ้นผมดุนดันขึ้นลงที่เม็ดแตดเสียวเธอจนรู้สึกว่ามีน้ำเมือกไหลออกมาแล้ว ผมตวัดลิ้นเลียที่รูหีดูดกินน้ำเมือก รสชาติเลี่ยนๆแต่ก็อร่อยเพราะความเงี่ยนของเราเอง

...ผมคงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว งัดเจ้าควยของผมออกมาถูที่หว่างหีที่อวบอูม น้ำเงี่ยนผมกับของเธอปนกันแยกไม่ออก ยิ่งเอาควยยถูร่องหีน้ำเมือกเหนียวมันก็ยิ่งออกมามากจนเปียกหอยอวบอูม ผมเกือบกลั้นใจไม่อยู่กลัวจะแตกเสียก่อน เมื่อร่างเธอเริ่มขยับตัวตอบสนอง ยกก้นขึ้นรับขณะที่ควยยผมฝังอยู่หว่างหอยได้สักเซ็นต์หนึ่ง ผมพยามยามดันมันเข้าไปทีละน้อยเท่าที่จะเข้าได้ แต่มันจะระเบิดออกให้ได้ เธอก็ยกก้นขึ้นรับทั้งที่ตาหลับอยู่ ปากเธอสูดลมเข้าเบาๆเป็นระยะที่ผมพยามดันเจ้าหนูผมเข้าไป เธออ้าขาออกโดยอัตโนมัติเหมือนสั่ง ผมคงทนต่อไปไม่ไหวแล้ว...ผม.. ผม.ปล่อยกระสุนฉีดน้ำรักเข้าเต็มร่องรูหีที่อวบอิ่ม และดันเข้าจนลืมตัว เจ้าหนูของผมผลุดเข้าไปครึ่งลำประมาณเกือบ5เซ็น น้ำรักผมก็ฉีดทะลักเข้าเต็มร่องรูหีจนล้นออกมานอกหีที่อวบอั๋น

เธอรึก็ยกก้นลอยขึ้นเหนือพื้น รับเจ้าหนูของผม คงกลัวว่ามันจะหลุดออกจากรูหีไปเสียง่ายๆเสียอย่างนั้น ผมเองก็กดเจ้าหนูลงหว่างรูหีที่อวบอูม พยายามดันเข้าให้สุดเท่าที่จะทำได้ แต่คงได้แค่ครึ่งลำเท่านั้น ภายในหีเธอตอดรัดเจ้าหนูของผมยวบๆๆๆ เหมือนกำลังรีดน้ำรักของผมออกให้มากที่สุด ความเสียวซ่านที่ผมได้รับมันสุดพรรณา ผมคิดว่าเธอเองก็ไม่น้อยไปกว่าผมเท่าไรนัก สองมือเธอกอดผมไว้แน่น เสียงหายใจเข้าออกของเธอยังกะคนเหนื่อยหนัก ผมประกบจูบปากเธอดูดดื่มเพราะความกระหาย หวังให้เธอสนองรับกับความสุขที่ได้รับตอนนี้ เธอปล่อยให้ผมดูดดันลิ้นในปากเธอ จนร่างเธอสั่นสะท้านไปทั้งกาย ผมรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้หลับเหมือนเมื่อคืนวาน

ผมยังคงฝังเจ้าควยของผมไว้กับหีตัวเป่งของเธอ ไม่อยากจะถอนออกจากรูหีเธอเลย หากมีสวิตซ์ที่สามารถกดปุ่มให้โลกหยุดหมุนไว้เพียงแค่นี้ ผมก็จะกดมันอย่างไม่ต้องคิดเลย เกิดมาชาตินี้ผมไม่เสียชาติเกิดจริงๆ ความสุขครั้งนี้เป็นจุดสุดยอดอย่างที่ผมมิเคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน ผมดูดลิ้นเธอและน้ำลายสาวน้อยจนเกือบจะแห้งผาด เสียงหายใจเข้าของเธอเป็นระรอกๆยังกะคนจะขาดใจ ผมยิ่งเพิ่มความรักให้เธอมากขึ้นเป็นทวีคูณ ผ่านไปเกือบสามสิบนาทีผมสงสารเธอมาก จึงตัดใจค่อยๆถอนเจ้าควยของผมออกที่ละนิดๆจากหีเธอด้วยความเสียดาย แต่ภายในรูหีเธอยังคงตอดรัดเจ้าควยผมเป็นระยะๆ เหมือนจะไม่อยากให้ถอนออกไป เสียงดัง ป็อก!!!...เมื่อเจ้าควยของผมหลุดพ้นจากหีของเธอ

ผมกดสวิตซ์ไฟฉายที่โทรศัพท์ส่องดูที่เนินร่องหีเธอ น้ำรักของผมผสมกับน้ำเมือกของเธอแดงฉาดไปกับเลือดสาวน้อยที่เสียพรหมจรรย์ให้กับอาคนนี้ ผมบรรจงซับเลือดผสมน้ำรักด้วยผ้าขนหนูชุบน้ำไว้หมาดๆ อย่างถนอม มือไม้รึก็สั่นเห็นได้ชัด เพราะภาพที่ปรากฏตรงหน้าด้วยแสงไฟฉายโทรศัพท์แสงขาวนวลมันทำให้ผมได้เห็นทุกอณูของเนินร่องหีอวบอูมที่น่ารักที่สุดในขณะนี้ เจ้าควยของผมก็ยังผงกหัวหงกๆสู้อย่างไม่ยอมแพ้ หากไม่คิดสงสารว่าจะระบมมากกว่านี้ จะสอดใส่มันทั้งคืนอย่างมิต้องหลับนอนกันเลย ดูนาฬิกาที่โทรศัพท์นี่มัน03.30 ไปแล้วรึนี่ ทำไมมันช่างรวดเร็วเช่นนี้ ผมนอนลงแนบร่างที่เปลือยเปล่าของเธอ แล้วค่อยวางจมูกลงบนแก้มเบาๆ พรางกระซิบข้างหูว่า "เป็นไรบ้างหละ? เจ็บไหม?" เธอพยักหน้าทั้งหลับตา

แสงไฟฉายพอมองเห็นคราบน้ำตาที่ไหลลงข้างตาทั้งสองข้าง ผมสงสารเธอมาก ผมลุกขึ้นนั่งแล้วจูบลงที่หีเธออย่างเอ็นดู เธอเอามือมาปิดเนินร่องหีไว้บอกว่า "พอแล้ว หนูเจ็บค่ะ" เธอพูดเสียงสั่นเครืออย่างน่าสงสาร ผมใส่กางเกงในและกางเกงขาสั้นตัวนอกให้เธอ ใส่เสื้อตัวซับในตัวนิดและเสื้อยืดคอกลมให้เรียบร้อย ผมประคองกอดเธอไว้ เธอก็กอดตอบ ผมถามว่า "โกรธอาไหม? ที่อาทำอย่างนี้" เธอส่ายหน้าไม่พูด แต่ยังสะอื้นในลำคอเป็นครั้งครา "อารักหนูมากที่สุด รู้ไหม? อยากได้อะไรบอกอานะ อาจะซื้อให้ทุกอย่าง แต่อย่าไปเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด โดยเฉพาะอาหญิงของเธอ พรุ่งนี้ให้ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ อย่าให้ใครสงสัย หากเจ็บจิ๋มมาก ก็อย่าพยายามเดิน อาจะให้กินยาแก้อักเสบ วันสองวันก็หายแล้ว ให้พูดหยอกล้อกันตามปกติ อย่าแสดงอาการกลัวอาเด็ดขาด จำไว้นะ" เธอพยักหน้ารับรู้

ผมถามต่อไปว่า "แล้วเมื่อคืนวาน ถามจริงหนูรู้สึกตัวไหม?อาก็ทำแบบนี้แหละ..." เธอมองหน้าผม "ตอบอามาตามตรงนะรู้สึกตัวไหม?...อารักหนูมากนะ ที่อาทำเพราะอยากให้หนูมีความสุข หนูเริ่มโตเป็นสาวแล้วนะ หนูต้องรู้แล้วหละ บอกอาซิจ๊ะคนดีของอา ไม่ต้องอายหรอก เรารู้กันแค่สองคน แต่อารู้นะว่าหนูต้องรู้สึกตัว ใช่ไหม?" เธอยังคงมองหน้าผม คงคิดมากจะตอบดีไหม. "ค่ะ..." เสียงตอบสั้นๆจากเธอ ผมจูบหน้าผากเธอ "อารักหนูมากที่สุดเลยรู้ไหม? ให้หนูหายเจ็บเสียก่อน แล้วอาจะทำให้หนูทุกอย่าง อาอยากให้หนูมีความสุขมากๆ รู้ไหม?" เธอเงยหน้าขึ้นสบตาแบบสงสัย แต่ไม่พูดไร ผมเช็ดคราบน้ำตาให้ด้วยความสงสารอย่างสุดซึ้ง... "นอนเถอะใกล้สว่างแล้ว พรุ่งนี้ไม่ต้องรีบตื่นหรอก"

ผมกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและจูบที่ศรีษะ กลิ่นเด็กสาวยังคงกรุ่นไม่ขาดสาย สักพักเธอก็หลับลงอย่างง่ายดาย ...ผมเองนอนตาค้างไม่ยอมหลับตา คิดไปต่างๆนานา กลัวรึก็กลัวว่าเรื่องจะแดง พรุ่งนี้เธอจะเดินตรงทางหรือเปล่า? เธอจะแสดงอาการอะไรออกมาไหม? เธอจะระบมมากไหม? สารพัด...มันกลัดกลุ้มขึ้นมาในสมอง ไม่น่าทำเลยเรา ประมาทแท้ๆ พ่ายแพ้อารมณ์และตัณหาของตัวเอง ผมนอนคิดมากจนเสียงไก่ขันเตือน ท้องฟ้าจะสว่างแล้ว ด้วยความหวาดกลัวไปต่างๆนานา ไม่รู้สึกว่าตัวเองจะง่วงเลยแม้แต่น้อย

ผมลุกออกจากห้องมานั่งรับอากาศเย็นสบายยามฟ้าสาง ทิ้งให้เธอนอนอยู่คนเดียวในห้อง เสียงแม่ยายล้างภาชนะเพื่อหุงหาอาหารเช้าดังมาจากในครัวหลังบ้าน หน้าโทรทัศน์ทุกคนยังคงหลับอยู่ในมุ้งหลังใหญ่.... เรายังอยู่ที่นี่อีกหลายวัน.. แต่เปิดเทอมนี้เราต้องพาเธอเข้าเรียนต่อ ม1.นี่นา และต้องไปอยู่กับเราด้วย ผมอุ่นใจขึ้นหน่อย เมื่อรู้ว่าเปิดเทอม ผมต้องมารับเธอไปอยู่ด้วย เมียเราก็ไม่ค่อยได้อยู่ร้าน คงมีเราและเธอนี่แหละที่ต้องเฝ้ามินิมาร์ท ก่อนเปิดเทอมโอกาสเรายังมีนี่นา... ( เรื่องราวคงไม่จบแค่นี้หรอกครับ หากมีอะไรที่มันตื่นเต้น...ผมรับรองว่าเพื่อนๆได้อ่านแน่ครับ สวัสดี )