กลับมาอีกครั้งหลังจากปล่อยให้ reader ผู้ติดตามต้องรอคอยอยู่นานต้องขอบอกว่างานผมช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งจริง ๆ และตอนนี้ก็เป็นหนึ่งในตอนที่เขียนค่อนข้างยาก เลยใช้เวลานานพอสมควรแต่บอกเลยว่าตอนนี้เนื้อหาอัดแน่นที่สุดในทุกตอนที่เคยลงมายังไงก็ขอบคุณและฝากติดตามกันในตอนถัด ๆ ไปด้วยนะครับ --------------------------------------------พิษสวาทบ่วงบาศกามา ตอน 15"นี่จัดการไปถึงไหนแล้ว? ทำอะไรอยู่ถึงได้นานแบบนี้?" ทันทีที่คนปลายสายรับโทรศัพท์ หญิงสาวก็ระดมยิงคำถามที่อยากรู้ออกมาเป็นชุดด้วยน้ำเสียงค่อนไปทางหงุดหงิด เป็นใครไปไม่ได้นอกจากลลิดาที่อยากรู้ความคืบหน้าของแผนการสุขุมจะแย่ จนถึงขั้นส่งข้อความมาถามความเป็นไปกับเขาแล้วก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง"อะไรกันครับน้องหลิว ตอนแรกก็ทำตัวเป็นห่วงเป็นใยคุณมายเขาอยู่เลย แต่สุดท้ายกลับมาเร่งให้พี่จัดการไว ๆ ซะได้" สุขุมยังไม่ยอมตอบคำถามของลลิดาง่าย ๆ แต่กลับพูดแซะอดีตคู่ขาคนที่ 16 ของเขากลับไปด้วยน้ำเสียงยียวน"นี่!! ก็มึ… เอ่ออ… ก็พี่ขอให้หลิวทำอะไร หลิวก็ทำให้ไปหมดแล้วไง" ลลิดายังคาดคั้นหมายมั่นจะเอาคำตอบให้ได้ เพราะเธอก็เบื่อหน่ายที่จะต้องเป็นตัวสำรองของกฤษณ์แล้วเต็มทน"อ่ะ อ่ะ เรื่องนั้น หลิวไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เพราะป่านนี้คุณมายคงจะคิดถึงรสรักที่พี่มอบให้ไม่ต่างจากน้องหลิวหรอก ฮ่า ๆๆ" สุขุมไม่เพียงแค่ตอบคำถามตามที่ลลิดาอยากรู้ แต่เขายังยียวนกวนประสาทใส่เธอไปพร้อม ๆ กัน"ไอ่บ้า!!" พอลลิดาเหมือนจะได้คำตอบที่เธอต้องการ เธอก็ด่าอดีตเจ้านายกลับไปที่ย้อนกลับมาพูดเรื่องราวในอดีตระหว่างเธอและเขาที่มันจบลงไปแล้ว ก่อนที่เธอจะรีบกดวางสายไป ลลิดานั่งนึกตรึกตรองคำตอบที่ได้จากสุขุม เพราะหากตีความจากสิ่งที่เขาพูด นั่นก็หมายความว่ามนัสนันท์ไม่รอดเงื้อมมือของสุขุมแล้วเป็นแน่ ความหวังที่เธอจะได้ครอบครองกฤษณ์เพียงคนเดียว ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่อยู่ไม่ไกลแล้ว และรอยยิ้มก็เริ่มปรากฎขึ้นบนใบหน้าขาวใสของลลิดาอีกครั้ง โดยที่เธอไม่ได้คิดสนใจอีกต่อไปว่าชะตากรรมที่มนัสนันท์ต้องเผชิญต่อจากนี้คงจะมีแต่ความโหดร้าย ป่าเถื่อน ไม่ต่างจากที่เธอเคยได้รับมา...นาฬิกาส่งเสียงร้องดังสนั่นปลุกให้เจ้าของร่างที่นอนหลับใหลอยู่ต้องลุกขึ้นจากเตียงอย่างอืดอาด แม้มนัสนันท์จะเป็นคนที่ออกกำลังกายอยู่เสมอ แต่เมื่อต้องผ่านเหตุการณ์เช่นคืนวันศุกร์ เธอก็ถึงกับอ่อนเปลี้ยเผลียแรงจนแม้จะล่วงเลยเข้าวันที่สี่แล้ว ร่างกายก็ยังฟื้นคืนสภาพตัวเองได้ไม่เต็มที่ หญิงสาวค่อย ๆ เดินแบกร่างตนเองเข้าห้องน้ำ สายน้ำอบอุ่นไหลผ่านเรือนร่างเรียวระหงปลุกให้มนัสนันท์สร่างจากความสะลึมสะลือในยามเช้า แม้ตอนนี้ความเจ็บแสบ ณ จุดอ่อนไหวจะเลือนหายลงไปมากแล้ว แต่สิ่งที่สุขุมฝากเอาไว้นอกเหนือจากความบอบช้ำของกลีบบุปผชาตินั้น คือความรู้สึกถวิลหาในรสรักที่ตราตรึง ซึ่งยังคงฝังรากฐานลึกซึ้งเอาไว้อย่างแนบแน่น เพราะเพียงแค่ลำน้ำไหลกระทบเข้ากับจุดอ่อนไหว มันก็ส่งผลให้มนัสนันท์รู้สึกเสียววูบวาบขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ แม้ตนจะฝืนสะกดกลั้นไม่ให้โอนอ่อนไปกับอารมณ์หวั่นไหว แต่ก็ไม่อาจจะสลัดให้หลุดพ้นจากความรู้สึกนั้นไปได้เสียที สมองที่พยายามจะสั่งการให้ลืมแต่ร่างกายกลับเลือกที่จะจดจำกระบวนท่าอันร้อนรักเหล่านั้น จนความกระสันกลับมาเล่นงานหญิงสาวผู้อ่อนต่อโลกอีกครั้ง มนัสนันท์เริ่มเคลื่อนย้ายมือน้อย ๆ ของตนไปตามกระแสอารมณ์อย่างไม่รู้ตัว มือซ้ายของเธอค่อย ๆ เลื่อนเข้าเกาะกุมหน้าอกหน้าใจและบีบนวดมันอย่างเนิบช้า ส่วนมือขวาก็ถลาลงเบื้องล่างเข้าหารอยแยกตรงกลางหว่างขา ก่อนจะเริ่มจินตนาการไปว่านิ้วของเธอคือลิ้นอันสากหนาของสุขุม พลันสมองก็หวนนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นอีกครั้ง...