ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มนตรา สงคราม ความรัก ตอนที่ 27: นายเหนือหัวแห่งสภาผู้พิทักษ์

เริ่มโดย KaohomLM, กุมภาพันธ์ 09, 2022, 03:40:06 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   ปิศาจหน้ากากขาวบีบคอข้าวหอมและยกตัวเธอขึ้นมา เด็กสาวพยายามดิ้นรน พยายามเอาตัวให้หลุดจากกำมือของมัน และกระเสือกกระสนต่อสู้กับความรู้สึกที่มันปลุกขึ้นในใจของเธอ มงคลและเก่งโซซัดโซเซเข้ามา พยายามจะช่วยเธอ แต่หนวดสองเส้นยื่นออกมาจากตัวปิศาจและรัดคอทั้งคู่เอาไว้
   โครม!!!!
   หน้ากากขาวตกลงพื้นแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ ร่างปิศาจล้มลงดิ้นพล่าน มันกรีดร้องขึ้นมาสุดเสียงก่อนจะแน่นิ่งและสลายร่างไป พลังปิศาจหลั่งไหลออกมาจากร่างที่แตกสลายพุ่งไปทุกทิศทุกทางก่อนจะมลายหายไปในอากาศ มงคล ข้าวหอมและเก่งตกลงพื้น หอบหายใจ
   ข้าวหอมตะลึงมองร่างของผู้ที่ทะยานลงจากฟ้ามาช่วยเธอเอาไว้ ราวกับตำนานที่หลุดออกมามีชีวิต ชุดเกราะขาวขลิบลายทองแสนสง่าทอประกายงามตาในแสงแห่งดวงอาทิตย์ ส่วนหลังของเกราะยื่นออกราวกับปีกของเทพยดา นี่คือภาพของผู้พิชิตราชาปิศาจที่เธอได้เห็นในสำนักงานใหญ่ นายเหนือหัวแห่งสภาผู้พิทักษ์ที่ลุกขึ้นจากหลุมศพแห่งความรุ่งโรจน์จากครั้งอดีตกาล กระโดดข้ามห้วงเวลาและความตายมาเพื่อนำชัยมาสู่สภาผู้พิทักษ์อีกครั้ง แม้แต่ชุดเกราะของเธอยังแสดงความยินดีด้วยการปลดล็อคตัวเองเมื่อเห็นผู้ช่วยเหลือ ทางซ้ายมือของเธอ มงคลมองไปที่ร่างในเกราะขาวด้วยความตื่นตะลึงไม่แพ้กับเธอ
   "นะ...นายท่านนที ท่านยังไม่ตาย" มงคลระล่ำระลัก รีบดันตัวขึ้นมานั่งในท่าคุกเข่า แต่ชื่อที่ผู้อาวุโสกล่าวออกมาทำให้ข้าวหอมสะดุ้งยิ่งกว่าโดนไฟดูดเสียอีก
   ร่างในเกราะขาวถอดหมวกเกราะออก ใช่ เป็นพี่นทีของเธอจริง ๆ แต่ใบหน้าของเขาก็ดูต่างจากพี่นทีที่เธอคุ้นชิน....ทุกสัดส่วนยังคงเหมือนเดิม หล่อเหลา งดงาม แต่ทว่าไม่มีแม้แต่เงาของรอยยิ้มขี้เล่นและสายตาอบอุ่นที่เธอหลงไหล เขาดูงามสง่า แต่ห่างไกลเกินจะเข้าถึง ยิ่งใหญ่หยิ่งยโส แฝงเร้นไปด้วยอำนาจที่เกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างเธอจะเข้าใจ วูบหนึ่งเขาชำเลืองมาดูเธอ และข้าวหอมก็ต้องหัวใจพองโต ที่ยังเห็นแววสดใสร่าเริงสะท้อนอยู่ลึกสุดในก้นบึ้งของดวงตางามอย่างที่เธอเคยเห็นที่บนหน้าผาใต้แสงดาวและรู้ว่าความรู้สึกที่ชายหนุ่มมีให้เธอนั้นยังคงอยู่เหมือนเดิมภายใต้ใบหน้าที่แข็งกระด้าง แต่เมื่อเขาละสายตาจากเธอไป ความแข็งกร้างดั่งเหล็กกล้าก็หวนคืนกลับมาสู่ดวงตาของชายหนุ่มอีกครั้ง เขาชำเลืองมองไปทางมงคลด้วยสายตาที่บอกว่า 'แล้วเอ็งเป็นใครว๊ะ' มงคลดูเหมือนจะอ่านสายตานี้ออกเหมือนกัน จึงรีบบอก "ข้าน้อยชื่อมงคล เป็น...เป็นเด็กฝึกหัดอยู่วันนั้นเมื่อห้าสิบปีก่อน วันที่ท่านนำทัพของสภาผู้พิทักษ์ออกไปสู้กับราชาปิศาจ ท่านดูไม่เปลี่ยนไปจากวันนั้นเลย"
   "ไม่เคยมองหน้าพวกเด็กฝึกหัด ขอโทษด้วย" นทีพูดเสียงห้วน และหันมาหาข้าวหอมอีกครั้ง สีหน้าของเขาอ่อนลงนิดหน่อย ยังไม่ใช่พี่นทีเธอจำได้ แต่ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่เหินห่างจนเข้าไม่ถึง "เจ๊ไม่เป็นไรนะ"
   "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณพี่นทีมากนะคะ"
   เขายื่นมือมาดึงตัวเธอขึ้นยืน เธอหน้าแดง
   เก่งมองไปที่นที สลับไปที่ข้าวหอม คิดถึงคำที่เขาใช้เรียกเธอ และแก้มที่แดงก่ำของน้องสาว เขาแทบจะเป็นลมเมื่อปะติดปะต่อได้ว่าคนที่ข้าวหอมแอบไปคบลับหลังเขาเป็นใคร
   นทีไม่พูดอะไรอีก แต่เข้าไปหาพวกผู้พิทักษ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ทีละคนเพื่อตรวจดูว่าบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน มีผู้พิทักษ์คนหนึ่งที่หัวกระแทกเลือดไหลท่วม แต่นทีก็รักษาแผลนั้นได้ด้วยคาถาบทเดียวที่เหมือนจะไม่ต้องร่ายด้วยซ้ำ
   "เอ่อ นายท่านนทีใช่ไหมครับ" เก่งถามเมื่อนทีหันกลับมา
   "อืม"
   "นายเหนือหัวแห่งสภาผู้พิทักษ์?"
   "เขาเรียกกันอย่างนั้น"
   "เป็นคนที่ฆ่าราชาปิศาจเมื่อห้าสิบปีก่อน"
   "ใช่"
   "แล้วก็เป็นแฟนกับน้องสาวผม"
   นทีเลิกคิ้ว เก่งถอยกรูด
   "พี่เก่ง พอได้แล้ว" เธอรีบเข้ามาขวาง "ใช่เป็นแฟนกัน แล้วไงล่ะ....เอ่อ (เธอหันไปหาพี่นที) พี่คือคนที่ฆ่าราชาปิศาจเมื่อห้าสิบปีที่แล้วจริงดิ"
   "ใช่"
   "แล้ว...พี่อายุเท่าไหร่คะ" นี่เธอหลงรักวัตถุโบราณเหรอเนี่ย
   "หน้าเหมือนเท่าไหร่หล่ะ"
   "เอ่อ...สักยี่สิบห้ามั้งคะ"
   "ก็เท่านั้นแหละ" ริมฝีปากนทีกระตุกวูบหนึ่ง ข้าวหอมเหมือนจะเห็นรอยยิ้มกวนตีนแบบเดิม ๆ โผล่ขึ้นมาบนใบหน้าขรึมของเขาสักเสี้ยววินาทีได้
   "ไม่ได้ดิ ห้าสิบปีที่แล้วพี่ยัง..."
   "ไม่ได้นับอายุตัวเองมานานแล้ว" นทียักไหล่ "ใครบอกว่าเท่าไหร่ก็เท่านั้นแหละ"
   ข้าวหอมพูดอะไรไม่ออก
   "ตอนคบกันนี่ไม่รู้เหรอ" เก่งสะกิดถามเธอ ข้าวหอมสั่นหัวหงึก ๆ "แล้วจะเอาไงต่อ"
   มงคลมองดูที่สามหนุ่มสาวคุยกันแบบงง "นายท่านนที นี่ ท่านเป็นคนที่คอยช่วยหนูข้าวหอมอยู่เหรอครับ"
   "ใช่ ผมเคยหวังไว้ว่าถ้าข้าวหอมเอาชนะปิศาจได้ ผมจะไม่ต้องหวนกลับมาด้วยตัวเอง แต่ก็เห็นแล้วว่าไม่ได้ผล.......ว่าแล้ว" น้ำเสียงของนทีกลายเป็นแข็งกระด้างเหี้ยมเกรียมเหี้ยมเกรียม "ผมก็ได้ยินมาด้วย ว่าสภาคิดจะบีบบังคับให้ผมมารายงานตัว ลงทะเบียน ติดป้ายให้สภาตามตัวได้ตามสะดวก อย่างนั้นหรือเปล่า"
   มงคลรีบทรุดลงคุกเข่าอีกครั้ง "ข้าน้อยไม่บังอาจ อภัยข้าน้อยด้วย ข้าน้อยไม่ทราบจริง ๆ"
   "พี่นที" ข้าวหอมพูดเบา ๆ และแตะแขนของนที
   "ลุกขึ้นมาเถอะ" นทีพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงประมาณห้าสิบเท่า "ไม่เป็นไร ผมไม่ถือสา"
   "แล้ว ที่เก่งบอกว่าท่านคบกับหนูข้าวหอม"
   "ก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่มันเป็นไปแล้ว"
   "ฟังนะ เจ๊" นทีมายืนข้าง ๆ ตัวเธอ "พี่พูดความจริงตอนที่บอกว่าพี่รักเจ๊ และพี่ก็เชื่อว่าเจ๊รักพี่เหมือนกันตอนที่บอกกับพี่อย่างนั้น แต่ถ้าสิ่งที่เจ๊ได้รู้วันนี้ ทำให้ความรู้สึกของเจ๊ต่อพี่เปลี่ยนไป พี่ก็เข้าใจนะ"
   ข้าวหอมเงยหน้ามองเขา ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ "ยิ้มหน่อยจิ" เธอพูดเบา ๆ
   "หือ?"
   "หนูชอบรอยยิ้มของพี่มากนะ" ข้าวหอมบอก "แต่พออยู่แบบนี้ ใส่เกราะตัวนี้ พี่แทบไม่ได้ยิ้มเลยด้วยซ้ำ ยิ้มให้หนูดูแบบที่ยิ้มบนหน้าผาวันนั้นได้ไหมคะ"
   นทียิ้ม ไม่ใช่รอยยิ้มกวนประสาทที่เธอเห็นประจำ แต่ก็ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูอ่อนโยนลงเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์
"ค่อยเหมือนพี่นทีที่หนูรู้จักหน่อย" ข้าวหอมหน้าแดง "หนูยังรักพี่เหมือนเดิมค่ะ"
   ข้าวหอมหันหน้าไปหาเก่ง "พี่เก่งไม่ว่าใช่ไหมคะ"
   "ถ้าว่า ผมจะโดนแบบปิศาจตัวเมื่อกี้หรือเปล่า" เก่งถามและมองเศษหน้ากากขาวอย่างขยาด ๆ
   "อาจจะ" นทีตอบด้วยเสียงราบเรียบ รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฎขึ้นบนใบหน้าอีกรอบ
   "งั้นเชิญคบกันตามสบายเลย" เก่งรีบพูด
   "นายท่านนที ท่านช่วยตอบคำถามของผมหน่อยได้ไหม" มงคลถามเบา ๆ
   "ว่ามา"
   "เกิดอะไรขึ้นเมื่อห้าสิบปีที่แล้วครับ"   
   "พวกลัทธิอัญเชิญราชาปิศาจมาที่โลกได้สำเร็จ สู้กัน เราชนะ แค่นั้น จบ"
   "พี่นที หนูว่าท่านมงคลรู้เรื่องนั้นแล้วนะ" ข้าวหอมบอก "ท่านคงหมายถึงรายละเอียด หนูก็อยากรู้เหมือนกัน"
   นทีหันมามองเธอ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องจริง ๆ
   "ในวันนั้น ในศึกครั้งสุดท้าย" นทีเริ่มเล่า "มงคล คุณพอจำได้ไหม ว่าฝ่ายเราที่สำคัญ ๆ มีใครบ้าง"
   "ประธานสภาจากทุกประเทศ" ผู้อาวุโสมงคลทวน "ผู้อาวุโสเอเดรียน นายเหนือหัวแห่งสภาผู้พิทักษ์-ก็ตัวท่านเองนั่นแหละ แล้วก็ นายหญิงขวัญ..."
   "ขวัญ แฟนเก่าพี่น่ะเหรอ" ข้าวหอมถาม
   "นั่นแหละ พวกเราหมั้นหมายกันแล้ว สัญญากันว่าจะแต่งงานหลังเสร็จศึก" เสียงของพี่นทีเศร้าเสียจนเธอรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นในศึกใหญ่ครั้งนั้น "แต่ราชาปิศาจเก่งกว่าที่เราทุกคนคาดคิดไว้มาก แม้แต่ผมก็เอาชนะมันไม่ได้ ท้ายที่สุด ผู้พิทักษ์ระดับสูงเกือบทุกคนถูกฆ่าตายหมด ตัวผมเองก็กำลังจะโดนลำแสงมหากาฬของราชาปิศาจ แต่...แต่ขวัญเอาตัวมาบังผม ช่วยชีวิตผมไว้ได้ ผม ผมมีแรงฮึดเฮือกสุดท้ายขึ้นมา และเอาชนะราชาปิศาจได้สำเร็จ"
     นทีเงียบไปนาน ก่อนจะเริ่มเล่าต่อ "แต่ชีวิตจะอยู่ไปทำไมถ้าไม่มีคนที่เรารักหล่ะ ใช่ ผมทิ้งสภาผู้พิทักษ์ ผมรู้ ปลอมหลักฐานให้ดูเหมือนว่าตัวผมเองก็ตายไปด้วย แต่ในความรู้สึกผม ผมคิดว่าการฆ่าราชาปิศาจกับปิศาจระดับสูงทั้งหมดไป มันน่าจะซื้อเวลาให้สภาฟื้นตัวได้แล้ว ผมว่าหลังจากทุกอย่างที่ทำไป ผมสมควรได้พักผ่อน เกษียณ ใช้ชีวิตอย่างสงบนะ หลังจากนั้น ผมก็พยายามสรรหาวิธีการนำตัวขวัญกลับมา เวทมนตร์หมอผี ปลุกชีพ ติดต่อกับวิญญาณ แม้แต่ดำดิ่งลึกลงไปสู่ความเร้นลับของพหุจักรวาล แต่ก็ไม่มีอะไรเวิร์ค ไม่มีเวทมนตร์อะไรที่ปลุกชีพคนตายได้"
   "แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว" นทีปาดน้ำตาออก และเงยหน้าขึ้นมองไปรอบตัว ข้าวหอมกอดเขาเบา ๆ "และพร้อมจะสู้ เพื่อปกป้องทุกคนอีกครั้ง โดยเฉพาะคนนี้"
   นทีก้มลงและจูบข้าวหอมที่หน้าผาก

   ขณะเดียวกัน
   "แกว่าป่านนี้เจ๊เป็นไงบ้างแล้ว" แตงโมถามเบล
   "เมื่อวานก็ยังไลน์บอกเราอยู่นี่ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี ตอนแกโทรคุยกะพี่เก่งเค้าก็ว่าไม่มีปัญหาไม่ใช่เหรอ" เบลบอก "เค้าสิ โทรหาพี่บอยไม่ติดมาสามวันแล้ว ไลน์ก็ไม่ตอบ แกว่ามันนอกใจเค้าป่าววะ"
   "คงไม่หรอก" แตงโมปลอบ "เบลกับพี่บอยก็ดูรักกันดีนี่ เจ๊กับพี่นทียังน่าเป็นห่วงกว่าเลย เราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่เขาเลยนะ"
   ก๊อก ก๊อก ก๊อก
   "เอ๋ ใครมาอ่ะ" แตงโมถามและเดินไปเปิดประตู
   "สวัสดีจ๊ะ คนสวย" ชายโฉดทัก และดันตัวเข้ามาในห้อง "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ"   

   ไกลออกไป
   ตึ๊งงงงงงงงงงงง
   เสี่ยต้นยกโทรศัพท์ขึ้นมากดรับอย่างเลื่อนลอย ในมือของมันยังจับวัตถุรูปร่างคล้ายนาฬิกาทราย ที่เปล่งปลั่งไปด้วยแสงสีดำแดงเรืองรองอย่างพินิจพิเคราะห์
   "เออ ได้ตัวพวกมันแล้วใช่ไหม ดี รีบพากลับมานี่เลย" เสี่ยต้นบอก ก่อนจะกดวางสาย และหันกลับไปจ้องมองวัตถุคล้ายนาฬิกาทรายอีกครั้ง
   "เสี่ยครับ มีปัญหาอะไรเหรอครับ" ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาถาม
   "เจ้านายตายแล้ว" เสี่ยต้นตอบ พลางยกวัตถุคล้ายนาฬิกาทรายขึ้นมาชี้ให้ลูกน้องดู เหมือนกับลูกน้องจะรู้เรื่องด้วย ไอ้ลูกน้องมองอย่างงง ๆ
   "ไม่น่าเชื่อเลย ว่าพวกผู้พิทักษ์มีปัญญาถึงขั้นฆ่าเจ้านายได้ ไม่นึกจริง ๆ" เสี่ยต้นพึมพำ ยกมือขึ้นกุมหัวตัวเอง "แม้แต่ในบรรดาปิศาจชั้นเอกด้วยกัน เจ้านายของเราก็ได้ดื่มด่ำกับเครื่องสังเวยมากมาย จนมันทรงพลังเกินหน้าเกินตาปิศาจชั้นเอกอื่นไปหมดแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมาเสียท่าแบบนี้"
   "แล้ว....เสี่ยจะทำยังไงครับ"
   "มันก็ยังอาจจะมีโชคดีในโชคร้ายอยู่" เสี่ยต้นพึมพำเบา ๆ "ไปบอกพวกเราให้ยุติปฏิบัติการทั้งหมด หลบซ่อนให้ดี อย่าให้พวกผู้พิทักษ์ล่าเราได้ในขณะนี้"
   "เสี่ยมีแผนใช่ไหมครับ" ลูกน้องถามอีกครั้ง
   เสี่ยต้นพยักหน้า "เจ้านายดูดกลืนพลังจากเครื่องสังเวยไว้มากพอสมควร พอมันตาย พลังงานส่วนหนึ่งไหลวนกลับมาอยู่ในเครื่องรางนี้" มันชูวัตถุคล้ายนาฬิกาทรายขึ้นมา "บางที แค่บางทีนะ พลังนี้อาจจะมากพอปลดผนึกของพญาปิศาจก็ได้ เดี๋ยวกูจะลองไปทำพิธีดู"

ที่ซ๋อน คือ Sneak Peek ของตอนต่อไปนะครับ
 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

××Mon××

โอ้โห้ นทีมีอำนาจมากกว่าพวกในาภาทั้งหมดเลย เจ๊ข้าวหอมมาถูกทางแล้วล่ะ

peddo

ยังแคลงใจว่านทีจะมีอะไรดาร์กซ่อนอยู่หรือไม่ และจอมปีศาจจะเก่งขนาดไหน เพราะเข้าใจว่าฝ่ายราคะจะ อ่อน สุด หรือจะมีลูกเล่นอะไรในการดึงตัวข้าวหอมมาอีกนะครับ


dwarf

ขอบคุณ​ครับ.. ในที่สุดพี่นทีก็มาช่วยน้องข้าวหอม.. แถมยังได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้แก่สภาผู้พิทักษ์ได้ทราบ

3hman

เมื่อฮีโร่รีเทิร์น ความบรรลัยจึงจะบังเกิด มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอหละ


cd13579

นั้นไง เดาถูกจริงด้วย
เดาต่อ เดี๋ยวก็ปลุกจอมปีศาจได้ น้องข้าวหอมกับสองสาวมีซวยแน่ๆ
คนซวยค่อมาก็คุณนที รอบที่แล้วระดับสูงของสภาเทพๆยังตายเรียบ รอบนี้ระดับสูงสภาพกิ๊กก๊อกจะไปช่วยใครได้

นทีงานงอกชัวร์
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ




akennya




artonio