ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มนตรา สงคราม ความรัก ตอนที่ 45: หัวใจแห่งโครงข่ายมหาเวทย์

เริ่มโดย KaohomLM, เมษายน 12, 2022, 08:20:42 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   "พี่มีข่าวดีกับข่าวร้าย จะฟังข่าวไหนก่อน" นทีถามข้าวหอมทันทีที่กลับมาถึง
   "ข่าวไหนก็ได้ที่พี่อยากบอกค่ะ" ข้าวหอมตอบ
   "เอาข่าวร้ายก่อนแล้วกัน แรงกระชากครั้งที่สองรุนแรงกว่าที่พี่คาดการณ์ไว้มาก ถ้าครั้งที่สามแรงขึ้นเท่าครั้งนี้ เกรงว่าคงจะแรงพอดึงโลกเราเข้าไปอยู่ในโลกปิศาจได้ ซึ่ง แปลว่า เรามีเวลาเหลือแค่ประมาณห้าสิบชั่วโมง"
   "งั้นขอข่าวดีบ้างค่ะ"
   "พี่เชื่อว่าพี่เจอแหล่งที่มาของพลังงานเวทย์แล้ว เชื่อว่าน่าจะเป็นหัวใจของโครงข่ายมหาเวทย์"
   "ไปกันเลยสิคะ!"
   "มันอยู่ใต้น้ำ" นทีบอก "การเคลื่อนไหวของพลังในโครงข่ายมันถึงได้เพี้ยนไปหมด พี่บอกให้มงคลเตรียมเฮลิคอปเตอร์แล้ว พร้อมเมื่อไหร่พี่จะบอก ตอนนี้เจ๊นอนพักนะ ไม่รู้ว่าไปถึงแล้วจะเจออะไรบ้าง"

   นทีปลุกเธอประมาณหกชั่วโมงหลังจากนั้น ก่อนจะพาเธอไปที่ศูนย์ของสภาแห่งหนึ่งที่อยู่ติดทะเล มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งจอดรออยู่แล้ว
   "ทำไมเฮลิคอปเตอร์คะ ทำไมไม่ไปเรือ" ข้าวหอมถามขณะที่เฮลิคอปเตอร์กำลังทะยานขึ้น
   "เพราะพี่อยากเห็นภาพนี้" นทีบอกและร่ายคาถาบางอย่าง มีแสงสีเขียวเรือง ๆ ส่องออกมาเป็นเส้นยาว จากใต้ศูนย์บัญชาการ ทอดยาวไปยังทะเล ก่อนจะไปเชื่อมกับเส้นแสงเส้นอื่น ๆ ที่อยู่ใต้น้ำ ก่อนจะรวมกันเป็นวงเวทย์ซับซ้อนขนาดยักษ์ที่วาดอยู่เต็มก้นทะเล
   "โครงข่ายมหาเวทย์" ข้าวหอมพึมพำ
   "ใช่ อักขระแรกของโครงข่ายนี้วาดไว้มากกว่าหนึ่งพันปีก่อน ลัทธิปิศาจค่อย ๆ เติมลายเส้น วงเวทย์ อักขระเข้าไปทีละนิด ละนิด จนเกิดเป็นโครงข่ายมหาเวทย์ที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้"
   นทีร่ายคาถาอีก เส้นเวทมนตร์เส้นหนึ่งเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นส้ม
   "ตามเส้นนั้นไป" นทีสั่งคนขับเฮลิคอปเตอร์
   เกือบสองชั่วโมงกว่าเฮลิคอปเตอร์จะมาถึงจุดที่นทีมองหา
   "หยุด! ตรงนี้แหละ" นทีบอก เขาโบกมือ น้ำในทะเลด้านล่างแหวกออกเป็นวงกว้าง "ลงไปจอดเลย พอเราลงไปแล้ว ขับกลับไปได้เลย ไม่ต้องรอ"
   หลังจากลงแล้ว นทีก็ไล่คลำตามพื้น
   "หาอะไรเหรอคะ"
   "ทางเข้า...อา อยู่นี่เอง ปกปิดไว้ด้วยภาพลวงตาระดับสูงมาก"
   นทีตบพื้นไปทีหนึ่ง ประตูบานงาม ตกแต่งไว้ด้วยอักขระเวทมนตร์ปรากฏขึ้นบนพื้นทะเล นทีเปิดประตูและโบกมือให้ข้าวหอมเข้าไปก่อน ตัวเขาเองตามเข้ามาทีหลังและปิดประตู ข้าวหอมได้ยินเสียงน้ำโถมกระหน่ำลงมาด้านหลัง
   "ต่อไป จะเข้าจะออกก็เทเลพอร์ตเอา" นทีบอก "แต่ถ้าไม่รู้ว่าในนี้เป็นยังไงก็เทเลพอร์ตมาไม่ได้ เสี่ยงจะเข้าไปผสานร่างกับก้อนหิน"
   "เจอหัวใจแล้วพี่จะทำยังไงคะ" ข้าวหอมถามและเสกลูกไฟขึ้นมาให้แสงสว่าง และเดินเข้าไปตามทางเดิน
   "พูดยาก" นทีบอก เดินตาม "ถ้าไม่ได้เห็นตัวเวทมนตร์นั้น พี่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะแก้มันได้...มัน มีทางนึง ที่ได้แน่นอน...แต่ถ้าเลี่ยงได้พี่ก็ไม่อยากใช้ แต่ก็สั่งมงคลกับพวกผู้อาวุโสจากประเทศอื่นให้เตรียมไว้แล้ว"
   "คือ?"
   "ถ้า...ถ้าพี่ใช้เวทมนตร์ปิศาจ แล้วเสนอเครื่องสังเวยเทียบเท่าหรือสูงค่ากว่าเครื่องสังเวยที่ใช้ประกอบพิธีเพื่อเริ่มคาถานี้...พี่จะสามารถชิงความเป็นเจ้าของของเวทมนตร์นี้แล้วยุติมันได้"
   ข้าวหอมมองหน้านที "เวทมนตร์ปิศาจเหรอ"
   "รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" นทีบอก "แต่ถ้าไม่จำเป็นพี่ก็ไม่อยากใช้หรอก"
   "เวทมนตร์ปิศาจทุกชนิดมีหัวใจอยู่ที่เครื่องสังเวย" ข้าวหอมทวนคำที่เขาเคยพูด
   "ใช่ และเราก็สามารถใช้การสังเวยเพื่อยุติเวทมนตร์ปิศาจได้ พี่สั่งมงคลให้เตรียมหาของที่พวกปิศาจนิยมใช้สังเวยเอาไว้ เผื่ออาจจะได้ใช้ เช่นวัวขาว เพชรน้ำเอก ดาบเปื้อนเลือด อะไรพวกนั้น"
   "แล้วสาวพรหมจรรย์ล่ะ" ข้าวหอมถาม
   "อันนั้นไม่ได้สั่ง" นทีพูด "และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ใช่"
   ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนไปถึงปะรำพิธีขนาดใหญ่ รอบตัวมีคริสตัลเรืองแสงส่องสว่าง ข้าวหอมเสกให้ลูกไฟหายไป ก่อนจะเดินนำขึ้นไปบนปะรำพิธี ที่บนนั้นมีแท่นบูชาใหญ่อยู่ บนแท่นบูชามีรอยเลือดเปื้อนอยู่หลายจุด
   "หัวใจแห่งโครงข่ายมหาเวทย์" นทีพูด "เราเจอแล้ว"
   ข้าวหอมยืนมองให้กำลังใจขณะที่นทีพินิจพิจารณาแท่นบูชาและวงเวทย์ เขาไล่นิ้วตามวงกลมทุกวง และร่ายเวทย์ออกมาเป็นระยะระยะ แต่ยิ่งเวลาผ่านไป สีหน้าของชายหนุ่มก็ยิ่งเคร่งเครียด จนเมื่อผ่านไปสามชั่วโมง นทีก็เงยหน้ามามองข้าวหอมและส่ายหน้า
   "เราลบคาถาที่เตรียมมาพันปีในสี่สิบชั่วโมงไม่ได้หรอก" พี่นทีบอก สายตากวาดมองทั่วรอยวงเวทย์ที่เขียนอยู่บนและรอบปะรำพิธี "ทุกสัดส่วนของวงเวทย์นี่เกี่ยวโยงสัมพันธ์กันหมด ยึดโยงเสริมความแข็งแกร่งให้กันหมด ทุกสัดส่วนจริง ๆ ไม่มีโซ่ข้ออ่อนที่ถ้าลบแล้วจะทำให้ทั้งระบบล่มไปได้ พี่พยายามมองหาอยู่ แต่ก็ไม่มี แล้วถ้าพยายามหักเข้าไปทำลายโครงข่ายมหาเวทย์ มันก็จะทำให้พลังเวทย์ที่เหลือเกิดผลก่อนกำหนด เกิดแรงกระชากแรงเท่าที่ส่วนที่เหลือของโครงข่ายสร้างได้ อย่างที่พี่บอก ต่อให้ดึงโลกเข้าไปในโลกปิศาจได้เสี้ยวเดียวเราที่เหลือก็ตายหมดอยู่ดี"
   ข้าวหอมนึกภาพโลกแหว่ง ๆ และหายนะที่จะเกิดตามมา "ทำอะไรไม่ได้จริงเหรอคะ"
   "ถ้ามีเวลาสักอาทิตย์หนึ่งน่าจะพอได้อยู่" นทีคิดอยู่พักใหญ่ก่อนจะพูด เขาเดินไปรอบปะรำพิธีและชี้ "ตั้งวงเวทย์ชำระล้างที่จุดสำคัญทุกจุดของโครงข่ายมหาเวทย์ รอบนี้ นี้ นี้ นี้ ตรงนี้ ตรงนั้น นู่น นั่น บนนู้น แล้วก็บนบกอีกสองร้อยแปดสิบจุด แล้วให้วงเวทย์ชำระล้างทำงานขึ้นมาพร้อมกัน น่าจะทำลายเครือข่ายมหาเวทย์ได้มากพอจะทำให้ระบบล่มได้ แต่ในสี่สิบชั่วโมงพี่วาดวงเวทย์ชำระล้างได้อย่างมากก็สิบ ถ้าใช้เวทมนตร์ทุกหยาดหยดที่มีจริง ๆ นะ"
   "แล้ว...แล้วคาถานี้ใช้อะไรเป็นเครื่องสังเวยคะ พี่ เราพอจะหามาสังเวยตามที่พี่บอกได้ไหม"
   นทีหัวเราะอย่างเจ็บปวด "ลัทธิปิศาจราคะเป็นคนดำเนินการเรื่องนี้นะ เจ๊พอเดาได้ไหมว่ามันใช้อะไร"
   "สาวพรหมจรรย์ใช่ไหมคะ......" ข้าวหอมถาม ก่อนจะกัดฟันพูด "งั้น หนูว่าเราลองถามดูได้นะ อูซี่น่าจะยอมอยู่ มันเพื่อปกป้องโลก หนูเข้าใจได้ค่ะ"
   "ถ้าง่ายอย่างนั้นก็ดีสิ" นทีแค่นหัวเราะอีกครั้ง "เวทมนตร์นี้เตรียมมานานหลายชั่วอายุคน และเครื่องสังเวยที่พวกมันใช้...คือสาวงามผู้เป็นเอกแห่งยุคสมัยสิบคน ที่ยอมสังเวยพรหมจรรย์โดยเต็มใจ"
   เงียบอยู่พักใหญ่
   "พี่นที หมายถึง..."
   "ใช่ สาวงามผู้เป็นเอกแห่งยุคสมัย ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีแค่ยุคละคน แล้วจะหามาจากไหนสิบคนได้ล่ะ ในยุคนี้ สาวงามผู้เป็นเอกแห่งยุคสมัยก็คือเจ๊"
   "แล้วหนูก็ไม่ใช่สาวพรหมจรรย์แล้วด้วย"
   "ไม่บอกพี่ไม่รู้เลยนะเนี่ย" นทีบอกก่อนจะล้มตัวลงกุมขมับ
   ข้าวหอมนั่งลงข้าง ๆ และกอดนที คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะพูดอะไรได้
   "ถ้าหนูไม่รีบร้อนตอนนั้น..."
   "เราก็ไม่มีปัญญาหามาอีก 9 คน ในสี่สิบชั่วโมงอยู่ดี" นทีบอก "แต่ก็เอาเถอะ สองวันสุดท้ายในชีวิต เจ๊อยากทำอะไรไหม พี่ให้หมดเลย"
   "อยากให้พี่หาทางให้เรารอดมากกว่าค่ะ" ข้าวหอมพูดเศร้า ๆ
   "พี่ก็อยาก เจ๊ พี่ก็อยาก" นทีบอก เขากอดเธอและลูบหัวเธอ
   ทั้งคู่นั่งกอดกันอยู่นาน ข้าวหอมมองหน้านที และก็ต้องแปลกใจ ที่เห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของเขา เธอเอื้อมมือไปปาดให้เบา ๆ
   "พี่นทีอย่าร้องไห้นะคะ"
   "ขอโทษ เจ๊ แต่...พี่รู้สึกเหมือนพี่ทำให้เจ๊ผิดหวัง ทำให้ทุกคนผิดหวัง ทุกคนจะต้องตายกันหมด แล้วพี่ก็หาทางช่วยไม่ได้"
   ข้าวหอมกระชับอ้อมแขนกอดนทีให้แน่นขึ้นอีก แต่ทันใดนั้นก็มีความคิดวาบขึ้นมาในหัวของเธอ
   "พี่นที เราโกงมันได้ไหม"
   "ยังไง?"
   "ก็..ถ้าพี่ใช้คาถาเยียวยาซ่อมเยื่อพรหมจรรย์ให้หนู..."
   นทีส่ายหน้า "พวกลัทธิเคยลองแล้ว แต่สาวพรหมจรรย์มีอะไรมากกว่าแค่เยื่อ ร่างกายนั้น จิตใจนั้น ต้องไม่เคยผ่านประสบการณ์ทางเพศมาจริง ๆ"
   "งั้นหนูก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว" ข้าวหอมท้าวคาง
   "ไม่ว่าจะคิดยังไง จะหาสาวพรหมจรรย์ผู้เป็นเอกแห่งยุคสมัยสิบคนภายในสี่สิบชั่วโมงก็เป็นไปไม่ได้....เป็นไปไม่ได้พอ ๆ กับชุบชีวิตคนตายนั่นแหละ" นทีพูดอย่างอ่อนแรง คอตกด้วยความสิ้นหวัง

ซ่อน Sneak Peek ของตอนต่อไปนะครับ
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

จรัญ บุญชู

อย่าว่าแต่สาวสิบคนเลย...แค่คนเดียวก็แย่แล้ว...แถมมีเงื่อนเวลาอีก...จงพยายามต่อไป


cd13579

ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ



catoon


peddo

นี่เอง ที่มาของเปิดซิงรอบสอง แต่จะหามาสิบคนได้ยังไง นทีคงต้องใช้คาถาหมดตัวแน่ อีกหลายตอนจัง ลุ้นอยู่ง่าจะเป็นไงมาต่อไวๆนะครับ

petergg

อะไรกันครับเนี่ย

swss2511


ones26421




Cb400f


ball2112