ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เธอ ฉัน และ เขา ตอนที่ 63

เริ่มโดย ✰✰✰ 𝓢𝓽𝓪𝓡𝓓𝓊𝓼𝓣 ✰✰✰, มิถุนายน 14, 2022, 09:55:06 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

✰✰✰ 𝓢𝓽𝓪𝓡𝓓𝓊𝓼𝓣 ✰✰✰

ต่อจากตอนที่แล้ว เรากับพี่แมนตั้งใจจะรีบกลับบ้าน เพราะกลัวเรื่องเกียวกับวันโกน แต่ว่าตอนนั้นพี่ชายเสี่ยก็มา เขาพาคนมาขอขมาพ่อทศที่ล่วงเกินเกียวกับโทน มีธูปแพเทียนแพมาพร้อมเลย พี่แมนนี่คือแบบยังอึ้ง




พี่แมนมองแล้วแบบตาเป็นประกาย โหยนี่ก็อีกคนเป็นไปกับเขาด้วย แล้วมองไปที่พวกลูกน้องเสี่ยที่กำลังนั่งยกมือไหว้พ่อทศ แต่ละคน แทบจะกลายเป็นเด็กอ่ะ เราพูดจริงๆ แบบพูดยังไงดีถ้าให้เข้าง่ายๆ ขอใช้วลียุค 2020 อ่ะ ที่บอกว่าหน้าโหดแต่อยู่ในโหมดคิตตี้ คือแต่ละคนแบบตาเป็นประกายมาก




มีคนนึงๆก็บอกว่าน้าทศ แล้วเอ่ออ...  เรื่องลูกชายน้าทศผมไม่รู้จริงๆนะครับว่าเป็นลูกชายน้า  พ่อทศก็บอกว่า ข้าไม่ติดใจหรอก เรื่องที่แล้วก็ให้มันแล้วไป แต่พวกเอ็งควรคิดนะว่า การที่โดนเด็กอายุ 20 กระทืบแบบนั้น มันสมควรไหม ถ้าคนๆเดียวยังเอาไม่อยู่ แล้วถ้าเกิดมีเรื่องกับก๊กอื่นขึ้นมา จะทำยังไง





อ้อลืมไปสมัยนี้ใช้เครื่องทุนแรงเยอะเกินไปมั้ง เลยไม่ได้ฝึก ไม่ได้หัดอะไรกันเลย ห่วยแตก พอพ่อทศพูดแบบนั้นทุกคนก็พูดว่าก็นั่นมันลูกน้าทศนี่ครับ ขนาดไม่ได้สักไม่ได้ปลุกของแต่มือแต่ตี_ หนักเหลือเกิน แล้ว.... พวกนั้นพูดแล้วมองมาที่พี่แมน พ่อทศก็พูดว่า





แมนเป็นเจ้านายไอ้โทนมัน ถ้าพวกเอ็งไม่พอใจก็กลับไปคิดว่าสิ่งที่ทำมันถูกไหมแล้ว ถ้าคิดว่าไม่จบก็ไปบอกไอ้ - ชื่อเสี่ย - พวกนั้นรีบพูดเลยว่า ไม่ ๆ ๆ ครับน้าทศ พวกผมไม่กล้าแล้ว พ่อทศพูดบอกว่าก็ดีแล้ว ลูกผู้ชายพูดครั้งเดียวจบ อย่ายืดๆเยื้อๆ มันเสียชื่อ ส่วนคนที่โดนไอ้ - ชื่อเสี่ย - ตบหน้าไป ก็อย่าเก็บเอาไปคิด จนกลายเป็นแคลงใจกัน



พวกเอ็งคงรู้นิสัยมันดี ถ้าไม่สุดๆแล้วมันคงไม่ลงมือกับลูกน้อง แล้วพวกเอ็งก็มีส่วนผิดที่ทำงานโดยที่ไม่ได้รายงานมันด้วย ถึงจะเป็นลูกชายไอ้ - พี่ชายเสี่ย - ก็เถอะ พวกนั้นก็พูดครับน้าทศ แล้วตอนนั้นพี่ชายเสี่ย ที่ยืนใกล้ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า



คุณแมนครับเรื่องที่ลูกชายผม ทำลงไปผมขอรับผิดชอบทั้งหมดนะครับ แต่ผมขออย่าให้เรื่องถึงโรงถึงศาลเลยนะครับ พี่แมนก็พูดออกไปว่า ช่างเถอะครับ เรื่องมันจบไปแล้ว อีกอย่างผมเองก็มีส่วนผิด ที่ลงมือกับลูกชายของเสี่ยด้วย เสี่ยไม่ต้องขอโทษไม่ต้องอะไรทั้งนั้นครับ เพราะทางผมเองก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนเสียมารยาทออกไปเหมือนกัน แล้วการที่จะให้ผมรับคำขอโทษจากคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ผมคงลำบากใจครับ




พี่ชายเสี่ยก็พูดว่าโทนมันโชคดีนะครับที่ทำงานกับคุณแมน แต่พี่แมนก็พูดว่า ทางผมเองต่างหากครับที่โชคดีที่ได้ไอ้โทนมาทำงานด้วย  ประสบการณ์ที่ได้ฟังจากพ่อทศ คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว แต่ผมอยากถามอะไรสักอย่างครับ ก็ไม่แน่ใจว่าจะเสียมารยาทไหม พี่ชายเสี่ยก็พูดว่าถ้าผมตอบได้ ก็จะตอบครับ




เราฟังมาตอนนี้เราก็คิดว่าพี่แมนจะถามเรื่องสำคัญๆ ๆ แต่เราลืมไปว่าพี่แมนยังไงก็ยังเป็นเด็กผู้ชายคนนึง เพราะพี่แมนถามว่า สมัยก่อนนี่พ่อทศเขาน่ากลัวมากเลยเหรอครับ พี่ชายเสี่ยก็พูดว่า คำตอบคุณแมนน่าจะรู้แล้วนะ พี่แมนก็พูดนะว่า แต่จริงเหรอครับที่พ่อทศเคยเก็บคนสิบกว่าคนด้วยคนเดียว อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยครับ ผมฟังแล้วก็ยังชั่งใจอยู่ ถ้าไม่ได้คำตอบคงนอนไม่หลับ




แหม ๆ ๆ  ดูพี่ชายเรา จะถามตรงๆก็ไม่ถาม แล้วเรารูสึกว่า พี่ชายเราพูดเยอะจัง ถามเยอะมากๆ พี่ชายเสี่ยก็ถามว่าคุณแมนรู้เรื่องนี้ได้ยังไงครับ พี่แมนก็บอกว่า คนที่เสี่ยสั่งให้มาดูแลพวกผมน่ะครับ พี่ชายเสี่ยเขาก็ถอนหายใจแล้วพูด ถ้ามาถึงขนาดนี้ ไอ้ - ชื่อของคนนั้น - มันคงคิดไว้แล้วว่าคงไม่น่าจะมีผลอะไรต่อข้อตกลงของพี่ทศ




เสี่ยพูดว่ามันเป็นความผิดของผมสองคนพี่น้องครับ ที่ตั้งใจจะบริหารให้เหมือนญาติพี่น้อง จนบางคนที่ฝีมือดีก็เริ่มไม่เชื่อฟังเหมือนที่เคย เริ่มไม่ทำตามกฎ เริ่มออกไปเก็บค่าคุ้มครองเสียเอง พี่ทศก็เลยจัดการ จัดระเบียบ ตบให้เข้าร่องเข้ารอย แล้วขึ้นมาจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งผมกับน้องชายก็ไม่มีอะไรคัดค้าน เพราะแต่เดิมที พวกผมสองคนก็อยากให้พี่ทศขึ้นมาคุมอยู่แล้วครับ



ทั้งหมดมันก็มีเท่านี้แหละครับ พี่แมนก็พูดว่าแบบนั้นจะเป็นไปได้เหรอครับ ถ้าโดนไปคนนึงแล้ว คนที่เหลือๆก็ต้องระวังตัวซิ่ครับ พี่ชายเสี่ยถอนหายใจแล้วพูดว่า 10 กว่าคนนั้น พี่ทศกระทืบพร้อมกันหมดครับ พี่แมนก็เหวอเลย เหวอจริงๆแล้วหันมามองเรา พี่แมนถามอีก ดี ๆ ๆ  ถามเลยเรารอฟังอยู่




พี่แมนถามว่าแล้วมันจะจบจริงๆเหรอครับพอเกิดเรื่องนั้นขึ้นมา เสี่ยก็หัวเราะแล้วพูดว่า พี่ทศไม่ฆ่าพวกมันก็บุญหัวแล้วครับ พวกผมเองก็คิดตื้นไปว่าจะเลี้ยงดูแบบญาติพี่น้อง จะได้ซื้อใจกันได้ สุดท้ายเพราะคำว่าญาติมันเลยทำให้เกือบพัง จนสุดท้ายพี่ทศก็ต้องจัดการด้วยตัวเอง ทั้งๆที่เขาชอบอยู่เงียบๆมากกว่า





ใครที่กลัว ก็อยู่ไม่ได้ต้องหนีกลับบ้านนอก คนที่ไม่มีที่ไปแล้วกล้าที่จะกราบขอโทษพี่ทศก็จะให้อยู่ รวมถึงไอ้ - ชื่อคนที่เล่า – นั่นด้วยแหละครับ มันเป็นหัวโจกในเหตุการณ์นั้น คนเริ่มก็จะโดนหนักกว่าคนอื่น พี่ทศเขาเด็ดขาดแบบนั้นแหละครับ คนอื่นก็ แขนหักบ้าง ขาหักบ้าง นิดๆหน่อยๆ เมื่อคนในบ้านไม่เชื่อฟัง คนเป็นพี่คนโตก็ต้องตี ต้องสั่งสอนครับ




เพราะที่ที่ผมสร้างกันขึ้นมา มันร้อยพ่อพันแม่มารวมกัน บางครั้งถ้าความเมตตาที่มีให้มันไม่พอ มันก็ต้องทำให้กลัวกันบ้าง นั่นแหละครับพี่ทศในตอนนั้น โทนในตอนนี้มันยังใจดีนะครับ ยังไม่เด็ดขาดได้เสี้ยวนึงของพี่ทศตอนนั้น  พี่แมนถามว่าใจดียังไงครับ พี่ชายเสี่ยก็พูดว่า ที่ผมรู้มามีลูกน้องคนนึงแค่ข้อต่อหลุด ผมก็ไม่รู้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมยังไม่ได้ทำการสอบสวนเลย




แต่คุณแมนเชื่อผมซิ่ ถ้าพี่ทศเป็นคนลงมือ ลูกน้องผมคงกระดูกหัก 2 ท่อน 3ท่อนไปแล้วล่ะครับ พอเราฟังแล้วเราก็สะดุ้งเลยนะ เราคิดถึงสิ่งที่พ่อทศพูดเลย จำได้ไหมทุกคนตอนที่แล้วอ่ะ พ่อทศบอกพี่แมนว่าการดูแลแบบครอบครัวไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไปนะ นี่เท่ากับว่าพ่อทศเอาเรื่องจริงมาสอนเลยอ่ะซิ่





พี่แมนบอกงั้นเหรอครับ แต่ไม่น่าเชื่อนะครับว่าพ่อทศที่ดูใจเย็นใจดีตอนนี้ เมื่อก่อนจะดุขนาดนั้น เสี่ยก็พูดว่า ใช้คำว่าเด็ดขาดดีกว่าครับ พี่ทศไม่ใช่เป็นคนที่อารมณ์ร้ายมาแต่ไหนแต่ไร แกร้ายเพราะแกต้องคอยคุมคนเป็นร้อยๆคนๆ แต่จริงๆพี่ทศแกคารมดี ใจดี  มีแต่คนอยากเข้าหา สาวๆทั้งบางนี่ติดเพียบ เรานี่หูผึ่งเลย ห๊ะ อะไรนะทั้งบางเลยเหรอ ว่าแต่ทั้งบางคืออะไร




พี่แมนก็บอกว่า ก็ทั้งเขต ทั้งเมือง ไงล่ะรู้อะไรบางวะไอ้หมิว เราก็บอกน้องไม่รู้นี่  พี่แมนก็หันไปถามขนาดนั้นเลยเหรอครับ พี่เสี่ยก็พูดเหมือนสนุกเลย น้ำเสียงเปลี่ยนเลย พี่ชายเสี่ยก็พูดใช่ครับ พี่ทศแก คม เข้ม ตามแบบนิยมของสมัยนั้นแหละครับ ไหนจะทั้ง อำนาจ บารมี นอบน้อมกับผู้ใหญ่ที่เป็นคนสุจริต คุณแมนอยากรู้ไหม สมัยผมน่ะคนดี หรือ เป็นคนไม่ดี ดูยังไง พี่แมนส่ายหัวเลย เราก็ส่ายหัวตาม



เสี่ยบอกว่าลองเดินตลาดครับ พี่ทศเดินตลาดตั้งแต่หัวตลาดยันท้ายตลาด มีแต่คนทั้งทายแก ยกมือไหว้แก คนไหนอายุเยอะ แกก็ยกมือไหว้คืน แต่เวลานักเลงต่างถิ่นเข้ามาเกี้ยว เข้ามายึดที่ พี่ทศแกจะกลายเป็นอีกคนทันทีครับ อ่อนเหมือนหยวก แต่ดุเหมือนเสือ แบบนี้สาวๆคนไหนก็อยากเข้าหา แล้วตอนนั้นพ่อทศก็พูดแทรกมาว่าไอ้ - ชื่อพี่ชายเสี่ย -  เอ็งพูดมากไปแล้ว พี่ชายเสี่ยก็ครับๆ พี่ทศ 





แล้วตอนนั้นมูชูที่กำลังแง่ม ๆ ๆ อยู่ข้างๆพ่อทศก็เห่าแล้ววิ่งไปหน้าบ้าน เราก็มองตาม คืออะไรอ่ะไม่เห็นไรเลย แล้วตอนนั้นได้ยินเสียงรถดังมาเลย  อะไรอีกเนี่ย แปปเดียวคือ มีรถเก๋งทรงรถแวนสีดำคันใหญ่ๆ 2 คัน ขับมาจอดในบ้านเลย  พอจอดก็มีคนวิ่งไปอีกฝั่งเปิดประตู พอมีคนลงมาโหใช่เลย แต่งตัวแบบในละคร ทรงผู้มีอิทธิพล แหวนทองนี่เต็มนิ้ว สร้อยทองนี่แสบตา





ตอนนั้นพี่ขายเสี่ยก็พูดว่า มาทำห่าไรวะ เราก็คิดในใจ ใครอีกเนี่ยยย แล้วเดินมาแบบทรงเสี่ยเลยอ่ะ พี่แมนบอกหมิวเข้าบ้าน เราก็รีบเดินเข้าบ้านเลยนะ เราตกใจรีบเดินเข้าบ้านเลยนะ แต่ก็ยังแอบอยู่ตรงผนังบ้านอ่ะแหละ ด้วยความที่เป็นกึ่งไม้กึ่งปูน มันทำให้เสียงลอดเข้ามาได้อยู่แล้ว นั่งเฉยๆไม่ต้องทำท่าแอบฟังเลย




เราถามพี่แมนว่า พี่แมน พี่แมนรู้จักคนนั้นเหรอ พี่แมนบอกว่านั่นก็ตัวเป้งนะ  แต่ทำไมมาที่นี่ได้ล่ะ พี่แมนกุมหัวแล้วพูดว่าวันนี้มันวันอะไรกันวะเนี่ย แล้วครอบครัวนี้มันอะไรกันวะ เราถามว่าเอ๋าพี่แมนไม่ได้สืบมาหมดแล้วเหรอ พี่แมนบอกว่าไอ้หมิวพี่จะไปสืบลึกๆทำไมมันจะผิดกฎหมายเอา แค่รู้เรื่องว่าบ้านเคยล้มเพราะตอนต้มยำกุ้ง กับว่าตอนนี้กำลังเริ่มตั้งต้นกันใหม่ แค่นี้ก็คิดว่าเกินพอแล้วใครจะไปรู้ล่ะว่าพ่อจะมีเบื้องหลังแบบนั้น





เราก็ถามว่าขนาดนั้นเลยเหรอพี่แมน พี่แมนก็พูดว่าไอ้หมิวแกไม่เห็นเหรอขนาดเสี่ยนั่นยังเกรงใจ แล้วไหนจะพี่ชายเสี่ยพาลูกน้องมายกธูปยกเทียนขอขมาอีก แล้วแกเห็นป่ะท่าทางที่ดูชิลเหลือเกินของพ่อทศน่ะน่ะ เราฟังแล้วก็คิดอือใช่ !!!!!





เราถามพี่แมนนะว่า แล้วคนที่มาอ่ะใครพี่แมนที่ว่าตัวเป้ง พี่แมนก็บอกว่าเจ้าพ่อจังหวัดข้างๆ เราก็อึ้งเลยแล้วเจ้าพ่อจะมาทำไม เราก็แอบฟังเลย สิ่งแรกที่เราได้ยินคือ



' เห้ย มึงมากวนอะไรพี่ทศวะ '



เสียงที่เราไม่คุ้นเริ่มเปิดฉากถามก่อนเลย พี่แมนก็หน้าตาตื่นแล้วพูดว่าเวรละจะมีเรื่องกันเปล่าวะ เราก็ตกใจจนจะหล่น โอ๊ยนี่เรามาทำอะไรเนี่ย เสียงพี่ชายเสี่ยก็พูดว่ายังจมูกไวเหมือนเดิมนะมึงน่ะ แค่แปปเดียวก็มาถึงนี่แล้ว ใครมันคาบข่าวไปบอกมึงล่ะ




อีกคนก็พูดว่า ได้ข่าวว่าลูกน้องโดนใครที่ไหนกระทืบเละเลยเหรอวะ กระจอกชิบหาย เราก็คิดว่าโอ๊ยยย มาถึงก็เหน็บกันเลย พ่อทศก็พูดว่า มาถึงก็หนวกหูเลยนะเอ็ง จิกกัดเป็นผู้หญิงกันไปได้ มันขายขี้หน้านะ เราก็ต้องแอบมองอ่ะ คนๆนั้นคือ ชะงัก แล้วเดินมาหาพ่อทศ แล้วก็พูดว่า




" พี่ทศ ฉันไหว้จ้ะ " แล้วภาพที่เราเห็นคือคนนั้นพนมมือก้มหัวไหว้เลยนะ พ่อทศก็รับไหว้แล้วพูดว่าไงเอ็ง ขึ้นมาถึงนี่มีอะไร คนๆนั้นก็พูด  ไอ้ - ชื่อพี่ชายเสี่ย - มันมาก่อกวนอะไรไหมพี่ทศ มีคนบอกฉันว่าพี่ไปถึงบ้านมันเลย  พี่ชายเสี่ยก็พูด เห้ยจมูกไวเหมือนหมาเลยนี่



เสี่ยสองคนทำท่าฮึ่มฮ่ำใส่กันเลยนะ แต่แปลกที่ลูกน้องของสองฝั่ง ไม่ได้ดูเหมือนเตรียมจะมีเรื่องเลย เหมือนเกร็งๆอ่ะ เราคิดแบบนี้นะ พ่อทศก็กระแอมนิดนึงแล้วพูดว่าจะเถียงกันอีกนานไหม เคยกินข้าวหม้อเดียวกันแท้ๆ หรือต้องให้ข้าพูด พอพ่อทศพูดแบบนั้นออกมาคือสองคนนั้นเงียบเลย แล้วเสี่ยคนที่มาใหม่น่ะก็พูดว่า ฉันขอโทษจ้ะพี่ทศ



เรากับพี่แมนก็มองหน้ากันเลย คือตลกพี่แมนอ่ะทำหน้าเหวอเลย ตอนนั้นแม่ก็เดินมานะ ถามอ้าวแมน หนูหมิวทำอะไรกันล่ะนั่น  เราก็รีบเดินมาหาแม่แล้วบอก แม่ๆ ๆ ข้างนอกจะมีเรื่องกันไหมคะ แม่ก็หืมใครมา




แม่ก็เอี้ยวตัวมองแล้วก็อ้อช่างเถอะ พวกนี้ทะเลาะกันตั้งแต่ตอนหนุ่มๆแล้ว เรื่องปกติน่ะ หนูหมิวกับแมนอยู่ในนี้แหละ ออกไปก็หนวกหูเปล่าๆ เรา งง พี่แมนงง ทำไมแม่ดูชิลๆสบายๆจัง เราก็แอบดูต่อนะ แม่เดินออกไป เราขอตั้งชื่อแม่ว่าทิพย์นะ  ตระกูล ท 555   พอแม่เดินออกไปแล้วพวกนั้น ตอนนั้นคนที่เพิ่งมาอ่ะ รีบเดินมายกมือไหว้ แล้วพูด



' ฉันไหว้จ้ะ พี่ทิพย์ '




เรางงเลย ว่าเดี๋ยวนะนี่แม่ก็อีกคนเหรอ เสี่ยที่มาใหม่ทักทายแม่อย่างนอบน้อมด้วยภาษาถิ่นของเขาอ่ะแหละ แต่ที่แม่พูดออกไปคือ ขับรถยังไงฝุ่นฟุ้งขนาดนี้ ถ้าต้นอ่อนมันตาย เดี๋ยวจะปลูกใหม่ทั้งหมดนี่แหละ เสี่ยคนนั้นก็ขอโทษจ้ะพี่ทิพย์ แม่ก็ถามว่ามีอะไร มาไกลขนาดนี้ เสี่ยคนนั้นบอกฉันแต่มาดูเฉยๆน่ะจ้ะว่าพี่ทศกับพี่ทิพย์สบายดีไหม มีอะไรให้ฉันช่วยไหม




แม่ก็พูดนะว่า อายุก็เยอะแล้วนะ ลูกน้องก็เยอะแล้ว หัดใจเย็นให้เป็นมั่งซิ่ ไม่ใช่นอบน้อมกับแค่พี่กับพี่ทศ ถึงจะอยู่คนละที่ มีถิ่นของตัวเอง มีอิทธิพลล้นมือไม่แพ้กัน แต่ก็อย่าลืมว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อน เห้ออ แต่ละคน พ่อก็กระแอมขึ้นมานะแล้วบอกพอแล้วๆ ถ้าสอนแล้วมันฟัง มันฟังนานแล้วล่ะไอ้นี่มันพูดไม่ฟัง




แม่ก็ถอนหายใจ เสี่ยที่มาใหม่ก็ทำหน้าเหมือนแหะ ๆ ๆ โดนด่าเลยกรู ประมาณนี้เลยจริงๆ แล้วแม่ก็บอกเดี๋ยวเอาน้ำมาให้กิน ให้ลูกน้องมาหลบแดดก่อน ปล่อยให้ยืนแบบนั้นได้ไง เสี่ยคนที่มาใหม่ก็จ้ะๆ แล้วหันไปกวักมือเรียก พวกนั้นก็มาหลบ คืออย่างที่บอกอ่ะ บ้านโทนต้นไม้เยอะ มีมุมหลบเยอะมาก พวกนั้นก็เลยมาอยู่อีกฝั่ง ตรงข้ามกับคนของพี่ชายเสี่ยที่มาก่อนหน้านี้





พ่อทศพูดขึ้นมาคำนึงว่า ตอนนี้พวกเอ็งต่างคนต่างอยู่ ต่างมีพื้นที่ของตัวเอง ไม่ได้ยุ่มย่ามกันใช่ไหม พี่ชายเสี่ยตอบใช่ครับ เสี่ยที่มาใหม่ก็ตอบว่าใช่จ้ะพี่ทศ พ่อทศบอกเอองั้นดี ข้าจะได้ไม่ต้องระแวงว่าจะยิงกันตายในบ้านข้า ดินบ้านข้าเอาไว้ปลูกต้นไม้ ปลูกผัก ไม่ใช่เอาไว้กลบหน้าใคร หวังว่าจะเข้าใจนะ ทั้งสองคนก็พูดไปในทางที่ว่าไม่กล้าหรอกเหมือนกันเลย พ่อทศก็ยิ้มไว้แล้วก็บอกว่า




งั้นก็ดีแล้ว ทะเลาะกันบ้าง กัดกันบ้าง ก็เป็นมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว แต่อย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลยคนกันเองทั้งนั้น ทั้งสองคนก็พยักหน้าตอบ ส่วนแม่พอเห็นแบบนั้นก็เดินเข้ามาในบ้าน เดินผ่านเราไปเข้าไปในครัว แล้วก็หยิบนู่น หยิบนี่ เราสองคนเดินตามแบบไม่รู้ตัวเลย แล้วเราก็สะกิด พี่แมนๆ ๆ ๆ แล้วขยิบตา ถามเลย ๆ ๆ แม่ก็หยิบใบนั่น ใส่นี่ หยิบผงนั่นโรยใส่นี่ จนเป็นน้ำสีน้ำเงินขึ้นมา พี่แมนก็พูดขึ้นน้ำอัญชัญเหรอครับ โอ๊ยยย พี่แมนไม่ได้ให้ถามแบบนั้น อ๋อยยย พี่ชายคนเก่งของเราเป็นอะไรไปเนี่ย





แล้วแม่ก็บอกใช่ ตอนนั้นได้โอกาส พี่แมนก็ถามเลยว่า แม่ครับๆ คนที่มาใหม่ผมรู้มาว่ากว้างขวางไม่ใช่ย่อยเลยนะครับ แม่ก็ถามเอ้าแมนรู้จักด้วยเหรอ พี่แมนบอกว่าผมก็ต้องศึกษาประวัติไว้บ้างครับ เผื่องานที่บริษัทต้องไปลงทุนในถิ่นเขา จะได้เข้าหาถูกแม่ก็บอกอ๋อ อืมม ดูไว้หน่อยก็ดี เพราะนิสัยเสียนิดหน่อยน่ะขี้โมโหง่ายไปหน่อย แต่ถ้าถูกคอถูกใจ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้วนะ




ถึงจะเห็นอย่างนั้นแต่กับเด็กๆ ก็มีเมตตาอยู่แต่ถ้ากับ - ชื่อพี่ชายเสี่ย กับ เสี่ย - ก็ยังพูดจาดีๆกันได้ไม่ถึง 10 คำก็ฮึ่มฮ่ำกันแล้ว แก่ๆกันแล้วก็แก้ไม่หาย แต่ก็ไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันหรอกนะ อาจจะแค่พูดกันเสียงดังน่ะ สบายใจได้นะแมนไม่มีอะไรเลยเถิดหรอก  พี่แมนก็ตอบครับๆ แล้วก็พูดว่าแต่ดูเขา ฟังพ่อทศมากเลยนะครับ แม่ก็บอกอ๋ออื้มก็ปกตินะ คนนั้นเขา....



' เคยเป็นลูกน้องของพ่อเขาน่ะ ' 




เราห๊ะในใจเลย พี่แมนก็หน้านิ่งเลย พี่แมนถามเสี่ยคนนั้นน่ะเหรอครับเคยเป็นลูกน้องพ่อมาก่อน แม่ก็อื้มๆก็เมื่อก่อนเวลาพ่อเขาไปไหนมาไหน ก็จะชอบตามไปด้วยตลอด แม่ก็บอกว่าตอนหนุ่มๆ ก็มีแค่พ่อที่เอาอยู่ ตอนพ่อถอนตัวออกมา ก็เลยออกมาตามๆเหมือนกัน




พี่แมนก็อ้าว ออกมาด้วยกันเหรอครับ แม่บอกอื้มก็เขาฟังแต่พ่อคนเดียวนี่ พอสะสางอะไรเสร็จก็ออกตามกันมา แต่ใจคงถลำตัวมากเกินไป อยู่ที่นี่ได้ไม่นานก็กลับไปจังหวัดบ้านเกิด มารู้ข่าวอีกทีกลับไปทางนั้นอีกแล้ว ไม่รู้ว่าควรยินดีด้วยหรืออะไรดี เพราะตอนนี้ก็อย่างที่เห็นกลายเป็นคนใหญ่คนโต กลายเป็นผู้มีอิทธิพลไปซะแล้ว




เราก็มองพี่แมนเลยตอนนั้น ไม่แปลกใจว่าทำไมทั้งๆที่พูดจาแข็งๆกับพี่ชายเสี่ย แต่กับพ่อทศ เขาดูนอบน้อมจัง นอบน้อมแบบไม่เกรงสายตาลูกน้องตัวเองที่พามาด้วยอีกต่างหาก ที่แท้ก็เป็นลูกน้อง....  เอ๊ะ ! เราถามทันทีเลยนะว่าแม่คะแต่ว่า มันก็เรื่องก่อนที่โทนจะเกิดไม่ใช่เหรอคะ มันก็เกิน 20 ปีแล้วนี่คะ แม่ที่หยิบนู่นหยิบนี่อยู่ ก็เลยหันมาพูดว่า เห็นนิสัยใจร้อน พูดจาโผงผางแบบนั้นก็เถอะ




แต่ลึกๆแล้วเป็นคนที่นิสัยถือว่าใช้ได้นะ ถ้าคนที่เขาให้ใจ ยอมใจ ก็จะยอมอ่อนยิ่งกว่าเต้าหู้ พี่แมนก็ถามต่อเลยตอนนั้นว่า แล้วพ่อทศทำไงน่ะครับ ถึงทำให้คนแบบนั้นยอมฟังได้ แม่ก็พูดนะว่าพ่อเขามีวิธีเข้าหาคนนะ คนรวย คนเท่ากัน หรือคนที่แย่กว่า พ่อเขาจะมีวิธีเข้าหา แต่ก็อย่างว่าเมื่อก่อนพ่อเขาก็เป็นคนตรงๆ พอพูดไม่ฟังก็มีลงไม้ลงมือกันบ้างแหละ





โอ๊ยยย แม่ แม่ทำไมพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติเลย ตุ้บตั้บๆ อะไรพวกนี้ทำไมแม่ชิลจัง เราก็ถามแล้ว... ไม่โดนเอาคืนเหรอคะ หนูเคยได้ยินว่าสมัยก่อนคือ ถ้าเอาคืนก็ทำเลยไม่รีรอไม่เรียกพวก แม่ก็หัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า ก็มีนะเอาคืนตรงหน้านั่นแหละ แต่ก็โดนพ่อเขาซัดคว่ำตลอด เรานี่หันหน้ามองหน้าพี่แมนเลยนะ แล้วพี่ชายเราคือนิ่งเลยอ่ะตอนนั้น




แม่บอกว่าคนสมัยก่อนน่ะอาจจะใจร้อนนะ แต่เขาก็สู้กันซึ่งหน้าตรงๆ ถ้าจะวัดด้วยมือก็ใช้มือ ถ้าจะถือไม้ก็ถือกันซึ่งหน้า ถึงจะดูรุนแรงแต่มันก็จบแค่ตรงนั้น แม่เขาบอกว่าสมัยก่อนน่ะถ้าเป็นนักเลงกันจริงๆ เขาไม่เอากันถึงตายหรอกหนูหมิว เอาแค่รู้ผลก็พอแล้ว เพราะอีกฝั่งก็อาจจะมีลูกมีเมียก็ได้ ถ้าคนนึงล้ม คนนึงเจ็บ มันไม่ใช่แค่ตัวเขาคนเดียว แต่จะมีคนข้างหลังอีกนะที่จะล้มตาม พ่อเขาคิดแบบนั้นแหละ





ตอนนั้นพี่แมนก็พูดนะว่า แม่ครับผมขอโทษที่มีส่วนทำให้โทนมันเจ็บตัวนะครับ แม่ก็พูดว่า โอ๊ยย อย่าคิดมากเลยแมน แม่ดูก็รู้แล้วว่าโทนน่ะได้พ่อมาเต็มๆ  พวกที่พลังมันเหลือถ้าไม่ออกแรงบ้างก็จะอยู่ไม่สุข หรือถ้าไม่ปล่อยให้เจ็บตัวบ้าง ก็ไม่เรียนรู้ ไม่จด ไม่จำ นั่นแหละ กว่าพ่อเขาจะคิดได้ก็ 30 กว่าแล้ว จะให้โทนมันมาคิดได้ตอนอายุ 20 นี่ก็ไม่ใช่เรื่องหรอก ว่าไหมล่ะแมน หนูหมิว




โทนน่ะถ้าทำอะไรเพื่อตัวเองน่ะทำได้ไม่นานหรอกแปปเดียวก็เบื่อ อย่างที่ป้าเคยบอกนั่นแหละว่าโทนน่ะฉลาดมาก เรียนรู้เร็ว แต่ติดขี้เกียจ เพราะงั้นการที่ไปทำงานกับแมน ป้าว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ อย่างน้อยถ้าคิดว่าต้องเรียนรู้ เติบโต และพัฒนา เพื่อคนที่เป็นเจ้านาย โทนมันก็จะไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ถึงเจ็บตัวบ้าง พลาดบ้าง มันก็เรื่องธรรมดา




ก็ตอนหนุ่มๆพ่อเขาลุยมาซะขนาดนั้น จะให้ลูกชายนั่งร้อยพวงมาลัยมันก็ยังไงอยู่ จริงไหมล่ะ แมน หนูหมิว คือแม่พูดแบบสบายๆชิลด์ไม่ติดไม่ขัดเหมือนว่านี่เป็นสิ่งที่แม่เขากับพ่อคิดกันมาตั้งแต่โทนยังเด็กเลยมั้งเนี่ย





 










เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

ovident

จากตอนนี้ทำให้รู้ได้เลยว่า ความอารมณ์ร้อนของโทนได้มาจากพ่อนั่นเอง 55555555

natt4556


Ttum1188

กำลังอ่านแชทบ๊อกซ์เพลินๆเจ๊หมิวลงงานมาให้พอดีสงสัยคืนนี้หลับฝันดีแน่ๆ ว่าแต่ท่านพ่อกับท่านแม่นี่ของจริงทั้งคู่เลยนะครับ

Youtube11


win69

มาแล้ววววว...รอมานาน  ส่องทุกวัน

××Mon××

สรุปพ่อทศนี่บารมีล้นเหลือ แต่แค่ไม่ออกสังคมก็เท่านั้น นี่ถ้าท่านโทนไม่รู้จักกับเจ๊หมิว กับพี่แมน คงอยู่กันตามประสาชาวสวนล่ะมั้งครับ

Wiwek

ไม่แปลกใจเลย ทำไมลูกถึงโหดแบบนี้

eltas007

#8
ป๋าทศนี่ MVP ทุกตอนที่ออกมาจริงๆ


------------------------------------------

โห้ได้พ่อเต็มๆเลยนิบุยโทนหล่อเข็มถึงว่าสวยๆติดตรึม

Slave

ได้ฟังประสบการณ์​ชีวิตของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่นี่.. มีค่ามากเลยครับ.. ถ้าคิดตามดีๆหลายๆอย่างสามารถ​เอาไปปรับใช้กับรุ่นลูกหลาน​อย่างเราๆได้ดีเลยอ่า.... ขอบคุณ​มาก​เลยครับ.เจ๊หมิว

sirihim

#10
ครอบครัวตัว ท. เข้ากันดีครับ

พ่อทศ พูดน้อย ต่อยหนัก

Au Nanma

พ่อทศแจ๋วกว่าคุณโทนเยอะเลยนะเราว่า

deamondear

ลืมตอนเก่าอ่ะ ขอไปอ่านตอนเก่าแปปนะฮะ

sanookdeejang

ไม่แปลกใจเลย ทำไมลูกถึงโหดแบบนี้

Daniel Dear