ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 7 ] ตอนที่ 112 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มกราคม 08, 2023, 11:18:56 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ตอนแรกของปี 2566 มาแล้วคร๊าบ

ขออภัยที่มาช้าครับ ช่วงนี้ต้องเดินสายขอบคุณ

ผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่าน หวังว่าจะยังคอยและติดตามกันครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา



ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง


>>>อ่านย้อนหลังตอนที่ 111< < < CLICK !!!



สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ








★★★★★★★★★★★



ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ





★★★★★★★★★★★



ความเดิมตอนที่แล้ว


ผมกลับมาทำงานแล้วครับ ชีวิตของพนักงานออฟฟิศธรรมดาๆคนนึง

กำลังจะกลับมารันอีกครั้ง ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิ่โว้ยยยยย

เพราะว่าวันแรกที่มาทำงาน ก็เจอพี่แท-โอ หน้าบริษัทเลย

แล้วทักผมด้วยนะ นี่มันปีศาจชัดๆวันก่อนเมาปลิ้นแท้ๆ

ยังมาทำงานได้หน้าตาเฉยเลย โอยย ขี้เกียจบ้างก็ได้พ่อ




★★★★★★★★★★★


นายโทนไดอารี่ 112



บอกตามตรงครับว่าการมาเจอพี่แท-โอ เป็นเรื่องที่ผมไม่ได้เตรียมตัวเลย ผมแม่งลืมไปว่าพี่แท-โอ แม่งปีศาจชัดๆ เมาซะขนาดนั้น เละซะขนาดนั้นแต่ยังมาทำงานได้สบายๆ จริงๆผมก็รู้สึกดีนะ แบบว่าคนระดับนั้นอ่ะยอมเผยด้านเละๆเทะๆมาให้ผมรับรู้ มีที่ไหนเมาแล้วโทรมาหาผม ว่ามั้ยครับคุณผู้อ่าน


แล้วหัวหน้าผมก็มองหน้าแล้วแบบ น้องโทนครับถ้ามีอะไรให้พี่คนนี้รับใช้มึงบอกได้เลยนะครับ ผมนี่กุมขมับเลยแต่ละคน แล้วพี่เขาก็ถามว่าอะไรวะน่ะ ผมก็ยื่นให้ดู พี่เขาบอกแล้วบอก เข้ !!!  ให้ขนาดนี้เลยเหรอวะ ผมก็ต้องรีบเดินกลับเข้าไปในแผนกเลยครับ เพราะคนเริ่มมองเยอะแล้วว่ะ


ผมเดินมากับหัวหน้าครับ คนก็เลยมองตามปกติ เข้ามาให้ห้องทำงานปุ๊ป พี่ในแผนกก็แซวเลยว่า แหมมม อีโทน มาทำงานวันแรกก็โดนหิ้วมาเลยเหรอ ผมก็บอกว่านี่ผมหวังดีนะเนี่ย เห็นเดินคลำนู่น คลำนี่สงสัยสายตาไม่ดีเลยช่วยพามา หัวหน้าผมก็เสริมเข้ามาอีกว่า โอยย สายตาฟ่าฟาง แล้วพี่เขาก็ทำท่าจิ้มตาผมแล้วพูดว่า ตามึงนั่นแหละจะบอด


แล้วก็ได้หัวเราะกันไป 1 กรุบครับเช้านี้ หัวหน้าบอกผมว่าเดี๋ยวมึงเข้าไปคุยกับพี่หน่อย ผมวางของเสร็จแล้วก็เข้าไปคุยครับ เข้าไปผมก็ยืนรอก่อนเลย พี่เขาก็เร็วมากนะครับ เข้ามาก็หยิบเอกสารมาเตรียมทำงานเลย สุดยอดจริงหัวหน้า พี่เขาบอกอื้มนั่งก่อน ผมก็นั่งเลย แล้วตอนนั้นบรรยากาศก็เปลี่ยนไป


พี่เขาบอก มึงคงไม่ลืมใช่มั้ยที่พี่สั่งพักงานเพราะอะไร ผมก็ตอบครับ พี่เขาก็บอกอื้ม อย่าให้มีอีกแล้วกัน ยังไงพี่ก็คงไม่เอาเอ็งออกเพราะเรื่องพวกนี้หรอก ทำได้อย่างมากก็แค่สั่งพักงาน แต่เอ็งจำไว้ว่ารายงานทุกอย่างพี่ก็ต้องส่งขึ้นไปข้างบน แล้วการที่ถูกพักงานบ่อยๆ มันจะส่งผลต่อเรื่องการโปรโมต


ที่พี่ห่วงก็มีแค่นี้แหละ ทำงานดีแต่โดนเตะตัดขามันก็หมดไฟได้เหมือนกัน ผมก็ตอบครับพี่ไปเหมือนเคย พี่เขาบอกว่ารู้ว่าเอ็งน่ะมีเส้น มีทางให้เลือกเยอะ แต่ที่พี่จะบอกว่า ถ้าเอ็งยังทำตัวไม่เหมาะสมกับที่ที่นั้นแล้วเข้าไปอยู่ รับรองเลยว่าพวก เสือ สิง กระทิง แรด น่ะ จ้องลุมทึ้งมึงแน่ๆ


แล้วยิ่งมึงสนิทกับพวกนั้นมากเท่าไร พวกนั้นก็จะยิ่งหวดมึงแบบเน้นๆโดยที่ไม่สนว่ามึงจะเป็นลูกชายท่านประธานหรอก เพราะด้วยนิสัยคุณ ( ชื่อคุณท่าน ) เขาไม่ใช่คนใจดีกับเรื่องงานหรอกนะ เอ็งอยู่กับเขามาหลายปีก็น่าจะรู้ดี ผมก็ตอบครับไปอย่างเดียวเพราะผมก็รู้ว่าคุณท่านเข้มงวดแค่ไหน พี่เขาบอกอื้มก็มีแค่นี้แหละ พยายามคุมอารมณ์ตัวเองหน่อย ถ้ามึงได้ออกหมัดไป พี่กลัวคู่กรณีมึงจะได้นอนโรงพยาบาล


ผมก็บอกโถ่วว ผมก็แค่พนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ จะไปทำอย่างนั้นได้ไง พี่เขาขยำเอกสารแล้วขว้างในหัวผมเลย แล้วบอกธรรมดาบ้านมึงสิ่ ไอ้ห่านี่กระทืบการ์ดมืออาชีพซะยับขนาดนั้น มึงไปอมวัดมาพูดพี่ก็ไม่เชื่อมึงหรอก ไปเลยไปทำงานเลยมึง งานที่ค้างน่ะไปเอากับเหมียว ผมก็ถามหืม เอาเลยเหรอพี่


พี่เขาก็ขยำกระดาษอีกแล้วจะขว้าง ผมก็บอกโอ้ยๆ ๆ ๆไปแล้วๆ พี่เขาก็บอกไอ้นี่ มีช่องว่างนิดเดียวมึงก็จะเล่นนะ แล้วพี่เขาก็โยนเอกสารหลายเล่มมาให้แล้วบอกว่านี่มึงเอาไปดูเลยซะ  ผมก็ถามอะไรเนี่ย พี่เขาก็บอกว่ารีเควสจากแผนกอื่นๆ สรุปแล้วมึงต้องคอยดูแลการสัมมนาด้วย  โอ้ยยยย ผมถามอิหยังวะเนี่ยยย แล้วไหงมาให้ผมดูแลล่ะ


พี่เขาก็โวยวายแล้วบอกว่า จะบ่นทำห่าอะไร โอกาสสร้างผลงานแท้ๆ ไปมึงรีบกลับไปดูงานเลยนะ ผมก็บอกแบบเบาๆไปว่า จะดูยังไงล่ะพี่ แต่ละแผนกนิสัยเป็นไงผมยังไม่รู้เลย พี่เขาก็เอายางลบอ่ะ ขว้างมาโดนหัวผม แม๊นนน แม่น แม่นชิบหาย ดังป๊อก พี่เขาบอกว่ามันหน้าที่มึงเว้ย อยากเติบอยากโต มันก็ต้องทำงานยากๆ ไปเลยมึงไสหัวไปเลยไอ้ห่า


ผมก็โดนทั้งไล่ ทั้งเอากระดาษปาใส่ แต่ผมรู้แหละครับว่าพี่เขาไม่ได้จะด่าอะไรมากมาย มันเป็นสไตล์ของแกนั่นแหละ อยากให้นึกถึงซีรีย์จีนเรื่อง ดาราจักรน่ะครับ ฉากที่พระเอกโดนฮ้องเต้ถีบเพราะไปฆ่าผู้ร้ายก่อนเอาตัวมาสอบสวนนั่นแหละครับ ถีบเพราะพระเอกทำผิดจริงๆ แต่ในใจคือไม่ได้เกลียด ก็ประมาณนี้แหละครับ พอออกมาพี่จักรก็บอกว่า โดนแต่หัววันเลยนะโทน



ผมก็ยกมือไหว้สวัสดีครับพี่จักร พี่จักรตบไหล่แล้วบอกอื้มทำงานๆ แล้วผมก็กลับมาที่ห้องจิ๋วๆงานของผม ห้อง 2*2.5 เมตรโดยประมาณ แล้วก็มีคนมาเคาะประตู พอเปิดมาอ้าวเหมียววว เธอมาถึงก็ต่อยท้องผมไปทีนึงเลยนะแล้วบอกว่าหมั่นใส้ ผมก็เลยจับมือเธอเบาๆ แล้วบอกอารายเนี่ยทักกันแบบนี้เลยเหรอ เหมียวบอกก็แบบนี้แหละ แล้วเธอก็เอางานมาวางให้เลยล่ะครับ



ผมก็รับ ๆ มาแล้วก็วางไว้ก่อนแล้วถามว่าทำงานเป็นไงมั่ง เหมียวก็บอกว่าหนักมากมายอ่ะ วันนี้เลี้ยงข้าวเลยนะ ผมบอกโอเคได้เลย แล้วเธอก็ออกไปครับ แต่ก่อนจะออกไปเธอหันมาแล้วบอกว่าอย่าลืมดอกเบี้ยด้วย อู้ยยย นี่ผมโดนทวงอะไรครับเนี่ย เพราะมันไม่ใช่เงินแน่นอนล่ะแบบนี้


การหยุดงานไปนานมันก็ทำให้อะไรหลายๆอย่างสะดุดแหละครับมันเป็นสัจธรรมก็ว่าได้ ก็คงเหมือนนักบอลที่แม้จะได้ซ้อม แต่ถ้าไม่ได้ลงสนามจริงฟอร์มก็คงฝืดๆอ่ะแหละ แต่ผมก็ต้องทำใจและทำให้ดีที่สุดครับ เอาตรงๆตอนนี้ผมต้องต่อสู้กับความขี้เกียจของตัวเองเลยนะ

ต้องยอมรับว่างานการ์ดที่ผมไปทำ พอซ้อม ต่อให้หนักจนอ้วกแค่ไหน แต่พอซ้อมเสร็จก็ได้พัก แต่งานนี่คือต้องคิด คิดแล้วทด ทดแล้วจด จดแล้วทำใหม่ แบบนี้วนๆไปเลย เฮ้อปวดหัว นี่แหละถึงบอกว่าต้องสู้กับความขี้เกียจ จนพอถึงเวลาพักแล้ว หัวหน้าก็เดินมาเคาะประตูห้องผมเลย


ผมถามอะไรพี่มีไร พักเที่ยงแล้วนา พี่เขาก็บอกเออก็พักเที่ยงไง มึงไม่ขึ้นไปข้างบนเหรอ เอ้าชิบหายแล้ว ผมทำงานจนลืมเลยว่าพี่แท-โอ เขาเรียกให้ผมขึ้นตอนพักเที่ยง ผมรีบเซฟงาน ปิดคอม แล้วยกมือไหว้หัวหน้าเลย แล้วบอกขอบคุณครับพี่ ถ้าพี่ไม่มาบอก ผมลงไปกินข้าวเลยแน่ๆ พี่เขาก็บอกเออๆรีบไป


แล้วผมก็รีบเดินไปเลยครับ แล้วก็ขึ้นไปข้างบนทันที พอมาถึงผมก็ต้องยืนเฝ้าหน้าห้องทำงานก่อน ก็นะมันเวลาพักเที่ยงนี่นา เลขาหน้าห้องก็มองแล้วถามว่าพบใครคะ ผมก็บอกว่า ช่วยบอกว่าโทนมาขอพบคุณแท-โอ ครับ เข้าก็ทำหน้าแบบงงๆนะ แต่ก็กดโฟนแล้วพูดไปข้างใน


แล้วแปปนึงแทนที่ผมจะได้เข้าไป แต่พี่แท-โอ กับพี่แมนก็พากันเดินออกมาเลย พนักงานหน้าห้องก็ยืนขึ้นทันที  พี่แมนบอกโอ้ไอ้นี่มาตรงเวลาดีนี่หว่า แล้วพี่แมนก็พูดเป็นภาษาอังกฤษแหละครับ เพราะคงอยากให้พี่แท-โอเข้าใจด้วย พี่แท-โอ ก็บอกว่าดีแล้วที่มาเอง ไม่งั้นคงลงไปตามตัวแน่ๆ ผมก็ฮึ๊ !!!  อยากจะขอบคุณลูกพี่ผมจริงๆครับ


ผมก็ถามว่าแล้วพี่แท-โอ มีงานอะไรให้ผมทำครับถึงได้เรียกมา พี่แท-โอ บอกว่าไปคุยกันข้างนอก แล้วพี่แท-โอ ก็หันไปพูดกับเลขาคนไทยคนนั้นว่า ไม่ต้องตามมาขอความเป็นส่วนตัว . . .  เลขาคนนั้นก็เบรกกะทันหันเลยล่ะครับ เอาจริงๆผมก็แอบสงสารเธอนะ แต่ว่าผมก็ไม่ลืมเรื่องที่เธอพูดกับผมไว้ก่อนหน้านี้เหมือนกัน



ชิบหายแล้วลืมเลย พอลงมาข้างล่างแล้วคนก็เพียบเลย มันเป็นช่วงพักเที่ยงไง อื้อหือแกรนด์ โอเพนนิ่งเลยทีนี้ คนก็มองมาเต็มเลยทีนี้ ผมเดินผ่านคนกลุ่มนึงนะ แล้วได้ยินเสียงพูดชัดๆเลย นี่ๆๆ หัวขาวๆนั่นที่ออกข่าวใช่ไหม คุณแท-โอ ก็อยู่ด้วยงั้นก็คนเดียวกันซิ่ อยู่บริษัทเราเหรอ โอยย อายว่ะ พี่แมนมาสะกิดแล้วบอกดังแล้วเว้ยยยยยย โอยผมอายครับ


พี่แท-โอ ก็เดินนำไปเลยครับ มาถึงหน้าบริษัทรถตู้คันใหญ่ก็รออยู่แล้ว พวกเราขึ้นรถมาครับ เหมือนว่าร้านจะถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ตอนนั้นคนก็มองเต๊มมมมม เอาจริงๆผมหวั่นใจว่ะกลัวจะกลับมาไม่ทันเข้างานตอนบ่าย แล้วมันคงดูน่าเกลียดแน่ๆ ถ้ามาทำงานวันแรกแล้วก็ล่อซะสายแบบนี้



เรามาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนึงครับใกล้ๆนั่นแหละ ดูเหมือนว่าโต๊ะจะถูกจองเอาไว้แล้ว มาถึงก็นั่งๆ แล้วกฎในการมากินข้าวกับพี่แท-โอ คืออยากกินอะไรสั่งเลย ถ้ามากะมิดกะเมี้ยนทำเป็นเกรงใจ โดนด่าหูชาแน่นอนครับ แต่มันก็ต้องถูกจริตผมด้วยอ่ะแหละ และคราวก่อนที่ผมไปกินสเต๊กตอนพาพี่พลอยกับจอยไปเลี้ยง ผมติดใจสเต๊กว่ะ



เลยชี้นี่เลย สเต๊ก วากิว A5 ขอแบบมีเดียมๆ พอสั่งปุ๊ปผมก็มองพี่แท-โอปั๊ป เขาก็ปรบมือแปะๆ แล้วบอกว่าสั่งได้ดี นึกว่าจะลืมซะแล้ว ผมก็ยิ้มๆๆ คิดในใจถ้าลืมก็บรรลัยสิ่ครับ พี่แมนก็สั่งต่อ ระหว่างที่รออาหารผมก็มองไปรอบๆ อู้หูย ร้านนี้มีแต่คนแต่งตัวดีๆทั้งนั้นเลย มองจากราคาก็ไม่แปลกใจอ่ะคร๊าบบบ เพราะถ้าไม่ใช่โอกาสพิเศษจริงๆ ผมเองก็คงไม่มาที่นี่แน่ๆ


พี่แท-โอ ก็เริ่มเปิดประเด็นขึ้นมาว่า แมน พี่สนใจในตัวคุณ ( ชื่ออดีตหุ้นส่วนใหญ่ )  พี่แท-โอ บอกว่าพี่ชอบวิสัยทัศน์ของเขา ยังไงซะถ้าเป็นไปได้พี่อยากให้แมนดึงตัวเขาให้อยู่ในผังองค์กรด้วยล่ะ พี่แมนก็ตอบว่าผมเองก็ตั้งใจแบบนั้นครับพี่แท-โอ เพราะเอาจริงๆผมกับพ่อเองก็ยังไม่รู้โครงสร้างทั้งหมด ยังไงก็ต้องให้คนภายในช่วยด้วย


พี่แท-โอ หันมามองผมแล้วถามว่า แกล่ะว่าไงโทน มีอะไรจะแนะนำหรือเปล่า เอาจริงๆผมก็ไม่มีอะไรแนะนำหรอกครับคุณผู้อ่าน แต่ว่าพี่แท-โอ ถามมาแบบนี้แล้วมันเหมือนเป็นการบังคับว่าต้องมีเรื่องอะไรเสนอกับพี่แท-โอ เขา ผมก็พูดไปว่าเอ่อ จะให้ผมเสนอกับพี่แมนตรงๆเลยเหรอครับ มันจะไม่ดูข้ามหน้า หัวหน้าผมเหรอครับ พี่แท-โอ บอกว่านี่คือโต๊ะอาหาร การพูดคุยแลกเปลี่ยนมันไม่ได้ข้ามหัวใครนะ


ผมก็ครับๆ แล้วก็พูดว่าจริงๆ ผมพักงานไปนานเลยไม่รู้ว่าระหว่างนี้ที่บริษัท มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และไปทางไหนบ้าง แต่ถ้านับจากก่อนที่ผมจะโดนพักงาน ผมแอบหงุดหงิดเรื่องระบบชนชั้นครับ พี่แท-โอก็มอง แล้วบอกว่าเรื่องนี้ไม่ต้องพูดหรอก เพราะว่าไอ้ระบบนี้มันมีมาตั้งนาน แล้วมันก็ไม่มีทางลดความเหลื่อมล้ำไปได้


เพราะงั้นสิ่งที่ต้องทำคือ ทำงานให้เหนือกว่าพวกนั้นไปเลย จะข้ามหน้าข้ามตาก็เอาให้สุด อย่ามีช่องให้มันคนไหนมาเอาเปรียบหรือหาผลประโยชน์จากความทุ่มเทของแก ผมฟังแล้วนิ่งเลย ถ้าคุณผู้อ่านจำได้เหตุผลที่ผมโดนพักงาน นั่นก็เพราะงานที่ผมทำไปนั่น พวกคนในแผนกไม่ตามงาน ไม่บรีฟต่อกันเลย แล้วก็มีแต่พวกรอชุบบางคนด้วย ผมก็ได้แต่ฟังและเข้าใจแหละครับ


พี่แมนบอกว่าเรื่องนี้ค่อยคุยกันไอ้โทน ผมก็พยักหน้าตอบครับพี่แมนไป แปปเดียวครับอาหารก็มาแล้ว และมันหมดเวลาที่จะพูดเรื่องซีเรียส เพราะได้เวลาเพลิดเพลินไปกับสเต๊กแล้วววว อูววว เนื้อวากิว A5 ที่ผมไม่คิดจะสั่งกิน ทำไมมันอร่อยแบบเน้ !!!!!  ความจุ๊ยซี่ของเนื้อ ความชุ่มฉ่ำ นี่เกินบรรยายจริงๆว่ะคร๊าบบบ อย่างนี้นี่เองที่เขาบอกๆกันว่าเนื้อที่ดีนะ มีแค่พริกไทย กับ เกลือก็อร่อยแล้ว แบบนี้เองสิ่นะ  แต่พี่แท-โอ ก็แนะนำว่า คราวหลังลองแค่ A4 พอ  A5 มันแทรก มันเยอะอาจจะเลี่ยนไปสำหรับแก คราวหลังก็ลองแค่ A4 ดูสิ่



ผมก็ตอบครับ ๆ ๆ พี่แท-โอ แล้วพวกเราก็กินในแต่ละส่วนของตัวเอง ซึ่งก็จะมีคุยกันบ้างครับ พี่แมนก็ถามว่าพี่ฮยอน-อา กลับไปเพราะงานด่วนเหรอครับพี่แท-โอ พี่แท-โอ บอกอื้มก็ส่วนหนึ่งนั่นแหละ แต่อีกส่วนนึงเพราะพี่ส่งกลับไปมากกว่า วันๆถามหาแต่โทนนี่แหละ น่ารำคาญ  ผมนี่สะดุ้งเลยครับ แต่พี่แท-โอ ก็ยกมือเหมือนเบรกผมไว้แล้วพูดว่า ไม่ใช่ความผิดแกโทน ไม่ต้องคิดมาก เป็นเพราะยัยฮยอน-อา นั่นแหละ




ผมพยักหน้าเบาๆแล้วกินต่อ พี่แมนก็กินๆ แล้วก็พูดว่า ว่าแต่พี่แท-โอ อยู่ไทยอีกกี่วันครับ แล้วอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษมั้ยครับ พี่แท-โอ กินจนหมดคำ เคี้ยวๆ แล้วพูดต่อว่าที่ๆพี่อยากไป แกก็คงพาไปไม่ได้หรอกแมน คนเกรงใจแฟนแบบแกน่ะ อย่าดีกว่า นั่นไงผมเดาไม่ยากเลยว่าพี่แท-โอ จะไปที่ไหน ตีหม้อคร๊าบ ตีหม้ออ แน่นอน



พี่แมนพยักหน้า แล้วพูดว่างั้นคราวหน้าถ้ามีที่ไหน ที่ผมสามารถแนะนำได้ผมยินดีนะครับ พี่แท-โอ ตบไหล่เบาๆแล้วบอกขอบใจมาก แล้วเขาก็หันมาถามผมว่าโทน แล้วที่ดินว่างๆรอบบ้านแกล่ะไม่คิดจะเอาไปต่อยอดอะไรหน่อยเหรอ ผมก็เลยพูดไปว่า สวนที่บ้านผมไม่อยากให้มันเปลี่ยนแปลงอะไรครับ เพราะพ่อเองก็ชอบสวนมากๆด้วย ที่สำคัญ. . . .  ผมก็อึกๆอักๆ นิดนึง


พี่แท-โอ ก็บอกสวนขึ้นมาว่าไม่อยากรบกวนผีเจ้าที่บ้านของแกเหรอ ผมมองหน้าพี่แท-โอ แล้วก็บอกครับ ไม่อยากรบกวนปู่มากเกินไปน่ะครับ พี่แท-โอ ก็บอกว่าที่ก็ออกกว้างขนาดนั้น มันเอาไปทำประโยชน์หาเงินเข้าบ้านได้เยอะเลยนะ ผมก็เลยบอกว่า ยังไงก็คงไม่ขายที่ครับพี่แท-โอ


พี่แท-โอ ก็พูดว่า เฮ้ย พี่พูดสักคำหรือยัง ว่าให้แกขายที่ พี่บอกแค่ให้แกลองขยับขยายลองทำอะไรที่จะสร้างรายได้ เพราะยังไงคุณพ่อก็คงไม่ยอมขายแน่ๆ ส่วนแกก็ไปพูดให้ผีเจ้าที่บ้านแกเข้าใจ ผมก็บอกว่าผมไม่ได้มีวิชาที่จะสื่อสารแบบเข้าใจเป๊ะๆ แบบย่าผมนะพรี่ !!!!!!!



พี่แท-โอ ก็บอกว่าเฮ้ย พี่ไม่ได้จะให้แกไปรบกวนผีเจ้าที่ของแก พี่ไม่อยากไปทำให้วิถีชีวิตของครอบครัวแกต้องเปลี่ยน  เอาเถอะ ลองไปคิดวิธีดูเอาแล้วกัน พี่อยากให้ครอบครัวแกหมดหนี้ หมดสินไวๆ เวลาเริ่มทำอะไรน่ะ เริ่มจากศูนย์ดีกว่าเริ่มจากติดลบ เคยสอนไปแล้วไม่ใช่เหรอ ผมก็ตอบคร๊าบพี่แท-โอ พี่แมนก็ถามว่าจะว่าไปที่ของบ้านเอ็งทั้งหมดรวมๆแล้ว กว้างกี่สนามบอลรวมกันวะโทน ผมก็บอกว่าเดี๋ยวๆ ที่ไหนอะไรสนามบอล



พี่แมนบอกเอ้า ก็พวกที่ที่ลูกน้องพ่อเอ็งซื้อไว้ไง ยังไงมันก็เป็นชื่อของพ่อทศอยู่แล้ว และอีกอย่างแปลงนึงเสี่ยคนที่ให้ขุนแผนเอ็งมาก็ซื้อในชื่อเอ็งไม่ใช่เหรอ ผมนี่กุมขมับเลยนะครับตอนนั้น เฮ้อออ พี่แท-โอ บอกว่า พี่ชอบบรรยากาศบ้านแกนะโทน ถ้าแกลองทำเป็นโฮมสเตย์มันก็จะดีไม่เบาเลยนะ ผมก็เลยบอกว่าแบบนั้นไม่ได้แน่นอนครับพี่แท-โอ ถ้าทำแบบนั้นความสงบในบ้านหายไปแน่นอน



พี่แท-โอ ก็บอกว่าถ้าเอาที่ดินทั้งหมดมารวมกัน ยังไงเสียงก็ไปไม่ถึงตัวบ้านในสวนแน่ๆล่ะ แล้วอีกอย่าง แกไม่คิดจะสร้างบ้านหลังอื่นๆไว้ในตัวบ้านเลยหรือไง หรือไม่คิดจะขยับขยายบ้านเลยเหรอ ผมก็คิด... เออว่ะ  ผมเองก็อยากขยายบ้าน ทำบ้านไว้อีกหลังเหมือนกัน แต่มันติดเรื่องงบประมาณนั่นแหละครับ


พี่แท-โอ บอกว่าเรื่องเงินน่ะตัดมันไปก่อน อย่าพึ่งให้คำว่าไม่มีเงิน ไม่พร้อม มาขัดเรื่องที่อยากได้อยากทำ แกต้องลองฝันไปก่อน คิดไปก่อน วางแผนไปก่อน แล้วค่อยมาคิดเรื่องเงินทีหลัง ถ้าแกเอาอีโก้เรื่องไม่อยากพึ่งพาเงินของคนอื่นลงไปได้บ้าง แค่ล้าน สองล้าน พี่ให้ยืมได้ แมนเองก็คงไม่ติดขัดอะไร


ขนาดให้บริษัทไอ้เด็กเวนชิบะยืมไปกี่สิบล้าน พี่ยังสบายๆเลย เพราะงั้นแกอย่าพึ่งคิดเรื่องไม่มี แต่ให้คิดแผนไปก่อนว่าถ้ามีแล้วอยากทำอะไร ตามนี้นะ



พี่แท-โอ พูดแล้วก็กินต่อ พี่แมนก็พูดนะว่า เอาจริงๆนะเว้ยไอ้โทน บ้านเอ็งโคตรเหมาะเป็นฐานทัพลับเลยว่ะ ไปนอนฟังเสียงต้นไม้ เสียงนกตอนเช้าๆนี่สบายจริง แต่พี่แท-โอ เขาก็พูดมาว่า มันสบายใจก็จริง แต่ถ้าไม่สบายกายมันก็เท่านั้น คนที่ชอบธรรมชาติ ไม่ได้แปลว่าต้องนอนกับต้นไม้ เขาก็อยากนอนบนที่นอนนุ่มๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวก เดินทางสะดวก ไม่งั้นตามสถานที่ท่องเที่ยว คงไม่มีที่พักผุดเป็นดอกเห็ดหรอก



อื้ม.... พี่แท-โอ พูดมาก็มีเหตุผลจริงๆแหละครับ ผมกับพี่แมนก็คุยกันนิดๆหน่อยๆแล้วก็รีบกินข้าวกัน พอกินเสร็จ ตบของหวาน แล้วก็กลับมาขึ้นรถเลย แล้วก็มาคุยกันบนรถต่อ คราวนี้จะเป็นพี่แท-โอ เน้นคุยกับพี่แมนเรื่องบริษัทครับ ส่วนผมก็ไปนั่งอีก 2 แถวถัดไป แล้วก็มีหูฟังแบบครอบ ราคาโคตรจะแพงมองดูยี่ห้อนี่แล้ว 2 พัน+  เอามาเปิดเพลงฟัง เพื่อจะได้ไม่ต้องฟังเรื่องที่พวกพี่เขาคุยกัน



หูฟังมันมีติดรถอยู่แล้วครับ เหมือนพี่แท-โอ เขาจะเตรียมมาไว้เลยล่ะ แล้วคิดว่าผมจะนั่งฟังเพลงแบบสงบเหรอ ไม่ ไม่เล๊ยยย เพราะอีก 20 นาทีมันจะบ่ายโมงแล๊วววว ฮู๊ยย ผมนี่นั่งไปลุ้นไป และก็มาถึงแล้วโว๊ยยยยยย ฉิวเฉียด จำเวลาได้เลยตอนนี้ 12.55 พอรถมาถึงบริเวณหน้าบริษัทผมนี่เก็บหูฟังวางไว้ที่เดิม เตรียมตัวลงเลย พอมาถึงหน้าประตูบริษัท ประตูรถเปิดป๊าปปป พี่แมน พี่แท-โอ ลงไปก่อน ผมก็ลงตามและรีบมือไหว้พี่ชาย 2 คนแล้วรีบวิ่งไปติ๊ดบัตรเข้างานเลยครับ เพราะอย่างที่บอกหลังจากพักงานไป 10กว่าวัน ถ้ามาทำงานสายตั้งแต่วันแรก มันก็คงจะงามไม่ใช่น้อย  งามใส้นะครับ



ผมกลับเข้ามาในแผนกทำงาน ถึงหน้าประตูก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วคนในแผนกก็ถามว่าอีโทนแกไปไหนมาเนี่ย เมื่อกี้เห็นขึ้นรถไปกับคุณแท-โอ  ผมก็บอกว่าไปกินข้าว เท่านั้นแหละครับเงียบกันหมดเลย  แล้วผมก็บอกอีกว่าโดนเรียกไปเฉ่งที่โดนพักงานด้วย ผมเกาหัวแกร่ก ๆ ๆ ๆ แล้วเดินกลับเข้าห้องทำงานเลย



แต่ว่ายังไม่ทันจะได้เปิดประตูห้องนะ แค่เอื้อมมือแท้ๆ พวกพี่ๆก็มาดึงแขนผมเลยล่ะ แล้วบอกว่าเดี๋ยวก่อนดิ่อีโทน นี่แกไปรู้จักกับคุณแท-โอ เขาได้ยังไง ผมก็บอกว่าเอ้าผมก็บอกไปแล้วนี่คร๊าบ ว่าเคยไปฝึกงานตอนปี 3 ที่บริษัทพี่เขาอ่ะ  พี่เขาก็บอกว่าไม่ใช่แล้วอีโทน แค่ไปฝึกงานทำไมถึงดูสนิทกันขนาดนี้


แกเข้าใจป่ะว่า ขนาดเรียกแกไปกินข้าวด้วยเนี่ย มันยิ่งกว่า VVIP อีกนะแก แกรู้ป่ะว่าที่บ้านเขาอ่ะ จะได้กินข้าวกับคุณแท-โอ ต้องนัดกี่วัน ผมก็เลยส่ายหัวแล้วบอกว่าไม่รู้เลย ผมก็เพิ่งมารู้ไม่กี่วันนี่เองว่า บริษัทพี่แท-โอ เขาบิ๊กเบิ้มขนาดนั้น แล้วพี่คนนึงก็มาจับหัวผมแล้วเขย่าเบาๆ เขาบอกว่า


จูนสมองหน่อยไอ้โทน นั่นระดับทวีปเราเลยนะเว้ย ผมก็บอกว่า ผมไม่รู้จริงจริงงงง พวกพี่ก็รู้นี่ว่าผมไม่ได้เรียนบริหารมา เรื่องพวกนี้คือผมแทบไม่รู้เรื่องเลย พึ่งจะมาเรียนเกี่ยวกับงานบริษัทก็ตอนเริ่มไปทำงานบ้านคุณท่านนั่นแหละ แต่ส่วนมากจะทำงานการ์ดมากกว่า เรื่องการตามข่าวแวดวงธุรกิจนี่ หน้าอย่างผมไม่ได้ตามแน่ๆ


ผมก็บอกไปตามตรง เพราะเอาจริงๆ จะให้ผมตามข่าวเศรษฐกิจเหรอ ไม่มีทางที่ผมจะทำแน่นอน ข่าวเกษตรกรรมอันนี้น่ะพอตามอยู่บ่อยๆครับ พวกพี่เขาก็มองๆ ๆ แล้วหัวหน้าผมเปิดประตูมามั้งจากห้องเขาแหละ แล้วก็ตบมือ ปั้ป ปั้ป ปั้ป แล้วบอกว่า เอ้า ๆ ๆ ๆ ทำงานๆ โบนัสจะเอากันมั้ยไอ้พวกนี้


พี่เขามองมาทางผมก็บอก เอ้าลูกชายท่านประธานรบกวนมึงไปทำงานด้วยไวๆเลย ผมก็ว่าอ้าว วนมาหาผมจนได้ ลูกพี่ผมก็บอกว่า แหม ๆ ๆ ถ่อมตัวจังเลยนะคร๊าบบบ มึงรีบกลับเข้าห้องไปทำงานเลย ตอนนั้นทุกคนก็แยกกันเลยครับ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก ดีซะอีกที่พี่เขามาแยกทัพให้ผม ไม่งั้นผมได้ยืนตอบคำถามยาวๆแน่


พอนั่งทำงานไปแปปนึง ประตูห้องก็ก่อกๆ ๆ ไม่ได้เสียงดังมากหรอก มันเป็นฉากกันเฉยๆ ประตูเปิดมาก็มีมือยืนแก้วน้ำมาให้ เป็นเหมียวนั่นแหละครับ ผมจำนาฬิกาของเธอได้  ผมก็รับแก้วน้ำมาแล้วลูบมือเบาๆไป 1 ทีแล้วเหมียวก็ไปทำงานต่อครับ ข้างแก้วมีเขียนเอาไว้ด้วยว่า เย็นนี้มาเลี้ยงข้าวซะดีๆ



อ่ะโอเค๊ ผมก็ส่ง msn ตอบไปว่า OK  เหมียวก็พิมพ์กลับมาว่าจะชวนไปกินข้าวกลางวันซะหน่อยเชอะ ผมก็บอกโอ๋ๆ ๆ ตอนเย็นไง เหมียวพิมพ์อืออออ กลับมา แล้ววันนั้นก็ทำงาน งาน งาน แล้วก็งาน ลุกขึ้นมาเดิน Relax ทุกๆ 1 ชั่วโมงครับ ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที เข้าห้องน้ำเอย เดินบิดเอว ยืดเส้นเอย จนอีกครึ่งชั่วโมงจะเลิกงาน ผมจะรีเช็คงานของตัวเองด้วยการส่งให้หัวหน้าโดยตรง แล้วถามว่าผมควรแก้ตรงไหนมั้ย



วันนี้กดไปซะ 10 %  ที่ต้องแก้ไข เอาล่ะผมจดไว้ เซฟไว้ เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้ ผมถือคติจะไม่ทำงานเลยเวลาโดยไม่จำเป็นเด็ดขาด และผมจะไม่เอางานกลับไปทำที่ห้องพัก เพราะมันคือเวลาพัก ผมใช้เวลาเก็บของเกือบ 10 นาทีครับ แล้วก็รอจนเวลาเลิกงานถึงออกมาจากห้องทำงาน  ไม่กลับก่อนชาวบ้าน แต่ก็ไม่จะกลับหลังสุด นี่แหละคติผม และอีกอย่างวันนี้ผมมีนัดกับสาวด้วยยยยยย



เออจะว่าไปชีวิตช่วงนี้มันก็แปลกเนอะ เหมือนว่าได้หวนนึกถึงอะไรที่ผ่านมาหลายๆอย่าง พี่พลอยที่กลับมาคุยกันแบบชัดเจน เอาจริงผมก็รู้นะว่า ถ้าไม่ได้ไปทำงานที่สัมมนาจะได้รู้หรือเปล่าว่าพี่พลอยก็ทำงานในเครือบริษัทเดียวกัน และถ้าไม่ได้เป็นทีมงานที่คอยดูแลเรื่องสันทนาการ จะมีโอกาสได้คุยกับพี่พลอยบ่อยเท่าที่ได้คุยมั้ย



เพราะว่าผมเองก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรม คงไม่มีเวลาได้คุยกันเท่าไรหรอก  นี่แหละมั้งที่เขาบอกว่าเมื่อทำงานอะไรหนักๆไปมักจะมีผลตอบแทนมาเสมอ



แล้วนี่ยังเหมียวอีก... ตอนที่อยู่ทะเลเหมียวก็บอกเองว่าจะปล่อยตัวแบบนั้นแค่ที่ทะเล พอกลับมาขอให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมก่อนที่จะมาสัมมนา ซึ่งผมเองก็ทำตามเป็นอย่างดี แต่เป็นตัวเหมียวเองที่ยังเอาความรู้สึกที่ทะเลกลับมาด้วย แล้วไหนที่จะบอกว่าให้กิ๊กกับเธอซะดีๆ มันก็จริงอยู่ที่เหมียวเองก็ชัดเจนเสมอว่า ไม่ได้อยากใช้คำว่าแฟนกับผม แต่เธอก็บอกเองว่า ชอบความสัมพันธ์ในตอนนี้


ไม่อยากผูกมัด แต่ก็ไม่อยากทำเป็นไม่รู้สึกอะไร จะว่าไปก็เหมือนพี่พลอยพูดเลยนี่หว่า เอาตรงๆระหว่างเหมียวกับพี่พลอย ในความผูกพันผมคิดว่าผมกับพี่พลอยคงมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่า อาจจะเพราะเธอเป็นคนทำให้ผมรู้ว่า เอ้อ อย่างผมก็มีคนมองเห็นหัวนะ ถึงจะไม่ได้เป็นแฟนเต็มตัวก็เถอะ แต่ก็มีช่วงเวลาดีๆร่วมกัน จะบอกว่าเป็นรักครั้งละอ่อนก็คงไม่แปลกๆ


กับเหมียว ไม่ใช่ว่าเพราะเหมียวโยนผมลงไปที่เฟรนด์โซนแล้วผมถึงพูดแบบนี้นะ แต่ไม่รู้ดิ่ครับ นี่ยังไม่ได้พูดถึงแม่ล่ามสาวแว่นอีกนะ แต่คนนี้คงได้คุยกันเร็วๆนี้แหละ ผมก็มาถึงสถานีรถไฟฟ้าแล้วล่ะ จะมายืนรอที่เดิม แต่ก็เจอเหมียวรออยู่ก่อนแล้ว เดินเข้าไปใกล้ ไปใกล้ ไปใกล้ มันแปลกที่ตอนนี้มันเขิน ไม่ประหม่า เหมือนตอนที่ไปสยามด้วยกันครั้งแรก


หรือทุกๆครั้งที่ไป และตอนนั้นแอบชอบเธอ มันเหมือนว่าจะทำยังไงดีนะให้เหมียวรู้ว่าชอบ หรือว่าจะทำยังไงให้เก็บอาการไม่ให้เหมียวรู้ คนเราบางทีความคิดมันก็ตีกันแบบนี้แหละครับ พอผมเดินไปถึงคำถามแรกเลย เหมียวว่าอยากเลี้ยงอะไรเหมียวเหรอออ ผมก็บอกอยากกินอะไรล่ะ เหมียวบอกอะไรก็ได้ ผมก็คิดในใจ หึ หึ อะไรก็ได้ยังงั้นเหรอ... อะไรก็ได้ หมายถึงร้าน 100 กว่าร้านในพารากอน อย่างงั้นเหรอ คำว่าอะไรก็ได้ มันไม่มีอยู่จริ๊งงงงงง



 


เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

deamondear

มานั่งนึกๆคิดๆ คุณโทนต้องยุในระเบียบวินัยขนาดไหนทำให้คนเอ็นดูได้ขนาดนี้

- - - - -

นี่แค่เริ่มต้นคร๊าบ
  ::Shy::

#โทน

Kdstory

ชอบซีนของพี่แทโอ วิชาการยิ่งกว่าพี่แมนอีกของพี่แมนยังมีรั่วๆบ้างถ้าไม่ได้จริงจัง แต่ของพี่แทโอไม่ใช่แค่คิดก้กดดันแล้ว


- - - - -

พี่แท-โอ เวลาทำงานไม่มีคำว่าผ่อนครับ

#โทน

battozai

การที่ได้รู้จักคนใหญ่คนโต วางตัวลำบากมากๆ

- - - - -

อยู่ที่ว่าคนใหญ่คนโตแบบนั้น เลือกแสดงออกแบบไหนด้วยครับ   ::Fighto:: ::Fighto::


#โทน

lnw007

เทพโทนวางตัวสุดยอดเลยครับนับถือ

เหนื่อยๆมาด้วยแห้งแน่ๆ ขอบคุณครับ


- - - -


จับมือนอนกันเฉยๆครับ   ::Shy:: ::Shy::

# โทน

pamaaeng

ใช่ ... คำตอบจากปากหญิง ที่บอกว่า อะไรก็ได้ นี่ ...
มันไม่ใช่ หมายความว่าอย่างน้านนนนนน


- - - - -


การ์ดกับดัก ทำงานครับป๋า  ::Crying:: ::Crying::

#โทน

Ubiubi

น้องเหมียวนี่จะเป็นยังไงนะ


- - - - -


เป็นมากเกินกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่คนร๊ากก เพลงดังยุคผม  ::YehYeh:: ::YehYeh::

#โทน

po3026

ตกลงคุณโทนจะพาน้องเหมียวไปกินอะไรละ ไม่ใช่กินตับใช่ไหม

- - - - -

เหมียวบอกแล้วครับว่าอะไรก็ได้
  ::Crying:: ::Crying::

#โทน

laphatsanai1992

เทพโทนวางตัวสุดยอดเลยครับนับถือ ครับ

- - - - -

เรียกว่าโดนนวด เอ้ยโดนปั้นจนได้ดี ดีกว่าครับ  ::WowWow:: ::WowWow::

#โทน

Slave

กับเหมียวนี่ตกลงเฟรนโซน​ หรือ​ ฮาเร็มโซน​ กันแน่หนอ.. ขอบคุณ​มาก​ครับ​

- - - - -

ฮี่ ๆ ๆ ๆ น่าคิดครับ  ::Evil:: ::Evil::

#โทน

ผู้เฒ่าเซราะกราว

555....คำว่าอะไรก็ได้เป็นอาหารที่หาทานยากมากที่สุดอย่างหนึ่งนะครับ....ยิ่งกับผู้หญิงด้วยแล้ว อะฮึอะฮึ

- - - - -

มันไม่มีอยู่จริง !!!
  ::Angry:: ::Angry::

#โทน

test1234

มีจ่ายดอกเบี้ยด้วยมั้ย

- - - - -

ดอกเบี้ย อารายเหรอครับ
  ::Me?:: ::Me?::

#โทน

jeditay

อะไรก็ได้มีไม่มีอยู่จิงอยู่แล้วสุดท้ายก้อต้องตามใจนางแหละ555

- - - - -

จาก Dinner ก็กลายเป็นเหวอ ดิ่คร๊าบ
  ::DookDig:: ::DookDig::

#โทน

cantonaa

กลับมาทำงานวันแรกเหมียวก็ทวงสัญญาซะแระ

- - - - -

เราจะทำตาม.. แค่ก ๆ ๆ
  ::Oops:: ::Oops::

#โทน

mossess

ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ครบด้วยนะ

- - - - -


ฮิ๊มม เหมียวคงลืมแล้วครับ
  ::Beggar:: ::Beggar::

#โทน