ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เธอ ฉัน และ เขา ตอนที่ 106

เริ่มโดย ✰✰✰ 𝓢𝓽𝓪𝓡𝓓𝓊𝓼𝓣 ✰✰✰, มีนาคม 09, 2023, 11:03:58 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

✰✰✰ 𝓢𝓽𝓪𝓡𝓓𝓊𝓼𝓣 ✰✰✰

ต่อจากตอนที่แล้ว แม่ทิพย์บอกว่าตอนสาวๆเคยโดนทำของใส่ ย่าหอมช่วยถอนออกให้แต่ยังไม่ได้เอาออกทั้งหมดเพราะยังไม่รู้คนทำ จนโทนเกิดขึ้นมาและสิ่งๆนั้นทุกคนก็คาดเดาว่ามันถูกถ่ายทอดลงไปในตัวของโทนด้วย เดี๋ยวนะ !  สิ่งที่เราได้ยินมันคืออะไรเนี่ย แม่ทิพย์เคยโดนทำของใส่ คือรู้แหละว่ามันคืออะไร เพราะก็เคยดูหนังในหลายๆเรื่องมา แล้วไหนจะรายการผีที่ดูบ่อยๆด้วย สิ่งที่เคยอยู่ในตัวแม่ทิพย์ โทนเองก็มีงั้นเหรอ เราก็ถามอีกย้ำอีกครั้งว่าคุณไสยเหรอคะ

คนสนิทย่าหอมพยักหน้าเลย เดี๋ยว!!!!!  นี่คืออะไร นี่มังงะมหาเวทย์ผนึกมารเหรอถึงมีคุณไสยด้วย สมัยนั้นยังไม่มีหรอกมังงะเรื่องนี้แต่ถ้าเอ่ยชื่อขึ้นมาหลายคนคงนึกภาพออก เดี๋ยวนะสายเลือดของบ้านนี้คืออะไร ถ้าใครที่เคยอ่านเรื่องที่เราเขียนมาตั้งแต่ตอนนี้ที่ 1


มันเป็นเรื่องที่แค่แฟนเราพาน้องในเกมส์มาแนะนำ ก็แค่คนธรรมดาๆ แต่งตัวไม่ได้เรื่อง ผมเผ้ารุงรัง ต่อสู้เก่ง และเป็นนักกีฬา เรื่องมันมีมาแค่นี้เอง แต่ตอนนี้มันคืออะไรกันเนี่ยเรื่องที่เรากำลังฟังอยู่ ตอนแรกเราก็สงสัยเหมือนทุกคนว่าทำไมโทนทำอะไรแปลกๆได้ ทั้งๆที่เจ้าตัวก็บอกว่าไม่ได้ร่ำเรียนอะไรมาเลย


โอเคแหละว่าได้เลือดความเก่งมาจากพ่อทศกับแม่ทิพย์ แต่ก่อนที่จะรู้เรื่องนี้เราก็คิดว่าแม่ทิพย์ก็เก่ง เพราะเป็นลูกสาวครูมวย แล้วพวกการใช้อาวุธ ดาบ หอก โล่ กระบองศอก อะไรพวกนี้ การที่ไอ้ลิงบ้าจะเก่งกว่าคนอื่นๆ มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะการเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กๆ การออกกำลังกายในสวน และ DNA ที่มาจากพ่อและแม่


แต่ว่าเนี่ยยังมารู้อีกว่า ในตัวไอ้ลิงบ้ามีเศษเสี้ยวของคุณไสยอะไรนั้นด้วย เดี๋ยวนะปกติเรื่องนี้ไม่มีฉากเสียวก็ว่าแปลกแล้ว ตอนนี้ยังมีเรื่องอะไรพวกนี้มาอีกเนี่ย เราก็ถามว่าในตัวโทนมีของแบบนั้นด้วยเหรอคะ แม่ทิพย์ก็บอกว่าตอนนี้ก็ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอกหนูหมิว แต่คนในบ้านก็มั่นใจว่าไอ้ของนั่น มันถูกถ่ายทอดลงไปที่ตัวโทนด้วย


คนสนิทของย่าหอมก็พูดว่า ถึงโทนจะไม่ได้มีวิชาอะไรแบบแม่ย่า หรือพ่อปู่ แต่เรื่องการมองเห็นรับฟังสัมผัส ก็ทำได้อยู่นะ แต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ขั้นไหน เพราะงั้นแม่ย่าถึงเคี่ยวเข็ญและฝึกสิ่งที่จำเป็นกับโทนให้ตั้งแต่เด็กๆ แล้วเขาก็พูดอีกว่า แต่ก็คงจะหนักเกินไปสำหรับเด็กวัยนั้นแหละมั้ง ตอนนี้ก็ยังกลัวแม่ย่าไม่หายเลย


เราฟังเราก็เข้าใจเลยอ่ะ เมื่อกี้โทนกลัวจะมือสั่นอ่ะทุกคน แม่ทิพย์ก็มองแล้วบอกว่าถึงป้าจะลำบากใจแต่การให้ย่าเขาช่วยดูแลโทนให้ มันก็คงดีกว่า แม่ทิพย์พูดไปก็ทำกับข้าวไปนะตอนนั้น เราก็เลยถามว่าแล้วโทนรู้ไหมคะแม่ทิพย์เรื่องนี้ แม่ทิพย์ส่ายหน้าแล้วพูดว่าไม่รู้หรอก แม่ไม่อยากบอกกลัว กลัวโทนจะโทษพ่อว่ามีส่วนทำให้แม่โดนทำแบบนั้น


เราก็เงียบเลยตอนนั้น แต่คนสนิทของย่าหอมก็บอกอีกนะว่า แต่คนที่ทำก็รับกรรมไปแล้วล่ะ ในตัวพี่ทิพย์ก็เอาของออกหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ก็คงเป็นที่ยังอยู่ในตัวโทนนั่นแหละ เราก็. . . ถามแบบอ้อมๆแอ้มๆว่าคนที่ทำแม่ทิพย์เป็นใครเหรอคะ แม่ทิพย์หันผักดังฉับแล้วพูดว่า ช่างมันเถอะหนูหมิวคนทำมันแพ้ภัยตัวเองและลงไปคุยกับรากมะม่วงแล้วล่ะ


เง้ออ !!!!!!  คำพูดแม่ทิพย์น่ากลัวมากตอนนี้อ่ะ แม่ก็หันผักฉับ ฉับ ฉับ ต่อไป . . .  คือมันเกินกว่าที่เราจะคิดแล้วอ่ะตอนนี้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีก แต่ที่แน่ๆคือ เราเริ่มกลัวนิดๆละนะ เห้ออ เรามาทำอะไรเนี่ย แล้วทำไมพ่อกับพี่จวบยังไม่มาอีกนะเนี่ย คนสนิทของย่าหอมก็เลยบอกว่า คนสนิทของย่าหอมก็เลยบอกว่า คราวนี้มันมีทั้งอาการป่วยอยู่แล้วด้วยบวกกับดวงของโทนเองก็ไม่ค่อยดี ถึงได้มากันนี่แหละ


นี่ไง !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  อย่างที่หลายคนสงสัย หลายคนคอมเมนต์อ่ะว่าป่วยธรรมดาทำไมถึงมากันเยอะขนาดนี้ล่ะ คือโอเคแหละทางด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ระบุว่าโทนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ในอีกทางเราเองก็ไม่สามารถรู้อะไรได้ เขาพูดอะไรเราก็เชื่อนะ เพราะถ้าทุกคนอ่านมา ปู่เทียนเขาจะบอกกับโทนตลอดว่า


กินตาตามที่หมอสั่งด้วยนะไอ้ลูกหมาน้อย พ่อทศก็บอกให้พักผ่อนเยอะๆกินยาเยอะๆ คือทั้งสองคนพูดไปในทางเดียวกันว่าป่วยก็ต้องกินยาตามหมอสั่งไม่ใช่เหมือนสมัยนี้แหละ เอะอะอะไรก็พาไปหาร่างทรง คือเราไม่ได้ว่านะ เพราะจนมาถึงตอนนี้ที่นั่งเขียนเราเชื่อว่าร่างทรงดีๆก็มี แต่ท่านจะไม่เปิดเผยหรอก


คนที่รู้จักเราว่ารู้จักเพราะปากต่อปากมากกว่า แต่ ณ ช่วงนั้น ตอนนั้นก่อนที่จะมาเจอกับปู่เทียน ย่าหอม พ่อทศ แม่ทิพย์ บอกตามตรงว่าเรื่องพวกนี้เรายี๋มากเลยอ่ะ แบบเวลามีเรื่องอะไรมาสักพัก ยกตัวอย่างเด็กหายในบางเคส แปปก็มาละร่างทรงมาละ ทรงนู่น ทรงนี่ ทั้งๆที่วันก่อนจะเกิดเหตุ ยังเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ พอมีข่าวก็รีบออกมาบอกว่าตัวเองเป็นร่างทรงนู้นนี่นั่น แบบดูข่าวบางทีก็เยอะจนเอียนนะบอกตรงๆ


แต่ว่าพอมาเจอ ปู่เทียน กับย่าหอม ไม่รู้ดิ่ เราก็อธิบายอะไรไม่ออก อาจจะเพราะก่อนที่จะได้รู้จักปู่และย่า เราเองก็เจอเรื่องแปลกๆในบ้านสวนนี่เหมือนกัน มันเลยเป็นอะไรที่เชื่อได้ง่ายเลยล่ะ เราก็นั่งงืม งืมมม หน้ามุ่ยๆยังไงก็ไม่รู้ รู้สึกเหมือนคิ้วมันจะมาชนกันยังไงก็ไม่รู้ 


แม่ทิพย์ก็บอกนะเอาล่ะ หน้ามุ่ยจนคิ้วจะผูกโบว์กันอยู่แล้วหนูหมิว มีอะไรอยากถามป้าก็ถามมาเลยนะ จะได้ไม่เก็บไปคิดอีก ง้ะ !  พอได้ยินว่าหน้ามุ่ยเราก็รีบปั้นหน้าเลย แหะ ๆ ๆ ๆ เอ๊ะ !  เมื่อกี้แม่ทิพย์บอกว่าถามอะไรก็ได้เหรอ  ในเมื่อแม่ทิพย์พูดมาแบบนี้. . . เราก็เลยถาม แล้วตะวันล่ะคะ ทำไมถึงเปลี่ยนชื่อจากตะวันมาเป็น - ชื่อปัจจุบัน - แม่ทิพย์มองหน้าเราแล้วถามหืมม หนูหมิวไปรู้ชื่อนี้มาจากไหน ป้าว่าป้าไม่เคยบอกนะ


เราก็แบบงืม.. โทนเคยบอกแม่หมิวค่ะ แม่ก็เลยมาบอก. . . พอดีมันมีเรื่องนิดหน่อยที่ต้องใช้ชื่อจริงๆของโทนในการแก้ปัญหาน่ะคะ ง่ะ.. พูดแบบนี้แม่ทิพย์จะเชื่อไหมเนี่ย แต่แม่ทิพย์ก็มองไปที่คุณน้าคนสนิทย่าหอมแล้วก็พูดว่า ซนอีกแล้วแน่ๆ


... อ้าวแม่ทิพย์ไม่ถามอะไรเลยเหรอ...  แม่ทิพย์เขาก็บอกนะว่า  มันก็เป็นความเชื่อของทางบ้านย่าเขานั่นแหละ ต้องใช้เวลาในการกำหนดอะไรหลายๆอย่าง พอถึงกำหนดการตั้งชื่อว่าตะวัน ก็กลายเป็นไม่ค่อยดีกับตัวโทน


ตะวันนั้นย่าเขาตั้งใจจะใช้ชื่อตะวันเพื่อข่มอะไรหลายๆอย่างในตัวโทนและเสริมดวงนั่นแหละ แต่กลายเป็นไปเพิ่มให้มันแรงขึ้น ตัวโทนน่ะคือลม แล้วพอได้ความร้อนจากดวงตะวัน มันก็เลยไปกันใหญ่เลย ไม่สบายบ่อยๆ  ได้ตั้งชื่อว่าตะวันตอน 3 เดือน ผ่านไปไม่เท่าไรต้องละชื่อนี้ไว้เลยแหละนะ แม่ทิพย์พูดไปแล้วก็หันผัก หั่นเนื้อต่อ คุณน้าก็พูดต่อว่า กว่าจะได้ชื่อก็เกือบๆ 9 เดือนใช่ไหมพี่ทิพย์


แม่ทิพย์บอกอื้ม..  ช่วงเวลาที่รอ พ่อเขาก็เรียกไอ้ลูกหมา เหมือนที่ปู่เขาเคยเรียกพ่อ ส่วนปู่ก็เรียกไอ้ลูกหมาน้อยนั่นแหละ  อ๋ออออออ  แบบนี้นี่เอง ที่ปู่เทียน กับ พ่อทศถึงเรียกแบบนี้ย และการที่ย่าหอมเรียกว่าไอ้ตัวเล็ก ก็คงจะเหมือนกันแน่ๆ เราก็ถามว่าอ้าวแล้วในใบเกิดล่ะคะแม่ทิพย์ แม่ทิพย์ก็หัวเราะแล้วบอกว่าก็ลงไปว่าน้องตัวเล็กนั่นแหละ


แล้วคุณน้าก็บอกตอนนั้นที่พากลับหมู่บ้านก็เลี้ยงยากน่าดูเลยเนอะพี่ทิพย์ เราหันไปมองแม่ทิพย์ทันที คือแม่ทิพย์ยิ้มแล้วเหมือนจะหัวเราะ แม่ทิพย์พูดอีกพอเป็นไข้ครั้งนึงนอนกันไม่ได้ไป 3 บ้านแปดบ้าน ร้องลั่นไปทั่วคุ้งน้ำเลย


เราก็บอกโหยย เสียงดังขนาดนั้นเลยเหรอคะ.... เดี๋ยวนะ คุ้งน้ำ คุ้งน้ำคืออะไรไม่เข้าใจคำศัพท์นี้อ่ะ แม่ทิพย์บอกตอนเด็กๆก็ต้องรักษาด้วยสมุนไพรบ้าง สลับกับยาหมอแผนปัจจุบันบ้าง จนได้ชื่อใหม่จากย่าแล้วก็ฤกษ์จากหลวงพ่อ พอตั้งชื่อนี้ทำบุญตามสมควร หลังจากนั้นอะไรๆก็ดีขึ้นนั่นแหละ


... งืมม แบบนี้พอจะเข้าใจแล้ว... ว่าทำไมไอ้ลิงบ้าถึงดื่มน้ำว่านหนุมานยกทัพได้แบบสบายๆ แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจก็คือ.. ทำไมแพ้ยาจีน เราก็บอกแม่ทิพย์ไปตรงๆว่า ตอนกินน้ำว่านของปู่เทียนคือกินง่ายๆมากเลยค่ะแม่ทิพย์ กินเหมือนมันเป็นน้ำหวานเลยค่ะ แต่กับยาจีนโหยนั่งมองถ้วยยาเกือบ 5 นาทีไม่ยอมกินสักที


แม่ทิพย์ก็ขำแล้วบอกว่า มันไม่มีอะไรที่เข้ากับคนเราได้ทั้งหมดหรอกหนูหมิว ยังไงซะคนเราก็มีเรื่องที่ทั้งชอบและไม่ชอบ เข้ากันได้และเข้าไม่ได้นั่นแหละ งืมมมม ตอนนั้นลมพัดแว๊ปนึงเราก็สะดุ้งเลย เพราะกลิ่นจางๆที่ลอยมามันเป็นกลิ่นที่เราได้สัมผัสได้ตอนอยู่โรงพยาบาล เรามองซ้าย มองขวา เลย แล้วตอนนั้นก็ท่าสูดกลิ่นอ่ะอย่างแรกที่ชัดเลยคือ.  . . . ลอยมาจากทางที่น้าคนสนิทย่าหอมกำลังนั่งอยู่

 

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

Slave

เรื่องลี้ลับเกี่ยวกับพระเอกเรานี่​  เยอะจัง.. แต่น่าสนใจ.. และน่าติดตามมากครับ.. ขอบคุณ​มาก​ครับ​

munkza


$$$

ต้องเปลี่ยนชื่อจากตะวันเป็นโทน มีที่มาที่ไปแบบนี้เอง

Au Nanma

เจ๊หมิวถามเยอะๆเลย แม่ทิพย์เปิดโอกาสแล้ว

suiius

ว่ากันตามจริงตัวชื่อนี้มีผลกับบุคคลมากนะครับ เค้าจะดูการตั้งชื่อว่าต้องเหมาะสมและเกื้อกูลกับคนๆนั้นจริง ตามที่แม่โทนบอกเลยครับ

okai

เหมือนได้อ่านนิยายเกี่ยวกัยมนตรา ไสยเวทเลยนะครับ.. มีหลายมิติมากครอบครัวนี้

iIiน้ำIIข็๋Jปั่นiIi

เพิ่งกลับไปอ่านตอนแรกๆอยู่พอดีเลย
จากตอนแรกเป็นชีวิตวัยรุ่นปกติจนตอนนี้กายเป็นแนวเรื่องลี้ลับไปซะแล้ว 555

freedom-more

#8
เรื่องการตั้งชื่อนี่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วสินะคับ อย่างว่าแหละเนาะหลายๆคนถึงได้มีการเปลี่ยนชื่อตอนโตๆกันแล้ว

เอ้าา อย่าบอกนะว่าเจ๊หมิวสัมผัสได้อยู่คนเดียวทั้งครอบครัวหน่ะ ฮาๆ

j_manus


natt4556

เหมือนจะมีบางอย่าง อยากทักทายเบาๆ 

หลอนมั้ยนั่น

ton29048

เรื่องลี้ลับมากขึ้นทุกวันเลยนะ โทน

au2000

เข้มข้นลึกลับ เพิ่มขึ้นเรื่อยเลย

eltas007


เสรี ชัยยา

เรื้องลี้ลับมีมาแต่ครั้งโบราณแล้วหละ...ก็ต้องเชื่อไว้บ้างครับ