ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 38 : คุณหนูผู้น่าสงสาร Part 1

เริ่มโดย nato87, มิถุนายน 06, 2023, 08:55:52 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : มาติดตามกันต่อนะครับ ช่วงนี้ผมต้องสวมบทเป็นป๋าดันน้องลูกขวัญเป็นพิเศษ กับภารกิจสำคัญ นั่นคือการให้เธอได้ค้นพบความรักที่แท้จริงกับลุงพล

ซึ่งในตอนนี้จะยาวมาก เป็นบทสนทนาตึงเครียดระหว่างหมอพลอยกับน้องลูกขวัญ ผมเลยต้อง Skip เนื้อหาไปบ้าง ไม่งั้นมันจะยาว แต่มันก็ยาวอยู่ดี บอกได้แค่ว่ามันมี 3 parts เพื่อนำพาน้องลูกขวัญไปพบกับวิกฤติการณ์สำคัญในชีวิต จนนำมาสู่การตัดสินใจครั้งสำคัญ ที่ทำให้เส้นทางชีวิตของเธอและลุงพล มาบรรจบกันได้ในท้ายที่สุด

หลังจากตอนที่ 38 ซึ่งมี 3 parts ในตอนที่ 39 จะเป็นตอนที่ผมและทุกคนรอคอย นั่นคือฉากที่ลุงพลและน้องลูกขวัญจะได้ลงเอยกันสักที ซึ่งก็โคตรจะยาว และลงลึกถึงรายละเอียด ชนิดติดขอบเตียงกันเลย

และเช่นเคย คือถ้าใครตามเพจผมในเฟส จะเห็นว่าผมกำลังปั้นภาพสาว ๆ AI จากเรื่องเกมรักภารโรงเฒ่าด้วยโปรแกรม Stable Diffusion ซึ่งมันลงลึกได้มากกว่า Staryai ซึ่งตอนนี้ ผมทำไปแล้ว 5 คน คือ หมอพลอย ครูเบสท์ ลูกขวัญ ยัยอุ๊ และ ใบเฟิร์น ซึ่งตอนนี้ มีแค่หมอพลอยกับครูเบสท์เนียแหละ ที่ลงล็อคที่สุดแล้ว ส่วนอีก 3 คนที่เหลือ ภาพลักษณ์ยังไม่ค่อยนิ่ง แต่ก็พอเห็นเค้าและหน้าตาว่าประมาณไหน

แต่ก็ต้องบอกว่า ในหลาย ๆ มุม หน้าตาสาว ๆ เหล่านี้จะแอบคล้ายกัน ซึ่งผมก็พยายามปรับแก้ละ แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง AI ถึงจะดีแค่ไหน แต่มันก็มีข้อจำกัดของมันอยู่ครับ

แถมภาพ Sexy ในชุดว่ายน้ำเรียกน้ำย่อยและแก้เซ็งด้วยละกัน มันก็เลยออกมาเป็นแบบที่เห็น แต่โดยรวม สำหรับผม ถือว่าเยี่ยมเลย ยกเว้นแค่ตัวละครบางตัวอย่างน้องลูกขวัญ ที่พอทำภาพเซ็กซี่ ๆ แล้ว ภาพมันเละ และมันดูสุ่มเสี่ยงเกินไป Loli เกินไป 555+


หมอพลอย - พลอยพรรณ

คหสต : เพอร์เฟ็คสุด ๆ ละ สำหรับหมอพลอยเวอร์ชั่นนี้ ดีกว่าเดิมเยอะ





ครูเบสท์ - ภัคจิรา


คหสต : สวย ใส น่ารัก ก็ได้ เซ็กซี่ก็แซ่บ แจ่มมาก ดีกว่าเดิมเช่นกัน 5555+






ยัยอุ๊ - หทัยรัตน์


คหสต : คนนี้ผมติดภาพจำ Yuki Kashiwaki ใจจริงอยากทำแบบเดิม แต่มันไม่มี Lora เจ้าตัว ผมเลยต้องปั้นเอง ซึ่งมันก็ดีแหละ แต่ยังรู้สึกไม่ชินกับภาพลักษณ์ใหม่






ใบเฟิร์น - เนตรชนก

คหสต : คนนี้ตรงปกกับไอด้อลต้นฉบับอย่าง Yagami Kumi ที่สุดละครับ โอเคละ back to basic แต่ยังไม่เสถียรนัก





ลูกขวัญ - ภาสินี


คหสต : back to basic ผมพยายามทำให้น้องลูกขวัญมีกลิ่นอายของ Haruka Shimazaki บ้างนิดหน่อย เพิ่มความละมุน ความใสเข้าไป แต่ยังไม่เสถียรนัก





**คนนี้ดูได้แค่ภาพ Portrait ครับ ยังไม่เสถียรสุด ๆ ทำภาพ sexy ไม่ผ่านอย่างแรง สุ่มเสี่ยง LOLI เกินไป**


ความเดิมตอนที่แล้ว


//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=271994.0

บ้านถิ่นทวีพัฒนา

หลังจากเวลาผ่านพ้นไปได้สักพักใหญ่ รถ Nissan GTR สีบรอนซ์ รุ่นปี 2017 ของภูวนาทก็แล่นเข้ามาภายในบ้าน พร้อมกับการปรากฏตัวของหนุ่มเพลย์บอยในชุดสูทสีดำภายในห้องรับแขก

"อ้าว!!! นายหัวบอย!!! มาแล้วเหรอ!!?? แหม่!!! นึกว่าจะรักงานจนไม่ยอมกลับบ้านซะแล้ว!!! พ่อนักธุรกิจใหญ่!!!" นายหัวภูชิตกับคุณอัญชันที่นั่งรอลูกชายคนโตอยู่ภายในห้องรับแขก เอ่ยปากทักทายเชิงเหน็บแนม "ธุรกิจร้อยล้านสำคัญถึงขนาดลืมนัดพ่อกับแม่วันนี้เลยรึ?"

"สวัสดีครับคุณพ่อ คุณพ่อก็พูดเกินไป" เมื่อมาถึง หนุ่มบอยก็พนมมือไหว้นายหัวภูชิตและคุณอัญชัน "สวัสดีครับคุณแม่ ขอโทษจริง ๆ ครับวันนี้ผมติดประชุม นึกว่าจะเลิกเร็ว ที่ไหนได้..."

"แย่มากเลยนะบอย" คุณอัญชันที่นั่งอยู่ออกโรงตำหนิลูกชายคนโต "แม่อุตส่าห์บอกเราล่วงหน้าเป็นเดือน ว่าวันนี้แม่จะขึ้นมาที่กรุงเทพ อยากจะกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาสี่คนพ่อแม่ลูกซะหน่อย แต่นี่อะไรกัน!!?? ว่าแต่เรากินข้าวมาหรือยัง!!??"

"ยังเลยครับ" ภูวนาทเอามือกุมที่ท้อง "เนี่ย!!! ประชุมเสร็จ ผมก็รีบขับรถกลับบ้านมาเลยครับ ไม่ได้เถรไถลไปไหนเลย หิวด้วย!!!"

ระหว่างที่ภูวนาทเดินผ่านนายหัวภูชิต หนุ่มใหญ่ผู้ทรงอำนาจจากปักษ์ใต้ก็ร่นคิ้ว เมื่อได้กลิ่นหอมฟุ้งจากร่างกายของลูกชายตัวแสบอย่างภูวนาท

"แหม่!!!" นายหัวภูชิตสบถ "ประชุมอะไรของมึงเอ้าไอ้บอย!!! กลิ่นสบู่ฟุ้งเชียว!!!"

คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างนายหัวภูชิต รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แต่เพราะไม่อยากหักหน้าลูกชายต่อหน้าภรรยาอย่างคุณอัญชัน จึงละเอาไว้ ในฐานที่เข้าใจกันระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย

"นั่นซิ!!!" พอสามีทักแบบนี้ คุณอัญชันก็เริ่มเอะใจ แต่ด้วยความไม่รู้เท่าทันสามีอย่างนายหัวภูชิต เลยทำให้เธอยังไม่เอะใจ "บอย!!?? ลูกอาบน้ำจากที่ทำงานมาเหรอ!!??"

"อ้อ!!! พอดีที่ทำงานของผมมีฟิตเนส แล้วก็มีห้องอาบน้ำด้วยน่ะครับ วันนี้ผมไปออกบู๊ตมา รู้สึกเหนียวตัว เลยแวะอาบน้ำก่อนกลับบ้านน่ะครับคุณแม่" เจ้าบอยอาศัยไหวพริบเอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิด อัญชันผู้เป็นแม่ดูเหมือนจะเชื่อ แต่นายหัวภูชิต แอบเหล่มองและแสยะยิ้มที่มุมปาก เพราะรู้สันดานลูกชายดี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น นอกจากอมยิ้มอยู่คนเดียว "เอาละ ๆ ผมหิวแล้วละครับ มีอะไรให้ผมกินมั่งเนี่ย!!??"

"กับข้าวอยู่ในห้องครัว" นักธุรกิจสาวใหญ่จากภูเก็ตตอบ "ยังอุ่น ๆ อยู่เลย รีบไปกินเถอะบอย"

"ครับแม่" แล้วภูวนาทก็เหลือบมองซ้ายขวา และชั้นบนของบ้าน "แล้วลูกขวัญละครับ?"

"ขึ้นไปอาบน้ำ พักผ่อนแล้ว" ผู้เป็นแม่ตอบอีกครั้ง "บอย รีบไปกินข้าวเถอะ อย่ามัวโอ้เอ้อยู่เลย"

"ครับ" คาสโนว่าหนุ่มพยักหน้า "ถ้างั้น ผมขอตัวไปกินข้าวก่อนนะครับ"

หลังจากภูวนาทเดินจากไป สองสามีภรรยาอย่างนายหัวภูชิตและคุณหญิงอัญชัน ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกก็หันมามองหน้ากัน

"เจ้าบอยกลับมาแล้ว" อัญชัญค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้หลุยส์ไม้สักแกะสลัก "คุณภู ไปคุยกันต่อที่ห้องทำงานเถอะ"

"ได้" แล้วนายหัวภูชิต ก็ลุกขึ้น และเดินตามภรรยาคู่ชีวิตไปที่ห้องทำงาน เพื่อปรึกษาหารือเรื่องคดีความที่กำลังเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศในตอนนี้

..................

ห้องนอนของภาสินี

"แต่อย่าเพิ่งถาม หาเลยเหตุผล ที่ทำให้ฉันเสียอาการ ต้านทานไม่ไหว ในแรงดึงดูดของเธอ ที่ทำให้ฉันเผลอไป you make me feel so high เปล่าเปลี่ยในใจกว่าทุกที..."

โน๊ตบุ๊คของภาสินี เปิดเพลง คืนนี้ ของวง Jetset'er ที่เธอชอบ สาวน้อยในชุดนักศึกษา กำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เพื่อถอดต่างหู และเครื่องประดับบนร่างกาย ก่อนปลดกระดุมนักศึกษาออก พร้อมกับร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี

"แค่ในคืนนี้ ฉันต้องการจะรู้ว่าเธออยู่หนใด อยากให้รู้ตัวไว้ ว่ามีใครคิดถึง หวังเพียงเธอจะซึ้งถึงใจที่มี ฉันต้องการเธอที่สุดในคืนนี้ Oh baby..."

กระโปรงนักศึกษาของเธอถูกปลดซิป และหล่นลงมากองตรงปลายเท้า ในตอนนี้ ภาสินีเหลือเพียงแค่ชุดชั้นในแบบสปอร์ตบราไร้ตะขอ

"รู้สึกมีน้ำมีนวลขึ้นนะเรา" ลูกสาวนายหัวยืนสำรวจสัดส่วนรูปร่างของเธอตัวเองบนกระจกหน้าเครื่องแป้ง เธอใช้มือเค้นหน้าอกเล็ก ๆ เป็นกระเปาะ "เรียนมหาลัย แต่นมยังไม่ใหญ่ขึ้นเลยอ่ะ!!!"

ดูเหมือนว่าภาสินี จะมีความกังวลกับรูปร่างสัดส่วนของตัวเอง เนื่องจากเพื่อนร่วมรุ่นของเธอหลายคนต่างเริ่มมีทรวดทรงองค์เอว แต่กับตัวของเธอ ยังดูเหมือนเด็กสาวที่เพิ่งขึ้น ม.ปลาย ยังไงยังงั้น ซึ่งมันทำให้ลูกสาวนายหัวดูไม่ค่อยพอใจกับสรีระของตัวเองนัก

ว่าแล้วเธอก็หันหลังให้กระจกโต๊ะเครื่องแป้ง จนเผยให้เห็นขอบยกทรงสปอร์ตบราสีขาว กางเกงชั้นในสีขาว ตัดกับผิวขาวนวลของเธอ ลูกสาวนายหัวเอามือท้าวเอว ก่อนโยกเอวซ้ายขวา สำรวจรูปร่างของตัวเอง

แล้วลูกขวัญก็นึกครึ้มอักครึ้มใจอะไรก็ไม่ทราบ เธอยืนหันหลังโยกเอวหน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนที่จะเอื้อมมือถลกขอบกางเกงชั้นในออก จนเผยให้เห็นแก้มก้นขาวเนียน

"อืม..." สาวน้อยภูเก็ตยิ้ม "ข้างบนไม่ใหญ่ แต่ตูดเริ่มบานละ ไม่ยุติธรรมเลยชีวิต!!!"

แล้วทันใดนั้น เสียงไลน์ก็ดังจากโน๊ตบุ๊คและสมาร์ทโฟน ว่าแล้วภาสินี ก็รีบถลกกางเกงชั้นในขึ้น ก่อนรีบไปประจำโต๊ะอ่านหนังสือ เพื่อเช็คว่าใครทักมา

"ทักคับ ถึงบ้านยังเอ่ย?"

"ถึงแว้ววว พี่แบงค์ทำไรอยู่คะ"

"ก็นั่งคิดถึงขวัญไงละ"

"นั้มเน่าอ๊า!!! >/"

ภาสินียืนพิมพ์โต้ตอบศาสตรา หนุ่มนักกฎหมายปีสามที่กำลังคบหากันอยู่อย่างมีความสุข ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นไปได้ด้วยดีเลยทีเดียว

"พี่แบงค์ เด๋วขวัญขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ"

"ขออาบด้วยคนจิ"

"บร๊าหรา!!! มั่ยด้ายยย!!!"
ลูกสาวนายหัวยิ้มหวาน ขณะกำลังพิมพ์โต้ตอบชายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนที่เธอจะขอตัวไปอาบน้ำแล้วจึงจะกลับมาพิมพ์ไลน์คุยกันต่อในภายหลัง

..................

40 นาทีต่อมา

หลังอาบน้ำเสร็จ ภาสินีในชุดนอนสีพาสเทล นั่งแช็ตคุยไลน์กับศาสตราอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่เธอจะขอตัวไปหาน้ำกินที่ชั้นล่าง

"พี่แบงค์ เดวขวัญไปหยิบน้ำมากินก่อนนะ"

"ได้คับ รอนะ"

"คร่า!!!" แล้วภาสินีก็ส่งสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ให้ศาสตราที่รออยู่

หลังจากนั้น หมวยเล็กจากภูเก็ตก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนของเธอ เพื่อลงชั้นล่างไปเอาน้ำมาดื่มบนห้อง ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว จะมีเพียงแค่แสงไฟสีส้มสลัวที่แขวนอยู่บนเพดานคอยบอกทางเท่านั้น

พอเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ระหว่างทางที่จะไปห้องครัว ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังเล็ดลอดออกมาจากห้องทำงานของคุณพ่อ

"พรุ่งนี้ผมจะเรียกประชุมทีมงานและทนายความ"" เสียงทุ้มของนายหัวภูชิตดังขึ้นจากโต๊ะทำงาน "ผมจะบอกกับทุกคนว่า นี่เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง เป็นการเล่นสกปรกโดยพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง เพื่อหวังผลการเลือกตั้งในสมัยถัดไป"

"ถ้าทำแบบนี้ คุณคิดว่าลูกของเรากับน้องพลอยจะมองหน้ากันติดเหรอ?" แล้วอัญชันผู้เป็นภรรยาก็ถามกลับ "อะไรมันจะบังเอิญได้ขนาดนี้ ลูกของเรากับน้องพลอยดันอยู่ที่เดียวกันอีก ถ้าชั้นรู้ว่ามันจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น ชั้นคงไม่ให้ลูกขวัญไปเรียนที่นั่นหรอก"

"ผมก็ไม่ได้อยากทำหรอกคุณอัญ" นายหัวภูชิตตอบ พร้อมกับเสียงถอนหายใจ "ก็ฝ่ายนั้นทำเราก่อน แล้วจะให้ผมทำยังไง? ถ้าอะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด แล้วค่อยไปแก้ปัญหาหน้างานเอาก็แล้วกัน"

"ชั้นไม่อยากให้คุณทำแบบนี้เลย" สาวใหญ่นักธุรกิจเผยความรู้สึกออกมา เพราะความเป็นห่วงลูกสาว "จะทำอะไร ก็คิดถึงใจลูกสาวของเราบ้างเถอะ"

"อั่ยหย่ะ!!! คุณอัญ!!!" พอได้ยินแบบนี้ หนุ่มใหญ่ภูเก็ตถึงกับฉุนเฉียว "แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงหล่าว!!?? จะให้ผมไม่ตอบโต้อะไรงั้นรึ!!! ไม่ด้าย ๆ ผมทำไม่ด้าย!!! เรื่องนี้มันเกี่ยวกับครอบครัวของเรานะคุณ!!! เรื่องนี้สำคัญมาก!!!"

"เฮ้อ!!! ปวดฮั้ว!!!" เสียงถอนหายใจของคุณอัญชันดังขึ้น "เก๊กซิ้ม...ไม่รู้จิพูดไรเลยนิ!!!"

"ที่สำคัญคือ..." นายหัวภูชิตพูดขึ้นมา "ต้องตามตัวไอ้ลอยให้เจอก่อน ถ้าเจอมัน ทุกอย่างจะง่ายขึ้น ผมมั่นใจว่าต้องมีใครไหว้วานให้ไอ้ลอยทำเรื่องพันนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้วิทยาแระคุณอัญ!!!"

ภาสินีได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เธอก็รู้สึกไม่สบายใจ เมื่อรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ระหว่างครอบครัวถิ่นทวีพัฒนาและครอบครัวจารุศิริการกุลกำลังอยู่ในสภาวะตึงเครียด และที่สำคัญ สองสาวผู้เป็นทายาทของสองตระกูลนี้ ยังอยู่ร่วมสถาบันเดียวกัน เพียงแต่แตกต่างกันคนละสถานะ พลอยพรรณอยู่ในฐานะแพทย์ประจำวิทยาลัยพยาบาล ส่วนภาสินี เป็นนักศึกษาแพทย์ศาสตร์ชั้นปีที่หนึ่ง

ซึ่งมันก็จริงอย่างที่คุณอัญชันผู้เป็นแม่ของเธอได้กล่าวเตือนนายหัวภูชิตผู้เป็นสามีว่า หากคิดจะทำอะไร ให้คิดถึงสถานะและจิตใจของลูกสาวอย่างภาสินีบ้าง แต่นายหัวภูชิตเองก็มีเหตุผลของตัวเอง ถ้าไม่ตอบโต้อะไรกลับไป ไม่ใช่แค่อนาคตทางการเมืองของตนที่จะดับวูบลง แต่ชื่อเสียงของครอบครัวถิ่นทวีพัฒนาก็จะพลอยเสียหายไปด้วย ซึ่งมันก็ถูก จะยอมตกเป็นฝ่ายถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว มันเป็นไปไม่ได้

สุดท้าย ลูกสาวนายหัวก็เดินคอตก ไปหยิบน้ำดื่มจากตู้เย็น ก่อนเดินกลับออกมาทางเดิม ระหว่างที่กำลังเดินกลับขึ้นชั้นสอง นายหัวภูชิตและคุณอัญชันก็เปิดประตูออกมาจากห้องทำงานพอดี

"อ่าว? ยังไม่นอนอีกเหรอลูกขวัญ?" คุณอัญชัน เอ่ยปากถามลูกสาวที่เดินถือขวดน้ำเปล่าอยู่ตรงตรง

"หนูหิวน้ำค่ะแม่ ก็เลยลงมาหยิบน้ำชั้นล่าง" ภาสินีตอบ "แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่นอนอีกเหรอคะ?"

"คุยธุระกันน่ะลูก" ไม่ว่ายังไง แม่ก็คือแม่ อัญชันยิ้มให้ลูกสาวคนเล็ก "พรุ่งนี้ต้องไปที่มหาวิทยาลัยอีกไม่ใช่เหรอ? รีบขึ้นไปนอนพักผ่อนได้แล้วลูก"

"ค่ะ กำลังจะไปเนี่ยแหละ" หมวยเล็กจากภูเก็ตตอบ "หนูขอตัวก่อนนะคะ"

"ฝันดีนะลูก" นายหัวภูชิตเอ่ยคำราตรีสวัสดิ์ให้ภาสินี ที่กำลังเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ก่อนที่จะหันมามองหน้าคุณอัญชัญผู้เป็นภรรยา "คุณว่าลูกขวัญได้ยินที่เราสองคนพูดไหม?"

"คงไม่มั้ง" คุณอัญชันยืนกอดอกมองชั้นสอง ด้วยท่าทางกังวล เธอกลัวว่าลูกสาวจะได้ยินทุกอย่างที่เธอและสามีพูด แต่ก็ไม่ได้พูดออกมาตามตรง "เฮ้อ!!! ชั้นเริ่มง่วงแล้วคุณภู ขึ้นห้องเถอะ พรุ่งนี้ชั้นต้องไปประชุมกับลูกค้าอีก"

แล้วสองสามีภรรยา ก็เดินขึ้นชั้นสอง เพื่อกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอน ตามหลังลูกสาวคนเล็กอย่างภาสินีไปติด ๆ

..................

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

"ค่ะท่านคะ ทุกคนอยากทราบว่ามันคือเรื่องจริงหรือเปล่า ที่ท่านไหว้วานให้คนที่ชื่อลอยศักดิ์ไปแบล็คเมลล์นักการเมืองผู้กว้างขวางท่านหนึ่ง มันจริงหรือเปล่าคะ"

"สำหรับข่าวเรื่องคลิปเสียงที่ออกมานั้น ผมขอยอมรับว่า ผมรู้จักกับคนที่ชื่อลอยศักดิ์จริง นายคนนี้เป็นอดีตลูกน้องของนักการเมืองผู้กว้างขวางคนหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่านายลอยกับนักการเมืองผู้กว้างขวางคนนี้ มีปัญหากินแหนงแคลงใจกันอย่างไรไม่ทราบ ในภายหลัง นายลอยจึงมาขอทำงานกับผมน่ะครับ"

สถานีโทรทัศน์และสื่อโซเชียล ต่างนำเสนอการแถลงข่าวของท่านภูชิต ถิ่นทวีพัฒนา ณ ภูเก็ต กับประเด็นข่าวเรื่องการแบล็คเมลล์นักการเมืองผู้กว้างขวางของชลบุรี ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเป็นท่านวิทยา เพียงแต่ไม่สามารถเอ่ยนามอย่างตรงไปตรงมาได้

"ผมเองก็ไม่ได้มีประเด็นบาดหมางอะไรกับนักการเมืองผู้กว้างขวางคนนี้ ความจริงทางพรรคของผม กับพรรคของท่าน ก็เคยทำงานร่วมกันในวิปรัฐบาล ผมเองก็คาดไม่ถึงว่าทุกอย่างมันจะลงเอยแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของผมและครอบครัวของท่าน ก็มีแผนการที่จะปรองดองเป็นทองแผ่นเดียวกันแท้ ๆ"

"หมายถึงคุณภูวนาทกับคุณหมอพลอยพรรณใช่ไหมคะ?" นักข่าวยังคงถามต่อ "เกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่เหรอคะท่าน? จำได้ว่าเคยมีข่าวว่าคุณภูวนาทกับคุณหมอพลอยพรรณจะเข้าพิธีหมั้นในไม่เหรอคะท่าน แล้วทีนี้มันเกิดอะไรขึ้น"

"จะไม่มีงานหมั้นเกิดขึ้น มันเป็นเหตุผลส่วนตัวของเด็กทั้งสอง ซึ่งผมก็ต้องเคารพต่อการตัดสินใจของลูกชายผมอย่างภูวนาท และตัวของหนูพลอยพรรณเอง ซึ่งผมในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ คงพูดอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยครับ" นายหัวภูชิตยิ้ม "แต่ประเด็นคือ ผมอยากจะคุยกับนักการเมืองผู้กว้างขวางคนนี้ ว่าตกลงท่านจะเอาแบบนี้หรือ? ท่านจะเปิดศึกผมกับจริง ๆ งั้นหรือ? ท่านเองก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่หรือ? ว่าท่านทำอะไรให้นายลอยไม่พอใจ นายลอยจึงมาขออาศัยกับผม แล้วทีนี้ ท่านก็เล่นสกปรก ด้วยการตัดต่อ บิดเบือนคลิปเสียงเพื่อใส่ร้ายแบล็คเมลล์ผม ผมอยากจะถามท่านอย่างตรงไปตรงมาเหลือเกิน ว่าท่านคิดอะไรอยู่? ผมกับท่านไม่เคยบาดหมางกัน ท่านโกรธหรือเกลียดอะไรผมหรือ? ทำไมต้องมาเล่นการเมืองสกปรกแบบนี้ด้วย?"

จากการแถลงข่าวของนายหัวภูชิต ก็ยิ่งโหมกระแสความดังของความขัดแย้งระหว่างสองตระกูลใหญ่อย่างถิ่นทวีพัฒนาและจารุศิริการกุล ซึ่งกลายเป็นข่าวดังที่อยู่ในความสนใจของคนทั่วประเทศ และนำมาสู่ข่าวลือต่าง ๆ นา ๆ

ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้น ทั้งสองตระกูลใหญ่เองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถึงขนาดจะให้ลูกชายและลูกสาวของตระกูลมาแต่งงาน ทุกคนรู้ดีว่า ภูวนาท เป็นหนุ่มนักธุรกิจไฮโซหน้าตาดี แต่ก็มีข่าวฉาวเรื่องความเจ้าชู้ และเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับนักแสดงสาว นางแบบสาวแถวหน้าของประเทศมานับไม่ถ้วน ส่วน พญ.พลอยพรรณ ก็เป็นคุณหมอคนเก่งประจำวิทยาลัยพยาบาล ลูกสาวคนโตของท่านวิทยา เพียงแต่ตัวเธอไม่ค่อยชอบทำตัวให้เป็นข่าวเท่าใดนัก

และความกลัวของคุณอัญชัน ก็เกิดขึ้นจริง เพราะการแถลงข่าวดังกล่าว เลยทำให้ภาสินี เป็นที่รู้จักกันไปทั่ววิทยาลัยพยาบาล ในฐานะลูกสาวของนายหัวภูชิต และทุกคนต่างสงสัยกันว่า เธอและหมอพลอยจะเข้าหน้ากันติดได้อย่างไร

"ภาสินี..." พี่เปิ้ลผู้ช่วยหมอพลอย เดินมาตามภาสินี หลังเลิกเรียน เพื่อให้ไปพูดคุยกับหมอพลอยเป็นการส่วนตัวที่ห้อง "หมอพลอยมีธุระจะคุยกับเราน่ะ"

"ค่ะ" ภาสินีพยักหน้า ก่อนหันไปเอ่ยคำลาศรันย์พรที่เดินมากับเธอ "ขอตัวก่อนนะน้ำปั่น แล้วพรุ่งนี้เจอกัน"

"อือ..." น้ำปั่นโบกมือลา ก่อนทำหน้านิ่งด้วยความสงสัยเหมือนที่ใครต่อใครในวิทยาลัยพยาบาลคิด ว่าความขัดแย้งระหว่างนายหัวภูชิตกับท่านวิทยานั้น จะทำให้สองสาวอย่างลูกขวัญและภาสินีเข้าหน้ากันติดได้อย่างไร

..................

ห้องทำงานของพลอยพรรณ

"สวัสดีค่ะ" ภาสินี ในชุดนักศึกษาพนมมือไหว้พลอยพรรณในชุดเดรสคอเต่าแขนกุดที่นั่งอยู่ตรงหน้า

"เชิญนั่งจ๊ะ" พลอยพรรณผายมือให้ภาสินีนั่ง ก่อนที่จะเปิดประเด็น "พี่เห็นข่าวคุณพ่อของเราแถลงข่าวแล้วนะ นี่ตกลงครอบครัวลูกขวัญต้องการแบบนี้จริง ๆ เหรอ?"

"พี่พลอย?" ลูกสาวนายหัวร่นคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ "พี่พลอยพูดแบบนี้หมายความว่าอะไรคะ? เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะพี่ไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมาโยนความผิดให้หนูกับครอบครัวละ!!??"

"พี่ไม่ได้โยนความผิดให้เราสักหน่อย" ในตอนนี้ เจ้าหญิงน้ำแข็งได้สูญเสียความสุขุมลุ่มลึกของตัวเอง จากอารมณ์ที่ไม่เสถียรด้วยความเครียดที่เกิดจากหลายสาเหตุ "แต่มันเป็นความผิดของพี่ชายเรา ที่บีบบังคับพี่มากเกินไป รวมไปถึงคุณพ่อของเราด้วย"

"พี่พลอยคะ..." ไม่อยากจะเชื่อ ว่าภาสินีจะได้ยินคำพูดที่เห็นแก่ตัวแบบนี้จากคนที่เธอเคารพ "หนูอาจจะเด็ก แต่หนูไม่ใช่คนโง่นะคะ หนูขอร้องละคะพี่พลอย อย่าพยายามเบี่ยงประเด็น เพื่อให้ตัวเองเป็นฝ่ายถูกเพียงอย่างเดียว ไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะ ว่าพี่พลอยจะเป็นได้ถึงขนาดนี้?"

พลอยพรรณนิ่งเงียบ เธอเมินหน้าไปทางอื่นด้วยท่าทางเรียบเฉย ก่อนที่จะก้มหน้า และหันกลับมาเผชิญหน้ากับอดีตลูกศิษย์สาวของเธออย่างตรงไปตรงมา

"แล้วพี่มีทางเลือกอื่นไหมละ?" หมอพลอยถามกลับ "พี่ไม่ได้ชอบ และไม่ได้รักพี่ชายเรา แถมคุณพ่อของเรายังมาเหลี่ยมแปดเหลี่ยมคมกับคุณพ่อของพี่และตัวพี่ พี่ควรทำยังไงดี? ตอบพี่ไม่ได้ไหมละลูกขวัญ?"
"แต่ก็ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ไม่ใช่เหรอคะ?" ภาสินีย้อนถาม "นี่คือการเอาคืนของพี่พลอยซินะคะ และหนูจะบอกพี่นะ ว่าพี่ทำสำเร็จแล้ว มันไม่ใช่แค่ตัวพี่ชายของหนู คุณพ่อ คุณแม่ของหนู แต่รวมถึงตัวหนูด้วย นี่หนูถามพี่พลอยจริง ๆ เถอะคะ เพราะไม่อยากแต่งงานกับพี่ชายหนู พี่เลยต้องทำลายครอบครัวหนูเลยใช่ไหมคะ?"

"พี่ไม่ได้อยากจะทำสักหน่อย!!!" พลอยพรรณเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ "เห๊อะ!!! มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้เลย!!??"

แล้วบรรยากาศระหว่างสองสาวก็ตกอยู่ภายใต้ความตึงเครียด พลอยพรรณเองก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร เธอเพิ่งมาคิดได้ในตอนหลังว่า กับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป มันรุนแรงเกินกว่าเหตุ จนทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างภาสินีต้องได้รับความเดือดร้อนไปด้วย

"หนูเข้าใจ ว่าพี่ไม่อยากแต่งงานกับพี่บอย" ลูกสาวนายหัวเริ่มหลั่งน้ำตาออกมา "ฮือ...ฮือ...หนูรู้ ว่าคุณพ่อของหนูเป็นคนยังไง แต่...ฮือ...แต่หนูเองก็อยากให้พี่พลอยเป็นพี่สะใภ้ของหนู เป็นครอบครัวเดียวกับหนู...ฮือ...หนูเองก็หวังว่าสักวันพี่พลอยจะเปลี่ยนใจ เพราะหนู...ฮือ...หนูก็พยายามบอก พยายามเตือนให้พี่บอยปรับปรุงตัว...แต่..."

"เราเองก็รู้นิสัยพี่ชายของเราไม่ใช่เหรอลูกขวัญ?" ในส่วนลึกของจิตใจ พลอยพรรณเองก็รู้สึกสงสารภาสินี แต่เมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว อะไรมันจะเกิด มันก็ต้องเกิด "เห็นบอกว่ารักพี่ จริงใจกับพี่ แต่พอหมดใจ ไม่ทันไรก็ไปควงผู้หญิงคนอื่นจนเป็นข่าวแล้ว แล้วถ้าพี่แต่งงานกับพี่ชายของเราจริง ๆ พี่จะมั่นใจได้ยังไง ว่าพี่ชายของเราจะไม่นอกใจพี่?"
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะค่ะพี่พลอย..." ภาสินีเริ่มร้องไห้หนักมาก จนพลอยพรรณต้องหยิบกล่องทิชชู่ยื่นให้ "ไม่ค่ะ หนูมีผ้าเช็ดหน้า"

ภาสินีล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพาย เพื่อหยิบกล่องกระดาษทิชชู่แบบพกมาเพื่อมาเช็ดคราบน้ำตา ระหว่างนั้นเอง ที่พลอยพรรณได้พูดอะไรออกมา

"ตกลง ครอบครัวของเราสองคน จะต้องเปิดศึกกันจริง ๆ ใช่ไหม?" เจ้าหญิงน้ำแข็งพูดขึ้นมา

"ก็พี่เป็นคนเปิดศึกก่อนไม่ใช่เหรอคะ?" ลูกขวัญตอบ "มันมีทางออกที่ดีกว่านี้ แต่พี่พลอยกลับเลือกทางที่ทำให้ครอบครัวของเราสองคนต้องเป็นศัตรูกัน แล้วหลังจากนี้เราสองคนจะยังไงต่อดีละคะ? จะเป็นศัตรูกัน? หรือว่างต่างคนต่างอยู่?"

"พี่ไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับเรา" เจ้าหญิงน้ำแข็งเปิดเผยความในใจ "พี่แค่ต้องการสั่งสอนพี่ชายของเรา แล้วก็เตือนคุณพ่อของเรา ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรไปมากกว่านั้น"

"แต่ผลลัพธ์ในสิ่งที่พี่ทำ" หมวยน้อยจากภูเก็ตตอบ "มันไม่ร้ายแรงเกินไปเหรอคะ? แล้วอีกอย่าง คนอย่างคุณพ่อของขวัญ ไม่ใช่คนที่จะมายอมให้ใครทำอยู่ฝ่ายเดียว หนูจะเตือนพี่พลอยไว้สักอย่างนะคะ เตรียมตัวรับแรงกระแทกจากคุณพ่อของขวัญให้ดีเถอะ!!!"

พอได้ยินแบบนี้ พลอยพรรณถึงกับถอนหายใจ ก้มหน้าหลับตายอมรับกับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์มันจะร้ายแรงถึงขนาดนี้ ก็ขนาดเพื่อนรักอย่างกรรณิการ์ ที่เป็นทนายความ ยังเคยออกปากเตือนว่าวิธีนี้มันรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่พลอยพรรณก็ยังดึงดันที่จะทำ พอมาถึงจุดนี้แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด

"ขอหนูถามพี่พลอยสักเรื่อง" แล้วภาสินีก็พูดขึ้นมา "พี่พลอยได้เจอคุยกับคนที่ชื่อลอยศักดิ์หรือเปล่าคะ?"

"ทำไมเราถึงพูดแบบนั้น?" หมอพลอยร่นคิ้วด้วยความสงสัย ลูกขวัญคนนี้ แม้ยังเด็ก แต่ก็ฉลาดและมีไหวพริบพอที่จะคาดการณ์ได้ว่าเธอและไอ้ลอยได้เจรจากันเพื่อนำหลักฐานที่ได้มาเล่นงานนายหัวภูชิต "เรารู้จักกับคนที่ชื่อลอยศักดิ์ด้วยเหรอ?"

 

...แต่มันจบลงแล้ว พลอยพรรณ เธอทำเกินกว่าเหตุไปหรือเปล่า?


โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ


Thanatouch MAN

แหมมาแบบซีเรียสเลยนะ แล้วจะอารมณ์ชวนสยิวหักมุขตอนจังหวะไหนดีละ

xonly-1786

ขอบคุณมากครับ หมอพลอยกับลูกขวัญ จะปรับความเข้าใจกันได้มัยครับ



amagusto

ลูกขวัญคือใสมากครับ
ไม่ทราบว่าอีกนานมั้ยครับที่ลุงพลจะได้ซั่มครูเบสอีกรอบ แบบที่ครูเต็มใจเต็มอารมณ์ครับ

Nato87: อีกนานครับ ในตอนนี้ ครูเบสท์ยังโกรธ เกลียด และสับสนกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อลุงพล เธอต้องเจอกับความร้ายกาจของหมอพลอยให้มากกว่านี้ รวมไปถึงได้เห็นลูกบ้าและความจริงใจของลุงพลก่อน เมื่อนั้นเธอถีงจะยอมเปิดใจครับ

เสรี ชัยยา

ไม่อยากให้ทั้งสองทะเลาะกันในเรื่องของคนโตและมีอำนาจนะครับ



amagusto

อ้างจาก: amagusto เมื่อ มิถุนายน 06, 2023, 10:36:12 หลังเที่ยง
ลูกขวัญคือใสมากครับ
ไม่ทราบว่าอีกนานมั้ยครับที่ลุงพลจะได้ซั่มครูเบสอีกรอบ แบบที่ครูเต็มใจเต็มอารมณ์ครับ

Nato87: อีกนานครับ ในตอนนี้ ครูเบสท์ยังโกรธ เกลียด และสับสนกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อลุงพล เธอต้องเจอกับความร้ายกาจของหมอพลอยให้มากกว่านี้ รวมไปถึงได้เห็นลูกบ้าและความจริงใจของลุงพลก่อน เมื่อนั้นเธอถีงจะยอมเปิดใจครับ

ใจนึงก็ดีใจว่าจะได้อ่านอีกยาวๆนานๆ
แต่พอบอกว่าต้องเจอความร้ายกาจของหมอพลอยก็แอบเสียใจ น่าจะไม่ได้เห็นครูกับหมอรุมลงพลแล้วครับ

NanobotS


เอเค


nato87

อ้างจาก: amagusto เมื่อ มิถุนายน 06, 2023, 11:10:29 หลังเที่ยง
อ้างจาก: amagusto เมื่อ มิถุนายน 06, 2023, 10:36:12 หลังเที่ยง
ลูกขวัญคือใสมากครับ
ไม่ทราบว่าอีกนานมั้ยครับที่ลุงพลจะได้ซั่มครูเบสอีกรอบ แบบที่ครูเต็มใจเต็มอารมณ์ครับ

Nato87: อีกนานครับ ในตอนนี้ ครูเบสท์ยังโกรธ เกลียด และสับสนกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อลุงพล เธอต้องเจอกับความร้ายกาจของหมอพลอยให้มากกว่านี้ รวมไปถึงได้เห็นลูกบ้าและความจริงใจของลุงพลก่อน เมื่อนั้นเธอถีงจะยอมเปิดใจครับ

ใจนึงก็ดีใจว่าจะได้อ่านอีกยาวๆนานๆ
แต่พอบอกว่าต้องเจอความร้ายกาจของหมอพลอยก็แอบเสียใจ น่าจะไม่ได้เห็นครูกับหมอรุมลงพลแล้วครับ

Nato87: ไม่ต้องกลัว มีฉากทรีซั่ม ลุงพล + หมอพลอย + ครูเบสท์ แน่นอน เพราะสุดท้าย 12 สาวจะได้พบกันหมด และทุกคนจะสามารถระลึกชาติได้หมด แต่ยังอีกนานนนครับ
ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ



jarbmong