ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

บทส่งท้าย: มนตรา สงคราม ความรัก + วุ่นรัก นักเปิดซิง

เริ่มโดย KaohomLM, พฤศจิกายน 21, 2024, 05:55:07 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ในกลุ่มสาว ๆ ของชาคริต ท่านชอบใครมากที่สุด

ราชณิญา
น้ำฟ้า
ริน
ไผ่หลิว
เบญ

KaohomLM

จากตอนที่แล้ว เห็นว่าผู้อ่านส่วนใหญ่แสดงความเห็นว่าอยากได้บทส่งท้ายกันนะครับ เลยนำมาลงให้ ไหน ๆ ก็รวมเรื่องกันแล้ว ทำบทส่งท้ายรวมกันเลยนะครับ คิดอย่างไรกับชะตาของตัวละคร ก็สามารถบอกเล่าสู่กันฟังได้นะครับ

    หลังมหาปิศาจถูกกำจัด พลังแห่งราคะที่แผ่ปกคลุมก็สูญสลายไป สังคมก็ค่อย ๆ กลับสู่ภาวะปกติ อาชญากรรมทางเพศยังคงมี แต่ไม่ได้เยอะหรือวิตถารกว่าที่เคยพบก่อนกำเนิดเว็บพรชัยดอทพอร์น
    สงครามกับปิศาจ เป็นสงครามที่ไม่มีวันได้ชัยชนะอย่างถาวร ตราบที่มนุษย์ยังคงมีความรู้สึกนึกคิดในแง่ลบ โลภ โกรธ หื่น หวาดกลัว หยิ่งยโส ตะกละ เกลียดชัง ขี้เกียจ ยังคงยื้อแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่น ดึงดื้อถือดี ใส่ร้ายป้ายสี พยาบาทอาฆาตราดร้ายซึ่งกันและกัน ตราบนั้น พลังในแง่ลบเหล่านี้ก็ยังไหลวนเวียนไปสู่โลกปิศาจ ให้กำเนิดปิศาจใหม่ ๆ ที่ทุกตัวล้วนแล้วแต่หาทางจะขึ้นมาเหยียบเดินบนโลกมนุษย์ที่มีพลังและอาหารให้มันสูบกินได้อย่างเต็มที่ ไม่ช้าก็เร็ว มนุษย์ที่จิตอ่อน ที่ลุ่มหลงมัวเมาในความชั่วร้ายจะเริ่มได้ยินเสียงเบา ๆ ที่ข้างหู กระซิบบอกเล่าและสัญญาถึงพลังอันมหาศาลที่เหล่าปิศาจพร้อมหยิบยื่นให้ ลัทธิปิศาจผุดขึ้นใหม่ราวกับเห็ดราที่พร้อมผุดงอกขึ้นสูบกินสารอาหารจากซากศพ พิธีเซ่นสังเวยบูชายัญเกิดขึ้น ลงท้ายด้วยการอัญเชิญปิศาจตัวเป็น ๆ ขึ้นมาสู่โลกมนุษย์
    แต่กระนั้น ความตายของมหาปิศาจที่ทรงพลังก็หน่วงรั้งให้กระบวนการนี้ล่าช้าลงไปได้หลายปี หลายปีที่โลกอยู่ในความสงบ หลายปี ที่เหล่าผู้พิทักษ์ฟื้นตัว หลายปี ก่อนที่จะเริ่มมีเสียงกระซิบถึงลัทธิที่เฟื่องฟูในที่มืดของโลกอีกครั้ง

ข้าวหอมและนที
    เมื่อไม่มีพวกปิศาจมารบกวนและได้พี่นทีกลับมาเป็นกำลังใจอยู่เคียงข้าง ข้าวหอมก็ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการศึกษา หลังเทอมแรกของปีสามที่เธอพลาดปล่อยให้เกรดตก ข้าวหอมก็มีแรงใจเต็มเปี่ยม เธอกลับไปได้ที่หนึ่งของวิชาเอกอีกครั้งในเทอมที่สองของปีสามและทั้งสองเทอมของปีสี่ เรียนจบรับปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง พี่นทีปลาบปลื้มใจสุด ๆ
    ส่วนตัวนทีเอง....เรียนปริญญาเอกไม่จบ เพราะพยายามเข็นวิทยานิพนธ์เท่าไหร่ก็ไม่ผ่าน ไม่มีแรงทำ ขนาดเจ๊สัญญารางวัลงาม ๆ ให้ก็ยังหาแรงใจไปทำไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องออกกลางคัน ไม่มีโอกาสได้หางานสุจริตเงินเดือนดี ๆ ไว้เลี้ยงเจ๊ข้าวหอมดั่งที่ใจหวัง
    แต่ความยากจนก็ไม่ได้ทำให้รักของทั้งคู่จืดจางลงมากนัก หลังข้าวหอมรับปริญญาได้ไม่นาน ทั้งสองก็จัดงานแต่งใหญ่โต (โดยมีสภาผู้พิทักษ์ออกค่าใช้จ่ายให้) หลังแต่งงานกันแล้ว ข้าวหอมก็กล่อมให้นทียอมลดศักดิ์ศรี ไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาในบริษัทบังหน้าแห่งหนึ่งของสภา ที่ได้รับเงินเดือนโดยไม่ต้องทำอะไร นทีบ่นแล้วบ่นอีกว่าทำแบบนี้ไม่มีศักดิ์ศรี รู้สึกไม่ซื่อสัตย์ อยากได้งานที่ต้องใช้ความพยายามทำแลกให้ได้เงินจริง ๆ
    "ก็ลองมองแบบนี้สิคะ" ข้าวหอมบอก "พี่ช่วยโลกมากี่ครั้งแล้ว ให้คนอื่นได้ตอบแทนพี่มั่งเถอะ"
    ด้านชีวิตส่วนตัว แม้นทีจะยังติดความโรคจิต ชอบแตกนอกให้น้ำกามละเลงเลอะเต็มตัวข้าวหอม แต่หลังแต่งงานกัน เขาก็ยินยอมแตกในภรรยาบ่อยขึ้น ไม่กี่เดือน ข้าวหอมก็ตั้งท้อง และให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อยน่ารัก ที่นทีเชื่อว่าต้องได้เป็นสาวงามผู้เป็นเอกแห่งยุคสมัยคนต่อไป พอลูกสาวอายุได้สามเดือน ข้าวหอมก็ตั้งครรภ์อีกครั้ง แต่ลูกคนที่สองยังไม่ทันคลอด ลัทธิปิศาจก็เริ่มกลับมาปรากฏอีกครั้งทั่วโลก นทีต้องออกปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง แต่ก็อุตส่าห์เทเลพอร์ตกลับมาทันได้ดูหน้าลูกชายตอนเกิด
    "หล่อเหมือนพ่อเลยนะคะ...." ข้าวหอมยิ้มอย่างอ่อนแรง
    "อือ ใช่..." นทียิ้ม "เอ่อ...พี่อยู่นานไม่ได้นะ ผู้พิทักษ์ที่อังกฤษแปดคนถูกปิศาจโทสะล้อมอยู่แต่...พี่ได้ข้อความก่อนว่าเจ๊จะคลอด..."
    ข้าวหอมสะดุ้ง "รีบกลับไปช่วยเค้าเลยนะคะ!!!!"
    พอลูกชายอายุได้หนึ่งขวบ ข้าวหอมก็ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อาวุโสในสภาผู้พิทักษ์
    "หนูยังไม่แก่นะ" ข้าวหอมบ่นกับพี่เก่ง
    "ลูกสองแล้ว แก่เถอะ" พี่เก่งบอก
    พอผู้อาวุโสมงคลเกษียณอายุ ข้าวหอมก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดของสภาในประเทศไทย ในยุคของเธอ กลุ่มผู้พิทักษ์ฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน ลัทธิปิศาจกลุ่มใหญ่จากประเทศเพื่อนบ้านเดินทางเข้ามาสร้างปัญหามากมายในช่วงที่ข้าวหอมกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สาม แต่สภาผู้พิทักษ์ก็ปราบพวกลัทธิกลุ่มนี้ลงเองได้ โดยไม่ต้องให้เธอหรือพี่นทีลงมาช่วย
    ลูกสาวคนโตของข้าวหอมสวยวันสวยคืนตามคำทำนายของพี่นที พออายุได้เจ็ดขวบหลายคนก็เริ่มบอกว่าสวยกว่าแม่ พออายุได้เก้าขวบ ก็ถูกเลือกโดยเทพอาวุธให้เป็นผู้ถือ นทีฝึกลูกสาวจนเยี่ยมยุทธ ได้นำทีมผู้พิทักษ์ของตัวเองตอนอายุสิบห้า หลายคนบอกว่า เธอจะเป็นความหวังและที่พึ่งคนต่อไปของสภา
    ลูกชายก็เจริญรอยตามพี่สาว ได้เทพอาวุธเป็นของตนเอง แม้ฝีมือจะไม่เก่งเท่าพี่สาว แต่เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี เก่งภาษาเหมือนพ่อกับแม่ หลายครั้งได้เป็นทูตจากสภาผู้พิทักษ์ของประเทศไทยไปติดต่อหรือนำทีมไปช่วยเหลือสภาในประเทศอื่น ๆ
    ลูกสาวคนสุดท้องกลับเป็นเด็กมีปัญหา น้อยเนื้อต่ำใจ หน้าตา ความสามารถ หรือปัญญาไม่มีอะไรสู้พี่สาวได้ แม้พ่อแม่และพี่ทั้งสองจะยืนยันว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็รักเธอ ก็เห็นเธอเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว แต่เธอก็ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับครอบครัวที่ยิ่งใหญ่นี้ ยิ่งเมื่อเธอถูกเลือกโดยวัตถุเวทย์ที่ระดับล่าง ๆ ที่ไม่ถึงกับเป็นเทพอาวุธ ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่เอาไหน สุดท้ายเธอก็หนีออกจากบ้าน ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา พยายามหลีกเลี่ยงไม่ติดต่อกับพ่อแม่และพี่ ๆ กลายเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตที่แสนสุขสันต์ของข้าวหอมกับนที
     
   
    ชาคริตและห้าสาว
    โชคดีที่คุณแม่หนิงทำประกันทรัพย์สินไว้เยอะพอสมควร (และมีเงินก้อนอยู่ไม่น้อย) จึงสามารถซ่อมสร้างบ้านที่เสียหายจากการโจมตีของไอ้ชัยได้ บ้านที่สร้างขึ้นใหม่นั้นใหญ่โตหรูหรากว่าเดิม และมีห้องเพิ่มอีกหลายห้องเพื่อความบันเทิงของชาคริตและห้าสาวโดยเฉพาะ รวมถึงห้องสังวาสหมู่และสระว่ายน้ำในร่มขนาดใหญ่ ที่ใช้ได้ทั้งเพื่อออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง และเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศกิจกามเป็นในน้ำบ้าง ห้องบอลรูมที่ใหญ่กว่าเดิม ให้สมาชิกครอบครัวชาคริตได้เต้นลีลาศ ให้เบญได้เล่นเปียโน (ทั้งเล่นแบบใส่เสื้อผ้า เล่นแบบเปลื้องผ้า และเล่นไปขย่มตอไป) และให้ราชณิญาซ้อมการแสดง ไม่ว่าจะเป็นนาฏศิลป์ดั้งเดิมหรือนาฏลีลาแบบประยุกต์ ซึ่งราชณิญาก็ทำได้ดีมากทั้งสองอย่าง รวมถึงระบำเปลื้องผ้าสุดแสนเซ็กซี่ที่ไม่เคยได้นำออกไปแสดงนอกบ้าน
    "รู้มะ เห็นน้องญาเต้นยั่วแล้วชั้นอยากตีฉิ่งเลยอ่ะ" น้ำฟ้าบอก
    "งั้นน้ำฟ้าก็ลองตีฉิ่งกับน้องญาให้เราดูสักยกสองยกสิ"
    แม่หนิง เมื่อรู้ว่าลูกชายตัวแสบขยายฮาเร็มจากสองเป็นห้าก็อาละวาดโวยวายอยู่นานพอสมควร แต่สุดท้ายพอห้าสาวเต็มใจก็จำเป็นต้องปล่อยเลยตามเลย
    มีผู้หญิงหลายคนหลงใหลในความหล่อและความเป็นสุภาพบุรุษของชาคริต ตลอดช่วงที่อยู่ที่มหาวิทยาลัย สาวน้อยใหญ่พยายามเข้าหาชายหนุ่มหลายต่อหลายคน ทั้งหลานรหัสคนสวยที่ดูจะเป็นลูกคุณหนูพอสมควร (ทั้งน้องและพี่รหัสของชาคริตเป็นผู้ชาย ไม่อย่างนั้นน้ำฟ้าเชื่อว่าจะต้องมีการมาจีบชาคริตเหมือนกันแน่) เพื่อนคนหนึ่งของราชณิญาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาวอักษรขี้อายที่ได้เจอกันในห้องสมุด สาวห้าวนักกีฬาจากชมรมวอลเล่ย์บอล อาจารย์สาวที่เพิ่งจบปริญญาเอกจากอังกฤษมาหมาด ๆ คนหนึ่ง แต่ชาคริตก็ควบคุมตัวเองเต็มที่และประกาศชัดเจนว่าตนเองมีแฟนแล้ว และไม่สนใจคิดจะนอกใจแฟนไปหาใครทั้งสิ้น อีกทั้งสี่สาวที่มหาวิทยาลัยก็ช่วยกันกีดกันเต็มที่และให้รางวัลเขาอย่างสุขสมทุกครั้งที่ปฏิเสธสาวที่เข้ามาเกาะแกะได้
    คนที่ใกล้จะทำให้ชาคริตนอกใจห้าสาวได้มากที่สุดเป็นรุ่นพี่ปี 4 ดาวคณะคนหนึ่งจากคณะนิเทศศาสตร์ ที่เข้ามาจีบชาคริตตอนเขาอยู่ปี 3 เธอดื้อด้านกว่าใครและไม่สนคำปฏิเสธใด ๆ ทั้งสิ้น
    "ทำไม มีแฟนแล้วไง ชั้นสวย ชั้นเริ่ด คนอย่างชั้น อยากได้ผู้ชายคนไหนก็ต้องได้" เธอประกาศกร้าว หลังจากเกือบจะได้ตบกันกลางมหาลัยกับน้องญาที่พยายามมาประกาศตัวเป็นเจ้าของชาคริต โชคดีที่เพื่อนของทั้งสองฝ่ายช่วยกันแยกไว้ได้ หลังจากนั้น เธอก็ตามตื๊อและตามยั่วชาคริตแบบไม่เลิกรา
    แต่ก่อนจะได้เกิดกิจกรรมปัดจิ๋มนิเทศ รุ่นพี่สาวก็ถูกนินจาปริศนาคนหนึ่งตามเล่นงาน จนสุดท้ายก็ถึงกับเกือบเอาชีวิตไม่รอด ไม่มีใครรู้ว่านินจาปริศนาคนนั้นเป็นใครและมีความแค้นเคืองอะไรกับสาวดาวเด่นคนนี้ แต่รุ่นพี่ก็เข็ดและกลัวจนถึงกับต้องทำเรื่องโอนถ่ายหน่วยกิจ ย้ายมหาวิทยาลัย และไม่เคยกลับมาให้ชาคริตเห็นหน้าอีกเลย
    "ไม่เห็นต้องทำกันถึงขนาดนั้นเลยนี่นา" ชาคริตบอก "ยังไงพี่ก็ปฏิเสธเค้าอยู่แล้ว"
    "หนูไม่รู้ หนูไม่เกี่ยว" ไผ่หลิวบอก "ว่าแล้วคืนนี้เวรของหนูนะ หนูได้ยาที่ยัยนั่นสั่งซื้อมาด้วย พี่ชาคริตลองดูหน่อยไหม เห็นบอกว่ากินแล้วขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้"
    เช้าวันรุ่งขึ้น รินพบไผ่หลิวนอนตาเหลือกน้ำลายฟูมปากอยู่ข้างสระว่ายน้ำ
    แม้กิจกรรมและกิจกามจะหนักหน่วง แต่ชาคริตก็ระวังตัวเสมอ เติมถุงยางอยู่เรื่อย ๆ ไม่ให้หมด แม้จะสิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาลก็ตาม เพราะไม่อยากจะให้สาว ๆ คนไหนท้องในวัยเรียน
    จนเมื่อกำลังจะเรียนจบ จึงได้มีการยสตน.อย่างไม่ระวังกันมากขึ้น
    สุดท้าย น้ำฟ้าก็เป็นคนแรกที่ตั้งครรภ์ เธออุ้มท้องอ่อน ๆ ขึ้นรับปริญญา
    แม้น้ำฟ้า ชาคริต และเบญจะได้รับคัดเลือกเข้าเรียนปริญญาโทแล้ว แต่น้ำฟ้าก็ตัดสินใจสละสิทธิ์ กลับไปอยู่บ้านกับริน เพื่อให้เวลากับตัวเองและลูก
    แต่น้ำฟ้ายังไม่ทันคลอด รินก็ป่องขึ้นมาอีกคน
    น้ำฟ้าได้ลูกสาว ส่วนรินได้ลูกชาย
    หลังมีลูก รินก็ผันตัวจากเน็ตไอดอลขวัญใจวัยรุ่นมาเป็นไอดอลสายมัม ไลฟ์อวดลูก (ส่วนใหญ่เป็นลูกตัวเอง แต่นาน ๆ ทีก็ขโมยลูกน้ำฟ้ามาร่วมด้วย) โฆษณาและขายผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ขณะที่การก่อกวนจากอดีตสาวกทั่นชัยค่อย ๆ ลดลงไปทีละน้อย

    ชาคริตกับเบญเป็นคู่หูทำวิจัยกันตลอดที่เรียนปริญญาโท จนสุดท้ายมีวันหนึ่งก็ได้เสียกันในแล็บ เบญท้องลูกสาวคนแรก
    แต่การตั้งครรภ์ไม่ได้เป็นผลต่อการเรียน ป.โท มากนัก ยิ่งมีชาคริตช่วยทำงานต่าง ๆ ให้ยิ่งสบายใหญ่
    ในช่วงที่ท้องอยู่ เบญก็พาชาคริตไปไหว้พ่อแม่ของเธอเป็นครั้งแรก พ่อแม่ของเบญตกใจแทบสิ้นสติ ทั้งสองคนหวงลูกสาวมาก เคยดูแลชนิดที่ไม่ให้ผู้ชายที่ไหนเข้าใกล้ จนสุดท้ายเบญอัดอั้นตันใจถึงขนาดใช้เวทมนตร์โดยไม่ได้ตั้งใจ สะกดให้พ่อแม่ยอมปล่อยไปอยู่คนเดียว แต่ลึก ๆ ทั้งคู่ก็ยังเป็นห่วงลูกสาวคนเดียวอยู่มาก และเสียใจมาก ที่ลูกสาวท้องก่อนแต่ง แถมท้องกับคนที่ไม่เคยพามาให้พ่อแม่เห็นหน้าสักครั้ง พอคาดคั้นเอาได้ว่าลูกสาวเป็นเมียน้อยก็ถึงกับเป็นลม สุดท้ายพอคุยกันไม่รู้เรื่องจริง ๆ เบญต้องใช้เวทมนตร์สะกดให้พ่อแม่ยอมรับความสัมพันธ์ของเธอกับชาคริต
    ส่วนพ่อแม่ของน้ำฟ้า ทำใจได้ตั้งแต่ตอนที่น้ำฟ้าเข้าโรงพยาบาลแล้ว ชวนชาคริตกับห้าสาวไปเยี่ยมเยือนกันบ่อย ๆ
    ส่วนพ่อแม่ของญานั้น ก็นานพอดูกว่าจะยอมรับครอบครัวชาคริตได้
    ไผ่หลิวที่เรียนจบพร้อม ๆ กันก็เรียนต่อป.โทบริหารธุรกิจ และเริ่มรับธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากพ่อมาทำต่อ
    ไม่นานหลังจากที่บ้านมีเด็กเพิ่มเป็นสาม เบญก็ท้องเป็นครั้งที่สอง
    "ถามจริง พวกนายไปมหาลัยด้วยกันเนี่ย ได้เรียนบ้างป่าว หรือไปเอากันที่มหาลัยอย่างเดียว" น้ำฟ้าถาม
    สรุปว่าในช่วงที่เรียน ป.โท อยู่สองปี เบญก็ได้ลูกสาวมาสองคน
    ราชณิญาเรียนจบปริญญาตรี ได้เข้าทำงานกับคณะแสดงที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ทันที ทุกคนหลงใหลการร่ายรำทั้งแบบมาตรฐานและประยุกต์ของเธอมาก และได้ไปแสดงหลายที่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    แต่ชื่อเสียงและเงินทองที่หลั่งไหลเข้ามาก็แลกกับที่ได้ใกล้ชิดกับชาคริตน้อยลง
    เบญท้องเป็นครั้งที่สามระหว่างช่วงที่เธอกับชาคริตกำลังสมัครเรียนปริญญาเอก โดยที่เธอกับชาคริตตั้งใจจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ขณะที่ไผ่หลิวต่อเอกบริหารธุรกิจที่ในประเทศไทย มหาวิทยาลัยแห่งเดิม
    น้ำฟ้ากลัวจะน้อยหน้า ท้องขึ้นมาบ้างก่อนชาคริตกับเบญจะขึ้นเครื่องบินไปเรียนต่อไม่กี่วัน ลูกสาวคนที่สามของเบญกับลูกชายคนแรกของน้ำฟ้าเกิดห่างกันสองสัปดาห์ แต่เกิดคนละประเทศกัน กระนั้น ชาคริตก็ได้วิดีโอคอลล์ดูหน้าลูกชายหลังจากคลอดไม่นาน
    "นี่หนูไม่ใช่เนอสเซอรี่นะคะ" รินบ่นตอนที่ชาคริตกับเบญบินกลับมาช่วงระหว่างเทอม และเอาลูกมาฝากเลี้ยง แต่ตัวเธอเองก็ท้องจากการกลับมาของชาคริตครั้งนี้
    ชาคริต เบญ กับไผ่หลิวเรียนจบ ป.เอกไล่ ๆ กัน ชาคริตกับเบญกลับมาประเทศไทยและเข้าทำงานเป็นนักวิจัยในสถาบันแห่งหนึ่ง ขณะที่ไผ่หลิวรับช่วงธุรกิจของพ่อเต็มตัว ในช่วงนี้ แม่ของชาคริตรู้สึกว่าตนเองเริ่มแก่ตัวลง และเริ่มทำการโอนธุรกิจให้ไผ่หลิวช่วยบริหาร ตอนแรกเธอกลับมาอาศัยอยู่ที่บ้าน ช่วยเลี้ยงลูกของชาคริต แต่หลังจากเดินไปพบชาคริตกับสาว ๆ ทำกิจกรรมกันในบริเวณต่าง ๆ ทั่วบ้านหลายครั้งเข้าเธอก็ไปซื้อบ้านอยู่เองคนเดียว แต่ชาคริตกับสาว ๆ และลูก ๆ ก็ไปเยี่ยมอยู่เสมอ ๆ

    ไผ่หลิวพาชาคริตไปสวีทกันสองต่อสองที่ญี่ปุ่น (ตามรอยวิถีนินจา) หนึ่งอาทิตย์เพื่อฉลองการควบรวมกิจการ กลับมาก็ได้ท้องสมใจ และได้ลูกชายที่หน้าตาดีเหมือนพ่อแต่เตี้ยเหมือนแม่
    "หนูต้องฝึกลูกให้เป็นนินจาที่เก่งให้ได้เลย" ไผ่หลิวบอกด้วยความภูมิใจ "ว่าแล้ว หนูมั่นใจมาก ว่าต้องได้เค้าวันที่เราแอบทำกันในวิหารนินจาโบราณแน่นอน!"
    ช่วงที่ท้องอยู่นี่เอง ที่ไผ่หลิวยอมรับกับพ่อเป็นครั้งแรกเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับชาคริต และเหตุผลที่เธอแต่งงานกับเขาไม่ได้
    พ่อของไผ่หลิวโกรธมาก แต่ยัยนินจาอาศัยความที่ถือครองกิจการหมดทุกอย่างแล้วทำไม่แคร์ไม่สน จนสุดท้ายพ่อก็ต้องทำใจยอมรับ พยายามปลอบตัวเองว่าอย่างน้อย ๆ ก็ยังมีหลายชายไว้สืบทอดกิจการของตระกูล
    หลังไผ่หลิวคลอดลูกชายได้ไม่นาน รินก็ได้รับการติดต่อจากพ่อแม่ บอกว่าพี่ชายของเธอ ที่พ่อแม่เห็นว่าทำอาชีพที่น่าเคารพและเป็นฝั่งเป็นฝา กลับหลวมตัวไปเล่นพนันออนไลน์จนเกิดหนี้สินมหาศาล จนทั้งพ่อแม่และพี่ชายไม่มีปัญญาใช้ และขอให้รินช่วย รินคิดอยู่นาน แต่สุดท้ายก็ไม่ใจไม้ไส้ระกำพอจะลอยแพครอบครัวทางสายเลือดได้ และมาขอให้ชาคริตกับไผ่หลิวช่วยครอบครัวของเธอ
    "คิดดีแล้วเหรอ ริน" ไผ่หลิวถาม "เงินสิบสองล้าน สำหรับพี่ตอนนี้ก็เรื่องเล็ก ๆ นะ แต่รินลืมไปแล้วเหรอ ว่าพวกนี้เคยผลักไสไล่ส่งรินออกมาตอนที่รินต้องการความช่วยเหลือที่สุด"
    "รินจำได้ค่ะ แต่....ถ้ารินไม่ช่วย รินก็คงไม่ได้ดีไปกว่าพวกเค้า....."
    "ได้ แต่........ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ" ไผ่หลิวชำเลืองมองไปที่ปฏิทิน "เวลาที่รินจองตัวพี่ชาคริตเอาไว้แบบสองต่อสอง ต้องให้พี่ไปร่วงวงด้วย สิบสองครั้ง ตามเงินสิบสองล้านที่จะขอจากพี่"
    แต่ปรากฏว่าพี่ชายของรินเป็นพวกไม่รู้จักจำ พอหลุดพ้นจากภัยหนี้ครั้งแรก ไม่นานก็ไปเล่นการพนันอีกครั้ง และสร้างหนี้ก่อนใหญ่กว่าครั้งก่อน รอบนี้แม้ครอบครัวจะมาคุกเข่าวิงวอน แต่รินกับไผ่หลิวเห็นตรงกันว่าไม่น่าช่วยแล้ว
    สุดท้าย พี่ชายของรินถูกแก๊งค์พนันออนไลน์เอาทรัพย์สินทั้งหมดไปก่อนจะฆ่าหมกป่า ส่วนพ่อแม่ก็ขายบ้านขายที่ดินแล้วไปอยู่บ้านพักคนชรา โดยมีรินคอยจ่ายเงิน(ของไผ่หลิว)เป็นค่าเลี้ยงดู
    ราชณิญาเริ่มรู้สึกน้อยใจ ที่ตนเองเป็นคนรักคนเดียวของชาคริตที่ยังไม่มีลูก ทั้ง ๆ ที่มาเป็นคนแรก และเธอก็ร่วมรักกับชาคริตทุกครั้งที่มีโอกาส ถึงแม้โอกาสนั้นจะมีไม่มาก ทั้งจากที่ชาคริตไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และที่เธอต้องเดินสายแสดงหลายต่อหลายที่ทั้งในและนอกประเทศ
    เบญท้องเป็นครั้งที่สี่ ขณะที่ราชณิญาผันตัวจากนักแสดง มาเป็นครูสอนการแสดงและนักออกแบบท่ารำ ซึ่งทำให้เธอได้กลับมาอยู่กับชาคริตมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไร เธอก็ไม่ท้องเสียที
    จนลูกสาวคนที่สี่ของเบญคลอด ไผ่หลิวตั้งท้องเป็นครั้งที่สองและน้ำฟ้าตั้งท้องครั้งที่สาม ทั้ง ๆ ที่เธอจองตัวชาคริตทุกคืน ให้คนอื่นแค่มาแจมเป็นครั้งคราว ราชณิญาจึงมั่นใจว่าตนเองต้องมีปัญหาแน่นอน ลากชาคริตไปหาหมอด้วยกัน
    หมอพบว่า ท่อนำไข่ของเธอมีปัญหา จึงไม่สามารถมีลูกได้ แต่ก็ช่วยผ่าตัดแก้ไขให้
    "โธ่....รู้งี้ไม่น่าเปลืองถุงยางไปตั้งเยอะแยะตอนเรียน" ชาคริตบ่น
    เป็นไปได้ว่า ปัญหานี้อาจเกิดตอนที่พวกผู้พิทักษ์ซ่อมแซมร่างกายของเธอที่เสียหายตอนถูกไอ้ชัยข่มขืนด้วยเครื่องมือสุดโหด แต่รักษาไม่ระวัง ทำให้ไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์
    ในที่สุด ราชณิญาก็ได้ท้องสมใจเสียที
    เบญเหมือนจะกลัวน้องเหงา จึงท้องครั้งที่ห้าเป็นเพื่อน ลูกชายของราชณิญากับลูกสาวคนที่ห้าของเบญเกิดไล่ ๆ กัน หลังจากลูกชายของไผ่หลิวกับน้ำฟ้าไม่นาน
    "หนูกับพี่น้ำฟ้าเลี้ยงเด็กจะไม่ไหวแล้วนะคะ" รินบ่น
    แต่พอโตขึ้นลูกชายของชาคริตกับราชณิญากลับได้สันดานดิบของพ่อไปมากเกิน เริ่มทำตัวแหลกเหลวตั้งแต่ยังเด็ก ตั้งตัวเป็นนักเปิดซิง มีเรื่องพิศวาสกับสาวในโรงเรียนหลายคนสร้างความปวดหัวให้พ่อแม่ไม่เว้นแต่ละวัน
    "ทำไม" มันถามเมื่อชาคริตพยายามอบรม "พ่อยังมีแม่ตั้งห้าคน ทำไมผมเปิดซิงเพื่อนในห้องห้าคนถึงผิดล่ะ"
    "อย่าเอาเยี่ยงอย่างน้องเขานะลูก" ไผ่หลิวกระซิบกับลูกชายคนที่สองของตน
    จนอายุได้สิบหกปี ลูกชายของชาคริตกับราชณิญาก็ถูกยิงจนเสียชีวิต หลังไปมีเรื่องแย่งหญิงกับแก๊งค์คู่อริ
    ความตายของลูกทำให้โลกของชาคริตกับราชณิญาแทบแหลกสลาย ทั้งสองมีลูกกันแค่คนเดียว
    ทำไมลูกเธอไม่เป็นนักเรียนดีเด่นเหมือนลูกพี่น้ำฟ้าบ้างนะ
    หรือลูกริน ลูกไผ่หลิว หรือนางฟ้าน้อย ๆ ห้าคนที่เป็นลูกสาวพี่เบญ
    มันเป็นเวรกรรมอะไรของเธอ
    ด้วยวัยเกือบสี่สิบแล้วเธอแทบไม่มีความหวังจะมีลูกอีก แต่สุดท้ายชาคริตก็กล่อมให้เธอลองจนได้ เธอได้ลูกติดอีกคนในวัยก่อนหมดประจำเดือนไม่นาน
    ลูกชายคนเล็กกลายเป็นที่รักของทั้งพ่อ แม่ทั้งห้าคนและพี่ชายพี่สาวทุกคน ที่ต่างก็ตั้งใจจะเลี้ยงน้องให้ดี ไม่ปล่อยให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นมาอีก
    เบญถูกเชิญไปช่วยงานที่สภาผู้พิทักษ์เป็นครั้งคราวเวลามีเรื่องเวทมนตร์ที่ซับซ้อนและลึกลับ และยังคงความสัมพันธ์อันดีกับข้าวหอมจนเริ่มแก่ตัวลงทั้งคู่
    ภายใต้การบริหารของไผ่หลิว บริษัทใหญ่ดำเนินกิจการอย่างแข็งแรง ถึงแม้จะมีผู้บริหารระดับสูงบางคน (ที่ภายหลังหายสาบสูญไปโดยไม่ทราบสาเหตุ) ที่แอบกระซิบกระซาบกันว่าคุณหนูบริหารงานไม่เป็น ไม่ทำกำไรเท่าที่ควร แต่ไผ่หลิวก็เชื่อว่าการมุ่งเน้นผลกำไรอย่างเดียวอาจทำให้เสียความไว้ใจจากฐานลูกค้าและนำไปสู่ความเสียหายในระยะยาวได้
    อีกอย่าง บริษัทของเธอไม่ใช่มหาชน ไม่ต้องเอาใจผู้ถือหุ้น ขอแค่มีเงินมาเลี้ยงเธอกับครอบครัวเธอก็พอใจแล้ว และเงินที่บริษัททำได้ ก็พอเลี้ยงครอบครัวของเธอได้ห้าร้อยครอบครัวได้
    น้ำฟ้าเสียดายอยู่นิด ๆ ที่ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาไม่ได้เอาไปใช้ทำอะไรนอกเหนือจากสอนการบ้านให้ลูก ทั้งของเธอเองและของชาคริตกับสาวคนอื่น แต่เธอก็มีความสุขที่ได้อุทิศเวลาดูแลครอบครัวของชาคริตทุกคน

    แม้จะผิดหวังมากมายกับเรื่องลูก แต่ราชณิญาก็ไม่เคยขาดความรักจากทั้งชาคริตและสาว ๆ คนอื่น
    ในช่วงหลัง ๆ เธอได้รับยกย่องเป็นหนึ่งในปรมาจารย์แห่งวงการนาฏศิลป์ไทย ผู้เชี่ยวชาญเป็นพิเศษเรื่องการแสดงนาฏศิลป์ไทยประยุกต์ ผู้คนในวงการนาฏศิลป์มาปรึกษาไม่เว้นแต่ละวัน
    ตัวชาคริตเองก็ถูกนับว่าเป็นนักวิจัยแถวหน้าคนหนึ่งในประเทศไทย โดยมีเบญเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กายอยู่เคียงข้างในทุกงานที่ทำ สร้างผลงานอันเป็นคุณประโยชน์ต่อวงการวิทยาศาสตร์หลายอย่าง


    สรุปสกอร์นะครับ
    นที + เจ๊ = 3 (ญชญ)
    ชาคริต +
    ราชณิญา = 2 (ชช) -1
    น้ำฟ้า = 3 (ญชช)
    ริน = 2 (ชญ)
    ไผ่หลิว = 2(ชช)
    เบญ = 5 (ญญญญญ)   

    คนอื่น ๆ
    พี่เก่งได้รับคทาเวทย์อันใหม่จากนายท่านนที กลับเข้าไปทำงานเป็นหัวหน้าทีมอยู่พักหนึ่ง เรียนจบก่อนข้าวหอมหนึ่งปี (จริง ๆ พี่เก่งแก่กว่าเจ๊สองปี แต่เรียน 5 ปี จบ) ไปทำงานเป็นสถาปนิกในบริษัทในเครือสภาผู้พิทักษ์แห่งหนึ่ง ที่มักทำเรื่องซ่อมสร้างสถานที่ที่เสียหายจากการต่อสู้กับปิศาจ (ผู้อ่านจำกันได้หรือป่าว ว่าพี่เก่งเรียนคณะสถาปัตย์) เขาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้พิทักษ์ระดับสูงหลังจากข้าวหอมได้เป็นผู้อาวุโสไม่นาน และได้ไปนั่งเก้าอี้ผู้อาวุโสเมื่อข้าวหอมขึ้นเป็นหัวหน้าสภาผู้พิทักษ์ แม้ทักษะด้านเวทมนตร์ต่อสู้อาจสู้ข้าวหอมและผู้ใช้เทพอาวุธคนอื่นไม่ได้ แต่เขาก็เป็นกุญแจสำคัญในการประสานงานระหว่างสภาผู้พิทักษ์กับองค์กรอื่น ๆ สืบหาข่าวความเคลื่อนไหวของลัทธิปิศาจ รวมถึงเป็นอาจารย์ช่วยสอนลูกสาวคนสุดท้องของข้าวหอมกับนที ที่ไม่มีเทพอาวุธเหมือนพี่ ๆ
    ด้านชีวิตครอบครัว แต่งงานกับแตงโม มีลูกด้วยกันสองคน คนเล็กเข้าร่วมสภาผู้พิทักษ์ ส่วนคนโตไม่สนใจ
    แตงโม พอเรียนจบก็ไปทำงานเป็นครูประถม ส่วนใหญ่สอนเด็กเล็กเพราะความที่ตัวเตี้ยเล็ก บางครั้งก็ถูกเด็ก ป.5 ป.6 ที่ตัวใหญ่ ๆ ข่มเอาได้
    หลังคลอดลูกคนแรก หมอก็ตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งมดลูกและรังไข่ระยะร้ายแรง ต่อให้ตัดมดลูกทิ้งโอกาสรอดก็แทบไม่มี
    โชคดีที่แตงโมเป็นเพื่อนสนิทกับประธานสภาผู้พิทักษ์แห่งประเทศไทย และภรรยาของนายเหนือหัวนที ทันทีที่ผลตรวจออกและการแพทย์แผนปัจจุบันถึงทางตัน แตงโมกับพี่เก่งก็รีบโทรหาข้าวหอม ที่ลากตัวพี่นทีมาในทันควัน
    นทีสันนิษฐานว่า เนื้อร้ายอาจจะเป็นผลต่อเนื่องจากตอนที่แตงโมโดนปิศาจของเสี่ยต้นข่มขืน พิษพลังปิศาจที่ฝังตกค้างอยู่ในร่างอาจจะส่งผลให้เกิดเป็นมะเร็ง
    แต่ไม่ว่าข้อสันนิษฐานนี้จะจริงหรือไม่ก็ตาม นทีก็สามารถใช้เวทมนตร์ทำลายเนื้อร้ายและสร้างอวัยวะภายในใหม่ที่สมบูรณ์ให้แตงโมได้
    แตงโมฉลองการกลับมาสุขภาพดีด้วยการมีลูกกับพี่เก่งอีกหนึ่งคน

    น้องอูซี่เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าทีมแทนพี่เก่ง บิลพยายามจีบอูซี่แต่ไม่ติด อูซี่ไปหลงสมาชิกลัทธิปิศาจราคะอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เจ๊ข้าวหอมช่วยพากลับมาได้
    บิล พอจีบอูซี่ไม่ติด ก็ไปจีบรุ่นน้องเข้าใหม่อีกคน แต่ไม่ติดเหมือนเดิม

    มิ๊งค์แต่งงานกับพล

    แป้งฝุ่นเจอแฟนดี ๆ เข้าสักที รักกันดี

    มีใครอยากรู้เรื่องของตัวละครไหนอีกไหม สอบถามได้เลยนะครับ
   
    พูดคุยกับผู้เขียน
    เป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังตัวเรื่องหลักจบลง ถูกใจพวกท่านกันบ้างไหมครับ หากมีข้อเสนอแนะประการใดก็แจ้งได้เลยนะครับ
    พร้อมกับบทส่งท้ายนี้ ผมขอแนบโพลไว้หน่อยแล้วกัน ว่าท่านผู้อ่านชอบผู้หญิงคนไหนของชาคริตที่สุด เผื่อมีภาคต่อ ผมอาจ (ย้ำว่าอาจ) แจกบทให้เป็นพิเศษนิดนึง
    หลังจากนี้ผมคงจะหายตัวไปอีกพักใหญ่ ๆ นะครับ แต่น่าจะกลับมาได้เมื่อโครงการต่อไปพร้อม
    สำหรับโครงการที่กำลังเขียนอยู่ตอนนี้ คือเรื่อง "เงารัก นักเปิดซิง" นะครับ ซึ่งจะเป็นภาคแยกของเรื่องนักเปิดซิง ว่าด้วยเหตุการณ์ในโรงเรียนของาคริตในปีหลังจากที่ชาคริตจบไปแล้ว เรื่องนี้จะสั้นกว่าเรื่อง ก่อน ๆ ที่เขียนมานะครับ โดยน่าจะมีประมาณ 15-20 ตอน โครงเรื่องที่วางเอาไว้ดาร์คกว่าภาคหลักพอสมควร แต่ไม่รู้ว่าเขียนจริงจะมีการดิ้นอีกหรือเปล่านะครับ ท่านใดที่สนใจก็รอติดตามกันได้นะครับ แต่คงจะอีกนานพอสมควร
 
    สำหรับโครงการที่มีในหัว แต่ยังไม่ได้เริ่มเขียนเลย และไม่แน่ใจว่าจะได้เริ่มหรือเปล่า มีดังต่อไปนีร้ครับ
1.    สุดที่รัก นักเปิดซิง – ภาคแยกอีกภาคของเรื่องนักเปิดซิง เรื่องของ สุทธิรักษ์ เด็กหนุ่มมากเสน่ห์ ที่เคยหลอกฟันสาวไว้ไม่เลือกหน้า ที่พอเข้ามหาวิทยาลัยก็ไปหลงรักสุรัสวดี สาวน้อยแสนสวยลูกคุณหนูจากตระกูลผู้ดีตกยาก
2.    เรียกข้าว่า....เป็ด – ภาคแยกของเรื่องนักเปิดซิง มีไอ้เป็ดเป็นพระเอก
3.    What If? - เรื่องสมมติว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเรื่องมนตรา สงคราม ความรัก และเรื่องนักเปิดซิง อาทิเช่น จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าวันที่ราชณิญาโดนไอ้โฮมจับ ชาคริตไม่ได้พาน้ำฟ้าไปด้วย หรือ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าชัย ตี๋ เป็ด จับตัวผู้หญิงของชาคริตได้ทั้งห้าคน โดยในแต่ละตอนจะกล่าวถึงที่สถานการณ์เดียวเท่านั้น  
ใครที่สนใจเรื่องไหน สามารถรีเควสไว้ได้นะครับ จะรับไว้พิจารณา แต่อย่างไรเงารักน่าจะมาแน่นอน เพราะเขียนได้หลายตอนแล้ว
หวังว่าจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ไม่ช้าก็เร็วนะครับ




เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

First10

เป็นการขยายความที่สมบูรณ์ดี แต่ใจร้ายนะที่ให้ลูกของราชนิญาคนโตโดนยิงตาย จริงๆ อยากรู้ว่าไผ่หลิวเข้าสู่วิถีนินจาอย่างไรนะ

teerawatc

ชอบน้องญาครับ เป็นคนสวยแถมตลก

อ่านแล้วรู้สึกว่าผู่แต่งใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆของตัวละคร

อย่างน้องญาไม่ท้องเพราะการซ่อมแซมร่างกายไม่สมบูรณ์จากตอนโดนนายชัย

หรือน้องเบญหนีออกจากบ้านเพราะพ่อแม่ไม่เข้าใจ จากที่เกริ่นไว้ในช่วงต้นภาค

จนเรียกว่าส่งท้ายได้โดยไม่มีอะไรค้างคาใจ

ส่วนเรื่องภาคต่อไปที่อยากอ่านก็ต้องเป็น what if เพราะชอบช่วงข้าวหอมข้ามจักรวาล

ไปทำภาระกิจแล้วเสียท่าในหลายๆครั้ง ถ้าเป็น what if ผู้แต่งสามารถแต่งได้ตามใจ

โดยไม่ต้องถนอมเหล่านางเอกในเนื้อเรื่องหลัก อยากอ่านเหล่านางเอกพลาดท่าให้ตัวร้ายบ้าง

สนุกมากครับ รอติดตามภาคต่อไป

xonly-1786

ขอบคุณมากครับ สรุปได้ดีมากครับ ซาครีตบริหารเมียเยี่ยมมากกก

Mosser12345

มันจะฮาเร็มเกินไปแล้ว ขอดาร์คๆหน่อย แบบเสียเมียสักคนก็ยังดี


peddo

จบได้หายคาใจครับ รอติดตามผลงานต่อๆ ไปทุกเรื่องครับ ชอบอารมณ์​ขันแบบชอตฟิลมากเลยรคีับ


dumrongsak

จบขยายความได้สมบูรณ์แบบ ชอบสาวๆ ทุกคนเลย และแอบอิจฉาชาคริตนะ


testman

โห ไม่คิดว่า สุดท้าย เบญจะมีลูก 5 ส่วนน้องญาจะอาภัพขนาดนั้น แแต่ถึงยังไง ชาคริตเราก็ทรงพลัง ได้ลูกตั้งทีมฟุตบอลได้ 55555

ภาคแยก ขอน้องเป็ดครับ ดูแล้ว เป็นพระเอกที่น่าเอ็นดูที่สุดแล้ว

ryg123456



Paul K

เลือกนากมากๆเลยครับ ญาก็ดี เบญก็น่ารัก แต่แอบเชียร์คู่คริตกะเจ๊มากกว่า

Kompaphat

อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ สนุกมาก ให้กำลังใจนักเขียนนะครับที่ผลิตผลงานดีๆมาให้อ่าน