ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ชุ้ง

แม่ยังสาว กับรักที่ซ่อนเร้น” ตอนที่ 2 รอยแผลจากอดีต และไฟรักที่ไม่อาจดับ

เริ่มโดย ชุ้ง, พฤษภาคม 20, 2025, 01:55:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ชุ้ง

กลางบ่ายในห้องทำงานบนชั้นสูงสุดของบริษัทเครื่องสำอาง "LanXian Beauty" แสงแดดลอดผ่านกระจกบานใหญ่สะท้อนกับพื้นหินอ่อนแวววาว หลินหลานเซียนนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานหรูหราท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ มือเรียวพลิกแฟ้มเอกสารอย่างสง่างาม แต่ในแววตากลับไร้สมาธิ

ตั้งแต่ได้รับข้อความสั้นจากฟางอี้เชินเมื่อเช้า หัวใจของเธอก็ไม่เป็นปกติอีกเลย

"ผมคิดถึงคุณครับ..."

คำพูดเรียบง่ายแต่หนักแน่นนั้นฝังลึกอยู่ในใจเธอ ทำให้ความทรงจำคืนก่อนๆ หวนกลับมา... ภาพร่างเปลือยเปล่าของเขาในแสงจันทร์ ริมฝีปากร้อนแรง ความกระหายที่เธอเคยห้ามใจ—แต่ล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้นขัดความคิด

"ขอโทษค่ะคุณหลานเซียน" ซูหลิงเดินเข้ามาพร้อมถาดน้ำชา "อีกสิบห้านาทีจะเริ่มประชุมค่ะ"

"ขอบใจนะซูหลิง" หลานเซียนพยักหน้า ยิ้มอ่อนๆ

ขณะที่ซูหลิงเดินออกจากห้อง หลานเซียนลุกขึ้นเดินไปที่กระจกสูงริมผนัง มองตัวเองด้วยแววตาทบทวน

"นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่..." เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ

แม้อายุของเธอจะมากกว่าอี้เชินถึง 16 ปี แต่เวลาที่อยู่กับเขา เธอกลับรู้สึกราวกับเป็นเด็กสาวที่เพิ่งรู้จักรัก หัวใจที่เคยด้านชาเพราะการแต่งงานที่ล้มเหลว และความโดดเดี่ยวตลอดหลายปี... กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเพียงเพราะรอยยิ้มของเขา

เธอคิดถึงวันแรกที่พบกัน...

วันนั้นเป็นวันรับปริญญาของเจียเหยา หลานเซียนไปร่วมงานพร้อมช่อดอกไม้สวยหรู และได้พบกับอี้เชินเป็นครั้งแรก ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ท่าทางทะเล้นแต่อ่อนโยน ท่ามกลางฝูงชน เขาเดินเข้ามาช่วยเธอถือของด้วยรอยยิ้มอบอุ่นที่ไม่มีเจตนาแฝงใดๆ และนั่นคือวันที่หัวใจของเธอเริ่มเปิดออกอีกครั้ง

แต่ความสัมพันธ์ก็ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ—โดยเฉพาะหลังจากคืนหนึ่งที่อี้เชินมาส่งเธอที่บ้าน ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย และเสียงหัวใจที่ดังเกินควบคุม...

"คุณหนาวไหม?" เขาถาม พลางยื่นแจ็คเก็ตให้

เธอรับมา... แล้วเงยหน้ามองเขา

"อี้เชิน..." เสียงเธอสั่นเล็กน้อย

"ครับ?"

เขาจ้องตาเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลง... จูบริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา

รอยจูบนั้นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ต้องห้าม...

กลับมาที่ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือของเธอสั่นขึ้นอีกครั้ง

[อี้เชิน]: "คืนนี้ ผมขอเจอคุณได้ไหม?"

หลานเซียนกำโทรศัพท์แน่น ความรู้สึกว้าวุ่นระคนกลัวแล่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์นี้ไม่อาจยั่งยืน แต่ทุกครั้งที่เขาอยู่ใกล้ ความเป็นเหตุเป็นผลของเธอก็พังทลาย

"คืนนี้..." เธอพิมพ์ตอบไป "หลังจากประชุมเสร็จแล้วเจอกันที่ห้องพักริมแม่น้ำ"

เธอมีคอนโดลับแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จัก—แม้แต่ซูหลิง ที่นั่นคือโลกของเธอกับฟางอี้เชินเท่านั้น

คืนนั้น... ลมเย็นพัดโชยเบาๆ ผ่านม่านผ้าชีฟองสีงาช้างที่ปลิวไหวอย่างแผ่วเบาในห้องนอนของคอนโดหรูริมแม่น้ำหวงผู่

ห้องนอนสว่างด้วยแสงโทนอุ่นจากโคมไฟระย้าคริสตัลเหนือหัวเตียง ในเงาแสงนั้น เธอยืนอยู่หน้ากระจกบานสูงริมผนัง — ร่างระหงในชุดคลุมไหมสีครีมแนบเนื้อ ริมฝีปากบางแต่งแต้มด้วยสีแดงก่ำเจือความเคร่งขรึมของหญิงสาวที่ผ่านร้อนผ่านหนาว

หลินหลานเซียนทอดสายตาออกไปยังทิวทัศน์ของ มหานครเซี่ยงไฮ้ ที่สว่างไสวด้วยแสงไฟนีออนจากตึกระฟ้านับไม่ถ้วน ภาพสะท้อนบนแม่น้ำหวงผู่พลิ้วไหวราวกับบทกวีของค่ำคืนที่มีเพียงเธอและเงาอดีตคอยหลอกหลอน

เธอหายใจเบาๆ พลางยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ มุมปากกระตุกยิ้มบางอย่างไร้อารมณ์ — คืนนี้เป็นคืนที่เธอควรจะได้พักผ่อน... แต่กลับรู้สึกว่าอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น

แผ่นหลังเปลือยเปล่าท่ามกลางแสงไฟระยับ เผยให้เห็นความงามอันน่าหลงใหลของหญิงสาววัยสามสิบกว่า ที่ไม่ใช่แค่สวย... แต่ตราตรึง

แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น... แผ่วเบาแต่แน่วแน่

คืนนั้น... ลมเย็นพัดโชยเบาๆ ผ่านม่านผ้าชีฟองสีงาช้างที่ปลิวไหวอย่างแผ่วเบาในห้องนอนของคอนโดหรูริมแม่น้ำหวงผู่

ห้องนอนสว่างด้วยแสงโทนอุ่นจากโคมไฟระย้าคริสตัลเหนือหัวเตียง ในเงาแสงนั้น เธอยืนอยู่หน้ากระจกบานสูงริมผนัง — ร่างระหงในชุดคลุมไหมสีครีมแนบเนื้อ ริมฝีปากบางแต่งแต้มด้วยสีแดงก่ำเจือความเคร่งขรึมของหญิงสาวที่ผ่านร้อนผ่านหนาว

หลินหลานเซียนทอดสายตาออกไปยังทิวทัศน์ของ มหานครเซี่ยงไฮ้ ที่สว่างไสวด้วยแสงไฟนีออนจากตึกระฟ้านับไม่ถ้วน ภาพสะท้อนบนแม่น้ำหวงผู่พลิ้วไหวราวกับบทกวีของค่ำคืนที่มีเพียงเธอและเงาอดีตคอยหลอกหลอน

เธอหายใจเบาๆ พลางยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ มุมปากกระตุกยิ้มบางอย่างไร้อารมณ์ — คืนนี้เป็นคืนที่เธอควรจะได้พักผ่อน... แต่กลับรู้สึกว่าอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น

แผ่นหลังเปลือยเปล่าท่ามกลางแสงไฟระยับ เผยให้เห็นความงามอันน่าหลงใหลของหญิงสาววัยสามสิบกว่า ที่ไม่ใช่แค่สวย... แต่ตราตรึง

แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น... แผ่วเบาแต่แน่วแน่

เธอหันกลับไปช้าๆ เสียงส้นเท้าของเธอดังก้องในห้อง เธอรู้ดีว่าใครอยู่หลังประตู — และรู้ดีว่านี่คือจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่เธอไม่อาจห้ามใจได้อีกต่อไป

ต่อจากฉากก่อนหน้า
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง... คราวนี้แผ่วกว่าเดิม แต่กลับเร่งจังหวะการเต้นของหัวใจเธอ

หลินหลานเซียนเดินไปอย่างเงียบเชียบ ฝ่าเงาไฟระยับในห้อง เสียงชุดคลุมไหมเสียดสีกับต้นขาเปลือยเปล่าดังแผ่วเบา
เธอเปิดประตูแง้มช้าๆ และพบกับดวงตาคู่หนึ่งที่จ้องตอบกลับมา

ผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้า — ผิวขาวจัดแบบสาวเกาหลี ผมยาวสีเข้มตรงเป็นแพรไหม ดวงตาคมกล้าในกรอบหน้าหวาน
ข้างๆ กันคือผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว ผมสีน้ำตาลเข้มที่เซ็ตมาอย่างมีสไตล์ ดวงตาเขาเรียบสนิทแต่ลึกจนอ่านไม่ออก

"เรามาตามนัด..." หญิงสาวพูดเสียงแผ่ว เบาเหมือนกระซิบ

หลานเซียนพยักหน้า แล้วแง้มประตูออกให้ทั้งสองเดินเข้ามา
เธอไม่พูดอะไร... เพราะคำพูดไม่จำเป็นในค่ำคืนนี้

เมื่อประตูปิดลง... ความเงียบครอบคลุมห้อง แต่เต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนบางอย่างในอากาศ

หลานเซียนเดินนำทั้งคู่เข้าไปยังห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาหนังสีครีม หรูหราและกว้างขวาง
เธอหยิบไวน์ขึ้นมาอีกแก้ว เทให้ชายหญิงตรงหน้า เสียงไวน์รินดังชัดในห้องเงียบสงัด

ไม่มีคำถาม ไม่มีคำตอบ มีเพียงรอยยิ้มที่ต่างคนต่างเข้าใจ
มือของหญิงสาวเกาหลีแตะลงบนต้นแขนของหลานเซียนอย่างเบาเบา — สัมผัสที่เหมือนไร้น้ำหนักแต่กลับปลุกไฟในจิตใจ

จากนั้น... หลานเซียนก็วางแก้วไวน์ลงช้าๆ เดินเข้าไปใกล้ทั้งคู่ ดวงตาเธอสบกับสายตาชายหนุ่มชั่ววินาทีหนึ่ง ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นแตะปลายคางเธอเบาๆ แล้วโน้มหน้าลงกระซิบอะไรบางอย่างที่ไม่มีใครได้ยิน

เส้นไหมของชุดคลุมขยับเล็กน้อย เหมือนพร้อมจะหลุดจากไหล่ขาวเนียนที่กำลังสั่นไหว
ชายหนุ่มถอดเสื้อแจ็กเก็ตวางไว้บนพนักโซฟา ฝ่ายหญิงถอดรองเท้าส้นสูงออกอย่างช้าๆ นิ้วเท้าเรียวงามแตะพื้นห้องไม้เย็นเยียบ


แสงไฟจากโคมคริสตัลเหนือหัวหรี่ลงเมื่อหลานเซียนเอื้อมมือปิดสวิตช์ โคมเดียวที่ยังสว่างอยู่คือโคมตั้งพื้นข้างโซฟา แสงสีอำพันทอดผ่านม่านชีฟอง พาดเงาอ่อนบนผิวขาวของทั้งสามคน

ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาก่อน เขาเอนหลังพิงพนักอย่างผ่อนคลาย ดวงตายังไม่ละจากร่างของหลานเซียนที่ค่อยๆ ก้าวเข้ามาใกล้
หญิงสาวชาวเกาหลีเดินตามหลัง เธอนั่งลงข้างชายหนุ่ม สายตาเธอมองหลานเซียนอย่างชัดเจน — ไม่ใช่แค่ความสนใจ แต่เหมือนเฝ้ารอคำเชื้อเชิญที่ไม่จำเป็นต้องเปล่งออกมา

หลานเซียนยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา ชุดคลุมไหมไหลลงจากไหล่ข้างหนึ่ง เผยให้เห็นบ่าเปลือย และรอยจูบสีจางจากเมื่อคืนก่อน
แววตาของทั้งสองคนบนโซฟาเปลี่ยนไปทันที — ลึกขึ้น... หนักแน่นขึ้น... เหมือนคลื่นใต้น้ำที่กำลังสั่นสะเทือน

หญิงสาวเกาหลีขยับตัว ลุกขึ้นมายืนตรงหน้าเธอ มือเรียวยกขึ้นแตะที่คอเสื้อของหลานเซียนอย่างนุ่มนวล แล้วดึงชุดคลุมนั้นให้ตกจากบ่า
หลานเซียนไม่ได้ขัดขืน เธอเพียงพ่นลมหายใจแผ่วเบา ขณะที่ความเย็นของอากาศปะทะกับผิวกายที่ไร้ผ้า

เงาจากไฟส่องบนผิวเปลือยอย่างนุ่มนวล ทั้งสามคนไม่พูดอะไร ราวกับทุกการเคลื่อนไหวถูกซักซ้อมกันมานานแล้ว

ชายหนุ่มลุกขึ้นมาเข้าประชิดด้านหลังของหลานเซียน มือเขาวางบนเอวเธอ ขณะที่หญิงสาวด้านหน้าก็โน้มหน้าลงมาสัมผัสเบาๆ ที่ไหปลาร้า
สัมผัสนั้นอ่อนโยน แต่ไฟในร่างกลับลุกโชนขึ้นช้าๆ

เสียงลมหายใจเริ่มดังขึ้นในห้อง
มือ สัมผัส ริมฝีปาก และกลิ่นหอมจากผิวหนังของแต่ละคน เริ่มหลอมรวมกันอย่างช้าๆ
พวกเขาผลัดกันเป็นผู้ตามและผู้นำ
หญิงสาวคนหนึ่งประสานมือกับอีกคนในขณะที่อีกฝ่ายซบลงกับผิวหลังอุ่นร้อน
ไม่มีคำพูด... มีเพียงเสียงของร่างกายและใจที่เต้นสอดประสาน

เสียงเนื้อสัมผัสกับผ้าไหม เบาแผ่ว... สลับกับเสียงหอบหายใจที่เริ่มถี่
โซฟานั้นกลายเป็นเสมือนเวทีของราตรี — ร่างเปลือยพัวพันกันอยู่ใต้แสงไฟที่ค่อยๆ มืดลง

เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ไม่มีใครรู้...
เมื่อทุกอย่างสงบลง เหลือเพียงเสียงลมหายใจที่ผ่อนคลาย หญิงสาวชาวเกาหลีเอนศีรษะลงบนตักของหลานเซียน
ชายหนุ่มนั่งข้างๆ เธอ มือข้างหนึ่งวางบนต้นขาของหลานเซียนที่ยังอุ่น

ในความเงียบ หลานเซียนหลับตาเบาๆ และพูดแผ่วราวกระซิบ...

"คืนนี้... เรายังไม่จบ"