ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 7 (Copy)

เริ่มโดย bananaa, เมษายน 17, 2010, 12:35:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

bananaa

ความเดิมตอนที่แล้ว
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 1
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 2
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 3
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 4
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 5
เล่ห์สวาทเพลิงราคะ 6

ฐิติพรรณหันไปมองรถเมล์ประจำทางคันใหญ่ที่ดูสภาพแล้วแสดงว่ายังใหม่อยู่มากกำลังเปิดประตูตรงกลางรอรับ โดยในตอนนั้นรถประจำทางคันใหญ่โล่งโจ้งสว่างจ้าไม่มีผู้โดยสารสักคน มีเพียงกระเป๋ารถเมล์ซึ่งเป็นเด็กสาววัยรุ่นยื่นหน้าออกมาร้อง

"เอ้า..จะไปหรือไม่ไป...เที่ยวสุดท้ายแล้ว"

พริตตี้สาวลังเลใจ ศักดาถือวิสาสะรุนหลังเธอให้เดินไปที่รถ กระซิบเสียงหวาน

"เชื่อพี่เถอะนะจ๊ะ น้องไอซ์คนดีของพี่ศัก ..พี่ศักจะได้มีเหตุผลแวะไปหาน้องไอซ์ที่ห้องพักได้อีกไงจ๊ะ ตอนเอาของไปส่งน่ะ"

ฐิติพรรณหัวเราะคิกคิก กับคำพูดที่แสดงถึงอาการอาลัยอาวรณ์ของศักดา ขณะที่ครุ่นคิดนิดหนึ่ง ก็เห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไร อีกอย่างกลับแท็กซี่ดึกๆ ตามลำพังมันก็อันตรายอยู่เหมือนกัน นั่งรถเมล์แอร์ที่สภาพใหม่ๆ สว่างๆ ไปอย่างนี้มันก็ดีไปอย่าง มีอะไรเกิดขึ้นอย่างน้อยก็มีพนักงานเก็บค่าโดยสารผู้หญิงเพศเดียวกับเธออยู่เป็นเพื่อน

ดังนั้นสาวสวยจึงหันมาโบกมือให้ชายหนุ่มอย่างร่าเริงเสียงใส

"ค่ะ..อย่างนั้นไอซ์ขอตัวนะคะ.."

ศักดายิ้มกว้างอย่างสมใจ โบกมือตอบกล่าวว่า

"จ้ะ...แล้วพี่จะรีบติดต่อไปหา"

จิ้งจอกสวาทยิ้มเยือกเย็น เมื่อแลเห็นรถคันใหญ่ปิดประตูและแล่นออกไป โดยโบกมือให้สาวน้อยที่เดินอยู่ในรถซึ่งกำลังโบกมือตอบ

............................

"เฮ้ย สิงห์ไม่เปลี่ยนใจแน่นะเพื่อน?"

"เออ..ไว้งวดหน้าแล้วกัน..พรุ่งนี้ไม่ว่างจริงๆ"

คมศรหันไปโบกมือลาเพื่อนฝูงกลุ่มที่ลากเข้ามาดื่มต่อที่ผับหรูแห่งหนึ่งที่คนที่จะเข้าไปใช้บริการได้ต้องเป็นสมาชิกของผับเท่านั้น และค่าสมาชิกของผับปีหนึ่งๆ นั้นเป็นตัวเลขเกือบห้าหลัก แต่ถึงกระนั้นจำนวนของผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกของผับนั้นมีสูงมากจนไม่น่าเชื่อ และส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักธุรกิจเงินล้าน นักการเมืองชื่อดัง รวมไปถึงกลุ่มคนที่ต้องการแหล่งบันเทิงที่ครบวงจรประกอบกับการเจรจาทางการค้าที่มีมูลค่านับเป็นพันๆ ล้าน

ผับหรูแห่งนี้บริการทุกอย่างในผับฟรีแก่ผู้เป็นสมาชิกไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ อาหารเลิศรส บริการนวดตัวนวดเท้า แต่มีสินค้าอย่างเดียวที่สมาชิกจำเป็นต้องจ่ายถ้าอยากใช้บริการ และของสิ่งนั้นเดินผ่านหน้าชายหนุ่มร่างใหญ่ไปเป็นระยะๆ พร้อมกับกระจายกลิ่นแห่งความหอมจรุงที่มาพร้อมๆ กับความอวบอัด เรือนกายอันสะคราญ และมีการตบแต่งใบหน้าและการแต่งกายที่ชวนวาบหวามใจ

สตรีที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีในหลากหลายวัยเพื่อรองรับความต้องการหลายหลากนั้น เบื้องหน้าสตรีเหล่านี้จะเป็นเพื่อนในการนั่งทานเหล้า หรือร้องเพลงตามแต่ที่จะเรียกใช้บริการได้ฟรีสำหรับสมาชิก แต่เบื้องหลังคือสินค้าชนิดเดียวที่สมาชิกจำเป็นต้องจ่ายเงินถ้าต้องการนำออกไปใช้บริการนอกสถานที่ ถ้าสามารถตกลงเงื่อนไขกันได้ระหว่างสมาชิกกับสาวสวยเหล่านั้น

คมศรคิดในใจอย่างครึกครื้น นี่ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่ต้องจับไฟลท์แรกตั้งแต่เช้าเดินทางไปกรุงเทพ บางทีอาจจะเหน็บหน้าขาวๆ บางแดงๆ หลายคนที่เดินหลิ่วตาล้อเลียนเข้ากลับไปสักคนหนึ่ง

ความครุ่นคิดของชายหนุ่มร่างสูงหยุดชะงักลง เมื่อสายตาเขาไปปะทะเข้ากับคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังเดินออกมาจากประตูของห้องหับที่แบ่งซอยเป็นห้องย่อยๆ ไว้รองรับแขกเหรื่อห้องหนึ่ง

ชายที่สูงวัยในชุดสูทสีกรมท่า ใบหน้าที่บอกวัยอันมากนั้นเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งประสบการณ์ชีวิตที่โชกโชน ผมสีเทานั้นไม่ทำให้ดูชราภาพแต่กลับส่งเสริมให้เห็นถึงบุคลิกภาพที่นิ่มนวลดูน่านับถือ ยืนอยู่ท่ามกลางการรายล้อมของคนหลายคนก็ยังดูโดดเด่นเป็นเอกคนนั้นคมศรรู้จักดี และการรู้จักนั้นยังรวมไปถึงชายวัยกลางคนร่างอ้วนศีรษะเถิกที่ก้มหัวก้มหน้าคำนับพินอบพิเทาด้วยทีท่าประจบประแจงนั้นด้วย เพราะอีกฝ่ายคือหนึ่งในผู้เล่นไพ่ร่วมโต๊ะกับเขาในค่ำคืนนี้ที่ผ่านมาเอง และถ้าคมศรจะจำไม่ผิดชายคนนั้นหรือเสี่ยทองสูญเสียเงินไปเยอะพอสมควร

คมศรทำทีเป็นก้มลงผูกเชือกรองเท้า ขณะที่ได้ยินเสียงดังแว่วๆ มาจากชายผู้สูงวัย

"เสี่ยไม่ต้องห่วง เรื่องโรงแรมผมพอจะช่วยพูดกับหนูอรได้แน่...."

"ขอบคุณครับท่าน ...ขอบคุณครับมาก..กระผมจะไม่ลืมพระคุณของท่านอย่างแน่นอนครับ"

ผู้สูงวัยกว่าผงกศีรษะรับ และยกมือตบไปที่บ่าของผู้อ่อนวัยกว่าที่กำลังน้อมกายประนมมือไหว้อย่างนอบน้อม เป็นการแสดงทีท่าเหมือนปลอบใจ ก่อนจะหันกายเดินผละไปโดยมีผู้คนเดินห้อมล้อมตามไปเป็นพรวน โดยเสี่ยทองนั้นยังคงยืนโค้งคำนับไปจนกระทั่งคนกลุ่มนั้นเดินหายลับไปทางมุมตึกซึ่งเป็นทางเดินออก

คมศรยังทำทีเป็นผูกเชือกร้องเท้าอยู่ ขณะที่เสี่ยร่างอ้วนเดินสวนไปด้านหลังพร้อมๆ กับคนติดตามสองสามคนนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญหรือสนใจในตัวของชายที่กำลังก้มผูกเชือกรองเท้าอยู่ข้างทางเดินเลย

"เสี่ยคิดว่าท่านจะช่วยพูดได้จริงๆ ไหมครับ"

เสียงผู้ติดตามคนหนึ่งถามเบาๆ เสี่ยทองที่เดินนำหน้าหัวเราะร่า กล่าวอย่างกระหยิ่ม

"ไม่ว่านังอรชามันจะเก่งแค่ไหนก็ต้องเกรงบารมีท่านล่ะวะ กูไม่เชื่อว่านังคนสวยนั่นมันจะกล้าไม่ฟังคำที่ท่านขอร้อง.."

คนกลุ่มนั้นเดินห่างออกไป หางเสียงสุดท้ายที่คมศรได้ยินขณะทำเป็นผูกเชือกเสร็จและผุดลุกขึ้นแว่วเข้ามา

"อีนังหน้าอ่อนเด็กเพิ่งหย่านมแม่...คิดจะฮุบกิจการกูง่ายๆ...ฝันไปเหอะ"

ด้วยทีท่าที่เดินออกไปแบบสบายๆ เหมือนเดินทอดน่องเล่น ดวงตาสีเหล็กนั้นมีประกายคมกล้าอย่างพินิจพิจารณาใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง

อรชา?
............................

ฐิติพรรณเลือกที่นั่งเดี่ยวตรงบริเวณค่อนมาทางด้านหน้าห่างจากคนขับประมาณสองสามแถว ขณะที่พนักงานเก็บเงินเดินเข้ามาทำหน้าที่

พริตตี้สาวหยิบกระเป๋าเงินออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มถาม

"รถคันนี้ผ่านดินแดงใช่ไหมคะ..."

"ฮื่อ...เที่ยวสุดท้ายแล้วด้วย โชคดีนะคุณน่ะ.."

ฐิติพรรณเปิดกระเป๋าเงินจะหยิบเงินมาจ่าย ก็ไม่รู้เท่าไหร่ เลยถามไปด้วยวาจาที่ติดจะโอ้อวดนิดๆ

"เท่าไหร่คะ...แหม..ไม่ได้ขึ้นมานาน...เลยไม่รู้เท่าไหร่"

ซึ่งความที่จริงสิ่งที่พริตตี้สาวพูดก็ไม่ใช่คำโอ้อวดที่เกินเลยไปจากความจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะโดยปกติเด็กสาวขับรถไปเรียนทุกวัน ส่วนในกรณีที่ไปเที่ยวหรือไปทำงานพิเศษ ถ้าเธอไม่ขับรถไปเองก็จะติดรถเพื่อนไป แต่โดยมากนั้นจะมีคนขันอาสาขับรถไปรับส่งเด็กสาวแสนสวยอยู่เสมอๆ

แต่คำพูดที่แม้เป็นความจริงทว่าดูราวกับอวดโอ่ฐานะของตนเองนั้นมันจี้ใจดำของคนฟังที่มีสภาพความเป็นอยู่ที่ต่างจากพริตตี้สาวลิบลับ สภาพการใช้ชีวิตที่ต้องดิ้นรนแบบปากกัดตีนถีบมาจากครอบครัวที่ยากจน สภาพแห่งการใช้ชีวิตในสังคมวัยรุ่นมีความต้องการสูงแต่ไร้ซึ่งเงินทองที่จะมาใช้จ่ายเพื่อสนองความต้องการเหล่านั้น และที่สำคัญสภาพแห่งการไร้ซึ่งอนาคตอันสดใสเพราะเกลือกกลั้วตกต่ำอยู่ในกลุ่มก๊วนของพวกเด็กวัยรุ่นขี้ยา

พนักงานเก็บเงินที่เคี้ยวหมากฝรั่งตุ๊ยๆ มองใบหน้าสวยงาม เรือนร่างอันเป็นที่ใฝ่ฝันอยากจะมีของผู้หญิงทุกคนตรงหน้าแล้ว นึกในใจ

"อีชะนีหีหึ่ง..คงคิดว่าตัวเองคงสวยรวยเริ่ดชิบหายล่ะสิ...ทีแรกกูก็แอบสงสาร แต่ตอนนี้..สมน้ำหน้า...ให้ไอ้แม่เย็ดชิดกับพวกโกรกให้โกร๋นเลย......ดูดให้แห้ง... .อยากรู้นักว่าจะรวยจะเริ่ดอยู่นานแค่ไหน.."

ถึงแม้ในใจนั้นด่าแบบสาดเสียเทเสียอย่างไร แต่ต่อหน้าที่ทำหน้าเฉยๆ ไม่ตอบคำ และชี้นิ้วไปที่ข้อความที่ติดอยู่เป็นระยะๆ ที่ผนังรถว่า "30 บาทตลอดสาย"

ฐิติพรรณมองตามไปก็หัวเราะ กล่าวยิ้มๆ ขณะส่งเงินให้

"อุ๊ย ไม่ทันเห็น โทษที..."

พนักงานสาววัยรุ่นนั้นฉีกตั๋วส่งให้ พริตตี้สาวสวยก็รับมาถือเอาไว้ในมือก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ก่อนที่เธอจะหันหน้าออกไปทางนอกหน้าต่าง นั่งมองออกไปเพลินๆ ส่วนพนักงานสาวรุ่นแสยะมุมปากยิ้มขณะเดินกลับไปนั่งสมทบที่ข้างๆ ด้านคนขับรถ นัยน์ตาที่คอยกวาดมองมายังแสดงแววตาขวางๆ อย่างสาแก่ใจ

พักหนึ่งรถโดยสารก็จอด และรับผู้โดยสารขึ้นมา

ฐิติพรรณไม่ได้สนใจอะไร เพราะนั่งอยู่ที่นั่งที่ค่อนมาทางข้างหน้า พักหนึ่งหญิงสาวรู้สึกมึนๆ ศีรษะขึ้นมาอย่างกระทันหัน พยายามสั่นศีรษะที่ได้รูปสวยของตัวเองไปมา คิดในใจ

"เอ..หรือดื่มพันซ์มากไป ก็แค่สามแก้วเองนี่นา....อีกอย่างตอนออกมากับพี่ศักก็ไม่เป็นอะไร..สงสัยเราคงเที่ยวมากไปจนเหนื่อย..."

พริตตี้สาวยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเอง โดยหารู้ไม่ว่ายิ่งทำให้สารแปลกปลอมที่ฉาบอยู่บนตั๋วในมือที่ถือเปื้อนอยู่ตามนิ้วมือของเธอนั้นจะกระจายไปตามวงหน้างามของตนเองมากขึ้น

รถโดยสารหยุดและเปิดประตูออกอีก

เอ๊ะ จอดอยู่ได้ นี่มันดึกแล้วนะ

ฐิติพรรณคิดอย่างหงุดหงิด เธอรู้สึกมึนหัวอยากกลับถึงที่พักเร็วๆ

พริตตี้สาวเห็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งเดินมาแยกย้ายนั่งที่เก้าอี้ที่ว่างๆ อยู่รอบตัวเธอแถบนั้นจนเต็ม ใบหน้างามนั้นหันหลังไปดูก็พบว่ารถคันใหญ่ที่เมื่อครู่ยังว่างเปล่าแต่ตอนนี้เธอมองเห็นใบหน้าของคนนั่งอยู่ในที่นั่งด้านหลังจนเต็ม นัยน์ตาเบลอๆ นั้นแยกแยะใบหน้าที่ดำทะมึนเหล่านั้นไม่ค่อยออก

เอ๊ะ คนพวกนี้มาจากไหนนะ?

ขณะที่เธอกำลังงงๆ อยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น ที่นั่งข้างๆ ก็ยวบลง พร้อมๆ กับร่างของใครคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ เบียดแนบชิดกับร่างของเธอ

ฐิติพรรณหันไปมองใบหน้าเสี้ยมตอบนั้น รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเคยเจอที่ไหนมาก่อน แต่นัยน์ตาที่พยายามมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นเริ่มเบลอ เด็กสาวสะบัดหน้าไปมา พยายามกระเถิบตัวหนีไปชิดริมผนังรถมากขึ้น

พริตตี้สาวคิดในใจอย่างโกรธๆ ใครกันบังอาจมานั่งเคียงข้างเธอ โดยที่เด็กสาวลืมนึกไปว่าที่นี่คือรถเมล์สาธารณะที่ใครๆ ก็ขึ้นมาได้ ปากบางงามตวัดเสียงสูงถาม

"ใคร?"

แต่เสียงของเธอเองมันดูอ่อนล้า และพร่าเบาจนเด็กสาวแทบไม่เชื่อหูว่านี่เป็นเสียงเธอจริงหรือ

"ผมชิดไงครับ พี่สาวจำผมไม่ได้หรือครับ"

เสียงตอบนั้นเหมือนกับจะก้องอยู่ในโสตประสาทเธอแต่ไกลๆ ฐิติพรรณทบทวนอย่างงุนงงเธอรู้จักใครชื่อชิดด้วยหรือ?

พร้อมๆ กับอาการมึนศีรษะตุ้บๆ นั้นเร่งอาการขึ้นมาอย่างมากจนเธอต้องครางออกมา ยกมือกุมขมับ

"นี่ฉันเป็นอะไรไป"

ฐิติพรรณพึมพำออกมา เสียงตอบดังมาใกล้ๆ

"พี่สาวคงเมารถ ชิดจะช่วยนะครับ"

พริตตี้สาวรู้สึกว่าแขนข้างที่ยกมือขึ้นกุมขมับของเธอถูกจับดึงเหยียดไปข้างตัว เด็กสาวอยากจะดึงกลับแต่รู้สึกอ่อนเปลี้ยไปหมด

ท้องแขนขาวผ่องนั้นถูกตีตุบๆ ด้วยนิ้วอย่างชำนาญจนแลเห็นสายเส้นเลือดผุดขึ้นเป็นแนว

ฐิติพรรณพยายามลืมตาเบลอๆ ขึ้นมองก็เห็นอีกฝ่ายนั้นกำลังจรดเข็มฉีดยาเข้ามาที่ท้องแขนของตัวเอง ต้องร้องเสียงสั่นๆ

"จะ..จะทำอะไร..ฉัน"

พริตตี้สาวพยายามจะดึงแขนกลับ แต่รู้สึกมีมือจากด้านหลังเอื้อมเข้ามากดหัวไหล่ของเธอเอาไว้แน่น อย่าว่าแต่ตอนนี้เธอรู้สึกอ่อนเปลี้ยไปหมด เด็กสาวได้ยินเสียงกระเส่าดังแว่วมาจากคนที่นั่งเบียดอยู่

"ไม่ต้องห่วงครับ ชิดรู้อาการนี้ดี ..ฉีดยาสักเข็มพี่สาวก็หายเป็นปลิดทิ้ง..กลายเป็นสนุกสุดๆ.."

ฐิติพรรณรู้สึกงงไปหมด นี่มันอะไรกัน? ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่ท้องแขนตัวเอง ร่างบางสะดุ้ง ครางออกมาเบาๆ รู้สึกความร้อนสายหนึ่งแหวกว่ายอยู่ในร่างอย่างรวดเร็วโดยมีจุดเริ่มต้นมาจากบริเวณแขนของตัวเอง

ความร้อนนั้นเริ่มแรงขึ้นๆ จนต้องหอบหายใจออกมา และยิ่งหายใจหนัก ความร้อนก็ยิ่งแผ่ซ่านไปทั่วตัวของเธอ

ร้อน ร้อนเหลือเกิน ร้อน....ร้อน...ทำไมร้อนอย่างนี้

เด็กสาวคร่ำครวญ ใบหน้างามตอนนั้นแดงก่ำไปจรดซอกคอขาวแลเห็นได้ถนัดภายใต้แสงไฟอันจ้าภายในรถเมล์ปรับอากาศเย็นเฉียบ นัยน์ตาของคนที่นั่งข้างๆ นั้นเบิกโพลงแทบถลนออกมา เมื่อเพ่งพิจารณาอยู่อย่างใกล้ชิดแทบจะเรียกว่าเนื้อแนบเนื้อนั้น จมูดที่ร่อนอยู่ใกล้ๆ สูดดมกลิ่นหอมรวยรินจากเรือนกายสุดงามอย่างกระสันซ่าน

ทันใดนั้นพริตตี้สาวรู้สึกมีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่บนตักตัวเอง เด็กสาวก้มลงมองก็พบว่าเป็นมือของคนที่นั่งข้างๆ กำลังขยำอยู่ตรงขาอ่อนตัวเอง

ฐิติพรรณรู้สึกใจหายวูบลึกเหมือนกับตกมาจากเหวสูง พยายามผลักมือนั้นออกไป แต่ความรู้สึกอย่างหนึ่งที่แผ่ซ่านออกมาจากการเล้าโลมสัมผัสนั้นมันปลดเปลื้องความรุ่นร้อนที่ระอุไปทั่วตัวของเธออย่างประหลาด

ทำไม ทำไม ทำไม?

พริตตี้สาวร่ำร้อง เธอควรจะผุดลุกขึ้น กรีดร้องและทำอะไรสักอย่างกับคนที่นั่งเบียดชิดเธออยู่และจาบจ้วงมายังร่างกายเธอ แบบ..แบบว่าไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำมาก่อน

แต่สิ่งที่นัยน์ตาเบลอๆ ของฐิติพรรณมองเห็น ช่วงขาอวบของเธอนั้นถูกยกขึ้นไปพาดตักของคนข้างๆ ส่วนตัวเธอเองนั้นนั่งแบะขาปล่อยให้มือนั้นโลมเลียขยำไปบนเนื้อขาวๆ ของเธอแต่โดยดี

"ธะ..เธอ...ทำไม..ฉัน...อึ้มมมมมมมมมมมมม"

ปากงามเอ่ยตะกุกตะกัก ก่อนที่จะได้แต่ร้องครางออกมาในลำคออย่างแตกตื่นใจ เพราะใบหน้าของคนที่เรียกตัวเองว่าชิดนั้นบดขยี้จูบมาบนปากของเธอ

ฐิติพรรณตัวสั่นด้วยความสะอิดสะเอียนกับลิ้นสากๆ ที่ควานเข้ามาในปากของเธอ เด็กสาวเบี่ยงศีรษะ พร้อมๆ กับพยายามปิดปากอย่างสุดชีวิต แต่เสียงหึ่งๆ ที่ดังใกล้ๆ เหมือนไกลสุดโสตประสาทดังแว่วเข้ามา

"อ้าปากกว้างๆ หน่อยสิพี่สาวคนสวย จะได้มันส์ๆ กว่านี้หน่อย.........."

พริตตี้สาวรู้สึกเหมือนถูกมนต์สะกด เมื่อขยับลิ้นของตัวเองให้พัวพันเสียดสีไล้ไปกับลิ้นสากที่ทะลวงเข้ามาในปาก ความพลุ่งพล่านที่เร่าร้อนอยู่ในร่างดูเหมือนจะไหวเวียนไปทั่วสรรพางค์ร่างกาย แต่...แต่..มันเสียว..เสียวดีเหลือเกิน....อือออออม์....

แก๊งเด็กนรกมองใบหน้างามที่สดสวยแดงก่ำ หลับตาพริ้ม ขนตางอนสวยกระพริบถี่ถี่ อ้าปากครางแลกลิ้นระรัวกับหัวโจกของพวกตนด้วยดวงตาที่เบิกโพลง ตัวสั่นกระสันซ่านไปทั่วทุกตัวคน

ความรู้สึกเสียวซ่านที่แผ่ซ่านอยู่เต็มโพรงปากนั้นถูกถอดถอนไป พริตตี้ถอนหายใจอย่างเสียดาย ลืมตาปรืออย่างโหยหา ก็แลเห็นใบหน้าของอีกคน คนนี้หน้าเต็มไปด้วยสิว ไม่ใช่ชิดคนเดิม ปากงามพึมพำ

"ชิด.."

"ผมมืดครับพี่สาว..ไม่ใช่ชิด"

เสียงกลั้วหัวเราะดังตอบ ฐิติพรรณอ้าปากงามออกจะเอ่ยอะไร ปากของอีกฝ่ายก็บดเบียดเข้ามา ความเสียวซ่านแบบเดียวกันพลุ่งพล่านขึ้น จนต้องครางออกมาอย่างพอใจ อืมมมมมม์

ไม่ใช่ชิดก็ไม่เป็นไร ...เสียว...เสียวว...ดีจัง.....อื้ออออออมมมมมมม

อ๋องกับอ้วนที่หันตัวมามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเก้าอี้แบบสองตอนที่แถวหลังถัดไปแบบเต็มๆ ด้วยสายตาเหลือกลานอย่างกระสันซ่าน มองเห็นใบหน้างามของที่ถูกจับให้เบือนหันไปด้านหลัง ปากบางจิ้มลิ้มที่เคยจีบด่าพวกตนอย่างรุนแรงเมื่อตอนเย็นกำลังถูกเพื่อนร่วมก๊วนผู้มีใบหน้าเกลื่อนไปด้วยสิวกำลังบดขยี้จูบอย่างหนัก อาการของสาวงามนั้นอ้าปากสนองตอบลิ้นของเพื่อนพวกตนอย่างเร่าร้อน ส่งเสียงคราง อื้อออออ อื้อออออ ไม่ขาด แล้วต่างต้องร่ำร้อง

"กูบ้างๆสิ...ไอ้เหี้ยมืด...สัตว์..ไอ้เหี้ย...เสือกเลียไปที่แก้ม เหม็นน้ำลายมึงตายห่า"

ปากพูดอย่างนั้น แต่พอร่างบางถูกดึงให้ผละจากพนักพิงเอนเข้ามาหาพวกตนทางแถวหน้า ใบหน้าสวยสดงดงามของพริตตี้สาวก็ถูกวัยรุ่นทั้งสองยื้อแย่งกันเข้าไปประกบปากดูดจูบไปจนทั่วอย่างเมามัน ร้องครางอูซซซ อูซซซซ ซี๊ดดดด ซ๊าดดดดดด อย่างตระกละตระกราม

ชิดยิ้มกริ่ม มองดูพรรคพวกทั้งสองรุมจูบไปที่หน้าของอีคนสวยปากหมาอย่างสะใจ ขณะที่แก้เข็มขัด ถอดกางเกงขายาวออกไปพร้อมๆ กับกางเกงใน ควยที่ไม่ถึงกับอวบอ้วนมากนั้นเพราะเจ้าของยังเป็นแค่เด็กวัยรุ่น แต่ก็แข็งเป็นลำยาวไม่น้อยลุกเด่ขึ้นมาอวดหัวถอกบาน

เสียงโห่เชียร์ดังกระหึ่มรอบๆ

ฐิติพรรณที่กำลังพริ้มตาครางครวญเพลินไปกับการสัมผัสโลมเลียตามใบหน้านั้น รู้สึกว่าร่างของตัวเองถูกดึงให้ลุกขึ้นและพลิกกลับไปนั่งคร่อมร่างของใครบางคน เด็กสาวลืมตาขึ้นก็พบใบหน้าของเด็กหนุ่มเสี้ยมตอบยิ้มเผล่ให้ เธอก็ยิ้มหวานตอบ พึมพำ

"ชิด..."

จากนั้นปากงามก็อ้าออกและก้มลงไปประกบกับปากหนาของเด็กหนุ่ม บดขยี้ปากงามของตนเองลงไป ซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่ขัดศรัทธา อ้าปากรับและแลกลิ้นพัวพันกับพริตตี้สาวอย่างสุดอร่อย

พริตตี้สาวไม่อยากเชื่อ ปากจิ้มลิ้มของเธอมีผู้ชายมากหน้าหลายตา พยายามเอาใจเธอเพื่อที่จะประกบสัมผัส แต่เธอก็เล่นตัว ยั่วเย้า หลบรอดมาได้ทุกครั้ง แต่ตอนนี้เธอกำลังก้มลงจูบเป็นฝ่ายรุกเร้าไปบนริมฝีปากผู้ชาย

ก็....ก็มันรู้สึกดีนี่นา....เสียวววววว.....สนุกกกกก....

ฐิติพรรณครางออกมาในใจ แลกลิ้นระรัวเสียง ซู๊บบบบบ ซ๊วบบบบบ ดื่มด่ำกับความเสียวซ่านที่พลุ่งพล่านอย่างอิ่มเอม พร้อมกับครวญออกมาอย่างรัญจวนใจผ่านริมฝีปากที่บดเบียดกันดัง อื้อออออมม อื้ออออมมม

ก๊วนเด็กนรกที่มุงอยู่ เบิกตาแทบถลนมองไปยังพริตตี้สาว ที่ตอนนั้นท่านั่งที่เธอถ่างขางามคร่อมตักของชิดนั้น ทำให้เนื้อผ้านุ่มของกระโปรงสั้นลายการ์ตูนนั้นม้วนตลบขึ้นไปกองตรงช่วงเอวคอดกิ่ว ทำให้ช่วงขาขาวๆ นั้นแลเห็นเป็นลำงามตลอดไปจรดลอนสะโพกผายที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีขาวบางเบา และเหนืออื่นใดเนินนูนตรงโคกอูมนั้นมองเห็นได้รำไรจากร่างงามที่เบียดกระแซะตัวของเด็กหนุ่มหัวโจกที่นั่งผงาดควยรับ

"อูยยยย...ขาวชิบหาย ขาสวยเป็นบ้า.. ตูดกลมดิกเลยวุ้ย...."

อ้วนที่เบิกตาแทบถลน ร้องเสียงกระเส่า

ฐิติพรรณบดปากจูบไปกับหัวโจกแก๊งเด็กนรกพลาง หัวเราะคิกไปพลาง ใช่สิ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าขาตัวเองสวยขนาดไหน เด็กสาวรู้สึกสนุกสนานขึ้นมาจนส่ายสะโพกผายตัวเองเป็นวงกลมตอบสนองต่อคำชมเชยนั้น เรียกเสียงเชียร์ได้กระหึ่มรถ

วู้วววววว วู้ววววว วู้วววววว อย่างนั้น อย่างนั้น พี่สาว....

พลันพริตตี้สาวรู้สึกท่อนแข็งๆ ที่ตอนนี้เบียดอยู่กับเนินนูนของตัวเองเต็มๆ ผ่านเนื้อผ้าบางเบาที่เธอสวมใส่อยู่ เด็กสาวผละริมฝีปากออกมาอย่างเสียดาย และก้มลงมองก็เห็นลำเอ็นที่กำลังแผ่บานร่ากระเด้งถอกหงึกหงัก

ฐิติพรรณไม่ใช่เด็กสาวที่อยู่ในโอวาทของผู้ใหญ่ครูบาอาจารย์แบบเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ ในชีวิตที่ใฝ่หาความอิสระและคบหาเพื่อนฝูงแบบเสรี ถึงแม้มาจนถึงบัดนี้ยังไม่ถลำลึกไปถึงขั้นสังเวยความบริสุทธิ์ให้กับชีวิตระเริงแห่งวัยสาว แต่ความเสรีที่เธอเสพสมตามอารมณ์นั้นมันเกินขอบเขตไปถึงการเคยนั่งดูวีอีโอโป๊กับเพื่นอๆ ในก๊วนแบบสนุกสนานวิจาร์ณอวัยวะเพศชายที่มองเห็นในจอกันสนุกปาก

สิ่งที่ผงาดอยู่เบื้องหน้าแม้จะเป็นครั้งแรกที่เห็นด้วยตาตัวเองไม่ใช่ผ่านจากจอภาพแต่เด็กสาวก็คุ้นเคยดี ร่างบางนั้นพยายามขยับหนีตามสัญชตญาณของสาวบริสุทธิ์ แต่มือหยาบของชิดที่ตะครุบไปตรงเอวคอดไม่อนุญาตให้ฐิติพรรณกระทำดั่งนั้น เด็กหนุ่มส่ายสะโพกตัวเองไถลำเอ็นของความเป็นชายไปตามโคกอูมที่นุ่มแน่น พร้อมๆ กับเกร็งมือทั้งสองรั้งกดเอวบางนั้นให้ร่างงามเบียดชิดกลับลงมา ปากหนาสูด ซี๊ดดดดดด ซี๊ดดดดดดด ซี๊ดดดดดดดด อย่างมันส์สะใจ

ขณะแรกสัญชาตญาณในส่วนลึกสั่งให้ร่างกายนั้นพยายามหลีกหนี แต่ความเร่าร้อนเสียวซ่านที่ระอุปะทุขึ้นมาจากการเสียดสีสัมผัสของแท่งแข็งๆ บนเนินนูนของตัวเองมันทำให้ ฐิติพรรณครางครวญออกมาอย่างเสียวซ่าน อื้อออออออออ..... ซี๊ดดดดดดดดด

"พี่สาว...เสียวม๊ะ...เสียวม๊ะ...."

ชิดร้องกระเส่า ไถลำควยมันไปบนโคกอูมไม่หยุด ใบหน้ากระเส่าไปด้วยความหฤหรรษ์

เสียวววว. เสียยวววว......เสียวววว...ดี....จริงงงงงง......อือออม์.....ซี๊ดดดดดดด...เสียววว...คิกคิก...ถ้ารู้ว่าสนุกอย่างนี้..คงไม่ปฏิเสธเวลานังแอ๋วชวนแล้ววว.....อื้อออออออ......ซี๊ดดดดดดดด....

ฐิติพรรณคำนึงอย่างรัญจวนใจ นึกไปถึงหลายๆ ครั้งที่ตนเองปฏิเสธคำชักชวนพาใฝ่ต่ำของเพื่อนสาวหลายคนที่คิดว่าการมีเซ็กส์เป็นเรื่องสนุก เพราะถึงแม้จะเป็นคนเร่าร้อนในเรื่องรัก แต่พริตตี้สาวก็ยังคิดว่าจะหวงแหนสิ่งนี้มอบให้กับคนที่เธอรักและแต่งงานด้วย

ความเร่าร้อนที่แผ่ซ่านจากเนินสวาทของตัวเองกระจายไปตามเนื้อตัวอย่างสุดสยิว ทำให้พริตตี้สาวบดเบียดโคกอูมของตัวเองลงไปเป็นการใหญ่ ร่างบางสะท้านสั่นระริก ปากงามครางครวญไม่ขาด

ซี๊ดดดดดดดด...ซี๊ดดดดดดดดดด...ซี๊ดดดดดดดดดดดดด

ชิดเองก็กระสันสั่น ร้อง อู้วววว อู้วววว ร่างผอมเกร็งสั่นกระตุกวาบๆ เพราะอาการเบียดเข้ามาของโคกอูม จนถอกบานที่ผงาดร่านั้นกระตุก หงึด หงึด ความเสียวกระสันนั้นพล่านขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะความสะพรั่งไปด้วยความสดสวยของเรือนกายและวงหน้าที่ยิ้มเย้าอยู่ตรงหน้ามันราวกับเป็นอาหารทิพย์ที่แม้กระทั่งฝันก็ยังไม่เคยที่จะคิดว่าจะได้ลิ้มลองรสชาติอันหอมหวาน

หัวโจกของแก๊งเด็กนรก ครางกระเส่า ร่างผอมงอสะบัด ร้อง อูซซซซซซซซซ อูซซซซซซซซ อูซซซซซซซซซ
พยายามจะดันร่างบางออกไปเพราะเสียวกระสันซ่านใกล้จะน้ำแตกเต็มที แต่ฐิติพรรณหัวเราะคิกๆ โอบแขนบางงามรัดไปที่บ่าเกร็งของเด็กหนุ่ม เบียดครูดสะโพกผายบดโคกอูมของตัวเองลงไปบนเอ็นแข็งของชิดอย่างร้อนร่าน ปากครางกระซิกกระซี้อย่างสุดรัญจวนใจ ซี๊ดดดดดด ซี๊ดดดดดด อื้ออออออ....ซี๊ดดดดดดดด

ชิดอ้าปากพะงาบๆ ร่างกระตุกเทิ้ม ไม่สามารถทนต่อแรงเสียดสีจากโคกอูมได้ แผดร้องกระเส่า อ๊าซซซซซซซซซซซ อ๊าซซซซซซซซซซ มือที่ขยำไปตรงเอวคอดกิ่วเกร็งแน่น หัวถอกบานของตนเองกระพรืดกระแพร็ดน้ำกามขาวขุ่นพุ่งออกไปเปรอะบนเนินนูนที่โอบอุ้มอยู่ด้วยผ้าขาวบางเบานั้นอย่างสุดตัว

เสียงหัวเราะดังครืนรอบๆ เช่นเดียวกับเสียงหัวเราะคิกคิก ของพริตตี้สาว

ในอารมณ์เพริดแพร้วเธอนึกไปถึงวิดีโอโป๊ที่เคยดู นึกอย่างครึ้มอกครึ้มใจ เร่าร้อนไปด้วยความสนุก

คิกคิก นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำเลย...

ชิดนั่งเหงื่อแตก ควยโด่ที่ทีแรกแข็งตัวตรงนั้น ตอนนี้เหี่ยวลงไปพลัน หัวบานที่ยังตะหงึดๆ อยู่ ถูกโคกอูมที่ส่ายเบียดลงไปรีดน้ำเมือกกระปริดกระปรอยน้ำออกมาอีกหลายหยด จนเนื้อผ้าสีขาวบางเบานั้นเป็นด่างดวงเหนอะหนะไปด้วยน้ำกาม

[s:185]