ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

วัยรักวัยเรียน Iczy

เริ่มโดย ada, กันยายน 17, 2010, 01:15:38 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ada

วัยรักวัยเรียน 
Iczy  12 Sep 2006, 01:40 PM 


       นุจรีเป็นเด็กสาว เป็นคนกรุงเทพฯ เต็มตัว เธอเป็นลูกสาวคนสุดท้องของพ่อที่รับราชการและแม่เป็นแม่บ้านฐานะปานกลาง
ตอนนุจรียังเด็ก เธอเป็นเด็กน่ารัก เรียนเก่ง พ่อแม่พี่ ๆ รักเอ็นดูเธอมาก ตามใจเธอทุกอย่าง อย่างนี้เองกระมัง นุจรีจึงเสียตอนเป็นสาว
        นุจรีเริ่มมีนิสัยไม่ดีตอนเรียนมัธยมเริ่มตั้งแต่โกหกพ่อแม่ไปโน่นไปนี่โดยอ้างทางโรงเรียน แต่แท้จริงไปสนุกบ้านเพื่อนซึ่งมีทั้งเพื่อนหญิงเพื่อนชาย ตอนแรกก็คบอย่างเพื่อนร่วมชั้นร่วมโรงเรียน พอหนักเข้าก็มีจดหมายรักส่งกัน มีการต่อว่าต่อขานเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งแสดงทีท่าว่าจะไปสนใจคนอื่น
        แต่ความรักของเธอตอนนั้นไม่เป็นโล้เป็นพาย วูบวาบเหมือนไฟไหม้ฟาง มาเป็นเรื่องเป็นราวก็ตอนที่เรียนชั้นมัธยมปลาย ตอนนั้นอายุ 17 ปีเต็ม
        ความคิดความอ่านของเธอก้าวไกลขึ้นแต่ไม่ได้เน้นหนักไปทางเล่าเรียน เธอกลับไปเก่งทางหลักสูตรนอกตำรา การเรียนเลวลงขาดเรียนบ่อยจนทางโรงเรียนเรียกผู้ปกครองไปตักเตือน เมื่อทางบ้านและทางโรงเรียนร่วมมือกัน นุจรีก็ดีขึ้นแต่ก็ดีได้ไม่นาน เธอก็กลับไปประพฤติตัวเหมือนเดิม
        เพื่อนที่คอยชักชวนลงต่ำเป็นเพื่อนที่มีฐานะดี ถ้าทางโรงเรียนอนุญาตให้ขับรถเก๋งส่วนตัวมาโรงเรียนได้คงขับมาอวดเพื่อน ๆ แล้ว
        นุจรีจึงมองเห็นเพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนที่ดีเป็นเพื่อนแท้ ตรงกันข้ามกับเพื่อนที่ดีจริง ๆ คอยดึงให้ขึ้นสูงเธอกลับมีความรู้สึกกับเพื่อนคนนั้นว่าไม่ดี
        "มันอิจฉาฉัน นังจิตต์มันอิฉาฉันที่ฉันเข้ากับเธอได้ ฉันไม่แคร์หรอกว่าใครจะมองฉันอย่างไร คนเราต้องเป็นตัวของตัวเองให้คนอื่นชักจูงมันก็ไม่ใช่คน เป็นควายแล้ว"
        เพราะนุจรีเห็นกงจักรเป็นดอกบัว วัยสาวของเธอจึงหมดค่า

        เมื่อเธอเป็นเงาตามตัวอรนุช เธอก็ได้พบกับความยั่วยวนต่าง ๆ นานา เช่นไปดูดนตรีวงสตริงมีชื่อภายในโรงแรมชั้นหนึ่งซึ่งนอกจากได้ดูได้ฟังแล้วเธอยังได้ดิ้นอีกและคู่ดิ้นของเธอเป็นเพื่อนชายต่างโรงเรียนซึ่งเป็นเพื่อนของแฟนอรนุช เรียกว่าไปกันเป็นคู่ ๆ นุจรีมีความรู้สึกว่าเธอสนุกสนานมาก ยิ่งมีเพื่อนชายพะเน้าพะนออยู่ใกล้ชิดด้วยแล้วและคะยั้นคะยอให้ดื่มเบียร์ เธอกลับรู้สึกว่าชีวิตของเธอมีค่า และได้กำไรโดยไม่ต้องลงทุน

        อภิชาติเป็นเพื่อนชายที่พบและสนุกสนานกันครั้งแรกในคืนนั้น เขาเรียนก่อสร้างนัยว่าเป็นลูกนายพล มาโรงเรียนบางวันขี่มอเตอร์ไซค์ บางวันก็ขี่รถเก๋ง รูปร่างหน้าตาคมคายและนุจรีก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่เขามองเป็นของเล่นชิ้นใหม่ เขามีเพื่อนสาวหลายคน และหลายคนก็ผ่านการร่วมเตียงมากับเขาทั้งนั้น เธอจึงไม่รู้หรอกว่าที่เขาเอาอกเอาใจเธอนั้น เขาหวังความเป็นสาวจากเธอ

        เมื่อเขาผ่านผู้หญิงมาแล้ว เขาจึงกล้าสำหรับผู้หญิงหน้าใหม่ การจับมือถือแขนเป็นธรรมดาและเขาก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้นเพราะมีเพื่อนฝูงรวมอยู่มาก จึงเพียงแต่ค้ากำไรเพียงหอมปากหอมคอ
        "อภิชาติเพื่อนเธอนี่ไวไฟเหลือเกิน เขามองฉันเป็นผู้หญิงยังไงนะ เดี๋ยวลูบแขนเดี๋ยวลูบขา มือไม่ค่อยอยู่สุข" นุจรีฟ้องเพื่อนคู่หูหลังจากคืนนั้น
        "เขาจะมองเธอยังไงล่ะนอกจากเขารักเธอน่ะซิ"
        "อะไรกันเพิ่งรู้จักกันเพียงครั้งเดียว"
        "เธออย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า แบบนี้เค้าเรียกรักแรกพบย่ะ"
        การที่อรนุชพูดเช่นนั้นเพราะเธอเคยเสียเนื้อเสียตัวมากับเพื่อนชายมาแล้ว จึงเข้าทำนองหมาหางด้วน ชั่วคนเดียวไม่พอ ยุยงส่งเสริมให้เพื่อนชั่วด้วย

        สำหรับหนุ่มน้อยอภิชาติ เขาตั้งใจจะเผด็จซึกนุจรีให้ได้ วันรุ่งขึ้นเขาจึงนัดพบเธอที่คอฟฟี่ช็อป สยามสแควร์ เธอชวนอรนุชไปด้วย แต่เพื่อนสาวปฏิเสธอ้างว่าเธอมีนัด แต่ความจริงเธอรู้กันกับอภิชาติ ดังนั้น นุจรีจึงต้องไปคนเดียวหลังโรงเรียนเลิกแล้ว
        เธอพบกับเขานั่งซุ่มอยู่มุมมืด ถ้าไม่เรียกก็ไม่เห็น เขาแสร้งถามเธอว่า
        "คุณอรนุชไม่มาหรือครับ"
        "ค่ะ มีเดทค่ะ"
        "นับว่าเป็นโชคดีของผม"
        เธอยิ้ม เขาสั่งเครื่องดื่ม ทีแรกก็นั่งกันห่าง ๆ แต่เผลอแผล่บเดียว เขาแทบจะนั่งบนตักเธอ ตอนนั้นเธอนึกถึงคำพูดของอรนุช ทำให้เธอเลียนแบบเพื่อนสาว คือเรียนรู้ความมือไวใจเร็วของเพื่อนชาย จะขัดขืนบ้างก็พอเป็นพิธี
        "เดี๋ยวเราไปดิ้นต่อนะครับ"
        "ไม่ได้บอกให้ที่บ้านรู้ค่ะ"
        "สร้างสถานการณ์ขึ้นซิครับ"
        "อย่าเลยค่ะ"
        "ผมไม่ได้สอนให้คุณโกหกผู้ใหญ่แต่ถ้าบอกความจริงคุณคงลำบากแน่"
        "ไว้วันหลังเถอะค่ะ ตอนนี้ยิ่งทำผิดบ่อย ๆ อยู่ด้วย เดี๋ยวไปไหนไม่ได้จะมาต่อว่ากันไม่ได้นะคะ"
        "ตามใจคุณครับ"
        "อย่าใจร้อนนะคะ"
        "ครับผมจะเชื่อคุณทุกอย่าง"

        อภิชาติเข้าใจอ่อยเหยื่อ เข้าทำนองอดเปรี้ยวไว้กินหวาน วันนั้นเขาเพียงแต่นั่งคุยและใช้มือให้เป็นประโยชน์ซึ่งมันก็คุ้มค่าอาหารและเครื่องดื่มที่เขาต้องควักกระเป๋า เขาขี่มอเตอร์ไซค์ให้เธอนั่งซ้อนท้ายกลับบ้าน โดยส่งแค่ปากซอยตามคำขอร้องของเธอ เพื่อไม่ให้คนที่บ้านรู้เห็น
        "ตามสัญญานะครับ"
        เขาหมายถึงการนัดพบวันพรุ่งนี้ เด็กสาวรับคำเป็นอันดี พร้อมกับหาช่องทางโกหกพ่อแม่

        วันรุ่งขึ้นเธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้อรนุชฟัง เพื่อนสาวส่งเสริมทางเสียคนทันที
        "ฉันยินดีเป็นพยานให้เธอ ไม่ต้องกลัวทางบ้านจับได้หรอก เรื่องโกหกตอแหลฉันถนัดนัก ยังไงล่ะก็อย่าให้เขากินเปล่านะ ตักตวงเอาไว้บ้าง นายอภิชาติคนนี้สำหรับผู้หญิงเท่าไหร่เท่ากัน"
        นุจรีถือเอาคำพูดของอรนุชเป็นครู และเพื่อนสาวคนนี้ก็ไม่ได้สอนเพียงเท่านี้ยังสอนเลยไปถึง "เพศสัมพันธ์" อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เธอสนใจป็นพิเศษ เพราะความเป็นสาวรุ่นทำให้อยากรู้อยากลอง
        เมื่อโกหกทางบ้านว่า ทางโรงเรียนมีกิจกรรมพิเศษต้องกลับบ้านมืดค่ำ เด็กสาวก็ไปพบอภิชาติได้อย่างปลอดโปร่งใจ

        วันนั้นเขาขี่รถเก๋งซึ่งเป็นรถสปอร์ตและตบแต่งจนเปรอะไปหมด แต่ในความรู้สึกของเจ้าของรถถือเป็นเรื่องโก้เก๋มาก และยืดได้เต็มที่
        เขาพบกับเธอที่เก่าตามเวลานัดหมายและเขาก็ทำตัวเป็นเจ้าบุญทุ่ม แต่เขาก็เรียกทุนคืนได้ในเวลานั่งคุยกัน มือของเขาเลื้อยเป็นปลาไหล ส่วนใหญ่จะป้วนเปี้ยนอยู่ที่ต้นขาของเธอ
        ในความรู้สึกของนุจรีขณะนั้น เธอต้องยอมรับว่าเธอมีความรู้สึกทางเพศและเริ่มรุนแรงขึ้นทุกขณะ จิตใจของเธอโน้มน้าวไปทางความสุขสุดยอดที่อยากทดลองระหว่างชายกับหญิงเมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสอง
        เธออยากรู้ถึงรสชาติที่ปรุงแต่งด้วยอารมณ์ที่ผสมผสานกัน และเมื่ออยากรู้เธอก็อยากลองว่ารสชาติจะเลิศเลอสมดังอรนุชบอกเธอแค่ไหน
        "คืนนี้เราไปดิ้นกันนะ"
        "ตกลงค่ะ แต่ดึกนักไม่ได้นะ"
        "พรุ่งนี้วันเสาร์"
        "เอาแค่หอมปากหอมคอก็พอค่ะ"

        ออกจากค็อฟฟี่ช็อป เขาพาเด็กสาวไปดิ้นที่บาร์ย่านพัฒน์พงษ์ ถนนสายโลกีย์ที่การเงินสะพัด
        เมื่อนุจรีหลวมตัวถึงขนาดนี้ เธอจึงปล่อยตัวปล่อยใจเต็มที่ ไม่ว่าเขาจะกอดจูบเคล้าเคล้นอย่างไรเธอก็โอนอ่อนผ่อนตามและเต็มไปด้วยความสุขอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิตสาว
        เมื่อฝ่ายหญิงทอดสะพานให้เดินเต็มที่เขาจึงถือเป็นโอกาสทอง อันที่จริงเขาก็หมายมั่นปั้นมือไว้แล้ว เมื่อเขาทำให้เธอใจแตก เขาก็ต้องเผด็จสวาทเธอด้วยเวลาอันสั้นตามโอกาสที่อำนวยให้
        ดังนั้นพอออกจากบาร์ เขาก็ตั้งเข็มตรงดิ่งเข้าโรงแรมม่านรูด

        เด็กสาวเนื้อตัวสั่นเมื่อประสบเหตุการณ์เช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว สัญชาติญาณบอกให้รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ความสาวกำลังจะสูญสิ้นคืนนี้อย่างไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงได้ และเธอจะเอะอะโวยวายก็ไม่ได้เนื่องจากเธอเต็มใจด้วย เธอพยายามระงับความตื่นเต้นประหม่าขวยเขินสะเทิ้นอายตามประสาหญิง ตรงข้ามกับอภิชาติ เขาเต็มไปด้วยความแจ่มใสร่าเริง คึกคะนองตามประสาคนหนุ่มไฟแรง

        "ผมรักคุณ นุจรี ผมรักคุณมาก ตอบผมให้ชื่นใจสิครับ ว่าคุณก็รักผม"
        เขากระซิบบอกในขณะที่กอดเธอ มือลูบไล้แก้มสะโพก เธอไม่ตอบและเขาก็ไม่ได้รอคำตอบจากเธอ เขาจูบและเคล้าเคล้นหนักมือ เมื่อเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอจะปล่อยให้เขาทำตามสบายก็ใช่ที่จึงขัดขืนพอเป็นพิธี

        สะทกสะเทือนเหนียมอายอย่างบอกไม่ถูกเพราะเนื้อตัวไม่มีอะไรปกปิดแม้แต่ชุดชั้นใน เพราะความอยากรู้อยากลองทำให้เธอต้องยอมเข้าโรงแรมและปล่อยให้เขาเชยชมสมใจ แล้วความรู้สึกสะทกสะท้านเช่นนั้นกลับบังเกิดขึ้นไม่นานนัก เธอก็มีอารมณ์สอดคล้องไปกับเขาด้วย เมื่อเขาใช้ชั้นเชิงของความเป็นชายขับไล่อารมณ์แตกตื่นให้เข้าสู่ภาวะโรแมนติค

        เธอกอดเขาแน่นในระหว่างที่เขาให้ความรักความอบอุ่นทางอารมณ์ เขายังจูบปาก ดูดดื่มความหวานจากริมฝีปากและปลายลิ้น เธอจูบตอบสนองอารมณ์เขาอย่างเต็มที่เหมือนกัน มือเขายังคงลูบไล้ไปบนส่วนนูน ส่วนโหนกเพื่อเรียกร้องอารมณ์สยิวให้รุนแรงขึ้น จนกายเธอสั่นเทิ้ม
        "เป็นยังไงบ้าง"
        "บอกไม่ถูกค่ะ..มัน..มัน..อุ๊ย..เสียว..ซี๊ด..อย่าบี้แรง..อย่า..อูย..อูย.."
        นิ้วของเขากดอยู่บนติ่งเนื้อกลางร่องสาววัยกำดัด อารมณ์ทางเพศอ่อนไหวง่ายแม้เพียงสัมผัสภายนอกที่มีผ้ากั้นหว่างกลาง อารมณ์สวาทค่อย ๆ ตื่นตัวทีละน้อย
        "คุณรักผมไหม..นุจรี"
        "ฉันไม่แน่ใจค่ะ" เสียงเธอกระเส่า
        "มีอะไรทำให้คุณไม่แน่ใจหรือครับ"
        แทนคำตอบ นุจรีกลับเอาริมฝีปากมาประกบจูบริมฝีปากเขาอย่างดูดดื่ม ความเร่าร้อนกระสันสวาทค่อย ๆ ลุกโพลงขึ้นในอารมณ์ ริมฝีปากคนทั้งสองประกบกันสนิท
        เขาดูดปลายลิ้นของเธออย่างสุดกระสันจนหัวใจเธอวาบหวิวซาบซ่านถึงกับครางสะอื้นในหัวใจ มันทั้งเสียวซ่านทั้งสยิวจนแทบจะขาดใจตายให้ได้ มือไม้เกร็งแน่นจิกลงไปบนไหล่ของเขา
        "อภิชาติขา.." เธอบิดปากหลุดแล้วครางออกมาเบา ๆ
        "คุณรู้สึกยังไง"
        "บอกไม่ถูกค่ะ ฉันไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย"
        มือของเขาเลิกชายเสื้อเพื่อให้สัมผัสเนื้อแท้ เอวของเธอสั่นนิด ๆ เมื่อเขาปลดขอยกทรง ปลดปล่อยสองเต้าที่อวบอัดเต่งตึง แล้วซุกหน้าเข้าไปตรงกลางหว่างสองเต้าจูบไซ้อย่างหื่นกระหาย
        "อุ๊ย..อภิชาติขา"
        มือของเขาดึงกระโปรงของเธอออกทางด้านล่าง พร้อมรูดกางเกงในพร้อม ๆ กัน ใบหน้าเลื่อนลงถึงหน้าท้องเหนือเนินโคกหีอันโหนกนูน เธอเอื้อมมือจะปิด แต่เขาจับมือนั้นไว้
        "ปละ..ปล่อยค่ะ"

        อภิชาติไม่ได้สนใจกับคำห้ามปราม กลับซบหน้ามาจูบเนินที่เต็มไปด้วยขนหมอยดกดำ จูบไซ้ลงมาถึงเม็ดแตดสีชมพู เธอสะดุ้งเฮือกบิดตัวครางกระเส่า เขาเลื่อนมาถึงปากรูหีที่เปียกเยิ้มด้วยน้ำเมือกทาบปากดูดเต็มแรงจนนุจรีร้องลั่นผวากายเฮือกเต็มที่แล้วจึงผละหน้าออก
        นุจรีปรือตา หายใจสะท้าน เขาจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นถอดเสื้อกางเกงออกแล้วหันร่างเข้ากอดรัดร่างของเธอไว้ในวงแขนทาบร่างเปล่าเปลือย

        เนื้อต่อเนื้อเบียดกันสนิท ท่อนควยอันแข็งทะมึนอัดแน่นกับเนินหี ทำให้เสียวสะท้านลึกเข้าไปถึงหัวใจแล้วเขาก็ลงมือ จูบไซ้จากใบหน้ามาที่เต้านม เรื่อยลงมาจนถึงโคกหีที่ปกคลุมไปด้วยขนหมอยดำสนิทละเอียดอ่อนพองาม เงยหน้าจ้องมองหีถนัดตาอย่างใกล้ชิด ก่อนจะจับขาอันขาวนวลยกขึ้นตั้งชันและแบะอ้าออกไปขยับตัวเข้าประชิดหว่างขาแอ่นปลายถอกอันแดงก่ำเข้าหารูหี แล้วกระเด้าหยุบ ๆ กดปากรูหีให้ยุบเข้าเล็กน้อย ทำให้หญิงสาวเสียวกระสันร่านราคะหนักขึ้น
        "ซี๊ด..อภิชาติขา เสียวทนไม่ไหวแล้วค่ะ"
        เธอครางกระเส่า ตัวบิดเร่า ๆ อภิชาติเห็นอาการเช่นนั้นก็ยิ้มอยู่ในใจ กดควยลงทันที
        นุจรีสะดุ้งเฮือก
        "อุ๊ย..ซี๊ด..ค่อย ๆ ค่ะ มันเจ็บ..อูย.."
        เขาเอื้อมมือมาบี้หัวนมคลึงไว้กระซิบปลอบใจว่า
        "เจ็บนิดหน่อยนะ..พอเข้าหมดก็สบาย" แล้วกดกระเด้าอีกครั้งจนหัวถอกผลุบเข้ารูหีมิดเงี่ยง
        ความเจ็บตึงรูหีที่หัวถอกบานดันปากรูหีจนแคมปลิ้นทำให้ครางกระเส่า
        "อูย..ควยคุณใหญ่จัง..ซี๊ด"
        เขาพยายามจะดันควยเข้าไปอีกแต่ความคับทำให้หัวถอกเสียววาบจนต้องกัดกรามกรอดแล้วก็จับสองแคมหีถ่างออกไปอีกจนแตดปลิ้นชี้โด่ พร้อมกับกระเด้าพรืดเข้าไปครึ่งลำยาว
        "โอ๊ย..หีฉีกแล้ว..เจ็บ..อูย..หยุด..หยุดก่อน"

        ร่างของหล่อนบิดกายสะท้านด้วยความเสียวเจ็บรูหี ปากเม้มดิ้นกระเถิบหนี ทำให้อภิชาติต้องสอดแขนเข้าแผ่นหลังแล้วกอดกระชับแน่น ปากก็อ้าดูดหัวนมทั้งเต้าซ้ายเต้าขวา ทั้งดูดทั้งเน้นจนเธอเสียวสะท้านลืมเจ็บ ได้แต่สูดปากครางกระเส่า
        "ซี๊ด..ที่รักขา..ดันเข้าอีกซิคะ..นุจไม่เจ็บแล้ว..อูย..ซี๊ด..เสียว..เสียว.."
        "เสียวตรงไหน ในรูหีเหรอ" เขาปล่อยหัวนมกระซิบถาม
        "ค่ะ..เสียวแตดด้วย..หัวนมด้วย"
        "งั้นผมจะดันให้หมดนะ"
        "ค่ะ"

        เขาโหย่งตูดกระเด้าเบา ๆ ทำให้นุจรีทั้งเสียวทั้งคันรูหียุบยับ จนทนนิ่งอยู่ไม่ไหว ต้องส่ายสะบัดสะโพก และเด้งรับควยอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ทำให้เขาอร่อยควยมากขึ้น ซู๊ดปากกลั้นความเสียวหัวถอก กระเด้าพรวด ๆ จนควยทั้งท่อนทะลวงเข้ารูหีจนมิดไม่เหลือ หัวถอกพุ่งเข้ากระทบปากมดลูกอย่างจัง เล่นเอานุจรีร่างสั่นระรัวด้วยความเสียวถึงขนาด
        "อูย..ซี๊ด..เสียว..เสียวอะไรยังงี้"
        "ผมก็เสียว..ซี๊ด..หีคุณฟิต..บีบควยผมแน่น..ซี๊ด" เขาสูดปากตอบด้วยนัยน์ตาปรือ กดโคนควยแนบสนิทกับโคกหีอีกครู่หนึ่งก็เริ่มชักกระเด้าช้า ๆ จนนุจรีแทบไม่รู้สึกเมื่อเขาก้มลงจูบปากหล่อน หล่อนก็จูบเขาตอบอย่างกระสันรัญจวนใจ รูหีขมิบน้ำเมือกออกมาชะโลมท่อนควยครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อเขากระเด้ากระแทกควยถี่ยิบ
        เธอทั้งครางทั้งดิ้นทุรนทุราย กัดฟันกรอด ๆ หายใจหอบกระเส่า
        "อูย..ซี๊ดอร่อยเหลือเกิน..อูย.."
        เขาโหมแรงกระเด้าหนักขึ้น ท่อนควยแข็งทะมึนทะลวงรูหีไม่หยุดหย่อน
        "โอย..ซี๊ด..น้ำจะออกแล้ว..แรงอีกนิด..อูย.."
        เขากดกระแทกควยซอยถี่ยิบ นุจรีถึงกับหน้าบูดเบี้ยว
        "โอย..ว้าย.." เธอครางแล้วสะท้านเฮือกสุดตัว กอดเขาแน่นเกร็งร่างเขม็ง รูหีขมิบน้ำเงี่ยนแตกพลั่ก ๆ

        เขาอัดควยเต็มที่แล้วขยี้เต็มแรง พุ่งน้ำควยกระฉูดตามติด ๆ..เข้าสู่ปากมดลูกที่ขมิบตอดยวบ ๆ อย่างท่วมท้น..
        เธอกอดเขาแน่นในระหว่างที่เขาให้ความสุขสุดยอดแก่เธอ เขายังจูบปาก ดูดดื่มความหวานจากริมฝีปากและปลายลิ้น เธอจูบตอบสนองอารมณ์เขาอย่างเต็มที่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้เธอได้รับรู้ถึงรสชาติของความเป็นหนุ่มสาวดีแล้ว ซึ่งทำให้เธอไม่นึกตำหนิเพื่อนสาวที่ชิงสุกก่อนห่าม เธอกลับมีความรู้สึกว่า มันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ควรเรียนรู้ ถ้ารู้จักป้องกันตัวเองไม่ให้เกิด "มารหัวขน"

        นี่คือบันทึกในไดอารี่ตอนหนึ่งของเธอ