(/ />
หลังจากที่ลุงเคลื่อนกายออกไปนอนข้างแม่ผมโดยแกไม่ได้นอนหงายแต่กลับนอนคว่ำ หน้าและหันหน้าพูดคุยกระซิบกระซาบกับแม่เหมือนในละคร ที่พระเอกนางเอกจู้จี้กันแบบนั้นแหละครับ ..!! ผมเห็นแล้วไม่ชอบใจเลยกับสิ่งที่แม่และลุงกำลังแอบทำกันแบบนี้ ซึ่งหลังจากลุงลุกออกและเอาไอ้เข็มยักษ์ของแกออกจากร่องกลีบอูมของแม่ผมแล้ว แม่ก็ค่อยๆ ฟุบหมอบนอนราบลงไปกับที่นอนอย่างหมดแรง ซึ่งเพียงชั่วเวลาแว๊บ..แรกที่ผมได้จดจำนั้น..มันก็ตราตรึงให้ผมแอบนำมาใช้ จนถึงทุกวันนี้ ...เมื่อสงครามการรักษา..ไม่สิ..การให้ความสุขของลุงและแม่สงบลง ผมก็ค่อยๆ แง้มบานประตูให้ปิดแนบอย่างช้าๆ และค่อยๆ ย่องกลับมาห้องนอนของตัวเองให้เบาที่สุดเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต พร้อมกับเข้านอนอย่างกระสับกระสายไม่น้อยกับเหตุการณ์ความจริงที่เกิดขึ้น ภายในห้องนอนของลุงผมนั้น ....เวลานี้แม่และลุงดูเหมือนจะทำสิ่งที่ผิดเหล่านี้เป็นเรื่องที่ธรรมดา และดูเหมือนจะมีความถี่มากขึ้น ๆ ทุกวัน ๆ .......และแล้ว...มันก็มาถึงจุดแปรผันที่พ่อและแม่ต้องตัดสินใจ..!!.... เมื่อวันนึง..พ่อผมทะเลาะกับแม่จนพ่อต้องสารภาพกับแม่และลุงว่า....พ่อได้มี เมียน้อยจริงๆ...และสิ่งสำคัญไปกว่านั้นก็คือ พ่อผมได้ทำเค้าท้องด้วย..จำต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น...นั้นเป็นจุด แปรผันที่ทำให้ครอบครัวผมต้องถึงจุดแตกหักนั้นเอง...!!.....เมื่อพ่อสารภาพ ความจริงกับแม่...แม่ผมก็เสียใจและขอแยกทางกับพ่ออย่างเด็ดขาด..ซึ่งวันนั้น ครอบครัวผมทะเลาะกันลั่นบ้าน..โดยลุงผมต้องเข้าไปห้ามปราม..แล้วพ่อผมก็หาย ตัวไปเหมือนเช่นเคย...แต่นั้นเป็นจุดที่แปรเปลี่ยนครอบครัวผมอย่างแท้จริง ...หลังจากวันนั้นพ่อก็กลับมาและเก็บข้าวของเล็กน้อยและหายไปหลายวัน จึงกลับมาบ้าน เป็นอย่างนี้อยู่เกือบ 2 อาทิตย์....สิ่งที่แปรเปลี่ยนตามมาจากพ่อผมก็คือ...แม่ผมครับ..!!..
แม่ผม.." ท้อง " ....ใช่ครับ...แม่ท้องหลังจากทะเลาะกับพ่อเสียงดังในการขอแยกทางกัน ซึ่งพ่อมารู้ในช่วงที่แกกลับมาในอาทิตย์ที่สองนั้นแหละครับ.....โดยพ่อเห็น อาการแม่อาเจียน..และได้เห็นใบยาที่หมอสั่ง เกี่ยวกับยาบำรุงครรภ์ ทำให้พ่อรู้ว่าแม่ท้องพี่จึงสอบถามกับแม่ตรงๆ ซึ่งคำตอบที่แม่บอกก็คือ...ใช่..แม่ท้องจริง..แต่แม่บอกกับพ่อว่า.. " ไม่ต้องมาเป็นห่วงฉันหรอก...ไปตามทางของพี่เถอะ...ต่างคนต่างอยู่...ฉันดูแล ลูกฉันได้..ไม่ต้องห่วง....ขอให้เราสิ้นสุดกันแต่วันนี้เถอะ..ยังไงฉันก็ไม่ เปลี่ยนใจหรอก..พี่ก็รู้นิสัยฉันน่ะ....ขอให้ทำตามที่เราคุยกันไว้ก่อนหน้า นี้และกัน..!!... " " จะ...จริง...ๆ..รึนวล..พี่เธอ..เธอ..ท้องกับพี่จริงรึ...ทำ..ทำไม..ทำไมไม่ บอกพี่... " " ถึงบอกไปแล้วยังไงละ....ในเมื่อมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอยู่แล้วนี่.....พี่ บอกฉันเองไม่ใช่รึ..ว่าต้องรับผิดชอบนางเด็กนั้นน่ะ...ไปเถอะ...ไม่ต้องเป็น ห่วงฉัน..เราแยกกันแหละดีแล้ว...แต่ขอให้พี่ทำตามที่ตกลงไว้กับฉันแค่นั้นพอ ..ฉันกับลูกจะได้ไม่เดือดร้อนเรื่องบ้าน...ส่วนพีชาย..พี่ไม่ต้องห่วงยังไง ฉันก็ไม่ไล่พี่ชายของพี่ออกจากบ้านหรอก..." " ...แต่...แต่..นวล..พี่..ทำ..ทำ..ไม..มาบอกพี่อย่างนี้..ตอนนี้ด้วยน่ะ...แล้ว ลูกเราละ..ลูกในท้องนวลละ... " " ก็ฉัน...บอกพี่แล้วไม่ใช่รึ..ว่าไม่ต้องห่วง..พี่ชายเค้าเสนอตัวหาก..ลูกที่ เกิดมาเค้าจะเป็นพ่อบุญธรรมให้เอง....เพื่อพี่จะได้ไปอยู่กับนางเด็กนั้น สบายๆ ไม่ต้องมากังวลเรื่องฉันกับลูกที่อยุ่ในท้อง...พี่ไม่ต้องมาสนใจหรอก...แค่ ทำตามที่เคยตกลงไว้ก็พอ...เรื่องค่าใช่จ่ายของไอ้หมึกนะ...ส่วนเด็กในท้อง ไม่ต้อง..ฉันเลี้ยงของฉันเองได้...พี่ไปเสียเถอะ....ขอให้เราแยกจากกันด้วย ดีเถอะ...น่ะ..พี่..ฉันไม่อยากเสียใจ...และฉันก็รับไม่ได้กับสิ่งที่พี่ทำ กับฉันกับลูกแบบนี้....เราจบกันแบบนี้แหละ...ต่างคนต่างไป....เด็กที่จะเกิด ..พี่ชายแกก็รับปากจะช่วย..พี่ไปเสียเถอะ.. " " แต่..แต่นวล..พี่.. " เสียงคุยของพ่อและแม่ตอบโต้ไปมา ก่อนจะมีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา คือ ลุงของผมนั้นเอง ที่แกเข้ามาพูดปรามพ่อไม่ให้พูดต่อกับแม่และพูดเชิงขอให้พ่อทำตามที่ตกลงกับ แม่ผมไว้ โดยลุงบอกว่าลุงจะดูแลหลานๆ เองไม่ต้องห่วง เพราะรู้สึกเด็กสาวหรือเมียน้อยที่พ่อไปทำต้องนั้น จะเป็นลูกสาวพวกนักเลงในจังหวัดนั้น ลุงเลยบอกกับพ่อว่าทางนี้ไม่ต้องห่วง...เดี๊ยวลุงจะช่วยดูแลให้เอง เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเกิดราวตามมาหากพ่อไม่รับผิดชอบฝั่งนั้น โดยแม่และหลานๆ ลุงจะดูแลเอง.....นั้นคือสิ่งที่ลุงผมพูดบอกกับลุงก่อนที่แม่จะเดินหายขึ้น ไปบนบ้าน แล้วหลังจากนั้นลุงกับพ่อก็พูดกันต่อ......ซึ่งเมื่อฟ้าเริ่มมืด..ใกล้ค่ำ ..พ่อก็ยอมรับสิ่งที่ลุงพูดพร้อมกับการเก็บข้าวของก่อนจะฝากเงินทองให้ผมและ แม่ก่อนจะเดินหายลับไปจากบ้านตั้งแต่วันนั้น.....!!...โดยพ่อจะแวะมาเยี่ยม ผมกับแม่บ้างเป็นครั้งคราว แรกๆ ในช่วงพ่อรู้ว่าแม่ท้องก็มาบ่อย แต่พอย่างเข้าเดือนที่ 3 พ่อก็มาน้อยลง ๆ..ๆ... และจะฝากลุงกับผมให้ช่วยดูแลแม่เพราะรู้สึกว่าพ่อจะบอกกับลุงว่าเมียอีกคน ที่พ่อแอบไปได้เสียนั้นก็รู้สึกจะท้องเหมือนกัน ทำให้อาจจะมาน้อยลงบ้าง หน้าที่ของลุงในการดูแลแม่นั้นพ่อจึงวานให้ลุงดูแลให้ ทั้งแม่และผมและเด็กในท้องที่ผมมั่นใจว่าของลุงมากกว่าจะเป็นน้องแท้ๆ ของผมที่เกิดจากฝีมือพ่อแน่นอน เมื่อเหตุการณ์การแยกกันอยู่ของพ่อและแม่เริ่มขัดเจน จุดเริ่มต้อนแห่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิตครอบครัวของผมก็เริ่มมีมากขึ้นๆ โดยที่คนภายนอกไม่มีทางรับรู้ได้ถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นภายในบ้านหลัง นี้ ระแวกบ้านก็จะรับรู้ได้ว่าแม่กับพ่อผมมีปัญหากัน จนแม่ทนไม่ไหวต้องแยกทางกับพ่อ และทุกคนก็เข้าใจโดยส่วนใหญ่จะสงสารแม่ และชื่นชมลุงว่าเป็นคนดีที่ดูแลเมียน้องและหลานทั้งสอง คือ ผมกับน้องอีกคน(ลูกลุง) ที่ยังไม่ลืมตามาดูโลก ซึ่งคนระแวกนั้นจะรู้สึกดีกับลุงและเห็นใจผมและแม่ที่มีพ่อไม่ดี ไม่สนใจลูกเมียปล่อยให้เมียดูแลลูกในท้องคนเดียวไม่ค่อยมาเยี่ยมมาหา ซึ่งลุงก็ดี...ลุงจะช่วยเสริมให้ตัวเองดูดีโดยบอกกับคนอื่นว่า...มันทำเมีย อีกคนท้องเลยต้องไปอยู่กับอีกคน...ส่วนน้องสะใภ้คนนี้ลุงช่วยดูแลได้ ทั้งคนโต(ผม) กับคนเล็กที่ยังไม่เกิด...ซึ่งเมื่อลุงกระจายข่าวเรื่องนี้กับชาวบ้าน ..เสียงตอบรับชื่นชมลุงก็มากขึ้นตามไปด้วย และพ่อผมก็กลายเป็นหมาหัวเน่าแทนแต่ใครเลยเล่าจะรับรู้เรื่องราวที่แท้จริง ที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวผมนี่...ผมแม้จะยังเล็กแต่ก็รับรู้เรื่องราวทุกอย่าง ในตอนนั้นได้ทุกสิ่ง ....ไม่ว่าเรื่องที่ลุงแอบขืนใจแม่และแอบลักลอบเป็นชู้กับแม่จนในที่สุดแม่ ก็ตั้งท้องกับลุง....ใครเล่าจะรู้ว่าเรื่องราวที่พ่อผมเริ่มติดเที่ยวก็ เพราะแท้จริงลุงผมนั้นแหละที่เป็นคนชักชวนเมียน้อยคนนี้ให้กับพ่อจนพ่อติดใจ และหลงทางเตลิดเปิดเปิงไปทำเค้าท้องและต้องรับผิดชอบ....ใครเล่าจะรู้ความ ชั่วร้ายของลุงผมคนนี้ แม้ตอนนี้แกจะเปลี่ยนสถานะเป็นเหมือน...พ่อเลี้ยงผม..กลายๆ..แล้วก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดนี้แทบไม่มีใครรู้ความจริงเลย
หลังจากที่พ่อแยกออกไปแล้ว...สิ่งที่เปลี่ยนแปลงตามมาก็คือ แม่ผมนั้นเองครับ..!! หลังจากสงครามระหว่างพ่อและแม่สิ้นสุดลงด้วยการจบชีวิตคู่ของทั้งสองลง เพียงไม่ข้ามคืน..แม่ผมก็ย้ายตัวเองหรือเรียกดีๆ ว่าค่อยๆ..ดีกว่า..!! เพราะหลังจากพ่อขนของออกจากบ้านไปอยู่กับเมียน้อยอย่างเป็นจริงเป็นจังแล้ว แม่ผมก็ย้ายตัวเองเหมือนกันแต่เป็นแบบค่อยๆ เพราะทุกค่ำคืนผมตื่นมาจะไม่เห็นแม่นอนในห้องโดยตลอดทุกค่ำคืน ซึ่งผมรู้ได้ทันทีว่าแม่ผมอยู่ที่ไหน ซึ่งก็เป็นแบบนี้ประจำหลังจากพ่อย้ายออกไป..เวลายิ่งผ่านไปเป็นเดือน ความธรรมดาของพฤติกรรมของแม่ผมที่ย้ายเข้าไปนอนห้องลุงก็เป็นเรื่องปกติขึ้น เรื่อยๆ ...ซึ่งแม่จะเข้ามาในห้องตอนเช้าก่อนผมตื่นเป็นประจำเพื่อปลุกผมไปโรงเรียน โดยเมื่อผมมองที่นอนหมอนแม่เมื่อใด ก็เห็นได้ว่าร่องรอยการนอนตรงนั้น ไม่มีรอยยับรอยย่นแต่อย่างใด ซึ่งก็คงเพราะแม่กลับมาเมื่อเช้าตรูทุกวันนั้นเอง.......ความเปลี่ยนแปลงใน ชีวิตผมเริ่มเกิดมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปได้ 3 เดือน หลังจากวันนั้นที่พ่อมาพูดฝากให้ช่วยดูแลผมกับแม่และลูกในท้องให้ด้วย มันก็ยิ่งเปลี่ยนแปลงมากกว่าเดิม นั้นก็เพราะ....แม่ผม..ได้เข้ามาคุยกับผมโดยให้สาเหตุว่า..." ผมเริ่มโตแล้วควรจะนอนคนเดียวและอีกประการคือ แม่กลัวผมดิ้นโดนท้องแม่ ร่วมทั้งประการสำคัญที่มากที่สุดก็คือ แม่ต้องย้ายไปนอนห้องลุงเพื่อให้ลุงช่วยดูแลหากแม่เกิดเจ็บท้อง "
........ทั้งหมดที่ผมกล่าวนั้นทั้ง 3 ประการก็คือ สิ่งที่แม่อธิบายและให้เหตุผลกับผม เพื่อให้ผมเข้าใจและเตรียมตัวทีจะต้องนอนเพียงคนเดียวภายในห้องนี้นั้นเอง .......เฮ้อ..!!.....นึกย้อนเรื่องตอนนั้นแล้วก็..รู้สึกน้อยใจไม่น้อยเลย ครับ..!! เพราะผมยังไม่โตเท่าไรนักประมาณ 10 ปีได้ก็โดนแม่ไล่นอนคนเดียว....ตอนนั้นจำได้เลยนึกโกรธแม่และลุงมาก โดยเฉพาะลุงผม...ที่แกเข้ามาในครอบครัวผมแล้วทำให้ครอบครัวผมต้องแตกแยกไปคน ละทิศละทาง โดยคนแรกก็พ่อผม และต่อมาก็คือ ผม ซึ่งก็คงเพราะสาเหตุที่แกต้องการร่วมหลับนอนกับแม่ผมนั้นแหละ...เป็นประเด็น สำคัญ...!! ซึ่งเมื่อแม่ขอร้องแกมบังคับแบบนั้น ผมจะทำยังไงได้ละ...ผมก็ต้องนอนคนเดียว ..และแม่ก็ย้ายไปนอนห้องลุงแทน ซึ่งเรื่องราวภายในบ้านนี้ ชาวบ้านระแวกนั้นไม่รู้หรอกว่า...แม่ผมเพียงพ่อย้ายไปไม่ถึงคืนก็นอนค้างกับ พี่ชายผัวซะแล้ว..!! และที่สำคัญเพียงเวลาผ่านไป 3 เดือน แม่ก็ย้ายไปร่วมหลับนอนกับลุงภายในห้องเดียวกันซะแล้ว...ไม่มีใครรู้เรื่อง ที่เกิดขึ้นภายในบ้านผม อย่างแท้จริงหากรู้ความจริง...คงมีหลายคนเห็นใจพ่อผมไม่น้อย แต่ก็ช่างมันเถอะ..!! ผมก็แค่นึกย้อนไปวันวานแค่นั้นเอง แต่มันก็ผ่านมานานแล้ว นึกแค้นเคืองไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะ ณ ปัจจุบัน...แม่กับลุงผมก็แต่งงานกันแล้ว และแม่มีลูกอีกคนหลังจากแต่งกับลุง รวมแล้วแม่ผมมีลูก3 คน โดย 2 คนหลัง เป็นลูกแท้ๆ ของลุง คนที่รองน้องผมที่ลุงแกล้งบอกนั้น แท้จริงก็คือ ลูกที่เกิดจากการแอบเป็นชู้กับแม่ผมนั้นเอง ซึ่งตอนนี้แม่ผมก็ยังอยู่กับลุง จะมาเยี่ยมผมบ้างเยี่ยมหลานบ้างนานๆ ครั้ง ......นั้นก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผม.......ความแปรผันที่เกิด ขึ้นอย่างรวดเร็ว..ไม่สิ..เกิดขึ้นอย่างช้าๆ..จากบุคคลที่ 3 หรือจากลุงผมนั้นเอง ที่ทำให้ครอบครัวผมต้องแตกสลาย ซึ่งวันนั้นก็เป็นวันที่ผมรับรู้ว่าแม่ท้องจริงๆ....ซึ่งเหตุการณ์ค่ำคืน นั้นที่แม่แอบมีอะไรกับลุงในช่วงที่ผมหลับนั้น ความกังวลใจของแม่ที่พูดบอกลุงก็เป็นเรื่องจริง.....แม่ผมท้องหลังจาก เหตุการณ์วันนั้นผ่านไปเพียงแค่เดือนเศษๆ...ถึงตอนนี้....ความแปรผันที่เกิด ขึ้นกับแม่ผมนั้นคงไม่มีทางแก้ไขได้อีกต่อไปแล้ว อาการแพ้ท้องแม่เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ กับการแพ้กลิ่นอาหารและชอบกินของเปรี้ยวที่ตามมาเรื่อยๆ ซึ่งหลังเหตุการณ์วันนั้นพ่อผมก็แวะเวียนมาหาแม่และผมบ่อยๆ แต่ก็โดนแม่ไล่ให้กลับไป พร้อมกับลุงที่เห็นดีเห็นงามกับการให้พ่อผมไปจากบ้านนี้.....ซึ่งตอนนั้น ชาวบ้านระแวกนั้น ก็เห็นใจแม่ผมเป็นอย่างมาก และรู้สึกชื่นชมกับลุงเป็นพิเศษ เพราะลุงแสดงออกถึงความเอาใจใส่หลานในท้อง ซึ่งคงไม่มีใครรู้ความจริงนี้นอกจากผมว่า แท้จริงแล้วแม่ผมสวมเขาให้พ่อและเผลอจนตั้งท้องกับลุง ซึ่งช่วงเวลาที่แม่ท้องหรือก่อนท้องนั้นผมเห็นและรับรู้มาโดยตลอดว่าแม่ผม กับลุงแอบเป็นชู้กัน จะมีก็แต่เพียงชาวบ้านที่ไม่รู้ความจริง...และที่น่าสงสารและน่าเห็นใจก็คือ พ่อผม ......แต่มันก็เกิดจากความพลาดพลั้งของพ่อด้วยนั้นแหละ ที่แอบไปมีเล็กมีน้อยจนเกิดท้องขึ้นมา ทำให้ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น
นั้นก็คือสิ่งที่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผม ซึ่งหลังจากวันนั้นที่พ่อแยกออกไปแม่ก็ดูเหมือนจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวกับลุง มากขึ้นๆ บ่อยครั้งแม้กลางวัน ผมก็เคยแอบเห็นลุงแอบลูบไล้แก้มก้นแม่ทางด้านหลังหรือบ้างครั้งก็แอบกอดแม่ ผมทางด้านหลังขณะล้างถ้วยล้างจาน ซึ่งกอดแบบไม่เกรงใจผมที่เป็นลูกเลย เพราะลุงกอดรัดแม่แบบแนบแน่น แถมยังทำท่าเหมือนกระเด้าตูดแม่ผมทางด้านหลัง แล้วยังแอบเอามือโอบกอดทางด้านหลังพร้อมกับเอามือจับกุมเต้าอวบแม่ผมบีบคลึง ไปมาอย่างมันส์มือ ซึ่งแม่ผมก็หันมามองเห็นผมเข้า แม่ก็เลยปัดป้องเล็กน้อยการกอดรัดของลุงเพื่อให้สติลุง ลุงรู้เลยหันมาองผมแล้วเห็นว่าผมมองอยู่ ลุงก็เลยหยุดทำแล้วก็เดินมาคุยเล่นกับผมเหมือนไม่ได้รู้สึกละอายผมที่เป็น ลูกดูการกระทำของแกเลยสักนิด พอแม่ล้างทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อย ลุงก็เดินไปกระซิบอะไรกับแม่สักอย่างแล้วลุงก็ขึ้นไปบนห้องนอนของแก แม่ผมที่แทนจะมาดูหนังเล่นกับผมก็กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะแม่จัดหาของกินเล่นมาให้ผมแล้วก็บอกกับผมว่า " เดี๊ยว...หมึกลูกเล่นเกมส์ไปก่อนน่ะลูก....แม่จะขึ้นไปช่วยลุงจัดห้องสัก หน่อย..อย่ากวนแม่กับลุงน่ะลูก..!! ....เสร็จแล้วตอนเย็นๆ แม่กับลุงจะพาไปเที่ยวห้างน่ะ.... " .... แม่ผมพูดบอกผมเสร็จก็รีบเดินจ้ำขึ้นบนบ้านไปในห้องนอนลุงอย่างรวดเร็ว ณ...ตอนนั้นผมเข้าใจเรื่องราวในครอบครัวดีแล้วว่ามันไม่มีทางเป็นเหมือนวัน วานที่เราพ่อแม่ลูกจะกลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกต่อไปแล้ว เพราะพ่อก็ต้องไปดูแลเมียน้อยอีกอำเภอ...ส่วนแม่ผมรึก็รู้สึกจะไม่ได้รู้สึก เสียอกเสียใจกับการแยกทางกับพ่อแต่อย่างใดเลย และดูเหมือนแม่จะรู้สึกมีความสุขและหน้าตายิ้มแย้มกว่าตอนพ่อผมอยู่ด้วยเสีย อีก เรื่องราวที่เกิดก็เพราะการย้ายเข้ามาของลุงผมนั้นเอง ที่ทำให้ให้ครอบครัวผมต้องเป็นอย่างนี้.....สิ่งที่ลุงและแม่กระทำนั้น พ่อไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันเกิดเรื่องราวบัดสีนี้มาเนินนานเพียงใด แต่ทุกอย่างผมก็ไม่รู้จะโทษใครดีเพราะพ่อก็พลาดแอบไปมีเมียน้อย จนเปิดโอกาสให้ลุงพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองแอบอาศัยความอ้างว้าง แอบฉวยโอกาสจับแม่ทำเป็นเมียของแก ซึ่งแม้ตอนแรกที่ผมเข้าในเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นแล้วก็ตาม แต่ผมก็อดจะโทษลุงไม่ได้....และที่สำคัญแม่ผมที่ตอนนั้น...ตอนเด็กผมรู้สึก เคืองแม่ไม่น้อยไปกว่าลุงเพราะรู้สึกแม่จะเอาอกเอาใจลุงมากเป็นพิเศษ ที่ดูแล้วอาจจะมากกว่าตอนที่แม่อยู่กินกับพ่อด้วยซ้ำไป และที่สำคัญเมื่อพ่อแยกตัวออกไปแล้ว แม่ผมก็ดูเหมือนจะค่อยผลักไสให้ผมแยกออกจากการร่วมหลับนอนกันในห้องเดียว โดยเอาเหตุผลว่าผมเริ่มโตแล้ว แต่ตัวแม่กลับไปนอนในห้องนอนลุงอย่างไม่ละอายใจบ้างเลย ทั้งที่พ่อพึงย้ายออกไปไม่เท่าไหร่แม่ก็ทำเหมือนยกลุงเป็นสามีอย่างที่ผม เห็นแล้วอดรู้สึกเสียใจกับการกระทำของแม่ไม่ได้ แต่เมื่อโตพอ..ผมก็เริ่มเข้าใจกับเรื่องราวในวัยเด็กมากขึ้นๆ ซึ่งทุกวันนี้ลุงกับแม่ก็อยู่กันฉันฑ์ผัวเมียอย่างไม่ปิดบังอีกแล้ว...... นี้ก็คือ เรื่องราวในชีวิตวัยเด็กของผมก็จบแต่เพียงเท่านี้แหละครับ....!!....
(/>
ผิดที่ผู้ใหญ่อะนะ เหี้ยเอง เราเด็กจะไปรู้อะไร ไม่ใช่แบบสมัยนี้
ผมไม่รู้น่ะ ว่ามันเป็นเรื่องจริง หรื่อ แต่ง แต่จากที่เล่ามาว่ามีโครงความจริง พูดตรงๆ เลยผมรับไม่ได้กับการกระทำแบบนี้เอามากๆ เป็นผมผมเลือกจะบอกพ่อน่ะ เมื่อตอนที่เข้าใจทุกอย่างแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้พ่อโดนส่วมเขาอย่างนี้ ปล่อยให้พ่อเป็นแพะรับบาปแบบนนี้ ไม่สงสารพ่อบ้างหรอคับ ที่ถูกเข้าใจผิดเสียๆหายๆแบบนี้ แต่ก็น่ะ ก็เข้าใจว่า 10 ขวบ คงคิดอะไรไม่ได้ขนาดนั้น 555 สงสัยผมคงอิ่นไปหน่อย ขอโทดทีคับ