สวัสดีครับ คิดถึงมากมาย ไม่ได้หายไปไหนนะครับ แว๊บๆเข้ามาตลอด
บอกตรงนี้ก่อนเลยครับว่าตอนนี้ เป็นแค่ฉากเปิดเรื่อง จะเรียกว่าเป็น Season 2 ก็ได้ครับ
อ่านจบแล้วถ้าแสดงความคิดเห็นให้หน่อยจะกรุณามากครับ จะได้นำไปปรับปรุงผลงาน
ซ่อนแต่รูปประกอบจินตนาการเพื่อเพิ่มอรรถรสนะครับ
-------------------------------------------------------------
"ฮัลโหล! ยัยอายถึงไหนแล้วเนี่ยแก ชั้นถึงมหาลัยแล้วนะ"
เสียงสดใสของนักศึกษาสาวกล่าวกับคู่สนทนาผ่านโทรศัพท์ขณะนั่งไขว้ห้างอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนหน้ามหาวิทยาลัย
"
อ้าว! แกนัดพี่กายเอาไว้แล้วทำไมไม่บอกย่ะ พี่กายที่แกเล่าให้ฟังว่าเจอตอนรับน้องนะเหรอ
แหมๆ เห็นเงียบๆแบบนี้ร้ายนักนะ นี่ยัยมิ้นต์ก็ไม่รู้หายหัวไปไหนชั้นติดต่อไม่ได้เลย
เออๆ งั้นชั้นเข้าเรียนคนเดียวก่อนก็ได้ แค่นี้แหละ" กล่าวจบหญิงสาวก็กดวางสายสนทนาก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
ถึงเธอจะเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเองสูง
แต่วันแรกของการเป็นนักศึกษาปีหนึ่งเช่นวันนี้ เธอก็ยังต้องการเพื่อนอยู่บ้าง
หญิงสาวไม่คิดเลยสักนิดว่าการที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องและปฐมนิเทศจะสร้างปัญหาให้เธอแบบนี้
"
เห้อออ รู้งี้น่าจะรีบมาอยู่ที่หอก่อนก็ดี ไม่น่าเชื่อยัยตัวดีทั้งสองนั่นเลย แล้วชั้นจะนั่งเรียนกับใครหละเนี่ยวันนี้"
เธอกล่าวอย่างเซ็งๆและใช้สองมือเท้าคางอย่างเบื่อหนาย
อีกไม่ถึงชั่วโมงแล้วที่เธอจะต้องไปเข้าเรียน โทรศัพท์มือถือที่พึ่งจะซื้อมาใหม่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการถ่ายรูป
เธอจึงได้แต่ทำใจและนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลา
โดยไม่ได้รู้ตัวซักนิดว่าตัวเองได้ตกเป็นเป้าสายตากลัดมันของบรรดาหนุ่มๆนักศึกษาที่อยู่ในบริเวณนั้นไปเรียบร้อยแล้ว
นั่นเป็นเพราะโต๊ะหินอ่อนที่หญิงสาวเลือกใช้นั่งรอเพื่อนสาวนั้นตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าใหญ่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัย
ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าในยามเช้าแบบนี้จะต้องเต็มไปด้วยบรรดานักศึกษาที่เดินทางมาเพื่อเข้าเรียนรอบเช้า
อีกทั้งตัวเธอเองก็จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างสวยคนหนึ่ง ยิ่งอยู่ในชุดนักศึกษาทรงนิยม
รูปร่างที่ได้รับการดูแลอย่างดีของเธอจึงทำให้กลายเป็นจุดเด่นได้ง่าย
หากหญิงสาวเลิกคิดเหม่อลอยและเดินไปชวนผู้ชายสักคนหนึ่งไปนั่งเรียนเป็นเพื่อน คงยากที่จะมีใครคิดปฏิเสธเป็นแน่
"
เชอะ! ไปเรียนคนเดียวก็ได้ ถ้าเจอผู้ชายงานดีๆนะ ชั้นจะไม่แบ่งใครเลยค่อยดูซิ"
หญิงสาวกล่าวกับตัวเองพลางเก็บของเข้ากระเป๋าถือและลุกยืนขึ้น
การที่ต้องนั่งเฉยๆเป็นเวลานานทำให้เธอรู้สึกเมื่อยล้า หญิงสาวจึงกางแขนออกพร้อมกับแอ่นหน้าอกขึ้นบิดขี้เกียจช้าๆ
ท่วงท่าของเธอในยามนี้แม้จะดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครๆต่างก็ทำกัน
แต่อิริยาบถของเธอกลับทำให้บรรดาผู้ชายที่อยู่รอบๆบริเวณนั้นพากันมองตามตาเป็นมัน
ถ้าจะเปรียบเทียบเธอกับเพื่อนสนิททั้งสอง เธออาจจะไม่ได้ดูสวยที่สุด
แต่หากให้ผู้ชายซักสิบคนเลือกว่าใครดูเย้ายวนที่สุด ทั้งสิบคนต้องเลือกเธอเป็นเสียงเดียวกันแน่
ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง การยืน หรือการนอน ทุกๆอิริยาบทของเธอล้วนแฝงไว้ด้วยความเซ็กซี่ซึ่งเป็นไปเองตามธรรมชาติที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่แรกเกิดเสมอ
โดยเฉพาะดวงตาของเธอที่ใครๆต่างก็บอกว่าเป็นจุดที่เด่นที่สุด นัยน์ตาสีดำขลับของเธอนั้นดูเย้ายวนลึกลับและน่าค้นหา
จึงไม่แปลกนักที่มักจะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาหาเพื่อหวังเคลมสวาทเธออยู่เป็นประจำ
และในครั้งนี้ก็เช่นกัน
ขณะที่หญิงสาวกำลังจะเดินตรงไปยังตึกของคณะเพื่อเข้าเรียน
พลันก็มีร่างสูงในชุดนักศึกษาชายเดินมาขนาบทั้งสองข้าง
"สวัสดีครับ พี่ชื่อกร อยู่ปีสี่ รีบเดินแบบนี้ น้องเป็นนักศึกษาปีหนึ่งที่กำลังจะไปเข้าเรียนรึเปล่าครับเนี่ย พวกพี่ไม่คุ้นหน้าเลย หรือเราจะไม่ได้มารับน้อง"
ชายที่อยู่ทางด้านซ้ายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ก่อนที่คนทางขวาจะพูดตามมาเหมือนนัดกันไว้
"ส่วนพี่ชื่อบาส ปีสี่เหมือนกัน ดูจากเข็มกลัดแล้วน้องคงอยู่คณะเดียวกันกับพวกพี่ และถ้าน้องไม่ได้มารับน้องก็คงจะยังไม่รู้ทาง ให้พวกพี่พาไปส่งนะครับ
พวกพี่รู้ทางลัด ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย ว่าแต่น้องชื่ออะไรครับพวกพี่จะได้เรียกถูก"
ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งขวาพูดพร้อมเร่งฝีเท้าแซงไปด้านหน้าเพื่อดักให้หญิงสาวต้องหยุดเดิน
คนที่ถูกถามแอบตกใจนิดๆที่พวกรุ่นพี่สองคนนี้โผล่มากะทันหัน
แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่าพวกเค้าต้องการพาเธอไปส่งยังห้องเรียน ซึ่งจะว่าไปแล้วเธอก็ยังไม่รู้จริงๆว่าตึกที่เธอต้องไปอยู่ตรงไหน
ในตอนแรกเธอก็กะจะไปถามยามที่เฝ้าตึก แต่ถ้ามีคนมาเสนอจะพาไปแบบนี้เธอก็ไม่รังเกียจ
แถมทั้งสองคนก็ดูไม่น่ามีพิษมีภัยเท่าไหร่นัก แม้จะพอดูออกว่าตั้งใจเข้ามาเพื่อขายขนมจีบเหมือนคนอื่นๆก็ตาม
หญิงสาวจึงหันไปมองดูรุ่นพี่ทั้งสองคนอย่างละเอียด
พี่บาสเป็นชายหนุ่มหน้าตาตี๋ผิวขาวรูปร่างสูงโปร่งแบบคนจีนดูมีฐานะ
ส่วนพี่กรออกจะผิวคล้ำๆหน่อยหน้าตาคมคายดูหล่อแบบลูกทุ่งและสวมสร้อยทองเส้นเบ้อเร่อที่คอ
ทั้งคู่จ้องมองมาที่หญิงสาวและยิ้มบางๆให้ด้วยสีหน้าที่คิดว่าดีที่สุดในสามโลก
หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อแอบเบ้ปาก จากนั้นเธอก็ทำท่าทางคล้ายจะลังเลอะไรบางอย่าง ก่อนจะตอบรุ่นพี่ทั้งสองออกไปด้วยเสียงออดอ้อน
"หนูชื่อจ๋าคะ พอดีจ๋าติดธุระเลยไม่ได้มาตอนรับน้อง จะว่าไปแล้วจ๋าก็ไม่รู้ทางจริงๆด้วย
นี่ถ้าพี่กรกับพี่บาสไม่เดินมาทัก จ๋าก็ยังไม่รู้จะไปถามใครเลยค่ะ ยังไงรบกวนพวกพี่ด้วยนะคะ"
หญิงสาวตอบคำถามพลางพยายามทำตัวให้น่าเอ็นดูมากที่สุดโดยการไขว้มือไว้ด้านหลังและแอ่นหน้าอกขึ้นมาเล็กน้อย
ซึ่งเธอมักจะทำแบบนี้อยู่เป็นประจำเวลาที่มีผู้ชายเป็นฝ่ายเข้ามาหา
"ยินดีเลยครับน้องจ๋า เป็นหน้าที่ของพวกพี่ๆอยู่แล้วที่ต้องดูแลรุ่นน้อง เราเรียนชั้นห้าตึกสี่ใช่ไหมถ้าพี่จำไม่ผิด"
นายกรตอบพลางถูมือไปมาด้วยความยินดี
"แหม จำเก่งจังเลยนะคะ ใช่คะจ๋าเรียนชั้นห้าตึกสี่ตอนเก้าโมงเช้า"
หญิงสาวทำตาโตเหมือนแปลกใจที่พี่กรรู้ที่เรียนโดยเธอยังไม่ทันบอก
"งั้นเรารีบไปกันดีกว่าครับน้องจ๋า เดี๋ยวจะไม่ทัน วิชานี้อาจารย์ที่สอนยิ่งโหดๆอยู่ด้วย ไปครับ เดี๋ยวเราเลี้ยวไปทางลัดตรงตึกนี้เลย"
นายบาสพูดจบก็ยิ้มให้และหันหลังเดินนำออกไปก่อน จากนั้นจึงเป็นจ๋าที่ก้าวตามไปโดยมีนายกรเดินรั้งท้าย
ระหว่างเดิน นายบาสที่เดินนำอยู่ด้านหน้าก็หันกลับมามองนายกร
ทั้งสองสบตากันเพียงชั่วครู่และพยักหน้าให้แก่กันเบาๆก่อนจะพาจ๋าเดินเลี่ยงเข้าไปทางมุมตึกซึ่งทั้งคู่อ้างว่าเป็นทางลัด
โดยที่จ๋าไม่ได้สังเกตุเลยว่า นักศึกษารอบๆข้างต่างพากันหันไปคุยกระซิบกระซาบกันเต็มไปหมดตั้งแต่ที่เห็นรุ่นพี่ทั้งสองคนนั้นพอกันเดินเข้าไปหาเธอ
แท้จริงแล้วสองคนนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียอยู่บ่อยครั้งจนเป็นที่โจษจันกันไปทั่วมหาลัย
พวกมันมักจะเล็งหานักศึกษาสาวหน้าตาดีไว้ตั้งแต่วันรับน้องโดยการเล่นบทบาทรุ่นพี่ผู้แสนดีหลอกให้เหยื่อตายใจ
ก่อนที่จะวางแผนแบล็คเมล์และเคลมสวาทจนกว่าพวกมันจะเบื่อ
และการที่พวกมันมีแบ็คอัพเป็นนักการเมืองผู้มีอิทธิพล ยิ่งทำให้เหยื่อของพวกมันไม่กล้าเอาผิด
มีครั้งหนึ่งที่พวกมันเกือบโดนแฉเพราะดันไปเล่นกับลูกสาวของผู้กำกับใหญ่
แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆเพราะแบ็คอัพของพวกมันดูเหมือนจะมีเส้นสายที่ใหญ่กว่า
นั่นยิ่งทำให้เหยื่อรายหลังๆของพวกมันไม่กล้าคิดที่จะเอาผิดเข้าไปใหญ่
"รุ่นพี่ค่ะ ก่อนเข้าตึกนี้มา จ๋าเห็นป้ายติดไว้ว่าตั้งแต่ชั้นสองกำลังปรับปรุงนี่คะ แล้วพวกพี่พาจ๋าขึ้นมาแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอคะ"
หญิงสาวเอ่ยถามระหว่างกำลังก้มตัวลงลอดป้ายห้ามเข้าที่แขวนอยู่หลังจากเดิน
เธอเริ่มสังเกตุถึงความผิดปกติหลายๆอย่างเช่นจำนวนของนักศึกษาที่ลดน้อยลง หรือกองอุปกรณ์ก่อสร้างที่วางอยู่ด้านหน้าตึก
กว่าที่เธอจะนึกเอะใจได้ก็ตอนที่เดินขึ้นมายังชั้นสองและพบว่าชั้นนี้ไร้เงาผู้คนแล้ว จะหันกลับก็ไม่ได้เพราะมีพี่กรเดินประกบอยู่ตลอดเวลา
หากจะโทษก็ต้องโทษที่นิสัยมั่นใจในตัวเองสูงและคิดว่าจะเอาตัวรอดได้เสมอของเธอที่พาให้เธอมาตกอยู่ในสถาณการ์ณล่อแหลมแบบนี้
"อ้อ ชั้นนี้มันมีทางเชื่อมไปตึกสี่นะครับ เลี้ยวขวาตรงสุดทางเดินข้างหน้านี้เองครับ"
นายบาสที่เดินนำอยู่ข้างหน้าตอบโดยไม่หันมามองจ๋า และดูเหมือนเค้าจะเร่งฝีเท้าขึ้นนิดหน่อยจนทิ้งห่างจากหญิงสาวช่วงใหญ่
"พอดีเค้ากำลังปรับปรุงตึกอยู่อย่างที่น้องจ๋าเห็นจากป้ายข้างล่างแหละครับ แต่ถ้าเวลารีบๆนักศึกษาส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกใช้เส้นทางนี้อยู่ดีครับ
เพราะทางขึ้นตึกสี่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทางนี้ไม่ต้องเดินอ้อมจะประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยนะครับ"
นายกรที่อยู่ด้านหลังเอ่ย คำพูดของพวกมันฟังดูแล้วคล้ายกับท่องจำมา
"เหรอคะ.... อืม.... ก็สะดวกดีนะคะ ว่าแต่...
เอ๋!!"
จ๋าส่งเสียงอุทานออกมาเพราะประหลาดใจที่เห็นพี่บาสยืนหยุดรออยู่นิ่งๆเมื่อเธอเดินเลี้ยวขวามา
"เอ.... ไม่กี่วันก่อนยังไม่เป็นแบบนี้นี่นา" นายบาสที่ยืนรออยู่พูดพลางส่ายหัว ดูเหมือนริมฝีปากของมันจะมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่
ด้านหน้าของจ๋านั้นปรากฎช่องประตูสูงประมาณสามเมตรที่น่าจะเป็นทางเชื่อมอยู่จริง
เพียงแต่ทางเชื่อมนี้มีลักษณะเหมือนกำลังปรับปรุงเพราะพื้นทางเดินนั้นถูกทุบทำลายทิ้งไปแล้ว
อีกทั้งยังมีนั่งร้านเหล็กที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างกั้นบังไว้
อารามตกใจจ๋าจึงหยุดเดินกะทันหัน ทำให้ไอ้กรที่พึ่งจะเลี้ยวตามหลังมาชนเข้ากับด้านหลังของเธออย่างแรง
ส่งผลให้หญิงสาวที่ไม่ทันตั้งตัวเสียหลักเซล้มลงไปด้านหน้าทันที
"
กรี๊ดดดด!!" จ๋าร้องเสียงหลงเพราะบริเวณนั้นเต็มไปฝุ่นผง แถมยังมีอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆวางอยู่ระเกะระกะเต็มไปหมด
เธอถึงกับหลับตาปี๋เพราะคิดว่าต้องล้มลงไปโดนอะไรซักอย่างจนบาดเจ็บแน่ๆ
"
เฮ้ย!! ระวัง!!" จ๋าได้ยินเสียงตะโกนพร้อมกับมีวงแขนเข้ามารองรับร่างของเธอไว้ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับพื้น
"ฟู่.... ไอ้กร! มึงระวังหน่อยซิวะ เดินดูตาม้าตาเรือซะบ้าง ถ้าตัวน้องเค้าเป็นรอยหรือช้ำ เดี๋ยวพวกเราก็ซวยกันหมดหรอก"
เป็นนายบาสเองที่เป็นคนยื่นแขนพุ่งเข้าไปรองรับตัวของจ๋าเอาไว้ มันดูโมโหเอามากๆที่เกิดเหตุการ์ณแบบนี้ขึ้นจนต้องตวาดเพื่อนชายเสียงดัง
"
โธ่! กูขอโทษ ก็ใครมันจะไปรู้วะว่าน้องเค้าจะหยุดเดิน พอเลี้ยวมาก็ชนเลย" นายกรถึงกับหน้าเสียจนจ๋าที่ตอนนี้ลืมตาขึ้นมาแล้วรู้สึกงุนงงไปหมด
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกรุ่นพี่ทั้งสองคนนี้ถึงต้องโมโหขนาดนี้
ถ้าช่วยไม่ทันจนเธอแค่เจ็บตัว ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับรุ่นพี่พวกนี้ซักหน่อย
นายบาสลุกยืนขึ้นพร้อมกับดึงร่างของจ๋าตามมาด้วยอย่างทะนุถนอม
ถึงแม้จะไม่บาดเจ็บอะไรมากมายเพราะมีแขนของนายบาสมารองไว้
แต่ชุดนักศึกษาของหญิงสาวก็ปรากฏรอยเปื้อนอยู่ไม่น้อย
"จ๋าไม่เป็นไรค่ะ พี่บาสเจ็บตรงไหนรึเปล่าคะ.... เพราะจ๋าแท้ๆเลย" หญิงสาวหันไปถามหนุ่มรุ่นพี่ด้วยความเป็นห่วง
ถึงแม้จ๋าจะยังไม่หายสงสัยในหลายเรื่องๆ แต่ตอนนี้เธอกลับลืมเลือนมันไปจนเกือบหมด
ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยเวลาถูกช่วยเหลือก็มักจะเกิดความรู้สึกดีๆขึ้นมาในใจเสมออย่างที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้
"อ่ะ อ้อ! พี่ไม่เป็นไรหรอกครับ เออ..." นายบาสตอบด้วยเสียงตะกุกตะกัก
ตาของมันจ้องเขม็งตรงหน้าอกของหญิงสาวจนผิดสังเกต
แถมนายกรที่ยืนอยู่ข้างๆหลังจากเดินมาดูเพื่อนก็มีอาการแบบเดียวกัน
"
ว๊ายยย!!" จ๋าร้องลั่นทันทีที่ก้มลงมองหน้าอกของตัวเอง
เพราะตอนนี้กระดุมสองเม็ดบนที่ปกติก็แทบจะหลุดได้ทุกเมื่ออยู่แล้วตอนนี้กลับสูญหายไป
เผยให้เห็นเนินอกขาวขนาดสามสิบหกนิ้วและเสื้อยกทรงตะขอหน้าสีดำเข้ม
หญิงสาวจึงรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองและหันหลังให้สองหนุ่มทันที
"กูว่าจัดแม่งเลยเหอะได้โอกาสแล้วด้วย กูชักเริ่มเงี่ยนแล้วหว่ะ ตอนกุเดินชนตัวแม่งทั้งนิ่มทั้งหอมฉิบหาย" ไอ้กรหันไปกระซิบกระซาบถามไอ้บาสด้วยเสียงหื่นกระหาย
"
เออ! เชี้ย! นมแม่งก็โคตรนิ่ม โดนแขนกูแล้วควยตุงเลยเนี่ย ชักจะทนไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวมึงอ้อมไปดักด้านหลังแล้วลากมันเข้าห้องเดิมเลย"
ไอ้บาสสั่งการก่อนจะค่อยๆขยับเข้าไปหาร่างของเหยื่อคนใหม่ช้าๆพร้อมกับที่ไอ้กรออกเดินเพื่อจะอ้อมไปปิดทางหนี
ต้องไม่ลืมว่าตั้งแต่ชั้นสองที่ทั้งสามกำลังยืนอยู่นี้กำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุง และยิ่งวันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนจึงไม่มีใครคิดสนใจจะเหยียบย่างขึ้นมาเป็นแน่
นั่นจึงทำให้หญิงสาวได้ยินสิ่งที่รุ่นพี่ชั่วทั่งสองกำลังจะทำชัดเต็มสองรูหูแม้ทั้งคู่จะพูดกันเบาแค่ไหนเพราะไม่มีเสียงอื่นรบกวน
แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ชะตาจิ๋มของสาวจ๋าจะยังไม่ถึงฆาต....
"
อ้าว! จ๋า! มาทำอะไรที่นี่เนี่ย กำลังจะเข้าเรียนแล้วนะ แล้วนั่น.... ใครน่ะ"
เป็นพลที่ดูเหมือนจะบังเอิญโผล่ออกมาจากมุมทางเดินพอดิบพอดีที่เป็นคนเอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มดูแปลกใจไม่น้อยกับสภาพของคนทั้งสาม
หนึ่งหญิงสาวที่มีสีหน้าตื่นตระหนกและกำลังใช้สองมือปิดอกอวบ
กับสองชายหนุ่มหน้าตาหื่นกระหายที่ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วเพราะแปลกใจที่พลปรากฎตัวออกมา
"
พล! ไม่ต้องถามอะไรแล้ว พาเราไปจากตรงนี้เร็วเข้า!" จ๋าแทบจะร้องตะโกนด้วยความดีใจที่เห็นพล
เธอไม่รอช้ารีบพุ่งไปจับมือพลที่กำลังงงและเป็นฝ่ายพาเขาออกวิ่งย้อนกลับไปทันที
"
เห้ย!! หยุดนะ!!" ไอ้กรที่อยู่ใกล้ที่สุดเพราะกำลังจะเดินไปดักจ๋าทำท่าจะวิ่งตามไป
"
ไอ้กร! ไม่ต้อง! ปล่อยพวกมันไป ลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนี้เฮียสั่งห้ามเราทำอะไรเอิกเกริก"
ไอ้บาสเอ่ยเตือนพลางควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เพราะเรื่องที่พวกมันทำพลาดครั้งที่แล้วพึ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน
หากยังมีครั้งที่สองติดๆกันอีก แบ็คใหญ่ที่หนุนหลังพวกมันคงจะตัดหางปล่อยวัดแน่ๆ
"
เหี้ยเอ้ย! ไอ้เด็กนั่นโผล่มาจากไหนว่ะ! เสียเวลาฉิบหาย แล้วกูจะระบายความเงี่ยนกับใครละเนี่ย
แม่งเอ้ย!"
ไอ้กรหันไปเตะอัดเศษขยะแถวๆนั้นเพื่อระบายอารมณ์โกรธให้ตัวเอง
"ช่างมัน อีจ๋านี่ไว้คราวหน้าก็ได้ ยังไงมันก็อยู่คณะเดียวกันกับเรา
และมึงอย่าลืมว่าเรายังมีน้องหยาอีกคน เบอร์อยู่ที่เครื่องมึงกูจำได้ มึงรีบโทรเรียกมันมาเลย กูก็เงี่ยนจนปวดไข่แล้วเนี่ย"
ไอ้บาสกล่าวเสียงเรียบเฉยเหมือนสิ่งที่มันทำอยู่เป็นเรื่องธรรมดาจนไอ้กรหัวเราะหึๆเมื่อได้ยิน ก่อนที่มันจะควักมือถือขึ้นมากดเบอร์เหยื่อสาวผู้โชคร้าย
"เออๆ กูตลอด วันหลังหัดเมมไว้เครื่องมึงบ้างก็ได้นะ
อ่ะ! ฮัลโหล! สวัสดีครับน้องหยาคนสวย........."
........................................................................
"อะ.. พอดีพลพกเข็มกลัดมาพอดี จ๋าเอาไปติดไว้ก่อนนะ" พลล้วงเข็มกลัดที่มีพกไว้เสมอจากเป้สะพายหลังส่งให้จ๋าเพื่อใช้แทนกระดุมเสื้อ
"ขอบคุณนะ ถ้าพลไม่โผล่มาเราต้องแย่แน่ๆเลย" จ๋ากล่าวขอบคุณและรับเข็มกลัดมาติดที่เสื้อ
ทั้งคู่นั่งอยู่ใต้ตึกสี่ตรงม้านั่งส่วนที่มีคนพลุกพล่านที่สุด หญิงสาวเป็นคนเลือกที่จะอยู่ตรงนี้เองเพราะเธอยังคงหวาดระแวงไอ้รุ่นพี่ชั่วพวกนั้นอยู่
จ๋ารู้สึกอับอายที่เป็นฝ่ายโดนหลอกจึงไม่ได้บอกอะไรกับพลมากมายนักเพราะกลัวจะเสียหน้า
แต่หญิงสาวไม่ได้รู้เลยว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆนั่นรู้เรื่องราวและจงใจโผล่ออกไปในจังหวะนั้นเพื่อช่วยเธอ
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย ในตอนที่จ๋ากำลังเดินขึ้นไปยังชั้นสองของตึก
พลที่กำลังจะเดินไปตึกสี่ด้วยเส้นทางปกติเพื่อเข้าเรียนกลับสัมผัสได้ถึงจิตใจที่เต็มไปด้วยราคะถึงสองดวง
เขารับรู้ได้ว่ามันแตกต่างจากราคะของคนปกติ มันเป็นราคะที่ดำมืด
พลรู้ได้ถึงความอันตรายบางอย่าง เขาจึงแผ่สัมผัสออกค้นหาและลอบติดตามไป
ตอนที่พลไปถึงเป็นตอนที่ไอ้กรกำลังชนจ๋าพอดี เขาสัมผัสได้ทันทีถึงราคะดำมืดที่พุ่งขึ้นสูงกว่าเก่า
พลรู้ทันที่ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวคนนั้นเขาจึงรีบพุ่งเข้าไปช่วยโดยที่ยังไม่ได้คิดวิธีด้วยซ้ำ
แต่พอโผล่พ้นขอบกำแพงออกไป ปรากฏว่าหญิงสาวตรงหน้ากลับเป็นคนรู้จักซะได้ แถมเธอยังเป็นฝ่ายลากเขาออกมาเองอีกด้วย
"เรายังขึ้นไปเรียนกันทันนะ มีเวลาอีกห้านาที รีบไปกันเถอะ" พลที่เห็นว่าจ๋าแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเอ่ยพร้อมกับลุกยืนขึ้นสะพานกระเป๋า
"พอดีเลย ตอนแรกเราก็ไม่รู้จะนั่งกับใครเพราะอายยังไม่มา งั้นเดี๋ยวเราขอไปนั่งกับพลก่อนก็แล้วกัน ป่ะ ขึ้นไปกัน"
จ๋าขยับตัวลุกขึ้นและพลิกตัวกลับออกเดินนำไปยังลิฟท์โดยมีพลเดินตามมาห่างๆ
ทั้งคู่ยืนรออยู่พักเดียวลิฟท์ก็เคลื่อนตัวลงมา ด้วยความรีบร้อนพอประตูเปิดจ๋าก็พุ่งตรงเข้าไปทันที
แต่ลิฟท์ที่ควรจะว่างเปล่าเพราะเป็นตอนเช้าที่มีแต่คนขึ้นไปเรียนกลับมีนักศึกษาสาวหน้าตาน่ารักเดินสวนออกมาด้วยความเร่งรีบ
ไหล่ของทั้งคู่กระทบกันเล็กน้อยจนโทรศัพท์ที่สาวแปลกหน้าถือแนบหูหลุดร่วงออกจากมือ
แต่โชคดีที่ตอนนี้ประสาทสัมผัสของพลเฉียบคมมากขึ้นเพราะพลังแห่งบาปโดยที่เค้าไม่รู้ตัว
พลจึงสามารถยื่นมือไปรับโทรศัพท์เครื่องนั้นได้ทันก่อนที่มันจะหล่นลงกระแทกพื้น หลังจากนั้นเค้าก็ส่งมันคืนกลับไปให้หญิงสาวแปลกหน้า
"
อุ้ย! ขอบคุณมากเลยค่ะ" เธอคนนั้นกล่าวขอบคุณพลก่อนจะหันไปขมวดคิ้วใส่จ๋า
"ขอโทษด้วยค่ะ พอดีเรากลัวจะเข้าเรียนไม่ทัน เอะ คุณอยู่คณะเดียวกับเรานี่นา ไม่เข้าเรียนเหรอคะ" จ๋าเอ่ยถามด้วยความสงสัย
เพราะเธอรู้มาว่าคณะของเธอเรียนวิชาเดียวกันที่ตึกนี้ทั้งหมดในช่วงเก้าโมง และหญิงสาวตรงหน้าก็ติดตราสัญลักษณ์แบบเดียวกันกับเธอและพล
"พอดีเรามีธุระด่วนค่ะ ต้องรีบไป ยังไงคราวหน้าให้คนด้านในเดินออกมาให้หมดก่อนที่จะเข้าไปนะคะ มันอันตราย อ่า.... แล้วก็ขอบคุณนายด้วยนะที่รับโทรศัพท์ให้เรา...."
หญิงสาวกล่าวตำหนิจ๋าก่อนจะหันมาขอบคุณพล
ระหว่างที่พูดเธอแอบหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อได้มองใบหน้าอันหล่อเหลาของพลชัดๆ
แต่อยู่ดีๆเธอก็ชะงักและเบิกตาโตขึ้นทันทีที่ได้ประสานสายตาเข้ากับพล
ดวงตาของเธอปรากฏประกายวาวสีน้ำเงินขึ้นก่อนจะสลายไปในพริบตาโดยไม่มีใครทันสังเกตุเห็น
หญิงสาวสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าเต็มปอดจนหน้าอกสะท้าน เธอเม้มปากเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้ามาในลิฟท์ทันทีจนจ๋ารู้สึกแปลกใจ
แต่ผู้ถือครองพลังแห่งราคะอย่างพลสามารถรับรู้ความเปลี่ยนแปลงได้ทันที
เขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์สวาทที่พลุ่งพลานขึ้นโดยไม่มีที่มาของหญิงสาวหลังจากที่ได้สบตากับเขาเพียงชั่วครู่
แต่รู้ก็ส่วนรู้ ตัวของพลเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นหญิงสาวตรงหน้าถึงได้มีอาการแบบนี้ได้
หลังจากเรื่องของเหมยเวลาก็ล่วงผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว ระหว่างนั้นพลเฝ้าพยายามศึกษาเกี่ยวกับพลังที่ได้มาแต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า
อาจจะเป็นเพราะว่าชายหนุ่มไม่ได้ออกไปลองใช้งานพลังแห่งราคะกับผู้หญิงคนอื่นอีกเลยก็ได้
มีเพียงพยาบาลแก้วที่ตามมาปรนเปรอให้ถึงที่บ้านโดยที่เธออ้างกับคนอื่นๆว่าพลยังไม่หายขาดและต้องคอยระวังอาการข้างเคียง
หากจะเรียกแอสโมดิวส์มาถามตอนในตอนนี้ก็คงจะไม่เหมาะ แถมพักหลังๆที่พลเรียกหาเธอก็มักจะอ้างว่าติดธุระอะไรซักอย่างและไม่โผล่มาด้วยซ้ำ
"ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่.... คุณไม่ไปไหนแล้วเหรอครับเห็นตอนแรกบอกรีบ"
ชายหนุ่มเลิกคิดซับซ้อนในหัวก่อนจะเอ่ยถามหลังจากเดินตามเข้าไปในลิฟท์อีกคนโดยยืนแทรกกลางทั้งคู่
เขาค่อนข้างมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอคนนี้ต้องมาจากพลังของเขาแน่ๆ พลจึงตัดสินใจว่าจะลองทดสอบพลังใหม่นี้ด้วยตนเองแม้จะยังไม่รู้อะไรเลยก็ตาม
"อะ..... อา.... เออ.... พอดีเรานึกขึ้นได้ว่าลืมของไว้ในห้องต้องกลับไปเอา นายรีบปิดลิฟท์ได้เลยนะนี่เก้าโมงแล้ว" หญิงสาวเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก
จนคราวนี้จ๋าเป็นฝ่ายขมวดคิ้วบ้างเพราะรู้สึกงุนงงจนแอบคิดว่าผู้หญิงคนนี้ท่าทางจะประสาท
เมื่อแน่ใจว่าจะไม่มีใครเข้ามาเพิ่มอีกพลจึงกดปุ่มปิดก่อนที่สัญญานเตือนจะดังเพราะประตูถูกเปิดไว้นาน
ลิฟท์ขนาดกลางค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นไปช้าๆโดยมีชั้นห้าเป็นจุดหมายของทั้งสาม
ในระหว่างที่ลิฟท์กำลังเคลื่อนตัวขึ้นช้าๆเพราะต้องการความปลอดภัย
หญิงสาวแปลกหน้าก็เอนร่างของเธอมาเบียดกับแขนซ้ายของพลและค่อยๆใช้หน้าอกสีไปมาช้าๆ
"
อะแฮ่ม!!" จ๋าซึ่งคอยสังเกตุอยู่ตั้งแต่แรกกระแอมเสียงดังขึ้นด้วยความหมั่นไส้จนหญิงสาวรู้สึกตัวและผละร่างออกไป
"อะ... เออ.... นายชื่ออะไรเหรอ" เธอก้มหน้างุดๆด้วยความเขินอายเพราะเห็นชายหนุ่มตรงหน้าอมยิ้มด้วยความขำขัน
หญิงสาวกำลังไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองว่าทำไมเธอถึงได้เกิดอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรงขนาดนี้
ความสวยของเธอนั้นไม่ได้แพ้จ๋าเลยสักนิดเดียว เรียกได้ว่าแทบจะมีชายหนุ่มมาเข้าคิวจีบเธอด้วยซ้ำไป
แต่ตอนนี้ในหัวของเธอกลับต้องการเพียงแท่งเอ็นอุ่นๆของใครซักคนที่จะช่วยมาดับความร้อนรุ่มตรงหว่างขาของเธอได้
มันเป็นความต้องการที่ไม่อาจจะทานทนได้อีกต่อไป
เธอแทบอยากจะผลักชายหนุ่มตรงหน้าของเธอให้ล้มลงและขึ้นควบขย่มเองเสียเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ
อ่าาาาาห์.... นี้มันเกิดอะไรขึ้นตัวเธอกันแน่นะ
"
นี่! ก่อนจะถามชื่อคนอื่นคุณควรจะแนะนำชื่อตัวเองก่อนรึเปล่าคะ!" จ๋าสงเสียงกระแทกกระทันด้วยความรำคาญ
เกิดมาเธอก็พึ่งจะพบผู้หญิงที่แค่ได้มองหน้าก็ถูกใจจนแสดงอาการอยากโดนออกมาชัดเจนขนาดนี้
เธอมั่นใจว่าตัวเองค่อนข้างจะปล่อยเนื้อปล่อยตัวกว่าผู้หญิงคนอื่นอยู่มากแล้วเพราะมั่นใจในความสวย
แต่วันนี้เธอกลับต้องรู้สึกยอมแพ้ให้กับผู้หญิงตรงหน้าจริงๆ
"จริงด้วยซิ ขอโทษนะเราลืมไปเลย.... เออ... เราชื่อหยาหน่ะ แล้วนายชื่ออะไรเหรอ...."
สาวหยากล่าวแนะนำตัวเองเสร็จก็เป็นจังหวะที่ลิฟท์เคลื่อนตัวมาหยุดอยู่ตรงชั้นห้าพอดี
ขณะนี้ตรงระเบียงทางเดินแทบจะไม่มีนักศึกษาคนอื่นเหลืออยู่แล้ว
พลจึงยกนาฬิกาที่สวมใส่อยู่บนแขนขวาขึ้นมาดูเวลาก่อนจะพบว่าพวกเค้าสายมาแล้วเกือยสิบนาที
"ผมว่าตอนนี้เรารีบไปกันก่อนดีกว่าครับสายมากแล้วด้วย เดี๋ยวเราค่อยไปคุยกันในห้องนะครับ"
พลเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้หยาและเดินนำออกไปเป็นคนแรกก่อนที่จ๋าจะรีบเดินตามออกไปโดยไม่สนใจหยาอีก
แต่หยากลับไม่ได้เดินตามไปในทันที เธอยังคงยืนนิ่งอยู่ภายในลิฟท์และเม้มริมฝีปากล่างแน่นขณะมองดูร่างของพลค่อยๆเดินห่างออกไป
มโนธรรมในจิตใจส่วนที่ลึกสุดของเธอในของตอนนี้กำลังพยายามต่อต้านแรงราคะที่กำลังพวยพุ่งเป็นเฮือกสุดท้าย
แต่เพียงไม่นานนักตัณหาดำมืดก็เป็นฝ่ายชนะ มันกลืนกินสำนึกผิดถูกของหญิงสาวให้หายไปจนหมดสิ้น
ร่างบางของหยาจึงรีบวิ่งตามชายหนุ่มตรงหน้าไปอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ห้องเรียนนี้เป็นห้องเรียนที่ค่อนข้างใหญ่ ในห้องมีเก้าอี้สำหรับนักศึกษาถูกวางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเป็นจำนวนมาก
ดูผ่านๆแล้วคงสามารถรองรับนักศึกษาได้เป็นร้อยๆ และตอนนี้กว่าครึ่งของห้องก็มีนักศึกษาคนอื่นนั่งจับจองเป็นกลุ่มๆอยู่เต็มไปหมด
เมื่อเข้ามาในห้องทั้งสามก็พบว่าอาจารย์สาวประจำวิชาเริ่มสอนไปเรียบร้อยแล้ว จะมีก็แต่นักศึกษาบางคนเท่านั้นที่หันมามองเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคนรู้จักของตัวเอง
พวกพลที่เข้ามาใหม่จึงเลือกที่นั่งว่างซึ่งเป็นแถวสุดท้ายที่อยู่ใกล้กับประตูหลังห้องเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
ถึงทั้งสามจะเข้ามาด้วยกันแต่ก็ไม่ได้เลือกที่นั่งติดกันมากนัก พลนั่งอยู่ซ้ายสุดริมทางเดิน จ๋านั่งถัดไปจากพลโดยเว้นที่ว่างไว้สองที่
ส่วนหยานั้นนั่งห่างออกไปจากจ๋าจนเกือบจะริมขวาสุดของแถว เพราะเอาเข้าจริงๆแล้วทั้งสามคนนี้แทบจะไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ
อย่างจ๋าพอจะรู้จักชื่อและเห็นหน้าพลอยู่บ้างเพราะเธอเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกับมิ้นและอาย แต่นั่นก็แทบจะนับจำนวนครั้งที่เธอเคยเจอและพูดคุยกับพลได้
ที่วันนี้ดูเธอเหมือนจะให้ความสนิทสนมกับพลเป็นพิเศษ ก็เป็นเพราะชายหนุ่มบังเอิญโผล่มาและช่วยให้เธอวิกฤตพอดี
อีกทั้งจู่ๆจ๋าก็ยังรู้สึกเหมือนว่าพลจะหน้าตาหล่อเหล่าและมีเสน่ห์ขึ้นกว่าที่เคยเจออย่างไม่มีสาเหตุ
นั่นจึงทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกดีกับพลทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอก็แทบจะไม่ได้สนใจอะไรในตัวชายหนุ่มมากนัก
นอกเสียจากเงินในกระเป๋าและบัตรเครดิตจำนวนมากที่พลมักจะพกไว้เสมอ
ส่วนกับหยายิ่งแล้วใหญ่
เธอเพียงแค่รู้สึกมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมาอย่างประหลาดจนแทบทนไม่ไหวหลังพบเจอกับพล
หญิงสาวรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งร่างจนอยากจะหาที่ระบายอารมณ์นี้ให้เร็วที่สุด
สัมผัสลึกลับบางอย่างบอกให้เธอรับรู้ว่า ผู้ชายตรงหน้านี้เท่านั้นที่จะเป็นคนคลี่คลายอารมณ์อันพลุ่งพล่านของเธอให้หายไปได้
จ๋าจึงตัดสินใจที่จะติดตามชายหนุ่มที่พึ่งจะได้พบคนนี้เพื่อหาโอกาสปลดเปลื้องอารมณ์ของตัวเอง จนยอมทิ้งเรื่องสำคัญที่กำลังจะไปทำจนหมดสิ้น
หญิงสาวไม่ได้รู้ตัวเลยซักนิดว่าการพบเจอกับพลในครั้งนี้ จะเป็นทั้งโชคดีและโชคร้ายในอนาคตที่กำลังจะมาถึง
วิชาที่ทั้งสามเข้าเรียนนี้คือวิชาสถิติเบื้องต้น ใช้เวลาเรียนทั้งหมดถึงสองชั่วโมงครึ่ง
ในคาบแรกนี้ส่วนใหญ่เป็นการทบทวนพื้นฐานและบอกถึงสิ่งที่นักศึกษาจะต้องเรียนในเทอมนี้
นักศึกษาแทบทุกคนในห้องต่างก้มลงจดรายละเอียดตามที่อาจารย์สาวประจำวิชาบอก แต่ก็มีนักศึกษาบางส่วนไม่ได้สนใจนัก
บางคนจับกลุ่มคุยกันเรื่องสัพเพเหระ ส่วนบางคนก็ฟุบหลับเพราะนอนดึก ส่วนพลกับจ๋าเองก็กำลังก้มหน้าก้มตาจดรายละเอียดไปตามปกติ
"โธ่! มาหมดอะไรเอาตอนนี้เนี่ย" จ๋าบ่นอย่างหัวเสียเมื่อปากกาของเธอเริ่มเขียนไม่ติด
เธอพยายามสะบัดมันไปมาและลองเขียนใหม่อยุ่หลายครั้งก็ยังเป็นเช่นเดิม
หญิงสาวพ่นลมหายใจยาวก่อนจะก้มลงรื้อหาจากกระเป๋าถือส่วนตัวโดยหวังว่าจะบังเอิญเจอด้ามอื่น
"แย่แล้วๆ ทำยังไงดีเนี่ยจดไม่ทันแล้ว ยัยอายบ่นแน่ๆเลย" จ๋าพึมพำพร้อมกับโคลงหัวช้าๆเมื่อนึกถึงเพื่อนสาวของเธอที่คอยกำชับนักหนาว่าต้องจดรายละเอียดให้ครบ
แต่ตอนนี้ถึงเธอจะหาปากกาสักด้ามได้ก็คงจดไม่ทันแล้วอยู่ดี
สิ่งเดียวที่จ๋านึกออกก็คือหายืมสมุดของใครสักคนเพื่อเอามาคัดลอก และคนที่จ๋านึกถึงเป็นคนแรกก็คือพลนั่นเอง
เมื่อคิดได้ดั่งนั้นหญิงสาวจึงหันไปมองดูพลที่กำลังนั่งจดรายละเอียดอย่างตั้งใจ
สีหน้าขณะกำลังมุ่งมั่นทำอะไรสักอย่างของชายหนุ่มทำให้จ๋ารู้ใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างประหลาด
หญิงสาวจ้องมองดูใบหน้าของพลอยู่นานจนเขารู้สึกตัวและหันมามอง
"มีอะไรรึเปล่าครับจ๋า" พลเอ่ยถามจ่าด้วยความสงสัยพอดีกับที่สายตาของเค้าประสานกับจ๋า
"
ซื้ดดด...." จ๋าสูดปากเบาๆโดยไม่รู้ตัว
เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งร่างโดยเฉพาะตรงท้องน้อย มันเป็นความรู้สึกเสียวสบายอย่างบอกไม่ถูก
"เออ.... มะ ไม่มีอะไร เราแค่จะขอยืมสมุดจดพลหลังจบคาบหน่ะ พอดีเราจดไม่ทัน พลรีบจดก่อนเถอะเดี๋ยว" จ๋ากล่าวจบเธอก็รีบก้มหน้าทันที
ยิ่งได้มองหน้าพลมากเท่าไหร่ เธอยิ่งใจเต้นแรงและรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น ทำไมชายหนุ่มตรงหน้านี้ช่างหล่อเหล่าขนาดนี้นะ
พลยิ้มบางๆให้จ๋าและรีบหันกลับไปจดต่อ อันที่จริงเขาก็แอบสงสัยอยู่ไม่น้อย
ว่าทำไมเพียงแค่จ๋ามองหน้าของเขาเธอก็เกิดอารมณ์สวาทขึ้นมาได้ และมันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขามองเธออยู่
'หรือว่าแค่มองก็สามารถปลุกอารมณ์คนอื่นได้' นั่นคือสิ่งที่พลคิดสงสัยในใจ
เขาจึงลองไล่มองไปยังผู้หญิงคนอื่นๆที่อยู่ภายในห้องช้าๆทีละคน แต่ก็ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเธอยังคงนั่งนิ่งเฉยโดยไม่มีอาการอะไรแสดงออกมา
"พะ พล... เราจะไปเข้าห้องน้ำ ฝากของด้วยนะ" อยู่ดีๆสาวจ๋าก็ลุกพรวดพราดขึ้น ก่อนที่เธอจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าและรีบเดินออกไปทันที
ต้องย้อนกลับไปหลังจากที่จ๋ามองสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินสวยของพล
ยิ่งเธอมองสบตาเขานานเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกเสียวสบายจนขนลุกชูชันไปทั่วทั้งตัว
อวัยวะเบื้องล่างของเธอร้อนวูบวาบจนต้องรีบหนีบขาทั้งสองข้างและบี้เบียดไปมาเพื่อคลายความรู้สึกนี้
เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองจนเมื่อรับรู้ถึงความเหนอะหนะตรงหว่างขา
"อึ้ยส์... ทำไม่เราฉี่เล็ดได้เนี่ย อู๊ยส์... เปียกไปหมดเลยทำยังไงดี"
จ๋ากระซิบกับตัวเองด้วยความประหลาดใจหลังจากที่ล้วงมือไปสัมผัสกางเกงในและพบว่ามันเปียกชุ่มไปหมด
เธอเริ่มรู้สึกคล้ายกำลังปวดปัสสาวะมากขึ้นเรื่อยๆจนต้องพยายามอั้นเอาไว้ ตอนนี้หญิงสาวกำลังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
จนท้ายที่สุด เธอก็สรุปว่าตัวเองน่าจะเริ่มเป็นไข้และกำลังปวดปัสสาวะอย่างรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุ
หลังจากนั้นเธอก็ตัดสินใจเอ่ยฝากของกับพลและรีบเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที
"อ่าห์... ค่อยสบายตัวหน่อย แล้วจะทำยังไงกับกางเกงในดีเนี่ย เห้อ.... เปียกแบบนี้คงใส่ไม่ได้แล้ว"
จ๋าบ่นอย่างเซ็งๆหลังจากปล่อยของเหลวสีเหลืองใสออกจากร่องสาวจนหมด
เธอรู้สึกโล่งสบายขึ้นมากพลางนึกขำตัวเองที่ปล่อยให้ฉี่เล็ดจนเปียกกางเกงในแบบนี้
"ช่างมัน คงไม่มีใครรู้หรอก เดี๋ยวก็หมดคาบแล้วค่อยไปซื้อมาใส่ใหม่ก็ได้"
จ๋าตัดสินใจถอดกางเกงในที่เปียกโชกออกและม้วนมันใส่ถุงพลาสติกที่พกไว้เสมอก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะ
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเธอก็พยายามที่จะดึงรั้งกระโปรงสั้นทรงเอที่สวมใส่ไว้ให้ต่ำลงมาเยอะที่สุด
แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่สามารถที่จะดึงให้ต่ำลงมามากกว่าหัวเข่าของเธอได้
สุดท้ายจ๋าจึงต้องปล่อยเลยตามเลยและเดินกลับเข้าห้องเรียนไปโดยหวังว่าจะไม่มีใครสังเกตุเห็น
..................................................................
"
เห้ย! ไอ้กร! ทำไมมันเงียบไปเลย ไหนบอกกำลังมาไงวะ กูรอจอควยหดหมดแล้วเนี่ย"
เสียงของไอ้บาสดังขึ้นอย่างอารมณ์เสียหลังจากที่นั่งรอมาเกือบครึ่งชั่วโมงแต่ก็ยังไม่มีใครโผล่มาแม้แต่เงา
"ไม่รู้ว่ะ เห็นบอกว่ากำลังมาๆ อยู่ใกล้แค่นี้เอง กูลองโทรไปแม่งก็ไม่ยอมรับสาย สงสัยอีนี่จะวอนซะแล้ว" ไอ้กรเองก็หัวเสียไม่แพ้กัน
พวกมันทั้งคู่ไม่เคยพบเจอหญิงสาวที่กล้าขัดคำสั่งของพวกมันมาก่อน
ปกติแค่กระดิกนิ้ว หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อของพวกมันก็แทบจะคลานเข้ามาหาแล้ว
"เอาไงดีวะไอ้บาส จัดชุดใหญ่ให้อีนี่เลยดีมั้ยจะได้รู้ว่านรกมีจริง"
"ใจเย็นๆเพื่อน อีนี่พึ่งมาใหม่ อาจจะยังไม่รู้ชื่อเสียงของเรา กูว่าแค่สั่งสอนมันก็พอ"
"สั่งสอน? มึงจะสั่งสอนมันยังไงวะ" ไอ้กรถามด้วยน้ำเสียงสงสัย เพราะไอ้บาสมักจะมีความคิดอะไรดีๆให้มันแปลกใจอยู่เสมอ
และครั้งนี้ก็เช่นกัน ไอ้บาสนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนที่มันจะแสยะยิ้มและเอ่ยสิ่งที่มันคิดให้เพื่อนของมันฟัง
"มึงรู้ที่อยู่มันใช่ไหมหล่ะ ในเมื่อเราเรียกแล้วมันไม่ยอมมา สงสัยคืนนี้เราคงจะต้องแวะไปทักทายน้องหยาถึงที่ห้องกันซะหน่อยแล้วว่ะ ฮ่าๆ"
ไอ้บาสหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจจนเพื่อนชั่วของมันพากันหัวเราะตามไปด้วย
พวกมันทั้งคู่แทบจะอดใจรอให้เวลากลางคืนมาถึงไม่ไหวแล้ว....
..................................................................
ทุกท่านสามารถเข้าไปแนะนำติชมเพิ่มเติม หรืออ่านเรื่องอื่นๆได้ที่นี่My living room [GoderSoul]... (/ />
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
สาวจ๋าคงจะไม่รอดจากคู่หูเอบี คงต้องรอลุ้นว่าพระเอกจะโพล่มายังไง คงจะต้องรอติดตามตอนต่อไป ::Shower::
เยสสส นึกว่าจะเลิกเขียนไปแล้ว ขอรับไปอ่านก่อนนะครับไรท์ เดี๋ยวมาให้feedback ::DookDig::
/ />สมเป็นภาคใหม่ พลหายไปเลยสงสัยฟาร์มเวลอยู่ 5555
ขอบคุณมากครับ ที่กลับมา ถ้าเป็นเรื่องอื่น AB คงได้ สาวไปทะลวง แต่พอเป็นเรื่องนี้ ก็มีลุ้นครับว่า ใครจะเป็นเหยื่อใคร รอชมฉบับเต็มนะครับ ขอบคุณมากครับ
น่าสนนะครับว่าเอบีจะเจอดีหรือเปล่า เรื่องแนวนี้เด่น แต่ชอบครับ ลึกลับดี ขอบคุณครับ
Hhmmm ... this is getting interesting ... ::GiveMe::
Since the title is "eye of lust"
I would think... those 2 will become her victims by "lust" will be poetic justice... 555 ::HoHo::
Will hold my review until full EP ... ::Doubt::
ชอบมากครับเนื้อหามีการพัฒนาไปบ้างตามเนื้อเรื่องอีกอย่างผมชอบบทของพลมากๆลเยครับ
รอติดตามอยู่ตลอดนะครับ ถึงไม่ซ่อนก็จะเม้นละ ... 555 .... แต่งได้สนุกทุกตอนเลย
สัญลักษณ์แห่งบาป 7 ประการ ปรากฎแล้ว 3 บาป มี Sloth หรือ ความเกียจคร้าน, Lust หรือ ราคะ, และ wrath หรือ โทสะ (ดูจากชื่อตอน) ตามโครงเรื่องที่คุณ GoDersoUL วางไว้ จะมีครบทั้ง 7บาปเลย หรือเปล่าครับ
*************
แน่นอนครับผม ครบแน่ๆ แต่ตอนไหนไม่รู้นะครับ แหะๆ
GoDersoUL 11/08/60
ชอบซีรี่เรื่องนี้มากครับ ติดตามตั้งแต่ก่อน rewrite กลับมาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เปิดเรื่องได้น่าติดตามมากครับ
เป็นกำลังใจให้ กลับมาเขียนให้อ่านกันยาวๆ ชอบพล็อคเรื่องนี้เป็นพิเศษเลยครับ
ดีใจที่ได้อ่านอีก หายไปนานจนแทบจะต่อไม่ติดเลย ดีที่มีลิงค์ให้ ขอบคุณครับ
อ่านต่อ 100%แล้ว ดีใจกับน้องจ๋า แต่ก็เสียดาย ไม่มีบทอย่างว่า แต่เนื้อเรื่องดีมากนะครับ จะมีทรีซัมในลิฟท์มั้ยนะ และยังมีปริศนาว่าทำไมมีผลต่อหยามากกว่าจ๋า ความเห็นส่วนตัวผมชอบแบบหยามากกว่านะครับ ขอบคุณครับ
แล้วจะไปช่วยหย๋าด้วยเปล่า แต่จ๋าเนี่ยคงไม่น่ารอดแล้วล่ะ ใกล้ชิดเมื่อไหร่ไฟติดปุ๊บเลย
อ่านตัวเต็มแล้ว ยังต้องเมนท์ให้อีกรอบ เพราะอยากติดตามตอนต่อไปแล้วครับเนี่ย ... สนุกมากๆครับ
ไรท์นี่ยังใจร้ายเสมอเลยนะครับ เปิดมาให้อยาก แล้วก็ปล่อยให้รออีก แต่ยังไงก็ดีใจมากครับที่กลับมา
::Glad:: จะลงใหม่กี่รอบก็ยังติดตามครับ ห่างหายไปนานเลย ขอรื้อฟื้นหน่อยละกันครับ
ขอบคุณครับ ผลงานน่าชื่นชมเช่นเดิม จะรอลุ้นนะครับว่าพลจะช่วยหย๋าจากเอบีด้วยหรือป่าว
น้องหย๋า ท่าจะไม่รอด จะพ้นลิฟท์มั้ยเนี่ย (ถ้าไม่พ้นแสดงว่าพ่วงน้องจ๋าด้วยเลย 555)
ขอบคุณครับ เรื่องนี้กลับมาทีไร... ทุกทีสิน่า
อ่าว แป๊บเดียว มาตอน 6 แล้วนี่หว่า เครื่องทรมาน เริ่มทำงานแล้วอ่ะ ::Crying:: ::Crying::
ง่อววว เรื่องน่าติดตามครับ แต่กำลังสงสัยว่า สบตาแล้วอารมณ์มันขึ้นหรือยังไง. ฮาๆ
เป็นซี่รี่ส์ชุดที่ติดตามมานานพอควร จนมาเรียบเรียงใหม่ ครั้งหน้าขอตอนใหม่ๆเลยนะครับ สนใจตอนต่อไปแล้ว
ชอบมากคับเรื่องนี้. ขอบคุณจริงๆที่เอามาลงให้อ่านนะคับ.
สาวหย๋า จะโดนก่อน แล้วต่อด้วยสาวจ๋า รึป่าวนะ สะสมแต้มได้แล้ว
รอนานมาก สัหรับตัวแทนบาปคนนี้ แต่ส่วนใหญ่ผมจะรอเรื่องของตัวแทนบาปที่เป็นอดีตนายตำรวจ
**************************
Wrath 90% แล้วครับ เหลือแก้อะไรนิดหน่อย
GoDesoUL 16/08/60
ยังดีที่พลมาช่วยจ๋าได้ทัน แต่ต่อไปจะเอาตัวรอดคู่หูนรกก็ยังต้องลุ้นกันต่อไป ขอบคุณมากครับ
พึ่งได้มาตามอ่าน 7 sin ตอนแรกนึกว่ามีครบทุกบาปแล้ว แต่จะคอยติดตามในอนาคตอีกนะครับ
ถ้ามีครอสเรื่องกันได้จะเยี่ยยมมากเลยครับ
ภาค lust เป็นอีกหนึ่งภาคที่อ่านแล้วสนุก ลุ้นไปกับทุกตัวละคร เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ออกผลงานดีๆ อีกครับ
ขอบคุณครับ มีบาปร้อนๆ มาเสริฟ รออะไรอ่านสิครับ พลฟิตเต็มที่แล้ว ลองของหน่อยครับเพื่อเหมย เอาคืนคนที่ทำกับเหมยให้ได้
สนุกแตกต่างกันคนละstyleในแต่ละบาปที่แตกต่างกัน อยากมีโอกาสอ่านให้ได้ครบ ทั้ง 7 บาป จริงๆ ครับ