🧡 XONLY 🧡

อ้างจาก: twintower เมื่อ มกราคม 18, 2024, 03:46:19 หลังเที่ยง"เอ้าเร็วไหนใครก็ได้บอกมาว่าไปทำงานแล้วมันจะหนักกว่านี้ มันหนักยังไง เอาคำพูดจากคนที่เคยทำงานจริงนะ ไม่ใช่รับจ้างบิดามารดามาเรียนแล้วจำขี้ปากจากคนอื่นมาพูดอีกที"

ผมพูดพร้อมยกแขนข้างซ้ายขึ้นมาดูนาฬิกาที่ข้อมือ เหมือนจะจับเวลา รุ่นพี่3-4คนที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นเงียบสนิทโดยเฉพาะไอ้กัปตันที่ยืนนิ่งหน้าซีดกำหมัดแน่น ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้บอกกับพวกมันไปว่า

""พี่รู้ได้ยังไงว่าเรื่องแบบนี้มันเล็กน้อย จบไปทำงานต้องเจอหนักกว่านี้เคยทำไงหรือไง ถามผมนี่ ผมทำงานมาตั้งนานแล้วรู้แล้วว่าการทำงานนะมันหนักขนาดไหน ไม่เคยทำอย่ามาพูดแล้วเอามาอ้างเพื่อความสะใจในการได้แกล้งพวกรุ่นน้อง"

ผมปล่อยให้เวลาผ่านไปเกือบนาทีถึงลดแขนลงพร้อมส่ายหน้า

"ไม่มีไอ้หน้าไหนตอบได้เลยว่าทำงานแล้วมันหนักยังไง ถามผมนี่มันหนักยังไง เคยไหมนั่งกระบะหลังรถตากแดดตากลมไปเป็นชั่วโมง พอฝนตกต้องยอมให้ตัวเปียกแต่เครื่องดนตรีเปียกไม่ได้ มีใครเคยบ้างยืนตากแดดรอซ่อมรถเป็นชั่วโมงไม่มีที่ร่มให้หลบเพราะรถเสียระหว่างแถมโดนลูกค้าด่าเพราะไปไม่ทันงาน มีไอ้หน้าไหนเคยถูกคนที่จ้างด่ากราดเพราะไม่ถูกใจ มีใครเคยไหมไปทำงานให้แล้วถูกโกงเงินบ้าง เวลาโดนลูกค้าด่าเพราะรูปที่ได้ไม่ถูกใจ อยากรู้ว่ามีใครจะตอบได้ว่าต้องแก้ปัญหายังไง"

ผมเว้นระยะห่างไว้พอเห็นยังเงียบกันอยู่จึงพูดต่อพร้อมผายมือขึ้นมาทั้งสองข้าง

"เหลว ไม่มีใครตอบได้ ถ้าไม่เคยทำงานมาก่อนอย่ามาพูดครับ อย่ามาแสดงเพาเวอร์แบบโง่ๆ เพราะจะหาข้ออ้างเรื่องคำว่ากิจกรรมรับน้องเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ความสามัคคีของรุ่นพี่กับน้องใหม่มาแกล้งคน  ผมไม่สนใจเรื่องไร้สาระแบบนี้ และจะไม่เข้ามายุ่งตลอดไป"

ผมพูดจบไอ้กัปตันนั้นพูดต่อด้วยเสียงอันดังแสดงถึงความโกรธที่คำพูดของผมนั้นรู้ทันถึงความคิดของพวกมัน

"ปากดีนักมะมึง"

"กูนะไม่ปากดีอย่างเดียวถ้ามึงอยากลองมึงเข้ามา จะได้รู้ว่ากูมีดีกว่าปาก"

ผมพูดพร้อมยกมือทั้งสองขึ้นมากำหมัดและขยับตัวตั้งรับ  ไอ้กัปตันหน้าแดงกล่ำทำท่าจะพุ่งเข้ามา แต่เพื่อนผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นรีบห้ามตามด้วยเพื่อนที่มาด้วยเข้ามาดึงตัวมันไว้ พร้อมกับเพื่อนผมอีกหลายที่ยืนดูอยู่ไม่ห่างเข้ามากั้นผมกับมันไว้

"นักเลงนี่หว่าทำแบบนี้"

เพื่อนผู้หญิงของไอ้กัปตันหันมาพูดกับผม

"ใครกันแน่นักเลง มันเริ่มก่อน ผมมีสิทธิป้องกันตัว"

มีคนเข้ามาห้ามหลายคน รวมถึงรุ่นพี่ปี 4 แต่ไอ้กัปตันนั้นปากยังดีอยู่

"ฝากไว่ก่อนเถอะมึง"

"ไม่ต้องฝาก มาเลยดีกว่าจะได้รู้ว่ามึงนะดีแต่ปากใช้อำนาจข่มรุ่นน้อง ถุย!!! ไม่แน่จริงหรอกมึงแค่คำถามจากกูพวกมึงยังไม่ปัญญาตอบเลย เข้ามาสิ"

ผมตะคอกกลับเพราะอารมณ์ขึ้นแล้วและกำลังจะสลัดตัวให้หลุดจากวงแขนของเพื่อน

"รุตพอได้แล้ว พวกพี่ขอร้อง"

รุ่นพี่ผู้หญิงที่เรียนปี 4 ได้เดินเข้ามาพร้อมยกมือไหว้ผม เพราะดูแล้วมันจะบานปลาย ก่อนที่จะพาไอ้กัปตันเดินไปอีกทาง สายตาหลายคู่มองมาที่ผม แต่ไม่กล้าพูดอะไรหลายๆคนคงสะใจกับสิ่งที่ผมทำในเรื่องปฏิเสธกิจกรรมรับน้อง  หลังจากวันนั้นดูจะเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โตในมหาวิทยาลัยพอสมควร จนอาจารย์ที่ปรึกษาต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยแต่ไม่สำเร็จถึงเราจะรับปากว่าจะไม่ก่อเรื่อง แต่จากเรื่องในวันนั้นที่มันกับพวกมาบังคับให้ผมไปเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องให้ทำให้ผมกับไอ้กัปตันนั้นเป็นปฏิปักษ์กัน หลังจากนั้นมันไปขู่กับบรรดาพวกที่เข้ามาเรียนพร้อมกับผมว่าห้ามมายุ่งกับผมที่ทำตัวต่อต้านรุ่นพี่ หลายคนทำตามเพราะกลัวพวกมัน แต่ผมไม่สนใจว่าใครจะมาคุยหรือไม่คุยกับผม ต่างคนต่างอยู่ ผมทำตัวตามปกติทั้งเรื่องเรียนทั้งไปช่วยงานแตรวงของอาและเป็นผู้ช่วยช่างภาพ รวมถึงไปเรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่ม จนผ่านไป 1 เทอมผลการเรียนของผมนั้นออกมาในเกณฑ์ดี ทำให้เพื่อนหลายๆคนมาคุยด้วยโดยไม่สนใจคำสั่งห้ามของไอ้กัปตัน รวมไปถึงเรื่องที่ถูกชวนเข้าไปในชมรมดนตรีของมหาวิทยาลัย

จนช่วงที่ผมเรียนปี 3 ในวันหนึ่งช่วงบ่ายๆ ขณะที่ผมเลิกเรียนและกำลังจะกลับที่พักพร้อมกับเพื่อนอีก2-3คน ตรงหน้าประตูมหาวิทยาลัยผมได้ไปเจอนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 2 คน  เดินถือแผนที่และพยายามถามทางกับคนที่ผ่านไปมาแต่ไม่ใครสื่อสารได้ นักท่องเที่ยวทั้งสองได้เดินตรงมาที่พวกผมพร้อมกางแผนที่มาด้วย เพื่อนเดินมามาด้วยกันนั้นทำท่าเลิ่กลั่ก แต่ผมตอนนั้นนอกจากภาษาอังกฤษแล้วผมเริ่มจะพูดและฟังภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง จึงคุยกับทั้งคู่ผสมกับภาษาอังกฤษซึ่งทั้งคู่นั้นสามารถสื่อสารอังกฤษได้เล็กน้อยเท่านั้น นักเที่ยวทั้งสองนั้นถามทางที่จะไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไม่ห่างออกไปนัก หลังจากที่ผมได้อธิบายบอกเส้นทางกับทั้งคู่ ซึ่งทั้งคู่นั้นอยากนั่งรถสามล้อเครื่องไป ผมจึงจัดการเรียกให้พร้อมต่อรองราคาให้เสร็จสรรพและไม่ลืมบอกนักเที่ยวทั้งคู่ว่าต้องจ่ายเงินด้วยแบงค์อะไร นักท่องเที่ยวทั้งสองนั้นขอบคุณผมอย่างมากโค้งแล้วโค้งอีกก่อนจะขึ้นรถสามล้อเครื่องไป

"รุต มึงพูดญี่ปุ่นโคตรคล่องเลยวะ ไม่เสียแรงที่มึงไปเรียนมา"

เพื่อนผมพูดขึ้น ผมได้แต่ยิ้มๆ แต่สายตาเหลือบไปเห็น"ไหม" ที่ยืนมองอยู่ไม่ห่างออกไปมากนักสายตาของเธอนั้นแสดงความแปลกใจอย่างมาก แต่ผมไม่ใส่ใจสายตาที่มองแล้วเดินไปที่ป้ายรถเมล์กับเพื่อน ไหมคือรุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนของไอ้กัปตันที่ตะโกนใส่ผมว่าเป็นนักเลง ตั้งแต่วันนั้นผมไม่เคยไปสุงสิงกับคนกลุ่มนั้นอีกเลยจนถึงวันที่ผมได้คุยกับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น  และตอนนี้เธอได้มายืนอยู่ตรงหน้าผมเรามาเจอกันที่สนามบินหลังจากที่ลงจากเครื่องบิน ไหมหรือด็อกเตอร์ไหมที่ตอนนี้เป็นถึงผู้ช่วยศาสตราจารย์และเป็นอาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดและสอนวิชาการตลาดของมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดอีกทั้งเป็นที่ปรึกษาของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัท แถมเป็นที่ปรึกษาของรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจด้วย

"ไม่เจอกันนานมาก สบายดีนะรุตและกิจการคงก้าวหน้าอย่างมาก ไหมเห็นงานหลายชิ้นของรุตแล้วทั้งงานโฆษณาทั้งงานถ่ายภาพยอมรับว่าฝีมือดีจริงๆ  แต่ไหมก็แปลกใจเหมือนกันนะว่า เราทำงานเกี่ยวกับการตลาดเหมือนๆกันแต่เราไม่เคยเจอกัน แม้กระทั่งในงานสัมมนาเกี่ยวกับการตลาด"

"คงเป็นเพราะเวลานะครับคุณไหม"

ผมตอบเธอสั้นๆเราคุยกันอีก2-3คำก่อนจะแยกย้ายกันซึ่งเธอได้บอกพร้อมกับขอเบอร์โทรศัพท์ผม

"งั้นไว้ไหมจะติดต่อไปเผื่อถ้ารุตมีเวลาจะได้เชิญไปบรรยายพิเศษให้นักศึกษาฟัง"
 
ผมยื่นนามบัตรให้เธอเช่นเดียวกับเธอที่ยื่นนามบัตรให้ หลังจากที่แยกจากกัน ผมหันไปมองดูรูปร่างของเธอแล้วอดเสียดายไม่ได้ จากรูปร่างที่สะโอดสะองหุ่นดีแต่ตอนนี้กลับดูอวบหนาขึ้นแถมเรียวขาที่เคยสวยงามก็ใหญ่ขึ้นตามตัว รวมไปถึงใบหน้าที่ดูว่าน่ารักกลับเปลี่ยนไปด้วยเครื่องสำอางที่เธอแต่งจนเข้มส่วนตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่เธอได้นั้นนับว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับวัยของเธอที่ยังถือว่าสาวอยู่ เรามาเจอกันโดยบังเอิญผมนั้นกลับจากกระบี่ส่วนเธอนั้นมาประชุมกับรองนายกที่กรุงเทพ  หลังจากออกจากสนามบินผมขับรถไปที่คอนโดแห่งหนึ่ง พอขึ้นไปห้องที่ผมจะมาหลังจากที่เคาะประตูไม่นานนัก ประตูห้องได้เปิดขึ้นสาวเจ้าของห้องนั้นอยู่ในชุดเสื้อคลุมเธอยิ้มให้ผม

"รถติดไหมคะพี่รุต"

เจ้าของห้องถามหลังจากที่ผมเข้ามาในห้องและปิดประตูห้องเรียบร้อย

"ไม่ติดเลย จากสนามบินมาถึงที่คอนโดนี่ไม่ถึงครึ่งโมง"

ผมตอบแล้วหันตัวไปทางเจ้าของห้องที่เดินมาชิดตัวผมพร้อมเอามือทั้งสองมาโอบรอบคอผม

"พี่รุตหิวไหม ถ้าหิวลูกแก้วจะได้สั่งอาหารมาทานก่อน"

"พี่หิวนมมากกว่า"

ผมตอบขณะที่เอามือทั้งสองยกขึ้นมาจับสะโพกขนาดใหญ่ของเธอพร้อมขยำไปแรงๆแล้วก้มหน้าลงไปหา  ปากของเราทาบกันสนิท ลูกแก้วตอบรับการจูบของผมอย่างดูดดื่ม จนจมูกผมเริ่มซุกไซร้ไปตามแก้มและซอกคอ เธอได้ดันตัวผมออก

"ไปอาบน้ำก่อนเถอะพี่รุต จะได้สบายๆตัว เวลาเรามีทั้งคืน"

"แต่พี่บอกแล้วพี่หิวนม"

ผมพูดพร้อมจัดการถอดเสื้อคลุมที่เธอสวมอยู่ โดยที่เจ้าตัวไม่ขัดขืนผมโยนเสื้อคลุมไปอีกทาง ลูกแก้วนั้นสวมแต่เพียงกางเกงในตัวเดียวเท่านั้น สายตาผมมองไปที่นมขนาดใหญ่ที่เป็นของแท้ หัวนมสีทับทิมนั้นดูท้าทายสายตาผมอย่างมาก มือทั้งสองผมโอบไปที่เอวของเธอพร้อมก้มหน้าลงไปเต้านมที่ผมเองก็เคยดูดดื่มมาหลายครั้งเหมือนกับเพื่อนแอร์โฮสเตสของเธออีก 2 คน ลูกแก้วปล่อยให้ผมดูดดื่มเต้านมของเธอทั้งสองเต้าสลับไปมาจนหัวนมที่บานขยายออกนั้นชุ่มไปด้วยน้ำลาย ผมเอามืออีกข้างล้วงไปในกางเกงในนิ้วผมไล่ผ่านขนหมอยที่ดก จนไปถึงร่องหีที่แฉะ ผมเอานิ้วกรีดไปที่ร่องหีทำเอาลูกแก้วครางออกไม่และกดไหล่ผมลงไปด้านล่าง ผมมไล่จูบไปตามหน้าท้องที่แบนราบจนลงไปนั่ง หน้าผมตรงกับเป้ากางเกงในเธอพอดี พอดึงมือออกมาและเอาหน้าไปซุกไซร้ตรงเป้าที่ชื้นแฉะ ก่อนจะจัดการถอดกางเกงในเธอออก ซึ่งเธอนั้นยกขาให้ผมรูดกางเกงในเธอให้พ้นตัว

หน้าผมอยู่ตรงกับโคกหีที่ใหญ่และหมอยที่ดกดำปกคลุม ลูกแก้วจับหัวผมกดไปที่แนบกับโคกหีเธอทันที แถมเจ้าตัวแอ่นกายรองรับ ผมเอาหน้าเกือกไปมาที่โคกหีของเธอก่อนจูบไปแรงๆก่อนจะใช้ปากเม้มไปตามขนหมอยที่ชุ่มชื้นของเธอพร้อมยกมือไปโอบรอบสะโพกของเธอ

"เลียเลยคะ"

เสียงครางอันกระเส่าของเธอบอกกับผม ผมใช้ลิ้นเลียไปในรูหีทันที ลูกแก้วครางออกมาสุดเสียงพร้อมส่ายก้นไปมามือทั้งสองเลื่อนไปที่จับที่บ่าผม

"อู้ววว พี่รุต เสียวอูยยยย ซี๊ดดดดดด"

เธอครางไม่หยุดยิ่งผมเอาลิ้นไปแตะที่เม็ดแตด เธอทั้งส่ายตัวรับทั้งครางมือทั้งสองเลื่อนมาบนบ่าผม และปล่อยให้ผมใช้ชิวหากับเธออย่างต่อเนื่องจนพาเธอไปถึงจุดหมาย ผมเอาหน้าซบไปที่โคกหีของเธอที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำเงี่ยนจากเจ้าของ เธอปล่อยให้ผมซบอยู่ครู่หนึ่งแล้วดึงหน้าผมขึ้นมา

"ไปที่เตียงดีกว่าคะ"

เธอบอกกับผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ผมเดินโอบเอวร่างที่เปลือยเปล่าไปที่เตียงนอนลูกแก้วลงไปนอนหงายบนเตียงพร้อมส่งสายตาเชิญชวนขณะที่ผมจัดการถอดเสื้อผ้าออกให้พ้นตัว สายตาของเธอมองมายังควยที่แข็งตัวเต็มที่ ผมก้มลงไปนอนทาบบนตัวเธอเอาหน้าซุกไปที่เต้านมอันอวบใหญ่ แล้วดูดสลับไปมาทั้งสองตัวพร้อมเอานิ้วล้วงไปรูหีที่ฉ่ำไปด้วยน้ำเงี่ยนของเธอ ลูกแก้วแอ่นตัวรองรับการฟอนเฟ้นจากผม จนผมเลื่อนหน้าลงไปยังโคกหีเธออีกครั้ง คราวนี้ผมใช้ทั้งลิ้นกับนิ้วบรรเลงสวาทไปที่โคกหีจนลูกแก้วครางออกมาไม่หยุดพร้อมร้องมา

"ทนไม่ไหวแล้วพี่ขาเอาเถอะ"

เธอพยามยามดันหน้าของผมให้ละจากโคกหี ผมเงยหน้าขึ้นมามอง ตาของแอร์โฮสเตสสาวนั้นฉ่ำไปทั้งสองข้าง ผมจึงเลื่อนหน้าขึ้นไป ไล่จูบไปตามหน้าท้องจนถึงเต้านมขนาดใหญ่ ผมดูดสลับไปมาก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นไปอีกจนไปถึงใบหน้าของเธอ สายตาของเธอนั้นดูเว้าวอนควยผมมาก ผมขยับเอานิ้วไปกรีดตรงร่องหีที่แฉะอีกครั้ง ลูกแก้วครางออกมาเบาๆ พร้อมกับขาที่กางออก

"ทำเถอะคะพี่รุต แก้วทรมาน"

มือของเธอมาจับที่ควยแล้วรูดไปมาพร้อมขยับให้ตรงกับรูหี ผมดันควยเข้าไปทันทีจนสุดทำเอาร้องออกมาอย่างสุดสมพอผมเริ่มกระเด้า ลูกแก้วเด้งรับอย่างชำนาญ บทบาทรักของผมเข้ากับแอร์โฮสเตสสาวคนนี้ได้อย่างดีเหมือนกับเพื่อนๆของเธออีก 2คน ที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน จนผมปล่อยน้ำรักเข้ารูหีของเธอ ลูกแก้วนั้นผวากอดรัดผมแน่นพร้อมกับเสียงครางที่ดังออกมาสุดเสียง ผมซบหน้าลงไปแนบกับหน้าเธออยู่ชั่วครู่ถึงพลิกตัวลงมานอนข้างๆ

"เป็นไงละ"

ผมถามเธอขณะที่เธอขยับตัวเอาหัวมาหนุนไหล่ผม

"แซ่บเหมือนถึงทุกครั้ง แต่ดูท่าพี่รุตจะอดมาหลายวัน"

"ก็เราแต่งตัวยั่วทำไมละ"

"พี่รุตบอกลูกแก้วเองนะว่าให้แต่งแบบนี้ก่อนที่พี่จะขึ้นเครื่อง"

เธอตอบผมแล้วเอามือไปจับควยผมที่อ่อนตัวแล้วรูดไปมาก่อนที่เธอจะชวนผมไปล้างคราบน้ำรักในห้องน้ำ พอออกมาจากที่ช่วยกันปลุกอารมณ์ในห้องทำให้อารมณ์สวาทของแอร์โอสเตสสาวลุกขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งๆที่ผมพาเธอไปถึงจุดหมาย 2 ครั้งติดๆกัน ลูกแก้วเป็นฝ่ายใช้ปากปลุกอารมณ์ผมให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง ผมนอนหงายปล่อยให้แอร์โฮสเตสสาวใช้ปากกับควยผมจนแข็งตัวขึ้นมา และเธอเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมก่อนจะจบลงด้วยท่าด็อกกี้ ดูเธอจะสุขสมอย่างมากแต่เป็นฝ่ายของพักก่อน ก่อนที่เธอจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ที่จริงเธอพึ่งกลับจากญี่ปุ่นมาถึงประเทศเธอเมื่อเช้าวันนี้ แต่เธอนั้นเป็นฝ่ายนัดให้ผมมาหาหลังจากที่เราไม่ได้เอากันร่วม 2 เดือน ผมนั้นพอจะเดาออกว่าลูกแก้วเองก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของผมกับเพื่อนเธออีก 2คน คือแวนด้ากับฟ้า แต่เธอไม่เซ้าซี้กับผม ความจริงผมเองก็ชอบมาเอากับเธอเพราะเธอนั้นยังไม่มีแฟนเหมือนเพื่อนของเธอทั้ง 2 คน ไม่ต้องคอยหลบแฟนมาเย็ดกับผม แถมหุ่นของเธอถ้าพูดกันตรงๆ ลูกแก้วน่าฟัดมากเต็มไม้เต็มมือและเป็นของแท้ ยิ่งการแต่งตัวของเธอนั้นถ้าไม่ใช่ชุดฟอร์ม เธอนั้นแต่งชุดเน้นโชว์เรือนร่างโดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่สะดุดตา จริงไม่พลาดที่เธอจะขอให้ผมถ่ายรูปเปลือยให้ แต่เป็นแนวศิลปะ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพขาวดำ ผมถ่ายให้เธอตอนไประเริงสวาทกันที่กระบี่ ทำให้เธอมีภาพลับๆที่นำออกมาโพสต์โชว์ไม่ได้อยู่หลายร้อยรูป

ทำให้ผมอดที่จะนำไปเปรียบเทียบกับเพื่อนของเธออีก 2คน ไม่ได้ซึ่งแต่ละคนนั้นร้อนแรงไม่แพ้กัน ฟ้าที่หุ่นนางแบบถึงข้างบนจะแบนแต่ข้างล่างนั้นเร้าใจอย่างมากแถมโดนผมเย็ดทั้งหีทั้งตูดรวมไปถึงภาพลับและคลิปลับๆที่ผมถ่ายไว้  แวนด้าที่ร้อนแรงไม่แพ้กันเพราะจุดติดง่ายแต่ไม่ได้มีภาพลับหรือคลิปลับดูแล้วเธอคงไม่ยอมให้ถ่าย ถือเป็นบุญของผมอีกครั้งที่ได้ทำโฆษณาให้สายการบินแถมได้แอร์โฮสเตสมาระเริงสวาทถึง 3คน

แต่ผมอดนึกถึงไหมไม่ได้ ในช่วงที่เรียนหลังจากวันที่เธอเห็นผมคุยกับนักท่องเที่ยวดูเธอจะมองมาที่ผมมากขึ้น แต่ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักจนวันหนึ่งไหมเห็นผมนั่งอ่านการ์ตูนที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ผมอ่านไปพร้อมกับเขียนแปลเป็นภาษาไทยลงบนสมุดโน๊ตไปด้วย

"สนใจภาษาญี่ปุ่นมานานแล้วหรือไง วันก่อนก็เห็นคุยกับคนญี่ปุ่นได้คล่องเหมือนกันนี่"

"ตั้งแต่เรียน ม. 6 นะ"

ผมตอบไปสั้นๆแล้วก้มหน้าลงไปจดในสมุดโน้ตต่อ มันเป็นประโยคแรกที่ผมได้คุยกับไหมหลังจากที่มีเรื่องกัน แต่หลังจากนั้นดูเธอจะหาเรื่องคุยกับผมมากขึ้น ผมเองก็ตอบไปเท่าที่ตอบได้ผมพยายามรักษาระยะห่างเพราะผมไม่เคยลืมเรื่องในวันนั้น ผมไม่เคยเรียกเธอว่า"พี่"ผมเรียกเธอว่า"คุณ"ตลอดเพื่อให้เห็นถึงระยะห่างของผมกับกลุ่มไอ้กัปตัน  แต่หลังจากนั้น 2อาทิตย์ ในช่วงเช้าที่ห้องในอพาร์ทเม้นท์ที่ไหมพักอยู่ ตัวของเธอที่อยู่ในชุดนักศึกษานั้นยืนอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มือทั้งสองยันไปที่โต๊ะ กระโปรงสั้นถูกผมตลบชายกระโปรงขึ้นไปด้านบน เธอกางขาออกไปอีกหลังจากที่กางเกงในตัวจิ๋วถูกผมถอดออกให้พ้นตัว

"รุตเบาๆหน่อยของรุตมันใหญ่มาก"

เสียงอันกระเส่าของเธอบอกผมเพราะเธอเองเป็นคนใช้ปากปลุกควยผมให้แข็งตัวขึ้น จนเธอเผลอตัวพูดออกมาไม่เคยเจอใหญ่ขนาดนี้มาก่อน  ผมดันควยเข้าไปในรูหีทันที รูหีของไหมนั้นไม่ฟิตซึ่งผมพอจะเดาออกว่าเธอคงผ่านมาเยอะจากลีลาที่ใช้ปากให้ผม ผมกระเด้าอย่างไม่ยั้งเพราะตอนนั้นผมยังไม่ชำนาญในเกมกามเหมือนทุกวันนี้ ส่วนเธอเด้งรับไม่หยุด จนผมพาเธอไปถึงจุดหมาย เอาเอาหน้าซุกไปที่ซอกคอเธอพร้อมเอามือเลื่อนขึ้นจากตรงเอวขึ้นมากุมตรงหน้าอกแล้วขยำไปเบาๆ

"พอก่อนเถอะรุต เดี๋ยวไปเรียนสาย"

เธอบอกผมด้วยน้ำเสียงหอบๆขณะที่มือผมทำท่าจะล้วงผ่านสาบเสื้อเข้าไปด้านใน ผมเลยขยำนมเธอไปแรงๆก่อนจะถอยออกมา ไหมหันหน้ามาหาผมพร้อมเอามือคล้องคอโน้มคอผมลงมาจูบ

"ถึงอกถึงใจเหมือนกันนี่เล่นเอาไหมแสบไปหมดเลย"

เธอพูดก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำโดยไม่สนใจปล่อยให้น้ำกามของผมที่หลั่งในรูหีไหลลงมาตามขา หลังจากวันนั้นผมเป็นขาประจำที่ห้องของเธอจนแทบจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน ทำให้ผมได้รับประสบกามจากเธอมาพอสมควร จนเธอเรียนจบเราได้แยกย้ายและไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย มันเริ่มมาจากที่เธอเริ่มสนใจในตัวผมเพราะรู้ว่าผลการเรียนของผมนั้นอยู่ในเกณฑ์ดีแถมเล่นดนตรีพวกเครื่องเป่าเก่ง ไม่รวมเรื่องของการทำงานที่ผมรับงานทั้งแตรวงกับงานผู้ช่วยช่างภาพ แถมผมใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อีก ทำให้ไปสะดุดความสนใจของเธอ ไหมนั้นเป็นคนที่เรียนเก่งคนหนึ่ง รวมไปถึงเรื่องเซ็กส์ ดูเธอน่าจะมีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมเหมือนกับผม แถมเราคุยกันเรื่องวิชาการตลาดอย่างถูกคอ จนเธอเริ่มทอดสะพานให้ผม แต่ตอนนั้นผมเองยังอ่อนหัดอยู่เลยไม่รู้ แต่มาเดาออกเพราะเย็นวันหนึ่งเธอขอให้ผมช่วยขนหนังสือไปที่อพาร์ทเม้นท์ที่เธอพักเพื่อที่จะเอาไปทำรายงานและอีก 2 วันต่อมาเธอขอให้ผมมาช่วยขนหนังสือไปที่มหาวิทยาลัยในตอนเช้า แต่ผมเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้กับนางแบบคนหนึ่งพอผมเข้าไปในห้อง ไหมนั้นเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเธอดึงผมเข้ามาจูบ ก่อนจะใช้ปากปลุกควยผมให้ตื่น

หลังจากวันนั้นผมกับไหมเอากันตลอด จนผมรู้ว่าเธอนั้นเลิกกับแฟนที่อยู่กันคนละมหาวิทยาลัยไปได้2-3เดือนแล้ว ยิ่งผมไปกระตุ้นให้เธอสนใจในตัวผมทำให้อยากได้ผมมาเป็นแต้มสะสมเพราะตัวเธอเองนั้นก็เป็นสาวล่าแต้มตามผับมาตั้งแต่อยู่ปี 1 พื้นเพเธอนั้นเป็นสาวเหนือและมาเรียนในกรุงเทพตั้งแต่ ม.4 ซึ่งตอนแรกเธออยู่กับญาติแล้วไม่สะดวกจึงย้ายออกมาอยู่คนเดียว ตามประสาบ้านคนมีเงินทำให้เธอใจแตกหลงแสงสีอย่างง่ายดายแต่เธอมีวินัยไม่ทิ้งเรื่องการเรียน จนถึงทุกวันนี้ เธอแบ่งเวลาได้ตามแบบอย่างของคนมีวินัย ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับเธอไหมจะชวนผมติวหนังสือทุกครั้งก่อนจะเริงรักกัน ตอนนั้นเราเอากันตลอดถึงจะมีบางครั้งที่เธอไปล่าแต้มผู้ชายตามผับบ้างซึ่งไม่ต่างกับผมที่มีนางแบบสาววัยรุ่นรักสนุกมาให้เย็ดซึ่งเราทั้งคู่นั้นต่างก็รู้กันดีแต่ไม่พูดอะไรเพราะผมกับเธอไม่ได้เป็นแฟนเราเป็นแค่คู่ขาสนองความใคร่เท่านั้น หุ่นของไหมในตอนนนั้นดีจัดว่าเป็นนางแบบได้สบายๆผิวขาวเนียน นมขนาดพอดีตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ตูดใหญ่หีใหญ่แถมหมอยนั้นดกด้วย ทำให้ผมเรียกเธอว่า"ไหมหมอยดก"

เธอนั้นเป็นนางแบบเปลือยคนแรกที่ผมได้ถ่ายรูปให้ ซึ่งเธอเป็นคนเสนอเองเพราเห็นผมถ่ายรูปได้สวยและด้วยความคิดที่แผลงที่เธออยากเป็นนางแบบเปลือยและมีภาพเปลือยของตัวเองเก็บไว้ดู ทำให้ผมฝึกฝีมือการฝ่ายภาพที่มีเธอเป็นแบบให้ ตามด้วยการถ่ายคลิปลับที่เราเย็ดกันจากที่ผมไม่เคยถ่ายกับสาวคนอื่นๆ ทำให้ผมติดนิสัยมาจนถึงทุกวันนี้ แต่น่าแปลกใจอยู่อย่างช่วงที่ผมมาอยู่กับเธอเราไม่เคยพุดถึงเรื่องในอดีตที่เคยทะเลาะกันเลย  จนเธอเรียนจบผมกับเธอไม่ได้เจอกันอีกเลยจนกระทั่งวันนี้  ตัวเธอนั้นหลังจากเรียนจบปริญญาตรีที่ไทย ไหมไปเรียนต่อที่เมืองนอกทันที เธอนั้นเลือกค่อนข้างจะแปลกกว่าคนอื่น เธอเลือกไปเรียนปริญญาโทที่อินเดียและไปต่อปริญญาเอกที่สหรัฐก่อนจะกลับเมืองไทยมาสอบบรรจุเป็นอาจารย์มหาวิทยาที่จังหวัดใกล้บ้านเกิดของเธอ ด้วยความเก่งและความฉลาดทำให้เธอก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและเท่าที่รู้เธอยังไม่ได้แต่งงาน แต่มีใครที่คบหากันอยู่หรือเปล่านั้นผมไม่รู้ จนเรามาเจอกันในวันนี้ ทำให้ผมอดนึกถึงเรื่องเก่าๆในอดีตไม่ได้

ผมจากลาจากลูกแก้วในเช้าวันต่อมาซึ่งเธอยังหยุดอยู่ส่วนผมมีงานสำคัญที่ต้องไปทำไม่อย่างนั้นผมคงจะอยู่ระเริงสวาทกับเธอต่ออีกวัน เธอรีดจากผมไปจนหมดจริงๆ อีก2วันต่อมาไหมโทรมาหาผมเธอนัดผมทานข้าวก่อนที่เธอจะกลับ ไหมนัดเจอผมที่ห้องอาหารของโรงแรมที่เธอพักอยู่ ซึ่งมันตรงกับที่ผมคิดเราใช้เวลาในห้องอาหารไม่นานนัก ไหมชวนผมขึ้นห้องทันที ถ่านไฟเก่ามันจุดติดได้อย่างงายสำครับคู่ขาเก่าอย่างเราทั้งคู่แถมบ้าเซ็กส์พอๆกัน ระหว่างที่คุยในห้องอาหารไหมเอาขามาสะกิดขาผมตลอดพร้อมสายตาที่เชิญชวน ทำให้ผมกับเธอใช้เวลาทานอาหารไม่นานก่อนจะพากันขึ้นไปที่ห้อง หลังจากที่ล็อคประตูไหมนั้นไม่รอช้า เธอดึงตัวผมเข้ามากอดพร้อมกับบทจูบที่ร้อนแรง ก่อนจะช่วยกันถอดเสื้อผ้า ชุดที่เธอสวมอยู่นั้นมันถอดได้อย่างง่ายดาย ผมจัดการถอดกางเกงยืดที่เธอสวมพร้อมกางเกงใน ซึ่งเจ้าตัวนั้นยกขาให้ทันที  ผมเอามือไปลูบคลำที่โคกหีของเธอ

"หมอยดกเหมือนเดิม"