🧡 XONLY 🧡

/>
เมื่อหลินชิงเสียและหวังจู่เสียน
อยู่ในเฟรมเดียวกัน เวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง
ความงามของเทพธิดาทั้งสองส่งเสริมซึ่งกันและกัน
คนหนึ่งมีความงามที่อาจหาญ
ส่วนอีกคนงดงามและอ่อนโยน
"ไม่มีใครสามารถแทนที่หลินชิงเสียได้ ในรอบ ๕๐ ปี จึงจะมีคนอย่างหลินชิงเสียเพียงคนเดียว  ในช่วงยุค ๗๐ หลินชิงเสียเป็นสาวสวยที่หนุ่มๆ หลายคนใฝ่ฝันถึง" ฉีเคอะกล่าวถึงหลินชิงเสียดาราคู่บุญของตัวเขา

หลินชิงเสีย นักแสดงหญิงชาวไต้หวันที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับเอเชีย เกิดเมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๑๙๕๔ ที่เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน หลินชิงเสียเป็นลูกคนที่ ๒ ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด ๓ คน เข้าสู่แวดวงการแสดงได้ขณะรอการเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ผู้กำกับฯและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดัง ซ่งฉุนเทา เห็นแววเข้าขณะเดินเลือกซื้อของย่านซีเหมินติง(คล้ายๆสยามบ้านเรา)  จึงได้ติดต่อมาเล่นในภาพยนตร์เรื่อง "ชวงไว่" Outside The Window ในปี ค.ศ. ๑๙๗๓ ที่ดัดแปลงเนื้อเรื่องมาจากนิยายของ ฉงเหยา (ผู้ประพันธ์เรื่อง องค์หญิงกำมะลอ) ซึ่งตอนนั้นหลินชิงเสีย มีอายุเพียง ๑๙ ปี
แฟน ๆ หนังยุค ๗๐ คงรู้จักกันดีกับ ฉินฮั่น, หลินชิงเสีย และ ฉินเสียงหลิน สามดาราระดับไอคอน ที่มักผลัดเปลี่ยนกันมารับบทพระ-นาง ในยุคทองของหนังรักไต้หวันอยู่เป็นประจำ จนได้รับฉายาว่า "สองฉินสองหลิน" สองฉินสองหลิน (อีกคนหนึ่งคือ หลินฟ่งเจียว) โดยเรื่องแรกที่ทั้งสามคนแสดงร่วมกันคือ "Cloud of Romance" หรือ "รักในม่านเมฆ" ภาพยนตร์ปี ๑๙๗๗ ซึ่งสร้างจากบทประพันธ์ของ ฉงเหยา (หลินชิงเสียนับดาราคู่บุญกับผลงานของฉงเหยาเช่นกัน)

ภายหลังวงการหนังไต้หวันก็ได้ค่อย ๆ ลดความนิยมลงแต่หลินชิงเสียได้ข้ามฟากมายังวงการหนังฮ่องกงที่กำลังเฟื่องฟูด้วยการแสดงในภาพยนตร์กำลังภายในแฟนตาซีเรื่อง Zu Warriors from the Magic Mountain ในปี ๑๙๘๓ คู่กับ เจิ้ง เส้าชิว จากการกำกับของ ฉีเคอะ ทำให้มีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมา และได้รับรางวัลนักแสดงสมบทหญิงยอดเยี่ยมด้วย โดยเธอได้เปลี่ยนภาพจำจากแต่เดิมที่รับแต่บทหญิงสาวเจ้าน้ำตา กลายเป็นนักแสดงหญิงในบทบาทที่หลากหลายและเปล่งประกายขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์หนังฮ่องกงคนหนึ่ง สวนทางกับนักแสดงไต้หวันยุคเดียวกัน
ฉีเคอะ กลายเพื่อนสนิทอีกคนของเธอ ที่ชอบใช้หลินชิงเสียในหนังของเขา และทดลองให้เธอแสดงหนังด้วยคาแร็กเตอร์หลากหลายบทบาทที่มีลักษณะกึ่งหญิงกึ่งชาย กึ่งธรรมมะกึ่งอธรรม อาทิ เผ็ด สวย ดุ (The peking Opera ) ในจำนวนนี้ ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้เธอที่สุด คงต้องยกให้กับการพลิกบทบาทตัวเองครั้งสำคัญมารับบท ตงฟางปุ๊ป้าย ในภาพยนตร์เรื่อง เดชคัมภีร์เทวดาภาค ๒ ในปี ๑๙๙๒บทบาทในเรื่องนี้ของเธอสร้างความประทับใจให้กับคนดู และกลายเป็นต้นตำหรับ ตงฟางปุ๊ป้าย ในยุคต่อๆ มา

หวังจู่เสียน เป็นดาราจีน- ไต้หวัน ที่แต่งชุดจีนโบราณได้สวยงามที่สุดคนหนึ่ง หวังจู่เสียน เกิดเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๑๙๖๗ ที่ไต้หวัน พ่อของเธอส่งเสริมให้เธอเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลมืออาชีพเมื่อเธออายุได้ สิบสี่ปี เธอมีโอกาสได้เดินทางไปแข่งขันบาสเก็ตบอลที่ฮ่องกง และ ได้พบแมวมอง ชักชวนให้เธอมาถ่ายโฆษณารองเท้ากีฬา หลังจากนั้นก็มีงานถ่ายโฆษณาเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโฆษณาเครื่องสำอาง และน้ำอัดลม หลังจากนั้นเธอได้สอบเข้าโรงเรียนศิลปะกั๋วกวง เพื่อเอาจริงเอาจังกับเรื่องการแสดง

เพียงไม่นานเธอก็ได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง It Will be Cold by the Lake This Year ร่วมแสดงกับพระเอกหวงหย่งเหอ หลังจากนั้นโมนา ฟง โปรดิวเซอร์หนังของชอว์ บราเธอร์ส ชักชวนเธอมาแสดงหนังที่ฮ่องกง ในปี ๑๙๘๕ หวังจู่เสียนได้เซ็นสัญญาเข้าสังกัดชอว์บราเดอร์ และแสดงหนังฮ่องกงเรื่องแรกคือ Lets Make Laugh 2 กับเอ่อร์ตงเซิง ตามมาด้วยเรื่อง Working Class กับ แซม ฮุย และต่อมาได้แสดงในภาพยนตร์ดัง โปเยโปโลเย ทั้งามภาค หวังจู่เสียนได้รับแสดงบทปีศาจสาวแสนสวยในภาพยนตร์ของฉีเคอะ
โปเยโปโลเย ทั้งสามภาค ทำให้เธอโด่งดัง ทั้งใน ญี่ปุ่น เกาหลี ใต้ ปี1989 เธอไปเป็นนักแสดงใน ญี่ปุ่น กับละครซีรี่ส์ A Woman From Hong Kong  ต่อมาเธอมาทำธุรกิจที่ฮ่องกง และทำอัลบั้มภาพส่วนตัว ในปี ๑๙๙๒และ มาทำเพลงในซิงเกิ้ลที่ใช้ชื่อว่า "Hold You In My Arms Forever". ฉบับ ญี่ปุ่น และ จีน เธอยังคงรับเล่นภาพยนตร์อีกหลายเรื่องในปี ๑๙๙๓ เช่น ใหญ่ไม่ใหญ่ข้าก็ใหญ่ วีรบุรุษเขาเหลียงซาน เดชคัมภีร์เทวดา 3 หมื่นปีมีข้าคนเดียว นางพญางูขาว และ ขอเพียงรักอยู่แม้คู่กันไม่ได้
ในปี ๑๙๙๗ หวังจู่เสียนมาแสดงภาพยนตร์ญี่ปุ่น อีกครั้งหลังจากออกจากวงการภาพยนตร์ไปช่วงนึง ในเรื่อง Peking Genjin ( Peking Man ) และในปี ๑๙๙๘ หวังจู่เสียนก็ได้ออกอัลบั้มเต็ม ภาษา ญี่ปุ่น ใช้ชื่อว่า Angelus และ ภาษาจีน ปี ๒๐๐๑ กับภาพยนตร์เรื่อง Peony Pavilion เล่นเป็นคู่เลสเบี้ยน ปี ๒๐๐๔ ในเรื่อง Shanghai Story และ เธอมีโครงการที่จะรับเล่นภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง แต่เธอมาเสียใจกับการจากไปของเพื่อนรัก เลสลี่ จาง ทำให้เธอต้องหยุดไป และต่อมาเธอประกาศอำลาวงการจากหนังเรื่องสุดท้ายที่เธอแสดง Shanghai Story หลังจากนั้นเธอก็ไม่กลับมารับงานแสดงอีกเลย

ปัจจุบัน หวังจู่เสียน เป็นดาราสาวที่แฟนๆภาพยนตร์ฮ่องกงในยุค ๘๐ ๙๐ คิดถึงที่สุด

หลินซิงเสีย กับ หวังจู่เสียน นับว่าเป็นดาราไต้หวันที่งดงามที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งคู่เคยแสดงภาพยนตร์ร่วมกันในเรื่อง Web of Deception (๑๙๘๙) เดชคัมภีร์เทวดา ๓ หมื่นปีมีข้าคนเดียว  Swordsman III,The East Is Red(๑๙๙๓) มังกรหยก หยกก๊าหว่า Eagle Shooting Heroes(๑๙๙๐) และ มังกรหยก ศึกอภิมหายุทธ Ashes of Time (๑๙๙๔)

หวังจู่เสียน ก็เป็นอีกคนที่กล่าวชื่นชมหลินชิงเสียในความสวย ที่เคยเป็นขวัญใจเธอในวัยเด็ก  ส่วนหลินชิงเสียนั้นก็มีความสนิทสนมกับหวังจู่เสียนมาก เนื่องเพราะทั้งคู่เป็นคนไต้หวันเหมือนกัน และมีความงามเหมือนกัน ที่สำคัญทั้งคู่สนิทสนมกับเลสลี่ จาง ในการแสดงร่วมกันในหนังเรื่องนางพญาผมขาว  THE BRIDE WITH WHITE HAIR (๑๙๙๓) เลสลี่ จางเอ่ยชมหลินชิงเสียว่า "พี่สาวแซ่หลิน สวยเหลือเกิน"

หลินชิงเสีย ก็ตอบกลับเลสลี่ จางว่า " เกอเกอ(พี่ชาย) ก็สวยงามเหมือนกัน" เกอเกอ เป็นคำเรียกเลสลี่ จาง ตาม หวังจู่เสียนที่เคยเรียก เลสลี่ จาง ในกองถ่ายภาพยนตร์ โปเยโปโลเย เย้ยฟ้าแล้วก็ท้า (A Chinese Ghost Story ๑๙๘๗)

ทั้งหลินชิงเสียและหวังจู่เสียน เคยรับแสดงบทบาทเดียวกันในภาพยนตร์คือ นางพญางูขาว ไป๋ซู่เจิน หลินชิงเสียเคยรับบทเป็นนางเอกนางพญางูขาวเวอร์ชั่นภาพยนตร์ Love of the White Snake (真白蛇传 ๑๙๗๘) ส่วนหวังจู่เสียน เคยรับบทไป่ซู่เจิน ใน นางพญางูขาว ขอเพียงรักอยู่ แม้คู่กันไม่ได้ Green Snake (青蛇 ๑๙๙๓) ของ ฉีเคอะ

/>