"หวังอี้ เจ้าจงตื่นเถิด" เฒ่าลามกกระแซะ
"อะ.....ท่านอาจารย์.....ไยท่านมานอนบนเตียงเดียวกับข้าได้เล่า" หวังอี้ร้อง แล้ว.....มีอะไรแข็ง ๆ ทิ่มหลังมันอยู่เล่า
"เจ้าหนุ่มนอนขี้เซานัก ถึงเวลาฝึกยุทธแล้วยังมิยอมตื่น อาจารย์จึงต้องลงนอนเคียงกายช่วยปลุกอย่างไรเล่า"
"ศิษย์ลุกแล้ว อาจารย์โปรดอย่าได้ถือโทษ" หวังอี้ร้อง "แลได้โปรดเลิกเอาสิ่งนั้นถูหลังศิษย์ด้วยเถิด"
แต่ครั้นเมื่อแต่งกายพร้อมแล้ว เฮี๊ยงกวยหลี่กลับพาหวังอี้ไป ณ ลานหลังกระท่อมแล้วเริ่มลูบไล้ตามเนื้อตามตัวของมัน
"อาจารย์.... ท่านจักทำสิ่งใด"
"เจ้าช่างหนุ่มแน่นฉกรรจ์นัก อาจารย์อดลูบคลำไม่ไหวจริง ๆ"
เป็นวันที่สามแล้วที่หวังอี้เริ่มฝึกวิชากับเฮี๊ยงกวยหลี่ สองวันแรกนั้นเฒ่าลามกให้หวังอี้ฝึกการรับรู้ถึงพลังลมปราณแลโคจรหลังเข้าสู่ส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย อาทิเช่นปลายนิ้ว ลูกอัณฑะแลในท่อนเอ็น หวังอี้มิได้เข้าใจที่เฮี๊ยงกวยหลี่พูดเท่าใดนักแต่ก็พึงพยายามทำตามที่อาจารย์สั่ง
"เจ้าช่างเรียนรู้เร็วยิ่งนัก" เฒ่าลามกบอก "ข้ามิเคยเห็นผู้ใดควบคุมพลังปราณได้แต่เริ่มฝึกฝนเช่นดังตัวเจ้า"
แต่มาบัดนี้ เฒ่าลามกมิได้เพียงถ่ายทอดคำสั่งทางวาจาแล้ว กลับลูบไล้ร่างหวังอี้ด้วยมือเหี่ยวย่น
"ท่านอาจารย์ โปรดหยุดเถิด"
"ข้าหยุดมิได้ อา ร่างเจ้าช่างเร้าอารมณ์ยิ่งนัก"
หวังอี้ทนไม่ไหวเอามือพยายามผลักมือของเฮี๊ยงกวยหลี่ออก ทว่ามือเหี่ยวย่นของชายชรากลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กเพชร กระทบกระแทกทีหนึ่งก็รู้สึกราวกับข้อมือของมันแทบจะหัก
นี่เป็นกุศโลบาย หวังอี้ตระหนัก อาจารย์อยากให้เราฝึกการปัดป้องด้วยพลังยุทธ
คิดได้ดังนั้น หวังอี้จึงโคจรพลังตามที่อาจารย์เคยสอน รวบรวมปราณแข็งไว้ที่ฝ่ามือและผลักดันมือของเฒ่าลามกออกจากหัวนมของมันได้สำเร็จ
"เจ้าช่างโหดร้ายนัก อาจารย์เพียงอยากลูบไล้ทรวงอกของเจ้า" เฮี๊ยงกวยหลี่บอก และพยายามดันมือเข้ามาอีกทั้งสองข้าง หวังอี้สังเกตทิศทางการเคลื่อนไหวของมืออาจารย์และปัดป้อง ทุกกระบวนท่าล้วนพยายามให้หักเหมืออาจารย์ออกได้โดยพึ่งแรงของมันเองน้อยที่สุด
ผ่านไปสิบสองกระบวนท่า เฒ่าลามกก็ถอยออกมา ฉีกยิ้มแจ่มใส "ศิษย์ข้าช่างเรียนรู้รวดเร็วนัก ลองไล่ทั้งสิบสองกระบวนท่าให้อาจารย์ดูได้หรือไม่"
หวังอี้ยืนงงสักครู่จึงพยายามไล่เรียงกระบวนท่าตามที่ใช้ปัดป้องตนเองจากเฮี๊ยงกวยหลี่เมื่อครู่
"มิใช่" เฒ่าลามกบอกเมื่อเห็นกระบวนท่าที่สาม "เอาใหม่ อาจารย์จะลองจู่โจมเจ้าอีกครั้ง เจ้าจงปัดป้องเถิดแลลองจดจำกระบวนท่าที่ใช้เสียด้วย"
อีกรอบที่เฒ่าลามกพยายามลูบไล้ร่างกายของหวังอี้ แต่หวังอี้ปัดป้องได้หมด เมื่อเฒ่าลามกหยุดแล้ว หวังอี้ก็ทบทวนทั้งสิบสองกระบวนท่าได้ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่มีขาดตกบกพร่อง
"ยุทธภพกว้างใหญ่ มากมายด้วยสำนักแลเคล็ดวิชา ทว่าวิชาส่วนมากล้วนถ่ายทอดเป็นหมัดฝ่ามือแลดัชนี เพลงยุทธเหล่านี้ต้องถึงเนื้อต้องตัวจึงเกิดผลต่อคู่ต่อสู้ได้ สิบสองกระบวนท่านี้อาจารย์คิดขึ้นเองโดยดัดแปลงจากวิชาป้องกันตัวของสำนักสตรีเช่นง่อไบ๊แลสำนักหมื่นบุปผา อาจารย์ให้ชื่อว่าวิชาปัดป้องของสงวน หากฝึกจนชำนาญเจ้าย่อมปกป้องตนเองจากวิชาระยะประชิดตัวส่วนใหญ่แลการสกัดจุดได้ มาเถิดเจ้าจงฝึกฝนให้ชำนาญ"
ทั้งคู่ฝึกฝนต่ออีกเกือบสองชั่วยาม เฒ่าลามกจู่โจมหวังอี้ด้วยหมัดและฝ่ามือหลากหลายกระบวนท่าบีบให้หวังอี้ต้องป้องกันตัวด้วยสิบสองกระบวนท่าปัดป้องของสงวนท่านู้นที ท่านี้ที ในชั่วยามแรกหวังอี้กันได้เพียงเก้าในสิบจากทุกกระบวนท่าที่เฮี๊ยงกวยหลี่ใช้ แต่แค่ที่โดนก็ยังทำเอามันฟกช้ำดำเขียว
"ยามสู้จริง ๆ เจ้ามิอาจผิดพลาดได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว" เฮี๊ยงกวยหลี่บอก "หมัดกระทิงรุนแรงยิ่ง เจ้ามิอาจใช้กระบวนท่าที่เก้าปัดป้องได้ ลองใหม่"
จนย่างเข้าชั่วยามที่สองหวังอี้จึงปัดป้องได้ทุกกระบวนท่าจากเฒ่าลามก
"อึกกกกกกก" แต่เมื่อย่างเข้าชั่วยามที่สาม กลับมีฝ่ามือหนึ่งจากเฒ่าลามกที่พุ่งทะลวงเข้ามาได้ มันสะกิดเข้าที่หน้าอกหวังอี้แผ่วเบานัก แต่กลับรู้สึกสั่นสะท้านราวกับกล้ามเนื้อทุกมัดในหน้าอกข้างที่ถูกสัมผัสเต้นระรัว หวังอี้ทรุดลงไปกองกับพื้นอ้าปากค้าง กัดฟันไม่ให้ส่งเสียงคราง
"แฮ่ก ๆ ๆ ๆ ๆ" หวังอี้หอบเมื่อความเสียวซ่านเริ่มลดลงบ้าง "อาจารย์ เมื่อครู่คือวิชาอันใด ไยข้ามิอาจคาดคะเนแลปัดป้องมันได้"
"5555555555555" เฮี๊ยงกวยหลี่หัวเราะลั่น "เมื่อครู่คือวิชาที่อาจารย์คิดขึ้นเอง หลังจากที่ข้าได้ศึกษาวิชาปัดป้องของเหล่าสำนักสตรีจนรวบรวมเป็นสิบสองกระบวนท่าปัดป้องของสงวนแล้ว ข้าก็คิดค้นวิชาที่สามารถเล็ดรอดจากกระบวนท่าปัดป้องได้ แลสามารถสยบความสามารถในการต่อสู้ของศตรูได้ในกระบวนท่าเดียว อาจารย์ตั้งชื่อวิชานี้ว่า ฝ่ามือตะปบเต้า"
"แฮ่ก....แฮ่ก.....ช่างล้ำลึกยิ่งนัก"
"จงดูอาจารย์ให้ดี" เฮี๊ยงกวยหลี่เดินไปที่ต้นไม้ใกล้ๆ "จงดู อาจารย์จะสาธิตฝ่ามือตะปบเต้ากับผลไม้นี้"
ผั๊วะ!!!
รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ลูกไม้สั่นไหวระริกแต่หาได้ร่วงหล่นลงมาไม่
"เจ้าดูทันหรือไม่"
"คิดว่าทัน ท่านอาจารย์ ท่านใช้ลมปราณอ่อนธาตุลม ถ่ายทอดพลังปราณจากมือท่านลงไปที่ผลไม้โดยตรงผ่านสัมผัส แล้วให้ปราณนั้นหมุนวนอยู่ภายในลูกไม้ใช่หรือไม่"
"เจ้าช่างสายตาเฉียบคมยิ่งนัก จงลองดูเถิด"
หวังอี้ต้องซัดไปสี่ห้าฝ่ามือจึงทำให้ผลไม้ขยับได้
"เจ้าเริ่มใช้ปราณได้ถูกต้องแล้ว ทว่ายังเชื่องช้าไปนัก หากทำแบบนี้คู่ต่อสู้ของเจ้าปัดป้องได้เป็นแน่ การจู่โจมต้องว่องไว สัมผัสทรวงอกคู่ต่อสู้ก่อนมันจะรู้ตัวแล้วอัดด้วยพลังปราณ"
ปึง!!!
"ดีขึ้น ลองอีก"
เผละ
"มิได้เรื่อง ปราณของเจ้าแข็งเกินไปนัก หากทำเช่นนี้กับคนอาจเจ็บบ้าง แต่ไม่เกิดอาการสั่นจนเสียวเป็นแน่"
เพี๊ยะ
"ดีขึ้น ไหน เจ้าลองใช้ฝ่ามือตะปบเต้ากับอาจารย์ซิ"
"แต่....ข้ามิอาจล่วงเกิน"
"ทำเถิด นับเสียว่าเป็นการฝึก อาจารย์ไม่ถือสาดอก"
เพียะ!!!!!!!!
เฒ่าลามกทรุดลงนั่ง ใบหน้าแก่ชราบิดเบี้ยว ตาลอยปรือ
"อาาาาาาา หวังอี้ เจ้าทำให้อาจารย์มีความสุขยิ่งนัก"
เกือบครึ่งชั่วยามกว่าเฮี๊ยงกวยหลี่จะฟื้นตัวจากความสุขสม ระหว่างนี้ หวังอี้ก็ทบทวนสิบสองกระบวนท่าปัดป้องของสงวนและฝ่ามือตะปบเต้าไปพลาง ๆ
"เหลืออีกเพียงหนึ่งวิชาเท่านั้นที่อาจารย์จะสอนเจ้าในวันนี้" เฮี๊ยงกวยหลี่ประกาศ "มา หวังอี้ จงดูให้ดีนะ"
"ได้ขอรับ"
เฒ่าลามกชูนิ้วของนิ้วขึ้น
หวังอี้ตั้งท่าเตรียมป้องปัดเต็มที่ คาดว่าต้องเป็นวิชาจี้จุดบางชนิดเป็นแน่
แต่สองนิ้วของเฮี๋ยงกวยหลี่กลับมุ่งเป้าลงต่ำกว่าที่หวังอี้คาดการณ์มากนัก ต่ำจนหวังอี้คิดว่าอาจารย์จู่โจมพลาดแล้วเป็นแน่
ก่อนที่มันจะทิ่มขึ้นมาสุดแรงเกิด
"อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา" หวังอี้ร้องคราง เมื่อนิ้วของอาจารย์ทิ่มขึ้นมาบริเวณใกล้พวงตุ้มสวรรค์ของมัน
แรงกระทบจากวิชาดัชนีนี้ทำเอามันปั่นป่วนไปเสียทั้งร่าง อวัยวะสำคัญกลับตั้งตรงแข็งโด่เด่ขณะที่ความนึกคิดกลับขาวโล่งไปหมดสิ้น มันโซเซไปมาสองสามก้าว ก่อนจะทรุดลงนอนเกร็งร่างแต่หัวจรดปลายเท้า ดวงตาเบิกโพลงปากอ้าลิ้นกระดกไปมา
"วิชานี้อาจารย์เรียกว่าดัชนีทิ่มถ้ำ" เฮี๊ยงกวยหลี่บอก "จริง ๆ ใช้กับสตรีได้ผลรุนแรงกว่ากับบุรุษมากนัก ......หวังอี้....หวังอี้ เจ้ายังมีสติอยู่หรือไม่.....หวังอี้!!!!"
คืนนั้น
หวังอี้พยายามข่มใจมิให้หลับ หูก็คอยเงี่ยฟังเสียงลมหายใจของเฮี๊ยงกวยหลี่ จนเมื่อเสียงลมหายใจกระเส่าเปลี่ยนเป็นเสียงกรนเบา ๆ แล้ว มันจึงค่อย ๆ ลุกขึ้น พยายามเคลื่อนที่ให้แผ่วเบาที่สุด มันหยิบจดหมายที่มันแอบเขียนไว้ เอาวางที่บนที่นอน แล้วคว้าเสื้อผ้ามาสวม ค่อย ๆ ลอบออกจากกระท่อม
เรียน ท่านอาจารย์
สามวันนี้ ท่านดูแลสอนสั่งข้าดียิ่งนัก เป็นพระคุณอย่างสูงยิ่ง แม้นตายศิษย์ก็ชดใช้ไม่หมด ทว่าศิษย์มีภาระต่อจิตสำนึก ศิษย์และแม่นางเซียวเผชิญภัยมาด้วยกัน หากละทิ้งนางด้วยเห็นแก่ความสุขความสบาย ทั้งโลกรู้มีแต่จะประณามให้อับอายขายหน้า ศิษย์จะออกตามหานางจนกว่าจะพบ แลสัญญาว่า หากพบนางไม่ว่าเป็นหรือตาย ศิษย์จะกลับมาเล่าเรียนวิชาต่อให้สำเร็จตามที่อาจารย์ปรารถนา ศิษย์รู้ว่าอาจารย์อยากให้เล่าเรียนจนเจนจบเคล็ดวิชาจึงค่อยออกท่องยุทธภพ ทว่าความเดือดร้อนของผู้อื่นมิอาจทนรอช้าได้ ศิษย์จึงต้องกราบขออภัยอาจารย์ ขัดคำสั่ง แอบออกไปในยามวิกาล หวังว่าอาจารย์จะให้อภัยศิษย์ผู้โง่เขลา
หวังอี้  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
ช่างคิดวิชาที่สอดคบ้องกับนิสัยส่วนตัวได้ดีจริงเชียว เห็นหวังอี้ซื่อๆ กลับเรียนรู้ได้เร็ว แม่นางซิงอาจอยู่ในอันตรายจนเสียซิงกับเฮียอี้ได้นะครับ เพราะท่าแต่ละท่าแกเร้าอารมณ์ตลอด
อย่าลืมกลับมาให้ท่านอาจารย์ทะลวงอีกนะครับ
มิน่า ท่านอาจารย์มีผลประโยชน์ทับซ้อนนี่เอง
อาจารย์หลอกสอนสุดยอดวิชาแบบนี้ นางน่าจะติดใจมากเลยนะ
แต่ละท่าที่คิดมา ใช้จริงน่าจะโหดเลยนะ
ท่านอาจารย์ แต่ละวิชาของท่าน ช่างลามกนัก เห็นทีข้าต้องไปใช้กับสตรี ที่จะพานพบในภายภาคหน้าให้จงได้ 555
::NoNo::
ศึกษาวิชาตะปปเต้า กับทะลวงถ้ำแล้ว พร้อมสู้กับนายหญิง
กำลังอยากรู้ว่าวิชาเฒ่าลามกมันจะใช้สู้จริงๆได้ไหม? ::Hmmm::
หวังอี้ โดนลูบตูดแล้วใช่ไหม
ต้องใช้กระบวนท่าที่ ๑๓ ช่วยเหลือ
แม่นางเซียวจะปลอดภัยจากหวังอี้มั้ย
นี่มันวิชาอัลไรกันครับเนี่ยยย ต่อไปมีวิชาเปลื้องผ้ามั้ยนะ
ใจเย็นไอ้หนุ่ม กลับมาฝึกก่อน
หวังอี้ ... ยังฝึกวิชาไม่จบ กลับมาก่อน ยังขาดเคล็ดวิชา ทวนทะลวงถ้ำนะ
สองวิชาสุดท้ายนี่แหละของดีเลย55555
ระวังไฟธาตุแตก...
โอ้ยยยยยเนาะ แต่ละวิชาที่สอน 555::Oops:: ::Oops::
ได้เคล็ดวิชาจะไปท่องยุทธภพ ตามหาสาว
น่าติดตาม
ยอดวิชา
วิชาร้อนหวังอี้อยากลองวิชาแล้ว
สอนวิธีพิชิตสาวๆเลยน่ะนี่
::Confident::
สองวิชาสุดท้ายนี่แหละของดีเลย55555
วิชาสมฉายา
จะได้ฝึกกับใครต่อ
กว่าจะเจอแม่นางเซียว หวังอี้คงเก่งขึ้นเยอะ
ถ้าชายใดได้ฝึกสุดยอดวิชานี้ โลกนี้คงน่าอภิรมย์ยิ่งนัก 55
เหมือนเซียนลามกเลย
ยังฝึกทะลวงถ้ำได้ไม่แตกฉานเลย กลับมาฝึกก่อนนน
เป็นการแต่งที่เชื่อมโยงเรื่องความเสียวได้ดีมาก
วิชาสุดท้าย สุดยอดเลยหวังอี้จะเอาไปใช้กับใครบ้าง
คารวะท่านอาจารย์
ฝึกวิชากะเฒ่าลามกนี่โคตรเกย์
เป็นวิชาที่สุดยอดจริงๆ สมกับฉายา
::JubuJubu::
วิชาสุดท้ายหวังอี้ได้แค่ดูยังไม่ได้ลองใช้จริงเลย
เดินเรื่องได้ลามกน่าสนใจดีครับ
สนุกครับ รอติดตาม
เอาใจช่วยคอยลุ้น เมื่อไรจะได้เอาแม่นางสักที ปูเรื่องมาดีมากครับ ตามพลอตเลย
::Crying:: ลาก่อนท่านอาจารย์ ::Crying::
ฝึกสำเร็จท่องยุทธภพ
เอาวะหาสาวเเลเว
ต่อไปก็ทดสอบกับแม่นางเซียว
วิชาแต่ละอย่างล้วนสยบสาวได้ผลยิ่ง
แต่ละท่า แต่ละวิชา สุดๆไปเลย
::Thankyou:: to
ไม่ฝึกให้จบแล้วจะได้ทดสอบวิชาไหมเนี่ย
หวังอี้ออกไปตามหาแม่นางซิง แล้วจะกลับมาฝึกวิชาต่อไหมนะ
เป็นวิชาที่น่าใช้ยิ่งนัก
อ้างจาก: KaohomLM เมื่อ เมษายน 02, 2025, 02:00:03 หลังเที่ยง"หวังอี้ เจ้าจงตื่นเถิด" เฒ่าลามกกระแซะ
"อะ.....ท่านอาจารย์.....ไยท่านมานอนบนเตียงเดียวกับข้าได้เล่า" หวังอี้ร้อง แล้ว.....มีอะไรแข็ง ๆ ทิ่มหลังมันอยู่เล่า
"เจ้าหนุ่มนอนขี้เซานัก ถึงเวลาฝึกยุทธแล้วยังมิยอมตื่น อาจารย์จึงต้องลงนอนเคียงกายช่วยปลุกอย่างไรเล่า"
"ศิษย์ลุกแล้ว อาจารย์โปรดอย่าได้ถือโทษ" หวังอี้ร้อง "แลได้โปรดเลิกเอาสิ่งนั้นถูหลังศิษย์ด้วยเถิด"
แต่ครั้นเมื่อแต่งกายพร้อมแล้ว เฮี๊ยงกวยหลี่กลับพาหวังอี้ไป ณ ลานหลังกระท่อมแล้วเริ่มลูบไล้ตามเนื้อตามตัวของมัน
"อาจารย์.... ท่านจักทำสิ่งใด"
"เจ้าช่างหนุ่มแน่นฉกรรจ์นัก อาจารย์อดลูบคลำไม่ไหวจริง ๆ"
เป็นวันที่สามแล้วที่หวังอี้เริ่มฝึกวิชากับเฮี๊ยงกวยหลี่ สองวันแรกนั้นเฒ่าลามกให้หวังอี้ฝึกการรับรู้ถึงพลังลมปราณแลโคจรหลังเข้าสู่ส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย อาทิเช่นปลายนิ้ว ลูกอัณฑะแลในท่อนเอ็น หวังอี้มิได้เข้าใจที่เฮี๊ยงกวยหลี่พูดเท่าใดนักแต่ก็พึงพยายามทำตามที่อาจารย์สั่ง
"เจ้าช่างเรียนรู้เร็วยิ่งนัก" เฒ่าลามกบอก "ข้ามิเคยเห็นผู้ใดควบคุมพลังปราณได้แต่เริ่มฝึกฝนเช่นดังตัวเจ้า"
แต่มาบัดนี้ เฒ่าลามกมิได้เพียงถ่ายทอดคำสั่งทางวาจาแล้ว กลับลูบไล้ร่างหวังอี้ด้วยมือเหี่ยวย่น
"ท่านอาจารย์ โปรดหยุดเถิด"
"ข้าหยุดมิได้ อา ร่างเจ้าช่างเร้าอารมณ์ยิ่งนัก"
หวังอี้ทนไม่ไหวเอามือพยายามผลักมือของเฮี๊ยงกวยหลี่ออก ทว่ามือเหี่ยวย่นของชายชรากลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กเพชร กระทบกระแทกทีหนึ่งก็รู้สึกราวกับข้อมือของมันแทบจะหัก
นี่เป็นกุศโลบาย หวังอี้ตระหนัก อาจารย์อยากให้เราฝึกการปัดป้องด้วยพลังยุทธ
คิดได้ดังนั้น หวังอี้จึงโคจรพลังตามที่อาจารย์เคยสอน รวบรวมปราณแข็งไว้ที่ฝ่ามือและผลักดันมือของเฒ่าลามกออกจากหัวนมของมันได้สำเร็จ
"เจ้าช่างโหดร้ายนัก อาจารย์เพียงอยากลูบไล้ทรวงอกของเจ้า" เฮี๊ยงกวยหลี่บอก และพยายามดันมือเข้ามาอีกทั้งสองข้าง หวังอี้สังเกตทิศทางการเคลื่อนไหวของมืออาจารย์และปัดป้อง ทุกกระบวนท่าล้วนพยายามให้หักเหมืออาจารย์ออกได้โดยพึ่งแรงของมันเองน้อยที่สุด
ผ่านไปสิบสองกระบวนท่า เฒ่าลามกก็ถอยออกมา ฉีกยิ้มแจ่มใส "ศิษย์ข้าช่างเรียนรู้รวดเร็วนัก ลองไล่ทั้งสิบสองกระบวนท่าให้อาจารย์ดูได้หรือไม่"
หวังอี้ยืนงงสักครู่จึงพยายามไล่เรียงกระบวนท่าตามที่ใช้ปัดป้องตนเองจากเฮี๊ยงกวยหลี่เมื่อครู่
"มิใช่" เฒ่าลามกบอกเมื่อเห็นกระบวนท่าที่สาม "เอาใหม่ อาจารย์จะลองจู่โจมเจ้าอีกครั้ง เจ้าจงปัดป้องเถิดแลลองจดจำกระบวนท่าที่ใช้เสียด้วย"
อีกรอบที่เฒ่าลามกพยายามลูบไล้ร่างกายของหวังอี้ แต่หวังอี้ปัดป้องได้หมด เมื่อเฒ่าลามกหยุดแล้ว หวังอี้ก็ทบทวนทั้งสิบสองกระบวนท่าได้ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่มีขาดตกบกพร่อง
"ยุทธภพกว้างใหญ่ มากมายด้วยสำนักแลเคล็ดวิชา ทว่าวิชาส่วนมากล้วนถ่ายทอดเป็นหมัดฝ่ามือแลดัชนี เพลงยุทธเหล่านี้ต้องถึงเนื้อต้องตัวจึงเกิดผลต่อคู่ต่อสู้ได้ สิบสองกระบวนท่านี้อาจารย์คิดขึ้นเองโดยดัดแปลงจากวิชาป้องกันตัวของสำนักสตรีเช่นง่อไบ๊แลสำนักหมื่นบุปผา อาจารย์ให้ชื่อว่าวิชาปัดป้องของสงวน หากฝึกจนชำนาญเจ้าย่อมปกป้องตนเองจากวิชาระยะประชิดตัวส่วนใหญ่แลการสกัดจุดได้ มาเถิดเจ้าจงฝึกฝนให้ชำนาญ"
ทั้งคู่ฝึกฝนต่ออีกเกือบสองชั่วยาม เฒ่าลามกจู่โจมหวังอี้ด้วยหมัดและฝ่ามือหลากหลายกระบวนท่าบีบให้หวังอี้ต้องป้องกันตัวด้วยสิบสองกระบวนท่าปัดป้องของสงวนท่านู้นที ท่านี้ที ในชั่วยามแรกหวังอี้กันได้เพียงเก้าในสิบจากทุกกระบวนท่าที่เฮี๊ยงกวยหลี่ใช้ แต่แค่ที่โดนก็ยังทำเอามันฟกช้ำดำเขียว
"ยามสู้จริง ๆ เจ้ามิอาจผิดพลาดได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว" เฮี๊ยงกวยหลี่บอก "หมัดกระทิงรุนแรงยิ่ง เจ้ามิอาจใช้กระบวนท่าที่เก้าปัดป้องได้ ลองใหม่"
จนย่างเข้าชั่วยามที่สองหวังอี้จึงปัดป้องได้ทุกกระบวนท่าจากเฒ่าลามก
"อึกกกกกกก" แต่เมื่อย่างเข้าชั่วยามที่สาม กลับมีฝ่ามือหนึ่งจากเฒ่าลามกที่พุ่งทะลวงเข้ามาได้ มันสะกิดเข้าที่หน้าอกหวังอี้แผ่วเบานัก แต่กลับรู้สึกสั่นสะท้านราวกับกล้ามเนื้อทุกมัดในหน้าอกข้างที่ถูกสัมผัสเต้นระรัว หวังอี้ทรุดลงไปกองกับพื้นอ้าปากค้าง กัดฟันไม่ให้ส่งเสียงคราง
"แฮ่ก ๆ ๆ ๆ ๆ" หวังอี้หอบเมื่อความเสียวซ่านเริ่มลดลงบ้าง "อาจารย์ เมื่อครู่คือวิชาอันใด ไยข้ามิอาจคาดคะเนแลปัดป้องมันได้"
"5555555555555" เฮี๊ยงกวยหลี่หัวเราะลั่น "เมื่อครู่คือวิชาที่อาจารย์คิดขึ้นเอง หลังจากที่ข้าได้ศึกษาวิชาปัดป้องของเหล่าสำนักสตรีจนรวบรวมเป็นสิบสองกระบวนท่าปัดป้องของสงวนแล้ว ข้าก็คิดค้นวิชาที่สามารถเล็ดรอดจากกระบวนท่าปัดป้องได้ แลสามารถสยบความสามารถในการต่อสู้ของศตรูได้ในกระบวนท่าเดียว อาจารย์ตั้งชื่อวิชานี้ว่า ฝ่ามือตะปบเต้า"
"แฮ่ก....แฮ่ก.....ช่างล้ำลึกยิ่งนัก"
"จงดูอาจารย์ให้ดี" เฮี๊ยงกวยหลี่เดินไปที่ต้นไม้ใกล้ๆ "จงดู อาจารย์จะสาธิตฝ่ามือตะปบเต้ากับผลไม้นี้"
ผั๊วะ!!!
รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ลูกไม้สั่นไหวระริกแต่หาได้ร่วงหล่นลงมาไม่
"เจ้าดูทันหรือไม่"
"คิดว่าทัน ท่านอาจารย์ ท่านใช้ลมปราณอ่อนธาตุลม ถ่ายทอดพลังปราณจากมือท่านลงไปที่ผลไม้โดยตรงผ่านสัมผัส แล้วให้ปราณนั้นหมุนวนอยู่ภายในลูกไม้ใช่หรือไม่"
"เจ้าช่างสายตาเฉียบคมยิ่งนัก จงลองดูเถิด"
หวังอี้ต้องซัดไปสี่ห้าฝ่ามือจึงทำให้ผลไม้ขยับได้
"เจ้าเริ่มใช้ปราณได้ถูกต้องแล้ว ทว่ายังเชื่องช้าไปนัก หากทำแบบนี้คู่ต่อสู้ของเจ้าปัดป้องได้เป็นแน่ การจู่โจมต้องว่องไว สัมผัสทรวงอกคู่ต่อสู้ก่อนมันจะรู้ตัวแล้วอัดด้วยพลังปราณ"
ปึง!!!
"ดีขึ้น ลองอีก"
เผละ
"มิได้เรื่อง ปราณของเจ้าแข็งเกินไปนัก หากทำเช่นนี้กับคนอาจเจ็บบ้าง แต่ไม่เกิดอาการสั่นจนเสียวเป็นแน่"
เพี๊ยะ
"ดีขึ้น ไหน เจ้าลองใช้ฝ่ามือตะปบเต้ากับอาจารย์ซิ"
"แต่....ข้ามิอาจล่วงเกิน"
"ทำเถิด นับเสียว่าเป็นการฝึก อาจารย์ไม่ถือสาดอก"
เพียะ!!!!!!!!
เฒ่าลามกทรุดลงนั่ง ใบหน้าแก่ชราบิดเบี้ยว ตาลอยปรือ
"อาาาาาาา หวังอี้ เจ้าทำให้อาจารย์มีความสุขยิ่งนัก"
เกือบครึ่งชั่วยามกว่าเฮี๊ยงกวยหลี่จะฟื้นตัวจากความสุขสม ระหว่างนี้ หวังอี้ก็ทบทวนสิบสองกระบวนท่าปัดป้องของสงวนและฝ่ามือตะปบเต้าไปพลาง ๆ
"เหลืออีกเพียงหนึ่งวิชาเท่านั้นที่อาจารย์จะสอนเจ้าในวันนี้" เฮี๊ยงกวยหลี่ประกาศ "มา หวังอี้ จงดูให้ดีนะ"
"ได้ขอรับ"
เฒ่าลามกชูนิ้วของนิ้วขึ้น
หวังอี้ตั้งท่าเตรียมป้องปัดเต็มที่ คาดว่าต้องเป็นวิชาจี้จุดบางชนิดเป็นแน่
แต่สองนิ้วของเฮี๋ยงกวยหลี่กลับมุ่งเป้าลงต่ำกว่าที่หวังอี้คาดการณ์มากนัก ต่ำจนหวังอี้คิดว่าอาจารย์จู่โจมพลาดแล้วเป็นแน่
ก่อนที่มันจะทิ่มขึ้นมาสุดแรงเกิด
"อ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา" หวังอี้ร้องคราง เมื่อนิ้วของอาจารย์ทิ่มขึ้นมาบริเวณใกล้พวงตุ้มสวรรค์ของมัน
แรงกระทบจากวิชาดัชนีนี้ทำเอามันปั่นป่วนไปเสียทั้งร่าง อวัยวะสำคัญกลับตั้งตรงแข็งโด่เด่ขณะที่ความนึกคิดกลับขาวโล่งไปหมดสิ้น มันโซเซไปมาสองสามก้าว ก่อนจะทรุดลงนอนเกร็งร่างแต่หัวจรดปลายเท้า ดวงตาเบิกโพลงปากอ้าลิ้นกระดกไปมา
"วิชานี้อาจารย์เรียกว่าดัชนีทิ่มถ้ำ" เฮี๊ยงกวยหลี่บอก "จริง ๆ ใช้กับสตรีได้ผลรุนแรงกว่ากับบุรุษมากนัก ......หวังอี้....หวังอี้ เจ้ายังมีสติอยู่หรือไม่.....หวังอี้!!!!"
คืนนั้น
หวังอี้พยายามข่มใจมิให้หลับ หูก็คอยเงี่ยฟังเสียงลมหายใจของเฮี๊ยงกวยหลี่ จนเมื่อเสียงลมหายใจกระเส่าเปลี่ยนเป็นเสียงกรนเบา ๆ แล้ว มันจึงค่อย ๆ ลุกขึ้น พยายามเคลื่อนที่ให้แผ่วเบาที่สุด มันหยิบจดหมายที่มันแอบเขียนไว้ เอาวางที่บนที่นอน แล้วคว้าเสื้อผ้ามาสวม ค่อย ๆ ลอบออกจากกระท่อม
เรียน ท่านอาจารย์
สามวันนี้ ท่านดูแลสอนสั่งข้าดียิ่งนัก เป็นพระคุณอย่างสูงยิ่ง แม้นตายศิษย์ก็ชดใช้ไม่หมด ทว่าศิษย์มีภาระต่อจิตสำนึก ศิษย์และแม่นางเซียวเผชิญภัยมาด้วยกัน หากละทิ้งนางด้วยเห็นแก่ความสุขความสบาย ทั้งโลกรู้มีแต่จะประณามให้อับอายขายหน้า ศิษย์จะออกตามหานางจนกว่าจะพบ แลสัญญาว่า หากพบนางไม่ว่าเป็นหรือตาย ศิษย์จะกลับมาเล่าเรียนวิชาต่อให้สำเร็จตามที่อาจารย์ปรารถนา ศิษย์รู้ว่าอาจารย์อยากให้เล่าเรียนจนเจนจบเคล็ดวิชาจึงค่อยออกท่องยุทธภพ ทว่าความเดือดร้อนของผู้อื่นมิอาจทนรอช้าได้ ศิษย์จึงต้องกราบขออภัยอาจารย์ ขัดคำสั่ง แอบออกไปในยามวิกาล หวังว่าอาจารย์จะให้อภัยศิษย์ผู้โง่เขลา
หวังอี้
สวย
ไอ่หนุ่มจะรอดไหม
จะทะลวงเค้า ดูจะโดนทะลวงก่อน
แต่ละวิชาที่เฒ่าลามากสอนสุดยอดจริง